Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การละเล่นพื้นบ้าน

การละเล่นพื้นบ้าน

Published by Naruebet Hosap, 2022-09-14 06:18:05

Description: นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่ 9 ม.6/4

Search

Read the Text Version

ไทย การละเล่นพื้นบ้าน เดิม การละเล่นไทย คือ กิจกรรมสันทนาการที่ มีมาอย่างยาวนาน ในอดีตเป็นเกมการละ เล่นที่เล่นกันในหมู่เด็กๆ ในละแวกบ้าน เรือนเดียวกัน แต่ปัจจุบันนี้มีบางการละ เล่นไทยที่บรรจุอยู่ในวิชาพลศึกษา เพื่อ ให้เด็กๆ ได้รู้จักการละเล่น 4 ภาค นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลข ที่9 ม.6/4

ม้าก้านกล้ วย ม้าก้านกล้วย เป็นของเล่นที่เด็กผู้ชายที่อยู่ในวัยซุกซน ชื่นชอบมาก เด็กไทยทั่วไปจะรู้จักการเล่นม้าก้านกล้วย เป็นอย่างดีการเล่นม้าก้านกล้วยก็แล้วแต่เด็ก ๆ จะคิด เล่น เช่น เล่นควบม้าวิ่งแข่งกันหาคนชนะ ควบม้าจัด กระบวนทัพต่อสู้กัน หาอาวุธตามรั้วคือแขนงไม้ไผ่มาทำ เป็นดาบรบกัน หรือจะวิ่งแข่งกันเป็นคู่ ๆ หากไม่มี เพื่อนก็ควบเล่นคนเดียวที่ลานบ้านหรือเลี้ยวไปตามป่า กล้ายในสวนก็ได้ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

เล่นห่วง \"ห่วง\" เป็นอุปกรณ์การเล่นที่ประดิษฐ์จากไม้ไผ่ ซึ่ง เหลาจนไม่มีคมเหลืออยู่ นำปลายทั้งสองข้างมาผูก เป็นวงกลม เล่นโดยการนำเข้ามาร่อนที่เอว เช่น เดียวกับการเล่นห่วงในปัจจุบัน นิยมเล่นกันเป็นก ลุ่ม การละเล่นนี้จะทำให้เด็ก ๆ สนุกกับการออก กำลังกาย และได้พบปะเพื่อนฝูง นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

กระต่ายขาเดียว การเล่นไล่จับชนิดหนึ่ง โดยคนที่เป็นกระต่าย ยืน ด้วยขาข้างเดียว แล้วกระโดด เขย่ง เคลื่อนที่ไล่จับ (แตะถูกตัว) เด็กคนอื่น ภายในพื้นที่ที่กำหนด ถ้า ใครโดนจับได้ก็ต้องออกจากการแข่งขันเพื่อรอรอบ ต่อไป นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ตั้งเต การกระโดดขาเดียวไปภายในช่องสี่เหลี่ยมที่ขีดขึ้น บนพื้น ขนาด 5 แถว คูณ 2 คอลัมน์ (รวม 10 ช่อง) ทีละช่อง นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

บอลลูนด่าน / บอลลูนโป้ ง เด็กแบ่งเป็นสองทีม เป็นทีมดักจับ กับทีมหนี โดยที่ทีมจับ แต่ละคนจะตั้งด่านวิ่งได้เฉพาะตาม แนวเส้นตรง และเส้นนอน ของพื้น ด่านแรกจะจับ มือทีมหนีก่อนทั้งสองฝั่ งซ้ายและขาว แล้วก็ชูแขน ขึ้น พูดว่าบอลลูน...(ลากยาว) และพูดว่าโป้ง สิ้นสุด คำว่าโป้งให้ทีมหนีวิ่งไปผ่านด่านให้ได้ โดยหลบหลีก วงแขนดักจับ วิ่งผ่านลงไปจนสุดด่าน แล้ววิ่งย้อน กลับขึ้นไปยังจุดเริ่มต้น ถ้าผ่านหมดทุกด่านก็จะ ชนะ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

กหระนัโงดยดางเชื/อกกร/ะโกดรดะหโนดัดง สติ๊ก การกระโดดเชือกมี 2 แบบ คือ การกระโดดเชือกเดี่ยว และการกระโดดเชือกหมู่ ใช้หนังสติ๊ก (หนังยาง) ถักร้อย จนเป็นเส้นยาว หรือ เชือกปอ ยาวพอที่จะตวัดพ้นศีรษะ ขมวดหัว - ท้ายเพื่อกันเชือกลุ่ย เวลาเล่นแกว่งเชือกด้วย มือทั้งสองข้าง แล้วกระโดดขึ้นลงตรงกลาง การกระโดด เชือกหมู่จะใช้เชือกที่ยาวกว่า มีผู้เล่นสองคนจับหัวท้ายข้าง ละคน คอยแกว่ง (หรือไกว) เชือก สามารถกระโดดได้ พร้อมกันหลาย ๆ คน นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

โมราเรียกชื่อ(ยัดดวง) ใช้ลูกปิงปองโยนขึ้นสูงเหนือหัวราวหนึ่งช่วงตัว แล้วเอ่ยชื่อคนอื่น ให้เข้ามารับที่ตกกระเด้งขึ้นมาจากพื้น หนึ่งครั้งเท่านั้น หากวิ่ง มารับไม่ทันในการกระดอนหนึ่งครั้ง ถือว่ารับไม่ได้ ให้ลูกปิงปอง แล้วขว้างให้โดนเด็กคนอื่น โดนใคร คนนั้นก็เสียน่อง ซึ่งมักจะ เจ็บแปดวงกลม ๆ แดง ๆ จบรอบล้างแต้ม เริ่มเล่นกันใหม่ ความชื่อต้องวิ่งมารับให้ทัน เมื่อเรียกชื่อแล้ว เด็กที่เหลือ ก็จะฮือ หนีออกห่างลูกปิงปอง เพราะกลัวโดนปาถูก หากเด็กที่ถูกเรียก ชื่อรับลูกปิงปองได้ในการกระเด้งหนึ่งครั้ง ทุกคนก็จะฮือกลับมา ล้อมวงรอเรียกชื่อใหม่อีกครั้ง รวมถึงจำชื่อเพื่อน ๆ ที่ร่วมเล่นที่ เราบอกทั้งหมด นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ขี่ม้าส่งเมือง แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย แล้วเลือกผู้เล่น 1 คน มาเล่นเป็นเจ้าเมือง ฝ่ายที่เริ่มก่อนจะกระซิบความ ลับให้เจ้าเมืองทราบ (อาจจะเป็นชื่อคนหรือเรื่องที่ ตกลงกันไว้) ถ้าฝ่ายตรงข้ามทายถูกเจ้าเมืองจะ บอกว่า \"โป้ง\" ฝ่ายที่ทายถูกก็จะชนะ และได้ฝ่าย แรกเป็นเชลย ถ้าทายผิดก็จะต้องตกเป็นเชลย ฝ่าย ใดตกเป็นเชลยหมดก่อน ต้องเป็นม้าให้อีกฝ่ายหนึ่ง ขี่หลังไปส่งเมือง นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

กาฟักไข่ ใช้ผลไม้หรืออะไรก็ได้ สมมุติว่าเป็นไข่ และเขียน วงกลมลงบนพื้น เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 ฟุต 1 วง และอีกวงหนึ่งอยู่ในวงแรก ขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลาง 1 ฟุต วางทั้งหมดไว้ในวงกลมเล็ก ให้คน ใดคนหนึ่งเป็นกา ยืนในวงกลมวงใหญ่ หรือนั่ง คร่อมวงกลมเล็ก นอกนั้นทุกคนยืนรอบนอกวงกลม วงใหญ่ คอยแย่งไข่ คนเป็นกามีหน้าที่ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

มอญซ่ อนผ้า ทุกคนนั่งล้อมวงช่วยกันร้องว่า \"มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ\" มอญ จะถือผ้าเดินรอบวงแล้วแอบหย่อนผ้า ไว้ข้างหลังผู้ เล่นคนใดคนหนึ่ง หากผู้เล่นคนนั้นรู้ตัวก่อนก็จะ หยิบผ้ามาไล่ตีมอญ แล้ววิ่งมานั่งที่เดิม แต่หากว่า มอญเดินกลับมาอีกรอบหนึ่ง แล้วผู้เล่นคนนั้นยัง ไม่รู้ตัว ก็จะถูกมอญเอาผ้าตีหลัง และต้องเล่นเป็น มอญแทน นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

หมาไล่ห่าน เลือกผู้เล่นคนหนึ่งเป็นหมาวิ่งไล่ อีกคนหนึ่งเป็น ห่านวิ่งหนี ผู้เล่นนอกนั้นจับมือล้อมกันเป็นวง เมื่อ ห่านจวนตัวก็จะวิ่งลอดเข้าไปในวงล้อม ผู้ที่เล่นเป็น ประตูต้องพยายาม กันไม่ให้หมาเข้าไปในหรือนอก วงทันห่าน กติกามีอยู่ว่าช่วงใดที่ผู้เล่นเป็นประตูพา กันนั่งลง ถือเป็นการปิดประตู หากห่านใดไล่ทัน และโดนจับได้ก็ถือว่าแพ้ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ลิงชิงหลัก เลือกผู้เล่นคนหนึ่งสมมุติว่าเป็นลิงไม่มีหลัก ยืนอยู่ กลางวง ผู้เล่นที่เหลือยืนเกาะหลักของตน (ใช้คน สมมุติเป็นหลักก็ได้) อยู่รอบวง กติกาคือผู้เล่นเป็น ลิงมีหลักจะต้องสลับหลักเรื่อย ๆ ลิงตัวที่ไม่มีหลักก็ จะต้องพยายามแย่งหลักของตัวอื่นให้ได้ ถ้าวิ่งเร็ว กว่าก็จะได้หลักไปครอง ลิงที่ช้ากว่าก็จะกลายเป็น ลิงชิงหลัก คอยแย่งหลักคนอื่นต่อไป นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

โพงพาง ผู้ที่เล่นเป็น \"ปลา\" จะถูกผูกตาแล้วหมุน 3 รอบ ผู้ เล่นอีกคนอื่นล้อมวงร้องว่า \"โพงพางเอ๋ย สำเภาเข้า ลอด ปูปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง\" จบแล้วถาม ว่า \"ปลาเป็นหรือปลาตาย?\" ถ้าปลาตอบว่า \"ปลา ตาย\" แปลว่าห้ามขยับ แต่ถ้าตอบว่า \"ปลาเป็น\" ก็ ขยับได้ หากผู้เล่นเป็นปลา แตะถูกตัวคนใดคนหนึ่ง แล้วทายชื่อถูก ผู้นั้นจะต้องกลายเป็นปลาแทน ถ้า ไม่ถูกก็ให้ทายใหม่ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

รีรีข้าวสาร ให้ผู้เล่นสองคน ใช้สองมือจับกัน แล้วยกโค้งขึ้น เสมือนซุ้มประตู ผู้เล่นที่เหลือเอามือจับเอวเดินเป็น แถวลอดประตูนั้นไป พร้อมกับร้องว่า \"รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่ จาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี\" เมื่อถึงคำสุดท้าย ซุ้มประตูก็จะลดมือลง กักตัวผู้ เล่นที่เดินผ่านมา ผู้เล่นที่ถูกกักตัวจะถูกคัดออก หรืออาจจะถูกลงโทษด้วยการให้รำหรือทำท่าทาง อะไรก็ได้ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ตี่จับ แบ่งผู้เล่นเป็นสองฝ่าย มีเส้นแดนตรงกลาง ตัวแทนฝ่ายที่รุกจะต้องส่งเสียง \"ตี่\" ไม่ให้ขาดเสียง และจะต้องพยายามแตะตัวคนใดคนหนึ่ง ของฝ่าย รับมาเป็นเชลย ส่วนฝ่ายรับหากเห็นว่าคนที่รุกมา กำลังจะหมดแรงหายใจ จะถอยกลับก็จะพยายาม จับตัวไว้ให้ได้ หากคนที่รุกเข้ามาขาดเสียง \"ตี่\" ก่อน กลับเข้าแดนของตน ก็จะต้องตกเป็นเชลยของอีก ฝ่าย นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ชักเย่อ ใช้เชือกเส้นใหญ่ยาวพอประมาณกับจำนวนผู้เล่น แบ่งผู้เล่นเป็นสองฝ่าย มีเส้นแดนตรงกลาง เมื่อ สัญญาณเริ่ม ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มออกแรงดึงเชือก โดยพยายามดึงฝ่ายตรงข้ามให้เข้ามาในแดนของ ตน หากผู้แข่งขันเป็นชายหนึ่งฝ่ายและหญิงฝ่าย หนึ่ง อาจจะกำหนดให้ฝ่ายหญิงมีจำนวนมากกว่า ชายก็ได้ เป็นการละเล่นไทยสอนให้รู้จักความ สามัคคีและเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

หมากเก็บ ใช้ก้อนกรวดที่มีลักษณะกลม ๆ 5 ก้อน เสี่ยงทายว่าใครจะ เล่นก่อน โดยวิธีขึ้นร้าน คือ ถือหมาก ทั้งห้าเม็ดไว้แล้วโยน พลิกหงายหลังมือรับ แล้วพลิกมือกลับรับอีกที ใครเหลือ หินอยู่ในหินอยู่ในมือมากที่สุด คนนั้นเล่นก่อน มีทั้งหมด 5 หมาก หมากที่ 1 ทอดหมากให้ห่าง ๆ กัน เลือกลูกนำไว้ 1 เม็ด ควรใช้เม็ดกรวดที่ห่างที่สุด โยนเม็ดนำขึ้น แล้วเก็บทีละเม็ด พร้อมกับรับลูกนำที่หล่นลงมาให้ได้ ถ้ารับไม่ได้ถือว่า “ตาย” ขณะที่หยิบเม็ดที่ทอดนั้น ถ้ามือไปถูกเม็ดอื่นถือว่า ตาย นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ม้าก้านกล้ วย การเล่นจ้ำจี้ ส่วนมากผู้เล่นเป็นเด็กเล็กโดยทั่วไปผู้เล่นมี จำนวน 5–7 คนเวลาเล่นผู้เล่นทุกคนจะนั่งล้อมเป็นวงและ วางมือทั้งสองของตนถ้าลงไปบนพื้นห้อง ผู้เล่นคนหนึ่งจะ เป็นคนร้องบทเพลง \"จ้ำจี้มะเขือเปาะ\" ที่ร้องว่า จ้ำจี้มะเขือ เปาะ กระเทาะหน้าแว่น พายเรืออ้อนแอ้น กระแท่นต้นกุ่ม สาว ๆ หนุ่ม ๆ อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหน ผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยม ๆ มอง ๆ นกขุนทองร้อง กรู๊ แต่ละคนจะวางมือลงเพียงข้างเดียว อีกข้างหนึ่งใช้นิ้วชี้ จิ้มลงบนมือคนอื่น ๆ เมื่อร้องจบแล้วนิ้วชี้ไปตกที่นิ้วของ ใคร คนนั้นจะต้องหดนิ้วไว้ในอุ้งมือ แล้วร้องเพลงต่อเรื่อย ๆ จนท้ายสุดใครขาดหายมากที่สุดเป็นผู้แพ้ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

เดินกะลา ดูจะเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่หาดูได้ไม่บ่อยนัก แต่ หากเป็นสมัยก่อนจะเห็นเด็ก ๆ เดินกะลากันทั่วไป โดยผู้เล่นจะต้องนำกะลามะพร้าว 2 อันมาทำความ สะอาดแล้วเจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกให้แน่น เพื่อ ป้องกันไม่ให้เชือกหลุดเวลาเดิน เวลาเดินให้ใช้นิ้วหัว แม่เท้ากับนิ้วชี้คีบเชือกเอาไว้แล้วเดิน หากมีเด็ก ๆ หลายคนอาจจัดแข่ง เดินกะลา ได้ด้วยการกำหนด เส้นชัยไว้ ใครเดินถึงก่อนก็เป็นผู้ชนะไป นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

งูกินหาง 4-6 ส.ค 56 \"แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน...\" ประโยคคุ้น ๆ ของ การเล่นงูกินหางที่ยังติดตรึงในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน และเป็นที่นิยมของเด็กในทุกเทศกาล ทุกโอกาสอีก ด้วย การเล่นงูกินหาง เริ่มจากเสี่ยงทาย ใครแพ้ต้อง ไปเป็น \"พ่องู\" ส่วนผู้ชนะที่มีร่างกายแข็งแรง ตัวใหญ่ จะ เป็น \"แม่งู\" ไว้คอยปกป้องเพื่อน ๆ คนอื่นที่เป็น \"ลูกงู\" จากนั้น \"ลูกงู\" จะเกาะเอวแม่งูและต่อแถวกันไว้ ยืนเผชิญ หน้ากับ \"พ่องู\" จากนั้นจะเข้าสู่บทร้อง นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ว่าว การเล่นว่าวนั้นเล่นได้ทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อน โดยอาศัยกระแสลมเป็นตัวฉุดให้ว่าวลอยขึ้น โดย หากเป็นลมหน้าหนาว จะเป็นลมที่พัดจากผืนแผ่น ดินลงสู่ทะเล ทำให้คนภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือนิยมเล่นว่าวกันในช่วงนี้ ส่วนหน้าร้อน มี ลมตะวันตกเฉียงใต้จากทะเลพัดสู่ผืนแผ่นดินใหญ่ เรียกว่า \"ลมตะเภา\" ทำให้ชาวภาคกลาง ภาคตะวัน ตกและภาคใต้ นิยมเล่นว่าวในฤดูนี้ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

วิ่งกระสอบ 4-6 ส.ค 56 ผู้จัดการเล่นต้องเตรียมขีดเส้นหรือใช้เชือกหรืออื่น ใดก็ได้วางที่พื้นแสดงเส้นเริ่มต้นการแข่งขันและเส้น สิ้นสุดการแข่งขัน เส้นทั้งสองนี้ให้ห่างประมาณ 10 เมตร เป็นอย่างน้อย ให้ผู้เล่นลงไปยืนในกระสอบ ป่านที่จุดเส้นเริ่มต้นการแข่งขัน ไม่จำกัดจำนวนว่าผู้ เล่นจะมีกี่คน เมื่อพร้อมกรรมการจะให้สัญญาณ การวิ่งกระสอบก็จะเริ่มขึ้น ทุกคนต้องพยายามวิ่ง ขณะที่ตนเองอยู่ในกระสอบ บางคนอาจจะหกล้ม หกลุก ก็ต้องรีบลุกขึ้นมาวิ่งต่อไปให้เร็วที่สุด นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

วิ่งเปรี้ยว วิ่งเปรี้ยวการละเล่นของไทย เป็นการละเล่นพื้นบ้านของ ไทยสมัยโบราณ เพื่อช่วยฝึกทักษะทางกายด้วยการเล่น กลางแจ้ง วิธีเล่นแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย อย่างน้อย ฝ่ายละ 4 คน แต่ละฝ่ายถือผ้าหรือไม้ เมื่อกรรมการให้ สัญญาณเริ่มการแข่งขัน ให้แต่ละฝ่ายวิ่งไปทางด้านขวา ของตนเอง พยายามวิ่งอ้อมหลักทั้ง 2 หลักไล่ฝ่ายตรง ข้ามให้เร็วที่สุด เมื่อวิ่งครบรอบหนึ่งคน ให้ส่งผ้าให้คนต่อ ไป คนที่เพิ่งวิ่งเสร็จไปต่อหลังแถว และเวียนรอบไปเรื่อย ๆ เมื่อถึงระยะให้ใช้ผ้าหรือไม้ตีที่หลังคนหน้า หากทำได้ สำเร็จ ก็เป็นฝ่ายชนะไป นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ปิดตาตีหม้อ วางหม้อดิน เรียงเป็นแถวห่างกันพอสมควรตาม จำนวนผู้เล่น จัดผู้เล่นเรียงตามแถววงหม้อ เดินถอยออกมาให้ห่างหม้อพอสมควร แล้วผูกตาผู้ เล่น หมุนผู้เล่น ๑ รอบแล้วจัดผู้เล่นให้ หันไปทางหม้อ ให้ผู้เล่นเดินไปข้างหน้าเพื่อตีหม้อ ของตนให้ถูก ถ้าตีไม่ถูกก็เป็นฝ่ายแพ้ ถ้าไม่มีหม้อ ใช้ถังพลาสติกก็ได้ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

วิ่งขาโถกเถก อุปกรณ์ ไม้ไผ่กิ่ง ๒ ลำ ถ้าไม่มีก็เจาะรูแล้วเอาไม้ อื่นๆ สอดไว้เพื่อให้เป็นที่วางเท้าได้ วิธีการเล่น ผู้เล่นจะเลือกไม้ไผ่ลำตรง ๆ ที่มีกิ่ง ๒ ลำที่กิ่งมีไว้สำหรับวางเท้าต้องเสมอกันทั้ง ๒ ข้าง ผู้เล่นขึ้นไปยืนบนแขนงไม้เวลาเดินยกเท้าข้าง ไหนมือที่จับลำไม้ไผ่ก็จะยกข้างนั้น ส่วน มากเด็ก ๆ ที่เล่นมักจะมาแข่งขันกัน ใครเดินได้ไว และไม่ตกจากไม้ถือว่าเป็นผู้ชนะ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

การเเข่งเรือ การแข่งเรือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน บ่งบอกถึงความเป็นไทย เป็นการ อนุรักษ์มรดกไทย และเสริมสร้างความสนุกสนาน ทั้งผู้ชม และผู้เข้าแข่งขัน และก่อให้เกิดความ รัก ความสามัคคีของคนในท้องถิ่น ซึ่งจะมีส่วนช่วย ให้ชุมชน ดำรงอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ม้าจกคอก สำหรับการละเล่นของทางภาคเหนือจะมีหลายชนิด ที่แตกต่างกันออกไป และการละเล่นม้าจกคอกก็ เป็นอีกหนึ่งการละเล่นของทางภาคเหนือในจังหวัด กำแพงเพชร เป็นการละเล่นที่จะนิยมเล่นในวันขึ้นปี ใหม่ (วันสงกรานต์) ของล้านนา การละเล่นชนิดนี้ ในภาคกลางจะเรียกว่า ลาวกระทบไม้นอกจากนี้ การละเล่นชนิดนี้ยังมีคนเข้าใจกันว่าอาจจะได้รับ อิทธิพลมาจากการละเล่นของชาวลัวะ นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

เป่ ากบ ผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะมีหนังยางของตนเอง การเล่น ให้วางหนังยางคนละเส้นบนโต๊ะ จากนั้นให้เป้ายิง ฉุบ ถ้าใครชนะ จะได้เป่าก่อน ผลัดกันเป่าคนละครั้ง ใครเป่ายางของตนเองไปทับอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นฝ่าย ชนะ รางวัลที่ได้คือ ได้หนังยางเส้นนั้นๆ ไปครอบ ครอง นายนฤเบศน์ ห่อทรัพย์ เลขที่9 ม.6/4 โรงเรียนสอยดาววิทยา

ขอบคุณ ที่รับชมครับ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook