รายงานการประเมินหน่วยการเรียนรู้

รายงานการประเมินหน่วยการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม รหัสวิชา ค32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/4 - 5/6, 5/8 นางโสภาพรรณ สุขสะปาน ตำแหน่ง ครู โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้ นที่การศึกษามัธยมศึกษาสงขลา สตูล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้ นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

บันทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรียนวรนารเี ฉลมิ จังหวดั สงขลา ที่ วันที่ กันยายน พ.ศ.2564 เร่อื ง รายงานการประเมินหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชาคณิตศาสตรเ์ พิ่มเติม รหัสวิชา ค32201 เรยี น ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวรนารเี ฉลิม จงั หวัดสงขลา ด้วยข้าพเจ้า นางโสภาพรรณ สุขสะปาน ตำแหน่งครู ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่จัด กิจกรรมการเรยี นการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ในรายวชิ าคณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ รหสั วชิ า ค 32201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2564 ซึ่งในการจัดกิจกรรมในหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ มีการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลายสำหรับผู้เรียน เพื่อให้ได้ ผลสัมฤทธิ์ของคะแนนที่ดีที่สุดสำหรับผู้เรียน ข้าพเจ้าได้ทำการประเมินหน่วยการเรียนรู้ ประเมินกลยุทธ์/ รูปแบบ/เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และประเมินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และสื่อ/นวัตกรรมขึ้น เมอื่ ได้ผลแล้วจงึ นำมาพฒั นาปรับปรงุ ตอ่ ไป ข้าพเจ้าจึงขอรายงานผลการประเมินหน่วยการเรียนรู้ ในรายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม รหัสวชิ า ค 32201 ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เรอ่ื ง ฟงั ก์ชนั ตรีโกณมติ ิ ตามเอกสารดงั แนบ จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ ลงช่อื ............................................... (นางโสภาพรรณ สุขสะปาน) ผรู้ ายงาน ความคดิ เหน็ หัวหนา้ กลมุ่ สาระฯ ความเห็นรองผู้อำนวยการ การส่งั การ .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... .................................................... (นางสฐุ ยิ า เพชรวงษ์) (นายนพดล หมิดทองคำ) (นายอนนั ต์ ผดุ เกตุ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ รองผู้อำนวยการบรหิ ารกลุม่ งาน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวรนารีเฉลิม คณติ ศาสตร์ วชิ าการ จังหวดั สงขลา

รายงานผลการประเมินหน่วยการเรียนรู้ รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพิม่ เตมิ รหัสวิชา ค32201 ครูผู้สอน นางโสภาพรรณ สขุ สะปาน ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 1. แบง่ ออกเปน็ 1 หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ ง 1. ฟงั ก์ชนั ตรีโกณมติ ิ 2. แนวคิดหลักการที่ใชใ้ นการจดั ทำหน่วยการเรียนรู้ ใชห้ ลกั การออกแบบการเรยี นรูแ้ บบกระต้นุ การเรียนรโู้ ดยใช้คำถาม (โดยศึกษาแนวทางท่สี ำนกั พัฒนา นวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน) มีขน้ั ตอนดงั นี้ 1) การกำหนดเป้าหมายการเรยี นรู้ 2) การกำหนดหลักฐานการเรียนรู้ 3) การวางแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4) การประเมนิ หน่วยการเรยี นรู้ แตล่ ะขน้ั ตอนได้ดำเนนิ การดงั นี้ 1) การกำหนดเป้าหมายการเรยี นรู้ ได้วิเคราะห์เป้าหมายของวิชา พิจารณามาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ที่เกี่ยวของตามสาระ การเรียนรู้และต่างกลุ่มสาระ แต่ละมาตรฐานและผลการเรียนรู้นั้นต้องการให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับ อะไรบา้ งมีทกั ษะ สมรรถนะดา้ นใด เนอ้ื หาสาระใดทีเ่ หมาะสมกบั นักเรยี นและสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ และ เน้นความเข้าใจในสง่ิ ที่เรียนร้อู ยา่ งลกึ ซงึ้ จดั แบ่งหนว่ ยการเรียนรโู้ ดยพิจารณามาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ท่ีท่สี อดคล้องและสัมพันธ์กัน ทั้งในสาระการเรียนรู้และทักษะกระบวนการ ตั้งชื่อหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้ องกับสาระในมาตรฐานและ ผลการเรยี นรู้ กำหนดระยะเวลา และน้ำหนักคะแนนของแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ 2) การกำหนดหลกั ฐานการเรยี นรู้ พจิ ารณาดวู ่าแต่ละหน่วยผู้เรยี นจะต้องทำภาระงาน / ชิ้นงานใดท่สี ่งผลให้รวู้ า่ นกั เรยี นเขา้ ใจ อย่างลึกซึ้งในแต่ละหน่วย ภาระงานหรือชิ้นงานที่มีคุณภาพคือชิ้นงานรวบยอดที่ตอบเป้าหมายตาม ผลการเรียนรู้ของหน่วยนั้น ๆ ได้ และนำความรู้ความสามารถในสาระการเรียนรู้อื่น ประสบการณ์เดิมมา เชอื่ มโยงใช้ในหลกั ฐานการเรียนรูน้ ี้ ทั้งนี้ผู้สอนได้วเิ คราะห์ข้อมลู พ้นื ฐานผเู้ รียนอยู่ระดับใด มีพ้ืนฐานการเรียน มากน้อยเพียงไรเพื่อจะได้วางแผนกำหนดภาระงาน / ชิ้นงานให้เหมาะสมกับนักเรียนเลือก ใช้วิธีการวัดผล ประเมินผลที่หลากหลายสอดคล้องกับภาระงาน / ชิ้นงานและสอดคล้องกับรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียน ยืดหยุ่นได้ การกำหนดภาระงานหรือชิ้นงาน ผู้สอนได้พิจารณาว่าสอดคล้องกับหน่วยอื่นในวิชาหรือไม่ และ บางชิ้นงานสามารถบูรณาการกับวชิ าในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นได้หรือไม่ โดยการสอบถามครูผู้สอนวิชาอืน่ ใน ระดบั ช้ันเดียวกัน เพ่อื จะไดล้ ดภาระงาน เวลา และค่าใชจ้ า่ ยของนักเรยี น 3) การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ พิจารณาดูว่ากิจกรรมที่จัดนั้นช่วยนำพานักเรียนได้เรียนรู้ตามเป้าหมายหรือไม่ผู้สอนได้จัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากที่สุดใช้กระบวนการเรียนรู้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับ สาระการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้และศักยภาพในการเรียนรู้ของนักเรียน เลือกใช้กิจกรรมที่เหมาะสม

2 กับนักเรียนกลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน ตลอดจนกิจกรรมที่ส่งผลพัฒนา สมรรถนะผู้เรียนและ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ พจิ ารณาสื่อนวตั กรรมทสี่ ามารถทำใหน้ ักเรยี นเกดิ การเรียนร้ไู ดด้ แี ละเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซ้งึ มีท้ังสอ่ื ที่ผลิต เองโดยครูและนักเรียน และส่อื เอกสาร เทคโนโลยที ท่ี นั สมัย เนน้ นักเรียนใช้แหล่งเรียนรู้หลากหลาย 4) การประเมนิ หนว่ ยการเรยี นรู้ เมื่อจัดทำหน่วยการเรียนรู้แล้วได้เขียนเป็นโครงการสอน ระบุ เป้าหมาย หลักฐาน วิธีการวัดผล ประเมินผล การจัดกิจกรรม ระยะเวลา แล้วประเมินหน่วยด้วยตนเอง และให้ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคณะกรรม การนิเทศการเรียนการสอนประเมิน โดยใช้แบบประเมินหน่วยการเรียนรู้ของโรงเรียนซึ่งได้ปรับจากแบบ ประเมนิ หนว่ ยการเรียนรูข้ องสำนกั งานวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา 3. ความสำเร็จ / ปัญหาของการนำหน่วยการเรยี นรู้ไปใช้ 1) ภาพความสำเรจ็ ของการนำหนว่ ยการเรยี นรไู้ ปใช้ ดังน้ี จากการนำหน่วยการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 32201 ไปใช้สอนนักเรียนช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 134 คน (5/4 – 5/6) มนี ักเรียนกลุ่ม เก่ง กลุ่มปานกลาง และกล่มุ ออ่ น นักเรียน กลุ่มเก่ง ใน 3 ห้องเรียน มีประมาณ 20% ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกผลการเรียนรู้ ทุกหน่วย มีหลักฐาน ชิ้นงานที่มีคุณภาพเป็นตัวอย่างได้ ส่วนที่เหลือปานกลางค่อนข้างอ่อน ผ่านเกณฑ์ในระดับผลการเรียนเกรด วิชาน้ี 1.0 – 4.0 ประมาณ 95% และที่ตอ้ งซอ่ มเสริม อกี 5% โดยภาพรวมทกุ หนว่ ยการเรียนรูส้ อดคล้องกับ มาตรฐานและผลการเรยี นรู้ 2) ปัญหาของการนำหนว่ ยการเรยี นรู้ไปใช้ ดงั นี้ 2.1 นักเรียนระดบั มัธยมศึกษาที่ 5 กำลังอยู่ในช่วงวัยรุน่ มีการเปลี่ยนแปลงทั้งสภาพร่างกาย จติ ใจ และสังคม การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องยืดหยุ่นมากๆ ครูต้องเขา้ ใจลักษณะ รปู แบบการเรียนรู้ ของนักเรียนและพยายามจัดกิจกรรมให้ตรงกับวิธีการเรียนรู้ของเขามากที่สุด นักเรียนบางคนไม่ชอบบันทึก ข้อมูล ไม่ชอบเขียน ก็ต้องให้ทำกิจกรรมมาก ๆ การประเมินผลต้องใช้หลากหลายวิธี ดังนั้นจึงไม่สามารถจัด กิจกรรมการเรียนรู้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้แต่ละหน่วย ต้องพัฒนาความใฝ่รู้ใฝ่เรียน ความมีวินัยซึ่งกวา่ จะปรับปรงุ แกไ้ ขไดก้ ็ใช้ระยะเวลาเกอื บ 1 – 2 เดอื น 2.2 มีกจิ กรรม / โครงการอื่นมาแทรกตลอดภาคเรียน และไมส่ ามารถหาเวลาซ่อมเสรมิ ได้ ยกเว้น นกั เรียนกลุม่ เกง่ ที่มคี วามสนใจใฝร่ ู้ และมีวนิ ยั ในตนเอง เรยี นรู้ด้วยตนเองไดด้ ี 2.3 การกำหนดภาระงาน / ชิ้นงานแต่ละหนว่ ยไดต้ กลง ยอมรับระหว่างครกู บั นักเรียนแลว้ แตน่ กั เรยี นบางคนไม่สามารถทำไดต้ ้องมีการยดื หยนุ่ ปรบั เปลย่ี นตามความสามารถของนักเรยี น เพื่อให้บรรลุ เป้าหมายของแตล่ ะหน่วย เปน็ การยากมากที่จำให้นกั เรียนทำชิน้ งานรวบยอด 2.4 ประเมนิ ผลใชห้ ลากหลายวิธี โดยเฉพาะนักเรียนท่เี รยี นอ่อน และตอ้ งใชค้ วามรู้ท่ีเรียนแต่ ละหน่วยให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนเรื่องอื่นต่อไป มีทั้งการสัมภาษณ์ การเขียน การอธิบายปากเปล่า ทัง้ กลมุ่ และเด่ียว ชิ้นงานต้องมกี ารทบทวนและปรับปรุงแกไ้ ข

3 4. วิธีการแกป้ ัญหา / แนวคิดท่ใี ช้แกป้ ญั หา 1) ใช้หลักการยืดหยุ่น และปรับชิ้นงานรวบยอดให้เป็นชิ้นงานย่อย ๆ แต่รวมแล้วครอบคลุม ผลการเรียนรู้ ยกเว้นบางคนบางกลุ่มสามารถทำได้ 2) กำหนดระยะเวลาและกำกบั ติดตามอย่างใกลช้ ดิ มากขึ้น 3) ช่วยเหลอื ดา้ นวัสดุ อปุ กรณ์ และช้แี หล่งสบื คน้ ข้อมลู อย่างใกลช้ ดิ สำหรบั นกั เรียนที่ตอ้ งการความ ชว่ ยเหลอื และมีสมาธิส้นั 4) มกี ารแจง้ ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั เก่ียวกับผลการประเมนิ แต่ละหนว่ ยและสามารถปรับปรงุ ชิ้นงานไดเ้ พ่อื ให้ ผ่านเกณฑ์ 5) เนน้ การปรับปรงุ แก้ไขเป็นรายบคุ คล และตามศักยภาพของนักเรยี น 5. แกป้ ัญหาแล้วผลเป็นอย่างไร การแกป้ ญั หาได้ผลอยใู่ นระดับพึงพอใจ ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ต่ำ หลายผลการเรยี นรู้ แต่คาดหวังว่านักเรียน จะสามารถนำไปใช้และเชื่อมโยงในชีวิตประจำวันได้เมื่อได้ประสบกับปัญหาหรือมีข้อมูลในสถานการณ์อื่นที่ เกยี่ วขอ้ งกบั เร่ืองที่เรยี นรใู้ นวชิ าน้ี จะระลกึ และนำความรูไ้ ปปรบั ใชไ้ ด้ 6. ผู้เรยี นมีวิธกี ารเรียนรู้อย่างไรที่เหมาะสมสอดคล้องกับหน่วยน้ัน ๆ วธิ ีการเรียนรู้โดยภาพรวมนกั เรียนทุกใชเ้ วลาเรียนครั้งละ 1 คาบ จะดีกว่ากำหนดระยะเวลา 2 คาบ ติดกัน การวดั ประเมนิ ผลชอบการสอบถามมากกวา่ การเขียนตอบ ชอบการทดสอบแบบปรนัย และต้องแจง้ ผลการประเมินทันที แต่การสอบเขียนตอบและสัมภาษณ์ทำใหร้ คู้ วามคดิ ของนักเรียนเปน็ รายบุคคล นักเรียน เห็นคุณคา่ ภาคภูมิใจ ท่ีตนเองเข้าใจได้ดีขน้ึ หลังจากได้พดู คุยกับครแู ลว้ 1) หน่วยการเรยี นรู้ เร่ือง ฟังก์ชันตรีโกณมติ ิ เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั จดั เรยี งเนื้อหาวิชาจากงา่ ยไปยาก เนน้ ให้ผเู้ รียนใชว้ ธิ ีการสืบเสาะ หาความรู้ กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นไดม้ คี วามสนใจและสนุกกับการเรยี น คน้ พบองค์ ความรู้จากการทำกิจกรรมและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยมคี รูเป็นผแู้ นะแนวทาง กระตนุ้ ใหน้ ักเรียนเกิด การเรยี นรู้ ตลอดจนผูเ้ รียนสามารถนำความรู้ทไี่ ด้ไปแกป้ ัญหาต่าง ๆ

แบบประเมนิ หนว่ ยการเรียนรู้ ชือ่ ผู้สอน นางโสภาพรรณ สขุ สะปาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 32201 รายวิชา คณิตศาสตร์เพ่ิมเติม ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ฟงั ก์ชนั ตรีโกณมิติ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 คำชี้แจง โปรดเขยี นเครื่องหมาย ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั การปฏิบตั ิ ระดบั การประเมนิ 4 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสมมากทสี่ ุด 3 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสมน้อย 1 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/เหมาะสมน้อยทสี่ ุด รายการประเมนิ ระดบั การปฏบิ ตั ิ 4321 แผนการจดั การเรียนรู้ 1. ชื่อหนว่ ยการเรยี นรกู้ ะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลมุ เน้ือหาสาระ ✓ ✓ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ สมรรถนะสำคัญของนักเรยี น และคณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงคม์ ีความเชือ่ มโยงกันอย่างเหมาะสม ✓ 3. ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั กับมาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ / ความคิด รวบยอดสาระการเรียนรู้ และกจิ กรรมการเรยี นรู้ ✓ 4. ความเช่อื มโยงสัมพนั ธก์ ันระหว่างชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด สาระการเรียนรู้และกจิ กรรมการเรยี นรู้ ✓ กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ✓ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกับสาระการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ✓ 6. กิจกรรมการเรียนรูม้ ีความครอบคลุมในการพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความรูท้ ักษะ/กระบวนการ สมรรถนะทีส่ ำคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ✓ 7. กิจกรรมการเรียนรมู้ ีความเหมาะสม สามารถนำผ้เู รียนไปสกู่ ารสรา้ งชน้ิ งานหรือภาระงานได้ ✓ 36 การวัดผลประเมนิ ผล 8. มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ 4.00 9. ประเด็นและหลกั เกณฑก์ ารประเมินสามารถสะท้อนคุณภาพผู้เรยี นตามมาตรฐานการเรียนรู้ / ดีมาก ผลการเรยี นรู้ รวมสรุปผล เฉล่ยี ระดบั คณุ ภาพ ข้อคดิ เห็น / ขอ้ เสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… การแปลความหมาย การประเมินหนว่ ยการเรยี นรู้ ลงชอ่ื …………………………………………….ผปู้ ระเมนิ (นางโสภาพรรณ สขุ สะปาน) เกณฑ์ ค่าเฉล่ยี 1.00-1.75 ปรบั ปรงุ 1.76-2.50 พอใช้ 2.51-3.25 ดี 3.26-4.00 ดมี าก

แบบประเมินกลยทุ ธ/์ รปู แบบ/เทคนิคการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื ผสู้ อน นางโสภาพรรณ สขุ สะปาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 32201 รายวิชา คณติ ศาสตรเ์ พ่มิ เติม ระดับช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 แผนการเรียนรู้เร่อื ง ฟงั ก์ชันตรีโกณมิติ หวั ข้อการประเมิน ระดับการปฏิบตั ิ 1 1. การวางแผนและออกแบบเหมาะสมกบั สาระการเรียนรู้/ธรรมชาตวิ ิชา 432 2. รูปแบบ/เทคนิค เหมาะสมกบั สถานการณข์ องผู้เรยี น 3. รูปแบบ/เทคนคิ กอ่ ใหเ้ กดิ ทักษะการเรียนรตู้ ามผลการเรยี นรู้ ✓ 4. รูปแบบ/เทคนิค ก่อใหเ้ กดิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ✓ 5. รูปแบบ/เทคนิคพฒั นาดา้ นกระบวนการคดิ ✓ 6. รูปแบบ/เทคนิคมกี ารบูรณาการกับสาระวิชาอ่นื ✓ 7. ผู้เรยี นใหค้ วามสนใจ ร่วมมอื และสนุกสนานกับการเรียนรู้ ✓ 8. การวัดและประเมนิ ผลกิจกรรมสอดคล้องกับผลการเรียนรู้ ✓ ✓ คะแนนรวม ✓ คะแนนรวมเฉลยี่ 32 4.00 ความคิดเห็นอื่น ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปผลการประเมนิ  อยใู่ นระดบั ดมี าก  อยใู่ นระดับ ดี คะแนน 3.26 – 4.00  อยู่ในระดบั พอใช้ คะแนน 2.51 – 3.25  อยใู่ นระดบั ปรับปรงุ คะแนน 1.76 – 2.50 คะแนน 1.00 – 1.75 ลงชอ่ื …………………………………………….ผ้ปู ระเมนิ (นางโสภาพรรณ สุขสะปาน)

แบบประเมนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนร้แู ละสื่อ/นวัตกรรม ชื่อผู้สอน นางโสภาพรรณ สุขสะปาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 32201 รายวิชา คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 แผนการเรยี นรู้เร่ือง ฟงั ก์ชนั ตรีโกณมติ ิ ชอ่ื สื่อและนวตั กรรม เอกสารประกอบการจดั การเรียนรูร้ ายวิชาคณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เติม เรื่อง ฟงั ก์ชนั ตรีโกณมติ ิ คำชแี้ จง โปรดทำเครอื่ งหมาย ✓ ลงในข้อความท่ตี รงกับความคิดเห็นของทา่ น ระดับคะแนนการประเมิน 4 หมายถึง มีความสอดคลอ้ ง/เชอื่ มโยง/ครอบคลุม/เหมาะสมและสมั พนั ธ์กัน อยา่ งชดั เจน 3 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/ครอบคลมุ /เหมาะสมและสัมพนั ธก์ นั ในบางสว่ น 2 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/ครอบคลมุ /เหมาะสมและสัมพันธก์ นั แต่ไมส่ มบรู ณ์ 1 หมายถงึ เน้ือหาขาดความสอดคล้อง/เชือ่ มโยง/ครอบคลมุ /เหมาะสมและสมั พนั ธก์ ัน รายการประเมิน ระดบั การประเมนิ 4321 1. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการสอน เหมาะสมสอดคล้องกบั ผลการเรยี นรู้ ✓ และผลการเรยี นรู้ 2. สอื่ การสอนสอดคล้องกบั ขั้นตอนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ✓ 3. ส่อื การสอนมีความถูกต้อง ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย ✓ 4. มีการใช้สือ่ ICT เขา้ มาใช้ในการเรยี นการสอน ✓ 5. สือ่ การสอนมีความหลากหลายตอบสนองตอ่ ผ้เู รยี น ✓ 6. สอ่ื การสอน/วิธกี ารสอนกระตุ้นใหน้ กั เรยี นเกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ ✓ 7. นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในการใชแ้ ละสร้างสอ่ื การสอน/นวตั กรรม ✓ 8. สอื่ มีสว่ นชว่ ยในการวัดและประเมนิ ผลผูเ้ รียน ✓ 32 รวม เฉล่ยี (คะแนนรวม/8) 4.00 ได้ระดับคณุ ภาพ ดีมาก ขอ้ เสนอแนะ (เพม่ิ เติม/ปรับปรงุ ) …………………………………………………..…………………………………………………..………………………………………….………….. …………………………………………………..…………………………………………………..…………………………………………………..…………………………………………………..……………………… การแปลความหมาย การประเมินหนว่ ยการเรยี นรู้ ลงช่อื ……………………………………………ผู้ประเมนิ เกณฑ์ คา่ เฉล่ยี 1.00-1.75 ปรับปรุง 1.76-2.50 พอใช้ (นางโสภาพรรณ สุขสะปาน) 2.51-3.25 ดี 3.26-4.00 ดมี าก