E-Book วิชาเพศวิถีศึกษา

แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา 7.ครูใหน้ กั เรียนจบั กลมุ่ กนั อภปิ รายเร่อื งปจั จยั เส่ยี งของสงั คมต่อการมเี พศสมั พนั ธ์ หรอ้ มหาแนวทางป้องกนั หรอื แกไ้ ข 8.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 7.1 และใหจ้ บั คู่กนั เปรยี บเทยี บคาตอบ 9.ครูในนกั เรียนทง้ั ชน้ั รว่ มกนั เฉลย 10.ครูใหน้ กั เรยี นสมมตติ นเองเป็นฝ่ายหญงิ ท่ตี อ้ งตอบคาถามฝ่ายชายและตอบคาถามตามใบงานท่ี 7.2 ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรียน (เรือ่ งท่ี 2) 11.ครเู ขยี นคาวา่ “การล่วงเกิน” ไวบ้ นกระดาน 12.ครูถามนกั เรียนวา่ การล่วงเกินมลี กั ษณะใดบา้ ง ขน้ั สอน 13.ครอู ธิบายเรือ่ งการลว่ งเกินทางเพศ 14.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 7.3 15.ครูส่มุ เลอื กนกั เรยี นออกมาแสดงความคิดเหน็ ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ 16.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ 17.ครูเฉลยพรอ้ มนกั เรียนทงั้ ชน้ั สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรียนการสอน 3.ภาพประกอบ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเช็ครายชือ่ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วิธวี ดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของใบงาน รหัสวิชา 20000-1602 หนา้ 47

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยูก่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.เล่นบทบาทสมมตติ ามใบงานท่ี 7.2 2.สบื คน้ ขา่ วเก่ียวกบั การลว่ งเกนิ ทางเพศทป่ี รากฏในหนา้ หนงั สอื พมิ พ์ ตดิ ลงในกระดาษ A4 และเขยี นสาเหตุ ของปญั หาและแนวทางการแกไ้ ข 3.แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นออกเป็น 10 กล่มุ ทาโปสเตอรร์ ณรงคห์ รือใหค้ วามรูเ้ กย่ี วกบั สถานการณแ์ ละโอกาสท่จี ะ นาไปสู่การมเี พศสมั พนั ธ์ ตามหวั ขอ้ ในหนงั สอื เรียนหนา้ 10.-104 รหสั วิชา 20000-1602 หน้า 48

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาเพศวถิ ศี ึกษา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพี่ บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 49

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ศี ึกษา แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 รหสั วชิ า 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั ที่ 9 ช่ือหน่วย น้าตาเช็ดหวั เขา่ จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคดิ การมเี พศสมั พนั ธท์ ท่ี ง้ั สองฝ่ายยงั ไม่มคี วามพรอ้ มนนั้ มกั กอ่ ใหเ้กดิ ปญั หาและผลกระทบตา่ งๆมากมาย ดงั นน้ั จงึ ควรท่จี ะรูจ้ กั หลกี เลย่ี งการมเี พศสมั พนั ธท์ ย่ี งั ไมพ่ รอ้ ม ซ่งึ สามารถทาไดห้ ลากหลายวธิ ี ขอ้ สาคญั ตอ้ งตระหนกั หรอื เกรงกลวั ตอ่ ปญั หาทจ่ี ะเกิดข้นึ ใหม้ าก แตถ่ า้ หากหลกี เลย่ี งไม่ไดก้ ต็ อ้ งรูจ้ กั วธิ กี ารคุมกาเนิดหรอื การป้องกนั การตงั้ ครรภ์ ท่ไี มพ่ งึ ประสงค์ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1.รูแ้ ละเขา้ ใจปญั หาและผลกระทบจากการมเี พศสมั พนั ธท์ ่ไี มพ่ รอ้ ม 2.รูจ้ กั หลกี เลยี่ งการมเี พศสมั พนั ธท์ ่ยี งั ไมพ่ รอ้ ม 3.รูจ้ กั หลกี เลยี่ งการตงั้ ครรภท์ ไ่ี ม่พงึ ประสงค์ สาระการเรียนรู ้ น้าตาเช็ดหวั เขา่ 1.ปญั หาและผลกระทบจากการมเี พศสมั พนั ธท์ ่ไี มพ่ รอ้ ม 2.การหลกี เลยี่ งการมเี พศสมั พนั ธเ์ มอ่ื ยงั ไม่พรอ้ ม 3.การป้องกนั การตง้ั ครรภท์ ไ่ี มพ่ งึ ประสงค์ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สูก่ ารเรยี น (เรอ่ื งท่1ี ) 1.ครูนาภาพขา่ วการทาแทง้ หรือศพทารกท่ถี กู ท้งิ ใหน้ กั เรียนดู 2.ครูถามนกั เรียนวา่ สาเหตุขา้ งตน้ เกดิ จากอะไร ขน้ั สอน 3.ครูอธิบายเรอ่ื งปญั หาและผลกระทบจากการมเี พศสมั พนั ธท์ ่ไี มพ่ รอ้ ม 4.ครูแบ่งกลุ่มนกั เรยี นเป็น 10 กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มอภปิ รายตามหวั ขอ้ ในหนงั สอื หนา้ 115-117 5.ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 8.1 โดยครูเดนิ ตรวจตราดกู ารทากจิ กรรม รหัสวิชา 20000-1602 หนา้ 50

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี ึกษา ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรยี น (เรื่องที่ 2) 10.ครูเขยี นประโยคเหลา่ น้บี นกระดาน -การหลกี เลยี่ งสถานการณท์ ่กี ่อใหเ้กดิ อารมณท์ างเพศ -การคุมกาเนดิ 11.ครถู ามนกั เรยี นวา่ แบบใดทจ่ี ะหลกี เลยี่ งการตง้ั ครรภท์ ไ่ี ม่พงึ ประสงคไ์ ดด้ กี วา่ กนั ขน้ั สอน 12.ครอู ธิบายเรือ่ งการหลกี เลย่ี งการมเี พศสมั พนั ธเ์ มอ่ื ยงั ไมพ่ รอ้ ม 13.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 8.1 14.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คูก่ นั แสดงความคิดเหน็ 15.ครูใหน้ กั เรยี นอภปิ รายร่วมกนั ทงั้ ชนั้ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรียน (เร่อื งท3่ี ) 16.ครเู ขยี นคาวา่ “การคมุ กาเนดิ ” ไวบ้ นกระดาน 17.ครูถามนกั เรยี นเกี่ยวกบั วธิ กี ารคุมกาเนิด 18.ครูเขยี นเป็นผงั ความคดิ ไวบ้ นกระดาน ขน้ั สอน 19.ครอู ธิบายเร่ืองการป้องกนั การตงั้ ครรภท์ ่ไี มพ่ งึ ประสงค์ 20.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 8.3 21.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่กนั แสดงความคิดเห็น 22.ครูใหน้ กั เรยี นอภปิ รายรว่ มกนั ทงั้ ชนั้ ขน้ั สรปุ และประยกุ ต์ 23.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 24.ครเู ฉลยพรอ้ มนกั เรียนทง้ั ชนั้ สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรียนการสอน 3.ภาพประกอบ รหสั วชิ า 20000-1602 หนา้ 51

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ีศึกษา หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเชค็ รายช่อื 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ 1.แบง่ นกั เรยี นออกเป็น 6 กลุม่ ใหท้ ารายงานหรือจดั บอรด์ หลงั หอ้ งเรียนเรือ่ งการป้องกนั การตงั้ ครรภท์ ไ่ี มพ่ งึ ประสงคต์ ามหวั ขอ้ หนา้ 121 รหัสวิชา 20000-1602 หนา้ 52

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี ึกษา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 53

แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ าเพศวถิ ศี ึกษา แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ สอบกลางภาค รหสั วิชา 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั ที่ 10 ชื่อหน่วย สอบกลางภาค จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคิด เพ่อื วดั ความรูแ้ ละความเขา้ ใจตามผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั ในหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1-9 ขอ้ สอบ วชิ า เพศวถิ ศี ึกษา ชุดท่ี 1 คาช้ีแจง: 1 ขอ้ สอบมจี านวน 50 ขอ้ 2. ใหน้ กั เรียนเขยี นเครื่องหมาย X หนา้ ขอ้ ทเ่ี ห็นวา่ ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี วลงในกระดาษคาตอบ 3. สง่ กระดาษคาตอบพรอ้ มตน้ ฉบบั ขอ้ สอบ หา้ มนกั เรียนนาขอ้ สอบออกนอกหอ้ งสอบ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ลกั ษณะทางเพศหญงิ เกี่ยวขอ้ งกบั โครโมโซมใด ก. xx ข. xy ค. xyx ง. xxy 2. เกยม์ ลี กั ษณะอย่างไร ก. เป็นผหู้ ญิงรกั ผหู้ ญิง ข. เป็นผชู้ ายรกั ผชู้ าย ค. เป็นผหู้ ญงิ รกั ทงั้ ผชู้ ายและผหู้ ญงิ ง. เป็นผชู้ ายรกั ทงั้ ผชู้ ายและผหู้ ญงิ 3. ขอ้ ใดไม่ใช่พฤติกรรมเบย่ี งเบนทางเพศ ก. ลกั เพศ ข. ชอบอวดอวยั วะเพศ ค. ชอบมเี พศสมั พนั ธก์ ลางแจง้ ง. ชอบดูอวยั วะเพศของตา่ งเพศ 4. เด็กวยั รุ่นหญงิ จะมกี ารเปลยี่ นแปลงท่รี ูส้ กึ ไดช้ ดั วา่ เป็นผูใ้ หญ่แลว้ คืออะไร ก. ประจาเดอื น ข. หนา้ อกโต ค. ชอบไวผ้ มยาว ง. หนา้ ทอ้ งโต 5. การเปลย่ี นแปลงในขอ้ ใดเกดิ ข้นึ หลงั สุดสาหรบั วยั รุ่นชาย ก. เสยี งเปลยี่ น ข. นมแขง็ เป็นไต ค. มกี ารหลงั่ อสจุ ิ ง. มหี นวดและเคราข้นึ 6. ขอ้ ใดคือปจั จยั ท่สี าคญั ท่ที าใหเ้กดิ พฒั นาการทางเพศคอื อะไร ก. สง่ิ แวดลอ้ ม ข. ฮอรโ์ มนจากต่อมไรท้ ่อ ค. การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นร่างกาย ง. การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นจิตใจและอารมณ์ รหสั วิชา 20000-1602 หนา้ 54

แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ าเพศวิถศี ึกษา 7. ขอ้ ใดสาคญั ท่สี ดุ สาหรบั การปรบั ตวั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงและพฒั นาการทางเพศ ก. พกั ผอ่ นใหเ้พยี งพอ ข. รบั ประทานอาหารแต่พอดี ค. ดูแลรกั ษาความสะอาดของร่างกาย ง. ปฏิบตั ิกจิ กรรมทางเพศอยา่ งเหมาะสม 8. ตอ่ มเพศของเพศชายและหญงิ ตง้ั อยู่ทใ่ี ด ก. ลงึ คแ์ ละรงั ไข่ ข. อณั ฑะและรงั ไข่ ค. อณั ฑะและมดลกู ง. ลงึ คแ์ ละช่องคลอด 9. ขอ้ ใดแตกต่างจากขอ้ อืน่ ก. มะเรง็ ตอ่ มลกู หมาก ข. มะเรง็ รงั ไข่ ค. มะเรง็ มดลูก ง. มะเร็งปากชอ่ งคลอด 10. อวยั วะสว่ นใดท่ที าหนา้ ทห่ี อ่ หมุ้ ในส่วนท่สี รา้ งอสุจิ ก. อณั ฑะ ข. ถงุ นา้ อสจุ ิ ค. ตอ่ มลกู หมาก ง. ลงึ คห์ รือองคชาต 11. นา้ อสจุ ิหรอื นา้ กามสรา้ งท่อี วยั วะใด ก. อณั ฑะ ข. ถงุ น้าอสุจิ ค. ต่อมลกู หมาก ง. ลงึ คห์ รือองคชาติ 12. อวยั วะสว่ นใดท่เี ป็นทางผ่านของนา้ ปสั สาวะ ตวั อสจุ ิ และนา้ อสจุ ิ ก. ทอ่ นาอสุจิ ข. ถงุ นา้ อสจุ ิ ค. ท่อปสั สาวะ ง. ลงึ คห์ รอื องคชาติ 13. การพฒั นาการทางเพศในทางจิตใจของวยั รุ่นผหู้ ญิงและผชู้ ายเหมอื นกนั ในเรื่องใด ก. เร่ิมสนใจเพศตรงขา้ ม ข. เริ่มมคี วามตอ้ งการทางเพศมากข้นึ ค. ตอ้ งการมสี งั คมเพ่อื ความยอมรบั ง. สนใจในเรอ่ื งรูปลกั ษณข์ องตน 14. ขอ้ ใดคือการรจู้ กั จดั การกบั อารมณท์ างเพศอยา่ งเหมาะสมท่สี ุด ก. ปฏเิ สธตอ่ ส่งิ ยวั่ ยุ ข. ไปเท่ยี วในสถานเริงรมย์ ค. ช่วยตวั เองหรอื สาเรจ็ ความใคร่ดว้ ยตวั เอง ง. เบย่ี งเบนความสนใจของตนเอง 15. ความรกั และความหลงแตกตา่ งกนั อยา่ งไร ก. เวลาท่ีใชใ้ นการเรียนรู้ ข. ตอ้ งเสยี ค่าใชจ้ า่ ย ค. ความปรารถนา ง. เหตผุ ล1 16. ขอ้ ใดหมายถงึ สถานการณท์ ่เี สย่ี งตอ่ การมเี พศสมั พนั ธ์ ก. สถานท่ี เวลา โอกาสท่ลี งตวั ในการมเี พศสมั พนั ธ์ ข. สถานทท่ี ่นี าไปสู่การมเี พศสมั พนั ธ์ ค .สถานทท่ี ่อี ยู่เพยี งชายและหญิง ง. ถกู ทุกขอ้ รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 55

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวิถศี กึ ษา 17. การหลกี เลย่ี งเเละป้องกนั ตนเองมใิ หต้ งั้ ครรภท์ ่ไี มพ่ งึ ประสงคค์ ือขอ้ ใด ก. ไมเ่ ป็นคนเจา้ ชู้ ข. ตอ้ งรกั อย่างมสี ติ ค. หลกี เลยี่ งสถานท่เี สย่ี ง ง. ไม่ยอมใหผ้ ชู้ ายมเี พศสมั พนั ธด์ ว้ ย 18. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ ีการป้องกนั การมเี พศสมั พนั ธ์ ข. ตอ้ งใจแขง็ ก. เลือกไวไ้ จคนทีด่ ีกบั เรา ง. รูท้ นั คน ค. ระวงั เรอ่ื งข่มขนื 19. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เป็นผลกระทบจากการตงั้ ครรภท์ ่ไี มพ่ งึ ประสงค์ ก. เดก็ กาพรา้ ข. การเลย้ี งดูไมเ่ หมาะสม ค. มกี ารนาเด็กไปท้งิ ง. การเล้ยี งดูทีส่ มบูรณ์ 20. เพศชายเม่อื เกดิ อารมณท์ างเพศจะหลงั่ ฮอรโ์ มนอะไร ข. เทสเตอโรน ก. เทสโทสเตอโรน ง. เทสโทสเตอโรน ค. เทสโทสโรน 21. การกระทาในขอ้ ใดท่แี สดงวา่ ผหู้ ญงิ ไมร่ กั นวลสงวนตวั ข. อยู่รว่ มหอ้ งกบั ผชู้ ายสองตอ่ สอง ก. ยอมใหผ้ ชู้ ายจูงมอื ขา้ มถนน ง. ยอมใหผ้ ชู้ ายมเี พศสมั พนั ธก์ นั ตน ค. ยอมใหผ้ ชู้ ายถกู เน้อื ตอ้ งตวั 22. การเกดิ อารมณ์ทางเพศจากสง่ิ เรา้ ภายนอกคือ ข. การอ่านหรอื ฟงั ก. การเหน็ ภาพ ง. ถูกทุกขอ้ ค. การคดิ และจินตนาการ 23. ขอ้ ใดเป็นสาเหตุของการมเี พศสมั พนั ธใ์ นวยั เรยี น ข. การใจออ่ น ก. การถกู ข่มขนื ง. ถกู ทุกขอ้ ค. การถกู ลอ่ ลวง ข. วยั เรยี น 24. การปรบั ตวั ทางเพศในวยั ใดสาคญั ท่สี ุด ก. วยั เด็ก ค. วยั รุ่น ง. วยั ผใู้ หญ่ 25. ขอ้ ใดเป็นการมเี พศสมั พนั ธท์ ่รี บั ผดิ ชอบ ข. การนบั ระยะปลอดภยั ก. การใชถ้ งุ ยางอนามยั ง. ถูกทกุ ขอ้ ค. การรบั ประทานยาเมด็ คุมกาเนดิ 26. การมเี พศสมั พนั ธท์ ่รี บั ผดิ ชอบและปลอดภยั เป็นเรอื่ งของใคร ก. เฉพาะฝ่ายหญงิ ข. เฉพาะฝ่ายชาย ค. ทง้ั สองฝ่ าย ง. ตา่ งฝ่ายตา่ งดูแลตนเอง รหสั วิชา 20000-1602 หนา้ 56

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาเพศวิถศี ึกษา 27. การเขา้ สู่วยั รุ่นแตล่ ะตอนนน้ั ชายและหญิงจะต่างกนั อยา่ งไร ก. ชายเรว็ กวา่ หญงิ 1 ปี ข. หญงิ เรว็ กว่าชาย 1 ปี ค. ชายเร็วกว่าหญงิ 2 ปี ง. หญิงเร็วกว่าชาย 2 ปี 28. อวยั วะในขอ้ ใดท่เี ป็นทอ่ี ยูข่ องทารกภายในครรภม์ ารดา ก. รงั ไข่ ข. มดลกู ค. ปีกมดลกู ง. กระเพาะปสั สาวะ 29. การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นจติ ใจและอารมณ์ของวยั รุน่ มาจากสาเหตุใดเป็นสาคญั ก. ฮอรโ์ มน ข. การอบรมเล้ยี งดู ค. ความใหญโ่ ตของรา่ งกาย ง. การเกดิ มาหลายปีแลว้ มปี ระสบการณ์มากข้นึ 30. ความพรอ้ มในการมเี พศสมั พนั ธ์ หมายถงึ ข.ร่างกาย ก. จติ ใจ ง. การแต่งงานที่ถกู ตอ้ ง ค. อารมณท์ างเพศ ข.การเห็นภาพ 31. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ส่งิ เรา้ ภายนอก ง. การเกิดระดบั ฮอรโ์ มน ก. การไดก้ ลน่ิ ค. การฟงั และการสมั ผสั 32. สถานการณใ์ ดทม่ี โี อกาสมเี พศสมั พนั ธม์ ากท่สี ุด ข. สถานทท่ี อ่ งเท่ยี ว ก. สถานบนั เทงิ ง. ท่โี รงงาน ค. ทลี่ บั หูลบั ตา 33. การวางตวั ท่รี จู้ กั แบง่ ปนั และช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั เป็นลกั ษณะการวางตวั แบบใด ก. การวางตวั แบบเพ่อื น ข. การวางตวั แบบคนรกั ค. การวางตวั แบบคู่สมรส ง. การวางตวั แบบพน่ี อ้ ง 34. ขอ้ ใดไม่ใช่การลว่ งเกนิ ทางเพศ ก. การจบั หนา้ อกผหู้ ญงิ ข. การพดู จาแซวในเรอ่ื งสรีระรปู ร่าง ค. การซ้อื บริการทางเพศหญิงบริการ ง. การจอ้ งมองของสงวนของผหู้ ญิง 35.การไปเท่ยี วในวนั ใดมคี วามเสย่ี งทจ่ี ะมเี พศสมั พนั ธก์ นั สูงทส่ี ุด ก. วนั ปีใหม่ ข. วนั สงกรานต์ ค. วนั วาเลนไทน์ ง. วนั ลอยกระทง 36. พฤตกิ รรมใดท่นี าไปสู่การมเี พศสมั พนั ธไ์ ด้ ก. การโอบกอด ข. การจบั มอื ถอื แขน ค. การกอดจูบ ง.การสมั ผสั ภายนอก รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 57

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาเพศวถิ ีศกึ ษา 37. ขอ้ ใดเป็นความเชื่อท่ผี ดิ ก. การชว่ ยตนเองบอ่ ยๆจะทาใหเ้ป็นบา้ ข. การชว่ ยตนเองบอ่ ยๆจะทาใหเ้สอ่ื มสมรรถภาพ ค. การช่วยตนเองบอ่ ยๆจะทาใหเ้ป็นหมนั และมบี ตุ รยาก ง. ถกู ทกุ ขอ้ 38. ความบกพรอ่ งทางเพศก่อใหเ้กดิ ปญั หาใดมากทส่ี ุด ก. การรว่ มเพศ ข. การหยา่ รา้ ง ค. การนอกใจ ง. การทะเลาะเบาะแวง้ 39. ฝนั เปียกมโี อกาสเกิดข้นึ กบั ผใู้ ด ก. ผชู้ าย ข. ผหู้ ญิง ค. ทง้ั ผูช้ ายและผหู้ ญิง ง. ไม่มขี อ้ ถกู 40. การทาหมนั หญงิ หลงั จากคลอดบตุ รใหมๆ่ เรยี กว่าอะไร ก. หมนั แหง้ ข. หมนั สด ค. หมนั เปียก ง. หมนั ใหม่ 41. ขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ ง ก. การทาหมนั ทาใหผ้ ชู้ ายสมรรถภาพทางเพศลดลง ข. การทาหมนั ชายเป็นการปิดกนั้ ทางเดนิ ของตวั อสจุ ิ ค. การทาหมนั หญิงทาโดยการผูกปีกมดลกู ทง้ั สองขา้ ง ง. การทาหมนั หญิงสามารถกระทาไดต้ ลอดเวลาโดย แพทย์ 42. การคมุ กาเนิดวธิ ใี ดไมเ่ ป็นทน่ี ยิ มในปจั จุบนั ก. การใชถ้ งุ ยางอนามยั ข. การใสห่ ว่ งอนามยั ค. การฉีดยาคมุ กาเนิด ง. การทาหมนั 43. สาเหตทุ ท่ี าใหพ้ ่อแม่ไมพ่ ดู คยุ เรอ่ื งเพศศกึ ษากบั ลูกคอื ขอ้ ใด ก. กลวั วา่ จะเป็นการช้นี าเรอ่ื งเพศ ข. เห็นวา่ เป็นเร่อื งควรปิดบงั ค. กลวั ว่าจะทาใหเ้ดก็ หมกมนุ่ ง. ถกู ทุกขอ้ 44. การเสพส่งิ เสพตดิ ของวยั รุ่นมาจากการเปลยี่ นแปลงในขอ้ ใด ก. ความอสิ ระเสรี ข. ความอจิ ฉาริษยา ค. ความอยากรูอ้ ยากลอง ง. มอี ารมณอ์ อ่ นไหวและเปลยี่ นแปลงงา่ ย 45. การเปลยี่ นแปลงในขอ้ ใดท่ชี ายตา่ งจากหญิง ก. มสี วิ ข. มขี นทร่ี กั แร้ ค. มหี นา้ อกโตข้นึ ง. อวยั วะเพศมขี นาดโตข้นึ 46. การตดั สนิ ใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมนนั ทนาการ ควรเลอื กอย่างไรจงึ จะดีทส่ี ดุ ก. ตามเพ่อื น ข. ตามความคิดเห็น ค. ตามความถนดั และชอบ ง. ตามความนิยมในยุคปจั จบุ นั รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 58

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี กึ ษา 47. การเขา้ สู่วยั ร่นุ ของคนบางคนอาจชา้ หรอื เร็วกว่ากนั บา้ ง ทงั้ น้ปี จั จยั ใดมอี ทิ ธพิ ลมากท่สี ดุ ก. กรรมพนั ธุ์ ข. อยู่ในถ่นิ ทเ่ี จริญ ค. การไดร้ บั การศกึ ษา ง. ความสมบรู ณข์ องร่างกาย 48. ผลกระทบจากความเชอื่ ท่ผี ดิ ๆ เกี่ยวกบั เรอ่ื งเพศขอ้ ใดรนุ แรงทส่ี ดุ ก. เสยี เงนิ ข. เสียชีวิต ค. วติ กกงั วล ง. ตงั้ ครรภท์ ่ไี ม่พงึ ประสงค์ 49. \"การข้นึ ครู\" คอื อะไร ก. การไปเท่ยี วสถานบนั เทงิ เรงิ รมยค์ รงั้ แรก ข. การไปมเี พศสมั พนั ธค์ รง้ั แรกกบั ผใู้ ดกต็ าม ค. การไปมเี พศสมั พนั ธค์ รง้ั แรกกบั หญงิ ขายบริการทางเพศ ง. การไปเรยี นรูก้ ารมเี พศสมั พนั ธก์ บั ผทู้ ม่ี ปี ระสบการณท์ างเพศสูง 50. ความเชอื่ ผดิ ๆ เป็นความเช่อื ท่ปี ราศจากศาสตรใ์ ด ก. คณิตศาสตร์ ข. วิทยาศาสตร์ ค. สงั คมศาสตร์ ง. คหกรรมศาสตร์ -------------------------------------------------- รหัสวิชา 20000-1602 หน้า 59

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี กึ ษา บนั ทึกหลงั การสอบ ขอ้ สรปุ หลงั การสอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาที่พบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 60

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 9 รหสั วชิ า 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั ท่ี 11 ช่ือหน่วย กิจกรรมทางเพศ จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคิด กจิ กรรมทางเพศทค่ี นเราโดยทงั่ ไปกระทากนั ไดแ้ ก่ การจินตนาการทางเพศ การช่วยตวั เอง และการมี เพศสมั พนั ธ์ ซ่งึ บุคคลสามารถปฏบิ ตั ิได้ ซง่ึ บุคคลสามารถปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามความเหมาะสมกบั สถานภาพ ความตอ้ งการ และสขุ ภาพของตนเอง สาหรบั ความบกพรอ่ งทางเพศนน้ั มกั เกิดกบั บคุ คลวยั ทองและวยั สูงอายุ ซ่งึ ควรไปพบแพทย์ เพอ่ื ปรึกษาและรบั การรกั ษาตอ่ ไปสาหรบั ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เรอื่ งเพศตอ้ งอาศยั ความรทู้ างวชิ าการทถ่ี กู ตอ้ ง ความเชอ่ื ทผ่ี ดิ ๆ อาจเป็นความรูเ้ ทา่ ไม่ถงึ การณ์ คดิ เอาเอง ซง่ึ อาจเกิดผลกระทบในเชิงลบต่อสุขภาพได้ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1.รูแ้ ละเขา้ ใจเรอื่ งจนิ ตนาการทางเพศ 2.รูแ้ ละเขา้ ใจในเร่ืองการช่วยตวั เอง 3.รูแ้ ละเขา้ ใจในเร่ืองการมเี พศสมั พนั ธ์ 4.รูแ้ ละเขา้ ใจเร่ืองความบกพรอ่ งทางเพศ 5.มคี วามเชือ่ ทถ่ี ูกตอ้ งเก่ียวกบั เรือ่ งเพศ 6.รูแ้ ละเขา้ ใจผลกระทบท่เี กดิ จากความเชอ่ื ผดิ ๆเก่ยี วกบั เรื่องเพศ สาระการเรียนรู ้ กิจกรรมทางเพศ 1.จินตนาการทางเพศ 2.การช่วยตวั เอง 3.การมเี พสสมั พนั ธ์ 4.ความบกพรอ่ งทางเพศ 5.ความเชอื่ ผดิ ๆเกีย่ วกบั เพศ 6.ผลกระทบทเ่ี กดิ จากความเช่ือผดิ ๆเก่ียวกบั เรอื่ งเพศ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรียน (เรือ่ งที่1) 1.ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกล่มุ ละ 4 คน ใหเ้ป็นเพศเดียวกนั 2.ใหน้ กั เรยี นอภปิ รายวา่ การจินตนาการทางเพศเกดิ ข้นึ ในลกั ษณะใดบา้ ง รหัสวิชา 20000-1602 หนา้ 61

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาเพศวิถีศกึ ษา ขน้ั สอน 3.ครูอธบิ ายเรอ่ื งการจินตนาการทางเพศ 4.ครูอธิบายใหน้ กั เรยี นฟงั วา่ เมอ่ื อารมณท์ างเพศเป็นอารมณพ์ ้นื ฐานปกตขิ องมนุษย์ โดยธรรมชาตแิ ลว้ ธรรมชาตกิ จ็ ะสอนใหม้ นุษยเ์ รียนรกู้ ารระบายอารมณท์ างเพศเช่นเดียวกนั 5.ครูถามนกั เรียนว่าเมอ่ื นกั เรยี นโกรธนกั เรยี นระบายความโกรธอย่างไร ครูส่มุ ใหน้ กั เรียนตอบ 6.ครูถามนกั เรยี นวา่ เม่อื นกั เรยี นเสยี ใจ นกั เรียนกร็ ะบายออกดว้ ยการรอ้ งไหใ้ ชห่ รอื ไม่ 7.ครูอธบิ ายใหน้ กั เรียนฟงั วา่ เมอ่ื เราเกดิ อารมณท์ างเพศธรรมชาตกิ ส็ อนใหเ้รารจู้ กั การระบายออกซ่งึ อารมณ์ ทางเพศ ซ่งึ มวี ธิ ีการอยูค่ ือ การมเี พศสมั พนั ธแ์ ละการชว่ ยตวั เอง 8.ครูอธิบายเรอื่ งการชว่ ยตวั เองของเพศชายและหญงิ และประโยชนข์ องการชว่ ยตวั เอง 9.ครูยา้ ใหน้ กั เรียนฟงั ว่าการชว่ ยตวั เองไมใ่ ช่ส่งิ ทผ่ี ดิ แต่ไม่ควรหมกม่นุ และใหห้ ลกี เลยี่ งสถานการณท์ ่จี ะทาให้ เกดิ อารมณท์ างเพศ เชน่ การเล่นกฬี า จะดที ส่ี ดุ 10.ครอู ธบิ ายเร่อื งการมเี พศสมั พนั ธ์ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรียน (เรื่องท่ี 2) 11.ครเู ขยี นคาวา่ “ความบกพรอ่ งทางเพศไวบ้ นกระดาน” 12.ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คนใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั นกึ วา่ อะไรบา้ งทจ่ี ดั เป็นความบกพรอ่ งทางเพศ ขน้ั สอน 13.ครอู ธิบายเรอ่ื งความบกพรอ่ งทางเพศในเพศชายและเพศหญงิ 14.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 9.1 15.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั เปรยี บเทยี บคาตอบ ขน้ั นาเขา้ ส่กู ารเรียน (เร่ืองที่3) 16.ครูยกตวั อยา่ งความเชื่อเรอ่ื งเพศแลว้ ใหน้ กั เรยี นตอบวา่ เชอ่ื หรอื ไม่เชอ่ื เชน่ -การสาเรจ็ ความใครด่ ว้ ยตวั เองบ่อยๆจะทาใหเ้ป็นโรคประสาท -คนมสี วิ มากมกั จะเป็นคนทม่ี คี วามตอ้ งการทางเพศสูง ขน้ั สอน 17.ครอู ธิบายเร่อื งความเชอื่ ผดิ ๆเก่ยี วกบั เรอ่ื งเพศ 18.ครูถามนกั เรียนวา่ เคยไดย้ นิ ความเชอ่ื เหลา่ น้หี รอื ไม่ 19.ครูถามนกั เรียนทลี ะเรอ่ื งว่ามใี ครเชอ่ื หรอื ไม่เชือ่ บา้ ง 20.ครูใหน้ กั เรยี นจบั กลุ่มกนั กลุ่มละ 4 คนอภปิ รายผลกระทบทเ่ี กดิ จากความเชอื่ ผดิ ๆเกีย่ วกบั เรอ่ื งเพศ รหัสวิชา 20000-1602 หน้า 62

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาเพศวิถีศกึ ษา 21.ครูใหน้ กั เรยี นอภปิ รายขา้ มกลุม่ 22.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 9.2 23.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่กนั เปรยี บเทยี บคาตอบ 24.ครูสุ่มภามนกั เรยี นทลี ะคน 25.ครูใหน้ กั เรยี นจบั ค่กู นั ทาใบงานท่ี 9.3 26.ครูสมุ่ ถามนกั เรยี นทลี ะคู่ ขน้ั สรุปและประยุกต์ 27.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 28.ครเู ฉลยพรอ้ มนกั เรยี นทงั้ ชน้ั สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี นวชิ าเพศวถิ ศี ึกษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ภาพประกอบ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเช็ครายชอื่ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครือ่ งมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น รหสั วชิ า 20000-1602 หนา้ 63

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวิถีศกึ ษา 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยูก่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบสอบถามความเชอื่ ผดิ ๆเกยี่ วกบั เรอ่ื งเพศวา่ ในกลุ่มประชากรท่นี กั เรยี นศกึ ษา มี ทศั นคติในความเชอ่ื เรื่องน้อี ยา่ งละก่คี น และสรุปเป็นบอรด์ หรอื รายงาน รหสั วิชา 20000-1602 หนา้ 64

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี ึกษา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หนา้ 65

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาเพศวถิ ศี กึ ษา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 10 รหสั วิชา 20000-1602 เพศวถิ ศี ึกษา สอนครง้ั ที่ 12 ชื่อหน่วย จะทาไดไ้ หมหนอ จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคดิ การคุมกาเนิดเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนครอบครวั เป็นการควบคุมการเกิดของบุตร รวมถึงการเวน้ ระยะห่างของการมบี ุตร ดว้ ยวธิ ีการใหญ่ๆ 2 วิธี คือ การคุมกาเนิดแบบชวั่ คราว และแบบถาวร วยั รุ่นหลายคนเมอ่ื ตงั้ ครรภอ์ นั ไม่พึงประสงคก์ ็ไปทาแทง้ ซ่งึ ถือว่าเป็นอนั ตรายต่อร่างกายตนเอง ส่งผลกระทบต่อจิตใจและผดิ กฎหมาย และถา้ เราดูแลเกยี่ วกบั เรอื่ งอนามยั การเจรญิ พนั ธุท์ ง้ั 10 องคป์ ระกอบไดด้ ี กจ็ ะทาใหม้ ชี วี ติ อยูอ่ ย่างมคี วามสขุ ผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั 1.รูแ้ ละเขา้ ใจถงึ วธิ ีคุมกาเนิดแบบต่างๆ 2.ตระหนกั ถงึ ผลเสยี ในเรื่องการทาแทง้ 3.รูแ้ ละเขา้ ใจอนามยั การเจรญิ พนั ธุว์ า่ มผี ลตอ่ สขุ ภาพอยา่ งไร สาระการเรยี นรู้ จะทาไดไ้ หมหนอ 1.การคมุ กาเนิด 2.การทาแทง้ 3.อนามยั การเจริญพนั ธุ์ กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรยี น (เรอ่ื งท่ี1) 1.ครูเขยี นคาว่าการคมุ กาเนิดไวบ้ นกระดาน 2.ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยกตวั อย่างวธิ ีการคมุ กาเนิดทน่ี กั เรยี นรูจ้ กั 3.ครูเขยี นเป็นผงั ความคิดไวบ้ นกระดาน ขน้ั สอน 4.ครูอธบิ ายเรอ่ื งการคุมกาเนดิ แบบตา่ งๆ 5.ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 5.1 6.ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั เปรยี บเทยี บคาตอบ 7.ครูสุ่มถามนกั เรยี นและเตมิ ผงั ความคิดบนกระดานใหค้ รบถว้ น ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรยี น (เรอ่ื งที่ 2) 8.ครูแสดงภาพข่าวการทาแทง้ 9.ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เสนอขอ้ เสยี หรอื โทษของการทาแทง้ รหัสวิชา 20000-1602 หน้า 66

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาเพศวิถีศึกษา ขน้ั สอน 10.ครูอธบิ ายเร่อื งการทาแทง้ 11.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ทาใบงานท่ี 10.2 12.ครูสมุ่ เลอื กนกั เรยี นมาแสดงความคดิ เหน็ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรียน (เรอื่ งท3ี่ ) 13.ครูสมุ่ ถามนกั เรยี นวา่ ในอนาคตใครบา้ งทต่ี อ้ งการใชช่ วี ติ คู่ หรือมคี รอบครวั 14.ครถู ามเหตผุ ลของนกั เรียนทง้ั ผทู้ ่ตี อ้ งการและไม่ตอ้ งการมคี รอบครวั ขน้ั สอน 15.ครอู ธบิ ายเรอื่ งอนามยั การเจรญิ พนั ธุ์ 16.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 10.3 17.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั เปรยี บเทยี บคาตอบ ขน้ั สรปุ และประยุกต์ 18.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 19.ครเู ฉลยพรอ้ มนกั เรียนทง้ั ชนั้ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ภาพประกอบ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเช็ครายชือ่ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รหสั วชิ า 20000-1602 หนา้ 67

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวถิ ีศกึ ษา เครอ่ื งมอื วดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูแบง่ กลมุ่ นกั เรียนออกเป็น 7 กลุ่ม ทารายงานหรอื จดั บอรด์ ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี -การกินยาเมด็ คมุ กาเนดิ -การใชถ้ งุ ยางอนามยั -การใชย้ าฉีดคมุ กาเนดิ -การใชย้ าฝงั คมุ กาเนดิ -การใส่ห่วง -การทาหมนั ชาย -การทาหมนั หญงิ 2.แบ่งกลุม่ นกั เรยี นจดั บอรด์ เรื่องอนามยั การเจรญิ พนั ธุท์ งั้ 10 องคป์ ระกอบ รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 68

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี กึ ษา บนั ทกึ หลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 69

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาเพศวิถีศกึ ษา แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ 11 รหสั วชิ า 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั ท่ี 13 ช่ือหน่วย ทกั ษะดีแกป้ ญั หาได้ จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคดิ การพดู คยุ ในเรอื่ งเพศกบั วยั ร่นุ ทาใหเ้ขา้ ใจถงึ การเปลยี่ นแปลงของตนเองเกย่ี วกบั พฒั นาการทางเพศ การ ปรบั ตวั อย่างเหมาะสมและไม่มปี ญั หาในเรอื่ งทางเพศ เป็นเรอื่ งทท่ี ง้ั สถานศึกษา ครอบครวั และองคก์ รตา่ งๆ จะตอ้ ง รว่ มกนั ใหค้ วามรู้ คาช้แี นะ และแลกเปลยี่ นเรยี นรูก้ บั วยั รนุ่ สาหรบั ทกั ษะการตอ่ รองและการปฏเิ สธเป็นทกั ษะสาคญั ทจ่ี ะ ทาใหว้ ยั รุน่ รอดพน้ จากมหนั ตภยั ทางเพศได้ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1.มคี วามเขา้ ใจวา่ การส่อื สารในเรอื่ งเพศเป็นเรือ่ งทไ่ี มน่ ่าอายและเป็นประโยชน์ 2.มคี วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั การส่อื สารเรอื่ งเพศในครอบครวั 3.มที กั ษะในการต่อรองและการปฏเิ สธการต่อรอง สาระการเรียนรู ้ ทกั ษะดแี กป้ ญั หาได้ 1.การส่อื สารในเรอ่ื งเพศ 2.ทกั ษะการสอ่ื สาร 3.ทกั ษะการฟงั 4.การตอ่ รองและการปฏเิ สธ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรยี น (เร่อื งท1่ี ) 1.ครูถามนกั เรยี นวา่ ส่วนใหญ่แลว้ นกั เรยี นเลอื กทจ่ี ะส่อื สารเร่ืองเพศกบั ใคร 2.ครูสมุ่ ถามเหตผุ ลจากนกั เรยี น 3.ครูท้งิ ประโยคใหน้ กั เรยี นคดิ วา่ เพอ่ื นนกั เรยี นกบั นกั เรียนก็มปี ระสบการณช์ วี ติ พอๆกนั แตเ่ พราะเหตุใด นกั เรียนจงึ ไม่เลอื กทจ่ี ะสอ่ื สารกบั พอ่ แม่หรอื ครูอาจารยท์ ม่ี ีประสบการณช์ วี ติ มากกวา่ ขน้ั สอน 4.ครูอธบิ ายเรอื่ งการส่อื สารในเรอ่ื งเพศ 5.ครูอธิบายทกั ษะการส่อื สาร รหสั วิชา 20000-1602 หน้า 70

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าเพศวถิ ีศกึ ษา -การพดู -การฟงั -การตอ่ รองและการปฏเิ สธ 6.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คู่ชาย-หญงิ โดยใหส้ ลบั บทบาทจากชายเป็นหญงิ และหญิงเป็นชายตามใบงานท่ี 11.1 7.ครูสุ่มเลอื กนกั เรียนออกมาแสดงบทบาทสมมติ 8.ครูใหน้ กั เรยี นจบั กลมุ่ กนั กลมุ่ ละ 4 คน ทากจิ กรรมท่ี 11.2 9.ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ ราย ขน้ั สรปุ และประยกุ ต์ 10.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ 11.ครูเฉลยพรอ้ มนกั เรียนทงั้ ชน้ั สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ าเพศวถิ ศี ึกษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรียนการสอน 3.ภาพประกอบ 4.ถงุ ทรายหรอื ถงุ นา้ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเช็ครายช่ือ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรียบรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รหสั วิชา 20000-1602 หน้า 71

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาเพศวถิ ศี ึกษา เครอ่ื งมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูกาหนดสถานการณ์และใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั เล่นบทบาทสมมตเิ หมอื นใบงานท่ี 11.1หนา้ ชน้ั เรยี น รหสั วิชา 20000-1602 หนา้ 72

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ีศึกษา บนั ทกึ หลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพี่ บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 73

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี กึ ษา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 12 รหสั วชิ า 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั 14 ช่ือหน่วย ทกั ษะดีแกป้ ญั หาได้ จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคดิ โรคเอดสจ์ ดั วา่ เป็นโรครา้ ยแรงโรคหนึง่ ท่คี นเป็นกนั มากและยงั ไมม่ ยี ารกั ษาใหห้ ายขาดได้ ส่วนใหญ่ผปู้ ่วยตดิ เช้อื มาจากการมเี พศสมั พนั ธก์ บั ผตู้ ดิ เช้อื HIV โดยมไิ ดป้ ้องกนั ดงั นน้ั จงึ ไม่ควรนาชีวติ ไปเสย่ี งกบั โรคเอดส์ จนตอ้ งมี การป้องกนั ตวั ทด่ี กี ็คอื หลกี เลยี่ งการมเี พศสมั พนั ธห์ รอื ถา้ ไม่หลกี เลย่ี งก็ตอ้ งใชถ้ งุ ยางอนามยั แตถ่ า้ ติดเช้อื HIV มาแลว้ ก็ควรยอมรบั สภาพ สรา้ งกาลงั ใจ อยา่ ทอ้ แท้ พยายามรกั ษาตวั ใหด้ ี ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวงั 1.รูแ้ ละเขา้ ใจถงึ การติดเช้อื HIV และวธิ ปี ้องกนั 2.รูแ้ ละเขา้ ใจหลกั การ QQR 3.สามารถใชห้ ลกั การ QQR ประเมนิ โอกาสเส่ยี งต่อการตดิ เช้อื HIV 4.รูว้ ธิ ใี ชช้ วี ติ ของผปู้ ่วยเอดส์ สาระการเรยี นรู้ เอดส์ มหนั ตภยั ใกลต้ วั 1.การติดเช้อื HIV และการป้องกนั 2.หลกั การ QQR 3.ความเส่ยี งและการประเมนิ โอกาสเส่ยี งตอ่ การตดิ เช้อื HIV 4.การใชช้ ีวติ ของผปู้ ่วยเอดส์ กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ ส่กู ารเรยี น (เรื่องท1ี่ ) 1.ครูเขยี นคาว่า HIV ไวบ้ นกระดาน 2.ครูโยงเสน้ จากตวั H และ I และ V ไวบ้ นกระดาน 3.ครูถามนกั เรยี นว่าตวั อกั ษรแตล่ ะตวั ยอ่ มาจากอะไร มใี ครทราบบา้ ง 4.ครูเฉลย H = Human I = Immunodeficiency V = Virus รหสั วชิ า 20000-1602 หนา้ 74

แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ าเพศวถิ ีศกึ ษา ขน้ั สอน 5.ครูอธบิ ายเรอ่ื งการติดเช้อื HIV 6.ครูใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งผทู้ เ่ี ป็นกลุ่มเส่ยี งจากการติดเช้อื 7.ครูอธิบายเรอื่ งการป้องกนั โรคเอดส์ 8.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 12.1 9.ครูอา่ นแบบสอบถามทลี ะขอ้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นยกมอื ครูส่มุ เลอื กนกั เรยี นใหอ้ ธิบายเหตุผล ขน้ั นาเขา้ สู่การเรยี น (เร่ืองที่ 2) 10.ครเู ขยี นรูปสามเหลยี่ มมตี วั อกั ษร Q และ Q และ R ไวบ้ นยอดของสามเหลยี่ ม 11.ครูใหน้ กั เรยี นเปิดหนงั สอื หนา้ 172-173และถามว่าตวั อกั ษร Q Q และ R แทนดว้ ยอะไร ขน้ั สอน 12.ครูอธบิ ายหลกั การ QQR 13.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 12.2 14.ครูใหน้ กั เรยี นจบั ค่กู นั เปรยี บเทยี บคาตอบ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรียน (เรอ่ื งท่ี 3) 15.ครเู ขยี นคาวา่ ”สถานการณเ์ ส่ยี งตอ่ การติดเช้อื ” 16.ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อย่างและครูทาผงั ความคดิ ไว้ ขน้ั สอน 17.ครูอธบิ ายเรื่องความเสย่ี งและการประเมนิ โอกาสเสย่ี งต่อการตดิ เช้อื HIV 18.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 12.3 19.ครูสุ่มถามนกั เรยี นใหแ้ สดงความคิดเหน็ คนละขอ้ ขน้ั นาเขา้ ส่กู ารเรียน (เรอื่ งท่ี 4) 20.ครูถามนกั เรยี นวา่ โรคเอดสต์ ิดต่อไดท้ างใดบา้ ง 21.ครูถามนกั เรียนวา่ ในชวี ติ ของนกั เรยี น หากเพอ่ื นท่นี งั่ ขา้ งๆนกั เรียนเป็นผตู้ ดิ เช้อื HIV จะมโี อกาสตดิ ถงึ นกั เรยี นหรือไม่ เพราะเหตุใด ขน้ั สอน 22.ครอู ธิบายเรอ่ื งการใชช้ วี ติ ของผปู้ ่วยเอดส์ 23.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 12.4 เป็นการบา้ น รหัสวิชา 20000-1602 หนา้ 75

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาเพศวถิ ีศกึ ษา ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ 24.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 25.ครูเฉลยพรอ้ มนกั เรียนทงั้ ชนั้ สื่อและแหล่งเรียนรู ้ 1.หนงั สอื เรยี นวชิ าเพศวถิ ศี ึกษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ภาพประกอบ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเช็ครายชื่อ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรยี บรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป รหัสวิชา 20000-1602 หน้า 76

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวิถีศกึ ษา 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ใหน้ กั เรยี นทาการสารวจขอ้ มูลของกลมุ่ ประชากรในโรงเรยี นตามใบงานท่ี 12.1 และนาเสนอเป็นรายงานหรอื จดั บอรด์ 2.ครูใหน้ กั เรียนทาโปสเตอรพ์ รอ้ มคาขวญั เกี่ยวกบั ความเส่ยี งและการประเมนิ โอกาสเสย่ี งตอ่ การติดเช้อื HIV ตามหนงั สอื หนา้ 175-176 รหสั วิชา 20000-1602 หนา้ 77

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวิถศี ึกษา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หนา้ 78

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวิถีศึกษา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 13 รหสั วิชา 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั 15 ช่ือหน่วย สทิ ธิมนุษยชน จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคิด สทิ ธิมนุษยชน (Human Right) หมายถงึ สทิ ธทิ ม่ี นุษยท์ กุ คนมคี วามเทา่ เทยี มกนั มศี กั ดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สทิ ธิ เสรภี าพ และความเสมอภาคของบคุ คลทไ่ี ดร้ บั การรบั รองทง้ั ความคิดและการกระทาท่ไี ม่มกี ารล่วงละเมดิ ได้ โดย ไดร้ บั การคมุ้ ครองตามรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยและสนธิสญั ญาระหวา่ งประเทศ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1.รูถ้ งึ สทิ ธกิ ารแสดงออกภายใตก้ ฎหมายว่าดว้ ยเพศได้ 2.อธิบายถงึ บทบาทคณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติ (กสม.)ได้ 3.บอกความเสมอภาคทางเพศในสงั คมไทยได้ 4.รูแ้ ละเขา้ ใจกฎหมายเกยี่ วกบั เพศได้ 5.รูแ้ ละเขา้ ใจถงึ สทิ ธิคมุ้ ครองแรงงานได้ 6.รูแ้ ละเขา้ ใจส่อื กบั เพศได้ สาระการเรยี นรู้ สทิ ธมิ นุษยชน 1.สทิ ธิการแสดงออกภายใตก้ ฎหมายว่าดว้ ยเพศ 2.คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 3.กฎหมายกบั เพศ 4.สทิ ธิการคมุ้ ครองแรงงานหญงิ 5.ความเสมอภาคทางเพศในสงั คมไทย 6.ส่อื กบั เพศ 7.พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2550 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั นาเขา้ สูก่ ารเรยี น (เร่อื งท1่ี ) 1.ครูเขยี นคาว่า “สทิ ธิการแสดงออกภายใตก้ ฎหมายวา่ ดว้ ยเพศ” ไวบ้ นกระดาน 2.ครูถามนกั เรยี นว่า สทิ ธิของบคุ คลเกีย่ วกบั เพศมอี ะไรบา้ ง 3.ครูเขยี นเป็นผงั ความคดิ ไวบ้ นกระดาน รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 79

แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาเพศวถิ ศี กึ ษา ขน้ั สอน 4.ครูอธิบายสทิ ธิการแสดงออกภายใตก้ ฎหมายว่าดว้ ยเพศ 5.ครูเขยี นสทิ ธิประเภทตา่ งๆนอกเหนอื จากท่นี กั เรียนคิด เตมิ ลงบนกระดาน 6.ครูอธบิ ายเรอ่ื งคณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแหง่ ชาติและบทบาท 7.ครูอธิบายเรอื่ งพนั ธกรณีระหวา่ งประเทศเกยี่ วกบั สทิ ธมิ นุษยชน 8.ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 13.1 9.ครุสุม่ เลอื กนกั เรียนใหแ้ สดงความคิดเห็นท่นี กั เรยี นเขยี นลงในใบงาน ขน้ั นาเขา้ สู่การเรยี น (เรอ่ื งที่ 2) 10.ครถู ามนกั เรียนวา่ กฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เพศมอี ะไรบา้ ง 11.ครูเขยี นผงั ความคดิ ของนกั เรยี นไวบ้ นกระดาน ขน้ั สอน 12.ครอู ธบิ ายกฎหมายเก่ียวกบั เพศ 13.ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งอาชพี ท่นี กั เรยี นเคยเหน็ วา่ สว่ นมากจะมแี ต่ผชู้ าย แต่กลบั มผี หู้ ญิงมา ประกอบอาชีพน้ี เช่น ช่างกอ่ สรา้ ง ขบั รถ เป็นตน้ 14.ครูอธบิ ายสทิ ธกิ ารคมุ้ ครองแรงงานหญงิ 15.ครูแบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 4 คนใหช้ ่วยกนั อภปิ รายตามใบงานท่ี 13.2 16.ครูส่มุ ถามความคิดเห็นของแตล่ ะกลุ่ม 17.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คกู่ นั ทาใบงานท่ี 13.3 18.ครูสุ่มเลอื กนกั เรียนใหแ้ สดงความคิดเหน็ ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรยี น (เรอ่ื งท่ี 3) 19.ครถู ามนกั เรยี นวา่ เคยไดย้ นิ เรอื่ งราวเก่ยี วกบั ความไมเ่ สมอภาคทางเพศหรือไม่ 20.ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อย่าง 21.ครูเขยี นประโยค “ผชู้ ายเป็นชา้ งเทา้ หนา้ ” ไวบ้ นกระดาน 22.ครถู ามนกั เรียนวา่ หมายถงึ อะไร ขน้ั สอน 23.ครูอธิบายเร่อื งความเสมอภาค ขน้ั นาเขา้ สู่การเรยี น (เรอ่ื งที่ 4) 24.ครูเขยี นคาวา่ “ส่อื ” ไวบ้ นกระดาน รหัสวิชา 20000-1602 หน้า 80

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าเพศวถิ ีศึกษา 25.ครูถามนกั เรยี นวา่ มสี ่อื ทเ่ี กย่ี วกบั เพศอะไรบา้ ง 26.ครเู ขยี นผงั ความคิดไวบ้ นกระดาน ขน้ั สอน 27.ครูอธิบายเรือ่ งสอ่ื กบั เพศ 28.ครูถามนกั เรียนวา่ ปจั จุบนั สอ่ื ประเภทใดทเ่ี ขา้ ถงึ วยั รุน่ มากท่สี ดุ 29.ครอู ธบิ ายพระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2550 30.ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 4 คนทาอภปิ รายในใบงานท่ี 13.4 31.ครูใหน้ กั เรยี นอภปิ รายกนั ขา้ มกลุ่ม 32.ครูใหน้ กั เรยี นโตว้ าทตี ามใบงานท่ี 13.5 และใหเ้พอ่ื นในหอ้ งสรุปสาระท่ไี ดจ้ ากฝ่ายเสนอและฝ่ายคา้ น ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ 33.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 34.ครูเฉลยพรอ้ มนกั เรียนทงั้ ชนั้ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ าเพศวถิ ศี ึกษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรียนการสอน หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเชค็ รายชื่อ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรยี บรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 81

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา เครอื่ งมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยูก่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ใหน้ กั เรียนจบั คู่ และเลอื กทาโปสเตอรเ์ ก่ยี วกบั การกระทาความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 ตาม หนงั สอื หนา้ 197 รหสั วชิ า 20000-1602 หนา้ 82

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี กึ ษา บนั ทกึ หลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาท่ีพบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 83

แผนการจัดการเรยี นรู้ วชิ าเพศวิถศี ึกษา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 14 รหสั วชิ า 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั 16 ชื่อหน่วย ภาพลกั ษณ์ ชาย-หญงิ ท่สี งั คมคาดหวงั จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคดิ ภาพลกั ษณเ์ ป็นส่วนหน่ึงของบุคลกิ และลกั ษณะสามารถส่งผลตอ่ การรบั รูข้ องผอู้ ืน่ ทง้ั ชายและหญงิ จะมี ภาพลกั ษณท์ ่ดี เี ป็นทค่ี าดหวงั ของสงั คมไดน้ น้ั ตอ้ งงรูจ้ กั มวี ฒั นธรรมทด่ี แี ละวางตวั กบั เพศตรงขา้ มอยา่ งเหมาะสมทด่ี ี ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั 1.บอกภาพลกั ษณ์ท่สี ง่ ผลตอ่ ความรูส้ กึ และพฤติกรรมได้ 2.บอกคณุ ลกั ษณะของชายและหญิงทส่ี งั คมคาดหวงั ได้ 3.บอกวฒั นธรรมทางเพศได้ 4.บอกการวางตวั ต่อเพศเดยี วกนั และเพศตรงขา้ มได้ สาระการเรียนรู ้ ภาพลกั ษณ์ ชาย-หญิงทีส่ งั คมคาดหวงั 1.ภาพลกั ษณท์ ่สี ง่ ผลตอ่ ความรูส้ กึ และพฤติกรรม 2.คณุ ลกั ษณะของชายและหญงิ ท่สี งั คมคาดหวงั 3.วฒั นธรรมทางเพศ 4.การวางตวั ต่อเพศเดยี วกนั และเพศตรงขา้ ม กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สูก่ ารเรียน (เรอ่ื งที1่ ) 1.ครูวาดสญั ลกั ษณ์ดงั ตอ่ ไปน้บี นกระดาน FM 2.ครูถามนกั เรียนว่ารูปใดแสดงถงึ เพศใด หน้า 84 รหัสวิชา 20000-1602

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวิถศี กึ ษา 3.ครูสุ่มถามนกั เรยี นท่ลี ะคนว่า เมอ่ื นึกถงึ เพศชายและเพศหญิงนกั เรียนนกึ ถงึ อะไรบา้ ง 4.ครูทาผงั ความคดิ ไวบ้ นกระดาน ขน้ั สอน 5.ครูอธิบายเรอื่ งภาพลกั ษณท์ ่สี ง่ ผลตอ่ ความรูส้ กึ และพฤตกิ รรม 6.ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ งท่นี อกเหนอื จากในหนงั สอื 7.ครูเตมิ ผงั ความคดิ ใหส้ มบูรณ์ 8.ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี 14.1 เป็นการบา้ น ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรียน (เร่ืองที่ 2) 9.ครูถามนกั เรียนว่าคนเราทุกคนมคี วามชอบท่เี หมอื นกนั หรอื ไม่ 10.ครูถามนกั เรียนวา่ คณุ ธรรมของการอยู่ร่วมกนั คอื อะไร ขน้ั สอน 11.ครอู ธิบายเรื่องคณุ ลกั ษณะของชายและหญิงท่สี งั คมคาดหวงั 12.ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั อภปิ รายเพ่มิ เติม 13.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คูก่ นั ชาย-หญิง ทาใบงานท่ี 14.2 ใหน้ กั เรียนชายเขยี นคณุ ลกั ษณะของผหู้ ญงิ ทส่ี งั คม คาดหวงั และผหู้ ญงิ เขยี นคณุ ลกั ษณะของเพศชายท่สี งั คมคาดหวงั 14.ครูส่มุ เลอื กนกั เรยี นใหม้ าแสดงความคดิ เหน็ ขน้ั นาเขา้ สกู่ ารเรยี น (เรื่องที่ 3) 15.ครูเขยี นคาวา่ “สุภาพบรุ ุษ” และ “สภุ าพสตรี” ไวบ้ นกระดาน 16.ครูถามนกั เรยี นวา่ มวี ฒั นธรรมทางเพศทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ทงั้ 2 เพศน้อี ยา่ งไรบา้ ง ขน้ั สอน 17.ครอู ธบิ ายเรื่องวฒั นธรรมทางเพศ 18.ครอู ธิบายเร่อื งการวางตวั ตอ่ เพศเดยี วกนั และเพศตรงขา้ ม 19.ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 14.3 20.ครูใหน้ กั เรยี นจบั คูก่ นั เปรยี บเทยี บคาตอบ 21.ครูมอบหมายใบงานท่ี 14.4 ใหน้ กั เรียนไปทาเป็นการบา้ น ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ 22.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 23.ครเู ฉลยพรอ้ มนกั เรยี นทง้ั ชนั้ รหสั วิชา 20000-1602 หน้า 85

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาเพศวิถีศึกษา สอื่ และแหล่งเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ าเพศวถิ ศี กึ ษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรียนการสอน หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเชค็ รายชื่อ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วธิ วี ดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรยี บรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ ่าน 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจริง รหัสวชิ า 20000-1602 หน้า 86

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวถิ ีศกึ ษา กิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูแบง่ นกั เรยี นออกเป็น 4 กลมุ่ ทาโบชวั ร์ หรอื แผ่นพบั ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี 1.สุภาพบุรษุ เขาเป็นกนั อย่างไร 2.สภุ าพสตรีเขาเป็นกนั อยา่ งไร 3.การวางตวั ตอ่ เพศเดยี วกนั 4.การวางตวั ตอ่ เพศตรงขา้ ม รหัสวิชา 20000-1602 หน้า 87

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวถิ ีศกึ ษา บนั ทกึ หลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หนา้ 88

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาเพศวถิ ศี กึ ษา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 15 รหสั วชิ า 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั 17 ชื่อหน่วย การเลอื กใชแ้ หลง่ บรกิ ารทเ่ี ป็นมติ ร จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคดิ แหลง่ บริการช่วยเหลอื ท่เี ป็นมติ รตง้ั ข้นึ บริเวณโรงพยาบาลทุกระบบทง้ั ในกรงุ เทพมหานครและจงั หวดั ต่างๆ ใน รูปแบบของคลนิ กิ วยั รุ่น เพอ่ื ใหค้ วามรูค้ าแนะนาปรกึ ษาและบรกิ ารดูแลทางการแพทย์ เพอ่ื ใหว้ ยั ร่นุ สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มูล และบริการสขุ ภาพโดยไมม่ กี ารเสยี ค่าใชจ้ า่ ยโดยขอ้ มูลทกุ อยา่ งจะถอื เป็นความลบั ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวงั 1.บอกแหลง่ บริการชว่ ยเหลอื ท่เี ป็นมติ รได้ 2.บอกการเลอื กใชแ้ หล่งบริการชว่ ยเหลอื ท่เี ป็นมติ รในพ้นื ท่ไี ด้ สาระการเรียนรู ้ การเลอื กใชแ้ หล่งบริการช่วยเหลือทเ่ี ป็นมติ ร 1.แหลง่ บรกิ ารชว่ ยเหลอื ทเ่ี ป็นมติ ร 2.การเลอื กใชแ้ หลง่ บริการท่เี ป็นมติ รในพ้นื ท่ี กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สู่การเรียน (เรอ่ื งท1ี่ ) 1.ครูสมุ่ ถามนกั เรยี นว่ามใี ครรูจ้ กั คาว่า “แหล่งบรกิ ารช่วยเหลอื ท่เี ป็นมติ ร” บา้ ง 2.ครูถามนกั เรียนว่า หากนกั เรยี นมคี วามลบั ท่ไี มต่ อ้ งการใหค้ นใกลต้ วั รู้ นกั เรยี นจะเลอื กปรกึ ษากบั ใคร ขน้ั สอน 3.ครูอธิบายเรอ่ื งแหล่งบริการช่วยเหลอื ท่เี ป็นมติ ร 4.ครูอธิบายคาวา่ รูปแบบบรกิ ารทเ่ี ป็นมติ ร 5.ครูใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมตามใบงานท่ี 15.1 6.ครูอธิบายการเลอื กใชแ้ หล่งบริการทเ่ี ป็นมติ รในพ้นื ท่ี 7.ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่หรอื จบั กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน ทากจิ กรรมตามใบงานท่ี 15.2 ขน้ั สรุปและประยกุ ต์ 8.ครูใหน้ กั เรยี นทาคาถามทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ 9.ครูเฉลยพรอ้ มนกั เรยี นทง้ั ชน้ั รหสั วชิ า 20000-1602 หน้า 89

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวถิ ีศกึ ษา สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี นวชิ าเพศวถิ ศี ึกษา (Sexuality Education) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอนของครู 2.ใบเช็ครายชื่อ 3.แผนการจดั การเรยี นรู้ 4.ใบงานงานในหนงั สอื เรยี น การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ประเมนิ ความเรยี บรอ้ ยของใบงาน 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น 3.สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 2.ใบงานในหนงั สอื เรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้นึ ไป 3.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 4.เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ข้นึ ไป) รหสั วชิ า 20000-1602 หนา้ 90

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าเพศวิถีศกึ ษา 5.การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.สารวจลู่ทางการเปิดคลนิ ิควยั ร่นุ ในสถานศกึ ษาหรอื ในชมุ ชน รหัสวิชา 20000-1602 หนา้ 91

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวิถีศึกษา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรุปหลงั การสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาทพ่ี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… รหัสวชิ า 20000-1602 หนา้ 92

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวิถีศึกษา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ สอบปลายภาค รหสั วิชา 20000-1602 เพศวถิ ศี กึ ษา สอนครง้ั 18 ชื่อหน่วย สอบปลายภาค จานวน 1 ชวั่ โมง แนวคิด เพอ่ื วดั ความรูแ้ ละความเขา้ ใจตามผลการเรียนรูท้ ่ีคาดหวงั ในหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 9 – 15 ขอ้ สอบ วชิ า เพศวิถศี กึ ษา ชุดท่ี 2 คาช้ีแจง: 1 ขอ้ สอบมจี านวน 50 ขอ้ 2. ใหน้ กั เรียนเขยี นเครอื่ งหมาย X หนา้ ขอ้ ท่เี หน็ วา่ ถกู ตอ้ งท่สี ดุ เพยี งขอ้ เดยี วลงในกระดาษคาตอบ 3. สง่ กระดาษคาตอบพรอ้ มตน้ ฉบบั ขอ้ สอบ หา้ มนกั เรยี นนาขอ้ สอบออกนอกหอ้ งสอบ 24. วยั รนุ่ ควรศกึ ษาการเปลยี่ นของตนเองหรอื ไม่ ก. ควร เพราะวยั รนุ่ ตอ้ งทาความเขา้ ใจเพ่อื ใหเ้หมาะสมกบั การเขา้ สงั คม ข. ควร เพราะวยั รนุ่ ตอ้ งทาความเขา้ ใจเพอื่ ปฏบิ ตั ใิ หเ้ หมาะสมกบั การเปล่ยี นแปลง ค. ไมค่ วร เพราะการเปลย่ี นแปลงเป็นเรอื่ งธรรมชาติ ง. ไมค่ วร เพราะเป็นเร่อื งสว่ นตวั เป็นการเปลยี่ นแปลงเฉพาะตวั 25. การยดึ มนั่ ในความเป็นไทยไดส้ อนการวางตวั ของวยั รนุ่ ในขอ้ ใด ก. รกั ครอบครวั ข. สบื สานวฒั นธรรมไทย ค. การยบั ยง้ั ใจและประพฤติใหเ้ หมาะสม ง. ไมป่ ระพฤตผิ ดิ ตอ่ ศาสนา 26. ถา้ มปี ญั หาทางเพศควรปรกึ ษาผใู้ หญ่ เพราะเหตุใด ข. ช่วยแกป้ ญั หาตา่ งๆไดเ้ป็นอย่างดี ก. มปี ระสบการณ์มากกว่า และแนะนาไดด้ ี ง. เป็นผมู้ คี วามเชี่ยวชาญ ค. ไม่รูจ้ ะไปปรกึ ษาใคร 27. การวางความสมั พนั ธข์ องวยั รุน่ ควรเป็นไปอยา่ งไรจึงจะถูกตอ้ ง ก. การวางความสมั พนั ธ์ การรูจ้ กั โดยมขี อบเขตความเหมาะสม ข. การวางความสมั พนั ธ์ การยอมรบั ความเป็นไปทางธรรมชาติ ค. การวางความสมั พนั ธ์ โดยตระหนกั ถงึ ผลเสยี และปญั หามากมายเมอ่ื เกิดขอ้ ผดิ พลาด ง. ถูกทุกขอ้ 28. SEX DRIVE คอื อะไร ข. วยั ท่ตี อ้ งการความหว่ งใย ก. วยั ที่มีแรงขบั ทางเพศ ง. การมเี พศสมั พนั ธใ์ นวยั ทไ่ี มเ่ หมาะสม ค. วยั ทต่ี อ้ งการความรกั รหสั วิชา 20000-1602 หนา้ 93

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าเพศวถิ ีศึกษา 29. ขอ้ ใดอธิบายความหมายของการปฏสิ นธิไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ก. การเริม่ ตน้ ทม่ี นุษยไ์ ดล้ มื ตามองโลก ข. การเริม่ ตน้ ชวี ติ มนุษยไ์ ดเ้กดิ ข้นึ บนโลก ค. การเรมิ่ ตน้ ของปฏกิ ริ ยิ าในการตอบสนองของฝ่ายหญงิ และฝ่ายชาย ง. การเรม่ิ ตน้ ของชีวติ เน่ืองจากอสจุ ขิ องฝ่ ายชายผสมกบั ไข่ของฝ่ ายหญิง 30. การผสมระหวา่ งไขก่ บั ตวั อสุจิจะผสมพนั ธก์ นั ในบรเิ วณใดของรงั ไข่ ก. รงั ไข่ ข. มดลกู ค. ปีกมดลกู ง. ผนงั มดลกู 31. ขอ้ ใดเป็นกจิ กรรมท่สี รา้ งสรรคค์ วามรกั ของวยั รนุ่ ข. เลน่ คอมพวิ เตอร์ ก. เลน่ กีฬา ง. ใชส้ ารเสพติด ค. เล่นการพนนั 32. ขอ้ ใดคือผลกระทบของนกั ศึกษาจากการมเี พศสมั พนั ธก์ ่อนวยั อนั ควร ก. ทาใหเ้สยี การเรียน ข. ตงั้ ครรภ์ ค. เส่อื มเสยี ชอื่ เสยี ง ง. ถูกทกุ ขอ้ 33. ขอ้ ใดไม่ใช่ขอ้ แนะนาในเรอ่ื งความรกั ของวยั รนุ่ ข. ตอ้ งนาพากนั ทากจิ กรรมท่สี รา้ งสรรค์ ก. ตอ้ งประพฤตติ นใหเ้หมาะสม ง. เม่ือจะมเี พศสมั พนั ธค์ วรปรกึ ษาผมู้ ปี ระสบการณ์ ค. รกั ษาขนบธรรมเนยี มประเพณี ข. ค่าครองชพี สูงข้นึ 11. การตง้ั ครรภท์ ไ่ี มพ่ งึ ประสงคจ์ ะส่งผลต่อสงั คมอยา่ งไร ง. เดก็ ทเ่ี กดิ มาอาจเป็นเด็กทม่ี ปี ญั หา ก. อาชญากรรมเพ่มิ มากข้นึ ค. ประชากรเพม่ิ ข้นึ 12. ขอ้ ใดคือสาเหตุของการติดเอดสท์ ่แี ตกตา่ งจากขอ้ อ่ืน ก. ไม่ใส่ถงุ ยางอนามยั ข. มเี พศสมั พนั ธก์ บั หลายคน ค. การใชเ้ ข็มฉีดยาร่วมกบั ผอู้ น่ื ง. การเทย่ี วในสถานบนั เทงิ 13. หน่วยงานทใ่ี หค้ าปรึกษาเกี่ยวกบั โรคเอดสม์ หี ลายหน่วยงานยกเวน้ ขอ้ ใด ก. ศูนยอ์ นามยั ชมุ ชน ข. โรงพยาบาลเอกชน ค. สมาคมวางแผนครอบครวั ง. คลินิกเพอื่ นหญิงพลงั หญงิ 14. ปญั หาและผลกระทบจากการเกิดโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสะทอ้ นปญั หาในสงั คมยกเวน้ ขอ้ ใด ก. ปญั หาการขาดคณุ ธรรม และจรยิ ธรรม ข. ปญั หาครอบครวั ค. ปญั หาเดก็ กาพรา้ ง. ปญั หาคา่ นิยมที่ผดิ 15. พฤตกิ รรมใดท่เี ส่ยี งตอ่ การเกดิ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดสม์ ากท่สี ุด ก. การมเี พศสมั พนั ธก์ บั คนอน่ื ข. การด่ืมสรุ าและใชส้ ารเสพตดิ ค. การเทย่ี วเตรใ่ นสถานบนั เทงิ รหสั วิชา 20000-1602 หน้า 94

แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาเพศวถิ ีศึกษา ง. การไปใชบ้ รกิ ารจากหญิงขายบริการทางเพศโดยไมใ่ สถ่ งุ ยางอนามยั 16.ขอ้ ใดหมายถงึ การชงิ สุกกอ่ นห่าม ก. การนาผลไมด้ บิ มากิน ข. การมเี พศสมั พนั ธท์ ่คี วบคู่ไปกบั ความใคร่ ค. การมเี พศสมั พนั ธใ์ นวยั ทไ่ี ม่เหมาะสม ง. การมีเพศสมั พนั ธก์ ่อนวยั อนั สมควร ซึ่งผิดไปจากประเพณี 17. ส่งิ ใดทแ่ี สดงความแตกตา่ งระหวา่ งความรกั และความหลง ก. ระยะเวลา ข. ประสบการณ์ ค. วุฒิภาวะทางอารมณแ์ ละจิตใจ ง. ความปรารถนา 18. ขอ้ ใดไม่ใช่สาเหตทุ ่ตี อ้ งมกี ารศึกษาเรอ่ื งความรกั ของวยั รนุ่ ก. ลดปญั หาทางเพศของวยั รุ่น ข. แนะนาพฤตกิ รรมใหเ้หมาะสมกบั วยั ค. ลดปญั หาการตง้ั ครรภท์ ไ่ี มพ่ งึ ประสงค์ ง. เป็นการศกึ ษาในเรือ่ งการควบคุมประชากร 19. ถา้ ฝ่ายชายชวนฝ่ายหญงิ ไปเท่ยี วทะเลเพยี ง 2 คน ฝ่ายหญงิ ควรปฏเิ สธหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ก. ควรปฏเิ สธ เพราะอาจลวงไปขม่ ขนื ได้ ข. ควรปฏเิ สธ เพราะอาจประสบอบุ ตั ิเหตรุ ะหวา่ งเดินทางได้ ค. ไม่ปฏเิ สธ เพราะเป็นสง่ิ ทท่ี า้ ทาย ง. ไมป่ ฏเิ สธ เพราะชอบธรรมชาติ และอยากไปเท่ยี ว 20. คาวา่ “ผชู้ ายเป็นชา้ งเทา้ หนา้ ผหู้ ญงิ เป็นชา้ งเทา้ หลงั ” หมายถงึ ขอ้ ใด ก. ผชู้ ายตอ้ งเดนิ นาหนา้ ข. ผชู้ ายตอ้ งเป็นผนู้ าครอบครวั ค. ผชู้ ายเป็นผทู้ ่มี คี วามแขง็ แรงกวา่ ง. ผชู้ ายเป็นแนวหนา้ ผหู้ ญิงเป็นแนวหลงั 21. วธิ ปี ฏบิ ตั ติ นเพอ่ื หลกี เลยี่ งการมเี พศสมั พนั ธใ์ นขอ้ ใดดที ่สี ดุ ก. ตอ้ งใจแขง็ ข. ตอ้ งรเู้ท่าทนั ค. ตอ้ งรกั นวลสงวนตวั ง. ไมเ่ สพสารเสพติดและส่งิ มนึ เมา 22. ผชู้ ายถา้ ไม่ตอ้ งการใหผ้ หู้ ญิงมคี รรภค์ วรมวี ธิ ปี ้องกนั อยา่ งไร ก. กนิ ยาพารา ข. ใชถ้ งุ ยางอนามยั ค. กนิ ยาคุมกอ่ น 1 ชวั่ โมง ง. กินยานอนหลบั 23. ประจาเดอื นเกดิ ข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร ข. การตกไข่ ก. การช่วยเหลอื ตวั เอง ง. เจ็บหนา้ อก ค. การหลงั่ อสจุ ิ รหัสวชิ า 20000-1602 หนา้ 95

แผนการจัดการเรียนรู้ วชิ าเพศวิถศี กึ ษา 24. การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นจติ ใจและอารมณข์ องวยั รนุ่ ขอ้ ใดชดั เจนทส่ี ุด ก. มีความสนใจเพศตรงขา้ ม ข. มคี วามรกั ค. มคี วามโกรธ ง. มจี ติ ใจและอารมณท์ ่มี นั่ คง 25. คาวา่ “วฒั นธรรมทางเพศ” หมายถงึ อะไร ก. ระเบยี บทางสงั คม ข. การสบื ทอด ค. อทิ ธิพลตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศ ง. ศกั ดิ์ศรี 26. ในปจั จบุ นั การวางตวั ของวยั รุ่นท่มี ตี อ่ เพศตรงขา้ มขอ้ ใดนา่ เป็นหว่ งทส่ี ุด ก. ความอจิ ฉารษิ ยาแสดงออกมาเป็นการกระทา ข. การไมใ่ หเ้กียรตซิ ง่ึ กนั และกนั ค. การทผ่ี ชู้ ายไมป่ กป้องและชว่ ยเหลอื ผหู้ ญิง ง. ความสมั พนั ธท์ ี่เกินเลยจนถึงขน้ั มเี พศสมั พนั ธ์ 27. สาเหตขุ องการมคี ดีฆ่าข่มขนื บ่อยสาเหตุใดอาจเป็นเหตมุ ากทส่ี ดุ ก. การกลบั บา้ นดกึ ข. การด้อื กบั ผใู้ หญ่ ค. การใส่เส้อื ผา้ ง. การปลอ่ ยตวั 28. ขอ้ ใดเป็นพฤติกรรมทเ่ี ส่ยี งตอ่ การตง้ั ครรภท์ ไ่ี มพ่ งึ ประสงคม์ ากทส่ี ดุ ก. การยอมผชู้ ายโดยไม่ป้ องกนั ข. การยอมใหผ้ ชู้ ายล่วงลา้ เฉพาะภายนอก ค. รกั จนไม่ลมื หูลมื ตา ง. การคบคนเจา้ ชมู้ ากหนา้ หลายตา 29. การตงั้ ครรภเ์ กดิ ข้นึ ไดด้ ว้ ยวธิ ีใด ข. อสุจเิ ขา้ ไปผสมกบั รงั ไข่ ก. อสุจิเขา้ ไปผสมกบั ผนงั มดลูก ง. อสจุ ิเขา้ ไปตกี บั รงั ไข่ ค. อสุจเิ ขา้ ไปในปีกบนของผนงั 30. สอ่ื ชนิดใดทเ่ี ขา้ มามอี ทิ ธพิ ลยวั่ ยุและกระตนุ้ อารมณ์ทางเพศวยั ร่นุ มากทส่ี ุด ก. หนงั สอื โป๊ ข. วีซดี ีลามก ค. อินเทอรเ์ นต็ ง. หนงั สอื การต์ นู 31. สง่ิ ใดเป็นการส่งสญั ญาณของฝ่ายหญงิ ในการพรอ้ มของการตงั้ ครรภ์ ก. หนา้ อก ข. ประจาเดอื น ค. รูปร่าง ง. การเปลยี่ นแปลงของมดลกู 32. การวางตวั แบบใดเป็นการวางตวั ท่เี สย่ี งตอ่ การเกดิ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ ก. การวางตวั แบบเพ่อื น ข. การวางตวั แบบคนรกั ค. การวางตวั แบบคู่สมรส ง. การวางตวั แบบคู่ครอง 33. การวางตวั ตอ่ เพศตรงขา้ มขอ้ ใดน่าเป็นห่วงทส่ี ดุ ก. การไมใ่ หเ้กยี รติซ่งึ กนั และกนั ข. การทผ่ี ชู้ ายไม่ปกป้องและช่วยเหลอื ผหู้ ญิง ค. ความสมั พนั ธท์ เ่ี กินเลยจนถึงขน้ั มเี พศสมั พนั ธ์ ง. ความอจิ ฉารษิ ยากนั อยูใ่ นใจ รหสั วชิ า 20000-1602 หน้า 96