การจดั นิทรรศการ
บทปฏิบตั กิ ารท่ี 7 การจดั นิทรรศการ บทปฏบิ ัติการที่ 7 การจัดนิทรรศการ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เม่ือนกั ศึกษาเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั ศกึ ษาสามารถ 1. จดั นิทรรศการตามหลกั การไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 2. มคี วามคดิ สร้างสรรคใ์ นการออกแบบการจดั นิทรรศการ 3. แสดงความรับผดิ ชอบในการทากจิ กรรมกลุ่มและงานทคี่ รูผสู้ อนมอบหมาย เนื้อหาและลาดับข้นั ตอนการปฏิบัติ เนื้อหา การจดั นิทรรศการ เป็ นการจดั กิจกรรมในการใหข้ อ้ มลู ขา่ วสารเก่ยี วกบั ความรู้ และความคิด โดยการนาเอาวสั ดสุ ิ่งของต่างๆ มาต้งั แสดงร่วมกนั ในสถานท่ีสาธารณะ เพื่อให้ผดู้ ูไดเ้ หน็ ไดฟ้ ัง ได้ สมั ผสั จบั ตอ้ ง เพ่ือกระตนุ้ ความสนใจในเน้ือหา และการกระทาบางอยา่ งให้เกดิ ข้ึน หรือจดุ มุง่ หมาย อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง หรือหลายๆ จดุ มุ่งหมายรวมกนั 1. คณุ ค่าของนิทรรศการ การจดั นิทรรศการ เป็ นส่วนสาคญั อกี ส่วนหน่ึงของงานต่างๆ ทีจ่ ะขาดไม่ได้ เพราะ สามารถทาใหผ้ ูช้ มหรือผทู้ ี่ไดเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมได้รบั ท้งั คุณค่าสาระแห่งความรู้ และความบนั เทงิ ไป พรอ้ มกนั ดงั น้นั ณรงค์ สมพงษ์ (2547) ไดก้ ล่าวถงึ คุณค่าของนิทรรศการไว้ ดงั น้ี 1.1 นิทรรศการช่วยรวมสื่อต่างๆ นามาแสดงไว้ในที่แห่งเดียวกัน เช่น แผ่นป้าย นิเทศ รูปภาพ ของจริง ของตัวอย่าง หุ่นจาลอง การแสดงการสาธิต เป็ นต้น ทาให้สะดวกใน การศกึ ษาหาความรู้เฉพาะดา้ น ซ่ึงจะหาจากทอ่ี น่ื ๆ ไดย้ าก 1.2 นิทรรศการชว่ ยนาความคดิ และขอ้ มูลท่กี ระจดั กระจายอยู่ในท่ีต่างๆ มารวมเขา้ ดว้ ยกนั โดยเฉพาะอย่างย่งิ ถา้ เป็นการร่วมกนั จดั โดยหลายๆ หน่วยงานดว้ ยแลว้ ขอ้ มูลตา่ งๆ กจ็ ะย่ิง มคี วามสมบูรณย์ ิ่งข้นึ ผชู้ มสามารถเลอื กหาขอ้ มลู ที่ตนตอ้ งการ หรือที่อยากจะทราบไดง้ า่ ย 1.3 นิทรรศการสามารถแสดงความคิดท่ีอยู่ในลกั ษณะนามธรรม ซ่ึงเข้าใจยากให้ ออกมาเป็นรูปธรรม เช่น แสดงขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยภาพ แผนภมู ิ กราฟ หรือนาของจริงมาให้ดูดว้ ยตา และไดฟ้ ังดว้ ยหูของตวั เอง ทาให้เกดิ ความประทบั ใจและจดจาไดน้ าน วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 38
บทปฏิบตั ิการท่ี 7 การจดั นิทรรศการ 1.4 นิทรรศการชว่ ยกระตุน้ ความสนใจในสิ่งที่แปลกๆ ใหม่ๆ ซ่ึงจะนาไปสู่การคน้ ควา้ หาความรู้จากแหล่งวิทยาการอ่ืนๆ ทดลองนาไปปฏิบตั ติ ่อไป 1.5 นิทรรศการช่วยส่งเสริมการแสดงออก ในลกั ษณะของการร่วมมือกันจดั แสดง ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนผูช้ มก็มีส่วนร่วมในกิจกรรมบางอย่าง เช่น ทดลองใช้ส่ิงของที่ นามาแสดงในงาน หรือนาผลิตผลตา่ งๆเขา้ มาร่วมการประกวด เป็นตน้ 2. ประเภทของการจัดนทิ รรศการ วฒั นะ จฑู ะวภิ าต (2542) ไดจ้ าแนกประเภทของการจดั นิทรรศการ ออกไดด้ งั น้ี คอื 2.1 จาแนกตามขนาดของการจดั การจาแนกประเภทของการจดั นิทรรศการตามขนาดของการจดั สามารถแบ่ง ยอ่ ยออกเป็น 3 ประเภทดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ 2.1.1 นิทรรศการขนาดเล็ก (display) หมายถึง การจดั นิทรรศการต่างๆ ทม่ี ีเน้ือ เร่ืองไม่ยาวนกั และใชเ้ น้ือท่ีในการจดั ไม่มากนัก อาจจะจดั เพียง 1-2 ป้าย หรือจดั วางบนโต๊ะเล็กๆ เช่น การจดั นิทรรศการหนงั สือใหม่ การจดั นิทรรศการวนั สาคญั ฯลฯ 2.1.2 นิทรรศการขนาดกลาง (exhibition) หมายถงึ การจดั แสดงที่มจี ุดมุ่งหมาย หลากหลายอยู่ในพ้ืนที่กวา้ งขวาง โดยอาจมีการจดั แสดงขนาดย่อยรวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน เช่น การจดั แสดงนิทรรศการทางวิชาการ งานแสดงอญั มณีและเคร่ืองประดับ นิทรรศการทางศิลปะ ตลอดจนการแสดงสินคา้ ตกแตง่ บา้ น และการแสดงสิ่งตา่ งๆ ในรูปแบบพิพิธภณั ฑ์ 2.1.3 นิทรรศการขนาดใหญ่ (exposition) หมายถึง การจดั นิทรรศการระดบั ชาติ หรือระดบั โลก ทเี่ รียกว่า มหกรรม ซ่ึงรวมท้งั งานแสดงสินคา้ ต่างๆ ดว้ ย เชน่ การแสดงสินคา้ ทาง ดา้ นเทคโนโลยีการเกษตรและอตุ สาหกรรมโลก 2.2 จาแนกตามระยะเวลาของการจดั การจาแนกประเภทของการจดั นิทรรศการตามระยะเวลาของการจดั สามารถแบ่ง ย่อยออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทไดแ้ ก่ 2.2.1 นิทรรศการถาวร เป็ นนิทรรศการที่จดั ไวถ้ าวรท่ีใดที่หน่ึงโดยเฉพาะ เช่น พพิ ธิ ภณั ฑ์หอศลิ ป์ พพิ ิธภณั ฑส์ ัตวท์ ะเล ฯลฯ นิทรรศการประเภทน้ีจดั ไว้ ณ ที่ใดแลว้ จะจดั ไวเ้ ป็ น เวลานาน จะมกี ารเปลี่ยนแปลงเพม่ิ เติมโยกยา้ ยบา้ งก็เพียงเล็กนอ้ ยเท่าน้ัน ซ่ึงจะเห็นว่านิทรรศการ ประเภทน้ีจดั โดยใชง้ บประมาณจานวนมาก ใชว้ สั ดรุ าคาแพง และฝีมือการทาก็ประณีต 2.2.2 นิทรรศการชวั่ คราว เป็นการแสดงเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงเป็นคร้งั เป็นคราวหรือ เฉพาะกิจ เพ่ือแสดงวตั ถุหรือสิ่งที่ได้มาใหม่ๆ หรือหัวขอ้ ที่ประชาชนบางกลุ่มมีความสนใจเป็ น วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 39
บทปฏบิ ตั ิการที่ 7 การจดั นิทรรศการ พิเศษ พิพิธภณั ฑ์อาจใช้นิทรรศการชว่ั คราวน้ีเสริมหรืออุดช่องว่าง นิทรรศการถาวรที่มีอยู่แลว้ เพื่อ เรา้ ความสนใจจากผชู้ ม 2.2.3 นิทรรศการเคลอ่ื นท่ี นิทรรศการแบบน้ีเป็ นของใหม่กว่านิทรรศการแบบ ชว่ั คราว แต่มวี ตั ถปุ ระสงคค์ ลา้ ยกนั นิทรรศการแบบน้ีไดร้ บั การจดั และออกแบบอยา่ งดี ให้สามารถ เดินทางไปแสดงในท่ตี ่างๆ ที่ห่างไกลได้ 2.3 จาแนกตามวตั ถุประสงคข์ องการจดั การจาแนกประเภทของการจดั นิทรรศการตามวตั ถุประสงคข์ องการจดั จดั แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท ย่อย ๆ คือ 2.3.1 นิทรรศการเพอ่ื การศึกษา จดั เพอ่ื ให้การศึกษาหรือใหค้ วามรูโ้ ดยมิไดห้ วงั ใหไ้ ดท้ นุ คืนหรือหวงั ผลกไร เชน่ นิทรรศการทางการเกษตร 2.3.2 นิทรรศการเพ่ือการคา้ จดั เพ่ือหวงั ผลตอบแทนไม่ทางตรงกท็ างออ้ ม ซ่ึงได้ แก่ นิทรรศการทางการคา้ ตา่ งๆ 3. หลักในการจัดนทิ รรศการ การจดั นิทรรศการให้น่าสนใจน้นั ณรงค์ สมพงษ์ (2547) กลา่ วไวว้ ่า การออกแบบ เป็นเรื่องท่สี าคญั มาก ซ่ึงมีหลกั ในการจดั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.1 สามารถดึงดูดความสนใจ เช่น การใช้สี ขนาดรูปร่างของส่ิงของท่ีจะจดั แสดง ตอ้ งน่าสนใจหรือหาชมท่ีอืน่ ไดย้ าก 3.2 มีความสมดุล คือ เมื่อดแู ลว้ ทาใหเ้ กดิ ความสบายใจ เพราะมีวิธีการจดั ภาพหรือ วสั ดุที่ได้จงั หวะเหมาะสม และมีน้าหนักการจดั ภาพด้านซ้ายและขวาเท่าๆกนั โดยเฉพาะการจดั ภาพบนบอร์ด ควรจดั ภาพให้ดา้ นซ้ายและดา้ นขวาดแู ลว้ เทา่ กนั สามารถจดั ได้ 2 แบบ คอื 3.2.1 formal balance การทา balance แบบน้ีถา้ เราแบ่งคร่ึงภาพมนั จะมีความ สมบรู ณ์ในแต่ละดา้ น น้าหนกั ท้งั สองขา้ งจะเท่ากนั ดงั ภาพที่ 7.1 วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 40
บทปฏบิ ตั ิการท่ี 7 การจดั นิทรรศการ ภาพที่ 7.1 แสดงการจดั ความสมดลุ ของภาพแบบ formal balance ท่ีมา: ดดั แปลงจาก ณรงค์ สมพงษ์ (2547) 3.2.2 informal balance การทา balance แบบน้ี เมื่อแบ่งคร่ึงภาพจะดูว่ารูปทรง ต่างๆ ของแต่ละดา้ นไม่เทา่ กนั แต่ในการจดั เราตอ้ งพยายามใหน้ ้าหนักท้งั สองด้านใกลเ้ คียงกัน ดงั ภาพที่ 7.2 ภาพที่ 7.2 แสดงการจดั ความสมดุลของภาพ แบบ informal balance 41 ท่ีมา: ดดั แปลงจาก ณรงค์ สมพงษ์ (2547) วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร
บทปฏบิ ตั ิการท่ี 7 การจดั นิทรรศการ 3.3 มีความต่อเน่ืองมีการใช้สีและเส้นนาสายตาทาให้ผูด้ ูเกิดความคล้อยตาม นา สายตาผดู้ ูใหเ้ ป็นจงั หวะต้งั แต่ตน้ จนจบเร่ือง 3.4 มีความแปลกไม่ซ้าซาก ผดู้ ูเกิดความรูส้ ึกว่าไมเ่ คยเห็นที่ใดมากอ่ น ทาให้ผูด้ ูเกิด ความรู้ใหม่ และตรึงความสนใจอยู่นาน มีรายละเอียดไม่มาก ไม่ยุ่งเหยิงดูแลว้ เขา้ ใจไดใ้ นระยะ เวลาอนั ส้นั โดยไม่ตอ้ งมีผคู้ อยอธิบาย 3.5 การวางรูปร่างและลกั ษณะการจดั ภาพบนบอร์ดน้ัน มีหลายรูปแบบ เช่น แบบตัว I แบบตวั T แบบตวั S แบบตวั Z และแบบกลุ่ม ดงั ภาพท่ี 7.3-7.4 ก. แบบ I-style ข. แบบ T-style ค. แบบ S-style ภาพที่ 7.3 แสดงลกั ษณะการจดั ภาพบนบอร์ดแบบ I-style T-style และ S-style 42 ทีม่ า: ดดั แปลงจาก ณรงค์ สมพงษ์ (2547) วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร
บทปฏิบตั ิการท่ี 7 การจดั นิทรรศการ ง. แบบ Z-style จ. แบบ Grouping-style ภาพที่ 7.4 แสดงลกั ษณะการจดั ภาพบนบอร์ดแบบ Z-style และ Grouping-style ทีม่ า: ดดั แปลงจาก ณรงค์ สมพงษ์ (2547) 3.6 การจดั เสน้ ทางเขา้ ออกของผชู้ ม โดยปกติสามารถจดั ได้ 2 แบบ คือ 3.6.1 controlled type การจดั แบบน้ีเราสามารถกาหนดทางเดนิ เขา้ ออก และการ กาหนดลาดบั ต่อเน่ืองของการแสดงไดก้ ารกาหนดทางเดิน อาจจะใชส้ ่วนของการแสดงก้นั เช่น ใช้ บอร์ดหรือเชือกบงั คบั ทศิ ทางการเดิน ดงั ภาพที่ 7.5 ภาพท่ี 7.5 แสดงการจดั เส้นทางเขา้ -ออกของผชู้ ม แบบ controlled type 43 ทม่ี า: ดดั แปลงจาก ณรงค์ สมพงษ์ (2547) วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร
บทปฏบิ ตั ิการที่ 7 การจดั นิทรรศการ 3.6.2 open type การจดั แบบน้ีเป็ นการเปิ ดโอกาสให้ผชู้ มเลอื กดเู องตามใจชอบ โดยไม่ไดก้ าหนดเส้นทางเขา้ ออก การจดั ก็จดั เป็นกลมุ่ ๆ อาจจะตอ่ เนื่องหรือไม่ตอ่ เน่ืองก็ไดแ้ ลว้ แต่ ความตอ้ งการของผชู้ ม ดงั ภาพท่ี 7.6 ภาพท่ี 7.6 แสดงการจดั เสน้ ทางเขา้ -ออกของผชู้ ม แบบ open type ทมี่ า: ดดั แปลงจาก ณรงค์ สมพงษ์ (2547) 4. การเตรียมการในการจัดนทิ รรศการ ในการจดั นิทรรศการในระดบั ต่าง ๆ น้นั วฒั นะ จูฑะวภิ าต (2542) กลา่ ววา่ จะตอ้ งมี ข้นั ตอนการเตรียมการ ดงั ตอ่ ไปน้ี 4.1 การต้งั วตั ถุประสงค์ จะตอ้ งมีการกาหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั แสดงก่อนว่า จะแสดงอะไร เป้าหมายของการแสดงน้นั ตอ้ งการอะไร 4.2 การวางแผนงาน คือ การวางรูปงาน รวบรวมวสั ดอุ ปุ กรณแ์ ละจดั หาเอกสารการ จดั งาน งบประมาณ จดั หากาลงั คนทจี่ ะทางานและการจดั ตน้ แบบจาลองตามแนวความคิดข้นั ตน้ บนกระดาษเสียกอ่ น เพอ่ื จะไดพ้ ิจารณาถึงความเหมาะสม และพิจารณาปัจจยั อืน่ ๆประกอบดว้ ย 4.3 การปฏบิ ตั ติ ามแผนที่วางไว้ เม่อื ลงมือปฏิบตั จิ ะมน่ั ใจ และลดความส้ินเปลืองท่ี เกิดจากการเปลยี่ นแปลงภายหลงั ได้ 4.4 การประชาสัมพนั ธ์ การทจี่ ะทาให้การแสดงนิทรรศการประสบผลสาเร็จน้นั อยู่ ท่จี ะตอ้ งมีการประชาสัมพนั ธ์ให้ผสู้ นใจทราบ เพือ่ เขา้ ชมงานโดยอาศยั สื่อมวลชนในรูปแบบต่างๆ หรือจะใชแ้ ผ่นป้ายโฆษณา หรือประกอบกนั หลายๆ ทางกจ็ ะเป็นการดี และจะตอ้ งอบรมเจา้ หนา้ ที่ เป็นอยา่ งดีในการใหค้ าแนะนา หรือตอบขอ้ ซกั ถามจากผสู้ นใจ 4.5 การประเมินผล เป็ นการวดั ความสาเร็จของการจดั นิทรรศการวา่ ได้ผลตามทีไ่ ด้ ต้งั จดุ ม่งุ หมายหมายเอาไวห้ รือไม่ หรือวา่ มีขอ้ บกพร่องอะไรบา้ ง ทจี่ ะไดเ้ ป็นแนวทางแกไ้ ขต่อไป วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 44
บทปฏิบตั กิ ารท่ี 7 การจดั นิทรรศการ 5. ข้ันตอนการจัดนิทรรศการทางการเกษตร วฒั นะ จฑู ะวภิ าต (2542) กล่าวว่าข้นั ตอนในการจดั นิทรรศการทางการเกษตรมี 5 ข้นั ตอน ดงั น้ี 5.1 ข้นั การวางแผนการจดั นิทรรศการ มสี ่ิงทต่ี อ้ งดาเนินการ ดงั น้ี 5.1.1 การกาหนดวตั ถุประสงค์ของการจดั นิทรรศการใหช้ ดั เจน ส่วนมากมีการ กาหนดวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั คือ การเผยแพร่ขา่ วสารความรู้ วตั ถุประสงคร์ อง คือ การประชาสัมพนั ธก์ ับ หน่วยงานและอื่นๆ 5.1.2 การกาหนดบุคคลเป้าหมายท่มี ุ่งให้เป็นผชู้ มนิทรรศการงานเกษตร ไดแ้ ก่ เกษตรกรและประชาชนทว่ั ไป 5.1.3 การออกแบบนิทรรศการ เช่น การจดั ทางเดนิ เขา้ ออก การจดั ความสมดุล ของภาพบนบอร์ด เป็นตน้ 5.1.4 การประมาณการคา่ ใชจ่ า่ ย วสั ดุอปุ กรณ์ทตี่ อ้ งใชใ้ นการจดั นิทรรศการ 5.2 ข้นั การเตรียมการจดั นิทรรศการ ควรเตรียมบุคลากรผมู้ ีความสามารถให้มาช่วย จดั นิทรรศการ อย่างนอ้ ยควรมบี ุคคลทเี่ ก่ียวขอ้ ง เช่น ผทู้ มี่ ีความรู้และประสบการณด์ า้ นเน้ือหาสาระ ของนิทรรศการ ผทู้ มี่ คี วาม สามารถดา้ นศิลปะการตกแตง่ การประดิษฐต์ วั อกั ษร การจดั รูปภาพ การ ใชค้ อมพิวเตอร์กราฟิ ก การตกแตง่ สถานที่ การจดั สวน การประดบั ดว้ ยไมด้ อกไมป้ ระดบั และผทู้ า หนา้ ท่ีคอยอธิบายให้ความรูแ้ ก่ผชู้ ม 5.3 การดาเนินการจดั นิทรรศการ มีส่ิงที่ตอ้ งดาเนินการ คือ การจดั ทาโครงสรา้ งของ นิทรรศการและเน้ือหาสาระบนบอร์ด การจดั ต้งั แสดงวสั ดุอุปกรณ์ตา่ งๆท่ีจะใชแ้ สดง การจดั ภาพ และจดั ทาเน้ือหาสาระบนบอร์ด ตลอดจนการตกแต่งสถานท่ีเพื่อความสวยงามและดึงดูดความ สนใจ 5.4 การนาเสนอนิทรรศการ สิ่งท่ีควรดาเนินการ คอื การจดั เจา้ หนา้ ทผ่ี มู้ ีความรูค้ วาม ชานาญในเน้ือหาสาระของนิทรรศการและมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ดี เป็นผอู้ ธิบายให้ความรู้แก่ผูช้ มและจดั เจา้ หนา้ ทโี่ สตทศั นูปกรณ์ชว่ ยในการควบคุมการใชส้ ื่อตา่ งๆ เชน่ การควบคมุ ระบบเสียง การฉาย วีซีดี ตลอดจนการจดั เจา้ หนา้ ทด่ี าเนินการกจิ กรรมพิเศษ เช่น การสาธิต การตอบปัญหา การแขง่ ขนั การประกวด และการต้งั โต๊ะให้คาปรึกษา เป็นตน้ 5.5 การประเมินผลนิทรรศการ ประเมินจากจานวนผู้เข้าชมนิทรรศการโดยการ สังเกตจากความสนใจในการชมนิทรรศการ การซักถามขอ้ สงสยั การใชแ้ บบสอบถามให้ผชู้ มกรอก แสดงความคดิ เหน็ วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 45
บทปฏิบตั กิ ารท่ี 7 การจดั นิทรรศการ ลาดับข้นั ตอนการปฏิบตั ิการจดั นิทรรศการ การจดั นิทรรศการ ใหน้ กั ศกึ ษาปฏิบตั ิ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. จดั เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ทใี่ ช้ในการปฏบิ ตั ิ ในการจดั นิทรรศการ นกั ศกึ ษาตอ้ งมกี ารเตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ คือบอร์ดจดั นิทรรศการ กระดาษสี กระดาษ โปสเตอร์ สีเมจิก ดินสอ ยางลบ ไมบ้ รรทดั กรรไกร เยื่อกาว กาวสองหนา้ อปุ กรณ์ตกแตง่ และภาพท่ใี ชใ้ นการจดั นิทรรศการบนบอร์ด 2. วิธีการปฏบิ ตั ใิ นการจัดนทิ รรศการ ให้นกั ศกึ ษาจดั ทาโครงสรา้ งของนิทรรศการและเน้ือหาสาระบนบอร์ดโดยการคน้ ควา้ ขอ้ มูล จดั หารูปภาพทเี่ กย่ี วขอ้ ง จดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ และจดั นิทรรศการบนบอร์ดที่เตรียมไวต้ าม เน้ือหาท่ีกาหนด งานมอบหมายหรือกิจกรรม ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มจดั นิทรรศการทางการเกษตร แบบนิทรรศการขนาดเล็ก(display) กลุม่ ละ 1 เร่ือง วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 46
การเขียนโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยใี นงานส่งเสริมการเกษตร
บทปฏิบตั กิ ารท่ี 8 การเขียนโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในงานส่งเสริมการเกษตร บทปฏบิ ตั ิการที่ 8 การเขยี นโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยใี นงานส่งเสริมการเกษตร จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมื่อนกั ศึกษาเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั ศึกษาสามารถ 1. เขียนโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรได้ 2. แสดงความรับผิดชอบในการปฏบิ ตั ิงานทค่ี รูผสู้ อนมอบหมาย เนือ้ หาและลาดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ เนื้อหา ในการดาเนินงานดา้ นการส่งเสริมการเกษตร โครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยีการเกษตรทกุ โครงการจาเป็ นจะตอ้ งมีรายละเอียดต่างๆ เพ่ือเป็ นขอ้ มูลสาหรับการพจิ ารณาและวินิจฉัยตดั สินใจ ในการอนุมตั ิงบประมาณและการดาเนินการของฝ่ ายบริหารในหน่วยงาน นอกจากน้ันยงั ใชเ้ ป็ น หลกั สูตรอา้ งองิ ในการดาเนินการตามข้นั ตอนตา่ งๆ อีกดว้ ย 1. ลกั ษณะของโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร (2556) กล่าวว่า โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการ เกษตรที่ดี ควรมีลกั ษณะดงั น้ี 1.1 สามารถตอบสนองความต้องการและการแก้ปัญหา รวมท้งั การพฒั นาศกั ยภาพ ของเกษตรกรได้ 1.2 สามารถตอบสนองความตอ้ งการในการประกอบอาชีพการเกษตรท่เี ป็นปัญหาได้ รวมท้งั ตรงกบั ความตอ้ งการของเกษตรกร 1.3 ได้รับความเห็นชอบและการสนับสนุนดา้ นงบประมาณ และการบริหารจดั การ จากหน่วยงาน 1.4 มีวตั ถุประสงคท์ ี่ชดั เจน สอดคลอ้ งกบั ความจาเป็ นในการถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารทาง เกษตร 1.5 มหี ลกั สูตรการถา่ ยทอด ทปี่ ระกอบดว้ ยรายละเอียดเก่ยี วกบั หัวขอ้ รายวชิ าท่ีจะทา การถ่ายทอด เทคนิคหรือวธิ ีการถ่ายทอด และระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการถ่ายทอดของแต่ละรายวิชา วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 47
บทปฏิบตั กิ ารท่ี 8 การเขยี นโครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยีในงานส่งเสริมการเกษตร 1.6 มีกาหนดระยะเวลาดาเนินการเริ่มต้นและสิ้นสุดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการ เกษตรทช่ี ดั เจน 1.7 มีการประมาณการงบประมาณและรายละเอียดค่าใช้จ่ายท่ีจาเป็ นในการถ่ายทอด เทคโนโลยี 1.8 มกี ารประเมนิ ผลท้งั ระหวา่ งการถา่ ยทอด เม่ือส้ินสุดการถ่ายทอด และเม่ือผเู้ ขา้ รับ การถา่ ยทอดไดก้ ลบั ไปประกอบอาชีพแลว้ เพือ่ ทราบผลของการถา่ ยทอดเทคโนโลยีการเกษตร 2. รูปแบบการเขยี นโครงการฝึ กอบรม โครงการฝึกอบรมเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ใชก้ นั อย่างแพร่หลาย พจิ ารณาไดเ้ ป็ น 2 ลกั ษณะ คอื 2.1 แบบปิ ด คือ การเขียนโครงการตามรูปแบบหรือแบบฟอร์มทถ่ี ูกกาหนดข้ึน เป็นการ เฉพาะของหน่วยงาน ซ่ึงกาหนดไวอ้ ย่างชดั เจนว่าตอ้ งการทราบประเดน็ อะไรอยา่ งไร 2.2 แบบเปิ ด คือ การเขียนโครงการท่ีไม่ไดก้ าหนดรูปแบบ หรือแบบฟอร์มท่แี น่นอน ผเู้ ขียนสามารถเขียนทุกประเดน็ ที่สาคญั ๆ ให้ครบถว้ น เพื่อเสนอโครงการให้ผูพ้ จิ ารณาเขา้ ใจและ วนิ ิจฉัยตดั สินใจได้ 3. หลกั การเขียนโครงการฝึ กอบรม การเขยี นโครงการถา่ ยทอดเทคโนโลยีการเกษตรมหี ลายรูปแบบและค่อนขา้ งยืดหยุ่น พอสมควร กรมส่งเสริมการเกษตร (2556) กล่าวว่า ผูเ้ ขียนโครงการสามารถปรับเปล่ียนได้ตาม ความตอ้ งการ เช่น อาจจะเพิ่มหรือลดหัวขอ้ บางหัวขอ้ รวมท้งั สลบั ลาดบั ของหัวขอ้ ท่ีจะกล่าวถึง ตอ่ ไปไดต้ ามความเหมาะสมเช่นกนั แต่โดยทว่ั ไปมกั ประกอบดว้ ยรายละเอยี ดตามหวั ขอ้ ต่างๆ ดงั น้ี 3.1 ชื่อโครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ตอ้ งกาหนดชื่อให้ชดั เจน สะดุด ตา และน่าสนใจให้ผอู้ ่านเหน็ ว่าเกย่ี วขอ้ งอยา่ งไรกบั เน้ือหา 3.2 หลกั การและเหตุผล หรือความจาเป็ นในการถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือความ เป็นมาของโครงการ ระบุความเป็นมาปัญหาและความจาเป็ นที่จะตอ้ งถ่ายทอดเทคโนโลยี มกั เป็ น เร่ืองราวจากอดีตสู่ปัจจุบนั และอนาคต หาเหตุผล หลกั การ และทฤษฎีมาสนับสนุนโครงการให้ผู้ พิจารณาเห็นความจาเป็ นและความสาคญั ของโครงการ บางคร้ังจาเป็ นตอ้ งอา้ งอิงขอ้ มูลเก่า หรือ ขอ้ มูลเดิมทมี่ อี ยู่เพื่อความน่าเชื่อถือ 3.3 วตั ถุประสงคร์ ะบุภาพรวมความมุ่งหวงั ของโครงการฝึ กอบรมทจ่ี ะทาให้เกิดข้ึน อย่างกว้างๆ เป็ นขอ้ ๆ โดยมุ่งพฒั นาความรู้ความสามารถ ทกั ษะ และทัศนคติ ระบุพฤติกรรมที่ วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 48
บทปฏบิ ตั ิการท่ี 8 การเขยี นโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในงานส่งเสริมการเกษตร ตอ้ งการเปลย่ี นแปลงของผเู้ รียนรู้ท่ีเขา้ รับการถา่ ยทอด มีความสอดคลอ้ งและตรงกบั ความจาเป็นใน การถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารเกษตร มคี วามเป็นไปไดส้ ามารถวดั ไดท้ ้งั ปริมาณและคุณภาพ 3.4 บุคคลเป้าหมาย ระบุให้ชัดเจนว่าผูเ้ ข้ารับการถ่ายทอดคือใคร จานวนเท่าไร มี คณุ สมบตั อิ ยา่ งไร มีหลกั เกณฑใ์ นการคดั เลอื กเป็นอยา่ งไร 3.5 หลกั สูตรการถ่ายทอดเทคโนโลยี ระบุหัวขอ้ การถ่ายทอด พร้อมระยะเวลาท่ีใช้ เป็ นรายวิชา บอกเทคนิคและวิธีการเรียนรู้ท่ีจะใช้ในการถ่ายทอดตลอดหลกั สูตร กาหนดสื่อโสต ทศั นูปกรณต์ า่ งๆ ที่ตอ้ งใชใ้ นการถา่ ยทอดตลอดหลกั สูตร 3.6 ระยะเวลาการถ่ายทอด ระบุจานวนวนั ท่ตี อ้ งใชใ้ นการถ่ายทอด กาหนดช่วงเวลา (วนั /เดอื น/ปี ) ท่ีจะดาเนินการถ่ายทอด 3.7 สถานที่ดาเนินการ ระบุสถานที่ใชใ้ นการถ่ายทอดให้ชดั เจน กาหนดสถานท่ีพกั สาหรบั ผูเ้ ขา้ รบั การถ่ายทอดและวทิ ยากร กรณีตอ้ งพกั คา้ งและอยูต่ ่างสถานท่ี พจิ ารณาเลือกสถานท่ี ควรจะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วงเงนิ งบประมาณและระเบยี บการเบิกจ่าย 3.8 งบประมาณ กาหนดวงเงินงบประมาณรวมที่จาเป็น จะตอ้ งใชจ้ า่ ยในการถ่ายทอด เทคโนโลยี บอกรายการค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอด โดยแยกตามหมวดเงิน คือ หมวดค่าตอบแทน ไดแ้ ก่ คา่ สมนาคณุ วทิ ยากร และหมวดค่าใชส้ อย ไดแ้ ก่ 3.8.1 หมวดคา่ เบ้ยี เล้ยี งทพ่ี กั ไดแ้ ก่ ค่าเบ้ียเล้ียง ค่าท่ีพกั 3.8.2 หมวดค่ายานพาหนะและเช้ือเพลิง ไดแ้ ก่ ค่าพาหนะ ค่าน้ามนั เช้ือเพลงิ 3.8.3 หมวดค่าอาหารและเคร่ืองดืม่ ไดแ้ ก่ ค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและเคร่ืองดมื่ 3.8.4 หมวดค่าเช่า ได้แก่ ค่าเช่าห้องประชุม ค่าเช่าอุปกรณ์ที่จาเป็ นในการ ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3.8.5 หมวดค่าวสั ดุ ไดแ้ ก่ ค่าวสั ดุหรือเครื่องเขียน แบบพิมพ์ ค่าวสั ดุอุปกรณ์ ต่างๆในการฝึกปฏบิ ตั ิ 3.9 วฒุ ิบตั รหรือประกาศนียบตั ร หากมีการมอบควรระบุเง่ือนไขหลกั เกณฑข์ องการ มอบวฒุ ิบตั รหรือประกาศนียบตั รให้ชดั เจน จะตอ้ งมีเวลาในการเรียนรู้ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละเทา่ ไรของ เวลาท้งั หมด ไดร้ ับคะแนนรอ้ ยละเทา่ ไรจากการวดั ผล 3.10. การประเมนิ ผลระบุวธิ ีการในการประเมินผลว่าจะใช้วิธีการใดเชน่ การสังเกตการตรวจ งาน การสอบ การสอบถามโดยใชแ้ บบสอบถาม เป็ นต้น จะประเมินเมื่อไหร่ ก่อนการถ่ายทอด ระหว่างการถ่ายทอด หรือหลงั การถ่ายทอดเสร็จสิ้น มีการตดิ ตามผลหรือไม่ ถา้ มีระบุช่วงเวลาทีจ่ ะ ทาและวธิ ีการท่ใี ชด้ ว้ ย วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 49
บทปฏิบตั ิการที่ 8 การเขียนโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในงานส่งเสริมการเกษตร 3.11 ผลที่คาดว่าจะไดร้ ับ ระบุว่าเม่ือเสร็จสิ้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีแลว้ จะเกิดผล อะไรบา้ ง โดยทบทวนวตั ถุประสงค์ของโครงการว่า ต้งั วตั ถปุ ระสงคไ์ วอ้ ย่างไร จากน้นั เขยี นผลท่ี คาดวา่ จะไดร้ ับใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคท์ รี่ ะบุไว้ใหร้ ะบทุ ้งั ผลทางตรง และทางออ้ ม ตลอดจน ผลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม จะตอ้ งเป็ นผลต่อเนื่องทต่ี อ้ งการตามท่ีระบไุ วใ้ นวตั ถุประสงค์ ซ่ึงโยงไป ถงึ การประเมินผลโครงการดว้ ยว่า บรรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ีต่ ้งั ไวห้ รือไม่ 3.12 ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ระบรุ ายช่ือพร้อมหน่วยงานสังกดั และสถานท่ีติดต่อของ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ระบผุ มู้ สี ่วนเกยี่ วขอ้ งและใหค้ วามร่วมมอื ระบทุ มี งานทีป่ รึกษา หรือผสู้ นบั สนุน ลาดับข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิการเขยี นโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยี 1. อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการเขียนโครงการ 1.1 ตวั อย่างโครงการฝึกอบรมการถ่ายทอดเทคโนโลยที างการเกษตร 1.2 กระดาษรายงานแบบมเี สน้ 1.3 ดนิ สอ 1.4 ยางลบ 2. การปฏิบตั ิ 2.1 ให้นักศึกษาไปศึกษาคน้ ควา้ โครงการฝึ กอบรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการ เกษตรทต่ี นเองสนใจเพื่อนามาเป็นตวั อย่างคนละ 1 โครงการ 2.2 ใหน้ กั ศึกษาฝึกเขียนโครงการในคาบเรียน และครูใหค้ าปรึกษา งานมอบหมายหรือกิจกรรม ให้นักศึกษาเขียนโครงการฝึ กอบรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรคนละ 1 โครงการตามหลกั การ วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 50
บทปฏบิ ตั ิการ – เอกสารอา้ งองิ เอกสารอ้างอิง กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. 2556. ค่มู ือปฏิบัตงิ านเจ้าหน้าที่ส่งเสริม การเกษตร. พมิ พค์ ร้ังที่ 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย. กาญเณศ อรรถวภิ าคไพศาลย์ และ บุญเจียด รตั นไชย. 2522. หลกั และวิธีการสาธิต. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ณรงค์ สมพงษ.์ 2547. การใชส้ ื่อประสมในการจดั นิทรรศการเพื่องานส่งเสริมการเกษตร. เอกสาร การสอนชุดวชิ าสารสนเทศและสื่อทใี่ ช้ในการส่งเสริมการเกษตร หน่วยที่ 8-15. นนทบุรี: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. ณรัช ไชยชนะ. 2552. การออกแบบและผลิตแผ่นพบั . (ออนไลน์). แหลง่ ที่มา: http://www.learners.in.th. วนั ที่สืบคน้ วนั ที่ 3 ธนั วาคม 2554. นิรนาม. 2554. เคร่ืองเล่น ดวี ดี ี. (ออนไลน)์ แหลง่ ทมี่ า: http://www. writer.dek-d.com. วนั ที่สืบคน้ วนั ท่ี 2 สิงหาคม 2554. พรชุลยี ์ นิลวิเศษ. 2551. หลกั การใชส้ ื่อเพือ่ การเผยแพร่สารสนเทศในงานส่งเสริมการเกษตร. เอกสารการสอนชดุ วชิ าสารสนเทศและสื่อทใ่ี ช้ในงานส่งเสริมการเกษตร หน่วยท่ี 8-15. พิมพค์ ร้ังที่ 12. นนทบรุ ี: มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. ภรณี ต่างวิวฒั น.์ 2551. สื่อฉาย. เอกสารการสอนชดุ วิชาสารสนเทศและส่ือทใี่ ช้ในการส่งเสริม การเกษตร หน่วยที่ 8-15. พิมพค์ ร้ังที่ 12 . นนทบุรี: มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. ลือเดช บญุ โยดม. 2550. สัณญาณภาพแบบดจิ ติ อล. (ออนไลน์). แหลง่ ทีม่ า: http://202.29.239.50/temp/2558/picsystem/unit9.html. วนั ท่ีสืบคน้ วนั ท่ี 3 ธนั วาคม 2554. วฒั นะ จฑู ะวภิ าต. 2542. ศิลปะการจดั นทิ รรศการ. พมิ พค์ ร้งั ที่ 1. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . วาสนา ชาวหา. 2533. ส่ือการเรียนการสอน. พิมพค์ ร้ังท่ี 1 กรุงเทพฯ: โอเดยี นสโตร์ อรวนิ ท์ เมฆพริ ุณ. 2549. 108 เทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องดิจติ อล. กรุงเทพฯ: บริษทั โปรวิชน่ั . วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 51
Search