Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้-เรื่อง-การดูแลและบำรุงมะนาวพันธุ์บางกระสอบ-มุ่งสู่ตลาดเศรษฐกิจ

ใบความรู้-เรื่อง-การดูแลและบำรุงมะนาวพันธุ์บางกระสอบ-มุ่งสู่ตลาดเศรษฐกิจ

Description: ใบความรู้-เรื่อง-การดูแลและบำรุงมะนาวพันธุ์บางกระสอบ-มุ่งสู่ตลาดเศรษฐกิจ

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ กิจกรรม 1 อำเภอ 1 อาชีพ กิจกรรมการดแู ลและบำรงุ มะนาวพนั ธุ์บางกระสอบ มุ่งสตู่ ลาดเศรษฐกจิ วนั ที่ 22 เดือน มกราคม พ.ศ.2560 ถึงวนั ที่ 23 เดอื น มีนาคม พ.ศ.2560 ณ หมู่ 1 ตำบลบางกระสอบ อำเภอพระประแดง จงั หวดั สมทุ รปราการ ผรู้ บั ผิดชอบ นายธนากร นาพยบั ครู กศน.ตำบลบางกระสอบ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอพระประแดง สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวัดสมทุ รปราการ กระทรวงศึกษาธกิ าร

ใบความรู้ เรอ่ื งมะนาว วธิ ปี ลูกมะนาวดว้ ยการเพาะเมล็ด 1. ปอกเปลือกมะนาว แลว้ จดั การแบง่ ลกู มะนาวออกเป็นสว่ น ๆ ขัน้ ตอนนี้พยายามอยา่ ใช้มีดหัน่ มะนาว เปน็ เส้ยี ว เพราะคมมีดอาจหั่นเมลด็ มะนาวให้เสยี หายได้ 2. แยกเมลด็ มะนาวออกมา ระวงั อย่าให้เลบ็ ขูดผิวเมลด็ มะนาวจนถลอก 3. นำเมล็ดมะนาวไปลา้ งกบั น้ำเย็นให้สะอาดหมดจดจากน้ำมะนาว 4. ตากเมลด็ มะนาวกบั แดดจดั ๆ เพือ่ ให้เมลด็ มะนาวแห้งสนิท 5. แชน่ ำ้ มะนาวกบั น้ำเยน็ ทง้ิ ไว้ประมาณ 1 คืน ขั้นตอนนค้ี ุณสามารถเติมฮอรโ์ มนเรง่ รากลงไปดว้ ยก็ได้ 6. ปกู ระดาษทิชชรู องถาดพลาสติกประมาณ 2-3 แผ่น จากนนั้ นำเมลด็ มะนาวมาวางเรยี งบนกระดาษทชิ ชู 7. คลมุ เมล็ดมะนาวด้วยกระดาษทชิ ชูอกี ชั้น พรมน้ำจนกระดาษทิชชูชุม่ ปดิ ฝากลอ่ งแล้วปล่อยทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 วนั 8. หมั่นเปดิ ดวู ่าเมลด็ มะนาวงอกรากออกมาแล้วหรือยงั และต้องคอยพรมนำ้ อย่าให้กระดาษทิชชแู ห้ง เดด็ ขาด 9. ถ้ารากเร่มิ งอกบ้างแลว้ ใหเ้ ตรยี มผสมดนิ รว่ มกับปุ๋ยคอกในอัตราส่วน 50:50 ใสล่ งในกระถาง วางเมลด็ มะนาวลงปลูก กลบดินใหแ้ น่น แล้วรดนำ้ พอชมุ่ วางกระถางข้างหน้าต่าง ใหม้ แี ดดสอ่ งถึง 10. หมนั่ รดน้ำตน้ มะนาวพอประมาณ ไมต่ ้องชุ่มมาก แต่ก็พยายามอย่าให้ต้นมะนาวขาดนำ้ เพราะโดย ปกติแลว้ ต้นมะนาวจะชอบแสงแดดรำไร อากาศอบอุ่น 11. หากต้นมะนาวเริ่มโต ใหเ้ ปลีย่ นใส่กระถางทม่ี ีขนาดใหญ่กวา่ เดิม หรือในกรณที ี่มีพน้ื ท่มี ากพอ คุณจะ ปลกู มะนาวลงดิน การตอนก่ิงมะนาว การตอนก่งิ มะนาวควรทำในช่วงฤดูฝน ซง่ึ จะทำใหก้ งิ่ ตอนออกรากง่าย เนือ่ งจาก ในชว่ งฤดูฝนก่งิ มะนาวอยใู่ นระยะท่ีกำลงั เจริญเตบิ โต ในอากาศมีความชุ่มช้นื สงู ทำใหร้ ากกง่ิ ตอนเจรญิ ไดร้ วดเรว็ แตอ่ ย่างไรกต็ ามในชว่ งฤดูแลง้ ก็สามารถตอนก่งิ มะนาวไดเ้ ช่นกนั เพยี งแต่ใชน้ ้ำหยดุ ให้ทุกวนั ประมาณ 1 เดือน กิ่งตอนก็สามารถ งอกรากได้ อุปกรณใ์ นการตอนมะนาว 1. มดี 2. ขุยมะพร้าว 3. ถุงพลาสติก 4. เชอื กฟาง

วธิ กี ารตอนมะนาว 1.ทำการควั่นก่ิง 2 รอยให้ถึงเนอื้ ไม้ โดยด้านบนให้ควน่ั บรเิ วณใต้ข้อของกง่ิ เล็กน้อย ให้รอยควน่ั เทา่ กบั ความยาวของเส้นรอบวงของก่ิงตอน หรือประมาณ 1 นิ้ว 2.ใชป้ ลายมีดกรดี ทีเ่ ปลือกระหวา่ งรอยควั่นทง้ั สองให้ถึงเนื้อไม้ แลว้ ใช้ปลายมดี แกะเปลือกตรงรอยควัน่ ออก 3.ใช้สันมดี ขูดรอบกง่ิ ท่ีลอกเอาเปลือกออกแล้ว เพ่ือเอาเย่อื เจริญซ่ึงมลี ักษณะเปน็ เย่ือลืน่ ๆ ออกใหห้ มด 4.ใช้ฮอร์โมนเร่งรากก็ให้ทาบริเวณรอบรอยคว่ันดา้ นบนดว้ ยฮอร์โมนเร่งราก 6.นำถุงพลาสติกที่ไดบ้ รรจขุ ยุ มะพร้าวลักษณะชน้ื พอเหมาะ ผ่าตรงกลาง โดยผา่ จากด้านท่ีมัดดว้ ยเชือกฟางจนถงึ ก้นถุงใช้มือแหวกขยุ มะพรา้ วใหแ้ ยกออกเปน็ ร่องแลว้ นำไปหุ้มรอยควัน่ พร้อมกบั มัดดว้ ยเชือกฟางใหแ้ น่นอยา่ ให้ ถุงขยุ มะพรา้ วหมุนได้ แล้วรดน้ำให้ช่มุ 7.การตัดก่ิงตอน มะนาวจะงอกรากหลังจากทำการตอนประมาณ 1 เดือน 8.ตัดกิ่งตอนเมื่อรากงอกออกมา เปน็ สีน้ำตาลและมรี ากสขี าวแตกออกมาอีกทหี นงึ่ จึงจะตัดได้ เพราะรากฝอยหรือ รากสขี าวนน้ั เป็นรากดูดอาหาร 9.ตดั แต่งกิง่ หรือเลอ่ื ยตดั แตง่ กิ่ง ตัดบริเวณดา้ นลา่ งของตุ้มตอนเลก็ น้อย ควรตัดกง่ิ ตอนในตอนเย็นเพราะเปน็ ระยะที่ ใบหยดุ การคายนำ้ กง่ิ จะไม่เหี่ยวหรือเฉาไดง้ ่าย ควรตดั ก่ิงหรอื ใบท่ีมมี ากเกินไปทิ้งเสียบา้ ง เพอื่ ป้องกันการคายน้ำ จากนัน้ นำกงิ่ ตอนไปแชใ่ นน้ำทีท่ ่วมตุ้มตอนสัก 1-2 ชว่ั โมง จงึ นำไปปลูกหรือชำต่อไป การตดั ชำกิง่ มะนาว การตดั ชำ คือ การตัดส่วนสว่ นของกิง่ พนั ธุ์มะนาวท่มี ีสภาพตน้ ที่สมบูรณ์ แลว้ นำมา ชำไวใ้ นสภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสมเพ่ือให้เกดิ รากและยอด พัฒนาเปน็ พืชต้นใหม่ โดยที่ต้นใหม่มลี ักษณะเหมือนต้น แม่ทกุ ประการและจะช่วยรน่ ระยะเวลาในการออกดอกติดผลให้เร็วขึ้นเมอ่ื เปรยี บเทียบกับการเพาะเมล็ด มะนาวที่ ปลูกดว้ ยกิ่งปักชำใชเ้ วลา 2-3 ปี ก็จะใหผ้ ลผลิต ส่วนการเพาะเมลด็ อาจใชร้ ะยะเวลามากกว่าการปักชำจึงไม่ เหมาะสำหรับการผลิตมะนาวเชิงการค้า วิธีการตดั ชำกิ่ง 1.เมื่อตดั ก่ิงพันธ์ุมะนาวมาแลว้ ควรพน่ น้ำใหแ้ ก่ก่งิ พันธุ์มะนาวเป็นระยะ เพ่ือช่วยลดการคายนำ้ 2. เตรยี มกงิ่ ขนาดยาวโดยท่ัวไปประมาณ 6 – 9 นว้ิ ขนาดของกิ่งประมาณ 1 นว้ิ โดยรอยตดั ควรอยู่บน ข้อและใกล้กับข้อใหม้ ากทสี่ ุด 3. ก่งิ จะตอ้ งมีข้อจำนวน ประมาณ 3 - 5 ข้อ และมีใบอยู่ 4-6 ใบ 4. โคนกิง่ ควรตัดเปน็ รูปปากฉลามหรือฝานบวบ จะมีรอยแผลชำ้ บริเวณรอยตัดให้ใชค้ ัดเตอรต์ ดั รอยช้ำออก ซ้ำ เพอ่ื เพิ่มประสทิ ธิภาพการออกราก 5.ใช้คัดเตอร์กรดี บรเิ วณโคนก่ิงในแนวตงั้ ความยาวประมาณ 5 เซนตเิ มตร 3-4 รอย 6.หลังจากน้ันนำกง่ิ มะนาวแช่ลงในน้ำทผ่ี สมสารป้องกนั เชีอ้ รา และเช้ือแบคทเี รยี เพอ่ื ไม่ให้เชื้อราและเชื้อ แบคทเี รยี เขา้ ทางรอยแผล 7.นำกงิ่ พนั ธ์ุจมุ่ ลงในสารเรง่ การเกิดรากจำพวก NAA และ IBA เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการออกรากของกงิ่

พนั ธุม์ ะนาว 8. หลังจากเตรยี มกิ่งพันธุ์มะนาวเสร็จแลว้ ใช้ไม้ทม่ี ีขนาดเลก็ หรอื เท่ากับขนาดของกิ่งปักชำ แทงลงในวัสดุ ปลูกกอ่ นนำกิ่งลงปักชำ เพื่อป้องกันการเกดิ รอยช้ำบรเิ วณแผล 9. ฝังกง่ิ ลกึ ½ ส่วน ของความยาวกิ่ง และท่ีสำคญั คือตอ้ งกดบริเวณโคนกง่ิ ใหแ้ น่น 10. ใชว้ สั ดพุ รางแสง ในชว่ ง 1-2 สัปดาห์แรก และต้องบงั กระบะปักชำไมใ่ ห้มีลมมาปะทะเพ่ือไม่ให้กง่ิ ปัก ชำขยบั และลดการคายน้ำของกง่ิ พนั ธุม์ ะนาว 11.สังเกตดูว่าวัสดุเพาะชำหรอื น้ำท่ีจับบรเิ วณใบแหง้ เกินไปหรือไม่ ถา้ แหง้ เกนิ ไปควรพ่นนำ้ ใหถ้ ่ีขึ้น ปัจจัยทจ่ี ะทำให้กิ่งตดั ชำออกรากดี สภาพภายในกง่ิ เปน็ เร่อื งท่ีเกี่ยวขอ้ งหรือมีอยูใ่ นกิ่งตัดชำนนั้ เอง ได้แกส่ ภาพดังตอ่ ไปน้ี 1. การเลอื กกง่ิ ควรจะเลอื กก่งิ ทีม่ ลี ักษณะดังต่อไปนี้ 1.1 เลือกกิ่งที่มีอาหารมาก เพราะอาหารภายในก่ิงจำเป็นในการเกิดรากและการเจรญิ ของกง่ิ สำหรบั การตัดชำก่ิงแก่ไม่มีใบ อาหารจะสะสมอยู่ภายในก่ิง ซ่ึงกิง่ ทแี่ กม่ าก (ไม่เกนิ ๑ ปี) อาหารย่งิ สะสมอยู่ ภายในก่งิ มาก การเกดิ รากและ แตกยอดกจ็ ะง่ายข้นึ 1.2 อายขุ องต้นพืชทจี่ ะนำมาตัดชำควรเลอื กก่ิงจากตน้ ทมี่ ีอายุน้อย (นับจากเพาะเมล็ด)เพราะก่งิ จาก ต้นทีม่ อี ายนุ ้อยจะออกรากได้ง่ายกวา่ กิ่งท่ีนำมาจากตน้ ที่มีอายุมากๆ 1.3 เลอื กชนดิ ของกงิ่ ให้เหมาะกับการเกดิ ราก โดยพิจารณาดังนี้ คือถ้าเป็นการตัดชำกิง่ แก่ ควรเลือก ก่งิ ขา้ งมากกว่าก่ิงกระโดง เพราะกง่ิ ขา้ งมีอาหารภายในกง่ิ มากกวา่ กิ่งกระโดง แตถ่ ้าเป็นการตดั ชำกิ่งอ่อนหรือกิ่งมี ใบ การใช้ก่งิ กระโดงจะออกรากงา่ ยกว่ากิง่ ขา้ ง 1.4 การเลอื กฤดกู ารตดั ชำก่งิ ใหเ้ หมาะ คือ เปน็ การตดั ชำกิ่งแกท่ ่ีไม่มใี บ ควรจะตัดชำกิง่ ในระยะที่ กงิ่ พักการเจรญิ โดยเฉพาะอย่างย่ิงเม่ือตาบนกิ่งเริ่มจะเจรญิ ใหมอ่ ีกครงั้ หน่ึง สว่ นการตัดชำก่งิ อ่อนน้นั อาจทำได้ เมอื่ กิ่งเจริญได้ระยะหน่งึ โดยก่ิงที่เจรญิ น้ันมคี วามแข็ง (firmness) พอสมควร และมใี บเจรญิ เตบิ โตเตม็ ท่ี แล้ว สำหรับการตัดชำไมผ้ ลหรือไม้ประดบั บางชนิดทอี่ อกรากค่อนขา้ งยากการใช้ก่งิ ที่แขง็ กลม และมีเสน้ ลายบน กิง่ เล็กน้อยจะออกรากได้ดีกว่าใชก้ งิ่ ค่อนขา้ งอ่อน 1.5 การทำแผลโคนก่ิง แผลโคนก่ิงจะชว่ ยให้ก่ิงมเี นื้อที่ท่ีจะเกิดรากไดม้ ากขน้ึ นอกจากจะชว่ ยใหก้ ่งิ เกิดจุดกำเนิดรากไดง้ า่ ยแล้วยังช่วยใหก้ ง่ิ ดดู นำ้ และฮอร์โมนได้มากขึน้ อีกดว้ ย 1.6 การใชฮ้ อร์โมนและสารบางอย่างชว่ ยการออกราก ฮอร์โมนช่วยให้ก่งิ ตัดชำออกรากดีขนึ้ ชว่ ยให้ เกิดรากมาก ออกรากไวและรากเจริญไดเ้ ร็ว สารฮอรโ์ มนสงั เคราะห์ที่เป็นตัวสารเคมที ่ีใชผ้ สมอยใู่ นชอ่ื ฮอรโ์ มน การคา้ ต่างๆ มกั จะมีสารฮอรโ์ มนอยสู่ องชนิด คอื ไอบเี อ(IBA)หรือชือ่ เต็มคือ กรดอินโดลบวิ ไทรคิ (indolebutyric acid) และ เอ็นเอเอ (NAA) หรือชอื่ เต็มคอื กรดแนฟทาลนี อะซีตกิ (naphthaleneaceticacid) สารฮอรโ์ มนทั้งสอง ชนิดนเ้ี ปน็ สารที่เสือ่ มชา้ คือไม่สูญเสียง่าย แต่ในการใช้มีข้อที่ต้องคำนงึ ถึงกค็ ือ การใชฮ้ อรโ์ มนกบั พชื ใด ควรจะรู้ ความเขม้ ข้นที่แนน่ อนและให้พอเหมาะกบั พชื

การจัดสภาพแวดล้อมใหก้ บั กิ่งตดั ชำในระหวา่ งรอการออกราก 1. การจัดความชน้ื ในอากาศรอบๆ กิง่ ตัดชำความชื้นในอากาศเก่ียวข้องกับ การตดั ชำโดยที่ก่ิงตดั ชำเหล่านจ้ี ำเปน็ ตอ้ งรักษาใบไวป้ รุงอาหาร เพ่ือช่วยการออกราก ฉะนั้นจึงต้องรักษาใบไว้ให้สดและติดอยู่กบั ก่ิง ตลอดไป แต่การท่ีใบจะสดอยู่ไดก้ จ็ ะตอ้ งมคี วามช้ืนในอากาศรอบๆ ใบสงู พอ น้ำจากใบจึงจะไม่คายออกมาและใบก็ จะไมเ่ หยี่ ว เราควรฉีดหรือพ่นละอองนำ้ ให้จับใบอยูต่ ลอดเวลาหรอื เปน็ ระยะ ซึ่งวิธีการหลงั น้ีอาจใช้คนชว่ ยฉีด พ่น หรือโดยการใช้เครื่องพน่ น้ำอัตโนมตั ิ (autometic mist) ก็ได้ 2. แสงสวา่ งกบั การออกรากแสงสว่างมีความจำเปน็ สำหรบั การตัดชำกง่ิ พชื ทตี่ ้องมีใบตดิ เพราะ แสงสวา่ งจำเป็นในการปรงุ อาหาร รวมทง้ั สร้างสารฮอรโ์ มนเพ่อื ชว่ ยการออกรากของกง่ิ ตดั ชำ การใหก้ ิง่ ตัดชำได้รับ แสงมากเท่าไร ก็จะชว่ ยใหก้ ารออกรากดีขน้ึ 3. วตั ถุท่ีใชใ้ นการตดั ชำการออกรากของกิ่งตดั ชำ จะไม่เกย่ี วกบั อาหารที่มีอยู่ในวัตถุปักชำนัน้ แต่ จะเก่ียวข้องกับความชืน้ (moisture) และอากาศ (areation) ท่ีมีอยู่ในวตั ถุปักชำนัน้ โดยทว่ี ัตถปุ กั ชำแต่ละชนดิ จะ ดูดความชืน้ และมีอากาศผา่ นเข้าออกได้ต่างกัน ซ่งึ จะเป็นผลให้การออกรากแตกต่างกันไปด้วย วตั ถุทจ่ี ะช่วยให้ การออกรากเกดิ ได้ดี จะตอ้ งดดู ความชน้ื ได้มาก และมีอากาศผ่านได้สะดวก สำหรับวตั ถุปักชำทน่ี ิยมใช้กันทวั่ ๆ ไป ได้แก่ทรายหยาบ ถา่ นแกลบท่ีลา้ งดา่ งหมดแล้ว หรือส่วนผสมของทรายหยาบกับถา่ นแกลบอย่างละเทา่ กัน สถานเพาะชำไม้ผลทดี่ คี วรมีลักษณะดงั นี้คอื 1.มสี ภาพท่ีเหมาะสมต่อการเจริญเตบิ โตของต้นมะนาวท่นี ำมาปลกู มีทศิ ทางและความเขม้ ของแสง ระยะเวลาท่ีได้รบั แสงท่ีเหมาะสม การใหน้ ้ำชลประทานปริมาณและความชื้นสัมพันธ์ในอากาศความเร็วและทิศทาง ลม ระดับอุณหภูมโิ ดยเฉลยี่ ความอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ รวมไปถงึ การมีอยขู่ องโรคและแมลงศัตรูพืช วัชพชื และศตั รู อน่ื ๆด้วย 2.สถานเพาะชำสามารถปรบั เปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับความตอ้ งการของตน้ มะนาวได้ เชน่ ตน้ มะนาวทีม่ ีช่วงอายุตา่ งกนั อาจมีความต้องการสภาพแวดล้อมตา่ งกันไปเชน่ ตอ้ งการแสงมากน้อยตา่ งกนั ต้องการนำ้ ในปริมาณที่ไม่เท่ากนั หากสามารถปรับเปลยี่ นสภาพแวดลอ้ มในสถานเพาะชำใหเ้ หมาะสมกับความ ต้องการในขณะน้นั ได้ กจ็ ะทำใหต้ น้ ไม้เจรญิ เตบิ โตแขง็ แรงไดด้ ี 3.มีพ้ืนทเ่ี พยี งพอสำหรบั ต้นไม้และพน้ื ที่ใช้งานอ่ืนๆและใชพ้ นื้ ท่ไี ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4.ไมม่ ีปญั หาด้านกายภาพ เช่น นำ้ ท่วมขงั ดนิ เค็ม พนื้ ที่ลาดเทมากเกินไป มีร่มเงา ไม้ใหญ่ อันเปน็ อุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของต้นมะนาว 5.ต้ังอยู่ใกล้ทางคมนาคม ขนสง่ ต้นไมส้ ะดวก มีการวางแผนผงั ภายในท่ดี ี มีทต่ี ั้งของหนว่ ยงานย่อยให้ สอดคล้องกับวิธีการปฏิบตั งิ าน 6.โรงเรือนมอี ายุการใช้งานตามทตี่ ้องการและมีความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมท่เี ปล่ียนไปในลกั ษณะ วิกฤตเิ ช่น มลี มพายุ อุณหภมู ิสงู หรอื มฝี นตกหนกั และมตี ้นทนุ การจัดตงั้ ท่เี หมาะสมต่อการใช้งาน