คหนรงั สปู ือชฐุดมวยั หวั ใจ แม พหอ อ งเแรียมน เลยี้ งลูกดีวิถีไทย โครงการสอ่ื สรางสรรคกเพอ่อืงทกานุ รพเรฒั ียนนารสูอ่อืยปา งลอองดคภรยัวแมล(ะหคส้อรรูหงาเัวงรใสยีจรในรหคพม อ่ ) แสมถ่าเบลันี้ยองาลศูกรดมวี ศิถิลีไปท ย 1
โครงการสอ่ื สร้างสรรค์เพอื่ การเรยี นรู้อยา่ งองคร์ วม (ครูหวั ใจใหม)่ โครงการความรว่ มมอื ระหวา่ งกองทนุ พฒั นาสอ่ื ปลอดภยั และสรา้ งสรรค์ และ สถาบนั อาศรมศลิ ป ์ ชื่อหนังสือ ห้องเรยี นพอ่ แม่ เลี้ยงลูกดวี ถิ ไี ทย จัดทำ� โดย ส�ำนกั พมิ พส์ านอักษร โรงเรยี นรงุ่ อรณุ บรรณาธกิ าร เกอ้ื กมล นยิ ม เร่ือง สว่ นส่อื สารองคก์ ร โรงเรียนรงุ่ อรณุ ขอ้ มลู นนั ทยิ า ตันศรเี จรญิ เรื่อง ภาพ สว่ นส่ือสารองค์กร โรงเรยี นรุ่งอรณุ ภาพถ่าย อรุณโรจน์ รตั นพันธ์ ภาพประกอบ ออกแบบจดั รูปเลม่ อรุณโรจน์ รัตนพันธ์ พิสจู น์อกั ษร ศิริลักษ์ พุทธโคตร เผยแพร ่ ตุลาคม ๒๕๖๑ ขอบคณุ ท่ปี รึกษาด้านข้อมูล • ครูสุนิสา ชน่ื เจริญสุข ผอู้ ำ� นวยการโรงเรียนรงุ่ อรณุ • คณะครอู นบุ าลและผ้ปู กครอง โรงเรยี นรุ่งอรุณ 2สงวนลหิข้อสงิทเรธีย์ิตนาพมอ่พแรมะร่ าเลชี้ยบงัญลญูกดัตีวิ ิถโดีไทยยกองทนุ พฒั นาส่ือปลอดภยั และสร้างสรรค์
หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เลี้ยงลกู ดวี ิถไี ทย 1
2 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดีวถิ ไี ทย
ค�ำน�ำ ช่วงปฐมวัย เป็นชว่ งวัยที่สำ� คัญของการบ่มเพาะ และวางรากฐานส�ำคัญ ของชีวิต ที่จะน�ำไปสู่การพฒั นาท้ังด้านกาย ใจ สตปิ ัญญา และสงั คมทีส่ มดุล กองทุนพัฒนาส่ือปลอดภัยและสร้างสรรค์เล็งเห็นถึงความส�ำคัญ ของการพัฒนาเด็กและเยาวชน ซ่ึงจะเกดิ ประสิทธภิ าพ และมคี ุณภาพไดก้ ็ต่อเมอ่ื มีผู้ใหญ่ที่แวดล้อมเดก็ ท้ัง พ่อ แม่ ครู เขา้ ใจในธรรมชาตเิ ดก็ อย่างแทจ้ ริง แล้วครู หรอื พ่อ แม่ ผูป้ กครอง ทำ� อะไรหรืออยา่ งไรได้บา้ ง? กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ยินดีและวางใจที่สถาบัน อาศรมศิลป์ ซ่ึงมีภาคีเครือข่ายการท�ำงานด้านการศึกษาอย่างยาวนาน รับผลิต หนังสือชุด “ครูปฐมวัยหัวใจแม่” ท้ัง ๗ เล่มน้ี พร้อมสื่อวีดิทัศน์อีก ๑๐ ตอน ควบคู่กันไป ซ่ึงเปรียบเสมือนคู่มือ ท่ีรวบรวมทั้งหลักการและวีธีการ เอาไว้ อย่างครบถ้วน ท�ำหน้าที่เป็นผู้ช่วย เพ่ือให้ผู้ใหญ่ได้น�ำไปใช้ได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และถกู ตอ้ งตามหลกั พฒั นาการเด็กปฐมวัย ซ่ึงหนังสือ ๗ เล่มน้ี ประกอบไปด้วย ชุดกิจวัตรประจ�ำวัน รากฐาน การงานที่ส�ำคัญเพื่อพัฒนาเด็ก (เล่ม ๑.แม่ครูพาท�ำงานครัว เล่ม ๒.แม่ครู พาท�ำงานบ้าน เล่ม ๓. แม่ครูพาท�ำงานสวน เล่ม ๔. แม่ครูพาคิดอ่านเขียน เล่ม ๕. แมค่ รพู าเล่น) ชดุ เพอ่ื พฒั นาครูและผู้ปกครอง (เลม่ ๖. หอ้ งเรยี นพ่อแม่ เลีย้ งลูกวิถีไทย และเล่ม ๗. แม่ครหู ัวใจใหม)่ หวังเป็นอย่างย่ิงว่าสื่อชุดน้ีจะช่วยให้สังคมตระหนักถึงความส�ำคัญ ของการดูแลเด็กตามพัฒนาการ และกระตุ้นให้ผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ตามวัยอย่างเป็นธรรมชาติ เรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง มีสุขภาพแข็งแรง มคี วามมน่ั คงทางอารมณ์ และจติ ใจ ขอขอบพระคณุ คณาจารย์ และผเู้ ชยี่ วชาญทกุ ทา่ นทถ่ี า่ ยทอดองคค์ วามรู้ สู่หนังสือชุดน้ี ขอบคุณภาคีเครือข่ายที่ร่วมแรงร่วมใจผลิตงานอันเป็นประโยชน์ ไมเ่ พยี งต่อวงการการศกึ ษา แตย่ งั เป็นประโยชน์ตอ่ สงั คมในวงกวา้ งอีกด้วย กองทนุ หพอ้ ฒั งเนรยีานสพือ่ ป่อแลมอ่ ดเลภยี้ ยั งแลลกู ดะสีวถิรไี้าทงยสรรค3์
4 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดีวถิ ไี ทย
ค�ำนำ� หนังสือครปู ฐมวยั ….หัวใจแม่ หลอมรวมการเรยี นรแู้ ละกิจวตั รการด�ำรง ชวี ติ เปน็ หนงึ่ เดยี ว ซง่ึ ตรงตามธรรมชาตขิ องหลกั การเรยี นรทู้ ว่ี า่ “ชวี ติ คอื การเรยี นรู้ และการเรยี นรคู้ ือชีวติ ” การจัดการเรียนรู้ด้วยวิถีนี้ เป็นการบูรณาการการเรียนรู้สาระวิชาต่างๆ และสมรรถนะท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับการเติบโตในวัยต่อมา และเป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียน สามารถด�ำรงความเป็นอยู่ด้วยการพ่ึงตนเองได้ ไม่ต้องเร่ิมต้นฝึกใหม่ ศักยภาพ ของนักการจัดการศึกษา ครู หรือ บุคลากรอ่ืนๆ ท่ีมีบทบาทการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมองเห็นการเรียนรู้ (Learning Visibility) และจัดโอกาสการเชื่อมโยง ประสบการณ์จากภาคปฏิบตั ิ การฟงั การพูด การอา่ น การเขียน และการบนั ทึก เรอื่ งราวทสี่ ามารถตอ่ ยอดจากเรอื่ งหนงึ่ ไปสอู่ กี เรอ่ื งหนง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ เสน้ สายทาง เดนิ ทางการเรยี นรู้ เกดิ ผลงานการบนั ทกึ หลากหลายอยา่ งเหมาะกบั พฒั นาตามวยั ของผู้เรียนในแต่ละระดับ เช่น ในระดับปฐมวัย ครูหรือผู้ใหญ่ที่ด�ำเนินกิจกรรม การเรยี นรู้ พาคดิ พาใครค่ รวญประสบการณต์ รงดา้ นตา่ งๆ ที่ไดล้ งมอื ปฏบิ ตั มิ าดว้ ย การพดู คุยบอกเลา่ แล้วเชอ่ื มเข้าสู่การวาดภาพ ผูใ้ หญ่ใจดีชว่ ยบนั ทึกสาระเนื้อหา ที่เด็กต้องการส่ือสาร เกิดแฟ้มผลงานที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามการรับรู้ และการนำ� เสนอของผูเ้ รยี นแต่ละคน สภาพการเรียนรู้ดังกล่าว เป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมพัฒนาการ ครบถว้ นทกุ ดา้ น และทง้ั ยงั สง่ เสรมิ พฒั นาการของสมองอยา่ งสมบรู ณ์ จดุ เชอื่ มโยง ของปลายประสาทเซลล์สมองแต่ละเซลล์ได้รับการกระตุ้นให้แข็งแรง ซ่ึงเป็น รากฐานสำ� คัญของพัฒนาสมรรถนะต่างๆ อยา่ งสมบูรณ์ สุจินดา ขจรรงุ่ ศลิ ป์ ผู้เช่ยี วชาญด้านการศึกษาปฐมวัย สถาบนั อาศรมศลิ ป์ หอ้ งเรยี นพ่อแม่ เลีย้ งลูกดีวถิ ไี ทย 5
6 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดีวถิ ไี ทย
สารบญั ๑ บทน�ำ ๙ ท�ำไมตอ้ งจัดห้องเรียนพอ่ แม่ ๑๐ ๒ บททำ� ๑๕ แนวทางการจัดหอ้ งเรยี นพอ่ แม ่ ๑๖ หลักสตู รหอ้ งเรยี นพอ่ แม่ : เลีย้ งลูกวิถีไทย ๑๘ แผนการจดั กิจกรรมหอ้ งเรียนพอ่ แม่ ตอน การงานกบั การเรียนร้ ู ๒๔ พอ่ แม่ได้เรยี นรอู้ ะไรในลานทราย ๒๖ โค้ชเห็นอะไร ๓๐ ๓ บทแมค่ ร ู ๓๓ ๗ หวั ใจโค้ช หวั ใจแมค่ ร ู ๓๔ ภาคีเครือขา่ ย ๔๐ ห้องเรียนพอ่ แม่ เล้ียงลกู ดวี ถิ ไี ทย 7
8 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดีวถิ ไี ทย
๑ บทนำ� หอ้ งเรียนพ่อแมส่ ำ�คัญอย่างไร จะดแี ค่ไหน ถา้ บ้าน และโรงเรียน ร่วมกนั สง่ เสริมพฒั นาการ ใหก้ บั เดก็ ไปในทิศทางเดยี วกนั ห้องเรยี นพ่อแม่ เล้ียงลูกดวี ถิ ไี ทย 9
ทำ� ไมตอ้ งจดั หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เพราะพ่อแม่คือกัลยาณมิตรคู่แรกของเด็ก ซ่ึงมีบทบาทส�ำคัญ ในการสง่ เสรมิ พฒั นาการของเดก็ อย่างเป็นองคร์ วม เด็กเปน็ ผล พ่อแมเ่ ปน็ เหตุ ปฐมวัยเป็นวัยที่ต้องอยู่กับพ่อแม่ นิสัย บุคลิก ท่าที และธรรมชาติการเรียนรู้ ของเด็กปฐมวัยจะได้รับการหล่อหลอมและซึมซับจากพ่อแม่เป็นหลัก เพราะเด็ก จะเปน็ อย่างท่ีเราเป็น มากกวา่ เปน็ อยา่ งท่เี ราบอกหรอื สอนใหเ้ ขาเปน็ เลน่ แล้วเกบ็ ด้วยสลิ กู พอ่ แม่เปน็ อย่างไร ลูกเป็นอยา่ งน้นั เสื้อผ้า ของคุณพ่อ กระเป๋า ของคณุ แม่ 10 ห้องเรยี นพอ่ แม่ เล้ียงลูกดีวถิ ไี ทย
หอ้ งเรียนพอ่ แม่ : เลย้ี งลกู ดวี ถิ ีไทย คอื โอกาสทพี่ อ่ แมจ่ ะไดม้ าเรยี นรู้ และเข้าใจธรรมชาติการเรียนรู้ของลูกปฐมวัย กระบวนการเรียนรู้ ส่ือ กิจกรรม และสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของลูกวัยนี้ เพ่ือใช้เวลาของตนอย่างมี “คุณภาพ” กับลูก อยากให้ลูกเป็นอย่างไร มีนิสัยเช่นไร ไม่อาจเกิดข้ึนได้จาก การบอกสอน แต่พ่อแม่ต้องเป็นให้เห็นและพาท�ำ ดังเช่นท่ีพ่อแม่ไทยสมัยก่อน สอนลกู ด้วยวถิ ีชีวติ และการงานในชีวติ ประจำ� วันอย่างเปน็ ธรรมชาติ การใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับลูก หมายถึงการท่ีพ่อแม่ใช้ช่วงเวลา ดงั กล่าวให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกนั กบั ลกู ได้ โดยไว้วางใจใหก้ ารเรียนร้นู ้นั ขบั เคลื่อน โดยลกู พอ่ แมล่ ดบทบาทการเปน็ ผกู้ ำ� กบั จดั แจง หรอื รบี ใหค้ ำ� ตอบเบด็ เสรจ็ สมบรู ณ์ ซง่ึ ในวถิ ีชีวิตประจำ� วันพ่อแม่มักเป็นเช่นนั้นด้วยความเคยชนิ หนูจะตกั ข้าว อุ้ย ร้อน ให้ทุกคนเองคะ่ ฮะฮะฮะ ขอบใจจ้ะ ลกู แมเ่ กง่ จรงิ ๆ พ่อจะกนิ ระหวอ้ งังรรเรูจ้้อียักนนดพว้ ่อยแม่ เล้ยี งลูกดวี ถิ ีไทย 11 ให้หมดเลย
12 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดวี ถิ ไี ทย
การจะให้พ่อแม่ละ ลด เลิกความห่วงกังวล และความต้องการ ของตนเอง จนกระท่ังก้าวออกจากความเเคยชินเดิมๆ ได้นั้น ไม่อาจเกิดข้ึนได้ จากการยื่นความรู้ส�ำเร็จรูปให้พ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นการบอกสอนและย่ืนเอกสาร ให้อ่าน แต่ต้องอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วม ให้พ่อแม่ได้ลงมือปฏิบัติเพื่อเรียนรู้ และเข้าใจด้วยตัวเอง โดยเฉพาะการเข้าใจธรรมชาติการเรียนรู้ของตนเอง มองเหน็ ตวั เอง รู้จักและเข้าใจตวั เองมากข้นึ เพราะ... • ถา้ พอ่ แม่เข้าใจตัวเอง กจ็ ะเขา้ ใจลูก และเข้าใจคนรอบขา้ ง • ถา้ พ่อแม่มองเหน็ ตัวเอง จะรูว้ า่ การจะปรบั เปลี่ยนลกู ไม่ใช่ปรบั ทีล่ ูก แตต่ อ้ ง ปรบั ที่ตัวเอง • ถ้าพ่อแม่เปลยี่ น ลูกจะเปล่ยี น การท�ำกิจกรรมร่วมกันในห้องเรียนพ่อแม่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง แม่ครกู ับพ่อแมผ่ ปู้ กครองและระหว่างเพื่อนผปู้ กครองดว้ ยกัน ดว้ ยความรู้สึกท่ีไว้ วางใจ เปน็ ชมุ ชนทสี่ ามารถพงึ่ พาอาศยั กนั ได้ โดยเฉพาะในเรอื่ งการเรยี นรขู้ องลกู ขณะเดียวกันยังเป็นส่ือช่วยแม่ครูส่ือสารกับพ่อแม่ถึงแนวทางการจัดการเรียน ของโรงเรียนที่เอื้อต่อธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็ก ในฐานะเพ่ือนร่วมเรียนรู้และ หุ้นส่วนคนส�ำคัญในการพัฒนาเด็กอย่างสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันทั้งท่ีบ้าน และท่ีโรงเรียน หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เลี้ยงลกู ดีวถิ ีไทย 13
14 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดวี ถิ ไี ทย
๒ บททำ� คงจะดีไมน่ ้อยหากพอ่ แม่เขา้ ใจตนเอง เข้าใจธรรมชาติของลูก และเขา้ ใจแนวทางของโรงเรยี น แล้วมีแนวทางใดบา้ ง ท่จี ะช่วยสรา้ งความเขา้ ใจเหลา่ น้ี หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เลีย้ งลูกดวี ถิ ีไทย 15
แนวทางการจดั หอ้ งเรียนพอ่ แม่ ๑. วางเป้าหมายให้ชัด “อยากให้พ่อแม่รู้อะไร” แล้วออกแบบกระบวนการ หรอื กจิ กรรมเพ่อื น�ำไปสู่การเรยี นรู้ในเร่ืองน้นั ๆ ๒. ใช้เครื่องมือการรับรู้ ได้แก่ การฟัง การใคร่ครวญ เพ่ือฝึกฝนตัวรู้ (สติ) ในตัวเอง ด้วยกิจกรรมท่ีส่งเสริมการฟังอย่างใคร่ครวญ การสะท้อนการเรียนรู้ ในกลมุ่ และการเขียนบันทึกความเขา้ ใจของตนเปน็ ระยะตลอดการอบรม ๓. พ่อแม่มีส่วนร่วมเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง เพ่ือให้เกิดความรู้และ ความเขา้ ใจดว้ ยตวั เองอยา่ งแทจ้ รงิ ดว้ ยกระบวนการใหค้ วามรคู้ วบคกู่ บั การทดลอง น�ำไปใช้ปฏบิ ตั กิ ับลูก บันทกึ การปฏิบัตแิ ละสะท้อนผลเปน็ ระยะ ๔. การฟังบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้านท่ีมีผลต่อพัฒนาการของเด็ก สูก่ ารประยกุ ต์ใชไ้ ดจ้ ริงในชวี ิตทั้งทีบ่ ้านและโรงเรยี น ๕. สร้างการเรยี นรแู้ บบกลุ่มเรียนรู้ (Group Learning) ดว้ ยการจัดวงสนทนา แลกเปลยี่ นเรยี นร/ู้ สะทอ้ นการเรยี นร/ู้ จดั การความรขู้ องกลมุ่ ทกุ ครงั้ หลงั จบกจิ กรรม โดยมีแม่ครูประจ�ำกลุ่มท�ำหน้าที่เป็นโค้ช หรือ Facilitator คอยต้ังคำ� ถามให้เกิด การแลกเปลี่ยนเรียนรใู้ นกลุ่ม เช่น จากกิจกรรมได้ท�ำอะไร รสู้ กึ อยา่ งไร ประทบั ใจ อะไร ไดเ้ รียนร้อู ะไร จะน�ำไปปรับใช้กบั ลกู และวถิ ชี วี ิตประจ�ำวันอย่างไร 16 ห้องเรียนพอ่ แม่ เลีย้ งลกู ดวี ถิ ไี ทย
“วงสะทอ้ นผลคือหัวใจ เป็นการกลน่ั สงิ่ ท่ที �ำออกมาเป็นค�ำพดู สง่ิ ทพ่ี ่อแม่ พดู ออกมาคอื สง่ิ ทเ่ี ขารบั รู้ ณ ตอนนน้ั เพอ่ื นคนอนื่ ในวงก็ไดเ้ หน็ แงม่ มุ ความคดิ ที่หลากหลาย เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน การพูดสะท้อนออกมาท�ำให้เรา เข้าใจตัวเองมากขึ้น ท่ีส�ำคัญคือเขาได้ละวางตัวตนของตัวเอง กล้าบอกเล่า ขอ้ ตดิ ขดั ของตวั เอง ใครทกี่ ลา้ สะทอ้ นความตดิ ขดั ของตวั เองออกมามากเทา่ ไร คือคนที่จะหลดุ ออกจากความติดขดั ไดม้ ากเทา่ นั้น” ครูเรวดี ดงุ ศรแี กว้ ครูใหญฝ่ า่ ยอนบุ าล โรงเรยี นรุ่งอรุณ ห้องเรยี นพอ่ แม่ เลย้ี งลกู ดีวถิ ไี ทย 17
หลกั สตู รหอ้ งเรียนพอ่ แม่ : เลย้ี งลกู ดวี ถิ ีไทย* ครงั้ ที่ หัวข้อ กจิ กรรม เปา้ หมาย ๑ ธรรมชาติ • พาลูกเข้ารว่ มกจิ กรรมวิถี รู้จกั ลูก ของเดก็ กจิ วตั รของหอ้ งเรยี น • สังเกตเหน็ ธรรมชาติ ปฐมวัย • สงั เกตและฟังลูกขณะ การเรยี นร้ขู องเดก็ ซึง่ มี (๓ ชัว่ โมง) ที่รว่ มกิจกรรม เพื่อเขา้ ใจ ความแตกตา่ งหลากหลาย และรูจ้ ักลกู อย่างแท้จรงิ • สงั เกตเหน็ ลกั ษณะเฉพาะตวั เขา้ ชว่ ยเหลอื ตามความจำ�เปน็ ตามธรรมชาติการเรยี นรู้ เพ่อื ให้การเรียนรขู้ องลูกเกดิ ของลกู ของตน จากการสงั เกต ขนึ้ ได้ด้วยตัวเอง ปฏสิ ัมพันธข์ องลกู กบั • สะท้อนการเรียนร้รู ว่ มกนั สถานการณ์ต่างๆ หลงั กจิ กรรม ๒ การงานกับ • แบ่งกลุ่มย่อยแล้วก่อ รจู้ กั ตนเอง การเรยี นรู้ กองทรายโดยไมพ่ ดู กนั • สงั เกตเหน็ ธรรมชาตขิ องตน (๓ ชวั่ โมง) เสรจ็ แลว้ นำ�เสนอความหมาย จากการลงมอื ทำ�งาน ยอมรบั ของกองทรายทกี่ ลุ่มชว่ ยกัน และจดั ปรับตนเอง พาตนเอง สรา้ งใหเ้ พอ่ื นกลมุ่ อน่ื ได้รู้ ก้าวพน้ ข้อจำ�กดั ต่างๆ • รวมกลมุ่ ใหญแ่ ลว้ ช่วยกัน • เขา้ ใจวถิ ีการเรียนรขู้ อง ขนทรายและเกล่ยี ลานทราย โรงเรยี น และกระบวนการ เพื่อทำ�ลานเลน่ ให้ลกู เรียนรูส้ มู่ ติ เิ ชงิ คุณคา่ จาก • ล้อมวงแลกเปล่ยี นเรียนรู/้ การทำ�งานและความสัมพันธ์ สะทอ้ นการเรยี นรใู้ นกลมุ่ ยอ่ ย ระหวา่ งตนเองกบั ผู้อ่ืน สงิ่ แวดลอ้ ม และสถานการณ์ ต่างๆ 18 ห้องเรยี นพ่อแม่ เลี้ยงลูกดวี ิถไี ทย
ครง้ั ท่ี หัวข้อ กจิ กรรม เปา้ หมาย ๓ วิถีการเรียนรู้ • แบง่ กลุ่มทำ�กิจกรรม ร้จู ักตนเอง ที่ ร่งุ อรณุ (เชา้ ) กิจกรรมแยกขยะ • เกดิ ความเขา้ ใจวถิ กี ารเรยี นรู้ (๖ ชวั่ โมง) (บ่าย) กิจกรรมเยบ็ ของโรงเรยี น และกระบวนการ ปลอกหมอน /ผ้าปทู น่ี อน เรียนรู้สูม่ ิติเชิงคุณคา่ สำ�หรบั ลูก จากความสมั พนั ธ์ระหว่าง • แลกเปล่ยี นเรยี นร้รู ่วม ตนเอง เพือ่ นผปู้ กครอง กับกล่มุ ของตนหลังจบ และส่ิงแวดลอ้ มและ แต่ละกิจกรรม เพื่อถา่ ยทอด สถานการณ์ต่างๆ และแบ่งปันการเรยี นรู้ • สงั เกตเหน็ ธรรมชาตขิ องตน จากการปฏิบตั กิ ิจกรรม จากการลงมือทำ�งาน ไดแ้ ก้ ปญั หาและจดั ปรับตนเอง พาตนเองกา้ วพน้ ขอ้ จำ�กดั ตา่ งๆ ๔ เลี้ยงลูกดี • แบง่ กลุ่มทำ�กจิ กรรมปน้ั ดนิ เข้าใจตนเอง วิถีไทย ในรูปแบบจรยิ ศลิ ป์ หรอื • เรียนรสู้ ภาวะของกายใจ (๖ ชว่ั โมง) ศลิ ปะเพือ่ การเรียนรแู้ ละ ของตน เขา้ ใจธรรมชาติ พฒั นาจรยิ ะของกายใจของตน ที่มคี วามแตกตา่ งของลกู ๆ โดยลดการพดู ใช้การสงั เกต ใส่ใจกบั กระบวนการในวถิ ี ด้วยอายตนะตา่ งๆ แลว้ ชวี ิตปจั จุบนั มากกวา่ จะมงุ่ สะท้อนการเรียนรู้ (เช้า) ไปทผ่ี ลสำ�เรจ็ ทคี่ าดการณ์ • รวมกลมุ่ ใหญท่ ำ�กจิ กรรม ไวล้ ว่ งหน้า และสามารถ การเรียนรโู้ ดยวิทยากร นำ�กจิ กรรมไปปรับใช้กับลกู ผู้เช่ียวชาญในการใช้ดนตรี ของตน พัฒนาเดก็ เล็กอยา่ งเปน็ องคร์ วม (บา่ ย) หอ้ งเรียนพ่อแม่ เล้ยี งลูกดวี ถิ ีไทย 19
ครั้งที่ หวั ข้อ กิจกรรม เปา้ หมาย ๕ ตง้ั เปา้ หมาย • แม่ครูบอกเลา่ หลักสตู ร การเรยี นรู้อยา่ งเปน็ องคร์ วม รว่ มกบั ครู การเรียนรใู้ นเทอมนัน้ ๆ ในระดับปฐมวัย (๓ ชั่วโมง) เช่น หวั ข้อการเรียนรู้ สอื่ • รูแ้ ละเขา้ ใจการจัด กิจกรรม เป้าหมาย การเรยี นรูข้ องโรงเรียน • แบง่ กลุ่มยอ่ ยตาม • ร่วมกนั ตั้งเป้าหมาย หอ้ งเรยี นลกู เพอ่ื ตง้ั เปา้ หมาย การเรียนรขู้ องลูกให้ การเรยี นรูข้ องลกู รว่ มกนั สอดคลอ้ งเปน็ ไปในทิศทาง เดียวกันท้งั ทบ่ี ้านและ โรงเรยี น ๖ เวลาคณุ ภาพ • ฟงั บรรยายเรอื่ ง “การใช้ สมั พนั ธภาพและการเรียนรู้ กบั ลกู เวลาคณุ ภาพกับลกู ” • เข้าใจแนวคดิ ของการใช้ (๖ ช่วั โมง) จากแพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญ เวลาคุณภาพกับลกู ดา้ นเดก็ ปฐมวัย • ตระหนักว่าเดก็ แต่ละคนมี • ถามขอ้ สงสยั และแลก ธรรมชาติและพัฒนาการ เปลี่ยนเรยี นร้กู บั วิทยากร ทแ่ี ตกตา่ งกนั ไมค่ วรใชเ้ ทคนคิ • นำ�ความรู้ความเขา้ ใจไป วิธกี ารเฉพาะโดยไมค่ ำ�นึง ปรับใชก้ ับลูกในวิถชี วี ิต แลว้ ตวั ตนของเดก็ เขียนบันทกึ เพ่ือนำ�มาแลก • สามารถสรา้ งปฏสิ ัมพันธ์ เปลีย่ นเรียนรใู้ นครง้ั ตอ่ ไป ท่ีมีความ “พอเหมาะ พอดี” 20 หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เลี้ยงลกู ดีวถิ ไี ทย
ครง้ั ท่ี หัวข้อ กจิ กรรม เป้าหมาย ๗ เก็บดอกผล • แยกกลมุ่ ยอ่ ยสรปุ การ ถอดบทเรยี น การเรยี นรู้ เรียนรูใ้ นหอ้ งเรียน “จากการ • ทบทวนการเรยี นรู้ของ (๓ ช่วั โมง) อบรมทีผ่ า่ นมาทั้ง ๖ ครงั้ ตนเอง และเรียนรเู้ ทคนิค/ ได้นำ�สิง่ ใดไปใชบ้ า้ ง วธิ ีการจากเพอื่ นผ้ปู กครอง /ผลเปน็ อย่างไร” คนอืน่ • ตัวแทนกลมุ่ ย่อยนำ�เสนอ การเรียนรใู้ นกลมุ่ ใหญ่ * หมายเหตุ: หลักสูตรห้องเรียนพ่อแม่ เล้ียงลูกดีวิถีไทย ส�ำหรับผู้ปกครองชั้นอนุบาล ๑ โรงเรยี นรงุ่ อรณุ กรุงเทพมหานคร จำ� นวน ๓๐ ชั่วโมง โดยสามารถจัดปรับกจิ กรรมให้สอดคลอ้ ง กบั บรบิ ทของแต่ละโรงเรียน ห้องเรยี นพ่อแม่ เลย้ี งลกู ดีวิถไี ทย 21
ครั้งท่ี ๑ รจู้ ักลูก ธรรมชาตขิ องเด็กปฐมวัย คร้งั ที่ ๒ การงานกับการเรียนรู้ รจู้ ักตนเอง หลักสตู ร เข้าใจวิถกี ารเรยี นรู้ของโรงเรียน ห้องเรียนพ่อแม่ : เลย้ี งลกู ดวี ถิ ีไทย ครง้ั ที่ ๓ คร้งั ท่ี ๔ วิถีการเรยี นรู้ท่ี เล้ยี งลกู ดวี ถิ ไี ทย รงุ่ อรณุ ร้จู ักตนเอง เรียนรู้สภาวะกาย ใจของตนเอง เข้าใจวิถีการเรียนรู้ เขา้ ใจธรรมชาติที่มคี วามแตกตา่ งของลกู ของโรงเรยี น ใส่ใจกบั กระบวนการ มากกวา่ จะมุ่งไปทผ่ี ลส�ำเร็จ 22 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เลย้ี งลูกดวี ถิ ีไทย
ครงั้ ท่ี ๕ เขา้ ใจการเรียนร้อู ย่างเป็นองค์รวม ต้ังเป้าหมายรว่ มกับครู ในระดับปฐมวัย พ่อแม่และครูเข้าใจตรงกัน ตัง้ เป้าหมายร่วมกนั ครงั้ ท่ี ๖ สมั พนั ธภาพและการเรยี นรู้ เวลาคุณภาพกบั ลกู เข้าใจธรรมชาตแิ ละพัฒนาการของเดก็ ได้แนวคดิ ในการใช้เวลากบั ลกู อยา่ งมคี ณุ ภาพ สร้างปฏสิ ัมพันธท์ พ่ี อเหมาะ พอดี คร้ังที่ ๗ ถอดบทเรียน ทบทวนการเรยี นรขู้ องตนเอง เกบ็ ดอกผลการเรยี นรู้ และเรียนร้เู ทคนคิ /วธิ กี าร จากเพ่ือนผูป้ กครองคนอนื่ ห้องเรียนพอ่ แม่ เลย้ี งลกู ดีวถิ ีไทย 23
แผนการจดั กจิ กรรมหอ้ งเรียนพอ่ แม่ ตอน การงานกบั การเรียนรู้ ห้องเรยี นพอ่ แม่ เลยี้ งลูกดวี ิถไี ทย : การงานกบั การเรยี นรู้ สาระสำ�คญั เบ้อื งหลงั กจิ กรรม เปา้ หมายในใจแม่ครู วิถีการเรียนรู้ที่โรงเรียนรุ่งอรุณเกิดข้ึนจากการที่เด็ก • พ่อแม่สังเกตเห็นธรรมชาติของตน ครู พ่อแม่ ได้สัมผสั และสมั พนั ธก์ ับสงิ่ แวดล้อมที่ จากการลงมอื ทำ�งาน ยอมรับและ เป็นธรรมชาติ วัตถสุ ่งิ ของ การงานตา่ งๆ ในชีวิต จัดปรบั ตนเอง พาตนเองกา้ วพน้ ประจำ�วนั และผคู้ นรอบข้าง ดว้ ยทา่ ทีของผู้เรียนรทู้ ี่ ขอ้ จำ�กดั ตา่ งๆ สามารถ “เอาดเี ป็น” จากเรอื่ งใกล้ตวั และการเรียน รรู้ ่วมกนั เปน็ ทมี • พ่อแม่เข้าใจวิถีการเรียนรู้ของ โรงเรียน เขา้ ใจกระบวนการเรยี นรู้ ผู้เรียนได้เรียนรู้ศักยภาพของตนเองการทำ�การงาน สู่มิติเชิงคุณค่าจากการทำ�งานและ ต่างๆ โดยใชผ้ สั สะท้งั ๖ (ตา หู จมูก ลิน้ กาย ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับผู้ ใจ) พาตนเองก้าวออกมาสู่การลงมือปฏบิ ตั ิ โดยไม่ อื่น สิ่งแวดลอ้ ม และสถานการณ์ ผ่านกระบวนการคดิ วางแผน ออกจากความเคยชนิ ตา่ งๆ เดิม เช่น การสนทนาพูดคยุ อยา่ งเผลอเพลนิ ขณะทำ� กจิ การงานเบ้อื งหน้า ซ่ึงการงดเวน้ การสนทนากันนกี้ ็ เพ่ือใหผ้ ู้เรียนได้กลับมาเรียนรู้กาย-ใจของตนเอง นำ� ไปส่กู ารเรยี นรู้ “ธรรมชาตภิ ายใน” คือ ความร้สู ึก นึกคิดของตน ซ่งึ เกดิ ขึ้นและเปล่ียนแปลงอยู่ตลอด เวลาเม่ือเผชิญกับสถานการณต์ ่างๆ สภาวะของการทำ�งานอย่างใส่ใจเช่นนี้ก่อให้เกิดการ เรียนร้ทู ่ีจะอดใจตนเอง วางใจผูอ้ น่ื จัดปรบั และทำ� หนา้ ท่ขี องตนอยา่ งเปน็ ธรรมชาติ ทำ�งานเป็นทีม อย่างสอดคล้องและมีประสิทธภิ าพ 24 ห้องเรียนพ่อแม่ เลี้ยงลกู ดวี ิถไี ทย
อปุ กรณ์/สถานที่ กจิ กรรม • ลานทรายในโรงเรียนที่ทรายเร่ิมบาง กจิ กรรมที่ ๑ เน่ืองจากการใชง้ าน • ชวนยืดเสน้ ยดื สายใหพ้ ่อแมไ่ ด้ออกกำ�ลัง สรา้ ง • ทรายปริมาณมากพอสำ�หรับถมลาน ความต่นื ตวั และสร้างความคุ้นเคยระหวา่ งกนั ไดท้ ัว่ โดยกองไว้มมุ ใดมุมหนงึ่ ของ กจิ กรรมที่ ๒ ลาน • พ่อแม่แบ่งกลุ่มย่อยแล้วก่อกองทรายโดยมีกติกา • อุปกรณ์สำ�หรับตัก-ขน-เกล่ียทราย ว่า “ไม่พดู กัน” เชน่ พล่ัว จอบ กระสอบ ถงั หม้อ/ • แมค่ รูประจำ�กลุ่มคอยสงั เกตการณ์ กระทะท่ีไม่ใช้แลว้ • ตัวแทนกลุ่มนำ�เสนอความหมายของกองทรายท่ี กลมุ่ ช่วยกันสร้างให้เพื่อนกลุ่มอ่ืนไดฟ้ ัง กจิ กรรมที่ ๓ • รวมกลุ่มใหญ่แล้วช่วยกันทลายกองทรายที่เพิ่ง ช่วยกนั สร้างกอ่ นหนา้ นี้ ขนทรายท่กี องอยูม่ ุม ลานมาถมให้ทั่วลานทราย เกลี่ยทรายให้เรยี บ เสมอจนทั่วลาน • ล้อมวงแลกเปล่ียนเรียนรู้และสะท้อนการเรียนรู้ ในกลุ่มยอ่ ย โดยมแี ม่ครปู ระจำ�กลมุ่ ทำ�หน้าทน่ี ำ� การสนทนา ตงั้ คำ�ถาม ฟังอยา่ งเป็นกลาง และ ตั้งคำ�ถามต่อเพื่อให้พ่อแม่สะท้อนการเรียนรู้ของ ตนเองให้ชัด ตัวอย่างคำ�ถาม • กจิ กรรมทผี่ ่านมาเราได้ทำ�อะไรบ้าง • เราประทบั ใจเร่ืองอะไรบา้ ง • เราไดเ้ รียนรู้กบั เร่ืองทปี่ ระทับใจนน้ั อยา่ งไร หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดวี ถิ ไี ทย 25
พ่อแมไ่ ด้เรียนร้อู ะไรในลานทราย 26 ห้องเรยี นพ่อแม่ เลย้ี งลกู ดวี ถิ ีไทย
“ตอนแรกเราคาดหวังอะไรทีม่ ันดี สมบรู ณ์แบบ มนั รู้สกึ กดดนั มากเลยนะ จะท�ำอย่างไรดี เราคุยกันไม่ได้เลย แล้วจะออกมาเป็นอย่างไร แต่พอเราลด การคาดหวงั โอเค คนนเี้ อานม่ี าหนอ่ ย คนนนั้ มาเตมิ นดิ หนง่ึ จนออกมาเปน็ ชน้ิ งาน ออกมาเป็นเร่ืองราว เราพบว่าความคาดหวังไม่จ�ำเป็นเลย มันก็จบด้วยงาน ทส่ี มบูรณ์ สมบูรณเ์ พราะเราไม่ได้คาดหวงั เหมอื นกบั การเลยี้ งลูก เราตอ้ งลด ความคาดหวงั ” คณุ พอ่ น้องอนุบาล ๑ หอ้ งเรยี นพ่อแม่ เล้ียงลูกดวี ถิ ไี ทย 27
“ตอนแรกพอครบู อกวา่ ไม่ใหพ้ ดู เรารสู้ ึก อ้าว แลว้ เราจะรู้ได้อยา่ งไร วา่ ใครจะทำ� อะไร พอเสรจ็ แลว้ เรามาคดิ ไดว้ า่ บางทเี วลาทเี่ ราพดู เราพน่ ความคดิ ของตัวเองออกไป แต่ว่าไม่ได้ฟังคนอ่ืนเลย คนอื่นพูดอะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ว่า ฉันอยากพูด แต่พอครูไม่ให้พูด มันเลยต้องหยุด แล้วมอง มองว่าคนอื่น เขาท�ำอะไรกัน พอเราไม่พดู เราก็ไม่ไดค้ ิดเยอะ แลว้ ท�ำเลย ออ๋ เขาน่าจะทำ� กำ� แพงกนั นะ ทรายยงั ไม่พอ เราก็ไปขนมา กช็ ่วยกันท�ำจนงานเสร็จ” คุณแมน่ อ้ งอนุบาล ๑ 28 ห้องเรยี นพ่อแม่ เลย้ี งลกู ดวี ถิ ีไทย
“ปกตเิ ราอยู่บ้าน เราเป็นเถา้ แกค่ น เราจะส่ังคนอย่างเดยี ว ทำ� สิ แลว้ เรา ก็คอยอยู่ในห้องแอร์ หรือดูอยู่ห่างๆ แต่วันน้ีไม่ใช่แล้ว เราต้องลงมือท�ำ คำ� ถามแรกทค่ี ดิ ขนึ้ มาในหวั คอื เราเหมอื นมาท�ำงานใหโ้ รงเรยี น คณุ ครอู ยากให้ เราขนทรายมาให้รึเปล่า แต่ท�ำไปสักระยะหน่ึงเรารู้แล้ว เราเห็นรอยย้ิม เราเหน็ เหง่อื เราเหน็ คุณครูมาท�ำ เรากร็ ูส้ กึ วา่ เฮย้ ทรายมนั มีคุณคา่ มากกว่า น้ัน แล้วเราก็ปล่อยวางความเป็นเถ้าแก่ลงไป มาทำ� จับเคร่ืองไม้เครื่องมือ รู้สึกดีครับ สุดท้ายผลงานมันก็เกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องมีคนสั่งก็ได้ แต่ทุกคน ร่วมทำ� ในสง่ิ เดยี วกัน” คุณพอ่ น้องอนุบาล ๑ ห้องเรยี นพอ่ แม่ เลยี้ งลกู ดวี ถิ ีไทย 29
โคช้ เหน็ อะไร “ขนทรายเป็นงานท่ีเหนอื่ ย พอคนเราเหนือ่ ย เราจะเจอภาวะข้างในตนเอง การงานตรงนี้เป็นสื่อให้พ่อแม่เรียนรู้ข้างในตัวเอง บางคนเกิดค�ำถามในใจ ท�ำทำ� ไม ไมอ่ ยากทำ� แต่ในระหว่างน้นั มอื เรายงั ทำ� อยู่ เราเห็นคนอ่ืนทำ� แล้ว เราก็ค่อยๆ เปลี่ยน เป็นการเรียนรู้ที่ไม่ต้องบอก แต่ตัวงานจะสอนคนทำ� เอง รวมทงั้ เพอ่ื นร่วมงานท่ีช่วยให้เราเปลยี่ น เพราะถา้ เราขนทรายคนเดียว เราคงจะพักหรือหยุดไปแล้ว แต่พอมีคนอ่ืนท�ำด้วย ก็เกิดเป็นแรงให้ เราพยายามท�ำต่อ พอเราท�ำต่อ เราจะผ่านจุดที่รู้สึกว่าเราไม่ไหวไปเอง พอ่ แมห่ ลายคนทำ� งานเปน็ หวั หนา้ ไมเ่ คยทำ� งานแบบนี้ พอมาทำ� งานทตี่ อ้ งใช้ ร่างกาย ใชแ้ รง และใจ ไมต่ อ้ งพยายามคิดออกแบบอะไร ทำ� ไปตรงๆ ทำ� ให้ เขารจู้ กั และเขา้ ใจตวั เองมากขนึ้ เราเชอื่ วา่ ถา้ เขาเขา้ ใจตวั เอง เขาจะเขา้ ใจลกู และเข้าใจคนรอบข้างได้” ครจู ินตนา นำ� ศริ ิโยธนิ ผู้ช่วยครูใหญฝ่ ่ายอนบุ าล โรงเรยี นรุง่ อรุณ 30 ห้องเรียนพ่อแม่ เลย้ี งลูกดีวถิ ไี ทย
“การงานทีต่ ้องลงมอื ทำ� ท�ำร่วมกัน และทำ� บนสถานการณจ์ รงิ จะทำ� ให้ คนท�ำเห็นอะไรบางอย่างในตัวเอง เป้าหมายในใจเราคือให้พ่อแม่เห็นว่า เขาทำ� เองได้ เปลี่ยนจากการพึ่งพาคนอื่นมาเป็นลงมอื ทำ� ดว้ ยตัวเอง เราเชื่อ ว่ามนุษย์ทุกคนเป็นผู้ที่พัฒนาได้ มนุษย์เราท�ำได้ทุกอย่าง อยู่ได้ทุกท่ี ถ้าพ่อแม่เข้าใจแบบนี้ เขาจะเลี้ยงลกู ง่ายขึน้ ลูกเขาจะไมก่ ลายเปน็ คนพเิ ศษ ไปไหนใครกต็ อ้ งดแู ล ลกู จะอยแู่ บบธรรมดาได้ กนิ งา่ ยอยงู่ า่ ย ใชช้ วี ติ งา่ ยๆ ได”้ ครูเรวดี ดุงศรีแก้ว ครูใหญ่ฝา่ ยอนุบาล โรงเรยี นร่งุ อรณุ ห้องเรียนพ่อแม่ เล้ยี งลูกดีวถิ ไี ทย 31
32 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดวี ถิ ไี ทย
๓ บทแมค่ รู แมค่ รตู ้องใช้หวั ใจแบบใด ในการจัดกิจกรรม “ห้องเรียนพอ่ แม”่ หอ้ งเรียนพ่อแม่ เลี้ยงลกู ดีวิถไี ทย 33
๗ หัวใจโคช้ หัวใจแมค่ รู แม่ครูคือหุ้นส่วนและเพ่ือนร่วมเรียนรู้คนส�ำคัญของพ่อแม่ ในการส่งเสริม พัฒนาการของเด็กปฐมวัยอย่างเป็นองค์รวม แม่ครูจึงมีบทบาทสำ� คัญในการจัด และด�ำเนินการอบรมหอ้ งเรยี นพอ่ แม่ นัน่ คอื บทบาทของโค้ช หรอื Facilitator 34 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เลีย้ งลูกดีวถิ ีไทย
๑. ๒. เชื่อมัน่ และศรทั ธาว่าคนทุกคน เปน็ แบบอยา่ งท่นี ่าเคารพและไว้ เรยี นรไู้ ด้ ไม่วา่ จะเดก็ พ่อแม่ วางใจ อยากใหเ้ ดก็ และพ่อแมเ่ ปน็ เพอื่ นครู และผู้คนที่เราสมั ผสั เชน่ ไร แม่ครตู ้องเปน็ เชน่ นัน้ กอ่ น สัมพนั ธด์ ว้ ย ๓. ๗ หวั ใจโคช้ วางจติ วางใจเปน็ อดใจ-ยบั ยง้ั ใจ หวั ใจแม่ครู ท่ีจะไม่รบี สอนหรอื บอก ความรสู้ ำ� เร็จรปู ๔. ๕. เปดิ พ้ืนท่กี ารลองผิดลองถกู ที่พอ่ แม่ และแมค่ รจู ะไดเ้ รียนรู้ไปด้วยกนั รู้จักสังเกตและ ฟังเป็น ฟงั ด้วยใจ ๖. เปน็ กลาง ไมต่ ัดสนิ ยอมรบั ทุกความคดิ ตั้งค�ำถามเป็นล�ำดับ ไม่จูโ่ จม จากคำ� ถามงา่ ยๆ เป็นรปู ธรรม (กจิ กรรม ความเห็น ทผี่ า่ นมาเราได้ทำ� อะไรบา้ ง) ไปสคู่ �ำถามท่ี ชวนทบทวนการเรียนรู้ในใจตนเอง เชน่ ๗. ร้สู กึ อย่างไร ประทับใจอะไร ไดเ้ รยี นรูอ้ ะไร นงั่ ในใจผ้ปู กครอง เปน็ เพือ่ นร่วมเรยี นรู้ ไปกบั พ่อแมอ่ ยา่ งเท่าเทยี ม ห้องเรยี นพ่อแม่ เล้ยี งลูกดวี ิถไี ทย 35
“ครูต้องเชื่อว่าพ่อแม่เรียนรู้ได้ สิ่งส�ำคัญท่ีโค้ชจะต้องถ่ายทอดออกไปก็คือ จติ วญิ ญาณของโคช้ จติ วญิ ญาณของแมค่ รู เราไม่ไดม้ หี นา้ ทเี่ อาความรใู้ ดๆ ไปยนื่ ให้พ่อแม่ส�ำเร็จรูป แต่เราจะต้องถอดรหัสว่าคนจะเรียนรู้ได้อย่างไร คนเรียนรู้ จากการปฏิบัติ เราก็ออกแบบกิจกรรมให้พ่อแม่ได้ลงมือปฏิบัติ ใส่รหัสแล้วว่า จะเกิดการเรียนรู้เร่ืองอะไรจากกิจกรรมนี้ พ่อแม่ที่ท�ำกิจกรรมเขาจะถอดรหัสได้ เอง ท�ำแล้วก็ต้องให้เขาสะท้อนออกมา พูดคนเดียวอาจจะยังไม่ได้เรียนรู้มาก เพียงแต่ได้ยินเสียงตัวเอง แล้วคนอ่ืนเขาเรียนรู้เหมือนเราไหมในเรื่องเดียวกัน อาจจะเหมอื นหรอื ไมเ่ หมอื นก็ได้ การเหมอื นกค็ อื การไดย้ นิ อกี รอบหนงึ่ การไมเ่ หมอื น ก็ไดเ้ พม่ิ เติมสิ่งต่างๆ นี่คอื กลมุ่ เรียนร้กู ารสะท้อนรว่ มกนั Share and Learn” ครสู ุนสิ า ชน่ื เจริญสขุ ผอู้ �ำนวยการโรงเรียนร่งุ อรณุ 36 หอ้ งเรยี นพ่อแม่ เลย้ี งลูกดวี ถิ ีไทย
“วนั นน้ั ฝนตก(ขณะทำ� กจิ กรรมกลางลานทราย) บางคนเลอื กทำ� ตอ่ บางคนกลวั จะเป็นหวัดก็หลบเข้าไปพัก แต่พอเห็นเพื่อนยังท�ำต่อ หลายคนก็ออกมาท�ำต่อ กา้ วขา้ มความตดิ ขดั ในใจของตวั เอง แตบ่ างคนไมพ่ รอ้ ม รสู้ กึ ไมส่ บาย กพ็ กั ก็ไมเ่ ปน็ ไร เราต้องให้พื้นท่ีปลอดภัยส�ำหรับทุกคน ดูแลใจซ่ึงกันและกัน เพราะเราไม่ใช่ โรงงานนรกท่ีต้องเกณฑ์ทุกคนมาท�ำด้วยกัน นั่นไม่ใช่การท�ำงานเพ่ือการพัฒนา ตวั เอง ครง้ั นเี้ ขาไมพ่ รอ้ ม ครงั้ หนา้ เขาอาจจะพรอ้ มก็ได้ เราตอ้ งใหเ้ วลา ใหโ้ อกาส แลว้ ก็วางใจเฉยๆ ทำ� งานของเราไป” ครเู รวดี ดงุ ศรแี กว้ ครูใหญฝ่ ่ายอนบุ าล โรงเรียนรุ่งอรณุ หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เลยี้ งลูกดวี ถิ ีไทย 37
“ครูต้องเปิดใจยอมรับความแตกต่างกันของแต่ละคน คนไหนฟังแล้ว อืม ใช่ ก็เก็บไว้ในใจ คนไหนฟังแล้ว น่าจะยังไม่ใช่ เราก็ให้กำ� ลังใจ ยอมรับ เท่าๆ กัน เข้าใจว่าเขาก�ำลังเรียนรู้อยู่ พอท�ำเร่ือยๆ เขาจะค่อยๆ เรียนรู้ เพ่ิม หรือโน้ตไว้ในใจว่าคนนี้ยังไม่เข้าใจ แล้วค่อยหาวิธีท�ำให้เขาเข้าใจต่อไป ส่ิงส�ำคญั คอื ครตู อ้ งไม่ตัดสิน ต้องเป็นกลาง ยอมรบั ทุกค�ำตอบ และระมดั ระวงั ไม่ใช้บทบาทครูมากเกินไป เพราะว่าถ้าเราเผลอเพียงนิดเดียว เผลอตัดสิน เผลอบอก เราจะไมร่ แู้ ลว้ วา่ เขาคดิ อยา่ งไร กลายเปน็ วา่ พอ่ แมจ่ ะรอค�ำตอบจากเรา” ครจู นิ ตนา นำ� ศิริโยธนิ ผูช้ ่วยครูใหญฝ่ า่ ยอนุบาล โรงเรยี นรุ่งอรณุ 38 ห้องเรยี นพอ่ แม่ เล้ียงลกู ดีวิถไี ทย
หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เลี้ยงลกู ดวี ิถไี ทย 39
ภาคีเครือขา่ ย • โรงเรยี นรงุ่ อรุณ โทร ๐-๒๘๗๐-๗๕๑๒-๓ โทรสาร ๐-๒๘๗๐-๗๕๑๔ https://www.roong-aroon.ac.th/ https://www.facebook.com/roongaroonschool • อนุบาลบา้ นรกั โทร ๐-๒๓๙๒-๘๘๐๗ https://www.facebook.com/Anubarnbaanrak/ • มลู นธิ ิสนามเดก็ เลน่ สรา้ งปญั ญา https://www.facebook.com/wisdom.playground.foundation/ • โครงการพฒั นาศูนย์เดก็ เลก็ โดยหลกั สตู รศกึ ษาศาสตร์ สถาบันอาศรมศิลป์ โทร ๐-๒๔๙๐-๔๗๔๘-๕๔ www.arsomsilp.ac.th • สำ�นักพมิ พ์สานอักษร https://www.facebook.com/saanaksornbook/ 40 หอ้ งเรียนพอ่ แม่ เล้ยี งลกู ดีวถิ ีไทย
หอ้ งเรยี นพอ่ แม่ เลี้ยงลกู ดวี ิถไี ทย 41
โครงการสื่อสรา งสรรค เพื่อการเรียนรูอยา งองคร วม ˤหนÑÇÃงั ãส»Ù¨ือช°ดุáÁÁÇÑ‹ ดาวนโหลดหนังสือ และรบั ชมวิดิที ัศน www.holisticteacher.net ชดุ วดิ ที ัศนสอื่ สรา งสรรค 42 หอ้ งเรยีAกาrนsรoศพmึกอ่ษsiาแlpอมงCค่hรเaวลnมn้ยี e(งlคลรหู กู วั ดใจีวใหิถมีไ)ทย
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: