Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore EENT

EENT

Published by kijjarjane, 2021-06-24 09:26:08

Description: EENT
สรุปเนื้อหา พร้อมภาพประกอบ
By Jane Kijja

Search

Read the Text Version

EENT JANE KIJJA [email protected] [Company name] EENT

ช่ือโรค สาเหตุ ปจั จัยเสี่ยง อาการและอาการแสดง การวนิ ิจฉยั การรักษา เพิม่ เตมิ ตา หู คอ จมกู -ตามัวลงอยา่ งชา้ ๆ ไมม่ าการ ซกั ประวัติ การผ่าตัดเอาแกว้ ตาทขี่ นุ่ ออกและใส่ การพยาบาลหลังผ่าตดั เจ็บปวด มกั ให้ประวัติ -ประวัติตามัว จะมตี ามัว แก้วตาเทยี ม (intraocular lens ,IOL) เขา้ -ลดปวดตา ใหย้ าแกป้ วด ตา eye มองเหน็ ในท่สี ลัว>ทส่ี วา่ ง เรอ่ื ยๆ ไม่มีอาการปวด (อาจ แทนที่ ประเมนิ อาการหลังให้ยา ไม่ -มองเหน็ ภาพซอ้ น เปน็ ทลี ะขา้ งหรือทัง้ สองขา้ ง -ผา่ ตดั extracapsular cataract ทเุ ลารายงานแพทย์ ต้อกระจก cataract -การสะสมของแสง (diplopia) หรืออาจมอี าการ พรอ้ มกนั ได)้ extraction (ECCE) -ปอ้ งกนั ติดเช้อื เชด็ ตาข้างที่ กลัวแสง(photophobia) -ตามัวมากข้ึนเมอ่ื อยทู่ แ่ี สง ผ่าตดั และหยอดยาทุกวัน , ภาวะทแ่ี ก้วตา (lens) อัลตราไวโอเลตตลอดชว่ ง -สาตาอาจสั้นลงในระยะแรก สว่างมากๆ -ผ่าตดั เอาแก้วตาทข่ี ุ่นและเปลอื กหุ้ม แนะนาวธิ ที าความสะอาด ของตอ้ กระจก ตรวจร่างกาย แกว้ ตาด้านหนา้ ออก เหลือเปลอื กหุ้ม ใบหน้าแทนการล้างหนา้ , ไมใ่ ห้ ขนุ่ ทาใหม้ องเหน็ คอ่ ยๆ อายุ -แก้วตาขุน่ ขาว สอ่ งไปรู -วดั สายตา ระดับสายตา แก้วตาด้านหลัง เพื่อใสแ่ ก้วตาเทียม น้าเขา้ ตาข้างที่ผ่า, ไม่ขยต้ี า/ใช้ ม่านตาจะเหน็ รมู า่ นตาเป็นสี ลดลง เข้าไปแทนที่ นิว้ แยงตา ลดลง -ประชากรทางานทโี่ ล่ง เช่น ขาว -ตรวจตาดว้ ยไฟฉายจะเห็นรู -สง่ เสรมิ ทากิจวตั รได้ โดย ม่านตาเปน็ สีขาว จากแกว้ จา -Phacoemultification ชว่ ยเหลอื ทาความสะอาด ชาวประมง ช่างเป่าแกว้ ชา่ ง ข่นุ ขาว รา่ งกาย กินขา้ ว ขับถา่ ย -ตรวจเคร่อื งมือไดเรค นาคลน่ื เสียงความถส่ี งู สลายแก้วตา เน่ืองจากการรับรลู้ ดจากการ เช่อื มโลหะไม่ใสแ่ ว่นปอ้ งกัน ออพธัลโมสโคป (direct แล้วดดู ออก แผลเล็ก หายเรว็ สายตา ปิดตา ทาให้ดูแลตนเองไดไ้ ม่ ophthalmoscope) พบ เอียงจากผา่ ตดั น้อย ครบ -อายเุ พมิ่ ขึ้น (senile บรเิ วณรูมา่ นมเี งาตาตาม คาแนะนาการปฏบิ ตั ิตัว ขนาดและรูปรา่ งของแก้วตาที่ Intracapsular cataract extraction -ไมใ่ หน้ า้ เขา้ ตา, ไม่กม้ สระผม, cataract) ขนุ่ (ICCE) เลี่ยงอาหารแขง็ เคีย้ วยาก ,กนิ LAB ผกั ผลไม,้ เล่ียงการเบ่งถา่ ย -ไดร้ ับบาดเจ็บ (traumatic -ตรวจตาดว้ ยเครือ่ ง silt -ผ่าตัดเอาแก้วที่ข่นุ พรอ้ มท้งั เปลอื ก -เล่ยี งยกของหนัก/กระโดด/ lamp(biomicroscope)แยก หุ้มแกว้ ตาด้านหนา้ และด้านหลังออก โยคะ/ไมค่ วรกม้ หนา้ ต่ากว่าเอว ภาวะแทรกซ้อน cataract) ความขุ่นของแกว้ ตาได้ ว่าขนุ่ แกว้ ตาเทียม ประกอบด้วย แก้วตา -ใชส้ ายตาตามปกติ ถ้าเมอ่ื ยตา บรเิ วณ Cortex , nucleus , เทียม(optic) (กลมและใส)มีหนา้ ทีห่ กั ใหห้ ยุดพกั - ตาอักเสบ, ความดันลูกตา -เป็นแต่กาเนดิ (congenital posterior subcapsular เหแสง/ ขาแกว้ ตาเทียม(haptic) ทา -เช็ดตาวันละครง้ั ,หยอดตา หน้าทย่ี ึดแก้วตาเทยี ม และปา้ ยตา ,ปดิ ทค่ี รอบตา สงู เกิดเป็นตอ้ หิน cataract) **ผา่ ตดั +ไมใ่ สแก้วตาเทยี ม = เวลานอน กลางวนั ถา้ ไม่ปดิ ตา มองเหน็ ไมช่ ัด แกไ้ ข ใส่เลนส์สัมผัส ใหส้ วมแว่นตา ออกนอนบา้ น (glaucoma) -เกิดหลงั โรคตาอ่นื /แวน่ เลนสน์ นู หนามาก** สวมแว่นตากนั แดด -มาตรวจตามนัด ถ้ามีอาการ -หลังผ่าอาจเกดิ ความดันลกู (secondary cataract) ผดิ ปกติ เชน่ ปวดตา ตาแดง ตาสงู หลงั ผา่ จะลดลงภายใน -ได้รบั สารพษิ (toxicity) 24-72 hr.,ตดิ เชื้อ, -พนั ธกุ รรม เลือดออก, จอรับภาพบวม , แผลแยก, จอตาลอกตวั จะสงู ช่วง 12 เดือนแรกหลังผา่

ชอื่ โรค สาเหตุ ปัจจยั เส่ียง อาการและอาการแสดง การวนิ จิ ฉัย การรกั ษา เพม่ิ เตมิ **ใสแ่ กว้ ตาเทียมหลังผา่ =มองเห็น ขีต้ ามาก มาพบแพทยก์ ่อนนดั ต้อหนิ glaucoma -ความผดิ ปกติของระบบ -ไมม่ อี าการเจ็บปวดบริเวณ ซักประวัติ ไดด้ ีทันที ข้อเสยี เกดิ แทรกซ้อนหลัง ไหลเวียนของน้าเอเควียส ตา แต่อาจปวดมึนศรี ษะ ใหป้ ระวัตสิ ายตายังดอี ยู่ ผา่ มากกว่า** ผ่าตัด กล่มุ อาการผดิ ปกติทางตา ต้อหนิ ปฐมภูมิ (ไมม่ ีโรคตา เลก็ น้อย เพยี งแต่บางครง้ั ไม่สุขสบาย เพอ่ื ลดความดนั ลูกตา ความดันลูกตาสูง ขัว้ โรคทางร่างกายเป็นสาเหตุ) -อาจเปล่ียนแวน่ ตาบอ่ ย ต้องเปลี่ยนแว่นตาบ่อยๆคร้งั รักษาด้วยยา เพิม่ อตั ราการไหลน้าเอเควียส ประสาทตาฝอ่ ลานสายตา -ตอ้ หนิ มุมเปดิ (primary -แรกไม่มีอาการผดิ ปกติ เม่อื หรอื อาจมปี ระวัติเดนิ เตะโตะ๊ - parasympathomimmetics โดยทาทางระบายน้าใหใ้ หม่ แคบลง open angle glaucoma) โรคดาเนนิ มากประสาทตา เกา้ อบ้ี อ่ ยๆ (1-4% pilocarpine eye drop หยอด (glaucoma filtration) เปน็ -ต้อหนิ มุมปิด(primary ถกู ทางานเรือ่ ยๆ การ ตรวจรา่ งกาย วันละ 4 คร้งั ลดการสร้างน้าเอเควยี ส การทาใหเ้ กิด fistulaเพือ่ การพยบ. trabeculectomy angle closure glaucoma) มองเหน็ ค่อยๆลดลง วดั สายตาอาจไมพ่ บความ และทาให้ไหลออกไดส้ ะดวกข้ึน รมู า่ นตา ระบายน้าจากช่องมา่ นตาออก กอ่ น-หลงั ผ่าตัด ตอ้ หินแตก่ าเนิด (พฒั นาการ โดยเฉพาะเรมิ่ เสยี รอบนอก ผิดปกติ แต่ความดนั ลูกตาจะ หดเลก็ ลง Obs.ปวดศีรษะ ตามัว แสบตา สู่ subconjunctival space -กอ่ น แจ้งการผ่าไม่ได้ช่วย ผดิ ปกต)ิ ของลานสายตากอ่ น และไม่ สูงกวา่ 21 มิลลเิ มตรปรอท เคอื งตา) เพ่ือทาใหเ้ กิด filtering มองเห็นดีขน้ึ แต่ป้องกนั -ต้อหนิ ปฐมภมู ิแต่กาเนดิ สามารถแกไ้ ขด้วยแว่นตาได้ ดูข้วั ประสาทตาพบข้วั - sympathomimetic drug - trabeculectomy ประสาทตาถกู ทาลายไมใ่ ห้ (primary congenital -ความดันลูกตาสงู กว่าปกติ ประสาทตาบมุ๋ (epinephrine 0.5-2% หยอดตาทุก 12 - full-thickness fistulal ตาบอด ,อาจตอ้ งนอน รพ. glaucoma) (สูงกว่า 21 มิลลเิ มตรปรอท) LAB hr.ลดการสรา้ งและเพิ่มการไหลออกของ หลายวัน -ตอ้ หนิ แตก่ าเนดิ รว่ มความ -ขว้ั ประสาทตาบุม๋ -ตรวจดมู มุ ตาดว้ ยเครอื่ ง silt นา้ เอเควยี ส Obs. BP HR เพิ่ม ปวด ลดการสรา้ งนา้ เอเควียส -หลงั ช่องม่านตาต่นื , ตอ้ ง ผดิ ปกตอิ นื่ (glaucomatous cupping) lamp พบมมุ ตาเปิดกว้าง ศรี ษะ เเสบตา ใช้นานเกดิ การทาลาย ลดการทางานของซีเลียรี ปิดตาแบบ moderate (developmental ปกตไิ มเ่ กิน0.5 และขวั้ -ตรวจลานสายตาดว้ ยเครื่อง ของกระจกชนั้ endothelium ) โปรเซส ซ่ึงเป็นตัวสรา้ งนา้ pressure ไม่ใหน้ ้าเอเควยี ส glaucoma with ประสาทตาฝ่อ perimeter ลานสายตาแคบ - beta-adrenergic blocking agent เอเควยี สโดยตรง รั่วจากชอ่ งม่านตามากเกินไป associated) -ลานสายตา(visual field) ลง (0.25,0.5% timolol maleate หยอด - cyclocryotherapy ,ไมก่ ระทบกระเทอื นตาที่ปดิ ตอ้ หนิ ทุติยภมู ิ (เกยี่ วข้อง ผดิ ปกติ ตาทุก 12 hr./วันละ1ครั้ง ลดการสร้าง เพ่ือการทาลายเซลล์ซเิ ลียรี ป้องกันติดเช้อื เชด็ ตาขา้ งผา่ ตรงโรคตา โรคในระบบอนื่ นา้ เอเควยี สและทาใหไ้ หลออกไดส้ ะดวก และหยอดตาทกุ วนั ทาใหก้ ารไหลออกนา้ เอเควยี ขึน้ เล็กน้อย Obs HR ช้าลง คลื่นไส้ แสงเลเซอร์ ลดปวดตา ให้ยาแกป้ วด สลดลง เป็นสาเหตคุ วามดัน ทอ้ งเดนิ ) - ทา argon laser การดูแลเมอ่ื กลับบา้ น ลกู ตาสงู ) - carbonic anhydrase inhibitors(ยา trabeculoplasty (ALT) ยิง เชด็ ตาขา้ งผา่ และหยอดตา กิน acetazolamide: Diamox 250 แสงเลเซอร์ไปท่ี trabecular ทุกวัน ,ปิดตาและครอบeye mg.ทกุ 6 hr./500mg วนั ละ2 ครง้ั ลด meshwork ใช้เม่อื ใช้ยา shield ปอ้ งกนั การสรา้ งนา้ เอเควยี ส Obs ชาปลายมือ รักษาควบคุมความดนั ลกู ตา กระทบกระเทอื น, สงั เกต และรอบปาก คลน่ื ไส้ อาเจยี น ทอ้ งเดนิ ไมไ่ ด้ อาการผดิ ปกติ ตาแดง ปวด นา้ หนกั ลด เบ่อื อาหาร ซึมเศร้า) ตา ตามัวลง มาพบแพทย์ - prostaglandin agonists ก่อนนัด (latanoprost: xalatan หยอดตาวันละ 1ครั้ง เพ่ิมการไหลออกของน้าเอเควียส Obs.ตามัว คันตา กลวั แสง) - hyperosmotic agents ใชภ้ าวะ ฉุกเฉนิ (ยากิน glyceral 1-1.5 g/kg,

ชอื่ โรค สาเหตุ ปจั จัยเส่ยี ง อาการและอาการแสดง การวินจิ ฉัย การรักษา เพมิ่ เตมิ การติดเช้อื ของเยอ่ื บุตา -ตดิ เชื้อ bacteria, virus, อักเสบจากแบคทเี รีย ซักประวัติ โรคตา การตดิ เชอื้ mannitol 20% IV in 30 min ดึงน้า และกระจกตา chlamydia -ตาแดง เคืองตา การแพแ้ ละโรคระบบตา่ งๆ ออกจากตาทาให้ความดันตาลด Obs. เย่อื บตุ าอกั เสบ (trachoma),rickettsia , -ขี้ตามาก เป็นหนอง อาการผดิ ปกตทิ ี่มาพบแพทย์ คลนื่ ไส้ อาเจียน ปัสสาวะมาก ปวด Conjunctivitis fungus, parasite -วันแรกๆจะลมื ตาลาบาก ตรวจรา่ งกาย ศรี ษะ ปวดหลงั ท้องเสยี ) -การแพ้หรือโรคทางระบบ มีขี้ตามาก อกั เสบติดเช้ือของเยอ่ื บตุ า อ่นื **เปน็ ตาเดียวและลามไป ตรวจร่างกาย รักษาโดยการหยอดยาและป้ายด้วย -โรคตา อกี ข้างจากการใช้มือสมั ผสั แบคทีเรีย ตาแดง พบขต้ี า ยาปฏชิ วี นะ ทต่ี า แบบเฉยี บพลันหายได้ มาก เป็นหนอง เองภายใน 1-14วัน ถ้า ไวรัส ตาแดง ปวดตาเล็กนอ้ ย การพยาบาล รกั ษาหายใน 1-3วนั นา้ ตาไหล ต่อมนา้ เหลืองหนา้ -ล้างมอื ก่อนสมั ผัสใบหนา้ และตาทุก เกิดเรื้อรัง กระจกตาทะลุ หูโต กดเจ็บ อาจมีหนงั ตา คร้งั อักเสบในลกู ตา** บวม เยอ่ื บุตาบวม -ทาความสะอาดเปลือกตาและขนตา หรือมเี ลือดออกใตเ้ ย่อื บตุ า หยอดยาและปา้ ยดว้ ยยาปฏชิ ีวนะ อกั เสบจากไวรัส -ปา้ ยยาปฏิชวี นะกอ่ นนอน -ตาแดง เคืองตา อาจปวดตา -ต่นื นอนตอนเช้าจะลมื ตาไม่ข้ึน ตอ้ ง เลก็ นอ้ ย นา้ ตาไหล ใช้ผา้ ชบุ นา้ อุน่ ๆประคบและเชด็ ออก -ตอ่ มนา้ เหลืองหนา้ หโู ต กด และหยอดตา เจ็บ อาจพบกระจกตา -เลีย่ งไปในทีท่ ผ่ี คู้ นหนาแน่น อักเสบ -เปน็ เฉยี บพลันอาจมีตาบวม เยื่อบตุ าบวม หรอื มเี ลอื ดออกใตเ้ ย่ือบตุ า ตามัว **เป็นท้ัง2ขา้ ง ไมพ่ รอ้ มกนั ตาท่เี ป็นก่อนรุนแรงกวา่ มี ขตี้ านอ้ ย ไม่เปน็ หนอง**

ช่ือโรค สาเหตุ ปัจจยั เส่ยี ง อาการและอาการแสดง การวินจิ ฉยั การรกั ษา เพมิ่ เตมิ รดิ สดี วงตา trachoma เชอ้ื chlamydia -เยื่อบุตาอักเสบ ซกั ประวัติ การพยาบาล trachomatis -แนะนารักษาสุขภาพอนามยั การอกั เสบของเย่อื บตุ า immunotype A,B,Ba,C -ตาทงั้ สองขา้ งเปน็ แผลเป็นที่ -การรกั ษาสุขอนามัย ความ และความสะอาดสิ่งแวดลอ้ ม มีแผลเปน็ ทเ่ี ย่อื บตุ า เกดิ -กินยารกั ษาตอ่ เนือ่ ง หนังตาม้วนเข้า อาจเกดิ แผล เย่อื บุตา สะอาดสิ่งแวดลอ้ ม น้าใช้ - ยากิน tetracycline 1-1.5 g/day -หยอดตาสมา่ เสมอ ท่กี ระจกตาไดภ้ ายหลัง q.i.d 3-4 wks. , doxycycline 100 -ถา้ มเี ปลือกตาม้วนเข้าต้อง -กระจกตาอกั เสบ -อาการทน่ี ามา รพ. ตาแดง mg b.i.d 3wks. , erythromycin 1 แนะนาผ่าตดั เพราะจะทาให้ g/day q.i.d 3-4 wks. ตาบอดได้ -อาจพบหลอดเลอื ดเขา้ เคืองตา เปลือกตาผิดรปู - ยาหยอดตาหรือยาป้ายตา กระจกตา (pannus) เปลือกตาม้วนเขา้ ข้างใน Sunfonamindes, tetracycline, erythromycin, rifampin q.i.d -เปลือกตาผดิ รูป อาจตา 6wks. บอดได้ ตรวจรา่ งกาย - เปลือกตาม้วนเข้า ผ่าตดั แก้ไข เปลือกตา ปอ้ งกนั การเกิดแผลท่ี -เปลอื กตาม้วนเข้าข้างใน -ตาแดง เคืองตา กระจกตา และขนตาเกเขา้ ไปท่มิ กระจก -พบแผลเป็นที่เยือ่ บุตา -การรักษาชมุ ชน กาจดั แมลงพาหะ ปรบั ปรุงสขุ อนามัย แกป้ ญั หาเรื่องนา้ ตา -อาจพบหลอดเลอื ดเข้า ใช้ ลดการสญู เสยี ของสายตา กระจกตา (pannus) -เปลอื กตาผิดรูป -เปลือกตาม้วนเข้าขา้ งใน และขนตาเกเข้าไปท่มิ กระจก ตา

ช่อื โรค สาเหตุ ปัจจยั เส่ยี ง อาการและอาการแสดง การวนิ ิจฉยั การรกั ษา เพมิ่ เติม แผลทก่ี ระจกตา การตดิ เช้อื -ปวดตา โดยเฉพาะเวลา ซกั ประวัติ การพยาบาล กะพริบตา Corneal ulcer -แบคทีเรีย (staphylococcus -ตาแดงชิดตาดา(ciliary -ประวัติการบาดเจบ็ ลดปวดตา เคอื งตา injection) aureus, pseudomonas -กลัวแสง(photophobia) -มสี ง่ิ แปลกปลอมเข้าตา หรอื -ครอบ eye shield ไมต่ อ้ งปดิ eye ใหย้ าแกป้ วด , ยาหยอดตาบาง -เคอื งตา นา้ ตาไหล การอักเสบติดเชื้อของ aeruginosa, streptococcus) -ระดับการมองเห็นลดลง ถกู ใบไมบ้ าด pad เพราะการปิด eye pad จะทา ชนดิ แสบตามาก อาการแสบ กระจกตา เกิดขน้ึ หลังจากผิว -เชอ้ื รา ( เกิดตามหลงั การ -มขี ต้ี า(discharge) บาดเจบ็ กระจกตาจากพชื -หนงั ตาบวม -มปี ระวัตเิ คยกระจกตาถลอก ให้ discharge สะสมอย่ใู นตา ทาให้ จะหายภายใน 2-3 นาที -ข้ตี าเป็นหนอง กระจกตาถกู ทาลาย เช่น กง่ิ ไม้ ใบไม้ เชอ้ื ทีพ่ บ (mucopurulent หรือกระจกตาอักเสบมากอ่ น เชือ้ โรคเพ่มิ มากขน้ึ ปอ้ งกนั ตดิ เชือ้ discharge) candida, aspergillus) -กระจกตาเปน็ แผล -ประวัตกิ ารใชย้ าสเตอรอยด์ -ใหย้ า cycloplegia เพื่อลดการ แยกเครอ่ื งมอื เครือ่ งใช้, เชด็ -มีหนองในชอ่ งหน้าม่านตา -เช้ือไวรสั (adenovirus, (hypopyon) เป็นประจาเปน็ ปจั จยั เสย่ี งต่อ อักเสบของมา่ นตา ตาและหยอดตาเป็นรายบคุ คล herpes simplex, herpes การตดิ เชือ้ จากแบคทีเรยี -ยาหยอดตาตรงกบั เชอื้ ทเ่ี ป็นสาเหตุ ,ลา้ งมอื ทุกคร้งั กอ่ น-หลงั เช็ดตา zoster) เชื้อรา และไวรสั ได้ เช่น แบคทเี รียใหย้ าปฏชิ ีวนะชนดิ , อยา่ ใหน้ ้าตา ขต้ี า ไหลไปตา -โปรโตซวั (acanthamoeba) -อาชีพเสีย่ งติดเชอ้ื กระจกตา หยอด(topical antibiotics ) หรอื ฉีด ขา้ งดี, เชด็ ตาบ่อยๆ ตรวจรา่ งกาย ใตเ้ ยือ่ บุตา(subconjunctival ) เชอ้ื นอนหลับพอ ภมู แิ พ้ ย้อมดว้ ย fluorescein และ ไวรัส เชอื้ รา ใหย้ าตา้ นเชือ้ ไวรสั ใหย้ าแกป้ วด ,ยานอนหลับ ขาดสารอาหาร ความผดิ ปกตปิ ระสาทสมั ผสั ตรวจดดู ว้ ย slitlamp พบ เชอื้ รา การปฏบิ ตั ติ นเม่อื กลบั บา้ น ความผดิ ปกตขิ องนา้ ตา อบุ ัติเหตุ แผลทก่ี ระจกตาชดั เจน (ผิว -ตดิ เชอื้ รุนแรง หยอดตาทบ่ี า้ นบอ่ ยๆ -เช็ดตาอยา่ งน้อยวนั ละครงั้ , กระจกตาเมือ่ มกี ารหลดุ ออก ไมไ่ ด้ รบั ไว้รักษาใน รพ. ระยะแรก หยอดตาและป้ายยา, ลา้ งมือ จะย้อมตดิ สเี ขียว) หยอดตาตลอด 24 hr. จนกวา่ จะดขี น้ึ กอ่ น-หลงั เช็ดตา หยอดยา , LAB จงึ เปลยี่ นเป็นหยอดตาจนกระทั่งก่อน และครอบ eye shield ขูดกระจกตา(corneal นอน แล้วจงึ ป้ายตาดว้ ยยาปฏชิ วี นะ ตลอดเวลา ,ไม่ใชส้ งิ่ ของปนกับ scraping)นาไปย้อมและเพาะ ชนิดข้ผี ึง้ อ่ืน เชอ้ื -รักษาแผลหายแลว้ ถา้ แผลเปน็ ใหญ่มี -ห้ามล้างหน้า ให้เช็ดแทน, ผลต่อการมองเห็น ผ่าตดั เปลยี่ น อย่าใหน้ ้ากระเดน็ เข้าตาขา้ ง กระจกตา(keratoplasty) แผล -มาตรวจตามนัด ถ้ามีอาการ ตาแดงมาก ปวดตา ขตี้ ามาก มาพบแพทยก์ ่อนนดั -ตดิ เชอื้ อกั เสบรุนแรงมากจนกระจก ตาทะลุ เช้ือโรคกระจายทั่วไปในตา (endophthalmitis)

ชื่อโรค สาเหตุ ปจั จัยเสย่ี ง อาการและอาการแสดง การวินิจฉัย การรักษา เพ่ิมเตมิ หู ear ตดิ เชือ้ Beta hemolytic เฉยี บพลนั ซกั ประวตั ิ อกั เสบลามออกนอกลกู ตา การพยาบาล โรคหูน้าหนวก otitis media ปวดหมู าก ไขส้ ูง เยือ่ บใุ น -การเปลย่ี นแปลงของการได้ (panophthalmitis) ลดการตดิ เช้อื streptococci ,pneumococci ช่องหชู ั้นกลางบวม แนน่ ในหู ยิน รกั ษาดว้ ยการควักตาออก หชู นั้ กลางอักเสบ ,hemophilus influenza หอู ือ้ พบแก้วหโู ป่ง แกว้ หูมี -อาการท่กี าลังเป็นอยู่ เช่น (enucleation) กอ่ นผา่ ประเมินการอกั เสบ V/S เส้นเลือดให้เหน็ การไดย้ ิน ปวดหู หูออ้ื มไี ข้ มนี ้าหรอื CBC ภาพถา่ ยรงั สี โกนผมทา การอกั เสบตดิ เชื้อของหชู ้นั กลาง บริเวณจมกู และคอ เชอ้ื เสยี ไป แก้วหูทะลุ ระเวลาหู หนองไหล สญู เสยี การไดย้ ิน โรคหูน้าหนวกชนิดเฉยี บพลนั ความสะอาดรอบใบหู 1 นิ้ว สระ อกั เสบติดเชอ้ื รวมถึงการอกั เสบ ลกุ ลามผ่านทางทอ่ อักเสบถงึ แก้วหูทะลุ 2-3 วัน อาการทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เช่น เวียน แก้ไขติดเชอ้ื บรรเทาอาการ ใหก้ ินยา ผม ทาความสะอาดใบหู ของเย่ือบชุ อ่ งหูช้นั กลาง และ ยสู เตเชยี นเขา้ สู่หูชั้นกลาง เทา่ นั้น ศีรษะ(vertigo) เสียงดงั ในหู ปฏิชวี นะ ยาแกป้ วด หลังผ่า ยาปฏชิ ีวนะ ไม่สมั ผสั โพรงอากาศในกระดกู มาสตอยด์ เกดิ การอกั เสบ มหี นอง (tinnitus) ปวดศีรษะ แผล ไมใ่ หเ้ ปยี กน้า กลบั บา้ นหลัง เกิดขน้ึ ในหชู ัน้ กลาง เร้ือรงั -สาเหตุ ระยะเวลาทเ่ี ปน็ เจาะแกว้ หูในรายไดร้ ับยาไปแลว้ 48-72 ผา่ 1-2วัน นัดตัดไหมเมอ่ื ครบ ภาวะแทรกซ้อน >3 เดือน มนี ้าหนวกไหล ประวัตกิ ารรักษาท่ีผา่ นมา hr. อาการไม่ดขี ้นึ และแกว้ หโู ป่งมี 1wk. แนะนางดสระผมจนกว่าตัด -cholesteatoma ขยายตวั มาก -เยื่อหุ้มสมองอกั เสบ ฝใี นสมอง ออกจากหูเปน็ ๆหายๆเปน็ น้า ตรวจรา่ งกาย ไหม หา้ มนา้ เขา้ หจู นแกว้ หจู ะตดิ ทาลายกระดูกมาสตอยด์อกั เสบ อักเสบลกุ ลามไปสมอง พบปวด เมือกหรอื หนอง อาจมีเสียง -ตรวจใช้ otoscope พบมนี ้า ของเหลวขังในหูช้ันกลาง หรือปวดหูมาก ดี อาบน้าตอ้ งเอาสาลแี หง้ ใสใ่ น อาจทะลกุ ระดูกมาเปน็ ฝหี ลังหู ศีรษะมาก ปวดขา้ งทเ่ี ปน็ หู ดังในหู เปน็ เสยี งตา่ ๆออ้ื ๆ หรือมหี นองในชอ่ งหู อาจมี (แก้วหทู ี่เจาะจะปิดเอง ระหว่างแกว้ หยู งั ไม่ ชอ่ งหแู ละใชห้ มวกคลมุ ผมใบหู (subperiosteal abscess) นา้ หนวก ออ่ นเพลยี ซมึ คลน่ื ไส้ แกว้ หทู ะลุ การได้ยนิ สูญเสยี กล่นิ เหม็น ชอ่ งหบู วม แดง ปดิ หา้ มให้นา้ เขา้ หู หา้ มแคะหู รักษาโรค ดว้ ย มาตรวจตามนัด ถา้ มีไข้ เป็น รักษา ผา่ ฝเี อาหนองออก ยา อาเจียน ไข้ คอแข็ง เวยี นศีรษะ ไปแบบการนาเสยี งผดิ ปกติ แก้วหทู ะลุ อาจพบ หวัด เจบ็ คอ หรอื โรคการอักเสบของคอและ หวัด ปวดศีรษะ เวียนศีรษะมาก ปฏิชวี นะ รบี ทาmastoidectome เพ้อ ชัก ผา่ ตัดmastoidectomy จมูกให้หาย) ใหม้ าพบแพทย์ทันที ผา่ เข้าทาความสะอาดในกระดกู ทนั ที cholesteatoma หรอื keratoma มาสตอยด์ ปอ้ งกนั ลุกลามเขา้ สู่ -เชื้อโรคจากหอู กั เสบเรอ้ื รงั เข้าสู้ โรคหูน้าหนวกชนิดเรอ้ื รัง ปอ้ งกันเลอื ดออกหลังผา่ ตัด สมอง หลังผ่าการไดย้ นิ ไมด่ ีขึ้นแต่ หลอดเลือดดาเกิดอักเสบรนุ แรง -ตรวจการได้ยินใช้ส้อมเสยี ง ไมใ่ ห้นา้ เข้าหู /ไมใ่ ห้มกี ารตดิ เชอ้ื บรเิ วณคอ ลดอักเสบ Obs. ไขส้ ูง ปวดศรี ษะ ของหลอดเลือดดาบรเิ วณฐาน สามารถบอกชนดิ ของการ จมูก/ มีน้าหนวกไหลรกั ษาใหแ้ หง้ โดยรกั ษา ประเมินแผล ปกติไม่เปิดแผล มาก ประเมนิ อาการทางสมอง ให้ สมอง(lateral sinus thrombosis) สญู เสยี การได้ยนิ ไดค้ รา่ วๆ สาเหตโุ รค/ เป็นหวัดกินยา จนกว่าจะครบ7 วัน ถา้ เลือดออก กนิ อาหารนา้ พอ ถา้ อาเจยี นมาก LAB แอนติฮสี ตามนี และยาลดบวม เปดิ แผล ประเมนิ แผล เปล่ยี นผ้า ไข้สงู ให้สานนา้ ทาง IV -ถ่ายภาพรงั สีกระดูก (decongestant) หรือยาปฏิชวี นะตาม ปดิ แผล เลือดออกไมห่ ยุดรายงาน -หูชน้ั กลางอกั เสบเรื้อรงั ลามถงึ มาสตอยด์และตรวจการไดย้ นิ จาเป็น/ การอกั เสบเป็นหนองหยอดหดู ว้ ย แพทย์ เส้นประสาทเฟเชียลสว่ นทผี่ ่านหู ใช้เคร่ืองตรวจการไดย้ นิ ยาปฏิชีวนะชนดิ หยอด หรือยาปฏชิ ีวนะ ช้ันกลาง ทาใหเ้ ส้นประสาทถกู กด (audiometer) พบการไดย้ นิ ผสมสเตียรอยด์ ลดการอกั เสบบวมเยอ่ื บุ ปอ้ งกันอบุ ตั เิ หตุ เกิดอมั พาตใบหนา้ ปากเบ้ียว เสียแบบการนาเสียงผดิ ปกติ ขณะย้มิ ยงิ ฟนั หลับตาไมส่ นิท ชา (conductve hearing loss) บาง ช่องหู /ถา้ รูทะลุเลก็ ปดิ ไดเ้ องหรอื ไม่ ประเมนิ เวยี นศีรษะ ถ้ามีอาการ หนา้ รกั ษาผ่าตัดแกไ้ ขการกด รายสญู เสียการไดย้ ินแบบ ปดิ ใช้ปะแก้วหดู ้วยกระดาษ(paper ใหร้ ีบแจ้ง Obs.เวียนศรี ษะเป็น เสน้ ประสาทเฟเชียล(facial nerve รนุ แรง ระยะ decompression) ยาปฏิชวี นะ patch)ที่ปา้ ยยาปฏิชวี นะชนดิ ข้ผี ึง้ หา้ มส่งั -หนู า้ หนวกเรื้อรังลามเข้าหูชัน้ นา้ มูกแรง หา้ มนา้ เขา้ หู / แนะนาการปฏิบัติตัว ในทางหน้าตา่ งรปู ไข่ หูชั้นใน อักเสบ(labyrinthitis) มีเวยี น รูทะลใุ หญ่ ผา่ ตดั ผา่ ตัดปะแกว้ หูจะช่วย ห้ามน้าเขา้ หูหรือหูเปยี ก, ไมแ่ คะ ศีรษะ คลนื่ ไส้ อาเจียน หอู ้ือ มี หหู รอื ป่ันหู ,กินยาและหยอดยา, เสียงรบกวนในหู สูญเสียการได้ ลดการอกั เสบ ชว่ ยใหก้ ารได้ยินดขี ้นึ อธิบายสง่ิ ทจ่ี ะเกดิ หลังผ่าตัด หู -ผา่ ตัดตกแต่งแกว้ หูหรือปะแกว้ หู ออื้ จะดขี ้ึนเม่ืออักเสบลด หลังผ่า (myringoplasty) หูอือ้ มากขึ้นเนอื่ งจากมีกอ้ นสาลี -การตกแต่งหชู ้ันกลาง รวมถึงผา่ ตดั ปะแกว้ หแู ละตกแต่งกระดกู หู(tympanoplasty) -ผา่ ตัดกระดูกมาสตอยด์(mastoidectomy) -ผ่าตดั กระดกู มาสตอยด์ ปะแก้วหรู ว่ มกบั การตกแตง่ กระดูกหู

ชื่อโรค สาเหตุ ปจั จยั เส่ยี ง อาการและอาการแสดง การวินจิ ฉัย การรกั ษา เพิ่มเติม ยนิ ชนิดประสาทหูเสอื่ ม รกั ษายา รักษา mastoiddectomy ยา เสยี งดังในหู มคี วามผดิ ปกติ ซกั ประวัต เสยี งดังมาก, ประวตั ิ (tympano-mastoidectomy) ในหูจะหายเมื่อเอาสาลีออก ปฏิชีวนะและผ่าตัดmastoidectomy ปฏิชวี นะ ในการพดู -ผ่าตัดลดการกดเสน้ ประสาทเฟเชยี ล ประมาณ 2wks.หลังผา่ ตัด ใชย้ ากลมุ่ Aminoglycoside, (facial nerve decompression) Hearing loss ชนดิ การนาเสียงบกพรอ่ ง salicylate, diuretics และยา ถา้ มีประสาทหูเสื่อมข้างเดยี ว สูญเสียการได้ยิน (conductive hearing loss) รกั ษาโรคมะเร็ง -ใช้เครอื่ งช่วยฟงั หรือไมเ่ ท่ากัน,ประสาทหูเสือ่ มมาก (การไดย้ นิ ปกตมิ คี า่ เฉลย่ี ไม่ โรคของหชู ้นั นอก ข้ีหูอดุ ตัน (cisplatin),ประวตั ิตดิ เชอ้ื ในหู -ฝึกพดู ขึน้ เรอ่ื ยๆ,ตรวจการไดย้ นิ มีคะแนน เกิน25 เดซเิ บล ในความถ่ี (impacted cerumen),ช่องหู ชั้นใน ในนา้ ไขสนั หลัง หชู ้นั กลาง , -Stapedctomy การผ่าตดั เปลี่ยน แยกเสียงคาพูดต่าผิดปกต,ิ เสียง ประมาณ 500-2000 Hertz) ช้ันนอกอกั เสบ (otitis สญู เสยี การไดย้ นิ เปน็ ๆหายๆ+ หู กระดกู โกลนเพ่ือใหก้ ารไดย้ นิ ดีข้นึ รบกวนดังในหูข้างเดยี ว ,ผดิ ปกติ externa),เนอื้ งอกในชอ่ งหู: อื้อ เสยี งรบกวนในหู เวยี นหวั บา้ น ของระบบประสาท osteoma, exostosis, หมนุ ,อุบัติเหตุศรี ษะ ,โรค ***ทาผา่ ตัดตกแตง่ กระดูกหู สง่ ตรวจเพ่ิมเพ่ือแยกวา่ เป็น squamous cell carcinoma, ประจาตัว CVA,coagulopathy, (Stapedectomy)หลังทาผ่าตัด sensorineural hearing loss จาก ชอ่ งหชู นั้ นอกตีบหรอื ตันแต่ hematologic anomalies แนะนาห้ามไอหรือจามแรงๆ cochlear lesion หรือ กาเนิด: congenital aural หลกี เลีย่ งการไดร้ ับเสยี งที่ดงั มากๆ ใน retrocochlear lesion stenosis/atresia ตรวจร่างกาย รายทไ่ี มไ่ ดท้ าผ่าตดั จะใชเ้ ครื่องช่วยฟัง โรคของเย่ือแก้วหูและหชู นั้ ช่วย**** ตรวจช่วยแยกวา่ เปน็ กลาง หูชั้นกลางอกั เสบ สูญเสียการได้ยินทคี่ วามถ่ี retrocochlear lesion (otitis media),เยอ่ื แกว้ หูทะลุ 4,000–6,000 Hertz -uditory brainstem evoked (tympanic membrane -พบผดิ ปกติใบหู ชอ่ งหชู ้นั นอก response (ABER, ABR) หาพยาธิ perforation),ความผิดปกติ เยอ่ื แกว้ หู หูช้นั กลาง สภาพบริเวณเสน้ ประสาทและกา้ น ของกระดกู หู : ossicular conductive hearing loss สมอง chain fixation, ossicular -ตรวจotoscope แยกว่าเปน็ -ตรวจ MRI chain disruption, conductive หรือ sensorineural หาสาเหตุสญู เสยี การได้ยินแบบ otosclerosis, congenital hearing loss โดย Tuning fork ossicular chain test /ตรวจ audiometry ประสาทหเู สอ่ื ม malformation, เน้ืองอกในหู -tuning fork และ audiometry ชัน้ กลาง: glomus tumor เขา้ ไดก้ ับ conductive hearing ₋หาสาเหตุของ sensorineural ชนิดประสาทรบั ฟังเสยี ง loss สง่ ตรวจการทางานของหชู ั้น hearing loss ได้แก่ VDRL, FTA- บกพรอ่ ง (sensorineural กลาง/CT scan กระดกู ABS, ESR, ไขมันในเลอื ด, น้าตาลใน hearing loss) เปน็ มาแต่ temporal bone หาสาเหตุความ เลอื ด, การทางานของไต ธยั รอยด์ กาเนดิ ,ตดิ เช้อื เชน่ ไวรัส ผิดปกตใิ นหชู น้ั กลาง ฮอร์โมน แบคทเี รีย ซฟิ ิลิส, ได้ยินเสยี งท่ี -ตรวจ tuning fork และ ดังเฉยี บพลัน/> 90 เดซเิ บล audiometry เขา้ ไดก้ บั ₋ตรวจทางพนั ธกุ รรมเพี่อหาสาเหตุ เวลานาน, ได้รับยาเป็นพษิ ตอ่ หู sensorineural hearing loss ของ congenital hearing loss ชั้นใน ,โรคน้าในหูไมเ่ ทา่ กนั แยกตาแหน่งของพยาธสิ ภาพอยูท่ ่ี เช่น connexin 26 mutation cochlea/ หลงั ต่อcochlea ₋หาความผดิ ปกตขิ องหชู น้ั ในแต่ กาเนดิ ด้วย CT temporal bone

ชื่อโรค สาเหตุ ปัจจยั เสย่ี ง อาการและอาการแสดง การวนิ ิจฉยั การรักษา เพ่มิ เตมิ Tympanic membrane (Meniere’s disease) ,เนือ้ หลงั บาดเจบ็ ปวดหูทนั ที ซักประวตั ิ สิง่ แปลกปลอมในหู, หายเองภายในไม่กส่ี ปั ดาห/์ 3 เดอื น Myringoplasty ผา่ ตัดปะแก้วหูที่ perforation งอกในสมอง แกว้ หมู รี อยทะลเุ ป็นแฉก -ไมใ่ หน้ ้าเข้าหู อาบน้าอุดหูด้วยสาลีชุบ แกไ้ ขความผิดปกติเฉพาะบริเวณ เยื่อแก้วหูทะลุ รอยช้า คาบเลือด, เสยี งดงั มากอย่างฉบั พลนั , วาสลีน/ปิโตรเลียมเจลลี่ ใช้หมวกอาบน้า แกว้ หู -การตดิ เชือ้ ในหชู ้นั กลาง มีของเหลวไหลออกมาจาก บาดเจบ็ ที่ศีรษะ,บาดเจบ็ จาก คลุมผมปิดให้ถงึ รูหู Tympanoplasty ผา่ ตัดปะแกว้ Mastoiditis (Otitis Media) ชอ่ งหูลักษณะเปน็ นา้ ใส ๆ แรงกระแทก แรงดนั ,อุบัตเิ หตุ -หลกี เลีย่ งการใช้ยาหยอดหู หู แกไ้ ขความผิดปกติที่แก้วหู โพรงกระดูกมาสตอยด์ -การบาดเจบ็ จากแรง เป็นหนอง หรือมเี ลือดปน, -ปวดใหP้ aracetamol/Ibuprofen รวมถึงการผ่าตัดอ่ืนในหชู ้ันกลาง กระแทก แรงดนั ไดย้ ินเสยี งดังในหู หอู ื้อ,ได้ LAB -การติดเช้ือในหชู ั้นกลางจะรักษาด้วย เช่น กระดูกหู อักเสบ (Barotrauma) อุบตั ิเหตุ ยินลดลงหรือสญู เสียการได้ -เกบ็ ของเหลวทไี่ หลจากหูส่ง การใชย้ าปฏิชีวนะชนดิ เม็ด -เสียงดงั มากอยา่ งฉบั พลัน ยนิ บางสว่ น, เหมือนมลี ม ตรวจ/เพาะเชอื้ ดตู ิดเชอื้ -หา้ มวา่ ยน้าหรือขับรถ การไดย้ ินเสียงดังจากวตั ถุ ออกจากหเู มื่อมีการเบง่ เชน่ แบคทีเรียท่ีเกดิ ขึน้ ภายในหู -ปกป้องหไู ม่ให้สมั ผัสอากาศเย็น ระเบดิ เสยี งปนื เสยี งเพลง การส่ังน้ามกู เนอื่ งมาจาก -ตรวจการทางานของหชู นั้ -หลีกเล่ยี งการสั่งน้ามกู แรงๆ หรอื เสยี งในรูปแบบอืน่ ทดี่ ัง แรงดันในหชู น้ั กลางทเี่ พ่ิมขนึ้ กลาง (Tympanometry) ดู ฉีกขาดท่แี ก้วหไู มด่ ขี น้ึ /แผลไม่ปดิ เอง มากในระยะเวลาสน้ั ,ไข้ขนึ้ สงู ,อาการรนุ แรงอาจ การตอบสนองของเสยี ง -สิ่งแปลกปลอมในหู ล้วง ทาใหใ้ บหน้าเบี้ยว มึนหัว -ตรวจการไดย้ นิ ส้อมเสียง - >6 เดอื น ผา่ ตัดปะแก้วหู แคะ หรอื แหยส่ ่งิ ของขนาด คลื่นไส้ อาเจยี น สูญเสียได้ยนิ ส่วนที่รับ Myringoplasty/Tympanoplasty เล็กเขา้ ไปในช่องหู แรงสัน่ สะเทอื นแก้วหูและหู -การบาดเจบ็ ทศ่ี รี ษะอยา่ ง เสยี งดังในหู บวม ปวด การ ช้นั ใน หรือความเสยี หาย การปลูกเยื่อแก้วหู (Eardrum Patch) รนุ แรง ไดย้ ินลดลง มีไข้ ประสาทหู เส้นประสาท อาจ ใชส้ ารเคมจี ขี้ อบรอยฉีกขาดบนแกว้ หู เกดิ ได้ 2 ส่วน หากผลตรวจ กระต้นุ ใหเ้ นอ้ื เย่ือแก้วหูงอกข้ึนมาใหม่ หูช้นั กลางอักเสบ ไมช่ ดั เจน อาจตรวจ จึงปะดว้ ยกระดาษท่ีรอยฉีกขาด ตอ้ ง แพรก่ ระจายเข้าไปในโพรง เคร่ืองตรวจการไดย้ ิน ทาซ้าอกี หลายครง้ั จนกว่าแก้วหปู ิดสนิท กระดกู มาสตอยดจ์ นเกดิ (Audiology Exam) โดยวัด ผา่ ตดั ปะแก้วหู (Tympanoplastyกรณี อาการอักเสบ ความสามารถในการฟังของ แก้วหปู ิดเองไม่ได้ ปลูกเย่อื แกว้ หูไม่ไดผ้ ล ผปู้ ่วยจากระดับความดังและ รอยฉกี ใหญ่ รอยจากติดเชอื้ แนะผ่าตัด ความถขี่ องเสียงท่ีแตกตา่ งกัน นาเนอ้ื เยอ่ื สว่ นอน่ื ที่ใกล้เคยี งกบั เนือ้ เย่ือ แกว้ หมู าปิดแกว้ หทู ะลุทดแทน ซกั ประวัติ ไข้สูงกบั ปวด กระดูกมาสตอยด์หลังหู -ATB ปวดศีรษะ หลังหบู วม ตรวจรา่ งกาย บวมแดง หรอื -นาของเหลวที่คัง่ อยอู่ อกมาดว้ ยการ กดเจ็บทหี่ ลงั หู มหี นอง ผ่าตดั เจาะแกว้ หู (Myringotomy) เจาะ ออกมาจากหู อาจสญู เสยี การ ไดย้ ิน

ชื่อโรค สาเหตุ ปจั จัยเส่ียง อาการและอาการแสดง การวินิจฉัย การรักษา เพิม่ เติม Meniere’s disease ตือ้ ในหู การไดย้ นิ ลดลง ซักประวตั ิ แกว้ หูเป็นรูเล็กสอดทอ่ ให้ของเหลวในหู แบง่ ระยะโรคเวียนศรี ษะ (vertigo) เวยี นศรี ษะ ประวัตกิ ารเจ็บป่วยโรคทางหู ไหลออก อาการเร้อื รงั อาจสอดท่อไว้ ตามความรุนแรงและระยะเวลา ภมู แิ พ้ อุบตั ิทศี่ ีรษะ ตดิ เช้ือ จนกว่าอาการจะหายสนิท อาจใชเ้ วลา โรคมเี นียหรอื โรคเวยี นศรี ษะ -ภมู แิ พ้ ไวรัส 6-18 เดอื น (อาจสง่ ผลเกดิ การอักเสบ ระยะที่1 เวยี นศรี ษะบ้านหมุน -ความไม่สมดลุ ของนา้ /เกลือแร่ ตรวจรา่ งกาย ระบบการทรง หรอื แผลเปน็ ) อาเจียนเปน็ อาการเดน่ เวยี น คาแนะนา -ตดิ เชือ้ ไวรสั ตัว ระบบประสาท และการ ศรี ษะอาจนานเป็น ชม.ถงึ เป็น งดสูบบหุ ร่ี งดแอลกอฮอล,์ -โรคของหลอดเลอื ดในหู ทางานของหู ผ่าตัด Endolymphatic shunt หรอื วนั การทางานของหจู ะปกติ นอนหลบั พอ, กนิ ครบหมู่ -กรรมพนั ธุ์ -การไดย้ นิ ได้ยนิ ไมด่ ีเปน็ ชนิด decompression ผ่าตัดระบายนา้ การวินิจฉัยจะต้องอาศัย และถกู ต้อง, ออกกาลังกาย sensory Endolymph ทีห่ สู ่วนใน ประวตั ิเรือ่ งเสยี งดังในหู และ สม่าเสมอ,เลย่ี งทางาน -อุบัตทิ ี่ศีรษะ - caloric testing ข้อดี ควบคุมเวียนศรี ษะได้พรอ้ มๆกับ การไดย้ นิ ลดลง ตดิ ตอ่ กนั นานเกิน /ออก -เกดิ จากการเสอื่ มของเซลล์ - x-ray computer รักษาระดับการได้ยินได้ดดี ่งั เดิม ข้อเสยี ระยะที่2 เป็นระยะทว่ี ินิจฉยั ได้ กาลงั กายทห่ี กั โหม,ลด ทาให้ปริมาณน้า endolymph มี LAB มโี อกาสเกดิ อาการโรคขึ้นใหม่ไดอ้ ีกใน เพราะจะมีอาการครบ ความเครยี ด มากข้นึ และสว่ นประกอบของน้า -เจาะเลอื ด CBC,Cr ,LFT สง่ ระยะตอ่ มา -เวียนศีรษะบา้ นหมนุ endolymph ผิดไปทาให้ ตรวจคอมพิวเตอร์ CT, MRI ฉดี ยาผา่ นเยื่อแกว้ หเู ขา้ ไปทาลายการทางาน -มีเสยี งดงั ในหู labyrinth มกี ารโป่ง ถา้ สงสยั ว่ามเี นื้องอก ของอวยั วะทรงตัวในหสู ว่ นใน ทาง่าย -รูส้ ึกแนห่ รือปวดในหู ควบคุมอาการเวียนศรี ษะได้ดี ขอ้ เสีย -ผิดปกติเกยี่ วกับการไดย้ นิ อาจพบการไดย้ ินเส่อื มจากระดับเดมิ ระยะท3ี่ การผา่ ตดั Labyrinthectomy ทาลาย -มเี สียงในหแู ตไ่ มร่ นุ แรง อวัยวะหสู ว่ นในท้ังหมด ทั้งอวยั วะทรงตวั -ได้ยนิ ลดลงจนไมส่ ามารถได้ และการได้ยิน ควบคมุ เวยี นศีรษะได้ดี ยินคาพดู มาก ข้อเสีย ระดับการได้ยนิ จะถูก -เวียนศีรษะจะลดลงทง้ั ความ ทาลายไป ใชใ้ นรายการได้ยินของหขู ้าง รุนแรงและความถ่ี คลนื่ ไส้ น้นั สูญเสียไปแล้วเท่าน้ัน อาเจียนลดลง ผา่ ตดั เส้นประสาทสมองท่ี 8 สว่ นที่ควบคุม การทรงตัว (Vestibularneurectomy) **ลดอาการเวยี นศีรษะ ไดผ้ ลดมี ากควบคมุ อาการและรกั ษา Vestibular suppressants ระดับการไดย้ ินไวไ้ ด้ดง่ั เดิม ขอ้ เสยี ยาขบั ปัสสาวะ ควบคุมระดบั ค่อนข้างย่งุ ยาก ต้องผา่ ตดั สมองจงึ นยิ ม นา้ ในหู** นอ้ ย อาหาร งดเค็ม ลดเกลือ เลย่ี งผงชรู สแอ ลกอฮอลล์ กาแฟ เพราะจะทาใหเ้ ส้น เลือดตีบจะเกดิ เสียงในหู ยา ยาขับปสั สาวะ เพื่อลดน้าในรา่ งกาย

ชือ่ โรค สาเหตุ ปจั จัยเสีย่ ง อาการและอาการแสดง การวินิจฉยั การรกั ษา เพ่ิมเติม คอ ไวรสั ไวรสั ซกั ประวตั ิ ยาแก้คลื่นไสอ้ าเจยี น -เจบ็ คอ/มไี ข้ กนิ ยาแกป้ วดลดไข้ การอักเสบต่อมทอนซิล -ไรโนไวรสั (Rhinoviruses) ทา เจ็บคอเล็กน้อยถึงปานกลาง -เจบ็ คอ จะเจบ็ มากบรเิ วณ -พกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ ให้เกิดโรคหวัดทัว่ ไป อาจมอี าการเป็นหวดั น้ามูก ด้านขา้ งของช่องปากทั้งสอง dimenhydrinate scopolamine -ดมื่ นา้ มากๆ ให้คอชมุ่ ชืน้ tonsillitis -ไวรสั อนิ ฟลเู อนซา ใส ไอ เสียงแหบ มีไข้ ขา้ ง โดยเจบ็ > 48 ชว่ั โมง ,cyclicine -กนิ อาหารออ่ นๆ เช่น โจ๊ก ข้าวตม้ (Influenza) สาเหตขุ องไขห้ วดั ปวดศีรษะเลก็ นอ้ ย หาก -กลืนลาบาก กลนื แลว้ เจ็บ ยาทกี่ ด Vestibular sedatives เช่น และดื่มเครอ่ื งดืม่ ท่ชี ว่ ยใหส้ บายคอ ต่อมทอนซลิ ใหญ่ ตรวจดทู ่คี อจะพบผนงั คอ -เสียงแหบหรือเสยี งเปลย่ี น เชน่ นา้ อนุ่ ชาทปี่ ราศจากคาเฟอีน ทางานเกี่ยวขอ้ งกบั ระบบ -ไวรัสพาราอนิ ฟลูเอนซา หอยแดงเลก็ น้อย ต่อม -มกี ลน่ิ ปาก diazepam นา้ อุ่นผสมนา้ ผึ้ง ไอศกรีมแท่ง ภูมิคุม้ กนั มเี ม็ดเลือดขาวอยู่ (Parainfluenza) ทาใหเ้ กดิ โรค ทอนซิลโตเลก็ น้อย/ไม่ -คอแข็ง ยาขยายหลอดเลอื ดสมอง เช่น -กลั้วปากดว้ ยน้าเกลือ ใชเ้ กลือ 1 ภายในตอ่ มหลายชนดิ กลอ่ งเสยี งอักเสบและกลุ่ม ชัดเจน -อาจจะอาเจยี นหลงั กนิ ช้อนชาผสมน้าเปล่าประมาณ 250 หน้าที่หลักป้องกันเชือ้ โรค อาการครู้ป อาหาร cinnarizine ,Betahistine ml. กลว้ั ลาคอแลว้ บว้ นทงิ้ จะชว่ ย ไมใ่ ห้เข้าสรู่ า่ งกายผ่าน -ไวรัสเอนเทอร์โร เช้ือแบคทีเรีย -อยใู่ กลช้ ดิ ไอ จามรด ใชข้ อง บรรเทาอาการเจ็บคอ ทางเดนิ อาหารได้ หนา้ ทร่ี อง (Enteroviruses) เหตขุ องโรค ทอนซิลอกั เสบชนดิ เป็น ใชร้ ่วมกบั ผูป้ ว่ ย ไวรัส -หลีกเลี่ยงอากาศแห้งเน่ืองจากจะ สร้างภมู ิคุ้มกันใหท้ างเดนิ มอื เทา้ ปาก หนองเกดิ จากเชือ้ แบคทเี รยี ตรวจรา่ งกาย หายไดภ้ ายใน 7-10 วัน ไม่จาเปน็ ต้อง สง่ ผลให้ระคายเคอื งท่ีคอและเจบ็ คอ อาหาร และทางเดนิ หายใจ -ไวรสั รูบิโอลา (Rubeola) ทา ไขข้ ึน้ สงู เฉียบพลนั หนาว -ใช้ไฟฉายส่องดูลาคอ หู จมูก ใช้ยาปฏิชวี นะ แต่ดขี ึ้นได้ด้วยการดูแล ยิง่ ขน้ึ ให้เกิดโรคหัด สน่ั ปวดเมอ่ื ยตามตัว ร่วมดว้ ย ต่อมทอนซิลบวม รกั ษาตวั เอง -หลกี เลย่ี งสารที่กอ่ ความระคาย -ไวรสั อะดโี น (Adenovirus) อ่อนเพลีย เบอื่ อาหาร เจบ็ และแดง/มชี ัน้ บาง หรือจุดสี เคืองทค่ี อ เชน่ ควันบุหรี่ และ สาเหตุอาการท้องเสยี คอมาก จนกลืนน้าลายหรือ ขาวหรือสเี หลอื งปกคลมุ บน แบคทีเรยี ผลติ ภณั ฑ์ทาความสะอาดทัง้ หลาย -ไวรัสเอบ็ สไตนบ์ าร์ อาหารลาบาก อาจจะมี ตอ่ มทอนซิล/มจี ดุ หนองท่ี ยาปฏชิ ีวนะ ยากลมุ่ เพนซิ ลิ ลิน -อยา่ อยใู่ กลช้ ิดผู้ปว่ ยและอยา่ ให้ไอ (Epstein-Barr) กอ่ ให้เกิดโรค อาการปวดร้าวขน้ึ ไปทีห่ ู ไม่ ตอ่ มทอลซลิ (Penicillin) /ยาอริ โิ ธรมัยซิน หรือจามรด อย่าใช้ของใช้ร่วมกับ โมโนนวิ คลโี อซสิ มนี า้ มกู ไหล ไอ ตรวจ -คลาพบต่อมน้าเหลอื งโตกด (Erythromycin) กิน 7-10 วนั ผปู้ ว่ ย หมั่นลา้ งมอื เพอื่ ร่างกายจะพบผนงั คอหอย เจบ็ การผา่ ตดั ตอ่ มทอนซลิ ชะล้างเชอื้ ท่ีอาจติดมากับมอื ท่ีไป แบคทเี รยี และเพดานอ่อนมลี ักษณะ -ตรวจดผู ื่นแดงท่เี ป็นอาการ (tonsillectomy) ผา่ ตัดเอาต่อม สัมผสั ถูกส่ิงของทแ่ี ปดเปอ้ื นของ เช้ือสเต็ปโตคอคคสั กลมุ่ เอ แดงจัดและบวม อาจตรวจ ของโรคไข้อีดาอแี ดงซึ่งเกดิ ทอนซลิ ออกเป็นวธิ รี ักษาทอนซิล ผปู้ ว่ ย พบตอ่ มน้าเหลอื งทีใ่ ต้ จากเช้ือแบคทีเรียตวั เดยี วกับ อักเสบซา้ หลายครัง้ ทอนซิลอักเสบ (Group A Streptococcus) ขากรรไกรบวมโตและเจบ็ กับโรคคออักเสบ เรอื้ รงั ,ทอนซลิ อกั เสบจากเช้ือ มาก -สง่ ตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการ แบคทเี รยี ท่ไี ม่ตอบสนองตอ่ ยา สังเกต -กินอาหารหรือดม่ื น้าจาก เพ่อื ดูชนดิ ของเชือ้ โรค ไดจ้ าก ภาชนะเดยี วกันกบั ผตู้ ดิ เช้อื -CBC ตรวจนับเซลลเ์ ม็ดเลือด *ทอนซิลอกั เสบ>7 ครัง้ ในรอบ1ปี ชนดิ ต่างๆบง่ บอกว่าตดิ เชอื้ *ทอนซลิ อักเสบ>4-5 คร้ังในรอบ1ปี ไวรสั หรือแบคทีเรยี เป็นระยะเวลา 2 ปีทีผ่ ่านมา *ทอนซิลอกั เสบ> 3 คร้ังในรอบ1ปี เป็นระยะเวลา 3 ปีทีผ่ ่านมา และใชก้ ารผา่ ตดั กรณตี ่อมทอนซลิ อกั เสบเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากจะ รักษา เช่น -ภาวะหยุดหายใจขณะหลบั -หายใจลาบาก -กลืนลาบาก เมอ่ื กลืนเนอ้ื

ช่อื โรค สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง อาการและอาการแสดง การวนิ ิจฉยั การรักษา เพิม่ เตมิ ตมุ่ เน้ือทีส่ ายเสยี ง -การระคายเคอื งเนอ่ื งจาก -เสยี งแหบ อาจเป็นมากจน หรืออาหารชิ้นหนาๆ การดแู ลตนเอง Vocal nodule การใช้เสยี งดงั นานๆ หรอื ใช้ ไมม่ เี สยี ง -ฝที ่ีใชย้ าปฏชิ วี นะแล้วยงั ไมด่ ีข้ึน -พกั ใชเ้ สียง พูดเท่าทจ่ี าเป็น เสียงไมถ่ ูกวธิ ี เช่น ตะโกน -สายเสยี งบวมและอกั เสบ สือ่ สารดว้ ยการเขียน สายเสยี งอกั เสบเฉยี บพลัน ตะเบง็ เสียงพูด ร้องเพลง อาจเห็นเปน็ ตมุ่ แดง ตอ่ มา มปี ระวตั ิ เสียงแหบแบบ -ใหด้ ืม่ น้ามากๆ เพือ่ ปอ้ งกัน เป็นชั่วคราว (ไม่เกนิ 3 เสียงดัง ไอเรือ้ รงั สายเสียงจะมตี มุ่ สีขาวทัง้ คอแหง้ และชว่ ยละลายเสมหะ สัปดาห์) ดขี น้ึ หลงั รกั ษา -พบในบุคคลทต่ี ้องใชเ้ สยี ง สองข้าง ตมุ่ อาจมขี นาดเลก็ เป็นๆ หายๆ จะสมั พันธ์กบั -ใช้ยาลดอาการบวมของสาย สาเหตุ เชน่ ครู นกั รอ้ ง พ่อคา้ แมค่ ้า หรือใหญก่ ็ได้ หากตมุ่ เล็กไม่ เสยี ง สายเสยี งอกั เสบเร้ือรัง -การสบู บหุ รี่ ดม่ื สุราจดั มอี าการ ตมุ่ ใหญ่ขัดขวางทา การใช้เสยี ง และอาการจะ -หลีกเลยี่ งฝุ่น ควนั ไฟ ควนั อาการเกิน 3 สัปดาห์ เปน็ ๆ -มีกรดในกระเพาะไหลย้อน ให้สายเสยี งไมช่ ิดกนั ขณะ บหุ รี่ และงดการสูบบุหรซ่ี ึ่งเป็น หายๆ ขน้ึ อยกู่ ับสาเหตุ ขน้ึ มา ทาใหม้ กี ารบวมของ ออกเสียง ทาให้เสยี งแหบ เปน็ มากขน้ึ เร่ือยๆ ในระยะ สาเหตทุ าให้ไอและไมไ่ ดพ้ ัก สายเสียงชั้นนอกสุด เสยี ง -พบได้ในผูท้ เี่ ปน็ ไข้หวัด เจ็บ หลัง โดยผู้ปว่ ยจะร้สู ึกเหน่อื ย -หลกี เลยี่ งการเขา้ ไปอยใู่ นท่ี คอ ไอ ชมุ ชน เพราะอาจเส่ียงเกดิ การ เมื่อต้องพดู เปน็ เวลานาน -แนะนาให้พักการใชเ้ สียง เพือ่ ช่วยให้ ติดเช้ือทางเดนิ หายใจ ซ่ึงจะทา ใหไ้ อมากขน้ึ และจะทาให้ สายเสียงได้พกั และอาการบวมลดลง เหนอ่ื ยมาก -ปรบั การพดู ฝึกพดู กบั นัก การตรวจวนิ จิ ฉยั ใชก้ ระจก -ใหย้ าสเตยี รอยด์ ลดการบวมของ แก้ไขการพูด เพ่อื ให้ออกเสยี ง ได้ถกู วธิ ี เลก็ ๆ ส่องผา่ นเข้าไปในปาก สายเสยี ง เพ่ือตรวจดลู กั ษณะของสาย -ต้องผา่ ตดั นาตุม่ เนอ้ื ออก หากตมุ่ ไม่ เสียง หรือดตู มุ่ ทสี่ ายเสียง ซงึ่ ยุบหรอื ยงั มีเสยี งแหบอยู่ สงั เกตได้จากการพบตมุ่ ทสี่ าย **ปัจจบุ ันนิยมตดั ออกโดยใช้ เสียงทงั้ 2 ขา้ งซา้ ยขวาตรงกัน เลเซอร์** ทร่ี ะดบั 1/3 ของสายเสยี ง หลังผ่าตัดต้องพกั เสยี ง 1 สว่ นหน้า หรืออาจตรวจพบว่า สปั ดาห์ ในระหว่างนต้ี อ้ งตดิ ต่อกับ สายเสยี งบวม แตไ่ มม่ ีอาการ ผอู้ น่ื โดยใช้วธิ เี ขยี นแทน และหลังจาก ปวด แผลหายแล้วจะต้องฝกึ การออกเสยี ง ใหม่

ชอ่ื โรค สาเหตุ ปัจจยั เสีย่ ง อาการและอาการแสดง การวนิ ิจฉัย การรกั ษา เพม่ิ เตมิ มะเรง็ ของชอ่ งปาก -ในชอ่ งปาก รอยสีขาวคลา้ ย -ตัดชน้ิ เน้ือเพียงบางส่วนแบบ Oral Cancer กามะหยี่ แดง หรือรอยดา่ งสี Incision Biopsy ตัดชนิ้ เนอ้ื เลก็ ๆ แดงขาว -การสูบบุหรี่ -รมิ ฝีปาก เหงือก ส่วนอ่นื ๆ อาจเยบ็ ปิดแผลดว้ ยไหมละลาย รังสีรกั ษา ทาให้ฟันติดเชอ้ื งา่ ย ตรวจ -การบริโภคยาสบู ผา่ นการ ในชอ่ งปาก บวม มตี ุ่ม ก้อน แบบPunch Biopsyตดั ชิน้ เนอ้ื ท่ี สขุ ภาพฟันกอ่ นการรกั ษา การสูบบุหรี่/ดม่ื เคีย้ ว การสดู ดม หรือการจมุ่ เนอื้ มีแผลเกดิ ขน้ึ เล็กกว่าไม่ตอ้ งเย็บปดิ แผล อาจกอ่ ให้เกิดการพฒั นา -เลอื ดไหลในช่องปากไม่ -หัตถการเจาะดดู ด้วยเขม็ เลก็ แอลกอฮอล์ลดประสิทธิภาพรักษาควรหยดุ เซลลม์ ะเรง็ ทเี่ หงือก แก้ม ทราบสาเหตุ สูบบหุ ร่ี แอลกอฮอล์ หรือริมฝปี าก -สึกวา่ มีบางสิ่งบางอย่างตดิ (FNAC) เม่อื บวมโตของลาคอ ทา ผ่าตดั เอาก้อนเนอ้ื รา้ ยออก ผา่ เอาก้อน -ในครอบครวั มปี ระวตั ิ อยู่ภายในลาคอ พรอ้ มอลั ตราซาวด์ทลี่ าคอ ใชเ้ ข็ม เน้ือและเซลลเ์ นอ้ื เยอื่ โดยรอบออก สมาชกิ ทเี่ คยเป็นมะเรง็ มา -ใบหนา้ ปาก ลาคอ ด้านชา เล็กมากดงึ เอาตวั อย่างเซลล์/ ผ่าตัดเอากอ้ นเน้อื รา้ ยออกร่วมกับต่อม ก่อน ไร้ความรสู้ กึ เจ็บปวดไม่ ของเหลวออกจากกอ้ นเนือ้ หา นา้ เหลืองทคี่ อ หากมีโอกาสเซลล์มะเรง็ -ดมื่ แอลกอฮอล์มาก ทราบสาเหตุ มีเลอื ดออกงา่ ย เซลลม์ ะเร็ง แพร่ไปสู่ตอ่ มน้าเหลอื งในลาคอ ผ่าตัด -การไดร้ ับแสงอาทติ ยม์ าก ในชอ่ งปาก อาการไมห่ าย -กล้องส่องตรวจในโพรงจมกู เอาต่อมน้าเหลืองบรเิ วณคอออกไปด้วย จนเกนิ ไป โดยเฉพาะในวยั ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมตกแต่งชอ่ งปาก เด็ก -เกิดการเปลี่ยนแปลงของตวั (Nasendoscopy) เซลล์ตอ้ งสงสัย -โรคตดิ เช้อื เอชพีวี (Human ฟนั การสบฟนั หรือการ อยใู่ นจมกู ลาคอ กล่องเสยี ง ทาฟันเทียม การปลูกผิวหนัง กลา้ มเนื้อ Papillomavirus) เป็นเชอ้ื เค้ียว -ส่องกระจกดูกล่องเสียงในคอ การผ่าตัดสร้างชอ่ งปากข้นึ ใหม่ฟ้ืนฟู ชนดิ เดยี วกบั ทท่ี าให้เกิด -เจบ็ คอเรื้อรงั เสียงเปล่ียน (Indirect LPharyngoscopy) ความสามารถในการใช้ชวี ิตประจาวนั โรคมะเรง็ ปากมดลกู และ และเสยี งแหบ และใชก้ ลอ้ งส่องตรวจกล่อง รังสรี กั ษา (Radiation Therapy) มะเร็งที่อวยั วะเพศชาย โดย -เจบ็ ทห่ี ู เสยี ง(Laryngoscopy) อาจใชย้ า มะเรง็ ระยะเรมิ่ ต้น หลังผ่าตัด ใช้พร้อม เชอ้ื เอชพีวีมีดว้ ยกนั -มปี ญั หาในการเคยี้ วหรอื เคมบี าบดั ใชร้ ังสีในการทาลาย หลากหลายชนิด สาหรบั ชนิด กลนื อาหาร พดู คยุ และการ ชาพน่ ทต่ี อ้ งการตรวจ กอ่ นใช้ เซลล์มะเร็งมักจะทาทุกๆวันสาหรบั 1 ที่กอ่ ให้เกดิ โรคมะเรง็ ศรี ษะ เคลอื่ นไหวของกรามหรือลน้ิ กระจกเลก็ วางท่ีส่วนหลงั ในปาก คอร์ส การฉายรงั สี ระยะเวลา 6 สปั ดาห์ และลาคอมากทส่ี ดุ คือ เอช -น้าหนกั ลดมาก สอ่ งตรวจโคนล้นิ ลาคอ กล่องเสยี ง ผลข้างเคยี ง ผวิ หนังสีแดงคลา้ ยกับถูกแดด พวี ี 16 ท้ังนเ้ี ช้ือเอชพวี ี -สอ่ งกล้องตรวจกล่องเสียง เผาเจ็บปวด อาจมแี ผลเป่ือยขึ้นทชี่ อ่ งปาก สามารถติดต่อส่งผ่านกันด้วย โดยตรง(Direct LPharyngoscopy) เจบ็ ปาก เจบ็ คอ สูญเสียรบั รส ปากแห้ง เบอื การสมั ผัสบาดแผลกับ อาหาร เหน่ือยลา้ ออ่ นเพลยี มีกล่นิ ปาก บริเวณทม่ี ีเชื้อ ตลอดจนการ อาจพ่นยาชา กอ่ นสอดกล้องนา กระดกู โผล่ กรามแขง็ มเี พศสมั พนั ธท์ ้ังทางปาก แสงใยแก้วท่มี ีความยืดหยนุ่ เขา้ เคมีบาบัด (Chemotherapy) ช่องคลอด และทวารหนัก ชอ่ งปาก จมูกยังบริเวณทีไ่ ม่ ใช้ยารักษามะเรง็ ทาลายและหยุดยงั้ สามารถใชก้ ระจกสะทอ้ นดูได้ง่าย กระบวนการเตบิ โตของเซลล์มะเรง็ ใน ๆ เชน่ บริเวณหลังโพรงจมกู และ ระดบั พนั ธกุ รรม ผลข้างเคียง เหนื่อยล้า กลอ่ งเสยี ง -ส่องกล้องแบบแพนเอนโดส โคป (Panendoscopy) หลังวาง ยาสลบ

ชอ่ื โรค สาเหตุ ปัจจยั เส่ียง อาการและอาการแสดง การวินิจฉยั การรกั ษา เพ่มิ เตมิ มะเรง็ กล่องเสยี ง -ด่มื แอลกอฮอล์และการสูบ -เสียงแหบ ซักประวตั ิ มีเสยี งแหบ ไอ ออ่ นเพลยี ผมรว่ ง เจบ็ ปวดบริเวณปาก แผล ผ่าตัดแบบEndoscopic Resection CA larynx บุหร่ีท่มี สี ว่ นประกอบของใบ -เจ็บขณะกลืน กลนื ลาบาก อยา่ งหนกั กลนื ลาบาก เปอื่ ยท่ปี าก ปัญหาเกยี่ วกับไต ปัญหา มะเรง็ ในระยะแรก กอ้ นเนอื้ เลก็ ยาสบู พบกอ้ นนูน/บวมท่ีลาคอ ตรวจรา่ งกาย สารวจในช่อง ทางการได้ยินและการทรงตวั ชาหรอื เจบ็ 2-3 สปั ดาหห์ ลงั ผา่ อาจเสยี ง -สมาชิกในครอบครวั เป็น -ไออย่างหนกั ไอเป็นเลือด ปาก ตรวจท่บี รเิ วณลาคอ พบ เจบ็ ปวดบริเวณมือและเทา้ เปลีย่ นไดอ้ ยา่ งถาวร มะเรง็ กลอ่ งเสยี ง -ปวดคอ ปวดหู กอ้ นนูน/บวมที่ลาคอ ให้ยาเจาะจงเซลล์มะเรง็ (Targeted ผ่าตดั แบบPartial Laryngectomy -กนิ เนื้อแดง อาหารแปรรปู -หายใจลาบาก มเี สยี งหวดี -กลอ้ งสอ่ งตรวจในโพรงจมกู Drugs Therapy) ผา่ ตดั กล่องเสียงและสายเสียงใน อาหารทอด ขณะหายใจ (Nasal Endoscopy) ทอ่ เลก็ ใชย้ าซีทูซิแมบ (Cetuximab) ส่วนท่ไี ดร้ บั ผลกระทบจาก -กนิ ผักผลไมไ้ ม่เพยี งพอ -น้าหนกั ลดลง มไี ฟส่อง กล้องอยู่ปลายทอ่ เซลลม์ ะเร็งออกเพยี งบางสว่ น พูดได้ -ตดิ เชื้อเอชพวี ี (Human -เหน่ือย เมื่อยลา้ สอดเขา้ ทางรจู มูกลงไปยงั -ฉายรังสี รักษามะเร็งระยะแรก ปอ้ งกนั ตามปกติ แต่เสยี งแหบ/เสียงเปล่ยี น Papilloma Virus) แพร่กระจาย ลาคอ อาจพน่ ยาชา กลบั เปน็ ซ้า/รักษารว่ มเคมีบาบดั ต้องรกั ษา ระหวา่ งรักษาอาจหายใจลาบาก จะ ผ่านมีเพศสมั พนั ธ์ทางปาก -ใช้กล้องสอ่ งตรวจในกลอ่ ง 5 ครง้ั /สัปดาห์ ต่อเน่ือง 3-7 สัปดาห์ ผา่ ตดั เจาะคอใชห้ ายใจแบบช่วั คราว -สมั ผสั สารเคมี เชน่ แรใ่ ยหนิ เสียง (Laryngoscopy) กรณี ผลขา้ งเคียง แสบรอ้ น ปากแห้ง แผลในปาก ผ่าตัดแบบTotal Laryngectomy ถา่ นหิน ข้ีเลื่อย นิกเกลิ ควนั ไม่สามารถวินิจฉยั ได้ด้วย เบอื่ อาหาร สูญเสียรับรส เหนือ่ ย เนอื้ เยอื่ ใน ผา่ ตัดกาจัดกลอ่ งเสยี งและสายเสียง ของดีเซล ควันกรดซัลฟรู ิก วธิ ีการใชก้ ล้องสอ่ งตรวจใน ลาคออกั เสบ อกั เสบมากหายใจลาบาก ท้งั หมดทไ่ี ด้รับผลกระทบจาก ฟอรม์ าลดีไฮด์ (สารเคมีที่ใชเ้ ปน็ โพรงจมูก จะใช้ท่อยาวกวา่ ผลข้างเคยี งจะดีขน้ึ หลงั จบรักษา 2-3 เซลล์มะเร็ง รวมถงึ ต่อมนา้ เหลือง สอดเข้าทางปาก อาจต้องใช้ สปั ดาห์ จะผ่าตดั เจาะคอเพอ่ื ใชห้ ายใจแบบ สว่ นประกอบในการผลิตสหี รอื ยาสลบรว่ มดว้ ย -เคมีบาบัด ใช้ยาทาลายหรือยบั ยง้ั การ ถาวร ไมส่ ามารถพดู ได้ตามปกติ -ตรวจชิ้นเน้ือ (Biopsy) ตัด เจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ฉีดยาเขา้ เสน้ ต้องใช้อุปกรณช์ ว่ ย กล่องเสยี งเทยี ม เครื่องสาอาง) ไอโซโพรพลิ ตวั อย่างช้ินเนื้อบรเิ วณกลอ่ ง เลอื ด 1 ครง้ั ทกุ ๆ 3-4 สัปดาห์ ไม่เกิน 6 แอลกอฮอล์ (สารเคมที เี่ ปน็ ตวั ทา เสียงไปตรวจหาเซลลม์ ะเรง็ เดือน ผลขา้ งเคยี ง ผมร่วง เบื่ออาหาร -ดูแลหลงั การเจาะคอ ทาความ -ใช้เข็มเจาะเพื่อดดู เซลลไ์ ป ท้องเสีย แผลในปาก เหนอ่ื ย ระบบ ละลายในผลิตภัณฑท์ าความสะอาด) ตรวจ (Needle Aspiration) ภูมิคมุ้ กันอ่อนแอลง ตดิ เช้ืองา่ ย สะอาดดี/ใหค้ วามช่มุ ชื้น ไอ จาม กรณีมกี อ้ นนนู เกดิ ขึ้นท่ลี าคอ ผลขา้ งเคียงดขี ้ึนหลงั จบการรกั ษา ควรใช้กระดาษทิชชูปิดท่ีช่องที่คอ -ปัญหาเกีย่ วกับระบบ -CT Scan ,MRI ,ตรวจความ -ใชย้ าซที ูซแิ มบ เป็นยาชวี ะบาบัดชนดิ บาบดั การพดู หลังผา่ ตดั กล่องเสยี ง ภมู ิคมุ้ กัน เปลยี่ นแปลงทางชีวเคมี (PET หน่งึ ยบั ยัง้ การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง -โรคทางพนั ธกุ รรม เช่น โรค Scan), Ultrasound หา ใชร้ ว่ มเคมีบาบัดได/้ ผ้ปู ่วยไม่สามารถรักษา ออกท้งั หมด โลหิตจางจากไขกระดูกฝอ่ ได้ดว้ ยเคมบี าบัด เช่น เปน็ โรคไต โรคหวั ใจ -กลอ่ งเสยี งเทยี ม (Voice Prosthesis) (Fanconi Anemia) ตาแหน่งการเกดิ มะเรง็ ประเมนิ อยู่ในช่วงติดเชือ้ เพราะอาจทาให้ปว่ ยหนกั มีลน้ิ ทาหน้าทีส่ ร้างเสียงข้ึนมา ขยบั การแพร่กระจายเซลลม์ ะเรง็ กว่าเดิม ให้ยาซีทูซิแมบทางเส้นเลอื ดหยด ปากพูดได้ตามปกติ เสยี งคอ่ นขา้ ง ชา้ ๆ ตอ่ เน่อื งประมาณ 1 ช่ัวโมง สูงสุด เป็นธรรมชาติ นาน 7 สัปดาห์ ผลข้างเคยี ง ผื่นคนั -พดู โดยใชล้ มจากกระเพาะอาหาร ท้องเสยี หายใจลาบาก ใชย้ าอยภู่ ายใตก้ าร ช่วย (Esophageal Speech) ฝึก ดแู ลแพทยอ์ ยา่ งใกลช้ ิด อาจใหย้ าคอร์ตโิ คส พดู ใช้วธิ สี ดู ลมแล้วพ่นลมออกทาง เตยี รอยด์บรรเทาอาการแพย้ าอย่างรุนแรง หลอดอาหารเพ่อื เปล่งเสยี ง เชน่ หัวใจเต้นเรว็ ผดิ ปกติ/หายใจลาบาก -อปุ กรณช์ ่วยพูด (Electrolarynx) ทางานดว้ ยแบตเตอรร์ ่มี ปี มุ่ เปดิ และ ปิด โดยวางอปุ กรณ์ไว้ที่คาง เคร่ือง จะสัน่ ในขณะขยบั ปากและริมฝีปาก

ช่ือโรค สาเหตุ ปัจจยั เส่ยี ง อาการและอาการแสดง การวนิ จิ ฉยั การรกั ษา เพ่มิ เตมิ จมูก -หายใจตดิ ขดั อดึ อดั คัดจมกู ซกั ประวัติ นา้ มกู อุดตนั จนหายใจ -ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) จะถกู ไซนสั อักเสบ -น้ามกู สเี ขยี วหรอื สีเหลืองข้น ลาบาก มูกข้นในลาคอ/ไหลลงสู่ นามาใชใ้ นกรณีทไี่ ซนสั อักเสบจาก Sinusitis -ประสาทรับกลิ่นไมด่ ี ลาคอ ปวดศีรษะมาก ไขส้ งู แบคทเี รีย -ปวดบรเิ วณไซนสั โหนก มองเห็นภาพซอ้ น/การมองผดิ จาก เวลา 10-14 วัน เชน่ ยากล่มุ -ไซนัสอักเสบจากเยื่อบไุ ซนสั แก้ม หนา้ ผาก จมกู ตรง ปกติ ปวดบวมบรเิ วณดวงตา จมูก ไซนสั อักเสบแบบเฉยี บพลัน Amoxicillin, Clarithromycin ตดิ เช้อื ไวรสั /เชอื้ แบคทีเรีย ระหว่างคิว้ และหวั ตา หน้าผาก แกม้ เคยรกั ษาแลว้ แต่ หายเองภายใน 2-4 สปั ดาห์ และ Azithromycin แตห่ ากผู้ปว่ ย -อกั เสบต่อเนื่อง กลายเป็น -ปวดฟัน ลมหายใจมีกล่นิ อาการไมท่ เุ ลาลง มีอาการเรือ้ รัง - กลมุ่ ยาแก้ปวดและลดไข้ ลดไข้ บรรเทา ตอ้ งอย่อู าศยั ในบรเิ วณที่มโี อกาสตดิ ไซนสั อกั เสบระยะเรื้อรัง มี เหม็น มีกลน่ิ ปาก ยาวนานเกินกวา่ 10 วัน เคยมี เช้ือสงู หรืออาการไม่ดขี น้ึ หลงั รบั ยา หลายปจั จยั เช่น การป่วย -มีไข้ อ่อนเพลยี ประวัตปิ ่วยด้วยไซนสั อกั เสบมา ปวดบวมอักเสบ/กลุม่ ยาลดน้ามกู และแก้คัด ไปแล้ว 2-3 วัน แพทยจ์ ะใชย้ ารักษา เปน็ โรคภมู ิแพ้ โดยเฉพาะ -ไอ เจบ็ คอ มีมูกข้นในลาคอ ก่อน จมกู (Decongestant)บรรเทาคัดจมกู ในขน้ั ถดั ไป เชน่ Amoxicillin- ภูมิแพ้อากาศและหอบหดื , หรือมกู ไหลลงลาคอ ตรวจร่างกายเปน็ สาคญั โดยอาจ หายใจติดขดั ข้อควรระวัง ไม่ใชย้ าตดิ ตอ่ กัน clavulanate, Cephalosporins, เน้อื งอกในจมูก ,ผนงั ก้นั ช่อง พบเย่ือบโุ พรงจมูกมีการอกั เสบ เกนิ กวา่ 1 สปั ดาห์ Macrolides, Fluoroquinolones จมกู คด ,ภมู คิ ุม้ กนั ตา่ ,การ บวมแดงหรือมีหนอง ตรวจมูก -ใชแ้ ผน่ ประคบร้อน (Warm Pack) ประคบ และ Clindamycin สบู บหุ ร่ี หนองในลาคอ และกดตามจุด ตามจดุ ตา่ งๆ ท่ีปวดบนใบหน้า บรรเทาปวด -ผ่าตดั ด้วยวธิ ี Functional บริเวณใบหน้าเพ่อื ตรวจหา ทาให้มกู เหลวทอี่ กั เสบไหลออกมากขน้ึ Endoscopic Sinus Surgery ตาแหน่งอกั เสบของไซนสั -ล้างจมกู ดว้ ยนา้ เกลอื ควรล้างมือและ (FESS) ผ่าตดั ผ่านทางรูจมกู ด้วย -Computed Tomography อุปกรณท์ กุ ชนิด ใช้กระบอกฉีดยาฉดี กลอ้ งเอ็นโดสโคปเปน็ Scan (CT Scan) ฉีดสารทบึ รงั สี นา้ เกลือเข้าโพรงจมูกขา้ งหนง่ึ อย่างชา้ ๆ กลอ้ งขยายขนาดเลก็ เข้าไปทางหลอดเลอื ดดา แลว้ ฉาย น้าเกลือจะชะล้างหนองทอี่ กั เสบและสิ่ง รงั สีเอกซ์ใหค้ อมพวิ เตอร์สรา้ งภาพ สกปรกทต่ี กคา้ งภายในโพรงจมกู ไหลออก ออกมา จมกู อกี ข้าง -Magnetic Resonance Imaging (MRI) แม่นยาสูง จะดู ไซนสั อกั เสบเรอ้ื รงั /เปน็ ซา้ หลายคร้ัง จากภาพ มสี ารเหลวอยใู่ นบริเวณ -ให้ยา ยาสเตยี รอยดพ์ น่ จมูก (Nasal ไซนัสและบริเวณ Corticosteroids) เปน็ ยาออกฤทธิ์เฉพาะท่ี -Complete Blood Cell, ใช้พ่นเข้าไปในจมกู ลดอาการอกั เสบ บวม Erythrocyte Sedimentation ของเยื่อบุโพรงจมกู กรณีสเตยี รอยดแ์ บบ Rate, ESR, C-Reactive, สเปรย์รักษาไม่ได้ผลใหใ้ ช้สเตยี รอยด์แบบ Proteinในเลือด หยด โดยผสมสเตยี รอยด์ในนา้ เกลอื ท่ีใชล้ า้ ง -Nasal Endoscopy เป็นการ จมกู แทน ผลขา้ งเคียง ระคายเคืองจมกู ส่องกล้อง Endoscope สอด เลือดไหลจากจมกู หรือเจบ็ คอรว่ ม หลอดแกว้ นาแสงเขา้ ไปทางจมกู สว่ นยาสเตยี รอยดแ์ บบรบั ประทานจะใช้ แลว้ ตรวจดูอกั เสบหรอื มีหนองท่ี อาการรุนแรง และไมค่ วรใช้สเตยี รอยด์ ไซนสั ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

ชอื่ โรค สาเหตุ ปัจจัยเสีย่ ง อาการและอาการแสดง การวนิ ิจฉัย การรกั ษา เพม่ิ เติม มะเรง็ หลงั โพรงจมกู -ฝนุ่ ไม้หรือขี้เลอื่ ย -เลอื ดกาเดาไหล ซักประวตั ิ ระยะเวลาท่เี ป็น/ -ยาลดอาการคดั จมกู แบบกิน เช่น หลังการรักษา Nasopharyngeal -ฝนุ่ หนัง -น้ามกู ไหล/ระบายจาก อาการ /อาชพี /พฤตกิ รรมดืม่ สุรา pseudoephedrine และ phenylephrine oarcinoma : NPC -บหุ รี่ ด้านหลังของจมูกเข้าไปใน สบู บุหร/ี่ อาการผดิ ปกตทิ ีม่ า รพ. 10 - 14 วนั ยาลดอาการคดั จมูกแบบพน่ เลอื กกนิ อาหารดี เหมาะสม -ไอโซโพรพลิ แอลกอฮอล์ ลาคอ สญู เสียการได้ยิน/ไดก้ ลิน่ ชา ปวด หรือหยด เชน่ Oxymetazoline และ ออกกาลงั กาย -สารประกอบนิกเกลิ -ลักษณะก้อนแข็งบนใบหน้า บวม ใบหนา้ ปวดบรเิ วณเหนือ Hydrochloride ใชร้ ักษาภายใน 3-5 วนั หลีกเล่ยี งแอลกอฮอลล์ เกิดจากปจั จยั เสยี่ งอ่นื ๆ เพดานปาก ภายในจมกู ดวงตา/ใตด้ วงตา ปวด/หอู ้อื ขา้ งใด เลิกบหุ ร่ี -ฟอร์มาดีไฮด์ -ปวดหวั และปวดโพรง ขา้ งหนง่ึ เลอื ดกาเดาไหล การผ่าตัด ผ่าตัดมะเร็งโพรงจมูกทาได้ทงั้ -โครเมยี ม อากาศขา้ งจมูก ตรวจรา่ งกาย หาลกั ษณะของกอ้ น ผา่ ตัดแบบเปิดและผ่าตัดส่องกลอ้ ง ทาใน มะเร็งโพรงจมูกเสีย่ งกลบั -ฝนุ่ จากส่ิงทอ -ปวด/หอู ื้อข้างใดข้างหนง่ึ แขง็ /อาการบวมบริเวณจมกู แก้ม กรณีที่เนือ้ งอกอยู่ในระยะแรกๆ ยงั เปน็ ซ้าสูง ต้องเฝ้าติดตาม สงั เกต -ปวดบริเวณเหนอื ดวงตา/ใต้ ดวงตา และภายในปาก กระจายตวั ไมม่ าก อาจใช้การผา่ ตัดเพอ่ื อาการใกลช้ ดิ โดยเฉพาะทรี่ ักษา ดวงตา -ลกั ษณะกอ้ นแข็งบนใบหนา้ ลดปวดหรืออาการต่างๆ โดยกาจดั เนื้อ รงั สรี กั ษาหรือเคมีบาบัด -ตาแฉะมากจนนา้ ตาไหลลง เพดานปาก ภายในจมกู งอกทข่ี ดั บริเวณโพรงจมกู และโพรง มาถงึ แก้ม -ต่อมน้าเหลอื งรอบคอบวม อากาศของจมูกออก รวมไปถึงการกาจัด **ผลข้างเคียง ปากแห้ง ฟัน -ตาข้างใดขา้ งหนง่ึ โปง่ นนู -กลอ้ งสอ่ งตรวจ (Endoscope) เอาเนือ้ เยอื่ ปกติบริเวณรอบๆ ออกไป รว่ ง ผมรว่ ง** -ชา ปวด บวม ใบหนา้ สอ่ งเข้าไปจมูก โพรงหลงั จมกู และ ด้วยบางกรณี โดยเฉพาะแกม้ สว่ นบน ส่วนลา่ งลาคอ อาจเกบ็ ตวั อยา่ ง ตอ้ งเฝา้ ติดตาม สงั เกต -ปัญหาเวลาอ้าปาก เนือ้ เยอื่ ระหวา่ งส่องกลอ้ ง บาบดั ดว้ ยรงั สี (Radiation Therapy) ตรวจเลือด /ทา MRI ในปีแรก -ฟันบนโยกหรือชา/ความ ผลขา้ งเคียง ปวด เลือดไหล ผนัง รกั ษาโดยใช้รังสพี ลังงานสงู ฆา่ ควรมาพบแพทยอ์ ยา่ งนอ้ ยสาม พอดีของการใสฟ่ นั ปลอม เนือ้ เยอ่ื ฉีกขาด เซลล์มะเร็ง ลดขนาดเนอ้ื งอกก่อนการ เดอื นครง้ั ถ้าแสดงอาการผิดปกติ แปลกไปจากเดมิ -เจาะดดู เซลลไ์ ปตรวจ (Fine ผ่าตดั หรอื ทาลายเนือ้ งอกเลก็ น้อยที่อาจ ใหม่ๆ หรอื อ่ืนๆ หลังจากจบการ -ลักษณะพดู เปลยี่ นจากเดิม Needle Aspiration)เกบ็ ตัวอยา่ ง หลงเหลอื หลังจากผ่าตดั รกั ษา ควรรบี พบแพทย์ทันที -ตอ่ มน้าเหลอื งบริเวณ เนอ้ื งอก ใชเ้ ข็มทเ่ี ล็กมากๆ พร้อม รอบคอบวม กบั กระบอกฉดี ยานาของเหลว/ ใช้เคมบี าบัด (Chemotherapy) -สูญเสยี การไดย้ นิ /ได้กลิน่ เนอ้ื เยอ่ื ออกเลก็ นอ้ ย ใชเ้ พื่อลดความเสี่ยงการกลบั มาของ -ตัดเนือ้ ตรวจ (Biopsy) มะเรง็ หลงั ผ่าตดั โดยการลดขนาด หรือ ใชม่ ะเร็งหรอื ไม่ /เป็นมะเรง็ ชนดิ ชะลอการเตบิ โตของเนื้องอก ไหน/อธบิ ายมะเรง็ รนุ แรงถงึ ระดบั ไหน ผลขา้ งเคียง ปวด/ติดเชื้อท่ี เนอ้ื เย่ือถกู กาจัดออกไป -CT scan เนื้องอกเจรญิ เติบโต เข้าไปถึงกระดกู รอบๆ โพรงอากาศ ข้างจมกู /ฐานกะโหลกหรอื ไม่ ,หา แพรก่ ระจายมะเร็งสปู่ อด ต่อม น้าเหลอื ง อาจจะมกี ารฉีดสใี นเส้น เลอื ด ชว่ ยเหน็ ชัดเจนขน้ึ -เอกซเรย์ ใชเ้ วลา 10-15 นาที ผล ภาพเอกซเรย์ใชเ้ พอื่ ตรวจหาการ

ช่อื โรค สาเหตุ ปจั จยั เส่ยี ง อาการและอาการแสดง การวินจิ ฉยั การรกั ษา เพม่ิ เตมิ อดุ ตนั หรอื ตดิ เช้อื ในโพรงอากาศ ข้างจมูก/ตรวจหาแพรก่ ระจาย มะเร็งส่ปู อด -MRI ใชเ้ วลา 30-50 นาทถี ึง 2hr เนอ้ื งอกเป็นเนอื้ รา้ ยหรือไม่ และใช้ หาการเจรญิ เติบโตของเนอ้ื งอกสู่ โครงสร้างตา่ งๆ รอบๆโพรงอากาศ ข้างจมกู ฐานกะโหลก บริเวณใกล้ เส้นเลือด เส้นประสาท เยอื่ หมุ้ สมอง สมอง และดวงตา -สแกนกระดูก ซักถามประวัติ เคย ศัลยกรรมกระดูก ใชเ้ วลา 30–60 นาที หาการกระจายมะเรง็ โพรง จมกู สกู่ ระดูก -PET scan ใชด้ ูการทางานของ เซลลม์ ะเร็ง/กอ้ นเน้อื วา่ ทางาน มากน้อยขนาดไหน มแี นวโน้ม รุนแรงหรอื ไม่ ใช้เวลา 45 นาทถี ึง 2 hr. ส,ี ความสวา่ งของภาพแสดง ถงึ ระดบั ของเน้ือเย่ือ/อวยั วะท่ี แตกตา่ งกัน

ตัวอยา่ งแนวขอ้ สอบ 1.ผู้ปว่ ยหลงั ผ่าตดั ไซนสั ผา่ นชอ่ งจมกู ด้วยวิธี Endoscope sinus surgery คาแนะนาเมื่อกลับบ้าน ขอ้ ใดถูกต้อง ก. ขณะไอ หรอื จาม ควรใช้ผ้าปดิ ปากหรอื จมกู ข. สามารถยกของหนกั ไดภ้ ายหลงั การผ่าตดั 7 วนั ค. ลา้ งจมูกดว้ ยนา้ เกลือบ่อยๆ อยา่ งนอ้ ยวันละ 2 ครงั้ ง.หลีกเลย่ี งการนอนควา่ เพราะอาจจะทาใหเ้ ลอื ดไหลออกจากชอ่ งจมกู ได้ ตอบ ก. ขณะไอ หรือจาม ควรใช้ผ้าปิดปากหรือจมูก เพราะการไอ จาม ควรปดิ ปากไว้ เพือ่ ลดแรงดันในช่องจมกู และกนั แผลแยก เกดิ เลอื ดออกได้ 2. ขอ้ ใดเป็นการพยาบาลผปู้ ่วยหลังการผา่ ตดั ตอ่ มทอนซิล tonsillectomy ในระยะ 24 ชัว่ โมงแรก ก. ประเมินอาการปวดแผล ข. ให้บ้วนปากดว้ ยน้าเกลอื ค. ใหอ้ มนา้ แขง็ ง. ประเมินอาการติดเชือ้ ตอบ ค. ให้อมนา้ แขง็ เพราะการพยาบาลผู้ปว่ ยหลงั ผ่าตดั เพื่อบรรเทาอาการปวด จะประเมินความปวด แนะนาประคบบรเิ วณคอด้วยความเยน็ ถา้ ไมม่ อี าการคลนื่ ไส้ อาเจยี น แนะนาใหร้ ับประทาน อาหารเยน็ ๆ เช่น ไอตมิ น้าเยน็ ควรจดั อาหารเหลวเยน็ /หลงั 48 ชัว่ โมง เปลีย่ นเปน็ อาหารอ่อน ชว่ ยลดอาการบวมในคอ และกล้ามเนอ้ื คลายอาการเกรง็ บรรเทาปวด และให้พกั ผอ่ นเพยี งพอ 3. ผปู้ ่วยหลงั ผา่ ตดั total laryngectomy ควรใหก้ ารพยาบาลในด้านการตดิ ต่อส่อื สารอย่างไรจึงจะเหมาะสมท่ีสดุ ก. แนะนาใหพ้ ดู เบาๆ ข. จัดหากระดาษและปากกาให้ผปู้ ่วย ค. ต้ังใจฟงั เสยี งผปู้ ่วยทเี่ ปล่งออกมา ง. อา่ นริมฝปี ากของผู้ป่วยขณะพดู อยา่ งตง้ั ใจ ตอบ ข. จัดหากระดาษและปากกาให้ผู้ปว่ ย หลังการผ่าตัด total laryngectomy ผู้ป่วยตอ้ งพกั ฟนื้ และจะออกเสยี งไมไ่ ด้ การตดิ ตอ่ กนั ผอู้ ่นื ต้องใชว้ ิธีเขยี นแทน

4. อาการที่สาคัญของผู้ปว่ ยตอ่ หินทอ่ี าจทาใหต้ าบอดไดค้ ือขอ้ ใด ก. การมองเหน็ แคบลง ข. มองไม่เห็นในท่สี ว่าง ค. ตามัวมองเห็นแสงสรี ุ้ง ง. ปวดศรี ษะความดนั ลูกตาสงู ตอบ ง. ปวดศีรษะความดันลูกตาสูง เพราะตอ้ หิน เปน็ กลมุ่ อาการผิดปกติที่เกดิ จากความดันภายในลูกตาสูง เนือ่ งจาก Aqucous humor คั่งอยใู่ นลูกตา เพราะระบายออกทางชอ่ งด้านหน้าได้นอ้ ย ทา ให้ optic nerve ฝอ่ เหย่ี วถา้ ไมร่ ักษาตาจะบอดได้ 5. ผู้ป่วยต้อกระจกท่ีไดร้ ับการผา่ ตัดเปลี่ยนเลนสต์ า ภายหลังการผา่ ตดั ควรหลกี เลย่ี งการกม้ หน้าต่ากวา่ ระดบั เอวเพราะเหตุใด ก. ทาให้เกดิ การค่งั ของเลือดในลูกตา เลนสต์ าบวม ข. ทาให้มีอาการปวดมึนศรี ษะ และเกิดอบุ ตั เิ หตุ ค. ทาให้ความดนั ลูกตาสูงขนึ้ แผลเย็บถกู ดึงร้งั เกดิ เลือดออก ง. ทาให้เลนสต์ าทเี่ ปลี่ยนไวม้ กี ารเลอ่ื นหลดุ ออกจากตาแหน่งเดมิ ตอบ ค. ทาให้ความดนั ลูกตาสูงขึ้น แผลเยบ็ ถกู ดึงรง้ั เกดิ เลือดออก เพราะเกิดแรงโนม้ ถว่ งทด่ี วงตา 6. ผ้ปู ว่ ยต้อกระจกทีไ่ ดร้ บั การผา่ ตัด extracapsular cataract extraction with intaraocular lens ข้อวินจิ ฉัยการพยาบาลหลังผ่าตัดต้อกระจกใน 24 ชวั่ โมงแรก ข้อใดถกู ตอ้ ง ก. เส่ยี งตอ่ การเกิดอุบัตเิ หตเุ นือ่ งจากถกู ปิดตา ข. ปฏบิ ัติกิจวตั รประจาวนั ไดไ้ มค่ รบถ้วนเนอื่ งจากถกู ปิดตา ค. เสย่ี งตอ่ การติดเช้ือในตาข้างทท่ี าการผ่าตดั เน่อื งจากมแี ผลผ่าตดั ง. เส่ียงต่อภาวะเลอื ดออกในช่องมา่ นตาเนื่องจากมีแผลผ่าตัด ตอบ ค. เส่ยี งต่อการติดเชอ้ื ในตาข้างทท่ี าการผ่าตดั เนอ่ื งจากมแี ผลผา่ ตัด เปน็ การสลายตอ้ ผ่าตดั เอาตอ้ กระจกออก แล้วใสเ่ ลนส์เทยี มเขา้ ไปแทนที่

7. หญงิ ไทยอายุ 56 ปี มาด้วยอาการ vertigo การไดย้ นิ เสยี งเสียไปชนิด sensorineural hearing loss และมเี สยี งดังในหู Tinnitus แพทยว์ ินจิ ฉัยเปน็ โรค Meniere syndrome ท่าจะให้คาแนะนาแก่ ผู้ป่วยอยา่ งไรเพอ่ื ควบคุมอาการของโรค ก. ควรนอนพักผ่อนมากๆ ข. ด่มื นา้ ผลไม้ 3-4 แก้วตอ่ วนั ค. ควรใช้เครอ่ื งช่วยฟงั เปน็ ประจา ง. ควรรบั ประทานอาหารทม่ี เี กลอื ตา่ ตอบ ก. ควรนอนพกั ผอ่ นมากๆ โรค Meniere syndrome เกดิ จากการมนี ้าคงั่ อยใู่ นหชู ั้นใน และทาให้ความดันในช่องหเู พิ่มข้น ควรใหค้ าแนะนาในเรื่อง การพักผอ่ นใหเ้ พียงพอ อาจต้องให้ยาระงับ ประสาท เช่น valium เพื่อให้ผปู้ ว่ ยนอนหลับได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook