Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานก่อสร้างพื้น

งานก่อสร้างพื้น

Published by ปัญญาวุธ ช่วยคง, 2021-06-08 14:42:41

Description: งานก่อสร้างพื้น

Keywords: งานก่อสร้างพื้น

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 5 งานก่ อสร้ างพืน้ อ.ปัญญาวุธ ช่วยคง แผนกช่างก่อสร้าง วทิ ยาลัยเทคนคิ สุราษฎร์ธานี

-1- งานกอสรางพืน้ พื้น เปนโครงสรางในแนวราบ ทําหนาท่ีรับนํ้าหนักของผูอยูอาศัย และส่ิงของเคร่ืองใชตางๆ ภายในหอง การถายนา้ํ หนกั จะกระจายไปสูคาน และถายนํา้ หนักไปยงั เสา และลงสฐู านราก พน้ื โดยทวั่ ไป สามารถแบงไดเ ปน ๒ ประเภทใหญ คอื พืน้ ไม และพน้ื คอนกรีตเสรมิ เหลก็ 1. พื้นไม การสรา งพ้นื ไม จะทาํ เปน 2 ลักษณะ คอื 1.1 การปพู ้ืนไมบนพน้ื คอนกรีต เปนการนาํ ไมพ น้ื ท่เี ปน ทอนส้นั มาเรียงกนั เปนลวดลายตางๆ หรือ เรียกไมนว้ี า ไมป าเก และโมเสคปาเก ทําดว ยไมห ลายชนดิ เชน ไมส ัก ไมเ ตง็ ไมแดง และไมมะคา เปน ตน 1.1.1 ไมปาเก มีความหนาประมาณ 2 ซม. ความกวางของหนาไม 2 นิ้ว มีความยาวทอน ละ 12 นิ้ว มีการเซอะรองและทําล้ิม ตามลักษณะการเรียงซอนกันของลายที่จะปู ใชปูบนพื้นคอนกรีตท่ี เรียบ เรียกการเทคอนกรตี วา ปาดปูนลูบเกรียง หมายความวา ในการเทคอนกรตี พ้ืนช้ันบนหรือชั้นลางก็ ตามกจ็ ะตอ งทาํ การปาดผวิ หนาคอนกรีตใหไดร ะดับตลอดท้งั ผนื พ้นื ใชเกรยี งไมป าดภายหลงั ทผ่ี วิ โรยปูน ทราย 1 : 1 ( ปูนซีเมนต : ทรายหยาบที่รอนแลว ) โดยพยายามปาใหเรียบเสมอ พอผิวใกลหมาดก็ใช เกรียงเหล็กเหล่ียมที่ใชขัดมันลูบผิว ใหเม็ดทรายท่ีกระเดิด แทรกตัวเรียงลงไปตามผิว ลูบไปจนกระทั้งผวิ เรียบเสมอกนั โดยตลอด การทําเปนลักษณะเดียวกับการปาดผิวขดั มัน ที่ใชป ูนซีเมนต ลวนปาดไปท่ัวแลว ลบู เกรยี ง เปนตน ลักษณะของผิวคอนกรีต ท่ีเรียบแตยังคงมีคราบหยาบใหเห็นชัดเจน ก็เพ่ือใหโอกาสกาวลา เทค ยึดติดไดแนนดวย อีกประการหน่ึง ถาผิวไมไดระดับ ก็อาจทําใหแผนไมท่ีปูถูกหนุน และระดกหลุด ออกไดงาย การทําผิวลักษณะผิวดังกลาวนํามาเตรียมผิวสําหรับการปูกระเบื้องยางไดดวย แตจะใหเม็ด ทรายกระเดดิ ข้นึ มาจากผวิ ไมไ ดเ ลย

-2- 1.1.2 โมเสคปาเก พื้นไมท่มี ีลักษณะเปนชิ้นไมเลก็ มาเรยี งกนั เปนแผง มขี นาด 12 x 12 นิว้ ความหนาของชิ้นไมประมาณ 3/8 น้ิว อาจมีความยาว 10-15 ซม. ติดกาวเรียงบนกระดาษเหนยี ว ใหอยู ในลกั ษณะตามลายทีเ่ ลือกไดตามตองการ การปูก็ทําเชนเดียวกับการปูพนื้ ไมปาเก คอื เอากาวลาดไปกอน แลว เอาแผงไมที่ติดกระดาษควํ่าเอาสวนทเี่ ปนกระดาษขนึ้ และสวนดานไมใ หติดกบั กาว พนื้ ชนดิ นจี้ ะไมมี การเขาลิ้ม แตจะเรียงซอ นกนั สนิดดีอยูแลว จะเปนการตัดซอยมาจากชิ้นไมขนาดเล็ก มีสีแตกตางกนั ในชิ้นหรอื อยูในแผงเดยี วกนั กต็ าม ไมจ ะตอ งไดรบั การอบใหแหงประมาณ 15 เปอรเ ซ็นต เพียงพอทจ่ี ะไม ขยายตัวมากเม่ือถูกนํ้า หรือหดตัวเมื่อไมแหง แตอยางไรก็ดี สามารถเลือกไมท่ีอยูในเกรดสูงได ราคาก็ สูงข้ึนไปดวย ผูจําหนายจะรบั ทําการปู และขัดเสร็จ หรือรานท่ีรับปูพ้นื และขัด ไปซ้ือไมและกาวมาทาํ อีก ตอหนง่ึ กไ็ ด ชา งไมจะไมนยิ มใหทาํ การปู เพราะจําเปนตองมคี วามชาํ นาญพอควร สําหรับการตดั ตอ ไมที่จะ ปูในตอนมุมหอง มุมเสา หรือความกวางของหองเฉียงไปไมไดส่ีเหลี่ยม ก็จะซอยชิ้นไมใหปูเต็ม อีก ประการหนึ่ง พื้นท่ีจะปูพื้นไม ดังกลาวตองรอใหมีความแหง สนิด หลังจากเทพื้นคอนกรีตแลวตองรอไว ประมาณ 15-20 วนั เปนหอ งทมี่ ลี มโกรก ถาพ้นื ท่ียังซน้ื อยกู าวจะไมยดึ ตดิ หรือทําใหกาวเส่ือม ชิน้ ไมอาจ หลดุ ออกมาได สาํ หรบั โมเสคปาเกทีช่ น้ิ ไมบาง ตอ งตบแผงไมใหหนาไมในสวนที่กระดาษปดใหเรียบ และ ไมตอ งลอกเอากระดาษออก ทิง้ ไวจ นกระท้ังเครอื่ งขัดจะฝนใหห นา ไมเ รยี บเสมอกนั การปูพนื้ ไมดังกลาวทัง้ สองชนิด จะตอ งเขา ใจในความหนาของช้ินไม เพือ่ ที่จะกําหนดระดับ ของผิวพื้นคอนกรตี ไดถูกตองเมอื่ ไดปูพื้นไวเรียบเสมอตลอดแลว หามบุคคลเขาเหยียบ หรือนําวัสดุอ่ืนใด ทงิ้ ผวิ ไวอ ยางนอย 7 วัน จนแนใจวาการยึดติดไมและแขง็ แรงพอจึงตะใหทาํ การขัดได 1.2 การปูพ้นื ไมบ นตง ตามที่ไดอธบิ ายไวใ นเรื่องการวางตงแลว วา ระยะหา งของตงตองกําหนดให พอเหมาะกบั ความหนาของพืน้ แตปจจุบันพ้นื มคี วามหนา 1 นวิ้ ระยะตงก็ควรหา งอยูระหวา ง 0.40-0.50 เมตร อกี ประการหน่งึ เร่อื งการปก หลักตงใหเ สมอกนั ควรทํากอนการปูพนื้ ถาปลอ ยใหระดบั หลงั ตงสูง-ตํ่า แตกตางกันตามความโคง -แอน ของไมแลว เมือ่ ปพู น้ื ไมล งไป พืน้ ก็มรี ะดบั ที่ลาดเอียงไปดว ย ถึงแมจะแกใน ระหวา งการปพู ้ืนไมดว ยการหนนุ ไตพ ื้นดว ยเศษไมก็ตาม ความหนาของตงทจ่ี ะยึดตะปูท่ตี อกยดึ จาการปู

-3- พ้ืนอยางนอย 1 1/2 นิ้ว เปนตน ลักษณะการปูพื้นมีหลายชนิด เลือกใชตามความเหมาะสมกับงานและ ลกั ษณะความตองการไดดังนี้ 1.2.1 ปูพื้นไมเขาลิ้มรอบตัว เปนไมพ้ืนท่ีมีความยาวคอนขางสั้น ต้ังแต 1.00-2.00 เมตร หนาไมกวาง 4 นิ้ว และทําลิ้มในสวนหัวไม สวนทายทํารางเพ่ือสอดลิ้มได ดานขางของช้ินไมก็ทําล้ินขาง หนึง่ รางลนิ้ อกี ขา งหนึ่ง ตลอดความยาวเชนเดียวกัน และไมค วรอบกอ นนาํ มาใช เพราะถาไมง อ หรอื บดิ การสอดลิ้มเขารางลมิ้ ของไมอกี ทอดหนึ่งจะทาํ ไมได การใชไมพ ื้นลักษณะน้ีทําใหส ามารถปูพน้ื เหลอื เศษหัว ไมน อ ยที่สดุ เพราะการตอ ช้ินไมไ ปตามความยาวสามารถทําไดท ง้ั บนหลังตง หรอื ตอในสวนท่ไี มมีตงรองรบั เพราะการเกาะยึดของลิ้มทําใหรับนํ้าหนักบรรทุกบนพ้ืนได แตก็ควรระวังเร่ืองการวางตงตองไมควรหาง เกนิ 0.40 เมตร ขอ ไดเปรยี บอกี ประการหนงึ่ สามารถนําทอนไมที่มีความยาวมามากนักมาซอยทําเปนแผน ไมไดความยาวของชน้ิ ไทจ งึ มีความแตกตางกนั ไปหลายขนาด บริษัทผจู าํ หนา ยไมจ ะมีชา งมารับปไู ดรวดเร็ว และถูกตอง ราคาไมแพง การคิดราคากันเปนแบบพ้ืนท่ีของหอง นิยมนํามาใชกับการสรางอาคารตาม หมบู า นอาคารจัดสรร ขอ ยุง ยากอกี ประการสําหรับการซอยไมแ ทรกในสว นริมของพืน้ หอง จะตองวัดและ ซอยไมแทรกในสวนริมของพนื้ หอ ง จะตอ งวัดและซอยใหพ อดีดับรองทข่ี าดตามแนวท่ีเหลือเศษ 1.2.2 การปูพ้ืนไมตีชนหรือตีชิด ลักษณะของการปูพ้ืนนี้เปนแบบธรรมดา ใชกับงานท่ัวไป งายตอการทํา โดยมีแผนไมที่มีขนาดหนาไม 4, 6, 8, 10, 12 น้ิว ความหนา ¾ -1 น้ิว ความยาว 2.50- 6.00 เมตร ถาสั่งไมส้ันก็นําไมยาวมาตัด ราคาก็คิดไมยาวซ่ึงมีราคาตอ ลบ.ฟุต สูงกวาไมท่ีสั้นกวา กอน นํามาใชก็ควรไสดานขางไม ดานหนาไมท่ีเปนพ้ืน สวนดานใตพ้ืน ถาเปนพื้นชั้นบน และไมไดตีฝาปดก็ไม ตองไส เรยี กการไส 3 หนา ปจจุบันรานคา ไมจะเคร่อื งไสใหเสร็จ คดิ ราคากนั ตอ ลบ.ฟุต เชน เดียวกัน การ ไสดว ยเครือ่ งในชว งเดยี วกนั จะไดความหนาของไมเ ทา กนั ควรกาํ ชับโรงไมใ หไสใหเ ทา กนั ทกุ แผน มิฉะนนั้ เม่ือนํามาปูแลว พ้ืนผิวจะสูงๆ ต่ําๆ ตามความหนาของการไส เปนตน การกําหนดตําแหนงของการตอก ตะปู 2 ½ นิ้ว บนหนาไมควรตอกอยางนอย 2 ตัว ใหหางจากริมไมประมาณ ½ น้ิว ถาเปนไมที่มีความ กวา ง 8 น้วิ ขน้ึ ไป ควรเพ่มิ การตอกตะปอู กี 1-2 ตัว ตามสมควรโดยพจิ ารณารวมกบั การโกง -แอน ของแผน ไมด วย 1.2.3 การปพู นื้ ไมตีชนติดแนว เน่อื งมาจากผลการหดตวั ของไมที่ใชป ูพนื้ จึงไดเกิดวธิ ีการปด แนวทไ่ี มหด ในชว งทม่ี ีการอดั พ้ืนไมก ย็ งั คงชดิ กันอยู แตเม่อื ท้งิ ไวความช้นื ในเนอ้ื ไมระเหยออกไป ไมจะเกิด การหดตวั แคบเขา มาจะเกิดเปน รองหาง อาจทาํ ใหผงตกลงขางลางมองลอดขน้ึ มาเห็นขางบนกไ็ ด จงึ นําไม บางหนา ½ นิ้ว กวาง 2 น้ิว ไสใหเรียบตีปดในสวนทองพ้ืนภายหลังจากที่ปูพ้นื แลว ไมควรเปนไมพนื้ ที่สด มากนกั เม่ือเวลาไมพนื้ หดอาจทําใหไมปดแนวฉีกไดงา ย เหมาะทจ่ี ะใชในการปูพนื้ ช้ันบนและไมม ีการตีฝา ปดเปน ตน โดยการไสไมมมุ บนดานหนึ่งกับมุมลางอกี ดา นหนงึ่ ของขอบตลอดความยาวใหลึกมาทางหนาไม ประมาณ 1 ซม. โดยใชกบมือชนิดทําราง หรือใชเครื่องเซอะเดือยก็ได ไมพื้นควรมีขนาด 4-6 นิ้ว เพราะ การตอกตะปจู ะตอกซอนในสว นทบ่ี ังใบตัวหงายติดกับหลังตงตัวหนึง่ จงึ ควรตอกหลังพน้ื อกี ตวั หน่ึง

-4- จึงจะแข็งแรงหรือตอกหลังพ้นื ทั้งสองตัวเลยก็ทําไดเชนกัน ลักษณะการบังใบเชนนท้ี ําใหแกปญหาเม่ือไม หดตวั กค็ งไมมากไปกวา 1 ซม. ในสว นท่บี งั ใบกนั จะไมท ําใหพน้ื เปน รอ งทะลลุ งขางลา งได ปจจุบนั การใช นอ ยลงเพราะทาํ บังใบยาก เคร่ืองเซอะรอ งก็ไมไ ดเตรยี มไวจ งึ ตองตัง้ เคร่อื งใหม จงึ ยากในการส่งั ทาํ 1.2.4 การปูพ้ืนเขา ลม้ิ ลกั ษณะการปพู ืน้ เขาลม้ิ มผี นู ิยมเลือกใชม าก และไดความแข็งแรงดจี งึ สามารถรับทาํ รางลม้ิ หรือทําลิ้มในแผน ไมพ ้นื ไดงา ย โดยท่วั ไปโรงไมจ ะทาํ พ้ืนชนิดเขา ลม้ิ ไวเ สรจ็ และจะทาํ การอบและไสไวเรียบรอย ในการเลือกใชไมดี เชน ไมมะคา ไมตะแบก ไมแดง ไมเต็ง แตถาจะเลือกไมท่ี แปลกออกไปจากทน่ี ิยมก็ตองสง่ั ทํา เชน ไมสกั ไมตะเคียน ไมย มหอม เปนตน สว นใหญจะเปนไมข นาด 4 และ 6 นิ้ว เทาน้ันที่ใชกับการเขาล้ิม ถาเปนไมหนากวางเม่ือไมโกงจะแกไขใหเรียบไดยาก อาจตองตอก ตะปูดานบนของหนาไม การทําล้ิมในสวนริมของไมตลอดความยาวไมไมเกนิ 1 ซม. ฉะน้ัน ความลึกของ รอ งรางลิม้ จึงถูกเซอะใหเ กิน 1 ซม. ไปอีกประมาณ 2-3 ม.ม ท้ังนก้ี เ็ พื่อสามารถใหอัดพน้ื ใหแ นบกันได โดย เดือยไมจ ะไมไปหมุนอยูในรางล้มิ ได จะทําการตอกตะปูจะใชขนาด 1 ½ น้วิ ตอกในสว นบนของลมิ้ ตดิ กบั หลังตง จึงไมแลเห็นหัวตะปูบนผิวพื้นเลยทําใหสวยงามข้ึนการส่ังไมพ้ืนควรเปนรานเดียวกัน จะเปนไมท ี่ ไสมีความหนาเทากนั โดยเซอะรางของลิ้มพอดีกนั 1.2.5 การปูพ้ืนไมสอดลิ้ม เปนลักษณะการปูพื้นไมไดอีกแบบหนึ่ง โดยทําการเซอะรางล้ิม ทางดานขางทั้งสองของไมตลอดความยาว แลวนําไมเนือ้ แข็งขนาดบาง 3/8 นิ้ว กวาง 1 นิ้ว หรือไสใหไ ด ตามขนาดของรางสอดเขา ไประหวางการอัดพ้ืนดวยกนั การตอกตะปูอาจทาํ ใหก ารตอกในสว นสอดลิ้มและ ตอกตอนบนของหนา ไม มกี ารใชท ํานอ ย เพราะทําใหก ารสอดล้มิ ไดสนทิ ยาก การปูพน้ื แบบนี้ปอ งกนั เม่ือ ไมพ ้นื หดตวั จะไมท ําใหเ กดิ รองพน้ื ทะลไุ ด พื้นไมค วรผา นการอบมากอน และตอ งสัง่ ทําโดยเฉพาะ 1.2.6 การปูพ้ืนไมเขาลิ้มเย้ืองกัน มีลักษณะการปูเชนเดียวกบั การปูพื้นแบบเขาลิ้ม แตแนว รอยตอ ของหนาไมพ ืน้ ท่แี ตล ะแผนเรยี งชิดกนั จะเย้ืองตอ ของผวิ ใตพ น้ื เปนไปเชน นีต้ ลอดแผน พน้ื การตอก ตะปูก็จะซอนอยูในสวนลิ้มเพ่อื ใหพ ้ืนไมติดกบั หลังตงไดเม่ือเรยี งกันตลอด ก็จะดูไมออกวาเปน การเขาลิ้ม เย้อื งกนั แตก ารยดึ เกาะของแผน จะทําใหม ีความหนาแนน 1.3 การปพู ืน้ ไมบนตง จะไดอธบิ ายวิธีการปูพน้ื ไม ซ่งึ เปนเทคนคิ ท่ีควรจะไดทราบเปนเบ้อื งตน 1.3.1 การเตรยี มไมแ ละวัสดุ ดงั ไดก ลา วในเรอ่ื งการจดั หาและเตรียมไมพ น้ื มาแลว กย็ า้ํ วา พื้น ไมท ี่จดั สงมา ซงึ่ ผานการอบและไส และเซอะรอ งทาํ ล้ิมมาเรยี บรอย จะตอ งจัดวางกองใหเปนท่ี ตามขนาด ความยาว โดยใหห วั ไมเ สมอกันดานหนึง่ เมอื่ หยิบใชก็จะไดรวดเร็ว 1.3.2 การเลือกไมพ้ืน ไมพื้นท่ีกําหนดเฉพาะ เชน ไมแดง ไมเต็ง ไมรัง ไมมะคา ตองมีการ ตรวจเลือก ทง้ั น้ีก็ตองมีขอ ตอ รองกบั รา นสง ไม ไมควรอยูในลกั ษณะทมี่ ีขนาดผานการไสใหเทากันท้ังหนา ไมและความหนา

-5- 1.3.3 เครื่องมือสําหรบั ปูพ้ืน โดยปกติแลวหัวหนาชางไม จะมีเครื่องมอื สําหรับงานตางๆ ไว เกือบครบ จึงไมเปนอุปสรรคที่จะจดั หา ในเคร่ืองมอื จําเปน สาํ หรับการอัดพ้ืน อาทิ แมแ รงอดั ไม คอน ชา ง ไม สว่ิ เลอื่ ยลันดา ฉากเหล็ก พรอมท้งั เชือก ดินสอ เหลก็ ยาํ้ หัวตะปู 1.3.4 กรรมวิธีการปูพื้น การปูพื้นมีทําอยูหลายแบบ เทาท่ีรวบรวมมาอธิบายเพียง 3 แบบ เพอ่ื เปนแนวทางสําหรบั งาน คือ 1) การปูพ้ืนไมโดยใชแมแรง เปนวิธีการปูพื้นท่ีไดผลดี สามารถอัดพ้ืนไดแนน พอเหมาะกบั การใชงานได เนื่องมาจากหนา ท่ีของแมแรงทําใหตองอธิบายลักษณะโดยท่ัวไป เพ่ือจะไดนาํ ประโยชนม าใชไดอ ยางถกู ตอ ง การตอกพกุ ไม เมอื่ เรมิ่ ปูพื้นโดยวางไมพ้นื แผน แรกใหเสมอตามแนวหัวตงท่ี ตัดไวแ ลว ตอกตะปตู ดิ หลงั ตงตอนหัวและตงตัวปลายใหไดแ นวอกี ครั้งหนึ่ง เล่อื นใหดา นขา งของพื้นดา นท่ี เซอะรอ งสมั ผสั พอดกี ับเสน เชือก เรมิ่ ตอกตะปูจากสวนบนของเดือย เอยี งทํามมุ 45 องศา ทะลลุ งไปยึดกับ หลงั ตง ไมร องพน้ื ทเ่ี ปน พุก เพอ่ื กนั ขางของพน้ื ไมใ หบบุ โดยนําไมพ นื้ มาซอยครง่ึ แผนตดั ใหยาว ประมาณ 20-30 ซม. เอาสวนท่ีเซอะรอ งเอาไวสอดกบั ล้ิมแผน ที่จะอัด ถาแมแรง 2 ตวั กต็ องใชพุก 2 อัน การอัดพื้นจะวางในชวงกลางระหวางตง เพ่ือจะไดหมนุ อดั ไดสะดวก และตอกตะปูติดไดถนัด การวางแม แรง เอาแมแรงคว่าํ ลงโดยใหหวั บังคับในสว นปลายแมแรง กดกับพืน้ และเล่อื ยหวั บังคบั ใหรุของกานแมแ รง ตรงกับรขู องหวั บงั คบั พอดี แลวใชส ลกั สอดไมใหห วั บังคับเลื่อนไดเม่อื มีการอดั ข้นึ การจดั หัวบงั คับใหอ ดั การอัดพื้นไมอบเปน ความชาํ นาญของชา งไม คอ ยๆ ขันกา นจน รูสึกวาพื้นเขาชนกันสนิท และตอจากนั้นก็อัดเขาไปอีก 2-3 เกลียวเทานั้น ถาชางไมเขาใจ อัดจนกระทงั้ พ้นื ไมอ ดั ตวั กันแนน มาก เม่อื ไมเกดิ ไดร บั ความชื้นและขยายตัว ไมอาจดันทาํ ใหผนังผังลงได จงึ ตองเผ่ือการ ขยายตัวไวบางการตอกตะปู ถาเปนการอัดพ้ืนตีชนธรรมดา ก็จําเปนตองตอกจากผิวหนาพ้ืนใหลงตรง กลางของหลังพอดี จะไมตอกใหเอียงหรือใชตะปุแฉลบนอกตง จะทําใหมุมสวนหลังตงฉีก ชางที่ทําการ ตอกจะตองมีความชํานาญ พยายามตอกใหตะปูลงจมจนหมดตัวและระวงั คอนสัมผัสกับผิวพื้น และการ เลื่อนแมแรง เม่ือจะทําการปูพ้ืนแผนตอไปก็ใหคลายเกลียวท่ีติดกับหัวบังคับ จัดใหถอยหลังเสริมไมพื้น แผน ใหม แลวทาํ การอัดดงั กลา ว 2) การปูพ้ืนไมโดยใชล่ิม ล่ิมเปนไมเครา ควรเปนไมเนื้อแข็ง ขนาด 1 ½ x 3 นิ้ว ตัด เฉียงทแยงในชวงไมยาว 20 ซม. ไดลิ่ม – อัน นอกจากน้ียังตองเตรียมพุก เปนไมพื้นที่ซอยแบงคร่ึง เอา ดา นที่เซอะรอ งเพือ่ สวมกับล้ิมของพ้นื ตัดใหย าวทอนละ 30 ซม. ควรวางในชวงระหวางตง เพือ่ เวน หลังตง ไวสาํ หรับใหต อกพ้ืนตดิ ไดสะดวก การปูพืน้ โดยใชส่ิว วธิ นี ช้ี า งไมน ํามาใชกบั การปูพนื้ เปนจํานวนมาก เปน วธิ ที ี่ควรทราบ แตไ มค วรนํามาใช การใชส ว่ิ ปากเหลย่ี ม 1 ½ - 2นวิ้ ตอกปลายสวิ่ ลงบนหวั ตง ใหล ว่ิ กนิ เนื้อ ไมประมาณ 1/2 นว้ิ ข้ึนไป แนวท่ีจะตอกควรทํามุมกบั ระดบั ราบประมาณ 60 องศา และเลือ่ นปลายสวิ่ มา

-6- ทางซายเล็กนอย เพ่ือเปดบริเวณดานขวา ใหสามารถตอกตะปุได เม่ือทําการตอกส่ิวลงไปแลว ใชมือซาย ดนั ดา มสิ่ว ใหใ บสวิ่ งดั เอาสันของไมพ นื้ เลอื่ นอัดแลว จะตอกตะปทู ีต่ อกนําไวก อนแลวลงไปทนั ที 2. พ้ืนคอนกรีตเสริมเหล็ก เปนสวนของโครงสรางที่ทําหนาที่รบั น้าํ หนักบรรทุกโดยตรง แลวถายนํ้าหนัก ลงสูค าน เสา ผนังรับน้ําหนัก หรือพื้นดิน 2.1 พื้นวางบนดิน ( Slab on Ground ) นํ้าหนักบรรทุกทั้งหมดถูกถายลงดินโดยตรง พื้น ประเภทน้ีถูกใชกับงานที่อยูในระดบั พนื้ ดนิ เชน ทางเดนิ เทา พืน้ อาคาร บานพักอาศัย และโครงสรา งที่ รบั นา้ํ หนักมากๆ เชน พนื้ คลงั สนิ คา โรงงาน ถนน เปน ตน การเทพน้ื คอนกรตี มีขัน้ ตอนการทาํ งานดังนี้ 1) สวนท่ีเปนท่ีตํ่า เชน คูน้ํา แอง ทองรอง ตองถมและบดอัดใหแนน และหากพ้ืนคอนกรตี ขวางทางน้ําไหล ตอ งทําทางระบายนํ้ากอนการบดอดั 2) สําหรับพืน้ อาคารทม่ี เี สาอาคาร ควรทําแบบหลอก้ันแยกรอยตอ เสาออกจากแผน พนื้ เพื่อ ปอ งกันการแตกรา วของพืน้ จากการทรุดตัวพรอ มทัง้ ทาํ ระดับ 3) คัน้ แผน พ้นื ดวยวสั ดปุ ระเภทโฟม ใหแยกออกจากผนังหรอื คาน ประมาณ ½-1 นว้ิ 4) ควรปรับระดับพื้นใหลาดเอียงเล็กนอยลงไปที่บริเวณประตูทางเขา เพื่อระบายนํ้าฝนท่ี สาดเขามา หรอื นาํ้ จากการทําความสะอาด 5) กรณีท่ีแผน พืน้ มีความกวางมาก ควรแยกเทแผนพนื้ หลายแผน โดยใหแตละแผนมีขนาด ประมาณ 6-7.5 เมตร เพือ่ ใหทรดุ ตัวอยางอสิ ระและควบคมุ พ้ืนทีท่ ีแ่ ตกรา ว 6) ใชแ ผนพลาสติกปุรองพ้นื กอนเพ่ือปองกนั ดินดานลา งดูดนํ้าปูน และปองกนั ความช้ืนจาก พนื้ ดนิ ซึมผานแผนคอนกรีตขึ้นมา 7) จัดวางเหลก็ เสริมในรูปตะแกรงใหไ ดขนาด ตําแหนง และระยะ ถูกตอ งตามแบบกอ สราง การวางระดับเหล็กเสริมดา นบน เพ่ือปอ งกันคอนกรตี แตกรา วท่ีผิว 8) เคลือบผิวแบบหลอดวยน้ํามัน หรือนํ้ายาเคลือบแบบหลอ เพ่ือใหสามารถถอดแบบหลอ ไดงา ย

-7- 9) เทคอนกรีตโดนเร่ิมตนจากดานใน ออกมาสูดานนอก แบงเทคอนกรีตที่ละสวนสลับกับ การปาดแตงเน้อื คอนกรตี ใหเ สมอกัน และไดระดับตามตองการ 10) ใชเครื่องสั่นคอนกรีตชวยทําใหเน้ือคอนกรีตแนน พรอมท้ังปาดแตงผิวหนาใหเรียบ สวยงาม 11) ทาํ การบมคอนกรีตอยา งตอเนอื่ งเปนเวลาอยางนอย 7 วัน 2.2 พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กทางเดียว ( one – way slab ) หากพ้ืนคอนกรีตไมอยูบนพ้ืนดิน จําเปนจะตองวางอยูบนคาน ตง หรือผนัง ซึ่งทําหนาท่ีรับนํ้าหนักที่ถายมาจากพื้นคอนกรีต สําหรับพ้ืน คอนกรีตเสริมเหล็กทางเดียว เปนพ้ืนท่ีถูกรองรับดวยคาน หรือผนังรับนํ้าหนักเพียง 2 ดานเทาน้ัน พ้ืน คอนกรีตชนิดนี้เหมาะสมกับการรบั น้าํ หนักที่ไมมากนัก เหล็กเสริมหลักจะวางพาดระหวางคานและตั้งฉาก กับคานดา นส้นั ทําหนา ทต่ี า นทานแรงดึงเน่ืองจากโมเมนตดดั ในขณะเดียวกนั ตองมีเหล็กเสริมกนั ราว ตั้ง ฉากกับเหล็กเสริมหลักหรือขนานกับคาน ทําหนาท่ีชวยกระจายแรง ปองกันการยืดหดเน่ืองจากการ เปล่ยี นแปลงอณุ หภูมิ ลักษณะการถา ยแรงของพ้นื 2 ทาง ลักษณะการถา ยแรงของพ้ืนทางเดียว 2.3 พื้นคอนกรีตเสรมิ เหล็กสองทาง ( two – way ) พื้นคอนกรีตเสรมิ สองทาง เปนพ้ืนท่ีคานรบั รับทงั้ ส่ีดา น พืน้ ควรมีลักษณะเปนรูปส่ีเหลยี่ มจตั ุรสั หรอื สี่เหล่ยี มผนื ผาทมี่ ีดานความยาวใกลเคียงกัน โดย ท่ดี านยาวตอ งไมมากกวา 2 เทา ของดา นส้นั พ้ืนชนิดนีเ้ หมาะกับการรับน้าํ หนกั ปานกลางไมมากนกั มีชว ง คานหางกันพอสมควร หรืออาคารท่ีถูกออกแบบใหร ับนํ้าหนักทางดานขาง เชน แรงลม แผนดินไหว การ เสริมเหล็กในแผนพ้ืนสองทางตองวางตั้งฉากกัน โดยเหล็กเสริมท่ีขนานกับพ้ืนดานส้ันตองมีปริมาณ มากกวาหรือเทากับเหล็กเสริมทางดานยาวมากกวา หรือทากับเหล็กเสริมทางดานยาวเสมอ การจัดวาง เหล็กเสริมทางดานสั้นวางอยูดานลางของเหล็กทางยาว และความหนาของพื้น ต่ําสุดประมาณคาไดจาก สตู รเสนรอบรูปแผนพนื้ / 180 แตค วามหนาต่ําสดุ ตอ งไมน อยกวา 8 ซม.

-8- 2.4 งานพน้ื สาํ เรจ็ รูป โครงสรา งของพ้ืนชนดิ น้จี ะประกอบดว ยพ้ืนคอนกรีตอดั แรงสาํ เร็จรูปหลาย รูปแบบ เชน แผนพ้ืนคอนกรีตาเร็จรูปตัน แผนพื้นคอนกรีตท่ีมีรูกลวง นํามาจัดวางเรียงกันเปนพ้ืนหอง แลวเททับดวยคอนกรีตเสริมเหล็กอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งพื้นประเภทที่นิยมใชกันแพรหลาย ในรูปแบบการปลูก สรางอาคารบานเรือนท่ัวไป เพราะสะดวกประหยัดเวลาและมีประสิทธิภาพในการรับนํ้าหนักท่ีดี โดยมี ขั้นตอนการกอ สรา งดงั ตอ ไปน้ี 1) การเตรียมวัสดุ สถานที่ และการคํ้ายัน เพ่ือความสะดวกในการทํางานและสามารถ วางแผนพืน้ ไดอ ยา งมน่ั คง คานท่เี หมาะสมสําหรบั การวางแผนพน้ื สําเร็จรูปควรมีความกวางอยา งนอย 15 ซม.โดยท่ีแนะนําคือ ความกวางต้ังแต 20 ซม ข้ึนไป คานจะตองไดแนวที่ถูกตองความยาวชวงคาน คลาดเคลื่อนไมเกินกวา 2 ซม. และมีระดับหลังคานที่ราบเรียบ วิศวกรควรวางแผนการติดต้ังและส่ังซ้ือ แผนพื้นทั้ง 2 ขนาดความกวาง 30-35 ซม เพื่อใหวางแผนพ้ืนไดเต็มพ้ืนท่ีอยางมีประสิทธิภาพ การวาง แผนพื้นคอนกรีตสําเร็จรูปท่ีมีความยาวเกินกวา 2.00 เมตร ควรมีไมค้ํายันชั่วคราวอยางนอย 1 จุด เพื่อ ปอ งกันการโกง ตวั ท่ีไมเทากนั ขณะติดตัง้ และเทคอนกรตี 2) การวางแผน พื้นและการผูกเหลก็ นําแผน พ้นื สาํ เร็จรูปมาวางพาดเรยี งชิดกนั ในชวงสน้ั ของ คานตามที่กําหนดในแบบกอสราง โดยมีระยะน่ังคานละไมนอยกวา 5-7.5 ซม. คานที่จะทําการวางแผน พ้ืนสําเร็จรูปจะตองทําการเสียบเหล็กกลม 9 มม. ฝงลึกลงในคานและพับสลับซายขวาเหนือแผนพ้ืนทุก ระยะ 40 ซม. สลับกบั การวางเหล็กกลม 9 มม. ความยาวประมาณความกวา งของคานทุก ระยะ 40 ซม. เหนอื แผน พนื้ เพื่อเพิ่มแรงยึดเหนย่ี วและปองกันแตกรา ว การตดั มุมแผนพื้นเพอ่ื เวนหนา ตดั เสา รอยตดั ไม ควรกวางเกินกวา 1/3 ของความกวางแผนพื้น ท้ังน้ีควรเวนชองวางระหวางมุมของแผนพ้ืนและเสาไว ประมาณ 2 ซม. 3) ติดต้ังเหล็กเสริมบน และเหล็กเสริมอ่ืนๆ ติดตั้งเหล็กเสริมบน เหล็กเสริมรับแรงเฉือนหวั เสาตามที่ระบุในแบบ Shop Drawing ตดิ ตั้งเหล็กเสริมกนั ราวมมุ อาคารและชองเปด เหลก็ เสริมกนั ระเบิด บริเวณ Anchorage ตามท่รี ะบุในรายละเอยี ดของพ้นื อดั แรง (Post-tensioned Slab) 4) เทคอนกรีตและบมคอนกรีต เทคอนกรีต ซ่ึงมีกําลังอัดท่ี 28 วันไมต่ํากวา 320 ksc Cylinder และทําการจ้ีคอนกรีต ใหมีความสมํ่าเสมอ ระวังมิใหเกิดโพรงบริเวณสมอยึดลวด Anchorage หลังจากคอนกรีตแขง็ ตวั แลว ใหท ําการบม คอนกรีตทนั ที โดยใชน าํ้ ยาบมคอนกรตี หรอื ใชกระสอบปานคลมุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook