Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการความรู้ เพื่อสร้างคุณค่าแก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน

การจัดการความรู้ เพื่อสร้างคุณค่าแก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน

Published by Daris Singhad, 2018-11-11 05:28:27

Description: ดาวน์โหลด https://drive.google.com/open?id=1q2FZRLV9ayGgzUc86oQEkJrAp12itJjr

Search

Read the Text Version

เบญจวรรณ ใสหวานดาวนโ์ หลดเอกสาร

คานา การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน สาหรับวิสาหกิจชุมชนเล่มน้ี ได้จัดทาขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการดาเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิมแก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน ผู้จัดทาได้ศึกษาเพ่ือนาไปปรับใช้ในการพฒั นากล่มุ ให้มปี ระสทิ ธิภาพ สาหรับเนอื้ หาภายในการสร้างคณุ คา่ และมลู คา่ เพิม่ แก่ผลิตภณั ฑ์ชุมชน ประกอบด้วยความต้องการของลูกค้า การสร้างลักษณะพิเศษของผลิตภัณฑ์ ข้อได้เปรียบหรือข้อแตกตา่ ง ประโยชน์ที่ได้รับจากผลติ ภัณฑ์ ความประทบั ใจ และความรู้สกึ ค้มุ ค่า ผู้จัดทา หวังเป็นอย่างย่ิงว่า การสร้างคุณค่าแก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน สาหรับวิสาหกิจชุมชนเล่มนี้ คงเป็นประโยชน์ให้กับกลุม่ วิสาหกิจชุมชน สามารถนาไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่การดาเนินงานของกลุ่มได้ตอ่ ไป ผู้จดั ทา ดาวนโ์ หลดเอกสาร

สารบัญ หนา้การสร้างคณุ คา่ ....................................................................................................................1 ความตอ้ งการของลูกค้า ..................................................................................................2 สร้างลักษณะพิเศษของผลิตภัณฑ์ ................................................................................... 6 ขอ้ ได้เปรยี บหรอื ข้อแตกตา่ ง ...........................................................................................8 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั ...........................................................................................................12 ความประทบั ใจ.............................................................................................................14 ความรูส้ ึกคมุ้ ค่า.............................................................................................................18ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพื่อสร้างคุณค่าแก่ผลติ ภัณฑ์ชุมชุม | หน้าที่ 1การสรา้ งคณุ คา่ ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพื่อสร้างคุณค่าแกผ่ ลิตภณั ฑช์ ุมชมุ | หน้าที่ 2 ความต้องการของลูกค้าการจาแนกความต้องการของลกู คา้ ออกเปน็ 8 ลกั ษณะ ประกอบด้วย 1. ความต้องการเป็นลบ เป็นสถานการณ์ที่ไม่ชอบผลิตภัณฑ์ และพยายามที่จะหลีกเล่ียงผลิตภัณฑ์นั้น หน้าที่คือจะต้องมีวางแผนเปลี่ยนแปลงความต้องการท่ีเป็นลบให้เป็นบวก หรือเปลี่ยนจากการ “ไม่ชอบ” เป็น “ชอบ” ผลิตภัณฑ์น้ัน โดยอาจเน้นในการสร้างการรับรู้ในทางบวกเพิม่ ข้นึ อยา่ งเชน่ การประกันชวี ิต หรือผลิตภัณฑ์ขาย 2. ไม่มีความต้องการ หรือความต้องการเป็นศูนย์ จะเกิดขึ้นจากลูกค้าเห็นว่าผลิตภัณฑ์น้ันไม่มีคุณค่า หรืออาจจะยังไม่รู้จักประโยชน์ในตัวผลิตภัณฑ์พอ หน้าที่คือต้องกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการ ในรูปแบบของการส่งเสริมการตลาดที่เน้นการเผยแพร่ข้อมูลขา่ วสารเกีย่ วกบั ตัวผลิตภัณฑไ์ ปยังลกู ค้ามากขึน้ เชน่ ผลิตภัณฑ์ For Men ท้งั หลายที่เนน้ ลกั ษณะของผ้หู ญิงและผู้ชายต่างกัน เพือ่ กระตนุ้ ให้ผชู้ ายซ้อื ผลิตภัณฑเ์ ฉพาะตัวเองมากขนึ้ เปน็ ต้น 3. ความต้องการแอบแฝง เป็นความต้องการของลูกค้าท่ียังสามารถหาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ในขณะน้ัน ดังน้ันหน้าท่ีคือจะต้องหาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด เพ่ือตอกย้าความต้องการของผู้บริโภคแบบแอบแฝงให้เป็นจริงข้ึนมาเช่น แต่เดิม เคร่ือง DVD หรือ VCD ท่ีสามารถ ดูหนังได้อย่างเดียว แต่หากสามารถผลิตDVD หรือ VCD ที่สามารถบันทึกรายการ TV โปรดได้ อย่างเช่น VDO ในอดีต ก็สามารถสรา้ งความต้องการของลกู คา้ แบบนใี้ ห้เปน็ จริงขึน้ มาได้ ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพ่ือสร้างคุณคา่ แก่ผลติ ภณั ฑ์ชุมชุม | หน้าที่ 3 4. ความต้องการลดลง เป็นลักษณะความต้องการท่ีมีระดับน้อยลงกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง ต้องพยายามฟื้นฟูช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยการหาโอกาสทางการตลาดใหม่ๆหรอื หาทางเพิม่ ความต้องการใชข้ องลกู ค้า 5. ความต้องการไม่สม่าเสมอ ประเทศเราเป็นประเทศทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์เกษตรส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความไม่แน่นอนและออกมาตามฤดูกาล ดังนั้นผลิตภัณฑ์เกษตรควรหาช่องทางในการทาผลิตภัณฑ์แปรรูป หรืออาจเพ่ิมหรอื ขยายตลาดในชว่ งเทศกาลให้เพมิ่ มากขึ้น เช่น ในบางจงั หวัดจดั เทศกาลผกั ผลไม้ อื่น ๆของตนเอง 6. ความต้องการเต็มที่แล้ว เป็นสถานการณ์ที่ลูกค้าใช้บริการผลิตภัณฑ์อยู่แล้วในระดับท่ีน่าพอใจ ความต้องการแบบน้ีจะน่ิงเฉยไม่ได้ เราควรแสวงหาประโยชน์จากความต้องการเต็มที่น้ี เพราะหากเราไม่ทาคู่แข่งจะเป็นผู้ทา เพราะลักษณะแบบน้ีย่อมมีการแข่งขันสูงข้ึนแน่นอน แต่ท่ีระวังไม่ได้สาหรับต่อความต้องการแบบนี้คือตัวผู้บริโภค แต่ผ้บู รโิ ภคสามารถเปลีย่ นแปลงรสนยิ มและความตอ้ งการได้ตลอดเวลา 7. ความต้องล้นเหลือ เป็นความต้องการของผู้บริโภคที่เกินกว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการได้ ความต้องการแบบน้ีจะเป็นความต้องการที่เป็นไปตามกระแสเช่น ตุ๊กตาเฟอร์บ้ี หรือ จตุคาม ถ้าความต้องการแบบน้ี จะต้องชะลอความตอ้ งการ หรือให้ผลิตเพิม่ ขึน้ 8. ความต้องการท่ีเป็นโทษ เป็นความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง ผู้อ่ืน และสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องด่ืมที่ผสมแอลกอฮอล์ บุหรี่ น้าอัดลมเป็นต้น ความต้องการแบบนี้ล่อแหลมต่อจรรยาบรรณ แต่อย่างไรก็คงต้องตอบสนองความต้องการของลกู ค้ากลุ่มนีต้ ่อไป ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพื่อสรา้ งคุณค่าแกผ่ ลติ ภณั ฑช์ มุ ชุม | หน้าที่ 4 บางครัง้ ความต้องการของลกู คา้ นัน้ สว่ นใหญม่ ักจะมรี ูปแบบ ดังนี้ 1. ลกู คา้ มคี วามตอ้ งการแอบแฝง (Latent Needs) แตย่ งั ไมม่ ใี ครสามารถตอบสนองความตอ้ งการน้ันได้ 2. ลูกคา้ ยังคงพยายามท่จี ะค้นหาความตอ้ งการที่แท้จรงิ ของตวั เอง 3. ลกู ค้ามีความตอ้ งการทเี่ ปลย่ี นแปลงตลอดเวลาและรวดเรว็ 4. ลกู ค้าไมท่ ราบวา่ ตัวเองตอ้ งการอะไร จนกวา่ จะได้เห็นส่ิงทีต่ ้องการ 5. เป็นไปไม่ไดท้ ี่จะทราบความตอ้ งการท้ังหมดของลกู ค้า การท่ีจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่ีจะตอบสนองความต้องการที่ซ่อนเร้นของลูกค้าได้นั้นคอื การหาความต้องการของลกู ค้าให้เจอ ส่ิงหนึ่งที่ต้องยอมรับน่ันคือ ความต้องของผู้บริโภคที่ไม่มีวันจบสิ้น เพราะความต้องการของผู้บริโภคก็คือส่ิงท่ีนามาซึ่งการพัฒนาท้ังผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อการเข้าถึงความต้องการของผบู้ ริโภคมาให้ได้รบั รูก้ ันในแบบงา่ ย ๆ คือ 1. ความน่าเชอื่ ถือและไว้ใจได้ การซ้ือขายคงไม่สามารถเกดิ ขน้ึ ได้ หากผู้ซื้อและผู้ขายไมผ่ ูกพันและเช่อื ถอื เช่ือใจกนั ได้ ลกู ค้าตดั สนิ ใจซ้อื กเ็ พราะความไวเ้ นื้อเชื่อใจ 2. เปย่ี มไปดว้ ยแรงบนั ดาลใจ ช่วยทาใหส้ นิ ค้าบริการแบบธรรมดามคี วามหมายมากขนึ้ ในการเข้าถงึ จติ ใจผบู้ ริโภค 3. ทาให้ชีวิตง่ายขึ้น สินค้าหรือบริการท่ีอานวยความสะดวกสบายย่อมถูกอกถูกใจลูกค้ายุคใหม่ ท่ีไม่ตอ้ งเสียเวลามานง่ั ประดิษฐป์ ระดอย แต่ลกู ค้ายคุ นีจ้ ะชอบอะไรทเี่ ปน็ ชีวิตสาเร็จรปู 4. ใหอ้ านาจกบั ลูกค้า เขาต้องการความคุม้ ค่าตอ่ สิ่งทีเ่ ขาเสยี เงินซอ้ื 5. ลูกคา้ บางคนตอ้ งการความช่วยเหลอื ดา้ นขอ้ มลู ของผลิตภัณฑไ์ ม่วา่ จะเป็นสินค้าหรอื บริการ ผ้ขู ายทช่ี ว่ ยแนะแนวข้อมูลได้ดีมสี ทิ ธิประสบความสาเรจ็ ไดม้ ากกวา่ ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพ่ือสร้างคุณคา่ แกผ่ ลติ ภณั ฑ์ชมุ ชุม | หน้าที่ 5 6. คงเพราะลูกค้ามคี วามตอ้ งการไม่รู้จักจบ คอื ถ้าคณุ สามารถข้ามเวลาอนั เป็นอปุ สรรคในการใหบ้ รกิ ารไปได้ โดยการหาประโยชนจ์ ากเทคโนโลยี 7. รู้จกั ลกู คา้ ของคณุ เอง ลูกคา้ ทุกคนอยากเป็นคนสาคัญ คณุ สามารถศกึ ษาลูกค้าได้จากพฤติกรรม 8. ขยันทาเรอ่ื งส่งิ ทีด่ เี กินความคาดหวงั จากแนวทางในการค้นหาความต้องการลูกค้าทกี่ ล่าวมา ทาให้เห็นวิธีในการค้นหาความต้องการที่ซ่อนเรน้ ของลูกค้าได้ แตท่ ั้งน้ี แมว้ ่าเราจะทราบความต้องการทซ่ี อ่ นเร้นของลกู คา้ แลว้ แต่สิ่งสาคญั หน่ึงทตี่ ้องพงึ ระลึกถงึ เสมอคือ ความสามารถหลักของวสิ าหกจิ ชุมชนคืออะไร เพราะถึงแม้เราจะค้นหาความต้องการน้ันเจอ แต่หากวิสาหกิจชุมชนยังไม่มีความพร้อมท่ีจะส่งมอบผลิตภัณฑ์ท่ีมีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าได้ก็เท่ากับการค้นหานั้นเป็นการคน้ หาท่สี ูญเปลา่ ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพ่ือสร้างคุณค่าแก่ผลิตภณั ฑ์ชุมชมุ | หน้าที่ 6 สร้างลกั ษณะพเิ ศษของผลิตภัณฑ์ การสร้างลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ท่ีคาดว่าจะตรงตามความต้องการของตลาดจาเป็นต้องนาเสนอให้ตลาดได้รับรู้ และจดจาตาแหน่งผลิตภัณฑ์ของตน ท้ังน้ี เพ่ือเป็นการตอกย้าการนาเสนอคุณสมบตั ิที่สามารถครองใจลูกค้าได้ การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ในการกาหนดตาแหน่งได้หลายวิธี ดังนี้ 1. การกาหนดตาแหน่งตามราคาและคุณภาพ เช่น ปลากระป๋องอายัม กาหนดตาแหนง่ ผลิตภัณฑ์วา่ คุณภาพดี ราคาสูง 2. การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑต์ ามลกั ษณะผใู้ ชผ้ ลติ ภัณฑ์เป็นการกาหนดตาแหน่งที่แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเหมาะกับผู้ใช้กลุ่มใด เช่น ยางรถยนต์อาตานิ ยางสาหรบั รถใหญ่ บ้านเอ้อื อาทร บ้านสาหรับผูม้ รี ายไดน้ อ้ ย 3. การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์ตามคุณสมบัติ หรือประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ เป็นการกาหนดตาแหน่งโดยนาเอาคุณสมบัติ หรือประโยชน์ของผลิตภัณฑ์มาเป็นตัวกาหนดเชน่ ยาดมโปย๊ เซยี น ใชด้ มใช้ทาในหลอดเดียวกัน 4. การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑต์ ามการใชห้ รอื การนาไปใช้ เปน็ การแสดงให้เหน็ วา่ผลติ ภณั ฑน์ ้นั นาไปใชอ้ ยา่ งไร เช่น ซอสบางยี่ห้อระบุวา่ สามารถใชไ้ ด้ทง้ั แกง นงึ่ ทอด 5. การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์ตามระดับชั้นผลิตภัณฑ์ เป็นการแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนั้นเป็นผลติ ภณั ฑ์ที่อยูใ่ นระดับใด เช่น การกาหนดตาแหน่งว่าผลติ ภัณฑ์ของตนเปน็ ผลิตภัณฑ์สาหรับผนู้ า ซง่ึ แสดงวา่ เป็นผลิตภณั ฑช์ ั้นดี ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพ่ือสร้างคุณค่าแก่ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชมุ | หน้าที่ 7 6. การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์เพ่ือแสดงการแข่งขัน เป็นความพยายามบอกกับตลาดว่าผลติ ภัณฑ์ของตนดีกว่าคูแ่ ข่งขัน เช่น ผงซักฟอกบางย่หี ้อระบุวา่ จ่ายแพงกว่าทาไม 7. การกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์แบบผสมผสานเป็นการกาหนดตาแหน่งผลิตภัณฑ์โดยยึดหลักเกณฑ์หลาย ๆ อย่างร่วมกัน เช่น การนาทั้งคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และการแขง่ ขันมาร่วมกาหนดเปน็ ตาแหนง่ ผลติ ภัณฑ์ การสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ (Product Differentiation) เป็นการนาเสนอผลิตภัณฑ์ท่ีแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่จาหน่ายในตลาด ความแตกต่างท่ีถูกนาเสนอมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ ราคา รสชาติ รูปแบบ หรือคุณสมบัติอ่ืน ที่สามารถจูงใจผซู้ ้ือได้ การสร้างความแตกต่างให้แก่ผลิตภัณฑ์เป็นกลยุทธ์ท่ีผู้ผลิตหรือผู้จาหน่ายต้องการเรียกร้องความสนใจจากตลาด กล่าวคือเป็นความพยายามในการนาเสนอให้ตลาดรับรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของตนมลี ักษณะที่แตกตา่ งจากรายอ่นื เพื่อตลาดจะได้หันมาสนใจ และพิจารณาในการเลือกซอ้ื ในโอกาสตอ่ ไป ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพ่ือสร้างคุณค่าแกผ่ ลิตภณั ฑช์ มุ ชุม | หน้าที่ 8 ข้อได้เปรยี บหรือขอ้ แตกต่าง1. แตกตา่ ง ทีฟ่ งั ก์ชันการใช้งาน และความสามารถของผลิตภัณฑ์ (ProductFeatures) เป็นการสร้างความแตกต่างท่ีฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์ ในระดับท่ีลูกค้ายอมที่จะจา่ ย ตัวอย่างท่ีเหน็ ไดช้ ดั เจนที่สดุ ก็คงจะไมพ่ น้ ผลิตภณั ฑด์ ้าน IT และเทคโนโลยตี ่าง ๆ เช่นโทรทศั น์ รถยนต์ โทรศพั ท์มือถอื และอปุ กรณ์เสรมิ ตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ ซงึ่ บางยห่ี อ้ ก็เด่นทางด้านจานวนฟงั ก์ชนั การใชง้ าน ความทนทาน ความงา่ ยในการใชง้ าน ฯลฯ วิสาหกิจชมุ ชนจะต้องค้นคว้าว่า “ช่องว่าง” ของความตอ้ งการสว่ นไหนที่ผู้บรโิ ภคยังไมถ่ ูกเตมิ เต็ม และเราต้องรีบผลติ ผลิตภณั ฑ์ออกมาเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการน้ัน ๆ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อการอุปโภค บริโภค (Consumer Product) ก็สามารถสร้างความแตกต่างให้ตัวผลิตภัณฑ์ได้เช่นกัน แต่ต้องอาศัยการโฆษณาผ่านส่ือต่างๆ เข้ามาชว่ ยในการปลกู ความคดิ นัน้ ในใจของผบู้ ริโภค อาทิเช่น ยาสีฟัน Colgate เน้นเรื่องป้องกันฟันผุ ยาสี ฟัน Sensodyne เน้นเรื่องรกั ษาเหงือกแข็งแรง และ ยา สีฟันใกล้ชิด เน้นในเรื่องของลมหายใจหอมสดช่ืน แต่ถ้า ว่ากันตามจริงดูส่วนผสมแล้ว ยาสีฟันแต่ละย่ีห้อก็มีส่วน ผสมที่ไม่ต่างกันมาก แต่ท่ีต่างก็คือ Perception หรือการรับรขู้ องลูกคา้ โดยจะสรา้ งความรับรู้ไดก้ ต็ ้องใช้ ส่ือ เปน็ ตวั ชว่ ยนาเสนอ ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพ่ือสรา้ งคุณค่าแก่ผลิตภัณฑ์ชมุ ชมุ | หน้าท่ี 9 กล่าวโดยสรุป Product Features Differentiation นั้น จะต้องหาช่องวา่ งความต้องการของผบู้ ริโภคให้เจอ แล้วลอง น า ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ข อ ง เ ร า โ ป ร โ ม ท อ อ ก สู่ ต ล า ด ส า หรั บ คน Digital น้ันยิ่งสะดวกสบาย เพราะการโปรโมทขาย ผลิตภัณฑ์ผ่านเว็บไซต์ หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ น้ัน มีราคาต่ามาก สามารถลองทาเพ่ือทดสอบตลาดได้ 2. แตกต่าง ที่การเล่าเรื่องของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงกรรมวิธีการผลิต(Story and History) การทาผลิตภัณฑ์ให้แตกต่าง ส่วนมากจะเป็นการเล่าถึงท่ีมาว่า ผลิตภัณฑ์ท่ีผลิตน้ันยากเย็นเพยี งใด มสี ่วนผสมที่หายากแคไ่ หน บางทา่ นกถ็ ามว่า ผลิตภัณฑ์ต้องแปลกขนาดไหน ถึงจะเป็นสิ่งท่ีแตกต่างและสร้างจุดขายได้เชน่ ครมี หอยทาก ครีมพิษงูก็โด่งดงั มาก จนไมร่ จู้ ะหาสว่ นผสมอะไรทีแ่ ปลกวา่ น้แี ล้ว ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ OTOP ของบ้านเรา ก็มีความเป็นมาและเรื่องราวมากมาย ผสมกับวัฒนธรรมและความพิถีพิถันในการผลิตแบบ Hand-Made หรือ การเน้นถึงความแตกต่างในแนวคิดการสร้าง ผลิตภัณฑ์ของ บริษัท SCG โดยเน้นย้าถึงวิสัยทัศน์ และนวัตกรรมของการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ท่ีเป็น มิตรต่อส่ิงแวดล้อม ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพ่ือสร้างคุณคา่ แก่ผลติ ภัณฑช์ ุมชุม | หน้าที่ 10 อีกตัวอยา่ งทด่ี กี ็คือ สบู่ แชมพยู ่ีห้อ Dove ทเี่ น้นเรื่องการ สร้างความแตกต่าง Product Features มาช้านานคือ การเน้นไปท่ีความนุ่มของเส้นผม ซ่ึงก็จะไปแข่งกับแบรนด์ อื่น ๆ ท่ีครองตลาดอยู่ก่อน แต่สุดท้าย Dove ก็เลือกที่จะ สร้างความแตกต่าง จากเรื่องราวของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เชื่อว่าตัวเองนั้นไม่สวย และขาดความม่ันใจ โดยเรื่องราวท่ีดีก็ควรจะส่ือถึงความรู้สึก ท้ังความรัก ความใฝ่ฝัน ความหวัง หรือ ความสุข กย็ ่ิงจะเข้าถึงผบู้ รโิ ภคมากขึ้น 3. แตกต่างด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ (Product andPackage Design) รปู ลกั ษณ์ของผลติ ภัณฑ์และบรรจุภณั ฑเ์ ปน็ สง่ิ ทีผ่ บู้ รโิ ภคให้ความสนใจเปน็ อันดบัต้น ๆ ย่ิงในโลกสังคมออนไลน์ด้วยแล้ว ผลิตภัณฑ์ 1 ชิ้นไม่ได้เป็นแค่ของใช้อีกต่อไป แต่เป็นเครอ่ื งบ่งบอกถงึ รสนิยม และ ภาพลักษณ์ของผู้ใช้ดว้ ย ถ้าเป็นผลติ ภัณฑ์แฟชั่นตา่ ง ๆก็ต้องออกแบบหรือเลือกผลิตภัณฑ์ในร้านให้เหมาะกับภาพลักษณ์ของร้านค้าและความต้องการของผู้ใช้ด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ในร้านอาจจะเป็นสไตล์ Sport น่ารัก สดใส หรือเป็นสไตลเ์ รียบหรู ดาวน์โหลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพื่อสรา้ งคุณคา่ แกผ่ ลติ ภณั ฑช์ ุมชมุ | หน้าท่ี 11จดุ เดน่ ของการออกแบบนีจ้ ะตอ้ งชดั เจนและมคี วามตอ่ เนอ่ื ง (Consistency) อย่านาผลิตภัณฑท์ ไ่ี ม่ตรงตาม concept มาปนอยู่มากซ่งึ จะทาใหร้ า้ นค้าหรือแบรนด์เสยี ความเปน็ เอกลกั ษณไ์ ป ในเรื่องของบรรจุภัณฑ์นั้นก็จะละเลยไม่ได้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมายที่ปรับบรรจุภัณฑ์แล้ว สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้อย่างมากมาย ตัวอย่างหน่ึงก็เป็น วิสาหกิจชุมชน ที่ชื่อ Banana Society กล้วยตากเคลือบช็อกโกแลตท่ีขายดิบขายดี เปน็ ของฝากกแ็ สดงถงึ ความทนั สมยั ของผลติ ภณั ฑ์ อีกตัวอย่างที่ชัดเจน คือ ผลิตภัณฑ์จากญ่ีปุ่น โดยเฉพาะพวกขนมท่ีขายอยู่ในสนามบิน บอกได้เลยวา่ ก่อนขึ้นเคร่ืองน้ันสามารถเอาเงินออกจากกระเป๋าท้ังหมดของเราไปได้เลย แม้ไม่จัดโปรโมชั่นชิมฟรี นักท่องเที่ยวก็ซื้อกันอย่างรวดเรว็ โดยไมค่ านงึ ถึงรสชาตเิ ลยนี่คอื ความสาคัญของการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ก็สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพ่ือสรา้ งคุณค่าแกผ่ ลิตภณั ฑช์ มุ ชมุ | หน้าท่ี 12 ประโยชนท์ ี่ได้รบั การพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิม ให้เกิดประโยชน์ใช้สอยที่ดีขึ้นท้ังทางกายภาพและทางจิตใจ เพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงข้ึน เพ่ือนาเข้าสู่การเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์ ได้ลดต้นทุน เพ่ิมผลกาไร เชน่ ออกแบบใหผ้ ลติ ง่าย ลดขนั้ ตอน เลือกใชว้ สั ดุภายในประเทศ ฯลฯ คุณสมบตั ิของผลิตภณั ฑ์ทดี่ ี ความแปลกใหม่ (Innovative) เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีไม่ซ้าซาก มีการนาเสนอความแปลกใหม่ในด้านต่าง ๆ เช่น ประโยชน์ใช้สอยท่ีต่างจากเดิม รูปแบบใหม่ วัสดุใหม่ หรืออ่ืน ๆ ท่ีเหมาะสมกับสภาพความตอ้ งการของผู้บริโภคในตลาดน้ัน มที ่ีมา (Story) เปน็ ผลติ ภัณฑ์ทม่ี ีประวัติ มีทม่ี าหรือ เล่าเร่ืองไดไ้ มว่ ่าจะเป็นต้นกาเนดิความคดิ รวบยอดของการออกแบบใหผ้ ูบ้ รโิ ภคทราบถึงเรอ่ื งราวเหล่านัน้ ได้ เช่น นาฬิกาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวถึงต้นกาเนิดมาจากงานช่างฝีมือในหมู่บ้านท่ีเก่าแก่หมู่บ้านหนง่ึ ทม่ี ีการสบื ทอดกันต่อ ๆ มาจนถึงปจั จุบัน เป็นต้น ระยะเวลาเหมาะสม (Timing) การนาผลติ ภณั ฑอ์ อกส่ตู ลาดนั้นเหมาะสมตามฤดูกาลหรือตามความจาเป็น หรือเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเวลาน้ัน ๆ เช่นผลิตภัณฑ์เสื้อกันฝนหรือร่ม ก็ควรจะออกสู่ตลาดช่วงฤดูฝน ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าชุดนักเรียนก็ควรออกสตู่ ลาดช่วงฤดกู าลก่อนเปดิ ภาคเรยี น เปน็ ตน้ ราคาพอสมควร (Price) เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีมีราคาขายเหมาะสมกับกาลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดน้ัน โดยอาศัยการศึกษาวิจัยกลุ่มผ้บู ริโภคให้ได้ข้อมูลก่อนทาการออกแบบและผลติ ดาวน์โหลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพื่อสรา้ งคุณคา่ แกผ่ ลติ ภัณฑ์ชมุ ชุม | หน้าที่ 13 มขี ้อมลู ขา่ วสาร (Information) ข้อมลู ขา่ วสารของตัวผลติ ภณั ฑ์ควรจะสื่อใหผ้ ู้บรโิ ภคได้ทราบ และเข้าใจอย่างถูกต้องในด้านประโยชน์และวิธีการใช้งาน เป็นการสร้างภาพลกั ษณ์ทีด่ ีแกว่ สิ าหกิจชมุ ชนและผลติ ภัณฑ์ เป็นที่ยอมรับ (Regional acceptance) ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องมีความแข็งแรง คงทนต่อสภาพการใช้งาน หรือมีอายกุ ารใช้งานที่เหมาะสมกับลักษณะของผลิตภัณฑ์ และราคาที่จาหน่าย ดาวน์โหลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพ่ือสร้างคุณค่าแก่ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชมุ | หน้าที่ 14 ความประทบั ใจ ความประทับใจของผลิตภัณฑ์เป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภคมีความรู้สึกที่ดีต่อผลติ ภณั ฑ์หรอื สินค้า ทาให้มีผลกระทบกลบั มายังสินคา้ นนั้ คือ 1. สร้างความพึงพอใจ ประสบการณก์ ารซื้อผลิตภณั ฑ์ทด่ี ีจะส่งผลถึงคะแนนความพึงพอใจของร้านค้า เมอ่ื คะแนนมากขนึ้ รา้ นค้าจะมโี อกาสในการขายผลติ ภัณฑ์เพมิ่ มากขึ้น 2. ติดตามและจดจาได้ ผู้ซื้อจะให้ความสนใจร้านค้าและหาช่องทางเพื่อติดตามร้านค้านั้น ๆ ผู้ซื้อจะจดจาและนกึ ถึงรา้ นคา้ เมอื่ ตอ้ งการซอื้ ผลติ ภณั ฑป์ ระเภทน้ันอีกคร้งั 3. กลบั มาซ้อื ซา้ เมือ่ มีความพึงพอใจ และความประทบั ใจจากประสบการณ์การซื้อผลิตภัณฑ์จากร้านค้าหน่ึงแล้ว ในภายหลังหากผู้ซื้อต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทเดิมอีก ก็มโี อกาสสงู ท่ีจะกลบั มาซอื้ ซา้ ท่ีร้านเดิม 4. แนะนาและบอกตอ่ ขอ้ ดขี องการสรา้ งความประทับใจใหก้ บั ลูกค้าท่กี อ่ ให้เกดิประโยชนอ์ ยา่ งมากตอ่ รา้ นค้าก็คอื การแนะนาและบอกต่อไปยังเพอื่ นๆ ของลูกคา้ เพราะนอกจากร้านค้าจะไมต่ อ้ งลงทนุ ทางด้านการตลาดอยา่ งมากมายแลว้ ยงั มีโอกาสมรี ายได้เพ่มิ จากลกู คา้ เกา่ อีกดว้ ย ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพื่อสรา้ งคุณคา่ แก่ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชุม | หน้าท่ี 15ผู้ผลิตจะสรา้ งความประทบั ใจได้อยา่ งไร 1. ใสใ่ จรายละเอียด  ผลิตภัณฑ์: ร้านค้าควรตรวจสอบสภาพของ ผลิตภัณฑ์ให้ครบสมบูรณ์ตามท่ีได้เขียนไว้ใน รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ เพ่ือลดโอกาสการ ส่งคืนผลิตภัณฑ์ หรือถูกหักคะแนนความพึงพอใจ จากผู้ซอ้ื ได้  บรรจุภัณฑ์และหีบห่อ: บรรจุภัณฑ์นอกจาก จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูดีแล้ว ยังช่วยถนอมรักษา และคงสภาพผลิตภัณฑ์ให้สมบูรณ์อีกด้วย ดังน้ันร้านค้าจึงควรใส่ใจในเร่ืองการบรรจุผลิตภัณฑ์ลงหีบห่อ เพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความเสียหายระหว่างการจดั สง่2. คาขอบคุณ เพื่อแสดงความขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ร้านค้า สามารถจัดทาบัตรขอบคุณ แนบไปกับกล่องผลิตภัณฑ์ เพ่ือสร้างความประทับใจได้อีกทางหน่ึง โดยบัตร ขอบคุณน้ัน อาจจะไม่ต้องใช้เงินลงทุนจัดพิมพ์ราคา แพง รา้ นค้าอาจจดั ทาบตั รขอบคณุ ด้วยตนเอง ด้วยการ เขียนคาขอบคุณลงในกระดาษใบเล็ก ๆ หรือนามบัตร ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพื่อสร้างคุณค่าแก่ผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชมุ | หน้าท่ี 16ของร้าน เพ่ือให้ลูกค้าสามารถเก็บไว้ได้ ซ่ึงลูกค้าสามารถกลับมาดูช่ือที่อยู่ร้านค้า เวลาท่ีลกู ค้าตอ้ งการซอ้ื ผลิตภัณฑป์ ระเภทเดมิ น้ันอีกคร้ังหนง่ึ 3. บรกิ ารก่อนและหลังการขาย การให้บริการที่ดีถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยมัดใจลูกค้าให้กลับมาซ้ือซ้า จุดที่ต้องให้ความสาคัญก็คือผลิตภัณฑ์และการขาย แต่อย่าลืมว่าการบริการน้ันก็เกี่ยวข้องกับการขายผลติ ภัณฑ์ในหลาย ๆ ขน้ั ตอน การบริการ นบั ตัง้ แต่การอธิบายคุณสมบตั ขิ องผลิตภณั ฑ์ การให้คาแนะนาวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีถูกต้อง การรับประกันผลิตภัณฑ์ การให้บริการเปล่ียนหรือคืนผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการซ่อมแซมและบารุงรักษา ล้วนมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพและความพงึ พอใจของลูกคา้ ทม่ี ีต่อรา้ นคา้ ได้ท้งั ส้นิ เพราะจะเปน็ ส่ิงจงู ใจใหล้ กู คา้ มที ัศนคตทิ ่ีดีต่อร้านค้า และเพ่ิมโอกาสที่ร้านค้าจะได้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการซ้ือผลิตภัณฑ์ครั้งต่อไปของลกู คา้ นั่นเอง 4.ของขวัญ ของกานัลพเิ ศษ รา้ นค้าสามารถดึงดดู ใหล้ ูกคา้ กลับมาซอ้ื ผลิตภณั ฑ์ซา้ ไดด้ ้วยหลายวธิ ี เราขอแนะนาวธิ ีร้านค้าสามารถนาไปใช้ไดโ้ ดยงา่ ย เชน่  โปรโมชน่ั พเิ ศษสาหรบั ลกู คา้ ท่ีเคยซ้อื ผลติ ภัณฑ:์ วิธีน้ีจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าท่ีเคยซื้อผลิตภัณฑ์ สนใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมเน่ืองจากได้รับสิทธิ พิเศษ เช่น ส่วนลดสาหรับการซ้ือครั้งต่อไปในราคา ที่ถูกลง ซ่ึงทาให้เกิดความคุ้มคา่ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ ทีร่ า้ นของคณุ ของแจก ของแถม ผลิตภัณฑ์ทดลองใช้: วิธีน้ีเป็นวิธีท่ีจะช่วยให้ร้านค้าสามารถขายผลิตภัณฑ์ประเภทอ่ืน ๆ ได้เพ่ิมเติม โดยร้านค้าอาจแถมผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองของ ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพื่อสร้างคุณค่าแก่ผลติ ภัณฑ์ชมุ ชุม | หน้าที่ 17ผลติ ภัณฑ์ประเภทอ่นื ๆ ในรา้ น เพ่อื ให้ผูซ้ อ้ื ได้ลองใช้ หากติดใจก็มโี อกาสท่ีลูกคา้ จะกลับมาซื้อผลิตภณั ฑ์เพ่มิ เติมได้ ดาวนโ์ หลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพื่อสรา้ งคุณค่าแก่ผลติ ภณั ฑช์ มุ ชุม | หน้าที่ 18 ความรสู้ ึกคุ้มคา่ ต้นทุนท้ังหมดท่ีลูกค้าจ่ายไป ประกอบด้วย ต้นทุน 3 ส่วนที่สาคัญ คือ 1.ต้นทุนค่าผลติ ภณั ฑ์ 2.ตน้ ทุนเวลา และ 3.ตน้ ทุนความร้สู กึ ต้นทุนค่าผลิตภัณฑ์ เงินที่ลูกค้าจ่ายไปเพ่ือการซ้ือผลิตภัณฑ์ หมายถึง เงินที่ลูกค้าจ่ายไปเพื่อซ้ือผลิตภัณฑ์รวมถึงเงินท่ีลกู ค้าคาดว่าจะต้องจ่ายเพิม่ เติมในอนาคตกรณีทม่ี ีการซ้ือบรกิ ารแบบต่อเน่ืองด้วย เช่น การสมคั รสมาชิกฟติ เนสแบบตลอดชีพ ซง่ึ แตล่ ะปีจะตอ้ งมีค่ารักษาสถานภาพสมาชิกปีละเท่าไหร่ นั่นคือต้นทุนที่ลูกค้าจะต้องจ่ายสาหรับการซ้ือบริการน้ีดว้ ย หากยอดรวมของจานวนเงนิ ที่คาดวา่ จะตอ้ งจ่ายทงั้ หมดน้ันมากกว่าคู่แข่ง กจ็ ะเสียเปรยี บค่แู ข่งทันที รวมไปถึงเงนิ ท่ลี กู ค้าคาดวา่ จะต้องจ่ายเพ่มิ เติมในอนาคต สาหรับซือ้การบริการต่อเน่อื ง เชน่ เมอื่ ซอื้ ผลิตภณั ฑ์มาชน้ิ หน่งึ เรารูว้ า่ ผลติ ภัณฑ์ชน้ิ นี้มอี ายกุ ารใช้งานประมาณ 5 ปี และในแต่ละปี เราประมาณการได้ว่าต้องมีคา่ ใช้จ่ายในการบารุงรักษา ปีละประมาณเท่าไร ดังน้ัน ต้นทุนค่าผลิตภัณฑ์ก็คือ เงินท้ังหมดที่ลูกค้าคาดกว่าจะต้องจ่ายแน่นอนเปน็ จานวนเงนิ ข้ันต่า สาหรบั ผลติ ภณั ฑช์ น้ิ น้นั ๆ เพราะฉะนั้น ลูกค้าจะทาการเปรียบเทียบ ต้นทุนท่ีเป็นตัวเงินท้ังหมดที่ลูกค้าคาดว่าจะต้องจ่ายในการซ้ือผลิตภณั ฑ์ของเรา เปรียบเทียบกับคู่แข่งของเรา ถ้าต้นทุนที่เป็นตัวเงินโดยรวมของเราต่ากวา่ ของคแู่ ขง่ เราก็มีความไดเ้ ปรียบเหนือคูแ่ ขง่ ในเบอื้ งต้นแลว้ ต้นทุนท่ีสอง ต้นทุนเวลาที่ลูกค้าเสียไป ในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ของเรา หมายถึงเวลาที่ลูกค้าเสียไป ก่อนจะได้ซ้ือผลิตภัณฑ์น้ัน ๆ เช่น ระยะเวลาในการรอคิวเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์หรือใช้บริการ ระยะเวลาในการรอสายเพื่อติดต่อสอบถามรายละเอียดเพ่ิมเติม ดาวน์โหลดเอกสาร

การจดั การความรู้ เพ่ือสร้างคุณค่าแกผ่ ลติ ภัณฑ์ชุมชมุ | หน้าท่ี 19หากต้องรอหรอื ใช้เวลานาน ลูกคา้ จะรู้สกึ ทันทวี า่ เสียเวลา และหนั ไปยอมจา่ ยแพงกว่าแต่ไม่ตอ้ งรอนาน เชน่ เวลาในการรอควิ เวลาทีเ่ สยี ไปในการเดินทางเพือ่ มาหาเรา เวลาทโี่ ทรศพั ท์ติดต่อมาหาเรา แล้วต้องรอสายนานมาก และเวลาที่ลกู ค้าต้องใช้ไปจากอีกหลายเหตุการณ์เพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์ หรือ บริการของเรา เช่น มีร้านค้าปลีก 2 ร้าน ขายผลิตภัณฑ์ในราคาเท่ากัน ร้านแรกรอคิวนานกว่าจะได้ชาระเงิน ร้านค้าที่สอง รอคิวแป๊บเดียวสามารถชาระเงินได้เลย ลูกค้าจะเลือกซ้ือผลิตภัณฑ์จากร้านค้าปลีกท่ีสองมากกว่า เพราะมีต้นทุนเวลาท่ีเสียไปตา่ กว่า ต้นทุนที่สาม คือ ต้นทุนความรู้สึกของลูกค้า หมายถึง คุณภาพในด้านต่าง ๆ ท่ีได้รับกลับมา ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพผลิตภัณฑ์ คุณภาพของการบริการก็ตาม หากมีอะไรท่ีทาให้ลูกค้าเสียความรู้สึก ต้นทุนของความรสู้ ึกลกู ค้าจะสูงข้ึนทันที เหมือนกับต้นทนุ เวลา หากต้องรอคิวนานมาก ๆ ลูกค้าก็อาจเสียความรู้สึก และหันไปหาคู่แข่งได้มากกว่าผู้ประกอบการจึงไม่ควรเส่ียงกับการทาให้ลูกค้าไม่พอใจไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม ถ้าเราบริการไม่ดี ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ ลูกค้าก็จะไม่พอใจ เสียความรู้สึก ต้นทุนความรู้สึกของลูกค้าก็จะสูงขึ้นทันที เช่นเดียวกันกับต้นทุนเวลา ถ้าลูกค้าเสียเวลาให้กับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ของเรานานมากเขาก็จะมตี ้นทนุ ที่เสยี ความรู้สกึ เพม่ิ สงู ขนึ้ ตามไปดว้ ย เพราะฉะน้ัน วิสาหกิจชุมชนต้องมองในมุมของลูกค้า มองให้เห็นว่า ลูกค้าเสียเวลาให้กับเราไปอย่างไร เสียความร้สู ึกต่อเราอย่างไร แล้วหาทางลดเวลา และความรู้สกึ ที่ลูกคา้เสียไปการสรา้ งกาไรใหเ้ กดิ ขนึ้ ในใจลกู คา้ ลูกค้าท่ีเข้ามาซ้ือผลิตภัณฑ์หรือใช้บริการก็คาดหวังว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ หรือได้รับบริการท่ีประทับใจ คุ้มค่ากับเงินท่ีเสียไปเช่นกัน สมมุติว่าเราไป ดาวน์โหลดเอกสาร

การจัดการความรู้ เพื่อสรา้ งคุณคา่ แก่ผลติ ภัณฑ์ชมุ ชมุ | หน้าท่ี 20รับประทานบุฟเฟ่ต์ตามร้านอาหาร แล้วพบว่าอาหารรสชาติไม่ดี เมนูก็มีให้เลือกน้อย แถมยังมีชารจ์ ค่าบริการอื่น ๆ เพม่ิ เตมิ แบบจกุ จิก แบบนี้ลูกคา้ คงจะไมเ่ ขา้ ไปใชบ้ ริการอกี เพราะรู้สึกว่าเข้าไปใช้บริการแล้วไม่คุ้มค่ากับราคาท่ีจ่ายไป ต่างกับร้านไหนที่เข้าไปแล้วมีเมนูให้เลือกมากมาย แถมไม่มีคิดค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม ลูกค้าจะรู้สึกถึงความจริงใจในการบอกราคาที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเพมิ่ เติมอกี และยังมีอาหารให้เลอื กหลากหลายจนรู้สึกอยากกลบั มาใชบ้ รกิ ารอีกเพราะร้สู ึกวา่ ค้มุ คา่ กบั ราคาที่จ่ายไป กาไร ขาดทุนของลูกค้า จึงแตกต่างกับกาไรขาดทุนของผู้ประกอบการตรงท่ีผลิตภัณฑ์จะต้องให้คณุ ประโยชน์ทม่ี ากกว่า “ความคาดหวัง” ท่ีลูกค้าได้รับกลับมาจะต้องมากกว่าต้นทุนท่ีลูกค้าใช้ในการซื้อผลิตภัณฑ์ เพราะส่ิงที่มากกว่าความคาดหวังจะทาให้ลูกค้ารสู้ กึ เหมือนกบั วา่ ไดก้ าไรจากเงนิ ที่จ่ายออกไปซึ่งตน้ ทนุ ของลูกคา้ ผลิตภัณฑ์และบริการทุกประเภท จะทาให้ลูกค้ารู้สึกกาไรได้มากแคไ่ หน ไม่ได้ข้ึนอยู่กับความคาดหวงั ของลกู ค้าเพยี งอยา่ งเดยี ว แต่ยงั อยทู่ ี่การสรา้ งคุณคา่ ของตัวผลติ ภัณฑ์ด้วยยิ่งผลิตภัณฑ์ทาใหล้ กู ค้ารสู้ ึกมคี ณุ คา่ และภาพลกั ษณ์ของผลติ ภณั ฑ์นั้น ๆ ดว้ ย ดาวน์โหลดเอกสาร

ดาวนโ์ หลดเอกสาร