Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นักคลังสินค้าด้วยเทคโนโลยี ชั้น 3 (คำรณ)

นักคลังสินค้าด้วยเทคโนโลยี ชั้น 3 (คำรณ)

Published by jokerbmw320d, 2021-08-11 01:12:10

Description: นักคลังสินค้าด้วยเทคโนโลยี ชั้น 3 บูรณาการวิชาเทคโนโลยีเครื่องมือและอุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์

Search

Read the Text Version

เริ่มแลว้ ท่วี ทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบุรี 2/2564 โครงการไมป่ รบั ไม่เปลี่ยน ไม่รว่ มสมัย ไม่รอด เปลี่ยนวิชาเปน� อาชีพ อาชีพ นกั คลังสนิ คา้ ดว้ ยเทคโนโลยี ชั้น 3 วิชาเทคโนโลยแี ละเครอื่ งมอื อปุ กรณ์ในงานโลจสิ ตกิ ส์ (รหัสวิชา 30214-2104) หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชัน้ สงู พทุ ธศักราช2563 โดย จ่าสบิ เอกคำรณ โปรยเงิน สาขาวชิ าการจดั การโลจิสตกิ ส์และซัพพลายเชน วทิ ยาลยั เทคนิคลพบุรี สถาบันการอาชีวศกึ ษาภาคกลาง 2 เบอร์โทร 086-377-1745 Email [email protected] IDLINE jokercrv2013

จุดประสงค์รายวชิ า / สมรรถนะรายวชิ า / คำอธิบายรายวชิ า รหสั 30214-2104 ช่อื วิชา เทคโนโลยแี ละเครื่องมืออปุ กรณใ์ นงานโลจสิ ตกิ ส์ 2–2–3 ระดับชนั้ ปวส. ทฤษฎี 36 คาบ สาขาวชิ า การจัดการโลจิสติกสแ์ ละซัพพลายเชน ปฏิบัติ 36 คาบ รวม 72 คาบ จดุ ประสงค์รายวชิ าเพือ่ ให้ 1. เขา้ ใจเกยี่ วกับเทคโนโลยีและเครอ่ื งมืออปุ กรณใ์ นงานโลจิสตกิ ส์ 2. สามารถใช้เทคโนโลยีและอุปกรณใ์ นงานโลจิสตกิ ส์ 3. ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ในการใช้และบำรงุ รกั ษาเคร่อื งมอื อปุ กรณใ์ นงานโลจสิ ตกิ ส์ สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เกีย่ วกบั เทคโนโลยแี ละเครือ่ งมอื อปุ กรณ์ในงานโลจิสติกส์ 2. วางแผนการใช้เทคโนโลยีและเครือ่ งมอื อปุ กรณ์ในงานโลจิสตกิ ส์ 3. ใช้เครอ่ื งมือและอุปกรณ์ในงานโลจิสตกิ ส์ตามกระบวนการ 4. แก้ปญ� หาการใช้เทคโนโลยีและเครอื่ งมอื อุปกรณใ์ นงานโลจสิ ติกส์ 5. ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยแี ละเครื่องมอื อุปกรณ์ในงานโลจสิ ติกส์ คำอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์ ความหมาย รูปแบบ ความสำคัญของเทคโนโลยี ประเภทเครื่องมือและอุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์ การจัดเก็บ การดูแลรักษา และ ความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม รายงานและประเมนิ ผลการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมอื อุปกรณใ์ นงานโลจสิ ติกส์

หน่วยสมรรถนะ (หน่วยสมรรถนะทง้ั หมดของคุณวฒุ วิ ิชาชพี น้)ี ระดับ 3 อาชีพนักคลังสินค้าดว้ ยเทคโนโลยี คุณวุฒวิ ชิ าชีพชน้ั 3 Core Competency (อาชีพนกั คลังสินคา้ ดว้ ยเทคโนโลยี คณุ วุฒวิ ิชาชพี ชน้ั 3) สมรรถนะย่อย เกณฑ์ในการปฏิบัตงิ าน Element of Competency Performance Criteria 30010 ตรวจสอบข้อมูลสินคา้ ทจี่ ะจัดเกบ็ ด้วย 1. ตรวจสอบขอ้ มูลสนิ ค้าท่ีจะจัดเก็บดว้ ย เทคโนโลยี เทคโนโลยีถูกตอ้ ง 2. รายงานสรปุ ตรวจสอบขอ้ มลู สินคา้ ทจ่ี ะจดั เก็บ ด้วยเทคโนโลยี 30011 จัดเกบ็ สินคา้ ตามตำแหน่งท่ีระบบเทคโนโลยี 3. จัดเกบ็ สินค้าตามตำแหนง่ ที่ระบบเทคโนโลยี สารสนเทศแนะนำ สารสนเทศแนะนำถูกต้อง 4. รายงานสรปุ จัดเก็บสินค้าตามตำแหน่งที่ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศแนะนำ

วิเคราะห์เปรียบเทียบความสอดคล้องสมรรถนะรายวิชากับมาตรฐานอาชีพ นักคลังสินค้าด้วยเทคโนโลยี คุณวุฒิวิชาชีพช้ัน 3 สมรรถนะรายวิชา มาตราฐานอาชีพ TPQI สอดคล้อง ไม่ เพ่ิมเติม สอดคล้อง 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับ 1. ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ในการ  สอดแทรก เทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์ เคล่ือนย้ายได้อย่างถูกต้องตาม เน้ือหารายวิชา ในงานโลจิสติกส์ คู่มือปฏิบัติงาน การบริหาร 2. วางแผนการใช้เทคโนโลยี 2. จัดเก็บสินค้าตามตำแหน่ง  ข้อมูล และเคร่ืองมืออุปกรณ์ในงานโลจิ ได้ถูกต้องตามท่ีระบบ โลจิสติกส์ สติกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศแนะนำ 3. ใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ใน 3. ยืนยันการจัดเก็บสินค้าด้วย  งานโลจิสติกส์ตามกระบวนการ เครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีได้ 4. แก้ป�ญหาการใช้เทคโนโลยี ถูกต้องตามคู่มือปฏิบัติงาน และเครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลจิ 4. การประยกุ ตใ์ ช้องค์ความร้แู ละ  สติกส์ ทักษะในการวางแผนการใช้ 5. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและ เทคโนโลยีโลจสิ ติกส์ โดยต้อง เคร่ืองมืออุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์ สามารถกำหนดความตอ้ งการใน การใชเ้ ทคโนโลยีโลจิสติกส์ และ จดั ทำแผนการใช้เทคโนโลยี โลจสิ ติกส์  5.ทักษะและความรูท้ ี่จำเป�น สำหรับการปฏบิ ัติงานเกี่ยวกับ การวางแผนการจัดการคลงั สนิ ค้า ต้ังแตว่ เิ คราะหข์ อ้ มลู คลงั สนิ คา้ จัดทำแผนการจัดการคลังสนิ ค้า ซึง่ จะตอ้ งปฏิบตั งิ านใหต้ รงตาม วัตถุประสงค์ โดยใชร้ ะบบ เทคโนโลยีช่วยในการวางแผนการ จดั การคลังสินค้า

วิเคราะห์เปรียบเทียบความสอดคล้องคำอธิบายรายวิชากับมาตรฐานอาชีพ นักคลังสินค้าด้วยเทคโนโลยี คุณวุฒิวิชาชีพชั้น 3 คำอธบิ ายรายวชิ า มาตรฐานอาชีพ TPQI สอดคล้อง ไม่ เพม่ิ เติม สอดคล้อง ศ ึ ก ษ า แ ล ะ ป ฏ ิ บ ั ต ิ เ ก ี ่ ย ว กับ 1. ใช้เคร่ืองมืออุปกรณ์ในการ  สอดแทรก เทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์ใน เคล่ือนย้ายได้อย่างถูกต้องตาม เนื้อหา งานโลจิสติกส์ ความหมาย รูปแบบ คู่มือปฏิบัติงาน  รายวิชา ความสำคัญของเทคโนโลยี ประเภท 2. จัดเก็บสินค้าตามตำแหน่งได้  การ เคร่ืองมอื และอุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์ ถูกต้องตามที่ระบบเทคโนโลยี  บริหาร การจัดเก็บ การดูแลรักษา และความ สารสนเทศแนะนำ ข้อมูล ปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีและ 3. ยืนยันการจัดเก็บสินค้าด้วย โลจิสติกส์ เครื่องมืออุปกรณ์ในงานโลจิสติกส์ เครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีได้ ป ร ะ ย ุ ก ต ์ ใ ช้ เ ท ค โ น โ ล ย ี ท ี ่ เ ห ม า ะ ส ม ถูกต้องตามคู่มือปฏิบัติงาน ร าย ง าน และ ปร ะ เมินผลก ารใช้ 4. การประยกุ ตใ์ ช้องคค์ วามร้แู ละ เทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณ์ใน ทกั ษะในการวางแผนการใช้ งานโลจสิ ติกส์ เทคโนโลยีโลจสิ ตกิ ส์ โดยต้องสามารถ กำหนดความตอ้ งการในการใช้ เทคโนโลยีโลจสิ ตกิ ส์ และจัดทำ แผนการใช้เทคโนโลยี โลจิสตกิ ส์ 5.ทักษะและความรทู้ ่ีจำเป�นสำหรบั  การปฏบิ ตั งิ านเก่ียวกับการวาง แผนการจัดการคลงั สินค้า ตั้งแต่ วิเคราะห์ขอ้ มูลคลงั สินค้า จดั ทำ แผนการจัดการคลงั สินค้า ซ่งึ จะตอ้ ง ปฏบิ ัตงิ านให้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ระบบเทคโนโลยชี ว่ ยในการวาง แผนการจัดการคลงั สินค้า

แบบรายการงานและแหล่งข้อมูล หนา้ หมายเหตุ รายวชิ า : เทคโนโลยีและเครอ่ื งมืออปุ กรณใ์ นงานโลจสิ ตกิ ส์ รหสั วิชา : 30214-2104 สมรรถนะ : อาชพี นักคลงั สนิ คา้ ดว้ ยเทคโนโลยี คุณวุฒิวชิ าชีพชั้น 3 ลำดบั งาน (JOB) (งานหลัก) ที่มา 12345 1. รับสนิ ค้าด้วยเทคโนโลยี √√√√√ 2. จดั เก็บสินคา้ ด้วยเทคโนโลยี √√√√√ 3. เบกิ จา่ ยสนิ ค้าดว้ ยเทคโนโลยี √√√√√ 4. บรรจสุ ินค้าที่เบกิ จ่ายใส่บรรจุภัณฑ์ดว้ ยเทคโนโลยี √√√√√ 5. ขนถา่ ยสินคา้ ขนึ้ รถขนส่งดว้ ยเทคโนโลยี √√√√√ 6. ตรวจนับสนิ คา้ คงคลังดว้ ยเทคโนโลยี √√√√√ 7 ประเมนิ การจดั การคลงั สินคา้ ดว้ ยเทคโนโลยี √√√√√ ท่ีมา 4. ผู้ชำนาญการแนะนำ 1. คำอธบิ ายรายวิชา 5. เอกสาร / คูม่ อื / ตำรา 2. การสังเกตงานทป่ี ฏบิ ตั จิ ริง 3. ประสบการณ์ผู้สอน

รายการงานย่อยและคณุ ค่างานย่อย หน้า รายวิชา : เทคโนโลยีและเครอื่ งมืออุปกรณใ์ นงานโลจิสติกส์ รหัสวชิ า : 30214-2104 สมรรถนะ : อาชีพนกั คลังสนิ คา้ ดว้ ยเทคโนโลยี คุณวฒุ วิ ชิ าชพี ช้นั 3 งาน (JOB) : จดั เก็บสินค้าด้วยเทคโนโลยี งานยอ่ ย (TASK) ที่มา คุณค่า หมายเหตุ 6 A B C D E I F DI 8 1. รับข้อมลู การเบกิ จา่ ยสนิ ค้าด้วยเทคโนโลยี √√√√√32 1 8 2. จดั เกบ็ สนิ ค้าตามตำแหน่งท่ีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ √ √ √ √ √ 3 3 2 7 แนะนำ 3.หยิบสนิ ค้าจากตำแหน่งทีร่ ะบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ √ √ √ √ √ 3 3 2 แนะนำ 4. ตรวจสอบข้อมูลสินค้าทจ่ี ะจัดเก็บดว้ ยเทคโนโลยี √√√√√32 2 ทีม่ า : A: สมั ภาษณ์ผู้ปฏบิ ตั ิ คณุ ค่างานยอ่ ย B: สงั เกตการทำงาน I : ความสำคญั ต่องาน C : ประสบการณ์ตนเอง F: มีการปฏิบัติบ่อย D : การจำลอง Di : ความยาก E: การสอบถาม

กลวธิ ีการฝ�กทักษะสู่สมรรถนะตามม การจดั การบรหิ ารเวลาเพอื่ กำหน โดยเน้นการฝก� ซ้ำๆ ตามหลกั ขอ วทิ ยาล สัปดาหท์ ่ี 1 - 2 สปั ดาห์ที่ 3 - 4 สัปดาห์ท รับสนิ คา้ ดว้ ยเทคโนโลยี จดั เกบ็ สินค้าด้วยเทคโนโลยี เบิกจ่ายสินคา้ ด - ตรวจสอบขอ้ มลู ใบสงั่ ซ้อื กับใบรับสินคา้ -ตรวจสอบขอ้ มูลสนิ ค้าทจ่ี ะจดั เก็บด้วย -รับขอ้ มลู การเบิกจ่า เทคโนโลยี เทคโนโลยี -ตรวจสอบความถกู ต้องทางกายภาพของ -จัดเก็บสนิ คา้ ตามตำแหนง่ ทีร่ ะบบ สนิ คา้ ท่รี บั เข้า เทคโนโลยสี ารสนเทศแนะนำ -หยิบสนิ ค้าจากตำแ เทคโนโลยสี ารสนเท - รับสินค้าด้วยเทคโนโลยีด้วยเคร่อื งมอื อปุ กรณเ์ ทคโนโลยี สปั ดาห์ที่ 16 สัปดาหท์ ี่ 15 สัปดาห ทบทวนงานของ ทบทวนงานของ ทบทวนง สปั ดาห์ที่ 7 - 8 สปั ดาห์ท่ี 5 - 6 สปั ดาห์ท สัปดาหท์ ่ี 17 สัปดาห์ที่ 18 ทบทวนงานของ ทบทวนงานของ สัปดาหท์ ี่ 9 - 10 สัปดาหท์ ่ี 11 - 12

มาตรฐานอาชีพ (ตลอดภาคเรียนที่ 2/2564) นดการฝ�กและประเมินผล ตามสภาพจริง องธอรน์ ไดร์ (ตามเกณฑ์มาตรฐานอาชีพ) ลัยเทคนิคลพบรุ ี ที่ 5 - 6 สัปดาหท์ ี่ 7 - 8 สปั ดาหท์ ่ี 9 - 10 ด้วยเทคโนโลยี ขนถา่ ยสนิ คา้ ข้ึนรถขนสง่ ดว้ ย บรรจสุ ินคา้ ท่ีเบิกจ่ายใส่ ายสินคา้ ดว้ ย บรรจุภัณฑด์ ้วยเทคโนโลยี เทคโนโลยี แหนง่ ท่ีระบบ -ตรวจสอบขอ้ มลู ยืนยันการเบิกจา่ ย -เรียกรถขนส่งเข้าประตขู นถา่ ยสนิ คา้ ทศระบุ สนิ คา้ ดว้ ยเทคโนโลยี ด้วยเทคโนโลยี -ตรวจสอบความถูกต้องของสนิ ค้า หท์ ี่ 14 -บรรจสุ นิ คา้ ทีเ่ บกิ จา่ ยใสบ่ รรจุภัณฑ์ รว่ มกบั ผขู้ นสง่ งานของ ตามทร่ี ะบบเทคโนโลยีสารสนเทศระบุ -ยืนยนั การส่งมอบสนิ ค้าดว้ ยเทคโนโลยี -เคลือ่ นยา้ ยสนิ คา้ ท่ีบรรจุเสรจ็ แล้วไป ที่ 1 - 4 ตำแหน่งทรี่ ะบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สปั ดาห์ที่ 11-12 ตรวจนบั สนิ ค้าคงคลงั สปั ดาหท์ ่ี 13 ด้วยเทคโนโลยี ประเมินการจัดการ คลังสินค้าดว้ ยเทคโนโลยี -ตรวจนับสนิ คา้ คงเหลอื ดว้ ยเทคโนโลยี - ตรวจสอบความถกู ตอ้ งระหวา่ งข้อมูล -วเิ คราะห์การจัดการคลังสนิ ค้าดว้ ย สนิ คา้ คงเหลือในคลงั สนิ ค้ากับจำนวน เทคโนโลยี สนิ ค้าคงเหลอื ในระบบเทคโนโลยี -ประเมินผลการจัดการคลังสนิ คา้ สารสนเทศ ดว้ ยเทคโนโลยี

แบบวิเคราะหง์ า Task Analysis Compete นกั คลังสินคา้ งานหลัก จัดเก็บสนิ ค้าดว้ ยเทคโนโลยี งานย่อย จัดเก็บสนิ ค้าตามตำแหนง่ ที่ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศแนะนำ ลำดบั ขน้ั ปฏบิ ัติ วสั ดุ/อุปกรณท์ ่ใี ช้ ความรูท้ ีจ่ ำเป�นต้อง เกณฑ์ความสามารถท่ี คุณลักษณะ 1) รบั คำส่ัง สอน ตอ้ งทำได้ ผูเ้ รียนท่ตี อ้ อบรมบม่ น -ใบส่ังงาน - ความรูเ้ กีย่ วกับ - อา่ นใบสัง่ งานได้ คลังสินคา้ / - ปฏิบตั งิ านได้ - มีความใฝร่ เทคโนโลยีสารสนเทศใน -มีความรับผ คลังสนิ ค้า/เครือ่ งมอื ชอบในงานท อุปกรณ์ มอบหมาย 2) เตรยี มพ้นื ที่ -ชน้ั วาง - ขนาดของช้ันวาง - เตรียมพื้นทีไ่ ด้ถูกตอ้ ง - มคี วามรบั ผ ตามคำสง่ั ชอบปฏบิ ตั ิง ไดร้ บั มอบหม

านสอนมาตรฐานสมรรถนะ ence Base วทิ ยาลัยเทคนคิ ลพบรุ ี าดว้ ยเทคโนโลยี ช้ัน 3 ะของ ขอ้ ควรระวังใน เวลาทีใ่ ช้ รายวิชาที่ การประเมนิ ผล จำนวน รายการ องมี/ การสอน/สรา้ ง (นาที) บูรณาการรว่ ม ข้อสอบที่ ขอ้ สอบที่ นิสัย จติ สำนกึ ออก ออก รู้ -ทวนคำสง่ั เพอื่ ผิด ความเข้าใจท่ี 10 1.คลังสินค้าและศูนย์ 1.การสมั ภาษณ์  ทไ่ี ดร้ ับ ตรงกนั กระจายสินคา้ 2.แบบทดสอบ  2.ภาษาไทยเพอื่ การ จัดการอาชีพ 3.ภาษาองั กฤษ 4.เทคโนโลยีการ บริหารขอ้ มูลงาน โลจิสตกิ ส์ ผิด -ความปลอดภยั ใน 15 1.คลงั สนิ คา้ และศูนย์ 1.การสมั ภาษณ์  งานท่ี การทำงาน มาย กระจายสินคา้ 2.แบบทดสอบ  2.ภาษาไทยเพ่ือการ จดั การอาชพี 3.ภาษาอังกฤษ 4. อาชีวอนามัยและ ความปลอดภัยใน งานโลจิสตกิ ส์

ลำดับข้ันปฏิบัติ วัสดุ/อุปกรณท์ ่ีใช้ ความรูท้ ่จี ำเป�นต้อง เกณฑ์ความสามารถท่ี คุณลักษณะข สอน ต้องทำได้ ผเู้ รียนท่ีตอ้ ง อบรมบ่มนิส 3) เตรียมวัสดแุ ละ -เครอื่ งมือและ -คมู่ อื การใช้งานของ -ใชง้ านเครือ่ งมือและ - มคี วามรับผ อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื อปุ กรณส์ ำหรับใช้ เครื่องมือและอปุ กรณ์ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการจดั เกบ็ ชอบปฏบิ ัตงิ ในการจัดเก็บ สำหรับใชใ้ นการจดั เกบ็ สนิ คา้ ไดอ้ ย่างถกู วธิ ี ได้รับมอบหม -ค่มู ือเทคโนยีระบบ -ใชเ้ ทคโนยรี ะบบ สารสนเทศและใน สารสนเทศและใน คลังสนิ ค้า คลังสินค้าได้ 4) ตรวจสอบ ใบตรวจรายการ -ขน้ั ตอนและวิธีการ -จดั เกบ็ สินคา้ ตรงตาม - มีความรับผ (Checklist) การ ตรวจสอบการจัดเกบ็ ตำแหนง่ ชอบปฏิบตั ิง จดั เก็บสนิ ค้า สนิ ค้า ไดร้ บั มอบหม -ละเอยี ดรอ 5) เกบ็ เครื่องมอื ทำ อุปกรณส์ ำหรบั -วธิ ีเก็บและดูแลรกั ษา -ดแู ลรกั ษาเครอ่ื งมอื และ - มคี วามรบั ผ ความสะอาดพนื้ ท่ี เก็บเครื่องมอื และ เครื่องมือและอุปกรณท์ ่ี อุปกรณ์ได้เหมาะสม ชอบปฏิบัติง ทำความสะอาด ใช้ในการจัดเกบ็ สินค้า -เก็บเครื่องมือและอุปกรณ์ ได้รบั มอบหม ไดถ้ ูกที่ -การรกั ความ -ทำความสะอาดพนื้ ท่ีให้ สะอาด เรียบรอ้ ย -ความเป�นระ

ของ ข้อควรระวงั ใน เวลาทีใ่ ช้ รายวิชาที่ การประเมินผล จำนวน รายการ งมี/ การสอน/สรา้ ง ข้อสอบที่ ข้อสอบที่ สัย จติ สำนึก (นาที) บรู ณาการรว่ ม ออก ออก ผดิ -รู้จกั เลือกใชว้ ัสดุ 30 1.เทคโนโลยแี ละ 1.การสัมภาษณ์  งานที่ และอุปกรณ์ เคร่อื งมอื อุปกรณใ์ น 2.ข้อสอบขอ้ เขยี น มาย -ความปลอดภัยใน งานโลจิสตกิ ส์ การทำงาน 2.ภาษาไทยเพอื่ การ จัดการอาชพี 3.ภาษาองั กฤษ 4.ระบบบรรจภุ ณั ฑ์ สาํ หรับโลจิสตกิ ส์ ผิด -ความปลอดภยั ใน 20 1.คลังสินค้าและศนู ย์ 1.การสมั ภาษณ์  งานท่ี การทำงาน กระจายสินคา้ 2.ขอ้ สอบขอ้ เขยี น มาย 2.เทคโนโลยแี ละ อบคอบ เครอ่ื งมอื อุปกรณใ์ น งานโลจสิ ตกิ ส์ 3.ระบบบรรจุภณั ฑ์ สําหรับโลจิสติกส์ 4. อาชีวอนามยั และ ความปลอดภัยใน งานโลจิสติกส์ ผดิ --รูจ้ ักเลอื กใช้วสั ดุ 15 1.เทคโนโลยแี ละ 1.การสัมภาษณ์  งานท่ี และอปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ใน 2.ข้อสอบข้อเขยี น มาย งานโลจสิ ตกิ ส์ ม 2. อาชีวอนามัยและ ะเบยี บ ความปลอดภยั ใน งานโลจิสตกิ ส์

ลำดบั ขน้ั ปฏิบัติ วัสดุ/อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ ความรู้ทจ่ี ำเป�นตอ้ ง เกณฑค์ วามสามารถที่ คุณลกั ษณะข สอน ต้องทำได้ ผู้เรยี นทต่ี ้อง อบรมบม่ นิส 6) สรปุ การปฏิบัตงิ าน ใบสรปุ รายงาน รายงานสรปุ การจดั เก็บ -จัดเกบ็ สินค้าตาม - มีความรบั ผ สนิ ค้าตามตำแหนง่ ท่ี ตำแหนง่ ทีร่ ะบบ ระบบเทคโนโลยี เทคโนโลยสี ารสนเทศ ชอบปฏบิ ัตงิ สารสนเทศแนะนำ แนะนำไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ไดร้ บั มอบหม

ของ ขอ้ ควรระวังใน เวลาทใี่ ช้ รายวิชาที่ การประเมินผล จำนวน รายการ งมี/ การสอน/สร้าง (นาที) บรู ณาการร่วม ข้อสอบที่ ข้อสอบที่ สัย จติ สำนกึ ผดิ -ความปลอดภยั ใน 10 ออก ออก งานที่ การทำงาน 1.คลังสินค้าและศูนย์ 1.การสัมภาษณ์  กระจายสนิ คา้ 2.ข้อสอบข้อเขยี น มาย 2.เทคโนโลยีและ เครือ่ งมืออปุ กรณใ์ น งานโลจิสติกส์ 3. อาชีวอนามยั และ ความปลอดภัยใน งานโลจิสตกิ ส์ 4.ระบบบรรจุภัณฑ์ สําหรับโลจิสตกิ ส์ 5.ภาษาไทยเพื่อการ จัดการอาชพี 6.ภาษาอังกฤษ

แบบทดสอบก่อนเรียน วชิ าเทคโนโลยแี ละเครอ่ื งมอื อปุ กรณใ์ นงานโลจสิ ตกิ ส์ (30214-2104) 1. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. ตามกฎหมายระบุองค์กรจะตอ้ งดำเนนิ การตรวจนับสนิ คา้ คงคลังอย่างนอ้ ยป�ละ 1 ครั้ง และจะต้อง มผี ู้ตรวจสอบจากหนว่ ยงานภายนอกเขา้ ร่วม ข. ตามกฎหมายระบุองค์กรจะตอ้ งดำเนนิ การตรวจนบั สนิ ค้าคงคลังอยา่ งนอ้ ยปล� ะ 1 ครง้ั และจะต้อง มผี ตู้ รวจสอบจากหนว่ ยงานภายในเข้าร่วม ค. ตามกฎหมายระบุองคก์ รจะต้องดำเนินการตรวจนับสินคา้ คงคลงั อยา่ งนอ้ ยป�ละ 2 ครั้ง และจะต้อง มีผ้ตู รวจสอบจากหน่วยงานภายนอกเข้ารว่ ม ง. ตามกฎหมายระบอุ งค์กรจะต้องดำเนนิ การตรวจนับสินค้าคงคลังอยา่ งเดือนละ 1 คร้งั และจะต้องมี ผตู้ รวจสอบจากหนว่ ยงานภายนอกเข้ารว่ ม 2. ขอ้ ใดไมใ่ ชร่ ะบบการจดั การคลังสนิ ค้า ก. RFID ข. FIFO ค. FEFO ง. LIFO 3. ขอ้ ใดไม่ใช่ความหมายและความสำคัญของเทคโนโลยคี ลงั สินค้า ก. ลดการใช้ทรพั ยากรในการทำงาน ข. ลดประสิทธิภาพในการทำงาน ค. ลดต้นทนุ ในการทำงาน ง. ลดความซับซ้อนย่งุ ยากในการทำงาน 4. ข้อใดคอื ประโยชน์ของเทคโนโลยีท่เี รยี กว่า ระบบการจดั การคลังสินค้า (WMS) ก. รบั ชำระค่าสนิ ค้าได้สะดวก ข. จดั เสน้ ทางการส่งสินค้าได้รวดเร็ว ค. ระบุการจัดวางสนิ คา้ ได้อย่างละเอยี ด ง. ยกสินคา้ เกบ็ ในที่สงู ไดส้ ะดวก 5. ข้อใดเกี่ยวข้องกับ ระบบบริหารคลงั สินค้า (WMS) น้อยท่ีสุด ก. กระบวนการรับสินค้า (Receiving) ข. กระบวนการเบกิ (Picking) ค. กระบวนการจัดเก็บ (Put Away) ง. กระบวนการบรรจุ (Packing)

ใบความรู้ เร่ือง ความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับเทคโนโลยีและเคร่อื งมอื อุปกรณใ์ นงานโลจิสตกิ ส์ ป�จจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมผู้ประกอบการ เพื่อการ บริหารงานในองค์กรธุรกิจ กระบวนการทางธรุ กิจรูปแบบใหม่ถูกสร้างและควบคุมโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เป�นหลัก ในการเชื่อมโยงสารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์กร ส่งผลให้ความสามารถในการสื่อสาร ตลอดจนการประมวลผลเพื่อตัดสินใจเป�นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และยังสามารถสร้างความแตกต่างให้กับ สินค้า ตลอดจนสร้างคุณค่าและลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย การนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในงานด้าน โลจสิ ติกส์ (Implementing the right technology to be used in the logistics.) เทคโนโลยีมีความหมาย ตามที่ระบุไว้ในสารานุกรมคือ แนวคิดกว้างๆในการน าความรู้และเครื่องทุ่นแรงมา ประยุกต์ใช้เพื่ออำนวย ประโยชนใ์ นการควบคุมหรอื ปรบั สภาพให้เข้ากับสงิ่ แวดลอ้ ม โดยมนุษย์ไดม้ ีการนำเทคโนโลยี มาใชจ้ ะเร่ิมจาก การแปลงทรัพยากรที่มีอยู่ในธรรมชาติไปเป�นเครื่องมือที่เรียบง่ายในการอำนวยความสะดวกโดยช่วย ให้เกิด ความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในทางด้านโลจิสติกส์ เทคโนโลยีก็เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง อย่าง มากจนถอื ว่าเป�นป�จจัยท่ีสำคัญที่สดุ ตวั หน่งึ ในการแขง่ ขัน เน่ืองมาจากความพร้อมของพลังการประมวล ต้นทุนต่ำได้ก่อให้เกิดการพัฒนาการสำคัญในศาสตร์ของการ จัดการโลจิสติกส์ ความสามารถในการจัดการ ข้อมูลประมาณมหาศาลอย่างรวดเร็วและแม่นย าในช่วง 35 ป�ที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจ เกือบจะเรียกได้ว่าทั้งหมด เทคโนโลยีเหล่านี้ ถูกเรียกซ้ำไปว่าเป�นการปฏิวัติ อุตสาหกรรมครั้งที่สอง ความสามารถในการส่งข้อมลู ระหวา่ งคู่คา้ ในโซอ่ ปุ ทานผา่ นทางระบบแลกเปล่ยี นขอ้ มูลทาง อิเลก็ ทรอนกิ สถ์ กู น ามาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในบริษัทต่าง ๆ ความสามารถที่ท าให้ฝูงชนสามารถ เข้าถึง อินเตอร์เน็ตได้เป�นสิ่งทีจุดประกายกระแสการซื้อสินค้าจากบ้านสำนักงาน และยังไม่รวมถึงการใช้อีเมล์เปน�

หนทางในการสื่อสารกับเพื่อนและเพื่อนร่วมธุรกิจทั่วโลก ระบบสารสนเทศระบบสื่อสารร่วมกับฮาร์ดแวร์ที่ เกีย่ วขอ้ ง ที่ถกู นำมาใชใ้ นการจัดการโซ่อปุ ทานจะชว่ ยใน หลายบทบาทดว้ ยกนั อาจจะช่วยเหลือกระบวนการ ตัดสินใจ ช่วยปฏิบัติการติดตามควบคุมจัดเก็บและประมาลผล ข้อมูล และช่วยเหลือในการสื่อสารระหว่าง บุคคล บริษัท และ เครื่องจักร 1. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเคลื่อนย้ายวัสดุและผลิตภัณฑ์ ประเภทของ อุปกรณ์จัดเก็บและขนถ่ายที่มีใช้สำหรับสินค้าที่อยู่บนแพลเล็ต 1) การเคลื่อนย้ายแพลเล็ต 2) ระบบจัดเก็บ และหยิบเลอื กอัตโนมตั ิ 3) เทคโนโลยใี นการบง่ บอกและติดตามสนิ คา้ a. บารโ์ คด้ b. RFID c. GPS 2. การนำ เทคโนโลยีมาใช้ในการไหลของข้อมูลสารสนเทศ มีด้วยกัน 4 ระบบดังนี้ 1) ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทาง อิเล็กทรอนิกส์ (EDI) 2) ระบบสารสนเทศทั่วทั้งองค์กร (ERP) 3) ระบบจุดขายทางอิเล็กทรอนิกส์ (EPOS) 4) ระบบการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) 3. การน าเทคโนโลยีมาใช้ในกิจกรรมการตัดสินใจและ วางแผนเชงิ โลจิสตกิ ส์ ระบบจัดการโซอ่ ปุ ทานโดยท่ัวไปแล้วจะเปน� เครือ่ งมอื สนับสนุนและวางแผนปฏิบัติการ ระบบเหลา่ น้ี จะชว่ ยให้บรษิ ัทวางแผนและจดั การปฏิบัตกิ ารโลจิสตกิ ส์ผา่ นทางการใชช้ ุดซอฟท์แวร์ทีบ่ ูรณาการ อยู่ทั่วทั้งระบบ ซึ่ง The 4th Kamphaeng Phet Rajabhat Univercity National Conference 1342 ช่วย ให้เกิดความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ในทางโลจิสติกส์เทคโนโลยีก็เข้ามามีส่วนเกีย่ วขอ้ ง อย่างมากจนถอื วา่ เป�นป�จจัยท่สี าคัญที่สุดตัวหน่ึงในการแข่งขนั โดยแบ่งตามกระบวนการได้ 6 ระบบดังนี้ 1) ระบบการวางแผนและการจัดตารางอย่างก้าวหนา้ (APS) 2) ระบบการวางยทุ ธศาสตร์เครือข่ายโซอ่ ปุ ทาน 3) ระบบการจดั การคลังสินค้า 4) ระบบพยากรณแ์ ละจดั การคลงั สินค้า 5) ระบบการวางแผนและควบคุมการผลิต 6) ระบบการวางแผนการขนส่งและการกระจายสินค้า (โปรซอฟท์ คอมเทค, 2556) ระบบเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ (Decision Support Systems : DSS) ลักษณะการตัดสินใจทางธุรกิจ การ ตัดสินใจทางธุรกิจมีลักษณะบางประการที่เป�นลักษณะเด่นดังนี้ 1. สามารถทำได้โดยลำพัง หรือร่วมกัน ตัดสนิ ใจเป�นกลุ่มได้ในบางกรณที ี่ป�ญหาท่ีเกิดขนึ้ หรือผล จาก การตัดสินใจน้ันอาจสง่ ผลกระทบต่อบุคคลหรือ หน่วยงานมากกวา่ หน่ึงหน่วย เช่น การตดั สนิ ใจ เก่ยี วกบั การนำซอฟตแ์ วรก์ ารวางแผนทรพั ยากรองค์กร (ERP) มาใช้จะมีผลกระทบต่องานของ หลายฝ่าย ดังนนั้ การตัดสินใจที่ เกย่ี วข้องกบั การน าซอฟต์แวร์นี้มาใช้ควรจะ เป�นการตดั สินใจเปน� กลุ่ม 2. การตัดสนิ ใจอาจมวี ัตถุประสงค์ของการตัดสินใจหลายประการท่ีขดั แย้งกัน เช่น ในขณะที่ฝ่าย คลัง วัตถุดิบต้องการที่จะจัดเก็บวัตถุดิบให้มีจ านวนน้อยที่สดุ เท่าที่จะเป�นไปได้เพื่อหลีกเลีย่ ง การจ่ายค่า วัตถุดิบ ล่วงหน้าก่อนผลิตเป�นเวลานานและลดค่าใช้จ่ายและพ้ืนที่ในการจัดเก็บ แต่ฝ่ายผลิตอาจ ต้องการให้มีจำนวนวัตถดุ ิบ มากเพียงพอเพื่อรองรบั ความต้องการทางการผลิตท่ีอาจมีขึน้ เปน� จำนวนมากโดย ไม่ไดว้ างแผนไวล้ ว่ งหนา้ 3. มีแนวทางประกอบการพจิ ารณาตัดสินใจหลายทางเลือก เชน่ สำหรับการตัดสินใจ เกี่ยวกบั การ สร้างผลกำไรที่เพิ่มขนึ้ นน้ั สามารถทำได้โดยการขยายตลาด ลดตน้ ทนุ การผลิต หรือ เพิ่มสินค้า หรอื บรกิ ารใหม่ เป�นต้น 4. เปน� การตดั สนิ ใจแบบ “ลองผิด-ลองถูก” เน่ืองจากในหลาย ๆกรณีนัน้ ป�จจัยหรือ เง่ือนไขท่เี กยี่ วข้อง กับป�ญหาน้ันมจี ำนวนมาก และบางป�จจัยเปน� ป�จจัยท่ีนอกเหนอื ความควบคุมของผู้บริหาร หรือองค์กร เช่น ป�จจัยเกีย่ วกบั สภาวะเศรษฐกจิ ของประเทศ ซึ่งท าให้การตัดสนิ ใจทางธุรกิจนั้นอาจจะ ต้อง เป�นไปในรปู แบบของการ ลองผิด ลองถูก เนื่องจากไม่สามารถสรุปทางเลือกที่สมบรู ณ์แบบได้ ส่วนประกอบ ของ DSS ส่วนประกอบของระบบสนับสนุนการตัดสินใจสามารถจำแนกออกเป�น 4 ส่วนท่ี สำคัญได้ดังน้ี

1) อุปกรณ์ สำหรับระบบสนับสนุนการตัดสินใจ อุปกรณ์สามารถแบ่งได้เป�น อุปกรณ์ ประมวลผล ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป�น คอมพิวเตอร์พีซี หรือ คอมพิวเตอร์แลปทอป อุปกรณ์แสดงผล เช่น จอภาพ และ เครื่องพิมพ์ โดยสำหรับระบบสนับสนุนการตัดสินใจ อุปกรณ์แสดงผลควรจะเป�น อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และ ความละเอียดสูงเน่ืองจากข้อมูลและทางเลือกประกอบการตัดสินใจอาจมี รายละเอียดและรูปภาพเกี่ยวขอ้ ง และอปุ กรณ์สื่อสาร ไดแ้ ก่ ระบบเครอื ขา่ ย (Network) ทีถ่ ูกนำเขา้ มาใชส้ ำหรบั เชือ่ มกับระบบอื่น ๆ เช่น ระบบ สนับสนุนการตัดสินใจอาจมีการไปดึงเอาข้อมูลมาจาก ระบบประมวลผลการเปลี่ยนแปลงบางระบบ 2) ระบบการทำงาน ในการทำงานของระบบสนับสนนุ การตัดสินใจ ต้องอาศัยการทำงาน ของ ส่วนประกอบ สำคัญ 3 ส่วนคือ a. ชุดคำสั่งของระบบสนับสนนุ การตัดสินใจ ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดการ ควบคุมการ พัฒนา จัดเก็บ และเรียกใช้แบบจำลองการตัดสนิ ใจ รวมถึงการอำนวยความ สะดวกในการโต้ตอบ ระหว่างระบบกบั ผู้ใช้ b. ฐานแบบจำลองการตัดสนิ ใจ เป�นสว่ นที่รวบรวมแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ และ แบบจำลอง ในการ วิเคราะห์ป�ญหาซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกพัฒนาให้เข้า The 4th Kamphaeng Phet Rajabhat Univercity National Conference 1343 กับปญ� หาและการตดั สนิ ใจ สำหรับงานใดงานหนึ่ง และสำหรับองค์กรใดองคก์ ร หนึ่งโดยเฉพาะ c. ฐานขอ้ มูล การทำงานเกย่ี วกบั ฐานขอ้ มลู ของระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจจะเปน� ในลักษณะ ของการรวบรวมข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องมาเกบ็ ไว้เพื่อใหก้ ารคน้ หาเป�นได้ อย่างรวดเร็วมากกวา่ ทีจ่ ะ เป�นการบันทึก และปรับปรุงข้อมูลที่เกิดขึ้นกับการ ทำงานในแต่ละวัน 3) ข้อมูล ข้อมูลเป�นส่วนสำคัญที่จะช่วยในการ ประกอบการตดั สินใจ ถา้ ขอ้ มลู ท่สี นบั สนุน การตดั สนิ ใจ ไมม่ ีคณุ ภาพเพยี งพอ กจ็ ะไม่สามารถสนับสนุนการใช้ งานได้อยา่ งเหมาะสม 4) บุคคลากร โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ผ้ใู ชง้ านโดยตรงของระบบสนบั สนุนการตัดสินใจจะเป�น ผู้ท่ี มีส่วน สำคัญในการพัฒนา DSS ตั้งแต่การก าหนดป�ญหาและความต้องการและการจำลองตัวแบบการ ตัดสินใจ คุณลักษณะของ DSS ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ดีควรมีคุณลักษณะดังต่อไปน้ี a. ง่ายต่อการ เรียนรแู้ ละใชง้ าน เน่ืองจากผใู้ ช้งานระบบสนับสนนุ สว่ นใหญ่จะเป�น ผูจ้ ดั การระดบั กลางขึ้นไปซึ่งมีเวลาจำกัด ในการศึกษาและติดตามความรู้ใหม่ ๆ ทางด้านเทคโนโลยี ดังนั้นหากระบบที่พัฒนาขึ้นนั้นซับซ้อนและมี ขั้นตอนมากใน การใช้ก็จะไม่สามารถสนับสนุนการทำงานของผู้บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ b. สามารถ โตต้ อบกบั ผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว เนอ่ื งจากในการประเมินทางเลอื กระบบ สนับสนนุ การตดั สนิ ใจอาจตอ้ งมีการรับ ข้อมูลบางอย่างจากผูใ้ ช้แลว้ น าไป ประมวลผลและอาจมีการร้องขอข้อมลู เพิ่มจากผู้ใช้แล้วนำไปประมวลผล อีก ทำซำ้ ๆ ไปจนกวา่ จะสามารถประเมนิ ทางเลอื กท่เี หมาะสมได้ ดังน้นั ระบบ สนบั สนนุ การตัดสินใจควรจะมี ความรวดเร็วในการโต้ตอบกับผู้ใช้ c. มีข้อมูลและแบบจำลองสำหรับสนับสนุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ ป�ญหา เนื่องจากป�ญหาแต่ละป�ญหาภายใต้สถานการณ์ที่เหมือนหรือต่างกันล้วนต้องการ ข้อมูลและตัวแบบ การตัดสินใจที่ต่างกัน d. สนับสนุนการตัดสินใจแบบกี่งโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง ซึ่งแตกต่างจากระบบ สารสนเทศสำหรับการจัดการที่ผลิตรายงานที่เป�นประโยชน์ต่อการตัดสินใจใน ระดับที่ไม่ซับซ้อนและมี โครงสรา้ งทคี่ อ่ นขา้ งชัดเจน e. มคี วามยืดหยุ่นต่อความตอ้ งการของผใู้ ช้ เนอ่ื งจากลกั ษณะของป�ญหามีความไม่ แน่นอน และค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ดีควรจะมี ความยืดหยุ่นเพื่อรองรับความ ต้องการท่คี อ่ นข้างหลากหลายได้ ระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจเป�นกลุม่ (Group Decision Support System) เน่ืองจากการตัดสินใจในองค์กรธรุ กิจในหลาย ๆ ครั้งไม่ได้เกดิ จากการตัดสนิ ใจจากบคุ คลเพียงคน เดียว แต่ ใน

หลาย ๆ คร้งั การตดั สินใจนน้ั เป�นการตดั สนิ ใจรว่ มกนั ของทีมงานใดทีมงานหน่งึ ระบบสนบั สนุนการ ตัดสินใจ แบบกลุ่มจึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เกิดการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างสมาชิก ภายในกลุ่ม อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ซอฟตแ์ วรแ์ ละระบบทจ่ี ะชว่ ยในการสนับสนนุ การตดั สินใจเปน� กลมุ่ ทีด่ ี จะต้องมสี ่วนช่วย ใน เร่ืองของการแชร์ข้อมูลสารสนเทศระหว่างบุคคลในกลุ่ม และช่วยในเรื่องของการจดั กลมุ่ ความคิด รวมถึง อาจชว่ ย ในการสนบั สนุนสง่ เสริมให้มีการระดมสมอง (Brainstorming) กันระหว่าง บคุ คลในกลุ่ม ซอฟตแ์ วรท์ ่ี ช่วยงานใน ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเป�นกลุ่มได้แก่ 1. Electronic questionnaires สำหรับช่วยในการ สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เก่ียวข้องผ่าน ระบบอิเล็กทรอนิกส์ 2. Electronic Brainstorming tools เป�น เครอ่ื งมอื ท่ีชว่ ยในการระดมความคิดเหน็ ผา่ นระบบ อิเล็กทรอนิกสซ์ ึง่ จะชว่ ยให้สมาชกิ แต่ละคนสามารถระดม ความคิดเห็นได้ในเวลาเดยี วกัน เกี่ยวกบั หัวขอ้ เรือ่ งท่ีก าลงั ประชมุ อยู่นนั้ 3. Idea organizers เป�นซอฟต์แวร์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดโครงสร้าง และ สังเคราะห์ แนวคิดที่สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนนำเสนอ ร ะ ห ว ่ า ง ท ี่ ก ำ ล ั ง ร ะ ด มค ว า มค ิ ด ก ัน The 4th Kamphaeng Phet Rajabhat Univercity National Conference 1344 4. Tools for voting or setting priorities จัดให้มีวิธีการต่าง ๆ สำหรับการลงคะแนน เสียง การจัดลำดับความสำคญั และเทคนิคการใหน้ ้ำหนกั แบบต่าง ๆ ในการก าหนดระดบั ความสำคัญ ในการ ลงคะแนนเสียง 5. Policy formation tools จัดให้มีการสนับสนุนอย่างมีโครงสร้างต่อข้อตกลงที่กำลัง พัฒนาขน้ึ มา ใหอ้ ย่ใู นรูปของนโยบายทีเ่ ปน� ลายลกั ษณ์อักษร 6. Group dictionaries ทำการจดั เก็บเอกสารที่ เป�นข้อตกลงเกี่ยวกับนิยามศัพท์ต่าง ๆ ของ คำพูด และคำศัพท์ที่มีความสำคัญต่อโปรเจค ประโยชน์ของ GDSS ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่มโดยมีการน าซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ขั้นต้นเข้ามาช่วยใน กิจกรรมต่าง ๆ สำหรับ การตัดสินใจเป�นกลุ่ม มีประโยชน์ดังน้ี 1. ช่วยในการเตรียมความพร้อมในการประชุม รวมถึงการ จัดเตรียมข้อมูลและสารสนเทศท่ี เหมาะสม ในการประชุม ซึ่งส่งผลในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลของ การทำงานเป�นกลุ่ม ลดเวลาในการตัดสินใจ และจำนวนครั้งของการประชุม 2. สร้าง บรรยากาศในการร่วมมอื กนั ระหว่างสมาชิก 3. สนบั สนุนการมีส่วนร่วมและกระตุ้นการแสดงความคิดเห็นของ สมาชกิ 4. ชว่ ยในเร่อื งของการจัดล าดับความสำคัญก่อนหลงั ของปญ� หา 5. มหี ลักฐานการประชุมแน่ชัด (วัน ชัย ขนั ต,ี 2554) ระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหาร (Management Information System : MIS) สารสนเทศ เพื่อการบริหาร (Management Information System : MIS)คือระบบที่ให้สารสนเทศตามท่ี ผู้บริหาร ตอ้ งการ เพ่ือสนับสนนุ ท างานให้มีประสิทธภิ าพ โดยจะรวมท้ังสารสนเทศจากภายในและภายนอก สารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องทั้งในอดีตและป�จจุบัน รวมทั้งที่คาดว่าจะเป�นอนาคต ระบบ MIS จะต้องให้สารสนเทศภายใน ช่วงเวลาทเ่ี ป�นประโยชน์ เพื่อให้ผูบ้ รหิ ารสามารถตัดสนิ ใจในการวางแผน การควบคมุ และการสั่งการได้อย่าง ถูกต้อง การตัดสินใจบางระดับ อาจอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ทีร่ ะบุไว้แล้วค่อนข้างแน่ชัด ตามสถานการณ์ต่าง ๆ ภายใตเ้ งอื่ นไขท่กี าหนดไว้ลว่ งหน้า ที่เรยี กว่า “Programmed Decision” การตัดสนิ ใจของผูบ้ ริหารระดับสูง ไมม่ ี การก าหนดแนวทางไว้ลว่ งหน้า ผูบ้ ริหารที่มรี ะดบั สูง ย่งิ มีภาระในการตดั สนิ ใจมากขึน้ ผลการตัดสนิ ใจ จะ สะท้อน โดยตรงตอ่ ความสำเร็จของหนว่ ยงานนนั้ ๆ ดังนนั้ ข้อมูลจงึ เปน� พื้นฐานสำคญั ทีจ่ ะชี้ความถูกต้องของ การตัดสินใจ ท่ี ท าให้งานบรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ (efficiency) และ ประสิทธิผล ( effectiveness ) (อนิรทุ ธ์ โชติ ถนอม, 2552) ภาพท่ี 2 แสดงบทบาทของบุคลากรที่ใช้ระบบสารสนเทศ (MIS)

(ท่มี า: อนิรทุ ธ์ โชติถนอม, 2552) The 4th Kamphaeng Phet Rajabhat Univercity National Conference 1345 โดยพื้นฐานของระบบ MIS แล้ว จะเป�นระบบที่สามารถสนับสนุนข้อมูลให้ผู้บริหารท้ัง 3 ระดับ คือท้ัง ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง ซึ่งจะให้รายงานที่สรุปสารสนเทศที่รวบรวมจากฐานข้อมูลทั้งหมดของ องค์กร โดยจุดประสงค์หลักของรายงานจะเน้นให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นแนวโน้มและภาพรวมของ สถานการณ์ในป�จจุบัน รวมทั้งสามารถควบคุมและตรวจสอบผลงานของระดับปฏบิ ัติการดว้ ย ความแตกต่าง ของการใชส้ ารสนเทศเพือ่ การบรหิ ารในการใช้งานของแต่ละบุคคล 1. ฝ่ายบรหิ าร 1) เป�นครั้งคราว: สรปุ /แนว กว้าง 2) มองไปในอนาคต: ไม่มีก าหนดเวลาตายตวั 3) ตอ้ งการข้อมูลเพ่ิมเติมจากภายนอก 2. ฝา่ ยปฏิบัติการ 1) งานประจ า : ก าหนดเวลาสม่ าเสมอ 2) ข้อมูลภายในองคก์ ร : ข้อมูลรายละเอยี ด 3) ข้อมลู ในอดีต : ข้อมูล เฉพาะเร่ือง ตัวอย่างของระบบของ MIS 1. ระบบเงินเดือน 2. ระบบบรหิ ารเวลาการปฏิบัติงาน 3. ระบบสรร หาบุคลากร 4. ระบบการฝ�กอบรม 5. ระบบการประเมินผลงาน 6. ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง 7. ระบบ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 8. ระบบวิเคราะห์งาน ลักษณะระบบของ MIS ที่ดี 1. สนับสนุนการท างานของระบบ ประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลรายวัน 2. ใช้ฐานข้อมูลที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน และสนับสนุนการท างานของ ฝ่ายต่าง ๆ ในองค์กร 3. ช่วยให้ผู้บริหารระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง เรียกใช้ข้อมูลได้ตามเวลาที่ ต้องการ 4. มีความยืดหยุ่น และสามารถรองรับความต้องการข้อมูลที่เปลี่ยนแปลง 5. ต้องมีระบบรักษา ความลับของข้อมูล และการจ ากัดการใช้งานของบุคคลเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง เท่านั้น ป�จจัยที่จะได้จากระบบ สารสนเทศในระดับบริหาร 1. มีระบบงานพื้นฐานครอบคลุมทุกชนิดงานในองค์กร 2. มีผู้เชี่ยวชาญและ นักวิเคราะห์ในการวิเคราะห์ระบบงาน 3. ผู้บริหารสามารถใช้ระบบสารสนเทศเป�นเครื่องมือประกอบการ บริหารและตัดสนิ ใจ 4. มเี จา้ หน้าท่ีส าหรับปรบั ปรุงขอ้ มลู สารสนเทศใหเ้ ปน� ป�จจบุ นั บทบาทของผู้บริหารและ ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ MIS 1. ก าหนดสารสนเทศที่ต้องการ (What) โดยพิจารณาจากลักษณะงานหรือหน้าที่ ของหน่วยงาน 2. พิจารณาเวลา (When) ที่ต้องใช้สารสนเทศนั้น เพื่อที่จะก าหนดเวลาในการรวบรวม ประมวล และจดั ท ารายงานใหส้ อดคล้องกับเวลาท่ตี ้องการ 3. ทราบว่าจะหาสารสนเทศไดท้ ไ่ี หน (Where) จะ เป�นแหลง่ ข้อมูลจากภายในหนว่ ยงานหรอื ภายนอก 4. เข้าใจว่าท าไม (Why) จงึ ตอ้ งมสี ารสนเทศน้นั การเก็บ ข้อมูลโดยไม่ทราบถึงเหตุผลและความ จ าเป�นอาจน าไปสู่การเก็บข้อมูลผิดประเภท หรือการมีข้อมูลมาก เกินไปและไม่ได้น ามาใช้ 5. ทราบวา่ ผู้ใช้ (For whom) สารสนเทศคือใคร เพอื่ จะได้จัดท ารูปแบบในการน า เสนอให้ เหมาะสม The 4th Kamphaeng Phet Rajabhat Univercity National Conference 1346 6. จะใช้เครื่องมอื อะไร (How) ในการเก็บรวบรวม ประมวล รักษาสารสนเทศ 7. สามารถเข้าใจความหมายของ สารสนเทศที่หามาได้ 8. สามารถด าเนินการหรือปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม โดยอาศัยการพิจารณาจาก สารสนเทศทมี่ ี อยู่หรือท่ีไดม้ า 9. ใช้สารสนเทศอย่างถกู ตอ้ งตามกฎหมายและอยา่ งมีจรยิ ธรรม ประโยชน์ของ สารสนเทศ MIS 1. ดา้ นประสิทธิภาพ (Efficiency) 1) ทำใหก้ ารปฏิบตั งิ านมีความรวดเรว็ 2) ชว่ ยในการเข้าถึง ขอ้ มลู ขนาดใหญไ่ ด้อย่างรวดเร็ว 3) ช่วยให้การตดิ ตอ่ สอ่ื สารเป�นไปได้อยา่ งรวดเรว็ 4) ชว่ ยลดต้นทนุ 5) ชว่ ยให้ การประสานงานระหว่างฝ่ายต่าง ๆ เป�นไปได้ด้วยดี 2. ด้านประสิทธิผล (Effectiveness) 1) ช่วยในการ ตัดสินใจ ส่งผลให้การด าเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ได้ 2) ช่วยในการเลือกบรกิ ารที่เหมาะสม 3) ช่วยในการ ปรับปรงุ คุณภาพของสินค้า/บรกิ ารใหด้ ขี ้ึน, ทำไดถ้ ูกต้องและรวดเรว็ ข้นึ , ตรงกบั ความต้องการของผู้รับบรกิ าร

ไดด้ ขี นึ้ 4) ความไดเ้ ปรยี บในการแข่งขนั โดยมกี ารน าสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการงานแบบ ใหม่ เช่น a. E-Government b. E-commerce c. Knowledge Management ด้านคณุ ภาพชีวิตการท างาน ซ่งึ ท าให้ ประหยัดทรัพยากร และเพิ่มคุณภาพของงาน ที่ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้อง เกิดความสุขกับการท างาน การ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีการน าสารสนเทศมาใช้ในการประยุกต์ใช้หลายด้าน เช่น การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในงานส านักงาน 1. งานจัดเตรียมเอกสาร 2. งานกระจายเอกสาร 3. งานจัดเก็บและ ค้นคว้าเอกสาร สำหรับงานวิชาการหรืองานวิจัย ความล้มเหลวของ MIS 1. ผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญ 2. สารสนเทศท่ีได้ ไมช่ ่วยการบริหารงาน เพยี งแตถ่ กู ใช้ควบคุมงานประจำวันเท่านนั้ 3. การสรา้ ง MIS อาจใช้ ต้นทุนสูงเกินความจ าเป�น เช่น ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมประยุกต์ท่ี มีราคาสูง เป�นต้น (อนิรุทธ์ โชติ ถนอม, 2552) บทสรุป (Brief) เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับโลจิสติกส์อาจกล่าวได้ว่าเป�นการนำระบบ เทคโนโลยีที่ประกอบไปด้วย วิทยาศาสตร์ และคอมพิวเตอร์มาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทางด้าน โลจิสติกสแ์ ละโซ่อุปทานใหส้ ามารถบรหิ าร จดั การไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพโดยการน าระบบสารสนเทศมาใช้ใน งานดา้ นโลจสิ ตกิ ส์นัน้ ตอ้ งสามารถช่วยให้ เปา้ หมายท่วี างไวด้ ีขึน้ จากเดมิ ท้งั ในเรื่อง 1) สินคา้ และบริการมีการ ส่งมอบได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น 2) การไหลของ สินค้าตั้งแต่ปลายน้ำไปยังต้นน้ำซึ่งนั้นคือลูกค้าได้ดี 3) ระบบ สารสนเทศจะต้องปรับปรุงการไหลของขอ้ มูลขา่ วสาร จากลูกค้าไปยังผผู้ ลิตสนิ คา้ จนถึงผู้จดั ส่งวัตถุดิบได้อย่าง มีคุณภาพ 4) การน าระบบสารสนเทศมาใช้ต้องสร้าง มูลค่าเพิ่มในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์และโซ่ อุปทานได้เป�นอย่างดี 5) ต้องสามารถช่วยให้ระบบโซ่อุปทานมี The 4th Kamphaeng Phet Rajabhat Univercity National Conference 1347 ต้นทุนในกระบวนทั้งหมดลดลงโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสินค้า คลังสินคา้ และการขนส่งสนิ ค้า 6) ตอ้ งสามารถเพิ่ม ศักยภาพคุณภาพให้เหนือกว่าคแู่ ขง่ ได้ทั้งในตัวสินค้าและ กระบวนการผลิต ในการพัฒนาประเทศและระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยป�จจุบันรัฐบาลได้มีการมุ่งเน้น ประเด็นการ พฒั นาในการน าระบบสารสนเทศทางด้านโลจิสติกสม์ าใช้ หลัก ๆ 5 ส่วน ซ่งึ ไดแ้ ก่ 1) ภาคธุรกิจ ทั่วไป จะช่วยให้ภาค ธุรกิจผลิตสินค้าออกมาขายแบบพอดีต่อความต้องการของลูกค้า ทำให้ต้นทุนการผลิต ตำ่ จากการลดต้นทุนการ จัดเกบ็ สนิ ค้าจากการผลติ ที่เกินจากความต้องการของลูกค้าและเพิม่ ขดี ความสามารถ ดา้ นการแข่งขัน 2) ภาคการ สง่ ออกสินค้า จะชว่ ยให้สามารถจัดการวัตถุดบิ และการเคลื่อนย้ายสินค้าไปถึงมือ ผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ และ สร้างความน่าเชื่อถือต่อคู่ค้า สร้างจุดเด่นทางการค้าและเพิ่มศักยภาพ ทางการแข่งขัน 3) ภาคราชการ จะช่วยให้การ กระจายงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป�นการบริหาร งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยตอบสนองการ ท างานแบบศนู ยก์ ารบรหิ ารได้ดี 4) ภาคการเกษตร โดย มักใช่เรื่องการบริหารสินค้าและการจัดส่งเข้าสู่ตลาดอย่างมี ประสิทธิภาพ ลดความเสียหายของผลผลิตจาก การผลิตเกนิ ความตอ้ งการและการขนส่งไม่ทนั เวลา และ 5) ภาค สังคม ท าใหเ้ กิดผลก าไรและประสิทธิภาพ กับธรุ กจิ ในทกุ ภาคส่วนท าให้ประชาชนไดบ้ รโิ ภคสินค้าและผลติ ภณั ฑ์ท่ีดีมี คณุ ภาพ ตน้ ทนุ ทีต่ ำ่ ลงทำให้ธุรกิจ มีก าไรมากขึ้น พนักงานมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน การขนส่งก็ประหยัด พลังงาน โดยจะเห็นได้ว่าการ นำเอาเทคโนโลยีโลจสิ ตกิ ส์เขา้ มาใชง้ านนม้ี ีประโยชน์ทง้ั ทางตรงและทางอ้อมตอ่ ทกุ ภาคส่วน แตว่ ัตถุประสงค์ หลักของเทคโนโลยีโลจิสติกส์ คือ การลดต้นทุนด้านการจัดการสินค้าคงคลังและการขนส่ง เท่านั้น การนำ

เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในงานด้านโลจิสติกส์โดยส่วนใหญ่จะมีการแบ่งกลุ่ม 3 งาน ซึ่งได้แก่ 1) การ เคลอื่ นย้ายวสั ดแุ ละผลติ ภัณฑ์ 2) การไหลของขอ้ มลู สารสนเทศ 3) การตัดสนิ ใจและวางแผนเชิงโลจิสตกิ ส์ เทคโนโลยีที่นิยมนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจดั การโลจิสติกส์ภายในองค์กรธรุ กิจใหเ้ ป�นไป อย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญคือ GPS (Global Positioning System) Barcode RFID (Radio Frequency Identification) EDI (Electronics Data Interchange) การวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจ (Enterprise Resource Planning: ERP) ระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) และ ระบบการจัดการการขนส่ง (Transportation Management System: TMS) ซึ่งเรานิยมเรียกเทคโนโลยี เหล่าน้วี า่ เทคโนโลยที างโลจิสติกส์ โดยมีรายละเอียดทส่ี ำคัญของแต่ละเทคโนโลยีดังต่อไปนี้คือ 1. GPS (Global Positioning System) เป�นระบบที่ใช้ในการบอกตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บนโลกนี้ โดยระบบ GPS จะใช้เทคโนโลยีของดาวเทียมที่จะเป�นเครื่องมือในการพิจารณาหาจุดพิกัดบนโลกนี้ โดยใช้ พิกดั ตัวเลขของละติจดู และลองติจูด ทำให้ทราบถึงตำแหนง่ ท่ีแท้จรงิ ของสิ่งน้นั ๆ โดยอปุ กรณ์ GPS Receiver หรือเครือ่ งรับสัญญาณดาวเทียมนั้น จะทำงานโดยการใช้ดาวเทียมที่ลอยอยู่เหนือพืน้ โลกตั้งแต่สามดวงข้ึนไป ในเวลาเดียวกัน เพือ่ ท่จี ะไดร้ ะบุพกิ ัดตำแหน่งของสงิ่ ต่าง ๆ และจะแม่นยำยง่ิ ขึ้นหากมีจำนวนดาวเทยี มมากขึ้น สำหรับระบบ GPS น้นั ไดถ้ ูกเร่ิมใชแ้ ละพฒั นาข้ึนโดยกองทพั ของประเทศสหรัฐอเมรกิ า ซง่ึ จะใช้ในการหาพกิ ัด จุดต่าง ๆ บนโลกในการสู้รบทำสงครามกัน แต่ในป�จจุบัน GPS ได้ถูกนำมาใช้ในเชิงการค้าพาณิชย์ ในการ ติดตาม ตรวจสอบการเดินทางขนส่งสินค้าของรถบรรทุกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับ ผลการวจิ ัยของ เศรษฐศักดิ์ เลศิ ประเสรฐิ เวช (2548) ทีไ่ ด้ศกึ ษาถึงผลทไี่ ด้จากการนำระบบ GPS เขา้ มาใช้เพ่ือ ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการธุรกิจขนส่ง และทราบถึงความคุ้มค่าในการลงทุน รวมไปถึงความ เหมาะสมที่จะนำมาปรับใช้ทั้งในองค์กรขนาดเล็กจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งผลการวิเคราะห์ที่ได้จากการ สัมภาษณ์กับองค์กรทีม่ ีการนำระบบไปใช้จริง เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการรายอื่นและใน หนว่ ยงานราชการที่มีความสนใจในการนำระบบ GPS ไปปรบั ใช้ รวมไปถงึ การวางแนวทางในการแก้ไขป�ญหา ด้านการจราจรที่เป�นป�ญหาใหญ่ สำหรับเมืองใหญ่ ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ พบว่าระบบ GPS สามารถท่ีจะช่วยให้มกี ารจัดการเส้นทางท่ีถูกต้อง เนือ่ งจากจะสามารถเหน็ ได้ว่าเส้นทางไหนมีปริมาณรถมาก หรือน้อย เพื่อช่วยในการลดการใช้น้ำมันที่ต้องเสียเวลาที่ต้องติดอยู่ในรถนาน อีกทั้งเป�นการป้องกันการ โจรกรรมรถยนต์ด้วย และ สรไกร ป�ญญาสาครชัย (2548) ได้ศึกษาการนำเทคโนโลยี GPS มาประยุกต์ใช้ใน การเพิ่มคุณภาพการบริการขนส่งสินค้าและบริการทางถนน พบว่า จากคุณสมบัติความสามารถในการระบุ ตำแหน่งบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่าคุณสมบัตินี้ทำให้ผู้รับบริการรู้สึก มั่นใจ ไว้ใจได้เมื่อได้รับการบริการขนส่งผ่านระบบ GPS และมีระดับความพึงพอใจในระดับมาก และกลุ่ม ตวั อย่างส่วนใหญ่มคี วามคิดเห็นว่าคุณสมบตั นิ ี้ทำให้ผู้รับบริการได้รับการบริการที่ดขี ้ึนเม่ือได้รับการบริการขน ส่งผ่านระบบ GPS และมีระดับความพึงพอใจในระดับมาก และจากคุณสมบัติค้นหาเสน้ ทาง ทำให้ผู้รับสินคา้ ได้รับสินค้าตรงตามวันและเวลาที่ได้ตกลงไว้และมีระดับความพึงพอใจในระดับมาก ดังนั้นจากคุณสมบัติ ดังกล่าวของเทคโนโลยี GPS มาประยุกต์ใชใ้ นกระบวนการขนสง่ สินคา้ และบรกิ ารทางถนนมผี ลต่อความสำเร็จ

ทางด้านคณุ ภาพการบริการ ซึ่งทำใหเ้ กิดความพงึ พอใจของผูไ้ ด้รบั บริการขนสง่ สนิ คา้ อยา่ งมีนัยสำคัญทางสถิติ ท่ีระดับ 0.05 2. Barcode หรือในภาษาไทยเรียกวา่ “รหัสแท่ง” ประกอบด้วยเส้นมืดประกอบด้วยเส้นมืด (มักจะ เป�นสีดำ) และเส้นสว่าง(มักเป�นสีขาว)วางเรียงกันเป�นแนวดิ่ง เป�นรหัสแทนตัวเลขและตวั อักษร ใช้เพื่ออำนวย ความสะดวกให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถอ่านรหัสข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยใช้เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Barcode Scanner) ซึ่งจะทำงานได้รวดเร็วและช่วยลดความผิดพลาดในการคีย์ข้อมูลได้มาก บาร์โค้ดเริ่มกำเนิดขึ้นเม่อื ค.ศ.1950 โดยประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจทางด้านพาณิชย์ขึ้นสำหรับค้นคว้า รหัสมาตรฐานและสัญลักษณ์ที่สามารถช่วยกิจการด้านอุตสาหกรรมและสามารถจัดพิมพ์ระบบบาร์โค้ดระบบ UPC-Uniform ขน้ึ ไดใ้ นป� 1973 ตอ่ มาในป� 1975 กลุม่ ประเทศยโุ รปจัดตัง้ คณะกรรมการด้านวิชาการเพ่ือสร้าง ระบบบารโ์ ค้ดเรียกว่า EAN-European Article Numbering สมาคม EAN เตบิ โตครอบคลุมยโุ รปและประเทศ อื่น ๆ (ยกเว้นอเมรกิ าเหนอื ) และระบบบาร์โค้ด EAN เรม่ิ เขา้ มาในประเทศไทยเมือ่ ป� 1987 Barcode เป�นหนึ่ง ในหลายวิธีที่ได้ผลดี ในการตรวจสอบสินค้าขณะขาย การตรวจสอบยอดการขาย การตรวจสอบยอดขาย และ สินค้าคงคลัง เราสามารถที่จะอ่านบาร์โค้ดได้ โดยใช้เครื่องสแกนเนอร์ (Barcode Scanner) หรือเครื่องอ่าน บาร์โค้ด ซึ่งวิธีนี้จะรวดเร็วกว่าการป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ (Computer) โดยเปลี่ยนเป�นวิธีการยิง เลเซอร์ไปยังแท่งบาร์โค้ด โดยเครื่องสแกนจะทำหน้าที่เป�นฮารด์ แวร์ (Hardware) ส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ ป�จจุบันมีการประยุกต์การใช้งานบาร์โคด้ เข้ากับการใช้งานของ Mobile Computer ซึ่งสามารถพกพาได้อย่าง สะดวก เพื่อทำการจัดเก็บ แสดงผล ตรวจสอบ และประมวลในด้านอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ สมุ าลี บัวขาว (2548) 3. RFID (Radio Frequency Identification) เป�นเทคโนโลยีที่ใช้ในการระบุสิ่งต่าง ๆ แบบไม่ต้อง สมั ผัสโดยใชค้ ลืน่ ความถีว่ ิทยุ มอี งคป์ ระกอบหลัก คอื แทก็ (Tag) เสาอากาศ (Antenna) เครอื่ งอา่ น (Reader) และซอฟตแ์ วร์ (Software) RFID แบง่ ตามย่านความถ่ไี ด้ 4 ประเภท คอื 1.Low Frequency (LF) ย่านความถ่ี 125 – 134 KHz 2.High Frequency (HF) ย่านความถี่ 13.56 MHz 3.Ultra-High Frequency ย่านความถ่ี 920–925 MHz (สำหรับประเทศไทย) 4) Microware ย่านความถี่ 2.45 – 5.8 GHz เมื่อเรานำองค์ประกอบ ทั้งหมดไปใช้งานในรูปแบบตา่ ง ๆ เรียกว่า RFID Solution เช่น การติดตามทรัพย์สิน รถยนต์ เครื่องมือ การ ติดตามเอกสารสำคัญ เชน่ เอกสารทางราชการ การจัดการในคลังสินค้า การขนสง่ สินคา้ พาเลต บัตรผ่านทาง เทคโนโลยบี ่งช้ดี ้วยคลื่นความถ่วี ทิ ยุ (Radio Frequency Identification: RFID) หรอื เรยี กสัน้ ๆ วา่ เทคโนโลยี RFID เนื่องจากลักษณะการส่งผ่านกำลังงานและข้อมูลระหว่างบัตรและเครือ่ งอ่านจะอยู่บนพ้ืนฐานของคล่นื ความถี่วิทยุ ตารางที่ 1 แสงการเปรียบเทียบข้อแตกต่างของเทคโนโลยบี ่งช้ีอัตโนมตั ิแบบต่าง ๆ ซึ่งจะพบวา่ เทคโนโลยี RFID คอ่ นข้างมีขอ้ ได้เปรยี บมากกวา่ เทคโนโลยีแบบอ่ืน ๆ 4. EDI (Electronic Data Interchange) เป�นการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการรับ-ส่งเอกสารธุรกิจ ระหว่างหน่วยงานตั้งแต่ 2 หน่วยงานขึ้นไป ที่มีมาตรฐานอันเป�นที่ยอมรับร่วมกัน โดยผ่านเครือข่ายสื่อสาร เช่น สายโทรศัพท์ สัญญาณดาวเทียม หรืออีกนัยหนึ่ง คือ การใช้สื่อหรือรูปแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ ในการ

แลกเปลี่ยนข้อมลู หรือเอกสารธรุ กจิ เชน่ ใบส่งั ซ้ือสินค้า บญั ชีราคาสนิ คา้ ใบสง่ ของ รายงาน ภายใต้มาตรฐาน ที่กำหนดไว้ ซึ่งการรับ-ส่งเอกสารข้อมูลดังกล่าวจะถูกกระทำภายใตม้ าตรฐานความปลอดภัยระดับหนึ่ง เพ่ือ ป้องกันมิให้คู่แข่งขันทางการค้าสามารถดึงข้อมูลของตนเองไปใช้ได้ ซึ่งหากมีการใช้ EDI ในกิจกรรมต่าง ๆ อยา่ งครบวงจรแล้ว จะชว่ ยใหไ้ มต่ อ้ งอาศยั เอกสารต้นฉบบั ท่ีต้องตรวจสอบโดยพนงั งานหรือปอ้ นข้อมูลซ้ำซาก อีก ซ่งึ สามารถสนับสนนุ ให้องค์กร ธุรกิจเปล่ียนแปลง เปน� ขน้ั ตอนของการทำธรุ กจิ ทตี่ อ้ งใช้เอกสารเปน� พนื้ ฐาน ไปส่กู ารทำธุรกิจภายใต้สื่อทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์โดยไม่จำเป�นตอ้ งใชก้ ระดาษอกี ต่อไป ในการทำงานตามข้ันตอน ของระบบ EDI นีจ้ ำเป�นอยา่ งยงิ่ ทรี่ ะบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรตา่ ง ๆ จะต้องมสี ว่ นการสือ่ สารเป�นระบบเป�ด คือ เปน� ระบบซ่ึงใช้ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และซอฟตแ์ วร์ (Software) ทไี่ มป่ �ดก้นั การติดต่อจากโลกภายนอก โดยการใช้มาตรฐานทีเ่ ป�นสากล เชน่ UN/EDIFACT, IEEE, ACM และ ISO ซงึ่ ไดก้ ำหนดและวางกฎเกณฑ์ของ การส่งผ่าน หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถติดต่อ และรบั -สง่ ข้อมูลกันได้โดยไมจ่ ำกดั ยี่หอ้ ของอุปกรณ์ 5. การวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจ (Enterprise Resource Planning: ERP ) การวางแผน ทรัพยากรวิสาหกิจ เป�นโปรแกรมท่ีรองรบั ข้อมูลการทำงานประจำวนั (Transaction) เช่น การขายในแต่ละ คร้งั นำขอ้ มลู เช่ือมโยงกับรายการของฝ่ายบญั ชี เพื่อบันทกึ ลงสมุดประจำวนั สร้างเอกสารเพ่อื รอตดั สินค้าออก จากคลงั สนิ คา้ สร้างคำสัง่ การผลิตในกรณีท่ไี ม่มีสินค้าในคลังสนิ ค้า สรา้ งคำสั่งซ้อื วตั ถุดิบในกรณีท่ีไม่มีวัตถุดิบ ในคลังสินคา้ ทง้ั นเี้ อกสารจะเชือ่ มโยงโดยการต้ังคา่ การทำงานต่าง ๆ เชน่ ผงั บัญชี การเชอ่ื มโยงบัญชีการลกู ค้า สูตรการผลิต ระยะเวลาที่ใช้ในการผลิต ดังนั้นการวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจจึงเป�นเครื่องมือที่ใช้ในการ จัดการและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กรวิสาหกิจ โดยเป�นระบบที่เชื่อมโยงระบบงานต่าง ๆ ขององคก์ รวิสาหกิจเข้าดว้ ยกัน ต้ังแตร่ ะบบงานทางดา้ นการจดั ซอื้ -จัดจ้าง การผลิต การเงนิ และการบัญชี การ บริหารทรพั ยากรบุคคล การบริหารสินค้าคงคลัง ตลอดจนระบบการขนสง่ และกระจายสนิ ค้า เพื่อช่วยให้การ วางแผนและบริหารทรพั ยากรขององคก์ รวิสาหกิจเป�นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ ทั้งยังช่วยลดเวลาและขั้นตอน การทำงานขององค์กรวิสาหกิจลง และเป�นระบบที่จำเป�นสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกขนาดใน ป�จจุบัน แต่เน่ืองจากในปจ� จบุ นั ซอฟตแ์ วร์ ERP สำเร็จรปู (ERP Package) ยงั มีราคาท่ีคอ่ นข้างสงู ประกอบกับ วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มขี อ้ จำกดั ในด้านเงนิ ลงทนุ และเนอ่ื งจากได้มีการพัฒนาซอฟตแ์ วร์ ให้เป�นรหัสเป�ดมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต ดังนั้นจึงมีความจำเป�นอย่างยิ่งที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จะตอ้ งมีการประยกุ ต์ใช้ ERP ท่เี ปน� แบบซอฟตแ์ วร์รหสั เปด� (Opens Source Software: OSS) 6. ระบบการจัดการคลังสนิ คา้ (Warehouse Management System: WMS) ป�จจุบันการบริหาร คลงั สินคา้ จำเป�นต้องใชเ้ ทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน เนอ่ื งจากงานมีปรมิ าณและความซับซ้อนทม่ี ากข้ึน โดยได้ มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเรียกว่า ระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) ท่ีถูกพฒั นาขึน้ มาเพือ่ ช่วยให้การปฏิบตั งิ านภายในคลงั สินค้าและการบรหิ ารสต็อกใหเ้ ปน� โดยอัตโนมัติมี ความถกู ต้อง รวดเร็วและแม่นยำมากขน้ึ สามารถดำเนินการผ่านหน้าจอคอมพวิ เตอร์ โดยไมจ่ ำเป�นต้องอาศัย งานที่ใช้กระดาษ (Paperless) ระบบการจัดการคลังสินค้า มีความสามารถที่จะช่วยแก้ไขป�ญหาโลจิสติกส์ ดงั ต่อไปนคี้ ือ

- การรับสินคา้ (Receiving) ระบบสามารถจองพื้นท่ีว่างหรือจองพ้ืนที่ไว้ล่วงหนา้ เพื่อช่วยในการวาง แผนการจดั วางในคลัง สนิ ค้าไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ การรบั สนิ ค้าโดยไม่มีการวางแผนการจัดเก็บ จะมีผลทำ ให้ตน้ ทนุ ของกจิ การมากขน้ึ เพราะตอ้ งเสียเวลาในการค้นหาสนิ ค้านนั้ ๆ - การจัดเก็บ (Put Away) ระบบสามารถแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมในการจัดเก็บ และมีการยืนยนั ตำแหนง่ ท่ีจดั เก็บได้ อยา่ งถกู ตอ้ ง โปรแกรม WMS ในสว่ นของการจัดเก็บ สามารถทำงานร่วมกับ ERP และ บาร์โคด้ สแกนเนอร์ เพ่อื ทำใหท้ ราบตำแหนง่ ทแี่ ม่นยำและชัดเจน - การหยิบสินค้า (Picking) ระบบจะช่วยหาตำแหน่งของสินค้าที่มีการจัดเก็บไว้ได้อย่างง่าย ทำให้ ผูป้ ฏิบัติงานสามารถหยบิ สนิ คา้ ได้อย่างถกู ตอ้ งและรวดเร็ว 7. ระบบการจัดการการขนส่ง (Transportation Management System: TMS) ป�จจุบันระบบ การจัดการการขนส่งนยิ มใช้ซอฟตแ์ วร์ที่พัฒนา โดยมีการใช้งานผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต และเอ็กซท์ ราเนต็ ซึง่ ซอฟต์แวร์TMS มรี ะบบย่อยทสี่ ำคัญประกอบด้วย 1. การจดั การขนสง่ มงี านทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เชน่ การวางแผนบรรทุก การเลอื กวิธีการขนส่ง การจัดซ้ือในงาน ขนส่ง การจัดการ เส้นทางการขนส่ง การควบคุมการขนส่ง การติดตามการจัดส่ง การจัดทำรายงาน และปรับตามความตอ้ งการของลูกคา้ 2. การจัดการยานพาหนะ มงี านที่เกีย่ วขอ้ ง เชน่ การบริหารยานพาหนะ การจดั การเช่ายานพาหนะ การ จัดการน้ำมัน เชื้อเพลิง การจัดการอุบัติเหตุ การจัดการบุคคล การซ่อมบำรุงภายใน การจัดการ อะไหล่และการจดั การเรยี กเกบ็ เงนิ 3. การจัดการผู้รับขน มีงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การวางแผนขนส่ง/เวลาในการบรรทุก การจัดตารางการ ขนสง่ การสรรหา พนกั งานขับรถ การกำหนดช่ัวโมงพนักงานขบั รถ การบำรุงรกั ษายานยนต์และการ สนับสนุนการขนส่งสนิ คา้ ขากลับ 4. การออกแบบเครือข่ายมีงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การเลือกทำเลที่ตั้ง การกระจายสินค้าในระดับดีที่สุด การวางแผนกำลังการ ผลิต การให้บริการคลังสนิ ค้าแต่ละพืน้ ทีใ่ ห้ดที ี่สุดและการประเมินผลกลยุทธ์ โลจสิ ตกิ ส์

บทสรปุ เนื่องจากในป�จจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของ ผปู้ ระกอบการ ในการบรหิ ารงานขององค์กรธรุ กิจ ส่งผลใหค้ วามสามารถในการส่ือสาร ควบคมุ ตลอดจนการ ประมวลผลเพ่อื ตดั สนิ ใจเป�นไปอย่างถูกต้อง รวดเรว็ ซึ่งเทคโนโลยีท่ีนิยมนำมาใช้ในการเพม่ิ ประสิทธิภาพการ จัดการโลจิสติกส์ภายในองค์กรธุรกิจให้เป�นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สำคัญคือ เทคโนโลยีทางโลจิสติกส์ ซึ่ง ประกอบด้วย GPS (Global Positioning System) เป�นระบบทีใ่ ชใ้ นการบอกตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บนโลกน้ี โดยระบบ GPS จะใช้เทคโนโลยีของดาวเทียมที่จะเป�นเครื่องมือในการพิจารณาหาจุดพิกัดบนโลกนี้ โดยใช้ พกิ ัดตวั เลขของละติจดู และลองติจูด ทำใหท้ ราบถงึ ตำแหน่งที่แท้จรงิ ของส่ิงนน้ั ๆ ถกู นำมาใช้ในเชิงการค้าใน การติดตาม ตรวจสอบการเดินทางขนส่งสินค้าของรถบรรทุกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ Barcode เป�น เทคโนโลยีในการตรวจสอบสินค้าขณะขาย การตรวจสอบยอดการขาย การตรวจสอบยอดขาย และสินค้าคง คลัง RFID (Radio Frequency Identification) เป�นเทคโนโลยีท่ใี ช้ในการระบุสง่ิ ตา่ ง ๆ แบบไม่ต้องสัมผัสโดย ใช้คลน่ื ความถ่ีวิทยุ EDI (Electronic Data Interchange) เป�นการใช้เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ในการรับ-ส่งเอกสาร ธุรกิจระหว่างหน่วยงานตั้งแต่ 2 หน่วยงานขึ้นไป ที่มีมาตรฐานอันเป�นที่ยอมรับร่วมกัน โดยผ่านเครือข่าย สื่อสาร การวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจ (Enterprise Resource Planning: ERP) เป�นเครื่องมือที่ใช้ในการ จดั การและวางแผนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ขององค์กรวิสาหกจิ โดยเปน� ระบบทีเ่ ชอ่ื มโยงระบบงานต่าง ๆ ของ องค์กรวิสาหกิจเข้าด้วยกัน ระบบการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) เป�น ซอฟต์แวรเ์ พอ่ื ชว่ ยใหก้ ารปฏิบัติงานภายในคลังสินค้าและการบริหารสต็อกให้เป�นโดยอัตโนมัติมีความถูกต้อง รวดเร็วและแม่นยำมากขน้ึ และระบบการจัดการการขนสง่ (Transportation Management System: TMS) ซอฟต์แวร์ เพอ่ื ช่วยในการจัดการขนส่ง จัดการยานพาหนะ จดั การผ้รู ับขน และออกแบบเครือขา่ ย ซง่ึ จะทำให้ องค์กร ธุรกจิ ที่มกี ารประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีโลจิสตกิ ส์ มีประสิทธภิ าพในการจดั การโลจิสตกิ ส์ มีศกั ยภาพในการ แข่งขนั ในกระแสโลกาภิวัฒน์ไดเ้ ป�นอย่างดียิ่ง

เอกสารอ้างอิง 1. สนั่น เถาชาร.ี การปรับปรุงประสิทธภิ าพการจัดการกระบวนการทางธุรกิจของวิสาหกจิ ขนาดกลาง และขนาดยอ่ มโดยใช้ระบบ ERP : กรณศี ึกษาโรงงานผลติ ขนมป�งและเบเกอร.่ี วิทยานิพนธป์ ริญญา วศิ วกรรมศาสตร์มหาบัณฑิต : มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ , 2552. 2. เศรษฐศักดิ์ เลศิ ประเสรฐิ เวช. ระบบ GPS ทม่ี ีผลต่อประสิทธภิ าพการจดั การในธรุ กจิ ขนสง่ . การ ค้นคว้าอสิ ระวทิ ยาศาสตร์มหาบณั ฑิต : วิทยาลยั นวตั กรรมอุดมศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, 2548. 3. สรไกร ปญ� ญาสาครชยั . ผลสำเรจ็ ในการนำเทคโนโลยี GPS มาประยกุ ตใ์ ช้ในการเพมิ่ คุณภาพการ บรกิ ารขนสง่ สินคา้ และบริการทางถนน. การค้นควา้ อสิ ระวทิ ยาศาสตร์มหาบัณฑติ สาขาวิชาการ บริหารเทคโนโลยี : วิทยาลัยนวตั กรรม มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, 2552 4. วิโชติ สัมพันธรัตน์. ประสิทธิภาพของการรายงานการบรรทุกขนถ่าย และการรายงานการรับมอบส่ง มอบตู้สนิ คา้ ดว้ ยระบบการสง่ เอกสารอิเลก็ ทรอนิกส์ ของ บรษิ ัท ที ไอ พี เอส จำกัด ท่าเรือแหลมฉบัง ทา่ บี 4. งานนิพนธป์ รญิ ญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวชิ าการจัดการการขนส่งและโลจสิ ติกส:์ บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั บูรพา, 2548. 5. สุมาลี บวั ขาว. การใชร้ หสั แท่งในการบริหารสนิ คา้ คงคลังของอุตสาหกรรมอาหารและเครือ่ งดมื่ . การศึกษาคน้ คว้าอิสระปริญญาบรหิ ารธรุ กจิ มหาบณั ฑิต: บัณฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์, 2548. 6. สุวารนิ พรรคเจริญ. การศกึ ษาความเปน� ไปได้ในการนำเทคโนโลยบี ่งชว้ี ัตถุดว้ ยคลน่ื ความถีว่ ทิ ยุ มาใช้ ในการบรหิ ารรถยนตภ์ ายในลานจอด. งานนพิ นธป์ ริญญาวทิ ยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการ จดั การการขนส่งและโลจิสติกส์: บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั บรู พา, 2550.

ชื่อ-สกลุ …………………………..รหัสนักศึกษา…………………สาขา…………………….. ใบงานที่ 1 เทคโนโลยแี ละเคร่ืองมืออปุ กรณใ์ นงานโลจสิ ตกิ ส์ จุดประสงค์ บอกชนิดและอธิบายเทคโนโลยีและเครอื่ งมอื อุปกรณใ์ นงานโลจสิ ติกส์ คาํ ชีแ้ จง ใหน้ กั ศกึ ษาบอกชนิดเทคโนโลยีและเครื่องมืออุปกรณท์ ี่ใชใ้ นงานโลจิสตกิ ส์ มา 5 ชนิด พร้อม อธิบายพอสังเขป

ชื่อ-สกุล…………………………..รหสั นักศึกษา…………………สาขา…………………….. ใบงานที่ 2 เทคโนโลยแี ละเคร่ืองมอื อปุ กรณ์ในงานโลจสิ ติกส์ 1. ใหน้ ักศกึ ษาอธบิ ายประโยชน์ของการบรหิ ารจดั การคลงั สนิ คา้ ( WMS ) ตอบ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. ใหน้ ักศกึ ษาอธบิ ายประโยชน์ของการนําเทคโนโลยเี คร่อื งมอื และอุปกรณ์ในงานโลจสิ ตกิ สม์ าใชใ้ น คลงั สนิ คา้ ตอบ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. ใหน้ ักศกึ ษาเลอื กเทคโนโลยเี ครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ในงานโลจสิ ตกิ สท์ น่ี ํามาใชใ้ นคลงั สนิ คา้ มา 1 ชนดิ โดยบอกคณุ สมบตั ิ วธิ กี ารใชง้ าน ประโยชน์ และวธิ กี ารดูแลรกั ษา ตอบ ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................

แบบทดสอบหลงั เรยี น วิชาเทคโนโลยแี ละเคร่ืองมืออปุ กรณใ์ นงานโลจสิ ตกิ ส์ (30214-2104) 1. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง ก. ตามกฎหมายระบุองคก์ รจะต้องดำเนนิ การตรวจนับสินคา้ คงคลังอย่างน้อยป�ละ 1 ครั้ง และจะต้อง มีผตู้ รวจสอบจากหนว่ ยงานภายนอกเขา้ ร่วม ข. ตามกฎหมายระบอุ งคก์ รจะต้องดำเนนิ การตรวจนบั สนิ ค้าคงคลังอยา่ งนอ้ ยปล� ะ 1 ครง้ั และจะต้อง มผี ู้ตรวจสอบจากหนว่ ยงานภายในเข้าร่วม ค. ตามกฎหมายระบอุ งค์กรจะต้องดำเนินการตรวจนับสนิ คา้ คงคลงั อยา่ งนอ้ ยป�ละ 2 ครั้ง และจะต้อง มผี ูต้ รวจสอบจากหน่วยงานภายนอกเขา้ รว่ ม ง. ตามกฎหมายระบอุ งค์กรจะต้องดำเนินการตรวจนับสินค้าคงคลังอยา่ งเดอื นละ 1 คร้งั และจะต้องมี ผตู้ รวจสอบจากหน่วยงานภายนอกเขา้ ร่วม 2. ข้อใดไมใ่ ชร่ ะบบการจัดการคลังสนิ คา้ ก. RFID ข. FIFO ค. FEFO ง. LIFO 3. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วามหมายและความสำคัญของเทคโนโลยคี ลงั สินค้า ก. ลดการใช้ทรพั ยากรในการทำงาน ข. ลดประสิทธภิ าพในการทำงาน ค. ลดตน้ ทนุ ในการทำงาน ง. ลดความซับซอ้ นยุง่ ยากในการทำงาน 4. ขอ้ ใดคอื ประโยชนข์ องเทคโนโลยีท่ีเรยี กว่า ระบบการจดั การคลังสินคา้ (WMS) ก. รับชำระค่าสนิ ค้าได้สะดวก ข. จัดเส้นทางการสง่ สนิ ค้าไดร้ วดเร็ว ค. ระบกุ ารจดั วางสนิ คา้ ไดอ้ ย่างละเอยี ด ง. ยกสนิ คา้ เกบ็ ในท่ีสูงไดส้ ะดวก 5. ข้อใดเกี่ยวขอ้ งกับ ระบบบริหารคลงั สินค้า (WMS) น้อยท่ีสุด ก. กระบวนการรับสนิ ค้า (Receiving) ข. กระบวนการเบิก (Picking) ค. กระบวนการจัดเก็บ (Put Away) ง. กระบวนการบรรจุ (Packing)

(ตัวอย่าง) แบบประเมนิ การปฎิบัติงาน......................................... ช่ือ นาม สกุล ของผู้ปฏิบตั ิงาน...................................................................................................................... คำชี้แจง โปรดทำเครือ่ งหมายถูก (/) ลงในช่องระดบั คะแนน รายการปฏิบัติ ตัวคณู ระดบั คะแนน คะแนนรวม 10 8 6 1. ความปลอดภัยในการปฏบิ ัติงาน 1 2.เตรียม วัสดุ อุปกรณ์ ในการปฎบิ ัตงิ าน 1 3.เลือกวสั ดุ อุปกรณก์ ารปฏิบตั ิงานได้ 1 ถกู ต้อง 4.ใช้วสั ดุ อุปกรณก์ ารปฏิบัตงิ านได้ 2 เหมาะสม 5.แบบฝก� ปฏิบัต/ิ ใบงาน/นำเสนอ ถกู ต้อง 3 6.จัดเก็บอุปกรณ์ ทำความสะอาดห้องให้ 2 เรยี บร้อย รวม

แบบประเมนิ ผลการบูรณาการปฏิบตั ิงานภายใต้แนวปฏิบตั ิปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ....................................... เรือ่ ง........................................................................................ ชอ่ื นาม สกุล ของผปู้ ฏิบตั งิ าน...................................................................................................................... เกณฑก์ ารประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ 1. ความถกู ต้องเนื้อหาสาระ 5 2. ทกั ษะการทำงานภายใตแ้ นวปฏบิ ัติ 20 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอพยี ง (4) 2.1 หลักพอประมาณ (4) 2.2 หลักเหตุผล (4) 2.3 ภูมิคมุ้ กันในตัวท่ีดี (4) 2.4 ใช้ความรู้ (4) 2.5 ใชค้ ุณธรรม 5 3. จติ พิสยั : การตรงต่อเวลา ความสะอาด 30 รวมคะแนนเต็ม หมายเหตุ ให้คะแนนตามเกณฑป์ ระเมนิ ผลกระบวนการปฏบิ ัติงานภายใต้แนวปฏบิ ัติปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดูหนา้ ถัดไป

เกณฑ์ประเมนิ ผลกระบวนการปฏบิ ตั งิ านภายใต้แนวปฏบิ ัติปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ....................................................... เกณฑก์ ารประเมิน คะแนนเต็ม คะแนน 1. ความถูกตอ้ งเนือ้ หาสาระ 5 5=ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 5 ขัน้ ตอนถกู ตอ้ ง 4=ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 4 ขั้นตอนถกู ตอ้ ง 3=ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3 ขน้ั ตอนถกู ตอ้ ง 2=ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 2 ขนั้ ตอนถกู ตอ้ ง 1=ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 1 ข้นั ตอนถกู ตอ้ ง 2. ทักษะการทำงานภายใต้แนวปฏิบตั ิ (20) ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอพยี ง 2.1 หลักพอประมาณ ใน 4 M 4 4=ทำงานไม่มากไม่น้อย ครบถว้ น พอดี ใน 4 M (พอประมาณในตนเอง เวลา วัสดุ และทุน) 3=ทำงานไม่มากไมน่ ้อย ครบถว้ น พอดี ใน 3 M 2=ทำงานไมม่ ากไมน่ ้อย ครบถว้ น พอดี ใน 2 M 1=ทำงานไมม่ ากไม่น้อย ครบถ้วน พอดี ใน 1 M 2.2 หลักเหตผุ ล 4 4=ทำงานใช้เหตุใช้ผล ครบถ้วน และถกู ต้อง 4 ขอ้ ( เปา้ หมายและประโยชน)์ 3= ทำงานใชเ้ หตใุ ชผ้ ล ครบถว้ น และถกู ตอ้ ง 3 ข้อ 2= ทำงานใชเ้ หตุใช้ผล ครบถว้ น และถกู ตอ้ ง 2 ขอ้ 1= ทำงานใชเ้ หตใุ ช้ผล ครบถว้ น และถกู ตอ้ ง 1 ขอ้ 2.3 ภูมคิ ุ้มกนั ในตัวท่ดี ี 4 4=ทำงานมภี ูมิคุม้ กนั ในตวั ท่ดี ี ครบถ้วน และถูกต้อง 4 ขอ้ (มีการวางแผน ปลอดภยั ทำด้วยตนเอง 3= ทำงานมภี มู ิคุ้มกันในตวั ที่ดี ครบถ้วน และถกู ตอ้ ง 3 ขอ้ แกไ้ ขปรับปรุง รู้รัก-สามคั คี และแบ่งปน� ) 2= ทำงานมภี ูมคิ มุ้ กันในตวั ที่ดี ครบถ้วน และถูกต้อง 2 ขอ้ 1= ทำงานมภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี ครบถ้วน และถกู ต้อง 1 ข้อ 2.4 ใชค้ วามรู้ 4 4=ทำงานด้วยความรอบรู้ รอบคอบ และระมดั ระวงั ทุกข้นั ตอน อย่างรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง 3= ทำงานดว้ ยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวงั บางขนั้ ตอน 2= ทำงานด้วยความรอบรู้ และรอบคอบ บางข้นั ตอน 1= ทำงานด้วยความรอบรู้ บางขัน้ ตอน 2.5 ใช้คณุ ธรรม 4 4= ทำงานดว้ ยซ่ือสตั ย์สจุ ริต อดทน เพยี ร สติป�ญหา แบง่ ป�น ทกุ ขน้ั ตอน ซ่ือสตั ยส์ ุจริต อดทน เพียร สตปิ ญ� ญา แบง่ ปน� 3= ทำงานด้วยซ่อื สตั ยส์ จุ รติ อดทน เพียร สติป�ญหา ทุกข้ันตอน 2= ทำงานด้วยซอื่ สัตย์สุจริต อดทน เพียร ทุกขน้ั ตอน 1= ทำงานดว้ ยซือ่ สัตย์สจุ รติ อดทน ทกุ ขนั้ ตอน 3. จติ พสิ ัย : การตรงตอ่ เวลา ความสะอาด 5 5=ปฏบิ ัติงานเสรจ็ ตรงเวลา 1 ชม. และมคี วามสะอาด 4= ปฏบิ ัตงิ านเกินเวลา 1- 10 นาที และมีความสะอาด 3= ปฏบิ ัตงิ านเกนิ เวลา 11-15 นาที และมีความสะอาด 2=ปฏบิ ตั ิงานเกนิ เวลา 15 นาที และมคี วามสะอาด 1= ปฏบิ ัตงิ านเกนิ เวลา 15 นาที และไมม่ คี วามสะอาด รวม 30

(ตวั อย่าง) แบบประเมนิ และเกณฑก์ ารประเมินผล กิจกรรมการทำโครงงานเพ่ือฝ�กอาชีพ…………………………………………. ที่ รายการประเมิน สัดส่วน เกณฑ์การให้คะแนน คะแนน 1 ส่วนประกอบของ 10 เคา้ โครง 1.1 ความถกู ต้องตาม 4 4-เขยี นครอบคลมุ หวั ขอ้ ตามรูปแบบทง้ั หมดและจดั ลำดบั หวั ขอ้ ได้ถูกตอ้ ง รูปแบบ 3-เขียนครอบคลมุ หัวข้อตามรปู แบบทง้ั หมดแตจ่ ดั ลำดับหัวขอ้ ไมถ่ กู ต้อง 2-เขียนครอบคลมุ หัวข้อตามรปู แบบตงั้ แต่ 50 % ขึน้ ไป 1-เขยี นครอบคลมุ หัวข้อตามรูปแบบนอ้ ยกว่า 50 % 1.2 การใชภ้ าษาถกู 2 2-ใชภ้ าษาถกู ตอ้ งหลกั ไวยากรณ์ มกี ารสะกดคำผิดเพียงเล็กน้อย หลักไวยากรณ์ 1-มกี ารสะกดคำผดิ จำนวนมาก 1.3 การเขยี นอา้ งอิง 2 2-เขียนอา้ งอิงหรอื บรรณารกุ รมได้ครบถ้วนและถูกตอ้ งตามรูปแบบ หรือบรรณานกุ รม 1-เขียนอ้างองิ หรือบรรณารกุ รมได้ครบแต่ไมถ่ กู ต้องตามรปู แบบหรือเขยี นไม่ ครบถ้วนแต่ถกู ตอ้ งตามรปู แบบ 1.4 ความเปน� ระเบียบ 2 2-การใชต้ วั อักษร การจัดหนา้ กระดาษ การเว้นวรรคตอน ย่อหน้า และ เรยี บรอ้ ยของ การจัดเรยี งเลขหนา้ มคี วามเหมาะสมทั้งหมด การพิมพ์ 1-การใชต้ ัวอักษร การจัดหน้ากระดาษ การเวน้ วรรคตอน ยอ่ หน้า และการจดั เรยี ง เลขหนา้ มคี วามเหมาะสมบางสว่ น 2 ความคดิ รเิ ร่ิม 4 4-โครงงานมีความแปลกใหม่ ทันตอ่ ยุคสมัย สรา้ งสรรค์ 3-โครงงานสว่ นใหญ่มคี วามแปลกใหม่ 2-โครงงานบางส่วนมีความแปลกใหม่ 1-โครงงานไม่มคี วามแปลกใหม่ 3 การกำหนดปญ� หา 3 3-ประเด็นปญ� หามีความเฉพาะเจาะจงและชดั เจนดมี าก 2- ประเด็นป�ญหามคี วามเฉพาะเจาะจงแตย่ งั ไมช่ ัดเจน 1- ประเด็นปญ� หาไม่เฉพาะเจาะจง 4 การออกแบบ 4 4-การออกแบบโครงงานครอบคลุมประเด็นทต่ี ้องการศกึ ษา 3-การออกแบบโครงงานสว่ นใหญค่ รอบคลุมประเด็นท่ตี อ้ งการศกึ ษา โครงงาน 2-การออกแบบโครงงานบางส่วนครอบคลมุ ประเดน็ ที่ตอ้ งการศึกษา 1-การออกแบบโครงงานไมค่ รอบคลุมประเดน็ ท่ตี อ้ งการศกึ ษา 5 ประโยชนข์ อง 4 4-สามารถนำผลงานทงั้ หมดของโครงงานไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันและมคี วาม พอเพียงได้ โครงงาน 3-สามารถนำผลงานมากกว่า 50 % ของโครงงานไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวันแต่ ขาดความพอเพียง 2-สามารถนำผลงานนอ้ ยกวา่ 50 % ของโครงงานไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั แต่ ขาดความพอเพียง 1-ไมส่ ามารถนำผลงานของโครงงานไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ รวมคะแนน 25

(ตัวอย่าง) แบบประเมนิ ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื อาชพี .......................................................... การประพฤติตนของผู้เรียน บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านความพอเพียง 1. ชื่อ สกุล ผู้เรียน.........................................เลขท่ี ................ระดับช้นั ................. สาขาวิชา................................. 2 รายวชิ า.................................................................................................................................. คำช้ีแจง โปรดทำเคร่ืองหมายถูก / ลงในช่อง 5, 4 , 3 , 2 หรือ 1 ตามสภาพความเปน� จริง ระดับคะแนน 5 หมายถงึ มีการประพฤติตนระดบั การปฏิบตั เิ หมาะสมมากท่ีสุด ระดบั คะแนน 4 หมายถงึ มีการประพฤตติ นระดับการปฏบิ ตั ิเหมาะสมมาก ระดับคะแนน 3 หมายถึง มกี ารประพฤติตนระดับการปฏบิ ัตเิ หมาะสมปานกลาง ระดบั คะแนน 2 หมายถึง มีการประพฤติตนระดบั การปฏบิ ัตเิ หมาะสมนอ้ ย ระดบั คะแนน 1 หมายถงึ มกี ารประพฤตติ นระดับการปฏบิ ัตเิ หมาะสมนอ้ ยที่สดุ ด้านความพอเพียง รายการประเมนิ คะแนนความประพฤติของผเู้ รียน 1 543 2 1. เป�นผูร้ ู้จกั ประมาณตนเองในการใชว้ ัสดสุ ่งิ ของ 2. เปน� ผ้มู เี หตุผลในการปฏิบัตงิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายให้เสรจ็ ตามกำหนดเวลาโดยใชค้ วามรคู้ ู่ คุณธรรม 3. เป�นผู้ท่มี ีภูมิคมุ้ กนั ในตัวเองท่ดี ีโดยมกี ารเก็บ ออมใช้ทรัพย์สิน ส่ิงของให้เกิดประโยชนค์ ้มุ คา่ และปลอดภัยต่อตนเองและผอู้ ่นื 4. เปน� ผทู้ ่มี ีการศึกษาค้นคว้าความรดู้ ว้ ยตนเอง อยา่ งรอบคอบ รอบรู้ และระมัดระวัง สม่ำเสมอ 5. เป�นผทู้ ี่ใช้คุณธรรมกำกับจติ ใจในการดำเนิน ชีวติ ประจำวนั ได้แก่ มีความซือ่ สัตย์สจุ รติ อดทน เพยี ร สติ ป�ญญาในการเรยี นและในชีวติ ประจำวัน ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (..................................................)

(ตัวอยา่ ง) แบบประเมินผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ อาชพี ............................................... การประพฤติตนของผเู้ รยี น บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดา้ นจิตอาสา 1. ชอื่ สกลุ ผู้เรียน.........................................เลขท่ี ................ระดับชัน้ ................. สาขาวิชา.......................................... 2 รายวิชา.................................................................................................................................. คำชแี้ จง โปรดทำเครอื่ งหมายถกู / ลงในชอ่ ง 5, 4 , 3 , 2 หรอื 1 ตามสภาพความเปน� จรงิ ระดับคะแนน 5 หมายถงึ มกี ารประพฤตติ นระดบั การปฏบิ ัติเหมาะสมมากท่สี ดุ ระดบั คะแนน 4 หมายถึง มีการประพฤติตนระดับการปฏบิ ัตเิ หมาะสมมาก ระดบั คะแนน 3 หมายถึง มีการประพฤตติ นระดบั การปฏบิ ัติเหมาะสมปานกลาง ระดับคะแนน 2 หมายถงึ มีการประพฤตติ นระดับการปฏบิ ัตเิ หมาะสมนอ้ ย ระดบั คะแนน 1 หมายถึง มกี ารประพฤตติ นระดับการปฏิบตั ิเหมาะสมน้อยที่สดุ ดา้ นจติ อาสา รายการประเมิน คะแนนความประพฤติของผู้เรียน 1. ช่วยเหลอื ผูอ้ ่ืนด้วยกำลงั แรงกายและสตปิ �ญญา 543 2 1 2. อทุ ิศตนเพ่อื ประโยชน์ตอ่ สังคมและสว่ นรวม 3. แบง่ ป�นเสยี สละความสขุ ส่วยตวั เพื่อประโยชน์ แกผ่ อู้ ื่น 4. อาสาชว่ ยเหลืองานครดู ว้ ยความเต็มใจ 5. อาสาช่วยเหลอื งานเพ่ือน ๆ ดว้ ยความเต็มใจ 6. อาสามาชว่ ยดูแลบรเิ วณสถานที่เรยี นรู้ เทคโนโลยี เฉพาะทางอาชวี ศึกษาหอ้ งตามรอย พทุ ธชยันตี ลงชื่อ......................................................ผปู้ ระเมนิ (..................................................)

(ตัวอยา่ ง) แบบประเมนิ ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพือ่ อาชพี ............................................. การประพฤติตนของ บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดา้ นความซื่อสตั ยส์ ุจริต 1. ชื่อ สกลุ ผู้เรยี น.........................................เลขท่ี ................ระดับชน้ั .................สาขาวิชา.......................................... 2 รายวชิ า.................................................................................................................................. คำช้แี จง โปรดทำเคร่ืองหมายถกู / ลงในชอ่ ง 5, 4 , 3 , 2 หรือ 1 ตามสภาพความเปน� จริง ระดับคะแนน 5 หมายถงึ มกี ารประพฤตติ นระดับการปฏิบตั ิเหมาะสมมากท่สี ุด ระดับคะแนน 4 หมายถงึ มีการประพฤตติ นระดับการปฏิบัตเิ หมาะสมมาก ระดบั คะแนน 3 หมายถึง มีการประพฤตติ นระดบั การปฏิบตั เิ หมาะสมปานกลาง ระดบั คะแนน 2 หมายถงึ มกี ารประพฤติตนระดบั การปฏิบัติเหมาะสมน้อย ระดับคะแนน 1 หมายถึง มีการประพฤตติ นระดบั การปฏบิ ตั ิเหมาะสมนอ้ ยท่ีสดุ ดา้ นความซ่ือสัตย์สจุ ริต รายการประเมนิ คะแนนความประพฤตขิ องผู้เรียน 543 2 1 1. ประพฤติตรงท้งั หนา้ ทแ่ี ละตอ่ วชิ าชพี 2. ไม่โกหก และยอมรับเมือ่ ตนเองทำผดิ 3. ไม่ลักขโมย 4. ไม่ทุจริตในการสอบ 5 ไม่นำผลงานของผอู้ ่นื มาแอบอา้ งเปน� ของตนเอง 6. ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีตนเองและรักษาผลประโยชน์ของ ส่วนรวม 7. ไม่เพิกเฉยตอ่ สิ่งท่ไี ด้รบั รู้และการกระทำทไ่ี ม่ ถกู ตอ้ ง ลงช่ือ......................................................ผปู้ ระเมนิ (..................................................)

(ตัวอย่าง) แบบประเมินผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพือ่ อาชพี .......................................... การประพฤตติ นของผู้เรยี น บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ด้านการมีวนิ ัยในตนเอง 1. ช่อื สกลุ ผเู้ รยี น.........................................เลขท่ี ................ระดบั ชนั้ .................สาขาวิชา.......................................... 2 รายวชิ า.................................................................................................................................. คำชแ้ี จง โปรดทำเครือ่ งหมายถกู / ลงในชอ่ ง 5, 4 , 3 , 2 หรอื 1 ตามสภาพความเปน� จริง ระดับคะแนน 5 หมายถงึ มีการประพฤตติ นระดับการปฏิบตั ิเหมาะสมมากทสี่ ดุ ระดับคะแนน 4 หมายถงึ มกี ารประพฤติตนระดับการปฏิบตั เิ หมาะสมมาก ระดับคะแนน 3 หมายถงึ มกี ารประพฤติตนระดับการปฏบิ ัตเิ หมาะสมปานกลาง ระดับคะแนน 2 หมายถึง มกี ารประพฤตติ นระดบั การปฏิบัติเหมาะสมนอ้ ย ระดบั คะแนน 1 หมายถงึ มกี ารประพฤตติ นระดบั การปฏิบตั เิ หมาะสมน้อยท่ีสดุ ดา้ นการมวี ินัยในตนเอง รายการประเมิน คะแนนความประพฤติของผู้เรียน 543 2 1 1. เข้าหอ้ งเรียนตรงเวลา 2. ส่งงานมอบหมายตรงเวลา 3. ปฏิบตั ติ ามกฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ สถานศึกษา 4. ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และมารยาทของสังคม 5. ประพฤติตนตามหลักศีลธรรมอนั ดงี าม ลงช่ือ......................................................ผปู้ ระเมนิ (..................................................)

กราฟแสดงผลการเรยี นรู้ วชิ า............................................... รหสั วชิ า ..................................... ภาคเรยี นท่ี 2 ปก� ารศึกษา 2564 วทิ ยาลยั ............................................................

วิทยาลยั ......................................................... ตารางบนั ทกึ Skill Map สู่ Competency Map แผนกวชิ า ....................................................... ระดับชนั้ ................................ หอ้ ง ................... ท่ี ชื่อ สกลุ ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่ ผา่ น ไม่ ผา่ น ผา่ น ผ่าน UOC....... UOC....... UOC....... รวมคร้ัง ี่ท ่ผาน รวมคร้ัง ี่ท ่ผาน ิคดเ �ปนเปอร์เซ็น ์ต ลงลาย ืมอ ื่ชอ

แผนผังพื้นท่จี ัดการเรยี หลักสูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้ันสงู พุทธศกั ราช 2563 ประเภทวิช วิทยาลัยเท หอ้ งเรียนทฤษฎี หอ้ งเรยี นปฏิบัติก

ยนการสอน/ปฏบิ ัติงาน ชาบรหิ ารธรุ กิจ สาขาวิชาการจัดการโลจิสตกิ ส์และซพั พลายเชน ทคนิคลพบุรี ห้องเรียนปฏบิ ัตกิ าร1 การ2

ห้องปฏบิ ัติการฝก� อาชีพเฉพาะทาง Excellent Model ลำดับ รายการ จำนวน หมายเหตุ ใชไ้ ด้ ใชไ้ มไ่ ด้ 1 2 3 4 5 6 7 หมายเหตุ ใชก้ บั ใบงานที่ 1 ……………………. ใช้กับ ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง ..................................... ใช้กับ ใบปฎบิ ัตงิ าน ......................................... ใช้กับ ใบปฎบิ ัติงาน ............................................. ใช้กับ ใบปฎิบัตงิ าน ........................................... ใชก้ บั ใบปฎิบัติงาน ................................ จากเอกสารประกอบการฝ�กทกั ษะ เจ้าหนา้ ท่ีประจำสำนกั งาน เล่มที่ 2/2564

สมุดบนั ทกึ ผลประเมิน (Passport) วชิ า ................................................................ รหสั วชิ า ........................................ เปน� อาชีพ ........................................................ ระดับ ............................ วิทยาลัย ..................................................... ครูผสู้ อน ........................................................................................................................ ที่ JOB/UOCที่ TASK ท่ี ผ่าน ไม่ผา่ น ผปู้ ระเมิน 1 2 3 4 5 6

มาตรฐานการจดั การเรยี นข้นั ตำ่ หอ้ งเรยี นอาชีพ ภาคเรียนที่ 2 / 2564 แนวคดิ QC TOOL มาตรฐานครู มาตรฐานหอ้ งเรียน มาตรฐานนกั เรยี น 1.เขา้ สอนและเลกิ สอนตรงเวลา 1.หอ้ งเรียนสะอาดปราศจากกลิน่ 1.การแตง่ กายถกู ต้องตาม อับ ระเบียบ 2.เชคชื่อผู้เรียนทกุ คร้งั ท่เี ข้าสอน 2.โต๊ะ เก้าอี้ จัดเรียนเป�นระเบยี บ 2.เข้าเรยี นและออกจากหอ้ งเรยี น 3.ใช้สอื่ ประกอบการเรยี นการ 3.มแี สงสวา่ งอยา่ งเพยี งพอ ตรงเวลา สอน 4.บรู ณาการปรชั ญาขอขง 3.เคารพครูกอ่ นและหลังเรยี น เศรษฐกิจพอเพยี งใชห้ ลกั คณุ ธรรมนำความรู้ 4.มโี ตะ๊ ครู กระดาน แปลงลบ 4.มีสมดุ จด หนงั สือเรยี น อปุ กรณ์ 5.มอบหมายงานเม่ือหมดคาบ กระดาน ไม้กวาด และถังขยะ การเรยี นในรายวิชาครบ เรียน พร้อมใชง้ าน 5.สง่ งานท่ีมอบหมายตรงตาม 5.มสี อ่ื แผนภูมิ แผน่ ภาพ ท่ี เวลา เกยี่ วขอ้ งกบั รายวิชาทส่ี อน

วิทยาลยั ........................................................................ 2/2564 โครงการเปลี่ยนวิชาเปน� อาชีพ บูรณาการ / ปรบั และเปลี่ยน/เพอ่ื อยู่รอด Model Design Training ใชแ้ นวคิด 1. ตาราง DACUM วิเคราะหบ์ รู ณาการงานกับวิชา 2. ใชค้ รสู อนรว่ มในหลกั สูตรภาคเรยี นเดียวกนั รว่ มประเมนิ ผเู้ รียน 3. บรู ณาการกิจกรรมภายในสถานศึกษากบั วชิ า 4. ใช้ Passport เก็บ Skill Map ตามสมรรถนะ 5. ใช้ Portfolio รวบรวมผลงานนำเสนอ มาตรฐานอาชพี การวเิ คราะห์ เปล่ยี นวิชาเป็ นอาชีพ - มาตรฐาน TPQI ใชต้ าราง - วิเคราะหเ์ ปรียบเทยี บ - มาตรฐานฝีมือแรงงาน สมรรถนะรายวชิ า และ - มาตรฐานของสถาน DACUM คาํ อธิบายรายวชิ า ประกอบการ - แบบวเิ คราะหง์ าน - แบบวิเคราะหง์ านยอ่ ย มาตรฐานรายวชิ า - แผนการสอน - สมรรถนะรายวชิ า - แบบวิเคราะห์ DACUM - คาํ อธิบายรายวชิ า - เอกสารประเมิน - Skill Map - UOC


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook