ACCOUNTING & TAX ACCOUNTING & บัญชี & ภาษอี ากร By นกั เรียนการบัญชี ปวช.ชน้ั ปีท่ี 3 ACCOUNTING & TAX ACCOUNTING &
สาร ับญ 01 ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั บญั ชี ภาษีมูลคา่ เพ่มิ 03 ภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา คาศัพท์เกี่ยวกบั บญั ชี
CHAPTER 01 ความรเู้ บือ้ งตน้ เกี่ยวกับบัญชี
ความหมายของบญั ชี The meaning of accounting? การบัญชีก็คือ การเก็บรวบรวม การจดบันทึก การจาแนก และการสรุปผลรายการทางการเงินที่เกิดขึ้นในรูปของตัวเงิน รวมทั้งการวิเคราะห์ และแปลความหมายผลสรุปนั้นด้วย จากความหมายของการบัญชีดังกล่าว เราสามารถสรุปขั้นตอน ของการบญั ชไี ด้ ดงั นี้ 1.การเก็บรวมรวม (Gathering) ข้อมูลทางการเงินหรือที่เรียกว่า รายการค้า (Transaction) ทเ่ี กิดขน้ึ ในแต่ละวนั 2.การจดบันทึก (Recording) รายการค้าที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ลงในสมุดบัญชีขนั้ ต้น 3. การจาแนก (Classifying) รายการค้าที่บันทึกในสมุดบัญชี ขน้ั ต้น ออกเป็นหมวดหม่ใู นสมดุ บญั ชีขน้ั ปลาย 4. การสรุปผล (Summarizing) รายการค้าที่เกิดขึ้นและจาแนก แล้วในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เพื่อทราบถึงผลการดาเนินงาน และฐานะ ทางการเงินของกิจการ โดยผลการสรุปจะถูกแสดงออกมาในรูป ของงบการเงิน
หมวดบญั ชี ในการจดั ทาบญั ชีน้นั ตอ้ งรพู้ นื้ ฐานเกย่ี วกบั บญั ชี ซึ่งนน้ั ก็คือ หมวดบญั ชี หมวดบญั ชี คอื การรวบรวมสงิ่ ท่ีเหมือนกันเขา้ ไว้ในหมวด เดียวกนั และมคี วามหมายเหมือนกนั เชน่ รถยนต์ เงนิ สด เป็นส่ิงที่ กจิ การครอบครอง ก็จะถือเป็นสนิ ทรพั ยข์ องกจิ การ แต่ถ้าเป็นเจ้าหน้ี เงินกู้ กจ็ ะถือวา่ เป็นหนสี้ นิ ของกิจการเพราะมีภาระผกู พนั ในอนาคต เป็นต้น หมวดบญั ชีจะมี 5 หมวดได้แก่ 1. สนิ ทรพั ย์ อยู่ หมวด 1 เพมิ่ ด้าน เดบติ ลด ด้าน เครดติ 01 2. หนส้ี ิน อยู่ หมวด 2 เพ่มิ ดา้ น เครดิต ลด ดา้ น เดบติ 3. สว่ นของเจา้ ของ อยู่ หมวด 3 เพิ่มดา้ น เครดติ ลด ด้าน เดบิต 4. รายได้ อยู่ หมวด 4 เพม่ิ ด้าน เครดติ ลด ด้าน เดบิต 5. คา่ ใช่จา่ ย อยู่ หมวด 5 เพ่ิมดา้ น เดบิต ลด ด้านเครดติ
สนิ ทรพั ย์ สนิ ทรัพย์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. สนิ ทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) หมายถงึ สินทรัพยท์ ่ีมีสภาพคลอ่ ง สามารถจะเปล่ียนเป็นเงินสด เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร เป็นตน้ หรือสนิ ทรพั ย์ทเี่ ปล่ยี นเป็นเงนิ สดได้เร็ว โดยปกติจะไมเ่ กิน 1 ปี เชน่ ตัว๋ เงินรับ ลูกหนี้การคา้ สินค้าคงเหลอื เปน็ ตน้ 2. สนิ ทรพั ย์ไม่หมุนเวียน (Non – Current Assets) หมายถึง สนิ ทรพั ย์ท่ไี มส่ ามารถเปลีย่ นเป็นเงินสดไดโ้ ดยเรว็ ซ่ึงมี ระยะเวลามากกว่า 1 ปี - สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) หรือเป็นสนิ ทรพั ย์ ทมี่ ตี วั ตน มีลกั ษณะการใช้งานทีค่ งทน และมีอายกุ ารใชง้ านนาน เกินกว่า 1 ปี เช่น ท่ีดิน อาคาร อปุ กรณ์ รถยนต์ เปน็ ตน้ - สนิ ทรัพย์ไมม่ ีตวั ตน (Intangible Assets) หมายถงึ สินทรพั ย์ทไี่ ม่มรี ูปร่างไมส่ ามารถจับตอ้ งได้ทางกายภาพ แต่สามารถตีราคาใหม้ ีมลู คา่ เปน็ เงินตรา และถอื กรรมสทิ ธ์ิได้ เช่น เครอ่ื งหมายการคา้ สิทธิบตั ร ลขิ สทิ ธ์ิ คา่ ความนยิ ม เป็นตน้
หนี้สนิ 01 หนี้สิน (Liability)หมายถึง ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการที่ต้องจ่ายชาระคื น แก่บุคคลภายนอกในอนาคต ภาระผูกพันดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตซึ่งการชาระ ภาระผูกพันนั้นคาดว่าจะส่งผลให้กิจการสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ เช่น เจ้าหนี้การค้า เงินกู้ เงินเบิกเกินบัญชี เจ้าหนี้จานอง เป็นต้น หนี้สินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. หน้สี นิ หมนุ เวียน (Current 2. หน้ีสินไมห่ มุนเวียน (Non – Liabilities) หมายถึง ภาระผูกพันที่ Current Liabilities) หมายถึง หนี้สนิ กิจการต้องชาระคืนภายในระยะเวลา ซึง่ มรี ะยะเวลาการชาระคืนเกนิ กวา่ 1 ปี ไม่เกนิ 1 ปี เช่น เจ้าหนี้การค้าเงนิ หรอื เกนิ กว่ารอบระยะเวลาการดาเนิน เบิก เกินบัญชธี นาคาร เงนิ กู้ยมื จาก งานตามปกติของกจิ การ เช่น เงนิ กู้ระยะ ธนาคารระยะสัน้ ตว๋ั เงนิ จ่าย เปน็ ตน้ ยาว ห้นุ กู้ พนั ธบตั รเงนิ กู้ เป็นต้น
สว่ นของเจ้าของ ส่วนของเจา้ ของ (Owner’s equity) หมายถึง ส่วนไดเ้ สยี คงเหลือ ในสินทรพั ยข์ องกิจการหลงั จากหักหนีส้ นิ ทัง้ สนิ ออกแลว้ กรรมสิทธ์ิ ท่เี จา้ ของกิจการมใี นสินทรพั ย์ เรยี กว่า สนิ ทรพั ย์สทุ ธิ (สินทรพั ย์ – หนส้ี ิน) สว่ นของเจา้ ของกิจการแบ่งได้ 3 ประเภท 1.กจิ การเจ้าของคนเดียว 2.ห้างหนุ้ ส่วน 3.บริษัทจากัด
รายได้ Lorem ipsum dolor sit amet . รายได้ (Incomes) หมายถึง ผลตอบแทนที่ กจิ การได้รบั จากการขายสนิ ค้าหรอื บริการตามปกติของกิจการ รวมทั้งผลตอบแทนอน่ื ๆ ทีไ่ ม่ไดเ้ กดิ จากการดาเนนิ งานตามปกติ รายได้แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ดังนี้ 1. รายได้จากการขาย (Sales) หมายถงึ รายไดท้ เ่ี กิด จากการขายสนิ คา้ หรอื บรกิ ารอนั เปน็ รายไดจ้ ากการดาเนนิ งาน ตามปกติ เชน่ กิจการซ้อื ขายสนิ คา้ รายไดข้ องกจิ การ คือ รายได้ จากการขายสินคา้ ส่วนกจิ การใหบ้ รกิ าร เชน่ ซอ่ มเครอ่ื งไฟฟ้า รายไดข้ องกจิ การ คอื รายไดค้ า่ ซ่อม 2. รายไดอ้ ่ืน (Other incomes) หมายถึง รายไดท้ ี่ มไิ ด้เกดิ จากการดาเนินงานตามปกตขิ องกิจการซึ่งเปน็ รายไดท้ ี่ไม่ ใชร้ ายได้จากการขายสนิ คา้ หรือบรกิ ารน่ันเอง
ค่าใช้จ่าย คา่ ใชจ้ ่าย หมายถึง ตน้ ทุนสว่ นทห่ี ักออกจากรายไดใ้ นรอบระยะเวลาท่ี ดาเนินการงานหน่งึ ค่าใช้จา่ ยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังน้ี 1. ต้นทนุ ขาย (Cost of sales) หมายถงึ ต้นทนุ ของสินค้าที่ขายหรือ บริการ ในกิจการซ้อื ขายต้นทุนของสินคา้ ทขี่ ายจะรวมราคาซ้อื และ คา่ ใช้จ่ายอ่นื ๆท่จี าเป็นเพ่ือใหส้ ินคา้ อยูใ่ นสภาพพรอ้ มท่ีจะขาย สว่ นในกจิ การผลติ เพือ่ ขายต้นทนุ ของสินคา้ ท่ีขายคอื ตน้ ทุนการผลติ ของสนิ คา้ นน้ั ซึ่งประกอบดว้ ย คา่ วตั ถุดบิ คา่ แรงงาน 2. ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน (Operating expenses) หมายถึง ค่าใชจ้ า่ ยทเี่ กดิ ข้ึนอันเองมาจากการขายสนิ ค้าหรือบริการ และ คา่ ใชจ้ ่ายท่เี กิดข้นึ เนอื่ งจากการบรหิ ารกิจการอันเปน็ ส่วนรวมของการ ดาเนนิ งาน 3. คา่ ใชจ้ า่ ยอนื่ (Other expenses) หมายถึง ค่าใชจ้ ่าย นอกเหนือจากทจี่ ัดเขา้ เป็นต้นทนุ ขายและคา่ ใชจ้ า่ ยในการดาเนินงาน เช่นดอกเบย้ี จ่าย ภาษีเงนิ ได้
สมการบญั ชี สมการบญั ชี คอื สมการทแี่ สดงความสาพันธร์ ะหว่างสินทรัพย์ หนี้สนิ และสว่ นของเจ้าของ(ทนุ ) จะแสดงความ สมดลุ กนั อยู่เสมอสามารถเขยี นเป็นรูปสมการบญั ชี ไดด้ งั น้ี 1. กจิ การทไี่ มม่ หี นีส้ นิ สมการจะเปน็ ดงั นี้ สนิ ทรัพย์ = สว่ นของเจา้ ของ (ทนุ ) 2. กิจการทมี่ หี น้ีสิน สมการจะเป็นดังนี้ สินทรพั ย์ = หน้สี ิน + ส่วนของเจา้ ของ (ทุน) Assets = Liabilities + Owners Equity A = L + OE
02 ภาษีมลู ค่าเพมิ่ (Value Added Tax) หรอื VAT CHAPTER
ความหมายของภาษีมูลคา่ เพ่ิม ภาษีมูลค่าเพิ่ม หมายถึง ภาษีที่เก็บจากการขาย สินค้าและบริการของผู้ผลิตสินค้าหรือผู้บริการ ผู้นาเข้า โดยจัดเก็บเฉพาะมูลค่าที่เพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มมีขอบเขตกว้างขวาง และครอบคลุมทกุ ขัน้ ตอนในการผลิตการจาหน่าย และใหบ้ รกิ าร ผมู้ หี นา้ ท่ีเสยี ภาษีมูลคา่ เพม่ิ ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีทางอ้อมผู้บริโภคเป็นผู้รับภาระ เสยี ภาษมี ูลค่าเพ่ิมโดยมีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (ผู้ประกอบการจดทะเบียน) เป็นผู้ทาหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จากผู้บรโิ ภคแลว้ นาส่งให้กรมสรรพากรเปน็ รายเดือน โดยต้องยื่นภาษีทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไปไม่ว่าผู้ประกอบการฯ จะมี ภาษีตอ้ งชาระหรอื ไม่กต็ าม
การคานวณภาษีมูลคา่ เพ่ิม ดังนั้นเมื่อขายสินค้าจะต้องเรียกเก็บเงินจากลูกค้า เป็นจานวนเงินรวมทั้งสิ้น 107 บาท (ค่าสินค้า 100 บาท + VAT 7 บาท) โดยค่าสินค้าจะทาไปคานวณ ภาษมี ลู ค่าเพิม่ จะใชม้ ลู คา่ ของสินคา้ หรือบริการ (หลังหกั สว่ นลด เพื่อเสียภาษีเงินได้ส่วน VAT 7 บาทจะต้องนาส่ง แล้ว) เปน็ ฐานในการคานวณภาษมี ลู คา่ เพิ่ม ให้กรมสรรพากรในเดือนถัดไปโดยไม่ต้องนาไป มลู ค่าสินคา้ / บริการ X อตั ราภาษี = ค่าภาษี VAT คานวณเป็นเงินได้ของกิจการโดยภาษีที่เรียกเก็บ เชน่ สินคา้ ต้งั ราคาขาย 100 บาท ตอ้ งเสียภาษมี ลู คา่ เพ่ิมอัตรา 7% จากตอนขายจะเรยี กสั้น ๆ วา่ ภาษีขาย จะคานวณคา่ ภาษีมลู ค่าเพ่ิมไดด้ งั น้ี ในทางกลับกันถ้าผู้ประกอบการจดทะเบียนซื้อ มูลคา่ สินค้าบรกิ าร 100 x อัตราภาษี 7% = ค่าภาษี VAT 7 บาท สินค้ามาในราคา 107 บาทแสดงว่าสินค้านั้นจริงๆ ราคาเพียง 100 บาท แต่อีก 7 บาทนั้นคือ VAT ที่ ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนต้องจ่ายตอนซื้อสินค้าซึ่ง ค่าภาษี 7 บาทที่จ่ายไปตอนซื้อสินค้าเข้ามาเรียก สนั้ ๆ วา่ ภาษซี ้ือ
CHAPTER ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 03Personal Income Tax
ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา..... คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไปหรือจากหน่วยภาษี ที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกาหนดและมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยปกติ จัดเก็บเป็นรายปี รายได้ที่เกิดขึ้นในปีใดๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องนาไปแสดงรายการตนเอง ตามแบบแสดงรายการภาษีที่กาหนด ภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป สาหรับผู้มีเงินได้บางกรณีกฎหมายยังกาหนดให้ยื่นแบบฯ เสียภาษีตอนครึ่งปีสาหรับรายได้ ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งปีแรก เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีที่ต้องชาระและเงินได้บางกรณี กฎหมายกาหนดให้ผู้จ่ายทาหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินได้ที่จ่ายบางส่วน เพื่อให้มีการ ทยอยชาระภาษีขณะทีม่ เี งินไดเ้ กดิ ข้ึนอีกดว้ ย
ประเภทเงินรายได้ท่ตี อ้ งเสยี ภาษี เนอ่ื งจากผู้มีเงินไดป้ ระกอบอาชพี แตกต่างกัน มคี วามยากงา่ ยหรอื ต้นทนุ ทแ่ี ตกตา่ งกนั เพ่ือความเปน็ ธรรมใน กฎหมายจงึ ไดแ้ บง่ ลกั ษณะเงนิ ได้(พงึ ประเมนิ ) ออกเปน็ กลุม่ ๆ ตามความเหมาะสมเพือ่ กาหนดวิธคี านวณภาษี ใหเ้ กิดความเป็นธรรมมากทส่ี ุด ดังนี้ 1. เงนิ ไดป้ ระเภทที่ 1 ไดแ้ ก่ เงินไดเ้ นื่องจากการจ้างแรงงาน ไม่ว่าจะเป็น - เงินเดอื น ค่าจ้าง เบ้ยี เล้ยี ง โบนสั เบีย้ หวัด บาเหน็จ 2. เงินไดป้ ระเภทท่ี 2 ไดแ้ ก่ เงินไดเ้ น่อื งจากหนา้ ท่หี รอื ตาแหน่งงานทท่ี า หรือจากการรับทางานให้ ไมว่ ่าจะเปน็ - คา่ ธรรมเนียม คา่ นายหนา้ ค่าส่วนลด - เงนิ อดุ หนุนในงานทีท่ า เบยี้ ประชมุ บาเหนจ็ โบนัส 3. เงินไดป้ ระเภทท่ี 3 ได้แก่ คา่ แห่งกู๊ดวิลล์ ค่าแหง่ ลิขสิทธิห์ รอื สทิ ธิอย่างอื่น เงินปี หรอื เงนิ ได้ทมี่ ีลกั ษณะ เป็นเงิน รายปอี ันได้มาจากพินยั กรรม นิตกิ รรมอยา่ งอน่ื หรือคาพพิ ากษาของศาล 4. เงนิ ไดป้ ระเภทท่ี 4 ไดแ้ ก่ ดอกเบย้ี เงินปันผล เงนิ ส่วนแบง่ กาไร เงินลดทนุ เงินเพิม่ ทุน ผลประโยชน์ที่ไดจ้ าก การโอนหนุ้ ฯลฯ เปน็ ต้น
5. เงนิ ไดป้ ระเภทที่ 5 เงนิ ไดจ้ ากการให้เชา่ ทรพั ยส์ นิ เงินหรือประโยชน์อยา่ งอ่ืนท่ไี ด้เน่อื งจาก - การให้เช่าทรัพยส์ นิ - การผิดสญั ญาเช่าซอื้ ทรัพยส์ นิ - การผิดสญั ญาซอื้ ขายเงินผอ่ นซง่ึ ผูข้ ายได้รับคนื ทรพั ย์สินที่ซ้ือขายนนั้ โดยไม่ตอ้ งคนื เงินหรือ ประโยชน์ทไี่ ด้รบั ไว้แล้ว 6. เงนิ ไดป้ ระเภทท่ี 6 ได้แก่ เงินไดจ้ ากวิชาชีพอสิ ระ คือวิชากฎหมาย การประกอบโรคศลิ ป วศิ วกรรม สถาปตั ยกรรม การบญั ชี ประณีตศลิ ปกรรม หรอื วิชาชีพอน่ื ซง่ึ จะได้มพี ระราชกฤษฎกี า กาหนดชนดิ ไว้ 7. เงินไดป้ ระเภทที่ 7 ได้แก่ เงนิ ไดจ้ ากการรับเหมาที่ผรู้ บั เหมาตอ้ งลงทนุ ดว้ ยการจดั หาสัมภาระ ในส่วนสาคัญนอกจากเครอ่ื งมือ 8. เงินไดป้ ระเภทท่ี 8 ไดแ้ ก่ เงนิ ไดจ้ ากการธรุ กิจ การพาณชิ ย์ การเกษตร การอุตสาหกรรม การขนส่ง การขายอสังหาริมทรพั ย์ หรือการอนื่ นอกจากที่ระบไุ วใ้ นประเภทท่ี 1 ถึงประเภทที่ 7 แลว้
การคานวณภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดา การคานวณภาษีมี 3 ขั้นตอนสาคญั คอื ขน้ั ตอนท่ี 1 : รวมเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ (มาตรา 40 (1-8)) ประจาปี – ค่าใชจ้ า่ ย ข้ันตอนที่ 2 : นาเงนิ ไดท้ ล่ี บคา่ ใชจ้ า่ ยค่าแลว้ – คา่ ลดหยอ่ น ต่างๆ = เงนิ ไดส้ ทุ ธิ ขน้ั ตอนท่ี 3 : นาเงนิ ไดส้ ทุ ธิ มาเทียบกบั อตั ราภาษีเงนิ ได้ บคุ คลธรรมดาแลว้ คานวณผล = ภาษีท่ีตอ้ งชาระประจาปี
คาศัพทเ์ กี่ยวกบั บัญชี 04
คาศพั ท์ คาแปล 1 Accoumulated income กาไรสะสม 2 Account payable 3 Account receivable เจา้ หน้ีการคา้ 4 Accounting cycle 5 Accounting equation ลกู หน้กี ารค้า 6 Accounting system 7 Added value วงจรบญั ชี 8 Adjusted entry 9 Administrativa expense สมการบญั ชี 10 Asset ระบบบญั ชี มูลค่าเพมิ่ รายการปรบั ปรงุ ค่าใช้จา่ ยในการบริหาร สนิ ทรัพย์
คาศัพท์ คาแปล 11 Balance ยอดคงเหลือ 12 Balance sheet งบแสดงฐานะการเงนิ /งบดุล 13 Bank บญั ชเี งินฝากธนาคาร 14 Bond ห้นุ 15 Bookkeeping การลงบัญชี 16 Bring forward ยอดยกมา 17 Budget งบประมาณ 18 Budget period ปงี บประมาณ 19 Builing,plant อาคาร 20 Business risks ความเสีย่ งทางธุรกิจ
คาศพั ท์ คาแปล 21 Capital ทนุ เงนิ สด 22 Cash ผังบัญชี เชค็ 23 Chart of accounts ต้นทุน ต้นทุนการผลติ 24 Cheque ตน้ ทุนการขาย เครดติ 25 Cost สนิ ทรัพยห์ มุนเวยี น หนส้ี ินหมุนเวียน 26 Cost of product 27 Cost of sales 28 Credit 29 current asset 30 current liability
คาศัพท์ คาแปล 31 Debit เดบิต สว่ นลด 32 Discount ส่วนลดรับ กาไรสุทธิ 33 Discount received งบกาไรขาดทนุ ค่าใชจ้ า่ ย 34 Earnings รายได้ ภาษีซื้อ 35 Earnings statement หน้สี ิน ขาดทุน 36 Expense 37 Income 38 Input tax 39 Liability 40 Net loss
คาศพั ท์ คาแปล 41 Net profit กาไรสุทธิ 42 Output tax ภาษีขาย 43 Purchase ซ้ือ 44 Revenue รายได้ 45 Sales ขาย 46 Sales discount สว่ นลดจ่าย 47 Share หุ้น 48 Short-term liability หน้ีสินระยะสั้น 49 Tangible สนิ ทรัพยถ์ าวรที่มีตัวตน 50 Transaction รายการ
THANK YOU THANK YOU THANK YOU THANK YOU THANK YOU THANK YOU THANK YOU
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: