การเยี่ยมบ้าน
CONTENT 01 ความหมายของการเยี่ยมบ้านนักเรียน 02 วัตถุประสงค์ของการเยี่ยมบ้านนักเรียน 03 ความสำคัญของการเยี่ยมบ้านนักเรียน 04 ข้อปฏิบัติในการเยี่ยมบ้าน 05 ตัวอย่างเเบบฟอร์มบันทึกการเยี่ยมบ้าน 06 ข้อมูลที่ควรศึกษาจากการเยี่ยมบ้าน
CONTENT 07 ข้อปฏิบัติที่ควรคำนึงถึงในการเยี่ยมบ้าน 08 การเยี่ยมบ้านในช่วงการเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 09 ประโยชน์ที่ได้รับจากการเยี่ยมบ้าน 10 ตัวอย่างเเบบประเมิน SDQ 11 QR CODE Power Point 12 รายการอ้างอิง
ความหมายของการเยี่ยมบ้านนักเรียน การเยี่ยมบ้าน เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการรวบรวมข้อมูลนักเรียน คือการที่ครูหรือผู้แนะแนวไป พบปะบิดามารดาหรือผู้ปกครองของนักเรียนเพื่อสร้างความคุ้นเคยและมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ทั้งยังช่วยให้ครูหรือผู้เเนะเเนวเห็นสภาพความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมในครอบครัวของนักเรียน ตลอดจนทราบถึงเจตคติของผู้ปกครองที่มีต่อครู โรงเรียนและนักเรียน ที่จะนำไปสู่การรู้จักเเละเข้าใจ นักเรียนมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการร่วมมือกันกับทุกฝ่าย ทำให้สามารถดูเเลช่วยเหลือนักเรียนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ วัตถุประสงค์ของการเยี่ยมบ้านนักเรียน 1. เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างทางบ้านกับทางโรงเรียน เพราะการไปเยี่ยมถึงบ้านนั้น ทำให้เกิดการสนทนาระหว่างบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน ทำให้ได้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ที่ต้องการที่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งทำให้เกิดการรู้จักและเข้าใจตัวนักเรียนมากขึ้น นำไปสู่การให้การช่วย เหลือได้อย่างเหมาะสมเป็นรายกรณี 2. เพื่อได้เห็นและเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ในครอบครัว ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งรู้และเห็นสภาพบ้านทั้ง ภายนอกและภายใน ซึ่งเป็นข้อมูลประกอบช่วยให้เกิดการตัดสินใจในการทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ การเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นธรรมและเป็นข้อเท็จจริง เพื่อได้ช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น 3. เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและกันระหว่างครู ผู้แนะแนวหรือผู้ให้คำปรึกษากับสมาชิกใน ครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว และญาติพี่น้องภายในบ้าน ที่จะทำให้ได้ทราบข้อมูลทั้งใน อดีตเเละปัจจุบันอันเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจหาได้ด้วยวิธีอื่น 4. เพื่อช่วยให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือนักเรียนและจะทำให้ตัวนักเรียนเห็นว่าเขามี คุณค่าและความสำคัญต่อทุก ๆ คน ซึ่งเป็นความรู้สึกพื้นฐานที่ดีที่จะช่วยให้เขาได้มีความพยายาม ปรับตัว ปรับความรู้สึกไปในทางที่ดี ในอันที่จะให้ความร่วมมือในการรับการช่วยเหลือ 5. เพื่อช่วยให้รู้ถึงลักษณะและสภาพความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนและบุคคลในครอบครัวทุกคนตาม สภาพความเป็นจริง 6. เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพิ่มเติมจากการรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่แล้วด้วยวิธีอื่นที่ไม่สามารถหาได้จากเครื่องมือ และกลวิธีชนิดอื่น ๆ
ความสำคัญของการเยี่ยมบ้านนักเรียน 1. ทำให้คุณครูได้เห็นสภาพครอบครัว สภาพภายในเเละภายนอกบ้านของนักเรียน 2. ทำให้คุณครูได้พบปะบุคคลภายในบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 3. ทำให้คุณครูได้ทราบว่านักเรียนมีความรู้สึกและพฤติกรรมอย่างไรเมื่ออยู่ที่บ้าน 4. ทำให้คุณครูได้ทราบว่านักเรียนมีความถนัดและสนใจอะไร 5. ทำให้คุณครูได้้ทราบว่าสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กันอย่างไร 6. ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจความต้องการของโรงเรียนและตระหนักว่าโรงเรียน ได้พยายามช่วยเหลือและให้ความสำคัญกับนักเรียน 7. ทำให้ผู้ปกครองมีเจตคติที่ดีต่อโรงเรียนเเละบุคลากรในโรงเรียน
ข้อปฏิบัติในการเยี่ยมบ้าน การเยี่ยมบ้านนักเรียนจะได้ผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ โรงเรียนควรมองว่าการเยี่ยมบ้านเป็น นโยบายหนึ่งของโรงเรียนเเละกำหนดให้เป็นหน้าที่ของครู อาจารย์ทุกคน ดังนั้นครูจึงควรไปเยี่ยมบ้าน นักเรียนทุกคน โดยทางโรงเรียนก็ควรยึดแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ 1. จัดฝึกอบรมเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ครู อาจารย์เกี่ยวกับการเยี่ยมบ้านนักเรียน โดยให้เเนวทาง แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมถึงการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมขณะไปเยี่ยมบ้านนักเรียน 2. กำหนดเป็นแนวนโยบายในการยึดถือปฏิบัติและวางระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน 3. แต่งตั้งตัวบุคคลและจัดทำปฏิทินเวลาในการไปเยี่ยมบ้านนักเรียนเเต่ละปี โดยครูที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียนควรมีเเนวการปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ ขั้นเตรียมการก่อนไปเยี่ยมบ้าน 1. กำหนดจุดมุ่งหมายในการไปเยี่ยมบ้านให้ชัดเจน จะได้เก็บข้อมูลได้ตรงตามที่ต้องการ 2. ติดต่อนัดหมายกับบิดามารดาหรือผู้ปกครองนักเรียนก่อน โดยแจ้งวัน เวลาและกำหนดการที่จะไป เยี่ยมบ้านให้ชัดเจน 3. เตรียมศึกษาข้อมูลด้านต่าง ๆ ของนักเรียนที่จะไปเยี่ยมบ้านไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้เข้าใจนักเรียน ผู้ปกครองและสภาพทางบ้านของนักเรียนไว้เป็นเบื้องต้น โดยอาจศึกษาจากระเบียนสะสม หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่ได้บันทึกข้อมูลของนักเรียนเอาไว้แล้ว 4. เตรียมคำถามที่จะใช้ในการสนทนากับผู้ปกครองของนักเรียนเพื่อเป็นแนวทางในการได้ข้อมูลที่ตรง ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
ข้อปฏิบัติในการเยี่ยมบ้าน ขั้นดำเนินการขณะไปเยี่ยมบ้าน 1. การทักทายควรเริ่มจากคำพูดที่ดี เช่น “บ้านน่าอยู่ดีจังนะคะ” เพื่อทำให้เจ้าของบ้านต้อนรับ มีความรู้สึกยินดีและแสดงความเป็นมิตรที่ดี 2. การสนทนาควรเริ่มต้นจากเรื่องที่เป็นที่สนใจทั่วไปเพื่อสร้างบรรยากาศเป็นกันเองก่อน เเล้วค่อยเริ่ม พูดคุยเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวนักเรียนและควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองของนักเรียนแสดงความคิดเห็น เเละให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวนักเรียนให้มากที่สุด 3. ไม่ควรใช้คำพูดในเชิงตำหนิ เยาะเย้ย ดูถูกนักเรียน เพราะจะทำให้ผู้ปกครองเเละนักเรียนรู้สึกไม่ดี ควรพยายามพูดถึงส่วนดีของนักเรียน 4. หลีกเลี่ยงการพูดลักษณะเปรียบเทียบกับนักเรียนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นในทางบวกหรือทางลบ แต่ถ้าผู้ปกครองเป็นผู้พูดเปรียบเทียบเอง ต้องฟังด้วยความสงบเท่านั้น 5. พยายามสังเกตพฤติกรรมผู้ปกครองของนักเรียน ในขณะที่ครูให้ข้อมูลจากทางโรงเรียนเกี่ยวกับ ตัวนักเรียน ว่ามีความเข้าใจหรือมีความรู้สึกอย่างไร 6. สังเกตสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทางบ้านของนักเรียน แต่เลี่ยงไม่ให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าถูกสำรวจ หรือถูกจ้องจับผิดอยู่ เพราะจะทำให้ผู้ปกครองเกิดความอึดอัดใจ 7. กรณีถ้าผู้ปกครองวิพากษ์วิจารณ์โรงเรียนหรือบุคลากรในโรงเรียน ควรรับฟังด้วยความสนใจ ไม่ควรสนับสนุนหรือวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติม เเต่ควรแนะนำผู้ปกครองให้นำเสนอต่อที่ประชุมใน โอกาสที่ทางโรงเรียนจัดให้มีการประชุมผู้ปกครอง 8. ไม่ควรบันทึกการเยี่ยมบ้านต่อหน้าผู้ปกครองของนักเรียนเพราะจะทำให้ผู้ปกครอง เกิดความระแวง ไม่กล้าพูดความจริง เเต่ควรบันทึกและเขียนรายงานทันทีหลังจากการเยี่ยมบ้านเเล้ว 9. ไม่ควรใช้เวลาในการเยี่ยมบ้านแต่ละบ้านนานเกินไป เพราะจะทำให้ผู้ปกครองของนักเรียน เกิดความรำคาญหรืออึดอัดใจ 10. ควรเริ่มต้นและสิ้นสุดการเยี่ยมบ้านแต่ละบ้านด้วยความรู้สึกเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เพราะจะช่วยให้ ผู้ปกครองมีเจตคติที่ดีต่อทางโรงเรียนเเละจะพร้อมให้ความร่วมมือในโอกาสต่าง ๆ ขั้นหลังจากการไปเยี่ยมบ้าน หลังจากการเยี่ยมบ้านควรมีการบันทึกสิ่งต่าง ๆ ที่ได้จากการสังเกตและสนทนากับผู้ปกครองของ นักเรียน โดยบันทึกข้อเท็จจริงประเด็นต่าง ๆ ดังที่จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
ตัวอย่างเเบบฟอร์มบันทึกการเยี่ยมบ้าน
ข้อมูลที่ควรศึกษาจากการเยี่ยมบ้าน การเยี่ยมบ้านเป็นเครื่องมือวิธีการชนิดหนึ่งที่ทำให้ได้ข้อมูลในการรู้จักและเข้าใจนักเรียนเป็นราย บุคคลได้มากยิ่งขึ้นเเละเพื่อให้บรรลุเป้าหมายข้างต้น คุณครูจึงควรสังเกตและศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ นักเรียนในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ 1. สภาพทั่วไปของบ้าน สภาพภายใน สัดส่วนของที่พัก ห้องต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ต่าง ๆ ภายในบ้าน ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านและสภาพภายนอกของบ้าน เช่น ชุมชนที่บ้านตั้งอยู่มีลักษณะยังไง เพื่อนบ้านเป็นยังไง เป็นต้น 2. อากัปกิริยาท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว เช่น การเข้มงวดกับนักเรียน การตามใจนักเรียน ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว 3. นักเรียนมีภาระรับผิดชอบงานในบ้านมากน้อยแค่ไหน เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นสามารถพูดคุย ปรึกษากับบุคคลภายในบ้านได้หรือไม่ 4. วิธีการเดินทางไปโรงเรียน การเดินทางไปกลับระหว่างบ้านและโรงเรียนเป็นยังไง ระยะทางจากบ้าน ไปโรงเรียน เวลาในการเดินทาง โดนข้อมูลนี้สามารถนำมาประกอบในการพิจารณาความมีวินัย ความรับผิดชอบในการเดินทางของนักเรียนได้ 5. การอำนวยความสะดวกที่ทางบ้านได้รับจากชุมชนเป็นยังไง เช่น มีร้านค้าหรือตลาดอยู่ใกล้บริเวณ บ้านไหม มีสถานที่ออกกำลังกายสถานที่ให้ความบันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์ อยู่ใกล้บ้านรึป่าว 6. เจตคติของบุคคลในครอบครัวที่มีต่อตัวนักเรียนทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ซึ่งเจตคตินี้ส่งผลต่อ การสร้างขวัญกำลังใจที่ได้รับจากการสนับสนุนเเละการพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของนักเรียน 7. เจตคติของผู้ปกครองที่มีต่อโรงเรียน เช่น ให้การยอมรับและศรัทธาต่อโรงเรียนเพียงใด สนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียนมากน้อยเเค่ไหน 8. เรื่องทั่ว ๆ ไป เช่น สภาพความเป็นอยู่ของสมาชิกทุกคนภายในบ้าน ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว สุขลักษณะของตัวบ้าน สุขภาพอนามัยของสมาชิกภายในบ้าน เป็นต้น นอกจากการบันทึกข้อมูลที่ได้จากการเยี่ยมบ้านข้างต้นเเล้ว ครู อาจารย์ที่ไปเยี่ยมบ้านควรเขียน เป็นรายงานการเยี่ยมบ้านเพื่อนำเสนอฝ่ายบริหารหรือเก็บรวมไว้กับข้อมูลของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ข้อปฏิบัติที่ควรคำนึงถึงในการเยี่ยมบ้าน 1. มีการนัดหมายกำหนดเวลาการเยี่ยมบ้านไว้ล่วงหน้า ไม่งั้นอาจทำให้ไม่ได้พบบุคคลที่ต้องการพบ เนื่องจากมีภาระงานหรือออกทำงานข้างนอก ไม่ได้อยู่ที่บ้านตลอดเวลา 2. ควรศึกษาเรื่องราวในรายละเอียดเกี่ยวกับนักเรียนและบุคคลที่เกี่ยวข้องในบ้านและครอบครัว ให้มากที่สุด เพราะจะทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นกันเอง 3. ผู้ที่ทำหน้าที่เยี่ยมบ้านจะต้องเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์เเละการเตรียมตัวที่ดี เเต่ก็ไม่ควรวางตัว จนเกินไป เพราะการไปเยี่ยมบ้านนั้นควรทำผู้ปกครองเกิดความสบายใจในการพูดคุย 4. ควรสนับสนุนให้นักเรียนร่วมวงสนทนาด้วย เพื่อช่วยให้มีเรื่องพูดคุยกัน อาจเริ่มด้วยการตั้งคำถาม หรือเเสดงความคิดเห็นที่มุ่งไปที่ตัวของนักเรียน ทั้งยังช่วยให้ครูได้มีโอกาสสังเกตดูปฏิกิริยาและท่าที ของบุคคลในครอบครัวที่มีต่อนักเรียนว่ามีความรู้สึกและความคิดเห็นเกี่ยวกับนักเรียนอย่างไร 5. ควรพยายามพูดถึงนักเรียนในด้านดีมากกว่าด้านไม่ดี เพราะจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจ ทั้งกับตัวนักเรียนและผู้ปกครอง 6. ควรจะให้ครอบครัวได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่างๆ ออกมาให้มากที่สุด เพื่อจะได้ทราบถึงเจตคติของครอบครัวที่มีต่อสิ่งต่างๆ ด้วย เนื่องจากการเยี่ยมบ้านจะให้ได้ผลดีนั้น ครูต้องเป็นฝ่ายรับฟังและสังเกตให้มาก ควรพูดให้น้อยที่สุด รวมทั้งจะต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์ โรงเรียนและบุคคลในโรงเรียนให้ครอบครัวฟัง 7. ควรพยายามศึกษาหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนักเรียนขณะที่อยู่ที่บ้าน ทั้งในด้านความสัมพันธ์ภายใน ครอบครัว ความสนใจของนักเรียนและครอบครัว สภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัว ที่ทำได้โดยการสนทนาและการสังเกต 8. ไม่ควรเคร่งเรื่องเวลามากจนเกินไป เพราะต้องยืดหยุ่นเวลาตามสถานการณ์เเละปริมาณข้อมูล ที่ต้องการ ทั้งนี้ควรทำให้ครอบครัวของนักเรียนเกิดความรู้สึกว่าการสนทนาเกี่ยวกับตัวเขาเป็นเรื่อง สำคัญที่สุด ซึ่งเวลาในการเยี่ยมบ้านในแต่ละครั้งนั้นควรอยู่ในระหว่าง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง เเละควรเป็นช่วงเวลาที่ไม่เป็นการรบกวนเจ้าของบ้าน เป็นช่วงที่นักเรียนเเละครอบครัวสะดวก เเละพร้อมต่อการให้เข้าเยี่ยมที่สุด
การเยี่ยมบ้านในสถานการณ์ การเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ข้อปฏิบัติที่ควรคำนึงถึงในการเยี่ยมบ้านปกติ (ลงสำรวจพื้นที่จริง) 1. ประเมินความเสี่ยงของพื้นที่ จากรายงานข่าวหรือสอบถามครอบครัวของเด็กโดยตรง ก่อนขั้นตอนการนัดหมายเพื่อทำการเยี่ยมบ้าน 2. คัดกรองเด็กที่ควรได้รับความช่วยเหลือจากข้อมูลเบื้องต้นที่มีอยู่ 3. ระหว่างพูดคุยนัดหมายเพื่อทำการเยี่ยมบ้านสามารถสอบถามข้อมูลคร่าว ๆ ไว้ได้ 4. เมื่อลงพื้นที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด - รักษาระยะห่างกับครอบครัวและเด็ก - พบปะพูดคุยในพื้นที่โปร่ง - งดการสัมผัส - สวมแมสก์ตลอดเวลา - ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง การเยี่ยมบ้านออนไลน์ 1. สอบถามผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ 2. สำหรับนักเรียนที่มีข้อจำกัดด้านการสื่อสาร ให้ดำเนินการประสานงานกับเครื่อข่าย ชุมชนใกล้บ้านเพื่อให้การเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่น
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเยี่ยมบ้าน ประโยชน์ที่ครูได้รับจากการไปเยี่ยมบ้านนักเรียน 1. ครูได้ทราบสภาพแวดล้อมและได้สังเกตความเป็นอยู่ทางบ้านของนักเรียน ทำให้รู้จักและเข้าใจในตัวนักเรียนมากขึ้น 2. ทำให้ครูได้ทราบเจตคติของคนในครอบครัวที่มีต่อตัวนักเรียน การเลี้ยงดูเเละสนับสนุน บุตรของตนว่าเป็นอย่างไร และมีความมุ่งหวังในอนาคตของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาหรือด้านอาชีพการงานอย่างไร 3. ช่วยให้ครูได้ทราบถึงการปรับตัวของนักเรียนในครอบครัวว่าอยู่ในลักษณะใด มีความพึงพอใจหรือความคับข้องใจในสภาพความเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งสภาพดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อการเรียนหรือการทำงานและพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เขาแสดงออกมา ประโยชน์ที่นักเรียนและผู้ปกครองได้รับจากการถูกเยี่ยมบ้าน 1. นักเรียนและผู้ปกครองเกิดความรู้สึกว่าโรงเรียนมีความสนใจและเอาใจใส่ต่อบุคคล ในครอบครัวของตน 2. เป็นการช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียนและคนในครอบครัวเเละครู เมื่อมีอะไรก็สามารถที่จะทำการปรึกษาหารือกันได้ อันจะทำให้เกิดความร่วมมือ ที่เป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันทุกฝ่าย 3. นักเรียนเเละผู้ปกครองเกิดความอบอุ่นเมื่อเห็นครูเอาใจใส่ตนที่มาเยี่ยมถึงที่บ้าน
ตัวอย่างเเบบประเมิน SDQ แบบประเมิน SDQ แบบประเมิน SDQ ฉบับคุณครูประเมินนักเรียน ฉบับผู้ปกครองประเมินนักเรียน แบบประเมิน SDQ ฉบับนักเรียนประเมินตนเอง
Power Point
รายการอ้างอิง
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: