1 ความปลอดภยั ในการปฏบิ ัติงาน 1. นยิ ามศัพทดา นความปลอดภยั การทํางานอยางปลอดภัย คือ การทํางานท่ีไมมีอุบัติหตุ ไมเปนโรคภัยไขเจ็บอันเนื่องมาจากการ ทํางาน มีสถานท่ีและวิธีทํางานอยางมีประสิทธิภาพทั้งรางกายและจิตใจ ในหัวขอนี้จะอธิบายนิยามศัพทดาน ความปลอดภยั เพือ่ เปน พ้ืนฐานใหผเู รยี นไดทราบท่สี ําคัญ ดังนี้ 1.1 ความปลอดภัย (Safety) หมายถึง การปราศจากภัยซ่ึงในทางปฏิบัตเิ ปน ไปไมไดท ี่จะขจดั ภัยทุก ชนิดใหหมดไปโดยสิ้นเชิง รวมถึงการปราศจากอันตรายท่ีมีโอกาสเกิดขึ้นอีกสวนหนึ่ง นอกจากนี้ Gloss และ Wardle ไดใหความหมายของ \"ความปลอดภัย (Safety)\" ไววา ความปลอดภัย คือ ความเปนอิสระจากความ เสีย่ งภัยและจากสภาวะอนั ตรายในสภาวะแวดลอ มใด ๆ 1.2 อบุ ัตเิ หตุ (Accident) หมายถงึ เหตกุ ารณที่เกดิ ขึน้ นอกเหนือความคาดหมาย ซ่งึ กอ ใหเ กดิ ความ บาดเจบ็ พกิ าร หรือเสยี ชีวติ และทาํ ใหทรพั ยส นิ ไดร บั ความเสยี หาย 1.3 การบาดเจ็บ (Injuries) หมายถึง การบาดเจ็บทางรางกายของผูปฏิบัติงาน ซึ่งมีทั้งบาดเจ็บ เลก็ นอย บาดเจบ็ จนตองหยุดงานและบาดเจ็บสาหัส 1.4 ภยั (Hazard) หมายถึง สภาพการซึ่งมีแนวโนม จะกอใหเ กิดการบาดเจ็บตอบุคคล หรือทรัพยสิน หรือกระทบกระเทอื นตอขีดความสามารถในการปฏบิ ัติงานปกตขิ องผปู ฏิบัตงิ าน 1.5 อันตราย (Danger) หมายถึง ระดับความรุนแรงที่เปนผลอันเนื่องมาจากภัย (Hazard)อันตราย จากภยั อาจมรี ะดบั สูงหรือมากนอ ยก็ได ทงั้ นข้ี ้นึ อยูกับมาตรการในการปอ งกัน 1.6 ความเสียหาย (Damage) หมายถึง ความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความสูญเสียทางดาน กายภาพ หรือความเสียหายท่ีเกิดขึ้นตอการปฏิบัติงานหรือความเสียหายทางดานการเงินท่ีเกิดขึ้นเนื่องจาก การขาดการควบคมุ ภยั 1.7 ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง สภาพการณซึ่งมีแนวโนมท่ีจะกอใหเกิดการบาดเจ็บหรือความ เสยี หาย 2. ความสญู เสียทเ่ี กดิ ขน้ึ จากอบุ ตั เิ หตุ ความสญู เสยี ทเี่ กิดจากอบุ ตั เิ หตกุ อใหเ กิดความสูญเสยี จาํ แนกไดเ ปน 2 ลกั ษณะ ดังน้ี 2.1 ความสูญเสียทางตรง ที่เกิดจากอุบัติเหตุจากการทํางาน เชน จํานวนงินที่ตองจายคา รักษาพยาบาล เงินคา ทดแทน คา ทําขวญั คาทําศพ และคา ประกนั ชวี ิต เปนตน 2.2 ความสูญเสียทางออม ท่ีเกิดจากอุบัติเหตุจากการทํางาน ไดแก คาใชจายอ่ืน ๆ นอกเหนือจาก คาใชจา ยทางตรง สําหรับการเกิดอบุ ตั ิเหตุแตล ะคร้ัง ชน การสญู เสียเวลาทาํ งานของพนักงาน คา ใชจ า ยในการ ซอมแซมคร่ืองจักร เคร่ืองมือ วัตถุดิบท่ีเสียหาย กระบวนการผลิตท่ีหยุดชะงัก คาสวัสดิการตาง ๆ คาจาง แรงงานของผูบ าดเจบ็ การสญู เสียตน ทนุ อนื่ ๆ เสยี ชือ่ เสยี ง และภาพพจนข ององคก ร เปน ตน
2 3. ประเภทของอุบตั เิ หตุ อุบัตเิ หตจุ ําแนกออกเปน 2 ประเภทดงั น้ี 3.1 อุบัติเหตุจําแนกตามชนิดของอุบัติเหตุ ไดแก พลัดตกจากท่ีสูง ถูกวัสดุหลนทับ ถูกเฉ่ียวชน กระแทกโดยวัสดุทุกชนิด ยกเวนจากการหลน ถูกหนีบ ใชแรงเกินกําลังเครื่องมือ สัมผัสกับอุณหภูมิสูงหรือตาํ่ เกนิ ไป สมั ผัสกับกระแสไฟฟา สัมผสั กบั สารพิษหรือไดร บั ผลกระทบจากการแผร งั สีตาง ๆ และอุบัตเิ หตุอ่นื ๆ 3.2 อุบัติเหตุจําแนกตามตัวการเกิดอุบัติเหตุ ไดแก เครื่องจักรกล เครื่องมือ วัสดุอุปกรณในการขน ถา ยและยกวสั ดุ วัสดชุ ้ินงาน สสาร รังสแี ละสภาพแวดลอมในการปฏบิ ตั ิงาน 4. สาเหตขุ องการเกดิ อบุ ัตเิ หตุในการปฏิบัตงิ าน อุบัตเิ หตจุ ากการปฏิบัติงานมีสาเหตุมาจากปจจัยทสี่ ําคัญ ดงั น้ี 4.1 ผูปฏิบัติงาน (Human causes) อุบัติเหตุท่ีเกิดจากการปฏิบัติงานสวนใหญ มีสาเหตุมาจาก คนมากที่สุด คิดเปนรอยละ 88 ของการเกิดอุบัติเหตุท้ังหมดมาจากปจจัยตาง ๆ เชน ขาดความรูและทักษะ ในงานทท่ี าํ วิธกี ารปฏิบัติงานไมถูกตอง ความประมาท มีนสิ ยั ชอบเส่ยี งในการทํางาน และขาดความระมดั ระวัง เปน ตน ก) หยอกลอ กนั ในขณะปฏบิ ตั งิ าน ข) ปลอ ยชายเสอื้ หรือแตงกายไมร ดั กมุ ค) หยอกลอกนั ในขณะปฏิบัตงิ าน ง) แตงกายไมร ัดกมุ ขณะปฏิบตั ิงาน จ) สภาพจติ ใจ อารมณไ มเ หมาะสมหรอื ไมเ พียงพอ ฉ) ความประมาทและขาดความระมดั ระวงั ช) ขาดความระมดั ระวัง ซ) มีนสิ ยั ชอบเสย่ี งในการทาํ งาน (ไมส วมอปุ กรณป องกัน)
3 4.2 ความผิดพลาดของเคร่ืองมือและเครอื่ งจักร คิดเปนรอยละ 10 ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมดมา จากเคร่ืองมือหรืออปุ กรณต า งๆชาํ รดุ และเครื่องจกั รท่ไี มมอี ปุ กรณป องกนั อนั ตราย ก) ใชเ ครอ่ื งมือทชี่ าํ รดุ ข) เครอ่ื งมอื หรอื อปุ กรณต างๆชํารุดบกพรอ ง ค) เครอื่ งมือหรืออปุ กรณต า งๆชํารดุ บกพรอ ง ง) เคร่อื งจกั รไมม ีครอบปองกนั อนั ตราย จ) เคร่ืองเจาะไมม คี รอบปอ งกันอันตราย ฉ) จดุ หนีบทห่ี มนุ เขาหากนั ระหวา งเฟอ ง ช) อันตรายจากเสยี งของเครื่องจักร
4 4.3 สภาพแวดลอม และการวางผังโรงงาน ผังโรงงานมีความสําคัญตอความปลอดภัยในการ ปฏิบัติงานเปนอยางมาก เพราะเปนปจจัย สําคัญในการสรางส่ิงแวดลอมท่ีหมาะสมและปลอดภัยในการ ปฏิบัติงาน สภาพของบริเวณปฏิบัติงานท่ีไมปลอดภัย ประกอบดวย แสงสวางไมเพียงพอ เสียงดังมากเกินไป การระบายอากาศท่ีมหมาะสม ความสกปรกของพ้ืนที่ พื้นที่ลื่น บริเวณท่ีคับแคบ มีสารเคมีและเชื้อเพลิงใน บริเวณการทํางาน และการจัดวางส่ิงของ ทาํ ใหว ตั ถุกีดขวาง ฯลฯ สภาพแวดลอ มที่มมคี วามปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน 5. แนวปฏิบัติเกยี่ วกบั ความปลอดภยั ในการปฏิบตั งิ าน ความปลอดภัยในการปฏิบัติงน เปนเรือ่ งที่ผูปฏิบตั ิทกุ คนตอ งใหความสําคัญเปนอนั ดบั แรก ในหัวขอนี้ จะไดอ ธิบายแนวปฏิบตั เิ กี่ยวกับความปลอดภัยในการปฏบิ ตั ิงาน ดงั น้ี 1. ไมควรนาํ เครอื่ งมอื ตา งๆ ใสไวในกระเปา เสอ้ื หรือกระเปากางเกง 2. ไมหยอกลอกันในขณะปฏิบัติงาน
5 3. ไมน าํ เครอ่ื งมอื ท่ชี ํารุดมาใชง าน 4. เครื่องเจยี ระไนจะตอ งมอี ุปกรณป องกนั อนั ตรายใหค รบ 5. ควรทาํ การแตง หนาหินดวยอปุ กรณการแตงหนาลอหนิ เจียระไน 6. ตองแตง กายใหเ หมาะสมและรดั กุมในขณะปฏบิ ัติงาน 7. อยา ใชม ือจบั ช้นิ งานเจาะรู 8. การใชงานลอ หนิ เจยี ระไนท่ีแทน รองรับงาน และหนา ลอ หินเจียระไนไมต องหา งมาก 9. ไมสวมถุงมือหรือใชผ า จบั ชิ้นงานปฏบิ ตั ิงานเจยี ระไน 10. หา มสวมรองเทา แตะเขา มาปฏิบัตงิ านในโรงงาน 11. พน้ื ทป่ี ฏิบตั งิ านตอ งสะอาดไมปลอ ยใหสกปรกรกรงุ รงั 12. พ้ืนทป่ี ฏิบัตงิ านตองมีแสงสวา งเพยี งพอ 13. ตรวจสอบความพรอ มของเครื่องจักรกอนใชง านทุกคร้ัง 14. อยา จับเศษโลหะที่ถูกตดั เฉอื นจากงานกลงึ ดว ยมือเปลา
6 15. ไมค วรใชเ คร่อื งมือผิดประเภท 16. การคลายนอตดว ยประแจ 17. ขณะปฏบิ ัติงานสายตาตองมองท่ีชน้ิ งาน 6. เคร่ืองมือและอปุ กรณป องกนั อนั ตรายในการปฏิบัตงิ าน
7 อุปกรณปองกันอันตรายเปนอุปกรณที่ผูปฏิบัติงานสวมใสขณะปฏิบัติงานเพ่ือปองกันอันตรายท่ีอาจ เกิดมาจากสภาพแวดลอมการทํางาน การใชอุปกรณปองกันอันตรายสวนบุคคลเปนวิธีหน่ึงในหลายวิธีการ ปอ งกันอันตรายจากการทาํ งาน มีหลายชนดิ ดังนี้ 6.1 อุปกรณปองกันศีรษะ (Head Protection Devices) หมวกเซฟต้ี ใชสําหรับปองกันศีรษะที่อาจ เกดิ จากการกระเเทก หรือสงิ่ ของลวงหลน ใสข ณะปฏบิ ัตงิ าน 6.2 อุปกรณป อ งกันหู (Ear Protection) ใชส ําหรับปองกันหูของเรา จากการทาํ งานในพ้นื ที่ ทม่ี เี สียง ดังมากกวาปกติ (40 – 120 เดซิเบล) เปนระยะเวลานาน เชน อุตสาหกรรมยานยนต อุตสาหกรรมผลิตบรรจุ ภัณฑ งานกอสราง เปน ตน 6.3 เเวนนิรภัย (Eye protection) ใชสําหรับปองกันดวงตา จากสารเคมี เศษโลหะ และเศษฝน ที่ อาจโดนดวงตาจากการปฏิบัติงาน เชน งานเชื่อมโลหะ งานตัดโลหะ งานทดลองในหองปฏิบัติการ และงาน กอ สราง เปน ตน
8 6.4 ถุงมือนิรภัย (Hand Protection) ถุงมือนิรภัย ใชเพื่อปองกันมือจากความรอน ของมีคม สะเก็ด ไฟจากงานตัดหรอื งานเชอ่ื ม และงานท่ีตองสัมผสั สารเคมี เปนตน 6.5 รองเทานิรภัย ( Foot Protection ) เปนรองเทาที่ออกแบบมาเพื่อปองกันอันตรายจากการ ทํางานในพ้ืนท่ีที่มีความเส่ียงตอการเกิดอันตรายกับนิ้วเทาของผูปฏิบัติงาน โดยหัวรองเทาจะมีทั้งแบบโลหะ และหัวพลาสติกที่มีความทนทานสูง เพื่อใชปองกันการกระแทก หรือสิ่งของท่ีมีนํ้าหนักมากตกใสเทา พ้ืน รองเทาบางรุนมีแผนเหล็กดวย เพื่อปองกันของมีคมที่อาจแทงทะลุผานพื้นรองเทา นอกจากนี้รองเทายัง ปองกนั นา้ํ มัน ไฟฟา และ กรด-ดา ง ไดอ ีกดวย 6.6 เขม็ ขดั นริ ภยั ( Safety Harness ) เขม็ ขัดนริ ภยั เปนอุปกรณทใ่ี ชสาํ หรบั สว มใสในการทาํ งานบน ท่ีสงู เพื่อปอ งกนั การตก
9 6.7 หนา กากกรองฝนุ ละออง ใชเ พ่อื ปอ งกันฝุน ละออง ในพนื้ ทก่ี ารทํางานที่มีฝนุ ละอองมากกวาปกติ เชน งานตดั เย็บเสือ้ ผา งานกอสราง เปนตน 6.8 เส้ือสะทอนแสง ใชสําหรับสวมใสเพื่อใหงา ยตอ การมองเห็นในที่มืดหรือมีแสงสวา งนอ ย รวมถึงท่ี อับและท่เี เคบ 7. สญั ลักษณความปลอดภัย การปฏิบัติงานในโรงงานที่มีเคร่ืองมือเครื่องจักร นอกจากจะตองปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยแลวยัง ตองสวมอุปกรณปองกันอันตรายตามลักษณะการปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัย ในโรงงานอุตสาหกรรมยังมี สัญลักษณเตือนภัย ท้ังใชสี เสียง และรูปภาพ ซ่ึงกําหนดข้ึนเปนมาตรฐานสากลเพ่ือใหผูปฏิบัติงานสามารถ เขา ใจไดต รงกัน
10
11
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: