Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore idplan แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ

idplan แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ

Published by โสภาพรรณ ชายแก้ว, 2021-09-12 11:46:37

Description: idplan แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ

Search

Read the Text Version

แผนพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ (Individual Development Plan-ID Plan) กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ โดย นางสาวโสภาพรรณ ชายแกว้ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวรนารเี ฉลิม จงั หวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาสงขลา สตลู สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คำนำ ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว22/2560) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยให้ประเมินตนเองตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี ตามแบบท่ี ส่วนราชการกำหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเปน็ ระบบ และต่อเนื่อง ฉะนั้นก่อนจะเลือกหลกั สตู ร คูปอง ครูจะต้องประเมนิ ตนเอง จัดทำแผนพฒั นาตนเอง เพ่ือให้ผูบ้ ริหารอนุมัตหิ ลักสตู ร ตาม ID Plan สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาครูแบบครบวงจร ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการในการปฏิรูประบบการพัฒนาครู เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาทรัพยากร บคุ คลอย่างมีระบบ และมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด สอดคล้องกบั ยุทธศาสตรช์ าตริ ะยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) นางสาวโสภาพรรณ ชายแก้ว พฤษภาคม 2564

สารบญั เรื่อง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข ส่วนท่ี 1 ข้อมูลส่วนบคุ คล 1 1.1 วิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ทท่ี ำการสอน 1 1.2 จำนวนช่ัวโมงการปฏบิ ัตงิ าน 2 1.3 ผลทีเ่ กิดจากการจัดการเรียนรู้ 2 1.4 ผลทีเ่ กิดจากการพัฒนาวิชาการ 2 1.5 ผลทเ่ี กิดกบั ผู้เรียน 3 1.6 ผลทเ่ี กดิ กับสถานศึกษา 3 1.7 ผลทเี่ กดิ กับชุมชน 3 ส่วนท่ี 2 ผลการประเมนิ ตนเอง 4 2.1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. 4 - ด้านความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ัติงานในหนา้ ท่ี 4 - ดา้ นทักษะการปฏบิ ตั ิงาน 5 - ดา้ นความเปน็ ครู 6 7 2.2 ผลการประเมินศกั ยภาพของผเู้ รยี นในสถานศึกษาตามจุดเนน้ ของ สพฐ. 8 2.3 ผลการประเมินศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคิดของหลกั สตู รสถาบันครุ พุ ฒั นา 9 2.4 สรุปผลการประเมินตนเอง 11 ส่วนที่ 3 แผนการพัฒนาตนเอง 11 3.1 อนั ดบั ความสำคญั /สมรรถนะท่ีจะพัฒนา 11 3.2 วธิ กี าร/รปู แบบการพัฒนา 11 3.3 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ 12 3.4 ประวัตกิ ารเข้ารับการพฒั นา (ในรอบ 3 ปีท่ีผา่ นมา) 14 ส่วนท่ี 4 ความต้องการในการพัฒนา 14 4.1 หลักสูตรใดที่ท่านต้องการพฒั นา 14 4.2 เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเข้ารบั การพัฒนาในหลักสูตรน้ี 14 4.3 ทา่ นคาดหวังสิง่ ใดจากการเขา้ รบั การพัฒนาในหลกั สูตรน้ี 14 4.4 ท่านจะนำความรู้จากหลักสตู รไปพฒั นาการสอนของท่านอย่างไร

บันทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นวรนารเี ฉลมิ จงั หวัดสงขลา ที่ วนั ท่ี พฤษภาคม 2564 เร่ือง ขออนมุ ตั ิแผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู (Individual Development Plan : ID Plan) เรยี น ผู้อำนวยการโรงเรยี นวรนารเี ฉลิม จงั หวดั สงขลา ตามที่โรงเรียนได้มอบหมายให้คณะครูทุกคนจัดทำแผนพัฒนาตนเอง (Individual Development Plan : ID Plan) เพื่อให้เกิดการวางแผนในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดผลดีแก่ตนเอง และราชการ และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ บัดน้ี ข้าพเจ้า นางสาวโสภาพรรณ ชายแก้ว ตำแหน่งครู ได้จัดทำแผนพัฒนาตนเองของขา้ ราชการครู (Individual Development Plan : ID Plan) ประจำปีการศกึ ษา 2564 เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดดังแนบ จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดพจิ ารณา (ลงช่ือ)........................................................................ (นางสาวโสภาพรรณ ชายแก้ว) ตำแหนง่ ครู ความเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................. ............................. .................................................................................................... .......................................................................... (ลงชื่อ)........................................................................ (นางสฐุ ิยา เพชรวงษ)์ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ความเห็นของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงชื่อ)........................................................................ (นายนพดล หมดิ ทองคำ) รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ ความเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (ลงช่ือ)........................................................................ (นายอนันต์ ผุดเกต)ุ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวรนารเี ฉลมิ จงั หวัดสงขลา

ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลสว่ นบคุ คล 1. ข้อมูลส่วนตวั ชื่อ นางสาวโสภาพรรณ ช่ือสกลุ ชายแก้ว ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ - วุฒิการศกึ ษา  ปริญญาตรี หรอื เทยี บเท่า วชิ าเอก/สาขาคณติ ศาสตร์  ปริญญาโท หรอื เทียบเท่า วชิ าเอก/สาขา..........................................................................................  ปรญิ ญาเอก หรือเทียบเท่า วิชาเอก/สาขา..........................................................................................  อื่นๆ (โปรดระบ)ุ ................................................................................................................................ ..... เขา้ รับราชการวนั ท่ี 2 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2558 สังกัด สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล สำนักคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ อายุราชการจนถึงปัจจุบัน 5 ปี 10 เดอื น เงินเดอื น 21,360 ขน้ั - อตั ราเงนิ เดอื น - บาท สถานทท่ี ำงาน 1. สถานศกึ ษา/หนว่ ยงาน โรงเรียนวรนารเี ฉลิม จังหวัดสงขลา 2. วชิ า/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรูท้ ี่ทำการสอน ภาคเรียนที่ 1 1. รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ รหสั วิชา ค 32201 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 16 คาบ/สัปดาห์ คิดเป็น 266.67 ชั่วโมง / ภาคเรยี น กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น 1. กิจกรรมชมุ นมุ คิดเลขเรว็ ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์ คิดเป็น 16.67 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น 2. กจิ กรรมลกู เสือ – เนตรนารี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์ คดิ เปน็ 16.67 ช่ัวโมง/ภาคเรียน

2 ชวั่ โมง 3. จำนวนชวั่ โมงการปฏิบตั งิ าน 3.1 ชวั่ โมงสอนตามตารางสอน ช่ัวโมง 3.2 ชวั่ โมงสนบั สนุนการเรยี นรู้ ชว่ั โมง 3.3 ช่วั โมงการมีสว่ นร่วมในชมุ ชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC) 3.4 ชั่วโมงงานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น ชัว่ โมง 4. ผลงาน ทเี่ กิดจากการปฏิบตั หิ น้าทีใ่ นตำแหน่งปจั จุบัน (ย้อนหลัง 4 ปี) 1. ผลทเ่ี กิดจากการจดั การเรยี นรู้ 1.1 มแี ผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตรเ์ พิ่มเติม ทีม่ ีการวิเคราะหห์ ลกั สูตรสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด และผลการเรยี นรู้ อย่างถกู ต้อง 1.2 มีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยเน้นให้ผูเ้ รียนได้ปฏิบัติกจิ กรรม (Active Learning) โดยเนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั ด้วยกิจกรรมทหี่ ลากหลายและสอดคล้องกับธรรมชาติวิชาคณิตศาสตร์ 1.3 มีแนวทางในการบรหิ ารจัดการชัน้ เรียนและจดั บรรยากาศในช้นั เรียนที่เหมาะสมและช่วย สง่ เสริมการเรียนรขู้ องนกั เรยี น และมรี ะบบดแู ลช่วยเหลอื ผเู้ รียนท่ีมคี ุณภาพ 1.4 มีเคร่ืองมอื การวัดและประเมินผลทม่ี ีคุณภาพ ผา่ นการหาคณุ ภาพเครื่องมอื วัดผลเบ้ืองตน้ และมีความหลากหลายในการประเมนิ อย่างรอบด้าน ทง้ั ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ และดา้ น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รวมไปถึงสมรรถนะท่สี ำคัญของผูเ้ รยี น และเนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง 1.5 มีการแก้ปัญหาในชั้นเรยี นด้วยกระบวนการวิจยั ในช้นั เรียน โดยเน้นปญั หาท่พี บเจอจากการจัด กิจกรรมการเรยี นรู้ หรือปัญหาจากการเรยี นรู้ของนักเรยี น 1.6 มสี อื่ นวตั กรรมการเรยี นรู้ และแหลง่ การเรยี นสำหรบั ใช้ประกอบการจดั การเรยี นรู้ และให้ นักเรียนไวส้ บื ค้นเพิม่ เติม เช่น เอกสารประกอบการเรยี น ส่ือสไลด์ คลิปวิดโี อ และเวบ็ ไซตร์ ายวชิ าคณิตศาสตร์ เพิม่ เติม และนำเทคโนโลยีทางการศึกษาเขา้ มาปรับใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 2. ผลท่ีเกดิ จากการพัฒนาวิชาการ 2.1 มกี ิจกรรมทสี่ ง่ เสรมิ ให้นักเรียนไดใ้ ชค้ วามคดิ และการแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ เชน่ ค่ายคณติ ศาสตร์ วันรกั คณิตศาสตร์ ซง่ึ เป็นกิจกรรมจัดข้นึ เพอ่ื ให้นักเรยี นไดเ้ สริมทักษะทางคณิตศาสตร์ 2.2 มกี ิจกรรมบรู ณาการเนื้อหาในห้องเรยี นกับกิจกรรมบอร์ดเสริมความร้หู นา้ หอ้ งเรยี น ประจำเดอื น ซงึ่ เป็นการบรู ณการเนือ้ หาในหอ้ งเรียนผา่ นกิจกรรมเกมคณิตศาสตร์ตา่ ง ๆ 2.3 มกี ิจกรรมค่ายคณติ ศาสตร์ Math Day Camp ของนกั เรียนระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 เพอื่ เปน็ การสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรยี นคณติ ศาสตร์ และใหน้ กั เรียนตระหนักถึงความสำคัญของวิชาคณิตศาสตรแ์ ละ นำมาประยุกตใ์ ชใ้ นการดำเนินชวี ิตประจำวนั 2.4 ครมู ีความรู้ความเข้าใจในการนำกระบวนการ PLC เข้ามาใช้ในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น

3 3. ผลที่เกดิ กับผเู้ รยี น 3.1 นกั เรียนมีผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นตามเกณฑ์ท่กี ำหนด และไมม่ นี กั เรยี นท่ีมีผลการเรียนเปน็ 0, ร และ มส. 3.2 นักเรยี นมรี ะดับทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์ท่ีครูผสู้ อนกำหนดไว้ 3.3 นักเรยี นมรี ะดับคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผ่านทเ่ี กณฑท์ ่ีครูผสู้ อนกำหนดไว้ 3.4 นักเรยี นมีช้นิ งาน/ผลงาน ท่สี ะทอ้ นความคิดขั้นสูง เช่น การคิดวิเคราะห์ การสงั เคราะห์ การประเมินคา่ และความคดิ สรา้ งสรรคช์ นั้ งาน โดยใชค้ วามรู้และเน้ือหาทางคณติ ศาสตร์ 3.5 นกั เรียนได้รับรางวลั ระดับเหรียญทองและเกยี รติบัตรเข้ารว่ มในการแขง่ ขนั ทกั ษะวชิ าการเนื่อง ในงานศลิ ปหตั กรรมนักเรยี น ระดบั สหวทิ ยาเขต 3.6 นักเรียนสามารถค้นควา้ หาความรู้จากแหล่งเรยี นรู้ทคี่ รูไดร้ วบรวมและแนะนำใหไ้ ด้อย่าง ถูกต้อง และนักเรยี นมีความพึงพอใจต่อแหล่งเรียนรทู้ ี่ครสู ร้างขน้ึ หรือรวบรวมไว้ 4. ผลท่ีเกิดกับสถานศึกษา 4.1 โรงเรียนมีบคุ ลากรที่มีความพร้อมในการสง่ เสรมิ พัฒนาผเู้ รียนในการจดั การเรียนรู้ 4.2 บุคลากรของโรงเรียนไดร้ ับรางวัลจากการนำเสนอผลงานเพื่อขอรับรางวัลทรงคุณค่าสพฐ. (obec awards) ในระดับเขตพื้นท่ี 4.3 โรงเรียนไดร้ บั การยอมรบั จากภายนอกเก่ียวกับการบริหารงานด้วยระบบคุณภาพ (OBECQA) 4.4 มีบรรยากาศทง้ั ภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอ้ือต่อการเรยี นรูข้ องครแู ละนักเรียน 4.5 มีระบบการทำงานท่ีเป็นทมี และมีแนวทางการทำงานทเี่ ป็นข้นั ตอนชดั เจน 4.6 มีแนวทางด้านเอกสาร และการเตรยี มความพร้อมในการประเมินเพือ่ ขอมีและเลื่อนวทิ ยฐานะ ของครู 4.7 มีการนเิ ทศตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ านของครูทำใหก้ ารปฏบิ ัตงิ านมีความสมบรู ณ์ และเป็นไป ตามเวลาท่กี ำหนด 4.8 การพฒั นางานมรี ะบบถูกตอ้ งและครบวงจร 4.9 มีเครือข่ายระดับโรงเรียนในการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี นด้วยกระบวนการ PLC 5. ผลทเี่ กดิ กับชุมชน 5.1 เกดิ ความสมั พันธท์ ดี่ ีกับผู้ปกครองนกั เรยี น และชุมชน 5.2 มีกจิ กรรมทางสงั คมในดา้ นต่างๆ รว่ มกับชมุ ชนอย่างสม่ำเสมอ 5.3 เป็นแหลง่ เรยี นรู้ที่สามารถใหบ้ ุคคลภายนอกเข้ามาศกึ ษาได้ 5.4 นักเรยี นได้บำเพ็ญประโยชน์ หรือทำกิจกรรมรว่ มกบั ชุมชน เพอื่ ให้นักเรียนเกิดความตระหนกั ในการพัฒนาชุมชนท่นี กั เรยี นอาศยั อยู่

4 ระดบั ความรู้ น้อย มมี าก ปานกลาง (1) ส่วนที่ 2 (3) (2) ผลการประเมนิ ตนเอง ✓ ✓ ตอนที่ 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ด้านท่ี 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ัตงิ านในหนา้ ที่ ✓ ✓ รายการพจิ ารณาตนเอง ✓ 1. เน้อื หาในรายวิชา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ที่สอน 2. วธิ ีสอน ถา่ ยทอดความรู้เชิงเนอ้ื หา กจิ กรรม บริบท เป้าหมาย ✓ การเรยี นรู้ ความรู้พ้ืนฐาน การปรบั พ้นื ฐาน และอปุ สรรคการเรยี นรู้ ของผู้เรียน ✓ 3. หลกั การสอน และกระบวนการเรียนรู้ ✓ 4. หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมนิ และแนวทาง ✓ การเรียนรู้ในแต่ละเนอื้ หา 12 10 5. พนื้ ฐานการศึกษา หลักการศกึ ษา ปรชั ญาการศึกษา จติ วิทยา 22/อยใู่ นระดบั มาก สังคม นโยบายการศึกษา จุดม่งุ หมายการจดั การศึกษาต้ังแต่ระดับ ชาตจิ นถงึ ระดบั หลักสูตร 6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองตอ่ ความหลาก หลายของผูเ้ รยี น 7. ทฤษฎีการเรียนรู้ และจิตวทิ ยาการเรยี นรู้ 8. การใชเ้ ทคโนโลยี และสื่อนวตั กรรมเพื่อการเรยี นรู้ 9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รวม คะแนนรวม/แปลผล เกณฑ์ คะแนน 9 – 15 ระดบั ความรู้น้อย คะแนน 16 – 21 ระดับความรู้ปานกลาง คะแนน 22 – 27 ระดบั ความรู้มาก จากผลการประเมนิ พบว่า ความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ตั ิงานในหนา้ ท่ี โดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเปน็ รายขอ้ พบว่า ควรได้รับการส่งเสรมิ ด้านหลักสตู ร การออกแบบ วางแผนการใช้ และการประเมิน การใชห้ ลักสตู ร พ้นื ฐานการศึกษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวทิ ยา สังคม นโยบายการศึกษา จุดมุ่งหมาย การจัดการศกึ ษาตง้ั แต่ระดบั ชาติจนถงึ ระดับหลักสตู ร ทฤษฎีการเรยี นร้แู ละจติ วทิ ยาการเรียนรู้ การใชเ้ ทคโนโลยี และสอื่ นวัตกรรมเพ่ือการเรียนรู้ และการวดั ประเมินผลการเรียนรู้

5 ด้านที่ 2 ทักษะการปฏบิ ตั ิงาน ระดับความสามารถ รายการพิจารณาตนเอง ทำได้ดี พอใช้ ไม่คอ่ ยไดท้ ำ (3) (2) (1) 1. การสรา้ งและหรือพฒั นาหลักสูตร ✓ 2. การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ 3. การจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ ✓ 4. กลยทุ ธใ์ นการจัดการเรียนรู้ 5. การพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น (ผลสัมฤทธิ์ คณุ ลักษณะ สมรรถนะ) ✓ 6. การสร้างและการพัฒนาสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศกึ ษา และแหลง่ เรียนรู้ ✓ 7. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 8. การวิจัยเพอ่ื พฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน ✓ รวม ✓ คะแนนรวม/การแปลผล ✓ ✓ 15 6 21/อยู่ในระดับมาก เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดบั ทักษะนอ้ ย คะแนน 14 – 19 ระดบั ทกั ษะปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดับทักษะมาก จากผลการประเมิน พบว่า ทักษะการปฏบิ ตั งิ าน โดยรวมอย่ใู นระดบั มาก เม่ือพจิ ารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ ควรได้รับการสง่ เสรมิ ความรใู้ นเรอื่ งของการใชก้ ลยุทธ์ในการจดั การเรียนรู้ เพื่อสง่ เสรมิ ให้นักเรยี นได้รบั การพัฒนา ด้วยกระบวนการที่หลากหลายและเน้นใหผ้ เู้ รยี นได้ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเรยี นรู้ มากกวา่ การที่ครูเปน็ ผบู้ อกความรู้ ให้กบั ผ้เู รียน และพฒั นาการสรา้ งส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศกึ ษา และแหลง่ เรียนรู้ให้มากขึน้ และสอดคลอ้ ง กบั มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั หรอื ผลการเรียนรู้ และการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

6 ด้านท่ี 3 ความเปน็ ครู ระดับความเป็นครู รายการพจิ ารณาตนเอง สูงมาก ปานกลาง ยังต้อง (3) (2) ปรับปรงุ (1) 1. ยึดมน่ั ผกู พนั ศรทั ธาในวิชาชีพ และทุ่มเทเพ่อื การเรยี นรู้ของ ✓ ผู้เรียน 2. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอยา่ งที่ดแี กผ่ เู้ รยี น ✓ ท้งั กาย วาจา และจิตใจ ดำรงตนให้เปน็ ทเ่ี คารพ ศรัทธาและ น่าเชือ่ ถอื ทัง้ ใน และนอกสถานศกึ ษา ✓ 3. ปฏบิ ตั ิตนตามจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู ✓ 4. มวี นิ ัยและการรกั ษาวนิ ัย ✓ 5. เป็นบคุ คลแหง่ การเรยี นรู้ ปรับปรุง และพัฒนาตนเองอยา่ ง ต่อเนื่อง ให้มคี วามรู้ความชำนาญในวชิ าชพี เพิม่ ข้นึ ✓ 6. ปฏบิ ตั ิตนโดยนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้ ✓ 7. มที ัศนคติท่ดี ีต่อบ้านเมือง ✓ 8. มุง่ ประโยชนส์ ว่ นร่วมในการพฒั นาคณุ ภาพทางการศึกษา 24 รวม 24/อย่ใู นระดบั มาก คะแนนรวม/การแปลผล เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับความเปน็ ครนู อ้ ย คะแนน 14 – 19 ระดบั ความเป็นครูปานกลาง คะแนน 20 – 24 ระดบั ความเป็นครมู าก จากผลการประเมนิ พบว่า ความเปน็ ครู โดยรวมอยใู่ นระดับสูงมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ทุกประเดน็ มีระดับคะแนนท่ีแสดงถึงความเปน็ ครูอยูใ่ นระดบั มาก

7 ตอนท่ี 2 ผลการประเมินศักยภาพของผ้เู รียนในสถานศกึ ษาตามจุดเน้นของ สพฐ. ระดบั ศกั ยภาพ รายการศกั ยภาพของผเู้ รียนในสถานศกึ ษาตามจุดเนน้ ของ สพฐ. สงู มาก ปานกลาง ยังตอ้ ง (3) (2) ปรบั ปรุง (1) 1. ดา้ นอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคลอ่ ง ✓ 2. ด้านคิดเลขเป็น คิดเลขคล่อง ✓ 3. ดา้ นการคิดขนั้ พืน้ ฐาน ✓ 4. ด้านการคดิ ข้นั สงู ✓ 5. ด้านการสือ่ สารอย่างสรา้ งสรรคต์ ามชว่ งวยั ✓ 6. ดา้ นการใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) ✓ 7. ด้านการใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ ✓ 8. ดา้ นการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง ✓ 9. ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ ✓ 10. ดา้ นใฝด่ ี ✓ 11. ด้านทกั ษะชวี ติ ✓ 12. ดา้ นการอยู่อยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่นั ในการศึกษาและการทำงาน ✓ รวม 12 16 คะแนนรวม/การแปลผล 28/อยูใ่ นระดบั ปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 12 – 20 ระดบั ศกั ยภาพนอ้ ย คะแนน 21 – 28 ระดบั ศักยภาพปานกลาง คะแนน 29 – 36 ระดบั ศกั ยภาพสงู มาก จากผลการประเมนิ พบว่า ระดับศักยภาพของผูเ้ รยี นในสถานศกึ ษาตามจดุ เนน้ ของ สพฐ. โดยรวมอยู่ใน ระดับปานกลาง เมอ่ื พิจารณาเป็นรายขอ้ พบวา่ ด้านทตี่ ้องได้รบั การพฒั นา ซงึ่ มีระดบั ศักยภาพอยู่ในระดับปาน กลาง คือ ดา้ นการคิดขน้ั สงู ด้านการใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) ด้านอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี น คลอ่ ง ดา้ นคดิ เลขเป็น คิดเลขคลอ่ ง ดา้ นการใช้เทคโนโลยเี พ่อื การเรยี นรู้ ด้านการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองด้าน ใฝ่เรียนรู้ และดา้ นทักษะชีวติ ทจี่ ะต้องได้รบั การสง่ เสริมในลำดบั ตอ่ มา

8 ตอนท่ี 3 ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลกั สูตรของสถาบนั ครุ ุพัฒนา ระดบั ศกั ยภาพ รายการศักยภาพของผูเ้ รยี นตามจดุ เนน้ สงู มาก ปานกลาง ยงั ตอ้ ง (3) (2) ปรบั ปรงุ (1) 1. การสอนในศตวรรษที่ 21 ✓ 2. การแกป้ ญั หาผเู้ รยี น ✓ 3. จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ✓ 4. การจัดการช้ันเรยี น ✓ 5. การวิจยั 6. การพฒั นาหลกั สตู ร ✓ 7. สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) ✓ 8. การใชส้ ือ่ และเทคโนโลยใี นการจดั การเรียนรู้ 9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ✓ 10. การออกแบบการเรียนรู้ ✓ ✓ รวม ✓ 9 12 1 คะแนนรวม/การแปลผล 22/อยู่ในระดับปานกลาง เกณฑ์ คะแนน 10 – 16 ระดับศาสตรก์ ารสอนน้อย คะแนน 17 – 23 ระดบั ศาสตรก์ ารสอนปานกลาง คะแนน 24 – 30 ระดับศาสตรก์ ารสอนสงู มาก จากผลการประเมิน พบวา่ ระดับศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสตู รของสถาบันคุรุพฒั นา โดยรวมอย่ใู นระดับปานกลาง เมอื่ พิจารณาเป็นรายข้อ พบวา่ ดา้ นทต่ี อ้ งไดร้ บั การปรบั ปรุง คือ สะเต็มศึกษา (STEM Education) และระดบั ศาสตร์การสอน ปานกลาง คือ การสอนในศตวรรษที่ 21 การวิจยั การพฒั นา หลกั สูตร การใช้สอื่ และเทคโนโลยีในการจดั การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และการออกแบบการ เรียนรู้

9 สรปุ ผลการประเมินตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ด้านท่ี 1 ความร้คู วามสามารถในการปฏบิ ัติงานในหน้าท่ี ควรได้รับการสง่ เสริมความรู้ในด้านเนื้อหา รายวชิ า หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ และการประเมนิ การใช้หลักสตู ร พน้ื ฐานการศึกษา หลักการศึกษา ปรัชญาการศกึ ษา จติ วิทยาสังคม นโยบายการศึกษา จุดม่งุ หมายการจดั การศึกษาตั้งแตร่ ะดับชาตจิ นถงึ ระดบั หลกั สูตร ทฤษฎีการเรยี นร้แู ละจติ วทิ ยาการเรียนรู้ การใชเ้ ทคโนโลยี และสอ่ื นวัตกรรมเพอ่ื การเรยี นรู้ และการวัด ประเมินผลการเรียนรู้ ด้านท่ี 2 ทกั ษะการปฏบิ ตั ิงาน ควรไดร้ ับการสง่ เสริมความรใู้ นเรือ่ งของการใช้กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ พัฒนาการสร้างส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหลง่ เรยี นรู้ ด้านที่ 3 ความเป็นครู ปฏิบัตหิ น้าที่ได้ในระดบั สูงมาก ตอนท่ี 2 ผลการประเมินศักยภาพของผ้เู รยี นในสถานศกึ ษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. ระดับศกั ยภาพของผูเ้ รียนในสถานศึกษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. ด้านท่ีต้องได้รบั การพัฒนา คือ ดา้ นการ คิดขน้ั สูง และดา้ นการใช้ภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ) ด้านอา่ นออก อ่านคลอ่ ง เขยี นได้ เขียนคล่อง ดา้ นคิด เลขเป็น คดิ เลขคล่อง ด้านการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื การเรียนรู้ ด้านการแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเองดา้ นใฝ่เรียนรู้ และ ด้านทักษะชวี ติ ตอนท่ี 3 ผลการประเมินศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลกั สตู รของสถาบนั คุรุพัฒนา ระดบั ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสตู รของสถาบันครุ พุ ัฒนา ดา้ นท่ีต้องไดร้ บั การ ปรบั ปรุง คือ สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) เพ่ือนำความร้ทู างคณิตศาสตรไ์ ปเชื่อมโยงกับศาสตร์อื่นๆ เชน่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รวมไปถึงการใช้กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตรม์ าชว่ ยแก้ปัญหาในสถานการณต์ า่ งๆ หรือสรา้ งนวตั กรรมการเรยี นรู้ขึ้น

10 สว่ นท่ี 3 แผนการพัฒนาตนเอง 1. อนั ดับความสำคัญ/สมรรถนะทีจ่ ะพัฒนา (ใหใ้ สห่ มายเลขเรียงลำดับความสำคญั ของสมรรถนะทจี่ ะพัฒนา) ( 4 ) การสอนในศตวรรษท่ี 21 ( 5 ) การแกป้ ญั หาผเู้ รยี น ( 8 ) จิตวทิ ยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ( 9 ) การจัดการชน้ั เรยี น ( 2 ) การวจิ ัยพฒั นาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (10) การพฒั นาหลักสตู ร ( 7 ) สะเต็มศึกษา (STEM Education) ( 1 ) การใช้ส่ือและเทคโนโลยใี นการจัดการเรียนรู้ ( 6 ) การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ( 3 ) การออกแบบการเรียนรู้ 2. วิธีการ / รปู แบบการพัฒนา ศกึ ษาหาความรทู้ างอนิ เตอร์เนต็ และหลักสตู รออนไลน์ เก่ียวกับการใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีในการจัดการ เรียนรู้ โดยใชก้ ระบวนการวจิ ยั พัฒนาการเรยี นการสอน/ชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชพี และการออกแบบการ เรยี นรู้ 3. ระยะเวลาในการพัฒนา เริ่มต้น 16 พฤษภาคม 2560 สนิ้ สดุ 31 มีนาคม 2565 4. การขอรบั การสนบั สนนุ จากหนว่ ยงาน ขอรบั การสนบั สนนุ ดา้ นงบประมาณสว่ นบุคคล 5. ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ 5.1 ผลลัพธท์ ่ีคาดหวัง ดา้ นความรู้ มีแนวทาง และความรูค้ วามเขา้ ใจในการจดั การเรยี นรูโ้ ดยใชส้ ือ่ และเทคโนโลยใี นการจัดการเรยี นรผู้ ่าน แอพลิเคชัน่ ตา่ ง ๆ สามารถบูรณาการกับเน้อื หาวิชาคณิตศาสตร์ และทำให้นักเรียนเห็นถึงความสำคัญว่า ทำไมจึง ต้องเรยี นคณิตศาสตร์ ควบคู่กับการพฒั นาสื่อและเทคโนโลยใี นการจดั การเรยี นรู้ เพือ่ ให้มสี ่อื ท่ที ันสมัย และทำให้ นักเรยี นมีความสนใจในการเรียนรู้ ช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการสอน และเพ่ิมการเรียนรู้ให้กับผ้เู รยี น และใช้ กระบวนการวิจัยเพื่อพฒั นาการเรยี นการสอน รวมไปถงึ การเข้าร่วมชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี เพอื่ แลกเปลี่ยน

11 เรยี นรู้ในการออบแบบการเรียนรทู้ มี่ ีประสทิ ธิภาพ สามารถนำมาพฒั นาการเรียนรู้ของผู้เรียนไดเ้ ต็มตามศักยภาพ ของนักเรียนแตล่ ะคน ดา้ นทกั ษะ พัฒนาทกั ษะด้านการจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา พัฒนาทกั ษะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ ชว่ ยพฒั นาทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ของนักเรยี น เพิม่ พนู ประสบการณ์และทักษะการใชส้ อ่ื เทคโนโลยีการ เรียนการสอนคณติ ศาสตร์ทท่ี ันสมัย ดา้ นความเปน็ ครู พฒั นาตนเองใหม้ ีความรคู้ วามสามารถ ในระดับมาตรฐานตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ เป็นพเ่ี ล้ียง/ทีป่ รึกษา/แบบอย่าง ในการแสดงถึงความรกั และศรทั ธาในวชิ าชีพครู ตลอดจนเป็นผนู้ ำทางวิชาการ ช่วยเหลอื และพฒั นาคุณครูในโรงเรยี นในการขอมแี ละเลอ่ื นวทิ ยฐานะท่ีสงู ขึน้ 5.2 ผลการนำไปใช้ในการพัฒนางาน ทำใหม้ แี ผนการจัดการเรยี นรู้ในเนน้ ผ้เู รียนปฏบิ ตั ิ (Active Learning) มงุ่ เน้นใหน้ ักเรียนได้เรียนรผู้ ่านการ ลงมอื ทำกจิ กรรมด้วยตนเอง รว่ มกับส่ือ เทคโนโลยีการเรยี นการสอน และแหล่งเรยี นรูท้ ่ีครไู ดร้ วบรวมไว้ รวมถงึ การ ใช้กระบวนการ PLC และการวจิ ัยในชั้นเรียน มาปรับปรงุ แกไ้ ข และพฒั นา การเรียนรขู้ องผู้เรียน 5.3 การสร้างชุมชนการเรียนรู้ PLC ไดส้ ร้างกลมุ่ เครือขา่ ยเพือ่ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ เกย่ี วกับการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี นด้วยกระบวนการ PLC และมกี ลุ่มไลน์ของกล่มุ สาระการเรยี นรู้ กลุ่มกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน ที่เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร แลกเปลยี่ น แนวคดิ ในการจดั การเรียนรู้ การเผยแพร่กลยทุ ธ์วธิ กี ารสอนทเี่ กดิ ผลทางบวกต่อการเรยี นร้ขู องผ้เู รียน การใช้สอ่ื นวตั กรรม เทคโนโลยกี ารเรียนการสอน รวมไปถงึ เครื่องมือวดั และประเมนิ ผล และการวิจยั ในชนั้ เรียน การบริหาร จดั การชัน้ เรยี น ระบบดูแลช่วยเหลือ การพฒั นาตนเองและการพัฒนาวชิ าชีพครู ลงชือ่ ........................................................................ (นางสาวโสภาพรรณ ชายแกว้ ) ตำแหนง่ ครู

12 6. ประวตั ิการเข้าการรบั พัฒนา (ในรอบ 3 ปี ท่ผี ่านมา) ลำดับท่ี เรอ่ื ง หนว่ ยงาน จำนวน หมายเหตุ ชว่ั โมง บรษิ ัท อมรนิ ทร์ ปกี ารศึกษา 2560 บุ๊คเซ็นเตอร์ จำกดั 12 1 การอบรมการพฒั นาครูต้นแบบ “ศาสตร์ สมาคมบริดจแ์ ห่ง 18 พระราชา” ด้วย Active Learning+Professional ประเทศไทย Learning Community (PLC) สคู่ ุณภาพ 6 การศกึ ษาที่ย่ังยืน Thailand 4.0 วันท่ี 20 - 21 โรงเรยี นวรนารีเฉลิม 16 กนั ยายน 2560 จังหวัดสงขลา 2 การอบรมโครงการอบรมผู้ฝกึ สอนกีฬาบริดจร์ ะดับ ศูนยบ์ รกิ ารวชิ าการ 1 (มนิ บิ ริดจ)์ วันที่ 7 – 9 พฤษภาคม 2561 มหาวิทยาลัยศรีนคริ หนว่ ยงานท่จี ดั นทรวโิ รฒ ปกี ารศึกษา 2561 3 การอบรมการยกระดบั ห้องเรียนสเี ขยี ว มุ่งสู่ โรงเรยี นสเี ขียว” วนั ที่ 28 มถิ ุนายน 2561 4 การอบรมพัฒนาครูตามรปู แบบครบวงจร หลกั สูตรอบรมเชงิ บรู ณาการเพอ่ื พัฒนาครู คณิตศาสตรย์ ุค Education 4.0 ระดบั มธั ยมศึกษา ตอนปลาย วันที่ 7 - 8 กรกฎาคม 2561 5 การอบรมเพ่ือเสรมิ สรา้ งความเปน็ พลเมืองกับการ โรงเรยี นวรนารีเฉลมิ 6 พัฒนาประชาธิปไตยให้ย่งั ยืน วนั ที่ 17 สิงหาคม จงั หวดั สงขลา 2561 6 การอบรมพฒั นาครูตามรปู แบบครบวงจร คาสิโอ มารเ์ ก็ตต้ิง 13 หลักสูตรการพัฒนากระบวนการสอนคณติ ศาสตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดว้ ยเทคโนโลยีเครื่องคำนวณทางวทิ ยาศาสตร์ ใน ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย วันที่ 1 - 2 กนั ยายน 2561 7 การอบรมโครงการพัฒนาครูบคุ ลากรส่วู ทิ ยฐานะ โรงเรียนวรนารีเฉลมิ 6 6 และความกา้ วหน้าในวิชาชพี วนั ท่ี 22 - 23 จังหวดั สงขลา กันยายน 2561 8 การอบรมคณุ ธรรม จริยธรรม และสรา้ งสำนกึ ความ โรงเรียนวรนารีเฉลิม เปน็ พลเมือง วันท่ี 5 ตลุ าคม 2561 จงั หวดั สงขลา

13 ลำดบั ท่ี เรอ่ื ง หนว่ ยงาน จำนวน หมายเหตุ ชว่ั โมง โรงเรียนวรนารีเฉลมิ 9 การประชมุ เชิงปฏิบตั ิการ เรื่อง เสรมิ สรา้ งพลงั เชงิ จงั หวดั สงขลา 6 บวก วนั ที่ 30 มีนาคม 2562 โรงเรยี นวรนารีเฉลิม 6 10 การประชมุ เชงิ ปฏิบตั ิการ เรื่อง กระบวนการ PLC จังหวดั สงขลา และการใชโ้ ปรแกรม Padlet วนั ที่ 1 เมษายน 6 2562 โรงเรยี นวรนารเี ฉลิม 6 จังหวดั สงขลา 11 การประชุมเชิงปฏิบตั ิการ เรื่อง โครงงานคุณธรรม 6 วนั ที่ 2 - 3 เมษายน 2562 โรงเรียนวรนารีเฉลิม 6 จงั หวดั สงขลา 6 12 การประชมุ เชิงปฏิบัติการ เรื่อง การจดั การเรยี นรู้ 20 โดยใช้ ICT และการใช้ ICT ในการสืบค้นข้อมูล โรงเรียนวรนารีเฉลมิ วันท่ี 4 เมษายน 2562 จงั หวดั สงขลา ปกี ารศึกษา 2562 โรงเรยี นวรนารเี ฉลมิ จังหวัดสงขลา 13 การอบรมโครงการพัฒนาครูและบุคลากรการสร้าง สื่อการเรยี นการสอนโดยใชโ้ ปรแกรม GeoGebra โรงเรียนวรนารีเฉลมิ วนั ที่ 7 กรกฎาคม 2562 จงั หวดั สงขลา 14 การอบรมโครงการพัฒนาครูและบุคลากรกิจกรรม มูลนิธศิ ุภนิมติ แห่ง อบรมวจิ ัยในชน้ั เรยี น วนั ที่ 9 สงิ หาคม2562 ประเทศไทย 15 การอบรมโครงการพัฒนาครูและบุคลากร กิจกรรมอบรมภาษาองั กฤษ วันที่ 23 สิงหาคม 2562 16 การอบรมออนไลนห์ ลักสตู รการลดความเสีย่ งภัย พิบัติธรรมชาตแิ ละการปรบั ตัวรับการเปล่ยี นแปลง สภาพภูมอิ ากาศสำหรบั บุคลากรในสถานศึกษา รหัสหลกั สตู ร 62037 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ปกี ารศึกษา 2563 17 การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการหลักสูตรพฒั นาข้าราชการ หน่วยพฒั นาครู : 20 ครู ทผ่ี ่านการรบั รองจากสถาบนั คุรุพฒั นา รหัส บรษิ ทั นวัตกรรม 628181076 หลกั สตู รวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี นเพ่ือ สร้างสรรคก์ ารศึกษา ออกแบบแผนจัดการเรยี นรู้รายบคุ คล รวม 20 จำกดั ชั่วโมง ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา หลกั สูตรออนไลน์

14 สว่ นที่ 4 ความตอ้ งการในการพัฒนา 1. หลักสตู รใดทที่ า่ นตอ้ งการพฒั นา ลำดบั ท่ี รหัสหลักสตู ร ชอื่ หลักสูตร 1 การอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการหลกั สตู รพฒั นาข้าราชการครู ท่ผี ่านการรบั รองจากสถาบนั คุรพุ ฒั นา เกี่ยวกับการจัดการเรยี นรเู้ ทคโนโลยี 2. เพราะเหตุใดทา่ นจงึ ต้องการเข้ารบั การพัฒนาในหลักสตู รนี้ 1. เพราะ ต้องการรู้และเข้าใจแนวทางการจัดการเรยี นรู้เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ได้ 2. เพราะต้องการนำความรทู้ ่ีได้จากการอบรมไปใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน และมกี ารแบ่งปัน ความร้รู ่วมกนั เพ่ือสรา้ งสังคมการเรียนรูท้ างวชิ าชพี โดยนำไปบรู ณาการในรายวิชาคณติ ศาสตร์ 3. ตอ้ งการเรียนร้แู ละทำไปบูรณาการใหน้ ักเรยี นได้ฝกึ ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อน่ื การทำงานเปน็ ทีม ความสามคั คี 3. ทา่ นคาดหวงั สงิ่ ใดจากการเข้ารับการพัฒนาในหลกั สตู รน้ี ได้รบั ความรู้องค์ความรูใ้ นการจดั การเรียนรสู้ ำหรับครแู บบออนไลน์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ไปบรู ณาการกับรายวิชาคณติ ศาสตร์ 4. ท่านจะนำความร้จู ากหลักสตู รไปพัฒนาการสอนของท่านอย่างไร ข้าพเจา้ จะมุ่งเน้นในการจดั การเรยี นการสอนเพือ่ ให้นักเรยี นมีทกั ษะท่สี ำคญั ในการดำรงชวี ติ ในศตวรรษท่ี 21 อนั ได้แก่ ทักษะพื้นฐานความคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) , ทักษะพ้นื ฐานความรูด้ ้านเทคโนโลยี ดิจิทัล (Digital Technology) , ทักษะการเรียนรแู้ ละทกั ษะดา้ นนวัตกรรม (Learning and Innovation –The 4 C’s) , ทกั ษะการทำมาหาเลี้ยงชพี และการดำเนินชีวติ (Career and Life) และทักษะพื้นฐานการรู้เทา่ ทนั สื่อและ ข่าวสาร (Media and information Literacy) ซ่ึงทกั ษะพืน้ ฐานเหลา่ นี้เปน็ สงิ่ สำคัญท่ีนกั เรียนควรได้รบั การปลกู ฝัง เพือ่ เป็นรากฐานของการสรา้ งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพ่มิ ศักยภาพและนวัตกรรมท่จี ะนำไปสู่การพัฒนาประเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook