Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อบรม โครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โรงเรียนพระปริยัติธรรม 2562 โรงเรียน ปทุมพิทยากร

อบรม โครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โรงเรียนพระปริยัติธรรม 2562 โรงเรียน ปทุมพิทยากร

Description: อบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โรงเรียนพระปริยัติธรรม
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา รุ่นที่ 3 ในวันที่ 9-15 ธันวาคม 2562 ณ สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดโดยกองพุทธศาสนศึกษา ร่วมกับ สำนักงานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ กลุ่มที่ 13

Search

Read the Text Version

เอกสารบกั ทึกข้อความ การเข้าร่วมอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร โรงเรียนพระปริยัตธิ รรม แผนก สามญั ศึกษา 2562 ณ สถาบนั พัฒนาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ ตงั้ แตว่ นั ที่ 9 ธนั วาคม 2562 ถึง 15 ธันวาคม 2562 เขา้ อบรมโดย นายศกั ดา น้อยศรี ตำแหน่ง รักษาการรองผอู้ ำนวยการโรงเรียน โรงเรยี นปทมุ พทิ ยากร วดั ขวญั เมืองระบือธรรม ตำบลบรบือ อำเภอบรบอื จังหวดั มหาสารคาม

บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ..................................................................................................................................................... ที่...........................................................................วันท่ี...................................................................................... เรอื่ ง รายงานผลการเดนิ ทางไปราชการในการเข้ารบั การ ( ) การประชมุ ( ) ฝึกอบรม ( ) สัมมนา ( ) ศกึ ษาดูงาน ( ) นำเสนอผลงานวชิ าการ ( ) อื่น ๆ นมสั การ ผู้อำนวยการโรงเรยี นปทมุ พทิ ยากร ตามที่ข้าพเจ้า นาย ศักดา น้อยศรี ได้รับอนุมัติเดินทางไปราชการเข้าร่วมโครงการพัฒนา ศักยภาพผู้บริหาร โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศึกษา รุ่นที่ 3 ในวันที่ 9-15 ธันวาคม 2562 ณ สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดโดยกองพุทธศาสนศึกษา ร่วมกบั สำนักงานกล่มุ โรงเรียนพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญ กลุ่มที่ 13 ตามความละเอียดทราบแล้วน้นั ในการนี้ข้าพเจา้ ฯ ไดเ้ ขา้ ร่วมการอบรมมาเป็นท่ีเรียบร้อยแลว้ จงึ ขอรายงานผลการเดินทางไป เข้าร่วมอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผบู้ รหิ าร ตามเอกสารแบบฟอร์มท่ีแนบมาพร้อมน้ี ( นายศกั ดา นอ้ ยศรี ) ตำแหนง่ รักษาการรองผ้อู ำนวยการโรงเรยี น

รายงานผลการอบรมของบคุ ลากร โรงเรียนปทมุ พทิ ยากร เรอื่ ง รายงานผลการอบรมโครงการพฒั นาศักยภาพผ้บู ริหาร โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา นมัสการ ผู้อำนวยการโรงเรียนปทุมพทิ ยากร สิง่ ท่สี ง่ มาด้วย เอกสารเน้ือหาการเขา้ ร่วมอบรม 1 ชุด ขา้ พเจ้า นายศักดา น้อยศรี ตำแหนง่ รกั ษาการแทนรองผู้อำนวยการโรงเรยี นขอรายงานการอบรม ดงั น้ี เรอ่ื งท่ีเข้าอบรม โครงการพฒั นาศกั ยภาพผบู้ ริหาร โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม สถานท่เี ขา้ อบรม สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ระหว่างวนั ท่ี 9 เดอื นธันวาคม พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 15 เดือนธนั วาคม พ.ศ. 2562 ผเู้ ขา้ รว่ มอบรม จำนวน 129 คน คือ กลมุ่ ผู้บริหารรองผู้อำนวยการโรงเรียน กลมุ่ 9,10,11 หนว่ ยงานทจ่ี ดั การอบรม กองพทุ ธศาสนศกึ ษา รว่ มกับ สำนักงานกลมุ่ โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั กล่มุ ท่ี 13 หัวข้อ/ประเดน็ สำคัญที่อบรม ประธานเปิดพธิ ีโดย นายประพันธ์ ตน้ั วฒั นา ผู้ตรวจราชการปฏิบัติราชการแทนผอู้ ำนวยการ สำนักงานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ได้พดู เปิดโครงการพัฒนาศกั ยภาพผ้บู รหิ าร โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั เน้อื หาการอบรม วนั ที่ 9 ธันวาคม 2562 1. วิสยั ทัศน์การจัดการศกึ ษาเพ่อื ขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 วทิ ยากรโดย ศาสตราจารย์ ดร.พฤทธิ์ ศริ บิ รรณพทิ ักษ์ การจดั การศกึ ษาเพอื่ ขับเคล่ือนประเทศไทย 4.0 จะต้องมกี รอบความคดิ แบบเติบโต (Growth Mindset) ความคิดทเ่ี ชือ่ วา่ สตปิ ัญญาความสามารถเปล่ยี นแปลงได้ ซ่ึงการสรา้ งกรอบความคิดแบบ เตบิ โตจะต้องมี>กลยทุ ธท่ีดี>การถามคำถาม>การลงมือปฏิบัติ>อาหารและการนอนท่ีดี การศึกษา 4.0 คือ การเรยี นรู้เพอื่ สร้างนวตั กรรม ซึง่ การสรา้ งนวัตกรรม พน้ื ฐานเริ่มจาก การมีความรอู้ ่านออกเขียนได้ คิดค้นนวัตกรรมท่ีคนต้องการใช(้ มองเปา้ หมาย) การสร้างนวัตกรรมทไ่ี มซ่ ้ำหรอื มี ความแตกตา่ ง และนวตั กรรมที่สำคญั คือ นวตั กรรมผลผลิตและบรกิ าร

เน้อื หาการอบรม วนั ที่ 10 ธนั วาคม 2562 2. แผนยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี ปรัชญาการศึกษาและหลักการจัดการศกึ ษา วิทยากรโดย ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กุลชลี จงเจริญ ยทุ ธศาสตรแ์ หง่ ชาติ คือ การกำหนดเปา้ หมายการพัฒนาประเทศ ซง่ึ อยู่ในมาตรา 65 \"รฐั จัดใหม้ ยี ุทธศาสตร์ชาติ เปน็ เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยัง่ ยืนตามหลกั ธรรมาภิบาล เพอื่ ให้ เป็นกรอบในการจดั ทำแผนตา่ งๆใหส้ อดคล้องและบรู ณาการ\" กรอบการพฒั นาระยะยาว เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ สิ ัยทศั น์ “ประเทศมคี วามม่ันคง มง่ั คงั่ ยัง่ ยืน เป็น ประเทศทีพ่ ฒั นาแลว้ ดว้ ยการพฒั นาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” นำไปสู่การพัฒนาให้คน ไทยมคี วามสขุ และตอบสนองต่อการบรรลซุ ง่ึ ผลประโยชนแ์ หง่ ชาตใิ นการท่ีจะพัฒนาคุณภาพชวี ิต สร้างรายไดร้ ะดับสงู เปน็ ประเทศท่พี ฒั นาแล้ว ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ 1) ยุทธศาสตรช์ าติด้านความมั่นคง 2) ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ า้ นการสร้างความสามารถในการแขง่ ขนั 3) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคน 4) ยุทธศาสตรช์ าติด้านการสรา้ งโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทยี มกันทางสังคม 5) ยุทธศาสตร์ชาติดา้ นการสรา้ งการเติบโตบนคุณภาพชวี ติ ท่ีเป็นมติ รกบั ส่งิ แวดล้อม 6) ยุทธศาสตรช์ าติดา้ นการปรับสมดุลและพฒั นาระบบการบริหารจัดการภาครฐั หลกั การจดั การศึกษา -การจัดการศกึ ษาเปน็ กระบวนการอย่างเป็นระบบ -เปา้ หมาย คอื การพัฒนาคุณภาพมนษุ ย์ทกุ ดา้ น -คาดหวังว่า คนทม่ี คี ุณภาพจะทำใหส้ ังคมมีความม่ันคง สงบสขุ เจริญก้าวหนา้ ทันโลก **องคป์ ระกอบทสี่ ำคญั ของการศกึ ษา คือ ครู **คุณภาพการเรียนการสอนวดั ท่ี คุณครู 3. แผนการศึกษาแหง่ ชาติ แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา แผนปฏบิ ตั กิ าร วิทยากรโดย ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กลุ ชลี จงเจรญิ แผนการศกึ ษาแห่งชาติ คือ การวางแผนยุทธศาสตร์ทางการศกึ ษาให้มีความสอดคลอ้ งกบั แผนพัฒนาแหง่ ชาติ 20ปี วิสัยทศั นแ์ ผนการศึกษาแห่งชาติ “คนไทยทุกคนไดร้ บั การศกึ ษาและเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ อยา่ งมี คณุ ภาพ ดำรงชีวติ อย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการ เปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21” ยทุ ธศาสตรแ์ ผนการศึกษาแหง่ ชาติ มี 6 หัวข้อ 1.การจัดการศกึ ษาเพอ่ื ความมัน่ คงของสังคมและประเทศชาติ 2.การผลิตและพฒั นากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรม เพอื่ สรา้ งขีดความสามารถในการ แขง่ ขนั ของประเทศ 3.การพัฒนาศักยภาพคนทกุ ช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 4.การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทียมทางการศกึ ษา 5.การจัดการศกึ ษาเพอื่ สรา้ งเสรมิ คุณภาพชีวติ ที่เป็นมติ รกับส่งิ แวดลอ้ ม 6.การพัฒนาประสทิ ธิภาพของระบบบรหิ ารจดั การศึกษา

แผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา คือ การวางแผนท่มี ีการกำหนดวสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เปา้ ประสงค์ อยา่ งชัดเจนจากการ วิเคราะหบ์ ริบทและสภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอก ความสำคัญของการวางแผนพัฒนาการศึกษา - ช่วยใหห้ น่วยงานพัฒนาตนเองใหท้ นั กับสภาพการเปลี่ยนแปลง - ชว่ ยใหห้ นว่ ยงานทกุ ระดบั มคี วามเปน็ ตนเองมากข้ึน - รับผิดชอบต่อความสำเร็จและความลม้ เหลวของตนเอง เพราะการวางแผนกลยทุ ธเ์ ปน็ การ วางแผนโดยองค์กรเพอ่ื องคก์ ร ไมใ่ ชท่ ำตามหน่วยเหนือสัง่ การ - สอดคล้องกับการกระจายอำนาจ และที่ ก.พ.กำหนดใหท้ กุ สว่ นจดั ทำแผนกลยุทธ์เพ่ือเป็น เครื่องมือในการปฏริ ูประบบราชการ - เปน็ การให้ความสำคญั ต่อการกำหนด “ กลยุทธ์ ” ทไ่ี ดจ้ ากการคดิ วิเคราะห์แบบใหมๆ่ ที่ ไม่ผูกติดกับปญั หาเกา่ ทา้ ทายความสามารถ กระบวนการจัดทำกลยทุ ธ์และแผนปฏิบตั กิ ารประจำปี (PDCA) คอื วงจรการบรหิ ารงานคณุ ภาพ P = Plan (วางแผน) - วิเคราะหส์ ภาพ ปัญหา และความต้องการจำเป็น (SWOT) - กำหนดวสิ ัยทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ ประสงค์ กลยุทธ์ - จดั ทำแผนพัฒนาการจดั การศกึ ษาท่ีมงุ่ คณุ ภาพตามมาตรฐาน - จัดทำแผนปฏิบัตกิ ารประจำปี D = Do (ปฏิบตั )ิ - ดำเนนิ การตามแผน C = Check (ตรวจสอบ) - ตดิ ตาม ตรวจสอบ A = Act (การดำเนนิ การใหเ้ หมาะสม) - ประเมิน ปรบั ปรงุ การดำเนนิ การ วิเคราะห์สภาพ ปญั หา และความตอ้ งการจำเป็น (SWOT) - ขอ้ มูลเก่ียวกบั สภาพปจั จบุ ัน - ข้อมลู เกี่ยวกับการเปลย่ี นแปลงในอนาคต - ขอ้ มลู เกี่ยวกบั จุดแขง็ และจุดออ่ นของสถานศึกษา - ขอ้ มลู เก่ยี วกับโอกาสและขอ้ จำกดั ของสถานศึกษา SWOT แบ่งการวิเคราะห์ 2 ลักษณะ คือ 1. การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมภายในสถานศกึ ษา (รเู้ รา : รจู้ กั ตัวเอง) S = Strengths (จดุ อ่อน) W = Weaknesses (จุดแข็ง) 2. การวิเคราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอกสถานศกึ ษา (รเู้ ขา) O = Opportunities (โอกาศ) T = Threats (อุปสรรค)

การกำหนดวิสยั ทัศน์ พันธกจิ เป้าประสงค์ และกลยทุ ธ์ - วิสัยทัศน์ (vision) คอื ภาพในอนาคตของสถานศกึ ษาที่ผ้บู ริหารและบุคลากรร่วมกนั กำหนด จากผลการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ ม ใช้ SWOT เปน็ ฐานความคดิ - พนั ธกิจ (Mission) คือ เปน็ การบง่ บอกบทบาทหน้าท่ขี องสถานศึกษาทกี่ ำลงั ทำหรอื จะทำ ในอนาคตใหแ้ ก่ผู้บริการ - เป้าประสงค์ (Goal) คือ เปา้ ประสงคข์ ององค์การจะเขยี นในลกั ษณะผลลัพธ์ปลายทางที่ องค์การจะดำเนินการให้บรรลผุ ล - กลยทุ ธ์ (Strategy) คอื วิธีการดำเนินงานที่มั่นใจได้วา่ จะนำไปสู่ความสำเร็จตาม วตั ถปุ ระสงค์ทต่ี อ้ งการ แผนปฏิบัติการ ขั้นตอนการจัดทำแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี 1. ขน้ั เตรียมการวางแผน - ศึกษาทศิ ทางการพัฒนาการศกึ ษาของตน้ สงั กัดและแผนพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ของโรงเรียน - วิเคราะห์กลยุทธท์ ่ไี ด้กำหนดไว้ เพอ่ื จดั ทำรายละเอยี ดข้ันตอนการดำเนนิ งานต่าง ๆ ใหเ้ ป็นไปตามกลยุทธ์ 2. ข้นั วางแผนและการจดั ทำแผน - ประชมุ คณะกรรมการและผเู้ กี่ยวข้อง ศกึ ษาเอกสารท่ีเตรยี มไว้ - กำหนดนโยบาย/เปา้ หมายของสถานศกึ ษา - กำหนดโครงการให้สนองนโยบาย - เขียนรายละเอียดโครงการ (มอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง) - พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการและงบประมาณ - เสนอร่างโครงการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษา - จดั ทำแผนเปน็ รปู เลม่ / มอบเอกสารแผนให้ผเู้ ก่ียวขอ้ ง 3. ขั้นปฏบิ ตั ติ ามแผน - ประชมุ ครูและบุคลากร เพ่อื รับทราบและมอบหมายภารกจิ - ผู้รบั ผิดชอบโครงการ ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามปฏิทิน - ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการรายงานผลการดำเนินงาน 4. ขั้นติดตามและประเมินผล - ตดิ ตามการดำเนนิ งานโครงการ - สรปุ ผลการดำเนินงาน - จัดทำรายงาน 5. ขัน้ ปรบั ปรุงการวางแผน - นำขอ้ มูลจากการประเมินเม่อื จบโครงการมาวเิ คราะห์ว่าโครงการใดควรดำเนินการ ต่อเน่อื งหรือควรยตุ ิ

เนอื้ หาการอบรม วนั ที่ 11 ธนั วาคม 2562 4. การประกันคณุ ภาพการศึกษา และ การประเมนิ คุณภาพภายนอกรอบส่ี วทิ ยากรโดย ดร.ฉัตรชัย หวังจงมี **นโยบายการปฏริ ูประบบการประเมนิ และการประกันคุณภาพการศกึ ษา ๑. ปรับจำนวนมาตรฐานและตัวบ่งช้ีทสี่ ะทอ้ นคณุ ภาพ ๒. ลดภาระการประเมินท่ียงุ่ ยากกบั สถานศกึ ษา ๓. ลดการจดั ทำเอกสารเพือ่ การประเมิน ๔. ปรับปรุงกระบวนการประเมินท่ีสร้างภาระแกส่ ถานศึกษา ๕. ปรับมาตรฐานผู้ประเมนิ ใหไ้ ด้มาตรฐาน การประกันคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ 2561 กระบวนการจัดทำกลยุทธแ์ ละ สถานศึกษา ห้องเรยี น แผนปฏิบตั กิ ารประจำปี - กำหนดมาตรฐานการศกึ ษาของ - มาตรฐานและตัวช้ีวัดตาม Plan (วางแผน) สถานศกึ ษา หลกั สตู ร - แผนการจดั การเรยี นรู้ - จดั ทำแผนพฒั นาการจัด การศึกษาของสถานศกึ ษา Do (ปฏบิ ตั )ิ - ดำเนนิ งานตามแผนฯ - จัดการเรียนรู้ - ประเมินผลและตรวจสอบ - ติดตาม ตรวจสอบ และ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ Check (ตรวจสอบ) - ตดิ ตามผลการดำเนนิ การ Act (การดำเนินการให้เหมาะสม) - จดั ทำ/จดั สง่ รายงานการ - สรุปและจัดทำรายงานผลการ จดั การเรียนรู้ ประเมนิ ฯ มาตรฐานการศกึ ษาเพอื่ การประกนั คณุ ภาพภายใน **ระดับการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผ้เู รยี น 1.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างวิชาการของผเู้ รียน 1.2 คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงคข์ องผเู้ รยี น มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั กฎกระทรวงการประกนั คุณภาพทางการศึกษา 2561 - กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา - จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา - ดำเนนิ การตามแผน - การประเมนิ ผลและตรวจสอบ - ตดิ ตามผลการดำเนนิ การ - จัดส่งรายงานผลการประเมินตนเอง (SAR)

ทำไมถงึ ตอ้ งประเมินคณุ ภาพภายนอกแนวใหมร่ อบสี่ - เพือ่ ช่วยในเร่อื งของการจัดการศกึ ษาใหม้ ีมาตรฐานคุณภาพ การันตีวา่ สถานศกึ ษามี คุณภาพเปน็ อย่างไร - ประเมนิ คุณภาพภายนอกให้เชอ่ื มโยงกบั ระบบประกันคุณภาพภายใน - กระตนุ้ ส่งเสริม ยกระดบั คณุ ภาพของสถานศกึ ษา แนวทางการประเมนิ คุณภาพภายในของสถานศึกษา อยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 คร้ัง - สถานศกึ ษาต้องจดั การประเมนิ สถานศึกษา - จดั ทำแผนพฒั นา - จัดทำ SAR - รายงานตน้ สังกัด - รอติดตามผลจาด สมศ. รายงานการประเมนิ ตนเอง (Self Assessment Report: SAR) สว่ นท่ี 1 บทสรปุ สำหรบั ผู้บรหิ าร (1-2 หนา้ ) กระชับ รวบรดั จับประเด็นสำคญั และมที ีม่ าของหลักฐานชดั เจน เปน็ การประเมินไมใ่ ช่แคบ่ รรยาย สอื่ ให้เหน็ อย่างชดั เจนถงึ ผลกระทบของสิ่งโรงเรยี นทไ่ี ด้ลงมือทำเพือ่ พัฒนาคณุ ภาพด้าน ตา่ งๆ ส่วนท่ี 2 ข้อมลู การประเมนิ ตนเอง นำเสนอขอ้ มลู ทวั่ ไป และตอบคำถาม 3 ข้อ ขอ้ 1 มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษามีระดับคณุ ภาพใด ขอ้ 2 ข้อมลู หลกั ฐาน และเอกสารเชิงประจักษส์ นบั สนนุ มอี ะไรบ้าง ขอ้ 3 แผนงาน แนวทางพฒั นาคณุ ภาพให้ดีข้ึนกวา่ เดมิ (อย่างนอ้ ย 1 ระดบั ) หรอื คง สภาพอย่างไร ส่วนท่ี 2 (เพ่ิมเติม) ขอ้ มูลการประเมนิ ตนเอง ➢ การวเิ คราะหก์ ารเรียนการสอนและผลงานของนักเรยี น ➢ การวเิ คราะห์ความคืบหนา้ และผลสมั ฤทธข์ิ องนักเรยี น (กลมุ่ นักเรียนต่างๆ) ➢ การวเิ คราะหค์ วามคบื หนา้ และผลสัมฤทธใ์ิ นอดีตของนกั เรียน ➢ การวิเคราะห์ขอ้ มลู เก่ียวกบั การประพฤติและความปลอดภัยของนกั เรยี น (เช่น การโดน ทำโทษการขาดเรยี น การเกิดเหตตุ ่างๆ ฯลฯ) ➢ การวิเคราะห์ประสทิ ธิผลของโครงการตา่ งๆ ทโี่ รงเรยี นเคยทำในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ หรอื พฤตกิ รรมของนกั เรยี น ➢ มมุ มองของผู้ปกครอง ➢ การประเมินจากภายนอกต่างๆ เช่น ผ้ตู รวจของกระทรวง สมศ. เอกสารหรอื หลกั ฐานในการประเมิน อาจจะเปน็ เอกสารหรือไมใ่ ชเ่ อกสารกไ็ ด้ เช่น

เทคนิคการทำรายงานประเมนิ ตนเอง เก็บขอ้ มูลที่เกิดข้นึ จากการปฏิบัตงิ านทุก ๆ วัน (ทำให้เป็นปจั จุบัน) เชน่ จากการประชุม/ อภิปรายการบนั ทกึ ขอ้ มลู ท่ีเกิดขน้ึ การบันทกึ การสอน (เน้นตามบทบาทหนา้ ทข่ี องผู้ปฏบิ ตั ิงาน น้ันๆ) * ส่งิ ที่เกิดจากการปฏิบตั ิงานประจำวนั ประกอบดว้ ย - รอ่ งรอยหลกั ฐาน (Evidences) - ขอ้ มลู (Data) - สารสนเทศ (Information) - ผลจากการวิเคราะห์เอกสาร (documented results) ** ข้อมลู จากแหล่งเหล่านีจ้ ะช่วยยืนยันผลประเมนิ วา่ มคี วามเท่ียงตรง ส่งิ ท่คี วรมแี ละขอ้ เสนอแนะจากการสังเคราะห์ SAR ✓ รายงานการประเมินตนเองตามกรอบมาตรฐานสถานศึกษา ✓ เสนอผลการประเมนิ ในภาพรวมและรายมาตรฐาน ✓ มรี ูปเล่มแสดงความเป็นตวั ตนของโรงเรียน ✓ มีสว่ นของขอ้ มลู ทั่วไป, ผลการประเมินตนเอง, และแนวทางพฒั นาเพือ่ ยกระดบั ให้สูงข้ึน ✓ จัดทำรายงานการประเมนิ ตนเองระดับปฐมวยั กับระดับการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน แบบแยก เลม่ / แบบรวมเล่ม ✓ ไม่ใส่รูปโล่/รางวลั /เกยี รตบิ ัตร/รูปภาพกจิ กรรม/ภาพทำเนยี บบุคลากร/เอกสารอ้างองิ ท่ี ไมจ่ ำเปน็ จำนวนหนา้ มากเกินไป (50-300 หนา้ )  ข้อมูลทวั่ ไปของสถานศกึ ษาที่ไม่มคี วามจำเปน็ มีมากเกินไป (มากกว่า 4 หน้า ถึง 60 หน้า)  ภาคผนวก: เอกสารอา้ งอิงประเภทคำส่ังต่างๆ, รูปภาพเกียรตบิ ัตร, โล่รางวลั , ภาพ กิจกรรมตา่ งๆ  ไม่ระบรุ ะดับผลการประเมินตนเอง  จดั ทำระดับคุณภาพและตัดสินผลในประเดน็ ยอ่ ยๆของแต่ละรายประเด็นพจิ ารณา  นำขอ้ มลู จากการประเมินกจิ กรรมการทำงานมาใส่ในรายงาน  รายช่อื โครงการกิจกรรมต่างๆ มาใสเ่ ป็นหลกั ฐานประกอบ  เนื้อหารายงานไมส่ ะท้อนขอ้ มลู ประจักษ์ในเชิงประเมิน  รายงานไม่เปน็ รปู ธรรม เขยี นเชิงนามธรรม/หลกั การทำงาน/ตามประเด็นพจิ ารณา  ไม่มีขอ้ มูล/สารสนเทศ/ผลในเชงิ ประเมิน หรอื มแี ตข่ าดการนำสารสนเทศมาใช้แสดงการ พัฒนา เพอ่ื สนบั สนุนผลการประเมินผลการประเมิน  ไมไ่ ด้มาจากกระบวนการประเมินภายในที่แทจ้ รงิ หมายเหตุ ✓ ควรม,ี  ไม่ควรใสห่ รอื ใสน่ อ้ ยๆ

5. การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพของผบู้ รหิ าร วทิ ยากรโดย ดร.สรสั วดี มุสกิ บตุ ร การมบี คุ ลกิ ภาพของผบู้ รหิ าร เริ่มจากการมองหาตวั ตนของตวั เอง กระบวนการเกดิ คา่ นิยม - ความรู้สกึ - ความคิดเห็น - การตดิ ตอ่ สอ่ื สารและการถา่ ยทอด - การเลอื กเชื่อและเกดิ ศรทั ธา - การปฏบิ ัติ เจตคติ - ความรูส้ กึ ของบุคคลทมี่ ตี ่อบุคคล ในลกั ษณะเฉพาะตัวตามทศิ ทางของทศั นคติทม่ี อี ยู่ และทำให้กำหนดแนวทางบุคคลในการที่จะมปี ฏกิ ริ ิยาตอบสนอง องคป์ ระกอบ - ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ - ดา้ นอารมณ์ - ดา้ นพฤตกิ รรม ที่มาของเจตนคติ - จากประสบการณ์ตอ่ สงิ่ หนึง่ สิง่ ใด - จากการเรยี นรู้ การอบรมสงั่ สอน กระบวนการขดั เกลาทางสังคม - จากการเลียนแบบผอู้ น่ื ประโยชนข์ องเจตนคติ - กระตนุ้ ความกระตือรือร้น - เพ่ิมพนู ความคิดริเรม่ิ - เปน็ เหตุให้สิง่ ท่ีดเี กดิ ข้ึน วฒั นธรรมองคก์ ร (Quality Culture) 1. ภาวะผู้นำด้านคณุ ภาพ - ศักยภาพของบคุ คลากรเพอื่ ร่วมมือกนั ปฏบิ ตั ิงานใหบ้ รรลุผลสำเร็จ 2. การทำงานเป็นทีม - บคุ คลากรมีเปา้ หมายร่วมกัน กำหนดหนา้ ท่ีชัดเจน มีสมั พนั ธภาพทีด่ ตี ่อกนั 3. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ - พฒั นาบคุ คลากรให้มีความรู้ นเิ ทศบุคคลากรภายในองค์กรได้ และทักษะในการ ปฏิบตั ิงาน อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4. การมอบอำนาจ - การท่ีผู้บรหิ ารมอบอำนาจให้รบั ผิดชอบงาน และการตดั สนิ ใจแกบ่ ุคลากร เพือ่ ให้ มีอิสระภาพในการพัฒนาตนเองและทมี งานเป็นการทำงานแบบมสี ่วนรว่ ม 5. การยกยอ่ ง และการใหร้ างวัล - การแสดงให้เห็นคุณค่าของบคุ ลากร เพือ่ เปน็ การสร้างขวญั และกำลังใจในการ ปฏบิ ัตงิ านการใชภ้ าษาในการสอื่ สารท่ดี ี อ่อนนอ้ ม

6. การปรับปรุงอย่างตอ่ เนื่อง โดยใช้ - Deming Cycle คอื PDCA > เป็นกจิ กรรมทด่ี ำเนนิ การอยา่ งต่อเน่อื งหมุนเวยี น ไปเรอ่ื ยๆยอ่ มส่งผลใหก้ ารดำเนินงานมีประสิทธิภาพและคณุ ภาพเพ่ิมขึน้ สรุป วฒั นธรรมคณุ ภาพก่อใหเ้ กดิ ค่านิยมรว่ มกัน ของบคุ คลากร ทำให้คนในองกรณร์ วู้ า่ ตวั เองมี คณุ ค่าเป็นแนวทางของการทำงาน และช่วยขบั เคลอ่ื นในองคก์ รบรรลเุ ปา้ หมาย 6. ผู้นำทางวชิ าการและผนู้ ำการเปล่ียนแปลง วิทยากรโดย ศาสตราจารย์ ดร.พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทกั ษ์ ภาวะผู้นำทางวชิ าการ - การมภี าพอนาคตและวิสัยทัศน์ - การใส่ใจในการบรหิ ารหลักสูตรและจดั การเรียนการสอน - การใส่ใจในการเรียนรู้ การให้คำปรึกษาและการแกป้ ัญหาของนกั เรยี น - การส่อื สารเพอื่ ใหไ้ ดร้ บั การสนับสนุนจากผปู้ กครองและชมุ ชน - การเสริมสรา้ งบรรยากาศเชงิ บวก และความคาดหวงั เพอื่ ความสำเร็จในการเรยี นรู้ - การใส่ใจในความก้าวหน้าของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ภาวะผนู้ ำการเปลย่ี นแปลง ภาวะผู้นำการเปล่ยี นแปลง ประกอบดว้ ยคุณลักษณะสำคัญ 5 ประการ คือ - ผู้มีวิสัยทัศน์ (Visionary) - ผู้สร้างแรงบนั ดาลใจ (Inspirer) - ผู้สนบั สนุน (Supporter) - ผแู้ ก้ปัญหา (Problem Solver) - ผ้จู ัดการเปล่ยี นแปลง (Change Manager)

เน้อื หาการอบรม วันที่ 12 ธนั วาคม 2562 7. ศกึ ษาดูงานโรงเรียนมธั ยมวดั นายโรง การศกึ ษาดงู านครั้งนี้มี นางวันทนา ชชู ว่ ย ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวดั นายโรงและคณะครู เปน็ ผใู้ หค้ ำแนะนำให้ความรูเ้ กีย่ วกับโรงเรยี น ซ่งึ ประเด่นหลักๆที่สำคัญ มดี งั นี้ - โรงเรยี นเปน็ โรงเรยี นท่ีเน้นการใชเ้ ทคโนโลยีเข้ามาจัดการ - เป็นโรงเรียนสอนภาษา - การใช้เทคโนโลยี > เอกสารเป็นไฟล์ ไม่เน้นการใช้เอกสาร > ใช้ทรพั ยากร Technology ท่มี ีให้เกดิ ประสิทธิภาพ > การสรา้ งส่อื ผา่ นหอ้ งเรยี นออนไลน์ Google App > การพฒั นาครูใหร้ ู้จกั การใช้ Technology > ใช้ Google App ใหเ้ กิดประโยชน์เพราะเป็น Technology ใช้ฟรี > เปลย่ี นจากการเซน็ ชือ่ เป็นการแสกนลายน้ิวมือ > การใช้ Google Classroom ในการทำข้อมลู - ภาษาคอื เครื่องมือที่ใชใ้ นการเรียนรู้ - ใช้ทรัพยากรที่มีช่วยพัฒนาโรงเรียน - การท่นี ักเรียนเขา้ ใจภาษาที่หลากหลาย ทำใหน้ กั เรยี นสามารถขยายการเรยี นรู้ ได้มากขนึ้ - การให้สิทธกิ ารเรยี นรูท้ เี ท่าเทียมกัน กิจกรรมท่สี ง่ เสรมิ - การเชิญนักเรียนภายนอกมารว่ มกจิ กรรม - การใชภ้ าษาองั กฤษเปน็ หลกั เช่น ป้าย , สื่อ - การสรา้ งภาษาท่ีสาม - สรา้ งกิจกรรมยอดคนดี เพ่ือพฒั นาคณุ ลักษณะด้านคุณธรรม จริยธรรม - กิจกรรมในโรงเรยี น สามารถเพิ่มเกรดได้ การพัฒนาศกั ยภาพนกั เรยี นสู่การเปน็ นวตั กร - การสรา้ งทางเลอื กการเรยี นรู้ - การสรา้ งกจิ กรรมนกั เรียน ให้นกั เรยี นไดน้ ำสิง่ ทีเ่ รียนนำไปใชง้ านไดจ้ ริง

8. การบริหารจัดการหลักสูตรและส่งเสรมิ การเรียนรู้ทเ่ี น้นผูเ้ รียนเปน็ สำคญั วทิ ยากรโดยรองศาสตราจารย์ ดร.ชูชาติ พ่วงสมจติ ร์ การบริหารหลกั สตู ร หมายถงึ กระบวนการจดั กิจกรรมต่างๆ ทนี่ ำหลกั สตู รไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ แก่ ผ้เู รียน - ทำอยา่ งไรให้บคุ คลท่มี คี วามหลากหลาย คนท่ีแตกต่างกนั มีมาตรฐานเดียวกนั - ทำใหห้ ลักสตู รมคี วามหลากหลาย เช่น วชิ าที่มคี วามหลากหลาย วิธกี ารสอนที่ หลากหลายเปน็ ต้น - การจัดการศกึ ษาทไ่ี มใ่ ช่เกิดจากการคนเดยี วตัดสินใจ ควรเป็นการตัดสนิ ใจแบบ ส่วนรว่ มในบุคคลลากรภายในองคก์ รหรอื องค์กรภายนอกตา่ งๆ - จัดการศกึ ษาตอ้ งมีคุณภาพ - ตอ้ งเปน็ การมสี ่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบ - ทำอะไรตอ้ งนกึ ถึงหลกั คณุ ธรรม - เน้นในเรอ่ื งของหลักประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผล เปา้ หมายในการจัดการศกึ ษา 1. ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น โดยทั่วไปพจิ ารณาจาก คะแนน O-Net , NT , LAS, B-Net , ความสารถด้านการอา่ นของนักเรยี น ,ผลการสอบประจำภาค 2. คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ของผเู้ รยี น (มาตรา 17) พรบ. การศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม พ.ศ. 2562 3. ด้านการอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น กระบวนการการบรหิ ารจัดการหลกั สูตร - การวางแผน - การนำไปใช้ - การประเมินวัดผล 1. การวางแผน - ตรวจสอบความเหมาะสม (ความเหมาะสมกับส่ิงแวดลอ้ ม สงั คม นโยบายฯ) - ประชาสัมพันธห์ ลักสูตร (ครู,บุคคลากร,ชมุ ชน,ประชาชน) - การเตรียมงบประมาณ (แหล่ง,งปม. จากงบอดุ หนุน) - เตรยี มความพร้อมของบคุ ลากรท่ีเกยี่ วขอ้ ง (ใชห้ ลกั KASJT > Knowledge คือ ความรู้ > Attitude คือ เจตคติ > Skills คือ ทกั ษะความชำนาญ > Judgement คือ การตัดสินใจ > Teamwork คือ บุคคลากรรว่ มทำงานกับบคุ คลอื่นไดไ้ หม) - การเตรียมวัสดหุ ลกั สูตร (คู่มือครู เอกสารหลักสูตร แผนการสอน แบบเรยี น สือ่ การ สอน ฯลฯ) - การเตรยี มอาคารสถานที่ (ห้องเรียน หอ้ งกิจกรรม สนามกฬี า สงิ่ แวดลอ้ มอืน่ ๆ) - การเตรียมระบบบรหิ ารของสถานศกึ ษา - การฝึกอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใหก้ ับผสู้ อน

- การประเมินความพรอ้ มก่อนนำหลักสตู รไปใช้ - หนา้ ท่ีผู้บรหิ ารท่ีดี - แกป้ ัญหา - พฒั นา - ปอ้ งกันปญั หา 2. การนำหลกั สตู รไปใช้ - สรา้ งความรู้ใหม่ - กระบวนการทางปัญญา - กระบวนการทางสงั คม - ผเู้ รยี นมีปฏสิ มั พนั ธ์ - นำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ - ผู้สอนมีบทบาทเป็นผอู้ ำนวยความสะดวก 3. การประเมนิ หลกั สูตร เป็นการการหาคำตอบวา่ หลกั สูตรสมั ฤทธผิ์ ลตามท่ีกำหนดไวใ้ นจุดประสงคข์ อง หลกั สูตรมากน้อยเพยี งใด เพอื่ สรุปผลตัดสินว่าหลักสตู รท่ีจดั ทำข้ึนน้นั ควรดำเนินการใช้ ตอ่ ไป หรอื ควรปรบั ปรงุ ใหด้ ีขน้ึ หรือควรจะยกเลิก

เน้อื หาการอบรม วันท่ี 13 ธันวาคม 2562 9. การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ พฒั นาคุณภาพการศึกษา วิทยากร โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ปณติ า วรรณพิรณุ อาจารยณ์ ฐั ภทั ร แกว้ รัตนภทั ร์ อาจารยพ์ งศธร ปาลี คอื การนำสอื่ เทคโนโลยีเข้ามามบี ทบาทในการจัดการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา เพ่อื ให้เกดิ ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาท่ีสงู ขึ้นและมคี วามทันสมัยตอ่ การพัฒนาประเทศไปสูย่ ุค 4.0 ****องคก์ รจะก้าวหน้า องค์กอ่ นนั้นตอ้ งมกี ารยอมรับการเปลีย่ นแปลง แนวคิดนโยบายการศึกษา - เปล่ียน ครู เปน็ โค้ช - สร้างความรู้และการเรยี นรดู้ ้วยระบบดิจิทัล - ปรบั ระบบการเรยี น - ส่งเสรมิ การเรียนคอมพิวเตอร์ Coding - พฒั นา หลักสตู รออนไลน์ - ปลูกฝงั ค่านิยม วัฒนธรรม คณุ ธรรม จริยธรรม ผ่านครอบครวั และส่อื การเรยี นร้ศู ตวรรษที่ 21 - สอนนอ้ ย เรียนมาก - กา้ วขา้ มสาระวชิ า - ให้ผ้เู รยี นเสนอสิ่งที่อยากเรียน - ร่วมมอื >แข่งขัน - เรียนเป็นทีม - เรียนโดยลงมือทำ - ประเมินแนวใหม่ (ไม่เนน้ ถกู ผดิ ประเมนิ ทีม ขอ้ สอบไม่เปน็ ความลับ) การใชเ้ ทคโนโลยี - สร้างเครอ่ื งมือลิขสทิ ธข์ิ อง Work Office โดย https://creativecommons.org/ เป็นการสร้างลขิ สิทธิง์ านให้งาน - สร้างสอ่ื Interactive e-Book ด้วย Pub HTML5 สรา้ งจากเว็บไซต์ http://pubhtml5.com/ เปน็ การสรา้ งสื่อออนไลน์ เปรียบเสมือนหอ้ งสมุด ท่สี ามารถเรยี นที่ไหนก็ได้ ข้นั ตอน - เตรยี มเอกสารทีต่ อ้ งการสร้าง จะเป็นจาก PowerPoint , Word , PDF > แปลงไฟล์ ใหเ้ ปน็ PDF - การสรา้ ง E-Book >เขา้ สู่เวบ็ ไซต์ http://pubhtml5.com/ - การนำไปใช้ มี 2 แบบ 1. ส่งเปน็ ลงิ ค์ 2. ส่งเป็น QR Code

10. การพฒั นาทมี งานและการส่อื สารภายในโรงเรียน วทิ ยากรโดย ดร. ศกลวรรณ เปลยี่ นขำ • มีความรู้ ความเขา้ ใจการพัฒนาทีมงาน และการสื่อสารภายใน โรงเรยี น • สามารถพัฒนาทมี งานและสรา้ งเครอื ข่ายผู้บรหิ ารโรงเรียนได้ • สามารถส่ือสารได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ TEAMWORK • Trust ไวว้ างใจ • Empathy เหน็ อกเห็นใจ • Agreement มขี อ้ ตกลงรว่ มกัน • Mutual benefit จดั สรรผลประโยชน์อยา่ งเป็นธรรม • Willingness เตม็ ใจ • Opportunity โอกาส • Recognition ยอมรับ • Knowledge transfer ถา่ ยโยงความรู้ กระบวนการพฒั นาทมี งาน 1. เปา้ หมาย > ชดั เจน ตรงกัน 2. วางแผน > รว่ มกนั คิดเพ่ือพิชิตงานประสานความคดิ หลากหลายความคิดให้ ทิศทางเปน็ หนึง่ 3. ปฏบิ ัติ > ประสานงานใจ สามคั คี เสยี สละ 4. ประเมนิ ผล > ตรวจสอบผลงานกบั เป้าหมาย กำหนดมาตรฐาน การทำงานกับคน • แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง • กำหนดเป้าหมายรว่ มกนั • ยอมรับความแตกต่าง 11. การบริหารจัดการภาคเี ครือข่ายพฒั นาสถานศกึ ษา วทิ ยากรโดย ผอ.ผเู้ ชีย่ วชาญ จุฑามาศ รอดภยั เครอื ข่าย (Network) คือ การเชอ่ื มโยงของกลมุ่ ของคนหรือกลมุ่ องค์กรทส่ี มัครใจ องค์ประกอบของเครอื ขา่ ย (แท)้ 1. มีการรบั รู้มมุ มองท่ีเหมอื นกัน > ตอ้ งคิดเหมือนกนั 2. การมีวสิ ัยทศั น์ร่วมกัน > สมาชิกมีจุดม่งุ หมายทเ่ี ป็นภาพเดียวกัน การรับรแู้ ละเขา้ ใจทศิ ทางเดียวกนั 3. มคี วามสนใจหรอื ผลประโยชนร์ ว่ มกัน > การเขา้ ร่วมเครอื ขา่ ยสามารถตอบสนองตอ่ ความต้องการของเขา ก็จะเปน็ แรงจงู ใจใหเ้ ข้ามามีส่วนร่วมในเครอื ขา่ ยมากขึ้น 4. การมสี ่วนร่วมของสมาชิกทกุ คนในเครอื ข่าย > การร่วมรับรู้ ร่วมคดิ รว่ มการตัดสินใจ

5. มกี ารเสริมสรา้ งซงึ่ กันและกนั > เรียนรู้จากคนท่เี กง่ ในด้านน้นั ๆ เพือ่ พัฒนาตนเอง 6. การเก้ือหนุนพึ่งพากนั > ต้องมกี ารพ่งึ พาอาศัยซง่ึ กันและกนั 7. มปี ฏิสมั พนั ธใ์ นเชิงแลกเปลี่ยน > ต้องรู้จักการแลกเปลยี่ นข่าวสารร่วมกับคนในองคก์ ร เพ่ือใหเ้ กดิ ปฏิสมั พนั ธ์ตอ่ กัน หลกั การรกั ษาความสำเรจ็ ของเครอื ข่าย มีดงั น้ี 1. มกี ารจัดกิจกรรมร่วมทดี่ ำเนนิ อย่างตอ่ เน่ือง 2. มีการรักษาสมั พนั ธภาพท่ีดีระหว่างสมาชิกเครือข่าย 3. กำหนดกลไกสร้างระบบจงู ใจ 4. จัดหาทรพั ยากรสนบั สนุนเพียงพอ 5. ใหค้ วามชว่ ยเหลอื และชว่ ยแก้ไขปัญหา 6. มีการสร้างผู้นำรนุ่ ใหมอ่ ย่างตอ่ เนอ่ื ง กระบวนการมสี ว่ นรว่ ม - ร่วมคดิ - รว่ มตดั สินใจ - ร่วมปฏิบตั ิ - รว่ มรับผล - รว่ มประเมนิ ปรัชญาเครอื ข่าย LINK L = มกี ารเรียนรู้ (Learning) I = มกี ารร่วมลงทนุ (Investment) N = มคี วามจริงใจ (Nature และ Nurse) K = รกั ษาสัมพนั ธภาพ (Keep Relationship) PLC (Professional Learning Community) \"ชุมชนการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ\" คอื ชุมชนการเรยี นร้ทู างวชิ าชพี การรวมตวั รว่ มใจ ร่วมพลัง ร่วมทำ และร่วมเรยี นรู้ รว่ มกันของครู ผู้บรหิ าร บนพน้ื ฐานวัฒนธรรมความสัมพันธแ์ บบกัลยาณมิตร สู่คุณภาพการ จัดการเรยี นรู้ที่เนน้ ความสำเร็จหรือประสทิ ธิผลของผ้เู รยี นเป็นสำคญั

กระบวนการ PCL 1. สร้างทีม 2. กำหนดปัญหา หรอื หาปญั หาท่ีเกิดข้นึ 3. วางแผนและออกแบบกระบวนการ 4. ลงมอื ปฏบิ ตั ติ ตามแผน 5. สนทนาสะทอ้ นผลหลังการปฏบิ ตั ิ

เน้อื หาการอบรม วันท่ี 14 ธันวาคม 2562 12. การนเิ ทศ กำกบั ติดตามประเมนิ ผล และรายงานผลการจดั การศึกษา วิทยากรโดย ศน.เชย่ี วชาญ ยืนยง ราชวงษ์ คณุ ภาพการศกึ ษา - สมรรถนะของบคุ ลากร - กระบวนการการจดั การศึกษา - ภารกจิ ในการจดั การศึกษา กระบวนการจดั การศกึ ษา - กระบวนการนิเทศ >ตรวจสอบชว่ ยเหลือ คุณภาพของครู - กระบวนการจดั การเรยี นรู้ - กระบวนการบรหิ ารจดั การ หัวใจการพฒั นาคุณภาพการศึกษา - กระบวนการจัดการเรียนรู้ >เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรยี นรู้ ***บทบาทหนา้ ท่ีของผบู้ ริหารต้องให้ผูส้ อนประเมินผเู้ รียนเป็น >เนน้ เชิงประจักษ์ ,ตาม สภาพจริง ปัจจัยที่มอี ิทธพิ ลตอ่ ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี น 1. คณุ ภาพของครู 2. ความสามารถในการบรหิ ารจดั การ 3. ผปู้ กครอง 4. ส่ือเทคโนโลยี ส่ือสงั คม 5. วัฒนธรรม ประเพณี ความเชอื่ 6. ข้อมูลข่าวสาร (Information) การจัดการเรยี นรทู้ ่ีไม่มีคุณภาพของครู - ครูจดั การเรยี นรู้ ไม่ตรงตามหลกั สตู ร - ครสู อนหนังสือตามหนังสือ ไมม่ ีการบูรณาการความรู้ - ครสู อนใหน้ กั เรยี นมคี วามรเู้ ท่ากัน - ครูไมเ่ ปิดโอกาสในนักเรียนมสี ่วนร่วม - ไมเ่ ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นสรุปองคค์ วามรู้ - วดั ผลไมต่ รงตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้วี ัด - การวัดผลเนน้ การสอบด้วยการเลอื กตอบมากเกินไป กระบวนการบริหารวงจรคุณภาพ 1. วางแผน 2. ปฏบิ ัติตามแผน 3. ตดิ ตามตรวจสอบประเมินผล 4. ปรบั ปรงุ แก้ไข

13. การเสริมสรา้ งวินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพ วทิ ยากรโดยอ.อดุ ม อนิ ทรเวศน์วิไล อดตี ผอู้ ำนวยการภารกจิ เสริมสร้างและมาตรฐานวนิ ยั การปอ้ งกนั การถกู ไลอ่ อกหรือเพิกถอนใบประกอบวชิ าชีพ - สติ > การระลกึ ได้ - ปญั ญา > ความรู้ความหยง่ั คดิ ตลอดประสบการณท์ ีไ่ ด้เรียนรูม้ า สงั คมคาดหวงั ในตำแหนง่ โรงผู้อำนวยการโรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม ดังนี้ 1 .ต้องเปน็ แบบอย่างแห่งความประพฤติ (กาย วาจา ใจ) 2. เป็นผูม้ คี วามรู้ 3. เปน็ ผเู้ สียสละ ชอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 4. ตอ้ งมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่กี ารงาน จรยิ ธรรม หรอื คณุ ธรรม - การกระทำ + ปราศจากสติ = พฤติกรรม - การกระทำ + สติ = ความประพฤติ - ความประพฤติ + ปทสั ถาน หรอื บรรทัดฐาน= จรยิ ธรรม **ความประพฤติเป็นองค์ประกอบหน่ึงของ - คณุ ธรรม > เกิดข้ึนภายใต้จิตสำนึกแตล่ ะบุคคล - จริยธรรม > มีเป็นลายลักษณ์อักษร **จรรยาบรรณ คือ สอนดี มีระเบยี บ เพยี บคุณธรรม วนิ ัย > ข้อปฏิบตั ิ บงั คบั ห้าม จดุ มุ่งหมายของวินยั - ประสทิ ธิภาพ ประสิทธผิ ล - ความเจรญิ มน่ั คงของประเทศ - ความผาสุขของประชาชน - รกั ษาภาพพจนช์ ่ือเสยี งที่ดีของทางราชการ ปรชั ญาการสรา้ งวินยั >สง่ เสรมิ ใหเ้ ห็นความสำคัญของวนิ ยั >ปอ้ งกนั >ปราบปราม จริยธรรม ซง่ึ มีองค์ประกอบคอื “จรรยาบรรณ” จรรยาบรรณ คือ ประมวลผลแห่งความดีเปน็ ท่ีสงู สุด โดยคำนึงถึง ความเป็นมนุษย์ การส่งเสริมการกระทำที่มีจุดมงุ่ หมายทถ่ี กู ตอ้ งและเปน็ การตดั สินใจในเร่ืองของคณุ ค่าของ ความเปน็ มนุษย์

เน้อื หาการอบรม วันท่ี 15 ธันวาคม 2562 14. การพฒั นาคุณภาพการศึกษา โดยใชก้ ระบวนการวิจยั วทิ ยากรโดย รองศาสตราจารย์ ดร.เกจ็ กนก เออื้ วงศ์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช วิจัย > การเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา เป็นกระบวนการทางปัญญา หาคำตอบของคำถาม ทกุ เร่อื ง ตัวแปล > คณุ ลกั ษณะส่ิงทเี่ ราต้องการศกึ ษา,ผลสมั ฤทธ์ิ,วิธกี ารสอน ความหมายของวิจยั ของ อ.พชิ ติ ฤทธจ์ิ รญู 1. การวิจยั เปน็ กระบวนการหรอื การใช้วธิ ีการทีเ่ ป็นระบบ มีแบบแผนท่เี ช่ือถือได้ 2. ใชก้ ระบวนการหรือวธิ กี ารท่ีเช่อื ถอื ได้ไปค้นหาความรู้ ความจริง คำตอบ หรอื องค์ ความร้ใู หม่ 3. ผลการวจิ ัยที่ได้ คือ ความรู้ ความจรงิ คำตอบ หรอื องคค์ วามรู้ใหมน่ ้ันจงึ จะเช่อื ถอื ได้ **ผลทีไ่ ด้ คือ ความจริง ความรู้ หรอื ความรู้ใหม่ คุณภาพการศึกษา > ข้อกำหนด มาตรฐานการจดั การศกึ ษาและการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา ใชใ้ นความหมาย 4 ลักษณะ - ยกระดับมาตรฐาน (raise standards) - เพิ่มคุณภาพ (enhance quality) - เพ่มิ ประสทิ ธิภาพ (increase efficiency) - บรรลเุ ป้าหมายในการพัฒนานกั เรียนท้ังดา้ นคุณธรรม จริยธรรม สงั คม และ วัฒนธรรม แนวคำถามในการตรวจสอบ - โรงเรยี นขณะนีเ้ ปน็ อย่างไร (ปัญหา) - เราตอ้ งการเปลย่ี นแปลงอะไร - เราจะบริหารการเปล่ยี นแปลงอย่างไร - เราจะทราบได้อยา่ งไรวา่ การบริหารการเปลย่ี นแปลงนั้นจะประสบความสำเรจ็

สรุปประเด็นปญั หาในการบริหารงานในโรงเรยี น คณุ ภาพผ้เู รยี น - คุณภาพผู้เรยี นโดยภาพรวมยังเป็นปญั หา ทั้งดา้ นผลสมั ฤทธ์ิ และคุณลักษณะ - การสง่ เสริมให้ผเู้ รียนรกั การอ่านและใฝร่ ูอ้ ยา่ งยงั ไม่ตอ่ เน่ือง - การดแู ลคณุ ภาพชวี ติ แก่ผู้เรยี นขณะเรยี น ยังขาดมาตรฐานท่ีเป็นบรรทดั ฐานเดียวกนั - อัตราส่วนของผเู้ รียนท่จี บนักธรรมมนี อ้ ย ซงึ่ ไมส่ อดคล้องกบั ปรัชญาของโรงเรียนท่เี น้นการสร้างศาสน ทายาท - อัตราการเรียนตอ่ ด้านสามญั ของผู้เรียน การลาออกระหวา่ งภาคมีสูง และขาดมาตรการในการส่งเสริม จงู ใจและสรา้ ง ทัศนคติใหม่แกผ่ ู้เรยี นในการครองตนเปน็ เพศบรรพชติ เพอื่ การเป็นศาสนทายาทที่ดี วิชาการ - หลกั สูตรการเรยี นการสอนขาดความเป็นอัตลกั ษณข์ องปรยิ ตั สิ ามญั องิ กบั การศึกษาทางโลกมาก เกนิ ไป ทำใหเ้ ป็นภาระแกผ่ ้เู รียนในการพฒั นาตนเองที่สมบรู ณท์ ง้ั ทางโลกและทางธรรม - การผลิต จัดหาและใช้สอ่ื การเรียนการสอนและ แหล่งเรียนรูอ้ ย่างหลากหลายยังไม่เพียงพอ - การนเิ ทศงานวิชาการและการเรยี นการสอนยงั ขาดความหลากหลายและเหมาะสมกบั สภาพปัญหา ปจั จุบนั และความตอ้ งการของโรงเรยี น - ยังขาดการผลิต พฒั นาสื่อนวัตกรรมการเรยี นการสอนรวมทง้ั ประเมินคุณภาพส่ือนวตั กรรม - ผลงานทางวิชาการ งานวจิ ยั เพ่อื การพัฒนาระบบการศึกษายังมนี ้อยทำใหข้ าดหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ใน การพฒั นาโรงเรียน การบริหารจัดการ - ระบบการบริหารจัดการยังไม่เข้มแขง็ - ขาดระบบการประชาสัมพันธ์ภาพลกั ษณข์ องโรงเรยี นพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา (โรงเรยี นถกู มองวา่ เป็นการจัดการศึกษาแกเ่ ด็กที่ขาดโอกาส ไมใ่ ชเ่ ปน็ การสรา้ งคณุ ภาพของศาสนทายาทท่ีผลติ ขน้ึ มา) - ขาดยุทธศาสตร์ และแนวทางในการพฒั นาระบบการจดั การศึกษาทง้ั ในระยะส้ัน ระยะ กลาง และ ระยะยาว - ผลการประเมนิ คุณภาพของการจดั การศกึ ษาในระบบการประกนั คุณภาพท่ยี งั ไม่ไดต้ ามเกณฑท์ ่ี กำหนดไว้ และยงั ไมม่ มี าตรการเชิงรกุ - ระเบยี บปฏิบตั ิ กฎหมาย หลายประการท่ยี งั ไม่เอ้ือต่อการพัฒนาระบบการศึกษาพระ ปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา - ระบบฐานข้อมูลเทคโนโลยสี ารสนเทศไมม่ ีประสิทธภิ าพ

บคุ ลากร - บุคลากรยังขาดความชำนาญเช่ียวชาญในการสอน - การพัฒนาบคุ ลากรยงั ไมต่ อ่ เน่ือง ขวัญกำลังใจในการปฏิบตั ิงาน และความมน่ั คงในวิชาชีพยงั มนี อ้ ย - ไม่มีระบบการนิเทศติดตามผลการดำเนินงานของโรงเรียน - ระบบการบริหารจดั การบุคลากร ตงั้ แต่กระบวนการสรรหา วา่ จา้ ง แตง่ ต้งั การพจิ ารณา ความดี ความชอบ การเลอื่ นขนั้ เลอื่ นตำแหน่ง ยังไม่ได้มาตรฐานการบรหิ ารบุคคล - ยงั ขาดการสง่ เสริมและพัฒนาให้ครูไดร้ ับความรเู้ ร่ืองจติ วิทยาการแนะแนวและดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน งบประมาณ - ที่มาของรายได้ยงั มาจากการอดุ หนนุ โรงเรียนขาดมาตรการที่ชัดเจนในการพัฒนาโรงเรียนใหม้ ี ความเขม้ แขง็ และพงึ่ ตนเองได้ การสรา้ งความร่วมมือ - การดำเนนิ การแนะแนวและพฒั นาศักยภาพผเู้ รียน โดยความรว่ มมอื ของครูทุกคนในสถานศกึ ษา ประสานความรว่ มมือกับฝ่ายปกครอง ครูท่ปี รกึ ษา และครทู ุกคน - การส่งเสรมิ การสร้างความสัมพันธ์ระหวา่ งสถานศึกษากับชุมชนตลอดจนประสานงานกบั องคก์ รท้ัง ภาครฐั และเอกชนเพื่อให้สถานศกึ ษาเปน็ แหล่งวิทยาการของชมุ ชนและมสี ่วนรว่ มในการพัฒนาชุมชน

ข้อเสนอแนะให้โรงเรียน พจิ ารณาดำเนนิ การ คือ ในสว่ นของข้อเสนอแนะจากการเข้าร่วมอบรมโครงการพฒั นาศกั ยภาพผู้บริหาร โรงเรยี นพระ ปริยัติธรรม นนั้ สิ่งทอี่ ยากใหโ้ รงเรียนดำเนินการมดี ังนี้ 1. พฒั นาศักยภาพระบบบริหารจัดการโรงเรียน 2. พัฒนาศกั ยภาพผ้บู ริหารและบุคลากรทางการศกึ ษาดา้ นการใช้เทคโนโลยี 3. พฒั นาศักยภาพนักเรยี นใหม้ ผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นสูงขึน้ 4. การนำเทคโนโลยีสารสนเทศด้านไอที เขา้ มามีบทบาทในการจัดการงานด้านตา่ งๆในโรงเรยี น 5. ลดภาระการใชก้ ระดาษสร้างเอกสาร 6. การปรบั ภูมิทัศนท์ ้ังโดยรอบโรงเรียน ห้องเรยี น และหอ้ งปฏิบัติงาน ใหน้ า่ อยู่ นา่ เรยี น น่า ศึกษา เสนอผอู้ ำนวยการโรงเรียน ในส่วนที่จะเสนอถึงผูอ้ ำนวยการโรงเรียน อยากใหท้ ุกหนว่ ยงานภายในโรงเรยี น มคี วามสามคั คี ใน หน่วยงานของตวั เอง มีความยอมรับการพัฒนา เพ่ือใหบ้ ริบทของโรงเรียน เปน็ ไปตาม วิสัยทัศน์การพฒั นา ประเทศไปสู่ยคุ 4.0 ซง่ึ จะต้องเริ่มจากการทำให้บุคลากรภายในโรงเรยี นมคี ณุ ภาพมกี ารพฒั นาตนเอง ด้วยการ นำเทคโนโลยเี ข้ามามีบทบาทในการทำงานส่วนต่างๆ ทั้งในเร่อื งของเอกสาร , สื่อการเรยี นรู้ , สอื่ การสอน และข้าพเจา้ คาดหวังว่า โรงเรยี นปทมุ พิทยากรจะเปน็ โรงเรียนต้นแบบทจี่ ะนำเทคโนโลยี สารสนเทศ มาใช้ จงึ ขอให้ผ้อู ำนวยการไดพ้ จิ ารณาในข้อเสนอน้ีด้วย ลงชอ่ื ........................................................ผ้รู ายงาน ( นายศกั ดา น้อยศรี ) ตำแหนง่ รกั ษาการรองผู้อำนวยการโรงเรียน ความเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ................................................................... (พระครสู ังฆรกั ษ์ ไพรัตน์ เตชปญโฺ ญ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนปทุมพทิ ยากร หมายเหตุ สง่ ผอู้ ำนวยการ ภายใน 1 สปั ดาห์ หลังจากกลับจากการอบรมแลว้