เทคโนโลยสี ารสนเทศ
เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปัจจุบนั น้ี เทคโนโลยสี ารสนเทศมีบทบาทอยา่ งกวา้ งขวางในทุกวงการ และเทคโนโลยีสารสนเทศกลายเป็นเคร่ืองมือสาคญั ของการทางานทุกดา้ น นบั ต้งั แตท่ างดา้ นการศึกษา พาณิชยกรรม เกษตรกรรมอุตสาหกรรม สาธารณสุข การวจิ ยั และพฒั นา ตลอดจนดา้ นการเมืองและราชการ อนั ท่ีจริงแลว้ จะเห็นวา่ ไม่มีงานดา้ นใดที่ไมม่ ีผคู้ ิดประยกุ ตห์ รือนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ ไปช่วยใหก้ ารทางานน้นั ๆ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยง่ิ ข้ึนข้อมูลกบั สารสนเทศ ขอ้ มลู (Data) หมายถึง กลุ่มตวั อกั ขระท่ีเมื่อนามารวมกนั แลว้ มีความหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงและมีสาคญั ควรคา่ แก่การจดั เกบ็ เพ่ือนาไปใชใ้ นโอกาสต่อ ๆ ไป ขอ้ มูลมกั เป็นขอ้ ความท่ีอธิบายถึงสิ่งใดสิ่งหน่ึงอาจเป็ นตวั อกั ษร ตวั เลข หรือสัญลกั ษณ์ใด ๆ ที่สามารถนาไปประมวลผลดว้ ยคอมพิวเตอร์ได้ (ทกั ษิณา สวนานนท์ และฐานิศรา เกียรติบารมี 2546: 165) สารสนเทศ หมายถึง ขอ้ มลู ข่าวสาร ความรู้ตา่ ง ๆ ที่ไดร้ ับการสรุป คานวณ จดั เรียง หรือประมวลแลว้จากขอ้ มูลตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งอยา่ งเป็นระบบตามหลกั วชิ าการ จนไดเ้ ป็นขอ้ ความรู้ เพ่ือนามาเผยแพร่และใช้ประโยชนใ์ นงานดา้ นตา่ ง ๆ (สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี 2538: 3) ขอ้ มูลและสารสนเทศนบั วา่ มีประโยชน์ต่อการนาไปใชบ้ ริหารงานดา้ นต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น 1. ดา้ นการวางแผน สามารถนาสารสนเทศไปใชใ้ นการวางแผนเกี่ยวกบั การจดั การองคก์ าร การบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ กระบวนการผลิตสินคา้ การตลาด เป็นตน้ 2. ดา้ นการตดั สินใจ สามารถนาสารสนเทศไปใชใ้ นการตดั สินใจเพือ่ เลือกแนวทางหรือทางเลือกท่ีมีปัญหานอ้ ยท่ีสุดในการแกป้ ัญหาต่าง ๆ การมีสารสนเทศที่สมบูรณ์ ทนั สมยั และครบถว้ นจะช่วยใหก้ ารตดั สินใจถูกตอ้ ง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยงิ่ ข้ึน 3. ดา้ นการดาเนินงาน สามารถนาสารสนเทศไปใชใ้ นการดาเนินงานตา่ ง ๆ เช่น ใชเ้ พื่อควบคุมหรือติดตามผลการปฏิบตั ิงานให้สอดคลอ้ งกบั กฎระเบียบ วตั ถุประสงค์ และเป้ าหมายขององคก์ าร
ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology: IT) หรือเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร(Information and Communication Technologies: ICTs) ก็คือ เทคโนโลยสี องดา้ นหลกั ๆ ที่ประกอบดว้ ยเทคโนโลยรี ะบบคอมพวิ เตอร์ และ เทคโนโลยสี ่ือสารโทรคมนาคมที่ผนวกเขา้ ดว้ ยกนั เพื่อใชใ้ นกระบวนการจดั หา จดั เก็บ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นเสียง ภาพ ภาพเคล่ือนไหวขอ้ ความหรือตวั อกั ษร และตวั เลข เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ ความถูกตอ้ ง ความแม่นยา และความรวดเร็วใหท้ นั ต่อการนาไปใช้ประโยชน์ความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร มี 5 ประการ (Souter 1999: 409) ไดแ้ ก่ ประการแรก การส่ือสารถือเป็นส่ิงจาเป็นในการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ส่ิงสาคญั ท่ีมีส่วนในการพฒั นากิจกรรมตา่ ง ๆ ของมนุษยป์ ระกอบดว้ ย Communications media, การส่ือสารโทรคมนาคม(Telecoms), และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ประการที่สอง เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารประกอบดว้ ยผลิตภณั ฑห์ ลกั ท่ีมากไปกวา่โทรศพั ทแ์ ละคอมพวิ เตอร์ เช่น แฟกซ์, อินเทอร์เน็ต, อีเมล์ ทาใหส้ ารสนเทศเผยแพร่หรือกระจายออกไปในท่ีตา่ ง ๆ ไดส้ ะดวก ประการที่สาม เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารมีผลใหก้ ารใชง้ านดา้ นต่าง ๆ มีราคาถูกลง ประการท่ีส่ี เครือข่ายส่ือสาร (Communication networks) ไดร้ ับประโยชน์จากเครือขา่ ยภายนอกเนื่องจากจานวนการใชเ้ ครือขา่ ย จานวนผเู้ ชื่อมต่อ และจานวนผทู้ ่ีมีศกั ยภาพในการเขา้ เช่ือมต่อกบั เครือข่ายนบั วนั จะเพิ่มสูงข้ึน ประการที่หา้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารทาใหฮ้ าร์ดแวร์คอมพวิ เตอร์ และตน้ ทุนการใช้ICT มีราคาถูกลงมากองค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศน้นั อาจกล่าวไดว้ า่ ประกอบข้ึนจากเทคโนโลยสี องสาขาหลกั คือเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ่ือสารโทรคมนาคม สาหรับรายละเอียดพอสงั เขปของแต่ละเทคโนโลยมี ีดงั ต่อไปน้ีคือ 1. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นเคร่ืองอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจาขอ้ มลู ต่าง ๆ และปฏิบตั ิตามคาสง่ั ท่ีบอก เพือ่ ให้คอมพิวเตอร์ทางานอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงให้ คอมพวิ เตอร์น้นั ประกอบดว้ ยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเช่ือมกนั เรียกวา่ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์น้ีจะตอ้ งทางานร่วมกบั โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือท่ีเรียกกนั วา่ซอฟตแ์ วร์ (Software) (มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2546: 4)
ฮาร์ดแวร์ ประกอบดว้ ย 5 ส่วน คือ อปุ กรณ์รับข้อมูล (Input) เช่น แผงแป้ นอกั ขระ (Keyboard), เมาส์, เคร่ืองตรวจกวาดภาพ (Scanner),จอภาพสัมผสั (Touch Screen), ปากกาแสง (Light Pen), เครื่องอา่ นบตั รแถบแม่เหล็ก (Magnetic Strip Reader),และเครื่องอ่านรหสั แท่ง (Bar Code Reader) อปุ กรณ์ส่งข้อมูล (Output) เช่น จอภาพ (Monitor), เคร่ืองพมิ พ์ (Printer), และเทอร์มินลั หน่วยประมวลผลกลาง จะทางานร่วมกบั หน่วยความจาหลกั ในขณะคานวณหรือประมวลผล โดยปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามคาสงั่ ของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยการดึงขอ้ มูลและคาส่งั ท่ีเก็บไวไ้ วใ้ นหน่วยความจาหลกั มาประมวลผล หน่วยความจาหลกั มีหนา้ ท่ีเกบ็ ขอ้ มลู ท่ีมาจากอุปกรณ์รับขอ้ มูลเพอ่ื ใชใ้ นการคานวณ และผลลพั ธ์ของการคานวณก่อนที่จะส่งไปยงั อุปกรณ์ส่งขอ้ มูล รวมท้งั การเก็บคาสัง่ ขณะกาลงั ประมวลผล หน่วยความจาสารอง ทาหนา้ ที่จดั เกบ็ ขอ้ มูลและโปรแกรมขณะยงั ไมไ่ ดใ้ ชง้ าน เพอื่ การใชใ้ นอนาคต ซอฟต์แวร์ เป็นองคป์ ระกอบท่ีสาคญั และจาเป็นมากในการควบคุมการทางานของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ซอฟตแ์ วร์สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ มีหนา้ ที่ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในระบบคอมพวิ เตอร์ และเป็นตวั กลางระหวา่ งผใู้ ชก้ บั คอมพวิ เตอร์หรือฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ระบบสามารถแบง่ เป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ 1. โปรแกรมระบบปฏิบตั ิการ ใชค้ วบคุมการทางานของคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์พ่วงตอ่ กบัเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีนิยมใชก้ นั ในปัจจุบนั เช่น UNIX, DOS, Microsoft Windows 2. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ใชช้ ่วยอานวยความสะดวกแก่ผใู้ ชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ในระหวา่ งการประมวลผลขอ้ มูลหรือในระหวา่ งท่ีใช้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ ตวั อยา่ งโปรแกรมที่นิยมใชก้ นั ในปัจจุบนั เช่น โปรแกรมเอดิเตอร์ (Editor) 3. โปรแกรมแปลภาษา ใชใ้ นการแปลความหมายของคาสั่งที่เป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ให้อยใู่ นรูปแบบที่เคร่ืองคอมพวิ เตอร์เขา้ ใจ และทางานตามที่ ผใู้ ชต้ อ้ งการ ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ เป็นโปรแกรมที่เขียนข้ึนเพื่อทางานเฉพาะดา้ นตามความตอ้ งการ ซ่ึงซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตน์ ้ีสามารถแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ 1. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตเ์ พ่ืองานทว่ั ไป เป็นซอฟตแ์ วร์ที่สร้างข้ึนเพอื่ ใชง้ านทว่ั ไปไมเ่ จาะจงประเภทของธุรกิจ ตวั อยา่ ง เช่น Word Processing, Spreadsheet, Database Management เป็นตน้ 2. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตเ์ ฉพาะงาน เป็นซอฟตแ์ วร์ที่สร้างข้ึนเพ่ือใชใ้ นธุรกิจเฉพาะ ตามแต่วตั ถุประสงคข์ องการนาไปใช้ 3. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตอ์ ื่น ๆ เป็นซอฟตแ์ วร์ท่ีเขียนข้ึนเพ่ือความบนั เทิง และอื่น ๆนอกเหนือจากซอฟตแ์ วร์ประยกุ ตส์ องชนิดขา้ งตน้ ตวั อยา่ ง เช่น Hypertext, Personal InformationManagement และซอฟตแ์ วร์เกมต่าง ๆ เป็นตน้
2. เทคโนโลยสี ื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยสี ื่อสารโทรคมนาคม ใชใ้ นการติดตอ่ สื่อสารรับ/ส่งขอ้ มลู จากที่ไกล ๆ เป็นการส่งของขอ้ มูลระหวา่ งคอมพวิ เตอร์หรือเครื่องมือท่ีอยหู่ ่างไกลกนั ซ่ึงจะช่วยใหก้ ารเผยแพร่ขอ้ มูลหรือสารสนเทศไปยงั ผใู้ ชใ้ นแหล่งตา่ ง ๆ เป็นไปอยา่ งสะดวก รวดเร็ว ถูกตอ้ ง ครบถว้ น และทนั การณ์ ซ่ึงรูปแบบของขอ้ มูลท่ีรับ/ส่งอาจเป็นตวั เลข (Numeric Data) ตวั อกั ษร (Text) ภาพ (Image) และเสียง (Voice) เทคโนโลยที ี่ใชใ้ นการส่ือสารหรือเผยแพร่สารสนเทศ ไดแ้ ก่ เทคโนโลยที ี่ใชใ้ นระบบโทรคมนาคมท้งั ชนิดมีสายและไร้สาย เช่น ระบบโทรศพั ท,์ โมเดม็ , แฟกซ์, โทรเลข, วทิ ยกุ ระจายเสียง, วทิ ยโุ ทรทศั น์ เคเบิ้ลใยแกว้ นาแสง คล่ืนไมโครเวฟ และดาวเทียม เป็นตน้ สาหรับกลไกหลกั ของการส่ือสารโทรคมนาคมมีองคป์ ระกอบพ้ืนฐาน 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ตน้ แหล่งของขอ้ ความ (Source/Sender), สื่อกลางสาหรับการรับ/ส่งขอ้ ความ (Medium), และส่วนรับขอ้ ความ (Sink/Decoder) ดงั แผนภาพตอ่ ไปน้ี คือ สาหรับกลไกหลกั ของการส่ือสารโทรคมนาคมมีองคป์ ระกอบพ้ืนฐาน 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ตน้ แหล่งของขอ้ ความ (Source/Sender), ส่ือกลางสาหรับการรับ/ส่งขอ้ ความ (Medium), และส่วนรับขอ้ ความ(Sink/Decoder) ดงั แผนภาพต่อไปน้ี คือ
นอกจากน้ี เทคโนโลยสี ารสนเทศสามารถจาแนกตามลกั ษณะการใชง้ านไดเ้ ป็น 6 รูปแบบ ดงั น้ีต่อไปน้ี คือ 1. เทคโนโลยที ี่ใชใ้ นการเก็บขอ้ มลู เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ, กลอ้ งดิจิทลั , กลอ้ งถ่ายวดี ีทศั น์,เครื่องเอกซเรย์ ฯลฯ 2. เทคโนโลยที ่ีใชใ้ นการบนั ทึกขอ้ มูล จะเป็นสื่อบนั ทึกขอ้ มูลตา่ ง ๆ เช่น เทปแม่เหล็ก, จานแมเ่ หล็ก,จานแสงหรือจานเลเซอร์, บตั รเอทีเอม็ ฯลฯ 3. เทคโนโลยที ่ีใชใ้ นการประมวลผลขอ้ มลู ไดแ้ ก่ เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ท้งั ฮาร์ดแวร์ และซอฟตแ์ วร์ 4. เทคโนโลยที ่ีใชใ้ นการแสดงผลขอ้ มูล เช่น เคร่ืองพิมพ,์ จอภาพ, พลอตเตอร์ ฯลฯ 5. เทคโนโลยที ่ีใชใ้ นการจดั ทาสาเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องถ่ายไมโครฟิ ลม์ 6. เทคโนโลยสี าหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารขอ้ มลู ไดแ้ ก่ ระบบโทรคมนาคมต่าง ๆ เช่น โทรทศั น์,วทิ ยกุ ระจายเสียง, โทรเลข, เทเลก็ ซ์ และระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ท้งั ระยะใกลแ้ ละไกล ลกั ษณะของข้อมูลหรือสารสนเทศทส่ี ่งผ่านระบบคอมพวิ เตอร์และการส่ือสาร ดังนี้ ขอ้ มลู หรือสารสนเทศท่ีใชก้ นั อยทู่ วั่ ไปในระบบสื่อสาร เช่น ระบบโทรศพั ท์ จะมีลกั ษณะของสญั ญาณเป็ นคลื่นแบบตอ่ เน่ืองท่ีเราเรียกวา่ \"สัญญาณอนาลอก\" แตใ่ นระบบคอมพวิ เตอร์จะแตกต่างไป เพราะระบบคอมพิวเตอร์ใชร้ ะบบสญั ญาณไฟฟ้ าสูงต่าสลบั กนั เป็นสัญญาณท่ีไม่ต่อเนื่อง เรียกวา่ \"สัญญาณดิจิตอล\"ซ่ึงขอ้ มลู เหล่าน้นั จะส่งผา่ นสายโทรศพั ท์ เมื่อเราตอ้ งการส่งขอ้ มูลจากคอมพวิ เตอร์เครื่องหน่ึงไปยงั เครื่องอ่ืนๆ ผา่ นระบบโทรศพั ท์ กต็ อ้ งอาศยั อุปกรณ์ช่วยแปลงสัญญาณเสมอ ซ่ึงมีช่ือเรียกวา่ \"โมเด็ม\" (Modem)ความสาคัญของเทคโนโลยสี ารสนเทศ สามารถอธิบายความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในดา้ นท่ีมีผลกระทบต่อการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมดา้ นต่าง ๆ ของผคู้ นไวห้ ลายประการดงั ต่อไปน้ี (จอห์น ไนซ์บิตต์ อา้ งถึงใน ยนื ภวู่ รวรรณ) ประการท่ีหน่ึง เทคโนโลยสี ารสนเทศ ทาใหส้ ังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสงั คมสารสนเทศ ประการที่สอง เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหร้ ะบบเศรษฐกิจเปล่ียนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก ที่ทาใหร้ ะบบเศรษฐกิจของโลกผกู พนั กบั ทุกประเทศ ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทาใหเ้ กิดสงั คมโลกาภิวฒั น์ ประการท่ีสาม เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหอ้ งคก์ รมีลกั ษณะผกู พนั มีการบงั คบั บญั ชาแบบแนวราบมากข้ึน หน่วยธุรกิจมีขนาดเลก็ ลง และเชื่อมโยงกนั กบั หน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย การดาเนินธุรกิจมีการแขง่ ขนั กนั ในดา้ นความเร็ว โดยอาศยั การใชร้ ะบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ และการส่ือสารโทรคมนาคมเป็นตวัสนบั สนุน เพื่อใหเ้ กิดการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ไดง้ ่ายและรวดเร็ว
ประการที่สี่ เทคโนโลยสี ารสนเทศเป็นเทคโนโลยแี บบสุนทรียสัมผสั และสามารถตอบสนองตามความตอ้ งการการใชเ้ ทคโนโลยใี นรูปแบบใหมท่ ่ีเลือกไดเ้ อง ประการที่หา้ เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหเ้ กิดสภาพทางการทางานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา ประการท่ีหก เทคโนโลยสี ารสนเทศก่อใหเ้ กิดการวางแผนการดาเนินการระยะยาวข้ึน อีกท้งั ยงั ทาให้วถิ ีการตดั สินใจ หรือเลือกทางเลือกไดล้ ะเอียดข้ึน กล่าวโดยสรุปแลว้ เทคโนโลยสี ารสนเทศมีบทบาทท่ีสาคญั ในทุกวงการ มีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงโลกดา้ นความเป็ นอยู่ สงั คม เศรษฐกิจ การศึกษา การแพทย์ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การเมือง ตลอดจนการวิจยัและการพฒั นาตา่ ง ๆปัจจัยทที่ าให้เกดิ ความล้มเหลวในการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ จากงานวจิ ยั ของ Whittaker (1999: 23) พบวา่ ปัจจยั ของความลม้ เหลวหรือความผดิ พลาดที่เกิดจากการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ าร มีสาเหตุหลกั 3 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การขาดการวางแผนที่ดีพอ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การวางแผนจดั การความเสี่ยงไม่ดีพอ ยง่ิ องคก์ ารมีขนาดใหญม่ ากข้ึนเทา่ ใด การจดั การความเส่ียงยอ่ มจะมีความสาคญั มากข้ึนเป็นเงาตามตวั ทาใหค้ ่าใชจ้ ่ายดา้ นน้ีเพ่ิมสูงข้ึน 2. การนาเทคโนโลยที ี่ไมเ่ หมาะสมมาใชง้ าน การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นองคก์ ารจาเป็นตอ้ งพิจารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั ลกั ษณะของธุรกิจหรืองานที่องคก์ ารดาเนินอยู่ หากเลือกใชเ้ ทคโนโลยที ี่ไมส่ อดรับกบั ความตอ้ งการขององคก์ ารแลว้ จะทาใหเ้ กิดปัญหาตา่ ง ๆ ตามมา และเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ 3. การขาดการจดั การหรือสนบั สนุนจากผบู้ ริหารระดบั สูง การท่ีจะนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใช้งานในองคก์ ร หากขาดซ่ึงความสนบั สนุนจากผบู้ ริหารระดบั สูงแลว้ กถ็ ือวา่ ลม้ เหลวต้งั แต่ยงั ไมไ่ ดเ้ ริ่มตน้ การไดร้ ับความมนั่ ใจจากผบู้ ริหารระดบั สูงเป็ นกา้ วยา่ งที่สาคญั และจาเป็นที่จะทาใหก้ ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นองคก์ ารประสบความสาเร็จ สาหรับสาเหตุของความลม้ เหลวอื่น ๆ ที่พบจากการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ เช่น ใชเ้ วลาในการดาเนินการมากเกินไป (Schedule overruns), นาเทคโนโลยที ่ีล้าสมยั หรือยงั ไมผ่ า่ นการพิสูจนม์ าใชง้ าน(New or unproven technology), ประเมินแผนความตอ้ งการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศไม่ถูกตอ้ ง, ผจู้ ดั จาหน่ายเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Vendor) ที่องคก์ ารซ้ือมาใชง้ านไมม่ ีประสิทธิภาพและขาดความรับผดิ ชอบ และระยะเวลาของการพฒั นาหรือนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชจ้ นเสร็จสมบูรณ์ใชเ้ วลานอ้ ยกวา่ หน่ึงปี นอกจากน้ี ปัจจยั อ่ืน ๆ ที่ทาใหก้ ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชไ้ มป่ ระสบความสาเร็จในดา้ นผใู้ ชง้ านน้นั อาจสรุปไดด้ งั น้ี คือ
1. ความกลวั การเปล่ียนแปลง กล่าวคือ ผคู้ นกลวั ที่จะเรียนรู้การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ รวมท้งั กลวัวา่ เทคโนโลยสี ารสนเทศจะเขา้ มาลดบทบาทและความสาคญั ในหนา้ ท่ีการงานท่ีรับผดิ ชอบของตนใหล้ ดนอ้ ยลงจนทาใหต้ ่อตา้ นการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. การไม่ติดตามขา่ วสารความรู้ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งสม่าเสมอ เน่ืองจากเทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก หากไม่มน่ั ติดตามอยา่ งสม่าเสมอแลว้ จะทาใหก้ ลายเป็นคนลา้ หลงั และตกขอบ จนเกิดสภาวะชะงกั งนั ในการเรียนรู้และใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. โครงสร้างพ้ืนฐานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศของประเทศกระจายไม่ทว่ั ถึง ทาใหข้ าดความเสมอภาคในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ หรือเกิดการใชก้ ระจุกตวั เพียงบางพ้นื ที่ ทาใหเ้ ป็นอุปสรรคในการใชง้ านดา้ นต่าง ๆ ตามมา เช่น ระบบโทรศพั ท์ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ฯลฯทม่ี าของข้อมูลวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือชีวติ , http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/C1.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: