แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ วชิ า ชีวิตกบั สงั คมไทย (๓๐๐๐๐-๑๕๐๑) หลักสตู ร ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชัน้ สูง พุทธศักราช ๒๕๖๓ หมวดวิชาทักษะชวี ิต กล่มุ วชิ า สงั คมศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา จัดทำโดย นางจรุ พี ร ทวนทอง ตำแหน่ง ครู ยงั ไมม่ ีวิทยฐานะ แผนกวชิ า สามญั สมั พนั ธ์ วทิ ยาลยั เทคนิคชมุ พร สถาบนั การอาชวี ศึกษาภาคใต้ 1 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ รายการตรวจสอบและอนญุ าตให้ใช้
ควรอนญุ าตใหใ้ ช้การสอนได้ ควรปรบั ปรงุ เกีย่ วกับ............................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ........................................................................ (นางกุศล พรผดงุ ธรรม) หัวหน้าแผนกวิชาสามัญสมั พนั ธ์ ............../.................................../.................... เห็นควรอนุญาตให้ใชก้ ารสอนได้ ควรปรับปรุงดังเสนอ อื่น ๆ ..................................................................................................................................................... ........................................................................ (นายสมศกั ด์ิ หลวงนา) หัวหน้างานพัฒนาการเรยี นการสอนฯ เหน็ ควรอนญุ าตใหใ้ ชก้ ารสอนได้ ควรปรบั ปรุงดงั เสนอ อื่น ๆ ......................................................................................................................................................................... ........................................................................ (นายประเสริฐ ถึงวสิ ยั ) รองผ้อู ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ ............../........................../.................... อนุญาตใหใ้ ช้การสอนได้ อน่ื ๆ ...................................................................................................................................................................... (นายจารึก ศิลป์สวสั ดิ์) ผู้อำนวยการวิทยาลยั เทคนคิ ชมุ พร ............../........................./....................
แบบสอบถามความสอดคลอ้ งกบั สถานประกอบการ ตอนท่ี 1 ถามเกย่ี วกบั ข้อมลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามประเภท / สถานประกอบการ..แผนกวชิ าชา่ งยนต์ • กล่มุ งาน............แผนกวิชา............................................................................................................ • เพศ ชาย หญิง อาย.ุ ...........48................ปี • วุฒิการศกึ ษา ระดับ...........ปรญิ ญาโท...............................สาขา...........เครอื่ งกล........................... • ตำแหน่ง..........ครูแผนกวิชาชา่ งยนต์......................................แผนก.....ชา่ งกลโรงงาน.......................... • ระยะเวลาทป่ี ฏบิ ัตงิ านในตำแหน่ง........................26......ปี................................................................. ตอนที่ 2 ถามเกย่ี วกับ (เร่อื ง/งานย่อย) ท่ใี ชใ้ นการเรยี น/ปฏิบัตงิ าน รายการงาน (งานยอ่ ย) ไม่ใชใ้ นการ ระดับความถีท่ ใ่ี ช้ปฏบิ ัติงาน ปฏิบตั งิ าน 54321 √ 1. การวเิ คราะหป์ ระวัติศาสตร์สงั คมไทย √ √ 2. การวเิ คราะห์ภาวการณเ์ ปลี่ยนแปลงทางสงั คม √ 3. การจำแนกโครงสร้างของสงั คม สถาบันทางสงั คม การจัดระเบียบ √ ทางสังคม √ √ 4. การจำแนกภูมปิ ญั ญาไทยและการจำแนกวถิ ีไทย 4 ภาค √ 5. ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ √ 6. การจำแนกหลกั ธรรมาภบิ าลในสังคมไทย √ 7. การจำแนกหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาทใี่ ช้เพอื่ พฒั นางาน √ พฒั นาคนและสังคม 8. การจำแนกหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งการประยุกต์ใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 9. การวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะของพลเมอื งดีเพอื่ แนวทางการพฒั นา สง่ เสริมการเปน็ พลเมอื ง 10. การจำแนกศิลปวัฒนธรรมไทยการอนรุ ักษ์ศลิ ปวัฒนธรรมไทย 11. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของไทยในสงั คมโลก ลงชอ่ื ................................................... สถานประกอบ/ผ้เู ชย่ี วชาญ (...นายสเุ นตร........พรหมขุนทอง..) ตำแหนง่ ....หัวหน้าแผนกวชิ าชา่ ง
คำนำ แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะรายวิชาชวี ติ กบั สงั คมไทย (๓๐๐๐๐-๑๕๐๑) เลม่ นี้ เรยี บเรยี งขนึ้ ตามจดุ ประสงค์รายวชิ า มาตรฐานรายวิชา และคำอธิบายรายวชิ า หลักสตู รประกาศนียบัตร วชิ าชีพชนั้ สูง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ (ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา) แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะรายวิชานี้ ดำเนินการจัดทำโดยการวิเคราะห์คำอธิบาย รายวชิ าว่าด้วยเร่อื ง การวิเคราะห์ประวัติศาสตรส์ ังคมไทย การวิเคราะหภ์ าวการณเ์ ปลยี่ นแปลงทางสังคม การจำแนกโครงสร้างของสงั คม การวางแผนการจัดระเบยี บทางสังคม การจำแนกภูมิปัญญาไทย การจำแนกวิถี ไทย 4 ภาค การจำแนกหลกั ธรรมาภิบาลในสงั คมไทย การจำแนกหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา การพิจารณา หลักธรรมที่ใช้เพื่อพัฒนางาน พัฒนาคนและสังคม การจำแนกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การ ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การวิเคราะห์คุณลักษณะของพลเมืองดี การพิจารณาแนว ทางการพัฒนาส่งเสริมการเปน็ พลเมือง การวิเคราะหส์ ันติวฒั นธรรมไทย การจำแนกศิลปวัฒนธรรมไทย การ วางแผนการอนุรักษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมไทย การวิเคราะห์ความสมั พันธข์ องไทยในสังคมโลก หวังว่าแผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะเล่มนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักศึกษา ครู-อาจารย์ ตลอดจนผู้ใช้สมดังเจตนารมณ์ของผู้เรียบเรียง หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้เรียบเรียงยินดีน้อมรับไวด้ ้วย ความขอบคณุ อย่างยงิ่
สารบญั ก ข หน้า ค คำนำ ง สารบัญ จ คำแนะนำการใชแ้ ผนการจัดการเรียนรูม้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ ฉ หลักสตู รรายวชิ า ช ผลงาน และเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานรายวชิ า ซ การวิเคราะหห์ ลกั สตู รรายวิชา ฌ ตารางเทยี บสมรรถนะรายวิชากบั สมรรถนะงานของสถานประกอบการ ญ แบบสอบถามความสอดคลอ้ งกบั สถานประกอบการ ฒ การปรบั ปรุงหลักสตู รรายวิชา ท การวิเคราะห์แหลง่ การเรียนรู้ พ การวเิ คราะหส์ มรรถนะท่วั ไป ล การวเิ คราะห์สมรรถนะท่พี งึ ประสงค์ ว การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมการเรียนรูท้ ีพ่ ึงประสงค์ ศ โครงการสอนรายวิชา 1 การบรู ณาการรายวิชา 24 ตารางแสดงการบูรณาการรายวิชา 40 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 67 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 89 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 104 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 121 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 141 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 151 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 175 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 192 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9 230 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 10 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 ภาคผนวก ใบงาน
คำแนะนำการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ ๑. กอ่ นการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะวชิ าชวี ติ กบั สงั คมไทย ครผู สู้ อนควร ศกึ ษาการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะใหเ้ ขา้ ใจเสยี ก่อน ๒. ศกึ ษาแผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั จดุ ประสงคก์ าร เรยี นรู้ สาระการเรยี นรกู้ ระบวนการเรยี นรกู้ ารวดั และประเมนิ ผล ตลอดจนแหล่งการเรยี นรใู้ นแตล่ ะ หน่วยให้ เขา้ ใจอยา่ งชดั เจน ๓. กอ่ นสอนครคู วรชแ้ี จงบทบาทและหนา้ ทข่ี องผเู้ รยี น และกาหนดขอ้ ตกลงร่วมกนั ๔. เมอ่ื เรยี นรจู้ บหน่วยแลว้ ใหน้ ักเรยี นทาแบบวดั ผลการเรยี นรหู้ ลงั เรยี น ในแต่ละหน่วยเพอ่ื วดั ความกา้ วหนา้ ของความรคู้ วามเขา้ ใจ ๕. ภายหลงั จากการวดั ผลการเรยี นรหู้ ลงั เรยี นแลว้ ครคู วรมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั เพมิ่ เตมิ ๖. ภายหลงั จากการมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั แลว้ ครคู วรเป็นทป่ี รกึ ษาใหค้ าแนะนา นักเรยี น ทม่ี ปี ัญหาในการทาแบบฝึกหดั 7. หากมนี กั เรยี นไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ หลงั เรยี นในเน้อื หาใด ใหโ้ อกาสนักศกึ ษา การศกึ ษาใบความรู้ อกี ครงั้ แลว้ ใหท้ าแบบวดั ผลการเรยี นรหู้ ลงั เรยี น
ผลงาน และเกณฑ์การประเมนิ ผลงานรายวชิ า ระดบั ชัน้ ปวส. หมวดวิชาทักษะชีวติ กลุ่มวชิ าสังคมศึกษา ๓ หน่วยกิต รหสั วชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชื่อวชิ า ชีวติ และสงั คมไทย ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ ๑. ผลงานและเกณฑก์ ารประเมินผลงาน ผลงานและเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานในรายวชิ า ชวี ติ และสงั คมไทย ไดก้ าหนดหลกั เกณฑก์ าร ประเมนิ ผลงานเพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ คุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ดงั น้ี ผลงานและเกณฑ์การประเมินผลงาน (คะแนนเตม็ ๑๐๐%) ๑. การวดั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น (ระหวา่ งภาค) ๔๐ % ๒. งานทม่ี อบหมาย ๑๐ % ๓. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ๒๐ % ๔. ปลายภาคเรยี น ๓๐ % รวม ๑๐๐ % * คุณธรรม จรยิ ธรรม และคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ คุณธรรม จริยธรรมฯ น้ีได้กาหนดข้นึ ตามกรอบคุณธรรม จริยธรรม และคุณลกั ษณะท่พี ึง ประสงค์ ของ ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ประกอบดว้ ย ๑๕ คุณลกั ษณะ สอดคล้องกบั การบูรณาการปรชั ญาเศรฐกิจพองเพยี ง (เง่อื นไขคุณธรรม) ซึ่งในวชิ าชีวิตและสังคมไทย ( ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ) น้ีไดเ้ น้น ๔ คุณลกั ษณะ คอื ด้านความมีวินัย ด้านความรบั ผิดชอบ ด้านความ ซ่ือสตั ย์ และ ด้านความสนใจใฝ่ เรียนรู้ ซึ่งในแต่ละด้านมพี ฤติกรรมบ่งช้ที ่สี าคญั และนามาเลือกใช้ ดงั น้ี ๑. ความมวี นิ ยั คอื ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั และขอ้ ตกลงตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษาไดแ้ ก่ การแต่ง กายถกู ตอ้ งตามระเบยี บและขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา รกั ษาสาธารณสมบตั ิ สงิ่ แวดลอ้ มและเขา้ รว่ มกจิ กรรมทค่ี รู กาหนดและประพฤตติ นถูกตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม (เขา้ ชนั้ เรยี นตรงเวลา) ๒. ความรบั ผดิ ชอบ คอื การเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ตั ิงานตาม ขนั้ ตอน ท่วี างไว้ ปฏบิ ตั ิงานด้วยความตงั้ ใจ ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ ปฏบิ ตั ิงานท่ไี ด้รบั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ตั งิ านตามหน้าท่ี ของตนเอง ยอมรบั ผล การกระทาของตนเอง ปฏบิ ตั ิงานโดยคานึงถึงความปลอดภยั ต่อตนเองและ ส่วนรวม (นักเรียนเอาใจใส่การ เข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้น สมรรถนะอยา่ งตงั้ ใจ)
๓. ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ คอื การพดู ความจรงิ ไมน่ าผลงานของผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง ไมท่ จุ รติ ในการสอบ ไม่ลกั ขโมยเป็นตน้ (นักเรียนไมถ่ ามและไม่ลอกคาตอบจากผ้อู ่ืน) ๔. ความสนใจใฝ่รู้ เป็นการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ซกั ถามปัญหาขอ้ สงสยั แสวงหา ประสบการณ์ และคน้ หาความรใู้ หม่ ๆ (นกั เรียนใฝ่ ในการเรยี นร้อู ยู่เสมอ โดยการศึกษาหาความรู้ ด้วยตนเอง หรือ ปรกึ ษาหารือหาความรู้ หรือศึกษาดว้ ยวิธีการอืน่ ๆ) ๒. เกณฑ์และวิธีการปฏิบตั ิในการวดั และประเมินผลการเรยี นรายวิชา เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการเรยี น ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ว่าดว้ ย การ ประเมนิ ผลการ เรยี นตามหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู ดงั น้ี ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนน ๔.๐ ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑด์ เี ยย่ี ม ๘๐ ขน้ึ ไป ๓.๕ ผลการเรยี นอยูใ่ นเกณฑด์ มี าก ๗๕-๗๕ ๓.๐ ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑด์ ี ๗๐-๗๔ ๒.๕ ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑด์ พี อใช้ ๖๕-๖๙ ๒.๐ ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑพ์ อใช้ ๖๐-๖๔ ๑.๕ ผลการเรยี นอย่ใู นเกณฑอ์ อ่ น ๕๕-๕๙ ๑.๐ ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑอ์ อ่ นมาก ๕๐-๕๔ ๐ ผลการเรยี นต่ากว่าเกณฑข์ นั้ ต่า ต่ากว่า ๕๐ รายวิชาใดท่ีแสดงระดบั ผลการเรยี นตามตารางขา้ งต้นไม่ได้ให้ใช้ตวั อกั ษรต่อไปนี้ ข.ร. หมายถงึ ขาดเรยี น ไม่มสี ทิ ธเิ ขา้ รบั การประเมนิ สรปุ ผลการเรยี นเน่อื งจากมเี วลาเรยี นต่า กวา่ รอ้ ย ละ ๘๐ โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ไมใ่ ช่เหตสุ ุดวสิ ยั ข.ป. หมายถงึ ขาดการปฏบิ ตั งิ าน หรอื ปฏบิ ตั งิ านไมค่ รบ โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เหน็ ว่า ไมม่ ี เหตผุ ลสมควร ข.ส. หมายถงึ ขาดการประเมนิ สรุปผลการเรยี น โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ไมม่ ี เหตผุ ล สมควร ถ.ล. หมายถงึ ถอนรายวชิ าภายหลงั กาหนด โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ ไม่มเี หตุผล สมควร ถ.น. หมายถงึ ถอนรายวชิ าภายในกาหนด ถ.พ. หมายถงึ ถกู สงั่ พกั การเรยี นในระหว่างทม่ี กี ารประเมนิ สรปุ ผลการเรยี น ท. หมายถงึ ทุจรติ ในการสอบหรอื งานทม่ี อบหมายใหท้ า
ม.ส. หมายถงึ ไมส่ มบรู ณ์เน่อื งจากไม่สามารถเขา้ รบั การประเมนิ ครบทุกครงั้ และหรอื ไมส่ ่งงาน อนั เป็นสว่ นประกอบของการเรยี นรายวชิ าตามกาหนด ดว้ ยเหตุจาเป็นอนั สดุ วสิ ยั ม.ท. หมายถงึ ไมส่ ามารถเขา้ รบั การประเมนิ ทดแทนการประเมนิ สว่ นทข่ี าดของรายวชิ าทไ่ี ม่ สมบรู ณ์ ภายในภาคเรยี นถดั ไป ผ. หมายถงึ ไดเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมตามกาหนด และผลการประเมนิ ผา่ น ม.ผ. หมายถงึ ไม่เขา้ ร่วมกจิ กรรม หรอื ผลการประเมนิ ไม่ผ่าน หรอื ผลการประเมนิ การเรยี น โดยไมน่ ับจานวนหน่วยกติ มารวมเพ่อื การสาเรจ็ การศกึ ษาตามหลกั สตู รไมผ่ า่ น หรอื ไม่ไดท้ าการ ประเมนิ ผลการเรยี น
หลักสตู รรายวิชา ระดบั ช้นั ปวส. หมวดวชิ าทกั ษะชีวิต กล่มุ วชิ าสังคมศึกษา ๓ หน่วยกิต รหัสวชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชื่อวชิ า ชวี ิตและสังคมไทย ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห์ ชื่อวิชา ชวี ติ และสงั คมไทย ๓-๐-๓ จดุ ประสงคร์ ายวิชา เพอ่ื ให้ ๑. เขา้ ใจเก่ียวกับสงั คม ศิลปวฒั นธรรมประเพณี และภูมิปัญญาของไทย ๒. สามารถวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและวฒั นธรรมไทย ๓. ตระหนักและเห็นคุณค่าของศิลปวฒั นธรรมประเพณี และภมู ปิ ัญญาไทย สมรรถนะรายวชิ า ๑. แสดงความรู้เกี่ยวกับสังคมวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย หลักธรรมาภิบาล หลักธรรมในการ พัฒนางาน พัฒนาคนและสงั คม สันติวัฒนธรรม ความเป็นพลเมืองดี เศรษฐกิจพอเพยี ง ปัญหาการ ทจุ ริต และความรว่ มมอื กับประเทศต่างๆ ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและสง่ิ แวดลอ้ ม ๒. วเิ คราะห์ประเมินสถานการณ์การเปล่ียนแปลงของสังคมและวฒั นธรรม ประเพณี ภูมิปญั ญาไทย ๓. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามร้เู กี่ยวกับคุณธรรม จรยิ ธรรม ศาสนาธรรม วัฒนธรรม ประเพณี ภมู ปิ ญั ญาไทย เศรษฐกจิ พอเพียง ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หาการทจุ รติ ปญั หาสังคม การดำเนนิ ชวี ติ ตามบทบาทหน้าท่กี ารเปน็ พลเมอื งดี คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาเก่ยี วกบั สงั คม การจัดระเบยี บทางสังคม ศลิ ปวฒั นธรรมประเพณี และภูมปิ ญั ญาของไทย หลักธรรมาภบิ าล หลักธรรมเพื่อพฒั นาตน พัฒนางานและสังคม สันตวิ ัฒนธรรม ความเปน็ พลเมืองดี เศรษฐกิจพอเพียง ในการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการทุจริต ปัญหาสังคม การดำเนินชีวิตตามบทบาท หน้าทกี่ ารเป็นพลเมอื งดี หมายเหตุ (ถ้ามี : ให้อธบิ ายถงึ สาเหตขุ องการปรบั ปรงุ รายวิชา) ผู้สอนได้มีการกำหนดหน่วยการเรียนรู้เพิ่มเติม ที่เชื่อมโยงกับสมรรถนะการเรียนรู้ และผลการ เรียนรู้ในกลุ่มสาระสังคมศึกษา สำหรับผู้เรียนระดับชั้น ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส) จึงนำผลการ ประเมินการสอนรายวิชา มาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางการปรับปรุงในรายวิชา โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาให้ เหมาะสม การปรับปรุงระยะเวลาทีใช้ในการสอนแต่ละหัวข้อ การปรับปรุงกิจกรรมการเรียนการสอน และ การปรบั ปรุงเกณฑ์และวธิ ีการประเมินผลการเรียนของนกั ศึกษา ทกุ รอบระยะเวลาเม่ือสิ้นสดุ การสอนรายวิชา ในแต่ละภาคการศกึ ษา
การวิเคราะห์หลกั สูตรรายวิชา ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตรรายวชิ า ระดบั ชัน้ ปวส. หมวดวิชาทกั ษะชวี ิต กลุ่มวชิ าสังคมศึกษา ๓ หนว่ ยกิต รหัสวชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ช่อื วชิ า ชีวิตและสังคมไทย ๓ ช่วั โมง/สปั ดาห์ หนว่ ยที่ พฤตกิ รรมที่พึง รวม ประสงค์ (ชม) ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ ๓ ๑ การวเิ คราะหป์ ระวตั ิศาสตร์สงั คมไทย ๓- ๓ ๒ การวเิ คราะห์ภาวการณเ์ ปลีย่ นแปลงทางสงั คม ๓- ๖ ๓ การจำแนกโครงสรา้ งของสังคม สถาบนั ทางสงั คม การจดั ระเบยี บ ๖- ๖ ทางสงั คม ๖- ๓ ๔ การจำแนกภูมปิ ญั ญาไทยและการจำแนกวถิ ีไทย 4 ภาค ๓- ๓ ๕ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ๓- ๖ ๖ การจำแนกหลักธรรมาภิบาลในสงั คมไทย ๖- ๗ การจำแนกหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาทีใ่ ช้เพื่อพัฒนางาน ๖ ๖- พัฒนาคนและสังคม ๖ ๘ การจำแนกหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงการประยุกต์ใชห้ ลัก ๖- ๖ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖- ๓ ๙ การวิเคราะห์คณุ ลักษณะของพลเมืองดเี พ่ือแนวทางการพัฒนา ๓ ๓ ๓- สง่ เสริมการเปน็ พลเมอื ง ๑๐ การจำแนกศิลปวัฒนธรรมไทยการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ๑๑ การวเิ คราะห์ความสมั พนั ธข์ องไทยในสังคมโลก ๑๒ สอบปลายภาค รวม ๕๔ ๕๔
การปรบั ปรุงหลกั สูตรรายวิชา (ถา้ ม)ี ตารางแสดงการปรับปรงุ หลกั สูตรายวชิ า ระดับชัน้ ปวส. หมวดวิชาทกั ษะชวี ิต กล่มุ วิชาสังคมศึกษา ๓ หน่วยกติ รหสั วิชา ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชอื่ วชิ า ชีวติ และสังคมไทย ๓ ชัว่ โมง/สัปดาห์ หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ การปรับปรุง พฤตกิ รรมที่พงึ รวม ท่ี (รายละเอียดการปรับปรงุ ) หลักสูตร ประสงค์ (ชม.) รายวชิ า ทฤษฎี ปฏบิ ัติ ๑ การวิเคราะห์ประวตั ศิ าสตรส์ งั คมไทย ๓-๓ ๒ การวิเคราะหภ์ าวการณ์เปลยี่ นแปลงทางสงั คม ๓-๓ ๓ การจำแนกโครงสรา้ งของสงั คม สถาบันทางสงั คม การจดั ๖-๖ ระเบยี บทางสังคม ๖-๖ ๔ การจำแนกภมู ิปญั ญาไทยและการจำแนกวิถีไทย 4 ภาค ๓- ๓ ๕ ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ๓- ๓ ๖ การจำแนกหลักธรรมาภบิ าลในสังคมไทย ๖-๖ ๗ การจำแนกหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาท่ใี ช้เพอื่ พฒั นางาน ๖-๖ พัฒนาคนและสงั คม ๘ การจำแนกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงการประยุกต์ใช้ ๖-๖ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖-๖ ๙ การวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะของพลเมอื งดีเพื่อแนวทางการ ๓๓ พัฒนาส่งเสรมิ การเป็นพลเมอื ง ๑๐ การจำแนกศลิ ปวัฒนธรรมไทยการอนรุ ักษ์ศลิ ปวัฒนธรรมไทย ๑๑ การวิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของไทยในสังคมโลก ๑๒ สอบปลายภาค ๓๓ ๕๔ ๕๔ รวม หมายเหตุ (คำอธิบายการปรับปรงุ หลักสตู รรายวิชา)
การวิเคราะหแ์ หลง่ การเรียนรู้ ตารางวิเคราะหแ์ หลง่ การเรียนรู้ ระดบั ชั้น ปวส. หมวดวิชาทักษะชวี ติ กลุ่มวิชาสงั คมศกึ ษา ๓ หน่วยกติ รหัสวชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ช่อื วชิ า ชีวติ และสังคมไทย ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หน่วย ชอ่ื หนว่ ยการเรียนร้/ู หวั ข้อการเรยี นรู้ แหลง่ การเรยี นรู้ หมาย ท่ี ก ข ค ง จ ฉ เหตุ ๑ การวิเคราะหป์ ระวตั ิศาสตร์สงั คมไทย // / / ๒ การวเิ คราะห์ภาวการณ์เปลยี่ นแปลงทางสังคม // / / ๓ การจำแนกโครงสรา้ งของสงั คม สถาบนั ทางสงั คม การจัดระเบียบทาง / / / / สังคม ๔ การจำแนกภมู ิปญั ญาไทยและการจำแนกวถิ ีไทย 4 ภาค // / / ๕ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน // / / ๖ การจำแนกหลกั ธรรมาภิบาลในสังคมไทย // / / ๗ การจำแนกหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาท่ีใชเ้ พื่อพัฒนางาน พัฒนาคน / / / / และสงั คม ๘ การจำแนกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงการประยุกต์ใชห้ ลัก // / / ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๙ การวิเคราะหค์ ุณลกั ษณะของพลเมอื งดีเพื่อแนวทางการพัฒนาส่งเสรมิ / / / / การเปน็ พลเมือง ๑๐ การจำแนกศลิ ปวัฒนธรรมไทยการอนรุ กั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรมไทย // / / ๑๑ การวิเคราะห์ความสัมพนั ธข์ องไทยในสงั คมโลก // / / แหล่งที่มาของแหล่งการเรียนรู้ ก. ส่ิงทกี่ ำหนดในรายวชิ า ข. ประสบการณ์ของตนเอง ค. สอบถามจากผเู้ ชยี่ วชาญ ง. จากตำราหรอื เอกสารทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง จ. จาการดงู านจากสถานประกอบการณ์ ฉ. อ่นื ๆ.....จากอนิ เตอรเ์ น็ต....................
การวเิ คราะหส์ มรรถนะท่ัวไป ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะท่วั ไป ๓ หน่วยกิต ระดบั ช้นั ปวส. หมวดวิชาทกั ษะชีวติ กลุ่มวชิ าสังคมศึกษา รหสั วชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชื่อวชิ า ชีวิตและสังคมไทย ๓ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ หน่วย ชอื่ หน่วยการเรยี นร/ู้ หัวขอ้ การเรียนรู้ สมรรถนะทว่ั ไป ท่ี ๑ การวเิ คราะหป์ ระวัติศาสตร์สังคม - ความรู้เก่ยี วกับความหมายสงั คมไทย - แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายสังคมไทย สภาพสังคมสมัยกรุงสุโขทัยสภาพสังคมไทย สภาพสังคมสมัยกรุงสุโขทัยสภาพสังคมไทยสมัยกรุง สมยั กรงุ รตั นโกสนิ ทร์สงั คมไทยสมยั ใหม่ภาวะ รตั นโกสนิ ทร์สงั คมไทยสมัยใหม่ภาวะวิกฤตในสังคมไทย วิกฤตในสงั คมไทย - แสดงทักษะการวเิ คราะห์ประวตั ศิ าสตร์สงั คมไทย การวเิ คราะห์ประวัติศาสตร์สังคมไทย ๒ การวิเคราะห์ภาวการณ์เปล่ยี นแปลงทางสงั คม - ความรู้เก่ยี วกับการเปลย่ี นแปลงทางสงั คม - แสดงความรู้เกีย่ วกบั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม แนวโนม้ การเปลย่ี นแปลงทางสังคมไทยยคุ - แสดงความรูเ้ กย่ี วกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทาง ใหมก่ ารเปล่ียนแปลงทางสงั คมไทยสู่ สังคมไทยยุคใหม่ ประชาคมอาเซียนภาวะวกิ ฤตในสังคมไทย -แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั การเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทย สู่ประชาคมอาเซยี น - แสดงความรู้เกีย่ วกับภาวะวกิ ฤตในสงั คมไทย ๓ การจำแนกโครงสรา้ งของสงั คม สถาบนั ทางสงั คม การจดั ระเบียบทางสงั คม -ความรเู้ ก่ยี วกบั ความหมายของโครงสร้างของสงั คม -แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั ความหมายของโครงสรา้ งของสังคม - ความรู้เกยี่ วกับองคป์ ระกอบโครงสร้างของสังคม - แสดงความรู้เกยี่ วกับองคป์ ระกอบโครงสร้างของสงั คม - ความรเู้ ก่ียวกบั สถาบันทางสงั คมทีส่ ำคญั - แสดงความรเู้ กย่ี วกับสถาบันทางสังคมทสี่ ำคญั - มีความรเู้ กีย่ วกับความหมายและองคป์ ระกอบ -แสดงมคี วามร้เู ก่ยี วกับความหมายและองค์ประกอบสำคญั ของการ สำคัญของการจัดระเบยี บทางสงั คม จัดระเบียบทางสังคม
การวเิ คราะหส์ มรรถนะท่วั ไป ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะทว่ั ไป ระดบั ชน้ั ปวส. หมวดวชิ าทักษะชวี ติ กลมุ่ วิชาสงั คมศกึ ษา ๓ หนว่ ยกติ รหัสวิชา ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชือ่ วชิ า ชวี ิตและสังคมไทย ๓ ชวั่ โมง/สัปดาห์ หน่วย ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้/หัวขอ้ การเรียนรู้ สมรรถนะทว่ั ไป ท่ี 4 การจำแนกภมู ิปัญญาไทยการจำแนกวถิ ไี ทย 4 ภาค -ความรเู้ กีย่ วกับความหมายของภูมิปญั ญาไทย แสดงความร้เู กย่ี วกับความหมายของภูมิปญั ญาไทย -ความร้เู กย่ี วกบั ความสำคัญของภูมปิ ญั ญาไทย -แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความสำคัญของภมู ิปญั ญาไทย -ความรู้เก่ียวกบั ประเภทของภมู ิปญั ญาไทย -แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ประเภทของภูมปิ ญั ญาไทย -ความรู้เก่ยี วกับลักษณะของภมู ปิ ญั ญาไทย -แสดงความรู้เกย่ี วกับลักษณะของภมู ิปญั ญาไทย -ความรู้คณุ สมบัตขิ องผทู้ รงภูมิปัญญาไทย -แสดงความรูค้ ณุ สมบตั ขิ องผทู้ รงภมู ปิ ัญญาไทย -ความรเู้ กี่ยวกับสาขาภมู ปิ ัญญาไทย -แสดงความรู้เกี่ยวกบั สาขาภูมปิ ัญญาไทย -ความรู้เก่ียวกบั ภูมปิ ญั ญากบั วถิ ีไทย 4 ภาค -แสดงความรู้เกี่ยวกบั ภูมิปญั ญากับวถิ ีไทย 4 ภาค 5 ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถื่น -ความรเู้ กย่ี วกับความหมายของภูมปิ ญั ญาท้องถ่นิ -แสดงความรเู้ กยี่ วกับความหมายของภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ -ความรู้เก่ยี วกับความสำคญั ของภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน -แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั ความสำคญั ของภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ -ความรูเ้ กย่ี วกบั ประเภทของภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน -แสดงความรู้เกี่ยวกับ ประเภทของภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ 6 การจำแนกหลักธรรมาภบิ าลในสังคมไทย -ความร้เู กี่ยวกบั ความเปน็ มาของหลักธรรมาภิบาล -แสดงความร้เู กี่ยวกับความเป็นมาของหลกั ธรรมาภบิ าล -ความรู้เกย่ี วกับความหมายของหลักธรรมาภบิ าล -แสดงความรู้เกย่ี วกับความหมายของหลักธรรมาภิบาล -ความรเู้ กีย่ วกับ ความสำคัญของธรรมาภิบาล -แสดงความรู้เกย่ี วกับ ความสำคญั ของธรรมาภิบาล -ความรเู้ กีย่ วกับองค์ประกอบของหลกั ธรรมาภบิ าล -แสดงความรู้เกี่ยวกบั องคป์ ระกอบของหลกั ธรรมาภิบาล 7 การจำแนกหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทีใ่ ช้เพ่ือพัฒนางาน พัฒนาคนและสังคม -ความรู้เกย่ี วกับความหมายของศาสนา -แสดงความรู้เกี่ยวกับความหมายของศาสนา -ความรเู้ กี่ยวกับความสำคัญของศาสนา -แสดงความรเู้ กี่ยวกับความสำคัญของศาสนา -ความรู้เกี่ยวกบั หลักธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา - แสดงความร้เู กย่ี วกบั หลกั ธรรมสำคัญของพระพุทธศาสนา -ความรู้เกย่ี วกบั การนำหลกั ธรรมทางศาสนาไป -แสดงความรู้เกี่ยวกบั การนำหลกั ธรรมทางศาสนาไปประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่ือ ประยกุ ต์ใชเ้ พอื่ การพฒั นางาน พัฒนาคนและสังคม การพฒั นางาน พฒั นาคนและสงั คม
การวิเคราะหส์ มรรถนะท่ัวไป ตารางวิเคราะห์สมรรถนะทั่วไป ระดบั ช้ัน ปวส. หมวดวชิ าทกั ษะชีวติ กลุ่มวิชาสงั คมศึกษา ๓ หน่วยกติ รหัสวชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชื่อวิชา ชีวิตและสังคมไทย ๓ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้/หวั ขอ้ การเรียนรู้ สมรรถนะท่ัวไป ที่ 8 การจำแนกหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงการประยุกต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง -ความรเู้ กี่ยวกบั การสง่ เสรมิ การเรยี นรหู้ ลกั ปรชั ญา -แสดงความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้หลักปรัชญาของ ของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพยี ง -ความร้คู วามเข้าใจการขบั เคล่อื นปรัชญาของ -แสดงความรู้ความเข้าใจการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจ เศรษฐกจิ พอเพยี งสู่สถานศกึ ษา พอเพียงสู่สถานศกึ ษา -ตระหนกั ถงึ หลกั การทรงงานในพระบาทสมเดจ็ พระ -แสดงให้ตระหนกั ถึงหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หวั เจ้าอยหู่ วั -รูแ้ ละเขา้ ใจการนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง -แสดงให้รูแ้ ละเข้าใจการนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา มาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวัน 9 การวิเคราะห์คุณลกั ษณะของพลเมืองดีเพ่อื แนวทางการพฒั นาส่งเสริมการเป็นพลเมอื ง -ใหร้ แู้ ละเข้าใจถงึ ความสำคัญของพลเมืองดีและ -แสดงให้รแู้ ละเขา้ ใจถึงความสำคัญของพลเมอื งดีและแนวทาง แนวทางปฏิบัตติ นเป็นพลเมืองตามวิถีประชาธปิ ไตย ปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองตามวิถีประชาธปิ ไตย -ใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจถึงสถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรีภาพ -แสดงให้รู้และเขา้ ใจถึงสถานภาพ บทบาท สิทธเิ สรีภาพของการ ของการเปน็ พลเมอื งดี และส่งเสริมใหบ้ คุ คลปฏบิ ัตติ น เปน็ พลเมอื งดี และส่งเสริมใหบ้ ุคคลปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดี เปน็ พลเมืองดี -แสดงความรคู้ วามเข้าใจและตระหนกั ถึงระบอบการปกครอง -ความร้คู วามเข้าใจและตระหนกั ถึงระบอบการ ระบอบประชาธปิ ไตยแบบรัฐสภาอนั มพี ระมหากษตั ริย์เปน็ ประมุข ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยแบบรัฐสภาอนั มี ซง่ึ มีความเหมาะสมกับสภาพของสงั คมไทยในปจั จบุ นั พระมหากษตั ริย์เปน็ ประมขุ ซึ่งมีความเหมาะสมกับ -แสดงความรู้ความเข้าใจและตระหนกั ได้ดีว่าสถาบันระมหากษัตริย์ สภาพของสงั คมไทยในปัจจบุ นั เป็นสถาบันหลกั ท่ีมคี วามสำคัญตอ่ การพัฒนาประเทศชาติเป็นอย่าง 10 การจำแนกศิลปวฒั นธรรมไทยการอนรุ ักษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย - ความรเู้ กี่ยวกับความเปน็ มาของศิลปวัฒนธรรมไทย - แสดงความรเู้ กี่ยวกับความเปน็ มาของศิลปวัฒนธรรมไทย - ความรู้เก่ียวกบั องคป์ ระกอบของวัฒนธรรม - แสดงความรเู้ ก่ยี วกับองค์ประกอบของวัฒนธรรม -ความรเู้ ก่ียวกับประเภทของวฒั นธรรมไทย -แสดงความรู้เกยี่ วกับประเภทของวัฒนธรรมไทย -ความรเู้ กย่ี วกับการอนุรกั ษศ์ ิลปวัฒนธรรมไทย -แสดงความรู้เกีย่ วกบั การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย 11 การวิเคราะห์ความสมั พนั ธ์ของไทยในสงั คมโลก - ความรู้เก่ยี วกับสภาพปัจจบุ ันของสงั คมโลก - แสดงความรเู้ กี่ยวกับสภาพปัจจบุ ันของสงั คมโลก -ความรเู้ กย่ี วกบั แนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงของสังคม -แสดงความรู้เกีย่ วกับแนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงของสงั คมโลก -ความรู้เกย่ี วกับการปรบั ตัวของไทยในยุคโลกาภวิ ัฒน์ -แสดงความรูเ้ กีย่ วกับการปรับตัวของไทยในยุคโลกาภิวัฒน์ -ความรู้เกย่ี วกับการสร้างความร่วมมอื ในสังคมโลก -แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การสรา้ งความรว่ มมอื ในสังคมโลก
การวเิ คราะห์สมรรถนะที่พงึ ประสงค์ (ทฤษฏี) ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะท่พี ึงประสงค์ ระดบั ชั้น ปวส. หมวดวิชาทกั ษะชวี ิต กลุ่มวชิ าสงั คมศึกษา ๓ หน่วยกติ รหสั วิชา ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชอื่ วชิ า ชีวิตและสังคมไทย ๓ ชัว่ โมง/สัปดาห์ หนว่ ย สมรรถนะทวั่ ไป สมรรถนะที่พงึ ประสงค์ ท่ี ๑ การวเิ คราะห์ประวตั ิศาสตร์สงั คมไทย - แสดงความรเู้ กยี่ วกับความหมายสงั คมไทยได้ -อธบิ ายสังคมมนษุ ยไ์ ด้ถกู ต้อง -แสดงความรู้เกย่ี วกบั สภาพสังคมสมยั กรุงสุโขทัยได้ -บอกตัวอยา่ งหน้าท่ีของสังคมมนษุ ยไ์ ดถ้ กู ต้อง -แสดงความรเู้ กี่ยวกับสภาพสงั คมไทยสมยั กรงุ รตั นโกสินทร์ -อธิบายถึงความตระหนกั ในคุณค่าชองสังคม ได้ มนษุ ยไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง -แสดงความรู้เกย่ี วกบั สังคมไทยสมัยใหมไ่ ด้ -แสดงความร้เู กี่ยวกบั ภาวะวิกฤตในสังคมไทยได้ ๒ การวเิ คราะห์ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงทางสังคม - แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม -อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในสมยั อดตี และ - แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั แนวโน้มการเปลีย่ นแปลงทาง ปัจจบุ นั ได้ถูกต้อง สงั คมไทยยคุ ใหม่ -บอกตวั อย่างสงั คมไทยยคุ ใหม่ได้ถูกต้อง -อธิบายถึงความตระหนักตอ่ ภาวะวกิ ฤตใน -แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการเปลย่ี นแปลงทางสงั คมไทย ส่ปู ระชาคมอาเซยี น สังคมไทยและการเปลี่ยนแปลงของสงั คมไทย - แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั ภาวะวิกฤตในสังคมไทย ๓ การจำแนกโครงสรา้ งของสังคม สถาบนั ทางสังคม การจดั ระเบยี บทางสังคม -แสดงความหมายของวัฒนธรรมได้ -อธิบายลกั ษณะที่สำคัญของโครงสร้างสงั คมได้ -แสดงลกั ษณะของวัฒนธรรมได้ ถูกต้อง -แสดงความสำคัญของวัฒนธรรมได้ -บอกตวั อย่างสถาบันทางสังคมที่สำคญั ได้ถูกตอ้ ง -อธบิ ายถึงความตระหนักในคณุ คา่ ของสงั คมมนุษย์ -แสดงความหมายของคุณธรรมจรยิ ธรรมได้ เพ่ือการดำรงชวี ิต -แสดงความสำคญั ของคุณธรรมจรยิ ธรรมได้ -แสดงวธิ ีการปลกู ฝงั คณุ ธรรมและจริยธรรมได้ ๔ การจำแนกภูมิปญั ญาไทยและภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ -แสดงความรเู้ กย่ี วกับความหมายของภมู ปิ ัญญาไทย -อธบิ ายลักษณะของภมู ปิ ัญญาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง -แสดงความรเู้ ก่ียวกับความสำคญั ของภูมิปญั ญาไทย -บอกตวั อยา่ งคณุ สมบตั ขิ องผูท้ รงภมู ิปัญญาไทยได้ -แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ประเภทของภมู ิปัญญาไทย ถกู ตอ้ ง -แสดงความร้เู ก่ียวกบั ลกั ษณะของภมู ปิ ัญญาไทย -บอกสาขาของภูมปิ ัญญาไทยได้ -อธบิ ายถึงความตะหนักในคุณคา่ ของภมู ิปญั ญาไทย เพอ่ื การอนรุ กั ษใ์ ห้คงอยูค่ คู่ นไทยตลอดไป
การวิเคราะหส์ มรรถนะทพี่ ึงประสงค์ (ทฤษฏี) ตารางวิเคราะหส์ มรรถนะท่พี งึ ประสงค์ ระดบั ชนั้ ปวส. หมวดวชิ าทักษะชวี ิต กลุม่ วิชาสงั คมศกึ ษา ๓ หนว่ ยกติ รหสั วชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชื่อวชิ า ชวี ิตและสังคมไทย ๓ ช่วั โมง/สัปดาห์ หนว่ ย สมรรถนะทั่วไป สมรรถนะที่พึงประสงค์ ท่ี ๕ ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ -แสดงความรู้เกยี่ วกบั ความหมายของภมู ปิ ญั ญา ท้องถิ่น -อบิ ายความหมายความสำคญั ของภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นได้ -แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ความสำคัญของภูมิปัญญา ท้องถ่ิน ถูกตอ้ ง -แสดงความรเู้ กยี่ วกบั ประเภทของภูมปิ ัญญาท้องถิ่น -บอกประเภทของภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินได้ถูกต้อง -แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ลักษณะของภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ -อธิบายความรแู้ ละตระหนกั ถงึ ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นเพอื่ การดำรงชวี ิตได้อย่างถูกต้อง ๖ การจำแนกหลกั ธรรมาภบิ าลในสงั คมไทย -แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ความเปน็ มาของหลักธรรมาภิบาล -อธบิ ายกลยทุ ธ์ในการสร้างการบรหิ ารจัดการท่ีดไี ด้ -แสดงความรเู้ กี่ยวกับความหมายของหลักธรรมาภบิ าล ถกู ต้อง -แสดงความรเู้ ก่ียวกับ ความสำคญั ของธรรมาภบิ าล -ยกตวั อยา่ งองค์ประกอบของหลกั ธรรมาภบิ าลได้ -แสดงความรู้เกีย่ วกับองคป์ ระกอบของหลกั ธรรมาภบิ าล ถูกต้อง -มคี วามตระหนักในการประยกุ ต์ใชห้ ลักธรรมาภิบาลใน การบรหิ ารเพอื่ การดำรงชีวิตถูกตอ้ ง ๗ การจำแนกหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทใ่ี ชเ้ พอื่ พัฒนางาน พฒั นาคนและสงั คม -แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ความหมายของศาสนา -บอกหลักธรรมสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาไดถ้ กู ต้อง -เพอื่ ใหม้ ีความร้เู กย่ี วกบั ความสำคัญของศาสนา -บอกตัวอย่างหลักธรรมและทางพระพุทธศาสนาได้ - แสดงความรเู้ ก่ยี วกับหลักธรรมสำคญั ของพระพทุ ธศาสนา ถกู ต้อง -แสดงความรู้เกี่ยวกบั การนำหลักธรรมทางศาสนาไป -มคี วามตระหนกั ในคณุ คา่ ของหลกั ธรรมของ ประยกุ ต์ใช้เพอื่ การพัฒนางาน พัฒนาคนและสังคม พระพทุ ธศาสนาเพ่ือการดำรงชีวติ ๘ การจำแนกหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงการประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง -แสดงความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้หลักปรัชญา -บอกตวั อย่างการสง่ เสรมิ การเรียนร้หู ลกั ปรชั ญาของ ของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพยี งได้ -แสดงความรู้ความเข้าใจการขับเคลื่อนปรัชญาของ -บอกแนวทางการขับเคลอ่ื นปรชั ญาของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงส่สู ถานศกึ ษา พอเพียงสสู่ ถานศึกษาได้ -เพ่ือให้ตระหนกั ถึงหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระ -บอกยทุ ธศาสตรแ์ ละแนวทางการขับเคลอื่ นปรชั ญาของ เจา้ อยู่หัว เศรษฐกิจพอเพยี งได้ -เพื่อให้รู้และเข้าใจการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ -อธบิ ายหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระ พอเพยี งมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวัน เจา้ อยู่หวั ได้
การวเิ คราะหส์ มรรถนะทพี่ งึ ประสงค์ (ปฏบิ ตั )ิ ระดับช้นั ปวส. ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะท่พี งึ ประสงค์ ๓ หนว่ ยกติ หมวดวิชาทกั ษะชีวติ กลมุ่ วิชาสังคมศกึ ษา รหัสวชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชื่อวชิ า ชีวติ และสังคมไทย ๓ ช่วั โมง/สปั ดาห์ หนว่ ย สมรรถนะท่ัวไป สมรรถนะทีพ่ ึงประสงค์ ท่ี ๙ การวิเคราะห์คณุ ลกั ษณะของพลเมืองดเี พอ่ื แนวทางการพัฒนาส่งเสรมิ การเปน็ พลเมอื ง -เพอ่ื ใหร้ ูแ้ ละเข้าใจถึงความสำคัญของพลเมืองดีและแนวทางปฏิบัติ -บอกคุณลักษณะของพลเมอื งทีด่ ีได้ถูกต้อง ตนเป็นพลเมืองตามวิถปี ระชาธปิ ไตย -บอกตัวอย่างหนา้ ที่ของพลเมืองท่ีดีไดถ้ ูกต้อง -เพื่อใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจถึงสถานภาพ บทบาท สทิ ธเิ สรภี าพของการเป็น -ตระหนกั ในคุณคา่ ของพลเมืองที่ดีเพื่อการดำรงชวี ิต พลเมืองดี และสง่ เสริมให้บุคคลปฏบิ ัติตนเป็นพลเมอื งดี -เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเข้าใจและตระหนักถงึ ระบอบการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตรยิ เ์ ป็นประมุข ซง่ึ มีความเหมาะสมกับสภาพของสังคมไทยในปจั จบุ ัน -เพอื่ ให้มคี วามรูค้ วามเข้าใจและตระหนักได้ดีวา่ สถาบันระมหา กษัตรยิ ์เป็นสถาบันหลักที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติ เป็นอย่างย่งิ ๑๐ การจำแนกศลิ ปวฒั นธรรมไทยการอนรุ กั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรมไทย - เพอ่ื ให้มีความร้เู กี่ยวกบั ความเปน็ มาของศลิ ปวฒั นธรรมไทย -อธบิ ายประเภทของวฒั นธรรมไทยได้ถูกตอ้ ง - เพ่ือใหม้ คี วามรู้เกย่ี วกับองค์ประกอบของวฒั นธรรม -บอกตัวอย่างองค์ประกอบของวัฒนธรรมไทยได้ -เพ่อื ให้มีความรเู้ กีย่ วกบั ถูกตอ้ ง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย -ตระหนักในคุณค่าของวัฒนธรรมไทยเพื่อการ -เพื่อใหม้ ีความรู้เกยี่ วกับ ดำรงชวี ิต ประเภทของวฒั นธรรมไทย - เพ่อื ให้มคี วามรู้เกย่ี วกับการอนุรักษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย ๑๑ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของไทยในสงั คมโลก - เพือ่ ให้มีความรู้เกยี่ วกบั สภาพปจั จบุ นั ของสงั คมโลก -อธบิ ายสภาพปัจจบุ นั ของสังคมโลกได้ -เพอ่ื ใหม้ คี วามรูเ้ กย่ี วกบั แนวโน้มการเปลย่ี นแปลงของสงั คมโลก -อธบิ ายการปรับตวั ของไทยในยุคโลกาภวิ ัฒน์ได้ -เพื่อใหม้ คี วามรเู้ กีย่ วกบั -บอกตวั อย่างการสรา้ งความร่วมมือในสงั คมโลก การปรบั ตัวของไทยในยุคโลกาภิวัฒน์ ได้ -เพ่อื ใหม้ ีความร้เู กยี่ วกับ -อธบิ ายและสรุปแนวโนม้ การเปลี่ยนแปลงของ การสร้างความรว่ มมอื ในสงั คมโลก สังคมโลกได้
การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมการเรยี นรู้ทพี่ งึ ประสงค์ (ทฤษฏี) ตารางวิเคราะห์พฤติกรรมการเรยี นรูท้ ีพ่ ึงประสงค์ ระดับชัน้ ปวส. หมวดวิชาทกั ษะชวี ิต กล่มุ วชิ าสังคมศึกษา ๓ หนว่ ยกติ รหัสวิชา ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชือ่ วชิ า ชวี ิตและสังคมไทย ๓ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หน่วย สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ พฤติกรรมการเรยี นร้ทู พี่ ึงประสงค์ ที่ R U Ap An E C ๑ การวิเคราะหป์ ระวัตศิ าสตร์สงั คมไทย √√ ๒ การวเิ คราะหภ์ าวการณเ์ ปล่ียนแปลงทางสงั คม √√ ๓ การจำแนกโครงสร้างของสงั คม √√ ๔ การจำแนกภมู ิปัญญาไทยและการจำแนกวิถีไทย 4 ภาค √√√ ๕ ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ √√√ ๖ การจำแนกหลักธรรมาภบิ าลในสังคมไทย √√√ ๗ การจำแนกหลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา √√√ ๘ การจำแนกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง √√√ ๙ การวิเคราะหค์ ณุ ลกั ษณะของพลเมอื งดีแนวทางการพัฒนาสง่ เสรมิ การ √ √ √ ๑๐ เกปาน็รจพำลแเนมกอื ศงิลปวัฒนธรรมไทย อนรุ กั ษ์ศลิ ปวฒั นธรรมไทย √√ ๑๑ การวเิ คราะห์ความสัมพันธข์ องไทยในสังคมโลก √√ ๑๒ สอบปลายภาค หมายเหตุ : ความหมายของระดับการเรยี นรทู้ ี่พงึ ประสงค์ (Bloom S Taxonomy ; 2001 ดา้ นความรู้ ระดับความสำคญั X = สำคัญมากทส่ี ดุ R = จำ(Remembering) An = วิเคราะห์ (Analyzing) I = สำคญั มาก U = เขา้ ใจ (Understanding) Ap = ประยกุ ต์ใช้ (Applying) O = สำคญั E = ประเมินค่า (Evaluting) C = คิดสรา้ งสรรค์ (Creating)
การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมการเรียนรู้ท่ีพงึ ประสงค์ (ปฏบิ ัติ) ตารางวิเคราะห์พฤติกรรมการเรยี นรทู้ ีพ่ งึ ประสงค์ ระดบั ช้นั ปวส. หมวดวิชาทักษะชีวติ กลุ่มวิชาสงั คมศึกษา ๓ หน่วยกติ รหัสวชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชือ่ วิชา ชวี ิตและสังคมไทย ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ หน่วย สมรถนะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมการเรียนรทู้ พ่ี งึ ประสงค์ ท่ี I MPAN
โครงการสอนรายวชิ า โครงการสอนรายวิชา ระดับชั้น ปวส. หมวดวิชาทักษะชีวติ กลุม่ วชิ าสงั คมศกึ ษา ๓ หนว่ ยกิต ๓ ชั่วโมง/สปั ดาห์ รหัสวิชา รหสั วิชา ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชอ่ื วิชา ชวี ิตและสงั คมไทย จำนวน แบบฝกึ หดั ช่วั โมง (ใบงาน) สอน สปั ดาห์ หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ ๓ ใบงานที่ ๑-๒ ๓ ใบงานที่ ๑-๒ ครัง้ ที่ ท่ี ที่ ๖ ใบงานท่ี ๑-๒ ๑ ๑ ๑ การวเิ คราะหป์ ระวตั ศิ าสตรส์ งั คมไทย ๖ ใบงานท่ี ๑-๓ ๓ ใบงานท่ี ๑-๓ ๒ ๒ ๒ การวิเคราะหภ์ าวการณเ์ ปลยี่ นแปลงทางสังคม ๓ ใบงานท่ี ๑-๒ ๖ ใบงานท่ี ๑-๒ ๓-๔ ๓-๔ ๓ การจำแนกโครงสร้างของสังคม สถาบันทางสงั คม การจัด ระเบยี บทางสงั คม ๖ ใบงานที่ ๑-๒ ๕-๖ ๕-๖ ๔ การจำแนกภูมปิ ัญญาไทย/การจำแนกวถิ ไี ทย 4 ภาค ๖ ใบงานท่ี ๑-๒ ๗ ๗ ๕ ภูมิปญั ญาท้องถิ่น ๖ ใบงานท่ี ๑-๒ ๓ ใบงานท่ี ๑-๒ ๘ ๘ ๖ การจำแนกหลกั ธรรมาภบิ าลในสังคมไทย ๓ ๕๔ ๙-๑๐ ๙-๑๐ ๗ การจำแนกหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา/หลกั ธรรมทใ่ี ชเ้ พอ่ื พัฒนางาน พฒั นาคนและสงั คม ๑๑-๑๒ ๑๑-๑๒ ๘ การจำแนกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง/การประยกุ ต์ใช้ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑๓-๑๔ ๑๓-๑๔ ๙ การวเิ คราะหค์ ณุ ลกั ษณะของพลเมืองดี/แนวทางการพฒั นา ส่งเสริมการเปน็ พลเมือง ๑๕-๑๖ ๑๕-๑๖ ๑๐ การจำแนกศลิ ปวัฒนธรรมไทย/การอนุรกั ษศ์ ิลปวัฒนธรรมไทย ๑๗ ๑๗ ๑๑ การวเิ คราะห์ความสมั พนั ธข์ องไทยในสังคมโลก ๑๘ ๑๘ ๑๒ สอบ/ประเมินผลการเรยี น รวม
การบรู ณาการรายวชิ า (ถ้ามี) ๑. การบรู ณาการคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ การบูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ น้ีได้กาหนดข้นึ ตามกรอบ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ของผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการ การ อาชีวศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย ๑๕ คุณลักษณะ โดยในวิชาการออกแบบเคร่ืองจักรกล ได้เน้น ๔ คณุ ลกั ษณะ คอื ดา้ นความมวี นิ ยั ดา้ นความรบั ผดิ ชอบ ดา้ นความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และดา้ นความสนใจใฝ่เรยี นรู้ ซงึ่ ในแต่ละ ดา้ นมพี ฤตกิ รรมบ่งชท้ี ส่ี าคญั และนามาเลอื กใช้ ดงั น้ี ๑) ความมวี นิ ัย คอื ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั และขอ้ ตกลงต่าง ๆ ของสถานศกึ ษาไดแ้ ก่การ แต่ง กายถูกต้องตามระเบียบและข้อบงั คบั ตรงต่อเวลา รกั ษาสาธารณสมบัติ สิง่ แวดล้อมและเขา้ ร่วม กจิ กรรมทค่ี รู กาหนดและประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม (เขา้ ชนั้ เรยี นตรงเวลา) ๒) ความรบั ผดิ ชอบ คอื การเตรยี มความพร้อมในการเรยี นและการปฏิบตั ิงาน ปฏบิ ตั ิงานตาม ขนั้ ตอนท่ี วางไว้ ปฏิบตั ิงานด้วยความตงั้ ใจ ปฏบิ ัติงานด้วยความละเอียดรอบคอบ ปฏบิ ัติงานท่ไี ด้รบั มอบหมายเสรจ็ ตาม กาหนด มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ตั งิ านตามหน้าทข่ี อง ตนเอง ยอมรบั ผลการ กระทาของตนเอง ปฏบิ ตั ิงานโดยคานึงถึงความปลอดภยั ต่อตนเองและส่วนรวม (นกั เรยี นเอาใจใสก่ ารเขา้ ร่วม กจิ กรรมในแต่ละแผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะอย่างตงั้ ใจ) ๓) ความซ่อื สตั ย์สุจรติ คอื การพดู ความจรงิ ไม่นาผลงานของผู้อ่นื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง ไม่ ทุจรติ ในการสอบ ไม่ลกั ขโมยเป็นตน้ (นกั เรยี นไม่ถามและไมล่ อกคาตอบจากผอู้ ่นื ) ๔) ความสนใจใฝ่รู้ เป็นการศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง ซกั ถามปัญหาขอ้ สงสยั แสวงหาประสบการณ์ และ คน้ หาความรใู้ หม่ ๆ (นกั เรยี นใฝ่ ในการเรียนร้อู ยู่เสมอ โดยการศกึ ษาหาความรดู้ ว้ ยตนเอง หรือ ปรกึ ษาหารอื หาความรู้ หรือศึกษาด้วยวิธีการอ่นื ๆ) ๒. การบรู ณาการเขา้ กบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓ ห่วง ๒ เงอ่ื นไข ๔ มิติประกอบดว้ ย ๓ ห่วง ๒ เง่อื นไข ๔ มติ ิ ๑. ความพอประมาณ ๑. เง่อื นไขความรู้ ๑. เศรษฐกิจ ๒. ความมีเหตผุ ล ๒. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ๒. สงั คม ๓. สง่ิ แวดล้อม ๓. การมีภมู ิคุม้ กันในตวั ท่ีดี ๔. วัฒนธรรม
การบูรณาการรายวิชา (ถา้ ม)ี ตารางแสดงการบรู ณาการรายวชิ า ระดบั ช้นั ปวส. หมวดวชิ าทักษะชีวิต กลมุ่ วชิ าสังคมศึกษา ๓ หน่วยกติ รหสั วชิ า รหสั วชิ า ๓๐๐๐๐-๑๕๐๑ ชอื่ วชิ า ชวี ติ และสังคมไทย ๓ ชว่ั โมง/สัปดาห์ หนว่ ย ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ การบรู ณาการ ที่ ๑ การวเิ คราะหป์ ระวตั ศิ าสตร์สงั คมไทย ๒ การวเิ คราะห์ภาวการณ์เปลีย่ นแปลงทางสงั คม ๓ การจำแนกโครงสรา้ งของสงั คม สถาบนั ทางสงั คม การจัด คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยมท่ีควรปลูกฝงั ใน ระเบียบทางสงั คม สงั คมไทย แนวทางการป้องกนั การติดยาเสพตดิ ใน ครอบครวั ๔ การจำแนกภมู ปิ ญั ญาไทยและการจำแนกวิถีไทย 4 ภาค คา่ นยิ มทีค่ วรปลกู ฝังในสงั คมไทย สรา้ งรายไดแ้ ละ ความสขุ สู่ชมุ ชน ๕ ภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ศาสตร์พระราชา , ปราชญช์ าวบ้าน ๖ การจำแนกหลกั ธรรมาภิบาลในสงั คมไทย การปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ๗ การจำแนกหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทใ่ี ช้เพ่อื พฒั นางาน วิถธี รรม วิถไี ทย หนา้ ทีช่ าวพุทธ มารยาทชาวพุทธ พฒั นาคนและสังคม ๘ การจำแนกหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงการประยุกต์ใช้ ศาสตรพ์ ระราชา หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๙ การวิเคราะห์คุณลักษณะของพลเมืองดีเพ่ือแนวทางการ กฎหมายต่างๆในชวี ติ ประจำวัน สิทธิ หน้าท่ีการเปน็ พฒั นาสง่ เสริมการเป็นพลเมือง พลเมอื งดตี ามระบอบประชาธิปไต ๑๐ การจำแนกศิลปวัฒนธรรมไทยการอนุรกั ษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ๑๑ การวิเคราะหค์ วามสัมพันธ์ของไทยในสงั คมโลก ๑๘ สอบ/ประเมินผลการเรยี น หมยเหตุ หมายถึง การบรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียง 1 หมายถงึ การบูรณาการคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2 หมายถงึ การบูรณาการยาเสพตดิ 3 หมายถึง การบูรณาการงาน............................... 4
แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ วิชา หน้าท่ีพลเมอื งและศีลธรรม (๒๐๐๐๐-๑๕๐๑) หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หมวดวชิ าทักษะชวี ติ กลุม่ วชิ า สังคมศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา จดั ทำโดย นางจรุ พี ร ทวนทอง ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ - แผนกวชิ า สามญั สมั พนั ธ์ วทิ ยาลัยเทคนคิ ชุมพร ศูนย์สง่ เสรมิ และพฒั นาอาชวี ศกึ ษาภาคใต้ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ สอนครงั้ ท่ี ๑ เร่ือง การวิเคราะห์ประวตั ิศาสตรส์ งั คม
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การวเิ คราะห์ประวตั ศิ าสตรส์ ังคม สอนครงั้ ท่ี ๑ ช่ือเร่อื ง การวิเคราะหป์ ระวัติศาสตรส์ ังคม จานวน ๓ ชวั่ โมง หวั ข้อเร่ือง การวเิ คราะห์ประวตั ิศาสตรส์ งั คม 1. สาระสาคญั มนุษยร์ ู้จกั รวมตัวเป็นหมู่เหล่า โดยระยะแรก ได้รวมตัวกันอยู่อย่างงา่ ย ๆ แล้วจงึ คอ่ ย ววิ ัฒนาการมา ตามลำดับจนกลายเปน็ สังคม เป็นบ้านเมอื งอย่างทุกวนั น้ี เหตุทีม่ นษุ ย์ต้องรวมกันอยเู่ ป็นกล่มุ ก้อนหรอื เป็นสงั คม นัน้ กเ็ พราะมนุษย์ต้องพึ่งพาอาศยั กนั ในการดำรงชพี เช่น ชว่ ยกนั หาหรือผลติ อาหาร ช่วยกันสร้างบ้านหรอื ท่ีอยู่ อาศัย ช่วยกันสรา้ งเครอ่ื งมือหรอื อาวธุ ช่วยป้องกันภยั ทอ่ี าจเกดิ ข้นึ จากธรรมชาติหรือจากการรุกรานของมนษุ ย์ ด้วยกนั และมนษุ ย์ยงั มีความตอ้ งการอ่ืน ๆ จากกันและกนั อีกมาก มนุษย์เป็นสตั วส์ ังคมท่ีมีวิวฒั นาการมาช้านาน มีการปรับตัวเรียนรทู้ จี่ ะอยรู่ ่วมกันอย่างมคี วามสุข มอี งค์ประกอบและหนา้ ท่แี ตกต่างกัน 2. สมรรถนะหลกั (สมรรถนะประจำหน่วย) 2.1 แสดงความร้เู กี่ยวกบั วิวฒั นาการ ประวัตศิ าสตร์ ความหมาย ความสำคัญ องคป์ ระกอบ และประเภทสงั คม 2.2 แสดงพฤติกรรมลักษณะนสิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความมีวินยั และจติ อาสา 2.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนิสยั ควำมมรี ะเบยี บวนิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมซอ่ื สตั ย์ มจี ติ อำสำ และอย่อู ยำ่ งพอเพยี ง 3. สมรรถนะย่อย (สมรรถนะกำรเรยี นร)ู้ สมรรถนะทวั่ ไป (ทฤษฏ)ี 3.1 แสดงควำมรวู้ วิ ฒั นำกำรของสงั คมมนุษยไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 3.2 บอกประเภทของสงั คมมนุษยไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 3.3 แสดงควำมรแู้ ละตระหนักถงึ สงั คมมนุษยเ์ พอ่ื กำรดำรงชวี ติ ไดถ้ กู ตอ้ ง สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ทฤษฏ)ี 3.4 อธบิ ำยสงั คมมนุษยไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 3.5 บอกตวั อยำ่ งหน้ำทข่ี องสงั คมมนุษยไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 3.6 มคี วำมตระหนกั ในคุณคำ่ ของสงั คมมนุษยเ์ พอ่ื กำรดำรงชวี ติ
ดำ้ นคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.7 ตระหนกั ถงึ ควำมมรี ะเบยี บวนิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมซ่อื สตั ย์ มจี ติ อำสำและอยอู่ ยำ่ งพอเพยี ง 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 4.1 ววิ ฒั นำกำรของสงั คมมนุษย์ 4.2 ประวตั ศิ ำสตรส์ งั คมมนุษย์ 4.3 ควำมหมำยของสงั คมมนุษย์ 4.4 ควำมสำคญั ของสงั คมมนุษย์ 4.5 องคป์ ระกอบของสงั คมมนุษย์ 4.6 ประเภทสงั คมมนุษย์
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ช่ือหน่วย การวิเคราะห์ประวตั ิศาสตรส์ งั คม สอนครงั้ ที่ ๑ ชื่อเรอ่ื ง กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง กิจกรรมการเรยี นการสอน ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนในรำยวชิ ำ ชวี ติ กบั สงั คมไทย (๓๐๐๐๐-๑๕๐๑) กำหนดกจิ กรรมกำรเรยี น กำรสอนใหผ้ ู้เรยี นเกดิ กำรเรยี นรู้ซ่งึ มุ่งพฒั นำกำรเรยี นกำรสอนเก่ยี วกบั ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น เน้นรูปแบบ วธิ กี ำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั โดยเน้นรปู แบบหลกั กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนแบบ ACTIVE LEARNING ขนั้ นาเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. จดั เตรยี มเอกสำรประกอบกำรเรยี น สอ่ื โสตทศั น์ เครอ่ื งมอื วสั ดุ - อุปกรณ์ ๒. ครสู นทนำเร่อื ง ประวตั ศิ ำสตรส์ งั คม โดยสอบถำมวำ่ มนี กั ศกึ ษำคนใดเคยเรยี นมำบำ้ ง และ ทำ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน ๑๐ ขอ้ เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบคำตอบและใหค้ ะแนนใน Google form ๓. ครเู ปิดฉำยภำพ “วิวฒั นาการของสงั คมและอารยธรรมท่สี ำคัญของโลก” ขนั้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครทู บทวนเร่อื ง ประวตั ศิ ำสตรส์ งั คม ๒. ครอู ธบิ ำยสำระสำคญั ของ กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม อำรยธรรมทม่ี คี วำมสำคญั ต่อคนใน สงั คมไทย ทม่ี คี วำมสำคญั มำกทส่ี ุดทำงพระพุทธศำสนำ ๓. ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงำนแบบฝึกทกั ษะท่ี ๑ เร่อื ง อำรยธรรมสำคญั ของโลก ๔. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ ๕ คน ตำมควำมสมคั รใจ ใหน้ กั เรยี นคน้ ควำ้ และอภปิ รำยภำยใน กลมุ่ ในหวั ขอ้ กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม และทกั ษะควำมคดิ ดำ้ นกำรวเิ ครำะหส์ งั คมไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงไรบำ้ ง ๕. นกั เรยี นสง่ ตวั แทนกล่มุ มำอภปิ รำยหน้ำชนั้ เรยี นเพอ่ื สรุปกำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม ๖. ครสู รุปควำมรเู้ รอ่ื ง กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม ๗. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำมใบงำนท่ี ๒ อำรยธรรมโลก ใหน้ กั เรยี นเล่นเกมสต์ อบคำถำม อำรยธรรม โลก โดยใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม ๓ กลุม่ ใหน้ กั เรยี นคน้ หำอำรยธรรมแต่ละทวปี ทก่ี ลุม่ ของตนเองจบั ฉลำกได้ ๘. ขณะผเู้ รยี นศกึ ษำบทเรยี นและปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตำมใบงำน คอยช่วยเหลอื ใหค้ ำแนะนำ ๙. ใหน้ กั เรยี นคน้ หำและอภปิ รำย ในหวั ขอ้ อำรยธรรมกบั กำรเปลย่ี นแปลงของโลก ประกอบดว้ ยผลกระทบ จำกกำรเปลย่ี นแปลงของโลก และอำรยธรรมตำ่ งๆจะเปลย่ี นแปลงเพอ่ื ใหย้ งั คงดำรงอยู่อยำ่ งไร ๑๐. ใหน้ กั เรยี นสง่ ตวั แทนกลมุ่ มำอภปิ รำยหน้ำชนั้ เรยี นเพอ่ื สรุปทกั ษะกระบวนกำรทำงควำมคดิ ขนั้ บูรณำกำร ๑๑. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำคน้ ควำ้ เพม่ิ เตมิ จำกเน้อื หำใน Google Classroom
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ ช่ือวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ช่ือหน่วย การวิเคราะห์ประวตั ิศาสตรส์ งั คม สอนครงั้ ท่ี ๑ ช่ือเร่ือง กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๕.๓ ขน้ั สรปุ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ตรวจสอบผลการเรียนรู้โดยการซักถามเป็นระยะและตรวจสอบผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม ตามใบงาน ๒. สังเกตและบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม ขณะผู้เรียนศึกษาบทเรียนและปฏิบัติ กิจกรรม ตามใบงาน ๓.รว่ มกบั ผเู้ รยี นประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ าน ตามแบบประเมิน ๔. รว่ มกบั ผู้เรยี นประเมนิ ผลการเรยี นรูแ้ ละผลการปฏิบตั งิ าน ๕.๔ การวัดและประเมนิ ผล ๑. ให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การวิเคราะห์ประวัติศาสตร์สังคม เสร็จแล้วตรวจสอบคำตอบตามใบ เฉลยโดยสลับกนั ตรวจและใหค้ ะแนน ๒. ใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง การวิเคราะห์ประวตั ศิ าสตร์สังคม เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบ คำตอบและใหค้ ะแนนใน Google form ๓. ให้ผเู้ รยี นทบทวนความรเู้ กี่ยวกับ การวเิ คราะห์ประวัติศาสตรส์ ังคม เพ่ือนำไปประยุกตใ์ ชใ้ น ชวี ติ ประจำวนั ๔. ครูเนน้ ยำ้ ใหผ้ ู้เรยี นตระหนักถงึ การมีวินัย ใฝร่ ู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีจติ สาธารณะ ในการเรียน เรอ่ื ง การวิเคราะห์ประวัติศาสตรส์ ังคม ๖. สื่อการเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ - หนงั สอื เรยี นวชิ ำชวี ติ กบั สงั คมไทย ( ๓๐๐๐๐ - ๑๕๐๑) - เน้อื หำ เร่อื ง กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม - แบบฝึกทกั ษะ กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม - แบบบนั ทกึ คะแนน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลงั เรยี น Google From - สอ่ื ออนไลน์ Google Classroom - Power Point กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม สื่อโสตทัศน์ ๑. มัลติมีเดีย ประกอบการสอน เรอื่ ง “ววิ ฒั นำกำรของสงั คมและอำรยธรรมทส่ี ำคญั ของโลก” ครภุ ัณฑ์/เครื่องมือ/วัสดุ-อุปกรณ์ ๑. กระดาษมฟู
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ ช่ือวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ประวตั ิศาสตรส์ งั คม สอนครงั้ ที่ ๑ ชื่อเร่ือง กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๗. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ - ใบงาน เร่อื ง “กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม” ๘. การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ บั วชิ าอื่น บรู ณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเกี่ยวกับ - นักเรียนมคี วามพอประมาณในการอยอู่ ยา่ งพอเพียง - นักเรียนมีภูมิคุม้ กันเกีย่ วกับการมีวินัย ใฝ่รู้ มีความรับผดิ ชอบ มจี ติ สาธารณะ ๙. การวดั ผลและประเมนิ ผล ๑. วธิ วี ดั ผลและประเมินผล ๑. แบบทดสอบหลังเรยี น ๒. การสงั เกตพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น ๓.การปฏิบัติกิจกรรมตามใบงาน ๔. การทำแบบฝกึ หัด/แบบทดสอบ ๒. เคร่ืองมอื วดั และประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบหลังเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน ๓. แบประเมินการปฏบิ ัติกิจกรรมตามใบงาน ๔. แบบบันทกึ คะแนนแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ๓. เกณฑ์การประเมนิ ๑. ประเมินจากการทำทดสอบ หลังเรยี น จำนวน ๒๐ ข้อ เกณฑ์ผา่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๒. ประเมินจากพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี นรู้ เกณฑผ์ า่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๓. ประเมินจากผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามใบงาน เกณฑ์ผ่าน ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๔. ประเมินจากคะแนนการทำแบบฝึกหัด/แบบทดสอบ เกณฑ์ผา่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ ช่ือวิชา หน้ำทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม ช่ือหน่วย การวิเคราะห์ประวตั ิศาสตรส์ งั คม สอนครงั้ ท่ี ๑ ช่ือเรื่อง กำรวเิ ครำะหป์ ระวตั ศิ ำสตรส์ งั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๑๐. บันทกึ หลงั การสอน บันทึกหลังสอน สัปดาหท์ ี่ ชอ่ื วิชา วันทส่ี อน รหัสวิชา แผนกวิชา จำนวน หน่วยท่ี รายการสอน ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ ปกี ารศึกษา จำนวนผูเ้ รียน ชั้น กลมุ่ จำนวน คน เขา้ เรียน คน ขาดเรียน คน ๑.เนือ้ หาทสี่ อน (สาระสำคญั ) ๓.ปญั หา อุปสรรค ทเ่ี กิดขนึ้ ในระหว่างการเรียนการสอน ๔.แนวทางการแกป้ ัญหาของครูผสู้ อน (แนวทางการทำวิจยั ) ลงช่อื ผ้สู อน (นางจุรีพร ทวนทอง) // ลงชอื่ หวั หนา้ แผนก ลงชื่อ หวั หนา้ งานหลักสูตรฯ (นางกศุ ล พรผดงุ ธรรม) (นายสมศักด์ิ หลวงนา) // // ลงชอ่ื รองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ (นายประเสริฐ ถึงวิสยั ) //
แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ วิชา หน้าท่ีพลเมอื งและศีลธรรม (๒๐๐๐๐-๑๕๐๑) หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๖๓ หมวดวชิ าทักษะชวี ติ กลุม่ วชิ า สงั คมศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา จดั ทำโดย นางจรุ พี ร ทวนทอง ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ - แผนกวชิ า สามญั สมั พนั ธ์ วทิ ยาลัยเทคนคิ ชุมพร ศูนย์สง่ เสรมิ และพฒั นาอาชวี ศกึ ษาภาคใต้ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ สอนครงั้ ท่ี ๒ เร่ือง การวเิ คราะห์ภาวการณ์เปล่ยี นแปลงทางสงั คม
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๒ ช่ือวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ช่ือหน่วย การวเิ คราะห์ภาวการณ์เปลีย่ นแปลงทางสังคม สอนครงั้ ท่ี ๒ ช่ือเร่อื ง การวิเคราะห์ภาวการณ์เปลีย่ นแปลงทางสังคม จานวน ๓ ชวั่ โมง หวั ข้อเร่ือง การวเิ คราะหภ์ าวการณ์เปล่ยี นแปลงทางสังคม 1. สาระสาคญั การเปล่ียนแปลงทางสงั คมนบั ตงั้ แต่สมยั สุโขทัยจนถึงก่อนสมัยรชั กาลท่ี 4 คนไทยมีถีชีวติ ทีเ่ รียบงา่ ย เริ่มมี การติดต่อค้าขายกบั ต่างชาติ มีการเปลีย่ นแปลงทางสังคมอยา่ งค่อยเป็นคอ่ ยไปจนกระท่ังสังคมไทยไดร้ ับอิทธพิ ล มากจากอารยธรรมตะวันตกมากยิง่ ขึน้ ในสมยั รัชการที่ 4 ทำใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงทางสังคมอย่างรวดเรว็ ต่อมา ได้มกี ารปฏิรูปการปกครองในสมยั รัชกาลท่ี 5 ทำใหส้ ังคมไทยเกดิ การเปลี่ยนแปลงแทบทุกดา้ น เชน่ ด้าน เศรษฐกจิ ดา้ นการปกครอง ดา้ นการศึกษา ดา้ นเทคโนโลยี เมื่อกลา่ วถงึ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมในสมัย ปัจจบุ ัน จะเห็นได้วา่ การเปลี่ยนแปลงเกือบทกุ ด้านโดยเฉพาะหลังจากทป่ี ระเทศไทยไดป้ ระกาศใชแ้ ผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ตง้ั แต่ พ.ศ. 2504 เป็นตน้ มา ที่ทำใหก้ ารเปลย่ี นแปลงของสังคมไทยมีการกำหนด ทศิ ทางและแบบแผนมากขึ้น 2. สมรรถนะหลกั (สมรรถนะประจำหน่วย) 2.1 แสดงความรู้เก่ียวกบั ภาวการณเ์ ปลีย่ นแปลงทางสังคม 2.2 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ควำมมรี ะเบยี บวนิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมซ่อื สตั ย์ มจี ติ อำสำ และอยอู่ ยำ่ งพอเพยี ง 3. สมรรถนะยอ่ ย (สมรรถนะกำรเรยี นร)ู้ สมรรถนะทวั่ ไป (ทฤษฏ)ี 3.1 แสดงควำมรกู้ ำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมไดถ้ ูกตอ้ ง 3.2 แสดงแนวโน้มกำรเปลย่ี นแปลงสงั คมไทยยคุ ใหม่ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.3 แสดงควำมรูภ้ ำวะวกิ ฤตในสงั คมไทยและกำรเปลย่ี นแปลงสงั คมไทยสปู่ ระชำคมอำเซยี นไดถ้ กู ตอ้ ง สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ทฤษฏ)ี 3.4 อธบิ ำยกำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมในสมยั อดตี และปัจจบุ นั ไดถ้ กู ตอ้ ง 3.5 บอกตวั อย่ำงสงั คมไทยยุคใหม่ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.6 อธบิ ำยถงึ ควำมตระหนกั ตอ่ ภำวะวกิ ฤตในสงั คมไทยและกำรเปลย่ี นแปลงของสงั คมไทย
ดำ้ นคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.7 ตระหนกั ถงึ ควำมมรี ะเบยี บวนิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมซ่อื สตั ย์ มจี ติ อำสำและอย่อู ยำ่ งพอเพยี ง 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 4.1 กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คม 4.2 แนวโน้มกำรเปลย่ี นแปลงสงั คมไทยยุคใหม่ 4.3 กำรเปลย่ี นแปลงสงั คมไทยสปู่ ระชำคมอำเซยี น 4.4 ภำวะวกิ ฤตในสงั คมไทย
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒ ช่ือวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การวเิ คราะหภ์ าวการณ์เปล่ยี นแปลงทางสังคม สอนครงั้ ที่ ๒ ช่ือเรอ่ื ง การวิเคราะห์ภาวการณเ์ ปล่ยี นแปลงทางสงั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง กิจกรรมการเรียนการสอน ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนในรำยวชิ ำ ชวี ติ กบั สงั คมไทย (๓๐๐๐๐-๑๕๐๑) กำหนดกจิ กรรมกำรเรยี น กำรสอนให้ผู้เรยี นเกดิ กำรเรยี นรู้ซ่งึ มุ่งพฒั นำกำรเรยี นกำรสอนเก่ยี วกบั ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น เน้นรปู แบบ วธิ กี ำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั โดยเน้นรปู แบบหลกั กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนแบบ ACTIVE LEARNING ขนั้ นาเขา้ สู่กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. จดั เตรยี มเอกสำรประกอบกำรเรยี น สอ่ื โสตทศั น์ เครอ่ื งมอื วสั ดุ - อปุ กรณ์ ๒. ครนู ำเขำ้ สบู่ ทเรยี นโดยใชก้ จิ กรรม ๒.๑ เพอ่ื ใหน้ กั ศกึ ษำฝึกกำรคดิ อยำ่ งเป็นระบบและกำร รวบรวมขอ้ มลู และกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน ๑๐ ขอ้ ใน Google form ๓. ครบู รรยำยเน้อื หำหน่วยท่ี ๒ เรอ่ื งภำวกำรณ์เปลย่ี นแปลงทำงสงั คม ขนั้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครใู หน้ กั เรยี นเปรยี บเทยี บ กำรเปลย่ี นแปลงทำงสงั คมในสมยั อดตี และปัจจุบนั โดยกำรซ่มุ ทล่ี ะคน ๒. ครสู อนเสรมิ เร่อื งคุณธรรมจรยิ ธรรมระเบยี บวนิ ัย ควำมรบั ผดิ ชอบ ๓. ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงำนท่ี ๑ โครงกำรเมอื งน้ที ฉ่ี นั รกั ๔. ครใู หท้ ำแบบฝึกหดั หน่วยท่ี ๒ เรอ่ื งภำวกำรณ์เปลย่ี นแปลงทำงสงั คม ๕. ครเู ปิดฉำยภำพ “ภำวะวกิ ฤตในสงั คมไทยและกำรเปลย่ี นแปลงของสงั คมไทย” ๖. ครสู รปุ ควำมรเู้ รอ่ื ง ภำวกำรณ์เปลย่ี นแปลงทำงสงั คม ๗. ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตำมใบงำนท่ี ๒ เรอ่ื งภำวะวกิ ฤตในสงั คมไทยใหน้ กั เรยี นคน้ หำข่ำวสำรดำ้ น ภำวะวกิ ฤตในสงั คมไทย ๘. ขณะผเู้ รยี นศกึ ษำบทเรยี นและปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตำมใบงำน คอยช่วยเหลอื ใหค้ ำแนะนำ ๙. ใหน้ กั เรยี นคน้ หำและอภปิ รำย ในหวั ขอ้ กำรเปลย่ี นแปลงสงั คมไทยสปู่ ระชำคมอำเซยี น ประกอบดว้ ย ผลกระทบจำกกำรเปลย่ี นแปลงของประชำคมอำเชยี น และอำรยธรรมตำ่ งๆจะเปลย่ี นแปลงเพอ่ื ใหย้ งั คงดำรง อย่อู ยำ่ งไร ๑๐. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำคน้ ควำ้ เพม่ิ เตมิ จำกเน้อื หำใน Google Classroom
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๒ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ภาวการณเ์ ปลี่ยนแปลงทางสังคม สอนครงั้ ที่ ๒ ชื่อเรอื่ ง การวเิ คราะห์ภาวการณเ์ ปลย่ี นแปลงทางสังคม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๕.๓ ขั้นสรุปผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ตรวจสอบผลการเรียนรูโ้ ดยการซักถามเป็นระยะและตรวจสอบผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม ตามใบงาน ๒. สังเกตและบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม ขณะผู้เรียนศึกษาบทเรียนและปฏิบัติ กจิ กรรม ตามใบงาน ๓.รว่ มกับผ้เู รยี นประเมินผลการปฏบิ ตั งิ าน ตามแบบประเมนิ ๔. ร่วมกับผเู้ รียนประเมินผลการเรียนรู้และผลการปฏบิ ตั ิงาน ๕.๔ การวัดและประเมินผล ๑. ให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงทางสังคม เสร็จแล้วตรวจสอบคำตอบตามใบ เฉลยโดยสลับกันตรวจและใหค้ ะแนน ๒. ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ภาวการณ์เปล่ียนแปลงทางสังคม เสร็จแล้วตรวจสอบ คำตอบและให้คะแนนใน Google form ๓. ให้ผู้เรียนทบทวนความรู้เกี่ยวกับ ภาวการณเ์ ปลี่ยนแปลงทางสงั คม เพ่ือนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หท้ นั ตอ่ กำรเปลย่ี นแปลงสงั คมของโลก ๔. ครูเนน้ ยำ้ ใหผ้ ้เู รียนตระหนักถึงการมวี นิ ัย ใฝร่ ู้ มีความรับผดิ ชอบ มีจติ สาธารณะ ในการเรยี น เรือ่ ง ภาวการณ์เปล่ยี นแปลงทางสังคม ๖. ส่ือการเรียนรู้ ส่ือสง่ิ พิมพ์ - หนงั สอื เรยี นวชิ ำชวี ติ กบั สงั คมไทย ( ๓๐๐๐๐ - ๑๕๐๑) - เน้อื หำ เรอ่ื ง ภำวกำรณ์เปลย่ี นแปลงทำงสงั คม - แบบฝึกทกั ษะ ภำวกำรณ์เปลย่ี นแปลงทำงสงั คม - แบบบนั ทกึ คะแนน แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น Google From - สอ่ื ออนไลน์ Google Classroom - Power Point ภำวกำรณ์เปลย่ี นแปลงทำงสงั คม สื่อโสตทศั น์ ๑. มลั ติมเี ดีย ประกอบการสอน เร่ือง “ภาวะวกิ ฤตในสังคมไทยและการเปล่ียนแปลงของสังคมไทย” ครภุ ัณฑ/์ เคร่ืองมือ/วัสดุ-อุปกรณ์ ๑. กระดาษ ต 2 ก
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๒ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การวเิ คราะห์ภาวการณ์เปลย่ี นแปลงทางสังคม สอนครงั้ ท่ี ๒ ช่ือเร่อื ง การวเิ คราะหภ์ าวการณเ์ ปลี่ยนแปลงทางสังคม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๗. เอกสารประกอบการเรียนรู้ - ใบงาน เร่อื ง โครงการเมอื งน้ีท่ฉี ันรกั ๘. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอ่นื บรู ณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเกีย่ วกับ - นักเรียนมีความพอประมาณในการอยอู่ ย่างพอเพียง - นกั เรยี นมภี ูมิคุม้ กนั เก่ยี วกับการมีวนิ ัย ใฝ่รู้ มีความรับผดิ ชอบ มีจิตสาธารณะ ๙. การวดั ผลและประเมินผล ๑. วธิ ีวัดผลและประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบหลังเรยี น ๒. การสังเกตพฤตกิ รรมระหว่างเรียน ๓.การปฏิบตั ิกจิ กรรมตามใบงาน ๔. การทำแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ๒. เคร่ืองมอื วดั และประเมินผล ๑. แบบทดสอบหลังเรียน ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมระหวา่ งเรยี น ๓. แบประเมินการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามใบงาน ๔. แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑. ประเมนิ จากการทำทดสอบ หลังเรียน จำนวน ๒๐ ข้อ เกณฑผ์ า่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๒. ประเมินจากพฤติกรรมระหวา่ งเรียนรู้ เกณฑผ์ ่าน ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๓. ประเมนิ จากผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามใบงาน เกณฑผ์ า่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๔. ประเมนิ จากคะแนนการทำแบบฝกึ หัด/แบบทดสอบ เกณฑผ์ ่าน ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน
ชื่อเรอ่ื ง แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒ ๑๐. บนั ทึกหลังการสอน ช่ือวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การวิเคราะห์ภาวการณ์เปล่ียนแปลงทางสงั คม สอนครงั้ ท่ี ๒ จานวน ๓ ชวั่ โมง ช่ือวิชา บันทกึ หลังสอน สปั ดาห์ท่ี แผนกวิชา รหัสวิชา………………………………………… รายการสอน วนั ท่ีสอน ภาคเรยี นท่ี ปีการศกึ ษา หน่วยท่ี จำนวนผเู้ รียน ชนั้ กลมุ่ จำนวน คน เข้าเรยี น จำนวน ชั่วโมง คน ขาดเรยี น คน ๑.เนอื้ หาที่สอน (สาระสำคญั ) ๒.ผลการสอน ๓.ปญั หา อุปสรรค ท่ีเกิดขึ้นในระหว่างการเรียนการสอน ๔.แนวทางการแก้ปญั หาของครูผู้สอน (แนวทางการทำวิจัย) ลงชอ่ื ผ้สู อน (นางจุรีพร ทวนทอง) // ลงชอ่ื หวั หนา้ แผนก ลงช่ือ หวั หน้างานหลักสตู รฯ (นางกศุ ล พรผดงุ ธรรม) (นายสมศักด์ิ หลวงนา) // // ลงชื่อ รองผู้อำนวยการฝ่ายวชิ าการ (นายประเสรฐิ ถงึ วสิ ัย) //
แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ วิชา หน้าท่ีพลเมอื งและศีลธรรม (๒๐๐๐๐-๑๕๐๑) หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หมวดวชิ าทักษะชวี ติ กลุม่ วชิ า สังคมศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา จดั ทำโดย นางจรุ พี ร ทวนทอง ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ - แผนกวชิ า สามญั สมั พนั ธ์ วทิ ยาลัยเทคนคิ ชุมพร ศูนย์สง่ เสรมิ และพฒั นาอาชวี ศกึ ษาภาคใต้ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓ สอนครงั้ ที่ ๓ – ๔ เรือ่ ง การจาแนกโครงสร้างของสงั คม สถาบนั ทางสงั คม
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๓ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ช่ือหน่วย การจำแนกโครงสร้างของสังคม สอนครงั้ ท่ี ๓ จานวน ๓ ชวั่ โมง ช่ือเร่อื ง การจำแนกโครงสรา้ งของสังคม หวั ขอ้ เร่ือง การจำแนกโครงสร้างของสังคม สถาบันทางสงั คม 1. สาระสาคญั สังคมเปรยี บเสมือนบ้านซง่ึ บา้ นทกุ หลังจะต้องมีโครงสรา้ งของบา้ น สังคมก็ตอ้ งมีโครงสร้างของสงั คม เพอ่ื ทำใหส้ ังคมดำรงอยู่ได้ โดยการจัดระเบียบทางสังคมซึ่งเปน็ กลไกสำคัญที่ช่วยให้สมาชิกของสังคมอยูร่ ่วมกนั ได้ อย่างสนั ตสิ ุข บ้านเมืองก็จะมีความสงบเรยี บรอ้ ยดว้ ยเช่นกัน 2. สมรรถนะหลกั (สมรรถนะประจำหน่วย) 2.1 แสดงความรู้เก่ียวกบั โครงสร้างของสังคม 2.2 แสดงพฤติกรรมลกั ษณะนสิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความมีวินัย และจิตอาสา 2.3 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ควำมมรี ะเบยี บวนิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมซอ่ื สตั ย์ มจี ติ อำสำ และอย่อู ย่ำงพอเพยี ง 3. สมรรถนะยอ่ ย (สมรรถนะกำรเรยี นร)ู้ สมรรถนะทวั่ ไป (ทฤษฏ)ี 3.1 แสดงควำมหมำยของโครงสรำ้ งทำงสงั คมไดถ้ กู ตอ้ ง 3.2 แสดงองคป์ ระกอบโครงสรำ้ งของสงั คมไดถ้ กู ตอ้ ง 3.3 แสดงควำมรแู้ ละตระหนกั ถงึ สงั คมมนุษยเ์ พอ่ื กำรดำรงชวี ติ ไดถ้ ูกตอ้ ง สมรรถนะทพ่ี งึ ประสงค์ (ทฤษฏ)ี 3.4 อธบิ ำยลกั ษณะทส่ี ำคญั ของโครงสรำ้ งสงั คมไดถ้ กู ตอ้ ง 3.5 บอกตวั อย่ำงสถำบนั ทำงสงั คมทส่ี ำคญั ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.6 ตระหนกั ในคณุ ค่ำของสงั คมมนุษยเ์ พอ่ื กำรดำรงชวี ติ ดำ้ นคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 3.7 ตระหนกั ถงึ ควำมมรี ะเบยี บวนิ ยั ควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมซอ่ื สตั ย์ มจี ติ อำสำและอย่อู ย่ำงพอเพยี ง 4. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ 4.1 ควำมหมำยของโครงสรำ้ งทำงสงั คม 4.2 องคป์ ระกอบโครงสรำ้ งของสงั คม 4.3 สถำบนั ทำงสงั คมทส่ี ำคญั 4.4 ลกั ษณะทส่ี ำคญั ของโครงสรำ้ งสงั คม
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ช่ือหน่วย การจาแนกโครงสรา้ งของสงั คม สอนครงั้ ท่ี ๓ ช่ือเรอ่ื ง การจาแนกโครงสรา้ งของสงั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง กิจกรรมการเรยี นการสอน ในกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนในรำยวชิ ำ ชวี ติ กบั สงั คมไทย (๓๐๐๐๐-๑๕๐๑) กำหนดกจิ กรรมกำรเรยี น กำรสอนใหผ้ ู้เรยี นเกดิ กำรเรยี นรู้ซ่งึ มุ่งพฒั นำกำรเรยี นกำรสอนเก่ยี วกบั ผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรยี น เน้นรูปแบบ วธิ กี ำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั โดยเน้นรูปแบบหลกั กำรจดั กำรเรยี นกำรสอนแบบ ACTIVE LEARNING ขนั้ นาเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. จดั เตรยี มเอกสำรประกอบกำรเรยี น สอ่ื โสตทศั น์ เคร่อื งมอื วสั ดุ - อุปกรณ์ ๒. ครนู ำเขำ้ สบู่ ทเรยี นโดยกจิ กรรมโครงสรำ้ งบำ้ น โครงสรำ้ งสงั คม เพอ่ื ใหน้ กั ศกึ ษำฝึกกำรคดิ กำร ประเมนิ สถำนกำรณ์ และ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน ๑๐ ขอ้ ใน Google form ๓. ครปู ระเดน็ คำถำมฝึกกำรคดิ มำใหน้ กั ศกึ ษำร่วมแสดงควำมคดิ เหน็ เพอ่ื ฝึกคดิ กำรประเมนิ สถำนกำรณ์ ขนั้ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. บรรยำยเน้อื หำหน่วยท่ี ๓ โดยใชส้ อ่ื Power point เรอ่ื งกำรวเิ ครำะหโ์ ครงสรำ้ งของสงั คม ๒. ครใู หน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะกำรเรยี นรู้ ใบงำนท่ี ๑ กจิ กรรมคน้ หำสถำบนั ทำงสงั คม ๓. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง โครงสรำ้ งของสงั คม ๔. ครใู หม้ อบหมำยงำนใหน้ กั เรยี นสรำ้ ง Mind Map โดยใสร่ ปู ภำพกจิ กรรมทน่ี ักเรยี นไดป้ ฏบิ ตั ิ เกย่ี วกบั สถำบนั ต่ำงๆทำงสงั คม เป็นรปู แบบไฟล์ Word ใน Google Classroom ๕. ครสู รปุ ควำมรเู้ ร่อื ง สถำบนั ทำงสงั คม ๖. มอบหมำยใหน้ กั เรยี นทำผงั มโนทศั น์เกย่ี วกบั โครงสรำ้ งของสงั คม ๗. ขณะผเู้ รยี นศกึ ษำบทเรยี นและปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตำมใบงำน คอยชว่ ยเหลอื ใหค้ ำแนะนำ ๘. ใหน้ กั เรยี นคน้ หำและอภปิ รำย ในหวั ขอ้ เยำวชนไทยกบั บทบำทหน้ำทต่ี ่อสถำบนั ทำงสงั คม เพอ่ื กำรปฎบิ ตั ติ นทเ่ี หมำะสมในสงั คม ๙. ใหน้ กั เรยี นสง่ ตวั แทนกลุ่มมำอภปิ รำยหน้ำชนั้ เรยี นเพอ่ื สรุปทกั ษะกระบวนกำรทำงควำมคดิ ขนั้ บูรณำกำร ๑๐. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำคน้ ควำ้ เพมิ่ เตมิ จำกเน้ือหำใน Google Classroom
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๓ ชื่อวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ช่ือหน่วย การจาแนกโครงสรา้ งของสงั คม สอนครงั้ ที่ ๓ ชื่อเรื่อง การจาแนกโครงสรา้ งของสงั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๕.๓ ขัน้ สรปุ ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ตรวจสอบผลการเรยี นรู้โดยการซักถามเป็นระยะและตรวจสอบผลการปฏิบัตกิ จิ กรรม ตามใบงาน ๒. สังเกตและบันทึกพฤติกรรมผู้เรียนเป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม ขณะผู้เรียนศึกษาบทเรียนและปฏิบัติ กิจกรรม ตามใบงาน ๓.ร่วมกับผ้เู รยี นประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน ตามแบบประเมนิ ๔. รว่ มกับผู้เรียนประเมินผลการเรียนร้แู ละผลการปฏิบตั ิงาน ๕.๔ การวัดและประเมินผล ๑. ให้ผูเ้ รยี นทำแบบฝกึ หัด เรอ่ื ง การจำแนกโครงสรา้ งของสังคม เสร็จแลว้ ตรวจสอบคำตอบตามใบเฉลย โดยสลับกนั ตรวจและให้คะแนน ๒. ให้ผูเ้ รียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง การจำแนกโครงสรา้ งของสงั คม เสรจ็ แลว้ ตรวจสอบคำตอบ และใหค้ ะแนนใน Google form ๓. ใหผ้ เู้ รียนทบทวนความร้เู กี่ยวกับ สถาบนั ทางสงั คม เพอ่ื นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ๔. ครูเนน้ ยำ้ ให้ผู้เรยี นตระหนกั ถึงการมีวินัย ใฝ่รู้ มีความรบั ผิดชอบ มีจติ สาธารณะ ในการเรยี น เร่ือง การจำแนกโครงสรา้ งของสังคม ๖. สื่อการเรยี นรู้ สื่อสง่ิ พิมพ์ - หนงั สอื เรยี นวชิ ำชวี ติ กบั สงั คมไทย ( ๓๐๐๐๐ - ๑๕๐๑) - เน้อื หำ เร่อื ง กำรจำแนกโครงสรำ้ งของสงั คม - แบบฝึกทกั ษะ กำรจำแนกโครงสรำ้ งของสงั คม - แบบบนั ทกึ คะแนน แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น Google From - สอ่ื ออนไลน์ Google Classroom - Power Point กำรจำแนกโครงสรำ้ งของสงั คม ส่อื โสตทัศน์ ๑. ส่ือ Power point เรอื่ งการวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของสังคม ครภุ ณั ฑ์/เครื่องมอื /วสั ดุ-อุปกรณ์ ๑. กระดาษมูฟ
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๓ ช่ือวิชา ชวี ติ กบั สงั คมไทย ชื่อหน่วย การจาแนกโครงสร้างของสงั คม สอนครงั้ ที่ ๓ ช่ือเร่อื ง กำรจำแนกโครงสรำ้ งของสงั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๗. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ - ใบงาน เรอ่ื ง “สถำบนั ทำงสงั คม” ๘. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวชิ าอน่ื บูรณาการกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเก่ียวกบั - นกั เรยี นมีความพอประมาณในการอย่อู ย่างพอเพียง - นกั เรยี นมีภูมิคุ้มกันเกีย่ วกับการมีวนิ ัย ใฝ่รู้ มีความรับผดิ ชอบ มจี ิตสาธารณะ ๙. การวัดผลและประเมินผล ๑. วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบหลังเรียน ๒. การสงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรยี น ๓.การปฏิบตั กิ ิจกรรมตามใบงาน ๔. การทำแบบฝกึ หดั /แบบทดสอบ ๒. เครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล ๑. แบบทดสอบหลังเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมระหวา่ งเรียน ๓. แบประเมินการปฏบิ ัติกจิ กรรมตามใบงาน ๔. แบบบันทกึ คะแนนแบบฝึกหดั /แบบทดสอบ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. ประเมินจากการทำทดสอบ หลังเรยี น จำนวน ๒๐ ข้อ เกณฑผ์ า่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๒. ประเมินจากพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี นรู้ เกณฑผ์ า่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๓. ประเมินจากผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามใบงาน เกณฑ์ผ่าน ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน ๔. ประเมินจากคะแนนการทำแบบฝึกหัด/แบบทดสอบ เกณฑ์ผา่ น ๑๐ คะแนน จาก ๒๐ คะแนน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๓ สอนครงั้ ที่ ๓ ช่ือวิชา หน้ำทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม ชื่อหน่วย การจาแนกโครงสรา้ งของสงั คม ชื่อเร่ือง การจาแนกโครงสรา้ งของสงั คม จานวน ๓ ชวั่ โมง ๑๐. บนั ทกึ หลงั การสอน ชอ่ื วิชา บนั ทึกหลังสอน สัปดาห์ที่ แผนกวชิ า รหัสวิชา………………………………………… รายการสอน วนั ท่ีสอน ภาคเรียนที่ ปกี ารศกึ ษา หน่วยที่ จำนวนผู้เรียน ชน้ั กลมุ่ จำนวน คน เขา้ เรียน จำนวน ชัว่ โมง คน ขาดเรยี น คน ๑.เนอื้ หาทีส่ อน (สาระสำคญั ) ๒.ผลการสอน ๓.ปญั หา อุปสรรค ท่ีเกิดขึน้ ในระหว่างการเรียนการสอน ๔.แนวทางการแกป้ ัญหาของครูผู้สอน (แนวทางการทำวิจัย) ลงชอื่ ผู้สอน (นางจุรีพร ทวนทอง) // ลงชื่อ หวั หนา้ แผนก ลงชอ่ื หัวหน้างานหลักสตู รฯ (นางกุศล พรผดุงธรรม) (นายสมศกั ดิ์ หลวงนา) // // ลงชื่อ รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ (นายประเสริฐ ถึงวิสัย) //
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234