Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัฒนธรรมอียิปต์

วัฒนธรรมอียิปต์

Published by ศิริวันเพ็ญ ฉุนหอม, 2021-03-02 03:57:38

Description: วัฒนธรรมอียิปต์

Keywords: วัฒนธรรมอียิปต์

Search

Read the Text Version

EGYPTIAN วัฒนธรรมอียปิ ต์

อยี ปิ ต์โบราณ (Ancient egypt ) อียิปต์โบราณ หรือ ไอยคุปต์ เป็ นหน่ึงในอารยธรรมท่ีเก่าแก่ท่ีสุดในโลก ต้ังอยู่ทางตอน ตะวนั ออกเฉียงเหนือของทวปี แอฟริกา มีพนื้ ทต่ี ้งั แต่ตอนกลางจนถึงปากแม่นา้ ไนล์ ปัจจุบันเป็ น ท่ีต้ังของประเทศอียิปต์ อารยธรรมอียิปต์โบราณเร่ิมขึน้ ประมาณ 3,150 ปี ก่อนคริตศักราช [1] โดยการรวมอานาจทางการเมืองของอียิปต์ตอนเหนือและตอนใต้ ภายใต้ฟาโรห์องค์แรกแห่ง อยี ปิ ต์ และมีการพฒั นาอารยธรรมเร่ือยมากว่า 5,000 ปี [2] ประวัตขิ องอยี ปิ ต์โบราณปรากฏขึน้ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรือท่ีรู้จักกันว่า \"ราชอาณาจักร\" มีการแบ่งยุคสมัยของอียิปต์โบราณ เป็ นราชอาณาจักร ส่วนมากแบ่งตามราชวงศ์ที่ขึน้ มาปกครอง จนกระท่ังราชอาณาจักรสุดท้าย หรือที่รู้จักกันในช่ือว่า \"ราชอาณาจักรกลาง\" อารยธรรมอียิปต์อยู่ในช่วงที่มีการพัฒนาท่ีเยอะ มาก และส่วนมากลดลง ซ่ึงเป็ นเวลาเดียวกันที่อียิปต์ชนพ่ายต่อการทาสงครามจากชาติอ่ืน ดังเช่นชาวอัสซีเรียและเปอร์เซีย จนกระท่ังเม่ือ 332 ปี ก่อนคริสต์ศักราช กเ็ ป็ นการสิ้นสุดอารย ธรรมอียปิ ต์โบราณลง เมื่อพระเจ้าอเลก็ ซานเดอร์มหาราชสามารถยดึ ครองอยี ปิ ต์ และจัดอยี ปิ ต์ เป็ นเพยี งจังหวดั หนึ่งในจกั รวรรดมิ าซิโดเนีย

ประเพณวี ฒั นธรรมประเทศ ( Country culture traditionsd ) คน อยี ปิ ต์เป็ นคนทมี่ อี ธั ยาศัยดี คุ้นเคยต่อนักท่องเที่ยว กระตอื รือร้น ท่ีจะทักทายกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และมักจะยินดีท่ี นักท่องเท่ียวมาเยือนอียปิ ต์ ในการสนทนา คนอียปิ ต์มักจะสบตากับ คู่สนทนาเพ่ือเป็ นการให้เกียรติ และ ชอบใช้สัญลักษณ์ เช่นการใช้ สัญญาณมือประกอบการอธิบายต่างๆ ซ่ึงสัญลักษณ์เหล่านีแ้ ตกต่าง จากสากล จึงควรที่จะเรียนรู้จากคนท้องถิ่นไว้บ้าง นอกจากนี้ สุภาพสตรีควรหลกี เลยี่ งการถูกสัมผสั ตัวโดยเฉพาะจากเพศตรงข้าม และการโอบกอดในทส่ี าธารณะ

วนั สาคญั ของอยี ปิ ต์ ( Egypt's big day ) วนั ที่ 23 กรกฎาคม เป็ นวนั ชาติ (Revolution Day) ของอยี ปิ ต์ วนั ท2ี่ 8กมุ ภาพนั ธ์เป็ นวนั ประกาศเอกราชจากองั กฤษ (เมอื่ ปี ค.ศ.1953) -เวลาทางาน- - สถานท่รี าชการส่วนใหญ่และธนาคารเปิ ดทาการระหว่างวนั อาทติ ย์-พฤหัสบดเี วลา 08.30-15.00 น. แต่ สถานทรี่ าชการบางแห่งจะเปิ ดทาการเฉพาะวนั เสาร์-พุธ เวลา 08.30- 14.00 น. ร้านค้าท่ัวไปเปิ ดเวลา 10.00-22.00 น. สาหรับวนั ศุกร์เปิ ดสายกว่าวนั อนื่ เนื่องจากเป็ นวนั ละหมาดประจาสัปดาห์

วฒั นธรรมด้านการแต่งกาย (Dress culture ) เนื่อง จากอียิปต์เป็ นประเทศที่มผี ู้คนมากหมายต่างความเช่ือ ต่างวัฒนธรรม ทาให้ วัฒน ธรรมการ แต่ งกายข องคนอียิปต์ มีความแ ตกต่ างโด ยมีพื้นฐา น ทางด้านความเช่ือ เช่นมุสลิม คริสต์เตียน ยิว และอื้นๆด้วยความเจริญของ ประเทศอียิปต์และเป็ นประเทศที่ท่ีทันสมัยและมี อิทธิผลของวัฒนธรรม ตะวันตกมีการผสมผสานกับวัฒนธรรมตะวันตกอยู่บางมากหรือ น้อยก็อยู่ท่ี เมอื งทม่ี ีความเจริญกบั ความไม่เจริญดงั น้ันจงึ ไม่แปลกท่ีเรา สามารถพบเห็นมุส ลีมะห์ท่ีไม่คงความเป็ นเอกหลักของเขาสุดแต่ทีจิตสานึกและ ความปรารถนา ของแต่ละคน

สตรี ( female ) ผ้หู ญิง จานวนมากในประเทศอยี ปิ ต์เป็ นคนสวยเลยทเ่ี ดยี ว ผู้หญงิ ชาวอยี ปิ ต์เป็ นคน ทไ่ี ด้รับการศึกษาทดี่ ี เป็ นคนทใี ช้จ่ายเงนิ เก่ง การยดึ มยั ทะนุทะนอม และเอาใจใส จากทท่ี ไี ด้รับจากพ่อแม่ของเขา ในอยี ปิ ต์ 85% จะ เกบ็ ตวั เองเป็ นผ้หู ญงิ พรมจารี (หญงิ บริสุทธ์ิ)จนกว่าพวกเขาจะ ได้แต่งงานนีคอื คนสามญั ชนทด่ี เี ยย่ี มในตะวนั ออกกลาง ดงั ทผี ู้ชายเชื่ออยู่เสมอว่านี้ เป็ นสัญลกั ษณ์ทส่ี าคัญของศีลธรรมและผลของการ กระทาท่ดี ี 90%ของผ้ชู าย ปรารถนาผ้หู ญิงทมี่ คี วามบริสุทธ์ิมาแต่งงานด้วย

บุรุษ (man ) ดงั ทไี่ ด้กล่าวมาแล้วว่าความเจริญของตะวนั ตกได้กลนื ความเป็ นเอกหลกั ของ คนใน ตะวนั ออกกลางและวฒั นธรรมการแต่งกายของคนอยี ปิ ต์ถึงไม่หมดไป แต่ตะวนั ตกกไ็ ด้ กลนื ไปแล้วในบางส่วนรวมท้งั วฒั นธรรมการแต่งกายของ ผ้ชู ายอยี ปิ ต์ด้วย ผู้ชายในชนบทของประเทศอยี ปิ ต์จะแต่งชุดโตบและใส้จะสวมสาร บานไว้บนหัวและคนทมี่ อี าชีพครูสอนศาสนาแต่คนในเมอื งใหญ่เช่น เมอื ง งอ เลก็ ซานเดรีย และเมอื งไคโรผู้คนส่วนใหญ่จะสวมเส่ือเชิดกางแกงและรองเท้า หนังโดยเฉพาะคนท่ี ทางานในงานบริการเช่น โรงแรมและธนาคารฯล ฯลฯ

อาหารหลกั ของคนอยี ปิ ต์ (The staple food of the Egyptians ) การกนิ อาหารของคนในตะวนั ออกกลางจะมคี วามแตกต่างมากกบั คนในเอเชียเราและอาหาร หลกั ของทุกชนช้ันของคนอยี ปิ ต์ น้ัน คอื ขนมปัง หัว หอม พวกผกั ต่างๆ แล้วกป็ ลาแห้ง นอกจากนี้ คนอยี ปิ ต์จะมนี า้ เชื่อมซ่ึง ทาจากผลไม้ อาทเิ ช่นพวก องุ่น เพอื่ ให้ได้รสหวานและจะกนิ กบั ขนปังซ่ึงจะใช้ขนมปังจมิ้ กบั นา้ เชื่อม และนอกจากน้ัน ยงั มกี ารใช้ในนา้ ผงึ้ เกลอื กระเทยี ม หัว หอม ในการปรุงรสให้อร่อยด้วย และนอกจากขนมปังแล้วเขาจะกนิ โยเกติ ย์พร้อมๆกบั เมนูอาหาร หลกั อกี ด้วยส่วน อาหารประเภทเนือ้ สัตว์นีก้ ม็ ี สัตว์ทนี่ ิยมรับประทานกค็ อื พวก เนือ้ แกะ แพะ และ เนือ้ ววั อาหารประเภทกาบับ ( Kabab ) ก็ เป็ นเนือ้ หรือ แพะ ย่างโดยมเี หลก็ แหลม เสียบชิ้นเนือ้ โดยหมุน ชิ้นเนือ้ ให้ไฟเลยี ไปท่ัวๆ กนิ กบั ผกั ท้งั ผกั สดเช่น แตงกวา มะเขอื เทศ ต้นหอม กบั ผกั ดองเช่น แตงกวา มะเขือเปาะ หัวหอม แครอท

มัมม่ี (mummy ) คือศพท่ดี องหรือแช่ในนำ้ ยำพเิ ศษในประเทศอียปิ ต์ พนั ท่วั ทงั้ ร่ำงกำยด้วยผ้ำลินินสขี ำว เพ่อื เป็ นกำรรักษำสภำพของศพเพ่อื รอกำรกลับคืนร่ำงของวญิ ญำณผู้ตำย ตำมควำมเช่ือของชำว อียปิ ต์โบรำณ คำว่ำ \"มมั ม่\"ี มำจำกคำว่ำ \"มมั มียะ\" (Mummiya) ซ่งึ เป็ นคำในภำษำ เปอร์เซยี มคี วำมหมำยถงึ ร่ำงของซำกศพท่ถี กู ดองจนกลำยเป็ นสีดำ โดยชำวอียปิ ต์โบรำณ จะทำมัมม่ีของฟำโรห์และเชือ้ พระวงศ์ทกุ พระองค์ และนำไปฝังในลักษณะแนวนอนภำยใต้ พนื้ แผ่นทรำยของอียปิ ต์ อำศัยแรงลมท่พี ดั ผ่ำนในแถบทะเลทรำยอำระเบยี และทะเลทรำย ในพนื้ ท่รี อบบริเวณของอยี ปิ ต์ เพ่อื ป้ องกนั กำรเน่ำเป่ื อยของซำกศพท่อี ำบด้วยนำ้ ยำ

สฟิงซ์ (Sphinx ) เป็ นพนั ธ์ุที่เราเรียกว่า แอนโดรสฟิ งซ์ (Andro-Sphinx) เป็ นการผสมกนั ระหว่างมนุษย์ กบั สิงโต ส่วนหัวทเ่ี หมอื นมนุษย์น้ัน มสี ัญลกั ษณ์ ของฟาโรห์อยี ปิ ต์แสดงไว้ชัดเจน คอื มี เคราท่ีคาง ตรงหน้าผากมีงูจงอางแผ่แม่เบี้ย และมีเคร่ืองประดับ รัดเกล้าแบบกษัตริย์ โดยรอบ ว่ากันว่า สฟิ งซ์ คือ รูปเหมือนขนาดใหญ่กว่าร่างจริงสองเท่าของฮาร์มาชิส เทพแห่ งรุ่งอรุณ เมื่อตอนท่ีแปลงร่ าง เป็ นสิงโต มีเศียร เป็ นฟาโรห์ อียิปต์หรือ \"sphingein\" แปลว่า \"การบบี รัด\" รูปสลักสฟิ งซ์ของอยี ปิ ต์ท่ีมีช่ือเสียงมากที่สุดคือ มหาสฟิ งซ์ (The Great Sphinx of Giza) บริเวณใกล้กับพีระมิดคาเฟร ซ่ึงเป็ นส่วนหน่ึงของ หมุ่เกาะพีระมิดแห่งกีซ่า (Giza Pyramid Complex) S

ฟาโรห์ (Pharaoh ) น้ันปัจจุบนั ใช้เรียกพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ของอยี ปิ ต์โบราณ แต่ตาม ประวตั ศิ าสตร์แล้ว เร่ิมเรียกพระมหากษัตริย์อยี ปิ ต์ว่า \"ฟาโรห์\" กนั ในสมัย อาณาจักรใหม่ โดยเฉพาะต้งั แต่ช่วงกลางราชวงศ์ทสี่ ิบแปดเมอื่ พ้นรัชกาล ของนางแฮตเชปซุต (Hatshepsut) ไปแล้ว ฟาโรห์มเี จ้าหน้าทช่ี ่วยปกครอง 2 ประเภท คอื เจ้าหน้าที่ปฏิบตั งิ าน ในเมอื งหลวง ตาแหน่งสาคญั ทสี่ ุด คอื วเิ ซียร์ ปฏบิ ัตหิ น้าทตี่ ่าง ๆ แทนองค์ ฟาโรห์ ประเภทท่สี องคอื เจ้าหน้าทร่ี ะดบั ท้องถนิ่ ยดึ โนมสิ เป็ นหลกั ฟาโรห์ แต่งต้งั ออกไปปกครอง

จดั ทาโดย นางสาว สายทพิ ย์ ขนั ธเนตร ม.5/3 เลขท่ี 33 นางสาว ศิริวนั เพญ็ ฉุนหอม ม.5/3 เลขท่ี 24 นาย ณัฐโชติ รัศมีโคม ม.5/3 เลขท่ี 14 นาย ก้องเกยี รติ ลอื ดาว ม.5/3 เลขที่ 24 นาย ภานุวฒั น์ พนั ธ์กล้วยไม้ ม.5/3 เลขท่ี 6 นาย ปลมื้ ปิ ติ กงิ่ แก้ว ม.5/3 เลขที่ 5 นาย ธนภทั ร มณพี นั ธ์ุ ม5/3. เลขท4่ี เสนอ คุณครู อมรรัตน์ พนั ธ์ุพมิ พ์ โรงเรียนบางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยธุ ยา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook