Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ คุณครูจันทร์ทิพย์ ศรีลัย ม.ปลาย

แผนการจัดการเรียนรู้ คุณครูจันทร์ทิพย์ ศรีลัย ม.ปลาย

Published by rujiraoopkaew, 2022-06-27 04:06:33

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ คุณครูจันทร์ทิพย์ ศรีลัย ม.ปลาย

Search

Read the Text Version

1 แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ า ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 นางสาวจนั ทรท์ พิ ย์ ศรลี ยั ครู กศน.ตาบล กศน.ตาบลศรโี คตร ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอจตรุ พกั ตรพมิ าน สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั รอ้ ยเอด็ สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ

2 คานา แผนการจัดการเรยี นรู้รายภาคเรียน ประจําภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือสําคัญสําหรับครูที่จะทําให้การจัดการเรียนรู้บรรลุเปูาหมายที่ต้องการ เป็นการ วางแผนไว้ล่วงหน้าโดยศึกษาในเรื่อง สาระพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๔๕) หมวด ๓ ระบบการศึกษา และ หมวด ๔ แนวการจัดการศึกษา ทุกมาตรากรอบของการจัดการศึกษาตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เอกสารเก่ียวกับการประกันคุณภาพ การศกึ ษา โดยจัดกระบวนการเรยี นรใู้ ห้สอดคลอ้ งกับมาตรฐานเอกสารเก่ียวกับเน้ือหาในรายวิชาที่จัดการเรียนรู้ และ ศึกษาหาขอ้ มูลจากแหลง่ เรียนร้ตู ่าง ๆ วธิ กี ารจัดการเรียนร้แู บบตา่ ง ๆ ซึ่งเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญและรูปแบบการเรียนรู้ โดยกาํ หนดใหใ้ ช้รูปแบบการจดั กระบวนการเรยี นรู้ กศน. (ONIE MODEL) ซึง่ มี ๔ ขน้ั ตอน ได้แก่ ขน้ั ตอนที่ ๑ การกาํ หนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation ) ขน้ั ตอนท่ี ๒ การแสวงหาข้อมูลและจัดการ เรียนรู้ (N : New ways of learning) ขั้นตอนท่ี ๓ การปฏิบัติและนําไปประยุกต์ใช้ (I : Implementation) ข้ันตอน ที่ ๔ การประเมินผล (E : Evaluation) แผนการเรียนรู้จะทําให้ครูได้คู่มือการจัดการเรียนรู้ ทําให้ดําเนินการจัดการ เรยี นรู้ไดค้ รบถ้วนตรงตามหลักสตู รและจัดการเรียนรู้ไดต้ รงเวลา ขอขอบคุณ ผู้มสี ่วนเก่ียวขอ้ งทุกท่าน ทีใ่ หค้ วามรู้ คําแนะนาํ และใหค้ ําปรึกษาเป็นแนวทาง ทําให้แผนจัดการ เรียนรู้รายภาคเรียนเล่มน้ีจนสําเร็จ เป็นรูปเล่มสมบูรณ์ ผู้จัดทําหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มน้ี จะเป็น ประโยชนส์ าํ หรบั ผ้นู าํ ไปใชจ้ ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพหากพบข้อผิดพลาดหรือ มีข้อเสนอแนะ ประการใด ผ้จู ัดทําขอนอ้ มรับไวแ้ กไ้ ข ปรับปรงุ ด้วยความขอบคุณยงิ่ นางสาวจันทร์ทิพย์ ศรีลัย ครู กศน.ตําบล

3 สารบัญ หนา้ เรอ่ื ง ค จ ปฏทิ นิ การจัดการเรียนรู้ 1 แผนการกาํ หนดการจดั การเรยี นการสอน ประจําภาคเรียนท่ี 2ปกี ารศกึ ษา 2564 9 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ ครง้ั ท่ี 1 19 แผนการจัดการเรียนร้รู ายวิชาทักษะการเรยี นรู้ คร้งั ท่ี 2 29 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาทักษะการเรยี นรู้ ครั้งที่ 3 41 แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายวชิ าเศรษฐกิจพอเพยี ง ครัง้ ที่ 4 47 แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าคณิตศาสตร์ คร้ังท่ี 5 54 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาคณติ ศาสตร์ คร้ังที่ 6 61 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าคณิตศาสตร์ คร้ังที่ 7 73 แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าวิทยาศาสตร์ ครั้งที่ 8 86 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ครั้งท่ี 9 96 แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ คร้ังท่ี 10 104 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมศึกษา ครงั้ ท่ี 11 113 แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสังคมศกึ ษา คร้งั ท่ี 12 119 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าอาชญากรรมบนโลกออนไลน์ ครัง้ ที่ 13 126 แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวชิ าการเรียนรู้สู้ภยั ธรรมชาติ 3 คร้ังที่ 14 134 แผนการจดั การเรียนรรู้ ายวิชาชอ่ งทางการขยายอาชพี คร้ังท่ี 15 146 แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาทักษะการขยายอาชพี คร้ังท่ี 16 161 แผนการจดั การเรยี นรู้ทกั ษะการขยายอาชีพ ครั้งที่ 17 168 แผนการจัดการเรยี นรรู้ ายวชิ าพฒั นาอาชีพให้มีความมั่นคง คร้ังที่ 18 ซ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตรชาตไิ ทย คร้งั ที่ 19 คณะผู้จัดทาํ

4 ปฏิทินการจัดการเรยี นรู้ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 กศน.ตาบลศรีโคตร ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภออาเภอจตุรพักตรพิมาน สานกั งาน กศน.จังหวดั ร้อยเอ็ด สัปดาหท์ ่ี สาระ รายวชิ า( หน่วยกิต ) วธิ ีการจดั การเรยี นรู้ หมาย 1 ปฐมนเิ ทศ เหตุ แบบพบกลุ่ม แบบตนเอง 2-4 5 - รายงานตวั / ลงทะเบียน 6-8 9-11 - แนะนําบคุ ลากร กศน.ตําบลศรโี คตร - แจง้ หลกั สูตรการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานพทุ ธศักราช 2551 โครงสรา้ งหลกั สตู ร วิธีเรียนการสอน การวดั ผล ประเมินผล กพช. การสอบระดับชาติ (N-NET)ประเมินคณุ ธรรม เกณฑก์ ารจบหลักสตู ร มอบหมาย กรต. - กจิ กรรมกล่มุ สัมพันธ์ และนันทนาการ - พบครูประจาํ กลุม่ - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรยี นรู้ ทักษะการเรยี นรู้ (5 นก.) - การแก้ปัญหาการเรียน - เรยี นรตู้ ามแผน ทร31001 ทักษะการเรยี นรู้ - การเรียนแบบออนไลน์ - จดั ทาํ หลกั ฐานการเรียนรู้ - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกาํ หนด - ติดตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ - การแก้ปญั หาการเรียน - เรียนรู้ตามแผน การดําเนินชีวติ เศรษฐกจิ พอเพียง(1 นก.) - การเรยี นแบบออนไลน์ - จดั ทําหลักฐานการเรียนรู้ - มอบหมาย กรต. - สง่ งานตามกําหนด - ติดตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ (5 นก.) - การแก้ปญั หาการเรยี น - เรยี นรู้ตามแผน พว31001 ความร้พู ืน้ ฐาน - การเรียนแบบออนไลน์ - จัดทาํ หลกั ฐานการเรยี นรู้ - มอบหมาย กรต. - สง่ งานตามกําหนด - ตดิ ตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (5 นก.) - การแกป้ ญั หาการเรยี น - เรยี นรตู้ ามแผน พว31001 ความรู้พน้ื ฐาน - การเรยี นแบบออนไลน์ - จดั ทาํ หลักฐานการเรียนรู้ - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกาํ หนด - ติดตาม กรต. สอบกลางภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

5 สัปดาหท์ ี่ สาระ รายวชิ า( หน่วยกิต ) วธิ ีการจัดการเรยี นรู้ หมาย 12-13 การพัฒนาสงั คม เหตุ การพฒั นาสังคม แบบพบกลุ่ม แบบตนเอง 14 การพฒั นาสังคม 15 การประกอบอาชีพ สงั คมศึกษา - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรยี นรู้ 16 การประกอบอาชพี 17-18 การประกอบอาชีพ (2 นก.) - การแก้ปัญหาการเรยี น - เรยี นรู้ตามแผน 19 การพฒั นาสงั คม 20 สค31001 - มอบหมาย กรต. - จดั ทําหลักฐานการเรียนรู้ - ติดตาม กรต. - ส่งงานตามกําหนด - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ อาชญากรรมบนโลกออนไลน์ - การแกป้ ัญหาการเรียน - เรยี นรตู้ ามแผน (2 นก.) - การเรยี นแบบออนไลน์ - จดั ทําหลักฐานการเรยี นรู้ สค0200037 - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกาํ หนด - ตดิ ตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ การเรยี นร้สู ูภ้ ยั ธรรมชาติ3 - การแก้ปญั หาการเรียน - เรียนรตู้ ามแผน (3 นก.) - การเรียนแบบออนไลน์ - จัดทาํ หลักฐานการเรยี นรู้ สค32032 - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกําหนด - ติดตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ ช่องทางการขยายอาชีพ - การแก้ปัญหาการเรยี น - เรียนรู้ตามแผน (2 นก.) - การเรียนแบบออนไลน์ - จัดทาํ หลกั ฐานการเรยี นรู้ อช31001 - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกาํ หนด - ตดิ ตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรยี นรู้ ทกั ษะการขยายอาชีพ - การแกป้ ญั หาการเรียน - เรียนรูต้ ามแผน (4 นก.) - การเรียนแบบออนไลน์ - จดั ทาํ หลักฐานการเรยี นรู้ อช31002 - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกําหนด - ติดตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรียนรู้ พฒั นาอาชีพให้มีความมน่ั คง - การแก้ปัญหาการเรียน - เรยี นรู้ตามแผน (2 นก.) - การเรียนแบบออนไลน์ - จดั ทําหลักฐานการเรยี นรู้ อช31003 - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกาํ หนด - ติดตาม กรต. - กระบวนการกลุ่ม - วางแผนการเรยี นรู้ ประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย - การแก้ปัญหาการเรียน - เรยี นรตู้ ามแผน (3 นก.) - การเรยี นแบบออนไลน์ - จัดทําหลกั ฐานการเรียนรู้ สค32034 - มอบหมาย กรต. - ส่งงานตามกําหนด - ติดตาม กรต. ตรวจสอบงาน คะแนน และประเมินผลนักศกึ ษา

6 แผนการกาหนดการจดั การเรยี นการสอน ประจาภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ครูผู้สอน นางสาวจนั ทรท์ ิพย์ ศรลี ยั ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล กศน.อาเภอจตุรพกั ตรพิมาน สานกั งาน กศน.จังหวดั ร้อยเอด็ สปั ดาห์ วัน/เดือน/ปี เวลา วชิ า/กิจกรรม สถานทจี่ ัดการเรียน ท่ี 17 พ.ค. 2565 09.00 – 16.00 น. กจิ กรรมปฐมนิเทศ การสอน 1 2 กศน.ตําบลศรโี คตร 3 19 พ.ค. 2565 09.00 – 12.00 น. ทกั ษะการเรียนรู้(5 นก.) กศน.ตาํ บลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. ทร31001 ตามอธั ยาศัย 4 กจิ กรรมเรียนรดู้ ้วยตนเอง 5 26 พ.ค. 2565 09.00 – 12.00 น. ทกั ษะการเรยี นรู้(5 นก.) กศน.ตําบลศรโี คตร 6 13.00 – 16.00 น. ทร31001 ตามอัธยาศยั 7 กิจกรรมเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 8 2 ม.ิ ย. 2565 09.00 – 12.00 น. ทกั ษะการเรยี นรู้ (5 นก.) กศน.ตาํ บลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. ทร31001 ตามอธั ยาศัย กิจกรรมเรียนรู้ด้วยตนเอง 9 ม.ิ ย. 2565 09.00 – 12.00 น. เศรษฐกิจพอเพียง (1 นก.) กศน.ตาํ บลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. ทช31001 ตามอธั ยาศยั กจิ กรรมเรียนร้ดู ้วยตนเอง 16 มิ.ย. 2565 09.00 – 12.00 น. คณติ ศาสตร์ (5 นก.) กศน.ตําบลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. พค31001 ตามอัธยาศัย กิจกรรมเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง 23 มิ.ย. 2565 09.00 – 12.00 น. คณติ ศาสตร์ (5 นก.) กศน.ตําบลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. พค31001 ตามอัธยาศัย กิจกรรมเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 30 ม.ิ ย. 2565 09.00 – 12.00 น. คณติ ศาสตร์ (5 นก.) กศน.ตาํ บลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. พค31001 ตามอธั ยาศยั กิจกรรมเรียนร้ดู ้วยตนเอง

7 สัปดาห์ วนั /เดือน/ปี เวลา วชิ า/กจิ กรรม สถานที่จัดการเรยี น ที่ 7 ก.ค. 2565 09.00 – 12.00 น. การสอน 9 21 ก.ค. 2565 วิทยาศาสตร์ (5 นก.) 10 2 ส.ค. 2565 13.00 – 16.00 น. พว31001 กศน.ตําบลศรีโคตร 11 4 ส.ค. 2565 12 กจิ กรรมเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง ตามอัธยาศยั 9 ส.ค. 2565 13 11 ส.ค. 2565 09.00 – 12.00 น. วทิ ยาศาสตร์ (5 นก.) กศน.ตําบลศรโี คตร 14 16 ส.ค. 2565 13.00 – 16.00 น. พว31001 ตามอัธยาศัย 15 18 ส.ค. 2565 16 25 ส.ค. 2565 กิจกรรมเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 17 09.00 – 12.00 น. วิทยาศาสตร์ (5 นก.) กศน.ตําบลศรโี คตร 13.00 – 16.00 น. พว31001 ตามอธั ยาศยั กจิ กรรมเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง 09.00 – 12.00 น. สังคมศึกษา (3 นก.) กศน.ตําบลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. สค31001 ตามอธั ยาศัย กจิ กรรมเรียนรู้ด้วยตนเอง สอบกลางภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 09.00 – 12.00 น. สงั คมศึกษา (3 นก.) กศน.ตาํ บลศรโี คตร 13.00 – 16.00 น. สค31001 ตามอธั ยาศัย กิจกรรมเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง 09.00 – 12.00 น. อาชญากรรมบนโลกออนไลน์ (2 นก.) กศน.ตาํ บลศรโี คตร สค0200037 13.00 – 16.00 น. กจิ กรรมเรียนรดู้ ้วยตนเอง ตามอัธยาศยั 09.00 – 12.00 น. การเรียนร้สู ้ภู ัยธรรมชาต3ิ (3 นก.) กศน.ตาํ บลศรโี คตร 13.00 – 16.00 น. สค32032 ตามอัธยาศยั กิจกรรมเรยี นรูด้ ้วยตนเอง 09.00 – 12.00 น. ชอ่ งทางการขยายอาชีพ (2 นก.) กศน.ตําบลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. อช31001 ตามอธั ยาศัย กจิ กรรมเรยี นรู้ด้วยตนเอง 09.00 – 12.00 น. ทักษะการขยายอาชีพ (4 นก.) กศน.ตําบลศรีโคตร 13.00 – 16.00 น. อช31001 ตามอธั ยาศยั กจิ กรรมเรยี นรดู้ ้วยตนเอง

สัปดาห์ วนั /เดือน/ปี เวลา วชิ า/กิจกรรม 8 ท่ี 1 ก.ย. 2565 09.00 – 12.00 น. ทกั ษะการขยายอาชพี (4 นก.) สถานท่จี ัดการเรยี น 18 13.00 – 16.00 น. อช31001 การสอน กิจกรรมเรียนรู้ดว้ ยตนเอง กศน.ตําบลศรโี คตร ตามอัธยาศัย 19 8 ก.ย. 2565 09.00 – 12.00 น. พัฒนาอาชีพใหม้ ีความมน่ั คง (2 นก.) กศน.ตําบลศรีโคตร 20 15 ก.ย. 2565 13.00 – 16.00 น. อช31003 17 – 18 กันยายน 2565 09.00 – 12.00 น. ตามอธั ยาศัย 13.00 – 16.00 น. กจิ กรรมเรยี นรู้ด้วยตนเอง กศน.ตําบลศรโี คตร 08.30 – 17.00 ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย (3 นก.) ตามอัธยาศัย สค32034 โรงเรยี นจตุรพักตร พมิ านรชั ดาภเิ ษก กิจกรรมเรยี นรดู้ ้วยตนเอง สอบปลายภาค ลงชอื่ ............................................................ครผู สู้ อน ( นางสาวจนั ทร์ทพิ ย์ ศรีลยั ) ครู กศน.ตาํ บล ช่อื ลง............................................................ผูร้ บั รองขอ้ มลู ( นางปทั มาภรณ์ ศรีเนตร ) ผอู้ ํานวยการ กศน.อาํ เภอจตรุ พักตรพมิ าน

1 แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าทักษะการเรียนรู้ ครัง้ ที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตําบลศรโี คตร 1. สปั ดาหท์ ี่ 2 วันท่ี 19 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00 น. 2. วชิ า ทกั ษะการเรียนรู้ รหสั วิชา ทร31001 จํานวน 5 หน่วยกติ 3. มาตรฐานท่ี 1.2 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ีต่อการใชแ้ หล่งเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 1.3 มคี วามร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การจัดการความรู้ 4. หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เร่ืองการเรียนรดู้ ้วยตนเอง 5. สาระสาํ คญั อธิบายความหมาย ความสําคัญ และ กระบวนการของการเรียนรู้ ด้วยตนเอง ปฏบิ ตั กิ ารฝกึ ทักษะ พนื้ ฐานทางการศึกษาหา ความรู้ ทักษะการแกป้ ัญหา และเทคนิคในการเรียนรู้ด้วย ตนเอง และการวางแผนการ เรยี นรู้ และการประเมินผล การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ฝกึ ปฏบิ ัติทักษะการพดู อธิบายปจั จยั ทท่ี าํ ให้ การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง ประสบ ความสาํ เร็จ 6. เน้อื หา 1. ความหมายและ ความสําคัญของทักษะการ เรยี นรู้ และกระบวนการของ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง 2. ทักษะพ้นื ฐานทาง การศึกษาหาความรู้ ทักษะการ แก้ปญั หาและเทคนิคในการ เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง รวมทัง้ การ วางแผนการเรยี นรู้ และการ ประเมนิ ผลการเรียนรดู้ ้วย ตนเอง 3. ทักษะการพดู และการทาํ แผนผังความคิด 4. ปัจจัย ทที่ าํ ให้การเรียนรู้ ด้วยตนเองประสบความสาํ เร็จ 7. จดุ ประสงคก์ ารเรียนร/ู้ ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวัง (ดูจากผังการออกขอ้ สอบ) 1. อธบิ ายความหมาย ความสาํ คญั และ กระบวนการของการเรยี นรู้ ดว้ ยตนเอง 2. ปฏิบตั กิ ารฝึกทกั ษะ พืน้ ฐานทางการศกึ ษาหา ความรู้ ทักษะการแก้ปญั หาและเทคนิคในการเรยี นรดู้ ้วย ตนเอง และการวางแผนการ เรียนรู้ และการประเมนิ ผล การเรียนรู้ด้วยตนเอง 3. ฝกึ ปฏิบตั ิทักษะการพูด 4. อธิบายปจั จยั ท่ีทําให้ การเรยี นรู้ดว้ ยตนเองประสบ ความสาํ เรจ็ 8. การบรู ณาการกบั หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง (2 เงอื่ นไข 3 หลักการ การเช่ือมโยงสู่ 4 มติ )ิ ความรู้ ผู้เรยี นอธิบายความหมาย ความสาํ คญั และ กระบวนการของการเรยี นรู้ ด้วยตนเอง ปฏบิ ตั ิการฝึกทักษะ พ้ืนฐานทางการศึกษาหา ความรู้ ทกั ษะการแกป้ ญั หา และเทคนคิ ในการเรียนรูด้ ้วย ตนเอง และการวางแผนการ เรยี นรู้ และการประเมินผล การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ฝกึ ปฏิบัติทกั ษะการพดู อธิบายปจั จัย ที่ทาํ ให้ การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองประสบ ความสาํ เรจ็ คณุ ธรรม - มคี วามชือ่ สตั ย์สุจรติ ในการทํางาน - มีความสามคั คีในหมู่คณะ - มีความขยนั อดทน พอประมาณ

2 - รู้จักการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองประสบ ความสาํ เร็จ มเี หตผุ ล - ได้มีการวางแผนการ เรยี นรู้ และการประเมินผล การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ฝึกปฏิบตั ิทักษะ - การพดู อธิบายปัจจยั ที่ทําให้ การเรียนรู้ดว้ ยตนเองประสบ ความสําเร็จ มีภมู ิคมุ้ กนั - สามารถทาํ ให้ การเรียนรู้ด้วยตนเองประสบ ความสาํ เร็จ วัตถุ - รจู้ ักเลือกใชเ้ ทคโนโลยีทเี่ หมาะสมสอดคล้องกบั ความตอ้ งการ - มีทกั ษะในการใช้อปุ กรณ์เทคโลโลยี และการดแู ลรกั ษา สงั คม - มีทกั ษะการอยรู่ ่วมกนั ในกลุ่ม และทํางานรว่ มกับผู้อ่นื ได้อยา่ งมีความสขุ - ชว่ ยเหลอื เกอ้ื กูลกนั - รูร้ กั สามคั คี สิง่ แวดลอ้ ม - รู้จกั กระบวนการจัดการความรดู้ ว้ ยตนเองและดว้ ยการรวมกลมุ่ ปฏิบตั กิ าร วฒั นธรรม - การอยูร่ วมกบั สังคมไดอ้ ยา่ งเป็นสขุ 9. กระบวนการจดั การเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ที่ 1 กาํ หนดสภาพปัญหาการเรยี นรู้(O : Orientation) - ครทู ักทายกล่าวนาํ และอธบิ ายความสาํ คญั ของการ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ซง่ึ เปน็ เครอื่ งมือสําคัญใน การ เรียนรู้ กศน. ประกอบด้วย ๑.๑ ทกั ษะการพดู และการฟัง ๑.๒ ทักษะการจดบนั ทกึ เช่น ผังความคดิ ๑.๓ ทกั ษะการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง ๑.๔ การใช้ทกั ษะ ขอ้ ๑.๑-๑.๓ กบั การเรียน กศน. - ครูเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนซักถาม ขอ้ สงสัย ก่อนเข้าสู่ ขั้นตอนต่อไป - ครูกําหนดกติกาเบ้ืองต้น ในการเรยี น กศน. ร่วมกบั ผู้เรยี น ๑. การปฏบิ ัตติ ัวในการเรยี นใหป้ ระสบความสาํ เรจ็ ผู้เรียนต้องใช้ทักษะที่จาํ เป็นตามที่ได้ กล่าวถึงในข้นั กําหนดสภาพปัญหา (การพูด การฟงั จดบันทึกแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง) 2. เข้าร่วมกิจกรรมและแสวงหาข้อมูลตามที่ไดร้ ับ มอบหมาย ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและจัดการเรยี นรู(้ N : New ways of learning) - ครูกาหนดกรอบเน้ือหาวิชาทักษะการเรยี นรู้ตามใบ งานกรอบเน้ือหาทักษะการเรียนรู้ ตาม ใบงานท่ี ๑ ๑) กรอบเน้ือหา ๒) ภารกจิ /งานทีต่ ้องปฏิบตั ิ/มอบหมาย ๓) วางแผนกาํ หนดวันเวลาท่ีส่งงาน และพบกล่มุ และวธิ ีการประเมินผล

3 - ครจู ดั กิจกรรมแบ่งกลุม่ เพ่อื มอบหมายให้ พิจารณา เน้อื หาตามใบงาน กลุม่ ละ ๑ เนอ้ื หา โดยแจก ให้ ครบท้งั ๕ เนอ้ื หา ดงั น้ี เนื้อหาท่ี ๑ การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง เนื้อหาที่ ๒ การใชแ้ หล่งเรียนรู้ เน้ือหาที่ ๓ การจัดการความรู้ เน้อื หาท่ี ๔ การคิดเปน็ เนอ้ื หาท่ี ๕ การวิจัยอยา่ งงา่ ย - ผู้เรยี นเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ ใหญ่ และรว่ มกนั กาํ หนดและสร้างขอ้ ตกลงในเงื่อนไข ๓ ข้อ ได้แก่ ๑) กรอบเนื้อหา ๒) ภารกจิ /งานทตี่ ้องปฏิบัต/ิ มอบหมาย ๓) กาํ หนดวันเวลาทีส่ ่ังงาน และพบกลุ่ม - ผู้เรยี น/ครู บนั ทกึ ข้อตกลงโดยจัดทาํ และบันทึก รอ่ งรอยการศกึ ษาด้วยตนเองตามแบบบนั ทึกท่ีครู มอบใหใ้ นใบงานที่ ๒ และทาํ เป็นเอกสารตามแบบท่ี กําหนด ในใบงานท่ี ๓ “ปฏทิ ินการเรยี นรรู้ ายบุคคล” - ครแู ละผเู้ รียนสรปุ ปจั จัยที่ทําใหก้ ารเรียนรู้ด้วย ตนเองประสบความสาํ เรจ็ - ครูมอบหมายภารกจิ ตามใบงานที่ ๔ และนัดหมาย ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนําไปใช้ (I : Implementation) - ฝึกปฏิบัติทักษะการพดู และการฟงั โดยใช้กิจกรรม แนะนําตนเอง (ใบงานท่ี ๕) ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E : Evaluation) - สงั เกตการเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละขนั้ ตอนและจด บันทึก - ข้นั ตอนที่ ๓ หากพบวา ทกั ษะการพูดของผู้เรยี น ่ คนใดควรปรบั ปรงุ ใหค้ รบู นั ทึกผลพรอ้ มทง้ั ฝกึ ทกั ษะเพิ่มเตมิ ให้เปน็ รายบคุ คลส่วนผู้เรยี นท่มี ีทกั ษะ ดอี ยแู่ ลว้ ครสู ง่ เสรมิ ให้ดยี งิ ข้นึ - จดบนั ทกึ ความกาวหน้าของผูเ้ รยี นในแต่ละทักษะ เปน็ รายบคุ คล 10. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ - หนังสือแบบเรียนทกั ษะการเรียนรู้ (ทร31001) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย - สอ่ื อินเทอร์เนต็ - หอ้ งสมดุ ประชาชน - แหล่งเรียนรูใ้ นชมุ ชน 11. การวัดและประเมินผล 11.๑. สงั เกต กระบวนการ มีส่วนรว่ ม 11.2. ผลงาน จากการเข้า ร่วม กระบวนการ กลุ่ม 11.๓. บนั ทกึ ข้อตกลง 11.๔. ภาพ/ ร่องรอยการ จดั กิจกรรม 11.๕. สอบถาม

4 กิจกรรมเสนอแนะ .................................................................................... ลงชือ่ …………………………………………….ครูผสู้ อน (นางสาวจนั ทร์ทพิ ย์ ศรลี ยั ) ครู กศน.ตําบล ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ………………………………………………………ผอู้ นมุ ัตแิ ผน (นางปทั มาภรณ์ ศรีเนตร) ผูอ้ ํานวยการ กศน.อาํ เภอจตรุ พกั ตรพมิ าน

5 บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ กศน.ตาํ บลศรโี คตร ครงั้ ท่ี 1 วนั ที่ 19 เดอื น..พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ครูผสู้ อนนางสาวจนั ทรท์ พิ ย์ ศรีลัย ระดับ มธั ยมศึกษาตอนปลาย เวลา 09.00-12.00 น. สาระทักษะการเรียนรู้ รายวชิ า ทกั ษะการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ทร31001 จํานวนผเู้ รยี นทงั้ หมด ............... คนเข้าเรยี น…………………คน ไมเ่ ขา้ เรยี น……………………….คน 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรกู้ ารประเมนิ โดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน พบวา่ คะแนนการทดสอบหลังเรียน มากกวา่ กอ่ นเรียนจํานวน ........ คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ คะแนนการทดสอบหลังเรียน น้อยกว่าก่อนเรียนจาํ นวน ......... คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ 2. เน้ือหา/สาระ ...................................................................... .......................................................................................... ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน ขั้นท่ี 1 กําหนดสภาพปญั หาการเรียนรู้ (O) ............................................................................................................................. ............................................... .................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ .................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ขั้นท่ี 2แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรียนรู้(N) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ขั้นท่ี 3การปฏิบัตแิ ละการนาํ ไปใช้(I) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ขั้นท่ี 4การประเมนิ ผลการเรียนรู้(E) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ...............................................

6 4. ปญั หา/อปุ สรรค การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ............................................... ...................................................... .......................................................................................................... ............ ............................................................................................................................. ............................................... 5. แนวทางการแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................. ............................................................................................... ............ ............................................................................................................................. ............................................... ลงช่ือ....................................................... (นางสาวจนั ทรท์ ิพย์ ศรีลยั ) ครผู ้สู อน วันท่ี.............../.................../............... ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ าร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................... .............................................. ............................................................................................................................................. ลงช่อื .................................................................. (นางปัทมาภรณ์ ศรเี นตร) ผู้อํานวยการ กศน.อาํ เภอจตรุ พกั ตรพมิ าน

7 ใบความรู้ ให้ผู้เรียนศกึ ษา เร่ืองการเรียนรดู้ ้วยตนเอง จาก QR-Code

8 ใบงานท่ี 1 วิชาทักษะการเรยี นรู้ การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ให้ผู้เรียนศึกษาขอ้ มูลเก่ียวกบั การเรยี นรู้ดว้ ยตนเองและตอบคาํ ถามตอ่ ไปนี้ 1. การเรียนรดู้ ้วยตนเอง หมายถึง ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... 2. การเรยี นรู้ดว้ ยตนเองมคี วามสาํ คัญอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... 3. ผเู้ รยี นคิดว่าการเรยี นรู้ด้วยตนเองสามารถนําความรู้ไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้หรือไมอ่ ยา่ งไรพร้อม ยกตัวอยา่ ง ประกอบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... 4. ใหผ้ ู้เรียนข้อมลู ทใ่ี ช้ประกอบในการพฒั นางานและการศึกษาต่อ หรือการสมคั รงานมา 1 อยา่ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... 5. จากตวั อยา่ งข้อมลู น้ี ใหผ้ ู้เรียนสรุปสาระสําคัญท่ีได้จากการอ่านข้อมลู สรุปสาระสาํ คัญไดด้ งั น้ี………………………………………………………………….…………….......................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………...... ………………………………………………………………………………………………………………………………………..………......

9 แผนการจัดการเรียนรูร้ ายวชิ าทักษะการเรียนรู้ ครงั้ ท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตําบลศรีโคตร 1. สปั ดาหท์ ่ี 3 วนั ท่ี 26 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00 น. 2. วชิ า ทักษะการเรียนรู้ รหัสวิชา ทร31001 จาํ นวน 5 หนว่ ยกิต 3. มาตรฐานท่ี 1.2 มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ีดีตอ่ การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ มาตรฐานท่ี 1.3มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ดี่ ีต่อการจัดการความรู้ 4. หน่วยการเรยี นรู้/เร่อื งการใชแ้ หล่งเรยี นรู้ และการจดั การความรู้ 5. สาระสําคัญ ความหมาย ความสาํ คัญ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ การใช้ห้องสมดุ และ แหล่งเรยี นรู้อ่นื ๆ ที่สาํ คญั รวมทง้ั การใช้ อนิ เตอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้ของตนเองบ่งช้ีข้อดีขอ้ เสียของแหลง่ เรียนรปู้ ฏบิ ตั ิการเรยี นรกู้ ับแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ ได้ เหมาะสม ความหมาย ความสําคญั หลกั การ กระบวนการจดั การความรู้ การรวมกลมุ่ เพื่อต่อยอดความรู้ การพฒั นา ขอบข่ายความรู้ของกลมุ่ การจดั ทาํ สารสนเทศเผยแพรค่ วามร้ปู ฏบิ ัตกิ ารด้านทักษะกระบวนการจดั การความรูด้ ว้ ย ตนเองและด้วยการรวมกลุ่มปฏบิ ัตกิ าร สรปุ องค์ความรู้ของกล่มุ จัดทาํ สารสนเทศองคค์ วามรูใ้ นการพฒั นาตนเอง ครอบครัว 6. เนอ้ื หา 1. ความหมาย ความสําคัญ ประเภทแหล่งเรยี นรู้ เข้าถงึ สารสนเทศ แหลง่ เรยี นรู้อน่ื ๆ ท่ีสําคญั รวมทง้ั การใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อการเรียนรูข้ องตนเอง 2. ขอ้ ควรคํานงึ ในการศึกษาเรียนรูก้ บั แหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ รวมท้งั นวัตกรรมและเทคโนโลยี 3. ความหมาย ความสาํ คัญ หลกั การ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลุ่มเพื่อต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบข่ายความรู้ของกลมุ่ การจดั ทาํ สารสนเทศเผยแพร่ความรู้ 4. ทักษะกระบวนการจดั การความรู้ดว้ ยตนเองและด้วยการรวมกล่มุ ปฏบิ ัติการ 5. สรุปองค์ความร้ขู องกลุ่ม จัดทาํ สารสนเทศองค์ความรู้ในการพฒั นาตนเอง ครอบครัว 7. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้/ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง (ดจู ากผังการออกขอ้ สอบ) 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคัญ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ การใชห้ อ้ งสมดุ และ แหล่งเรยี นรอู้ ่ืน ๆ ที่สาํ คัญ รวมทั้งการใช้อนิ เตอร์เน็ตเพ่ือการเรียนรู้ของตนเอง 2. บง่ ชีข้ ้อดขี ้อเสยี ของแหล่งเรียนรู้ 3. ปฏิบัติการเรียนรู้กบั แหลง่ เรียนรตู้ า่ งๆได้เหมาะสม 4. อธิบายความหมาย ความสําคัญ หลกั การ กระบวนการจัดการความรู้ การรวมกลุ่มเพ่ือต่อยอดความรู้ การพฒั นาขอบข่ายความรู้ของกลุม่ การจัดทาํ สารสนเทศเผยแพร่ความรู้ 5. ปฏบิ ตั กิ ารด้านทักษะกระบวนการจัดการความรู้ดว้ ยตนเองและดว้ ยการรวมกลมุ่ ปฏบิ ัติการ 6. สรปุ องค์ความรู้ของกลุ่ม จัดทาํ สารสนเทศองค์ความรใู้ นการพฒั นาตนเอง ครอบครวั 8. การบูรณาการกบั หลักแนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพียง (2 เงื่อนไข 3 หลักการ การเช่ือมโยงสู่ 4 มิต)ิ ความรู้ - ผูเ้ รยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจ ทกั ษะ และเจตคติที่ดีตอ่ การจดั การความรู้

10 คณุ ธรรม - มีความชือ่ สัตยส์ จุ ริตในการทาํ งาน - มคี วามสามัคคีในหมู่คณะ - มคี วามขยนั อดทน พอประมาณ - รูจ้ ักการเลือกใชส้ ่ือเทคโนโลยใี หเ้ ขา้ กบั ยุคสมยั - ใชท้ รพั ยากรกรอยา่ งคุม้ ค่าและเกดิ ประโยชน์สงู สดุ มเี หตผุ ล - ได้มกี ารใช้อนิ เตอร์เน็ตเพื่อการเรยี นร้ขู องตนเองบ่งชีข้ ้อดีข้อเสียของแหล่งเรียนรู้ปฏิบัติการ เรียนรู้กบั แหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสม มภี มู คิ ุ้มกัน - สามารถจัดทาํ สารสนเทศองค์ความรูใ้ นการพฒั นาตนเอง ครอบครัว วตั ถุ - รู้จักเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีทเี่ หมาะสมสอดคล้องกบั ความต้องการ - มีทักษะในการใชอ้ ปุ กรณเ์ ทคโลโลยี และการดูแลรักษา สังคม - มีทักษะการอยู่รว่ มกันในกลุ่ม และทํางานร่วมกับผู้อืน่ ได้อยา่ งมีความสุข - ชว่ ยเหลือเกอื้ กูลกนั - รูร้ กั สามัคคี สง่ิ แวดลอ้ ม - รจู้ ักกระบวนการจดั การความรดู้ ว้ ยตนเองและด้วยการรวมกลมุ่ ปฏบิ ัตกิ าร วฒั นธรรม - การใช้หอ้ งสมุดและ แหล่งเรียนรู้อน่ื ๆ ท่ีสาํ คญั รวมท้ังการใชอ้ ินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนรขู้ อง ตนเองบ่งชีข้ ้อดขี ้อเสียของแหลง่ เรยี นรู้ปฏบิ ัตกิ ารเรยี นรู้กบั แหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ ได้เหมาะสม 9. กระบวนการจดั การเรียนรู้และกจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี 1 กําหนดสภาพปัญหาการเรียนรู้(O : Orientation) 1. ครแู ละผู้เรียนร่วมกันกําหนดสภาพความจําเปน็ ที่ต้องเรียนร้ใู นเร่ืองต่อไปน้ี 1) ทําไมต้องเรียนร้ดู ้วยตนเอง? 2) ทําไมต้องใชแ้ หล่งเรียนรู้? 3) ทาํ ไมต้องจัดการความรู้? 2. ครูและผู้เรยี นรว่ มกันกําหนดกรอบ/เนือ้ หา เกยี่ วกับการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง การใช้แหลง่ เรยี นรู้ รวมท้งั การจัดการความรู้ ตามทเ่ี รียนรูค้ รั้งท่ีแลว้ 3. ครแู ละผู้เรียนร่วมกันวางแผนการเรียนรู้ ข้ันท่ี 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนร้(ู N : New ways of learning) 1. ครูใหผ้ ู้เรยี นศึกษาด้วยตนเองในหวั ข้อท่ีกาํ หนดในใบงานท่ี 1 เกี่ยวกบั - ความหมาย ความสาํ คัญของการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง ลักษณะการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง

11 - ความสําคัญของการเรียนรดู้ ้วยตนเองทีส่ ่งผลในดา้ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ และสรุปองค์ความรู้ จากการอา่ น - ความหมาย ความสาํ คญั และการเข้าถงึ แหลง่ เรียนรู้ - ความหมาย ความสาํ คญั หลักการของกระบวนการจดั การความรู้ และการรวมกลุ่มเพอ่ื ต่อยอด ความรกู้ ารพัฒนาขอบขา่ ยความร้ตู ่างๆ เพอื่ จัดทาํ ระบบสารสนเทศได้ 2. ผู้เรยี นศึกษาเนอื้ หาเพ่ิมเตมิ จากสื่ออินเตอรเ์ นต็ ขัน้ ท่ี 3 การปฏิบัติและการนําไปใช้ (I : Implementation) 1. ผเู้ รียนแบง่ ออกเปน็ กลมุ่ ๆ ละประมาณ 8 – 10 คน และมอบหมายให้ผูเ้ รยี นในแตล่ ะกล่มุ รว่ มกัน สรุปจากใบงานที่ผู้สอนแจกให้ผูเ้ รยี นศึกษาดว้ ยตนเองในหัวขอ้ กาํ หนดให้ 4 หวั ข้อ ได้แก่ 1) ความหมาย ความสาํ คญั ของการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองลักษณะการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ความสําคญั ของ การเรียนรูด้ ว้ ยตนเองท่ีสง่ ผลในดา้ นการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ และสรปุ องค์ความร้จู ากการอา่ น 2) ความหมาย ความสําคัญ และการเขา้ ถงึ แหลง่ เรยี นรู้ 3) ความหมาย ความสําคัญหลักการของกระบวนการจดั การความรู้ และการรวมกล่มุ เพื่อตอ่ ยอด ความรู้ 4) การพัฒนาขอบข่ายความรู้ต่างๆ เพ่ือจดั ทาํ ระบบสารสนเทศได้โดยให้แตล่ ะกลุม่ สรุปกลมุ่ ละ 1 หวั ขอ้ และครูสรุปหลงั จากแต่ละกลมุ่ นาํ เสนอแต่ละหวั ข้อแล้ว 2. ครมู อบหมายใหผ้ ูเ้ รยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันจดั ทาํ แผนผังความคดิ เร่ืองข้อดี ข้อเสยี ของส่ิงที่เกี่ยวข้องกับ ทักษะการเรยี นรู้ทงั้ 3 เรอื่ ง ไดแ้ ก่ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การใช้แหล่งเรียนรู้ การจัดการความร้ใู นกระดาษบรฟู๊ 3. ครสู รุปขอ้ ดีข้อเสยี จากขอ้ 2 จากแผนผงั ความคิดในกระดาษบร๊ฟู 4. ครูให้ผูเ้ รียนแบ่งกลมุ่ โดยการจบั คแู่ ละใหแ้ ต่ละครู่ ่วมกันแลกเปล่ยี นความรู้ 3 เรือ่ ง ได้แก่ 1) สรุปวิธีการประมวลความรู้ท่ไี ดจ้ ากการอา่ นการฟัง การสงั เกต การจดบันทึกเป็นสารสนเทศ 2) วิธีการเขา้ ถึงแหล่งเรียนรู้แต่ละประเภท 3) วิธีการจัดการความรู้ โดยการนาํ มาจัดทําเปน็ สารสนเทศเพื่อนาํ ไปใช้ 5. ครสู ่มุ ให้แตล่ ะคู่ออกมาเลา่ เร่ืองทร่ี ่วมกันแลกเปล่ยี นเรียนร้คู ู่ละ 1 หัวข้อ ให้ครอบคลุมทงั้ 3 เร่ือง 6.ครสู รปุ ความคิดรวบยอดกับผ้เู รยี นเกยี่ วกับเน้ือหา การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การจดั การแหลง่ เรียนรู้ และ การจดั การความรู้ ขั้นที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E : Evaluation) 1. ครูและผ้เู รียนร่วมกันประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจและทกั ษะการนาํ ไปใชต้ ามเกณฑ์ทก่ี ําหนดไว้ 2. ครมู อบหมายใบงานให้ผเู้ รียนไปศึกษาด้วยตนเองเรื่อง คิดเปน็ และการวจิ ัยอย่างง่าย เพอื่ นํามาพบ กลุม่ ในครั้งตอ่ ไป และบันทกึ ร่องรอยการเรียนรู้ดว้ ยตนเองตามแบบบนั ทึกที่กําหนด 10. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ - หนังสือแบบเรียนทักษะการเรยี นรู้ (ทร31001) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย - ส่อื อินเทอรเ์ น็ต - หอ้ งสมดุ ประชาชน - แหลง่ เรียนร้ใู นชุมชน 11. การวดั และประเมนิ ผล 11.1 วิธีการวดั และประเมนิ ผล

12 - ใบงาน 11.2 เครื่องมือวดั และประเมินผล. - ผลจากการตรวจใบงาน 11.3 เกณฑก์ ารวดั และการประเมินผล - ใบงานคะแนนเต็ม 10 คะแนน กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน (นางสาวจันทร์ทิพย์ ศรลี ยั ) ครู กศน.ตําบล ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ………………………………………………………ผ้อู นุมัตแิ ผน (นางปทั มาภรณ์ ศรเี นตร) ผู้อํานวยการ กศน.อาํ เภอจตุรพกั ตรพมิ าน

13 บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ กศน.ตาํ บลศรโี คตร คร้ังที่ 2 วนั ท่ี 26 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ครูผู้สอนนางสาวจันทรท์ ิพย์ ศรีลยั ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 09.00-12.00 น. สาระทกั ษะการเรยี นรู้ รายวิชา ทกั ษะการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ทร31001 จํานวนผูเ้ รียนทง้ั หมด ............... คนเข้าเรยี น…………………คน ไม่เขา้ เรียน……………………….คน 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรกู้ ารประเมนิ โดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรียน พบวา่ คะแนนการทดสอบหลงั เรยี น มากกว่ากอ่ นเรยี นจํานวน ........ คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ คะแนนการทดสอบหลังเรยี น น้อยกวา่ ก่อนเรยี นจาํ นวน ......... คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ 2. เนื้อหา/สาระ ................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ...................................................................................................................................................... ...................... 3. กิจกรรมการเรยี นการสอน ขน้ั ที่ 1 กาํ หนดสภาพปญั หาการเรยี นรู้ (O) ............................................................................................................................. ............................................... .................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ .................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ขน้ั ท่ี 2แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรยี นร(ู้ N) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ขน้ั ที่ 3การปฏบิ ตั แิ ละการนาํ ไปใช้(I) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ข้นั ท่ี 4การประเมนิ ผลการเรียนรู้(E) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ...............................................

14 4. ปญั หา/อุปสรรค การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ............................................... ...................................................... .......................................................................................................... ............ ............................................................................................................................. ............................................... 5. แนวทางการแกป้ ญั หา ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................. ............................................................................................... ............ ............................................................................................................................. ............................................... ลงชื่อ....................................................... (นางสาวจนั ทร์ทพิ ย์ ศรลี ัย) ครผู ูส้ อน วนั ท.ี่ ............../.................../............... ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................. ............................ ลงช่ือ.................................................................. (นางปัทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผอู้ ํานวยการ กศน.อาํ เภอจตุรพกั ตรพิมาน

15 ใบความรู้ ใหผ้ ้เู รียนศึกษา เรือ่ งการใช้แหล่งเรยี นรู้ และการจดั การความรู้ จาก QR-Code

16 ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาขอ้ มลู เก่ยี วกับการเรียนรูด้ ว้ ยตนเองและตอบคําถามตอ่ ไปน้ี 1. การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… 2. การเรียนรูด้ ้วยตนเองมคี วามสําคญั อย่างไร ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… 3. ผู้เรยี นคิดว่าการเรียนรดู้ ว้ ยตนเองสามารถนําความรู้ไปใช้ในการแกป้ ัญหาไดห้ รือไม่อย่างไรพร้อม ยกตวั อยา่ ง ประกอบ ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… 4. ให้ผ้เู รียนขอ้ มลู ทีใ่ ชป้ ระกอบในการพฒั นางานและการศึกษาต่อ หรอื การสมัครงานมา 1 อยา่ ง ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......…………………………………………………………………………

17 ใบงานที่ 2 เรอื่ ง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ ให้ผู้เรยี นศึกษาขอ้ มูลเกยี่ วกบั การใช้แหลง่ เรยี นรูแ้ ละตอบคําถามต่อไปน้ี 1. แหล่งเรยี นรู้ หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… 2. แหลง่ เรียนร้มู คี วามสําคัญอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… 3. แหลง่ เรยี นรู้แบง่ ตามลักษณะได้ 6 ประเภท ได้แก่ แหล่งเรยี นรูป้ ระเภทบุคคล/ธรรมชาติ/วัสดุ และสถานท/่ี สอ่ื / เทคนคิ และกิจกรรม ใหท้ ่านบอกแหล่งเรยี นรู้ทที่ า่ นรจู้ กั มา 2 แหลง่ ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… 4. หากท่านต้องการใชบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ ทา่ นจะต้องปฏบิ ัติตนอย่างไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… 5. ใหท้ า่ นอธิบายการใช้แหล่งเรยี นรูท้ ่ีทา่ นสนใจนอกจากห้องสมดุ มา 1 แห่ง ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… 6. ให้ท่านอธบิ ายวธิ ีการค้นหาขอ้ มลู ทาง Internet พรอ้ มเสนอตัวอยา่ งท่ีไดจ้ าการค้นหาข้อมูลจาก Internet มา 1 ตัวอย่าง ………………………………………………………………………………………………......……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......………………………………………………………………

18 ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง การจดั การความรู้ ใหผ้ เู้ รยี นศึกษาข้อมลู เกี่ยวกับการจดั การความรู้ และตอบคาํ ถามต่อไปนี้ การจัดการความรู้ หมายถงึ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การจัดการความรู้ มคี วามสําคญั อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผ้เู รยี นมวี ิธกี ารจดั การความรู้อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ชมุ ชนนักปฏิบตั ิ หรอื ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ (CoPs) คืออะไร และมีความสําคัญอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษา “โมเดลปลาทู” แลว้ อธิบาย “โมเดลปลาทู” ทเ่ี ปรยี บเทียบการจดั การความรู้ เหมือน ปลาทูตัวทมี่ ี 3 สว่ น โดยตอบคําถามขา้ งล่างนี้ โมเดลปลาทู 1. ส่วน “หัวปลา” (knowledge Vision-KV) หมายถึง ....................................................................... 2. สว่ น “ตวั ปลา” (Knowledge Sharing-KS) หมายถงึ ..................................................................... 3. ส่วน “หางปลา” (Knowledge Assets-KA) หมายถึง ....................................................................

19 แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาทกั ษะการเรียนรู้ ครั้งท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย กศน.ตาบลศรโี คตร 1. สัปดาห์ที่ 4 วันที่ 2 เดอื น มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00 น. 2. วชิ า ทกั ษะการเรยี นรู้ รหสั วิชา ทร31001 จาํ นวน 5 หน่วยกติ 3. มาตรฐานท่ี 1.4 มคี วามรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ี่ดตี ่อการคิดเปน็ มาตรฐานท่ี 1.5 มีความร้คู วามเข้าใจ ทักษะ และเจตคตทิ ่ีดีต่อการวิจัยอย่างงา่ ย 4. หนว่ ยการเรียนร/ู้ เรอ่ื งการคดิ เปน็ และการวิจัยอย่างง่าย 5. สาระสําคัญ ความหมาย ความสาํ คัญของการคดิ เป็น การรวบรวมและวิเคราะหส์ ภาพปัญหา ของตนเอง ครอบครวั ชุมชน และคิดวิเคราะห์ โดยใชข้ ้อมลู ด้านตนเอง ดา้ นวชิ าการ และดา้ นสงั คม สิง่ แวดล้อม แนวทางทางเลือกที่หลากหลายในการแกป้ ญั หาอย่างมเี หตุผล มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และมีความสุข การประยุกต์ใช้ อยา่ งมีเหตุผลเหมาะสมกับตนเอง ครอบครัว และชมุ ชน/สงั คม และความหมายความสาํ คัญการวจิ ยั อย่างง่าย กระบวนการและขน้ั ตอนของการดาํ เนินงาน อธิบายและฝึกปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั สถิติง่าย ๆ เพื่อการวจิ ยั สร้างเครื่องมือการ วจิ ยั อย่างงา่ ย ๆ ปฏิบตั กิ ารเขียนโครงการวิจัยอยา่ งง่าย ๆ และมที ักษะการวจิ ยั ในอาชพี การเขยี นรายงานวิจยั การ นาํ เสนอและเผยแพรง่ านวจิ ยั 6. เนอื้ หา 1. ความเชอ่ื พืน้ ฐานทางการศึกษาผู้ใหญ/่ การศึกษานอกระบบ ที่เชื่อมโยงมาสู่ปรชั ญาคิดเปน็ 2. ความหมาย ความสําคัญของ การคดิ เป็นการรวบรวมและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหา ของตนเอง ครอบครวั ชุมชน และคิดวิเคราะหโ์ ดยใชข้ ้อมูลดา้ นตนเอง ดา้ นวชิ าการ และ ด้านสังคมสิ่งแวดลอ้ ม 3. กระบวนการและเทคนิคการเก็บข้อมูล การวเิ คราะห์ และสงั เคราะห์ข้อมูล ทั้ง 3 ประการ ของบุคคล ครอบครวั และชุมชน เพอ่ื ประกอบการคิด การตัดสนิ ใจ 4. การกาํ หนดแนวทางทางเลือกทีห่ ลากหลายในการแก้ปญั หาอยา่ ง มเี หตุผล มคี ุณธรรม จริยธรรม และมีความสุขอย่างย่งั ยนื การประยกุ ต์ใช้อยา่ งมีเหตผุ ลเหมาะสมกับตนเอง ครอบครัว และ ชมุ ชน/สังคม 5. ความหมาย ความสําคญั การวจิ ัยอย่างง่าย กระบวนการและข้นั ตอนของการดําเนนิ งาน 6. สถติ งิ ่าย ๆ เพ่ือการวจิ ัย 7. การสรา้ งเครื่องมือการวิจัย การเขียนโครงการวจิ ัยอย่างง่าย ๆ 8. ทักษะการวิจยั ในอาชีพ การเขยี นรายงานวิจยั การนาํ เสนอและเผยแพร่งานวจิ ยั 7. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้/ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั (ดจู ากผังการออกข้อสอบ) 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคญั ของการคดิ เปน็ 2. รวบรวมและวิเคราะหส์ ภาพปญั หา ของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และคดิ วิเคราะห์ โดยใชข้ ้อมูล ด้าน ตนเอง ด้านวิชาการ และดา้ นสงั คม ส่งิ แวดล้อม 3. กาํ หนดแนวทางทางเลือกทห่ี ลากหลายในการแก้ปญั หาอย่างมเี หตุผล มีคุณธรรม จริยธรรม และมี ความสุข การประยุกต์ใช้อย่างมเี หตผุ ลเหมาะสมกับตนเอง ครอบครวั และชุมชน/สงั คม 4. อธบิ ายความหมายความสําคัญการวิจยั อย่างง่าย กระบวนการและขั้นตอนของการดําเนนิ งาน

20 5. อธบิ าย และฝึกปฏิบัติเกย่ี วกบั สถติ ิง่าย ๆ เพ่ือการวิจัย 6. สร้างเครื่องมือการวิจยั อย่างงา่ ย ๆ 7. ปฏิบตั กิ ารเขยี นโครงการวิจยั อย่าง ง่าย ๆ และมีทักษะการวิจยั ในอาชพี การเขียนรายงานวจิ ยั การ นําเสนอและเผยแพรง่ านวจิ ยั 8. การบรู ณาการกบั หลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (2 เงอื่ นไข 3 หลกั การ การเชื่อมโยงสู่ 4 มิต)ิ ความรู้ - มีความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และเจตคติท่ดี ตี ่อการคดิ เป็น - มคี วามรคู้ วามเข้าใจ ทกั ษะ และเจตคติที่ดีต่อการวิจัยอยา่ งง่าย คณุ ธรรม - มคี วามชอ่ื สัตย์สจุ ริตในการทํางาน - มีความสามัคคีในหมู่คณะ - มคี วามขยนั อดทน พอประมาณ - รู้จกั การเลอื กใช้สือ่ เทคโนโลยีใหเ้ ขา้ กับยุคสมัย - ใชท้ รัพยากรกรอยา่ งค้มุ ค่าและเกิดประโยชนส์ ูงสุด มเี หตุผล - ไดม้ กี ารใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการเรยี นรู้ของตนเองบ่งชขี้ ้อดีข้อเสยี ของแหลง่ เรยี นร้ปู ฏบิ ัติการ เรยี นรูก้ ับแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสม มีภูมิคุม้ กนั - สามารถจัดทาํ สารสนเทศองคค์ วามรู้ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว วัตถุ - รจู้ ักเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสอดคลอ้ งกับความต้องการ - มีทักษะในการใช้อปุ กรณเ์ ทคโลโลยี และการดูแลรักษา สังคม - มที กั ษะการอย่รู ่วมกันในกลุ่ม และทํางานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้อย่างมคี วามสขุ - ช่วยเหลอื เกอ้ื กลู กนั - รู้รกั สามัคคี ส่ิงแวดล้อม - รจู้ กั กระบวนการจัดการความรู้ดว้ ยตนเองและดว้ ยการรวมกลุ่มปฏิบตั ิการ วฒั นธรรม - การใชห้ อ้ งสมุดและ แหลง่ เรยี นรู้อื่น ๆ ท่สี าํ คัญ รวมทงั้ การใชอ้ นิ เตอร์เน็ตเพ่ือการเรยี นร้ขู อง ตนเองบง่ ชข้ี ้อดขี ้อเสียของแหลง่ เรยี นรู้ปฏบิ ตั ิการเรียนรกู้ บั แหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ ไดเ้ หมาะสม 9. กระบวนการจดั การเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 กาํ หนดสภาพปญั หาการเรียนรู้ 1. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันบอกปญั หาตา่ งๆ ท่ีเกิดขึน้ ในชีวิตหรือในชุมชนของตน หรอื ปญั หาปัจจบุ ันที่ มผี ลกระทบต่อชวี ิตและทรัพย์สินโดยตรงของผู้เรียน”โดยบันทึกในกระดาษบรู๊ฟ/ครแู ละผู้เรยี นจัดลาํ ดบั ความสําคญั ของปญั หาที่นาํ เสนอ 2. ครใู หร้ ู้เรียนร่วมกันหาวิธีแกป้ ัญหาท่ีสาํ คัญท่สี ุดที่ไดจ้ ากการเสนอในข้นั ตน้

21 ขัน้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู และจดั การเรยี นรู้ 1. ครมู อบหมายใหผ้ ูเ้ รียนไปแสวงหาความรเู้ รื่องกระบวนการคดิ เป็น และการวิจัยอย่างง่าย ตามใบงานที่ 1,2 ท่มี อบหมายไวใ้ นครง้ั ก่อน 2. ผเู้ รยี นศึกษาเนือ้ หาเพ่ิมเติมจากสื่ออินเตอร์เนต็ ขน้ั ที่ 3 การปฏิบตั แิ ละการนําไปใช้ 1. ครูใหผ้ เู้ รยี นนําเสนอผลการศกึ ษาเรือ่ ง “คดิ เปน็ ” โดยใช้สมุ่ ถามเป็นรายบุคคลในแตล่ ะดา้ น 2. ผูเ้ รียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่มศกึ ษากรณตี ัวอย่าง 5 ตวั อย่างกลุม่ ละ 1 ตวั อย่างตามใบงานที่ 3 (3.1 - 3.5) แล้วเสนอประเด็นขอ้ เรียนรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาตอ่ กลมุ่ ใหญ่ 3. ครแู ละผู้เรียนรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้ทีไ่ ดพ้ ร้อมทั้งเสนอ Model คิดเปน็ ประกอบการอธบิ าย ค่นั ดว้ ยกจิ กรรมนนั ทนาการ 4. ครูแนะนําวธิ ีการแกป้ ัญหาที่เชื่อถือได้อีกวธิ ีหน่ึง คือ การวิจยั อยา่ งงา่ ย 5. ครสู ุ่มถามผเู้ รียนให้ตอบคําถามท่ีเกีย่ วกับการวิจยั อย่างง่ายตามทีไ่ ด้ศกึ ษาในใบงานท่ี 2 และนาํ เสนอ การศกึ ษาดว้ ยตนเอง ในเร่ืองการวิจัยอย่างง่าย ประมาณ 3 – 4 คน คนละ 1 ตัวอย่าง 6. ครูแนะนําวทิ ยากรรบั เชญิ ใหค้ วามรู้เรอื่ ง “วจิ ัยอยา่ งงา่ ย” และเชญิ วิทยากรใหค้ วามรใู้ นเรอ่ื ง ความหมาย ความสาํ คญั การวิจยั อย่างงา่ ย กระบวนการและข้ันตอนของการดําเนนิ งาน สถิติง่ายๆ เพื่อการวจิ ัย การ สร้างเครือ่ งการวจิ ยั การเขยี นโครงการวจิ ยั อย่างง่ายๆ การนําเสนอและเผยแพรง่ านวิจยั ขั้นท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ 1. ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ เรื่องการแก้ปัญหาโดยการวจิ ยั อยา่ งง่ายจากการสอนของวิทยากร 2. ครมู อบหมายใหผ้ ้เู รียนจัดกลุ่มๆ ละ 3 คนไปแกป้ ัญหาเรอ่ื งท่ีกลุม่ สนใจโดยการวจิ ัยอย่างง่ายและ เขียนรายงานสง่ ตามใบงานท่ี 4 9. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ - หนงั สือแบบเรียนทักษะการเรียนรู้ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย - สือ่ อินเทอรเ์ น็ต - ห้องสมดุ ประชาชน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วธิ ีการวัดและประเมินผล - ใบงาน 10.2 เครอ่ื งมอื วัดและประเมินผล. - ผลจากการตรวจใบงาน 10.3 เกณฑก์ ารวัดและการประเมินผล - ใบงานคะแนนเตม็ 10 คะแนน

22 กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ…………………………………………….ครูผสู้ อน (นางสาวจนั ทร์ทพิ ย์ ศรลี ยั ) ครู กศน.ตาํ บล ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ...................................... ลงช่ือ………………………………………………………ผ้อู นุมตั แิ ผน (นางปัทมาภรณ์ ศรีเนตร) ผูอ้ าํ นวยการ กศน.อําเภอจตุรพักตรพิมาน

23 บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ กศน.ตําบลศรโี คตร ครั้งท่ี 3 วันที่ 2 เดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. 2565 ครผู ู้สอนนางสาวจันทร์ทิพย์ ศรลี ัย ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย เวลา 09.00-12.00 น. สาระทกั ษะการเรียนรู้ รายวชิ า ทกั ษะการเรียนรู้ รหัสวิชา ทร31001 จาํ นวนผูเ้ รียนทงั้ หมด ............... คนเขา้ เรียน…………………คน ไม่เขา้ เรียน……………………….คน 1. ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรกู้ ารประเมินโดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน พบวา่ คะแนนการทดสอบหลังเรียน มากกว่ากอ่ นเรยี นจํานวน ........ คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ คะแนนการทดสอบหลงั เรยี น นอ้ ยกว่าก่อนเรียนจาํ นวน ......... คนคิดเปน็ รอ้ ยละ............ 2. เน้ือหา/สาระ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... 3. กิจกรรมการเรยี นการสอน ข้ันท่ี 1 กาํ หนดสภาพปญั หาการเรียนรู้ (O) ............................................................................................................................. ............................................... .................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ .................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ขั้นที่ 2แสวงหาขอ้ มูลและจัดการเรยี นร้(ู N) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ขน้ั ที่ 3การปฏิบัติและการนําไปใช้(I) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ข้ันท่ี 4การประเมินผลการเรียนรู(้ E) ............................................................................................................................. ............................................... ................................................................................................................................................................ ............ ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... 4. ปัญหา/อปุ สรรค การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ...............................................

24 ...................................................... .......................................................................................................... ............ 5. แนวทางการแก้ปัญหา .................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ....................................................................................................................................................... ..................... ลงชอื่ ....................................................... (นางสาวจนั ทรท์ ิพย์ ศรลี ัย) ครผู สู้ อน วันที.่ ............../.................../............... ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ..................................................................... ........................................................................................... ............ ลงชอ่ื .................................................................. (นางปทั มาภรณ์ ศรีเนตร) ผู้อาํ นวยการ กศน.อําเภอจตุรพกั ตรพมิ าน

25 ใบความรู้ท่ี 1 ให้ผูเ้ รียนศกึ ษา เรื่องการคิดเปน็ และการวิจยั อย่างงา่ ย จาก OR-Code

26 ใบงานท่ี 1 เรื่อง คิดเปน็ คาสง่ั ใหท้ ่านคดั เลือกขา่ วเกย่ี วกบั สภาพสังคมปจั จบุ นั ที่ท่านสนใจมา 1 ขา่ ว และดําเนินการ วเิ คราะห์วา่ ข่าวน้ีดี หรือไม่ เหมาะสม อยา่ งไร พรอ้ มให้เหตผุ ลในการวเิ คราะห์ขา่ วว่า ได้นําข้อมูลด้านตนเอง ด้าน สังคมสง่ิ แวดล้อม และดา้ นวชิ าการ มาใช้ประกอบในการวเิ คราะห์ เขียนตามแบบกาํ หนด เขียนหัวขอ้ ข่าว…………………………………………………………………………………………………… รายละเอียดของข่าว (ตดั ขา่ วมาตดิ ไว้) สังเคราะห์ข่าวไดด้ งั น้ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………………….. (………………………………………………)

27 ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง การวจิ ยั อยา่ งงา่ ย ชอ่ื สกุล ....................................................................... รหัสประจาํ ตวั ........................................................... ใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษาเรื่องการวจิ ยั อยา่ งง่าย และตอบคําถาม ต่อไปน้ี 1. การวจิ ัย หมายถึง ………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………… 2. การวิจัย มีความสาํ คัญอย่างไร ………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………… 3. องค์ประกอบในการวิจยั มีหัวขอ้ อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………… 4. สถติ งิ ่าย ๆ ทใ่ี ชเ้ พื่อการวิจัย มีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………… 5. เครอื่ งมอื การวิจยั ทีน่ ิยมใช้มาก ได้แก่ (1)…………………………………………………………….……………………………………………………….……………….… (2)………………………………………………………………………………………………………………………………………… (3)………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. จงบอกวธิ ีการเผยแพรง่ านวจิ ยั มา 3 วิธี ………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………… …………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………………… 7. ประโยชนข์ องการวจิ ยั ………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………

28 แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาเศรษฐกิจพอเพียง ครงั้ ที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตาํ บลศรโี คตร 1. สัปดาห์ท่ี 5 วันที่ 9 เดอื น มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00 น. 2. วิชา เศรษฐกิจพอเพียง รหัสวชิ า ทช31001 จาํ นวน 1 หนว่ ยกิต 3. มาตรฐานท่ี 4.1 มคี วามรู้ความเขา้ ใจ เจตคตทิ ี่ดีเกีย่ วกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและประยุกตใ์ ช้ในการ ดาํ เนินชีวิตไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 4. หน่วยการเรียนร/ู้ เร่อื ง ชมุ ชนพอเพียงและการแกป้ ัญหาชมุ ชน 5. สาระสําคญั ความหมาย ความสําคญั ของการบรหิ ารจัดการชมุ ชน การวเิ คราะหช์ มุ ชน ดา้ นสังคม เศรษฐกิจ สง่ิ แวดล้อม และวฒั นธรรม การประยกุ ต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในการแก้ไขปญั หาของชมุ ชน และการพฒั นา 6. เนอ้ื หา 1. ความหมาย ความสําคัญ การบริหารชุมชนพอเพียง 2. การบริหารจัดการชมุ ชน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 7. จดุ ประสงค์การเรียนร/ู้ ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั (ดูจากผังการออกข้อสอบ) 1. อธบิ ายความหมาย ความสําคัญและการบรหิ ารจดั การชมุ ชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2. สามารถบอกวิธีการในการบริหารจัดการชุมชนได้ 3. สามารถประยกุ ต์ใช้เศรษฐกิจพอเพยี งในการรบั การเปล่ียนแปลงของชมุ ชนได้ ๘. การบรู ณาการกบั หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง (2 เงือ่ นไข 3 หลกั การ การเช่ือมโยงสู่ 4 มติ ิ) ความรู้ - ความหมาย ความสําคัญ การบริหารชมุ ชนพอเพยี ง - การบริหารจดั การชมุ ชน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง คุณธรรม - มีความมุ่งมั่นในการทาํ งาน - มคี วามสามคั คใี นหมู่คณะ - มคี วามประนีประนอม นึกถึงผลประโยชน สวนรวมเปนหลกั พอประมาณ - รจู้ ักการผลติ การบริโภคทีพ่ อประมาณ - ใช้หลกั การเกษตรในท่ีของตนได้อย่างคุ้มคา่ และเกิดประโยชน์สงู สุด มีเหตุผล - ไดค้ วามรู้เกีย่ วกบั หลักเศรษฐกิจพอเพียง - สรา้ งครอบครวั ให้อบอ่นุ และบรหิ ารจัดการชมุ ชนใหย้ ั่งยืน มภี ูมคิ ้มุ กนั - สามารถสรา้ งรายได้และสามารถเตรียมพรอ้ มรับสถานการณก์ ารเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกจิ ได้

29 วัตถุ - ร้จู ักเลอื กใช้เทคโนโลยที ่เี หมาะสมสอดคลอ้ งกบั ความต้องการและสง่ิ แวดล้อม พัฒนาเทคโนโลยจี ากภูมิปัญญาชาวบา้ น สงั คม - มีทักษะการอยูร่ ่วมกนั ในกลุ่ม และทาํ งานรว่ มกับผู้อ่นื ได้อย่างมีความสุข - ช่วยเหลือเกอื้ กูลกนั - แบง่ ปนั กัน - สง่ิ แวดล้อม - รจู้ ักการจักการบรหิ ารชุมชน - รู้จกั คณุ คา่ ของธรรมชาติ ใช้สงิ่ ทธ่ี รรมชาติให้มาให้เปน็ ประโยชน์ที่สุด วัฒนธรรม - รรู้ ักสามัคคี - สรา้ งความเขม็ แข็งให้ครอบครัวและชมุ ชน รักษาเอกลักษณแ์ ละภมู ปิ ญั ญาไทย 9. กระบวนการจดั การเรียนรู้และกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 1 กาํ หนดสภาพปัญหาการเรียนรู้ (O : Orientation) ครผู สู้ อนและนักศึกษาสนทนาแลกเปลีย่ นถงึ ปัญหาของชมุ ชน ผลกระทบด้านตา่ งๆทม่ี ใี น ปจั จุบนั ว่าเป็นอย่างไร ข้นั ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 1. ให้นกั ศึกษาทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นดว้ ย Google form เพื่อทดสอบความรเู้ บือ้ งต้น 2. ใหน้ ักศึกษาศกึ ษาเรื่องความสาํ คญั ของชมุ ชนท่มี ีต่อตัวนักศึกษาและประชาชน จาก หนังสือเรยี นสาระความร้พู นื้ ฐาน รายวชิ าเศรษฐกจิ พอเพียง ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย รหสั ทช31001 3. ครูใช้สอื่ You Tube เรื่อง ชมุ ชนพอเพยี งและการแก้ปญั หาชมุ ชน เพ่ืออธิบาย ความรู้เพิม่ เติมให้นักศึกษา ข้นั ที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละการนําไปใช้ ( I : Implementation) 1. ครูและนักศึกษาร่วมกนั สรปุ หลังจากทกุ กลมุ่ นําเสนอหน้าช้นั เรียน 2. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมในส่วนของความรูท้ ยี่ ังไม่ครบถ้วนเกี่ยวกบั ความหมายความสําคัญ และกระบวนการของหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ขน้ั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ ครผู ูส้ อนสรุปผลจากการนําเสนอ และเติมเต็มองค์ความรพู้ รอ้ มมอบหมายงาน

30 10. สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ 1. ใบความรู้ 2. หนังสือเรียน 3. ใบงาน 11. การวดั และประเมินผล 11.1 วธิ ีการวัดและประเมินผล - แบบประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมการทาํ งานร่วมกบั ผอู้ นื่ ของนักศึกษารายบคุ คล - ใบงาน - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลังเรยี น 11.2 เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล. - ประเมินผลการสังเกตพฤตกิ รรมการทาํ งานร่วมกับผู้อื่น ของนักศึกษารายบุคคล - ผลจากการตรวจใบงาน - คะแนนแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 11.3 เกณฑก์ ารวดั และการประเมินผล - แบบประเมินผลการสงั เกตพฤติกรรมการทํางานร่วมกับผู้อนื่ ของนักศึกษารายบุคคล ระดบั ดี พอใช้ และควรปรบั ปรงุ - ใบงานคะแนนเต็ม 10 คะแนน - แบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรยี น เกณฑ์ผ่านและไมผ่ ่าน กจิ กรรมเสนอแนะ ......................................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. ........................ ลงชื่อ…………………………………………….ครูผู้สอน (นางสาวจนั ทร์ทพิ ย์ ศรลี ัย) ครู กศน.ตําบล ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………………………………………………………ผอู้ นุมัตแิ ผน (นางปัทมาภรณ์ ศรเี นตร) ผู้อํานวยการ กศน.อําเภอจตุรพักตรพิมาน

31 บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ กศน.ตาบลศรีโคตร ครง้ั ที่ 4 วนั /เดือน/ปีวันที่ 9 เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ. 2565 ครูผูส้ อนนางสาวจนั ทรท์ ิพย์ ศรีลัย ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เวลา 09.00-12.00 น. สาระความรู้พนื้ ฐาน รายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง รหัสวิชา ทช31001 จาํ นวนนักศึกษาทั้งหมด ............... คนเข้าเรียน…………………คน ไม่เข้าเรยี น……………………….คน 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้การประเมินโดยใช้ แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น พบว่า คะแนนการทดสอบหลงั เรียน มากกว่ากอ่ นเรยี นจานวน ........ คนคิดเปน็ ร้อยละ............ คะแนนการทดสอบหลังเรียน น้อยกว่าก่อนเรยี นจานวน ......... คนคิดเป็นรอ้ ยละ............ 2. เน้อื หา/สาระ/รายวชิ า ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... 3. กิจกรรมการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... 4. ปญั หา/อปุ สรรคการเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... 5. แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................ ... ............................................................................................................................. ...................................... ลงชือ่ .........................................................(ผบู้ นั ทึก) (นางสาวจนั ทรท์ พิ ย์ ศรลี ัย) ครู กศน.ตาบล ความเหน็ /ข้อเสนอของผบู้ ริหาร วนั ที่.............../.................../............... ..................................................................................................................................... .............................. .................................................................................................... ............................................................... ลงช่ือ.................................................. (นางปัทมาภรณ์ ศรเี นตร)

32 ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอจตุรพักตรพมิ าน ใบความรู้ ที่ 1 เรอื่ งท่ี 1 ความหมาย ความสาคญั การบริหารชุมชนพอเพยี ง โครงสร้างของชุมชน ประกอบดว้ ย 3 ส่วนคือ 1. กลุ่มคน หมายถงึ การทีค่ น 2 คนหรอื มากกวา่ นั้นเข้ามาติดตอ่ เกี่ยวข้องกัน และมีปฏิสัมพันธ์ตอ่ กันทาง สังคมในช่วั เวลาหน่งึ ดว้ ย ความมุ่งหมายอยา่ งใดอย่างหน่ึงร่วมกนั 2. สถาบันทางสงั คม เม่ือคนมาอยู่รวมกนั เปน็ กลมุ่ แลว้ และมีววิ ฒั นาการไปถงึ ขั้นตั้งองค์กรทางสงั คมแลว้ ก็ จะมีการกําหนดแบบแผนของการปฏิบตั ิต่อกันของสมาชิกในกลุ่มเพื่อสามารถดาํ เนนิ การตามภารกิจ 3. สถานภาพและบทบาทสถานภาพ หมายถึง ตาํ แหน่งทางสังคมของคนในกลุม่ หรือสงั คมบทบาทหมายถงึ พฤติกรรมที่คนในสังคมตอ้ งทําตามสถานภาพในกลมุ่ หรือสังคมชมุ ชนท่ีมีความสามารถในการบรหิ ารจัดการชมุ ชน อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ต้องมีองคป์ ระกอบสําคัญหลายประการและสามารถพัฒนาหรือควบคมุ องคป์ ระกอบเหลา่ นนั้ ได้ โดยมนี ักวชิ าการหลายทา่ นท่ีได้ศกึ ษาและวิเคราะห์องค์ประกอบการพัฒนาชมุ ชนไวต้ ามแนวคิดการพัฒนาชุมชน ดงั ต่อไปน้ี สนทยา พลตรี (2533 : 65 – 68) ได้กล่าวถงึ การพัฒนาชมุ ชนว่ามีองค์ประกอบ 2 ประการ สรุปได้ ดงั น้ี 1. การเข้ามสี ่วนรว่ มของประชาชน เพอ่ื ที่จะปรบั ปรุงระดับความเปน็ อยูใ่ ห้ดีข้ึน โดยจะต้องพง่ึ ตนเองใหม้ าก ทีส่ ุดเทา่ ทจ่ี ะเปน็ ได้ และควรเป็นความริเรมิ่ ของชมุ ชนเองด้วย 2. การจัดให้มีการบรกิ ารทางเทคนิคและบรกิ ารอนื่ ๆที่จะเร่งเรา้ ให้เกิดความคดิ ริเริ่ม การชว่ ยเหลือตนเอง ชว่ ยเหลือกนั และกัน อนั เปน็ ประโยชนม์ ากทส่ี ุด คณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ (2539 : 1 – 2) ได้กล่าวถงึ ลักษณะการพัฒนาคน และส่ิงแวดล้อม ซ่งึ อาจถอื ว่าเปน็ องค์การพฒั นาชมุ ชนดว้ ย สรปุ ไดด้ ังน้ี 1. การพัฒนาคนประกอบดว้ ย 4 ด้านดังนี้ ดา้ นจิตใจ ด้านร่างกาย ดา้ นสติปญั ญา ดา้ นบคุ ลิกภาพ 2. การพัฒนาสภาพแวดลอ้ มใหเ้ อือ้ ต่อการพฒั นา ประกอบด้วย 4 ด้านดงั นี้ ด้านเศรษฐกิจ ดา้ นครอบครัวและชุมชน ด้านทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ ม ด้านการบริหารจัดการและการเมือง สพุ ัตรา สภุ าพ (2536 : 124 – 126) ไดก้ ลา่ วถึงปจั จยั ทีม่ ีอิทธิพลต่อการเปล่ียนแปลงทางสงั คมซึง่ เปน็ องคป์ ระกอบการพฒั นาชุมชน ว่ามี 7 ประการดังนี้ 1. ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติ หากมคี วามสมบูรณจ์ ะส่งผลให้ชมุ ชนมกี ารพัฒนาได้รวดเร็วและม่นั คง 2. การเปล่ียนแปลงดา้ นประชากร การเพิ่มประชากรที่มีคุณภาพสามารถทําให้เกดิ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สงั คม และการเมืองท่ีทนั สมยั ข้นึ 3. การได้อย่โู ดดเดี่ยวและติดตอ่ เกยี่ วข้อง ชมุ ชนใดที่มกี ารตดิ ต่อกันทําให้การพฒั นาเป็นไปอยา่ งรวดเรว็

33 4. โครงสรา้ งของสงั คมและวัฒนธรรม ชมุ ชนท่มี กี ารเคารพผ้อู าวโุ สจะมีการเปลี่ยนแปลงนอ้ ยคา่ นยิ มตา่ งๆ ชว่ ยใหร้ ู้วา่ ชมุ ชนมกี ารเปล่ยี นแปลงเกิดการพฒั นาขน้ึ มากน้อยเพยี งไร 5. ทศั นคตแิ ละค่านิยม การมีคา่ นยิ มด้านอาชพี ดา้ นบรโิ ภค เปน็ สว่ นของการจดั การ พัฒนาในชุมชนน้นั ได้ 6. ความต้องการรับรู้ การยอมรับส่ิงประดษิ ฐใ์ หมๆ่ จะเป็นเครือ่ งช้ีทิศทางและอตั ราการเปล่ยี นแปลงของ ชมุ ชน 7. พ้ืนฐานทางวัฒนธรรม ถ้ามฐี านทีด่ สี ง่ิ ใหม่ทจ่ี ะเกิดข้ึนย่อมดีตามพนื้ ฐานเดิมด้วย พลายพล ค้มุ ทรัพย์ (2533 : 44 – 47) ไดก้ ล่าวถงึ ปัจจัยที่สามารถใช้ในการพฒั นาชมุ ชน ซึง่ เปน็ องค์ประกอบการ พัฒนาชมุ ชน ว่าประกอบด้วย 3 ปจั จยั ดังนี้ 1. โครงสรา้ งทางสงั คม ครอบครวั ท่มี ีขนาดเล็กและมโี ครงสรา้ งไม่ซบั ซ้อนจะสง่ ผลใหช้ ุมชนนน้ั พฒั นาได้ดกี วา่ ชุมชนท่มี โี ครงสรา้ งทางครอบครวั ทซ่ี บั ซอ้ น 2. โครงสรา้ งทางชนชนั้ ในชุมชนทีม่ ีโครงสร้างแบบเปิด ที่สามารถเปลยี่ นแปลงฐานะทางสงั คมได้ง่าย ชุมชน นั้นจะเกิดการพัฒนา 3. ความแตกตา่ งทางเผา่ พันธ์ุ เชือ้ ชาติ และศาสนา ความแตกต่างหากเกิดขนึ้ ในชมุ ชนใดยอ่ มเปน็ อปุ สรรค ตอ่ การพัฒนา ตามลําดับความแตกต่าง ยุวฒั น์ วฒุ ิเมธี (2531 : 58 – 63) กล่าวถึงปัจจัยทีเ่ ก้ือกูลใหก้ ารพฒั นาชนบทบรรลคุ วามสาํ เรจ็ จาํ เปน็ ต่อการ พัฒนา วา่ ดว้ ยองค์ประกอบ และส่วนประกอบยอ่ ยขององค์ประกอบ ดงั นี้ 1. นโยบายระดับชาติ ฝาุ ยบริหารจะสามารถดําเนนิ การแผนพัฒนาได้ต่อเน่ือง และมเี วลาพอที่จะเห็นความ ถกู ต้อง คุ้มคา่ มแี นวทางประสานประโยชน์ระหวา่ งรัฐและเอกชน และความรว่ มมือระหว่างประเทศจะต้อง เกอื้ กูลตอ่ การพฒั นา 2. องค์การบริหารการพัฒนาชนบท ทีม่ ีองคก์ รกลางทํา หน้าทีป่ ระสานนโยบายแผนงานและโครงการอย่างมี ประสิทธภิ าพและมอี ํานาจเด็ดขาดในการลงทุนในหนว่ ยปฏิบัตติ ้องดําเนินการตามนโยบาย แผนงาน และ โครงการในแผนระดับชาติ และจัดงบประมาณการติดตามควบคมุ ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. วิทยาการท่ีเหมาะสมและการจัดการบริการที่สมบรู ณ์ เลือกพืน้ ทแ่ี ละกลมุ่ เปูาหมายที่สอดคล้องกับความ เป็นจรงิ และเลอื กวิทยาการท่ีประชาชนจะได้รับใหเ้ หมาะสม 4. การสนบั สนนุ ระดบั ทอ้ งถิ่น ความรบั ผดิ ชอบของการสนับสนุนงานในท้องถิน่ ที่มปี ระสทิ ธิภาพจะเกดิ การ พฒั นาอยา่ งแท้จริงในระยะยาว 5. การควบคุมดแู ลและติดตามผลการปฏบิ ัติงาน ควรเป็นไปตามแผนงานและโครงการทุกระดบั และ ครอบคลุมทุกพื้นที่ พรอ้ มทั้งให้สถาบันการศึกษาท้องถิน่ ติดตามประเมนิ ผล อัชญา เคารพาพงศ์ (2541 : 82 – 83) กล่าวถึงปจั จยั ส่วนประกอบท่มี ีอิทธิพลตอ่ การพฒั นา สรปุ ได้ดังนี้ 1. ผู้นาํ ได้แก่ ผู้นาํ ทอ้ งถน่ิ ทั้งเป็นทางการและไม่เปน็ ทางการในหมู่บ้าน และจากองค์กรภาครัฐ มีส่วนให้ ชุมชนพฒั นาในทางทดี่ ขี ึ้น เป็นประโยชน์ ชมุ ชนมีเจตคติท่ีดยี อมรบั สงิ่ ใหม่และสรา้ งพลังต่อสเู้ พ่ือการ เปล่ียนแปลง 2. สงั คม – วฒั นธรรม การไดร้ ับวฒั นธรรมจากสังคมเมืองมาปฏิบัติทาํ ให้ชมุ ชนเกิดการเปล่ยี นแปลง 3. ส่งิ แวดลอ้ ม การปรบั ปรุงสภาพแวดล้อมภูมิศาสตร์ชุมชน ส่งผลใหท้ ่ีดนิ อุดมสมบูรณร์ าคาสนิ ค้าเกษตรดี ความเปน็ อย่สู ะดวกสบายกว่าเดิม 4. ประวตั ิศาสตร์ เหตุการณ์สําคัญในอดตี มผี ลต่อการพัฒนาความสามัคคี รกั พวกพ้อง ช่วยเหลอื ซ่งึ กันและ กันปรยี า พรหมจนั ทร์ (2542 : 25) ได้สรุปองค์ประกอบทเ่ี ปน็ ปจั จัยการพัฒนาชุมชนได้ดังนี้

34 1. ดา้ นเศรษฐกจิ ชุมชนทีเ่ ศรษฐกิจดีการพัฒนาชุมชนสามารถพฒั นาไดด้ ดี ้วย 2. ดา้ นสังคม วฒั นธรรม และสง่ิ แวดลอ้ ม เป็นบริบททปี่ รบั เปลย่ี นสภาพชมุ ชนไปตามปัจจัย 3. ด้านการเมือง หมายรวมถึงการเมืองระดบั ชาติและชมุ ชนระดับท้องถิ่น 4. ด้านประวตั ิศาสตร์ โดยอาศยั ประสบการณแ์ ละวกิ ฤตของชมุ ชนเปน็ ฐานและบทเรยี นการพฒั นาชุมนุม ปจั จยั โดยตรง เชน่ คน ทุน ทรพั ยากร การจดั การ เป็นตน้ และปจั จยั โดยอ้อม เช่น ภาวะเศรษฐกจิ สังคม การเมือง การปกครอง เป็นต้น ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม (2549) ได้กล่าวถึงการสรา้ งและพัฒนาคนรุ่นใหม่เพ่ือพฒั นาชุมชนท้องถ่ิน มปี ัจจยั สําคัญ 4 ประการ ซ่ึงถือเป็นองคป์ ระกอบการพัฒนาชมุ ชน ดังนี้ 1. สังคมดี สิง่ แวดลอ้ มดี มีโอกาสในอาชีพ และกจิ กรรมท่ีหลากหลาย รวมไปถงึ วิถชี วี ิตศิลปวัฒนธรรม ความ อบอุ่น ความสขุ ความเจรญิ ก้าวหน้าที่พึงคาดหวังในอนาคตดว้ ย 2. ระบบการศกึ ษาของชาติ มีเปาู หมายในการผลติ คนเพ่ือการพัฒนาชุมชนหรือท้องถ่นิ ให้เปน็ ท่ีพงึ ปรารถนาของท้องถ่ินเพยี งไร 3. รฐั ธรรมนญู และนโยบายของรฐั ที่เอื้อต่อการพฒั นาชมุ ชนทอ้ งถิ่นให้เป็นที่พงึ ปรารถนานา่ อยบู่ ทบาทของ ชุมชน มีสิ่งสาํ คญั 3 ประการ คอื ความรักและความดี การเรยี นรทู้ ม่ี ากกวา่ ความรู้ และการจัดการกับปัจจยั ชุมชนต่างๆ กจิ กรรมทีช่ ุมชนต้องรับผดิ ชอบคือ - ตัง้ คณะกรรมการบริหาร - ประเมินสภาพของชมุ ชน - เตรยี มแผนการปฏบิ ตั ิ - หาทรพั ยากรทจี่ ําเปน็ - ทํา ใหแ้ น่ใจวา่ กจิ กรรมของชุมชนท้ังหมด จะต้องมีการติดตามและการบริหารที่มี ประสิทธภิ าพสูงสดุ สําหรับการปฏบิ ัติงาน กระบวนการชุมชน 1. วเิ คราะหช์ ุมชน 2. การเรียนรู้และการตัดสินใจของชุมชน 3. การวางแผนชุมชน 4. การดาํ เนินกิจกรรมชมุ ชน 5. การประเมินผลการดําเนนิ งานของชมุ ชน องค์ประกอบการขบั เคล่อื นชุมชน 1. โครงสรา้ งพนื้ ฐานทางสังคมของชุมชน 2. ความคดิ พ้นื ฐานของประชาชน 3. บรรทดั ฐานของชุมชน 4. วิถีประชาธปิ ไตย

35 ใบความรู้ ที่ 2 เรอ่ื งที่ 2 การบรหิ ารจดั การชุมชน ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การบรหิ ารจดั การชุมชนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตวั อยา่ งชมุ ชนพอเพยี งทีป่ ระสบความสําเรจ็ กดุ กะเสียน วนั นท้ี ่ียม้ิ ได้ “เวลาติดขดั ก็ไปกู้...เขามาทาํ ทนุ พอหาได้ ขายได้ก็เอาไปฝาก...เขา” เขาในความหมาย ของคนในชุมชนกุดกะเสยี น คือ สถาบนั การเงนิ ชุมชนกุดกะเสียนรว่ มใจทา่ มกลางภาวะเศรษฐกิจเงนิ เฟูอพงุ่ ดอกเบ้ยี เพมิ่ ทั้งเงินกู้ เงนิ ฝาก (ติดลบเมื่อเทียบกบั เงินเฟูอ)ทุกอยา่ งอยูใ่ นช่วงขาขึ้น(ราคา) จะมีที่ลดลงคงเป็นกําลังใจ ประชาชนโดยเฉพาะคนเมือง ย้มิ ฝนื ๆ เผชญิ ชะตาในยคุ ขา้ ว(แก)้ ยาก น้ํามนั แพงกันไปแตกต่างจากคนในชมุ ชนบา้ นกดุ กะเสียน ต.เขื่องใน อ.เขือ่ งใน จ.อบุ ลราชธานี หมูบ่ ้านรางวลั พระราชทาน “เศรษฐกจิ พอเพยี ง อยู่เยน็ เป็นสขุ ” สมเด็จ พระเทพรตั นราชสดุ า สยามบรมราชกมุ ารี ซึ่งมีนายสมาน ทวีศรี กํานนั ตาํ บลเข่ืองใน เป็นผูน้ ําสร้างรอยยม้ิ ให้คนใน ชมุ ชนจากหมบู่ า้ นที่มีอาชพี ทํานาปลี ะ 2 ครง้ั แต่เนื่องจากสภาพพ้ืนท่เี ป็นทล่ี ุม่ มนี ํ้าทว่ มถึง ทําให้มี ปญั หานํา้ ท่วมนา จงึ ต้องหาปลาแลกข้าว ตอ่ มาประกอบอาชีพค้าขายสยี ้อมผ้า ทาํ ให้มีปัญหาหนส้ี ินเพราะตอ้ งไปกู้ นายทนุ ดอกเบ้ียสูงแตส่ ภาพในปจั จบุ ันของกดุ กะเสยี น ผู้คนยมิ้ แย้มแจ่มใจ เน่อื งจากเศรษฐกจิ ของหม่บู ้านดีขึน้ มาก สบื เนอ่ื งจากการรเิ ริม่ ของผู้นาํ ชุมชนที่เหน็ ปัญหาของหมบู่ ้าน จงึ ได้สง่ เสริมให้มีการตัง้ กลุ่มออมทรัพย์จนกระทั่ง พัฒนามาเป็นธนาคารกุดกะเสยี นร่วมใจ โดยการปลอ่ ยสนิ เชื่อในอัตราดอกเบี้ยตา่ํ ให้คนในชุมชนไปประกอบอาชพี อาชีพหลักทาํ นา ค้าขายเฟอร์นเิ จอร์ เคร่อื งใชไ้ ฟฟูา ชดุ เครื่องนอน ชุดเครื่องครวั ฯลฯ ทั้งมีการรวมกลมุ่ อาชพี กลุม่ เลยี้ งโค กลมุ่ ทํานํ้ายาลา้ งจาน กล่มุ น้ํายาสระผม กลุ่มเพาะเหด็ กลมุ่ เกษตรกรทาํ นา กล่มุ จกั สาน หนงึ่ ในชุมชนตัวอยา่ งที่กรมการพัฒนาชมุ ชน กระทรวงมหาดไทย คัดเลอื กมาเป็นตน้ แบบในการ

36 ส่งเสริมการบริหารจดั การชมุ ชนใหเ้ ข้มแข็งอยา่ งย่ังยนื นายปรชี า บตุ รศรี อธิบดกี รมการพฒั นาชุมชนกลา่ ววา่ ประเดน็ ยุทธศาสตร์หน่งึ ในการสง่ เสรมิ การบริหารการจัดการชุมชน คือ การเพิ่มขดี ความสามารถผนู้ ําชมุ ชน เพอ่ื ใหผ้ นู้ ําชุมชนเป็นกําลงั หลักในการบริหารจดั การชมุ ชนให้ชมุ ชนเข้มแขง็ และพ่งึ ตนเองไดใ้ นท่สี ดุ เม่อื ยอมรบั ว่าพลงั งานเปน็ เรื่องใกล้ตัวการจดั การพลังงานของชมุ ชนทีช่ ว่ ยเสริมสร้างความ เข้มแข็งชุมชนจึงเกิดขึน้ ในหลายด้าน อาทิ 1. ด้านเทคโนโลยพี ลงั งานชมุ ชนเกิดผลชัดเจนในหลายตาํ บล ตัวอยา่ งเช่นชาว อบต.พลับพลาชัย จ.สุพรรณบุรี ส่ิงท่ีเกดิ คือความคกึ คักของชุมชนกบั การเลอื กใชเ้ ทคโนโลยปี ระหยดั พลังงาน การทาํ ถ่านอัดแท่งจากขีเ้ ถ้าแกลบดําของโรงไฟฟูาชวี มวลในพ้นื ทค่ี ล้ายกนั กับ อบต.นาหมอบุญจ. นครศรีธรรมราช ที่ อบต.และบรรดาแกนนําพรอ้ มใจกันผลักดันเต็มท่ี ทั้งคน เคร่อื งมือ และงบประมาณทาํ ให้ยังคงใช้ พลังงานเท่าเดิมแต่ค่าใช้จา่ ยด้านพลงั งานกลับลดลงเรือ่ ยๆ โดยมเี ทคโนโลยเี พื่อการจดั การพลังงานในแบบเฉพาะของ คนนาหมอบุญเป็นเครื่องมือ 2. ดา้ นการพัฒนาประชาธิปไตย (การมีส่วนร่วม) ตัวอย่างเชน่ อบต.ถาํ้ รงค์ อ.บา้ นลาดจ.เพชรบรุ ี มีจุดเด่น ของการขยายผลแผนพลังงานชมุ ชน ผ่านกระบวนการจัดทําแผนพลังชมุ ชนทุกด้านเกดิ ขึ้นจากการมีส่วนรว่ มของชาว ชุมชน ท่ีมกี ิจกรรมพลังงานแทรกอยู่ในวิถีชวี ิตประจาํ วนั และวถิ ีอาชพี ที่เหน็ ตรงกนั วา่ ต้องเป็นไปเพื่อการอนรุ กั ษ์ พลังงานด้วย เช่น กิจกรรมท่องเที่ยวชมุ ชนท่ใี ห้ใช้จักรยานแทนการใช้รถยนต์ 3. ดา้ นการพัฒนาวิสาหกจิ ชุมชน (กลมุ่ อาชีพด้านพลังงาน) มี 7ชมุ ชนทไี่ ดร้ บั การนําเสนอวา่ เกดิ รูปธรรมจรงิ คอื อบต.หนองแซง อ.หนั คา จ.ชยั นาท อบต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจนี บรุ ีอบต.ตาอ็อง อ.เมืองสรุ นิ ทร์ จ. สรุ นิ ทร์ อบต.กดุ นํา้ ใส อ.นํา้ พอง จ.ขอนแก่น อบต.ก้อเอ้ อ.เข่อื งใน จ.อุบลราชธานี อบต.ทุ่ง อ.ไชยา จ.สรุ าษฎรธ์ านี อบต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาในทุกชุมชนเกดิ อาชพี ท่ีมาจากการต่อยอดเทคโนโลยพี ลงั งานชมุ ชนออกมาเปน็ ผลิตภณั ฑส์ ินคา้ ชุมชน ทํารายไดเ้ ปน็ อาชีพเสริม จากผลพวงการบรหิ ารจัดการพลงั งานทดแทนในชุมชนไมว่ า่ จะเป็น ถ่านจากกิง่ ไมท้ ี่เคยไร้คา่ ถ่านผลไมเ้ หลือท้งิ ในบรรจุภัณฑเ์ ก๋ๆ ใช้ดดู กลิน่ ในตู้เยน็ น้ําสม้ ควันไม้ทใ่ี ช้ประโยชนไ์ ดส้ ารพดั ทีส่ าํ คญั หลายชุมชนเกิดกลมุ่ อาชพี ชา่ งผลิตเตาเผาถา่ น เตาซเู ปอรอ์ ้ังโลป่ ระหยัดพลงั งานเตาชีวมวล ในแบบทถ่ี ูก ประยุกต์ให้เหมาะกับการใช้ของแตล่ ะพื้นท่ี จําหน่ายให้กับคนในตาํ บลและนอกพื้นที่ 4. ดา้ นการศึกษา (กจิ กรรมการเรยี นการสอนด้านพลงั งาน) ชมุ ชนส่วนใหญ่มองภาพความย่งั ยืน ดา้ นการจัดการพลังงานชุมชน โดยมงุ่ เปูาหมายไปท่ีการปลูกฝังเดก็ และเยาวชน ในรว้ั โรงเรียนและในชุมชนเกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจวา่ เรื่องพลงั งานเป็นอกี ปัจจัยหนึง่ ทเี่ กย่ี วข้องในชีวิตประจาํ วันของทุกคน และมีพลังงานหลายชนดิ สามารถ บรหิ ารจัดการให้เกิดความยั่งยืนได้จากทรพั ยากรทีม่ ีอย่ใู นชมุ ชนสรา้ งพฤตกิ รรมการใช้พลงั งานอย่างรู้คุณค่า 5. ดา้ นการท่องเทยี่ ว (ศูนย์การเรียนรเู้ พื่อเปน็ ที่ศึกษาดูงาน) มตี วั อยา่ งชุมชนที่ทําเรอ่ื งนีอ้ ยา่ ง เขม้ ขน้ คือ อบต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรอี ยุธยา เปน็ ชุมชนท่ีเน้นการเลอื กนําเทคโนโลยี พลงั งานไปใชใ้ ห้สอดคลอ้ งกบั ความต้องการทห่ี ลากหลายของคนในชุมชน ซ่งึ มีทงั้ ทาํ นา ทําสวน และค้าขายรวมทั้ง เดนิ หน้าสร้างจติ สํานกึ ผา่ นการทาํ งานกับโรงเรยี น และนักเรียนในพ้ืนที่หวังการเรียนรู้ที่ซึมลึกว่าพลงั งาน คือ สว่ น หน่ึงของชีวติ ทต่ี ้องใส่ใจและจัดการ จงึ เกดิ แหลง่ เรียนรจู้ ากการ ทาํ จริงกระจายอยทู่ ่วั ชมุ ชน 6. ด้านสขุ ภาวะและส่งิ แวดลอ้ ม ผลอีกด้านหน่งึ ของการจัดการพลงั งานชมุ ชนไปใชอ้ ย่างมเี ปูาหมาย ดัง ตัวอยา่ ง ต.คอรุม อ.พิชยั จ.อุตรดิตถ์ ทม่ี ีสํานักงานพลังงานภมู ภิ าคท่ี 9 เขา้ มาเสริมต่อแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ท่ี ชมุ ชนทาํ อยเู่ ดิมอย่างเขม้ แข็งนน้ั ใหม้ น่ั คงย่งิ ข้นึ มกี ารอบรมทาํ ป๋ยุ อนิ ทรยี ์ ซึ่งการลดการใช้สารเคมีจะชว่ ยให้สขุ ภาพ ของคนในชมุ ชนและสงิ่ แวดลอ้ มดขี น้ึ มจี ดุ เผยแพร่ ศนู ย์เรียนรพู้ ลังงาน มีการอบรมการทาํ ไบโอดีเซล อบรมเผาถา่ น เป็นต้น 7. ดา้ นบัญชพี ลงั งานครวั เรอื น การทําบญั ชีค่าใชจ้ ่ายด้านพลังงานถือเป็นหวั ใจ หรอื จุดเริ่มต้นของ

37 การได้มาซึง่ ข้อมลู ในการสรา้ งความร่วมมอื หาทางออกของการประหยดั ลดค่าใชพ้ ลงั งาน แทบทุกชุมชนใช้เป็น เคร่ืองมอื รวมท้ัง อบต.บางโปรง่ อ.เมอื งจ.สมุทรปราการ ที่สาํ นกั งานพลังงานภมู ิภาคที่ 1 ไดเ้ ขา้ ไปเช่ือมต่อแนว ทางการพฒั นาชุมชนในวถิ เี ศรษฐกิจพอเพยี ง ในแบบเฉพาะของสังคมก่ึงเมืองกึ่งอุตสาหกรรม ทม่ี ที รัพยากรที่จะแปลง มาเป็นพลงั งานทดแทนได้นน้ั มนี ้อย ชุมชนจึงเดนิ หนา้ ดว้ ยการสร้างจิตสาํ นกึ กับเคร่ืองมือ “บัญชีพลังงานครัวเรอื น” ที่ ไม่ต้องลงทนุ เพราะทุกคนทาํ ไดด้ ว้ ยตวั เองและทําไดต้ ลอดเวลานค่ี อื การเปล่ียนแปลงท่เี กิดขนึ้ จากการรจู้ ักการบริหาร จัดการและการใชพ้ ลงั งานชมุ ชนอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เป็นวิถีพลงั งานชมุ ชนของคนพอเพียง ที่กําลังขยายผลออกไป อยา่ งกว้างขวาง และเราทุกคนสามารถมีสว่ นรว่ มได้ และเริ่มไดต้ ลอดเวลา เราสามารถช่วยจัดการกับปัญหาพลังงาน ใหห้ มดไปได้ เมื่อเรารจู้ กั พึ่งตนองและใชช้ วี ิตด้วยความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล และมภี มู ิคุม้ กนั อันเป็นหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งท่จี ะนําไปสกู่ ารจดั การพลังงานชุมชนอย่างย่งั ยืน

38 ใบงานที่ 1 กิจกรรมท่ี 1 ใหนกั ศกึ ษาแบงกลุม แลกเปล่ียนและวิเคราะหประเด็นภายในกลุมแลวเลือกผูแทนกลุม ออกมานาํ เสนอตามใบงานตอไปนี้ 1. ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง หมายถึงอะไร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ .................................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. ........................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ...................................................................................... 2. เศรษฐกจิ พอเพียง ทานสามารถปรับใชในการดาํ เนินชวี ิต อยางไร ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ....................................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ...................................... ....................................................................................................................................... .................................................. ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................... ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................................ ............................................. ...................................................................................... ................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................. ชอ่ื ........................................................................... กศน.ตาํ บล................. ระดับ.............................

39 ใบงานท่ี 2 กิจกรรมที่ 2 จากขอความตอไปนใ้ี หผูเรียน วเิ คราะหเขยี นสงครปู ระจํากลุม และ นาํ เสนอเพื่อแลกเปลี่ยน “ การ โฆษณาในจอทีวแี ละวิทยุปจจบุ นั ถายังโฆษณากันอยางบาเลอื ดอยูอยางนจี้ ะไปสอนใหคนไมซื้อ ไมจาย และใหบริโภค ตามความจาํ เปนไดอยางไร ในเม่อื ปลอยใหมีการกระตุนการบริโภคแบบเอาเปนเอาตายอ ยูเชนนีผ้ ูคนกค็ ดิ วาอะไรท่ี ตัวเองตองการตองเอาใหได ความตองการถูกทําใหกลายเปนความจําเปนไปหมด ” ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................... ................................ ................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ .............................................................................................................................................. ........................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ .......................................................................................................................................................................... ............... .................................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................... .......................................................... ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................................... .............................. ..................................................................................................... .................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................................ ............................................. ช่ือ........................................................................... กศน.ตําบล................. ระดับ.............................

40 แผนการจดั การเรยี นร้รู ายวิชาคณิตศาสตร์ คร้ังที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.ตาบลศรโี คตร 1. สปั ดาหท์ ี่ 6 วนั ที่ 16 เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00-12.00น. 2. วิชา คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า พค31001 จํานวน 5 หน่วยกติ 3. มาตรฐานท่ี 2.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะพ้นื ฐานเกยี่ วกับคณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 4. หนว่ ยการเรียนรู/้ เรอื่ ง จาํ นวนและการดาํ เนินการ 5. สาระสําคญั สมบตั ิการเทา่ กนั จะใชเ้ ครอ่ื งหมาย ” แทนการมคี ่าเท่ากนั สมบัติการไมเ่ ทา่ กันจะใชเ้ คร่ืองหมาย “ ≠ , < , >, ≤ , ≥” 6. เนอื้ หา สมบัตกิ ารการเท่ากัน และสมบตั ิการไมเ่ ท่ากนั 7. จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง (ดจู ากผังการออกขอ้ สอบ) อธิบายสมบตั ิของจํานวนจรงิ ทีเ่ กี่ยวกับการบวก การคูณ การเท่ากัน และการไม่เท่ากนั และนาํ ไปใช้ 8. การบูรณาการกับหลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียง (2 เง่ือนไข 3 หลักการ การเชื่อมโยงสู่ 4 มติ )ิ ความรู้ การบวก การคูณ การเท่ากนั และการไมเ่ ท่ากนั และนําไปใช้ คุณธรรม - มคี วามขยนั - มีความสามัคคีในการทาํ งานร่วมกัน - มคี วามตงั้ ใจและม่งุ มัน่ พอประมาณ - การวางแผนท่ีความเหมาะสมในการทํากจิ กรรม - เวลาในการทาํ กิจกรรม มเี หตุผล - มีการส่งเสริมให้ผ้เู รยี นใฝุรใู้ ฝุเรียน - มีทกั ษะในการปฏิบัติ มีภูมิคุ้มกัน - มีการวางแผนอยา่ งเป็นระบบ - สามารถนาํ ความรู้ไปปรับให้เขา้ กบั การใชช้ วี ิตประจําวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม วตั ถุ - มคี วามรู้การบวก การคณู การเท่ากัน และการไม่เทา่ กัน สังคม - มีการทํางานร่วมกันเป็นกลุ่มแลกเปลี่ยนความคดิ และวเิ คราะห์รว่ มกัน

41 ส่งิ แวดลอ้ ม - รู้วิธใี นการใช้ ทรพั ยากรอย่าง ประหยัดและใหเ้ กดิ ประโยชน์คุ้มค่า วัฒนธรรม - การทํางานเป็นทีมด้วย ความรกั และสามัคคี 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ 1 กําหนดสภาพปญั หาการเรียนรู้ (O : Orientation) ครูและผู้เรยี นรว่ มกันกาํ หนดสภาพปัญหา ความต้องการในการเรียนร้เู รอ่ื งสมบตั ิการการเท่ากนั และสมบตั กิ ารไม่เท่ากัน ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและจดั การเรียนรู้ (N : New ways of learning) ครใู ห้ผเู้ รยี นศึกษาความรจู้ ากหนังสอื เรยี น ใบความรู้ เกยี่ วกบั สมบตั ิการเทา่ กันและ การไม่ เทา่ กัน ขนั้ ท่ี 3 การปฏบิ ัติและการนําไปใช้ (I : Implementation) 1. ครใู หผ้ เู้ รียนระดมความคดิ ถอดบทเรียนให้สอดคล้องกับหลกั เศรษฐกจิ พอเพียง 2. ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกันแลกเปลย่ี นเรียนรแู้ ละสรปุ ความร้เู บ้อื งต้นที่ได้จากแบบสอบถาม เพื่อนาํ มาวเิ คราะหส์ รุปผล และจดั ทาํ รายนําเสนอ ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E : Evaluation) 1. ให้ผู้เรยี นออกมาหน้าช้นั เรยี น เพื่อนําเสนอการถอดบทเรยี นใหส้ อดคล้องกบั หลกั เศรษฐกิจ พอเพยี ง จากน้ันครใู ห้คะแนน 2. แบบทดสอบหลังเรียน 10. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ - หนงั สือแบบเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ส่อื อินเตอรเ์ น็ต 11. การวดั และประเมินผล 11.1 วิธีการวดั และประเมนิ ผล - แบบประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการทํางานรว่ มกบั ผู้อ่นื ของนกั ศึกษารายบคุ คล - ใบงาน 11.2 เครื่องมือวัดและประเมินผล. - ประเมินผลการสังเกตพฤติกรรมการทํางานรว่ มกับผู้อ่นื ของนักศกึ ษารายบคุ คล - ผลจากการตรวจใบงาน 11.3 เกณฑก์ ารวัดและการประเมินผล - แบบประเมินผลการสงั เกตพฤติกรรมการทํางานรว่ มกบั ผู้อื่นของนกั ศึกษารายบคุ คล ระดบั ดี พอใช้ และควรปรับปรุง - ใบงานคะแนนเตม็ 10 คะแนน

42 กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................................................... ลงชื่อ…………………………………………….ครูผูส้ อน (นางสาวจนั ทร์ทพิ ย์ ศรีลัย) ครู กศน.ตําบล ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ รหิ าร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ………………………………………………………ผู้อนมุ ตั แิ ผน (นางปทั มาภรณ์ ศรเี นตร) ผู้อํานวยการ กศน.อาํ เภอจตรุ พักตรพมิ าน