Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารวิชาการ ชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ลำดับที่ 1

เอกสารวิชาการ ชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ลำดับที่ 1

Published by researchsao, 2018-08-07 00:01:25

Description: สรุปสาระสำคัญ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

Keywords: สรุปสาระสำคัญ,พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560,สำนักวิจัย,เอกสารวิชาการ,ชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ

Search

Read the Text Version

เอกสารวิชาการ ชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑ สรปุ สาระสาคญัพ.ร.บ. การจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ สานกั งานการตรวจเงนิ แผ่นดนิ เผยแพรโ่ ดย กลมุ่ พฒั นาการตรวจสอบ สานกั วจิ ยั และพฒั นาการตรวจเงินแผน่ ดนิ

เอกสารวชิ าการ ชุดพฒั นางานตรวจสอบการจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ท่ี ๑ เอกสารวิชาการ ชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดุ สรปุ สาระสาคญัพ.ร.บ.การจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ กล่มุ พฒั นาการตรวจสอบ สานกั วิจยั และพฒั นาการตรวจเงนิ แผ่นดนิ ตุลาคม ๒๕๖๐

คำนำ เอกสารวิชาการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จ้างและการบริหารพัสดุ เป็นผลงานด้านพัฒนาการตรวจสอบซึ่งจัดทาโดยกลุ่มพัฒนาการตรวจสอบ สานักวิจัยและพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน เอกสารวิชาการฉบับนีม้ ีวตั ถุประสงค์เพื่อรวบรวมกฎหมาย กฎกระทรวง ระเบียบต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ภายใต้การปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยกลุ่มพัฒนาการตรวจสอบได้สรุปสาระสาคัญของพระราชบญั ญัติการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ กฎกระทรวงทีป่ ระกาศใช้รองรับการจัดซือ้ จัดจ้างภายใต้ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ รวมถึง ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ กลุ่มพัฒนาการตรวจสอบ สานักวิจัยและพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารวิชาการชุดนี้จะเกิดประโยชน์ต่อการทางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างและการตรวจสอบลกั ษณะงานอน่ื ต่อไปในอนาคต กลุ่มพัฒนาการตรวจสอบ สานักวิจยั และพัฒนาการตรวจเงนิ แผน่ ดิน ตลุ าคม ๒๕๖๐

สารบญั หน้าสรุปสาระสาคญั ของ พ.ร.บ.การจัดซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒ สาระสาคัญของ พ.ร.บ.การจดั ซื้อจดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ ๗ หมวด ๑ บททัว่ ไป ๙ หมวด ๒ การมีสว่ นร่วมของภาคประชาชนและผปู้ ระกอบการในการป้องกนั การทุจริต ๑๐ หมวด ๓ คณะกรรมการ ๑๑ หมวด ๔ องค์กรสนบั สนุนดูแลการจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั ๑๒ หมวด ๕ การขนึ้ ทะเบียนผู้ประกอบการ ๑๒ หมวด ๖ การจัดซื้อจัดจา้ ง ๑๕ หมวด ๗ งานจ้างทีป่ รึกษา ๑๗ หมวด ๘ งานจ้างออกแบบหรอื ควบคุมงานก่อสร้าง ๑๙ หมวด ๙ การทาสญั ญา ๒๐ หมวด ๑๐ การบริหารสัญญาและการตรวจรบั พสั ดุ ๒๑ หมวด ๑๑ การประเมินผลการปฏิบตั ิงานของผปู้ ระกอบการ ๒๑ หมวด ๑๒ การทิ้งงาน ๒๑ หมวด ๑๓ การบริหารพัสดุ ๒๑ หมวด ๑๔ การอทุ ธรณ์ ๒๓ หมวด ๑๕ บทกาหนดโทษ ๒๓ บทเฉพาะกาล ๒๕ภาคผนวก

เอกสารวชิ าการชุดพฒั นางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑ สรปุ สาระสาคญัพระราชบญั ญัตกิ ารจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ เอกสารวิชาการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซือ้ จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดุ ลาดับี่ ๑เป็นผลผลิตด้านวิชาการตรวจสอบที่กลุ่มพัฒนาการตรวจสอบ สานักวิจัยและพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สรุปสาระสาคัญของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึง่ เปน็ กฎหมายการจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุฉบับใหม่ กฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างฉบับนี้มีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยเหตุผลในการประกาศใช้กฎหมายก็เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐมีกรอบการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนให้มากที่สุดซึ่งจะก่อให้เกิดความโปร่งใสและการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ส่งเสริมให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐซึง่ นับเปน็ มาตรการสาคัญในการป้องกนั การทุจริตและประพฤติมิชอบในการจดั ซือ้ จดั จ้างภาครัฐ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ นับเป็นกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฉบับแรกของประเทศไทย เนอื่ งจากในอดีตที่ผ่านมา การจัดซื้อจัดจา้ งภาครัฐจะต้องดาเนนิ การตามระเบียบสานักนายกรฐั มนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นหลัก ปัจจุบัน การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐพยายามดาเนินการทุกข้ันตอนให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ท้ังหมดโดยกรมบัญชีกลางได้พัฒนาระบบ e-Government Procurement มาถึงระยะที่ ๓ แล้ว ซึ่งในระยะนี้ได้เพิ่มเรื่องวิธีการจัดหาท้ังแบบ e-Market และ e-Bidding อย่างไรก็ดี การตรากฎหมายการจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐนับเป็นการปฏิรูประบบการจัดซื้อจัดจ้างคร้ังใหญ่ของประเทศ โดยกฎหมายฉบับนี้ ประกอบด้วย ๑๕ หมวด และบทเฉพาะกาล จานวน ๑๓๒ มาตรา การปฏิรูประบบการจดั ซอื้ จดั จา้ งยึดหลักการสาคัญ ได้แก่ (ก) ความคุ้มค่า (ข) ความโปร่งใสโดยเน้นให้มีการเปิดเผยและแข่งขันอย่างเป็นธรรม (ง) ความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และ (จ) ตรวจสอบได้ภายใต้หลกั การข้างต้นจงึ นาไปสู่การกาหนดหลักเกณฑก์ ารจดั ซือ้ จัดจา้ งใหม่ที่แตกต่างจากเดิม กล่าวคือ (๑) การกาหนดให้หนว่ ยงานรฐั ภายใต้ พ.ร.บ.นี้จดั ทาแผนการจัดซือ้ จัดจา้ งประจาปี (๒) การคัดเลือกสินค้าและบริการให้คดั เลือกจากคุณภาพโดยไม่จาเป็นต้องใช้ราคาต่าสุด (๓) การข้ึนทะเบียนผปู้ ระกอบการ (๔) การรวมซือ้ รวมจา้ งหลายหนว่ ยงาน (๕) การเปิดเผยข้อมลู การจดั ซื้อจัดจ้าง (๖) การกาหนดเกณฑ์ประเมินผลงาน โดยผู้ไม่ผ่านจะถูกระงับการทาสัญญากับหน่วยงานรัฐ ช่ัวคราว และ (๗) การกาหนดบทลงโทษ ๑พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑สาระสาคญั ของพระราชบญั ญัติการจดั ซื้อจดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐๑. โครงสร้างของกฎหมาย แบ่งออกเปน็ ๑๕ หมวด และบทเฉพาะกาล จานวน ๑๓๒ มาตรา ดงั น้ีมาตรา หมวด๑-๕ บทนิยาม๖-๑๕ หมวด ๑ บททวั่ ไป๑๖-๑๙ หมวด ๒ การมสี ่วนรว่ มของภาคประชาชนและผปู้ ระกอบการในการป้องกนั การทุจริต๒๐-๔๕ หมวด ๓ คณะกรรมการ ส่วนที่ ๑ คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดภุ าครฐั ส่วนที่ ๒ คณะกรรมการวินิจฉยั ปญั หาการจดั ซื้อจดั จ้างและการบริหารพสั ดุ ภาครัฐ ส่วนที่ ๓ คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ ส่วนที่ ๔ คณะกรรมการความรว่ มมอื ป้องกันการทุจรติ ส่วนที่ ๕ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อรอ้ งเรียน๔๖-๕๐ หมวด ๔ องค์กรสนับสนุนดูแลการจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ๕๑-๕๓ หมวด ๕ การข้ึนทะเบียนผปู้ ระกอบการ๕๔-๖๘ หมวด ๖ วิธีการจดั ซือ้ จัดจา้ ง๖๙-๗๘ หมวด ๗ วิธีการจา้ งทีป่ รึกษา๗๙-๙๒ หมวด ๘ วิธีการจา้ งงานออกแบบและควบคมุ งาน๙๓-๙๙ หมวด ๙ การทาสญั ญา๑๐๐-๑๐๕ หมวด ๑๐ การบริหารสัญญาและการตรวจรบั พสั ดุ๑๐๖-๑๐๘ หมวด ๑๑ การประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานของผู้ประกอบการ๑๐๙-๑๑๑ หมวด ๑๒ การทิ้งงานและการเพิกถอนการเปน็ ผู้ทิ้งงาน๑๑๒- หมวด ๑๓ การบริหารพัสดุ๑๑๓๑๑๔- หมวด ๑๔ การอุทธรณ์๑๑๙๑๒๐-๑๒๑ หมวด ๑๕ บทกาหนดโทษ๑๒๒- บทเฉพาะกาล๑๓๒ ๒พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดับที่ ๑๒. การบงั คับใช้ (มาตรา ๓) ให้ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุ ในกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับประกาศข้อบัญญัติ และข้อกาหนดใด ๆ ของหน่วยงานรัฐที่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้และให้ใช้บังคับเม่ือพ้นกาหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป (ประกาศเม่อื วันที่ ๒๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๐)๓. นิยามศพั ี์สาคัญ (มาตรา ๔) นิยามศัพี์ ความหมายการจดั ซือ้ จดั จา้ ง การดาเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซื้อ จ้าง เช่าแลกเปลี่ยนหรือพัสดุ โดยนิติกรรมอน่ื ตามที่กาหนดในกฎกระทรวงสินค้า สินค้า งานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างที่ปรึกษา และงานจ้างออกแบบบริการ หรือควบคุมงานสร้าง รวมทั้งการดาเนินการอื่นตามที่กาหนดในงานก่อสร้าง กฎกระทรวง วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่นๆรวมถึงงานบริการที่อาคาร รวมอยู่ในสินค้าน้ันด้วย แต่มูลค่าของงานบริการต้องไม่สูงกว่าของมูลค่า ” สินค้า”นั้นสาธารณูปโภค งานจา้ งบริการ งานจา้ งเหมาบริการ งานจา้ งทาของและการรับขนงานจา้ งที่ปรึกษา งานก่อสร้าง งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด และการ ซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุง ร้ือถอน หรือการกระทาอื่นใดที่มีลักษณะ ทานองเดียวกนั กับอาคารสาธารณูปโภค หรอื สิ่งปลกู สร้างนั้น รวมถึงงาน บริการที่รวมอยู่ในสินค้าน้ัน แต่มูลค่าของงานบริการต้องไม่สูงกว่ามูลค่า ของ”งานก่อสร้าง”น้ัน สิ่งปลูกสร้างถาวรที่บุคคลเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ เช่น อาคารที่ทาการ โรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆที่มีลักษณะ เดียวกัน รวมถึงงานอื่นๆซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยสาหรับ”อาคาร” นั้ น เช่ น เส าธ ง ร้ั ว ท่ อ ร ะบ าย น้ า ถั งน้ า ถ น น ป ร ะป า ไฟ ฟ้ า เครือ่ งปรับอากาศ ลิฟท์ หรือเครอ่ื งตกแตง่ งานที่เกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การสื่อสาร การโทรคมนาคม การ ระบายน้า การขนส่งทางท่อ ทางบก ทางน้า ทางอากาศ ทางราง หรืออื่นๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง งานจ้างจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เพื่อเป็นผู้ให้คาปรึกษาหรือ แนะนาแก่หน่วยงานของรัฐ ในด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผังเมือง ๓พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดับที่ ๑นิยามศัพี์ ความหมาย กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรม การศึกษาวิจัย หรือด้านอื่นที่อยู่ ในภารกิจของหน่วยงานภาครฐังาน จ้ างอ อ ก แบ บ งานจ้างจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเพื่อออกแบบหรือควบคุมงานห รื อ ค ว บ คุ ม ง า น ก่อสร้างก่อสร้างการบริหารพัสดุ การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบารุงรักษา และการจาหนา่ ยพสั ดุราคากลาง ราคาที่ใช้เป็นฐานสาหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ยื่นเสนอไว้ซึ่ง สามารถจัดซอื้ จัดจา้ งได้จรงิ มีดังนี้ ๑. ราคาที่ได้จากการคานวณ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการราคา กลางกาหนด ๒. ราคาที่ได้มาจากฐานข้อมลู ราคาอ้างอิงทีก่ รมบัญชกี ลางจัดทา ๓. ราคามาตรฐานทีส่ านกั งบประมาณหรอื หนว่ ยงานกลางอืน่ กาหนด ๔. ราคาทีไ่ ด้จากการสืบราคาจากท้องตลาด ๕. ราคาที่เคยซือ้ หรอื จา้ งครั้งหลังสุดภายในระยะเวลา ๒ ปีงบประมาณ ๖. ราคาอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงาน ของรฐั กรณีที่มีราคาตาม ๑. ให้ใช้ราคาตาม ๑. ก่อน ถ้าไม่มีราคาตาม ๑. แต่ มีราคาตาม ๒. หรือ ๓. ให้ใช้ราคาตาม ๒. หรือ ๓. ก่อน โดยจะใช้ราคา ตาม ๒. หรือ ๓. ให้คานึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐเป็นสาคัญ กรณีที่ไม่มีราคาตาม ๑. ๒. และ ๓. ให้ใช้ราคาตาม ๔. ๕. หรือ ๖. ตามลาดับก่อน โดยจะใช้ราคาตาม ๔. ๕. หรือ ๖. ให้คานึงถึงประโยชน์ ของหน่วยงานของรัฐเปน็ สาคัญเงินงบประมาณ - เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่า ด้วยวิธีการงบประมาณ หรอื กฎหมายว่าดว้ ยการโอนงบประมาณ - เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับโดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี ให้โดยไม่ ต้องนาส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายว่า ด้วยเงนิ คงคลัง - เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับโดยไม่ต้องนาส่งคลังเป็นรายได้ของแผ่นดิน ตามกฎหมาย ๔พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดับที่ ๑นิยามศัพี์ ความหมาย - เงิน ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อื่นที่ตกเป็นรายได้ของ ราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายหรือที่ราชการส่วนท้องถิ่นมีอานาจเรียก เกบ็ ตามกฎหมาย - เงินกู้ เงินช่วยเหลือ และเงินอ่นื ตามที่กาหนดในกฎกระทรวงหนว่ ยงานของรฐั ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ องค์การมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกากับของ รัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรอื ในกากับของรัฐสภา หน่วยงานอิสระของรัฐ และหนว่ ยงานอน่ื ตามที่กาหนดในกฎกระทรวงเจ้าหนา้ ที่ ผู้มี่หน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายจากผู้มีอานาจให้ปฏิบัติหน้าทีเ่ กี่ยวกับการจัดซือ้ จัดจา้ งหรอื การ บริหารพัสดุของหนว่ ยงานของรัฐค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร คณะกรรมการนโยบายการจดั ซื้อจดั จ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐันโยบายค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร คณะกรรมการวินจิ ฉยั ปญั หาการจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐัวินจิ ฉยัค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร คณะกรรมการราคากลางข้ึนทะเบียนผู้ประกอบการราคากลางค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร คณะกรรมการความรว่ มมอื ป้องกันการทุจริตค.ป.ท.ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร คณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์และข้อรอ้ งเรียนพิจารณาอุทธรณ์ ๕พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑ แผนภาพที่ ๑ บทนิยาม ตามมาตรา ๔ีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรี๔. รฐั มนตรว่าการกระีรวงการคลงั รกั ษาการตาม พ.ร.บ.น้ และมีอานาจออกกฎกระทรวงและ ระเบียบเพือ่ ถือปฏิบตั ิตาม พ.ร.บ. นี้ (มาตรา ๕) ๖พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑หมวด ๑ บีีว่ั ไป๕. หนว่ ยงานของรฐั สามารถขอออกกฎ ระเบยบภายใต้ พ.ร.บ.ขึ้นใช้เองเพื่อความยืดหย่นุ และ คลอ่ งตวั (มาตรา ๖) กรณีรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานรัฐที่ประสงค์จะจัดให้มีระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุขึ้นใช้เองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เพื่อเกิดความยืดหยุ่นและมีความคล่องตัว ให้กระทาได้ โดยต้องดาเนินการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพสั ดตุ ามแนวทางของ พ.ร.บ.นี้ ร ะ เบี ย บ ข้ อ บั ง คั บ ห รื อ ข้ อ บั ญ ญั ติ ดั ง ก ล่ า ว ต้ อ ง ได้ รั บ ค ว า ม เห็ น ช อ บ จ า กคณะกรรมการนโยบายและให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา๖. หลักการจดั ซ้อื จดั จ้าง (มาตรา ๘) เพื่อก่อใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุดแก่หนว่ ยงานของรฐั และต้องสอดคล้องกบั หลักการ ดังน้ี (๑) คุ้มค่า : ต้องมีคณุ ภาพ ราคาเหมาะสม และมีแผนบริหารพัสดุทีเ่ หมาะสมและชัดเจน (๒) โปร่งใส : ต้องกระทาอย่างเปิดเผย แข่งขันอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน มีระยะเวลา เหมาะสมต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดาเนินงานชัดเจน และเปิดเผยข้อมูลจัดซื้อ จดั จา้ งในทกุ ขั้นตอน (๓) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล : ต้องมีการวางแผนจดั ซื้อจัดจ้างลว่ งหน้า (๔) ตรวจสอบได้๗. การกาหนดคุณลักษณะเฉพาะของพสั ดุี่จะีาการจดั ซ้อื จดั จ้าง (มาตรา ๙) (ก) คานึงถึงคุณภาพ เทคนิค และวัตถุประสงค์ของการจดั ซือ้ จัดจา้ งพสั ดนุ ้ัน (ข) ห้ามมิให้กาหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หรือ ผู้ขาย รายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ (ค) เว้นแต่พัสดุที่จะทาการจัดซื้อจัดจา้ งตามวัตถุประสงค์นั้นมียี่หอ้ เดียวหรอื จะต้องใช้อะไหล่ ของยีห่ ้อใดก็ให้ระบยุ ี่หอ้ นั้นได้๘. หา้ มไม่ใหเ้ ปิดเผยขอ้ เสนอ (มาตรา ๑๐) ห้ามไม่ให้หน่วยงานภาครัฐเปิดเผยข้อเสนอที่เป็นสาระสาคัญ และเป็นข้อมูลทางเทคนิคของผยู้ ืน่ ขอ้ เสนอ ระหว่างผู้ยืน่ ของเสนอด้วยกนั หรอื ต่อผู้ซึง่ มิได้เกีย่ วข้องกับการจัดซื้อจดั จ้างครง้ั น้ี ๗พ.ร.บ.การจัดซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑๙. แผนจดั ซอ้ื จัดจา้ งประจาปี (มาตรา ๑๑) ให้หน่วยงานรัฐจัดทาแผนจัดซื้อจัดจ้างประจาปี และประกาศเผยแพร่ในระบบสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกาหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานภาครัฐ๑๐. ผมู้ หน้าี่ดาเนินการจัดซือ้ จัดจ้างต้องไม่เปน็ ผมู้ ส่วนได้เสย (มาตรา ๑๓) (ก) ผู้ที่มีหน้าที่ดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ยื่นขอเสนอหรือ คู่สัญญาน้ัน (ข) กรณีทีป่ รากฏภายหลงั ว่าผมู้ ีหน้าทีน่ ั้นเปน็ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับผยู้ ื่นข้อเสนอหรอื คู่สัญญา ในข้ันตอนใดข้ันตอนหนึ่งของการจัดซือ้ จัดจา้ ง หรือเป็นกรรมการในคณะกรรมการจัดซื้อ จัดจา้ งแต่ไม่มีผลต่อการจัดซือ้ จดั จา้ งอย่างมีนยั สาคัญ การจัดซือ้ จดั จา้ งนนั้ ย่อมไม่เสียไป๑๑. ผู้มอานาจอนมุ ตั ิจดั ซอ้ื จัดจ้าง (มาตรา ๑๕) การจัดหาพัสดุโดยวิธีใดตามพระราชบัญญัตินี้จะเป็นผู้ดารงตาแหน่งใดและภายในวงเงินเท่าใด ให้เป็นไปตามระเบียบที่รฐั มนตรี (รมต.การคลงั ) กาหนด แผนภาพที่ ๒ โครงสรา้ งเนือ้ หาหมวด ๑ บททว่ั ไปีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรี ๘พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพฒั นางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๒ การมสว่ นรว่ มของภาคประชาชนและผูป้ ระกอบการในการปอ้ งกนั การีุจริต๑๑. การมส่วนรว่ มของภาคประชาชนและผ้ปู ระกอบการในการปอ้ งกนั การีจุ รติ ในการจัดซ้อื จัดจ้าง (มาตรา ๑๖-๑๙) (ก) ให้หน่วยงานรัฐจัดให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์กระบวนการ จดั ซื้อจัดจ้างข้ันตอนใดข้ันตอนหนง่ึ (มาตรา ๑๖) (ข) คณะกรรมการ ค.ป.ท. อาจกาหนดให้มีการจัดีาข้อตกลงคุณธรรมตามโครงการ ความร่วมมือป้องกันการีุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (Integrity Pact) โดยอย่าง น้อยให้คานึงถึง (๑) วงเงินการจัดซื้อจัดจ้าง (๒) มาตรการป้องกันการทุจริต (๓) การ จัดซื้อจัดจ้างที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต และ (๔) ความคล่องตัวในการดาเนินงาน (มาตรา ๑๗) (ค) ข้อตกลงคุณธรรมฯ ให้จัดทาเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐเจ้าของโครงการ และผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นเสนอราคา โดยตกลงกันว่าจะไม่กระทาการทุจริตในการ จัดซื้อจัดจ้าง และให้มีผู้สังเกตการณ์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่ จาเป็นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่การจัดทาร่าง TOR จนถึงสิ้นสุดโครงการ โดยผู้สังเกตการณ์ต้องมีความเป็นกลาง และไม่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการจัดซื้อจัดจ้างน้ัน ท้ังนี้ให้ผู้สังเกตการณ์รายงาน ความเห็นพรอ้ มข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ ค.ป.ท. (มาตรา ๑๘) (ง) ผู้ประกอบการที่จัดอยู่ในประเภทหรือมีวงเงินจัดซื้อจัดจ้างตามที่คณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศไว้ หากประสงค์จะยื่นข้อเสนอกับหน่วยงานรัฐในการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้ประกอบการน้ันต้องจัดให้มนโยบายในการปอ้ งกนั การีจุ รติ และแนวีางป้องกัน การีุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างี่เหมาะสมโดยมมาตรฐานขั้นต่าของนโยบายและ แนวีางป้องกันการีุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างี่ผู้ประกอบการต้องจัดให้ม เป็นไป ตามีค่ ณะกรรมการ ค.ป.ี. ประกาศไว้ (มาตรา ๑๙) แผนภาพที่ ๓ โครงสรา้ งเนือ้ หาหมวด ๒ การมีส่วนรว่ มของภาคประชาชนและผปู้ ระกอบการในการป้องกนั การทจุ รติ ๙ี่มาภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวัฒน์ โยอาศรีพ.ร.บ.การจัดซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๓ คณะกรรมการ๑๒. คณะกรรมการี่เก่ยวข้อง กฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างฯ ฉบับนี้กาหนดให้มีคณะกรรมการ ๕ คณะ (มาตรา ๒๐-๔๕) ประกอบด้วยคณะกรรมการ หน้าี่๑. คณะกรรมการนโยบายการจดั ซื้อจดั จ้าง กาหนดเสนอนโยบาย กฎ ระเบียบ ภายใต้ พ.ร.บ. นี้และการบริหารพัสดุภาครัฐ (มาตรา ๒๐-๒๖)๒. คณะกรรมการวินจิ ฉยั ปญั หาการจัดซื้อจัดจ้าง ปรับปรุงแก้ไขปัญหา ตีความและวินิจฉยั ปัญหาและการบริหารพัสดุภาครัฐ (มาตรา ๒๗-๓๑) ข้อหารอื เกีย่ วกบั การปฏิบตั ิตาม พ.ร.บ.๓. คณะกรรมการราคากลางและขึน้ ทะเบียน กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกาหนดราคากลางผปู้ ระกอบการ (มาตรา ๓๒-๓๖)๔. คณะกรรมการความรว่ มมอื ป้องกนั การทุจรติ กาหนดแนวทางและวธิ ีดาเนินการความรว่ มมอื(มาตรา ๓๗-๔๐) ป้องกนั การทจุ ริต กาหนดแบบข้อตกลงคุณธรรม๕. คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์และร้องเรียน พิจารณาข้อรอ้ งเรียนและวินิจฉัยอุทธรณ์(มาตรา ๔๑-๔๕) แผนภาพที่ ๓ โครงสรา้ งเนือ้ หาหมวด ๓ คณะกรรมการีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรี ๑๐พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๔ องค์กรสนบั สนุนดแู ลการจัดซ้อื จัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ๑๑. องค์กรสนบั สนนุ ดูแลการจัดซื้อจดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั (มาตรา ๔๖-๕๐) กรมบญั ชกลางเปน็ องค์กรสนับสนุนดูแลการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐรวมท้ังปฏิบตั ิหน้าที่ในฝา่ ยเลขานกุ ารในคณะกรรมการตาม พ.ร.บ. โดยกาหนดให้มีหน้าที่ ดังน้ี (๑) ดแู ลและจดั หาระบบการจัดซือ้ จัดจา้ งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (๒) จดั ทาฐานข้อมูลราคาอ้างองิ (๓) รวบรวมวิเคราะหแ์ ละประเมินผลการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้ (๔) จดั หาหลักสูตรการฝึกอบรมเจา้ หน้าที่ตามหลกั วิชาชีพ และ (๕) ปฏิบัติหน้าทีเ่ ลขานุการในคณะกรรมการตาม พ.ร.บ. น้ี ท้ังนีก้ รณีเจ้าหน้าที่ซึง่ ผา่ นการฝึกอบรมจากกรมบญั ชีกลางและได้รับแต่งตง้ั ให้ดารงตาแหนง่ ที่มีหน้าทีเ่ กี่ยวกับการจดั ซือ้ จัดจ้างหรอื การบริหารพสั ดุมีสิทธิ์ได้รบั เงนิ เพิม่ หรอื เงินอ่ืนทานองเดียวกัน แผนภาพที่ ๔ กรมบญั ชีกลางในฐานะองค์กรสนับสนุนดแู ลการจัดซอื้ จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐัีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวัฒน์ โยอาศรี ๑๑พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพฒั นางานตรวจสอบการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑หมวด ๕ การขึ้นีะเบยนผปู้ ระกอบการ๑๒. การขึ้นีะเบยนผู้ประกอบการ (มาตรา ๕๑-๕๓) ๑. ให้คณะกรรมการราคากลางและขึ้นีะเบยนกาหนดหลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียน ผปู้ ระกอบการก่อสร้างและตอ้ งข้นึ ทะเบียนผปู้ ระกอบการกับกรมบัญชกี ลาง ๒. การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการพัสดุอื่น ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการราคากลาง เห็นสมควร ๓. กรณีขึน้ ทะเบียนไว้แล้ว ไม่ต้องขึน้ ทะเบียนอีกหมวด ๖ การจัดซือ้ จัดจ้าง๑๓. วิธการจดั ซื้อจัดจ้าง (มาตรา ๕๔-๖๘)กาหนดให้มี ๓ วิธี ดังนี้ อาจกระทาได้โดยวิธีวิธการจดั ซื้อจดั จ้าง แนวีาง๑. ประกาศเชญิ ชวนทวั่ ไป เชญิ ชวนผู้ประกอบการทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไข ที่กาหนดให้เข้ายื่นขอ้ เสนอ๒. คัดเลือก เชิ ญ ช วน เฉ พ าะผู้ ป ร ะก อ บ ก าร ที่ มี คุ ณ ส ม บั ติ ต รงต า ม เง่ื อ น ไข ที่ ก า ห น ด ซึ่ ง ต้ อ ง ไม่ น้ อ ย ก ว่ า ๓ ร า ย ให้เข้ายืน่ ขอ้ เสนอ เว้นแต่ในงานนั้นมีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ กาหนดนอ้ ยกว่า ๓ ราย๓. เฉพาะเจาะจง เชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขที่ กาหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามา เจรจาต่อรองราคา แผนภาพที่ ๕ การจดั ซือ้ จดั จ้างตามกฎหมายใหม่ประกอบด้วย ๓ วิธี คือ เชิญชวนทัว่ ไป คดั เลือก และเฉพาะเจาะจง ๑๒ีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรีพ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดับที่ ๑  กรณีการจัดซือ้ จดั จา้ งพสั ดุ ต้องให้เลือกใช้วิธประกาศเชิญชวนีว่ั ไปก่อน เวน้ แต่ (๑) วิธคัดเลือก ให้ใช้ในกรณต่อไปน้ ๑. ประกาศเชิญชวนแล้ว แต่ไมม่ ผู้เสนอ หรอื ไม่ไดร้ บั การคดั เลือก ๒. เป็นพัสดุที่มีคุณลักษณะพิเศษหรือซับซ้อน หรือต้องผลิต ก่อสร้าง หรอื ที่มีฝีมือโดยเฉพาะ หรอื มีความชานาญพิเศษ หรอื มีทักษะสูง และผปู้ ระกอบการเชญิ ชวนแลว้ ไม่ได้ผล ๓. จาเป็น เร่งดว่ น หากใช้วธิ ีประกาศเชิญชวนแล้วไม่ได้ผล ๔. มีขอ้ จากัดทีจ่ าเปน็ ต้องระบยุ ีห่ อ้ ๕. จาเป็นต้องซือ้ จากต่างประเทศ ๖. พสั ดทุ ี่ตอ้ งปกปิดหรอื ใช้ในราชการลับ ๗. งานซ่อมที่จาเปน็ ต้องถอดตรวจ ๘. กรณีอืน่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง (๒)วิธเฉพาะเจาะจง ใหใ้ ช้ในกรณต่อไปน้ ๑. ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นเสนอ หรือ ข้อเสนอไม่ได้รบั การคดั เลือก ๒. การจดั ซือ้ จัดจา้ งในวงเงินครงั้ หนึง่ ไม่เกินวงเงินที่กาหนดในกฎกระทรวง ๓. มีผู้ประกอบการทีม่ คี ุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรอื เปน็ ตัวแทนจาหน่ายโดยชอบด้วย กฎหมายเพียงรายเดียวในประเทศและไม่มพี ัสดุอืน่ ใดทีจ่ ะใช้ทดแทนได้ ๔. มีความจาเป็นเร่งด่วน เนื่องจากภัยธรรมชาติ หรือเกิดโรคติดต่อร้ายแรง และใช้วิธี ประกาศเชิญชวนหรอื วิธีคดั เลือกอาจล่าช้าก่อใหเ้ กิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ๕. เป็นพัสดุที่เกี่ยวพันกับพัสดุที่ซื้อจ้างไว้ก่อนแล้ว และมีความจาเป็นต้องเพิ่มเติม โดยมูลค่า พัสดุทีเ่ พิม่ เตมิ ต้องไม่สงู กว่ามูลค่าพัสดุทีได้ซื้อจ้างไว้ก่อนแล้ว ๖. เปน็ พัสดทุ ี่จะขายทอดตลาดโดยหนว่ ยงานภาครัฐ ๗. เป็นทีด่ ินหรือสง่ิ ปลูกสร้างซึง่ จาเป็นต้องซือ้ เฉพาะแหง่ ๘. กรณีอืน่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง  ให้หน่วยงานของรัฐจัดทาประกาศและเอกสารเชิญชวนให้ทราบเป็นการทั่วไปในระบบของ กรมบัญชีกลางและของหน่วยงาน ตามวิธีที่กรมบัญชีกลางกาหนด และให้ปิดประกาศโดย เปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐน้ัน ว่าจะดาเนินการจัดซื้อจัดจา้ งพัสดุใด วนั เวลา สถานทีย่ ืน่ ขอ้ เสนอและเง่อื นไขอืน่ ๆ  ให้ประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคานวณ ราคากลางในระบบของ กรมบญั ชกี ลาง ๑๓พ.ร.บ.การจัดซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑  ให้กาหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ายื่นข้อเสนอ อย่างน้อยต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องหา้ ม เปน็ เง่อื นไขในประกาศและเอกสารเชญิ ชวน ดงั น้ี ๑. มีความสามารถตามกฎหมาย ๒. ไม่เปน็ บคุ คลล้มละลาย ๓. ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ ๔. ไม่เป็นบุคคลซึง่ อยู่ระหว่างถูกระงบั การยืน่ ขอ้ เสนอหรอื ทาสญั ญากบั ราชการ ๕. ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกแจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทา สญั ญากับราชการ หลกั การพิจารณาคัดเลือกขอ้ เสนอการจดั ซื้อจดั จ้าง ๑. ต้นทุนตลอดการใช้งาน ๒. มาตรฐานของสินค้าหรือบริการ ๓. บริการหลงั การขาย ๔. พสั ดุที่รฐั ตอ้ งการส่งเสริมหรือสนับสนนุ ที่อนุรักษ์พลังงานหรอื สิ่งแวดล้อม ๕. การประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของผปู้ ระกอบการ ๖. ข้อเสนอด้านเทคนิคหรอื ข้อเสนออืน่ ๗.เกณฑอ์ ื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง  เม่ือมีการยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานรัฐแจ้งให้ผู้ประกอบการซึ่งมารับหรือซื้อ เอกสารเชญิ ชวนทุกรายทราบถึงเหตผุ ลที่ตอ้ งยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนน้ั ๑๔พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๗ งานจ้างีป่ รกึ ษา๑๔. งานจา้ งีป่ รกึ ษา (มาตรา ๖๙-๗๘) กาหนดให้มี ๓ วิธี ดังน้ี อาจจะกระทาได้โดยวิธี ๑. วิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไป : เชิญชวนที่ปรึกษาทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขที่ กาหนดให้เขา้ ยื่นขอ้ เสนอ ให้ใชก้ บั งานทีไ่ ม่ซบั ซ้อน ๒. วิธีคัดเลือก : เชิญชวนเฉพาะที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขที่กาหนดซึ่งต้องไม่ น้อยกว่า ๓ รายให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ันมีที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ กาหนดนอ้ ยกว่า ๓ ราย ๓. วิธีเฉพาะเจาะจง : เชิญชวนที่ปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขที่กาหนดรายใดราย หนง่ึ ให้เข้ายืน่ ขอ้ เสนอหรอื ให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา  การจา้ งทีป่ รึกษาด้วยวิธีคดั เลือก ให้กระทาได้ในกรณี ต่อไปนี้ ๑. ประกาศเชิญชวนแล้ว แต่ไม่มีผู้เสนอ หรอื ไม่ได้รับการคัดเลือก ๒. เปน็ งานที่ซบั ซ้อน ซบั ซ้อนมาก หรอื มีเทคนิคเฉพาะไม่เหมาะที่จะดาเนินการโดยวิธีประกาศเชิญชวน ๓. มีที่ปรึกษาในงานทีจ่ ะจดั จ้างจานวนจากัด ๔. กรณีอืน่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง  วิธีเฉพาะเจาะจง ให้ใชใ้ นกรณีตอ่ ไปนี้ ๑. ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นเสนอ หรือ ข้อเสนอไม่ได้รับการคัดเลือก ๒. การจดั ซือ้ จดั จา้ งในวงเงินครง้ั หนึง่ ไม่เกินวงเงินที่กาหนดในกฎกระทรวง ๓. เป็นงานทีจ่ าเป็นต้องใหท้ ีป่ รึกษารายเดิมทาต่อจากงานที่ได้ทาไว้แล้ว เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค ๔. เป็นงานจา้ งที่มที ี่ปรึกษาเพียงรายเดียว ๕. เป็นงานที่มีความจาเป็นเร่งด่วนหรือที่เกี่ยวกับความม่ันคงของชาติ อาจล่าช้าก่อให้เกิด ความเสียหาย ๖. กรณีอื่นตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง  ให้ผู้มีอานาจแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินการจ้างที่ปรึกษา เพื่อรับผิดชอบในการดาเนินงาน จา้ งที่ปรึกษา หลกั เกณฑ์พิจารณาคดั เลือกขอ้ เสนอการจา้ งี่ปรึกษา ๑๕ ๑. ผลงานและประสบการณ์ของทีป่ รึกษา ๒. วิธีการบริหารและวิธีการปฏิบตั ิงาน ๓. จานวนบคุ ลากรที่รว่ มงาน ๔. ประเภทของที่ปรึกษาที่รฐั ส่งเสริมหรอื สนับสนุน ๕. ข้อเสนอทางการเงิน ๖. เกณฑอ์ ื่นตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวงพ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพฒั นางานตรวจสอบการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดับที่ ๑ แผนภาพที่ ๖ งานจ้างที่ปรกึ ษาตาม พ.ร.บ.จดั ซอื้ จดั จ้างี่มาภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรี ๑๖พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑หมวด ๘ งานจ้างออกแบบหรอื ควบคมุ งานก่อสรา้ ง๑๕. งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง (มาตรา ๗๙-๙๒) กาหนดใหม้ ี ๔ วิธี ดังน้ี อาจจะ กระทาได้โดยวิธี ๑. วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป : ให้ใช้กับงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ที่มี ลักษณะไม่ซบั ซ้อน ๒. วิธีคัดเลือก : เชิญชวนผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขที่กาหนดซึ่งต้องไม่น้อย กว่า ๓ รายใหเ้ ข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแตใ่ นงานน้ันมีผู้ให้บริการทีม่ คี ณุ สมบตั ิตรงตามที่กาหนดนอ้ ยกว่า ๓ ราย ๓. วิธีเฉพาะเจาะจง : เป็นงานที่เลือกจ้างผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่งที่เคยทราบหรือเคยเห็น ความสามารถแล้ว ตามทีค่ ณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงได้เสนอแนะ ๔. วิธีประกวดแบบ : เชิญชวนให้ผู้บริการมีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนไขที่กาหนดให้เข้ายื่น ข้อเสนอ เพื่อออกแบบงานก่อสร้างที่มีลักษณะพิเศษ เป็นที่เชิดชูทางศิลปกรรมหรือ สถาปัตยกรรมของชาติ หรอื งานอน่ื ตามที่กาหนด  จา้ งออกแบบฯ ด้วยวิธีคัดเลือก ให้กระทาได้ในกรณี ต่อไปนี้ ๑. ประกาศเชิญชวนแล้ว แตไ่ ม่มีผเู้ สนอ หรอื ไม่ได้รับการคดั เลือก ๒. เป็นงานทีซ่ ับซ้อน ซบั ซ้อนมาก ที่มที ีป่ รึกษาในงานทีจ่ ะจดั จา้ งจานวนจากดั ๓. เป็นงานเกีย่ วกบั การออกแบบหรอื ใช้ความคิด ซึง่ หน่วยงานไม่มีข้อมลู เพียงพอทีจ่ ะกาหนด รายละเอียดเบือ้ งต้นได้ ๔. กรณีอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง  วิธีเฉพาะเจาะจง ให้ใชใ้ นกรณีตอ่ ไปนี้ ๑. ใช้ท้ังวิธีประกาศเชิญชวนและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นเสนอ หรือ ข้อเสนอไม่ได้รบั การคัดเลือก ๒. ให้ใชก้ ับงานทีม่ ีวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างไม่เกินวงเงนิ ที่กาหนดให้ในกฎกระทรวง ๓. เป็นงานที่มีความจาเป็นเร่งด่วนหรือที่เกี่ยวกับความม่ันคงของชาติ อาจล่าช้าก่อให้เกิด ความเสียหาย ๔. เปน็ งานทีต่ ้องให้ผู้บริการรายเดิมทาตอ่ จากงานที่ได้ทาไว้แล้ว เนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค ๕. กรณีอืน่ ตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง  วิธีประกวดแบบให้ผู้มีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินการจ้างที่ปรึกษา เพื่อรบั ผิดชอบใน การดาเนนิ งานจา้ งที่ปรึกษา  หลักเกณฑ์พิจารณาคดั เลือกข้อเสนอการจา้ งที่ปรึกษา ๑. ผลงานและประสบการณข์ องทีป่ รึกษา ๒. วิธีการบริหารและวิธีการปฏิบัติงาน ๑๗พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดบั ที่ ๑ ๓. จานวนบุคลากรที่รว่ มงาน ๔. ประเภทของทีป่ รึกษาทีร่ ฐั ส่งเสริมหรือสนบั สนุน ๕. ข้อเสนอการเงนิ ๖. เกณฑอ์ ืน่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง  ผู้ให้บริการที่นิติบุคคล ต้องมใบอนุญาตประกอบวิชาชพสถาปัตยกรรมหรือวิศวกรรม และต้องเป็นผีู้ ่ไดข้ ึ้นีะเบยนกบั สภาวิชาชพนั้นด้วย  ผู้ให้บริการที่เป็นคู่สัญญาของหน่วยงาน ต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ประกอบการงาน ก่อสร้างในงานน้ัน แผนภาพที่ ๗ การจ้างออกแบบหรือควบคุมงาน ตาม พ.ร.บ.จัดซือ้ จัดจ้างีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรี ๑๘พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๙ การีาสัญญา๑๖. การีาสญั ญา ( มาตรา ๙๓-๙๙ )  กาหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องทาสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกาหนด โดย ความเห็นชอบของสานักงานอยั การสงู สุด  แบบสญั ญา ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ด้วย  กรณีหน่วยงานรัฐไม่ได้ทาสัญญาตามแบบหรือไม่อาจใช้สัญญาที่สานักงานอัยการสูงสุดให้ ความเห็นชอบได้ หรือไม่อาจส่งให้สานักอัยการสูงสุดเห็นชอบได้ทันเวลา ให้สามารถส่งให้ สานักงานอยั การสูงสุดเห็นชอบในภายหลังได้  สัญญาที่ทาในราชอาณาจักรต้องมีข้อตกลงในการห้ามคู่สัญญาจ้างช่วงให้ผู้อื่นทาต่ออีก ทอดหนึ่ง ไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วน เว้นแต่การจ้างช่วงแต่บางส่วนที่ได้รับอนุญาตจาก หนว่ ยงานของรัฐทีเ่ ป็นคู่สัญญาแล้ว  หนว่ ยงานอาจมขี ้อตกลงเป็นหนังสือ โดยไม่ทาตามแบบสญั ญา เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้ ๑. การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือก หรือโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หรือการจ้างที่ปรึกษาโดยวิธี เฉพาะเจาะจง ๒. การจัดซือ้ จดั จา้ งจากหน่วยงานภาครัฐ ๓. คู่สัญญาสามารถส่งมอบพัสดุได้ครบถ้วน ภายใน ๕ วันทาการ นับแต่วันถัดจากวันทา ข้อตกลง ๔. กรณีอืน่ ตามทีค่ ณะกรรมการนโยบายกาหนด  สัญญาทีม่ ีการลงนามและแก้ไขเปลี่ยนแปลงสญั ญาหรอื ข้อตกลง ต้องเผยแพรใ่ นระบบของ กรมบญั ชกลาง และของหนว่ ยงาน แผนภาพที่ ๘ การทาสญั ญาตามหมวด ๙ ๑๙ีม่ าภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรีพ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๑๐ การบรหิ ารสัญญาและการตรวจรบั พัสดุ๑๗. การบริหารสัญญาและการตรวจรบั พัสดุ ( มาตรา ๑๐๐-๑๐๕ ) การบริหารสัญญาและการตรวจรับพัสดุให้ผู้มีอานาจแต่งต้ังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเพื่อรับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุ โดยองค์ประกอบ องค์ประชุมและหนา้ ทีข่ องคณะกรรมการตรวจรับพัสดใุ หเ้ ป็นไปตามระเบียบทีร่ ัฐมนตรีกาหนด นอกจากนี้ในหมวดที่ ๑๐ ได้บัญญัติหน้าที่ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง การงดหรือลดค่าปรับ หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือข้อตกลง การบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลงการเลิกสัญญารวมทั้งขอ้ ผดิ ลาดการจดั ทาสญั ญาและรายละเอียดขั้นตอนการบริหารสัญญา แผนภาพที่ ๙ การบรหิ ารสญั ญาและการตรวจรับพสั ดุ หมวด ๑๐ี่มาภาพ: เอกสารประกอบการบรรยายของนายอธิวฒั น์ โยอาศรี ๒๐พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑หมวด ๑๑ การประเมินผลการปฏิบตั ิงานของผปู้ ระกอบการ๑๘. การประเมินผลการปฏิบตั ิงานของผู้ประกอบการ ( มาตรา ๑๐๖-๑๐๘ ) กาหนดให้ผลการประเมินเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์ในการคัดเลือกคุณสมบัติของผู้ี่จะเข้ายื่นข้อเสนอหรือเข้าีาสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่กาหนดจะถูกระงับการยืน่ ข้อเสนอหรือทาสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ชวั่ คราว จนกว่าจะมีผลการปฏิบตั ิงานผา่ นเกณฑ์ที่กาหนดหมวด ๑๒ การี้งิ งาน๑๙. การีง้ิ งาน (มาตรา ๑๐๙-๑๑๑ ) ผยู้ ื่นขอ้ เสนอหรือคู่สญั ญา ี่มลกั ษณะเป็นการีง้ิ งาน มดี งั น้ี (๑) เป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว ไม่ยอมไปทาสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ ภายในเวลาที่กาหนด (๒) คู่สัญญา ไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรอื ข้อตกลงเปน็ หนงั สือ (๓) ผยู้ ืน่ ขอ้ เสนอหรอื คู่สญั ญา มีลักษณะเป็นการขัดขวางการแข่งขนั ราคาอย่างเปน็ ธรรม (๔) เม่ือผลของการปฏิบัติตามสัญญาของที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการงานออกแบบหรืองาน ก่อสร้าง มีขอ้ บกพร่อง ผดิ พลาด หรอื ก่อใหเ้ กิดขอ้ ผดิ พลาด (๕) ผใู้ ห้บริการมีสว่ นไดส้ ่วนเสยกับผปู้ ระกอบการงานก่อสร้างหมวด ๑๓ การบรหิ ารพัสดุ๒๐. การบรหิ ารพัสดุ ( มาตรา ๑๑๒-๑๑๓ ) ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการควบคุมและดูแลพัสดุให้มีการใช้และการบริหารพัสดุที่เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งรวมถึง (ก) การเก็บ (ข) การบันทึก (ค) การเบิกจ่าย(ง) การยืม (จ) การตรวจสอบ (ฉ) การบารุงรกั ษา และ (จ) การจาหนา่ ยพัสดุหมวด ๑๔ การอีุ ธรณ์๒๑. การอีุ ธรณ์ ( มาตรา ๑๑๔-๑๑๙) กาหนดให้ผู้ซึ่งได้ยื่นขอ้ เสนอจัดซือ้ จดั จา้ งพัสดกุ บั หนว่ ยงานรัฐมสิีธิอีุ ธรณ์ในเร่อื ง ดังน้ี (๑) การเลือกใช้วธิ ีจัดซอื้ จดั จา้ งพัสดุ หรอื เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการพิจารณาผล (๒) หนว่ ยงานรัฐมไิ ด้ปฏิบัติใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการที่กาหนดใน พ.ร.บ. นี้ (๓) กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน พ.ร.บ.นี้ เป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับ การประกาศผลเปน็ ผชู้ นะ หรอื ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นคู่สัญญากับหนว่ ยงานของรฐั  โดยต้องยืน่ อีุ ธรณ์ต่อหน่วยงาน ภายใน ๗ วันทาการนับแต่วนั ประกาศผลการจัดซื้อจัดจา้ ง ในระบบเครือขา่ ยสารสนเทศของกรมบัญชกี ลาง และ ๒๑พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑  ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาและวินิจฉัยอุีธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน ๗ วันทาการนับแต่ วันทีไ่ ด้รับอุทธรณ์  ในกรณีที่เหน็ ดว้ ยกบั อุทธรณ์ก็ใหด้ าเนนิ การตามความเห็นน้ันภายในกาหนดเวลาดงั กล่าว  หากไม่เห็นด้วยไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วน ให้รายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยัง คณะกรรมการพิจารณาอีุ ธรณ์ภายใน ๓ วันทาการนบั แต่วันที่ครบกาหนดเวลาดังกล่าว  เม่ือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐแล้ว ให้พิจารณา อุทธรณ์ใหแ้ ล้วเสร็จภายใน ๓๐ วันนบั แตว่ ันที่ได้รับรายงานดงั กล่าว  หากเร่ืองใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดนั้น ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ขยาย ระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสองครง้ั คร้ังละไม่เกิน ๑๕ วนั นบั แตว่ นั ทีค่ รบกาหนดเวลาดังกล่าว  กรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์ฟังขึ้นและมีต่อการจัดซื้อจัดจ้างมี นัยสาคัญ ให้แจ้งหนว่ ยงานของรัฐเพื่อดาเนินการจัดซือ้ จดั จา้ งต่อไป  ถ้าผู้อุทธรณ์ผใู้ ดไม่พอใจคาวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และเห็นว่าหน่วยงาน ของรัฐต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย ผู้น้ันมสิีธิฟ้องคดดังกล่าวไม่มผลกระีบต่อการ จัดซ้อื จดั จ้างีห่ นว่ ยงานของรัฐไดล้ งนามในสัญญาจดั ซ้อื จดั จ้างน้ันแลว้ ๒๒พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จัดจ้างและการบริหารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พฒั นางานตรวจสอบการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดบั ที่ ๑หมวด ๑๕ บีกาหนดโีษ๒๒. บีกาหนดโีษ (มาตรา ๑๒๐-๑๒๑ )  เจ้าหน้าที่หรือผู้มีอานาจหน้าที่ในการดาเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหาร พัสดุ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างตาม พ.ร.บ. นี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน พ.ร.บ.นี้ โดยมิชอบโดยกาหนดให้ต้องระวางโีษ จาคุกต้ังแต่ ๑ ปีถึง ๑๐ ปี และปรับต้ังแต่ส่หมื่นบาีถึงส่แสนบาี และผู้ใช้หรือ ผู้สนับสนุนในการกระีาความผิดกังกล่าวต้องระวางโีษตามี่กาหนดไว้สาหรับ ความผิดดังกล่าวด้วย  กาหนดโทษสาหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยหรือหลักฐานประกอบ พิจารณาอุทธรณ์ เพื่อเป็นการบังคับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือในการส่งเอกสารหรือ หลกั ฐานประกอบ  การพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยหรือคณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ โดยกาหนดให้มี ความผิดฐานขัดคาสัง่ เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา๒๓. บีเฉพาะกาล ให้ระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์พ.ศ.๒๕๔๙ และบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศข้อบัญญัติและข้อกาหนดใด ๆ เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซือ้ จัดจ้าง หรือการบริหารพสั ดขุ องหน่วยงานของรัฐอื่น รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเี่าี่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติน้จนกว่าจะมกฎกระีรวงระเบยบ หรอื ประกาศ ในเรื่องนัน้ ๆ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ใชบ้ งั คับ ๒๓พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชุดพัฒนางานตรวจสอบการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ ลาดับที่ ๑ รายชือ่ ีป่ รึกษาและคณะผู้จดั ีา เอกสารวิชาการ ชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจัดซอ้ื จัดจ้างและการบริหารพัสดุีป่ รึกษา ๑. นางสริ ินทร์ พนั ธ์เกษม รองผู้ว่าการตรวจเงนิ แผ่นดิน ๒. นางสาวถนอม สรุ วงศต์ ระกูล ผอู้ านวยการสานักวิจยั และพฒั นาการตรวจเงนิ แผน่ ดินผู้จดั ีา ๑. นายสุทธิ สนุ ทรานรุ ักษ์ ผอู้ านวยการกลุ่มพฒั นาการตรวจสอบ ๒. นางสาวอนงค์ จลุ ขนั ธ์ นกั วิชาการตรวจเงนิ แผน่ ดินชานาญการ ๓. นายณภัทร จันทธนาธิป นักวิชาการตรวจเงนิ แผน่ ดินชานาญการ ๔. นางนญั ณภัท เรืองศรี นักวิชาการตรวจเงนิ แผน่ ดินปฏิบัติการ ๒๔พ.ร.บ.การจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เอกสารวชิ าการชดุ พัฒนางานตรวจสอบการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ลาดับที่ ๑ ภาคผนวก ๒๕พ.ร.บ.การจดั ซือ้ จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หนา้ ๑๓ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา พระราชบญั ญตั ิ การจัดซอื้ จัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ สมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู ให้ไว้ ณ วนั ท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นปีท่ี ๒ ในรชั กาลปจั จุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศวา่ โดยท่ีเปน็ การสมควรมีกฎหมายวา่ ด้วยการจัดซ้ือจดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานติ ิบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตนิ ใ้ี หใ้ ช้บงั คับเมอื่ พน้ กําหนดหน่งึ รอ้ ยแปดสบิ วันนับแต่วันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อบัญญัติ และข้อกําหนดใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐท่ีอยู่ภายใต้บงั คบั แหง่ พระราชบญั ญตั นิ ี้ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ินี้ “การจัดซื้อจัดจ้าง” หมายความว่า การดําเนินการเพ่ือให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซ้ือ จ้าง เช่าแลกเปลี่ยน หรอื โดยนติ ิกรรมอื่นตามที่กาํ หนดในกฎกระทรวง “พสั ด”ุ หมายความวา่ สนิ ค้า งานบริการ งานกอ่ สร้าง งานจ้างทีป่ รึกษาและงานจ้างออกแบบหรอื ควบคมุ งานกอ่ สรา้ ง รวมท้งั การดําเนนิ การอน่ื ตามทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง

เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หน้า ๑๔ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา “สินค้า” หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ท่ีดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่นใด รวมทั้งงานบริการทรี่ วมอยใู่ นสินค้าน้นั ด้วย แต่มูลคา่ ของงานบรกิ ารตอ้ งไม่สงู กวา่ มลู ค่าของสนิ ค้านั้น “งานบริการ” หมายความว่า งานจ้างบริการ งานจ้างเหมาบริการ งานจ้างทําของและการรับขนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่ไม่หมายความรวมถึงการจ้างลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ การรับขนในการเดินทางไปราชการหรือไปปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐงานจ้างท่ีปรึกษา งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ “งานก่อสรา้ ง” หมายความวา่ งานก่อสรา้ งอาคาร งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือส่ิงปลูกสร้างอื่นใดและการซ่อมแซม ต่อเติม ปรับปรุง ร้ือถอน หรือการกระทําอ่ืนที่มีลักษณะทํานองเดียวกันต่ออาคารสาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว รวมทั้งงานบริการที่รวมอยู่ในงานก่อสร้างนั้นด้วย แต่มูลค่าของงานบรกิ ารตอ้ งไมส่ ูงกวา่ มูลค่าของงานกอ่ สร้างนั้น “อาคาร” หมายความว่า สิ่งปลูกสร้างถาวรที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ เช่น อาคารที่ทําการโรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรือส่ิงปลูกสร้างอย่างอื่นท่ีมีลักษณะทํานองเดียวกัน รวมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่น ๆซึง่ สร้างขนึ้ เพอ่ื ประโยชนใ์ ชส้ อยสําหรบั อาคารนั้น ๆ เชน่ เสาธง ร้ัว ทอ่ ระบายนา้ํ หอถังนํ้า ถนน ประปาไฟฟ้า หรือสิ่งอ่นื ๆ ซึ่งเป็นสว่ นประกอบของตวั อาคาร เชน่ เครือ่ งปรับอากาศ ลฟิ ท์ หรอื เคร่อื งเรอื น “สาธารณูปโภค” หมายความว่า งานอันเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การส่ือสาร การโทรคมนาคมการระบายนํ้า การขนส่งทางท่อ ทางน้ํา ทางบก ทางอากาศ หรือทางราง หรือการอื่นที่เก่ียวข้องซง่ึ ดาํ เนนิ การในระดับพน้ื ดนิ ใตพ้ ื้นดนิ หรือเหนอื พื้นดนิ “งานจ้างที่ปรึกษา” หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเพ่ือเป็นผู้ให้คําปรึกษาหรือแนะนําแก่หน่วยงานของรัฐในด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผังเมือง กฎหมายเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง ส่ิงแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรมการศกึ ษาวจิ ยั หรือด้านอื่นที่อยใู่ นภารกิจของรฐั หรือของหน่วยงานของรัฐ “งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง” หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบคุ คลเพื่อออกแบบหรอื ควบคมุ งานกอ่ สรา้ ง “การบริหารพัสดุ” หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบการบาํ รุงรกั ษา และการจาํ หน่ายพสั ดุ “ราคากลาง” หมายความว่า ราคาเพ่ือใช้เป็นฐานสําหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ยืน่ เสนอไวซ้ งึ่ สามารถจดั ซือ้ จัดจ้างได้จริงตามลําดับ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ราคาท่ีไดม้ าจากการคาํ นวณตามหลกั เกณฑ์ทีค่ ณะกรรมการราคากลางกาํ หนด (๒) ราคาท่ไี ด้มาจากฐานข้อมลู ราคาอ้างองิ ของพสั ดทุ ่ีกรมบัญชกี ลางจัดทํา (๓) ราคามาตรฐานท่สี ํานักงบประมาณหรือหนว่ ยงานกลางอน่ื กาํ หนด

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หนา้ ๑๕ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (๔) ราคาที่ไดม้ าจากการสืบราคาจากท้องตลาด (๕) ราคาทีเ่ คยซือ้ หรือจา้ งครงั้ หลงั สดุ ภายในระยะเวลาสองปงี บประมาณ (๖) ราคาอืน่ ใดตามหลักเกณฑ์ วิธกี าร หรือแนวทางปฏิบัตขิ องหนว่ ยงานของรฐั นัน้ ๆ ในกรณีที่มีราคาตาม (๑) ให้ใช้ราคาตาม (๑) ก่อน ในกรณีท่ีไม่มีราคาตาม (๑) แต่มีราคาตาม (๒)หรือ (๓) ให้ใช้ราคาตาม (๒) หรือ (๓) ก่อน โดยจะใช้ราคาใดตาม (๒) หรือ (๓) ให้คํานึงถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐเป็นสําคญั ในกรณที ่ไี ม่มีราคาตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้ใช้ราคาตาม (๔) (๕) หรือ (๖)โดยจะใชร้ าคาใดตาม (๔) (๕) หรือ (๖) ให้คํานงึ ถงึ ประโยชนข์ องหน่วยงานของรัฐเป็นสาํ คญั “เงินงบประมาณ” หมายความว่า เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ เงินซ่ึงหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ไม่ต้องนําส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมาย และเงิน ภาษีอากร ค่าธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อ่ืนใดท่ีตกเป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายหรือท่ีราชการส่วนท้องถ่ินมีอํานาจเรียกเก็บตามกฎหมาย และให้หมายความรวมถงึ เงนิ กู้ เงนิ ชว่ ยเหลือ และเงนิ อน่ื ตามที่กําหนดในกฎกระทรวง “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ินรัฐวสิ าหกิจตามกฎหมายว่าดว้ ยวิธีการงบประมาณ องคก์ ารมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญหน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกํากับของรัฐสภาหนว่ ยงานอสิ ระของรัฐ และหน่วยงานอ่ืนตามทีก่ าํ หนดในกฎกระทรวง “เจา้ หนา้ ท่”ี หมายความวา่ ผ้มู ีหนา้ ที่เกีย่ วกบั การจัดซื้อจดั จ้างหรือการบริหารพสั ดุ หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายจากผมู้ อี ํานาจใหป้ ฏบิ ัติหนา้ ทีเ่ กยี่ วกบั การจัดซ้ือจดั จ้างหรือการบริหารพสั ดขุ องหน่วยงานของรฐั “คณะกรรมการนโยบาย” หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ “คณะกรรมการวินิจฉัย” หมายความว่า คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ “คณะกรรมการราคากลาง” หมายความว่า คณะกรรมการราคากลางและขน้ึ ทะเบยี นผูป้ ระกอบการ “คณะกรรมการ ค.ป.ท.” หมายความว่า คณะกรรมการความรว่ มมือป้องกนั การทุจรติ “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์” หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์และขอ้ รอ้ งเรยี น “รฐั มนตร”ี หมายความวา่ รฐั มนตรผี ูร้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอาํ นาจออกกฎกระทรวงและระเบยี บเพือ่ ปฏบิ ัตกิ ารตามพระราชบัญญัตนิ ี้ กฎกระทรวงและระเบยี บนน้ั เมื่อไดป้ ระกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ ังคับได้

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๑๖ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๑ บททัว่ ไป มาตรา ๖ เพอ่ื ใหก้ ารปฏิบตั เิ ก่ียวกับการจดั ซอื้ จัดจา้ งและการบริหารพัสดุโดยใช้เงินงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่าต่อภารกิจของรัฐ และป้องกันปัญหาการทุจริต ให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามแนวทางของพระราชบัญญัตินี้ และกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศที่ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิน้ี เพื่อให้การดําเนินงานของรัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ หน่วยงานของรัฐในต่างประเทศหรอื ส่วนงานของหน่วยงานของรฐั ท่ีตัง้ อยูใ่ นต่างประเทศ หรอื หน่วยงานของรฐั อื่นตามทกี่ ําหนดในกฎกระทรวงเกิดความยืดหยุ่นและมีความคล่องตัว หากรัฐวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยในกํากับของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐน้ันประสงคจ์ ะจดั ให้มรี ะเบียบ ข้อบังคบั หรือข้อบัญญัติเก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุข้ึนใช้เองท้ังหมดหรือแต่บางส่วน ก็ให้กระทําได้ โดยต้องดําเนินการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างและการบรหิ ารพัสดุตามแนวทางของพระราชบญั ญตั นิ ี้ เวน้ แตใ่ นตา่ งประเทศที่หน่วยงานของรัฐหรอื ส่วนงานของหนว่ ยงานของรฐั ต้ังอย่มู ีกฎหมาย ธรรมเนียมปฏิบัติ หรือจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นของต่างประเทศนั้นเปน็ การเฉพาะหรอื กําหนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอื่น ระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติตามวรรคสอง จะกําหนดให้การจัดซ้ือจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรอื วธิ เี ฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๕๖ เป็นอย่างอืน่ กไ็ ด้ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติตามวรรคสองและวรรคสาม ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย และให้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๗ พระราชบัญญตั นิ ีม้ ิให้ใช้บงั คบั แก่ (๑) การจดั ซ้อื จดั จา้ งของรัฐวิสาหกิจทเี่ กย่ี วกบั การพาณิชยโ์ ดยตรง (๒) การจัดซ้ือจัดจ้างยุทโธปกรณ์และการบริการที่เก่ียวกับความม่ันคงของชาติโดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาลหรอื โดยการจัดซือ้ จดั จา้ งจากต่างประเทศทีก่ ฎหมายของประเทศนั้นกาํ หนดไว้เป็นอย่างอื่น (๓) การจัดซ้ือจัดจ้างเพื่อการวิจัยและพัฒนา เพ่ือการให้บริการทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาหรอื การจา้ งทป่ี รึกษา ท้งั นี้ ที่ไมส่ ามารถดาํ เนินการตามพระราชบญั ญตั ินไี้ ด้ (๔) การจดั ซอื้ จัดจ้างโดยใชเ้ งนิ กหู้ รอื เงนิ ชว่ ยเหลือจากรัฐบาลตา่ งประเทศ องค์การระหว่างประเทศสถาบันการเงินระหว่างประเทศ องค์การต่างประเทศทั้งในระดับรัฐบาลและท่ีมิใช่ระดับรัฐบาล มูลนิธิหรอื เอกชนตา่ งประเทศ ทสี่ ญั ญาหรือขอ้ กาํ หนดในการให้เงนิ กหู้ รือเงินช่วยเหลอื กําหนดไวเ้ ป็นอยา่ งอนื่ (๕) การจดั ซือ้ จดั จ้างโดยใช้เงินกหู้ รือเงนิ ชว่ ยเหลือจากรัฐบาลตา่ งประเทศ องค์การระหว่างประเทศสถาบันการเงินระหว่างประเทศ องค์การต่างประเทศทั้งในระดับรัฐบาลและที่มิใช่ระดับรัฐบาล มูลนิธิหรือเอกชนต่างประเทศ ท่ีสัญญาหรือข้อกําหนดในการให้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือกําหนดไว้เป็นอย่างอ่ืนโดยใช้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือนั้นร่วมกับเงินงบประมาณ ซ่ึงจํานวนเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือที่ใช้น้ันเป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ่ีคณะกรรมการนโยบายประกาศกําหนดในราชกิจจานเุ บกษา

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หนา้ ๑๗ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา (๖) การจัดซื้อจัดจ้างของสถาบันอุดมศึกษาหรือสถานพยาบาลที่เป็นหน่วยงานของรัฐโดยใช้เงนิ บรจิ าครวมท้ังดอกผลของเงินบรจิ าค โดยไมใ่ ชเ้ งนิ บริจาคนั้นรว่ มกบั เงินงบประมาณ การจัดซ้ือจัดจ้างตาม (๑) (๒) และ (๓) ท่ีได้รับยกเว้นมิให้นําพระราชบัญญัติน้ีมาใช้บังคับต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการนโยบายประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา โดยประกาศดังกล่าวจะกําหนดให้หน่วยงานของรัฐเสนอเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างใดตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ต่อคณะกรรมการนโยบายเพ่อื อนมุ ตั ิใหไ้ ดร้ ับยกเว้นเป็นรายกรณีไปก็ได้ การยกเว้นมิให้นําบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับแก่การจัดซ้ือจัดจ้างใดทั้งหมดหรือแต่บางส่วนนอกเหนือจากการยกเว้นตามวรรคหน่ึง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบาย กรณีตามวรรคหน่ึงและวรรคสาม ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีกฎหรือระเบียบเก่ียวกับการจัดซ้ือจดั จา้ งและการบรหิ ารพัสดุตามหลักเกณฑแ์ ละแนวทางของพระราชบัญญัตินี้ โดยอย่างน้อยต้องมีหลักการตามมาตรา ๘ วรรคหน่งึ การจัดซื้อจัดจ้างตาม (๖) นอกจากสถาบันอุดมศึกษาหรือสถานพยาบาลที่เป็นหน่วยงานของรัฐตอ้ งดาํ เนนิ การตามวรรคสีแ่ ล้ว ให้สถาบันอุดมศึกษาหรือสถานพยาบาลที่เป็นหน่วยงานของรัฐน้ันรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านตอ่ คณะกรรมการนโยบายตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด มาตรา ๘ การจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐต้องก่อให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ แกห่ น่วยงานของรฐั และต้องสอดคล้องกบั หลักการ ดังต่อไปน้ี (๑) คุ้มค่า โดยพัสดุท่ีจัดซื้อจัดจ้างต้องมีคุณภาพหรือคุณลักษณะท่ีตอบสนองวัตถุประสงค์ในการใชง้ านของหนว่ ยงานของรัฐ มรี าคาท่ีเหมาะสม และมีแผนการบริหารพัสดุท่ีเหมาะสมและชัดเจน (๒) โปร่งใส โดยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุต้องกระทําโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการแขง่ ขันอย่างเปน็ ธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดําเนินงานชัดเจน และมีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพสั ดุในทุกข้ันตอน (๓) มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยต้องมีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุล่วงหน้าเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีกําหนดเวลาที่เหมาะสมโดยมีการประเมนิ และเปิดเผยผลสมั ฤทธ์ิของการจัดซื้อจัดจา้ งและการบริหารพสั ดุ (๔) ตรวจสอบได้ โดยมีการเก็บข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุอย่างเป็นระบบเพ่อื ประโยชน์ในการตรวจสอบ ให้หน่วยงานของรัฐใช้หลักการตามวรรคหนึ่งเพ่ือเป็นแนวทางในการปฏิบัติเก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ หากการจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตามหลักการดังกล่าว แต่ไม่มีผลต่อการจัดซ้ือจัดจ้างอยา่ งมนี ยั สําคัญ หรือเกดิ จากกรณีเร่งด่วน หรือมเี หตผุ ลหรอื ความจําเป็นอ่ืน การจดั ซอ้ื จัดจา้ งนน้ั ยอ่ มไม่เสยี ไป

เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หน้า ๑๘ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ใหใ้ ชห้ ลักการตามวรรคหนึ่งเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามอํานาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายคณะกรรมการวินิจฉัย คณะกรรมการราคากลาง คณะกรรมการ ค.ป.ท. และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์โดยอนโุ ลม มาตรา ๙ การกําหนดคณุ ลักษณะเฉพาะของพสั ดทุ จี่ ะทําการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐคํานงึ ถึงคุณภาพ เทคนิค และวัตถุประสงค์ของการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุนั้น และห้ามมิให้กําหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับย่ีห้อใดย่ีห้อหนึ่ง หรือของผู้ขายรายใดรายหน่ึงโดยเฉพาะ เว้นแต่พัสดุที่จะทําการจดั ซ้ือจัดจ้างตามวัตถปุ ระสงคน์ ัน้ มียหี่ อ้ เดยี วหรือจะต้องใช้อะไหล่ของย่ีหอ้ ใด ก็ให้ระบุยหี่ อ้ น้นั ได้ มาตรา ๑๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๖๖ ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐเปิดเผยข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอในสว่ นที่เปน็ สาระสําคญั และเปน็ ข้อมูลทางเทคนิคของผยู้ ่นื ข้อเสนอ ซ่งึ อาจกอ่ ให้เกดิ การไดเ้ ปรยี บเสยี เปรยี บระหว่างผู้ยื่นข้อเสนอด้วยกันต่อผู้ซ่ึงมิได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างคร้ังน้ันหรือต่อผู้ย่ืนข้อเสนอรายอื่นเว้นแต่เปน็ การเปิดเผยขอ้ มลู ตอ่ ผ้มู ีอาํ นาจหน้าท่ตี ามกฎหมาย หรอื การดาํ เนนิ การตามกฎหมาย มาตรา ๑๑ ใหห้ นว่ ยงานของรฐั จดั ทาํ แผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจําปี และประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการท่ีกรมบัญชีกลางกําหนดและให้ปดิ ประกาศโดยเปดิ เผย ณ สถานที่ปิดประกาศของหน่วยงานของรัฐนน้ั เวน้ แต่ (๑) กรณีท่ีมีความจาํ เป็นเร่งด่วนหรือเปน็ พสั ดุทใี่ ชใ้ นราชการลับ ท้งั น้ี ตามมาตรา ๕๖ (๑) (ค)หรอื (ฉ) (๒) กรณที ่มี วี งเงินในการจัดซอื้ จัดจ้างตามที่กําหนดในกฎกระทรวงหรือมีความจําเป็นต้องใช้พัสดุโดยฉุกเฉนิ หรือเปน็ พสั ดุทจ่ี ะขายทอดตลาด ทง้ั น้ี ตามมาตรา ๕๖ (๒) (ข) (ง) หรอื (ฉ) (๓) กรณีท่ีเป็นงานจ้างท่ีปรึกษาที่มีวงเงินค่าจ้างตามที่กําหนดในกฎกระทรวงหรือที่มีความจําเปน็ เร่งด่วนหรือที่เกยี่ วกับความมนั่ คงของชาติ ทั้งน้ี ตามมาตรา ๗๐ (๓) (ข) หรอื (ฉ) (๔) กรณีท่ีเป็นงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างท่ีมีความจําเป็นเร่งด่วนหรือที่เก่ียวกับความมนั่ คงของชาตติ ามมาตรา ๘๒ (๓) หลักเกณฑ์ วิธีการ และรายละเอียดการจัดทําแผนการจัดซ้ือจัดจ้างตามวรรคหน่ึงและการเปล่ียนแปลงแผน ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบทรี่ ฐั มนตรีกําหนด มาตรา ๑๒ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการบันทึกรายงานผลการพิจารณารายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซ้ือจัดจ้างและจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ เพ่ือประโยชน์ในการตรวจดูข้อมูลเมอ่ื มกี ารรอ้ งขอ การจัดทําบันทึกรายงานผลการพิจารณา รายละเอียดวิธีการและข้ันตอนการจัดซ้ือจัดจ้างและการร้องขอเพ่ือตรวจดบู นั ทึกรายงานดงั กล่าว ให้เปน็ ไปตามระเบียบทร่ี ัฐมนตรกี ําหนด มาตรา ๑๓ ในการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้ที่มีหน้าท่ีดําเนินการต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผูย้ น่ื ขอ้ เสนอหรอื คสู่ ัญญาในงานน้ัน

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หนา้ ๑๙ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ในกรณีท่ีปรากฏในภายหลังว่าผู้ท่ีมีหน้าท่ีดําเนินการตามวรรคหนึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาในข้ันตอนหนึ่งขั้นตอนใดของการจัดซื้อจัดจ้าง หรือเป็นกรรมการในคณะกรรมการการจัดซื้อจดั จา้ ง แต่ไม่มีผลตอ่ การจดั ซ้ือจดั จ้างอย่างมนี ยั สาํ คญั การจัดซ้อื จัดจ้างนน้ั ย่อมไม่เสียไป มาตรา ๑๔ เพ่ือให้การจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปโดยเรียบร้อยและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐ ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐได้ทําการจัดซ้ือจัดจ้างข้ันตอนหนึ่งขั้นตอนใดผิดพลาดหรือผดิ หลงเลก็ นอ้ ยและไม่มผี ลตอ่ การจดั ซ้ือจัดจา้ งอยา่ งมนี ยั สาํ คัญ การจดั ซอื้ จัดจา้ งน้นั ยอ่ มไมเ่ สียไป มาตรา ๑๕ ผู้มีอํานาจอนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้างพัสดุโดยวิธีใดตามพระราชบัญญัติน้ีจะเป็นผูด้ ํารงตําแหน่งใดและภายในวงเงนิ เทา่ ใด ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บท่รี ฐั มนตรกี าํ หนด หมวด ๒ การมสี ่วนรว่ มของภาคประชาชนและผปู้ ระกอบการในการป้องกันการทุจริต มาตรา ๑๖ เพ่ือให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐ ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้ภาคประชาชนมสี ว่ นร่วมในการสังเกตการณ์ข้ันตอนหนึ่งขั้นตอนใดของการจัดซ้ือจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐตามทก่ี ําหนดไว้ในหมวดนี้ มาตรา ๑๗ ในการดําเนินการตามมาตรา ๑๖ คณะกรรมการ ค.ป.ท. อาจกําหนดให้มีการจัดทําข้อตกลงคุณธรรมตามโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐตามมาตรา ๑๘ ก็ได้ ทั้งนี้ การจัดซื้อจัดจ้างที่ต้องจัดทําข้อตกลงคุณธรรมดังกล่าวให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา โดยอย่างน้อยให้คํานึงถึงวงเงินของการจัดซื้อจัดจ้าง มาตรการป้องกันการทุจริต การจัดซ้ือจัดจ้างที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต และความคล่องตัวในการดําเนินงานของหนว่ ยงานของรัฐเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย คณะกรรมการ ค.ป.ท. อาจกําหนดวิธีการนอกเหนือจากวรรคหนึ่งเพื่ออํานวยความสะดวกให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐก็ได้ ท้ังน้ี ตามท่ีคณะกรรมการ ค.ป.ท.ประกาศกาํ หนดในราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๑๘ ขอ้ ตกลงคณุ ธรรมตามโครงการความร่วมมือปอ้ งกนั การทจุ ริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้จัดทําเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการและผู้ประกอบการที่จะเข้าย่ืนข้อเสนอ โดยฝ่ายหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการและฝ่ายผู้ประกอบการที่จะเข้าย่ืนข้อเสนอต้องตกลงกันว่าจะไม่กระทําการทุจริตในการจัดซ้ือจัดจ้าง และให้มีผู้สังเกตการณ์ซึ่งมีความรู้ ความเช่ียวชาญหรือประสบการณ์ ท่ีจําเป็นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดซ้ือจัดจ้างตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทําร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุที่จะทําการจัดซ้ือจัดจ้างและร่างเอกสารเชิญชวนจนถึงขั้นตอนสิ้นสุดโครงการ โดยผู้สังเกตการณ์ต้องมีความเป็นกลางและไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในโครงการการจัดซื้อจัดจ้างน้ัน แล้วให้รายงานความเห็นพร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ ค.ป.ท.ทราบด้วย

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หน้า ๒๐ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา แนวทางและวิธีการในการดําเนินงานโครงการ แบบของข้อตกลงคุณธรรม การคัดเลือกผู้สังเกตการณ์และการจดั ทํารายงานตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๑๙ ผู้ประกอบการท่ีอยู่ในประเภทหรือมีวงเงินในการจัดซ้ือจัดจ้างตามท่ีคณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา หากประสงค์จะเข้ายื่นข้อเสนอกับหน่วยงานของรัฐในการจัดซื้อจัดจ้างตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องจัดให้มีนโยบายในการป้องกันการทุจริตและมีแนวทางป้องกันการทุจริตในการจัดซอ้ื จดั จ้างท่เี หมาะสม มาตรฐานขั้นตํ่าของนโยบายและแนวทางป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างที่ผู้ประกอบการต้องจัดใหม้ ีตามวรรคหน่งึ ให้เปน็ ไปตามท่ีคณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศกําหนดในราชกจิ จานเุ บกษา หมวด ๓ คณะกรรมการ ส่วนที่ ๑คณะกรรมการนโยบายการจัดซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ มาตรา ๒๐ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐประกอบด้วย (๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลงั มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ ปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลังปลัดกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ อัยการสูงสุด อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน ผู้อํานวยการสํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแห่งละหนึ่งคน ในส่วนที่เหลือให้แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ หรือประสบการณ์ด้านวิศวกรรมสถาปัตยกรรม การเงิน การคลงั การบริหารจัดการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือด้านอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้องและเป็นประโยชนต์ ่อการดาํ เนินงานของคณะกรรมการนโยบาย ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ข้าราชการของกรมบัญชีกลางซงึ่ อธบิ ดีกรมบญั ชีกลางมอบหมายจํานวนสองคนเปน็ ผู้ช่วยเลขานุการ

เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๒๑ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๒๑ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิตอ้ งมคี ุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) มีสญั ชาตไิ ทย (๒) มีอายุไมต่ ํา่ กว่าสามสิบห้าปี (๓) ไมเ่ ปน็ บคุ คลลม้ ละลาย หรอื ไมเ่ คยเปน็ บคุ คลล้มละลายทุจรติ (๔) ไม่เป็นคนไรค้ วามสามารถหรอื คนเสมอื นไร้ความสามารถ (๕) ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิดท่ไี ดก้ ระทําโดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ (๖) ไม่เป็นข้าราชการการเมอื ง ผดู้ าํ รงตําแหน่งทางการเมอื ง สมาชิกสภาทอ้ งถ่นิ หรอื ผู้บริหารทอ้ งถนิ่กรรมการหรือผูด้ าํ รงตําแหน่งอ่นื ในพรรคการเมอื ง หรือเจ้าหน้าทข่ี องพรรคการเมือง (๗) ไม่มสี ่วนได้เสียหรือมีผลประโยชน์ขัดแยง้ โดยตรงกับการปฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี นตําแหน่งกรรมการ มาตรา ๒๒ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตําแหน่งคราวละสามปี และอาจได้รับแตง่ ตงั้ อกี ได้ แต่จะดาํ รงตาํ แหน่งตดิ ตอ่ กันเกินสองวาระไมไ่ ด้ เม่ือครบกําหนดตามวาระในวรรคหน่ึง ให้ดําเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ภายในหกสิบวัน ในระหว่างท่ียังมิได้แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิข้ึนใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงพ้นจากตําแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตําแหน่งเพื่อดําเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งต้ังใหม่เขา้ รับหนา้ ท่ี มาตรา ๒๓ นอกจากการพน้ จากตําแหน่งตามวาระ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ พิ น้ จากตาํ แหน่งเมอ่ื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะตอ้ งห้ามตามมาตรา ๒๑ (๔) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะหย่อนความสามารถ บกพร่องหรือทุจริตต่อหน้าท่ีหรอื มคี วามประพฤติเสอ่ื มเสีย ในกรณีทกี่ รรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหนง่ ก่อนวาระหรอื มีการแตง่ ตง้ั กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งต้ังไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตําแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งเพิ่มข้ึนหรือแต่งตั้งแทนตําแหน่งท่ีว่าง ให้ผู้ท่ีได้รับแต่งต้ังน้ันดํารงตําแหน่งได้เท่ากับวาระท่ีเหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิท่ีแต่งตั้งไว้แล้วน้ัน ทั้งนี้ ในกรณีการแต่งต้ังแทนตําแหน่งท่ีว่าง หากวาระท่ีเหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสบิ วนั จะไม่แต่งตงั้ กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิแทนกไ็ ด้ ในกรณีท่ีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วยกรรมการท้ังหมดเท่าท่มี ีอยู่จนกว่าจะมีการแตง่ ตง้ั กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิตามวรรคสอง มาตรา ๒๔ ใหค้ ณะกรรมการนโยบายมอี ํานาจหนา้ ที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) เสนอแนะนโยบายการจัดซ้ือจัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครฐั ตอ่ คณะรฐั มนตรี

เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๒๒ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) เสนอแนะแนวทางในการพฒั นาและปรบั ปรงุ ประสิทธิภาพการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั ต่อคณะรัฐมนตรี เพือ่ ให้เกิดความเป็นธรรมและมปี ระสทิ ธภิ าพย่ิงขนึ้ (๓) กํากับดูแลการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามแนวทางของพระราชบญั ญตั ิน้ี (๔) วินิจฉัยความเป็นโมฆะของสัญญาหรือข้อตกลงตามมาตรา ๑๐๔ รวมท้ังตีความและวินจิ ฉัยปัญหาขอ้ หารอื เก่ยี วกับประกาศทคี่ ณะกรรมการนโยบายออกตามความในพระราชบญั ญตั นิ ้ี (๕) กาํ หนดมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านและจรรยาบรรณของเจ้าหนา้ ที่ (๖) กําหนดแนวทาง วิธีปฏิบัติ แบบหรือตัวอย่าง เก่ียวกับการปฏิบัติตามระเบียบท่ีออกตามความในพระราชบญั ญัตนิ ี้ (๗) จัดทํารายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เสนอคณะรัฐมนตรีอย่างน้อยปีละหนึง่ ครั้ง (๘) ปฏิบัติหน้าที่อ่ืนตามที่กําหนดในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามท่ีรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย ในการปฏิบัติตามอาํ นาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการนโยบายอาจเชิญเจ้าหน้าท่ีที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลอื่นใดมาแสดงความคิดเห็น ชี้แจง หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานท่ีเก่ียวข้องเพื่อประกอบการพจิ ารณาได้ ผลการดําเนินการตาม (๔) (๕) (๖) และ (๗) ให้ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบญั ชกี ลางตามวิธีการทกี่ รมบัญชกี ลางกําหนด มาตรา ๒๕ การประชุมคณะกรรมการนโยบาย ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากง่ึ หน่ึงของจํานวนกรรมการท้ังหมด จงึ จะเป็นองค์ประชุม ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ไี ด้ ใหท้ ปี่ ระชุมเลือกกรรมการซึ่งมาประชุมคนหนึ่งเป็นประธานในทป่ี ระชุม การวนิ ิจฉยั ชข้ี าดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหน่ึงในการลงคะแนนถา้ คะแนนเสียงเทา่ กนั ให้ประธานในท่ีประชมุ ออกเสียงเพมิ่ ข้นึ อกี เสียงหนง่ึ เป็นเสยี งช้ขี าด ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในเร่ืองซ่ึงที่ประชุมพิจารณา ห้ามมิให้เข้าร่วมประชุมหรือมีมติในเร่ืองน้ัน ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรสงสัยว่าประธานกรรมการหรือกรรมการผู้น้ันมีส่วนได้เสียโดยตรงหรือโดยอ้อมในเร่ืองซึ่งที่ประชุมพิจารณาหรือไม่ ให้ที่ประชุมพิจารณาตามระเบียบที่รัฐมนตรีกําหนด ซึ่งในระหว่างท่ีประชุมพิจารณาเร่ืองดังกล่าว ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้นั้นเม่อื ไดช้ ้ีแจงและตอบขอ้ ซกั ถามแล้วจะต้องออกจากท่ีประชุม และให้ถือว่าคณะกรรมการนโยบายประกอบไปด้วยประธานกรรมการและกรรมการทุกคน แล้วแต่กรณี ที่ไม่ใช่ผู้ต้องออกจากที่ประชุมเพราะเหตุดงั กล่าว

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หน้า ๒๓ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๒๖ คณะกรรมการนโยบายมีอํานาจแตง่ ตงั้ คณะอนุกรรมการเพื่อทําการใด ๆ แทนได้และใหน้ ําบทบัญญัตมิ าตรา ๒๕ มาใช้บังคับกบั การประชมุ ของคณะอนกุ รรมการโดยอนุโลม สว่ นที่ ๒ คณะกรรมการวนิ ิจฉยั ปญั หาการจดั ซอื้ จดั จา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐ มาตรา ๒๗ ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐประกอบด้วย (๑) ปลัดกระทรวงการคลงั เป็นประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีผู้แทนสํานักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาผแู้ ทนสาํ นักงบประมาณ ผ้แู ทนสาํ นกั งานอัยการสงู สุด ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และผู้แทนสาํ นกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วิสาหกิจ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคนซึ่งปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม การเงิน การคลังการบริหารจัดการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการดําเนินงานของคณะกรรมการวนิ จิ ฉัย ให้อธบิ ดีกรมบญั ชกี ลางมอบหมายขา้ ราชการของกรมบัญชีกลางคนหน่ึงเป็นกรรมการและเลขานุการและอีกสองคนเปน็ ผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร มาตรา ๒๘ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับกับกรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิในสว่ นที่ ๒ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนุโลม มาตรา ๒๙ ใหค้ ณะกรรมการวินจิ ฉยั มอี าํ นาจหนา้ ที่ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขปัญหาเก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุต่อคณะกรรมการนโยบาย (๒) ใหค้ าํ ปรึกษาแนะนําแก่เจ้าหน้าท่หี รือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัตติ ามพระราชบัญญัตนิ ี้ (๓) ตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือเก่ียวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวงหรือระเบยี บทอ่ี อกตามความในพระราชบัญญัติน้ี (๔) ยกเวน้ หรือผอ่ นผนั การไม่ปฏบิ ตั ิตามกฎกระทรวงหรือระเบยี บท่ีออกตามความในพระราชบญั ญตั นิ ้ี (๕) เสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงการคลังในการพิจารณาส่ังให้ผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาเป็นผู้ท้ิงงาน และการเพิกถอนรายช่ือผู้ทิ้งงาน รวมท้ังเสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีในการพจิ ารณาอุทธรณค์ ําสั่งลงโทษให้เป็นผู้ท้งิ งาน (๖) จัดทํารายงานเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุเสนอคณะกรรมการนโยบายอย่างนอ้ ยปลี ะหนึง่ คร้งั

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หน้า ๒๔ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (๗) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามท่ีกําหนดในพระราชบัญญัตินี้หรือตามท่ีคณะกรรมการนโยบายรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรมี อบหมาย ผลการดําเนินการตาม (๒) (๓) (๔) และ (๖) ให้ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชกี ลางตามวิธีการทก่ี รมบัญชีกลางกําหนด การตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือตาม (๓) ถ้าหน่วยงานของรัฐมีข้อหารือตามมาตรา ๘มาตรา ๑๓ หรือมาตรา ๑๔ ให้คณะกรรมการวินิจฉัยพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับข้อหารือ และให้คณะกรรมการวินิจฉัยมีอํานาจสั่งระงับการจัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนได้หากเห็นสมควรเวน้ แตห่ น่วยงานของรฐั จะได้ลงนามในสัญญาจัดซอ้ื จดั จ้างแลว้ ในกรณีที่คณะกรรมการวินิจฉัยได้มีคําวินิจฉัยตามวรรคสามว่าการไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘มาตรา ๑๓ หรอื มาตรา ๑๔ มผี ลตอ่ การจัดซื้อจดั จ้างอยา่ งมีนัยสาํ คญั ใหค้ ณะกรรมการวินิจฉัยมีอํานาจส่งั ยกเลกิ การจดั ซอื้ จดั จา้ งน้ัน เวน้ แต่หน่วยงานของรัฐจะได้ลงนามในสญั ญาจัดซ้อื จัดจา้ งแล้ว มาตรา ๓๐ คณะกรรมการวนิ จิ ฉัยมอี ํานาจแตง่ ตัง้ คณะอนุกรรมการเพ่อื ทาํ การใด ๆ แทนได้ ให้นําบทบญั ญตั มิ าตรา ๒๕ มาใช้บังคับกบั การประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยและคณะอนุกรรมการโดยอนโุ ลม มาตรา ๓๑ คณะกรรมการวินิจฉัยมีอํานาจเรียกให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องหรือบุคคลอ่ืนใดมาชีแ้ จงหรือใหถ้ ้อยคํา หรอื ให้สง่ เอกสารหรือหลักฐานทเี่ กีย่ วข้องเพ่อื ประกอบการพิจารณาได้ ส่วนท่ี ๓ คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบยี นผูป้ ระกอบการ มาตรา ๓๒ ใหม้ ีคณะกรรมการราคากลางและขึน้ ทะเบียนผู้ประกอบการ ประกอบดว้ ย (๑) อธบิ ดีกรมบัญชีกลาง เปน็ ประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการคลังผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุขผู้แทนสํานักงบประมาณ ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนกรมชลประทานผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้แทนสํานักงานการตรวจเงนิ แผ่นดิน (๓) กรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ ิจํานวนไม่น้อยกว่าเจ็ดคนแต่ไม่เกินสิบเอ็ดคน ซ่ึงปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแห่งละหนึ่งคน ในส่วนท่ีเหลือให้แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ หรือประสบการณ์ในด้านพัสดุหรือดา้ นอ่ืนอนั เปน็ ประโยชน์ต่องานของคณะกรรมการราคากลาง ให้อธบิ ดกี รมบัญชีกลางมอบหมายขา้ ราชการของกรมบัญชีกลางคนหน่ึงเป็นกรรมการและเลขานุการและอกี สองคนเป็นผ้ชู ่วยเลขานกุ าร

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หน้า ๒๕ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๓๓ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับกับกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒใิ นสว่ นท่ี ๓ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนโุ ลม มาตรา ๓๔ ใหค้ ณะกรรมการราคากลางมอี าํ นาจหนา้ ที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ออกประกาศกําหนดหลักเกณฑแ์ ละวิธีการกําหนดราคากลาง (๒) กํากบั ดแู ลการกําหนดราคากลางให้เป็นไปตามแนวทางของพระราชบญั ญตั ิน้ี (๓) ใหค้ ําปรกึ ษาแนะนําแกเ่ จา้ หนา้ ท่ีหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการดําเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารกําหนดราคากลาง (๔) ตีความและวนิ จิ ฉยั ปญั หาขอ้ หารอื เกยี่ วกบั หลักเกณฑแ์ ละวิธีการกําหนดราคากลาง (๕) ยกเว้นหรือผ่อนผันกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามรายละเอียดของหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดราคากลางตาม (๑) (๖) พิจารณาข้อร้องเรียนกรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดราคากลาง (๗) ออกประกาศกาํ หนดหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการที่มีสิทธิเปน็ ผยู้ ่ืนขอ้ เสนอตอ่ หน่วยงานของรัฐ (๘) จัดทํารายงานเก่ียวกับปัญหาและอุปสรรคในการดําเนินการกําหนดราคากลางของหน่วยงานของรัฐ และการข้ึนทะเบียนผู้ประกอบการท่ีมีสิทธิเป็นผู้ย่ืนข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐเสนอคณะกรรมการนโยบายอยา่ งนอ้ ยปีละหนึง่ ครัง้ (๙) ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนตามท่ีกําหนดในพระราชบัญญัติน้ีหรือตามที่คณะกรรมการนโยบายรฐั มนตรี หรือคณะรฐั มนตรมี อบหมาย ผลการดาํ เนนิ การตาม (๑) (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ใหป้ ระกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบญั ชีกลางตามวธิ ีการทก่ี รมบญั ชีกลางกําหนด ประกาศตาม (๑) และ (๗) ใหป้ ระกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๓๕ คณะกรรมการราคากลางต้องพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดราคากลางอย่างนอ้ ยปีละหนง่ึ คร้งั เม่ือได้ทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการกําหนดราคากลางตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ประกาศในระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาด้วย มาตรา ๓๖ คณะกรรมการราคากลางมีอํานาจแต่งต้ังคณะอนุกรรมการเพื่อทําการใด ๆแทนได้ ทง้ั น้ี ใหแ้ ตง่ ต้ังตามความเชี่ยวชาญในแต่ละประเภทของพัสดุ เช่น งานก่อสร้าง ยาและเวชภัณฑ์หรอื พสั ดุท่ีเกีย่ วกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการราคากลางและคณะอนกุ รรมการโดยอนุโลม

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๒๖ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ส่วนที่ ๔ คณะกรรมการความรว่ มมือปอ้ งกันการทุจริต มาตรา ๓๗ ให้มีคณะกรรมการความรว่ มมือปอ้ งกนั การทจุ ริต ประกอบด้วย (๑) ปลัดกระทรวงการคลงั เปน็ ประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนสํานักงบประมาณผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคน ซ่ึงปลัดกระทรวงการคลังแต่งต้ังจากองค์กรเอกชนท่ีจัดต้ังขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการต่อต้านการทุจริตหรือส่งเสริมด้านคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งนี้ องค์กรเอกชนดังกล่าวต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยท่ีมีผลงานเป็นที่ยอมรับและไดด้ ําเนินงานมาแล้วไมน่ อ้ ยกว่าสองปี ใหอ้ ธิบดีกรมบญั ชกี ลางมอบหมายข้าราชการของกรมบัญชีกลางคนหน่ึงเป็นกรรมการและเลขานุการและอกี สองคนเป็นผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร มาตรา ๓๘ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับกับกรรมการผทู้ รงคุณวุฒใิ นส่วนที่ ๔ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนโุ ลม มาตรา ๓๙ ให้คณะกรรมการ ค.ป.ท. มอี าํ นาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปนี้ (๑) กําหนดแนวทางและวิธีการในการดําเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจดั ซ้อื จัดจ้างภาครัฐ (๒) กําหนดแบบของข้อตกลงคุณธรรมและแบบรายงานของผสู้ ังเกตการณ์ (๓) คัดเลือกโครงการการจัดซ้ือจัดจ้างเพื่อเข้าร่วมโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจดั ซอื้ จัดจ้างภาครฐั (๔) คดั เลอื กผสู้ งั เกตการณเ์ พ่อื เข้ารว่ มโครงการความร่วมมอื ปอ้ งกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครฐั (๕) ตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือเกี่ยวกับแนวทางและวิธีการในการดําเนินงานโครงการความรว่ มมอื ปอ้ งกันการทุจริตในการจัดซือ้ จัดจา้ งภาครฐั ตาม (๑) (๖) ยกเว้นหรือผ่อนผันกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามรายละเอียดของแนวทางและวิธีการในการดําเนินงานโครงการความร่วมมอื ป้องกันการทุจรติ ในการจดั ซ้ือจัดจา้ งภาครัฐตาม (๑) (๗) พิจารณาข้อร้องเรียนกรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางและวิธีการในการดําเนินงานโครงการความรว่ มมอื ป้องกนั การทจุ ริตในการจัดซอ้ื จัดจา้ งภาครัฐตาม (๑)

เลม่ ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หน้า ๒๗ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (๘) จัดทํารายงานผลการประเมินโครงการการจัดซื้อจัดจ้างท่ีเข้าร่วมโครงการความร่วมมือปอ้ งกนั การทจุ รติ ในการจดั ซ้อื จดั จ้างภาครฐั เสนอคณะกรรมการนโยบายอยา่ งน้อยปลี ะหนง่ึ ครั้ง (๙) ปฏิบัติหน้าทอ่ี ่ืนตามทก่ี าํ หนดในพระราชบัญญตั ินี้ ผลการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางตามวธิ ีการทกี่ รมบญั ชกี ลางกําหนด มาตรา ๔๐ คณะกรรมการ ค.ป.ท. มีอาํ นาจแต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพ่อื ทาํ การใด ๆ แทนได้ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการ ค.ป.ท. และคณะอนกุ รรมการโดยอนุโลม สว่ นที่ ๕ คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณแ์ ละข้อร้องเรียน มาตรา ๔๑ ใหม้ ีคณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์และขอ้ ร้องเรยี น ประกอบด้วย (๑) ปลดั กระทรวงการคลงั เปน็ ประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสํานักงบประมาณ ผู้แทนสํานักงานอัยการสูงสุดผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน ผู้แทนสํานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และผู้แทนสํานักงานการตรวจเงินแผน่ ดนิ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจํานวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเจ็ดคน ซ่ึงปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแห่งละหน่ึงคน ในส่วนท่ีเหลือให้แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ หรือประสบการณ์ด้านวิศวกรรมสถาปัตยกรรม การเงนิ การคลงั การบริหารจัดการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือด้านอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องและเป็นประโยชนต์ อ่ การดําเนนิ งานของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ให้อธบิ ดกี รมบญั ชีกลางมอบหมายขา้ ราชการของกรมบัญชีกลางคนหน่ึงเป็นกรรมการและเลขานุการและอีกสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ มาตรา ๔๒ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับกับกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิในสว่ นท่ี ๕ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนโุ ลม มาตรา ๔๓ ใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์มอี ํานาจหน้าท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) พิจารณาและวินิจฉยั อุทธรณต์ ามมาตรา ๑๑๙ (๒) พิจารณาข้อร้องเรียนกรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางของพระราชบัญญตั ินี้ กฎกระทรวง หรือระเบียบทอ่ี อกตามความในพระราชบัญญตั นิ ี้ (๓) จัดทํารายงานเกี่ยวกบั ปญั หาและอปุ สรรคในการดําเนินการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนเสนอคณะกรรมการนโยบายอย่างน้อยปีละหน่ึงคร้ัง

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หนา้ ๒๘ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (๔) ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนตามท่ีกําหนดในพระราชบัญญัติน้ีหรือตามท่ีคณะกรรมการนโยบายรฐั มนตรี หรอื คณะรฐั มนตรีมอบหมาย ผลการดําเนินการตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบญั ชกี ลางตามวิธีการท่กี รมบัญชีกลางกําหนด การยน่ื ข้อร้องเรยี นและการพจิ ารณาข้อรอ้ งเรยี นตาม (๒) ให้เป็นไปตามระเบยี บทีร่ ฐั มนตรีกาํ หนด ในกรณีที่พิจารณาข้อร้องเรียนตาม (๒) แล้วรับฟังได้ว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ี หรือกฎกระทรวงหรือระเบียบที่ออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์มีอาํ นาจส่งั ระงับการจัดซอ้ื จัดจา้ งไวก้ ่อนได้ เว้นแตจ่ ะได้ลงนามในสญั ญาจัดซ้อื จัดจ้างแล้ว ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์กระทําการตามหน้าท่ีโดยสุจริต ย่อมได้รับการคุ้มครองไม่ตอ้ งรับผดิ ทงั้ ทางแพง่ ทางอาญา หรอื ทางปกครอง มาตรา ๔๔ คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์มีอาํ นาจแตง่ ตง้ั คณะอนกุ รรมการเพื่อทําการใด ๆแทนได้ ให้นําบทบัญญัติมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และคณะอนุกรรมการโดยอนโุ ลม ให้นําบทบัญญตั ิมาตรา ๔๓ วรรคหา้ มาใช้บังคบั กบั การกระทาํ การตามหน้าที่ของคณะอนุกรรมการโดยอนโุ ลม มาตรา ๔๕ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีอํานาจเรียกให้เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องหรือบุคคลอ่ืนใดมาช้ีแจงหรือให้ถ้อยคํา หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพ่ือประกอบการพิจารณาได้ หมวด ๔ องค์กรสนบั สนุนดแู ลการจัดซ้อื จดั จ้างและการบริหารพสั ดภุ าครัฐ มาตรา ๔๖ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าที่ในการดูแลและพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างผา่ นระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการประกาศเผยแพร่ข้อมูลเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง เพื่อใหส้ าธารณชนสามารถเขา้ ตรวจดูได้ มาตรา ๔๗ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าที่จัดทําฐานข้อมูลราคาอ้างอิงของพัสดุเพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุน้ัน และให้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชกี ลาง การกําหนดราคาอ้างอิงของพัสดุต้องคํานึงถึงราคาตลาดของพัสดุนั้น และการกําหนดราคาอา้ งอิงของพัสดอุ ย่างเดียวกันจะไม่ใช้ราคาเดียวกันทว่ั ประเทศก็ได้ กรมบัญชกี ลางตอ้ งปรบั ปรุงฐานข้อมูลตามวรรคหน่ึง อย่างน้อยปลี ะสองคร้ัง

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๒๙ ๒๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๔๘ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และประเมินผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติน้ี และจดั ทาํ รายงานเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการดําเนินการพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐเสนอคณะกรรมการนโยบายอย่างน้อยปลี ะหนึง่ คร้งั เพ่ือประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้หน่วยงานของรัฐส่งรายงานผลการปฏิบัติงานตามพระราชบญั ญตั นิ ีต้ อ่ กรมบัญชกี ลาง ตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไขทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง รายงานตามวรรคหนึ่ง เม่ือคณะกรรมการนโยบายให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประกาศในระบบเครอื ข่ายสารสนเทศของกรมบัญชกี ลาง มาตรา ๔๙ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าท่ีในการกําหนดและจัดให้มีหลักสูตรการฝึกอบรมเพ่ือส่งเสริมและพัฒนาเจ้าหน้าท่ีให้มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐตามหลักวิชาชีพและตามพระราชบัญญัติน้ี ท้ังน้ี กรมบัญชีกลางจะดําเนินการเองหรือจะดาํ เนนิ การรว่ มกบั หนว่ ยงานอ่ืนหรอื เอกชนท่ีเกีย่ วขอ้ งกไ็ ด้ ให้เจ้าหน้าท่ีซึ่งผ่านการฝึกอบรมตามวรรคหน่ึงและได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจดั ซ้อื จัดจา้ งหรอื การบริหารพสั ดุมีสทิ ธิได้รบั เงนิ เพ่มิ หรอื เงนิ อื่นทาํ นองเดียวกนั ดงั ต่อไปน้ี (๑) ในกรณีที่เป็นข้าราชการพลเรือน ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดซ้ือจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุเป็นตําแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนและในการกําหนดให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษให้คํานึงถึงภาระหน้าท่ีและคุณภาพของงาน โดยเปรียบเทียบกับผู้ปฏิบัติงานอ่ืนท่ีได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษด้วยทัง้ นี้ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบทร่ี ฐั มนตรีกําหนด (๒) ในกรณที ี่ไม่เปน็ ข้าราชการพลเรือน ใหเ้ จ้าหน้าที่ซง่ึ ได้รบั แต่งตั้งให้ดาํ รงตําแหน่งท่ีปฏิบัติงานเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุเป็นตําแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตามกฎหมายเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่น้ันสังกัดอยู่และมีสิทธิได้รับเงินเพ่ิมสําหรับตําแหน่งที่มีเหตุพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรือเป็นตําแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินอ่ืนทํานองเดียวกันตามกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐท่ีเจ้าหน้าที่น้ันสังกัดอยู่ แล้วแต่กรณี ทั้งน้ี ในการกําหนดให้ได้รับเงินเพิ่มสําหรับตําแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษหรือเงินอื่นทํานองเดียวกันให้เปรียบเทียบกับเงินเพิ่มสําหรับตําแหนง่ ทม่ี ีเหตุพิเศษหรือเงินอื่นทํานองเดยี วกนั ของหน่วยงานของรฐั ประเภทเดียวกนั มาตรา ๕๐ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าที่ปฏิบัติงานธุรการ งานประชุม งานวิชาการการศึกษาหาข้อมูล และกิจการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องให้แก่คณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการวินิจฉัยคณะกรรมการราคากลาง คณะกรรมการ ค.ป.ท. คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และคณะอนุกรรมการทแี่ ต่งต้ังโดยคณะกรรมการดังกลา่ ว รวมท้งั ใหม้ ีอาํ นาจหน้าที่อน่ื ตามทีก่ าํ หนดในพระราชบญั ญัตนิ ี้

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หน้า ๓๐ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา หมวด ๕ การขึ้นทะเบียนผปู้ ระกอบการ มาตรา ๕๑ ให้คณะกรรมการราคากลางมีอํานาจประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษาใหง้ านก่อสร้างในสาขาใด เป็นงานก่อสร้างท่ีผู้ประกอบการงานก่อสร้างในสาขานั้นจะเข้าร่วมเป็นผู้ย่ืนข้อเสนอต่อหนว่ ยงานของรฐั ได้ ผูป้ ระกอบการงานก่อสรา้ งในสาขาน้นั ต้องเป็นผ้ทู ี่ได้ข้นึ ทะเบียนไวก้ บั กรมบัญชกี ลาง คณะกรรมการราคากลางอาจประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา ให้งานก่อสร้างในสาขาใดที่ผู้ประกอบการงานก่อสร้างในสาขานั้นต้องขึ้นทะเบียนไว้กับกรมบัญชีกลางตามวรรคหนึ่ง ต้องใช้เงินงบประมาณในวงเงินเทา่ ใดหรอื ตอ้ งใช้ผปู้ ระกอบวิชาชพี ในสาขาใดด้วยก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการข้ึนทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่จะเข้าร่วมเป็นผู้ยน่ื ขอ้ เสนอต่อหน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการราคากลางประกาศกําหนดในราชกิจจานเุ บกษา ทง้ั นี้ จะตอ้ งเปดิ โอกาสใหผ้ ้ปู ระกอบการงานก่อสร้างทุกรายมีสิทธิขอขึ้นทะเบียนได้ตลอดเวลา มาตรา ๕๒ ในกรณีที่เห็นสมควร คณะกรรมการราคากลางอาจประกาศกําหนดในราชกิจจานเุ บกษา ให้ผปู้ ระกอบการพสั ดอุ น่ื นอกเหนอื จากผู้ประกอบการงานกอ่ สร้าง เป็นผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมเป็นผู้ย่ืนข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐได้ ผู้ประกอบการนั้นต้องเป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมบัญชีกลางก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการข้ึนทะเบียนผู้ประกอบการพัสดุอ่ืนที่จะเข้าร่วมเป็นผูย้ น่ื ขอ้ เสนอต่อหน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการราคากลางประกาศกําหนดในราชกจิ จานุเบกษา ทัง้ นี้ จะต้องเปิดโอกาสใหผ้ ปู้ ระกอบการทุกรายมสี ทิ ธขิ อข้นึ ทะเบยี นไดต้ ลอดเวลา มาตรา ๕๓ ให้กรมบัญชีกลางประกาศรายชื่อผู้ประกอบการงานก่อสร้างตามมาตรา ๕๑และผู้ประกอบการพัสดุอ่ืนตามมาตรา ๕๒ ท่ีได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้วในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชกี ลาง และให้ปรบั ปรงุ ความถกู ต้องของข้อมลู ให้เป็นปจั จุบนั ทกุ ครั้งท่มี กี ารเปลยี่ นแปลงขอ้ มูล ในกรณีท่ีกรมบัญชีกลางได้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างและผู้ประกอบการพัสดุอื่นตามวรรคหน่ึงไว้แล้ว หน่วยงานของรัฐไม่ต้องจัดให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการประเภทนั้นอีกและให้หน่วยงานของรัฐกําหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าย่ืนข้อเสนอตามมาตรา ๕๑ หรือมาตรา ๕๒ในประกาศเชญิ ชวนใหเ้ ขา้ รว่ มการจัดซื้อจดั จา้ งของหนว่ ยงานของรฐั น้ันด้วย คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประกอบการท่ีมีสิทธิขอขึ้นทะเบียน การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามหรือการตรวจติดตาม การเพิกถอนรายช่ือออกจากทะเบียน และอัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียน รวมท้ังหลักเกณฑ์และวิธีการอุทธรณ์และการพิจารณาอุทธรณ์ในกรณีที่กรมบัญชีกลางไมข่ ้ึนทะเบยี นให้ผู้ประกอบการ ให้เปน็ ไปตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง

เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๒๔ ก หนา้ ๓๑ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๖ การจดั ซื้อจัดจ้าง มาตรา ๕๔ บทบญั ญัตใิ นหมวดนใ้ี หใ้ ช้บงั คับกบั การจดั ซือ้ จดั จา้ งพัสดุ ยกเว้นงานจ้างท่ีปรึกษาและงานจ้างออกแบบหรอื ควบคมุ งานกอ่ สรา้ ง มาตรา ๕๕ การจัดซ้ือจัดจ้างพสั ดอุ าจกระทําได้โดยวิธี ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการทั่วไปท่ีมีคณุ สมบตั ติ รงตามเงือ่ นไขที่หน่วยงานของรฐั กําหนดให้เข้ายืน่ ขอ้ เสนอ (๒) วิธีคัดเลือก ได้แก่ การท่ีหน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขท่ีหน่วยงานของรัฐกําหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามรายให้เข้าย่ืนข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ันมีผู้ประกอบการที่มีคณุ สมบตั ติ รงตามทกี่ าํ หนดนอ้ ยกว่าสามราย (๓) วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การท่ีหน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตรงตามเงอ่ื นไขทีห่ น่วยงานของรัฐกาํ หนดรายใดรายหน่ึงให้เข้าย่ืนข้อเสนอ หรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคารวมท้ังการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุกับผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อยตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามความในมาตรา ๙๖ วรรคสอง มาตรา ๕๖ การจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุ ให้หน่วยงานของรัฐเลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปก่อนเว้นแต่ (๑) กรณดี ังตอ่ ไปนี้ ให้ใช้วธิ คี ัดเลอื ก (ก) ใช้วิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รับการคัดเลือก (ข) พัสดุที่ต้องการจัดซ้ือจัดจ้างมีคุณลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษหรือซับซ้อนหรือต้องผลิตจําหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการโดยผู้ประกอบการที่มีฝีมือโดยเฉพาะ หรือมีความชํานาญเป็นพิเศษหรอื มีทกั ษะสงู และผ้ปู ระกอบการน้นั มีจาํ นวนจํากัด (ค) มีความจําเป็นเร่งด่วนท่ีต้องใช้พัสดุนั้นอันเนื่องมาจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ซึง่ หากใช้วธิ ปี ระกาศเชิญชวนทัว่ ไปจะทําให้ไม่ทันต่อความต้องการใชพ้ ัสดุ (ง) เป็นพัสดุท่ีโดยลักษณะของการใช้งาน หรือมีข้อจํากัดทางเทคนิคที่จําเป็นต้องระบุย่ีห้อเป็นการเฉพาะ (จ) เป็นพัสดุท่ีจําเป็นต้องซื้อโดยตรงจากต่างประเทศ หรือดําเนินการโดยผ่านองค์การระหว่างประเทศ (ฉ) เปน็ พสั ดุท่ีใชใ้ นราชการลบั หรอื เป็นงานที่ต้องปกปิดเป็นความลับของหน่วยงานของรัฐหรอื ทเ่ี กีย่ วกับความม่นั คงของประเทศ

เล่ม ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๓๒ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา (ช) เป็นงานจ้างซ่อมพัสดุที่จําเป็นต้องถอดตรวจ ให้ทราบความชํารุดเสียหายเสียก่อนจึงจะประมาณค่าซ่อมได้ เช่น งานจ้างซ่อมเคร่ืองจักร เครื่องมือกล เครื่องยนต์ เคร่ืองไฟฟ้าหรอื เครอื่ งอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (ซ) กรณอี ื่นตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง (๒) กรณดี ังตอ่ ไปน้ี ให้ใชว้ ิธเี ฉพาะเจาะจง (ก) ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผ้ยู นื่ ข้อเสนอ หรือข้อเสนอนัน้ ไมไ่ ด้รับการคดั เลอื ก (ข) การจัดซอื้ จัดจา้ งพัสดทุ ี่มกี ารผลติ จําหนา่ ย ก่อสรา้ ง หรือให้บริการทั่วไป และมีวงเงินในการจัดซอ้ื จดั จ้างครงั้ หน่ึงไม่เกินวงเงินตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง (ค) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีผู้ประกอบการซ่ึงมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียวหรือการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการซ่ึงเป็นตัวแทนจําหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบดว้ ยกฎหมายเพยี งรายเดยี วในประเทศไทยและไม่มพี ัสดอุ ื่นทจ่ี ะใช้ทดแทนได้ (ง) มีความจําเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เน่ืองจากเกิดอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติหรอื เกิดโรคติดตอ่ อนั ตรายตามกฎหมายวา่ ด้วยโรคตดิ ต่อ และการจัดซือ้ จดั จา้ งโดยวิธีประกาศเชญิ ชวนทั่วไปหรือวิธีคดั เลือกอาจกอ่ ให้เกดิ ความล่าช้าและอาจทาํ ให้เกดิ ความเสียหายอย่างรา้ ยแรง (จ) พัสดุที่จะทําการจัดซ้ือจัดจ้างเป็นพัสดุที่เก่ียวพันกับพัสดุท่ีได้ทําการจัดซ้ือจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว และมีความจําเป็นต้องทําการจัดซื้อจัดจ้างเพ่ิมเติมเพื่อความสมบูรณ์หรือต่อเน่ืองในการใช้พัสดุน้ันโดยมูลคา่ ของพสั ดทุ ่ที าํ การจดั ซอื้ จัดจ้างเพิ่มเตมิ จะตอ้ งไม่สูงกวา่ พสั ดุทไ่ี ดท้ าํ การจดั ซอ้ื จัดจา้ งไวก้ อ่ นแล้ว (ฉ) เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศหรอื หนว่ ยงานของต่างประเทศ (ช) เป็นพัสดุทีเ่ ปน็ ท่ดี นิ หรือส่ิงปลูกสร้างซ่ึงจําเป็นต้องซอ้ื เฉพาะแหง่ (ซ) กรณีอ่ืนตามทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง รัฐมนตรีอาจออกกฎกระทรวงตาม (๑) (ซ) หรือ (๒) (ซ) ให้เป็นพัสดุท่ีรัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนตามมาตรา ๖๕ (๔) ก็ได้ หากรัฐมนตรีออกกฎกระทรวงตาม (๒) (ซ) เป็นพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนตามมาตรา ๖๕ (๔) แล้ว เม่ือหน่วยงานของรัฐจะทําการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุนั้นใหใ้ ชว้ ธิ เี ฉพาะเจาะจงตาม (๒) (ซ) ก่อน ในกรณีหน่วยงานของรัฐในต่างประเทศหรือมีกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในต่างประเทศจะทําการจัดซ้ือจัดจ้างโดยใช้วิธคี ัดเลอื กหรือวิธีเฉพาะเจาะจง โดยไม่ใชว้ ิธีประกาศเชิญชวนทว่ั ไปกอ่ นกไ็ ด้ รัฐมนตรีอาจออกระเบียบเพ่ือกําหนดรายละเอียดอ่ืนของการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุตามวรรคหนึ่งเพม่ิ เตมิ ได้ตามความจาํ เป็นเพ่ือประโยชน์ในการดําเนนิ การ มาตรา ๕๗ รายละเอียดของวิธกี ารจดั ซื้อจัดจา้ งพัสดุในหมวดนี้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบเครือขา่ ยสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบทร่ี ัฐมนตรกี าํ หนด

เลม่ ๑๓๔ ตอนท่ี ๒๔ ก หนา้ ๓๓ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๕๘ เพื่อประโยชน์ของภาครัฐโดยรวม หนว่ ยงานของรัฐแหง่ หนงึ่ แห่งใดอาจทาํ การจดั ซ้ือจดั จ้างพสั ดุให้กับหน่วยงานของรัฐแห่งอนื่ ๆ กไ็ ด้ ตามกรอบข้อตกลงระหว่างหน่วยงานของรัฐผู้ทําการจัดซ้ือจัดจ้างกับคสู่ ัญญา การดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ต้องคํานึงถึงความคุ้มค่าและวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นสําคัญท้งั นี้ ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่รี ฐั มนตรกี ําหนด มาตรา ๕๙ เพ่ือประโยชน์ในการจัดทําร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุท่ีจะทําการจัดซ้ือจัดจ้างและร่างเอกสารเชิญชวน ก่อนทําการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุด้วยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป หน่วยงานของรัฐอาจจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุทจี่ ะทําการจดั ซอ้ื จดั จา้ งและร่างเอกสารเชิญชวนจากผปู้ ระกอบการกอ่ นก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดของพัสดุที่จะทําการจัดซื้อจัดจ้างและร่างเอกสารเชิญชวน เพ่ือนําไปใช้เป็นเอกสารเชิญชวน ให้เป็นไปตามระเบยี บท่รี ฐั มนตรีกําหนด มาตรา ๖๐ กอ่ นดําเนนิ การจดั จ้างงานกอ่ สร้างตามวิธีการตามมาตรา ๕๕ หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีแบบรูปรายการงานก่อสร้างซ่ึงหน่วยงานของรัฐจะดําเนินการจัดทําเอง หรือดําเนินการจัดจ้างตามหมวด ๘ งานจา้ งออกแบบหรอื ควบคมุ งานก่อสรา้ ง กไ็ ด้ ในกรณีที่ต้องมีการจ้างออกแบบรวมก่อสร้างซ่ึงไม่อาจจัดให้มีแบบรูปรายการงานก่อสร้างตามวรรคหนึ่งได้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องดําเนินการตามวรรคหนึ่ง โดยกรณีใดท่ีจะจ้างออกแบบรวมก่อสร้างตอ้ งพจิ ารณาความเหมาะสมของโครงการและวงเงินด้วย ท้งั น้ี หลักเกณฑ์และวธิ ีการจ้างออกแบบรวมก่อสร้างให้เปน็ ไปตามระเบยี บท่ีรฐั มนตรีกําหนด มาตรา ๖๑ ในการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุแต่ละคร้ัง ให้ผู้มีอํานาจแต่งตั้งผู้รับผิดชอบการจัดซื้อจดั จ้างนั้น ซึง่ จะกระทําโดยคณะกรรมการการจัดซื้อจัดจ้างหรอื เจ้าหนา้ ท่ีคนใดคนหนึ่งก็ได้ องคป์ ระกอบและองค์ประชุมซึ่งกระทําโดยคณะกรรมการ และหน้าที่ของผู้รับผิดชอบการจัดซ้ือจดั จา้ งตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บท่ีรัฐมนตรีกําหนด คา่ ตอบแทนผู้รับผดิ ชอบการจัดซอื้ จัดจา้ งตามวรรคหน่ึง ใหเ้ ปน็ ไปตามที่กระทรวงการคลังกาํ หนด มาตรา ๖๒ การจดั ซอื้ จัดจา้ งตามวิธีการตามมาตรา ๕๕ (๑) ให้หน่วยงานของรัฐจัดทําประกาศและเอกสารเชิญชวนให้ทราบเป็นการท่ัวไปว่าหน่วยงานของรัฐจะดําเนินการในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุใดวนั เวลา สถานท่ียืน่ ข้อเสนอ และเงอ่ื นไขอืน่ ๆ ประกาศและเอกสารเชิญชวนตามวรรคหนึ่ง ให้ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกําหนด และให้ปิดประกาศโดยเปดิ เผย ณ สถานทป่ี ดิ ประกาศของหน่วยงานของรัฐน้ัน ในการนี้ หน่วยงานของรัฐจะเผยแพร่ประกาศและเอกสารเชญิ ชวนดังกลา่ วโดยวิธีการอน่ื ด้วยก็ได้