เลม่ ท่ี ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแนวคดิ สะเตม็ ศึกษา บรู ณาการตามศาสตรพ์ ระราชา 4 เพื่อส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาและการคิดสรา้ งสรรค์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 สนกุ กแรับงไฟฟา้ ประภาพร เอียดดÓ โรงเรียนเทศบาลบ้านคูหาสวรรค์ สังกดั กองการศกึ ษา เทศบาลเมืองพัทลุง
ก คานา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา.บูรณาการตามศาสตร์พระราชา เพ่ือส่งเสริมการคิด แ ก้ปัญ หาแ ละ ก ารคิดสร้างสรรค์ .ชั้นประ ถ มศึก ษาปีท่ี .2.เล่ม ที่ .4. สนุกกับแรงไฟฟ้า จัดทาขึ้น.เพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือสาหรับส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาและ การคิ ดสร้ างสรรค์ .เป็ นก ารจั ด กิ จก รรมก ารเรี ยนรู้ ที่ บู รณาการศาสตร์ พระราชา .เร่ื อง การพ่ึงตนเอง การทางานอย่างมีความสุข การแก้ปัญหาจากจุดเล็ก การศึกษาข้อมูลอย่างเป็น ระบบ ประหยัด เรียบง่าย.ได้ประโยชน์สูงสุด โดยนาภูมิปัญญาและความรู้ของท้องถิ่น ภ า ค ใ ต้ .เ รื่ อ ง ข อ ง เ ล่ น จ า ก ใ บ ม ะ พ ร้ า ว .ม า บู ร ณ า ก า ร ใ น วิ ช า วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ . (Science).เทคโนโลยี.(Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering).และคณิตศาสตร์ (Mathematics).ซ่ึ งใช้ ประ กอบ กา ร เ รี ย น รู้ .ห น่ ว ย กา ร เ รี ย น รู้ เ ร่ื อ ง ใส นุ ก กั บ แ ร ง ไ ฟ ฟ้ า . โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง.แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้.สามารถ เรียนรู้ได้ตามลาดับข้ันตอน ตามศักยภาพและความสามารถของตนเอง.อีกท้ังส่งเสริม การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ท่ีใช้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและกระบวนการ ออกแบบเชงิ วศิ วกรรมเปน็ พ้นื ฐาน ผูจ้ ัดทาหวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ ชดุ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแนวคิดสะเต็มศึกษา.บูรณาการ ตามศาสตรพ์ ระราชา.เพื่อสง่ เสริมการคิดแก้ปัญหาและการคิดสร้างสรรค์.ชั้นประถมศึกษา ปีที่.2.เลม่ นี้ สามารถช่วยให้นักเรียนเข้าใจเน้ือหาได้ง่ายและชัดเจนยิ่งข้ึน มีความสามารถ ในการคิดแก้ปัญหาและการคิดสร้างสรรค์สูงขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจศึกษา ท่ีจะนาไป เป็นแนวทางในการจดั การเรยี นรแู้ ละใช้เป็นสอื่ นวัตกรรมทางการศึกษาต่อไป ประภาพร เอียดดา
ข สารบัญ หน้า ก เร่ือง ข คานา ง สารบัญ จ แผนผงั ข้นั ตอนการทากิจกรรม ฉ คาชี้แจง ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแนวคิดสะเตม็ ศกึ ษา ช สนุกกับแรงไฟฟา้ ซ คาชแี้ จงสาหรบั ครู ฌ บทบาทนักเรียน 1 เล่มท่ี 4 สนกุ กับแรงไฟฟา้ 2 มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวัด 3 สาระสาคัญ 4 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 7 แบบทดสอบก่อนเรียน 8 กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 9 รายชือ่ สมาชิกในกลุม่ 18 ขั้นที่ 1 ระบุปญั หา 19 ขั้นที่ 2 รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ปญั หา 22 ขน้ั ที่ 3 ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา 23 ขน้ั ท่ี 4 วางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา 24 ขนั้ ที่ 5 ทดสอบประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ แกไ้ ขวิธกี ารแกป้ ญั หาหรอื ช้นิ งาน 26 ขน้ั ท่ี 6 นาเสนอวธิ ีการแก้ปญั หา ผลการแกป้ ญั หาหรือชิน้ งาน 29 แบบทดสอบหลงั เรยี น 30 กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน 31 เอกสารอ้างองิ เอกสารรูปภาพ
ค สารบญั (ตอ่ ) หน้า 34 เร่ือง 35 ภาคผนวก 36 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 39 เฉลย ขัน้ ที่ 1 ระบปุ ัญหา 40 เฉลย ขั้นท่ี 2 รวบรวมข้อมลู และแนวคิด 43 ท่เี กี่ยวข้องกับปญั หา 44 เฉลย ขนั้ ท่ี 3 ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา เฉลย ขั้นที่ 4 วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา 45 เฉลย ขั้นที่ 5 ทดสอบประเมินผลและปรบั ปรงุ แกไ้ ข 47 48 วิธีการแก้ปัญหาหรอื ชิ้นงาน 49 เฉลย ขน้ั ที่ 6 นาเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแกป้ ัญหา หรอื ช้ินงาน เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ผลงานนักเรียน ประวัติผูจ้ ดั ทา
ง แผนผังขน้ั ตอนการทากจิ กรรม อ่านคาชแ้ี จงชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแนวคิดสะเตม็ ศึกษา ศึกษามาตรฐาน ตัวชว้ี ัดและจุดประสงค์ ทาแบบทดสอบก่อนเรยี น กิจกรรมการเรียนรตู้ ามแนวคดิ สะเต็ม (STEM education) ขนั้ ระบุปญั หา ข้นั รวบรวมข้อมลู และแนวคิดทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ปัญหา ขั้นออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา ขน้ั วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา ข้ันทดสอบประเมนิ ผลและปรบั ปรงุ แก้ไขวธิ แี ก้ปัญหาหรอื ชิน้ งาน ข้นั นาเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรอื ชิ้นงาน เมื่อศกึ ษาเสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น เปรยี บเทียบคะแนน เปรียบเทยี บคะแนน ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ก่อนเรียนและหลงั เรียน ก่อนเรยี นและหลงั เรียน ถ้าคะแนนหลังเรียน ถา้ คะแนนหลังเรียน สูงถึงร้อยละ 80 ตา่ กวา่ ร้อยละ 80 ให้ศึกษาชดุ กจิ กรรมต่อไป
จ คาชแี้ จง ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแนวคดิ สะเต็มศกึ ษา 1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาฯ.ชั้นประถมศึกษาปีที่.2.จัดทา ขึ้นเพ่ือส่งเสริมการเรยี นรู้ผ่านกจิ กรรมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ผนวกกับการออกแบบเชิงวิศวกรรม ท่ีมุ่งแก้ไขปัญหาท่ีพบในชีวิตประจาวัน เพ่ือส่งเสริม การคิดแก้ปัญหาและการคิดสร้างสรรค์ สามารถส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองของผู้เรียน ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเน่ืองตามศักยภาพโดยการใช้กลวิธีการสอนเพื่อ กระตุ้นความคิดและส่งเสริมใหน้ ักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างจริงจังและทั่วถึง. รวมทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดความต่ืนเต้น กระตือรือร้น และ ไม่เบื่อหน่ายต่อการเรียน โดยจัดสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่งึ สามารถใช้เปน็ แนวทางให้ครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคดิ สะเตม็ ศึกษาฯ ประกอบดว้ ย 6 เลม่ ดงั น้ี เลม่ ท่ี 1 เรือ่ ง กระปกุ ออมสินสร้างสรรค์ เวลา 5 ชวั่ โมง เลม่ ท่ี 2 เรอื่ ง เลน่ และใช้ให้ปลอดภัย เวลา 5 ช่ัวโมง เลม่ ท่ี 3 เรื่อง รถเก็บสมบัติ เวลา 5 ชัว่ โมง เลม่ ที่ 4.เรือ่ ง สนุกกับแรงไฟฟา้ เวลา 5 ชัว่ โมง เลม่ ท่ี 5 เรื่อง เมอื งจาลองในฝนั เวลา 5 ชว่ั โมง เลม่ ที่ 6 เรอ่ื ง บา้ นพลงั งานแสงอาทติ ย์ เวลา 5 ชั่วโมง รวม เวลา 30 ช่ัวโมง 2. ก่อนเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาฯ.ชั้นประถมศึกษา ปีท่ี.2.นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 จานวน 10 ข้อ 3. หลังจากเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษาฯ.ชั้นประถมศึกษา ปีท่ี.2.แล้ว นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน วิชาวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 จานวน 10 ข้อ
ฉ สนกุ กับแรงไฟฟ้า ส่วนประกอบของชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแนวคดิ สะเตม็ ศกึ ษา..บูรณาการตาม ศาสตร์พระราชา..เพ่อื สง่ เสริมการคิดแกป้ ญั หาและการคิดสรา้ งสรรค์.ชั้นประถมศึกษาปีที่.2 เลม่ ที่ 4 สนุกกบั แรงไฟฟ้า เลม่ นี้ ประกอบดว้ ย 1. แผนผังขนั้ ตอนการทากิจกรรม 2. คาชี้แจงชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ตามแนวคิดสะเต็มศกึ ษา 3. คาช้ีแจงสาหรบั ครู 4. บทบาทนักเรียน 5. มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. แบบทดสอบก่อนเรียน 7. ใบกจิ กรรม 8. ใบความรู้ 9. แบบทดสอบหลงั เรยี น 10. เอกสารอ้างองิ /อ้างองิ รปู ภาพ 11. เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน 12. เฉลยใบกิจกรรม หมายเหตุ ผใู้ ช้ชดุ กจิ กรรมควรศึกษาคาแนะนาการใช้ชุดกจิ กรรมกอ่ นใช้
ช คาช้ีแจงสาหรับครู 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จานวน 10 ข้อ เพอ่ื ทดสอบความร้พู ้ืนฐาน 2. นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 4-5 คน มีนักเรยี นคละตามความสามารถ เก่ง ปานกลาง ออ่ น เลือกประธานกลุ่ม เลขานกุ ารกลุ่ม สมาชิกล่มุ เพ่ือแบง่ หนา้ ท่ี ความรับผดิ ชอบ 3. ให้สมาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกนั ปฏบิ ัติกิจกรรม มคี วามสามคั คี รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ และยอมรบั เสยี งสว่ นใหญ่ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 4. ตรวจสอบความถูกตอ้ งเรยี บร้อย เตรียมอภปิ รายนาเสนอผลงาน และออกมาอภปิ รายนาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน 5. นกั เรียนเก็บอุปกรณแ์ ละทาความสะอาดบริเวณท่ปี ฏบิ ตั ิกจิ กรรมให้เรียบร้อย 6. เมอ่ื ปฏิบัตชิ ุดกิจกรรมการเรียนร้ตู ามแนวคดิ สะเต็มศึกษาจบแล้ว นักเรียน ทาแบบทดสอบหลังเรยี น จานวน 10 ข้อ เพ่อื ประเมินผลพัฒนาการเรยี นรู้
ซ บทบาทนกั เรยี น ครูตอ้ งชีแ้ จงให้นกั เรียนทราบถึงบทบาทของนกั เรียน ดงั น้ี 1. การเตรียมตวั ของนักเรียน 1.1.ศึกษาชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแนวคดิ สะเต็มศึกษาฯ เพ่ือให้มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ วัสดุอปุ กรณ์และวิธีทดลอง ข้อควรปฏบิ ัตใิ นการทดลอง เทคนคิ การใช้วัสดุอุปกรณ์ และสามารถทาการทดลองไดอ้ ย่างถูกวิธี ประหยดั เวลา และมีความปลอดภัย 1.2 วางแผน และจดั เตรียมวสั ดุอุปกรณท์ ่ีใช้ประกอบการเรียนรู้ของตนเองหรือ ของกลุ่มใหพ้ รอ้ มสาหรบั การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามที่ได้รบั มอบหมาย 2. หวั หนา้ กลุ่ม มหี นา้ ทีด่ งั นี้ 2.1 เป็นผู้นาในการปฏบิ ัติกิจกรรมกลุ่ม โดยทาหน้าท่อี า่ นใบกจิ กรรมเพ่อื ให้ทกุ คน ทาตามคาชแี้ จงในการประกอบกจิ กรรม ให้เป็นไปตามข้นั ตอน 2.2 ควบคุมดูแลการทางาน หรือการประกอบกิจกรรมภายในกล่มุ ให้เปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย ไมส่ ง่ เสยี งดังรบกวนผู้อ่ืน 2.3 ตรวจสอบการจดั เกบ็ อุปกรณใ์ ห้เรยี บร้อยหลงั เสร็จกจิ กรรมการเรียนแลว้ 2.4 เป็นผูต้ ดิ ตอ่ กบั ครเู ม่ือมปี ัญหาภายในกลุม่ 3. เลขานุการกลุ่ม มหี น้าท่ดี งั น้ี 3.1 เป็นผูจ้ ดบันทึกผลกจิ กรรมและรวบรวมสง่ ครูเมื่อสมาชกิ ทุกคนทาเสร็จ เรียบรอ้ ยแล้ว 4. สมาชิกกล่มุ มีหนา้ ที่ดังน้ี 4.1 ปฏิบัตกิ ิจกรรมด้วยความต้งั ใจและใหท้ นั ตามกาหนดโดยไมช่ วนเพอื่ นคยุ หรอื เลน่ 4.2 ศกึ ษาใบกจิ กรรม ใบความรู้ และปรึกษาหารอื กันภายในกลมุ่ 4.3 ร่วมอภิปรายและสรุปผลจากการปฏิบัตกิ จิ กรรม 4.4 ชว่ ยเก็บวัสดอุ ุปกรณ์ ส่ือการสอนตา่ งๆ ของกลุม่ ตนเองใสก่ ลอ่ งให้เรยี บร้อย นอกจากใบกจิ กรรมทต่ี อ้ งสง่ ใหค้ รูตรวจให้รวบรวมส่งครู
ฌ เลม่ ที่ 4 สนุกกับแรงไฟฟา้
1 ชดุ กจิ กรรม การเรียนรตู้ ามแนวคิดสะเต็มศกึ ษา 4เลม่ ที่ สนกุ กบั แรงไฟฟ้า มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวดั หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 สนุกกับแรงไฟฟ้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กระบวนการ คณติ ศาสตร์ ว 2.2 ป.2/3 ทดลองและ ทางวิศวกรรม ค 3.1 ป.2/1 บอกชนิด อธบิ ายแรงไฟฟ้าท่เี กิดจาก ของรปู เรขาคณติ สองมติ ิ การถวู ตั ถุบางชนิด ง 3.1 ป.2/1 วา่ เปน็ รูปสามเหล่ยี ม ว 8.1 ป.2/1-8 รปู สเี่ หล่ียม รปู วงกลม ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ บอกประโยชน์ของ หรือรูปวงรี และจติ วทิ ยาศาสตร์ ค 3.2 ป.2/1 เขยี นรูป ในการสบื เสาะหาความรู้ ข้อมูลและรวบรวม เรขาคณิตสองมิติโดย และแกป้ ัญหา ใช้แบบของรูป ข้อมลู ท่นี ่าสนใจจาก เรขาคณติ - วัสดุและสมบัตขิ องวสั ดุ แหลง่ ขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ี รูปเรขาคณิตสองมิติ เชอ่ื ถอื ได้ ง 1.1 ป.2/2 ใช้วัสดุอปุ กรณแ์ ละ เครอ่ื งมือในการทางาน อยา่ งเหมาะสม กับความประหยดั -บอกประโยชน์ การออกแบบ ของข้อมลู และ งเู ต้นระบา แหล่งคน้ หาข้อมลู -การใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ และเคร่ืองมือ
2 สาระสาคญั ประจุไฟฟา้ หรือแรงไฟฟา้ จะเกิดขน้ึ เม่อื นาวัตถุสองชนดิ มาขัดถกู ัน สามารถดึงดดู วตั ถุช้ินเลก็ ๆ เบาๆ ทอ่ี ยู่ใกล้ได้ และประจุไฟฟา้ จะเกิดขึ้นบริเวณ การขดั ถูกันของวตั ถุเท่านนั้ รูปเรขาคณติ สองมติ ิ เป็นรูปเรขาคณติ ท่ีเปน็ รูปแบน ไมม่ คี วามหนา หรือความลกึ ในการสร้างงนู ้อยเตน้ ระบา ได้นารูปเรขาคณติ สองมิติ วงกลม มาใช้ ในการสร้างแบบและใช้ความรเู้ รื่องแรงไฟฟา้ สถิตมาใชใ้ นการแก้ปัญหา การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ ออกแบบ และเทคโนโลยี ใหม้ คี วามสามารถในการแกป้ ัญหาอย่างมเี หตุผล การสือ่ สาร การสื่อ ความหมายทางวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ออกแบบและเทคโนโลยี และ การนาเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ต่างๆ และเช่ือมโยงกบั ศาสตรอ์ ่ืนๆ และมีความรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอเพอ่ื สอ่ื สารสิ่งที่ เรียนรู้ เห็นคณุ ค่าของการนาความรทู้ างวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ ออกแบบและเทคโนโลยีไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน มคี ุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มที่ พึงประสงค์ ไดแ้ ก่ การทางานอย่างมีระบบระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มวี ิจารญาณ มีความเช่อื มั่นในตนเอง พรอ้ มทง้ั ตระหนกั ในคณุ คา่ และมีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพวิ เตอร์ ออกแบบและเทคโนโลยี
3 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. นักเรียนสามารถอธิบายการเกดิ แรงไฟฟ้า ท่ีเกิดจากการถูกับวัตถบุ างชนิดได้ 2. นกั เรียนสามารถอภปิ รายการนาไป ใชป้ ระโยชนข์ องแรงไฟฟ้าที่เกิดจากการถูกับวตั ถุบางชนดิ 3. นกั เรยี นสามารถบอกชนิดของรปู เรขาคณิต สองมิตวิ ่าเป็นรปู สามเหลี่ยม รปู สี่เหลยี่ ม รปู วงกลม หรอื รปู วงรี ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (Process) 1. นักเรยี นทดลองการเกดิ แรงไฟฟ้าทเ่ี กิดจากการถกู ับวัตถุบางชนดิ ได้ 2. นกั เรยี นสามารถออกแบบของเลน่ โดยใชร้ ูปทรงเรขาคณติ สองมิติ และการนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั ได้ ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม (Affective) 1. นักเรยี นมีความสนใจใฝ่รู้ 2. นกั เรียนมคี วามมงุ่ มนั่ อดทน รอบคอบ 3. นกั เรยี นมคี วามสามารถทางานร่วมกับผู้อ่ืน
4 เรอ่ื ง การพ่ึงตนเอง แบบทดสอบกอ่ นเรียน คาชี้แจง 1) แบบทดสอบเป็นแบบเลือกตอบมจี านวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2) ให้นกั เรียนเลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ งทสี่ ดุ แล้วทาเคร่ืองหมาย () ในกระดาษคาตอบ 1. ทพิ ย์ยนื หวีผมในหอ้ งขณะทีเ่ ขาเปิดแอร์ เม่ือหวีไปสักครู่ เขาจงึ พบการเปล่ยี นแปลงทีเ่ กิดขึ้นกบั เส้นผม นักเรียนคดิ ว่าขอ้ ใดคือผลของการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์น้ี ก. เส้นผมขาดร่วง ข. เส้นผมติดหวี ค. เส้นผมยาวขึ้น 2. จากสถานการณ์ขอ้ ที่ 1 นักเรียนคดิ ว่าเกิดจากสาเหตุใด ก. แรงแม่เหลก็ ข. แรงจากหวี ค. แรงไฟฟ้าสถิต 3. การทากิจกรรมในข้อใด ทท่ี าให้เกิดแรงไฟฟา้ สถิต ก. กอ้ ยนาผ้าแห้ง 2 ผืน มาถูกนั ข. ตูนนาแม่เหล็กต่างขั้วมาวางใกล้กนั ค. กิ่งนาผ้าเปียกกบั ไม้บรรทัดมาถูกนั
5 4. ณชิ าต้องการให้ไมบ้ รรทดั พลาสตกิ ดดู เศษกระดาษ จงึ นาไปถกู บั ผ้าแหง้ บริเวณ ปลายด้านซา้ ยของไม้บรรทัด นักเรยี นคดิ วา่ บริเวณใดจะดงึ ดดู เศษกระดาษได้ ก. ปลายด้านขวา ข. ปลายด้านซา้ ย ค. ตรงกลางไมบ้ รรทัด 5. จากสถานการณใ์ นขอ้ 4 ถ้าใช้ปลายไมบ้ รรทัดดา้ นขวาวางใกล้เศษกระดาษ ผลจะเปน็ อย่างไร ก. ดึงดดู เศษกระดาษ ข. ผลกั เศษกระดาษ ค. ไม่ดงึ ดูดเศษกระดาษ 6. สถานการณใ์ นขอ้ ใดที่ไม่ทาให้เกดิ แรงไฟฟา้ สถติ ก. เกง่ ถผู า้ สักหลาดกับไมบ้ รรทดั ข. กานถูผา้ ขนหนแู ห้งกับเส้นผม ค. กันถเู ส้อื เปยี กกับผ้าเช็ดหน้า 7. ครูแจกลูกโป่งให้นักเรียน 2 ลกู และต้องการทาใหล้ ูกโปง่ 2 ลูกดดู ตดิ กนั นักเรยี นจะมีวิธีการอย่างไรจงึ จะทาใหล้ กู โป่งดูดติดกันได้ ก. ใส่แม่เหลก็ ในลูกโป่ง ข. ใสถ่ า่ นไฟฉายในลกู โปง่ ค. ถูลกู โปง่ ทงั้ 2 ลูก ด้วยกนั
6 8. กงิ่ และก้าน ถูไม้บรรทัดกับผ้าสกั หลาด เป็นเวลา 5 นาที แล้วท้ังคู่ จึงนาไปวางใกลเ้ ศษกระดาษ นกั เรยี นคดิ ว่าจะเกดิ การเปลยี่ นแปลงอยา่ งไร ก. เศษกระดาษปลวิ ข. เศษกระดาษดูดติดกบั ไม้บรรทดั ค. เศษกระดาษไม่ดูดไม้บรรทดั 9. สถานการณข์ อ้ ท่ี 8 ถา้ กงิ่ และกา้ นเปล่ยี นวตั ถทุ น่ี ามาใช้ถู ควรเป็นวัตถใุ ด จงึ จะทาใหด้ ูดเศษกระดาษไดเ้ หมอื นกัน ก. แก้วกระเบ้ือง ข. ลกู โป่ง ค. ผา้ ขนหนเู ปียก 10. จากสถานการณข์ อ้ ท่ี 8 เหตุการณท์ ่ีเกดิ ข้ึนมีลกั ษณะอยา่ งไร ก. เกดิ ข้ึนช่ัวครู่แลว้ จะหายไป ข. เกดิ ขึ้นกับทุกสว่ นของไมบ้ รรทัด ค. เกิดขึน้ ตลอดเวลา
7 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เล่มที่ 4 เร่ือง สนกุ กบั แรงไฟฟา้ คาชแ้ี จง 1) แบบทดสอบเป็นแบบเลือกตอบมจี านวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2) ให้นักเรียนเลอื กคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งท่สี ุดแล้วทาเครื่องหมาย () ในกระดาษคาตอบ ชื่อ...................................................................................... คะแนนทไ่ี ด้ ชน้ั ...........................................................เลขที.่ ................. 10 คะแนนเต็ม ขอ้ ก ข ค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
8 ชือ่ -สกุล…………………………………….. ชอ่ื -สกลุ …………………………………….. เลขท่ี................................................ เลขที.่ ............................................... ตาแหนง่ ........................................... ตาแหน่ง........................................... ........................................................ ........................................................ ชือ่ -สกุล…………………………………….. ชอื่ -สกลุ …………………………………….. เลขที่................................................ เลขที่................................................ ตาแหน่ง........................................... ตาแหน่ง........................................... ........................................................ ........................................................ ช่อื -สกุล…………………………………….. เลขท.ี่ ............................................... ตาแหน่ง........................................... ........................................................
9 เร่ือง การทางานและการแกป้ ัญหา ขั้นท่ี 1 ระบุปัญหา 1 แกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ กจิ กรรมวันสง่ ทา้ ยปีเก่าตอ้ นรบั ปใี หม่.นักเรยี นไดร้ ับมอบหมายจากคุณครู ประจาชัน้ ใหห้ ากิจกรรมสาหรับน้องๆ.อนุบาลเล่นเพ่ือความสนุกสนาน โดยใหน้ ักเรียนคิดหาวิธกี ารใหง้ กู ระดาษลอยขึ้นจากพนื้ ใโดยไมใ่ ช้มือสมั ผสั กับงูกระดาษโดยตรง และให้งูลอยอยใู่ นอากาศเป็นเวลา 10 วินาที นกั เรียน จะมวี ธิ กี ารอย่างไรในการออกแบบงูกระดาษโดยใชร้ ูปเรขาคณิตสองมติ ิ และนาหลักการการเกิดแรงไฟฟ้าสถติ มาใช้ในการแกป้ ญั หาดังกล่าว ปญั หาของสถานการณน์ ้ี คือ สาเหตุของปญั หาในสถานการณน์ ี้ คือ
10 เรอ่ื ง การศึกษาขอ้ มลู อย่างเปน็ ระบบ เร่อื ง การเกิดแรงไฟฟ้า ในฤดหู นาวอากาศจะเย็นและแหง้ บางครงั้ เราจะสงั เกตเห็นเส้ือผา้ ทเ่ี ราสวม ถกู ดูดตดิ ตัวเรา แสดงว่ามีแรงบางอย่างกระทาตอ่ เสื้อผ้าของเรา หรือขณะทเี่ รา กาลงั หวีผม เสน้ ผมจะตดิ ท่ีหวีหลายเส้น เราจะร้สู กึ ไดว้ า่ มีแรงดดู เส้นผมของเรา ใหต้ ดิ หวี ซึง่ มีลกั ษณะคล้ายกบั เสื้อทถ่ี กู ดูดตดิ ตวั ของเรา แรงชนิดหน่ึงทีเ่ กิดข้นึ ซง่ึ ทาใหห้ วีดูดเส้นผมของเราได้ หรอื ทาใหเ้ ส้อื ผา้ ท่ีเราสวมดดู ติดตวั เราน้นั เรียกว่า แรงไฟฟา้ แรงไฟฟ้าเป็นแรงทเี่ กิดขนึ้ เองตามธรรมชาติจากประจไุ ฟฟา้ 2 ชนดิ คือ ประจุบวก และประจลุ บ ถ้าเป็นประจชุ นิดเดยี วกนั จะผลักกัน และถา้ เป็นประจตุ รงข้ามจะดดู กัน ประจุเหมือนกัน จะผลกั กัน ประจุตา่ งกนั จะดูดกนั
11 เมอ่ื นาวัตถุบางชนิดมาขดั ถูกันจะทาให้เกิดแรงไฟฟ้า ซ่ึงสามารถดึงดูดวตั ถเุ บาๆ ท่ีอยู่ใกล้ๆ ได้ เช่นเดียวกบั ท่ไี ม้บรรทัดพลาสตกิ ที่ถูกขัดถูด้วยผา้ แหง้ ดงึ ดดู เศษกระดาษ ชิน้ เล็กๆ ทอี่ ยใู่ กล้ๆ ได้ ขดั ถไู ม้บรรทัดพลาสตกิ เกดิ แรงไฟฟ้าดึงดดู เศษ กบั ผา้ แห้งหลาย ๆ ครงั้ กระดาษชิ้นเลก็ ๆ ได้ แต่เมือ่ นาเศษผ้าเปยี กมาขัดถทู ่ปี ลายไมบ้ รรทดั พลาสตกิ และนาปลายไม้บรรทัด มาจอ่ ใกล้ ๆ กับเศษกระดาษชิ้นเล็ก ๆ ปรากฏว่าไม้บรรทดั ไม่มีแรงดึงดดู เศษกระดาษ ใชผ้ า้ เปยี กขัดถูไมบ้ รรทัด ไม้บรรทัดไม่เกดิ แรงไฟฟ้า พลาสติกหลาย ๆ ครงั้ จงึ ไมด่ ดู เศษกระดาษ
12 เมอ่ื ถลู กู โป่งทง้ั 2 ใบ ด้วยมือท่ีแห้ง ลกู โปง่ มแี รงผลกั กนั เน่ืองจากมกี ารถ่ายโอน ประจุลบออกไป ทาใหล้ ูกโป่งทง้ั 2 ใบ มปี ระจุบวกเหมือนกันเมอ่ื นามาเข้าใกลก้ ัน จะเกดิ แรงระหวา่ งประจุทาใหเ้ กิดการผลักกนั แตเ่ ม่ือถลู ูกโป่ง ก ดว้ ยมอื ที่แห้ง และถลู ูกโป่ง ข ด้วยผ้าแห้ง ลูกโป่งมแี รงดึงดูดกนั เนอ่ื งจากลกู โปง่ 2 ใบ มปี ระจชุ นดิ ตรงขา้ มกัน เมอื่ นามาใกล้กันจะเกดิ แรงดึงดูดกัน การถวู ัตถชุ นิดเดียวกนั ดว้ ย การถวู ตั ถุชนดิ เดยี วกันด้วยสิ่งที่ ส่ิงเดียวกนั จะทาให้เกดิ ประจไุ ฟฟ้า ต่างกนั จะทาใหเ้ กิดประจไุ ฟฟา้ ชนิดเดยี วกนั ซ่ึงจะมแี รงระหวา่ ง ชนิดตรงข้ามกัน ซง่ึ จะมแี รงระหว่าง ประจุไฟฟ้า ทาให้เกิดการผลกั กนั ประจุไฟฟ้า ทาให้เกดิ การดงึ ดดู กนั
13 เรอ่ื ง การศกึ ษาข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ เร่อื ง รปู เรขาคณติ สองมิติ รปู เรขาคณติ สองมติ ิ เป็นรูปท่ีมีขนาดกวา้ ง ความยาว แต่ไม่มีความหนา เชน่ รูปสามเหลีย่ ม รูปส่เี หลี่ยม รปู วงกลม รูปวงรี เป็นตน้ รูปสี่เหล่ียมมุมฉาก รูปวงกลม รูปหา้ เหลี่ยม รูปแปดเหลยี่ ม รูปสามเหล่ียม
14 การเขยี นรปู เรขาคณิตโดยใชแ้ บบของรูปเรขาคณิต 1) รปู สามเหล่ยี ม เป็นรูปเรขาคณิตสองมิตทิ ่ีประกอบดว้ ย ด้าน 3 ด้าน และมุม 3 มมุ การเขยี นรปู สามเหลี่ยมโดยใชแ้ บบของรูปสามเหลย่ี ม รูปสามเหลี่ยม 2) รูปวงกลม เป็นรปู เรขาคณิตสองมติ ิ มีลกั ษณะดังนี้ การเขียนรปู วงกลมโดยใชแ้ บบของรปู วงกลม รูปวงกลม
15 3) รูปวงรี เป็นรูปเรขาคณิตสองมิติ มีลกั ษณะดังนี้ การเขยี นรูปวงรีโดยใช้แบบของรปู วงรี รูปวงรี 4) รูปส่ีเหลี่ยม เป็นรปู เรขาคณิตสองมติ ิทป่ี ระกอบดว้ ย ด้าน 4 ดา้ น และ มมุ 4 มุม การเขียนรูปวงรีโดยใชแ้ บบของรูปวงรี รูปสีเ่ หลีย่ ม
16 เรอ่ื ง การพง่ึ ตนเอง คาสง่ั ให้นักเรียนพิจารณารูปท่ีกาหนดใหแ้ ล้วระบุว่าเป็นรูปเรขาคณติ ชนดิ ใด
17 คาสง่ั ให้นักเรยี นระบายสีตามท่ีกาหนดให้ รูปสเ่ี หล่ียม สีเหลือง รปู สามเหลีย่ ม สฟี า้ รปู วงรี สีเขยี ว รูปวงกลม สชี มพู
18 เร่อื ง ประหยัด เรยี บง่าย ไดป้ ระโยชน์สงู สุด ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกบั ปญั หา 2 วตั ถชุ นิดใดทาใหเ้ กดิ แรงไฟฟ้า คาสัง่ ให้นกั เรียนสารวจวัตถทุ ่ีคดิ วา่ สามารถทาให้เกิดแรงไฟฟา้ ได้ มา 5 ชนิด แล้วระบเุ หตุผลว่าเพราะเหตุใด วตั ถุ ทามาจากวัสดุ เหตผุ ลท่ีคิดวา่ สามารถทาใหเ้ กดิ แรงไฟฟา้ 1. 2. 3. 4. 5.
19 เรือ่ ง การทางานและการแก้ปัญหา ขั้นท่ี 3 ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา 3 งูเตน้ ระบา กิจกรรมวนั ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปใี หม่ นกั เรียนไดร้ ับมอบหมายจากคุณครู ประจาชน้ั ให้หากิจกรรมสาหรบั ใหน้ ้องๆ อนุบาลเล่นเพือ่ ความสนกุ สนาน โดยให้ นักเรยี นคิดหาวธิ ีการให้งกู ระดาษลอยขึ้นจากพนื้ โดยไม่ใชม้ อื สมั ผัสกบั งูกระดาษ โดยตรง และใหง้ ูกระดาษลอยอยใู่ นอากาศเป็นเวลา 10 วินาที นกั เรียนจะมีวธิ ีการ อย่างไร ในการออกแบบงูกระดาษ โดยใชร้ ูปเรขาคณติ สองมติ ิและนาหลกั การ การเกดิ แรงไฟฟา้ สถติ มาใชใ้ นการแกป้ ัญหาดงั กลา่ ว จากสถานการณป์ ัญหา นกั เรยี นออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หาอยา่ งไร คดิ คล่องแคลว่ 1. นักเรียนคดิ วา่ วตั ถุชนิดใดทสี่ ามารถนามาถกู ันแล้วทาใหเ้ กิด แรงไฟฟา้ สถติ ได้ 1. 6. 2. 7. 3. 8. 4. 9. 5. 10.
20 เร่ือง ประหยดั เรียบง่าย ไดป้ ระโยชน์สูงสุด คิดยดื หยนุ่ 2. ถา้ นกั เรียนตอ้ งการสรา้ งงูกระดาษเพือ่ นามาใชป้ ระดษิ ฐ์ในกจิ กรรมงเู ตน้ ระบา แต่ไมม่ แี บบวงกลม นักเรียนจะเลือกใช้อปุ กรณ์ใดแทนได้บา้ ง 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
21 เรื่อง ประหยัด เรียบงา่ ย ไดป้ ระโยชน์สงู สดุ คดิ ริเร่ิม 3. นักเรยี นออกแบบงูกระดาษ โดยวาดภาพและกาหนดวสั ดุท่ใี ช้ ในการประดษิ ฐ์ในกรอบด้านล่าง
22 เร่ือง การทางานและการแก้ปัญหา ขน้ั ท่ี 4 วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หา คิดละเอยี ดละออ ให้นักเรียนอธบิ ายข้นั ตอนการสร้างงูเต้นระบา และวธิ กี ารทาให้งลู อยจากพ้ืนในเวลา 10 วินาที
23 เรอ่ื ง การทางานและการแก้ปัญหา ขั้นที่ 5 ทดสอบประเมินผลและปรบั ปรงุ แกไ้ ข วธิ กี ารแก้ปญั หาหรอื ชน้ิ งาน 4 มาตรวจสอบคุณภาพกันเถอะ การทดสอบ ระดบั คุณภาพ การแกไ้ ข คุณภาพการใชง้ าน ดี งูกระดาษสามารถลอย จากพื้นภายในเวลา 10 วนิ าที พอใช้ งูกระดาษสามารถลอย จากพนื้ ภายไดแ้ ตใ่ ช้เวลา ไม่ถงึ 10 วินาที ปรับปรงุ งูกระดาษไม่สามารถ ลอยได้
24 เรอื่ ง การทางานและการแก้ปัญหา ขนั้ ท่ี 6 นาเสนอวิธกี ารแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหาหรอื ชน้ิ งาน 5 ผลงานจากการพฒั นา คาสง่ั ใหน้ ักเรียนอธิบายวธิ กี ารพัฒนาช้นิ งานหรือผลงาน โดยคานงึ ถึงการเลือกใช้วสั ดุ ที่นามาใชใ้ นการประดิษฐง์ ูเตน้ ระบา และการทาใหง้ ูกระดาษลอยได้
25 นกั เรยี นแก้ปัญหาจากสถานการณ์ทก่ี าหนด โดยอาศยั ความร้เู ก่ียวกบั เร่อื งใดบา้ ง วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี งเู ต้นระบา วศิ วกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์
26 เร่อื ง การพง่ึ ตนเอง แบบทดสอบหลงั เรยี น คาชแ้ี จง 1) แบบทดสอบเป็นแบบเลือกตอบมจี านวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2) ใหน้ ักเรียนเลือกคาตอบท่ถี ูกตอ้ งท่สี ดุ แล้วทาเครื่องหมาย () ในกระดาษคาตอบ 1. ณิชาต้องการใหไ้ ม้บรรทดั พลาสตกิ ดูดเศษกระดาษ จงึ นาไปถูกบั ผ้าแหง้ บริเวณปลายด้านซ้ายของไม้บรรทดั นกั เรยี นคิดว่า บริเวณใดจะดงึ ดูด เศษกระดาษได้ ก. ปลายดา้ นขวา ข. ปลายดา้ นซ้าย ค. ตรงกลางไมบ้ รรทดั 2. จากสถานการณ์ในขอ้ 1 ถา้ ใช้ปลายไม้บรรทัดด้านขวาวางใกล้เศษกระดาษ ผลจะเปน็ อยา่ งไร ก. ดงึ ดดู เศษกระดาษ ข. ผลกั เศษกระดาษ ค. ไม่ดงึ ดดู เศษกระดาษ 3. ทิพย์ยนื หวีผมในห้องขณะท่เี ขาเปดิ แอร์ เมื่อหวไี ปสกั ครู่ เขาจงึ พบการเปลี่ยนแปลงท่ีเกดิ ข้ึนกับเสน้ ผม นักเรยี นคดิ ว่าขอ้ ใดคือผลของการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์น้ี ก. เส้นผมขาดร่วง ข. เสน้ ผมตดิ หวี ค. เส้นผมยาวข้นึ
27 4. จากสถานการณข์ อ้ ที่ 3 นักเรียนคิดว่าเกิดจากสาเหตุใด ก. แรงแมเ่ หลก็ ข. แรงจากหวี ค. แรงไฟฟ้าสถิต 5. ก่ิงและก้าน ถูไม้บรรทัดกบั ผ้าสักหลาด เป็นเวลา 5 นาที แลว้ ทัง้ คู่ จงึ นาไปวางใกลเ้ ศษกระดาษ นักเรยี นคิดว่าจะเกิดการเปลย่ี นแปลงอยา่ งไร ก. เศษกระดาษปลิว ข. เศษกระดาษดูดติดกบั ไม้บรรทดั ค. เศษกระดาษไมด่ ูดไม้บรรทัด 6. สถานการณ์ข้อที่ 5 ถา้ กิง่ และกา้ นเปลย่ี นวัตถุทนี่ ามาใชถ้ ู ควรเปน็ วตั ถใุ ด จงึ จะทาใหด้ ดู เศษกระดาษไดเ้ หมือนกัน ก. แก้วกระเบอื้ ง ข. ลูกโปง่ ค. ผ้าขนหนเู ปียก 7. จากสถานการณ์ขอ้ ท่ี 5 เหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ มลี กั ษณะอยา่ งไร ก. เกิดข้นึ ชว่ั ครแู่ ลว้ จะหายไป ข. เกิดข้นึ กบั ทุกสว่ นของไมบ้ รรทัด ค. เกิดข้ึนตลอดเวลา
28 8. การทากจิ กรรมในขอ้ ใด ที่ทาใหเ้ กิดแรงไฟฟ้าสถิต ก. ก้อยนาผ้าแหง้ 2 ผืน มาถูกนั ข. ตูนนาแม่เหล็กตา่ งขว้ั มาวางใกล้กัน ค. ก่ิงนาผ้าเปียกกบั ไมบ้ รรทัดมาถกู นั 9. สถานการณใ์ นข้อใดท่ีไมท่ าให้เกดิ แรงไฟฟ้าสถติ ก. เกง่ ถูผ้าสักหลาดกับไมบ้ รรทดั พลาสตกิ ข. กานถูผ้าขนหนแู ห้งกบั เสน้ ผม ค. กันถูเส้อื เปียกกับผ้าเช็ดหน้า 10. ครูแจกลกู โป่งใหน้ กั เรียน 2 ลูก และต้องการทาให้ลกู โปง่ 2 ลูก ดดู ตดิ กนั นกั เรยี นจะมวี ิธกี ารอย่างไรจงึ จะทาให้ลกู โป่งดูดติดกนั ได้ ก. ใส่เหลก็ ในลูกโปง่ ข. ใส่ถ่านไฟฉายในลูกโปง่ ค. ถลู ูกโป่งทัง้ 2 ลูก ดว้ ยกัน
29 แบบทดสอบหลงั เรยี น เล่มท่ี 4 เรอ่ื ง สนุกกบั แรงไฟฟ้า คาชแ้ี จง 1) แบบทดสอบเป็นแบบเลอื กตอบมจี านวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2) ให้นกั เรียนเลือกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สุดแล้วทาเครื่องหมาย () ในกระดาษคาตอบ ช่ือ...................................................................................... คะแนนที่ได้ ชัน้ ...........................................................เลขท.่ี ................. 10 คะแนนเตม็ ข้อ ก ข ค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
30 จานงค์ ภาษาประเทศและคณะ. (2559). หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2. กรงุ เทพมหานคร.: บริษัทแม็คเอ็ดดูเคชนั จากัด. บัญชา แสนทวแี ละคณะ. (2557). หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน วทิ ยาศาสตร์ ป.2. กรุงเทพมหานคร.: โรงพิมพ์วฒั นาพานิช จากัด. พงษ์ศักดิ์ แพงคาอว้ น. (2554). หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ 2 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2. กรุงเทพมหานคร.: สานกั พิมพ์ประสานมติ ร จากดั . วรรณทพิ า รอดแรงคา้ และคณะ. (2558). หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2. กรุงเทพมหานคร.: บรษิ ทั สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ. ศริ ิรตั น์ วงศ์ศิริ และรักซ้อน รัตน์วจิ ิตต์เวช. (2557). หนงั สือเรียนวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ป.2. กรุงเทพมหานคร : บริษทั อักษร เจรญิ ทศั น์. สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). คมู่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2. กรุงเทพมหานคร.: โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพร้าว. . (2559). หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 2. กรงุ เทพมหานคร.: โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพร้าว. เอกรนิ ทร์ สีม่ หาศาล และคณะ. (2552). แม่บทมาตรฐานวิทยาศาสตร์ ช้นั ป.2. อกั ษรเจรญิ ทัศน.์ กรุงเทพมหานคร.
31 รปู ภาพ แหล่งขอ้ มลู /เวบ็ ไซต์ เขา้ ถึงเม่ือ หนงั สอื วิทยาศาสตร์ ป.2 2 มถิ นุ ายน 2560 หนงั สอื วทิ ยาศาสตร์ ป.2 2 มิถนุ ายน 2560 หนังสอื วิทยาศาสตร์ ป.2 2 มิถนุ ายน 2560 หนงั สอื วิทยาศาสตร์ ป.2 2 มถิ นุ ายน 2560 หนังสอื วิทยาศาสตร์ ป.2 2 มถิ นุ ายน 2560
32 รปู ภาพ แหลง่ ข้อมูล/เวบ็ ไซต์ เข้าถงึ เม่ือ หนงั สือวิทยาศาสตร์ ป.2 2 มถิ นุ ายน 2560 หนงั สือวทิ ยาศาสตร์ ป.2 2 มิถนุ ายน 2560 https://www.web-pra.com/ 5 มถิ นุ ายน 2560 https://www.bloggang.com/ 5 มถิ ุนายน 2560 https://th.aliexpress.com/ 5 มิถนุ ายน 2560 https://m.pchome.co.th/ 5 มถิ นุ ายน 2560
33 รปู ภาพ แหล่งข้อมลู /เว็บไซต์ เขา้ ถึงเม่ือ https://www.gotoknow.org/ 5 มิถุนายน 2560 http://www.designisstore.com/ 5 มถิ ุนายน 2560 http://www.bs-frame.com/ 5 มถิ ุนายน 2560 https://carmana.com/ 5 มถิ นุ ายน 2560 https://www.pngegg.com/ 5 มิถนุ ายน 2560 https://www.wongguru.com/ 5 มถิ ุนายน 2560
เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม 34 ภาคผนวก
35 แบบทดสอบกอ่ นเรียน เล่มท่ี 4 เรอ่ื ง สนุกกบั แรงไฟฟา้ คาชแ้ี จง เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม 1) แบบทดสอบเป็นแบบเลอื กตอบมจี านวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 10 นาที 2) ให้นกั เรียนเลือกคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งที่สุดแล้วทาเครื่องหมาย () ในกระดาษคาตอบ ช่ือ...................................................................................... คะแนนที่ได้ ชัน้ ...........................................................เลขที.่ ................. 10 คะแนนเตม็ ข้อ ก ข ค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
36 เร่อื ง การทางานและการแกป้ ัญหา ข้ันที่ 1 ระบปุ ญั หา 1 แก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม กจิ กรรมวันส่งท้ายปีเกา่ ตอ้ นรับปีใหม่.นกั เรยี นไดร้ บั มอบหมายจากคุณครู ประจาชนั้ ใหห้ ากิจกรรมสาหรับน้องๆ อนุบาลเล่นเพื่อความสนกุ สนาน โดยให้นกั เรียนคิดหาวิธกี ารให้งกู ระดาษลอยขน้ึ จากพ้นื โดยไม่ใชม้ อื สมั ผสั กบั งูกระดาษโดยตรง และให้งูลอยอยู่ในอากาศเป็นเวลา 10 วนิ าที นักเรียน จะมีวธิ กี ารอย่างไรในการออกแบบงกู ระดาษโดยใชร้ ปู เรขาคณิตสองมิติ และนาหลักการการเกดิ แรงไฟฟ้าสถติ มาใชใ้ นการแก้ปัญหาดังกลา่ ว ปญั หาของสถานการณน์ ี้ คือ สาเหตุของปัญหาในสถานการณน์ ้ี คือ นักเรยี นจะมีวิธกี ารอย่างไร นกั เรยี นไดร้ บั มอบหมายจาก ในการออกแบบงกู ระดาษโดยใช้ คณุ ครปู ระจาช้ันให้หากิจกรรม รูปเรขาคณติ สองมิติและ สาหรบั นอ้ งๆ อนุบาลเล่นเพ่อื นาหลกั การการเกดิ แรง ความสนุกสนาน ไฟฟ้าสถติ มาใชใ้ นการทาให้ งูลอยอยใู่ นอากาศเปน็ เวลา 10 วนิ าทีได้อยา่ งไร (พจิ ารณาจากคาตอบของนกั เรยี น) มา
37 เรื่อง การพงึ่ ตนเอง คาส่ัง ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณารปู ท่กี าหนดให้แลว้ ระบุว่าเป็นรูปเรขาคณิตชนิดใด รปู สามเหลี่ยม รปู ส่ีเหลี่ยม รูปวงกลม เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม รูปสเี่ หล่ียม รปู สามเหลย่ี ม รูปสามเหลีย่ ม รูปวงกลม รปู วงกลม รปู สี่เหล่ียม รปู ส่ีเหลี่ยม
38 คาสง่ั ให้นักเรยี นระบายสีตามท่ีกาหนดให้ รูปสเ่ี หล่ียม สีเหลือง รปู สามเหลีย่ ม สฟี า้ รปู วงรี สีเขยี ว รูปวงกลม สชี มพู เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม
39 เรื่อง ประหยดั เรยี บงา่ ย ไดป้ ระโยชน์สงู สดุ ข้ันที่ 2 รวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่ีเกย่ี วข้องกับปญั หา 2 วัตถชุ นิดใดทาให้เกดิ แรงไฟฟา้ เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม คาส่งั ให้นักเรียนสารวจวัตถทุ ค่ี ดิ ว่าสามารถทาให้เกิดแรงไฟฟา้ ได้ มา 5 ชนิด แล้วระบุเหตผุ ลวา่ เพราะเหตุใด วัตถุ ทามาจากวัสดุ เหตุผลท่ีคดิ ว่า สามารถทาให้เกิดแรงไฟฟา้ 1. ยาง ผิวเรยี บแห้ง ลกู โปง่ 2. พลาสตกิ ผวิ เรียบแห้ง ไม้บรรทัด 3. ผา้ ผวิ เรียบแห้ง ผา้ ขนหนู 4. ผ้า ผิวเรยี บแห้ง ผา้ สักหลาด 5. พลาสตกิ ผวิ เรยี บแหง้ หวี (พจิ ารณาจากคาตอบของนักเรียน) มา
40 เร่ือง การทางานและการแกป้ ัญหา ขนั้ ที่ 3 ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา 3 งูเตน้ ระบา เฉลยแบบทดสอบ / ใบกิจกรรม กิจกรรมวนั สง่ ท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นกั เรียนไดร้ ับมอบหมายจากคุณครู ประจาชนั้ ให้หากิจกรรมสาหรบั นอ้ งๆ อนุบาลเลน่ เพื่อความสนุกสนาน โดยให้ นักเรียนคิดหาวธิ กี ารให้งกู ระดาษลอยขน้ึ จากพน้ื โดยไมใ่ ชม้ ือสมั ผสั กับงกู ระดาษ โดยตรง และใหง้ ูกระดาษลอยอยู่ในอากาศเป็นเวลา 10 วนิ าที นักเรียนจะมวี ิธีการ อยา่ งไร ในการออกแบบงูกระดาษโดยใช้รูปเรขาคณิตสองมติ ิและนาหลกั การ การเกิดแรงไฟฟา้ สถติ มาใช้ในการแก้ปัญหาดงั กลา่ ว จากสถานการณป์ ญั หา นกั เรียนออกแบบวิธีการแกป้ ญั หาอย่างไร คิดคลอ่ งแคล่ว 1. นกั เรยี นคดิ วา่ วัตถชุ นิดใดทสี่ ามารถนามาถกู นั แล้วทาใหเ้ กดิ แรงไฟฟา้ สถติ ได้ 1. หวี 6. ผ้าสักหลาด 2. ไม้บรรทัดพลาสติก 7. ผา้ ขนหนู 3. ผ้าเช็ดหนา้ 8. เสอ้ื กันหนาว 4. เส้อื 9. แกว้ นา้ พลาสติก 5. ผ้าห่ม 10. ลูกโป่ง (พิจารณาจากคาตอบของนักเรยี น) มา
Search