Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษีมูลค่าเพิ่ม (2)

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (2)

Published by iaonaon2557, 2018-03-24 21:30:45

Description: ภาษีมูลค่าเพิ่ม (2)

Search

Read the Text Version

23 ภาษีซื้อต้องห้าม ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

45 คำ�น�ำ ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ คอื ภาษที จ่ี ดั เกบ็ จากการขายสนิ คา้ การใหบ้ รกิ าร และการน�ำ เขา้ สินค้า ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ ที่ขายสินค้าหรือใหบ้ ริการไม่วา่ จะประกอบกิจการในรปู แบบใด หากมีรายรบั จากการขายสินค้าหรอื ใหบ้ รกิ าร เกนิ กว่า 1.8 ลา้ นบาทต่อปี มีหน้าทต่ี ้องยืน่ ค�ำ ขอจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพิ่ม และ มหี นา้ ท่ีต้องออกใบกำ�กับภาษขี ายทุกครั้งทมี่ ีการขายสินคา้ หรือให้บริการ และหาก มีการซื้อสนิ ค้าหรอื รบั บริการจากผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิม่ รายอ่นื สามารถนำ�ภาษีซื้อตามใบกำ�กบั ภาษีมาหักออกจากภาษีขายในการคำ�นวณภาษี มลู ค่าเพ่มิ หรือขอคนื ภาษซี ือ้ ได้ สำ�หรบั ภาษซี อื้ ที่ผูป้ ระกอบการตอ้ งพึงระมดั ระวงั ในทางปฏิบตั ิคือ ภาษีซ้ือตอ้ งห้าม ทกี่ ฎหมายไมใ่ หน้ ำ�มาหกั ออกจากภาษขี าย หรือไมส่ ามารถน�ำ มาขอคืนภาษีซ้ือได้ ในการค�ำ นวณภาษีมูลค่าเพ่ิม กรมสรรพากรจึงได้จดั ท�ำ เอกสารเผยแพร่ “ภาษซี ้อื ต้องห้าม” ข้นึ เพอ่ื เผยแพรใ่ หผ้ ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ โดยเฉพาะผปู้ ระกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อม และผู้สนใจทว่ั ไป ได้รับความรู้ความเข้าใจ และ ปฏิบัติได้ถูกต้องเป็นแนวทางเดียวกันเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไปและหวังเปน็ อยา่ งยิ่งวา่ จะเปน็ ประโยชน์แก่ผูเ้ สียภาษที ่วั ไปไดเ้ ป็นอยา่ งดี กรมสรรพากร มถิ นุ ายน 2555

67สารบัญ หน้าภาษมี ูลค่าเพม่ิ 09นยิ ามภาษีขายและภาษีซอ้ื 10ภาษซี ้อื ตอ้ งห้าม 14เบย้ี ปรบั เงนิ เพม่ิ 21ภาษีซื้อต้องหา้ มกับรายจ่ายภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบุคคล 26เอกสารส�ำ คญั เก่ยี วกบั ภาษีซื้อ 33- ใบก�ำ กบั ภาษี (Tax Invoice) 35- ใบเพมิ่ หน้ี (Debit Note) 43- ใบลดหน้ี (Credit Note) 47- ใบเสร็จรับเงนิ จากการรับช�ำ ระภาษมี ลู ค่าเพิ่มของกรมสรรพากร 52- ใบเสร็จรบั เงนิ ท่กี รมศุลกากรหรอื กรมสรรพสามติ เรียกเกบ็ ภาษี 53 มลู ค่าเพิ่มเพ่อื กรมสรรพากร- ใบเสรจ็ รับเงินของส่วนราชการ 54

9 ภาษีมูลคา่ เพ่ิม (Value Added Tax : VAT) “ภาษีมลู ค่าเพ่ิม” (Value Added Tax : VAT) เปน็ ภาษที ี่จดั เก็บจากการขายสนิ ค้า การใหบ้ รกิ ารและการน�ำ เขา้ ปจั จบุ นั จดั เก็บภาษใี นอตั ราร้อยละ 7 (รวมภาษีทจ่ี ดัเกบ็ ใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น) และอัตราร้อยละ 0 ส�ำ หรบั การสง่ ออก ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่อยู่ในบังคับภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีรายรับเกินกวา่ 1.8 ล้านบาทต่อปหี รอื ต่อรอบระยะเวลาบญั ชี ต้องจดทะเบยี นเป็นผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพม่ิ และเมอื่ ขายสินค้าหรือให้บรกิ ารตอ้ งออกใบก�ำ กบั ภาษี เพื่อเรียกเก็บภาษมี ลู ค่าเพ่ิมจากผู้ซอื้ สนิ คา้ หรอื ผใู้ ห้บรกิ าร พร้อมท้งั ส่งมอบใบกำ�กบั ภาษใี หแ้ ก่ผู้ซอ้ื สินค้าหรือผ้ใู ชบ้ รกิ าร การคำ�นวณภาษมี ลู ค่าเพิม่ ให้ค�ำ นวณ โดยการน�ำ ภาษีขายหกั ดว้ ยภาษีซื้อในแตล่ ะเดือนภาษี ดังนี้ ภาษีมูลคา่ เพิ่มต้องช�ำ ระ = ภาษีขาย – ภาษซี ้ือ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ลู คา่ เพม่ิ(ภ.พ.30) เป็นรายเดือนภาษี โดยยืน่ แบบตง้ั แต่วนั ที่ 1 – 15 ของเดอื นถดั ไปทกุ เดือนไมว่ า่ กิจการจะมรี ายรับจากการขายสนิ คา้ หรอื ให้บริการในเดือนภาษนี ้ันหรอื ไมก่ ต็ าม กรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพิม่ และผลจากการค�ำ นวณภาษพี บว่า ภาษขี ายมากกวา่ ภาษซี ือ้ ผ้ปู ระกอบการมีหน้าที่ต้องนำ�ส่งเงินภาษีต่อกรมสรรพากรเท่ากับส่วนต่างนั้น แต่หากภาษีขายน้อยกวา่ ภาษีซือ้ ผู้ประกอบการมสี ทิ ธไิ ดร้ บั คืนภาษีซือ้ โดยผปู้ ระกอบการจะขอคนื ภาษีซื้อเป็นเงินสดหรือให้นำ�เครดิตภาษีไปชำ�ระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนถัดไปก็ได้ การแสดงรายละเอียดการคำ�นวณภาษีมูลค่าเพ่ิมท้ังยอดภาษีขายและยอดภาษีซ้ือท่ีแสดงในแบบ ภ.พ.30 จะต้องเป็นภาษีท่ถี ูกต้องตามกฎหมาย และมสี ทิ ธินำ�มาใช้ในการคำ�นวณภาษมี ลู คา่ เพ่ิมเทา่ นัน้

11 นยิ าม ภาษขี าย และภาษซี อ้ื ภาษขี าย (Output Tax) •ภา ภษาขี ษามี ยลู (คO่าuเพtpิม่ uทt ผ่ี T้ปู aรxะ)กหอมบากยาถรงึ จดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพ่ิม ได้เรียกเก็บหรอื พงึ เรียกเกบ็ จากผู้ซ้ือสนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บริการเม่ือมกี ารขายสนิ ค้าหรอื รบั ค่าบริการรวมถงึ ภาษีมลู ค่าเพมิ่ ท่ผี ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม่ มหี นา้ ทเ่ี สยี ภาษี ในกรณีทเ่ี ป็นการขายสนิ ค้า ท้งั น้ี ใหร้ วมถึง - การน�ำ สนิ คา้ ไปใช้ ไม่วา่ ประการใด ๆ เว้นแต่ นำ�ไปใชเ้ พื่อการประกอบกจิ การของตนเองโดยตรง - มสี ินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวตั ถุดบิ - มีสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สินท่ีผู้ประกอบการมีไว้ในการประกอบกิจการจากรายงานสนิ คา้ และวตั ถดุ ิบ ณ วนั เลกิ ประกอบกิจการ หรอื วนั ที่ไดร้ บั แจง้ คำ�สั่งถ•อน ภหารษอื ีมวูลันคท่า่ไี เดพ้ริ่มับทแี่ผจู้ปง้ กราะรกเอพบิกกถาอรนจทดะทเบะเยี บนียภนาภษามี ษูลีมคูล่าคเพ่ามิ่เพิ่ม มีหน้าที่เสียภาษีจากการให้บรกิ ารหรือใช้บริการของกจิ การ ไมร่ วมถึงเพอื่ การประกอบกจิ การของตนเองโดยตรง และการนำ�เงินไปหาประโยชน์โดยการฝากธนาคารหรือซื้อพันธบัตรหรือหลกั ทรพั ย์

12 13 ภาษีซือ้ (Input Tax) ประเภทภาษซี อ้ื หมายถงึ ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ทผ่ี ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ถกู ผปู้ ระกอบการ ในระบบภาษีมลู ค่าเพม่ิ เม่อื ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพิม่ ซ้อืจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมอ่ืนเรียกเก็บจากการซ้ือสินค้าหรือรับบริการเพ่ือใช้ในการ สินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มรายอื่น จะถูกประกอบกิจการของตนเอง และให้หมายความรวมถึง เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการนั้น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูก เรียกเก็บถือเป็นภาษีซ้ือที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมได้จ่ายไปใน • ภาษีมูลค่าเพิ่มท่ีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้เสียเมื่อนำ�เข้า การซ้อื สินคา้ หรือรับบริการสนิ ค้า ภาษซี อื้ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท • ภาษีมูลค่าเพ่ิมที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมได้เสียเม่ือรับโอน 1. ภาษซี อ้ื ทก่ี ฎหมายใหน้ �ำ มาหกั ออกจากภาษขี ายหรอื ขอคนื ภาษซี อ้ื ต้องเป็นภาษีซ้ือท่ีเกิดจากการซ้ือสินค้าหรือรับบริการท่ีถูกเรียกเก็บจากผู้ประกอบการสินค้านำ�เข้าที่จำ�แนกประเภทไว้ในภาคว่าด้วยของท่ีได้รับยกเว้นอากรตามกฎหมาย จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มรายอื่น หรือภาษีซื้อที่เกิดจากการนำ�เข้าสินค้า การรับโอนว่าด้วยพิกดั อตั ราศุลกากร สนิ คา้ น�ำ เขา้ การขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ การช�ำ ระราคาสนิ คา้ หรอื ราคาคา่ บรกิ ารใหก้ บั ผปู้ ระกอบการทอ่ี ยนู่ อกราชอาณาจกั ร และการรบั โอนสนิ คา้ หรอื รบั โอนสทิ ธบิ รกิ ารในการ • ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ท่ไี ดน้ �ำ ส่งกรมสรรพากร ขายสนิ คา้ หรอื การใหบ้ รกิ ารทไ่ี ดเ้ สยี ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ในอตั รารอ้ ยละ 0 โดยสนิ คา้ หรอื บรกิ าร ดงั กลา่ วตอ้ งน�ำ มาใชใ้ นการประกอบกจิ การของตน และไมเ่ ปน็ ภาษซี อ้ื ทก่ี ฎหมายไมใ่ หน้ �ำ - จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษี มาหกั ออกจากภาษขี ายหรอื ขอคนื ภาษซี อ้ืมลู ค่าเพิ่ม 2. ภาษซี อ้ื ตอ้ งหา้ ม - จากการชำ�ระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้กับผู้ประกอบการที่อยู่นอก ภาษีซ้ือต้องห้ามเป็นภาษีซ้ือท่ีกฎหมายไม่ให้นำ�มาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนราชอาณาจักร ซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักร ภาษซี อ้ื โดยไดก้ �ำ หนดลกั ษณะภาษซี อ้ื ตอ้ งหา้ มไวต้ ามมาตรา 82/5 แหง่ ประมวลรษั ฎากรเป็นการช่ัวคราวและไมไ่ ด้จดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพิ่มเปน็ การช่วั คราว และประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 17) และ (ฉบบั ท่ี 42) - จากการชำ�ระราคาค่าบริการให้กับผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการในต่างประเทศและไดม้ ีการใชบ้ ริการนัน้ ในราชอาณาจักร - จากการรับโอนสินค้าหรือรับโอนสิทธิบริการในการขายสินค้าหรือการให้บริการทไ่ี ดเ้ สียภาษมี ลู คา่ เพ่ิมในอตั รารอ้ ยละ 0

15 ภาษซี ้อื ต้องห้าม หมายถึง ภาษีซ้อื ท่ผี ูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพิ่มไมส่ ามารถน�ำ มาหกัออกจากภาษขี ายในการค�ำ นวณภาษีมลู คา่ เพม่ิ หรอื นำ�มาขอคนื ภาษซี ื้อ ซึง่ กฎหมายได้ก�ำ หนดลักษณะของภาษีซ้ือตอ้ งหา้ มไวใ้ นมาตรา 82/5 แห่งประมวลรษั ฎากร และประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เกยี่ วกบั ภาษีมลู คา่ เพมิ่ (ฉบบั ที่ 17) ดังนี้ลกั ษณะภาษซี ือ้ ต้องหา้ ม1. ไม่มใี บก�ำ กบั ภาษี หรอื ไมอ่ าจแสดงใบก�ำ กบั ภาษไี ด้ (1) ไม่มีใบกำ�กับภาษี เนื่องจากผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการไม่ออกใบกำ�กับภาษี หรอื ออกใบกำ�กับภาษีแต่ระบชุ อ่ื บุคคลอ่นื (2) มีใบกำ�กับภาษีแต่ไม่อาจแสดงใบกำ�กับภาษีได้ว่ามีการชำ�ระภาษีซ้ือเปน็ กรณีท่ไี ดซ้ ้ือสนิ คา้ หรือรับบริการจริง แตไ่ มอ่ าจแสดงตอ่ เจา้ พนักงานสรรพากรได้2. กรณีใบกำ�กับภาษีซื้อมีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำ�คัญตามที่กฎหมายกำ�หนด ใบกำ�กับภาษีที่นำ�มาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซื้อได้ ต้องเป็นใบกำ�กับภาษแี บบเตม็ รปู และตอ้ งมขี อ้ ความตามมาตรา 86/4 แหง่ ประมวลรษั ฎากร หากใบก�ำ กบัภาษีมีข้อความไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำ�หนด ภาษีซื้อนั้นถือเป็นภาษีซื้อต้องหา้ ม ดังนนั้ ผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู ค่าเพม่ิ ควรตรวจสอบใบก�ำ กับภาษีวา่มรี ายการครบถว้ นตามทกี่ ฎหมายก�ำ หนดหรอื ไม่ กอ่ นทีจ่ ะรบั มอบใบก�ำ กับภาษีน้นั

16 173. ภาษีซ้ือท่ีไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการ 5. ภาษีซ้อื ตามใบกำ�กบั ภาษีที่ออกโดยผูไ้ มม่ ีสิทธอิ อกใบกำ�กบั ภาษีจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพม่ิ ภาษีซื้อตามใบกำ�กับภาษีที่ออกโดยผู้ไม่มีสิทธิออกใบก�ำ กับภาษีเป็นภาษีซื้อท่ีไม่ให้ ภาษีซื้อที่นำ�มาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซื้อได้ ต้องเป็นภาษีซื้อที่เกิด นำ�มาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษซี อ้ืจากรายจ่ายเพ่ือกิจการหรือเพื่อหากำ�ไรของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผไู้ มม่ สี ิทธิออกใบก�ำ กับภาษมี ดี ังน้ีหากภาษีซื้อนั้นไม่เกี่ยวข้องกับกิจการหรือเพ่ือหากำ�ไรของผู้ประกอบการจดทะเบียน (1) บคุ คลทไ่ี ม่ใชผ่ ้ปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม่ภาษีมูลค่าเพม่ิ ภาษีซอื้ น้ันเป็นภาษีซื้อตอ้ งห้าม ถึงแม้ใบกำ�กบั ภาษนี ั้นจะมรี ายการครบ (2) ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่อยู่นอกราชอาณาจักร และมีถว้ นตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรษั ฎากรกต็ าม ตวั แทนท�ำ การออกใบกำ�กบั ภาษใี นนามของผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพม่ิ (3) ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ทรัพย์สินถูกนำ�ออกขาย4. ภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายเพ่ือการรับรองหรือเพ่ือการอันมีลักษณะ ทอดตลาดหรอื ขายโดยวิธีอ่ืนหรือโดยบคุ คลอืน่ทำ�นองเดียวกัน 6. ภาษซี อ้ื ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 42) ภาษีซื้อท่ีเกิดจากรายจ่ายเพื่อการรับรองหรือเพื่อการอันมีลักษณะทำ�นอง ภาษีซ้ือตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรที่กฎหมายไม่ให้นำ�มาหักออกจากภาษีเดียวกันที่ไม่ให้นำ�มาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซื้อได้นั้น ต้องเป็นไปตาม ขายหรอื ขอคนื ภาษีซอื้ มีดังน้ีหลักเกณฑ์และเงอ่ื นไข ดงั นี้ (1) ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือรับโอนรถยนต์นั่งและรถยนต์ (1) ค่ารับรองหรือค่าบริการไม่ว่าจะจ่ายเพื่อการรับรองหรือให้บริการแก่บุคคล โดยสารทีม่ ีทีน่ งั่ ไมเ่ กนิ 10 คน และภาษซี ือ้ ท่ีเกดิ จากการซ้ือสินคา้ หรอื การรบั บรกิ ารที่ใด ๆ และไมว่ า่ จะอ�ำ นวยประโยชนแ์ กก่ จิ การหรอื ไม่กต็ าม เช่น คา่ ที่พกั ค่าอาหาร เกยี่ วข้องกับรถยนตน์ ัง่ และรถยนต์โดยสารที่มที ี่นง่ั ไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายวา่ ด้วยค่าเครื่องด่ืม คา่ มหรสพ คา่ ใชจ้ า่ ยเพื่อการกฬี า และคา่ ใชจ้ า่ ยอื่น ๆ ท�ำ นองเดยี วกนั พิกัดอัตราภาษสี รรพสามิต (2) ค่าส่ิงของหรือประโยชน์อ่ืนใดท่ีให้แก่บุคคลซึ่งได้รับการรับรองหรือ กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้บังคับสำ�หรับการขายรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีรับบรกิ ารตาม (1) และบุคคลอื่น ท่นี ่งั ไมเ่ กนิ 10 คน ตามกฎหมายว่าดว้ ยพกิ ัดอัตราภาษีสรรพสามิต และการให้บริการ เช่ารถยนต์ดังกล่าวของตนเองโดยตรง และการให้บริการรับประกันวินาศภัยสำ�หรับ รถยนต์ดงั กลา่ ว

18 19หมายเหตุ : (7) ภาษีซื้อตามใบกำ�กับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวล “รถยนต์นงั่ ” คอื รถเกง๋ หรือรถยนต์ที่ออกแบบเพ่ือใชส้ ำ�หรบั น่ังเป็นปกติวิสยั และให้ รัษฎากร ซึ่งมีรายการในใบกำ�กับภาษีเป็นสำ�เนา (Copy) เป็นภาษีซื้อต้องห้ามหมายความรวมถงึ รถยนตใ์ นลักษณะทำ�นองเดียวกนั เชน่ รถยนตท์ ี่มหี ลังคาตดิ ตอ่ เป็น แต่ไม่รวมถึงใบกำ�กับภาษีท่ไี ด้จัดทำ�รวมกับเอกสารทางการค้าอ่นื ซ่งึ มีจำ�นวนหลายฉบับเน้ือเดียวกันในลักษณะถาวรด้านข้าง หรอื ด้านหลงั คนขบั มีประตหู รอื หนา้ ตา่ งและมที ี่น่ัง และใบก�ำ กบั ภาษมี รี ายการในใบก�ำ กบั ภาษเี ปน็ ส�ำ เนามขี อ้ ความวา่ “เอกสารออกเปน็ ชดุ ”ทัง้ น้ี ไมว่ า่ จะมที ีน่ ง่ั เทา่ ใด ปรากฏอยดู่ ้วย “รถยนตโ์ ดยสาร” คอื รถตูห้ รือรถยนต์ท่ีออกแบบเพอ่ื ใช้ขนส่งคนโดยสารจ�ำ นวนมาก (8) ภาษีซื้อส่วนที่เฉล่ียเป็นของกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มรวมทั้งรถยนต์ในลกั ษณะทำ�นองเดียวกัน ซง่ึ ไดค้ �ำ นวณตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี ารและเง่อื นไขตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (9) ภาษซี อื้ ทเี่ กิดจากการซือ้ สนิ ค้าหรอื รับบรกิ าร ซ่ึงผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น (2) ภาษซี ื้อตามใบก�ำ กับภาษอี ย่างยอ่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม นำ�ไปใช้หรือจะใช้ในการประกอบกิจการทั้งประเภทที่ต้องเสียภาษี (3) ภาษซี ื้อที่เกดิ จากการซอื้ ทรัพย์สนิ เพอื่ ใช้ หรอื จะใช้ในกจิ การประเภททไี่ ม่ มูลค่าเพิ่มและประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และผู้ประกอบการจดทะเบียนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายของกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพ่ิมใช้สิทธิเลือกไม่นำ�ภาษีซ้ือทั้งหมดไปหักในการคำ�นวณภาษีมูลค่าเพ่ิมภาษีมูลคา่ เพ่มิ เน่อื งจากกิจการประเภททไี่ ม่ต้องเสยี ภาษมี ูลค่าเพิ่มมรี ายไดไ้ มน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 90 ของ (4) ภาษซี ื้อทเ่ี กิดจากการกอ่ สร้างอาคารหรืออสังหาริมทรพั ยอ์ ่ืน เพอ่ื น�ำ มาใช้ รายไดข้ องกิจการท้ังหมดในกจิ การของตนเอง ซึ่งเปน็ กจิ การประเภททีต่ ้องเสยี ภาษมี ูลคา่ เพ่มิ ภาษซี ื้อดังกล่าวให้ (10) ภาษีซ้ือตามใบกำ�กับภาษีแบบเต็มรูปซ่ึงรายการได้ถูกแก้ไขหรือถูกมสี ทิ ธินำ�มาหักออกจากภาษีขายในการคำ�นวณภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ต่อมาผู้ประกอบการได้ เปลี่ยนแปลง เป็นภาษีซื้อต้องห้าม เว้นแต่รายการซึ่งได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามขายหรอื ใหเ้ ชา่ อาคารหรอื อสังหารมิ ทรัพยน์ ้ันหรือนำ�ไปใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ตอ้ งเสีย หลกั เกณฑ์และวิธกี ารทีอ่ ธบิ ดีกำ�หนดภาษมี ูลคา่ เพิ่มภายใน 3 ปีนับแตเ่ ดือนภาษที ก่ี ่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ภาษซี อื้ นั้นเป็นภาษี หมายเหตุ : การแกไ้ ขเปลีย่ นแปลงตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารท่อี ธิบดีกำ�หนดซือ้ ตอ้ งหา้ มต้ังแตต่ น้ - การแกไ้ ขทอี่ ย่ขู องผ้อู อกใบกำ�กับภาษี พรอ้ มกบั ลงลายมอื ช่ือผอู้ อกใบก�ำ กบั (5) ภาษีซื้อตามใบกำ�กับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวล ภาษกี ำ�กบั การแก้ไข ท้ังน้ี เฉพาะใบก�ำ กบั ภาษที ไี่ ดอ้ อกในชว่ งระยะเวลาไม่เกิน 1 ปนี บัรัษฎากร ซึ่งรายการในใบกำ�กับภาษีไม่ได้พิมพ์ หรือไม่ได้จัดทำ�ขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ แต่วันที่ทางราชการไดป้ ระกาศเปลี่ยนแปลงเลขทบ่ี า้ น ช่ือถนน หมบู่ า้ น ตำ�บลหรอื แขวงในกรณีจัดทำ�ใบกำ�กับภาษีด้วยคอมพิวเตอร์ทัง้ ฉบบั อำ�เภอหรือเขต หรอื จงั หวดั หรอื ไดท้ ำ�การแบ่งเขตถนน หมู่บ้าน ต�ำ บล หรือแขวง อำ�เภอ (6) ภาษีซื้อตามใบกำ�กับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวล หรือเขต หรอื จงั หวดั ใหม่รัษฎากร ซึ่งมีข้อความอื่นที่อธิบดีกำ�หนดในใบกำ�กับภาษีที่ไม่ได้จัดทำ�ขึ้นด้วยวิธีการตามประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร

20 21 - การแก้ไขที่อยู่ของผู้ออกใบกำ�กับภาษีด้วยวิธีการประทับตรายางท่ีอยู่ท่ีถูกต้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ เฉพาะใบกำ�กับภาษีที่ได้ออกในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันท่ีทางราชการไดป้ ระกาศเปลีย่ นแปลงเลขท่บี า้ น ชือ่ ถนน หมบู่ า้ น ตำ�บลหรอื แขวงอ�ำ เภอหรือเขต หรือจงั หวดั หรอื ได้ทำ�การแบง่ เขตถนน หมู่บ้าน ต�ำ บลหรือแขวง อ�ำ เภอหรอื เขต หรอื จงั หวัดใหม่ (11) ภาษซี อื้ ทเี่ กดิ จากการซื้อ เชา่ ซ้อื หรอื รบั โอนรถยนตท์ ไี่ มใ่ ช่รถยนต์นงั่ และรถยนตโ์ ดยสารที่มีที่น่ังไม่เกนิ 10 คน ตามกฎหมายว่าดว้ ยพกิ ัดอตั ราภาษีสรรพสามิตเพอ่ื ใชห้ รอื จะใชใ้ นกจิ การประเภททต่ี อ้ งเสยี ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ และตอ่ มาภายใน 3 ปนี บั แต่เดือนภาษีที่ได้รถยนต์ไว้ในครอบครองได้มีการดัดแปลงรถยนต์ดังกล่าวเป็นรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามติ กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้บังคับสำ�หรับการขายรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีท่ีน่ังไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายวา่ ด้วยพิกดั อตั ราภาษีสรรพสามิต และการใหบ้ รกิ ารเชา่ รถยนต์ดังกล่าวของตนเองโดยตรง (12) ภาษีซ้ือตามใบก�ำ กับภาษแี บบเต็มรูปซง่ึ มรี ายการ ชอื่ ท่อี ยู่ เลขประจำ�ตัวผเู้ สยี ภาษอี ากรตามมาตรา 86/4 (2) แห่งประมวลรษั ฎากร ไมไ่ ด้พมิ พ์ขนึ้ หรือไมไ่ ด้จัดทำ�ขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ในกรณีจัดทำ�ใบกำ�กับภาษีขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทง้ั ฉบบั เป็นภาษีซ้ือตอ้ งห้าม กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้บังคับสำ�หรับใบกำ�กับภาษีที่ออกโดยผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งเป็นบริษัทจำ�กัดหรือบริษัทมหาชนจำ�กัดที่ได้เปล่ียนสถานะจากรัฐวิสาหกจิ ประเภทองค์การของรฐั ตามท่มี กี ฎหมายจดั ตง้ั ทั้งน้ี เฉพาะใบกำ�กบั ภาษีท่ีได้ออกในช่วงระยะเวลาไม่เกนิ 1 ปนี บั แตว่ นั ทจ่ี ดทะเบียนจัดตั้งเป็นบรษิ ทั จ�ำ กดั หรือบริษทัมหาชนจำ�กดั

22 23 เบยี้ ปรับ เงินเพ่ิม หากผู้ประกอบการจดทะเบียนได้นำ�ภาษีซื้อตามใบกำ�กับภาษีข้างต้นไปคำ�นวณ หักออกจากภาษีขายในการคำ�นวณภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่นำ�ภาษีซื้อต้องห้ามมาหักออกจาก มูลค่าเพิ่มต่อกรมสรรพากรแล้ว ถือว่าผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ยื่นภาษีขายในการคำ�นวณภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องชำ�ระภาษีมูลค่าเพ่ิมตามใบกำ�กับภาษี แบบแสดงรายการไวไ้ มถ่ กู ต้อง หรือมขี ้อผดิ พลาดอนั เปน็ เหตุใหค้ �ำ นวณภาษีซ้อื ในเดือนรวมทั้งตอ้ งเสยี เบ้ียปรับและเงนิ เพิ่ม ดงั น้ี ภาษที ี่แสดงไว้คลาดเคล่ือนไป ใหเ้ สียเบย้ี ปรบั อีกหนึ่งเท่าของจำ�นวนภาษีซ้ือทแี่ สดงไว้ เกนิ ไป ตามมาตรา 89(4) แห่งประมวลรัษฎากร1. เบย้ี ปรบั 1 เทา่ 2. เบี้ยปรับ 2 เท่า - ไมม่ ีใบกำ�กับภาษี หรอื ไมอ่ าจแสดงใบกำ�กบั ภาษีได้ กรณีนำ�ใบกำ�กับภาษีปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนมาใช้ในการคำ�นวณภาษี - ใบกำ�กับภาษีมีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำ�คัญ มูลคา่ เพิ่มตามทีก่ ฎหมายก�ำ หนด หมายเหตุ : - ภาษีซ้ือท่ีไม่เก่ียวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการจด (1) ใบกำ�กับภาษีทไี่ มส่ ามารถพสิ ูจน์ได้วา่ บคุ คลใดเปน็ ผูอ้ อกใบกำ�กบั ภาษใี ห้ทะเบียนภาษมี ูลค่าเพ่มิ ถอื ว่าเป็นใบก�ำ กับภาษีปลอม - ภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายเพื่อการรับรองหรือเพื่อการอันมีลักษณะทำ�นอง (2) ผู้ประกอบการที่นำ�ใบกำ�กับภาษีปลอมมาใช้ในการเครดิตภาษี นอกจากเดียวกัน ต้องเสยี เบ้ยี ปรบั และเงนิ เพมิ่ แล้ว หากเจตนาน�ำ ใบกำ�กับภาษีปลอม หรือใบกำ�กับภาษที ่ี - ภาษซี ้อื ตามใบก�ำ กับภาษีท่อี อกโดยผไู้ ม่มสี ิทธิออกใบกำ�กบั ภาษี ออกโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมายมาใช้ในการเครดติ ภาษตี อ้ งระวางโทษจำ�คกุ ตง้ั แต่ 3 เดอื น - ภาษซี อ้ื ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกับภาษมี ูลค่าเพิม่ (ฉบบั ที่ 42) ถึง 7 ปี และปรับตงั้ แต่ 2,000 บาทถงึ 200,000 บาท

24 25 นับเม่ือพน้ กำ�หนดเวลาย่ืนแบบแสดงรายการภาษมี ูลค่าเพมิ่ ท้ังน้ี เงินเพมิ่ ท่ี 1. ช�ำ ระภาษีมลู คา่ เพมิ่ ภายใน 15 วนั นับแตว่ นั พน้ ก�ำ หนดเวลาช�ำ ระภาษีคำ�นวณไดไ้ มใ่ หเ้ กนิ จำ�นวนภาษีที่ตอ้ งชำ�ระหรอื น�ำ ส่ง มลู คา่ เพิ่มให้เสยี เบ้ยี ปรับรอ้ ยละ 2 ของเบ้ยี ปรับ 2. ช�ำ ระภาษมี ลู คา่ เพิ่มภายใน 15 วัน แตไ่ มเ่ กนิ 30 วนั นบั แตว่ ันพน้ กำ�หนด การขอลดเบย้ี ปรับ เวลาช�ำ ระภาษมี ลู ค่าเพ่มิ ใหเ้ สียเบยี้ ปรบั ร้อยละ 5 ของเบีย้ ปรบั 3. ชำ�ระภาษมี ูลคา่ เพ่มิ ภายใน 30 วัน แต่ไมเ่ กนิ 60 วนั นับแต่วนั พ้นกำ�หนด ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มท่ีนำ�ภาษีซื้อต้องห้ามมาใช้ในการ เวลาช�ำ ระภาษมี ูลคา่ เพ่มิ ใหเ้ สียเบย้ี ปรับร้อยละ 10 ของเบ้ยี ปรบัคำ�นวณภาษมี ลู คา่ เพมิ่ กรณตี อ้ งเสียเบย้ี ปรบั 1 เท่า เบ้ยี ปรับ 1 เทา่ ที่ตอ้ งเสยี สามารถ 4. ช�ำ ระภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ภายหลงั 60 วันนบั แตว่ ันพน้ ก�ำ หนดเวลาชำ�ระภาษีขอลดลงได้ ถ้าหากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ยื่นแบบแสดงรายการ มลู ค่าเพิม่ ใหเ้ สยี เบ้ยี ปรบั ร้อยละ 20 ของเบย้ี ปรับภาษีมลู ค่าเพ่ิม (ภ.พ.30) เพ่ิมเตมิ ภายในระยะเวลาทกี่ รมสรรพากรกำ�หนด โดยไม่ไดถ้ ูก หมายเหตุ : เบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพ่ิมท่ีเกิดจากการนำ�ใบกำ�กับภาษีปลอมมาใช้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจพบและได้บันทึกความผิดไว้ในหนังสือหรือบันทึกข้อความ ไม่สามารถขอลดเบีย้ ปรับได้โดยเจ้าพนักงานสรรพากร สรุปไดด้ ังน้ี

26 27 ภาษีซือ้ ตอ้ งหา้ มกับรายจา่ ยภาษเี งินได้นติ บิ ุคคล ในระบบภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ภาษซี อ้ื ตอ้ งหา้ มเปน็ ภาษซี อ้ื ทก่ี ฎหมายไมใ่ หผ้ ปู้ ระกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมนำ�มาหักออกจากภาษีขายในการคำ�นวณภาษีหรือขอคืน ภาษีซอ้ื บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม สามารถน�ำ ภาษซี อ้ื ตอ้ งหา้ มมาหกั เปน็ รายจา่ ยในการค�ำ นวณก�ำ ไรสทุ ธเิ พอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ได้ นติ บิ ุคคล ดังน้ี • ภาษซี ือ้ ตอ้ งห้ามทสี่ ามารถนำ�มาหักเปน็ รายจ่ายในการค�ำ นวณก�ำ ไรสุทธิ 1. ภาษซี ือ้ คา่ รบั รองทม่ี ีลักษณะ ดงั น้ี (1) ค่ารับรอง หรือค่าบริการไม่ว่าจะจ่ายเพื่อการรับรองหรือให้บริการแก่ บคุ คลใด ๆ และไม่ว่าจะอำ�นวยประโยชนแ์ กก่ ิจการหรอื ไมก่ ็ตาม เชน่ ค่าท่พี กั คา่ อาหาร คา่ เครือ่ งด่มื คา่ มหรสพ คา่ ใชจ้ า่ ยเพ่อื การกีฬา และค่าใชจ้ า่ ยอื่น ๆ ทำ�นองเดยี วกนั (2) คา่ สง่ิ ของ หรอื ประโยชนอ์ นื่ ใดที่ใหแ้ กบ่ ุคคลซ่งึ ได้รบั การรับรองหรอื รับ บริการหรอื ทใี่ หบ้ คุ คลอน่ื 2. ภาษีซ้ือต้องห้ามตามประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษีมูลคา่ เพ่ิม (ฉบบั ที่ 42) ภาษีซ้ือต้องห้ามตามประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากรท่สี ามารถน�ำ มาหักเปน็ รายจ่ายในการค�ำ นวณกำ�ไรสทุ ธเิ พอ่ื เสียภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบคุ คล มีดงั นี้ (1) ภาษซี ือ้ ที่เกิดจากการซื้อ เช่าซอ้ื เช่า หรือรับโอนรถยนตน์ ง่ั และรถยนต์ โดยสารทีม่ ที ีน่ งั่ ไมเ่ กนิ 10 คน และภาษีซอื้ ที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือการรบั บริการที่ เกีย่ วข้องกบั รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารท่ีมีท่ีน่งั ไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วย พกิ ัดอัตราภาษสี รรพสามติ

28 29 กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้บังคับสำ�หรับการขายรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารท่ีมี (5) ภาษซี ้อื ตามใบก�ำ กับภาษแี บบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แหง่ ประมวลที่น่ังไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายวา่ ด้วยพิกัดอตั ราภาษีสรรพสามติ และการใหบ้ รกิ ารเช่า รัษฎากร ซึง่ มีรายการในใบกำ�กบั ภาษีไมไ่ ด้พิมพ์ หรอื ไม่ไดจ้ ดั ทำ�ข้นึ ดว้ ยคอมพิวเตอร์รถยนต์ดงั กล่าวของตนเองโดยตรง และการให้บริการรบั ประกันวนิ าศภัยส�ำ หรบั รถยนต์ ในกรณีจดั ทำ�ใบกำ�กับภาษดี ้วยคอมพิวเตอร์ทง้ั ฉบบัดังกล่าว (6) ภาษีซอื้ ตามใบกำ�กบั ภาษีแบบเต็มรปู ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลหมายเหตุ : รษั ฎากร ซงึ่ มขี ้อความอ่ืนท่ีอธิบดีกำ�หนดในใบกำ�กับภาษที ่ีไม่ไดจ้ ดั ทำ�ขน้ึ ด้วยวิธกี าร “รถยนตน์ ่งั ” คือ รถเก๋งหรอื รถยนตท์ อ่ี อกแบบเพ่ือใชส้ ำ�หรบั นง่ั เป็นปกติวิสัย และ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรใหห้ มายความรวมถงึ รถยนตใ์ นลกั ษณะทำ�นองเดยี วกัน เช่น รถยนตท์ ีม่ หี ลงั คาติดตอ่ (7) ภาษีซ้ือตามใบก�ำ กับภาษีแบบเตม็ รปู ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลเป็นเน้อื เดยี วกนั ในลักษณะถาวรดา้ นขา้ ง หรือดา้ นหลงั คนขบั มีประตหู รอื หน้าตา่ งและมี รัษฎากร ซ่ึงมีรายการในใบก�ำ กับภาษีเปน็ สำ�เนา (Copy) แต่ไมร่ วมถึงใบก�ำ กับภาษที ่ีทีน่ ั่ง ท้งั น้ี ไม่วา่ จะมที น่ี ง่ั เทา่ ใด จดั ท�ำ รวมกับเอกสารทางการคา้ อื่นซึง่ มจี ำ�นวนหลายฉบับ และใบก�ำ กับภาษีมรี ายการ “รถยนตโ์ ดยสาร” คอื รถตหู้ รอื รถยนตท์ อ่ี อกแบบเพอ่ื ใชข้ นสง่ คนโดยสารจ�ำ นวนมาก ในใบกำ�กับภาษีเปน็ ส�ำ เนามีขอ้ ความว่า “เอกสารออกเปน็ ชดุ ” ปรากฏอยดู่ ้วยรวมทง้ั รถยนตใ์ นลกั ษณะท�ำ นองเดยี วกนั (8) ภาษีซ้อื ส่วนท่เี ฉล่ยี เป็นของกิจการประเภทท่ไี ม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพ่มิ ซ่งึ ได้คำ�นวณตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงอื่ นไขตามประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร (2) ภาษีซ้ือตามใบก�ำ กบั ภาษีอยา่ งยอ่ (9) ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการ ซึ่งผู้ประกอบการ (3) ภาษซี ้อื ทเี่ กดิ จากการซื้อทรพั ย์สนิ เพอ่ื ใช้ หรือจะใช้ในกิจการประเภท จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนำ�ไปใช้หรือจะใช้ในการประกอบกิจการท้ังประเภทที่ต้องเสียที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายของกิจการประเภทที่ไม่ต้อง ภาษีมูลค่าเพิม่ และประเภทท่ไี มต่ ้องเสียภาษมี ลู คา่ เพมิ่ และผู้ประกอบการจดทะเบียนเสยี ภาษมี ูลค่าเพิม่ ภาษีมูลค่าเพิ่มใช้สิทธิเลือกไม่นำ�ภาษีซ้ือทั้งหมดไปหักในการคำ�นวณภาษีมูลค่าเพ่ิม (4) ภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์อื่น เนื่องจากกิจการประเภทท่ไี ม่ต้องเสยี ภาษมี ลู ค่าเพิ่มมรี ายได้ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 90 ของเพื่อนำ�มาใช้ในกิจการของตนเอง ซึ่งเป็นกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม รายไดข้ องกิจการทง้ั หมดต่อมาผู้ประกอบการได้ขายหรือให้เช่าอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์นั้น หรือนำ�ไปใช้ในกิจการประเภททไ่ี มต่ ้องเสียภาษีมูลคา่ เพมิ่ ภายใน 3 ปนี ับแต่เดอื นภาษีที่ก่อสร้างเสรจ็สมบูรณ์

30 31 (10) ภาษีซื้อตามใบกำ�กับภาษีแบบเต็มรูป ซึ่งรายการได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง (11) ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ หรือรับโอนรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์เป็นภาษีซื้อต้องห้าม เว้นแต่รายการซึ่งได้ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามหลักเกณฑ์และ นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีวิธีการท่ีอธิบดีกำ�หนด สรรพสามิต เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และต่อมาหมายเหตุ : การแก้ไขเปลีย่ นแปลงตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารที่อธิบดกี �ำ หนด ภายใน 3 ปีนับแตเ่ ดอื นภาษีที่ไดร้ ถยนตไ์ วใ้ นครอบครอง ไดม้ กี ารดัดแปลงรถยนต์ - การแกไ้ ขทอี่ ยู่ของผู้ออกใบกำ�กับภาษี พร้อมกับลงลายมือชอื่ ผ้อู อกใบกำ�กับ ดงั กล่าวเปน็ รถยนตน์ ั่งหรอื รถยนตโ์ ดยสารที่มที ี่นง่ั ไมเ่ กนิ 10 คน ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีก�ำ กับการแก้ไข ทั้งน้ี เฉพาะใบกำ�กับภาษที ่ไี ดอ้ อกในช่วงระยะเวลาไมเ่ กนิ 1 ปี พกิ ัดอตั ราภาษสี รรพสามิตนับแต่วันทีท่ างราชการไดป้ ระกาศเปลี่ยนแปลงเลขที่บ้าน ชอ่ื ถนน หม่บู ้าน ตำ�บลหรอื กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้บังคับสำ�หรับการขายรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่แขวง อ�ำ เภอหรอื เขต หรือจังหวัด หรอื ได้ทำ�การแบ่งเขตถนน หมู่บ้าน ต�ำ บลหรอื แขวง มที ี่นง่ั ไม่เกิน 10 คน ตามกฎหมายวา่ ด้วยพกิ ัดอตั ราภาษีสรรพสามิต และการให้บริการอำ�เภอหรอื เขต หรือจงั หวดั ใหม่ เช่ารถยนต์ดังกล่าวของตนเองโดยตรง - การแก้ไขท่ีอยขู่ องผู้ออกใบก�ำ กบั ภาษดี ้วยวิธกี ารประทบั ตรายางทีอ่ ย่ทู ี่ถูกต้อง (12) ภาษีซือ้ ตามใบก�ำ กบั ภาษเี ตม็ รปู ซึง่ มีรายการ ชอ่ื ทอี่ ยู่ เลขประจ�ำ ตัวเพมิ่ เตมิ ทงั้ น้ี เฉพาะใบก�ำ กบั ภาษีทีไ่ ดอ้ อกในช่วงระยะเวลาไม่เกนิ 1 ปีนับแตว่ ันท่ที าง ผู้เสียภาษอี ากรตามมาตรา 86/4 (2) แหง่ ประมวลรัษฎากร ไมไ่ ดพ้ ิมพ์ข้นึ หรือไมไ่ ดจ้ ดัราชการได้ประกาศเปลี่ยนแปลงเลขท่ีบา้ น ชอ่ื ถนน หมู่บา้ น ตำ�บลหรอื แขวง อ�ำ เภอหรือ ทำ�ขนึ้ ด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ ในกรณจี ดั ทำ�ใบกำ�กบั ภาษขี ึน้ ด้วยระบบคอมพิวเตอรท์ ัง้เขต หรอื จงั หวดั หรือได้ท�ำ การแบง่ เขตถนน หมูบ่ า้ น ต�ำ บลหรือแขวง อำ�เภอหรอื เขต ฉบับเป็นภาษซี อ้ื ต้องห้ามหรือจังหวัดใหม่ กรณีดังกล่าวไม่ให้ใช้บังคับสำ�หรับใบกำ�กับภาษีท่ีออกโดยผู้ประกอบการ จดทะเบียนซึ่งเป็นบริษัทจำ�กัดหรือบริษัทมหาชนจำ�กัดท่ีได้เปลี่ยนสถานะจาก รัฐวสิ าหกจิ ประเภทองคก์ ารของรฐั ตามทม่ี ีกฎหมายจดั ต้ัง ทั้งนี้ เฉพาะใบกำ�กับภาษีท่ไี ด้ ออกในชว่ งระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันทจ่ี ดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษทั จ�ำ กดั หรอื บริษทั มหาชนจ�ำ กดั

32 33• ภาษีซอ้ื ต้องห้ามท่ไี มใ่ หน้ �ำ มาหักเปน็ รายจ่ายในการค�ำ นวณก�ำ ไรสุทธิ 1. ไม่มใี บกำ�กับภาษี ใบกำ�กบั ภาษีสญู หาย หรอื ไม่อาจแสดงใบก�ำ กับภาษไี ด้ว่ามีการช�ำ ระภาษีซ้ือ 2. ใบก�ำ กับภาษมี ีขอ้ ความไมถ่ ูกต้องหรอื ไม่สมบูรณใ์ นส่วนท่เี ป็นสาระส�ำ คัญ 3. ภาษซี ื้อทไี่ มเ่ ก่ียวข้องโดยตรงกับการประกอบกจิ การของผปู้ ระกอบการ 4. ภาษซี ือ้ ตามใบกำ�กับภาษีทอี่ อกโดยผไู้ ม่มีสทิ ธิออกใบกำ�กับภาษีหมายเหตุ : บรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนติ บิ คุ คลทไ่ี มไ่ ดเ้ ปน็ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิสามารถนำ�ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมมาหักเป็นรายจ่ายในการคำ�นวณกำ�ไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ เว้นแต่เป็นรายจา่ ยทก่ี ฎหมายไมใ่ หน้ �ำ มาหกั เปน็ รายจา่ ยในการค�ำ นวณก�ำ ไรสทุ ธเิ พอ่ื เสยี ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล

34 35 เอกสารสำ�คญั เกีย่ วกบั ภาษีซ้ือ ใบกำ�กบั ภาษี (Tax Invoice) ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิ่ม มีหน้าทตี่ ้องย่ืนแบบแสดงรายการภาษี “ใบก�ำ กบั ภาษ”ี (Tax Invoice) เปน็ เอกสารส�ำ คญั ทผ่ี ปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพม่ิ (ภ.พ.30) เป็นรายเดอื นภาษี โดยสามารถยืน่ แบบได้ตั้งแตว่ ันท่ี 1 – 15 ของ มลู คา่ เพม่ิ ออกใหแ้ กผ่ ซู้ อ้ื สนิ คา้ หรอื ผใู้ ชบ้ รกิ ารเมอ่ื ขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร และตอ้ งสง่ มอบเดือนถดั ไปทุกเดอื น ไมว่ า่ กิจการจะมรี ายรบั จากการขายสนิ คา้ หรอื ให้บริการในเดือน ใบก�ำ กบั ภาษใี หแ้ กผ่ ซู้ อ้ื สนิ คา้ หรอื ผใู้ ชบ้ รกิ ารทนั ทีภาษนี ้นั หรอื ไม่ก็ตาม ใบก�ำ กบั ภาษแี บง่ ออกเปน็ ใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปู มขี อ้ ความตามนยั มาตรา 86/4 ภาษีซ้ือท่ีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนำ�มาหักออกจากภาษีขาย แหง่ ประมวลรษั ฎากร และใบก�ำ กบั ภาษอี ยา่ งยอ่ มขี อ้ ความตามนยั มาตรา 86/6 แหง่ในการคำ�นวณภาษมี ลู ค่าเพ่ิมหรอื ขอคนื ภาษซี อ้ื ต้องเป็นไปตามหลกั เกณฑ์ และเงื่อนไข ประมวลรษั ฎากรที่กฎหมายกำ�หนด ซึ่งในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มหลักฐานหรือเอกสารสำ�คัญประกอบ 1. ใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปูภาษีซ้อื มีดงั นี้ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ทไ่ี ดร้ บั ใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปู จากการ 1. ใบกำ�กบั ภาษี ซอ้ื สนิ คา้ หรอื รบั บรกิ ารสามารถน�ำ ภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ ขน้ึ มาหกั ออกจากภาษขี ายในการค�ำ นวณ 2. ใบเพม่ิ หน้ี ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ หรอื ขอคนื ภาษซี อ้ื เวน้ แตเ่ ปน็ ภาษซี อ้ื ตอ้ งหา้ มตามทก่ี ฎหมายก�ำ หนดจะไม่ 3. ใบลดหน้ี สามารถน�ำ มาหกั ออกจากภาษขี ายในการค�ำ นวณภาษมี ลู คา่ เพม่ิ หรอื ขอคนื ภาษซี อ้ื ได้ 4. ใบเสร็จรบั เงนิ ท่กี รมสรรพากรออกใหส้ �ำ หรบั การรับช�ำ ระภาษีมูลค่าเพิ่มจาก ลกั ษณะใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปู ตอ้ งมขี อ้ ความตามนยั มาตรา 86/4 แหง่ ประมวลการน�ำ สง่ ภาษีมลู คา่ เพม่ิ รษั ฎากร ดงั น้ี 5. ใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิตออกให้ในการเรียกเก็บ (1) ค�ำ วา่ “ใบก�ำ กบั ภาษ”ี ในทท่ี เ่ี หน็ ไดเ้ ดน่ ชดัภาษมี ลู ค่าเพิม่ เพ่ือกรมสรรพากร (2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำ�ตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการ 6. ใบเสร็จรับเงินของส่วนราชการท่ีเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอด จดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ทอ่ี อกใบก�ำ กบั ภาษีตลาดทรพั ยส์ ินของผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลคา่ เพิม่ หรอื การขายโดยวิธอี ่ืน (3) ชอ่ื ทอ่ี ยู่ ของผซู้ อ้ื สนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารนอกจากการขายทอดตลาด (4) หมายเลขล�ำ ดบั ของใบก�ำ กบั ภาษี และหมายเลขล�ำ ดบั ของเลม่ (ถา้ ม)ี

36 37 (5) ชอ่ื ชนดิ ประเภท ปรมิ าณ และมลู คา่ ของสนิ คา้ หรอื ของบรกิ าร • ผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่มิ ท่มี ีสถานประกอบการหลาย (6) จำ�นวนภาษีมูลค่าเพ่ิมท่ีคำ�นวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการโดยใหแ้ ยกออกจากมลู คา่ ของสนิ คา้ และหรอื ของบรกิ ารไดช้ ดั แจง้ แหง่ และสถานประกอบการทไ่ี ม่ใช่สำ�นักงานใหญน่ ำ�ใบกำ�กบั ภาษีของสำ�นกั งานใหญไ่ ป (7) วนั เดอื น ปี ทอ่ี อกใบก�ำ กบั ภาษี สง่ มอบใหแ้ กผ่ ซู้ อ้ื สนิ คา้ หรอื ผใู้ ชบ้ รกิ ารจะตอ้ งมคี �ำ วา่ “สาขาทอ่ี อกใบก�ำ กบั ภาษคี อื ” ไวใ้ น (8) ขอ้ ความอน่ื ทอ่ี ธบิ ดกี �ำ หนด บงั คบั ใชก้ บั ผปู้ ระกอบการ ดงั น้ี ใบก�ำ กบั ภาษี (ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 39))• ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมท่ีออกใบกำ�กับภาษีรวมกับ • กิจการสถานบริการนำ�้ มันขายนำ�้ มันเช้อื เพลิงหรือสินค้าหรือให้บริการเอกสารทางการค้าอ่ืนและใบกำ�กับภาษีไม่ใช่เอกสารฉบับแรกของเอกสารชุดดังกล่าว ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรถยนต์ที่ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้ระบุ(ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 39)) เลขทะเบียนรถยนต์ไว้ในใบกำ�กับภาษี (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษี มลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 39))

38 39• ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรม หมายเหตุ : กฎหมายก�ำ หนดรายการในใบก�ำ กบั ภาษขี องสนิ คา้ หรอื บรกิ ารบางกรณตี ามสรรพากรใหอ้ อกใบก�ำ กบั ภาษเี ปน็ หนว่ ยเงนิ ตราตา่ งประเทศตามมาตรา 86/4 วรรคสอง มาตรา 86/5(1) และ (2) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ซง่ึ แตกตา่ งจากใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปูแหง่ ประมวลรษั ฎากร ตอ้ งระบอุ ตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ ตราตา่ งประเทศเปน็ เงนิ ตราไทยไวใ้ น โดยได้กำ�หนดรายการในใบกำ�กับภาษีจากการขายสินค้าหรือให้บริการโดยการส่งออก• ใบก�ำ กบั ภาษดี ว้ ย (ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 39)) และการใหบ้ ริการขนสง่ ระหวา่ งประเทศโดยอากาศยานและเรือเดนิ ทะเล ให้มรี ายการที่ กิจการขายทองรูปพรรณท่ีได้คำ�นวณภาษีมูลค่าเพ่ิมจากส่วนต่าง ผู้ขนส่งหรือตัวแทนรับขนส่งได้ออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศซง่ึ ค�ำ นวณจากราคาขายรวมก�ำ เหนจ็ หกั ดว้ ยราคารบั ซอ้ื คนื ใบก�ำ กบั ภาษตี อ้ งมขี อ้ ความ ตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 21)ตามทก่ี ฎหมายก�ำ หนด (ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เกย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ฉบบั ท่ี 39)) ตามมาตรา 86/4 แหง่ ประมวลรษั ฎากร ใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปู ตอ้ งมขี อ้ ความอยา่ งนอ้ ยตามขอ้ (1) – (7) สว่ นขอ้ ความอน่ื ทอ่ี ธบิ ดกี �ำ หนดใหบ้ งั คบั ใชก้ บั ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ ดงั นน้ั หากใบก�ำ กบั ภาษมี ลี กั ษณะขอ้ ความท่ีไมต่ รงกบั ลกั ษณะของใบก�ำ กบั ภาษแี บบเตม็ รปู ดงั ทก่ี ลา่ วมา จะไมส่ ามารถน�ำ ภาษซี อ้ื มาหกั ออกจากภาษขี ายหรอื ขอคนื ภาษซี อ้ื ได้

40 41 ใบก�ำ กบั ภาษอี ย่างย่อ ใบกำ�กับภาษีอย่างย่อท่ีผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมได้รับจากการ ซอื้ สนิ คา้ หรอื รบั บรกิ าร ภาษีซื้อท่ีเกิดขน้ึ เป็นภาษีซอื้ ต้องหา้ ม ไม่สามารถนำ�มาหักออก จากภาษีขายในการค�ำ นวณภาษมี ลู คา่ เพิม่ หรอื ขอคืนภาษีซือ้ แตส่ ามารถนำ�มาถอื เป็น รายจา่ ยในการคำ�นวณก�ำ ไรสทุ ธิเพือ่ เสียภาษเี งินไดน้ ติ บิ ุคคล ลักษณะใบก�ำ กบั ภาษอี ย่างย่อ ต้องมขี ้อความตามนัยมาตรา 86/6 แหง่ ประมวล รษั ฎากร ดงั น้ี (1) ค�ำ วา่ “ใบก�ำ กบั ภาษ”ี ในที่ทีเ่ หน็ ไดเ้ ด่นชดั (2) ชื่อ หรือชื่อย่อ และเลขประจำ�ตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มท่อี อกใบกำ�กบั ภาษี (3) หมายเลขล�ำ ดับของใบก�ำ กับภาษี และหมายเลขล�ำ ดบั ของเลม่ (ถา้ ม)ี (4) ช่อื ชนดิ ประเภท ปรมิ าณ และมูลคา่ ของสนิ คา้ หรอื บรกิ าร (5) วัน เดอื น ปี ที่ออกใบกำ�กบั ภาษี (6) ราคาของสนิ ค้าหรือราคาคา่ บรกิ าร โดยตอ้ งมขี ้อความระบชุ ัดเจนว่าไดร้ วม ภาษีมูลคา่ เพิ่มไว้แล้ว (7) ข้อความอื่นที่อธิบดกี ำ�หนด

42 43 ใบเพม่ิ หนี้ (Debit Note) ใบเพิ่มหนี้ (Debit Note) เป็นเอกสารสำ�คัญในระบบภาษีมูลค่าเพ่มิ กฎหมายให้ ถือว่าเป็นใบกำ�กบั ภาษี ซ่ึงผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพ่ิมทีไ่ ดข้ ายสนิ คา้ หรอื ให้บรกิ ารไปแลว้ แต่ต้องคำ�นวณภาษีมูลค่าเพม่ิ ใหม่ เนื่องจากมลู ค่าสินค้าหรือบรกิ ารมี จ�ำ นวนเพม่ิ ขึน้ ไม่ว่าทง้ั หมดหรอื บางส่วน โดยมสี าเหตเุ น่ืองมาจาก 1. มีการเพ่มิ ราคาสินค้าท่ขี ายเน่อื งจากสินค้าเกินกว่าจำ�นวนท่ตี กลงซ้อื ขายกัน คำ�นวณราคาสินค้าผดิ พลาดต่�ำ กว่าความเปน็ จริง 2. มีการเพ่ิมราคาค่าบริการเนื่องจากให้บริการเกินกว่าข้อกำ�หนดท่ีตกลงกัน คำ�นวณราคาคา่ บริการผดิ พลาดต่ำ�กว่าความเปน็ จริง

44 45 ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิ่มตอ้ งออกใบเพ่มิ หนใ้ี หก้ ับผูซ้ ือ้ สนิ คา้ หรือ ใบเพิ่มหน้ี ต้องมรี ายการอย่างนอ้ ย ตามมาตรา 86/9 แห่งประมวลรษั ฎากร ดงั นี้ผู้รับบริการในเดือนภาษีที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เว้นแต่มีเหตุจำ�เป็นที่ไม่สามารถ (1) ค�ำ วา่ “ใบเพม่ิ หนี้” ในทท่ี ่ีเหน็ ไดเ้ ด่นชัดออกใบเพ่มิ หนไ้ี ด้ทนั ในเดอื นภาษที มี่ เี หตกุ ารณ์ดงั กล่าวเกดิ ขึ้น ให้ออกใบเพมิ่ หน้ใี ห้กับ (2) ชอ่ื ท่ีอยู่ และเลขประจำ�ตวั ผู้เสยี ภาษอี ากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนผซู้ ื้อสนิ ค้าหรือผรู้ บั บริการในเดือนภาษีถัดจากเดอื นทม่ี เี หตุการณเ์ กิดข้ึน ภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ท่อี อกใบเพิ่มหน้ี และในกรณที ตี่ วั แทนเปน็ ผอู้ อกใบเพ่ิมหนี้ในนามของ ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้ออกใบเพิ่มหน้ีต้องนำ�ภาษีขาย ผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพม่ิ ให้ระบชุ ื่อ ท่ีอยู่ และเลขประจ�ำ ตวั ผเู้ สยี ภาษีท่ีคำ�นวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่เพิ่มขึ้นน้ันมารวมในการคำ�นวณภาษี อากรของตัวแทนนน้ั ด้วยมลู คา่ เพม่ิ โดยใหถ้ อื เปน็ ภาษขี ายของตนในเดอื นทไ่ี ดอ้ อกใบเพม่ิ หน้ี และใหผ้ ปู้ ระกอบการ (3) ช่ือ ทอี่ ยู่ ของผซู้ ื้อสินคา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิม่ ที่ไดร้ บั ใบเพมิ่ หน้ี นำ�ภาษมี ลู คา่ เพิ่มทปี่ รากฏตามใบเพิม่ หนี้ (4) วนั เดอื น ปี ท่อี อกใบเพม่ิ หน้ีดังกล่าวมาหักออกจากการคำ�นวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยให้ถือเป็นภาษีซื้อของตนใน (5) หมายเลขลำ�ดับของใบกำ�กับภาษีเดิม รวมทั้งหมายเลขลำ�ดับของเล่มเดือนภาษที ไ่ี ดร้ บั ใบเพมิ่ หนีน้ ้ัน (ถา้ ม)ี มูลค่าของสนิ คา้ หรือบรกิ ารทีแ่ สดงไวใ้ นใบก�ำ กับภาษดี งั กลา่ ว มูลคา่ ท่ถี กู ต้อง ของสินค้าหรือบริการ ผลต่างของจำ�นวนมูลค่าทั้งสอง และจำ�นวนภาษีที่เรียกเก็บ เพม่ิ เติมส�ำ หรับสว่ นตา่ งนัน้ (6) ค�ำ อธบิ ายส้นั ๆ ถงึ สาเหตุในการออกใบเพม่ิ หน้ี (7) ข้อความอ่ืนทีอ่ ธิบดีก�ำ หนด

46 47 ใบลดหนี้ (Credit Note) ใบลดหนี้ (Credit Note) เปน็ เอกสารส�ำ คญั ในระบบภาษีมลู คา่ เพ่มิ กฎหมายให้ ถือว่าเป็นใบกำ�กับภาษี ผู้ประกอบการที่มีสิทธิออกใบลดหนี้ต้องเป็นผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมท่ีได้ออกใบกำ�กับภาษีจากการขายสินค้าหรือให้บริการแล้ว ตอ่ มาภายหลงั ไดเ้ กดิ เหตกุ ารณท์ �ำ ใหม้ ลู คา่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารมจี �ำ นวนลดลง ไมว่ า่ ทง้ั หมด หรือบางสว่ น เนื่องมาจากเหตกุ ารณ์ดังน้ี 1. มีการลดราคาสินค้าที่ขายเนื่องจากสินค้าผิดข้อกำ�หนดที่ตกลงกัน สินค้า ชำ�รุดเสียหาย หรือขาดจำ�นวน คำ�นวณราคาสินค้าผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง หรือเนอื่ งจากเหตุอืน่ ตามที่อธบิ ดีก�ำ หนด 2. มีการลดราคาค่าบริการเนื่องจากการให้บริการผิดข้อกำ�หนดท่ีตกลงกัน บริการขาดจำ�นวน คำ�นวณราคาค่าบริการผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง หรือเนื่องจากเหตุ อนื่ ตามที่อธบิ ดกี �ำ หนด 3. ได้รับสินค้าที่ขายกลับคืนมาเนื่องจากสินค้าชำ�รุดบกพร่อง ไม่ตรงตาม ตวั อยา่ ง ไมต่ รงตามคำ�พรรณนา หรือเนื่องจากเหตอุ ่นื ตามทอ่ี ธิบดีก�ำ หนด 4. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีหน้าท่ีต้องจ่ายเงินชดเชย หรือเงินอ่ืนในลักษณะทำ�นองเดียวกันให้แก่ผู้ซ้ือสินค้าหรือผู้รับบริการตามข้อผูกพันใน กฎหมาย

48 49 5. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมได้มีการจ่ายคืนเงินจ่ายล่วงหน้า ใบลดหน้ตี ้องมีรายการอยา่ งนอ้ ย ตามมาตรา 86/10 แหง่ ประมวลรัษฎากร ดังนี้เงินประกนั เงนิ มดั จำ� เงินจอง หรือเงนิ อ่ืนทเ่ี รยี กเกบ็ ในลกั ษณะท�ำ นองเดยี วกันให้แก่ (1) คำ�ว่า “ใบลดหน้”ี ในท่ีท่เี ห็นได้เด่นชดัผู้ซ้อื สินคา้ หรือผรู้ บั บริการตามขอ้ ตกลงทางการค้า (2) ชื่อ ทีอ่ ยู่ และเลขประจ�ำ ตวั ผู้เสยี ภาษอี ากรของผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น 6. มีการคืนสินค้า หรือแลกเปลี่ยนสินค้าตามข้อตกลงทางการค้าระหว่าง ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออกใบลดหนี้ และในกรณีที่ตัวแทนเป็นผู้ออกใบลดหนี้ในนามของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม่ ด้วยกนั ผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพิม่ ให้ระบุช่ือ ที่อยู่ และเลขประจำ�ตวั ผู้เสียภาษี 7. มีการคืนสินค้า หรือแลกเปลี่ยนสินค้าตามข้อตกลงทางการค้าระหว่าง อากรของตวั แทนนัน้ ด้วยผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพม่ิ และผซู้ ื้อสนิ คา้ ท้ังนี้ เฉพาะท่ีกระท�ำ ภายใน (3) ชอ่ื ที่อยู่ ของผูซ้ ื้อสินค้าหรือผูร้ บั บรกิ ารเวลาอนั สมควร (4) วนั เดอื น ปี ทอี่ อกใบลดหนี้ 8. มกี ารบอกเลิกสัญญาบริการ เนอ่ื งจากการใหบ้ ริการบกพรอ่ ง หรอื ใหบ้ รกิ าร (5) หมายเลขล�ำ ดบั ของใบก�ำ กบั ภาษเี ดมิ รวมทง้ั หมายเลขล�ำ ดบั ของเลม่ (ถา้ ม)ีผดิ ข้อก�ำ หนดทตี่ กลงกันหรือไม่มกี ารให้บริการตามสัญญา มลู คา่ ของสนิ คา้ หรือบริการทแี่ สดงไว้ในใบก�ำ กับภาษดี ังกล่าว มลู คา่ ท่ถี ูกต้องของสินคา้ หรือบริการ ผลตา่ งของจำ�นวนมลู ค่าทั้งสองและจ�ำ นวนภาษีที่ใช้คนื สำ�หรบั สว่ นตา่ งนัน้ (6) ค�ำ อธิบายส้นั ๆ ถงึ สาเหตุในการออกใบลดหน้ี (7) ข้อความอ่ืนท่อี ธิบดกี ำ�หนด

50 51 ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมต้องออกใบลดหนี้ให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผ้รู บั บริการในเดอื นภาษีทีเ่ หตกุ ารณ์ดังกล่าวเกิดข้ึน เวน้ แตใ่ นกรณีทีม่ ีเหตจุ ำ�เป็นไม่สามารถออกใบลดหนี้ได้ทันในเดือนภาษีที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ให้ออกใบลดหนีใ้ หก้ บั ผู้ซ้อื สนิ ค้าหรือผู้รับบรกิ ารในเดือนภาษีถดั จากเดอื นท่มี เี หตุการณเ์ กิดขึ้น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมที่ได้ออกใบลดหนี้ต้องนำ�ภาษีขายท่ีคำ�นวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการท่ีลดลงนั้นมาหักออกจากภาษีขายของตนในเดือนภาษีท่ีได้ออกใบลดหน้ีและให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับใบลดหนี้นำ�ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปรากฏตามใบลดหนี้ดังกล่าวมาหักออกจากภาษีซ้ือของตนในเดือนภาษีที่ไดร้ บั ใบลดหนน้ี ้ัน

52 53 ใบเสร็จรบั เงินจากการรบั ช�ำ ระภาษีมูลคา่ เพิม่ ของกรมสรรพากร ใบเสร็จรบั เงนิ ทกี่ รมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิต เรยี กเก็บภาษีมลู คา่ เพิม่ เพ่ือกรมสรรพากร ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรต้องเป็นใบเสร็จรับเงินท่ีออกให้จากการรับชำ�ระภาษมี ูลค่าเพม่ิ ทผ่ี ู้ประกอบการมหี นา้ ทนี่ ำ�ส่งภาษมี ูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.36) เมื่อมกี ารช�ำ ระ ใบเสร็จรับเงนิ ที่กรมศลุ กากร หรอื กรมสรรพสามติ เรยี กเก็บภาษมี ูลค่าเพม่ิ เพอ่ืราคาสนิ ค้าหรือราคาคา่ บรกิ าร ดังน้ี กรมสรรพากรถอื เปน็ ใบก�ำ กับภาษี มลี ักษณะดังนี้ 1. เม่ือชำ�ระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้กับผู้ประกอบการที่อยู่นอก 1. ใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม อันเนื่องมาจากราชอาณาจักร ซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักร การนำ�เข้าสนิ คา้ หรอื การนำ�เข้าสินคา้ ของตกคา้ งตามกฎหมายวา่ ดว้ ยศลุ กากร หรือการเป็นการชัว่ คราว และไม่ไดจ้ ดทะเบียนภาษีมูลค่าเพม่ิ เปน็ การชวั่ คราว รับโอนสินค้านำ�เข้าท่ีจำ�แนกไว้ในภาคว่าด้วยของที่ได้รับยกเว้นอากรตามกฎหมาย 2. เมื่อชำ�ระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้ผู้ประกอบการท่ีได้ให้บริการต่าง ว่าด้วยพิกัดอตั ราศุลกากรประเทศ และได้มกี ารน�ำ บริการน้ันมาใช้ในราชอาณาจักร 2. ใบเสร็จรับเงินที่กรมสรรพสามิตเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม สำ�หรับการขาย 3. เม่อื รบั โอนสนิ คา้ หรอื รับโอนสิทธิในบรกิ าร ส�ำ หรบั สนิ คา้ หรอื บริการท่ไี ด้ สนิ คา้ หรอื การใหบ้ ริการท่ตี อ้ งเสยี ภาษีสรรพสามิตเสยี ภาษมี ูลค่าเพมิ่ ในอตั ราร้อยละ 0 ใบเสรจ็ รบั เงินที่กล่าวมาขา้ งตน้ ถอื เป็นใบกำ�กับภาษี ผู้ประกอบการจดทะเบียน ใบเสร็จรบั เงนิ ทก่ี ล่าวมาข้างตน้ ถอื เป็นใบกำ�กับภาษี ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น ภาษีมูลค่าเพ่มิ สามารถนำ�ภาษีซ้อื ท่เี กิดข้นึ มาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซ้อื ได้ภาษีมูลค่าเพ่ิมสามารถนำ�ภาษีซื้อที่เกิดข้ึนมาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซ้ือได้ เว้นแตจ่ ะเปน็ ภาษซี ้ือต้องหา้ มตามท่ีกฎหมายกำ�หนดเว้นแต่จะเป็นภาษซี ้อื ต้องห้ามตามทกี่ ฎหมายก�ำ หนด

54 55 ใบเสร็จรบั เงนิ ของส่วนราชการ ใบเสร็จรับเงินของส่วนราชการที่ได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพ่ิมจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมหรือการขายโดยวิธีอ่ืนถือเปน็ ใบก�ำ กบั ภาษี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook