การสวนปัสสาวะและการสวนลา้ ง รายวชิ าหลักการและเทคนคิ การพยาบาล (พย.1202) วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี อดุ รธานี
Table of Contents 01 การสวนปัสสาวะและการสวนล้าง 06 วิธกี ารสวนปัสสาวะเป็นคร้ังคราว 02 อาการแสดงท่ีผดิ ปกติเกยี่ วกับการขบั ถา่ ยปสั สาวะ 07 การถอดสายสวนปสั สาวะ 03 วตั ถปุ ระสงค์ในการสวนปสั สาวะ 08 การดูผปู้ ว่ ยใส่สายสวนปัสสาวะ 04 ชนดิ ของการสวนปัสสาวะ 09 ข้อควรระวัง 05 การสวนปสั สาวะแบบคา้ งไว้ 10 อา้ งองิ
การสวนปสั สาวะและการสวนล้าง การใสส่ ายสวนปัสสาวะ หมายถงึ การใส่สายสวนปสั สาวะเขา้ ไปทางรูเปิดท่อ ปัสสาวะ เขา้ ไปในกระเพาะปสั สาวะ เพื่อให้น้าปสั สาวะไหลออกมาตามสายสวนปสั สาวะ โดย ยึดหลกั ปราศจากเชอื โรค
อาการแสดงทผี่ ิดปกตเิ กี่ยวกบั การขับถ่ายปสั สาวะ 1. ปสั สาวะลาบาก (Dysuria) หมายถงึ ปัสสาวะล้าบากปวดขณะถ่ายปัสสาวะปัสสาวะเช่นการอักเสบของ กระเพาะปสั สาวะ 2. ไมม่ ปี ัสสาวะ (Anuria) หมายถงึ การทีป่ สั สาวะออกน้อยไม่มีปสั สาวะหรือจ้านวนปัสสาวะนอ้ ยกว่า 100 มลิ ลิลิตรต่อวนั ผปู้ ่วยไมร่ ู้สกึ อยากถา่ ยปสั สาวะเช่นหน้าที่การท้างานของไตไม่ดีชอ็ ก 3. ปัสสาวะน้อย (Oliguria) หมายถึงภาวะท่รี ่างกายขับปัสสาวะน้อยกวา่ ปกติโดยมจี ้านวนปสั สาวะนอ้ ยกว่า 500 มล. / วนั หรือ 30 มล. / ชั่วโมง ได้แก่ ภาวะขาดน้า / ไดร้ ับน้าน้อย) ช็อก 4. ปัสสาวะบ่อยและมาก (polyuria) หมายถึงภาวะทมี่ ีปสั สาวะปริมาณมากกว่าปกติจ้านวนปัสสาวะจะมี ปรมิ าณมากกวา่ 2,500 มลิ ลิลติ รตอ่ วัน 5. ปสั สาวะกลางคนื (Nocturia) หมายถึงภาวะมีปัสสาวะมากกว่า 2-3 ครังในเวลากลางคืน 6. กลัน้ ปสั สาวะไม่ได้ (Incontinence of urine) หมายถงึ ภาวะทไ่ี ม่สามารถควบคมุ การขับถ่ายปัสสาวะได้ 7. ปัสสาวะไมอ่ อก (retention of urine) หมายถงึ การทม่ี ีปสั สาวะกกั ค่งั อย่ใู นกระเพาะปสั สาวะไม่สามารถท้า ให้กระเพาะปัสสาวะว่างการบวมบริเวณทอ่ ปสั สาวะต่อมลกู หมากโต
วตั ถปุ ระสงค์ในการสวนปัสสาวะ 1. ระบายนา้ ปัสสาวะ 2. ใหก้ ระเพาะปัสสาวะว่าง 3. สวนลา้ งกระเพาะปสั สาวะ (Bladder irrigation 4. ป้องกนั ปสั สาวะเปียกแผล 5. ปอ้ งกนั การเกดิ แผลกดทบั 6. ตวงวัดปรมิ าณนา้ ปัสสาวะ 7. เก็บนา้ ปัสสาวะสง่ ตรวจเพาะเชอื (Urine culture) 8. ตรึงท่อปัสสาวะ (Splint) 9. เปน็ ช่องทางใหย้ าเขา้ ไปในกระเพาะปสั สาวะ
ชนิดของการสวนปัสสาวะ 1. การสวนปัสสาวะแบบคา้ งไว้ (retention of urethral catheter) เป็นการสอดใส่สายสวนปสั สาวะชนดิ Foley's catheter ผา่ นทางทอ่ ปสั สาวะเข้าสู่ กระเพาะปัสสาวะแลว้ คาสายสวนปสั สาวะไว้ เช่น มกี ารอดุ กนั ของท่อปสั สาวะ ผู้ปว่ ยมภี าวะ ชอ็ กและการชะล้างกระเพาะปสั สาวะ 2. การสวนปสั สาวะเป็นครัง้ คราว (intermittent catheterization) เปน็ การสอดใสส่ ายสวนปสั สาวะผ่านทางท่อปสั สาวะเข้าส่กู ระเพาะปสั สาวะเพือ่ ระบายน้าปสั สาวะ เช่น ปัสสาวะไมอ่ อก ปัสสาวะบอ่ ย ปัสสาวะไหลออกโดยไมร่ ู้ตัว
การสวนปัสสาวะแบบคา้ งไว้ ในเพศชาย อุปกรณ์ในการสวนปสั สาวะ 1. ชุดสวนปสั สาวะปลอดเชอื (Sterile catheterizatio) ประกอบด้วย - ชามกลม 3 ใบใบหนึง่ ใสส่ า้ ลี 6-8 ก้อนใบเลก็ ส้าหรบั ใส่ส้าลี ชุบนา้ ยาแยกไว้ใบใหญ่สา้ หรบั ใส่นา้ ปัสสาวะ“ ก๊อซ (ขนาด 2x2 นวิ ) - ผา้ ส่ีเหลยี่ มเจาะกลางใช้คลมุ บรเิ วณหน้าท้องถึงโคนขาของ ผู้ปว่ ย 2. สายสวนปสั สาวะ (Catheter) เลือกขนาดให้เหมาะสมกบั ผ้ปู ่วย - ผชู้ ายใช้ขนาด 16-20 Fr. 3. นา้ ยาระงบั เชือ (Antiseptic solution) 4. ถุงมือปลอดเชอื (Sterile groves) 2 คู่
การสวนปสั สาวะแบบค้างไว้ ในเพศชาย อุปกรณ์ในการสวนปสั สาวะ 5. สารหล่อล่นื (Lubrication) 6. ชุดช้าระอวยั วะสบื พันธภ์ุ ายนอก (Flushing set) และ หมอ้ นอน (bed pan) 7. ไฟฉายหรือโคมไฟ 8. ขวดเก็บปัสสาวะกรณตี ้องการเก็บปสั สาวะสง่ ตรวจ 9. ชามรปู ไต
การสวนปสั สาวะแบบค้างไว้ ในเพศชาย กรณีทสี่ วนคาสายสวนปสั สาวะจะต้องเตรียมส่ิงเหล่านีเพม่ิ เติม 1. ถุงเกบ็ ปัสสาวะ (Urine bag) 2. กระบอกฉีดยาปลอดเชอื (Sterile syringe) สา้ หรับบรรจุน้ากลัน่ ปรมิ าณตามที่ระบไุ วท้ ่ี ปลายสายประมาณ 10-15 มล. 3. น้ากลน่ั ปรมิ าณตามท่รี ะบุไว้ทปี่ ลายสายประมาณ 10-15 มล. 4. ปลาสเตอร์ (Plaster) สา้ หรบั ตรงึ สายสวนปสั สาวะ
วธิ กี ารสวนปัสสาวะแบบคา้ งไว้ (retention of urethral catheter) 1.ตรวจสอบช่ือผู้ป่วย และชนิดของการสวนปสั สาวะใหถ้ กู ต้อง 2. ประเมนิ สภาพผู้ปว่ ย 3. อธบิ ายใหผ้ ปู้ ่วยเขา้ ใจเกีย่ วกับ ความจา้ เปน็ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ของในการสวนปสั สาวะ วิธีปฏบิ ตั ติ ัวขณะสวน ปสั สาวะ และวธิ ีปฏิบัติตัวขณะคาสายสวนปัสสาวะ 4. จัดเตรยี มอุปกรณ์ให้ถูกต้องและเหมาะสม 5. ล้างมอื ใหส้ ะอาด 6. จัดสถานที่: ปิดประตู/ กนั ม่านใหม้ ิดชดิ เปิดไฟให้มแี สงสวา่ งเพยี งพอ จดั วางอปุ กรณใ์ นทีท่ เี่ หมาะสม 7. จัดท่านอนให้เหมาะสม (ผปู้ ่วยชาย: Dorsal position) 8. ชา้ ระอวยั วะสืบพนั ธ์ภุ ายนอกใหส้ ะอาด 9. ลา้ งมือให้สะอาด และใช้เทคนิคปลอดเชือตามลา้ ดับ ดงั นี 10. เปิดชดุ สวนปสั สาวะ เทน้ายาระงบั เชือทีส่ ้าลีในชามกลมพอให้ส้าลเี ปียกช่มุ 11.บีบสารหล่อลื่นลงบนกอ๊ ซในชามรปู ไต
วิธีการสวนปสั สาวะแบบค้างไว้ (retention of urethral catheter) 11. ฉีกซองสายสวนปัสสาวะและวางในชดุ สวนปสั สาวะ 12.ใสถ่ งุ มือปลอดเชอื 13. ทาปลายสายสวนปสั สาวะดว้ ยสารหลอ่ ลื่น 14. น้าผ้าสเ่ี หลย่ี มเจาะกลางคลุมบริเวณอวยั วะสบื พันธ์ภุ ายนอก โดยใหช้ อ่ งเจาะกลางอยู่บรเิ วณ อวยั วะสบื พนั ธภุ์ ายนอก โดยไม่เปิดให้เหน็ anus ของผู้ป่วย 15. วางชามกลมใบวา่ งไว้ใกล้ผ้ปู ่วย และชามกลมใบท่ีใสส่ า้ ลวี างถัดออกมา 16. ใช้ปากคบี ท้าความสะอาดอวยั วะสืบพนั ธภ์ุ ายนอก ดงั นี ผปู้ ่วยชาย: ใชม้ อื ขา้ งไมถ่ นัดรูดหนังห้มุ ปลายองคชาตลง ใชม้ ือขา้ งทถ่ี นัดหยิบปากคบี เพอ่ื ใช้ ส้าลีเชด็ external urethral orifice วนออก แลว้ เช็ดลงมาทีฐ่ านองคชาต ทา้ ซ้าจนรอบองคชาต ใช้มอื ขา้ ง ไม่ถนัดจับปลายองคชาตตังขนึ (ท้าใหท้ อ่ ปสั สาวะเปน็ แนวตรง สวนปัสสาวะได้งา่ ย) ในขณะสอดสาย สวนปสั สาวะจนกระทง่ั มีปสั สาวะไหลออกมา
วธิ ีการสวนปสั สาวะแบบคา้ งไว้ (retention of urethral catheter) 17. ใชม้ ือขา้ งทีถ่ นดั จบั ปากคบี เพือ่ เลอ่ื นชามกลมทังสองใบออกจากผปู้ ว่ ย แลว้ วางปากคบี ลงในชามกลม ระวงั ให้มือข้างทถี่ นดั ปลอดเชือตลอดเวลา 18. ใชม้ ือขา้ งที่ถนัดยกชามรปู ไตทใี่ สส่ ายปัสสาวะมาวางไวบ้ รเิ วณใกลๆ้ ผปู้ ว่ ย 19.ใช้มือข้างทีถ่ นดั จับสายสวนปสั สาวะ โดยปลายสายอกี ข้างหนง่ึ อยูใ่ นชามรปู ไต 20. สอดสายสวนปัสสาวะเขา้ external urethral orifice จนมีปสั สาวะไหลลงสู่ชามรูปไต 21. สอดสายสวนปัสสาวะ เข้าไปอีก 1 นวิ เพอ่ื ป้องกัน rupture urethra 22. ใสน่ า้ กลน่ั 10 มลิ ลิลติ ร เข้าทางหางแถบสีสม้ เพือ่ ใหล้ กู โปง่ ขยายในกระเพาะปสั สาวะ 23. คอ่ ยๆ ดันสายสวนปัสสาวะเขา้ ไปเบา ๆ เพือ่ ลดการดงึ รังที่บริเวณคอกระเพาะปัสสาวะและเมอื่ ใสส่ ายสว่ นปสั สาวะเสร็จแล้วใหร้ ูดหนงั หุ้มปลายอวัยวะเพศของผปู้ ว่ ยขนึ ใหเ้ รียบร้อยทุกครงั 24. ต่อปลายสายสวนปสั สาวะกับ Urinary bag 25. ใช้พลาสเตอรต์ รึงสายสวนปสั สาวะไวก้ ับหนา้ ขาของผู้ป่วยหญิง/ หนา้ ท้องนอ้ ยของผู้ปว่ ยชาย 26. จัดสายของ Urinary bag ให้ตดิ กับเหล็กข้างเตยี งด้วยตัวหนีบ เพื่อใหเ้ ป็นแนวตรง ไม่เป็นท้องช้าง
วิธกี ารสวนปัสสาวะแบบค้างไว้ (retention of urethral catheter) 27. แขวน Urinary bag ไว้ทดี่ ้านข้างใต้เตียง โดย 1. อยู่ตา่้ กวา่ กระเพาะปสั สาวะ 2. ไม่วางตดิ พนื 28. เก็บเครอ่ื งใช้ออกจากเตียงผู้ป่วย 29. ถอดถงุ มอื 30. จัดเสือผา้ ให้ผู้ป่วย จดั ท่าใหผ้ ูป้ ว่ ยอยู่ในทา่ ทสี่ ุขสบาย ซกั ถามประเมนิ อาการตา่ งๆ 31. เปดิ ประตู/ ม่าน 32. เกบ็ เครอื่ งใช้ไปทา้ ความสะอาด 33. ล้างมือให้สะอาด 34. บนั ทึกการสวนปสั สาวะ: วัน เวลา สาเหตุ ชนิดของการสวนปสั สาวะ ขนาดของสายสวนปสั สาวะลกั ษณะปสั สาวะ (ปรมิ าณ สี กลนิ่ และสิ่งผิดปกติ) และอาการของผู้ปว่ ย ในเอกสารบันทึกการพยาบาล
การสวนล้างกระเพาะปสั สาวะ การสวนล้างกระเพาะปสั สาวะ เพ่ือสวนล้างกระเพาะปัสสาวะในรายทม่ี ีเลอื ดออกมี ลิ่มเลอื ดมหี นองหรอื ตะกอนขุ่นมากในระบบทางเดนิ ปสั สาวะ การสวนล้างกระเพาะปัสสาวะต่อเนื่องพบในผปู้ ว่ ยหลังผา่ ตดั ต่อมลูกหมากในผสู้ ูงอายุ *ซึ่งการสวนล้างกระเพาะปสั สาวะเป็นวธิ ีการสวนปสั สาวะแบบครงั คราว
อุปกรณก์ ารสวนปสั สาวะเป็นครั้งคราว อปุ กรณ์ในการสวนปสั สาวะ 1. ชดุ สวนปสั สาวะปลอดเชอื (Sterile catheterizatio) ประกอบดว้ ย - ชามกลม 3 ใบใบหน่ึงใสส่ ้าลี 6-8 กอ้ นใบเล็กส้าหรบั ใส่สา้ ลี ชบุ น้ายาแยกไว้ใบใหญส่ า้ หรับใส่นา้ ปัสสาวะ“ กอ๊ ซ (ขนาด 2x2 นวิ ) - ผ้าสี่เหลีย่ มเจาะกลางใชค้ ลมุ บริเวณหน้าทอ้ งถงึ โคนขาของ ผปู้ ว่ ย 2. สายสวนปัสสาวะ (Catheter) เลอื กขนาดใหเ้ หมาะสมกบั ผปู้ ว่ ย - ผู้ชายใช้ขนาด 16-20 Fr. 3. นา้ ยาระงับเชอื (Antiseptic solution) 4. ถุงมอื ปลอดเชอื (Sterile groves) 2 คู่
อปุ กรณ์การสวนปัสสาวะเปน็ คร้ังคราว อปุ กรณใ์ นการสวนปัสสาวะ 5. สารหล่อล่นื (Lubrication) 6. ชดุ ช้าระอวัยวะสบื พนั ธภ์ุ ายนอก (Flushing set) และ หมอ้ นอน (bed pan) 7. ไฟฉายหรอื โคมไฟ 8. ขวดเก็บปัสสาวะกรณีต้องการเก็บปัสสาวะส่งตรวจ 9. ชามรูปไต
วธิ ีการสวนปัสสาวะเปน็ คร้งั คราว (intermittent catheterization) 1. ตรวจสอบแผนการรักษา 2. ระบุตวั ผ้ปู ่วย 3. แจง้ ให้ผปู้ ่วยทราบพรอ้ มอธบิ ายวธิ กี ารทา้ อย่างยอ่ ๆและการปฏิบตั ติ วั ของผ้ปู ่วยขณะสวนลา้ งกระเพาะ ปสั สาวะ 4. จดั เตรียมอปุ กรณใ์ สร่ ถเข็นไปทเี่ ตยี งผปู้ ่วยในรายทยี่ ังไม่มีสายสวนปสั สาวะเปน็ ระยะ 5. จดั สถานทแี่ ละสิ่งแวดลอ้ ม-เปดิ ไฟใหส้ ว่างพอดี-กนั ม่าน / ฉากใหม้ ิดชิด-ไขเตยี งราบให้ผปู้ ่วยนอนหนุน หมอนตามปกติ 6. จัดทา่ นอนใหส้ ะดวกในการสวนลา้ งและเปิดเฉพาะบริเวณที่จะทา้ -จดั ทา่ นอนในเพศหญิง จัดใหน้ อนหงายชนั เข่าแยกขาออกจากกนั ใชผ้ า้ คลมุ ไวจ้ ดั ทา่ ในเพศชายจดั ใหน้ อนหงายแยก ขาออกจากกันเลก็ นอ้ ยใช้ผ้าคลุมไว้-ใชผ้ ้าปดิ ตาผู้ปว่ ย 7. ลา้ งมอื ใหส้ ะอาดดว้ ยวิธี Hygiene hand washing และเช็ดใหแ้ หง้
วธิ ีการการสวนปสั สาวะเป็นคร้ังคราว (intermittent catheterization) 8. ในรายท่ยี งั ไมม่ ีสายสวนคาไวใ้ ห้ใสส่ ายสวนปัสสาวะไว้ก่อนทา้ การสวนลา้ งส่วน ในรายทค่ี า สายสวนอยู่ใหห้ ยบิ ผ้าสีเ่ หลีย่ มเจาะกลางโดยให้บรเิ วณเจาะกลางอยทู่ ี่รอยต่อของสายสวนปัสสาวะและถุง เก็บปัสสาวะหลงั จากนันใช้สา้ ลชี บุ Antiseptic solution เชด็ บริเวณรอยต่อของสายสวนและถุงเก็บน้า ปสั สาวะแลว้ ดงึ ถงุ เกบ็ นา้ ปัสสาวะออกจากสายสวนหุ้มปลายท่อดว้ ยผา้ ก๊อซ 9. สวมถงุ มือแลว้ ใช้กระบอกสวนล้าง (Syringe irrigate) ดูดนา้ ยาครงั ละ 50 ซีซีแล้วดันน้ายา เขา้ ทางปลายสายสวนท่ไี วร้ ะบายนา้ ปัสสาวะเบา ๆ อยา่ งนุม่ นวลจนหมด 50 ซีซแี ล้วปล่อยใหน้ า้ ยาไหล ออกมาหรือดูดนา้ ยาออกมาเบา ๆ ท้าเช่นนตี ่อเนือ่ งจนหมดนา้ ยาในชามรปู ไตในกรณที ปี่ สั สาวะข่นุ ให้สวน ล้างจนใสในกรณีทม่ี ีเลือดออกในกระเพาะปสั สาวะไมม่ ากใหส้ วนล้างจนใสหรือจางลงมาก ๆ
วธิ ีการการสวนปสั สาวะเปน็ ครงั้ คราว (intermittent catheterization) 10. สังเกตอาการของผปู้ ว่ ยขณะทา้ การสวนล้างและสงั เกตลกั ษณะจ้านวนนา้ ยาทสี่ วนลา้ งเขา้ ไป และไหลออกมาจ้านวนนา้ ยาทีไ่ หลออกมาควรเท่ากบั จ้านวนน้ายาทใี่ ส่เข้าไปหรือมากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ เพยี งเลก็ นอ้ ยไดถ้ ้าจ้านวนนา้ ยาที่ไหลออกมานอ้ ยกว่านา้ ยาท่ใี ส่เข้าไปมากอาจมีส่ิงอดุ ตันให้เพม่ิ แรงดูด เพม่ิ ขนึ เลก็ นอ้ ย แต่ถา้ ไม่ไดผ้ ลให้หยดุ ท้าการสวนลา้ งและรายงานพยาบาลหัวหน้าเวร / แพทย์ 11. ในกรณที ค่ี าสายสวนอย่ใู หใ้ ชส้ า้ ลชี บุ Antiseptic solution เช็ดปลายสายสวนและหวั ต่อของถงุ เก็บนา้ ปสั สาวะและต่อเขา้ ด้วยกันกรณที ไ่ี ม่ต้องคาสายสวนไวใ้ ห้ถอดสายสวนออกเลย 12. จดั ทา่ ผู้ป่วยใหเ้ หมาะสม 13. เก็บอุปกรณ์ไปทา้ ความสะอาดและล้างมอื ใหส้ ะอาด 14. บนั ทกึ การท้าการสวนล้างกระเพาะปัสสาวะในแบบบนั ทกึ การพยาบาล โดยบอกถงึ วนั เวลาทที่ ้าชนดิ ของนา้ ยาทีใ่ ชส้ วนลา้ งลกั ษณะนา้ ยาและสิง่ เจอื ปนทไ่ี หลออกมา
การถอดสายสวนปสั สาวะ อปุ กรณ์ การปฏบิ ตั ิ 1. set flushing 1. เตรยี มอปุ กรณ์โดยแยกส้าลไี ว้ 1 ก้อน 2. ถุงมือสะอาด 1 คู่ 2. ทา้ ความสะอาดอวัยวะสบื พันธตุ์ ามขนั ตอน 3. savlon 1: 100 3. ใช้ Syringe 10 cc ดูดนา้ ในโป่ง balloon ออก 4. ชามรปู ไต 4. ใชส้ ้าลที ่แี ยกไว้ 1 กอ้ นเชด็ ท้าความสะอาด 5. Syringe 10 cc. 5. แนะน้าผู้ปว่ ยในการปัสสาวะดว้ ยตนเอง
การดผู ปู้ ว่ ยใส่สายสวนปสั สาวะ 1. แขวนถงุ เก็บปัสสาวะใหต้ ่า้ กวา่ กระเพาะปสั สาวะ 2. ระวังการดงึ รังของสายสวนปสั สาวะ 3. ท้าความสะอาดอวัยวะสืบพันธทุ์ กุ วัน อยา่ งนอ้ ยวันละ 2 ครงั โดยใชส้ บู่กบั น้าสะอาด ห้ามใชน้ ้ายาทีม่ สี ่วนผสมของนา้ ยาฆา่ เชอื โรค อาจท้าใหเ้ กิดการระคายเคอื งของผวิ หนงั 4. การทา้ ความสะอาดอวยั วะสืบพนั ธข์ุ ณะท่ีคาสายสวนปสั สาวะโดยการล้างอวยั วะเพศและ บริเวณขาหนีบ รวมทังบริเวณสายสวนปสั สาวะที่ต่อออกมาจากรเู ปดิ ของทอ่ ปสั สาวะให้ สะอาด และลา้ งสายสวนปสั สาวะออกมาทางดา้ นนอกตวั ผปู้ ว่ ยอยา่ งนมุ่ นวล 5. การยดึ ตรึงสายสวนปัสสาวะส้าหรับผ้ชู าย ขณะนอนบนเตียง ใหย้ ึดตรึงสายบริเวณหน้า ท้อง เพือ่ ใหม้ ีการระบายปัสสาวะทด่ี แี ละยึดตรึงสายบริเวณหนา้ ขาขณะนง่ั
การดผู ปู้ ่วยใส่สายสวนปสั สาวะ 6. เปลีย่ นถุงปัสสาวะทุกสัปดาห์ หรอื เมอื่ สกปรกมากหรอื รวั่ ซึม ด้วยวธิ ีปราศจากเชอื 7. เปล่ียนสายสวนปสั สาวะทุกๆ 2 สปั ดาห์ 8. ขนาดของสายสวนปัสสาวะทเี่ หมาะสมกบั เพศ ในผู้ชายใช้สายสวนปัสสาวะขนาด 12 ถึง 14 Fr ดูแลสายสวนปัสสาวะไม่ให้มีการหกั พับงอ 9. ควรเทปสั สาวะในถุงเก็บปัสสาวะอย่างนอ้ ยทุก 3 ชม. หรือเม่อื มปี สั สาวะประมาณ 2 ใน 3 ของถงุ เก็บปัสสาวะ 10. ลา้ งมือกอ่ นและหลังจากเทปสั สาวะทุกครงั
ขอ้ ควรระวัง 1. หลกี เลยี่ งการปลดข้อตอ่ ระหวา่ งสายสวนปัสสาวะและดแู ลไม่ให้มกี ารหลวม หรือหลดุ ใหพ้ บั สายใกล้ถงุ เกบ็ ปสั สาวะทุกครัง เมื่อมกี ารเคล่ือนย้ายผปู้ ว่ ยหรอื ถุงเกบ็ ปสั สาวะ 2. ไมป่ ลอ่ ยถุงเกบ็ ปสั สาวะลากกับพืนทา้ ใหป้ นเป้อื นเชอื โรค 3. ในผู้ป่วยท่ีเรม่ิ ใสส่ ายสวนปัสสาวะควรใส่สายทีม่ ีขนาดเล็ก เพอ่ื ปอ้ งกนั การ บาดเจ็บของท่อปัสสาวะ กรณีทผี่ ปู้ ว่ ยฝกึ ยนื หรอื ฝึกเดนิ ตอ้ งดแู ลให้ถุงเกบ็ ปัสสาวะอยใู่ นระดับต้่ากว่า กระเพาะปสั สาวะ 30 ซม.
อ้างอิง สายพระพร. (2553). การดแู ลผู้ปว่ ยที่คาสายสวนปัสสาวะ. เข้าถงึ ได้จาก https://sites.google.com/site/saipraporn/khxmul-su. (สบื ค้นเมือ่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2564). สุปราณีเสนาดิสยั มณอี าภานนั ทิกุล. (2552). การสวนล้างกระเพาะ ปสั สาวะเปน็ คร้งั คราว. เขา้ ถงึ ได้จาก http://uto.moph.go.th/ thapla/Information. (สืบคน้ เม่อื วนั ที่ 25 กรกฎาคม 2564). มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ คณะพยาบาลศาสตร์. (2562). การสวนคาสายสวน ปสั สาวะ. เข้าถึงไดจ้ าก www.nurse.kku.ac.th%2Findex.php. (สืบค้นเม่อื วันที่ 25 กรกฎาคม 2564). ดารารตั น์ เบาใจ. (2564). อปุ กรณส์ าหรับการสวนปัสสาวะ. เข้าถงึ ไดจ้ าก https://sites.google.com/site/yguiuip9iu5645/xupkr. (สืบค้นเม่ือวันที่ 25 กรกฎาคม 2564). มหาวทิ ยาลัยมหิดล คณะพยาบาลศาสตร์. (2560). เทคนคิ Catheterization. เขา้ ถงึ ได้จาก https://ns.mahidol.ac.th/english/th/departments. (สืบคน้ เมือ่ วนั ท่ี 25 กรกฎาคม 2564).
จัดทาโดย นางสาวนฤมล ดวงตา เลขท่ี 23 รหัสประจาตัว 63118301048 หอ้ ง A นางสาววนิสรา อปั การัตน์ เลขที่ 46 รหสั ประจาตัว 63118301094 ห้อง A นางสาววลิ าณี ไชยราช เลขท่ี 49 รหสั ประจาตวั 63118301103 หอ้ ง A นางสาวช่อลัดดา สรุ ทพิ ย์ เลขท่ี 13 รหัสประจาตวั 63110301027 หอ้ ง B นางสาวพรนภิ า จวงทอง เลขท่ี 31 รหัสประจาตัว 63110301066 หอ้ ง B นางสาวรัชฎาพร กาจัดภัย เลขที่ 45 รหัสประจาตัว 63118301085 ห้อง B นางสาวพมิ พกานต์ หารลายอง เลขท่ี 36 รหสั ประจาตัว 63110301073 ห้อง B นางสาววราพร ซ้อนกลน่ิ เลขท่ี 50 รหสั ประจาตวั 63118301097 ห้อง B
THANK YOU
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: