ระแบบสืบพันธุ์

º·àÃÕ¹ÊØ¢È¡Ö ÉÒ àÃ×èͧÃкºÊº× ¾Ñ¹¸Ø Á.6

Â¹Ô ´ÕµÍŒ ¹ÃºÑ พวกเราตืน่ เตนกบั ชวงการเรียนรู ท่สี นกุ สนานกันมย้ั

ÃкºÊ׺¾¹Ñ ¸Ø( Reproductive System) ระบบสบื พนั ธุ ( reproductive system) เปนระบบของอวัยวะในรางกายสิ่งมีชีวิตซงึ่ ทาํ งานรวมกันโดยมีจุดประสงคเ พ่ือการ สืบพันธเุ พ่มิ จํานวนสงิ่ มีชีวิตใหมากขึ้น

â¤Ã§ÊÌҧ¢Í§ÃкºÊº× ¾¹Ñ ¸Øà¾ÈªÒÂ

ͧ¤ªÒµ (penis) ทําหน า เป็นอวัยวะเพศของเพศชายทใ่ี ชส บื พนั ธุ และทํา หน าท่เี ป็นทอปัสสาวะ Íѳ±Ð (Testis ) ทาํ หน า เป็นตอ มท่ีมีลกั ษณะคลา ยรปู ไข อยใู นถุงอัณฑะ ทาํ หน าท่ีสรา งตัวอสจุ ิ(Sperm)เป็นเซลลส บื พันธเุ พศชาย และสรา งฮอรโมนเพศชาย คอื เทสทอสเทอโรน (Testosterone)เพ่ือควบคมุ ลักษณะตา งๆของเพศชาย

¶§Ø ËÁ، Íѳ±Ð (Scrotum) ทําหนา ท่ี เปน ถงุ ของผวิ หนังอยูนอกชอ งทอ ง ซ่งึ สีของผิวหนงั สวน นีม้ ักจะเขม กวาสว นอนื่ ของรางกายท่วั ไป ทาํ หนาทคี่ วบคุม อณุ หภมู ใิ หพ อเหมาะในการสรางตัวอสจุ ิ ซึ่งตัวอสจุ ิจะเจรญิ เติบโต ไดดีทีอ่ ุณหภมู ติ ่ํากวา อณุ หภมู ิปกติของรา งกายประมาณ 3-5 องศาเซลเซยี ส

หลอดเกบ็ ตัวอสุจิ (Epididymis) ต่อมลูกหมาก (Prostate gland) หลอดนําตัวอสุจิ (Vas deferens) ทาํ หนา ท่เี กบ็ ตวั อสุจทิ ่ี เปนทอ อยูถ ดั จากสว น ทาํ หนาที่ หลั่งสารท่ี เจรญิ เตบิ โตเต็มท่ีกอนที่ ลา งของหลอดเกบ็ ตัว มีฤทธเิ์ ปนดางออนๆ จะสงผา นไปยังหลอดนาํ อสจุ ิ มอี ยู 2 ทอ ทํา เขาไปในทอปส สาวะ หนา ท่ลี ําเลยี งตวั อสจุ ไิ ป เพอื่ ทําลายฤทธิก์ รด ตัวอสุจิ เกบ็ ไวทีต่ อมสรา งนา้ํ ในทอปส สาวะ ทําให เกิดสภาพท่ีเหมาะ เล้ียงอสุจิ สมกบั ตวั อสุจิ

µÍ‹ ÁÊÌҧ¹íéÒàÅéÂÕ §ÍÊ¨Ø Ô µ‹ÍÁ¤ÒÇà»ÍÃ (Seminal vesicles) (Cowper's glands) ทาํ หนาที่ สรา งอาหารเพอ่ื ใชเลี้ยงตัวอสจุ ิ ทําหนาท่ี หลั่งสารไปหลอล่นื ทอ ปสสาวะใน เชนน้าํ ตาลฟรักโทส วติ ามินซี โปรตนี โกลบู ขณะท่เี กิดการกระตุน ทางเพศ ทาํ ใหต ัวอสุจิ ลิน และสรา งของเหลวมาผสมกับตัวอสจุ ิ เคล่ือนทีเ่ ร็ว และยังทาํ หนา ทีช่ าํ ระลางกรดของ เพ่อื ใหเกดิ สภาพท่เี หมาะสมสาํ หรบั ตวั อสจุ ิ นํ้าปสสาวะทเ่ี คลือบทอปสสาวะ ทาํ ใหตัวอสุจิ ไมตายเสยี กอ นในขณะเคล่ือนทีอ่ อกมา

â¤Ã§ÊÃҌ §¢Í§ÃкºÊº× ¾¹Ñ ¸Øà¾ÈË­§Ô

Ãѧ䢋 (Ovary) 1.ผลิตไข (Ovum) เป็นเซลลสบื พนั ธเุ พศหญิงจะสกุ เดือนละ 1 ใบ จาก รังไขแตล ะขา งสลับกันทกุ เดอื น และออกจากรงั ไขทกุ รอบเดอื น ประมาณ 28 วัน เรยี กวา การตกไข เร่มิ ผลติ 11-12ปีถงึ 45-50ปี 2.สรางฮอรโ มนเพศหญิง ท่ีสําคญั ไดแ ก 1)เอสโทรเจน (Estrogen)ทําหน าท่ีควบคมุ เกีย่ วกบั มดลูก ชอง คลอด ตอ มน้ํานม และควบคุมการการเกดิ ลกั ษณะตางๆ ของเพศหญงิ 2)โพรเจสเตอโรน (Progesterone) เป็นฮอรโมนท่ที าํ งานรว มกับเอ สโทรเจนในการควบคมุ เกีย่ วกบั การเจริญเติบโตของมดลกู การ เปลีย่ นแปลงเย่อื บุมดลกู เพ่ือเตรยี มตวั รับไขที่ผสมแลว

·‹Í¹Òí ä¢(‹ Oviduct)ËÃ×Í»¡‚ Á´Å¡Ù (Fallopiantube) ทําหนา ท่เี ปน ทางผานของไขจากรังไขเขา สมู ดลกู มอี ยู 2 ขา ง ตั้งอยตู อนบนของมดลกู ตอนปลาย ตดิ กบั รังไข ปกมดลกู เปน จุดทีเ่ กดิ การผสมระหวา ง ไขก บั อสจุ ิ เรียกวา ปฏิสนธิ ไขท ผ่ี สมแลวจะไปฝง ตวั ที่เยอ่ื บโุ พรงมดลูก

Á´ÅÙ¡(Uterus) ª‹Í§¤ÅÍ´ (Vagina) ทําหนาที่เปนท่ฝี ง ตัวของไขท ไี่ ดรับ ทาํ หนาที่เปนทางผา นของอสุจิเขา สู การปฏสิ นธิ ตัวออน และเตรยี ม มดลูก เปนทางผา นของประจํา เดือน(menstruations)เปน เจรญิ เตบิ โตเปนทารกตอไป ทางออกของทารกขณะคลอด

˹ŒÒ·èբͧÃкºÊº× ¾¹Ñ ¸Ø 1. สรา งเซลลสืบพันธุของเพศชาย คือ ตวั อสจุ ิ ของผูหญิงคอื ไข เม่อื มกี ารปฏสิ นธจิ ะทําใหเกิด การตงั้ ครรภ เพื่อเปน การดํารงเผา พันธุสบื ตอ ไป 2. สรา งฮอรโ มนเพศ ที่ชวยใหแสดงลกั ษณะทาง เพศชาย-หญิง ท่ชี ัดเจน

¡ÒÃÊÌҧàÊÃÔÁáÅдÒí ç »ÃÐÊ·Ô ¸ÀÔ Ò¾¢Í§ÃкºÊº× ¾Ñ¹¸Ø 1. รบั ประทานอาหารใหค รบ 5 หมู ลดอาหารทม่ี ไี ขมันสงู เพิม่ อาหารที่มีกากใยสงู 2.ออกกําลงั กายอยา งสม่ําเสมอ อยา งนอ ยสัปดาหล ะ3 ครง้ั แตล ะครัง้ ไมนอยกวา 30 นาที 3.พกั ผอนใหเพียงพอ ทําจิตใจใหแจม ใส 4.งดเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล 5.สว มเสือ้ ผา ทสี่ ะอาด ไมรัดจนแนนเกินไป

¡ÒÃÊÌҧàÊÃÁÔ áÅдÒí ç »ÃÐÊÔ·¸ÀÔ Ò¾¢Í§ÃкºÊº× ¾Ñ¹¸Ø 6.ไมใชเ สอ้ื ผา ผาเช็ดตัว เคร่ืองนุงหมรวมกบั ผูอน่ื 7.อาบนา้ํ ทาํ ความสะอาดรางกายอยางทัว่ ถึง 8.ไมมีเพศสัมพันธก อ นวัยอันควร 9.หากเกิดความผิดปกตเิ ด่ยี วกบั อวัยวะเพศควรปรึกษาแพทย 10.เพศหญงิ จะมีการสูญเสยี เลอื ด ผลติ เลือดใหมในทุกรอบเดือน ควร รบั ประทานอาหารทีช่ วยบาํ รงุ เมด็ เลอื

¢Íº¤Ø³ ·ÕèÃѺªÁ

¨Ñ´·Òí â´Â 1. นายธรี ะพงศ คุณาสิทธ์ิ เลขท่ี 9 2. นายบริพฒั น พฒั นะราช เลขท่ี 10 3. นายศาตรา สายแวว เลขท่ี 15 ม.6/5