Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 1

บทที่ 1

Published by 6032040008, 2018-08-30 04:47:48

Description: บทที่ 1

Search

Read the Text Version

บทที่ 1การสอื่ สารขอ้ มูลและเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องตน้

1. การสือ่ สารข้อมูล (Data Communication) หมายถึงอะไรตอบ. กระบวนการถ่ายโอนหรอื แลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหวา่ งผ้สู ง่ และผู้รับ โดยผา่ นชอ่ งทางสื่อสาร เช่น อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์ หรอืคอมพวิ เตอร์เปน็ ตัวกลางในการส่งขอ้ มูล เพ่อื ใหผ้ ู้ส่งและผรู้ บั เกดิ ความเข้าใจซึง่ กนั และกนั2. การสอ่ื สารทางการไกล (Telecommunication) หมายถึงอะไรตอบ. การตดิ ต่อสอ่ื สารด้วยการรบั ส่งขอ้ มูลขา่ วสารระหว่างตัวประมวลผล โดยผา่ นสอ่ื กลางท่ีเช่ือมต้นทางและปลายทางทหี่ ่างกันโดยใชอ้ ุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์หลายรูปแบบ ตามกฎเกณฑ์ หรอื ระเบยี บวิธีการทีก่ าหนดขน้ึ ในแต่ละอปุ กรณ์3. ระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) หมายถงึ อะไรตอบ. ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซ่ึงหมายถึงการเช่อื มต่อคอมพวิ เตอรต์ ง้ั แต่ 2 เครอ่ื งขึน้ ไปเขา้ ดว้ ยกันด้วยสายเคเบิล หรือสอ่ื อน่ื ๆทาใหค้ อมพิวเตอรส์ ามารถรับสง่ ข้อมลู แกก่ ันและกันได้ ในกรณีทเี่ ป็นการเช่ือมตอ่ ระหว่างเครอื่ งคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องเข้ากบัเครอื่ งคอมพิวเตอรข์ นาดใหญท่ ่เี ป็นศนู ยก์ ลาง เราเรยี กคอมพวิ เตอร์ทีเ่ ปน็ ศนู ย์กลางนวี้ ่า โฮสต์ (Host) และเรยี กคอมพวิ เตอรข์ นาดเลก็ ท่เี ขา้ มาเช่อื มตอ่ วา่ ไคลเอนต์ (Client/Terminal)

4. ส่วนประกอบของระบบส่อื สารขอ้ มูลประกอบด้วยอะไรบ้างตอบ. 1. ผู้สง่ (Sender) เปน็ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการสง่ ขา่ วสาร (Message) เปน็ ตน้ ทางของการสอื่ สารขอ้ มูลมีหนา้ ทีเ่ ตรยี มสร้างข้อมลูเช่น ผพู้ ดู โทรทัศน์ กลอ้ งวิดโี อ เป็นตน้2. ผูร้ ับ (Receiver) เปน็ ปลายทางการสอ่ื สาร มหี น้าที่รับขอ้ มลู ที่สง่ มาให้ เช่น ผฟู้ งั เครอ่ื งรบั โทรทศั น์ เคร่อื งพมิ พ์ เปน็ ต้น3. สือ่ กลาง (Medium) หรือตัวกลาง เปน็ เส้นทางการสอ่ื สารเพือ่ นาข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง ส่อื ส่งขอ้ มูลอาจเปน็ สายคบู่ ดิเกลียว สายโคแอกเชยี ล สายใยแก้วนาแสง หรือคล่นื ทส่ี ่งผา่ นทางอากาศ เช่น เลเซอร์ คลื่นไมโครเวฟ คล่นื วทิ ยภุ าคพ้นื ดนิ หรอืคลน่ื วทิ ยุผ่านดาวเทียม4. ข้อมลู ขา่ วสาร (Message) คอื สัญญาณอิเล็กทรอนกิ ส์ทีส่ ง่ ผ่านไปในระบบสือ่ สาร ซึง่ อาจถูกเรยี กว่า สารสนเทศ (Information)โดยแบ่งเปน็ 5 รปู แบบ ดังนี้4.1 ข้อความ (Text) ใช้แทนตวั อกั ขระต่าง ๆ ซงึ่ จะแทนด้วยรหสั ตา่ ง ๆ เช่น รหสั แอสกี เป็นต้น4.2 ตวั เลข (Number) ใชแ้ ทนตวั เลขตา่ ง ๆ ซง่ึ ตัวเลขไมไ่ ดถ้ ูกแทนด้วยรหัสแอสกีแต่จะถกู แปลงเป็นเลขฐานสองโดยตรง4.3 รูปภาพ (Images) ขอ้ มลู ของรปู ภาพจะแทนดว้ ยจดุ สเี รียงกนั ไปตามขนาดของรปู ภาพ

4. ขอ้ มลู ข่าวสาร (Message) คอื สัญญาณอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่สี ่งผา่ นไปในระบบสอ่ื สาร ซง่ึ อาจถูกเรียกว่า สารสนเทศ (Information)โดยแบง่ เป็น 5 รูปแบบ ดังนี้4.1 ขอ้ ความ (Text) ใชแ้ ทนตัวอกั ขระต่าง ๆ ซงึ่ จะแทนด้วยรหสั ต่าง ๆ เช่น รหัสแอสกี เปน็ ต้น4.2 ตวั เลข (Number) ใช้แทนตัวเลขต่าง ๆ ซง่ึ ตวั เลขไมไ่ ด้ถูกแทนด้วยรหสั แอสกีแต่จะถกู แปลงเป็นเลขฐานสองโดยตรง4.3 รปู ภาพ (Images) ขอ้ มูลของรปู ภาพจะแทนดว้ ยจุดสีเรยี งกันไปตามขนาดของรปู ภาพ4.4 เสียง (Audio) ขอ้ มลู เสยี งจะแตกต่างจากข้อความ ตวั เลข และรปู ภาพเพราะขอ้ มลู เสยี งจะเปน็ สญั ญาณต่อเนอ่ื งกันไป4.5 วิดโี อ (Video) ใช้แสดงภาพเคลอื่ นไหว ซึง่ เกิดจากการรวมกนั ของรูปภาพหลาย ๆ รูป5. โปรโตคอล (Protocol) คอื วธิ ีการหรอื กฎระเบียบทใี่ ชใ้ นการส่ือสารขอ้ มลู เพอื่ ให้ผู้รบั และผู้ส่งสามารถเข้าใจกันหรอื คยุ กนั รู้เรอ่ื งโดยท้งั สองฝงั่ ทัง้ ผูร้ ับและผู้ส่งได้ตกลงกันไว้กอ่ นลว่ งหนา้ แล้ว ในคอมพวิ เตอร์โปรโตคอลอย่ใู นส่วนของซอฟตแ์ วรท์ มี่ หี นา้ ท่ที าให้การดาเนินงาน ในการสื่อสารขอ้ มลู เปน็ ไปตามโปรแกรมทีก่ าหนดไว้ ตวั อยา่ งเชน่ X.25, SDLC, HDLC, และ TCP/IP เป็นต้น

5. ประโยชนข์ องระบบเครือขา่ ยมีอะไรบ้างตอบ. 1. สามารถแชรข์ ้อมูลใชร้ ่วมกันได้ ข้อมลู ต่างๆในแตล่ ะเคร่อื งภายในระบบ หากมผี อู้ ื่นตอ้ งการใช้ คุณสามารถแชรใ์ ห้ผอู้ น่ื นาไปใช้ได้ หรอื ข้อมูลทเ่ี ปน็ ส่วนรวมกส็ ามารถแชรไ์ วเ้ พ่ือให้หลายๆฝ่ายนาไปใช้งานได้ ซงึ่ ก็จะชว่ ยทาให้ประหยัดเนอื้ ท่ีในการจัดเก็บและช่วยให้การปรับปรงุ ข้อมลู ในระบบงา่ ยข้ึนและไมเ่ กิดความขัดแยง้ ของขอ้ มลู ด้วย เพราะขอ้ มูลมอี ยู่ชดุ เดยี ว2. สามารถแชรอ์ ปุ กรณ์ต่างๆรว่ มกนั ได้ เชน่ เครือ่ งพมิ พ์ สแกนเนอร์ ซิปไดร์ฟ เป็นต้น โดยที่ไมจ่ าเป็นตอ้ งซ้อื อปุ กรณ์เหล่านั้นมาตดิ ต้ังกับทกุ ๆเคร่อื ง เชน่ ในบา้ นคุณมีเครื่องคอมพิวเตอร์ทัง้ หมด 4 เคร่อื ง อาจจะซ้ือเครอื่ งพิมพม์ าเพียงตวั เดียวและแชรเ์ คร่ืองพิมพ์น้นั เพื่อใชร้ ่วมกนั ได้3. สามารถใช้โปรแกรมรว่ มกนั หลายๆเครอื่ งได้ เชน่ ในหอ้ ง LAB คอมพวิ เตอร์ทีม่ จี านวน คอมพิวเตอรท์ ่มี ีจานวนเคร่ืองในระบบจานวน 30 เครือ่ ง คณุ สามารถซือ้ โปรแกรมเพยี งแค่ 1 ชุดและสามารถใชง้ านร่วมกันได้ ซง่ึ จะทาใหส้ ะดวกในการดแู ลรักษาดว้ ย4. การสื่อสารในระบบเครือขา่ ยผใู้ ช้สามารถเชอ่ื มกับเครอื่ งอ่ืนๆในระบบได้ เช่น อาจจะส่งข้อความจากเคร่ืองของคณุ ไปยงั เครอื่ งของคนอ่นื ๆได้ นอกจากน้ีคุณยงั สามารถใช้ E - Mail สง่ ขอ้ ความขา่ วสารต่างๆภายในสานกั งานไดอ้ ีก เชน่ แจ้งกาหนดการต่างๆแจง้ขอ้ มูลตา่ งๆให้ทกุ ๆคนทราบ โดยไม่ต้องพมิ พอ์ อกทางเครอื่ งพิมพเ์ พื่อแจกจ่าย ทาใหป้ ระหยัดคา่ ใชจ้ ่ายได้อกี ทางหน่งึ

5. การแชรอ์ นิ เทอร์เนต็ ภายในระบบเครือข่ายคณุ สามารถแชร์อนิ เตอร์เน็ตเพอื่ ใช้รว่ มกนั ได้ โดยที่คุณไม่จาเป็นต้องซื้อ InternetAccount สาหรับทุกๆเครือ่ งและไม่จาเป็นตอ้ งติดตัง้ โมเด็มทุกเครอ่ื ง ซึง่ ก็จะช่วยให้คุณประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยไดม้ าก6. เพ่ือการเรียนรู้ การท่ีคณุ ได้ทดลองใชง้ านระบบเครอื ขา่ ยจะทาใหค้ ุณสามารถเรียนรแู้ ละคุ้นเคยกับระบบเครือข่ายมากขึ้น ทาให้คุณมปี ระสบการณ์ในระบบเครอื ข่ายมากข้ึนและจะทาให้คุณรูส้ ึกวา่ มนั ไม่ใช่เรอื่ งยากเลย6. การส่อื สารข้อมลู มกี ชี่ นดิ อะไรบา้ งแต่ละชนดิ แตกต่างกันอย่างไร ?ตอบ. 3. ชนิด1. การส่ือสารขอ้ มูลทศิ ทางเดียว (Simplex Transmission) เป็นการติดต่อส่ือสารเพยี งทิศทางเดยี ว คือผ้สู ง่ จะส่งข้อมลู เพยี งฝงั เดียวและโดยฝ่งั รับไม่มกี ารตอบกลับ เชน่ การกระจายเสียงของสถานวี ทิ ยุ การสง่ e-mail เป็นต้น2. การสือ่ สารข้อมลู สองทิศทางสลบั กัน (Half Duplex Transmission)สามารถ ส่งข้อมูลในเวลาใดเวลาหนึง่ ไปในทศิ ทางเดยี วเท่านั้น ทงั้ ฝ่ายส่งและฝา่ ยรับ หรือพูดอกี นยั หน่ึงคอื ผู้สง่ สามารถสง่ ขอ้ มลู ไปให้แก่ผู้รบั ส่วนผรู้ ับก็สามารถโต้ตอบกลับได้ แต่ไมส่ ามารถส่งสวนทางกนั ได้ในเวลาเดียวกัน เชน่ การส่งวิทยขุ องตารวจ

3. การสอ่ื สารขอ้ มูลสองทศิ ทางพรอ้ มกนั (Full Duplex Transmission)สามารถ สง่ ขอ้ มลู ในเวลาใดเวลาหนงึ่ ได้ทง้ั 2ทิศทาง ท้ังฝ่ายส่งและฝา่ ยรับ หรือพูดอกี นยั หน่ึงคือ ผูส้ ง่ และผู้รบั สามารถโต้ตอบสวนทางกนั ได้ในเวลาเดียวกัน เช่น การส่งสัญญาณโทรศัพท์ สนทนา msn , facebook7. สญั ญาณมีกี่ประเภทอะไรบ้างตอบ. 2 ประเภท1. สญั ญาณแบบดจิ ทิ ลั (Digitals signal) เป็นสัญญาณท่ีถูกแบ่งเป็นช่วงๆ อยา่ งไมต่ ่อเน่ือง (Discrete) โดยลักษณะของสัญญาณจะแบ่งออกเปน็ สองระดับเพือ่ แทนสถานะสองสถานะ คอื สถานะของบติ 0 และสถานะของบติ 1 โดยแต่ละสถานะคือ การใหแ้ รงดันทางไฟฟ้าทีแ่ ตกตา่ งกัน การทางานในคอมพวิ เตอรใ์ ช้สัญญาณดิจทิ ลั2. สญั ญาณอนาลอก (Analog Signal) เปน็ สัญญาณคลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้าที่มีความต่อเนอ่ื งของสัญญาณ โดยไมเ่ ปล่ียนแปลงแบบทันท่ีทนั ใดเหมือนกับสญั ญาณดิจทิ ัล เช่น เสียงพดู หรอื อุณหภูมใิ นอากาศเม่ือเทยี บกบั เวลาทเ่ี ปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนือ่ ง

ประเภทเครอื ขา่ ย1. แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ คอืPAN : ระบบการตดิ ต่อสอ่ื สารไร้สายสว่ นบคุ คลLAN : ระบบเครอื ข่ายระดบั ท้องถ่ินMAN : ระบบเครือข่ายระดบั เมอื งWAN : ระบบเครอื ขา่ ยระดบั ประเทศ หรือเครอื ข่ายบริเวณกว้าง2. แบ่งตามหนา้ ท่ขี องคอมพิวเตอร์Peer-to-Peer คอื เครือข่ายนอ้ี าจเรียกไดว้ า่ “เวริ ์คกรปุ๊ ” เปน็ ระบบเครอื ข่ายท่ีคอมพิวเตอรแ์ ต่ละเคร่ืองที่ตอ่ อยูม่ ีสทิ ธใ์ิ นการรอ้ งขอข้อมลู หรือบริการจากเครือ่ งอื่นๆ ได้เทา่ เทียมกนั สามารถเข้าถงึ ขอ้ มลู ในเครือ่ งอนื่ ได้โดยไมม่ เี ครือ่ งใดเปน็ ศูนยก์ ลาง เนือ่ งจากเครือขา่ ยแบบนไ้ี ม่มกี ารควบคมุ การใชท้ รพั ยากรจากจดุ เดียวทาให้เครือขา่ ยแบบน้เี หมาะสาหรับเครือข่ายขนาดเลก็ ทเี่ ช่อื มตอ่ ไม่เกิน10 เคร่อื ง

ข้อดขี องระบบเครอื ข่าย peer-to-peer ก็คอื สามารถติดตง้ั ได้ง่าย มคี า่ ใช้จ่ายตา่ แต่มีข้อเสยี คอื มคี วามเร็วในการทางานต่า มคี วามปลอดภัยต่า ถา้ หากมีการตอ่ คอมพวิ เตอร์มากข้นึ ก็จะทาให้ความสามารถของระบบลดลงClient-Server คือ เครอื ขา่ ยระบบนเ้ี ปน็ เครอื ขา่ ยท่ีได้รบั ความนยิ มอย่างแพร่หลาย มีการแบ่งยกหน้าท่ีของคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจนในระบบเครือข่ายจะมเี คร่อื งคอมพวิ เตอร์แม่ขา่ ย หรือเซิรฟ์ เวอร์ ทาหน้าทใี่ ห้บรกิ ารไฟลข์ อ้ มลู แกเ่ คร่ืองลกู ขา่ ยที่เรยี กว่าเครอ่ื งไคลเอนต์ ขอ้ มูลสาคญั จะถกู เกบ็ ไวท้ ่เี คร่ืองเซริ ฟ์ เวอรเ์ ครอื ขา่ ย แบบน้เี หมาะสาหรับการเชอ่ื มตอ่ จานวนมากข้อดีของระบบเครือขา่ ยแบบ client-server คอื เปน็ ระบบทม่ี ีประสทิ ธิภ์ าพสงู มกี ารควบคุมความปอดภัย และจัดเปน็ ทรพั ยากรได้อยา่ ดีกว่านระบบเครอื ข่ายแบบ peer-to-peer และนอกจากการดูแลรกั ษาข้อมูลสาคญั ไดแ้ ลว้ เราสามารถนาเครือ่ งพิมพ์มาเชื่อมกับเครื่องเซริ ฟ์ เวอร์ เพอ่ื ให้บริการกับผูใ้ ช้ทงั้ หมดในระบบเครอื ข่ายได้

3. แบง่ ตามระดบั ความปลอดภยั ของข้อมูลเป็นเกณฑ์Intranet คือ เครอื ข่ายส่วนบุคคล ตรงกนั ขา้ มกบั อนิ เทอรเ์ น็ต อนิ ทราเนต็ เปน็ เครอื ข่ายส่วนบคุ คลท่ใี ช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เชน่เวบ็ , อีเมล, FTP เป็นต้น อินทราเนต็ ใช้โปรโตคอล TCP/IP สาหรับการรับสง่ ข้อมูลเชน่ เดียวกับอนิ เทอรเ์ น็ต ซ่ึงโปรโตคอลน้ีสามารถใช้ได้กับฮารด์ แวรห์ ลายประเภท และสายสัญญาณหลายประเภท ฮาร์ดแวรท์ ใ่ี ช้สรา้ งเครอื ข่ายไม่ใช่ปัจจยั หลกั ของอนิ ทราเนต็ แตเ่ ปน็ซอฟต์แวร์ทีท่ าใหอ้ นิ ทราเน็ตทางานได้ อินทราเน็ตเปน็ เครือข่ายทีอ่ งคก์ รสรา้ งข้ึนสาหรับใหพ้ นักงานขององคก์ รใช้เทา่ นนั้ การแชร์ข้อมลู จะอยเู่ ฉพาะในอนิ ทราเน็ตเท่าน้ันInternet คอื เครอื ข่ายสาธารณะอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ เครือขา่ ยท่คี รอบคลุมทวั่ โลก ซ่ึงมคี อมพิวเตอรเ์ ป็นล้านๆเครือ่ งเชอื่ มตอ่ เข้ากับระบบและยังขยายตัวขึน้ เร่ือย ๆ ทุกปี อนิ เทอร์เน็ตมีผู้ใช้ท่วั โลกหลายรอ้ ยล้านคน และผู้ใชเ้ หลา่ นี้สามารถแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสารกนั ได้อย่างอสิ ระ โดยทร่ี ะยะทางและเวลาไมเ่ ป็นอปุ สรรคExtranet คือ เครอื ข่ายร่วมเอ็กสท์ ราเนต็ (Extranet) เป็นเครือขา่ ยกงึ่ อนิ เทอรเ์ น็ตกึง่ อินทราเนต็ กล่าวคอื เอ็กสท์ ราเน็ตคือเครอื ขา่ ยที่เชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งอินทราเนต็ ของสององค์กร ดงั น้นั จะมบี างส่วนของเครือขา่ ยท่เี ป็นเจ้าของรว่ มกนั ระหว่างสององค์กรหรือบรษิ ัทการสร้างอนิ ทราเนต็ จะไม่จากัดด้วยเทคโนโลยี แต่จะยากตรงนโยบายท่เี กี่ยวกบั การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลท่ีทง้ั สององคก์ รจะต้องตกลงกนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook