Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงาน 508

โครงงาน 508

Published by 20822, 2019-09-13 03:23:20

Description: โครงงาน 508

Search

Read the Text Version

โครงงานภาษาไทย เร่ือง ปริศนาคาทายในท้องถน่ิ เสนอ อาจารยพ์ รรณี จนั ทร์ณรงค์ โดย เดก็ หญิงมาลินี หนูคุม้ เดก็ หญิงจิตติมา จินดาอ่อน เดก็ หญิงปิ่ นอนงค์ ทิพยโ์ พธ์ิ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๖ โรงเรียนวดั ปากด่าน สปอ. ปะทิว สปจ. ชุมพร ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๔๔

ชื่อโครงงาน ปริศนาคาทายในทอ้ งถิ่น ผู้จดั ทา ๑. เดก็ หญิงมาลินี หนูคุม้ ๒. เดก็ หญิงจิตติมา จินดาอ่อน ๓. เดก็ หญิงป่ิ นอนงค์ ทิพยโ์ พธ์ิ อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารยพ์ รรณี จนั ทร์ณรงค์ ปี การศึกษา ๒๕๔๔

บทคดั ย่อ โครงงานภาษาไทย เร่ือง ศึกษาปริศนาคาทานายในทอ้ งถิ่นน้ี จดั ทา ข้ึนเพ่อื รวบรวมปริศนาคาทายในทอ้ งถิ่น ท่ีมาจากภูมิปัญญาของชาวบา้ น ซ่ึง นบั วนั จะหมดไป เพราะขาดการเผยแพร่และสืบต่อกนั มา คณะผจู้ ดั ทา รวบรวมไวเ้ พื่อที่จะไดเ้ ผยแพร่แก่ผทู้ ่ีสนใจ การศึกษาปริศนาคานายใน ทอ้ งถ่ินน้ีไดศ้ ึกษาจากคนแก่ๆในหมู่บา้ นโดยตรง โดยการออกสัมภาษณ์ นอกเวลาเรียนแลว้ จดบนั ทึกไว้ ซ่ึงในปริศนาคาทานายท่ีไดน้ ้นั มีท้งั ภาษาถ่ิน คาผวน คาคลอ้ งจอง คาศพั ทแ์ ปลก ๆ และมีการใชภ้ าษาสองแง่สองง่าม ปริศนาคาทายท่ีไดศ้ ึกษามีคุณค่ามาก สามารถรวบรวมได้ ๑๐๐ ปริศนาคา ทาย และแยกเป็นหมวดได้ ๘ หมวด เพื่อใหน้ กั เรียนรุ่นหลงั ไดศ้ ึกษาสืบไป

กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานภาษาไทย เรื่องศึกษาปริศนาคาทายในทอ้ งถิ่น คณะผจู้ ดั ทา สามารถจดั ทาโครงงานน้ีสาเร็จไดด้ ว้ ยดี เน่ืองจากไดร้ ับคาแนะนาท่ีดีและ คอยสนบั สนุนดา้ นวสั ดุอุปกรณ์จากอาจารยพ์ รรณี จนั ทร์ณรงค์ ซ่ึงเป็น อาจารยส์ อนวิชาภาษาไทย ช้นั ประถมปี ท่ี ๖ และผทู้ ่ีใหป้ ริศนาคาทายไดแ้ ก่ นางลิ้ม แยม้ โสพศิ นายแก่น ปานุมตั ิ นายอ่ิน พรหมรักษ์ นางหลิม ปานุมตั ิ นายสุรัตน์ เนียมสุวรรณ นายสมบูรณ์ เนียมสุวรรณ นาย ประเทือง จุลพมุ นอกจากน้ีกม็ ีอาจารยใ์ หญ่ใหย้ มื กลอ้ งถ่ายรูปและมีเพือ่ นๆ ช่วยทาแผงเพือ่ นาเสนอโครงงาน คณะผูจ้ ดั ทาขอขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูง ณ โอกาสน้ี คณะผจู้ ดั ทา

สารบัญ หน้า เรื่อง บทคดั ยอ่ ๑ กิตติกรรมประกาศ ๓ บทท่ี ๑ บทนา ๕ บทที่ ๒ เอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง ๗ บทท่ี ๓ วิธีดาเนินการศึกษา ๘ บทที่ ๔ ผลการศึกษา ๑๒ - ปริศนาคาทายหมวดสัตว์ ๑๖ - ปริศนาคาทายหมวดพชื ๒๗ - ปริศนาคาทายหมวดของใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ๒๙ - ปริศนาคาทายหมวดอวยั วะ ๓๓ - ปริศนาคาทายหมวดการทามาหากิน ๓๔ - ปริศนาคาทายหมวดการใชค้ าผวน ๓๖ - ปริศนาคาทายหมวดการใชภ้ าษาสองแง่สองง่าม - ปริศนาคาทายหมวดทว่ั ไป

บทที่ ๕ สรุปผลการศึกษา ๔๐ บรรณานุกรม ๔๓ ภาคผนวก - รายช่ือผรู้ ู้ในหมู่บา้ น - ภาพประกอบข้นั ตอนการทางาน

บทท่ี ๑ บทนา ๑. ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน จากการเรียนภาษาไทยจะมีการนาปริศนาคาทาย มาทายกนั อยู่ เสมอ โดยมากนามาจากหนงั สือ ซ่ึงเป็นคาถามที่คลา้ ยๆกนั ทาใหไ้ ม่ชวน ติดตามเมื่อไดฟ้ ังปริศนาคาทายจากคนแก่ๆในหมู่บา้ น รู้สึกสนุกสนาน น่าสนใจ เพราะมีท้งั ภาษาถิ่นที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้ความหมาย มีคาคลอ้ งจอง ซ่ึง บางปริศนาจะสร้างคาใหม่ข้ึนใชเ้ พอื่ ใหม้ ีสัมผสั คลอ้ งจอง มีคาผวนชวนให้ คิด บางปริศนากใ็ ชภ้ าษาสองแง่สองง่ามทาใหก้ ารทายมีความสนุกสนาน คาตอบของปริศนาคาทายส่วนมากเป็นส่ิงใกลต้ วั และเก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตประจาวนั สามารถคิดหาคาตอบไดง้ ่าย ปริศนาคาทายในทอ้ งถ่ินเป็นความคิดของคนในทอ้ งถิ่น แสดง ใหเ้ ห็นถึงภูมิปัญญาในการใชภ้ าษาของชาวบา้ น ถือเป็นวฒั นธรรมทางภาษา ของทอ้ งถ่ินสมาชิกในกลุ่มเห็นวา่ ปริศนาคาทายในทอ้ งถิ่นน้ีน่าศึกษาและ รวบรวมไวเ้ ผยแพร่ใหผ้ อู้ ื่นไดร้ ู้จกั และศึกษา เพ่อื เป็นการอนุรักษม์ รดกทาง ภาษาของทอ้ งถ่ิน จึงไดจ้ ดั ทาโครงงานน้ีข้ึน ๒. วตั ถุประสงค์ในการศึกษา ๑. เพอื่ รวบรวมปริศนาคาทายในทอ้ งถ่ิน ๒. เพ่ือนาปริศนาคาทายมาทายกนั ในเวลาวา่ ง ๓. เพ่อื จดั ทาเอกสารเผยแพร่ในโรงเรียนและผทู้ ่ีสนใจ ๔.. เพ่ืออนุรักษม์ รดกทางวฒั นธรรมของทอ้ งถ่ิน

๓. ขอบเขตของการศึกษา เนื้อหา ศึกษาและรวบรวมปริศนาคาทายในเขตหมู่บา้ นปากด่าน บา้ น ดอนคาและบา้ นดอนเมา ซ่ึงอยใู่ นตาบลสะพลี อาเภอปะทิว จงั หวดั ชุมพร แหล่งศึกษา ศึกษาจากผรู้ ู้ในหมู่บา้ น โดยการสมั ภาษณ์และจดบนั ทึก รวบรวมไว้ ระยะเวลา ใชเ้ วลาในการศึกษาระหวา่ งวนั ที่ ๑ - ๑๔ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นเวลา ๒ สัปดาห์ ๔. สมมุตฐิ านในการศึกษา ปริศนาคาทายในทอ้ งถิ่นเป็นภูมิปัญญาชาวบา้ นและเป็นมรดกทาง วฒั นธรรมของทอ้ งถ่ินท่ีมีค่าและน่าศึกษาและควรเผยแพร่เพื่อเป็นการ อนุรักษไ์ วใ้ หอ้ ยคู่ ู่ทอ้ งถ่ินตลอดไป ๕. ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ ๑. ไดป้ ริศนาคาทายในทอ้ งถิ่นไวท้ ายในเวลาวา่ งและเผยแพร่ใหแ้ ก่ผู้ ที่สนใจไดศ้ ึกษา ๒. ปริศนาคาทายในทอ้ งถ่ินเป็นที่รู้จกั ของเพอื่ นๆ นอ้ ง ๆ และบุคคล ที่สนใจไม่สูญหายไปจากทอ้ งถิ่น

บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง ปริศนาคาทายคือ ปัญหาหรือคาถามซ่ึงผถู้ ามอาจจะถามตรงๆ หรือถาม ทางออ้ มกต็ าม คาถามอาจจะใชถ้ อ้ ยคาธรรมดาเป็นภาษาร้อยแกว้ หรือจะมี สมั ผสั แบบภาษาร้อยกรองกไ็ ด้ภาษาท่ีใชน้ ้นั เป็นภาษาส้นั ๆ ง่าย ๆ กระชบั ความแต่ยากแก่การตีความในตวั ปริศนาอยบู่ า้ ง ส่วนคาไข มกั จะเป็นส่ิงที่พบ เห็นในชีวิตประจาวนั ในสมยั น้นั ๆ และในบางคาถามน้นั มกั จะมีเคา้ หรือ แนวทางสาหรับคาตอบ ซ่ึงผตู้ อบจะตอ้ งใชก้ ารสังเกต ความคิดและไหวพริบ ในการคิดหาคาตอบในสมยั ก่อนนิยมเลน่ กนั ท้งั เดก็ และผใู้ หญ่ มกั จะเลน่ กนั ในยามวา่ งจากการงาน เช่นตอนหวั ค่าหลงั จากรับประทานอาหารเยน็ แลว้ บรรดาสมาชิกในครอบครัวหรืออาจจะมีเพือ่ นบา้ นใกลเ้ คียงมาร่วมดว้ ยกไ็ ด้ จะนง่ั ลอ้ มวงกนั หรือนงั่ ตามสบาย ผทู้ ายจะผลดั กนั แลว้ แต่วา่ ใครจะคิด ปัญหาได้ ถา้ มีผตู้ อบถูก ผตู้ อบคนน้นั กม็ ีสิทธ์ิลงโทษผทู้ าย เช่น ใหด้ ื่มน้า ให้ เขกหวั เป็นตน้ แต่ถา้ ตอบไม่ไดผ้ ทู้ ายกม็ ีสิทธ์ิจะลงโทษผตู้ อบท้งั หมด เช่นกนั เมื่อผตู้ อบปฏิบตั ิตามแลว้ ผทู้ ายกจ็ ะเฉลยปัญหาของตน แลว้ กจ็ ะทาย ปัญหาใหม่ต่อไป การเลน่ ทายปริศนานอกจากจะทาใหผ้ เู้ ลน่ ไดร้ ับความ สนุกสนานเพลิดเพลินแลว้ ยงั ช่วยฝึกใหม้ ีนิสัยช่างสงั เกต ช่างคิดและไดร้ ับ ความรู้ต่างๆ เป็นผลพลอยได้ เช่นความรู้เก่ียวกบั สานวนภาษา สังคมวิทยา และธรรมชาติวิทยา เป็นตน้

ประเภทของปริศนาคาทายทว่ั ไปได้จัดหมวดหมู่ไว้ดงั นี้ ๑. ปริศนาที่เปรียบกบั สิ่งมีชีวิตแต่ไม่ทราบแน่ชดั วา่ เป็นคนหรือสตั ว์ เช่น อะไรเอย่ มีปาก ไม่มีฟันกินขา้ วทุกวนั ไดม้ ากกว่าคนอื่น (หมอ้ ขา้ ว) ๒. ปริศนาท่ีเปรียบกบั สัตวต์ วั เดียว เช่น อะไรเอย่ ตวั อยนู่ า ตาอยบู่ า้ น ( ตาปู ) ๓. ปริศนาท่ีเปรียบกบั สัตวห์ ลายตวั เช่น อะไรเอ่ย จะว่านกกไ็ ม่ใช่นก จะวา่ กากไ็ ม่ใช่กา บินมาใตเ้ ขา (หูววั หูควาย ) ๔. ปริศนาเปรียบเทียบบุคคลคนเดียว เช่น อะไรเอ่ย ตาแก่หวั โลน้ กระโจนน้าแต่ดึก ( ขนั ตกั น้า ) ๕. ปริศนาที่เปรียบเทียบกบั บุคคลหลายคน เช่น อะไรเอย่ พระหน่อนอนกลาง พระนางนอนริม พระหน่อลุกข้ึนท่ิม พระนางยมิ้ แฉ่ง (ไมข้ ีดไฟ ) ๖. ปริศนาท่ีเปรียบกบั พืช เช่น อะไรเอ่ย ตน้ เท่าครก ใบปรกดิน ( ตะไคร้ ) ๗. ปริศนาท่ีเปรียบกบั ส่ิงไม่มีชีวติ เช่น อะไรเอ่ย เวลาใชเ้ อาทิ้ง เวลาไม่ใชเ้ กบ็ ไวบ้ นหวั ( สมอเรือ )

๘. ปริศนาที่ใหร้ ายละเอียดเกี่ยวกบั การเปรียบเทียบ เช่น อะไรเอ่ย ขาวเหมือนนกยาง มีแต่รังไม่มีไข่ ( งอบ ) ๙. ปริศนาท่ีใหร้ ายละเอียดเก่ียวกบั รูป และอาการ เช่น อะไรเอย่ ตูดเป็นขน กน้ เป็นเหล่ียม ( กระเทียม กระบุง ) ๑๐. ปริศนาท่ีใหร้ ายละเอียดเกี่ยวกบั สี เช่น อะไรเอ่ย ชกั ออกมาดา ตาเขา้ ไปแดง ( ไมข้ ีดไฟ ) ๑๑. ปริศนาที่ใหร้ ายละเอียดเก่ียวกบั การกระทา เช่น อะไรเอ่ย เชา้ มา เยน็ กลบั ( พระอาทิตย์ ) ๑๒. ปริศนาเกี่ยวกบั ภาษา เช่น อะไรเอ่ย ตดั หวั ตดั หาง เหลือกลางวาเดียว ( ควาย หรือกวาง ) ปริศนาคาทายในท้องถ่ิน หมายถึงปริศนาคาทายท่ีคนในทอ้ งถิ่นคิด ข้ึนมาเพอื่ ใชท้ ายกนั เฉพาะคนในทอ้ งถ่ิน โดยใชภ้ าษาถ่ินของตนเป็นหลกั ทาใหค้ นต่างถิ่นเขา้ ใจยาก แต่มีคาสัมผสั คลอ้ งจองเหมือนปริศนาคาทาย ทวั่ ไปส่วนคาตอบกเ็ ป็นของใกลต้ วั และมีใชใ้ นทอ้ งถ่ิน

บทท่ี ๓ วธิ ีดาเนินการศึกษา ๑. เคร่ืองมือทใ่ี ช้ - แบบบนั ทึก - ดินสอ ปากกา - กลอ้ งถ่ายรูป ๒. แหล่งศึกษาค้นคว้า - สมั ภาษณ์ผรู้ ู้ในหมู่บา้ นปากด่าน บา้ นดอนเมาและบา้ นดอนคา - พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน - พจนานุกรมภาษาถ่ิน ๓. วธิ ีการศึกษา ข้นั ท่ี ๑ ข้นั ศึกษา - เสนอโครงสร้างของโครงงานต่อครูและขอคาปรึกษา - ประชุมสมาชิกในกลุ่มแบ่งเขตศึกษาคน้ ควา้ - จดบนั ทึกความรู้เดิม - สารวจผรู้ ู้ในชุมชน ในครอบครัวและเพอื่ นๆ - รวบรวมปริศนาคาทายแต่ละเขต พร้อมคาตอบ - แยกหมวดปริศนาคาทาย

- จดั ทาผลงานเป็นรูปเล่ม นาเสนอต่ออาจารยท์ ี่ปรึกษา เพอ่ื แกไ้ ข ปรับปรุงส่วนท่ีบกพร่อง ข้นั ที่ ๒ ข้นั นาเสนอผลงาน - แนะนาและช้ีแจงการจดั ทาโครงงาน หนา้ ช้นั เรียน - เสนอผลงาน - แนะนานกั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพมิ่ เติม - จดั ทาเอกสารเผยแพร่ผลงาน - จดั นิทรรศการในช้นั เรียน

บทท่ี ๔ ผลการศึกษา จากการศึกษาปริศนาคาทายในทอ้ งถิ่นตาบลสะพลี เขตบา้ นปากด่าน บา้ นดอนเมาและบา้ นดอนคาน้นั สามารถรวบรวมปริศนาคาทายได้ ๑๐๐ คาทาย และแยกออกเป็นหมวดๆไดท้ ้งั หมด ๘ หมวด ดงั น้ี ๑. ปริศนาคาทายหมวดสตั ว์ ๒.ปริศนาคาทายหมวดพืช ๓. ปริศนาคาทายหมวดของใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ๔. ปริศนาคาทายหมวดอวยั วะ ๕. ปริศนาคาทายหมวดการทามาหากิน ๖. ปริศนาคาทายหมวดคาผวน ๗. ปริศนาคาทายหมวดการใชภ้ าษาสองแง่สองง่าม ๘. ปริศนาคาทายหมวดทว่ั ไป

ปริศนาคาทายหมวดสัตว์ ๑. อะไรเอ่ย ส่ีตนี ผาดโผน สองโคนหกยอด คาคลอ้ งจอง โผน – โคน ความหมาย เป็นสตั วส์ ่ีเท่า มีเขาสองเขาแต่ปลายเขา มีหกยอด คาตอบ กวาง ๒. อะไรเอ่ย ฤๅษอี ยู่ในถา้ นอนควา่ ทงหัวเขา คาคลอ้ งจอง ถ้า – ควา่ ความหมาย ทงหวั เข่า ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง งอเขาแลว้ ยกข้ึน ถ้า หมายถึง รู คาตอบ จิง้ หรีด ๓. อะไรเอ่ย ไอ้ขนยนไอ้แขวน นา้ ออก คาคลอ้ งจอง ขน – ยน ความหมาย ไอข้ นหมายถึง สตั วท์ ี่มีขน ยน เป็นภาษาถ่ิน หมายถึง กระแทกเขา้ ไปแรงๆ ไอแ้ ขวน หมายถึง ผลมะพร้าวที่ติดอยกู่ บั ทะลายบนตน้ คาตอบ กระรอกเจาะมะพร้าว

๔. อะไรเอ่ยแบกขวานขนึ้ หมาก แบกขวากขนึ้ เขา นกเภาตอี ู่ ตนี ทู่ ลงนา้ คาคลอ้ งจอง หมาก- ขวาก เขา – เภา อู่ – ทู่ ความหมาย แบกขวานข้ึนหมาก หมายถึง เอาขวานข้ึนบนตน้ ไม้ คือนก หวั ขวาน แบกขวาก หมายถึง มีหนาม แหลม คือ เม่น นกเภาตีอู่ หมายถึง การหมุนส่ายตะแกรงชอ้ นกงุ้ ในน้าให้ น้าวนเพ่ือใหก้ งุ้ เขา้ อยใู่ นตะแกรง คือ ตะแกรงชอ้ นกงุ้ ตีนทู่ลงน้า หมายถึง สัตวท์ ่ีมีเทา้ ทู่ ๆ ชอบเลน่ น้า คือ ชา้ ง คาตอบ นกหัวขวาน เม่น ตะแกรงช้อนก้งุ และช้าง ๕. อะไรเอ่ย ตะโจหุ้มมังสัง โลมายงั ทั่วกายี บัพโตโงหากนั สองเนตรน้ัน อยู่ใต้ครี ี ทันตะบนไม่มี แลให้ดขี ้างล่างยัง คาคลอ้ งจอง สัง – ยงั โต – โง กนั – น้นั รี – มี – ดี ความหมาย ตะโจหุม้ มงั สา หมายถึง หนงั หุม้ เน้ือ โลมายงั ทวั่ กายี หมายถึง มีขนอยทู่ วั่ บพั โตโงหากนั หมายถึง เขาโงง้ เขา้ หากนั (โง เป็นภาษาถิ่น) สองเนตรน้นั อยใู่ ตค้ ีรี หมายถึง มีสองตาใตเ้ ขา ทนั ตะบนไม่มี หมายถึง ไม่มีฟันบน

และใหด้ ีขา้ งลา่ งยงั แล เป็นภาษาถิ่น หมายถึง ดู แปลวา่ ฟันลา่ งยงั มี คาตอบ ควาย ๖. อะไรเอ่ย นอนควา่ เห็นลาย นอนหงายเห็นตบั นอนไม่หลบั ยกขึน้ ว่าเพลง คาคลอ้ งจอง ลาย – หงาย ตบั – หลบั ความหมาย ลาย หมายถึง ลายเส่ือ ตบั หมายถึง ตบั จากมุงหลงั คา ยกข้ึน เป็นภาษาถ่ิน หมายถึง ลุกข้ึน วา่ เพลง เป็นภาษาถ่ิน หมายถึง ร้องเพลง คาตอบ เส่ือ จาก และไก่ ๗. อะไรเอ่ย สองสกุณา มีนามเรียกว่า ขังไว้ไม่อยู่ คู้ไว้ไม่เข้า ปักษีน้ันเล่า คือใคร คาคลอ้ งจอง ณา – วา่ อยู่ – คู้ เขา้ – เล่า ความหมาย สองสกณุ า หมายถึง นกสองชนิด ขงั ไวไ้ ม่อยู่ หมายถึง ออก คูไ้ วไ้ ม่เขา้ หมายถึง คูไ้ ม่ได้ ตอ้ งแอน่ ไว้

คาตอบ นกออก นกนางแอ่น ๘. อะไรเอ่ย สัตว์ส่ีตนี กนิ ตนี เดยี ว สัตว์หัวเขยี วกนิ สัตว์ปากควา่ เต่ากนิ เห็ด เป็ ดกนิ หอย ต้นทาย ปลายบอก คาคลอ้ งจอง เดียว – เขียว เห็ด – เป็ด ทาย – ปลาย ความหมาย มีตีนเดียว หมายถึง เห็ด สัตวห์ วั เขียว หมายถึง เป็ด สตั วป์ ากคว่า หมายถึง หอย ตน้ ทาย ปลายบอก หมายถึง ขอ้ ความขา้ งตน้ เป็นคาทาย ส่วนขอ้ ความขา้ งหลงั เป็นการบอกคาตอบ คาตอบ เต่ากนิ เห็ด เป็ ดกนิ หอย ๙. อะไรเอ่ย ตัวดาเหมือนกา บนิ มาเหมือนนก ส่ีปี กตนี หก ตที ุ่มลงนา้ คาคลอ้ งจองกา – มา นก – หก ความหมาย สี่ปี กตีนหก หมายถึง มีปี กสีปี ก คือปี กใน ๒ ปี ก ปี กนอก ๒ ปี ก ตีนหก หมายถึง มี ๖ เทา้ ตีทุ่ม หมายถึง วา่ ยน้า คาตอบ เต่าเหนี่ยง ( ภาษาถ่ิน ) แมลงเหน่ียง ( ภาษากลาง )

๑๐. อะไรเอ่ย ตัวดาเหมือนกา บนิ มาเหมือนนก สี่ปี กตหี ก เจาะต้นไม้ตาย คาคลอ้ งจองกา – มา นก – หก ความหมาย ส่ีปี กตีนหก หมายถึง มีปี กส่ีปี ก คือปี กใน ๒ ปี ก ปี กนอก ๒ ปี ก ตีนหก หมายถึง มี ๖ เทา้ เจาะตน้ ไมต้ าย หมายถึง เจาะรูอยทู่ ่ีตน้ ไมผ้ ุ ๆ คาตอบ แมลงภู่

ปริศนาคาทายหมวดพืช ๑. อะไรเอ่ย ไอ้แดงไปเท่ียว ไอ้เขยี วอยู่บ้าน คาคลอ้ งจองเที่ยว – เขียว ความหมาย ไอแ้ ดงไปเที่ยว หมายถึง ที่เป็นสีแดงเขาเกบ็ ไปกิน ไอเ้ ขียวอยบู่ า้ น หมายถึง สีเขียวอยกู่ บั ตน้ คาตอบ พริก ๒. อะไรเอ่ย ถอดพลกแดงแจ๋ มองแลรูว่ง คาคลอ้ งจองแจ๋ – แล ความหมาย ถอดพลก หมายถึง ดึงออกอยา่ งรวดเร็ว ( พลกเป็นภาษาถ่ิน ) แดงแจ๋ หมายถึง แดงมาก ( แจ๋ เป็นภาษาถิ่น ) มองแล หมายถึง เห็น ( แล เป็นภาษาถ่ิน ) รูวง่ หมายถึง รูกลวง ( วง่ เป็นภาษาถิ่น ) คาตอบ มะขาม ( ฝักมะขามแหง้ เมื่อดึงเน้ือสีแดงออกเหลือแต่ เปลือกจะเป็นรูโหวก่ ลวง)

๓. อะไรเอ่ย เลก็ ๆ นุ่งผ้า พอใหญ่ขึน้ มาแก้ผ้าโพกหัว คาคลอ้ งจองผา้ – มา – ผา้ ความหมาย พอใหญ่ข้ึนมา ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง เมื่อโตข้ึน คาตอบ มะเขือ ๔. อะไรเอ่ย สุกไม่หอมงอมไม่หล่น เหลืองคาต้น คนกนิ ได้ คาคลอ้ งจอง หอม – งอม หล่น – ตน้ คาตอบ ข้าว ๕. อะไรเอ่ย นกคูดตูดตนั ผลดั ขนทุกวัน คาคลอ้ งจอง คูด – ตูด ตนั – วนั ความหมาย นกคูด ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง นกกะปูด ตูดตนั หมายถึง กน้ ไม่มีรู คาตอบ หัวปลี ( เมื่ออยบู่ นตน้ จะสลดั เปลือกทิ้งวนั ละเปลือก )

๖. อะไรเอ่ย ค่อนไม้พกุ ไปถูกไม้แก่น เจอแท่นดนิ สอ พบบ่อนา้ ใส คาคลอ้ งจองพกุ – ถกู แก่น – แท่น สอ – บ่อ ความหมาย คอ่ น ( ภาษาถ่ิน ) หมายถงึ โค่น พกุ ( ภาษาถิ่น ) หมายถงึ ผุ แก่น ( ภาษาถ่ิน ) หมายถงึ แขง็ แทน่ ( ภาษาถ่ิน ) หมายถงึ แทง่ ไม้พกุ ( ไม้ผุ ) หมายถงึ เปลอื กมะพร้าว ไม้แก่น หมายถึง กะลา แทน่ ดนิ สอ ( แทง่ ดินสอ ) หมายถงึ เนือ้ มะพร้าว บ่อนา้ ใส หมายถงึ นา้ มะพร้าว ความหมาย มะพร้าว ๗. อะไรเอ่ย ต้นเท่าครก ใบหกวา คาคลอ้ งจอง ครก – หก คาตอบ มะพร้าว ๘. อะไรเอ่ย ต้นเท่าขา ใบวาเดยี ว คาคลอ้ งจอง ขา – วา คาตอบ หมาก

๙. อะไรเอ่ย ต้นเท่าแขน ใบแล่นเสี้ยว คาคลอ้ งจองแขน – แลน่ ความหมาย ใบแลน่ เส้ียว หมายถึง เสน้ ใบตรง คาตอบ อ้อย ๑๐. อะไรเอ่ย เล็ก ๆ นุ่งผ้าพอใหญ่ขึน้ มาแก้ผ้าไว้โคน คาคลอ้ งจอง ผา้ – มา – ผา้ ความหมาย พอใหญ่ข้ึนมา หมายถึง เมื่อเติบโตข้ึน คาตอบ ไผ่ ๑๑. อะไรเอ่ย ต้นเท่าลาเรือ ใบห่อเกลือไม่เม็ด คาคลอ้ งจอง เรือ – เกลือ ความหมาย ไม่เมด็ ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง ไม่มิด คาตอบ มะขาม

๑๒. อะไรเอ่ย ไอ้เขยี วหางเรียวชี้ฟ้า พอใหญ่ขนึ้ มานุ่งผ้าแดงแปร๊ด คาคลอ้ งจองเขียว – เรียว ฟ้า – มา – ผา้ ความหมาย พอใหญ่ข้ึน หมายถึง เมื่อโตข้ึน คาตอบ พริกชี้ฟ้า ๑๓. อะไรเอ่ย นกไม่ใช้นก ถึงเดือนหกร้องเอ๊าะ ๆ คาคลอ้ งจองนก – หก คาตอบ ดอกลาพู ๑๔. อะไรเอ่ย มาจากเมืองเทศ มจี ุกบนเกศ มีตารอบตัว คาคลอ้ งจองเทศ – เกศ ความหมาย เมืองเทศ หมายถึง เมืองนอก คาตอบ สับปะรด ๑๕. อะไรเอ่ย หางพวงเหมือนกระรอก ยอกเท้าพระยา ยอกสกสีกา ยอกมึงยอกกู ยอกสูยอกเรา คาคลอ้ งจองรอก – ยอก ยา – กา กู – สู ความหมาย สก หมายถึง ประสก แปลวา่ ชายที่นบั ถือศาสนาพทุ ธ คาตอบ หญ้าเกรย ( ภาษากลาง ใช้ หญา้ เจา้ ชู้ )

ปริศนาคาทายหมวดของใช้ในชีวติ ประจาวนั ๑. อะไรเอ่ย ไอ้สูงจูงไอ้วลั ย์ รบกนั ในห้วย ขีเ้ มาเข้าช่วย เลือดย้อยหลามไหล คาคลอ้ งจองสูง –จูง วลั ย์ –กนั หว้ ย – ช่วย ความหมาย ไอส้ ูง หมายถึง พชื ที่อยสู่ ูง ไอว้ ลั ย์ หมายถึง พชื ที่เป็นเถา ในหว้ ย หมายถึง ปาก ข้ีเมา หมายถึง สิ่งที่เสพแลว้ เมา เลือดยอ้ ยหลามไหล หมายถึง มีของเหลวสีแดงไหลออกมา คาตอบ คนกินหมาก ๒. อะไรเอ่ย กะริดต๊ิดตี มขี นลุกขสี้ องเส้น คาคลอ้ งจองริด – ต๊ิด ต่ี – ข้ี ความหมาย กะริดติ๊ดต่ี หมายถึง เสียงของจกั ร ลกุ ข้ี ( ภาษาถ่ิน ) หมายถึง กน้ คาตอบ จักรเยบ็ ผ้า

๓. อะไรเอ่ย กดหัวพงุ ป้ง ความหมาย พงุ ป้ง ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง ทอ้ งป่ อง คาตอบ สาแหรก ๔. อะไรเอ่ย ผูกคอเพ่ือนแล้ว ตหี ัวเพ่ือนเล่า คาคลอ้ งจอง ไม่มี ความหมาย ตีหวั เพ่ือนเลา่ ( ภาษาถ่ิน ) หมายถึง ตีหวั เพอ่ื นอีก คาตอบ หลกั ล่ามควาย ๕. อะไรเอ่ย สีซุ้มสี่เสา สีซุ้มนกเขา สีเสานางนอน คาคลอ้ งจอง เสา – เขา – เสา ความหมาย ใชเ้ สาส่ีตน้ สาหรับผกู เพอื่ ใชใ้ นการนอน คาตอบ มุ้ง ๖. อะไรเอ่ย ฝ่ ายโน้นกเ็ ขา ฝ่ ายนีก้ ็เขา เรือสาเภา แล่นตรงกลาง คาคลอ้ งจอง เขา – เภา ภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ หูกทอผ้า

๗. อะไรเอ่ย แม่กรุก ลูกกรัก แม่ฟัก ลูกไข คาคลอ้ งจอง กรัก – ฟัก ความหมาย แม่กรุก ลกรัก แม่ฟัก เป็นการกล่าวถึงแม่ไก่ และลูกไก่เพือ่ ให้ คนตอบเขว ส่วนที่ตอ้ งการคาตอบคือ ลูกไข ซ่ึงเป็นภาษาทอ้ งถ่ิน หมายถึง ลกู กญุ แจ คาตอบ กญุ แจ ๘. อะไรเอ่ย ขลกุ ๆ เขลยี ะ ๆ หัวเปี ยะ น้อยหน่ึง คาคลอ้ งจอง เขลยะ – เปี ยะ ความหมาย ขลุกๆเขลียะๆ เสียงดงั เปี ยะ หมายถึง เปี ยก ( การใชภ้ าษาท่ีประสมสระเสียง) ยาว มี ก สะกด เมื่อเป็นภาษาถ่ิน ก สะกดจะหายไปแลว้ เสียงจะ เปลี่ยนเป็ นสระเสียงส้ นั นอ้ ยหน่ึง หมายถึง นิดเดียว คาตอบ กระบวยตกั นา้

๑๐. อะไรเอ่ย สี่เหลยี่ มจตุรัส ท้าวพรหมทัตออกจากเมือง บ่าวไพร่ก็ตาย เปลือง เหลือแต่ม้าไม่มรี ถ คาคลอ้ งจอง รัส – ทตั เมือง – เปลือง ภาษาถิ่น ไม่มี คาตอบ กระดานหมากรุก ๑๑. อะไรเอ่ย เช้ากร็ ูรี่ เยน็ กร็ ู่ร่ี กอดลุกขีก้ นั นอน คาคลอ้ งจอง ร่ี – ข้ี ความหมาย รู่ร่ี หมายถึง มีเสียงไม่ดงั มากนกั ลุกข้ี ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง กน้ คาตอบ ถ้วยชาม ๑๒. อะไรเอ่ย ตวั ดามิดหมี ยงิ่ ตยี ง่ิ กัด คาคลอ้ งจอง หมี – ตี ความหมาย ดามิดหมี ( ภาษาถ่ิน ) หมายถึง ดามาก คาตอบ สิ่ว

๑๓. อะไรเอ่ย ตา่ แสนต่า ต้องขนึ้ คาคลอ้ งจองไม่มี ความหมาย ต่าแสนต่า หมายถึง ต่ามาก คาตอบ กระต่ายขูดมะพร้าว ๑๔. อะไรเอ่ย นกคูดตาแดง นา้ แห้งตาย คาคลอ้ งจอง แดง – แหง้ ความหมาย นกคูด ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง นกกะปูด น้า ในที่น้ี หมายถึง น้ามนั คาตอบ ตะเกียง ๑๕. อะไรเอ่ย ดาเหมือนจรกา มตี าข้างเดยี ว คาคลอ้ งจอง กา – ตา คาตอบ ทะนาน ( ทาจากกะลามะพร้าว ) ๑๖. อะไรเอ่ย ตาแป๊ ะ หลงั ก๋ง ลงนา้ ไม่ข้น คาคลอ้ งจอง ก๋ง – ลง ความหมาย หลงั ก๋ง ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง หลงั โกง

ขน้ ( ภาษาถิ่น ) หมายถึง ข่นุ คาตอบ เบ็ดตกปลา ๑๗. อะไรเอ่ย ต้นเท่าลาหวาย ลูกกระจายทั่วแม่นา้ คาคลอ้ งจอง หวาย – จาย คาตอบ แห ๑๘. อะไรเอ่ย ไม้ปักกลางหนอง ใครไปก็ต้องใครมากต็ ้อง คาคลอ้ งจอง หนอง – ตอ้ ง ความหมาย ตอ้ ง (ภาษาถิ่น) หมายถึง จบั คาตอบ ไม้ตกั ปูนกนิ กบั ปาก ๑๙. อะไรเอ่ย เอน็ ใหญ่ห้าร้อย เอน็ น้อยห้าพนั เอน็ มารวมกนั เป็ นเอน็ ท่อน เดยี ว ได้ลกุ ได้เต้าเพราะไอ้เฒ่าหัวเขยี ว ถูกทุบถูกตี เพราะไอ้นีท้ ีเดยี ว คาคลอ้ งจอง ร้อย – นอ้ ย พนั – กนั เดียว – เขียว เตา้ – เฒ่า ตี – น่ี คาตอบ ซึ้งเจาะรูเรือ

๒๐. อะไรเอ่ย กะล่มุ กะเหลด็ ลูกเท่าไข่เป็ ด เจด็ คนกินไม่หมด คาคลอ้ งจองเหลด็ - เป็ด – เจด็ ความหมาย กะล่มุ กะเหลด็ ไม่มีความหมาย ตอ้ งการเล่นคาสมั ผสั คาตอบ ปูนกนิ กบั หมาก ๒๑. อะไรเอ่ย พอแรกได้หนู เขาถูเขาไถ พอหนูผอมลงเขาทงิ้ หนูไป คาคลอ้ งจอง หนู – ถู ไถ – ไป คาตอบ สบู่ ๒๒. อะไรเอ่ย ไอ้แดงแยงท้ายไอดา ไอ้ดาร้องไห้ นา้ ลายเป็ นฟู ความหมาย ไอแ้ ดง หมายถึง ไฟ ไอด้ า หมายถึง หมอ้ หุงขา้ วท่ีมีควนั ดาติดอยู่ น้าลายเป็นฟู หมายถึง หมอ้ ขา้ วที่กาลงั เดือดมีเฟื อง คาตอบ หม้อหุงข้าวด้วยเตาฟื น ๒๓. อะไรเอ่ย ต้นเท่าสายพาน ตัวทะยานบนเวหา คาคลอ้ งจอง พาน – ยาน ภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ ว่าว

๒๔. อะไรเอ่ย มีปี กแต่ไม่รู้จกั บนิ เทีย่ วหากนิ อยู่ใต้หญ้า คาคลอ้ งจอง บิน – กิน ภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ หัวหมูไถนา ๒๕. อะไรเอ่ย เอาศิลามาทาไส้ เอาใบไม้มาทาตวั ใครทายผดิ ต้องเป็ นลูก ใครทายถูกให้ได้ผวั คาคลอ้ งจอง ไส้ – ไม้ ตวั – ผวั ภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ ปูนกบั พลู ๒๖. อะไรเอ่ย ม้าสามขา เจ้าพระยาขึน้ ขี่ ใส่หมวกกามะหยี่ สูบบุหรี่ป๋ ุย ๆ คาคลอ้ งจอง ขา – ยา ข่ี – หย่ี – หร่ี ความหมาย มา้ สามขา หมายถึง เตาท่ีทาจากเหลก็ มีสามขา ใชฟ้ ื น เป็ นเช้ือเพลิง เจา้ พระยา หมายถึง กาตม้ น้า หมวกกามะหยี่ หมายถึง ฝากา สูบบุหรี่ป๋ ุย ๆ หมายถึง ไอน้าท่ีออกจากพวยกา คาตอบ กาต้มนา้ บนเตา

๒๗. อะไรเอ่ย หินหันร่อย ๆ นา้ ย้อยสก ๆ คาคลอ้ งจอง ร่อย – ยอ้ ย ความหมาย หนั ร่อย ๆ (ภาษาถิ่น) หมายถึง หมุนไปเร่ือย ๆ น้ายอ้ ยสก ๆ (ภาษาถ่ิน) หมายถึง น้าหยดต๋ิง ๆ คาตอบ เคร่ืองโม่แป้ง (ทาดว้ ยหิน) ๒๘. อะไรเอ่ย กลมเหมือนพระจันทร์ ดันท้องสาว ๆ แก่ ๆ เฒ่า ๆ ดนั ม่งั ห่าง ๆ คาคลอ้ งจอง จนั ทร์ – ดนั สาว – เฒ่า คาตอบ กระด้งฝัดข้าว ๒๙. อะไรเอ่ย พนี่ ้องเราไป พน่ี ้องเรามา ฉีกแข้งฉีกขา เข้าไปทลี ะหน่วย คาคลอ้ งจอง มา – ขา ความหมาย หน่วย หมายถึง ลูก (ผล) คาตอบ กรรไกรหนีบหมาก ๓๐. อะไรเอ่ย ส่ีหูหน่ึงหัว มีแต่ตวั ไม่มีขา พอมืดขนึ้ มากนิ คนท้ังเป็ น ความหมาย หวั เป็นลกั ษณะนามของมุง้ ท่ีถูกตอ้ งใชว้ า่ หลงั พอมืดข้ึนมา (ภาษาถิ่น) หมายถึง เมื่อถึงเวลาค่า

คาตอบ มุ้ง ๓๑. อะไรเอ่ย หุบเท่ากระบอก ถอกเท่ากระด้ง คาคลอ้ งจอง บอก – ถอก ความหมาย ถอก หมายถึง รูดใหอ้ อก คาตอบ ร่ม ๓๒. อะไรเอ่ย ลูกสัปดน แยงก้นแม่ คาคลอ้ งจอง ดน – กน้ ความหมาย แยง หมายถึง แหย่ คาตอบ ลูกกญุ แจ ๓๓. อะไรเอ่ย มาจากเมืองจนี ตดั หัวตดั ตีน กนิ คนท้ังเป็ น คาคลอ้ งจอง จีน – ตีน ความหมาย คาวา่ มาจากเมืองจีน ตอ้ งการคาคลอ้ งจอง คาตอบ เสือ ๓๔. อะไรเอ่ย พระกไ็ ม่ใช่พระ เณรกไ็ ม่ใช่เณร ไม่เคนไม่ฉัน คาคลอ้ งจอง เณร - เคน ความหมาย

เคน ( ภาษาถ่ิน ) หมายถึงประเคน คาตอบ กระต่ายขูดมะพร้าว ๓๕. อะไรเอ่ย แปดหู สองขา อศั จรรย์หนักหนา เอาขาแยงหู คาคลอ้ งจอง ขา – หนา – ขา ความหมาย แยง ( ภาษาทอ้ งถ่ิน ) หมายถึง แหย่ คาตอบ ปิ่ นโต ๓๖. อะไรเอ่ย คาคืบออกดอก คาศอกต้องแหงน ค่าแขนต้องแบก คาคลอ้ งจอง ดอก - ศอก แหงน – แขน ความหมาย ค่า (ภาษาถ่ิน) หมายถึง ยาวเท่า ตาตอบ เทยี นไข กระบอกตาล พระธรรม ๓๗. อะไรเอ่ย อยู่กบั คนกนิ ข้างบนขีข้ ้างล่าง อยู่กบั ช้างกินข้างล่างขี้ ข้างบน คาคลอ้ งจอง คน – บน ลา่ ง – ชา้ ง – ล่าง ภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ ม้าไสนา้ แข็ง และ กบไสไม้

๓๘. อะไรเอ่ย นางน่ังอยู่ในกอหวาย ชักให้ตายกไ็ ม่ออก คาคลอ้ งจอง หวาน – ตาย ความหมาย กอหวาย ในท่ีน้ีหมายถึง เกา้ อ้ีหวาย คาตอบ กระจกเงา ๓๙. อะไรเอ่ย หัวแหลม ท้ายป้านวง่ิ พล่านในสมุด คนไม่บริสุทธ์ิคดิ ว่าเรือ คาคลอ้ งจอง ป้าน – พลา่ น สมุด – สุทธ์ิ ความหมาย คาวา่ สมุด คนฟังจะคิดวา่ สมุทร คาตอบ ดนิ สอ

ปริศนาคาทายหมวดอวยั วะ ๑. อะไรเอ่ย เห็ดกระด้างขึน้ ข้างเขาเขยี ว หวายกอเดยี ว ตดั ลดั ตัดลดั คาคลอ้ งจอง ดา้ ง – ขา้ ง เขียว – เดียว ความหมาย เห็ดกระดา้ ง หมายถึง อวยั วะที่คลา้ ยเห็ดแต่ค่อนขา้ งแขง็ เขาเขียว หมายถึง อวยั วะท่ีใหญ่ หวายกอเดียว หมายถึง อวยั วะท่ีรวมกนั เป็นกลมุ่ ตดั ลดั ตดั ลดั หมายถึง ตดั แลว้ ข้ึนอีก คาตอบ หู ศีรษะ ผม ๒. อะไรเอ่ย หนองน้อยหนองแหน ก้มลงแลปากเบีย้ วถงึ หู คาคลอ้ งจอง แหน – แล ความหมาย หนองนอ้ ยหนองแหน ( หนองแหนเป็นคาเสริมบท ไม่มี ความหมาย ใชใ้ หเ้ กิดคาสัมผสั คลอ้ งจอง ) หมายถึง แอ่งนอ้ ยๆ กม้ ลงแลปากเบ้ียวถึงหู หมายถึง เมื่อกม้ ดูปากจะเบ้ียว คาตอบ รักแร้

๓. อะไรเอ่ย หีบน้อยใส่แจเหลก็ ผ้าผืนเลก็ ตากไม่แห้ง คาคลอ้ งจอง เหลก็ - เลก็ ความหมาย ใส่แจ ( ภาษาถ่ิน) หมายถึง ใส่กญุ แจ คาตอบ ลนิ้

ปริศนาคาทายหมวดการทามาหากนิ ๑. อะไรเอ่ย ข้างใต้รนข้างบนกด พอถึงกาหนดเอามือคลาแล คาคลอ้ งจอง รน – บน กด – หนด ความหมาย รน หมายถึง ดิ้น คลาแล ( ภาษาถิ่น) หมายถึง คลาดู คาตอบ คนสุ่มปลา ๒. อะไรเอ่ย สามอกหกหู มองดูชายคลอง คาคลอ้ งจอง อก – หก หู – ดู ความหมาย สามอก หมายถึง คนสองคนกบั อกเล่ือยหน่ึงป้ื น คลอง ในที่น้ีหมายถึง คลองเล่ือย คาตอบ คนเลื่อยไม้ ๓. อะไรเอ่ย สองตนี ยืนยนั กรันธรณี หางยาวรีอยู่หว่างขาคน คาคลอ้ งจอง ยนั – กรัน ความหมาย สองตีนยนื ยนั หมายถึง คนหน่ึงมีสองเทา้ กาลงั ยนื กรันธรณี หมายถึง ยนั พ้นื ดินไว้

หวา่ งขา ( ภาษาถิ่น) หมายถึง ระหวา่ งขา คาตอบ คนยกยอ ๔. อะไรเอ่ย สับปะร่อง สับปะแร่ง สับปะแกว่งหารู สับปะรุ้น ตุ้นตู๋ สับปะร้ัง ถงึ โคน คาคลอ้ งจอง แร่ง – แกวง่ รู – ตู๋ รุ้น – ตุน้ ความหมาย สับปะ ในที่น้ีไม่มีความหมาย ตอ้ งการใหค้ าทายมีภาษา ท่ีสนุกสนาน ร่องแร่ง (ภาษาถิ่น) หมายถึง หิ้วร่องแร่ง แกวา่ งหารู หมายถึง มองหารูกระบอกไมไ้ ผ่ รุ้นตุน้ ตู๋ (ภาษาถ่ิน) หมายถึง ส้นั ในท่ีน้ี หมายถึง ตดั จนั่ มะพร้าวใหส้ ้ัน ร้ังถึงโคน หมายถึง ลงจากปลายตน้ มาถึงโคน คาตอบ คนตดั ตาล

๕. อะไรเอ่ย สีขายืนหยดั ทาท่าหนอย ๆ ทาท่าเหมือนจะต่อย ขีย้ ้อยตดิ ขา คาคลอ้ งจอง หนอย – ต่อย – ยอ้ ย ความหมาย สีขายนื หยดั หมายถึง สองคนยนื อยกู่ บั ที่ หนอย ๆ (ภาษาถ่ิน) หมายถึง นิดหน่อย ข้ียอ้ ย หมายถึง ข้ีไหล คาตอบ คนเล่ือยไม้ ๖. อะไรเอ่ยถอยหลงั เหมือนก้งุ มือถุ้ง ตาแล ความหมาย มือถงุ้ (ภาษาถิ่น) หมายถึง มือกระทุง้ ตาแล (ภาษาถ่ิน) หมายถึง ตาคอยมองไว้ คาตอบ คนดานา ๗. อะไรเอ่ย พญาห้าร้อย ลงหนองน้อย เห็นรอยตัวเดยี ว คาคลอ้ งจอง ร้อย – นอ้ ย – รอย ความหมาย พญาหา้ ร้อย หมายถึง การใชด้ อกไมไ้ ผม่ าก ๆ มาสาน (ในท่ีน้ีใชค้ าวา่ ร้อย แทนคาวา่ สาน) เห็นรอยตวั เดียว หมายถึง เห็นเฉพาะรอยคน

คาตอบ คนใช้ตะแกรงช้อนก้งุ ๘. อะไรเอ่ย มาจากเมืองกรุง สาวน้อยเจบ็ พงุ ร้องให้แม่บบี คาคลอ้ งจอง กรุง – พงุ ความหมาย เจบ็ พงุ (ภาษาถ่ิน) หมายถึง ปวดทอ้ ง คาตอบ ทาขนมจนี ๙. อะไรเอ่ย ฉีกถิง้ ฉีกถิง้ นา้ ย้อยตงิ้ ติง้ ถงิ้ ฉีก ถ่งิ ฉีก คาคลอ้ งจอง ถิง้ – ติ้ง – ถิง้ ความหมาย ถิ้ง (ภาษาถิ่น) หมายถึง กระทุง้ น้ายอ้ ยติ้ง ๆ (ภาษาถ่ิน) หมายถึง น้าหยดติ๋ง ๆ คาตอบ คนดานา ๑๐. อะไรเอ่ย เช้ากโ็ กร้ง เยน็ ก็โกร้ง ขึน้ โก้งโค้งบนเวหา คาคลอ้ งจอง โกร้ง – โคง้ ความหมาย โกร้ง หมายถึง เสียงกระทบของกระบอกตาล บนเวหา หมายถึง บนตน้ ตาล คาตอบ คนตดั ตาล

๑๑. อะไรเอ่ย ปักสีไม่ใช่นก นมเตม็ อกไม่ใช่คน คาคลอ้ งจอง นก – อก ความหมาย ปักสี หมายถึง ปักแลว้ สีกนั ปักษี หมายถึง นก นมเตม็ อก หมายถึง เล่ือย คาตอบ คนเล่ือยไม้

ปริศนาคาทายหมวดการใช้คาผวน ๑. อะไรเอ่ย ฝรั่งทา จนี ขาย ไทยเขียน ความหมาย ขอ้ ความขา้ งหนา้ เป็นการหลอก ส่วนคาตอบอยทู่ ี่ขอ้ ความ หลงั คือ ไทยเขียน คาตอบ เทยี นไข ๒. อะไรเอ่ย หน่ึงหนา สองหนา เข้าหนาเดยี ว ความหมายที่ตอ้ งการ คือ เขา้ หนาเดียว คาตอบ ข้าวเหนียวดา ๓. อะไรเอ่ย ปี่ แจ้ง ข้าวแหนงเดยี ว คาตอบ แป้งจ่ี ข้าวเหนียวแดง ๔. อะไรเอ่ย หัวโม่ง คนั คน คาตอบ หัวมดคนั โค่ง โค่ง (ภาษาถิ่น) หมายถึง ใหญ่ มดคนั โค่ง หมายถึง มดตวั ใหญ่ ๆ

ปริศนาคาทายหมวดการใช้ภาษาสองง่ามสองง่าม ๑. อะไรเอ่ย รูปร่างเหมือนใบพลู มขี นรุมรู่ มรี ูตรงกลาง คาคลอ้ งจอง พลู – รู่ – รู ความหมาย รุมรู่ (ภาษาถ่ิน ) หมายถึง รุงรัง คาตอบ ใบหูควาย ๒. อะไรเอ่ย ป่ันให้แข็ง แยงเข้าหว่างขา คาคลอ้ งจอง แขง็ – แยง ความหมาย แยง (ภาษาถิ่น) หมายถึง แหย่ หวา่ งขา (ภาษาถิ่น) หมายถึง ระหวา่ งขา คาตอบ นุ่งโจงกระเบน ๓. อะไรเอ่ย ฉีกขาเถดิ น้อง พจ่ี ะใสให้นา้ ไหลทางหว่างขา คาคลอ้ งจอง ใส – ไหล ความหมาย หวา่ งขา (ภาษาถิ่น) หมายถึง ระหว่างขา คาตอบ กรรไกรหนีบอ้อย

๔. อะไรเอ่ย ผู้หญงิ อยู่ใต้ ผู้ชายอยู่บน ชายหญิงสองคน ทาไรกนั คาคลอ้ งจอง ใต้ – ชาย บน – คน คาภาษาถิ่น ทาไร หมายถึง ทาอะไร คาตอบ ผู้หญงิ ส่งจากให้ผู้ชายมุงหลงั คา ๕. อะไรเอ่ย หัวแดงเหมือนหมากสุก ไม่ลุกไม่เข้า คาคลอ้ งจอง สุก – ลุก ความหมาย ไม่ลุก ในท่ีน้ี หมายถึง ไม่ยกใหข้ ้ึน คาภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ หัวประแจรถไฟ ๖. อะไรเอ่ย ฉีกสองริม ทิ่มเข้ารู คาคลอ้ งจอง ริม – ทิ่ม ความหมาย ท่ิม (ภาษาถ่ิน) แหยเ่ ขา้ ไป คาตอบ ฉีกขนไก่แยงหู

ปริศนาคาทายหมวดท่วั ไป ๑. อะไรเอ่ย สาวน้อยอยู่ในวงั ไม่ส่ังไม่ออก คาคลอ้ งจอง วงั – สง่ั คาภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ นา้ มูก ๒. อะไรเอ่ย ปลดกระเบนกนิ กัน กมุ ภัณฑ์ไม่ใช่ยกั ษ์ คาคลอ้ งจอง กนั – ภณั ฑ์ คาภาษาถิ่น ไม่มี ความหมาย กระเบน หมายถึง โจงกระเบน คาตอบ ข้าวต้มใบกระพ้อ ๓. อะไรเอ่ย สี่เหลย่ี มเทียมทิศ ประตูปิ ด หลงั คาเปิ ด คาคลอ้ งจอง ทิศ – ปิ ด คาตอบ คอกควาย ๔. อะไรเอ่ย กะล่มุ กะลา่ เดินยงั คา่ ไม่เห็นรอย คาคลอ้ งจอง ล่า – ค่า ความหมาย กะลุม่ กะล่า ไม่มีความหมาย ตอ้ งการเล่นคาคลอ้ งจอง

ยงั ค่า (ภาษาถิ่น) หมายถึง ตลอดเวลา คาตอบ เรือ ๕. อะไรเอ่ย กงิ้ กือตัวใหญ่ ไต่บนเหลก็ ตัวมนั ไม่เลก็ กนิ คนต้งั พนั คาคลอ้ งจอง ใหญ่ – ไต่ เหลก็ – เลก็ คาภาษาถิ่น ไม่มี คาตอบ รถไฟ ๖. อะไรเอ่ยสีเขยี วชอุ่ม พ่มุ ไสว ไม่มีใบ มแี ต่ดอก คาคลอ้ งจอง ชอุ่ม – พมุ่ ไสว – ใบ คาภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ ฝน ๗. อะไรเอ่ย เหลืองเหมือนอีเก้ง ร้องเพลงกนิ ขนม คาคลอ้ งจอง เกง้ – เพลง คาภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ พระ ๘. อะไรเอ่ย ขาไปไปสองคน ขากลบั มืดฟ้ามวั ฝนกลบั คนเดยี ว คาคลอ้ งจอง คน – ฝน คาภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ คนกบั เงา

๙. อะไรเอ่ย หางอยู่ในวดั ตวั พลดั อยู่กลางนา คาคลอ้ งจอง วดั – พลดั ความหมาย พลดั (ภาษาถิ่น) หมายถึง ตก คาตอบ หางควาย หมายถึง เคร่ืองนุ่งห่มของพระและหางของควาย ๑๐. หัวอะไรเอ่ย ท่ีมองไม่เห็น คาคลอ้ งจองไม่มี คาภาษาถ่ิน ไม่มี คาตอบ หวั ค่า ๑๑. อะไรเอ่ย สุกขี สุกขัง สุกคาราง สุกคารู คาคลอ้ งจอง ขงั – ราง ความหมาย และคาตอบ สุก หมายถึง ทาใหถ้ ูกความร้อน ขี (ภาถิ่น) หมายถึง ขี่ สุกขี หมายถึง สุกโดยการขี่กนั หมายถึงข้าวต้มมัด สุกขงั หมายถึง ลุกขณะถกู ขงั หมายถึง ขนมเข่ง สุกคาราง หมายถึง สุกขณะอยใู่ นราง หมายถึงขนมครก สุกคารู หมายถึง สุกขณะอยใู่ นรู หมายถึง ข้าวหลาม

๑๒. อะไรเอ่ย กลางวนั อุ้มลูกยืน กลางคืนอ้มุ ลูกนอน คาคลอ้ งจอง ยนื – คืน คาภาษาถิ่น ไม่มี คาตอบ บันได (คนสมยั ก่อนจะเกบ็ บนั ไดไวบ้ นบา้ นใน เวลากลางคืน และจะนามาพาดใหม่ในตอนเชา้ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook