Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 2 วิวัฒนาการ ( E-book) Word

หน่วยที่ 2 วิวัฒนาการ ( E-book) Word

Published by jokerbmw320d, 2020-05-12 10:56:34

Description: หน่วยที่ 2 วิวัฒนาการ

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 2 วิวฒั นาการโลจิสติกส์ [ช่อื เรอ่ื งรองของเอกสาร]

บทท่ี 2 วิวัฒนาการโลจสิ ติกส์ (Evolution of Logistics) รูปท่ี 2.1 วิวฒั นาการในงานโลจิสติกส์ แนวคดิ หลัก โลจิสติกส์ เป็ นกระแสผลักดันล่าสุดสําหรับองค์กรที่พยายามบูรณาการกระบวนการธุรกิจ ระหว่างช่องทางการค้ากับผู้ค้า นักวิชาการบางกลุ่มมักใช้คําว่า “โลจิสติกส์” และ “ซัพพลายเชน” ในความหมายเดียวกันซ่ึงยงั ไม่เหมาะสมนัก การจัดการซัพพลายเชน น้ันหมายรวมถึง การบูรณาการ การไหลของสินคา้ สารสนเทศ และการเงินระหว่างองคก์ ารจากตน้ น้าํ ไปถึงปลายน้าํ โดย มีเป้าหมายเพื่อ สร้างความพึงพอใจสูงสุดในการบริโภคและลดตน้ ทุนขององคก์ ารใหต้ ่าํ สุด ส่วนโลจิสติกส์ จะหมายความ ถึงการไหลทางของสินค้าระหว่างองค์การเป็ นกิจกรรมการขนส่งและการคลงั สินคา้ ท่ีเคยทาํ ให้มั่นใจ ว่ามีการเคล่ือนยา้ ยสินค้าอย่างต่อเนื่องและเชื่อถือได้ รวมถึงการบริ หารจัดการการไหลของข้อมูล ผ่านเคร่ืองมอื และเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การใช้บาร์โคด้ และการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (EDI: Electronic Data Interchange) การจดั การโลจิสติกส์และซพั พลายเชนมีตน้ กาํ เนิดเพ่ือการสนับสนุน ภารกิจในการสงครามและมี การพฒั นากลวิธีมาอยา่ งต่อเน่ืองจนกระทง่ั ไดน้ าํ มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั ภาคธุรกิจ

ในยุคสงครามเย็น ซ่ึงเป็ นยุคปฏิวตั ิอุตสาหกรรมเร่ือยมา ในศตวรรษท่ี 18 การปฏิวตั ิทางอุตสาหกรรม ในยุโรปได้ปรับเปล่ียนจาก การค้าพาณิชนิยม (Mercantilism) ทําให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวส่งผลให้ มีความต้องการวตั ถุดิบราคาถูกและการขยายตลาดในการระบายสินคา้ ทาํ ให้พฒั นามาสู่รูปแบบการคา้ แบบทุนนิยม (Capitalism) ซ่ึงเน้นการแข่งขนั และการคา้ เสรี (Liberalism) ทาํ ให้มีการขยายตวั ทางการคา้ แบบผูกขาดโดยบริษทั ข้ามชาติ จึงเปรียบได้กับยุคล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจอนั เกิดจากความตอ้ งการ วตั ถุดิบราคาถูกจาก ประเทศในโลกท่ีสาม ซ่ึงมีระบบการจดั การดา้ นการขนส่งและการจดั การท่ีเกี่ยวกับ วตั ถุดิบและสินคา้ จาก ตน้ น้าํ (Place of Source Original) ไปสู่ปลายน้าํ (Place of Customer Origin) ซ่ึงเป็ น นิยามของโลจิสติกส์ แนวคิดการจดั การโลจิสติกส์เป็ นยุคถดั มาในการปฏิวตั ิโลจิสติกส์ ซ่ึงโลจิสติกส์ไดม้ ี ส่วนสร้างกระบวนการเพ่ือองค์การ ความพยายามบูรณาการการไหลของสินคา้ สารเทศและการเงิน ทาํ ให้ หลาย องค์การพบว่าโลจิสติกส์ไดห้ าหนทางกระตุน้ เพ่ือการบูรณาการมากข้ึนตามลาํ ดบั ดงั น้ัน การศึกษา วิวัฒนาการทําให้เกิดวิสัยทัศน์ ซ่ึงมีความสําคัญต่อการระบุและการประยุกต์ใช้วิธีการและเครื่องมือ เพื่อนาํ ไปสู่การพฒั นาองค์ความรู้ท่ีมีประโยชน์ต่อการส่งเสริมการดาํ เนินการทางธุรกิจท่ีมีประสิทธิภาพ อยา่ งต่อเนื่อง ต้นกําเนดิ โลจสิ ตกิ ส์ โลจิสติกส์ไดม้ ีการนาํ มาใช้ในการสงครามเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในสมรภูมิรบปัจจยั สําคญั การได้ชัยชนะคือได้รับการสนับสนุนด้านยุทธภัณฑ์อย่างพร้อมสรรพกองทัพมีการวางแผนเคล่ือนยา้ ย เสบียงอาหาร อาวุธ และกําลังพล หรือเรียกว่า โลจิสติกส์ทางการทหาร (Militaly Logistics) โดยการ สงครามในสมยั โบราณตอ้ งอาศยั การเคลอ่ื นยา้ ยยทุ ธภณั ฑ์ ดว้ ยแรงานคนและสัตว์ การใชว้ ธิ ีดงั กล่าว ขนส่ง ได้น้อยและใช้เวลามากเริ่ มแรกน่าจะเป็ นในยุคของจักรพรรดินโปเลียน (The age of Napoleon) ในต้นศตวรรษที่ 19 โดยได้มีการออกกฎหมายที่เรียกว่า Levee En Masee โดยมีการจัดต้ังกระทรวง การขนส่ง มีหน้าที่รับผิดชอบต่อการส่งอุปกรณ์และการขนส่งอย่างเป็ นระบบ ซ่ึงนโปเลียนไดก้ ล่าววลี ที่มีความเหมาะสมกับ Logistics ปัจจุบันว่า “กองทัพเดินดว้ ยทอ้ ง” ซ่ึงเป็ นตน้ แบบของระบบพลาธิการ ของประเทศต่างๆ โดยในสมัยสงครามเวียดนาม Logistics ได้ถูกนํามาใช้ในการสนับสนุนยุทธปัจจัย ให้ กองทพั สหรัฐฯ ตอ้ งเขา้ ใจว่าการผลิตอาวุธและการส่งกาํ ลงั บาํ รุงของสหรัฐฯน้นั ดาํ เนินโดยภาคเอกชน ซ่ึงทาํ ให้สหรัฐฯเป็นผูน้ าํ ทางดา้ น Logistics จนถึงปัจจุบนั หลงั จากยุคสงครามเยน็ (Cold War) สิ้นสุดลง คาํ ว่า “Logistics” ใชค้ ร้งั แรกกบั ทางการทหาร พนั ตรี Chauncey B. Baker อธิบาย Logistics วา่ เป็นวิทยาการ แขนงหน่ึงของการทาํ สงครามซ่ึงเกี่ยวกบั การเคล่ือนยา้ ยและการสนบั สนุน กองทพั ระหว่างสงครามโลก คร้ังท่ี 2 พนั ธมิตรใช้แบบจาํ ลองโลจิสติกส์ และการวิเคราะห์ระบบมาใชใ้ น การเคล่ือนยา้ ยยุทธภณั ฑ์ เพ่ือ ประกนั วา่ มวี สั ดพุ ร้อม ณ ท่ที ี่ตอ้ งการ

วิวัฒนาการของโลจสิ ตกิ ส์ โลจิสติกส์เริ่มต้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1950 คือ ในช่วงเกิดสงครามเกาหลี โดยโลจิสติกส์ เร่ิมนํามาใช้ในการจัดการยุทธศาสตร์สงครามสมยั ใหม่ ซ่ึงจะมีความซับซ้อนและเป็ นสงครามท่ีมีระยะ ทางไกลกนั มาก โดย Logistics ไดน้ าํ มาเป็นกลยุทธ์ เพ่ือใชเ้ ป็ นการลาํ เลียงยุทธปัจจยั ให้กบั กองทพั สหรัฐฯ สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ฝ่ ายพนั ธมิตรรบชนะดว้ ยการจดั การโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ โลจิสติกส์ จึงไดร้ ับ การยอมรับและมีความสําคญั มากข้ึน กองทัพอังกฤษใช้เพียงทางน้าํ ในการเคล่ือนย้ายยุทธภัณฑ์ และ กาํ ลงั พล การสนบั สนุนดา้ นยทุ ธภณั ฑแ์ ละกาํ ลงั พลที่มีประสิทธิภาพ ทาํ ใหอ้ งั กฤษไดร้ ับชยั ชนะ ชยั ชนะของ กองทัพสหรัฐอเมริ กาในสงครามอ่าวเปอร์เซีย เมื่อปี 1990-1991 ก็ด้วยการสนับสนุนยุทธภัณฑ์ ที่มีประสิทธิภาพ และมีการกล่าวว่าเป็ นสงครามโลจิสติกส์ (Logistics War) เม่ือปี 1990 เป็ นการยุติ การแข่งขันทางด้านการทหาร โดยประเทศมหาอํานาจได้สนับสนุน บริษทั ข้ามชาติ โดยอาศัยกลไก การคา้ โลกให้เขา้ มาชิงความไดเ้ ปรียบในการแข่งขนั ทางการคา้ โดยมี กิจกรรม Logistics เป็ นยุทธศาสตร์ ในการเขา้ มาสู่ยคุ จกั รวรรดินิยมสมยั ใหม่ หรือเรียกให้ “เพราะ” ก็ คือ โลกาภวิ ตั น์ (Globalization) ประกอบ กบั เทคโนโลยีสารสนเทศไดม้ ีการพฒั นาไปสู่เครือข่าย Internet ไดม้ ีส่วนสาํ คญั ทาํ ให้ Logistics กลายเป็ น กระแสและเป็ นท่ีกล่าวขานดงั เช่นในปัจจุบนั โลจิสติกส์มีการศึกษาคร้ังแรกเมื่อกลางทศวรรษ 1910 ตาํ รา ด้านโลจิสติกส์มีการพิมพ์ ออกจาํ หน่ายเมื่อต้นทศวรรษ 1960 และนับแต่น้ันมาวิชาการดา้ นโลจิสติกส์ พฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่อง วิวฒั นาการแนวคดิ และเหตุผลการจดั การโลจิสตกิ ส์และซพั พลายเชน มมี าอยา่ งยาวนาน โดย วิวฒั นาการโลจิสติกส์และซพั พลายเชนแบ่งออกเป็น 3 ยคุ ไดแ้ ก่ รูปที่ 2.2 ววิ ฒั นาการโลจิสติกส์ระหวา่ งปี 1960 – 2000 (Evolution of logistics integration)

ยคุ ที่ 1 การกระจายสินค้า : Physical Distribution เป็ นยุคท่ีบริษทั มุ่งความสนใจไปท่ีการกระจายสินค้าสําเร็จรูปหรือด้านขาออก (Out-bound) ซ่ึงเกิดข้ึนในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 โดยบริษทั ม่งุ ความพยายามไปท่กี ารจดั การกิจกรรมท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การกระจายสินคา้ ได้แก่ การขนส่ง คลังสินค้า สินคา้ คงคลงั บรรจุภัณฑ์ และการยกขนสินคา้ เพื่อให้ การส่งมอบสินคา้ ให้ลูกคา้ มีประสิทธิภาพ โดยมีปัจจยั ที่ส่งผลให้บริษทั ตอ้ งจดั การกระจาย สินคา้ อยา่ งมี ประสิทธิภาพ ดงั น้ี 1) บริษทั ผลิตสินคา้ มากชนิด : Multiple Product Lines บริษทั ผลิตสินคา้ ชนิดเดียวกัน ภายใตห้ ลากหลายย่หี ้อ และรูปลกั ษณท์ หี่ ลากหลายมากข้ึน เพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้ และเพิ่ม ส่วนแบ่งตลาด ส่งผลให้มีสินคา้ คงคลงั มาก และตน้ ทุนสินคา้ คงคลงั สูง ท้งั มีความยงุ่ ยากในการพยากรณ์ อุปสงค์ บริษทั จึงให้ความสําคัญกบั โลจิสติกส์ขาออกมากข้ึน 2) อัตราค่าขนส่งสูงข้ึน : Rate Increases กฎระเบยี บการขนส่งของรฐั บาล(สหรัฐอเมริกา) ทาํ ให้ค่าขนส่งมีอตั ราสูงข้ึนเรื่อยๆ ท้งั น้ี เน่ืองจากไม่มีการ แข่งขนั เท่าท่คี วร ประกอบกบั วิธีการกาํ หนดอตั ราคา่ ระวางของรฐั บาลแบบ Cost-plus มีผลให้อตั ราคา่ ระวาง สูง บริษทั จึงจาํ เป็นตอ้ งหาวิธีการจดั การโลจิสติกส์ขาออกให้มีตน้ ทุนต่าํ 3) ผลิตสินคา้ มูลค่าสูง : Higher- Valued Product การเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกิจอนั เกิดจากปัจจยั ภายในและภายนอกเป็นเหตุใหอ้ ตุ สาหกรรม ในสหรัฐอเมริ กา หันไปผลิตสิ นค้าท่ีมีมูลค่าสูงและใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบต้นทุนเข้มข้น (CapitalIntensive) สินค้ามูลค่าสูงจะมีตน้ ทุนสินค้าคงคลัง บรรจุภัณฑ์และค่าขนส่งสูง บริษทั จึงตอ้ งหา วิธีการ จดั การโลจิสติกส์ขาออกให้มปี ระสิทธิภาพ เมื่อบริษทั ตระหนกั วา่ ตน้ ทุนสินคา้ คงคลงั มคี วามสัมพนั ธ์ กับต้นทุนการขนส่ง ทาํ ให้บริษทั รวมงาน การขนส่งและสินค้าคงคลังอยู่ภายใตฝ้ ่ ายการกระจายสินค้า การรวมงานไวด้ ว้ ยกนั ก็ดว้ ยเหตุผลท่ีจะใช้ แนวคิดเชิงระบบและการพิจารณาระหว่างไดก้ บั เสีย (Trade- Offs) เพอ่ื ลดตน้ ทนุ รวมโลจิสติกส์ ยุคที่ 2 การจัดการโลจิสตกิ ส์แบบบรู ณาการ : Integrated Logistics Management ในทศวรรษท่ี 1970 และ 1980 บริษทั มองเห็นโอกาสทจ่ี ะประหยดั ตน้ ทุนโลจิสติกส์โดยการผนวก งานการจัดการวัสดุ (Material Management) หรื อ Physical Supply หรื อ In-bound Logistics กับงาน การกระจายสินค้า (Physical Distribution) ให้อยู่ภายใต้ผู้บริหารคนเดียวกัน ทาํ ให้ มีการประสานงาน การขนส่งขาเขา้ และขาออก และมอี าํ นาจต่อรองกบั ผใู้ หบ้ ริการขนส่งเพราะมีปริมาณ สินคา้ มากและเป็นการ ขนส่ง 2 ขา ซ่ึงทาํ ใหบ้ ริษทั ไดร้ ับอตั ราค่าขนส่งต่าํ ลงและบริการดีข้ึน ปี เตอร์ ดรักเกอร์ ไดก้ ล่าววา่ “หนทาง เดียวที่จะมีสิทธ์ิควบคุมดูแลกระบวนการที่ยุ่งยากและ ปล่อยปละละเลยน้ีได้ ก็คือต้องทาํ ให้นักธุรกิจ มองภาพธุรกิจของเขาอยา่ งเป็น “องคร์ วม” และมองว่าการกระจายสินคา้ หรือโลจิสตกิ ส์น้นั เป็นสิ่งที่มาเติม เต็มใหก้ ระบวนการผลิตสมบูรณ์ข้นึ มากกวา่ จะเป็นเพียง งานเสริมทา้ ยน่าเบื่ออยา่ งที่เคยมอง” ผนวกกบั การ ต่อยอดองค์ความรู้จากพ้ืนฐานของ “มุมมองด้าน การตลาดสมัยใหม่ของสหรัฐอเมริกา” ที่อาร์ซี ซอว์ (Archie Shaw) เขียนเผยแพร่ใน ค.ศ. 1961 ท่ี มองว่างานกระจายสินค้าว่าเป็ นงานภาคปฏิบัติของงาน

การตลาด เช่นเดียวกับท่ีการดาํ เนินงานกิจกรรม ต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกนั อนั ประกอบดว้ ย การขนส่งสินคา้ การคลงั สินคา้ การบริหารและเส้นทาง สินค้า สําเร็จรูป การควบคุมสินค้าคงคลัง การบรรจุหีบห่อและ การบริหารวตั ถดุ ิบ ลว้ นเป็นปฏิภาคกบั งาน การตลาด ดรกั เกอร์ช่วยจดั การสร้างข้นั ตอนการทาํ งานและช่วย เปิ ดประตูสู่ “โลกใหม่” ท่ีต่อมาเรี ยกว่า “การจัดการโลจิสติกส์เชิงบูรณาการ” (Integrated Logistics Management) อน่ึง บริษทั หันมามองการจดั การวสั ดุเชิงกระบวนการธุรกิจโดยรวมงานการจดั หา-จัดซ้ือ เขา้ มาเป็นส่วนหน่ึงของโลจิสติกส์ขาเขา้ โลจิสติกส์ขาเขา้ จึงประกอบดว้ ยกิจกรรม การแสวงหาแหล่งซ้ือ การจดั ซ้ือ การขนส่ง การตรวจรับ วสั ดุคงคลงั และการเก็บรักษา การรวมงานโลจิสติกส์ ทาํ ให้สามารถ บูรณาการกิจกรรม โลจิสติกส์และมีผลให้บริษัทลดตน้ ทุนโลจิสติกส์และปรับปรุงระดับบริการลูกค้า ให้สูงข้ึน ระหว่างปลายทศวรรษที่ 1970 ตลอดจนทศวรรษที่ 1980 โอลิเวอร์ ท่ีร่วมแกป้ ัญหากบั บีเอเอช ใน ลอนดอนมาตลอด 25 ปี ก็มาทํางานให้บริ ษัทเอลโคมา (Elcoma) ผู้ผลิตส่ วนประกอบต่างๆ ของ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซ่ึงเป็นบริษทั ในเครือของบริษทั ฟิ ลิปส์ (Philips) ซ่ึงเป็ นบริษทั ผลิตเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าของ ประเทศเนเธอแลนด์ บริษทั แอลโคมา พบว่าบ่อยคร้ังท่ีจาํ เป็ นตอ้ งมี “สินคา้ ท่ีพร้อมส่งขาย” จาํ นวนมาก สํารองไวใ้ นคลังสินค้า เน่ืองจากบริษทั ไม่สามารถพยากรณ์ความต้องการของสินคา้ ประเภทต่างๆ ที่มี มากกวา่ 80,000 รายการได้ พอบริษทั ญป่ี ่ นุ เขา้ มาตีตลาดสินคา้ อเิ ล็กทรอนิกส์ เอลโคมา กต็ อ้ งกลุม้ ใจ เพราะ รู้ดีว่าการให้บริการท่ีน่าเช่ือถือ ย่อมจะตอ้ งมาจากการได้รับสินค้ารวดเร็ว ถูกท่ีและในเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างเป็นสิ่งสาํ คญั ท้งั น้ี เพื่อท่ีจะรักษาตาํ แหน่งที่ไดเ้ ปรียบทางธุรกิจ ดงั น้ัน เอลโคมา จึงขอคาํ ปรึกษา จากโอลิเวอร์เพื่อปรับปรุงระบบการจดั ส่งขององค์กร “ปัญหาในระดบั ควบคุมท้งั หมดเป็ นเหตุให้เกิด ความพยายามท่ีจะปรับปรุงเพื่อให้รู้ถึงความตอ้ งการที่แน่นอน ” เนื่องจากความต้องการของ ลูกคา้ ที่มี ความหลากหลาย ส่วนประกอบสินค้าแต่ละชนิดก็แตกต่างกนั ออกไปมากมาย ซ่ึงเป็ นอุปสรรคสําคัญ ของความสาํ เร็จ ซ่ึงแนวทางในการแกป้ ัญหาคือการตดั สินใจว่า “จะเลือกทาํ อย่างไรกบั ลกู คา้ ดี ควรหรือไม่ ท่ีจะแลกการเพ่ิมความน่าเชื่อถือในการจัดส่งกับการใช้เวลานานข้ึนจากการรับคาํ ส่ังซ้ือ จนกระทั่งส่ง” โดยโอลิเวอร์ให้คําแนะนําให้ลดสต๊อกสินค้าสําเร็จรูป ( Finished Stock) และไปเพ่ิมที่สต๊อกสินค้า “ก่ึง” สาํ เร็จรูป (Semi-finish Stock) แทน เพราะว่าสินคา้ สําเร็จรูปน้ัน “แพงกว่า” ถึง สามเท่าตวั แถมยงั ไม่ ยืดหยุน่ มากกว่าอีกดว้ ย 4 ปัจจยั ที่มีผลต่อวิวฒั นาการโลจิสติกส์ในยคุ น้ี ประกอบดว้ ย 1) การเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีการขนส่ง : Transportation Technology Change การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีการขนส่งท่ีสาํ คญั คือ การใชค้ อนเทนเนอร์ในการขนส่งระหว่างประเทศและในประเทศ ประกอบกบั บทบาทของชมรมเรือ (Conference) ลดลง ทําให้มีการแข่งขันสูง และค่าระวางเรือลดลง ขณะเดียวกันคุณภาพบริการดีข้ึน นอกจากน้ีในบางประเทศมีการผ่อนคลายกฎระเบียบการขนส่ง ทาํ ให้ผูบ้ ริการขนส่ง และผูใ้ ช้บริการ สามารถเจรจาต่อรองค่าระวางและบริการได้ การผ่อนคลายกฎระเบียบยงั มีผลต่อการสร้างความสัมพนั ธ์ ระยะยาวระหว่างสองฝ่ ายอีกดว้ ย 2) การแข่งขนั ระหว่างประเทศ : Global Competition การเปิ ดเสรีการคา้ การพฒั นาเทคโนโลยีสารสนเทศและการขนส่ง ส่งผลให้มีการแข่งขนั มากข้ึน บริษทั ขา้ มชาติก็หาวิธีการ ลดตน้ ทุนเพ่ือเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขนั ทางหน่ึงท่ีบริษทั สามารถลดตน้ ทุนได้ ก็โดยการปรับปรุง

โลจิสติกส์ของบริษทั ให้ดีข้ึน กิจกรรมโลจิสติกส์ดา้ นสินคา้ คงคลงั มีการนาํ เสนอหลกั การ Just-in-Time (JIT) มาใช้ หลกั การน้ีจะไม่มีสินคา้ คงคลงั (Zero Inventory) ทาํ ให้ลด ตน้ ทุนสินคา้ คงคลงั หรือไม่มีสินคา้ คงคลังเลย คุณภาพสินค้าดีข้ึนและลดความสูญเสียจากสินค้ามีตําหนิ หรือมีความบกพร่อง (defect) นอกจากน้ียงั มกี ารนาํ หลกั การการจดั การคุณภาพโดยรวม (Total Quality Management : TQM) มาใช้ การใช้ JIT และ TQM ทาํ ให้บริษทั สามารถแข่งขนั ในประเทศและต่างประเทศ 3) แหล่งอุปทานต่างประเทศ : Foreign Sources of Supply โลกาภวิ ตั นท์ างการผลติ และตลาดทาํ ใหม้ กี ารแบ่งการผลิตตามความถนดั มากข้นึ เดิมบริษทั ผลิตสินคา้ ที่เคยซ้ือวตั ถุดิบ/หรือช้ินส่วนประกอบภายในประเทศเป็ นสําคญั ก็เปลย่ี นไปแสวงหา แหล่งผลิตท่ีมีตน้ ทุนต่าํ และคุณภาพดีนอกประเทศ การจดั หาวตั ถุดิบและ/หรือช้ินส่วนและส่วนประกอบ จาก ต่างประเทศทาํ ให้ทางเดินวัสดุยาวข้ึน ซ่ึงมีผลต่อตน้ ทุนการขนส่งและสินค้าคงคลัง ดังน้ันบริษทั จึงหันมาให้ความสําคญั กบั ระบบโลจิสติกส์โดยรวมมากข้ึน 4) ปัจจยั ทางเศรษฐกิจ : Economic Factors ในช่วงท่กี ลา่ วมาโลกประสบปัญหาดา้ นเศรษฐกิจชะลอตวั อนั เน่ืองจากราคาพลงั งานและอตั รา ดอกเบ้ียสูง บริษทั ขา้ มชาติหาทางลดตน้ ทุน โดยการจดั การโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ นอกจากน้ี การเปล่ียนแปลง เศรษฐกิจภายในประเทศและภายนอกประเทศในยุคน้ีทาํ ให้มีการปรับปรุงกลยุทธ์โลจิสติกส์ของบริษทั ก า ร ป รั บ ป รุ ง นํา ไ ป สู่ ก า ร ร่ ว ม ง า น ด้า น ก า ร จัด ก า ร วัส ดุ กับ กา ร ก ร ะ จ า ย สิ น ค้า ไว้ใ น ค ว า ม รั บ ผิ ดชอบ ของผูบ้ ริหารคนเดียวกนั ทาํ ให้มีการปรับโครงสร้างองค์การ โครงสร้างองคก์ ารก่อนยุคน้ีงานโลจิสติกส์ กระจายอยู่ในความรับผิดชอบของหลายฝ่ าย ทําให้การประสานกิจกรรมหรือบูรณาการโลจิสติกส์ ขององค์การไม่มีประสิทธิภาพ การปรับโครงสร้างองคก์ ารโดยให้งานโลจิสติกส์อยูภ่ ายใตก้ ารกาํ กบั ดูแล ของผูบ้ ริหารคนเดียว ทาํ ให้โลจิสติกส์ของบริษทั บูรณาการและมปี ระสิทธิภาพ ยคุ ท่ี 3 การจดั การซัพพลายเชน : Supply Chain Management ในทศวรรษ 1980 และ 1990 มีปัจจัยต่างๆ ที่ทําให้บริ ษัทต้องขยายกระบวนการโลจิสติกส์ ครอบคลุมไปถึงบริษทั ภายนอกท่ีเก่ียวข้องเพื่อประกันว่าผู้บริโภคจะได้รับสินค้าตามต้องการ ราคา ที่เหมาะสม ในเวลาท่ีต้องการ ส่งมอบสินคา้ ถูกต้องตามจาํ นวนและในสภาพที่สมบูรณ์ นั่นคือ บริษทั กระทาํ การท้งั ปวงเพ่ือให้ตน้ ทุนรวมตลอดเส้นทางเดินของวสั ดุและสินคา้ ต้งั แต่จุดเร่ิมตน้ จนถงึ จุดบริโภค ท่ีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เรียกว่า ซัพพลายเชน (Supply Chain) แคดเบอร่ีชเวปปส์ (Cadbury Schwepps) บริษทั ผลิตคุกก้ีและขนมหวานของประเทศองั กฤษ ไดด้ าํ เนินการเพ่ิมประสิทธิภาพของบริษทั อย่างดีท่ีสุดดว้ ยการใส่ใจอย่างเป็ นพิเศษกบั แผนกขนมหวาน ประเภทช็อกโกแลต และเร่ิมปรากฏผลกาํ ไร ข้ึนบา้ งเมื่อช่วงกลางทศวรรษท่ี 1990 ส่วนแบ่งการตลาดก็ กาํ ลงั เพิ่มข้ึนเรื่อยๆ ความสามารถในการผลิต ของเครื่องจกั รก็มปี ระสิทธิภาพมากข้ึน สินคา้ คงคลงั ลดลง ภายใตโ้ ปรแกรมที่ทนั สมยั ฝ่ ายบริหารเนน้ เร่ือง การลดตน้ ทุนการผลติ โดยลดเคร่ืองจกั รและเพิม่ ประสิทธิภาพในการทาํ งานของเคร่ืองจกั รมากข้ึน อยา่ งไร กต็ าม ยงั มเี รื่องทีห่ ลีกเลีย่ งไมพ่ น้ นนั่ กค็ ือ ความหลากหลายของผลิตภณั ฑล์ ดลง ซ่ึงสาํ หรบั ในธุรกิจอุปโภค บริโภค “การคะเนความตอ้ งการ” ของ ลูกคา้ น้นั เป็ นปัญหามาก และ “การสนองความตอ้ งการของลูกคา้

ให้ได”้ เป็นส่ิงที่ช่วยรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไวไ้ ด้ วิธีแกป้ ัญหาแบบด้งั เดิม คือ การเพิ่มสินคา้ คงคลงั ทฝ่ี ่ายบริหารไดพ้ ยายามลดลงมา ตลอดระยะเวลา 18 เดือนที่ผา่ นมา จนสาํ เร็จ ฝ่ ายบริหารไมย่ อมใหป้ ัญหาน้ี เกิดข้ึนอีกจึงปรึกษา โอลิเวอร์ ตามวิธีที่บริษัทแคคเบอรี่ ชเวปปส์ จะแก้ปัญหาเก่ียวกับสินค้าคงคลัง ดว้ ยตนเองน้นั หมายความวา่ ตอ้ งเพิ่มการลงทุนเก็บสินคา้ คงคลงั ข้ึนมาอกี เท่าหน่ึง โดยตอ้ งตนุ สินคา้ จาก 4 สัปดาห์เป็ น 8 สัปดาห์ หากพิจารณาในแง่กระแสเงินสด น้ันหมายถึงต้องหาเงินเพิ่มข้ึน 5 ลา้ นเหรียญ สหรัฐอเมริกา และตอ้ งมีค่าใชจ้ ่ายต่างๆ เกิดข้ึนจากเงินกอ้ นน้ีดว้ ย เมื่อมองยอ้ นกลบั ไป โอลิเวอร์พยายาม มองปัญหาของเเคดเบอร่ีชเวปปส์อย่างเป็ นองค์รวม จึงตระหนกั ว่า ปัจจัยท่ีหน่วงเหน่ียวไม่ให้เเคดเบอร่ี มีกาํ ลงั การผลิต (Capacity) และความยืดหยุ่นเต็มที่ ไดแ้ ก่ “กระบวนการบรรจุหีบห่อ” โอลิเวอร์ช้ีเลยว่า ตรงการบรรจุผลติ ภณั ฑน์ ้นั เองทีท่ าํ ใหต้ อ้ งทุ่มเงิน ลงทุนเขา้ ไปอกี และดว้ ยการเพิม่ เงินลงทุนกบั เคร่ืองบรรจุ หีบห่ออีกกอ้ นหน่ึง เเคดเบอร่ีก็สามารถเพ่ิมกาํ ลงั การผลติ ข้ึนไดถ้ ึง 30% เพ่ือใหส้ ามารถสนองความตอ้ งการ ของลูกคา้ ไดค้ ล่องตวั ข้ึน จากกรณีศึกษา ดงั กลา่ ว จะพบวา่ การลดตน้ ทนุ และสามารถ “รกั ษารงั วดั ” ทางการ แข่งขนั ไวไ้ ด้ คือการมองออกไปนอกกรอบท่ีเป็น “กล่อง” และตอ้ งสาํ นึกว่าหน่วยงานต่างๆ ท้งั ภายในและ ภายนอก “กล่อง” ลว้ นเป็ นโซ่ปลอ้ งหน่ึงท่ีร้อยตวั กันเป็ นสายโซ่อุปทาน โดยการมองเชนน้ีด้วยผลพวง เชิงประสิทธิภาพอนั สร้างสรรคท์ ี่เกิดข้ึนระหว่าง “กาํ ลงั การผลติ ” กบั “การบริหารคลงั สินคา้ ” บริษทั ทก่ี าํ ลงั เผชิญกับความท้าทายทางโลจิสติกส์ย่อมจะสามารถให้ “สมรรถนะ” ท่ีเป็ นเลิศและราคาถูกแก่ลูกค้า ท้งั หลายได้ ปัจจยั ทีก่ ดดนั ใหบ้ ริษทั ตอ้ งขยายระบบโลจิสติกส์ไปสู่ซพั พลายเชน ประกอบดว้ ย 1) การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของผู้บริ โภค : Changing Consumer Behavior ผู้บริ โภค ให้ความสําคญั ของคุณภาพสินคา้ และราคาถูก มากกว่าตราสินคา้ ราคาแพง เนื่องจาก ผูบ้ ริโภคไดร้ ับขอ้ มลู ข่าวสารเก่ียวกบั สินค้ามากข้ึน รวมถึงปัจจยั ด้านเวลา โดยผูบ้ ริโภคจะไม่อดทนกบั ความล่าช้าของธุรกิจ ผูบ้ ริโภคจะซ้ือสินคา้ ในเวลาที่สะดวกและบริการรวดเร็ว จากการเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมของผบู้ ริโภคทาํ ให้ ธุรกิจต้องปรับเปล่ียนการให้บริ การเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โลจิสติกส์ไม่เพียงพอ ทีจ่ ะตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้ บริษทั จึงตอ้ งนาํ หลกั ซพั พลายเชนมาใช้ 2) การเปลี่ยนแปลงปรัชญาการจัดการวัสดุ : Changing Material Management Philosophy วสั ดุเป็ นปัจจยั การผลิตสินคา้ สําเร็จรูปต้องใช้วสั ดุหลากหลายชนิด คุณภาพสินคา้ ข้ึนอยู่กับคุณภาพวสั ดุ วสั ดุมีคุณภาพดีมีผลให้สินค้ามีคุณภาพดีด้วย อุตสาหกรรมในญ่ีป่ ุนโดยเฉพาะอุตสาหกรรม รถยนต์ ตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของวสั ดุ เน่ืองจากวสั ดมุ ีความสาํ คญั ตอ่ ระบบการผลิตแบบ JIT ท่ีตอ้ งมี การส่งมอบ วสั ดุที่เชื่อถือไดแ้ ละการตรวจสอบคุณภาพวสั ดุจะตอ้ งทาํ ท่ีโรงงานของซพั พลายเออร์ การเปลี่ยนแปลง การจดั การของวสั ดุท่ีสําคญั อีกประการคือการจดั ซ้ือวสั ดุจากผูผ้ ลิตภายนอก (Outsource) มากข้ึน รวมท้งั กระจายแหล่งซ้ือไปทั่วโลกเพ่ือหาวสั ดุคุณภาพดีและราคาต่าํ ดงั น้ัน บริษทั จึงต้องขยายงานโลจิสติกส์ ให้ครองคลุมซัพพลายเชน ความสําเร็จการจดั การซัพพลายเชนอยู่ที่ความร่วมมือและการประสานงาน ระหว่างบริษทั กบั ซพั พลายเออร์ รวมท้งั ความไวว้ างใจและไม่เอาเปรียบกนั

3) การเปลย่ี นแปลงโครงสร้างช่องทางจาํ หน่ายและความสัมพันธ์ : Changing Channel Structures and Relationship ผูบ้ ริโภคมีแนวโน้มท่ีตอ้ งการความสะดวกและบริการท่ีรวดเร็ว ผูป้ ระกอบการคา้ ปลีก ตอบสนอง ความตอ้ งการของลกู คา้ ดว้ ยการลงทุนในร้านคา้ ปลีกขนาดใหญ่ ร้านคา้ ปลีกขนาดใหญ่มสี ินคา้ หลากหลายไวบ้ ริการลูกคา้ ลูกคา้ สามารถหาซ้ือและเลือกสินคา้ ตามที่ต้องการได้เพียงในร้านค้าเดียว การปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ ช่องทางจาํ หน่ายในทศวรรษท่ีกล่าวมาเป็ นตัวหล่อหลอม การพฒั นาระบบ ซพั พลายเชน ท่ีมีผลต่อการลดวงจรเวลาส่ังซ้ือและลดสินคา้ คงคลงั ในยุคน้ีแนวคิดทางธุรกิจเปลี่ยนแปลง จากมุง่ ฉกฉวยประโยชน์มาเป็นพนั ธมิตรทางธุรกิจ ความสัมพนั ธเ์ ช่นน้ีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ช่องทาง จาํ หน่ายเป็นปัจจยั ให้บริษทั ขยายการจดั การโลจิสติกส์ครอบคลุมซพั พลายเชน 4) โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและตลาด : Globalization of the Economy and Markets โลกาภิวตั น์ ทาํ ให้มีการจัดซ้ือจัดส่งและการขายสินค้าครอบคลุมกวา้ งขวางไปทุกภูมิภาคของโลก ผูจ้ าํ หน่ายสินค้า มองหาตลาดต่างประเทศเพ่ือขยายกิจการ ขณะท่ีผู้ผลิตจะมองหาแหล่งวัตถุดิบ แหล่งผลิตช้ินส่วน แหล่งประกอบหรือแหล่งซ้ือจากต่างประเทศ เพ่ือความไดเ้ ปรียบทางการแข่งขนั การเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ดงั กล่าวทาํ ให้การจดั การโลจิสติกส์ไม่พียงพอเพราะการเคล่ือนยา้ ยผลิตภณั ฑ์ เก่ียวขอ้ งกบั หลายบริษทั เส้นทางเดินผลิตภณั ฑม์ ีความยาวและซับซ้อนซ่ึงมีผลต่อตน้ ทุนโลจิสติกส์ การลดตน้ ทุนโลจิสติกส์และ การปรบั ปรุงการบริการลูกคา้ จะสาํ เร็จไดต้ อ้ งประสานงานตลอดเสน้ ทางเดินวสั ดุ และสินคา้ ต้งั แตจ่ ุดเริ่มตน้ จนถึงจุดบริโภค บริษทั จึงตอ้ งให้ความสําคญั กบั ซพั พลายเชนและมุ่งมนั่ ปรับปรุงการจดั การซัพพลายเชน ของบริษทั ใหม้ ปี ระสิทธิภาพและประสิทธิผลเพอ่ื บรรลุความไดเ้ ปรียบการแข่งขนั 5) การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศ : Information Technology Change การพัฒนา เทคโนโลยีการประมวลขอ้ มลู และระบบสารสนเทศมีความกา้ วหน้า และนาํ มาใช้ทางธุรกิจอย่างกวา้ งขวาง และการเช่ือมโยงขอ้ มูลระหว่างผซู้ ้ือ ผูข้ าย และผูข้ นส่งตลอดเส้นทาง เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยปรับปรุง การสั่งซ้ือ การส่งมอบ การควบคุมสินคา้ คงคลงั การติดตามการขนส่งและอ่ืนๆ ให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน นอกจากน้ีเทคโนโลยีสารสนเทศยงั นําไปใช้ในการบริหารคลงั สินค้าอัตโนมตั ิ การวางแผนการผลิต การจดั การวสั ดุอ่ืนๆ เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีบทบาทสาํ คญั ที่เอ้ือต่อการจดั การซัพพลายเชนและทาํ ให้ ระบบซัพพลายเชนบริษทั มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล บริษทั ที่ยงั ไม่ได้ใช้ประโยชน์เทคโนโลยี สารสนเทศในงานโลจิสตกิ ส์จะมปี ัญหาการแข่งขนั ในอนาคต 6) นโยบายรัฐบาลและการผ่อนคลายกฎระเบยี บ : Government Policy and Deregulation นโยบาย กฎระเบยี บมผี ลตอ่ การเปลี่ยนแปลงค่าระวางและคุณภาพบริการขนส่ง การผอ่ นคลาย กฎระเบียบการขนส่ง ในสหรัฐอเมริกาทาํ ให้ผูป้ ระกอบการขนส่งสนองตอบต่อตลาดไดร้ วดเร็ว ซ่ึงส่งผลต่อโลจิสติกส์และ ซพั พลายเชน การเปล่ียนกฎระเบียบยงั ครอบคลมุ ไปถึงเรื่องของความปลอดภยั และส่ิงแวดลอ้ ม บรรจุภณั ฑ์ และผลิตภัณฑ์ จะต้องมีความปลอดภัยและเป็ นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม การผ่อนคลายกฎระเบียบการขนส่ง ของสหรัฐอเมริกามีผลต่อความสัมพนั ธ์ระหว่างบริษทั กบั ผูใ้ ห้บริการขนส่ง ความสัมพนั ธ์ทางธุรกิจท่ีมี ความเข้าใจและไวว้ างใจกัน ทําให้คู่ค้าสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ การประสานงานเคล่ือนยา้ ยสินค้า

มีประสิทธิภาพมากข้ึน ในขณะที่กฎระเบียบด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมมีผลต่อโลจิสติกส์ ของบริษทั ตน้ ทุนโลจิสติกส์ของบริษทั สูงข้ึน ปัจจยั ขบั เคลื่อน 6 ประการท่ีกล่าวมาเป็ นตวั ขบั เคล่ือนหล่อหลอมงานโลจิสติกส์ และการพฒั นา ซัพพลายเชนในทศวรรษ 1980 และ 1990 ปัจจัยท้ัง 6 จะยังคงขับเคล่ือนการพัฒนาโลจิสติกส์และ ซพั พลายเชนต่อไป วิวัฒนาการโลจิสตกิ ส์ในประเทศไทย ธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทยได้เริ่มมีการประกอบการในช่วง พ.ศ. 2540 ซ่ึงเป็ นช่วงที่ ประเทศไทยประสบกบั วิกฤติทางการเงินและเศรษฐกิจคร้ังใหญ่ อนั เกิดจากการที่รฐั บาลไดป้ ระกาศลอยตัว ค่าเงินบาท ทําให้ประเทศไทยตอ้ งเปิ ดรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF: International Monetary Fund) โดยกดดนั ให้ประเทศไทยมีการเปิ ดเสรีทางการคา้ การลงทุนและภาคบริการ โดยในช่วงน้ันบริษทั ต่างชาติไดเ้ ขา้ มาลงทุนในประเทศไทยเป็ นจาํ นวนมากอีกท้งั บริษทั ต่างชาติ ดงั กล่าว ซ่ึงมีการร่วมทุนกบั คนไทยก็ไดม้ ีการปรับเพ่ิมสัดส่วนการถือครองหุ้นหรือบางกิจการก็กลายเป็ นของ ต่างชาติ เช่นอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ ห้างสรรพสินคา้ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และธนาคาร ต่างอยู่ ภายใตก้ ารครอบงาํ ของบริษทั ต่างชาติ ประกอบกบั ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็ นกระแสของทุนนิยมขา้ มชาติ ภายใตแ้ รงกดดนั ของการเปิ ดเสรีการคา้ ทาํ ให้ประเทศไทยตกอยภู่ ายใตก้ ระแสของโลกาภิวตั น์ โลจิสติกส์จึง เริ่มเป็ นที่แพร่หลายอยู่ในบริษทั ต่างชาติโดยเฉพาะจากประเทศตะวนั ตกและประเทศญี่ป่ ุน ซ่ึงได้มีการ พฒั นาระบบโลจิสติกส์มากอ่ นประเทศไทย เม่ือโลจิสตกิ ส์ไดแ้ พร่หลายมาสู่ประเทศไทย ในยคุ ตอ่ มาส่งผล ให้ระบบการคา้ การลงทุนของประเทศไทยมีการพฒั นามากข้นึ ทนั ต่อการแขง่ ขนั กบั ตา่ งชาติ และในปัจจบุ นั รฐั บาลไดใ้ ห้ความสาํ คญั กบั โลจิสติกส์มากข้ึน โลจสิ ติกส์ในยคุ โลกาภวิ ัตน์ กระบวนการโลกาภิวัตน์ การขยายตัวทางเศรษฐกิจภายหลังสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ก่อให้เกิด การเปล่ียนแปลงรูปแบบในการดาํ เนินธุรกิจไปจากเดิม โดยเศรษฐกิจของโลกมีแนวโนม้ ที่จะเชื่อมโยงและ พ่ึงพากนั มากข้ึน เน่ืองจากปัจจยั ดา้ นนโยบายทางการคา้ ทมี่ ีผลให้อปุ สรรคทางการคา้ ลดลงและการเปิ ดกวา้ ง มากข้ึน เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในรูปของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ( Economic Integration) อนั ไดแ้ ก่ การเปิ ดเสรีทางการคา้ และการลงทุน การพฒั นาเทคโนโลยีสารสนเทศและขนส่ง ความร่วมมือทาง เศรษฐกิจ ในทศวรรษท่ีผ่านมาที่มีความเข้มขน้ มากข้ึน การเปิ ดเสรีทางการคา้ ภายใตก้ รอบความตกลง พ หุ ภ า คี (Multilateral trade Agreements) ข อ ง อ ง ค์ก า ร ค้า โ ล ก ( World trade Organization: WTO) การ รวมกลมุ่ ในระดบั สูงสุด เช่น สหภาพยโุ รป (European Union: EU) การคา้ การลงทุนและปัจจยั การผลิต ขา้ มพรมแดนโดยเสรีกลมุ่ เศรษฐกิจ เช่น NAFTA, AFTA กาํ ลงั เดินไปสู่ระดบั การรวมกลมุ่ ทสี่ ูงข้ึน นโยบาย ทางเศรษฐกิจท่ีเกิดข้ึนเป็ นการลดอุปสรรคทางการค้าที่สําคัญท้ังที่เป็ นภาษี (Tariff) และ ไม่ใช่ภาษี

(Non-Tariff Barrier) ส่งผลให้ปริมาณการคา้ ระหว่างประเทศเพิ่มข้ึน ในขณะที่ไดม้ ีการ พฒั นาเทคโนโลยี การขนส่งและสารสนเทศข้ึนเพ่ือลดอุปสรรคทางการค้าด้านค่าขนส่งและเวลา อีกท้ังยงั สนับสนุน ใหก้ ารตดิ ตอ่ ส่ือสารธุรกิจระหว่างประเทศไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ซ่ึงเป็นปัจจยั สาํ คญั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ของผูบ้ ริโภคให้มีรสนิยม (Tastes) และความชอบ (Preference) ที่คล้ายคลึงกันทาํ ให้สินค้าที่ผลิตและใช้ ในประเทศหน่ึงมกี ารซ้ือขายและใชใ้ นประเทศตา่ งๆ ทวั่ โลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงที่มีการเชื่อมโยงและ พ่ึงพากนั ในระบบเศรษฐกิจ หรือเรียกว่า โลกาภิวตั น์ (Globalization) เป็ นกระบวนการท่ีมีการเชื่อมโยง ทางเศรษฐกิจใน 2 รูปแบบ ได้แก่ 1) ตลาดโลกาภิวตั น์ (Globalization of Market) หรือ ตลาดสินคา้ ที่มี แนวโน้มเป็นตลาดเดียวกนั อนั เกิดจากการเพิ่มโอกาสในการขยายการขายสินคา้ ไปทวั่ โลก และเปิ ดโอกาส ให้แสวงหาแหล่งผลติ ตน้ ทนุ ต่าํ แตค่ ุณภาพสูง รวมถึงการแสวงหาวตั ถุดิบทม่ี ีคุณภาพสูงและตน้ ทุนต่าํ ส่งผล ให้การผลิต สินคา้ ท่ีมีคุณภาพเดียวกนั และเป็ นที่ตอ้ งการทางการตลาด ประกอบกบั เทคโนโลยีการสื่อสาร ที่ท่ัวถึงท่ัวโลกทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผูบ้ ริ โภคที่มีแนวโน้มที่จะชื่นชอบสินค้าท่ีผลิต จากประเทศอื่น และสามารถจะซ้ือขายสินค้าได้ท่ัวโลก 2) การผลิตโลกาภิวัตน์ (Globalization of Production) เกิดการกระจายการผลติ ไปยงั ภมู ิภาค ต่างๆ โดยพจิ ารณาจากปัจจยั การผลิต ท้งั ดา้ นทุน แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติ ท่ีราคาถูกและมีคุณภาพที่เหมาะสมกบั ผลิตภณั ฑข์ องบริษทั เพ่ือสร้างความไดเ้ ปรียบ ทางการค้า ซ่ึงส่งผลให้มีการกระจายแหล่งซ้ือวัสดุและสินค้าไปท่วั โลก รูปแบบการผลิตโลกาภิวัตน์ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 3 รูปแบบ คือ 2.1) การลงทนุ ผลิตสินคา้ เพ่ือขายในตลาดทวั่ โลก หรือ เพื่อส่งกลบั ไปขาย ในประเทศของตน เช่น บริษัทญี่ป่ ุน ลงทุนผลิตทีวี เครื่องถ่ายเอกสารในมาเลเซียแล้วส่งขายทว่ั โลก 2.2) การรวบรวมวตั ถุดิบและส่วนประกอบต่างๆ จากทว่ั โลก และนําไปประกอบเป็นสินคา้ (Assembly) ในอีกประเทศหน่ึง เช่น บริษทั ผลิตรถยนต์ Daimler Chrysler ซ้ือช้ินส่วนและ ส่วนประกอบจากผูผ้ ลิต ในแคนาดา เยอรมัน ญี่ป่ ุนและอื่นๆ แล้วประกอบในประเทศจีน ไทย เบลเย่ียม เม็กซิโก และอื่นๆ 2.3) การจา้ งการผลติ เช่น บริษทั IKEA จา้ งประเทศตา่ งๆ ผลติ เฟอร์นิเจอร์ หรือ อุตสาหกรรมเคร่ืองแต่งกาย เช่น Nike, Adidas จา้ งโรงงานในประเทศกาํ ลงั พฒั นาผลิตให้ จากที่กล่าวมาจะพบว่า การดําเนินธุรกิจระดับโลกในยุคโลกาภิวัตน์จะให้ความสําคัญกับ การปรับปรุงกระบวนการดาํ เนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการขยายการตลาดของธุรกิจให้เพ่ิม มากข้ึน ซ่ึงเป็ นการมุ่งเน้นไปท่ีการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่หลากหลาย ส่ิงสําคัญ ในการดาํ เนิน ธุรกิจให้ประสบความสําเร็จและมีความไดเ้ ปรียบทางการคา้ คือการที่สามารถลดต้นทุน การผลติ ซ่ึง ตน้ ทุนโลจิสติกส์เป็นปัญหาสาํ คญั สําหรับผูป้ ระกอบการในการดาํ เนินธุรกิจ ตน้ ทนุ โลจิสติกส์ (Logistics Cost Components) คือ ต้นทุนที่เกิดจากการใช้บริ การด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการ ในการทาํ กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยมอี งคป์ ระกอบ 3 ส่วน คอื ตน้ ทุน การขนส่งสินคา้ (Transportation Cost) ต้นทุนการถือครองสิ นค้าคงคลัง (Inventory Carrying Cost) และต้นทุนการบริ หารจัดการ (Administration Cost) ซ่ึงต้นทุนโลจิสติกส์จะแบ่งออกเป็ น 2 ระดบั ไดแ้ ก่ ตน้ ทุนโลจิสติกส์เชิงมหภาค เป็ นต้นทุนการบริ หารจัดการโลจิสติกส์ท้ังระบบ และ ต้นทุนโลจิสติกส์ เชิงจุลภาคเป็ นต้นทุน

จากกิจกรรมโลจิสติกส์ในแต่ละกิจกรรมที่สนับสนุนให้องค์กรสร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขนั ทาง โลจิสติกส์เหนือองคก์ รอืน่ รูปที่ 2.3 องคป์ ระกอบตน้ ทุนโลจิสติกส์ระดบั ประเทศ ดงั น้ัน กิจกรรมโลจิสติกส์ทุกกิจกรรมท่ีสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาดหมายถึงตน้ ทุน ในการ ดาํ เนินการ อันไดแ้ ก่ ต้นทุนทางโลจิสติกส์ ซ่ึงจะส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือบริษทั โดยตรง ปัจจุบัน หลายประเทศหรือหลายองค์กรได้นํากรอบแนวความคิดเก่ียวกับกิจกรรมโลจิสติกส์ในระดบั จุลภาค ของ Stock และ Lambert ปี 2001 มาประยุกต์ใช้ในการคาํ นวณตน้ ทุนโลจิสติกส์ขององค์กร หรือบริษทั ประกอบไปดว้ ยกิจกรรมที่เกี่ยวขอ้ งกบั การดาํ เนินการด้านโลจิสติกส์ท้งั สิ้น 13 กิจกรรม ตามตาราง 2.3 ตน้ ทุนโลจิสติกส์ของประเทศตา่ งๆ และของโลก บทบาทโลจสิ ติกส์ในยคุ โลกาภวิ ตั น์ นับแต่ปี 1962 เป็ นต้นมา บริษทั ในสหรัฐอเมริกาให้ความสําคัญด้านโลจิสติกส์ โดยจะเห็น ไดจ้ ากโครงสร้างองคก์ ารทมี่ ีผูบ้ ริหารระดบั สูง รับผิดชอบงานโลจิสติกส์ของบริษทั เพิ่มมากข้นึ ท้งั น้ีเพราะ ค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์ขององค์การเป็ นตน้ ทุนท่ีสําคญั การจดั การโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพจะลดตน้ ทุน เพิ่มความสามารถการแข่งขนั และสร้างความพึงพอใจแก่ลูกคา้ โดยบทบาทสําคญั ของโลจิสติกส์ในภาค ธุรกิจสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 6 ส่วนไดแ้ ก่ 4.1) โลจิสติกส์สนับสนุนการผลิต : Logistics support Production การจัดหาวสั ดุเป็ นกิจกรรม สําคัญในการผลิตสินคา้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกคา้ และ ยงั เป็ นกิจกรรมหน่ึงของโลจิสติกส์

ขาเขา้ โลจิสติกส์ขาเข้าเป็ นการสนับสนุนการผลิตซ่ึงประกอบด้วยกิจกรรมการจัดหาหรือจัดซ้ือวัสดุ การขนส่ง วสั ดคุ งคลงั การเก็บรักษา 4.2) โลจิสติกส์ สนับสนุนการตลาด : Logistics Supports Marketing โลจิสติกส์มีส่วนสําคัญ ต่อการสนับสนุนการตลาดในดา้ นขาออก (Out bound) เป็ นการนาํ สินค้า ไปยงั ลูกคา้ และผูใ้ ช้สุดท้าย ซ่ึง เกี่ยวกบั การบรรจุภณั ฑ์ การขนส่ง สินคา้ คงคลงั และอื่นๆ กิจกรรมท่ี กล่าวมาเป็ นการสนับสนุนการตลาด ในดา้ นต่างๆ ดงั น้ี (1) ดา้ นราคา : Price (2) ผลติ ภณั ฑ์ : Product (3) การส่งเสริมการตลาด : Promotion (4) ช่องทางจาํ หน่าย : Place 4.3) โ ล จิ ส ติ ก ส์ เ พ่ิ ม คุ ณ ค่ า : Value-Added Role of Logistics ใ น ท า ง เ ศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ แบ่งอรรถประโยชน์ (Utility) หรือการเพิ่มคุณค่า (Value-Added) สินคา้ 4 ประเภท ได้แก่ From Utility, Place Utility, Time Utility และ Possession Utility อรรถประโยชน์หรื อการเพ่ิมคุณค่าท้ัง 4 ประการ เก่ียวขอ้ งกบั โลจิสตกิ ส์หรืออกี นยั หน่ึงโลจิสตกิ ส์มบี ทบาทในการเพม่ิ คณุ ค่า 4 ประการดงั กล่าว ดงั น้ี (1) From Utility กิจกรรมการผลิตเป็นการเปล่ียนวสั ดุให้เป็ นสินคา้ สําเร็จรูป การแปรสภาพวสั ดุ เป็นสินคา้ เป็ นการเพ่ิมพูนคุณค่าหรืออรรถประโยชน์เรียกว่า From Utility เช่น การนาํ วสั ดุมาผลิตเป็ นผา้ ผา้ ที่ผลิตออกมามีคุณค่ากบั ผูบ้ ริโภคมากกว่าเม่ือยงั เป็ นผา้ ฝ้ายหรือเส้นใย เพราะผา้ ท่ีผลิตแล้ว สามารถ นาํ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ แตถ่ า้ เป็นฝา้ ยหรือเส้นใย ผูบ้ ริโภคไมส่ ามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ไดท้ นั ที โลจิสติกส์ มีบทบาทในการเพ่ิมคุณค่าดว้ ยการจดั หาวสั ดุท่ีมีคุณภาพและราคาต่าํ และการจดั ส่งมายงั โรงงานด้วยวิธี การขนส่งทีม่ ีตน้ ทุนต่าํ ผลิตภณั ฑท์ ่อี อกมากจ็ ะมตี น้ ทนุ ต่าํ จึงเป็นการเพิม่ คณุ ค่า (2) Place Utility คือการสร้างคุณค่าหรือเพ่ิมคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการจัดให้มีผลิตภัณฑ์ เพื่อซ้ือหาหรือบริโภค ณ ที่ท่ีมีความตอ้ งการ โลจิสติกส์ทาํ ให้มี Place Utility ดว้ ยการเคล่ือนยา้ ยสินค้า จากแหล่งผลิตหรือแหล่งสินคา้ ไปยงั ท่ีท่ีมีความตอ้ งการดว้ ยการขนส่ง หากไม่มีการเคลื่อนยา้ ยไปยงั ท่ที ่มี ี ความตอ้ งการ สินคา้ น้ันก็ไม่มีค่า การเคลื่อนยา้ ยด้วยการขนส่งจึงเป็ นการสร้างคุณค่าให้กับสินค้า เช่น การเคล่ือนยา้ ยสินค้าการเกษตรด้วยรถไฟหรือรถยนต์จากแหล่งผลิตไปยงั ตลาดที่มีผูบ้ ริโภคตอ้ งการ ซ่ึงเป็นการสร้าง Place Utility กบั สินคา้ เกษตรน้นั ๆ (3) Time Utility คือการสร้างคุณค่าให้กบั ผลิตภณั ฑด์ ้วยการจดั ให้มีผลิตภณั ฑ์ในเวลาที่ผูบ้ ริโภค ตอ้ งการ สินคา้ จะไมม่ คี ณุ ค่าต่อผูบ้ ริโภค หากไม่มีสินคา้ ในเวลาทตี่ อ้ งการซ้ือ โลจิสติกส์สร้าง Time Utility ดว้ ยการมีสินคา้ คงคลงั ณ สถานทแ่ี ละเวลาที่มคี วามตอ้ งการ การขนส่งสร้าง Time Utility ดว้ ยการเคล่ือนยา้ ย สินคา้ ไป ณ จดุ ทีม่ อี ปุ สงคอ์ ยา่ งรวดเร็ว เช่น การขนส่งทางอากาศ Time Utility มีความสาํ คญั มากในปัจจุบนั เพราะวิสาหกิจต่างๆก็พยามลดวงจรเวลาส่ังซ้ือ (Order Cycle Time) หรื อเวลานําส่ง (Lead Time) เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้

(4) Possession Utility เป็ นการเพิ่มคุณค่าให้กบั ผลิตภณั ฑ์โดยให้ผูบ้ ริโภคได้เป็ นเจ้าของสินค้า Possession Utility เกี่ยวขอ้ งกบั การส่งเสริมการขาย การส่งเสริมการขายทาํ ใหม้ ีผูต้ อ้ งการเป็น เจา้ ของสินคา้ ดว้ ยการโฆษณา การให้สินเช่ือ การให้ส่วนลด หรือการบริการ โลจิสติกส์มีบทบาทในการนาํ สินคา้ ไป ณ สถานที่และในเวลาที่ลูกคา้ ตอ้ งการ ลูกคา้ จึงสามารถซ้ือหาสินคา้ ได้ โลจิสติกส์และ การตลาดจึงมีบทบาท ทีท่ าํ ใหเ้ กิดความเป็นเจา้ ของ การเป็นเจา้ ของทาํ ใหผ้ ูเ้ ป็นเจา้ ของไดใ้ ชส้ อยสินคา้ และเกิดความผาสุก 4.4) โลจสิ ตกิ ส์เพิ่มความสามารถในการแข่งขนั : Logistics Improves Competitiveness โลจิสตกิ ส์ สามารถสร้างความไดเ้ ปรียบการแข่งขนั ของบริษทั แนวคิดทางการตลาดที่สําคญั คือ การมีสินคา้ ที่ลูกคา้ ตอ้ งการและส่งมอบสินคา้ ให้ลูกคา้ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เหนือกว่าคู่แข่ง ความไดเ้ ปรียบ การแข่งขัน เกิดจากปัจจัยอย่างใดอย่างหน่ึงหรือหลายอย่าง ดังน้ี คุณภาพ ราคา และการตอบสนอง ความตอ้ งการของลกู คา้ ปัจจยั ความไดเ้ ปรียบในการแขง่ ขนั ท้งั 3 ประการเกี่ยวขอ้ งกบั โลจิสตกิ ส์ การจดั การ โลจิสติกส์ขาเขา้ มีวตั ถุประสงค์เพื่อให้ได้แหล่งวสั ดุที่มีคุณภาพ ราคาต่าํ และ การส่งมอบที่สม่าํ เสมอ ซ่ึงทาํ ให้บริษทั สามารถผลิตและมสี ินคา้ พร้อมส่งมอบลูกคา้ 4.5) โลจิสตกิ ส์เพ่มิ ความพึงพอใจของลูกค้า : Logistics Increase Customer Satisfaction ความ พึงพอใจของลกู คา้ ประกอบดว้ ย “5 Rights” ไดแ้ ก่ Right Product, Right Place, Right Time, Right Condition, Right Cost โลจิสติกส์เป็ นระบบในการนาํ สินค้าที่มีคนต้องการ (Right Product) ไปท่ีท่ีมีความตอ้ งการ (Right Place) ในเวลาท่ีต้องการ (Right Time) ในสภาพที่สมบูรณ์ (Right Condition) และด้วยต้นทุน ทเี่ หมาะสม (Right Cost) 4.6) โลจิสติกส์ เป็ นสินทรัพย์ : Logistics is a Proprietary Asset บริ ษัทที่ระบบโลจิสติกส์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจะมีความได้เปรี ยบคู่แข่ง ระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล หมายถึงความสามารถการจดั การโลจิสตกิ ส์ให้มีตน้ ทนุ ต่าํ และ ลกู คา้ พึงพอใจ ตน้ ทุนโลจิสติกส์ ท่ีต่าํ บริษทั สามารถต้งั ราคาไดต้ ่าํ กว่าคู่แข่ง ทาํ ให้เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และกาํ ไร และสามารถยกระดบั บริการลูกค้าให้สูงข้ึนอีกด้วย เช่น Wal-Mart มีความได้เปรี ยบการแข่งขันเพราะมีระบบโลจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพ 7-Eleven ในญี่ป่ ุน มีระบบโลจิสติกส์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง การจัดการโลจิสติกส์ของ Wal-Mart และ 7-Eleven ในญี่ป่ ุนจึงเป็นทรัพยส์ ิน (Asset) ของบริษทั แนวคิดในการพัฒนาโลจสิ ติกส์ระดบั โลก การพัฒนาโลจิสติกส์เกิดการความต้องการและความจาํ เป็ นในการปรับปรุงการดาํ เนินธุรกิจ เพ่ือ ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดโลก โดยอาศัยหลกั การจัดการอุตสาหกรรม ดังน้ันการพัฒนา โลจิสติกส์จึงมีความสัมพนั ธ์กับการจัดการอุตสาหกรรมเน้นที่การจดั การเชิงคุณภาพ โดยแนวคิดในการ พฒั นาโลจิสติกส์ระดบั โลกเริมต้งั แต่ ปี ค.ศ. 1913 เมื่อเฮนร่ี ฟอร์ด (Henry Ford) ไดน้ าํ สายพานการผลิต มาใชใ้ นโรงงานผลติ รถยนตไ์ ดจ้ าํ นวนมาก จนรถยนตก์ ลายเป็นส่วนหน่ึงของชีวติ ในสังคมของชาวอเมริกนั

เฮนร่ี ฟอร์ด เป็ นนักอุตสาหกรรมคนแรกที่นําการผลิตแบบปริ มาณมาก (Mass Product) มาใช้ ในอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ ระบบการผลิตปริมาณมากไดก้ าํ หนดข้ึนกับผลผลิตมาตรฐานที่ผลิต โดยคนงาน ระดบั ฝีมอื ข้นั ต่าํ ฝีมือปานกลาง และระดบั ท่มี ีฝีมือ ในทศวรรษท่ี 80 อุตสาหกรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาคุณภาพและการขาย ผลผลิต อุตสาหกรรมหลายแห่งขาดทุนและขายให้คนต่างชาติ เอ็ดวาทส์ เดมม่ิง มีส่วนช่วย ในการ วางพ้ืนฐานคณุ ภาพของอุตสาหกรรมใหม่ ขอ้ คิดดา้ นคณุ ภาพใชเ้ ป็นพ้ืนฐานการผลติ ในทุกวนั น้ี ใน ปัจจุบนั วิธีการคิดคน้ โดยกลุ่มนักวิชาการและองค์การธุรกิจมีผลงานมากข้ึน นักอุตสาหกรรมในประเทศ ญี่ป่ ุน มีส่วนช่วยในการพฒั นาคุณภาพในอุตสาหกรรมเป็ นอย่างมากจนกลายเป็ นการเปล่ียนแปลงทางคุณภาพ เม่ือเกิดกลยทุ ธ์ตอ้ งการความเร็วและลดขนาดคลงั สินคา้ ในการประกอบรถยนต์ ในอุตสาหกรรม ประกอบ รถยนต์ ทาํ ให้เกิดกลยุทธ์การผลิตแบบทนั เวลาพอดี ( Just-in-time Product) ลาํ ดบั การคิดคน้ ทฤษฎีต่างๆ ท่นี าํ มาใชป้ ระโยชนใ์ นอุตสาหกรรม ปัจจยั ผลักดันการปรับปรุงโลจิสติกส์ ปั จจัยผลักดันกา รป รับ ปรุ ง โล จิ ส ติก ส์ และ ซัพ พลา ย เ ชน ประกอ บด้ว ยแ ร งกด ดันกา ร แ ข่ ง ขัน (Competitive Pressure) คู่แขง่ ระดบั โลก (Global Rivals) และบริษทั เขา้ สู่ธุรกิจระหว่างประเทศ (Firm Enters International Business) ดงั มสี าระโดยสงั เขปดงั น้ี 1) แรงกดดันการแข่งขัน : Competitive Pressure ช่วงศตวรรษท่ี 1980 และ 1990 ดอกเบ้ีย มีอตั ราสูงและพลงั งานมีราคาแพง ประกอบกบั กระแสโลกาภิวตั น์ดา้ นการผลิตและตลาดทาํ ใหก้ ารแข่งขนั รุนแรง รัฐบาลประเทศต่างๆ มีแนวโนม้ ใชน้ โยบายส่งเสริมการแข่งขนั ดว้ ยการเปิ ดเสรีทางการคา้ และการ ลงทุน ผูป้ ระกอบการจึงมีคู่แข่งมากข้ึน การแข่งขนั บีบบงั คบั ให้บริษทั ตอ้ งหาวสั ดุ (Supply) ราคาต่าํ และ มีคุณภาพจากแหล่งต่างๆ เส้นทางเดินของ วสั ดุมีระยะทางไกลและซับซ้อน ทาํ ให้ตน้ ทุนโลจิสติกส์สูง บริษทั จึงตอ้ งม่งุ มาให้ความสาํ คญั กบั การ ปรบั ปรุงโลจิสติกส์และซพั พลายเชน 2) คู่แข่งระดับโลก : Global Rivals การเปิ ดเสรีทางการคา้ ระหว่างประเทศทาํ ให้บริษทั มีคู่แข่ง ท้งั ภายในและภายนอกประเทศ รัฐบาลลดการกีดกนั ทางการคา้ และการลงทุนทาํ ให้มีบริษทั ขา้ มชาติลงทนุ ผลิตสินคา้ และขายแข่งกบั บริษทั รวมท้งั มีสินคา้ นาํ เขา้ จากต่างประเทศมากข้ึน บริษทั จึงไม่ไดแ้ ข่งขนั กบั คู่แข่งภายในประเทศเท่าน้ัน แต่ต้องแข่งขนั กบั คู่แข่งระดับโลกท่ีมีเทคโนโลยีสูงและประสบการณ์มาก รวมท้งั มีประสิทธิภาพในการผลติ การแขง่ ขนั จึงมคี วามรุนแรง หนทางความอยรู่ อดของบริษทั ประการหน่ึง คือลดตน้ ทุนดงั กล่าวได้ แลว้ ว่า บริษทั ต่างพยายามลดตน้ ทุนการผลิตอย่างมากแลว้ โอกาสลดตน้ ทุนท่ีมี ความเป็ นไปไดค้ ือการ ปรับปรุงประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของบริษทั ความได้เปรียบการแข่งขัน ในปัจจุบนั จึงอยู่ท่ีความสามารถในการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ผูท้ ่ีมีเทคโนโลยีการจัดการ โลจิสตกิ ส์และซพั พลายเชนทเ่ี หนือกว่าจะเป็นผอู้ ยรู่ อดทางธุรกิจท่ียง่ั ยืน

3) บริษัทเข้าสู่ธุรกิจระหว่างประเทศ : Firm Enters International Business ในทศวรรษท่ีผ่านมา การคา้ ระหว่างประเทศของโลกขยายตวั มากข้ึน อุปสรรคทางการคา้ ระหว่างประเทศลดลง ประกอบกับ ระบบขนส่งระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพ และมีอุปทานบริการท่ี สามารถตอบสนองความตอ้ งการได้ ปัจจยั ท้งั สองประการเอ้อื อาํ นวยให้บริษทั เขา้ สู่ธุรกิจระหว่างประเทศเพอ่ื แสวงหาประโยชน์จากแหล่งผลิต ตน้ ทนุ ต่าํ และตลาดทเี่ ปิ ดกวา้ ง การเขา้ สู่ธุรกิจระหว่างประเทศทาํ ให้การเคลอ่ื นยา้ ยสินคา้ และวตั ถดุ ิบ มีระยะ ทางไกล และตอ้ งผ่านพิธีการศุลกากร ทาํ ให้มีผลค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์สูงข้ึน บริษทั จึงตอ้ งปรับปรุงระบบ โลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพอนั จะทาํ ให้ตน้ ทุนลดลง ขณะเดียวกนั ระดับบริการลูกคา้ อยใู่ นระดบั สูงและลกู คา้ พงึ พอใจ การพัฒนาโลจสิ ติส์ เมอ่ื ผจู้ ดั การเริ่มทจี่ ะตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั ของโลจิสติกทพ่ี ฒั นาอยา่ งรวดเร็ว โดยปี 1996 Deloitte Touche พบว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นตข์ ององคก์ รในปัจจุบนั ไดร้ ับการปรับปรุงหรือการวางแผนห่วงโซ่อุปทาน ของพวกเขาในการปรับปรุงภายในสองปี ถดั ไป (Factor, 1996) ซ่ึงยงั คงมีแรงกดดนั ให้มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึง : • โลจิสตกิ ไดร้ ับการยอมรบั วา่ เป็นหนา้ ที่สาํ คญั ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารจดั การอยา่ งถูกตอ้ ง • ตระหนกั ว่าการตดั สินใจเกี่ยวกบั ห่วงโซ่อปุ ทานมผี ลกระทบต่อประสิทธิภาพการทาํ งาน เชิงกลยทุ ธ์ • การแข็งคา่ ของตน้ ทนุ ท่สี ูงของโลจิสติกและโอกาสในการออมทีส่ าํ คญั • เนน้ การเตบิ โตในความพงึ พอใจของลกู คา้ และการรบั รู้วา่ เร่ืองน้ีข้ึนอยกู่ บั โลจิสตกิ ส์ • การแขง่ ขนั ท่เี พิม่ ข้นึ สาํ หรบั ท้งั ผูใ้ ชแ้ ละผใู้ ห้บริการโลจิสตกิ ส์ • การดาํ เนินงานรูปแบบใหม่ เช่นเดียวกบั ในเวลาการจดั การคุณภาพรวม • การเจริญเติบโตอยา่ งยง่ั ยืนของการคา้ ระหว่างประเทศ และการคา้ เสรีพ้ืนที่ เช่นสหภาพ ยโุ รป และขอ้ ตกลงการคา้ เสรีอเมริกาเหนือ • การสื่อสารที่ดีข้นึ ช่วยให้การแลกเปล่ียนขอ้ มูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) B2B B2C และอี คอมเมิร์ซ • เทคโนโลยมี ากข้ึนดว้ ย telematics รถระบบขนส่ง การระบุ และระบบการตดิ ตามการออกแบบรถ ท่ดี ีข้นึ และอน่ื ๆ • การบูรณาการของการดําเนินงานและองค์กรท่ีผ่านพนั ธมิตรเชิงกลยุทธ์ความร่วมมือและ การทาํ งานร่วมกนั • การเปลี่ยนรูปแบบของการใช้พลงั งานในห่วงโซ่อุปทานที่มีองคก์ รขนาดใหญ่ท่ีมีอาํ นาจเหนือ พ้ืนทีบ่ างส่วนและการต้งั คา่ มาตรฐานอตุ สาหกรรม • องคก์ รทม่ี ่งุ เนน้ การดาํ เนินงานหลกั ของพวกเขาและการจา้ งโลจิสตกิ ส์บคุ คลทส่ี าม

• องคก์ รท่ีมุ่งเนน้ ไปท่ีกระบวนการท้ังหมดของการสร้างความพึงพอใจความตอ้ งการของลูกค้า มากกวา่ แคก่ ารทาํ ผลิตภณั ฑ์ • ความกังวลเก่ียวกับความเส่ียงในการจัดหาเครือข่ายและความสามารถในการตอบสนอง ที่ เพิม่ ข้ึน • ความกงั วลเพิ่มข้ึนเก่ียวกบั ความเสียหายดา้ นสิ่งแวดลอ้ มและการเปลย่ี นแปลงทศั นคติต่อมลพิษ เสียงการจราจรแออดั อาคารถนน ฯลฯ • การเปล่ยี นแปลงนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกบั การเป็นเจา้ ของ การควบคุมการใช้ ความรับผิดชอบ และคา่ ใชจ้ า่ ยในการขนส่ง บทสรุปโลจิสติกส์ ได้ถูกนํามาใช้ในการจัดซ้ือและส่งกําลังบาํ รุงของกองทัพสหรัฐ โดยเฉพาะในช่วง สงคราม เวียดนามทาํ ให้โลจิสติกส์เริ่มแพร่หลายและเป็นที่รู้จกั และภายหลงั จากสงครามเยน็ สิ้นสุดลง การสงคราม ไดเ้ ปล่ียนมาเป็ นการทาํ สงครามทางการค้า ด้วยขอ้ ตกลงสนธิสัญญาต่างๆ ท้งั WTO และ สนธิสัญญา ทที่ ้งั เป็นทวิภาคแี ละพหุภาคที าํ ให้โลกมกี ารเช่ือมต่อกนั โดยเฉพาะในทศวรรษต้งั แต่ 1990- ปัจจบุ นั การเขา้ มาของเทคโนโลยีสารสนเทศทาํ ให้เข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ( Globalization) อันเป็ นปัจจัย ผลักดันให้เกิด เป็นการคา้ โลก มีเวทีการช่วงชิง แข่งขนั และการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็ว โลจิสติกส์จึง เขา้ มามีบทบาท สาํ คญั ตอ่ การคา้ ระดบั โลก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook