Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัสดุที่ใช้ในสี-สีเคลือบ-และน้ำมันเคลือบใส

วัสดุที่ใช้ในสี-สีเคลือบ-และน้ำมันเคลือบใส

Published by ปัญญาวุธ ช่วยคง, 2021-06-10 08:44:12

Description: วัสดุที่ใช้ในสี-สีเคลือบ-และน้ำมันเคลือบใส

Keywords: องค์ประกอบของสี

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 3 วสั ดุทใี่ ช้ในสี สีเคลอื บ และนํา้ มนั เคลอื บใส วิชา งานสีเพ่อื งานก่อสร้าง โดย อ.ปัญญาวุธ ช่วยคง

-1- วสั ดทุ ใ่ี ชในสี สเี คลอื บ และนํ้ามนั เคลอื บใส 1. ผงสี เน้ือสี หรือเมด็ สี (Pigment) ผงสีเปนวัสดุแข็งบดละเอียดใชเปนฐานหรือสวนที่เปนของแข็งของสีและเปนตัวทําใหเกิดสีกอด จนสมบัติในการซอนหรือปด บังพื้นผวิ ทที่ าหรอื พน และอ่ืน ๆ ผงสีจะไมล ะลายในตวั ทาํ ละลายนคไดแ กชนิด สารอนินทรยี  (inorganic pigment) และชนิดสารอนิ ทรีย (organic pigment) ท้งั จากธรรมชาติและจาก การสังเคราะห ผงสยี ังจาํ แนกออกตามสมบัตขิ องผงสเี องได ดงั นี้ 1) ผงสีสีขาว (white pigment) 2) ตัวผสมเพมิ่ (extender) 3) ผงสชี นดิ ยับยงั้ การกดั กรอน (corrosion inhibitive pigment) 4) ผงสชี นดิ ใหสี (coloured pigment) 1.1 ผงสสี ขี าว ผงสีสขี าวเปนผงสที ถี่ กู ใชกนั อยางกวางขวางมากทีส่ ุดมีท้งั ชนิดท่ไี มท ําปฏิกริ ิยาทาง เคมีและชนิดที่ทําปฏิกิริยาทางเคมีกบั ผงสีชนิดอื่นชนิดท่ีทําปฏิกิรยิ าทางเคมีวตั ถุประสงคหลักก็เพ่อื ทําให กรดที่กอตัวข้ึนในแผนฟลมน้ํามันเปนกลางเมื่ออยูทามกลางลมฟาอากาศนอกจากน้นั ยังสนับสนุนใหเกิด กําลังซอนแสงผงสีสีขาวเปนผงสีที่เปนพื้นฐานสําหรับสีออนที่นิยมใชกันโดยท่ัวไปผงสีสีขาวที่นิยมใชใน ปจจุบัน ไดแก ไทเทเนียมไดออกไซค (titanium dioxide) ไทเทเนียมแคลเซียม (titanium calcium) ซิงกซัลไฟด (Zinc sulfide) ลิโทโฟน (lithopone) แอนติโมนีออกไซค (antimony Oxide) ไคเบสิกเล ดฟอสไฟต (dibasic lead phosphite) ซงิ กอ อกไซด (zinc Oxide) และไวตเ ลค (white lead) ฯลฯ 1.1.1 ไทเทเนียมไดออกไซด เปนผงสีสีขาวที่ขาวที่สุดและมีกําลังในการซอ นแสงหรือปกปด ผวิ (hiding power) และกาํ ลังในการเจือจาง (finting strength) สีท่ดี ที ่สี ุดในบรรดาผงสีที่มีสีขาวดวยกัน เปนผงสีที่ไมทําปฏิกิริยาทางเคมีกับผงสีชนิดอื่นที่ผสมอยูในเน้ือสีและไมมีผลกระทบตอกรคเจือจาง (dilute acid) ความรอนและแสงใชมากกับสีทับหนาท้ังภายในและภายนอกมี 2 ชนิด คือ ชนิดรูไทล (rutile) และชนิดอะนาเทส (anatase) ชนิดรูไทลจะใหก ําลังซอนหรือปกปดผวิ ท่ีเคลอื บไดม ากกวา

-2- ชนิดอะนาเทสประมาณ 25 ถึง 30 เปอรเซ็นตและมีน้ําหนักตอแกลลอนคอนขางจะมากกวาชนิครูไทล จัดเปนผงสีที่มีคุณคาสําหรบั สีที่ใชภายนอกท่ีตองการระดับความตานทานตอลมฟาอากาศสูงสวนชนคิ อะ นาเทสเน่ืองจากผงสีจะเกิดการแตกตัวเปนฝุนไดจึงเหมาะที่จะใชกับสีภายนอกท่ีตองการใหสามารถทํา ความสะอาดไดเองดังน้นั ไทเทเนียมไดออกไซคจงึ ถูกนํามาใชกนั อยา งกวา งขวางมากทส่ี ุดสําหรับสขี าวชนิด ใชภายนอกทีไ่ มใชตัวผสมเพ่มิ เนื้อสีทีป่ ระกอบดว ยผงสีไทเทเนียมไดออกไซดบ ริสทุ ธ์ิเพียงพอ 1.1.2 ซิงกซัลไฟด หรือสังกะสีซัลไฟดเปนผงสีสีขาวที่ใหกําลังซอนสูงปานกลางชนิดไมทํา ปฏิกิริยาทางเคมีกับผงสีชนิดอื่นท่ีผสมรวมเปนสวนประกอบของลิโทโฟนที่นบั เปนผงสีท่ีถูกนํามาใชก อน หนาน้ีสําหรับการซอนผวิ ผงสชี นิดน้ีปจ จบุ นั ใชน อ ยเพราะความตา นทานตอลมฟา อากาศต่ํากวา 1.1.3 ไทเทเนียมไดออกไซคมากลิโทโฟน เปนผงสีสีขาวท่ีเปนสวนผสมระหวางแบเรียม ซัลไฟด (barium sulfide) กับซิงกซ ลั เฟต (zinc sulfate) เปน ผงสีชนิดไมทาํ ปฏิกริ ิยาทางเคมีกบั ผงสีชนิด อ่ืนท่ีผสมรวมกอนใชไทเทเนียมไดออกไซดลิโทโฟนจัดเปนผงสีมาตรฐานที่ใชสําหรับสีทับหนาที่ใชภายใน นอกจากน้ันยังชวยในการปรับปรุงลักษณะพิเศษของแผนฟลมและความสามารถในการชะลางของสีลา เท็กซใหดีขึ้นผงสีชนิดน้ีปจจุบนั ใชนอยเพราะความตานทานตอ ลมฟา อากาศต่ํากวา ไทเทเนยี มไดออกไซด มากเชนเดยี วกนั กบั ซิงกซลั ไฟด 1.1.4 แอนติโมนีออกไซค เปนผงสีสีขาวบริสุทธิ์ท่ีมีกําลังซอนแสงหรือความสามารถในการ ปกปดพ้ืนผิวท่ีเคลือบเหมือนกับลิโทโฟนเปนการรวมตัวกันระหวางคลอริเนเตด (chlorinated) กับ แคลเซียมคารบอเนต (calcium Carbonate) เปนผงสีท่ีไมเปนพิษใชมากในการผลิตสีหนวงไฟ (retardant paint) กองทพั เรือใชเ ปน สีใชภายในของเรอื 1.1.5 ซิงกออกไซค หรือสังกะสีออกไซคเปนผงสีสีขาวที่สําคัญที่สุดในบรรดาผงสีชนิดซิงก หรือสังกะสีมีสมบัติไมเปนพิษและไมทําใหเกิดการระคายเคืองเมื่อทําปฏิกิริยากับนํ้ามันในสีจะกลายรูป เปน สบูท มี่ คี วามโนมเอยี งที่จะทาํ ใหฟลม สีแข็งและไมย ืดหยุนตัวอนั เปน ส่ิงไมพึงปรารถนาอยางไรกต็ ามเม่ือ ใชในปริมาณที่ถกู ตองรว มกบั ผงสชี นิดอืน่ เชน ตะก่ัวขาวไทเทเนยี มไดออกไซดแ ละตัวผสมเพม่ิ อน่ื ๆ ในสีใช ภายนอกผงสีชนิดน้ีจะทาํ หนาท่ีท่สี ําคัญหลายประการเชนควบคมุ การแตกตัวเปน ฝนุ (chalking) สนับสนนุ การทาํ ความสะอาดตนเองจากการเปนฝุน เม่ือถูกชะลางจากฝนหรอื นํา้ ควบคุมราน้ําคาง (mildew) ท้ังทีไ่ ม นาคูและที่ทําลายตอฟลมสีเมื่ออยูในสภาพแวดลอมท่ีไมเหมาะสมสนับสนุนการคงไวในสีแตง (tinted paint) ทําใหเกิดกําลังซอนแสงของสีและเน่ืองจากคอนขางทึบแสงตอแสงอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) จึงสามารถปกปองฟลมสีจากการทําลายของการแผรังสีได เนื่องจากความไวตอน้ําของสบูสังกะสีการ ปรากฏของซิงกออกไซคหรือสงั กะสีออกไซดสรี องพน้ื ไมที่ใชภายนอกจึงมีความโนมเอียงท่ีจะสนับสนุนให เกิดการพองตัว (blistering) ของฟลมภายใตความชื้นสูงดังน้ันจึงควรใชสีรองพ้ืนที่ปราศจากซิงกหรือ สังกะสกี ับไมทีใ่ ชภ ายนอก

-3- ปกติผงสชี นดิ นใ้ี นอดตี เปน ผงสีท่ีสาํ คัญของสีทใ่ี ชภายในและสีเคลอื บแตเนอื่ งจากขอจาํ กัดใน เรอ่ื งกาํ ลงั ซอนแสงและความโนมเอียงทีจ่ ะเปนสาเหตทุ ําใหฟล มสีเปราะผงสีชนดิ สว นใหญจงึ ถกู แทนท่ีดวย ไทเทเนียมไดออกไซคผงสีชนิดนี้จะถูกใชในปริมาณเพียงเล็กนอยในสเคลือบแอลซีดเรซิน (alkyd resin enamel) ในปจ จบุ ันเพราะจะชว ยในการคงความขาวแตผ งสที ีใ่ ชจ ะตอ งละเอียดเปนพิเศษ ผงสีชนดิ นม้ี สี มบัตกิ ารแหง ตวั และการเหนยี วติดพื้นผิวที่เคลอื บดีเพราะมีความโนม เอียงท่ีจะ ทําปฏิกิริยากับสิ่งนําสีจึงสามารถที่จะนําไปใชเพื่อใหความหนดื ท่ีคอนขางสูงกวาและทาไดดีกวาซงิ กอ อก ไซคหรือสังกะสีออกไซคจะถูกนําไปใชกับสีหลายประเภทเพราะธรรมชาติข้ันพ้ืนฐานสามารถท่ีจะทําให กรดเปนกลางเพราะฉะน้ันจึงสามารถยับย้ังการเกดิ สนิมไดจึงมกั ถูกนาํ ไปใชเปนสีรองพื้นสําหรับถังบรรจุ นํา้ และงานอืน่ ทตี่ อ งการความตานทานตอ การกัดกรอ นสงู สุด 1.1.6 ไวตเ ลค หรอื ตะก่ัวขาวเปนผงสชี นิดทําปฏกิ ริ ิยาทางเคมีกับผงสีชนิดอน่ื ที่ผสมรวมไวต เลคหรือตะกั่วขาวท่ีใชเปนผงสียงั จําแนกออกไดเปน 3 ชนิด คือ ไวตเ ลคหรือตะกว่ั ขาวพนื้ ฐานคารบอเนต (basic carbonate white lead) ไวตเลดหรอื ตะก่วั ขาวพน้ื ฐานซลั เฟต (basic sulfate white lead) และ ไวตเลดหรอื ตะก่ัวขาวพื้นฐานซิลิเกต (basic silicate white lead) ไวตเลดหรอื ตะกว่ั ขาวเปนผงสีสีขาวที่ ใชกับสีภายนอกถูกใชมากในอดีตผงสีชนิดนี้เม่ือผสมอยางถูกสวนกับน้ํามันลินสีดแลวจะทําใหสีท่ีใชมีทั้ง ความทนทานและคงทนตอ สภาพแวดลอมนอกจากนัน้ เม่อื ท้งิ ไวใหแหง จะใหผวิ สีที่ดีสาํ หรับการเคลอื บสีใน ชั้นถัดไปกรณีท่ีอายุการใชงานความสําคัญมากกวา ความขาวกอ็ าจจะตองเติมผงไวตเลคหรือตะกั่วขาวลง ไปในเนอ้ื สถี ึง 98 เปอรเซ็นตสําหรับสีขาวชนดิ ใชภ ายในที่เปนสวนผสมระหวางผงไวตเ ลดหรือตะกั่วขาวกับ นาํ้ มนั ลนิ สีดนัน้ จะใหส ีที่ออกเหลอื งเลก็ นอยผงไวตเ ลดหรอื ตะก่ัวขาวอาจจะเปนตัวเรงปฏกิ ริ ิยาทางเคมีทํา ใหที่เกิดจากการลดปริมาณของนํ้ามันลินสีดลดลงเปนกลาง แตถากรคที่เกิดขึ้นน้ีไมเปนกลางก็จะมีให ความคงทนของสีลดลง 1.2 ตัวผสมเพิ่ม ตัวผสมเพิ่มท่ีใชเติมลงไปในสีนั้นจะเปนตัวเพิ่มทั้งปริมาณและคุณภาพใหกับสี เปนผงสีขาวที่ใหกําลังซอนแสงนอยหรือไมใหเลยเมื่อเปรียบเทียบกับผงสีสีขาวชนิดอ่ืนแตจะเปนตัวเพิ่ม น้ําหนักและปริมาณใหกับสีเปนตัวหนวงปฏิกิริยาทางเคมีเปนตัวชวยควบคุมความหนาของเน้ือท่ีทําการ ตกแตงและเพิ่มสมบัติใหกับสีอาทิความเรียบการไหลของสีการสรางแผนฟลมการลดความเงาของสี นอกจากนั้นยงั ทําใหสามารถเช็คถูและทําความสะอาดบนแผนฟลมของสไี ดโ ดยปราศจากความเสียหายแต เน่ืองจากตัวผสมเพิ่มจะทําใหการแตกตัวเปนฝุนของสีและการกัดกรอ นที่ผิวของวัสดุที่เคลือบเพิ่มขึน้ จึงมี ความโนม เอยี งที่จะทําใหอายกุ ารใชง านของสภี ายนอกลดลงดังนัน้ สีภายนอกทด่ี ีจึงไมควรจะมีตัวผสมเพ่ิม เกินกวา 10 เปอรเซ็นต ตัวผสมเพ่ิมที่นิยมใชกันในปจจุบันไดแกแคลเซียมคารบอเนตแบเรียมซัลเฟต (barium sulfate) อะลูมิเนียมซลิ ิเกต (aluminium silicate) แมกนีเซียมซลิ ิเกต (magnesium silicate) ซลิ กิ า (silica) ไมกา (mica) แคลเซียมซลั เฟต (calcium sulfate) แมกนเี ซยี มคารบ อเนต (mag nesium carbonate) แมกนีเซียมออกไซด (magnesium oxide) อะลูมิเนียมไฮไดรต (aluminium hydrate) และสเลตฟลาวร (slate flour)

-4- 1.3 ผงสีชนิดยับยั้งการกัดกรอน สนิมของโลหะเกิดจากกระบวนการออกซิไดสที่ออกซิเจนจาก อากาศรวมตัวกับโลหะเกิดเปน ออกไซคของโลหะเมือ่ นํ้ารวมตวั กบั ออกไซดกเ็ กิดสนมิ สนมิ ท่เี กดิ ข้นึ ดังกลาว จะทําใหโ ลหะเกิดการกดั กรอนฟลมสอี าจถูกใชเปน ตวั ขัดขวางเพื่อยับยั้งความช้ืนและออกซิเจนมิใหเ ขาถึง พื้นผิวของโลหะจึงสามารถปองกันการเกิดสนิมไดดังน้ันส่ิงนําสีก็ควรจะไดรับการคัดเลือกสําหรับการ เกาะติดความตานทานตอนํ้าและความตานทานตอสภาพแวดลอมไดอยา งดีเลิศผงสีสามารถสนับสนนุ ได อยา งมากตอการปองกนั การกัดกรอ นและเปนสวนสําคัญของสรี องพนื้ ตานทานการกัดกรอน (corrosion- resistant primer) ผงสีที่นิยมใชกันในปจจุบัน ไดแก เรดเลดหรือตะกั่วแดง (red lead) โครเมตออฟเลค (chromate of lead) บลูเลดหรือตะกั่วน้ําเงิน (blue lead) ซิงกโครเมตหรือสังกะสีโครเมต (zinc chromate) ไอรออนออกไซคหรือเหล็กออกไซด (iron Oxide) สวนผงสีโลหะ ไดแก อะลูมิเนียม (aluminium) บรอนซ (bronze) ซิงกห รือสงั กะสี (Zinc) และทองคาํ 1.4 ผงสีชนิดใหสี ผงสีชนิดนี้เปนผงสีที่ใหสีตาง ๆ ที่นอกเหนือไปจากสีขาวเชนสีเหลืองแดงชมพู นาํ้ เงนิ และเขียวเปน ตน ผงสที ี่ใหสีเหลาน้ีตามปกติจะถูกใชผสมกับผงสีสีขาวแตก ็สามารถใชเคยี ว ๆ ไดดว ย เชนกันผงสีชนิดน้ีจะใหสีจากแสงที่ตกกระทบและสะทอนกลับเขาสูจอตา (retina) ของมนุษยจากน้ันจอ ตารวมกับสมองก็จะตีความใหเห็นเปนสีออกมา ผงสีชนิดนี้มีมากมายหลายชนดิ จําแนกออกเปนกลุม ใหญ ๆ ไดเปน 4 กลมุ ดว ยกนั ไดแ ก ดนิ สี (earth pigment), ผงสีจากการตกตะกอน (precipitated pigment), ผงสีจากกระบวนการเผา (fire process pigment) และผงสีจากกระบวนการเกิดควัน (fume process pigment) 1.4.1 ดินสี (earth pigment) ดินสีเปนผลที่เกิดข้ึนจากการทับถมตามธรรมชาติไดจาก เหมืองเหมือนกบั แรช นิดอนื่ ๆ ไดแ ก ดนิ สีเหลอื ง (ochre) เรคไอรออนออกไซค (red iron oxide) เซยี นนา (sienna) และอัมเบอร (um ber) มสี มบตั คิ อ นขางคงตัวไมม ีผลกระทบจากกรดความรอ นความช้ืนและส่ิง นําสี่สวนใหญไอรออนออกไซคหรือเหล็กออกไซคเปนคนสีที่ถูกนํามาใชกันอยางกวางขวางโดยใชผสม กับอะลูมินา (alumina) ซิลิกาสารประกอบแคลเซียม (calcium compound) สารประกอบแมกนีเซียม (magnesium compound) สารประกอบแมงกานีส (manganese compound) และน้ําผงสีชนิดนี้มี ต้งั แตสเี หลืองถึงแดงนาํ้ ตาลแดงหรือน้ําตาลถงึ คําซ่ึงจะขน้ึ อยูกบั สวนประกอบของออกไซคที่ผสมสวนใหญ ผงสชี นิด ไอรออนออกไซคหรือเหล็กออกไซคท่ีใชกันในปจจุบันจะไดจากการสังเคราะหซึ่งโดยทั่วไป จะดีกวาท่ีเกิดขึ้นตามธรรมชาติอยา งไรก็ตามก็ยังไมสามารถทดแทนเซยี นนาหรืออัมเบอรไ ดสําหรับเซยี น นาและอัมเบอรนั้นจะมีทั้งแบบดิบและแบบเผาดินสีไดถูกใชมาเปนเวลานานสําหรับเจือจางเพื่อใหสีซีค (pastel colour) เพราะฉะน้ันดินสีเหลืองหรือเซียนนาดิบ (raw sienna) จะใหสีไอวอรี (ivory colour) อัมเบอรเผา (burnt umber) จะใหส นี า้ํ ตาลออ นสชี มพจู ะเปนผลมาจากออกไซคแคง (red oxide) ขณะท่ี เซียนนาเผา (burnt si enna) จะใหส เี น้ือ (flesh colour) เมือ่ ดินสีถกู ใชผ สมกจ็ ะทําใหส ีจางลง

-4– 1.4.2 ผงสีจากการตกตะกอน (precipitated pigment) วงการเคมีในปจจุบันมีการพัฒนา ผงสีท่ีใชในสีข้ึนเปนจํานวนมากเชนพลาสติกและชนิดอื่น ๆ เพราะผงสีเหลาน้ีสวนใหญเปนผงสีท่ี ตกตะกอนมาจากสารละลาย ผงสชี นดิ น้ีจากธรรมชาติจะมีทั้งชนดิ อินทรียและชนิดอนินทรยี โครมเยลโลว (chron yellow) และไอรออนบลู (iron blue) เปนตัวอยางของผงสีชนิดอนินทรียโหลุยคนเรด (toluid และกรีน (green) เปนตัวอยางของผงสี red) และฟทาโลไซยานีนบล (phthalocyanine blue)-ชนิด อนิ ทรีย ผงสีเล็ก (lake pigment) เปนผงสีตกตะกอนแบบพิเศษเปนสียอมชนิดละลายไ: (soluble dye) ซ่งึ ตกตะกอนบนพ้นื ฐานของอะลมิเนยี มไฮเดรตหรอื วัสดุที่เหมาะสมอ่นื ๆ 1.4.3 ผงสีจากกระบวนการเผา (fire process pigment) ผงสีชนิดนี้ทําจากการหลอมหรือ การเผาจนเปนเถาในเตาหลอมตัวอยางของผงสีชนิดนี้ ไดแก อัลตรามารีนบลู (ultramarine blue) โครเมียมออกไซด (chromium Oxide) อัมเบอรเผาและเซียนนาหรือเถากระดูกสัตว (animal or bone black) ผงสีจากกระบวนการเกดิ ควัน 1.4.4 ผงสีชนิดน้ีทําจากกระบวนการเกิดควัน (fume process pigment) ไดแก แลมป แบล็ก (lamp black) และคารบอนแบล็ก (carbon black) แบบแลมปแบล็กสวนใหญจะเปนประโยชน ตอทั้งคุณภาพและความแรงในการแตงสีขณะที่คารบอนแบล็กท่ีอยูในหลายรูปจะถูกนําไปใชท้ังกับ อุตสาหกรรมการผลิตสีและหมกึ พิมพสาํ หรับสียอมสว นใหญจะใชผงสีชนดิ สารอนิ ทรยี ผงสีชนิดน้ีท่ีนิยมใช กันโดยทั่วไป ไดแก แฮนซาเยลโลว (hansa yellow) ทรานสพาเรนตเยลโลวเลก (transparent yellow lake) บลูโทนเนอร (blue toner) กรีนเลก (green lake) โทลุยคนเรคพาราเรด (para red) ลิทอลเรด (Iithol red) บอดีออสเลก (bordeaus lake) แมคเคอรเลก (madder lake) และโอเพคมารูน (opaque maroon) เปนตนผงสีชนิดนี้ใชกันอยา งกวา งขวางมากทส่ี ดุ กบั สใี ชภายในและสีเคลอื บ 2. สง่ิ นาํ สี (Binder) สิ่งสําคัญที่เทาเทียมกันกับผงสีก็คือสิ่งนําสีหรือสารยึดซ่ึงอาจจะเปนของเหลว เชน น้ํามันลินสีด หรอื อาจจะเปน เรซินแขง็ เชน อีพอกซเี รซินและทําใหเปน ของไหลดวยตัวทําละลาย สิง่ นาํ สเี หลา นจี้ ะชวย สนับสนุนใหเกิดฟลมสีที่ดีนอกเหนือไปจากผงสีสิ่งนําสีหรือสารยึดและตัวทําละลายแลวสียังอาจ ประกอบดวยสารเติมแตงที่ใชในการปรับปรุงคุณภาพของสีซึ่งรวมถึงสารเรงแหง (drier) และสารทํา ปฏิกิริยาผิว (surface active agent) ชนิดตาง ๆ อีกหลายชนิด เพราะฉะนั้นส่ิงนําสีโดยทั่วไปจะ ประกอบดวยสวนประกอบทัง้ ชนิดระเหยตัวได และชนิดไมระเหยตวั ชนดิ ระเหยตวั ไดหรือสวนที่เปน ตวั ทําละลายของสิ่งนําสีจะชวยอํานวยความสะดวกตอการใชงาน และสนับสนนุ ผา นทางการระเหยเพ่ือการแหงตัวของสีสิ่งนําสีท่ีดี จะไมทิ้งรอยหรอื คราบไวบนฟล มสีส่ิงนํา สีชนิดนี้จะใหความทนทานของฟลมสีคอนขางตํ่า ชนิดที่ไมระเหยตวั คือสวนท่ีทําหนา ที่เปนสารยึดน่ันเอง ซึง่ สิ่งนาํ สีสวนนนี้ อกจากจะทําหนา ที่ประสานหรือยึดผงสีเขาดว ยกันแลว ยงั ทําหนาท่ีในการนําฟลม สีเกาะ ยึดเขา กบั พ้ืนผวิ ทท่ี าหรอื พน อีกดว ย นอกจากน้ันสงิ่ นาํ สียงั มีหนา ทรี่ บั ผิดชอบในคุณภาพการปกปอ งและ

-5– ความคงทนของสอี กี ดวยเชนกนั สิง่ นําสีชนดิ นี้จะใหความทนทานของฟล มสีสงู กวาชนิดแรกสิง่ นําสหี รือสาร ยึดจะมีทั้งชนิดท่ีเปนนํ้ามันและเรซิน ซึ่งมีท้ังเรซินธรรมชาติ (natural resin) และเรซินสังเคราะห (synthetic resin) 2.1 น้าํ มันและเรซินจากธรรมชาติ ไดแก 2.1.1 นํ้ามันและยางไมตางๆ เชน นํ้ามันสน นํ้ามันยางนา ยางจากตนรักเปนตน Resin เหลา นถี้ กู มนุษยน าํ มาใชง านตง้ั แตสมัยโบราณ บางตัวยงั ใชงานกันจนถึงปจจบุ ัน เชน การยาเรือไมดว ยชัน และ นํ้ามันยางนา หรือการลงรักปดทอง เปนตน วัตถุดิบกลุมน้ีที่ใชงานแพรหลายและผลิตเปนระดับ อตุ สาหกรรม ไดแก 1) Alkyd Resin เปน Resin ท่ีทําจากน้ํามันพืชชนิดตางๆ เชน น้ํามันถ่ัวเหลืองปรับ สภาพดวยความรอ น เดมิ สารเคมี ฯลฯ ก็จะไดสารเหลงที่มีคณุ สมบตั สิ ามารถแขง็ ตัวเปน ฟล ม ไดโ ดยการทํา ปฏิกริยากับออกซเิ จน (Oxidation) สที ่ีทําจาก Resin ชนิดนี้ไดแ ก สีนํ้ามนั หรอื สเี คลอื บเงามีกลน่ิ เหมือน นาํ้ มนั สนท่ีมีขายทวั่ ไปตามทองตลาด 2) Chlorinated Rubber Resin ผลิตจากนํ้ายางธรรมชาติมาปรับสภาพ (Modify) กบั คลอรนี ก็จะได Resin ที่ใชทาํ สําหรับใชงานกบั โครงสรางโลหะท่สี ภาพแวดลอ มรุนแรงปานกลาง 2.1.2 Resin ท่ีทําจากเสนใยหรือเน้ือเยื่อของพืช เชน พลาสติกที่บริโภคได ตัวอยาง เชน เปลือกแคปซูลยา หรือ แปงเปยก ก็เปน resin ชนิดหน่ึงในอุตสาหกรรมสีมี Resin ชนิดหน่ึงชื่อ Nitrocellulose ไดจากการนําปุยฝายมาละลายกับ SOLVENT จะไดกาวเหนียว ท่ีเราเรียกกันวา Nitro Cellulose Resin นอกเหนือจากการนํามาทําสีแลวยังเปนวัตถุดิบในการทําดินระเบิดท่ีใชงานใน อุตสาหกรรมอาวุธในปจจุบันสีที่ผลิตจาก Resin ชนิดน้ี คือ Lacquer และสีพนอุตสาหกรรม (Industrial Lacquer) ท่ีใชพ นเฟอรน ิเจอร และเปน สพี น รถยนตต ระกูลหน่ึง 2.1.3 Resin ที่เปนผลผลิตจากสัตว เชน กาวหนัง แตท่ีนํามาใชงานทางดานสีที่แพรหลาย และใชกันมานานมาก คือ Shellac ซ่ึงไดมาจากมูลของแมลงชนิดหนง่ึ ที่เรยี กกันวา ครั่ง โดยแมลงชนิดนี้ จะดูดกินนํ้าเลี้ยงจากตนไม และถายมูลออกมาเปน Resin แข็ง ซ่ึงสามารถหลอมละลายดวยความรอน หรือแอลกอฮอล ซ่ึงเรียกกันวา Shellac ใชทาไม แตเน่ืองจากคุณภาพของฟลมเปราะ ความเงาตํ่า และ อายกุ ารใชง านส้นั ปจจุบนั จงึ ถูกทดแทนดว ยสารเคลือบประเภทอื่นๆ ทม่ี คี ณุ สมบัตดิ กี วา 2.2 เรซนิ สงั เคราะห สว นใหญผลิตจากกาซธรรมชาติและนํ้ามันดิบ (Petrochemical Products) ซึ่งก็คือพลาสติกชนิดตางๆ ที่แวดลอมตัวเราอยูทุกวันน้ี ทางวิชาการมักจะเรียกวา วัสดุสังเคราะห (Synthetic Material) ซ่ึงหมายความวาการทําเทียมหรือเลียนแบบวัสดุท่ีมีอยูตามธรรมชาติ เชน พลาสตกิ บางชนดิ ทน่ี ุม ยืดหยุน ตวั เรากเ็ รียกวายางเทยี มหรอื ยางสงั เคราะห เนอื่ งจากเปนยาง (พลาสติก) ท่ีคิดคนโดยนักวิทยาศาสตรโดยการ ดัดแปลงจากวัตถุดิบท่ีเปนสารเคมีตางๆ จากนํ้ามันดิบ เปนตน พูด งา ยๆ คือมนุษยทําขึน้ มาไมใ ชผลผลติ จากธรรมชาติ พลาสติกท่ผี ลิตข้นึ มาใชในงานปจ จุบนั มีมากมาย

-6– หลายชนิดและมีชื่อแตกตางกัน คุณสมบัติก็ตางกันแลวแตถูกออกแบบมาเพ่ือการใชงานอะไร แตใน อตุ สาหกรรมสนี ั้นจะมีอยไู มก ีช่ นดิ ดงั ตอ ไปน้ี 2.2.1 PVAC (Polyvinyl Acetate Copolymer) เปน Resin ท่ีใชในกลุมทําสีนํ้าพลาสติก (ซ่งึ จะเขียนถึงท่มี าของสีผสมนํ้าในชว งทา ยของบท Resin) ต้ังแตยุคแรกเร่มิ ของประเทศไทยประมาณ 30 กวา ปท ผ่ี านมาปจจุบนั ยังใชผ ลิตสีในระดับราคาถูกเนื่องจากพลาสตกิ ชนดิ นี้ทนตอ ดางและ UV ไดไมดี 2.2.2 ACRYLIC เมอื่ ป พ.ศ.2523 บริษทั ทีโอเอ เพนท (ประเทศไทย) จํากัด ไดทาํ การศกึ ษา พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสีในประเทศไทย ผลการศึกษาครั้งน้ัน ทีโอเอ ได ตัดสินใจ พัฒนาผลิตภัณฑในกลุม Acrylic Resin ซึ่งมีคุณสมบัติเหนือกวา PVAC Resin ในทุกๆ ดาน สงผลใหเกิดการเปล่ียนแปลงในอุตสาหกรรมสีโดยรวมคือ ปจจุบันสีในตลาดระดับกลางและสูง จะใช วัตถดุ บิ เปน Acrylic ทกุ บรษิ ทั 2.2.3 EPOXY เปน Resin อีกชนิดหนึ่งที่มีฟลมแข็งทนสารเคมีไดดี มักจะใชเปนสีทา โครงสรางโลหะในบริเวณท่ีมีสภาวะอากาศรุนแรง เชน โครงสรางในทะเล (Off Shore Structures) หรือ โรงงานเคมี โรงกล่ันนํ้ามัน เปนตน บางคร้ังเรานํามาใชกับงานคอนกรีต เชน พื้น ผนังโรงงาน หรือใน บรเิ วณอาคารท่ีตอ งการปกปองจากการใชง านหนักและทาํ ความสะอาดได เชน หองผา ตัด เปน ตน ขอดอย ของ Epoxy คือ โครงสรางของ Epoxy ไมทนตอ UV ซ่ึงถาฟลมโดน UV สักระยะหนึ่ง (ประมาณ 5-6 เดือน) ผวิ ฟล มจะดานเปนฝุนบางๆ (Chalking) แตประสิทธิภาพในการปกปอ งพ้ืนผิวจะยงั คงมีอยู 2.2.4 POLYURETHANE เปน Resin ท่ีมีคุณสมบัติใกลเคียงกับ Epoxy แตมีขอดีกวาตรงที่ ทน UV ไดดี เรามกั จะนาํ มาเปน เคลือบใสสําหรบั การเคลือบพนื้ ไมปารเกท เปนตน ถาเปนสีจะใชทดแทน สี Epoxy เปนสีท่ีใชกบั งานเฟอรนิเจอรทตี่ อ งการความเงาเปนพิเศษ 2.2.5 FLUOROCARBON เปน Resin ท่ีทนความรอนไดดีและฝุนจะเกาะฝงตัวนอย เครอ่ื งใชในบา นทีใ่ ช Resin ตัวน้คี ือภาชนะทีเ่ คลอื บสารดําๆ ทเี่ ราเรยี กวา Teflon (เปน ชอ่ื ทางการคาของ พลาสติกชนิดนี้) เปน Resin ท่ีใชทําสีเพื่อเคลือบชิ้นโลหะที่เปนสวนประกอบของผนังอาคารที่ทําดวย กระจกและโลหะ (Curtain Wall) จุดออนของสีประเภทน้ี คือผิวจะดานไมเงาและราคาแพงมาก อาจจะ พจิ ารณาตวั ทดแทนได คือ Polyurethane 2.2.6 มี Resin อกี ตวั ที่มที ี่มาของวัตถุดิบจากแหลงท่ไี มเปน สารจากสิง่ มีชวี ติ ถาเราสงั เกตใน กลุม Resin ท่ีกลาวมาแลวทั้งหมดจะเห็นวาวัตถุดิบท่ีนํามาผลิต Resin ต้ังแตกลุม 1 จนถึงกลุม 2 จะมา จากพืชและสัตวทั้งน้ัน แมจะมาในรูปของนํ้ามันดิบหรือกาซธรรมชาติก็ตามเพราะวา นํ้ามันดิบและกาซ ธรรมชาติ ก็คือ ผลผลิตจากซากพืช ซากสัตวยุคดึกดําบรรพท่ีทับถมรวมกันแต Resin ตัวน้ีกลับทําจาก ทราย (Silica Sand) ทน่ี ํามาผลิตกระจก นกั วิทยาศาสตรสามารถคิดคนจนผลิตยางเหนียวจากทรายได ท่ี เราเรยี กวา Silicone Resin ซ่งึ เม่อื นํามาผลิตสีแลวจะไดสีท่ีใช สาํ หรบั บรเิ วณที่มีความรอนสูง เชน ทอ ไอ เสยี เตาเผา เปน ตน

-7– 3. ตัวทําละลายและทนิ เนอร (Solvent) ตัวทําละลาย (solvent) และทินเนอร (thinner) หมายถึง ของเหลวท่ีระเหยไดท่ีใชในการลด ความหนืดของสีหรือนํา้ มันเคลือบใสลงถึงจุดท่ีสะดวกตอการนาํ ไปใชงาน ไมว า จะเปน การทาหรือพน ตวั ทํา ละลายและทินเนอรจะมีผลตอการกอตวั ของฟลม สี ความขนเหลว ความเรียบ การแหงตัว การเกาะยดึ ผวิ อยางสม่ําเสมอ และความคงทนของวัสดุทาหรือพน ดังนั้น จึงมีความจําเปนอยางยิง่ ท่ีจะตองเลือกใชดว ย ความระมัดระวัง และใชผสมตามความตองการของวัสดุทาหรือพนท่ีแตกตางกัน และตามชนิดของเรซนิ และน้ํามันแหงเองที่ผสมอยู ดังน้ันชางสีจึงควรดําเนินการตามคําแนะนําของผูผลิตอยางเครงครัด ตัวอยางเชน เชลแล็กท่ีจะตองเจือจางดวยแอลกอฮอลเทาน้ัน ซึ่งถาใชตัวทําละลายอ่ืนใดที่ นอกเหนือไปจากแอลกอฮอลแลวก็สามารถทําใหเกิดความเสียหายไดต ัวทําละลาย และทินเนอรท ่ีนิยมใช กนั ไดแก นาํ้ มนั สนท้งั ชนดิ เทอรเ พนไทน (turpentine) ไคเพนไทน dipentine) และนาํ้ มันสน (pine oil) ปโตรเลียมสปริต (petroleum spirit) แนฟทา (naphtha) มิเนอรัลสปริต (mineral spirit) ไวตสปริต (white spirit) น้ํามันกาด (kerosene) เอทิลแอลกอฮอล (ethyl alcohol) และเมทิลแอลกอฮอล (methyl alcohol) สําหรับตัวทําละลายที่ใชเจือจางแล็กเกอร ไดแก โทลูอลหรือโทลูเอน (toluol or toluene) ไซลอลหรือไซลีน (Xylol or Xylene) เบนโซลหรือเบนซีน (benzol or benzene) แอซีโทน (acetone) เอทิลแอซิเทต (ethyl acetate) และเอมีลแอซีเทต (amyl acetate) หรือน้ํามันกลวย (banana oil) สารเรงแหง ใหแหงตัวเร็วย่ิงข้ึนสวนใหญจะอยูในรปู ของสารละลายกระจายตัวไดดีภายในเน้อื สี และวารนชิ การทาํ ปฏิกิรยิ าดงั กลาวของสหี รือวารนิช ดังน้ันในการเตมิ สารเรงแหงแหง จะทาํ หนาท่ีชว ยเรง การแหงตัวใหกับน้ํามันใหญจะอยูในรูปของสบูโลหะ (metallic soap) เพ่ือท่ีจะละลายเน้ือสีและวารนิช การทําปฏิกิริยาดังกลาวจะกระทําไปอยางตอเนื่องตลอด ในการเติมสารเรงแหงจึงตองใหมีสัดสวนพอดี เพื่อที่จะทําใหฟลมขอวานิชแข็งตัวเร็วพอท่ีจะสามารถปองกันอันตรายจากฝนหรือจากการสัมผัสและ จะตองหรือสง่ิ นําสเี สียหายเร็วจนเกินไป การเติมสารเรง แหงในปรมิ าณที่มากจนเกินไปฟลมของสีแตกราว ไดเชนกัน สารเรงแหงเหลานี้ ไดแก โคบอลต (cobalt) Panyanese) ตะกั่ว (lead) แคลเซียม calcium) เหลก็ (iron) สังกะสี และแจแปนแมงกานีสเปน ตน ซ่ึงเปน สว นผสมของโลหะหลายชนิดเชนแมงกานีสกับ ตะกั่วหรือโคบอลตกับตะกั่วและไมทําใหสารยึดหรือสิ่งนําสีเสียหายเร็วจนเกินไป 1 ก็อาจจะทําให แผนฟลมของสีแตกราวไดเชนกัน สารปจจุบันเนื่องจากพบวาตะกั่วเปนสารที่มีพิษจึงไดหนั มาใชสารชนดิ อ่นื แทนสารดังกลา วไดแก เซอรโ คเนียม (zirconium) และซีเรียม (cerium) ในการใชสารเรงแหงจะตองใชรวมกันหลายตัวในสัดสวนที่พอเหมาะและในปริมาณท่ีเหมาะสม เพราะสารแตละชนิดก็มสี มบัติท่ีแตกตางกันซึ่งสมบัติดังกลาวจะมผี ลตอการแหง ตวั ของฟลมสีดังน้นั ถาใช ในสัดสวนและปริมาณที่ไมถูกตองก็อาจจะทําใหสีหรือวัสดุทาเกิดความเสียหายไดดังนั้นจึงตองทําตาม คําแนะนําจากบริษัทผูผลิตสีอยางเครงครัดสถานท่ีทํางานก็ควรจัดใหมีระบบการถายเทอากาศท่ีดี เนื่องจากอุณหภูมิและการเคล่ือนตัวของอากาศจะทาํ ใหสีหรือวัสดทุ าแหง เรว็ ย่งิ ข้นึ เพราะในการเตมิ

-8– ออกซิเจนและการระเหยตัวของสีหรือวัสดุทาเปนกระบวนการทางเคมีท่ีเพิ่มเปนสัดสวนกับการเพิ่มของ อณุ หภูมทิ ่ีอยูโดยรอบ 4. สารเติมแตงตางๆ (Addition) เปนสารเคมีที่เติมเขาไปเพื่อใหสีมีคุณสมบัติท่ีดีข้ึน เชน สารท่ีใชลด การเกดิ ฟอง, สารที่ทาํ ใหผ ิวเรยี บ สารทป่ี องกนั แสงอาทติ ย