พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม

7/12/2019 การจดั การทรัพยากร พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม หน่วยท่ี 3 ปิโตรเลียมและผลติ ภัณฑ์ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม (Behavioral Objective) 1. อธบิ ายความหมายของปโิ ตรเลียมได้ 2. อธิบายเร่อื งการสารวจแหลง่ ปโิ ตรเลยี มได้ 3. อธิบายกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ กระบวนการกลั่นนามนั ดบิ และกระบวนการปรับปรุง คณุ ภาพนามนั ได้ 4. อธบิ ายเรอ่ื งผลิตภณั ฑป์ โิ ตรเลยี มและเชือเพลงิ ในอนาคตได้ 5. ประยุกต์ใชค้ วามรู้เรือ่ งปโิ ตรเลียมและผลิตภณั ฑ์ในวิชาชีพและในชวี ติ ประจาวันได้ 1

7/12/2019 เชอื เพลงิ ในอนาคต ความหมายของปิโตรเลียม ผลิตภณั ฑจ์ ากปิโตรเลียม ปโิ ตรเลยี มและ การสา้ รวจแหลง่ ปโิ ตรเลยี ม ผลิตภณั ฑ์ กระบวนการปรบั ปรงุ คุณภาพนา้ มัน กระบวนการแยกแกส๊ ธรรมชาติ กระบวนการกล่นั นา้ มนั ดิบ ความหมายของปิโตรเลียม • เกิดขนึ เองตามธรรมชาติ  น้ามนั ดิบ (Crude Oil) เกิดรว่ มกนั ใน • สารประกอบไฮโดรคารบ์ อนซึ่ง แหลง่ ปโิ ตรเลยี ม ประกอบดว้ ย H และ C อาจมี S O N  ก๊าซธรรมชาติ ปนอยู่ด้วย (Natural Gas) • ของแข็ง ของเหลว กา๊ ซ  กา๊ ซธรรมชาติเหลว (Condensate) oกา๊ ซธรรมชาติที่อยู่ลกึ ลงไปใตด้ ิน ภายใต้ T, P สูง oเมอื่ นาขึนมาถึงผวิ ดนิ ในขนั ตอนการผลติ T, P จะลดลง oกา๊ ซธรรมชาติ --- > ของเหลว --- > กา๊ ซธรรมชาติเหลว 2

7/12/2019 น้ามนั ดิบ (Crude Oil) กา๊ ซธรรมชาติ (Natural Gas) • ของเหลว • สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ร้อยละ 95 • สารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดทร่ี ะเหย ขึนไป (สว่ นที่เหลอื --- > N, CO2) ง่าย • ไฮโดรคาร์บอน --- > อนุกรมพาราฟนิ  นามนั ดิบฐานพาราฟิน  อ่มิ ตัว ไม่เปลยี่ นแปลงทางเคมี ในสภาวะ  นามันดิบฐานแนฟทนี ปกติ  นามันดบิ ฐานผสม • องค์ประกอบสว่ นใหญ่ ร้อยละ 70 --- > มเี ทน • ทัง 3 ชนดิ เมอื่ นามากลัน่ --- > (CH) ผลติ ภัณฑ์ปิโตรเลียมในสัดส่วนที่ต่างกนั  นาหนักเบาที่สดุ  จุดเดือดตา่ ทส่ี ดุ การก้าเนดิ ปโิ ตรเลียม ซากพชื ซากสัตว์ จานวนมหาศาล ตกลงก้นทะเล + ถกู ทบั ถมด้วยโคลนหรอื ทราย ถูกทบั ถมดว้ ยซากพืช ซากสตั ว์ ถกู ทับถมดว้ ยโคลนหรอื ทราย A 3

7/12/2019 การก้าเนดิ ปโิ ตรเลยี ม A นาหนักของชนั ตะกอน + ความกดดัน โคลนหรอื ทราย --- > หินทราย + หนิ ดนิ ดาน จลุ ินทรยี ย์ ่อยสลาย (ไม่มี O) + T, P สงู ซากพืช ซากสัตว์ --- > นามันดิบ และกา๊ ซธรรมชาติ การก้าเนดิ ปิโตรเลยี ม • ก๊าซธรรมชาติ มคี วามเบา จะ เคล่ือนย้ายไปกกั เกบ็ อยู่ในชนั หินเนือ พรนุ เฉพาะบริเวณทส่ี งู ของโครงสรา้ ง แต่ละแหง่ • จะถูกกกั ไว้ด้วยชนั หินเนือแน่น ที่ปิดทับ อยู่ • ก๊าซธรรมชาตอิ ยู่บนสุด --- > นามันดิบ --- > นา 4

7/12/2019 การส้ารวจแหลง่ ปิโตรเลียม การสา้ รวจวัดคล่ืนไหวสะเทอื น บนพนื ดิน การเจาะส้ารวจ ในทะเล การส้ารวจวดั คล่ืนไหวสะเทอื น ตรวจสอบลกั ษณะและโครงสร้างพืนฐานทางธรณีวิทยาใตผ้ วิ ดนิ ทาให้เกดิ สญั ญาณคล่ืน วัดระยะเวลาทีค่ ลื่นเดินทาง จดุ กาเนิด --- > ตวั รบั ความเรว็ คลนื่ • ความหนาแนน่ ของชนั หิน • ชนดิ ของหิน รอยเล่ือน ความโคง้ งอของชันหนิ ลักษณะโครงสรา้ งทางธรณีวทิ ยา --- > เกดิ การหกั เหของคลน่ื ของชนั หิน 5

7/12/2019 การสา้ รวจวดั คล่นื ไหวสะเทือน การส้ารวจวัดคล่นื ไหวสะเทอื นบนพืนดิน แหล่งกาเนดิ คลน่ื • ดินระเบิด • รถสน่ั สะเทือน --- > สารวจริมถนน (จากัดสญั ญาณรบกวนจากการวิ่ง ของยานพาหนะต่างๆได้ การสา้ รวจวดั คลืน่ ไหวสะเทอื น การสา้ รวจวดั คลนื่ ไหวสะเทือนในทะเล อุปกรณ์ • เรือสารวจ + อุปกรณส์ ารวจ + ระบบสอ่ื สารทีท่ ันสมยั (เรือควรกวา้ ง 15-20 m ยาว 50-80 m นาหนกั 3,000-6,000 ton) • อุปกรณต์ น้ กาเนดิ คลืน่ --- > เป็นรูปทรงกระบอก --- > ใช้อัดอากาศให้มี P 2,000 lb/in2 แลว้ ปล่อยอากาศออกมา เกดิ สัญญาณคลนื่ • อปุ กรณ์รบั สัญญาณคลนื่ --- > อย่ลู กึ จากผิวนา 5-8 m ตอ่ พว่ งกันยาว 3,000 m จานวน 1 สาย หรือมากกวา่ 6

การเจาะส้ารวจ 7/12/2019 7 • เพ่ือให้ไดข้ อ้ มลู ว่าบรเิ วณทส่ี ารวจมปี โิ ตรเลยี มอย่หู รือไม่ • ถา้ มี --- > กา๊ ซธรรมชาติหรอื นามันดิบ • เครื่องมอื เจาะทม่ี ีลักษณะเปน็ สว่ นหมุน ติดตงั อย่บู นฐานเจาะ • ใช้หวั เจาะชนดิ ฟันเฟืองต่อกบั ก้านเจาะ ซง่ึ จะสอดลงไปในแทน่ หมุน • ใช้เครื่องยนต์ขับเคลอ่ื นแทน่ หมนุ พาก้านเจาะและหวั เจาะหมุนกัด เจาะชนั หินลงไป • นาโคลน (สารผสมพเิ ศษของโคลน) + ผงสารเพมิ่ นาหนกั + นา อัด ลงไปในกา้ นเจาะ --- > วัสดหุ ลอ่ ลน่ื + ลาเลียงเศษดนิ ทรายขนึ มา บนปากหลุม การเจาะส้ารวจ ขนั ตอนการเจาะส้ารวจ • เป็นการเจาะสารวจหลุมแรกบน โครงสร้างท่ี คาดวา่ อาจเปน็ แหล่งปโิ ตรเลยี มแตล่ ะแห่ง ขันตอนการเจาะหาขอบเขต • เปน็ การเจาะสารวจเพิ่มเติมในโครงสร้างที่เจาะพบรอ่ งรอย ของปิโตรเลียมจากหลมุ สารวจ • เพอื่ หาขอบเขตพืนท่ขี องโครงสร้างแหล่งกักเกบ็ ปิโตรเลยี ม แตล่ ะแห่งว่าจะมปี โิ ตรเลยี มครอบคลมุ เนือท่ีเทา่ ใด

7/12/2019 การเจาะส้ารวจ • เมือ่ พบโครงสรา้ งแหลง่ ปโิ ตรเลยี ม จะทาการทดสอบการผลิต  ศึกษาสภาพการผลติ  คานวณหาปรมิ าณสารองท่ีมอี ยู่  ปรมิ าณท่ีจะผลติ ในแต่ละวนั  นาปิโตรเลยี มท่คี ้นพบมาตรวจสอบคุณภาพ  ศกึ ษาขอ้ มูลลกั ษณะโครงสรา้ งให้แน่ชัด --- > ออกแบบแท่น ผลติ วางแผนการผลิตต่อไป กระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ กา๊ ซธรรมชาติ  ก๊าซผสม กลมุ่ ทีไ่ มใ่ ช่สารประกอบไฮโดรคาร์บอน กลมุ่ ทม่ี สี ารประกอบไฮโดรคาร์บอน CO2 H2S ไอปรอท ไอนา ใหพ้ ลงั งาน มีเทน อีเทน โพรเพน บวิ เทน (CH4) (C2H6) (C3H8) (C4H10) 8

7/12/2019 กระบวนการแยกกา๊ ซธรรมชาติ การแยกสารที่ไม่ใชส่ ารประกอบ 1. ก้าจัดสารปรอท ไฮโดรคารบ์ อน • ป้องกนั การผกุ รอ่ นของทอ่ สง่ กา๊ ซ 2. ก้าจัดกา๊ ซ H2S และ CO2 • H2S --- > มพี ิษกดั กรอ่ น • CO2 --- > ท่อส่งกา๊ ซอุดตนั • โดยใช้สารละลาย K2CO3 • CO2 --- > ทานาแข็งแหง้ นายาดบั เพลิง ฝนเทยี ม 3. กา้ จัดความชืนหรอื ไอนา้ • ความชืนหรือไอนา --- > นาแข็ง --- > ทอ่ อุดตนั • โดยใช้ซลิ กิ าเจล กระบวนการแยกกา๊ ซธรรมชาติ กา๊ ซธรรมชาติ แยกสว่ นทไ่ี ม่ใช่สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ลดอุณหภมู ิ เพมิ่ ความดัน เพ่ือใหเ้ ปลี่ยน สถานะเปน็ ของเหลว ผา่ นไปยังหอกลั่นและลดความดัน เพ่ิมอุณหภมู ิ • กา๊ ซมีเทน (CH4) เพอื่ เปลี่ยนสถานะเปน็ แกส๊ • กา๊ ซอเี ทน (C2H6) • ก๊าซโพรเพน (C3H8) • กา๊ ซหุงต้ม (LPG) (C3-C4) • ก๊าซธรรมชาติเหลว (C5-C6) 9

7/12/2019 กระบวนการกลนั่ นา้ มันปโิ ตรเลยี ม • การกลัน่ นามัน  การแยกนามันดบิ ออกเป็นส่วนต่างๆ ท่ีมจี ดุ เดือดใกลเ้ คยี งกัน เชน่ ก๊าซหงุ ตม้ นามันเบนซนิ นามันเชอื เพลงิ เครอ่ื งบิน ขนั ตอนการกล่ันนา้ มันปโิ ตรเลยี ม การแยก (Separation) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเคมี (Conversion) การปรบั ปรงุ คณุ ภาพ (Treating) การผสม (Blending) ขันตอนการกล่ันน้ามนั ปโิ ตรเลียม การแยก (Separation) แยกทางกายภาพ กลัน่ ลาดับส่วน นามันดิบทีแ่ ยกเกลอื แรอ่ อกแลว้ จดุ เดือด ผ่านเตาเผา 340-385℃ เดอื ดเป็นไอเขา้ สูห่ อกลน่ั เยน็ ลง เป็นของเหลวหลายสบิ ชัน 10

7/12/2019 กระบวนการกลนั่ นา้ มันปิโตรเลียม สารทีไ่ ดจ้ ากการกลั่นน้ามันปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์ทีไ่ ด้ จุดเดือด(°C) สถานะ จ้านวนอะตอมของคารบ์ อน การใช้ประโยชน์ แกส๊ ปโิ ตรเลียม < 30 แก๊ส 1–4 ทาสารเคมี แนฟทาเบา 30-110 ของเหลว 5-7 วสั ดุสังเคราะห์ เชือเพลงิ แนฟทาหนัก 65-170 ของเหลว 6-12 นามนั กา๊ ด 170-250 ของเหลว 10-19 แกส๊ หงุ ต้ม นามนั ดีเซล 250-340 ของเหลว 14-19 นามันเบนซนิ นามันหลอ่ ลนื่ > 350 ของเหลว 19-35 นามนั เบนซิน ทาสารเคมี ไข >500 ของแขง็ >35 เชอื เพลงิ เครอื่ งยนตไ์ อพ่น นามนั เตา >500 ของเหลวหนดื >35 และตะเกียง บทิ ูเมน > 500 ของเหลวหนืด >35 เชอื เพลิงเคร่ืองยนต์ดเี ซล นามันหล่อลน่ื นามันเครอ่ื ง เทยี นไข เครอ่ื งสาอางค์ ยาขัดมัน วตั ถดุ บิ สาหรับผลิตผงซกั ฟอก เชือเพลงิ เครือ่ งจักร ยางมะตอย วสั ดุกนั ซึม 11

7/12/2019 การปรับปรุงโครงสร้างของโมเลกุล 1. กระบวนการแตกสลาย ความร้อนสูง ตวั เร่งปฏิกิรยิ า C10H22 C8H12 + C2H6 เดคเคน ออกเทน อเี ทน มากกว่า เปลย่ี นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนโมเลกลุ ใหญซ่ ง่ึ ไมค่ ่อยมีประโยชน์ เป็นสารโมเลกุลเลก็ ทมี่ ปี ระโยชน์ 2. กระบวนการรีฟอร์มมงิ เปล่ยี นสารประกอบไฮโดรคารบ์ อนแบบโซต่ รงให้เป็นโซ่กง่ิ โดยใชค้ วามร้อนสูงและตัวเรง่ ปฎิกิรยิ า 23 การปรบั ปรงุ โครงสร้างของโมเลกุล 3. กระบวนการแอลคเิ ลชนั เปน็ การรวมสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน อัลเคนและอัลคนี ใหไ้ ดเ้ ปน็ สารประกอบไฮโดรคารบ์ อนที่มี โครงสร้างแบบโซก่ ่งิ โดยใชก้ รดซลั ฟิวรกิ เปน็ ตัวเรง่ ปฏกิ ิรยิ า 4. กระบวนการโอลโิ กเมอไรเซชัน เปน็ การรวมสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน อัลคนี เข้าดว้ ยกัน โดยใช้ความร้อนสงู และตวั เรง่ ปฎกิ ริ ยิ า จะ ได้เป็นสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน อลั คีน ท่มี จี านวนคาร์บอนเพ่ิมขึน 24 12

ผลติ ภัณฑ์จากปิโตรเลียม 7/12/2019 13 • กา๊ ซธรรมชาติ  สว่ นใหญ่ --- > กา๊ ซมเี ทน + ไฮโดรคารบ์ อนเบาชนิดอนื่  กอ่ นใช้งานต้องแยกส่งิ เจือปนบางชนดิ ออก  ในไทย --- > เชือเพลิงเครอ่ื งยนตแ์ ทนนามนั  อัดกา๊ ซใส่ถงั ภายใต้ความดนั สงู นาไปตดิ ตังในรถยนต์ --- > กา๊ ซธรรมชาติอดั หรือก๊าซธรรมชาติเหลว (CNG = Compressed Natural Gas)  มกี ารเผาไหม้ของเคร่อื งยนตท์ ส่ี ะอาดกวา่ --- > CO NO2 ต่า ไม่มีฝุ่น ผลิตภณั ฑ์จากปิโตรเลียม • ก๊าซปโิ ตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas : LPG) หรอื กา๊ ซหงุ ตม้  กา๊ ซโพรเพน (C3H8) + กา๊ ซบวิ เทน (C4H10) หรอื อย่างใด อยา่ งหนึง่  ประเทศเขตร้อน โพรเพน : บวิ เทน = 40:60 , 70:30  ไมม่ ีสี ไม่มีกลิ่น ปราศจากพษิ หนักกว่าอากาศ  ติดไฟไดเ้ องที่ 400 ℃  นยิ มเติมสารท่ีมกี ลน่ิ เชน่ เอทลิ เมอร์แคปแทน เพื่อจะได้ ทราบเม่อื มกี ๊าซรัว่ ไหล

7/12/2019 ผลิตภัณฑจ์ ากปโิ ตรเลียม • นา้ มันเบนซนิ  ได้จากการกล่นั นามนั ดิบ รอ้ ยละ 2-25  เป็นสารผสมทป่ี ระกอบไปด้วยสารประกอบไฮโดรคารบ์ อนประมาณ 400 ชนดิ แบง่ เป็น o พาราฟนิ o โคลพาราฟนิ o โอเลฟิน o โรแมตกิ  มสี ารเจือปนอ่นื --- > Pb P S  นามนั เบนซนิ ทม่ี ีคุณภาพดี ไม่ก่อมลพษิ --- > มีความสามารถในการระเหย คา่ ออกเทนสงู ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม • น้ามนั เชือเพลงิ เคร่ืองบิน  เครอื่ งบนิ ใบพัด o คล้ายกบั เครอ่ื งยนต์เบนซนิ ในรถยนต์ ทางานได้ดที คี่ วามดัน อุณหภูมเิ ปล่ียนแปลงในช่วงกว้าง o นามนั ต้องมีเลขออกเทนสงู เป็นพเิ ศษ จดุ เดอื ด จดุ หลอมเหลว ตา่ กว่านามนั เบนซินปกติ  เครอื่ งบินไอพน่ o ใชน้ ามันกา๊ ดเปน็ เชอื เพลงิ --- > มกี ารระเหยตัวตา่ o ปัจจบุ ันใช้เชอื เพลงิ ทีม่ จี ุดเดอื ดใกลเ้ คยี งกับนามันก๊าด แต่ บรสิ ุทธิ์ คุณสมบตั ิบางอย่างดกี วา่ 14

7/12/2019 ผลิตภณั ฑจ์ ากปโิ ตรเลยี ม • น้ามนั ดเี ซล  เกรดนามนั ดีเซล  ได้จากการกล่ันนามนั ดิบ o เกรด 1 --- > รถโดยสาร รถยนตส์ ว่ น บุคคล รถกระบะ  ใช้เฉพาะเคร่ืองยนตด์ ีเซล o เกรด 2 --- > รถบรรทุก รถแทรกเตอร์  ลักษณะใส สเี หลืองเลก็ น้อย มคี วามหนืดมากกวา่ นามันเบนซนิ จุดเดอื ด 250-350 ℃ o เกรด 3 --- > รถไฟดีเซล  ประกอบไปด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอน o เกรด 4 --- > เครือ่ งจักรไอนา เคร่ืองปั่นไฟ +SON เรอื เดนิ ทะเล ผลิตภณั ฑจ์ ากปโิ ตรเลยี ม  ประเภทของนามนั ดีเซล o ดีเซลหมนุ เร็ว --- > โซลา่ - ใชก้ ับเคร่อื งยนต์ทหี่ มนุ 1,000 รอบ/นาที ขึนไป - มีจาหนา่ ยมากตามปม๊ั นามันตา่ งๆ - รถบรรทกุ รถโดยสาร เคร่ืองป่นั ไฟขนาดเล็ก o ดเี ซลหมนุ ช้า --- > นามนั ขโี ล้ - ใชก้ บั เครอ่ื งยนต์ทห่ี มนุ 300-1,000 รอบ/นาที - รถไฟ เรือยนต์ เครื่องป่นั ไฟขนาดใหญ่ 15

ผลิตภณั ฑ์จากปโิ ตรเลยี ม 7/12/2019 16 • นามันก๊าด (Kerosene)  เป็นของผสมของสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน ท่ีมจี ดุ เดือด 150-300 ℃  มีทังพาราฟิน แนฟธา อะโรมาติกส์  ในไทย เดมิ ใช้เพอ่ื จดุ ตะเกียง ให้แสงสวา่ ง  ใช้อตุ สาหกรรมกระเบอื งเคลือบเซรามคิ ผลติ ภัณฑ์จากปโิ ตรเลยี ม • นามนั เตา (Fuel Oil)  เปน็ นามนั ส่วนลา่ งของหอกล่นั เปน็ นามนั ที่หนัก --- > กากกล่ัน  มจี ดุ เดือดตังแต่ 371-482 ℃ แต่อาจมีจุดเดอื ดต่า 211-371 ℃ ปนอย่บู ้าง ไมส่ ามารถระเหยในหอกลน่ั ได้  มสี ดี า มีสิง่ ตกค้างต่างๆ ปนอยู่ ราคาถกู ทสี่ ดุ  ใชเ้ ป็นเชอื เพลงิ สาหรับผลติ กระแสไฟฟา้ เครอ่ื งยนต์เรือเดิน สมทุ ร

7/12/2019 ผลิตภณั ฑจ์ ากปิโตรเลยี ม • ยางมะตอย (Asphalt)  ประกอบด้วยไฮโดรคารบ์ อนหลายชนิด และสารอินทรยี ์อน่ื ๆ --- > บทิ เู มน  เปน็ ของเหลวเหนยี ว หนืดกง่ึ แขง็ สนี าตาลเข้มหรอื สีดา  ใช้ทาถนน โดยใช้เปน็ วสั ดุผิวหนา้  ทาหนา้ ท่ีประสานระหวา่ งวัสดุ เชน่ หนิ และทราย เข้าเป็น เนือเดียวกัน  วัสดทุ น่ี ามาเทผวิ ถนน --- > แอสฟอลต์คอนกรีต เชอื เพลิงในอนาคต ก๊าซโซฮอล • สามารถใชท้ ดแทนนามันเบนซนิ พเิ ศษไร้สาร --- > Gasoline + Alcohol ตะกั่วออกเทน 95 ไดท้ ันที = Gaso + ohal = Gasohol • ไม่ตอ้ งปรบั แต่งเคร่อื งยนต์ เอทานอล + นามนั เบนซนิ • การผลิตก๊าซโซฮอลในประเทศไทย --- > เอทานอล ต้องมีความบริสทุ ธิ์ > 99.5% แนวพระราชด้ารใิ นพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั ร.๙ เมอื่ ปี ๒๕๒๘ โดยทดลองผลติ และใช้งานในโครงการส่วนพระองคส์ วน จิตรลดา 17

7/12/2019 ขันตอนการผลติ ก๊าซโซฮอล วตั ถุดิบ --- > ข้าว ขา้ วโพด มันสาปะหลงั ออ้ ย กากนาตาล ข้าวฟา่ งหวาน ย่อยสลาย + หมกั กลั่นแยกให้บริสทุ ธ์ิ เอทานอลบริสทุ ธิ์ 99.5% เอทานอล + เบนซิน 91 ก๊าซโซฮอล (แทนเบนซนิ 95) เครอ่ื งยนต์ ผลดีของการใชก้ า๊ ซโซฮอล ประเทศ • ชว่ ยประหยัดเชือเพลิง • ไมม่ ีผลต่อสมรรถนะการใชง้ าน อตั ราเรง่ ดกี ว่าหรอื ไม่ตา่ งจาก เบนซนิ 95 • ไม่ต้องเสยี ค่าใช้จ่ายปรบั แตง่ เครอ่ื งยนต์ • ประหยดั เงนิ ตราต่างประเทศ --- > ลดการนาเขา้ นามนั และสาร ปรุงแต่งหรือสารเพิ่มค่าออกเทน (MTBE : Methyl Tertiary Butyl Ether) • ชว่ ยยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร เชน่ ออ้ ย มนั สาปะหลงั ข้าวโพด • ลดมลพิษในอากาศ แกไ้ ขปญั หาส่ิงแวดลอ้ ม --- > เป็นพลงั งาน สะอาด ชว่ ยลดควันดา ฝนุ่ ละออกจากทอ่ ไอเสีย 18

7/12/2019 ไบโอดีเซลและดเี ซลปาล์มบรสิ ุทธ์ิ ไบโอดเี ซล นามนั พชื หรือไขมนั สัตว์ หรอื นามันจากการทอด มาใชเ้ ป็น เชือเพลิงในเครือ่ งยนต์ดีเซล ไบโอดเี ซลนา้ มันพืชหรือน้ามนั สตั ว์ ไบโอดีเซลลกู ผสม ไบโอดีเซลแบบเอสเทอร์ • นานามันพืช หรอื นามนั จาก สตั ว์ มาใช้กบั เครอ่ื งยนตด์ ีเซล • นามันพืช หรอื นามนั จากสตั ว์ • นานามันพืช หรอื นามันจากสตั ว์ โดยไมเ่ ตมิ สารเคมใี ดๆ + นามันก๊าด หรือนามนั ผ่านกระบวนการ Esterification ดีเซล --- > มีสมบัติใกล้เคียง (นามนั พืช หรือสัตว์ + • การสันดาปไมส่ มบรู ณ์ เคร่อื ง นามันดเี ซล แอลกอฮอล์ โดยใช้กรดหรอื ดา่ ง สะดดุ มีผลตอ่ ลูกสบู วาล์ว เปน็ ตวั เรง่ --- > เอสเทอร์ ) • ไส้กรองอดุ ตนั เหมาะกบั • ไม่คอ่ ยนิยมใช้ เคร่อื งจักรกลเกษตร • มสี มบตั เิ หมือนกับนามันดีเซล มากทส่ี ุด ขันตอนการผลติ ไบโอดีเซล นามันถว่ั เหลือง ทานตะวัน มะพรา้ ว สบู่ดา ปาล์ม นามนั ใชแ้ ล้ว นามันสตั ว์ บีบสกดั ด้วยตัวทาละลาย ทาให้บริสทุ ธ์ิ เตมิ เอทานอล / เมทานอล + ตัวเรง่ ปฏิกริ ิยา ไบโอดีเซล + กลเี ซอรนี ไบโอดเี ซลแบบเอสเทอร์ กลีเซอรนี กาจัดหรอื ทาสบู่ (แทนดเี ซล) 19

7/12/2019 ผลดขี องไบโอดเี ซล • ลดมลพษิ ในอากาศและเปน็ ผลดตี อ่ สิง่ แวดลอ้ ม • ลดการสูญเสียเงนิ ตราตา่ งประเทศจากการน้าเข้านา้ มัน • ประสทิ ธภิ าพการเผาไหมเ้ ครอ่ื งยนตด์ ขี ึน • ประหยัดเชอื เพลิงปิโตรเลยี ม • เพม่ิ รายได้แก่ภาคเกษตรของประเทศ การใชพ้ ลังงานชวี มวลโดยกระบวนการทางชวี ภาพ นาเศษวสั ดทาุ งการเกษตร มูลสัตว์ นาเสยี เตาหุงต้ม ตะเกียง เครือ่ งยนต์ เคร่ืองกาเนดิ ไฟฟา้ จากการเกษตร มาหมกั เพอ่ื ให้เกดิ การยอ่ ย สลายสารอินทรยี ์ภายใตไ้ ร้กา๊ ซออกซิเจน --- องคป์ระกอบสวนใหญ่ > กา๊ ซชวี ภาพ (Biogas) • กา๊ ซมเี ทน ประมาณ 50-75% --- > ตดิ ไฟ • กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 36-39% - -- > ไม่ติดไฟ • กา๊ ซชวี ภาพ 1 m3 มมี ีเทน 60% มคี ่าความ รอ้ น 5,000-5,500 kcal --- > นามันดีเซล 0.60 ลิตร / เบนซนิ 0.67 ลติ ร / ไฟฟ้า 1 kW-h / กา๊ ซหงุ ต้ม 0.46 kg / ไมฟ้ นื 1.5 kg 20

7/12/2019 การใช้พลังงานชวี มวลโดยกระบวนการทางชีวภาพ ของเสีย (สารอนิ ทรีย์) หมกั (โดยไม่ใชอ้ อกซเิ จน) ก๊าซชวี ภาพ กากตะกอน ปยุ๋ หงุ ตม้ ผลิตกระแสไฟฟ้า เครื่องทาความเยน็ , ความร้อน ตะเกยี งแสงสวา่ ง เครือ่ งกาเนิดไฟฟ้า 21