Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 54738-Article Text-126752-1-10-20160412

54738-Article Text-126752-1-10-20160412

Published by ส้ะ' มิ้ว'วว, 2020-02-12 23:23:07

Description: 54738-Article Text-126752-1-10-20160412

Search

Read the Text Version

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 173 แนวทางการปอ งกนั อุบตั เิ หตทุ างถนนของจังหวัดยโสธร Prevention Accident on the Road of Yasothon Province บทคัดย่อ รัชสถิต สจุ รติ * ชมพนู ุท โมราชาต*ิ * การวิจัยคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษา 1) สภาพการใช้ยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน สรุ ยี  ธรรมกิ บวร** 5E และแผนปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั และลดอบุ ตั เิ หตทุ างถนน ของจงั หวดั ยโสธร2)ปจั จยั เงอื่ นไขและการมสี ว่ นรว่ มของ ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วน ชุมชนในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน 3) การสร้างและ เบ่ียงเบนมาตรฐาน น�าเสนอแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนโดยการ มีส่วนร่วมของชุมชน แบบของการวิจัยและพัฒนา ผลกำรศึกษำพบว่ำ โดยการผสมผสานวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและวิธีวิจัย 1. สภาพการใช้ยุทธศาสตร์ความปลอดภัย เชิงปริมาณ การใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากร ทางถนน5Eและแผนปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั และลดอบุ ตั เิ หตุ ผู้ให้ข้อมูลส�าคัญคือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการป้องกัน ทางถนนไปใช้ในชุมชน พบว่าบริบทชุมชนของจังหวัด การเกิดอุบัติเหตุทางถนน และผู้ปฎิบัติหน้าที่เกี่ยวกับ ยโสธร ประกอบด้วยโครงสร้างท่ีส�าคัญได้แก่ เคย ยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน รวมจ�านวน 71 คน ประสบอบุ ตั เิ หตทุ างถนนยานพาหนะทท่ี า� ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตุ เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก การมีใบอนุญาตขับข่ี การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน แบบ สังเกต ประเด็นการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูล ในการเรียกตรวจยานพาหนะ แหล่งข้อมูลข่าวสาร โดยการวิเคราะห์เนื้อหาและน�าเสนอแบบพรรณนา เก่ียวกับอุบัติเหตุ ที่ได้รับการฝึกอบรมการป้องกัน วิเคราะห์และวิธีวิจัยเชิงปริมาณประชากร คือคณะ อุบัติเหตุทางถนน การศึกษาดูงานที่เก่ียวกับอุบัติเหตุ กรรมการของชุมชนในเขตเทศบาล จ�านวน 738 คน จุดเส่ยี งจดุ อนั ตรายท่ีพบเห็นและควรแก้ไข ชอ่ งทางการ กลุ่มตัวอย่าง 259 คน โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ แจ้งให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรม ความคิดเห็น เจาะจง เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม ในเร่ืองการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าท่ีต�ารวจ การ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ สถิติท่ี ช่วยเหลือของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ความต้องการ ของชุมชนให้เทศบาลก�าหนดเร่ืองความปลอดภัย ทางถนนเป็นเทศบัญญัติ ช่องทางการส่ือสารและ ประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนได้รับรู้ 2. ปจั จยั เงอ่ื นไขและการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน *สาขาวชิ ายุทธศาสตรการพฒั นาภมู ิภาค มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอบุ ลราชธานี **อาจารยท ป่ี รึกษา

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 174 ในการปอ้ งกนั อุบตั เิ หตุทางถนน พบวา่ ปจั จัยทสี่ ง่ ผลต่อ and qualitative. used by the main qualitative การป้องกันอุบัติเหตุเกิดจากต้องการให้ชุมชนของตน research methodology, Key informant was people มีความปลอดภัย เง่ือนไขการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน is the participant relates in occurrence accident พบว่า ชุมชนมองเห็นประโยชน์การป้องกันอุบัติเหตุ way road prevention, and person practice the ต่อชุมชนและสังคม การมีส่วนร่วมของชุมชนในการ duty about safety way road strategy, total up 71 ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน พบว่า ชุมชนมีส่วนร่วม persons amounts, a tool that use in the research ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1) การร่วมศึกษาปัญหาและสาเหตุ for example to interview deep manner observe, ของอุบัติเหตุ 2) การร่วมวางแผนด�ำเนินการและระดม conversations group issue, analyse the data by ความคิด 3) การร่วมลงมือปฏิบัติ 4) การร่วมติดตาม the content analysis and present to describe ประเมินผล และรับผลประโยชน์ analyse and the way research quantitative 3. การสร้างและน�ำเสนอแนวทางการป้องกัน people manner be committee of the community อุบัติเหตุทางถนนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ท่ีพึง in the municipal limits 738 persons amounts 259 ประสงค์ส�ำหรับประชาชน พบว่า มี 5 แนวทาง ได้แก่ persons samples by use the way take a random 1) แนวทางการให้ความรู้เรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ to specify a tool that use in the research is 2)แนวทางการประชาสมั พนั ธเ์ ชงิ รกุ และทำ� อยา่ งตอ่ เนอื่ ง the questionnaire analyse the data by use the 3) แนวทางการสร้างความตระหนักรู้ในเร่ืองความ computer program the statistics that use in data ปลอดภัยทางถนน 4) แนวทางการสร้างความสัมพันธ์ analysis for example percentage average ของภาคีเครือข่าย 5) แนวทางการบังคับใช้กฎหมาย The finding of this research were as อย่างเคร่งครัด follows: 1. 5E using strategy safety way road ค�ำส�ำคัญ: แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน states and the plan take action to protect and โดยการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน ยทุ ธศาสตรค์ วามปลอดภยั decrease way road accident go to use in the ทางถนน 5E การมีส่วนร่วมของชุมชน community meet that confiscate the community of the Yasothon compose important structure for Abstract example ever have an accident road way that make vehicle has an accident having licence The purposes of this research were to duty practice of an officer in the calling checks study: 1) for studies 5E using strategy safety way the vehicle data information source about an road states and the plan take action to protect accident that receives prevention accident and decrease way road accident of Yasothons training the education observes activities that 2) for study condition factor and participating about with an accident the dot risks the limit in of the community in accident way road of danger that sees and should correct giving preventions 3) for build and present prevention information way gives the community comes accident way road trend by participating in of in to participate in the activity the opinion in the community of the research and development about law enforcement gives the policeman the by used mixed methodologies of quantitative

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 175 assistance of medical profession emergency Safety Way of Road in Strategies, Participation system the requirement of the community gives of the Community the municipality fixes about way road safety is the municipal law communication way and the บทน�ำ public relations give the community receive to know การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจน 2. the factor condition and participating การบาดเจ็บ รวมไปถึงภาวะทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ in of the community in accident way road ทางถนนของคนไทย จากการศึกษาเรื่องอุบัติเหตุ prevention meet that the factor that affect to ทางถนนในปจั จบุ นั พบวา่ มสี าเหตแุ ละองคป์ ระกอบอน่ื ๆ build accident prevention is born from want to ท่ที ำ� ให้เกดิ อบุ ตั ิเหตุทางถนน โดยพิจารณาแล้วอบุ ัตเิ หตุ give the community of the self has the safety ที่เกิดข้ึนมีสาเหตุมาจากหลายด้านเช่น ด้านวิศวกรรม prevention accident way road condition meet ทางถนนเกยี่ วกบั เรอ่ื งการสรา้ งถนนเพอื่ รองรบั การใชร้ ถ that the community sees prevention accident ใช้ถนน บริบทของส่ิงแวดล้อมท่ีท�ำให้เกิดอุบัติเหตุ advantage builds the community and the social สภาพยานพาหนะ การบังคับใช้กฎหมาย ประการท่ี participating in of the community in accident ส�ำคัญคือ ผู้ขับข่ียานพาหนะท่ีขาดความระมัดระวัง way road prevention meet that the community และพฤติกรรมของผู้สัญจรบนท้องถนนด้วย ในปี 2552 participates in 4 both of a side for example องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) 1) sharing studies a problem and the cause ซงึ่ เหน็ สว่ นหนง่ึ ขององคก์ ารสหประชาชาติ (The United of 2) sharing accidents plan to manage and Nations ) ได้เสนอเอกสารผลการวจิ ยั ส�ำคญั ชอ่ื Global brainstorm 3) sharing start to minister 4) sharing Status Report On Road Safety Time For Action follow to evaluate and take the gain สะท้อนให้เห็นว่ามีประชาชนชาวโลก เสียชีวิตจาก 3. building and present prevention อบุ ตั เิ หตบุ นทอ้ งถนน ในแตล่ ะปรี วมแลว้ กวา่ 1.2 ลา้ นคน accident way road trend by participating in of the หรอื วนั ละกวา่ 3,333 คน หรอื ชว่ั โมงละประมาณ 139 คน community desirable for people meet that there หรือ คิดเป็นนาทีละกว่า 2.3 คน และปีเดียวกันองค์การ is 5 the trend for example 1) alms knowledge สหประชาชาติ ซง่ึ มกี ารจดั ประชมุ ณ กรงุ มอสโก ประเทศ trend about prevention accident 2) accident รสั เซยี โดยทป่ี ระชมุ ลว้ นใหค้ วามสำ� คญั กบั เรอ่ื งอบุ ตั ภิ ยั line preventions rubs something public manner บนทางถนน จนกระทง่ั เกดิ ปฏญิ ญามอสโก โดยในเรอื่ งนี้ relations invades and do continuously 3) building ประเทศสมาชกิ ตา่ งเหน็ พอ้ งรว่ มกำ� หนดให้ปีค.ศ.2010– awareness trend knows in about prevention 2020 เปน็ ทศวรรษแหง่ ความปลอดภยั ทางถนน จากสถติ ิ accident 4) way road trend building up friendship ของสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั้งประเทศในปี safeties of network 5) trend enforcement law พ.ศ. 2552-2554 พบว่าสาเหตุหลัก 5 อันดับแรกของ participants strictly การเกิดอุบัติเหตุทางถนนคือ ขับรถเร็วเกินอัตราที่ ก�ำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด ตามกระช้ันชิด แซงรถ Keywords: Prevention Accident on the Road ผิดกฎหมาย และ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ซ่ึงสถิติ Model by Participating in of the Community, 5E ดังกล่าวในปัจจุบันยังเป็นไปในทิศทางเดิม แสดง ให้เห็นถึงการด�ำเนินชีวิตของคนไทยยังเป็นไปใน

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร 176 รูปแบบเดิม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินท่ีมี โดยใช้กรอบการปฏิบัติของยุทธศาสตร์ 5E เพื่อป้องกัน ผลมาจากอุบัติเหตุทางถนนของประชาชนยังมีน้อย และแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน จากผลการด�ำเนิน เหมือนเดิม (ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง ส�ำนักงาน การดังกล่าวท�ำให้แนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ต�ำรวจแห่งชาติ, 2554) ประเทศไทยในฐานะประเทศ ของประเทศไทยลดลง แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นยังอยู่ สมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เห็นความส�ำคัญ ในเกณฑ์ท่ีสูง ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตปีละ 12,000 คน ในเรอ่ื งแนวทางการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาอบุ ตั ภิ ยั ทาง หรือเฉลี่ยวันละ 33 คน คิดเป็นอัตราผู้เสียชีวิตต่อ ถนนน้ีโดยมอบหมายให้ศนู ย์อ�ำนวยการความปลอดภัย ประชากรแสนคน สงู ถงึ 19 คน และ 1 ใน 3 ของผเู้ สยี ชวี ติ ทางถนน (ศวปถ.) กำ� หนดใหป้ ญั หาอบุ ตั เิ หตบุ นทอ้ งถนน เป็นแกนหลักของครอบครัว ร้อยละ 30 ของผู้บาดเจ็บ เปน็ เรอื่ งเรง่ ดว่ นทจ่ี ะตอ้ งแกไ้ ข พรอ้ มทง้ั ก�ำหนดแนวทาง มีอายุน้อยกว่า 20 ปี และในแต่ละปีจะมีผู้พิการรายใหม่ ในการด�ำเนินการตามกรอบปฏิญญามอสโก โดยตั้ง เพิ่มกว่า 5,000 ราย ข้อมูลความสูญเสียจากอุบัติเหตุ เป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ทางถนนในแต่ละปี มีมูลค่าสูงถึง 232,855 ล้านบาท ของคนไทยลง ร้อยละ 50 หรือในอัตราที่ต่�ำกว่า 10 คน หรือคิดเป็น 2.8 เปอร์เซ็นต์ของค่า GDP ของประเทศ ตอ่ ประชากรแสนคน และก�ำหนดแนวทางการดำ� เนนิ งาน (รายงานประชาชน ประจ�ำปี, 2552: 2) แต่สิ่งที่สะท้อน เพอื่ ใชเ้ ปน็ กรอบในการปฏบิ ตั งิ านในปี พ.ศ. 2554 – 2563 ให้เหน็ คล้ายกนั คือ ความสญู เสยี ทางชีวิตและทรพั ย์สิน ต่อไป โดยคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ก�ำหนดให้ ยังคงมีอยู่ต่อไป ปี 2554-2563 เปน็ ทศวรรษแหง่ ความปลอดภยั ทางถนน จงั หวดั ยโสธรไดก้ ำ� หนดแนวทางการดำ� เนนิ การ (Decade of Action for Road Safety) ตามที่ เพอ่ื ควบคมุ ใหป้ ระชาชนในพนื้ ทม่ี คี วามปลอดภยั ในชวี ติ ศูนย์อ�ำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ และทรพั ยส์ นิ โดยการบงั คบั ใชก้ ฎหมายเปน็ หลกั ซงึ่ สถติ ิ จากเวทีสัมมนาระดับชาติเรื่องความปลอดภัย การดำ� เนนิ คดกี บั ผกู้ ระทำ� ผดิ ตามกฎหมายจราจรเกดิ ขนึ้ ทางถนนคร้ังท่ี 10 ”ทศวรรษแห่งการลงมือท�ำ„ ณ ศูนย์ ในรอบปี พ.ศ. 2552 - 2554 และผลการปฏิบัติเพื่อ นทิ รรศการและการประชมุ ไบเทคบางนา กรงุ เทพมหานคร ยกระดับความปลอดภัยทางถนนของจังหวัดยโสธร ทป่ี ระชมุ มขี อ้ เสนอใหภ้ าครฐั ตอ้ งเรง่ ผลกั ดนั ให้ นโยบาย ซ่ึงสรุปผลการด�ำเนินการกับผู้กระท�ำความผิดกฎหมาย ของรัฐบาล นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต นโยบาย จราจร เปน็ คดี สงู สดุ 4 อนั ดบั คอื การไมส่ วมหมวกนริ ภยั ความมั่นคงของชีวิตและสังคมในเรื่องลดอุบัติภัยและ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เมาสุราแล้วขับ และขับรถเร็ว ความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด เกินกว่ากฎหมายก�ำหนด สถิติดังกล่าว สอดคล้องกับ โดย ส่งเสริมการเรียนรู้การเดินทางและการใช้การขนส่ง สถติ ขิ องการดำ� เนนิ คดใี นระดบั ประเทศจากการบงั คบั ใช้ อย่างปลอดภัย ให้สามารถแก้ปัญหาได้และน�ำไปสู่ กฎหมายที่เข้มงวดกับผู้กระท�ำความผิดกฎหมายจราจร การปฏบิ ตั อิ ยา่ งจรงิ จงั และกำ� หนดใหเ้ รอ่ื งความปลอดภยั ทำ� ใหผ้ ลการเกดิ อบุ ตั เิ หตทุ างถนนของจงั หวดั ยโสธรลดลง ทางถนนถือเป็น ”วาระแห่งชาติ„ ท่ีต้องด�ำเนินการอย่าง สถิติและจ�ำนวนของผู้ถูกด�ำเนินคดีความผิดกฎหมาย เข้มข้นในทุกพื้นที่ของประเทศให้สามารถด�ำเนินการได้ จราจรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อ ผู้ได้รับบาดเจ็บ และ จ�ำนวน อย่างเป็นรูปธรรม จากการก�ำหนดเร่ืองความปลอดภัย การเสียชีวิตลดลง ในปี พ.ศ. 2552 – 2554 ด้วย และ ทางถนนเป็นวาระแห่งชาติและนโยบายเร่งด่วนดังกล่าว อกี สภาพการณท์ ีเ่ กิดข้ึนและเปน็ ปญั หาหลักของคนไทย ท�ำให้หน่วยราชการท่ีเกี่ยวข้องกับเร่ืองความปลอดภัย ทงั้ ประเทศ คอื ชว่ งเทศกาลปใี หม่ และเทศกาลสงกรานต์ ทางถนนได้ก�ำหนดมาตรการ ในระดับนโยบายและ ซึ่งเป็นช่วงเวลาท่ีมีประชาชนจ�ำนวนมากใช้รถใช้ถนน ก�ำหนดยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยบนถนนข้ึนมา ในการเดินทางเพ่ือกลับภูมิล�ำเนา และพาครอบครัว

วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 177 ไปสังสรรค์ ท่องเท่ียวท�ำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด เข้าร่วมในการด�ำเนินงาน ตั้งแต่กระบวนการเบื้องต้น อุบัติเหตุทางถนน และสูงกว่าช่วงปกติ ผลการเกิด จนถึงกระบวนสิ้นสุด โดยอาจร่วมในขั้นตอนใด อุบัติเหตุทางถนน ระหว่างปี พ.ศ. 2552 - 2554 ในช่วง ขนั้ ตอนหนงึ่ หรอื ครบวงจรกไ็ ด้ การมสี ว่ นรว่ มมกั จะเนน้ ปกติจะมีอุบัติเหตุเกิดข้ึนเฉล่ียวันละ 232 คร้ัง มีผู้ ความช่วยเหลือมากกว่าความถูกต้อง จึงเป็นการท�ำงาน เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 30 คน แต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ของประชาชนที่สนใจและสนับสนุนความถูกต้องและ และสงกรานต์จะเกิดอุบัติเหตุเฉล่ียวันละ 516 ครั้ง วิธีการแก้ปัญหาท้องถ่ิน เพื่อด�ำเนินการพัฒนาและ มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 50 คน (ศูนย์อ�ำนวยการ เปล่ียนแปลงไปในทิศทางท่ีต้องการ ดังน้ันการแก้ไข ความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทา ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนจึงต้องเร่ิมจากคนในชุมชน สาธารณภัย, 2554) ซ่ึงในหลายพื้นท่ีท่ีมีการด�ำเนินงานป้องกันและแก้ไข จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัย ซึ่งผู้วิจัย ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนได้รับความส�ำเร็จ เกิดบทเรียน ได้พบข้อเสนอของนักวิชาการ และฝ่ายต่างๆ ท่ีมี ทเี่ ปน็ ประโยชนส์ ามารถปรบั ใชไ้ ด้ ในสว่ นบรบิ ทของพน้ื ที่ ส่วนเก่ียวข้องกับเรื่องการสนับสนุนการขับเคล่ือนให้ จังหวัดยโสธร ผู้วิจัยมุ่งหวังให้เห็นกระบวนการท�ำงาน เกิดการมีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไข และบรรเทา ของคนในชมุ ชน มบี ทบาทเขา้ มาเกยี่ วขอ้ งและมสี ว่ นรว่ ม ปัญหา ในลักษณะกลุ่ม ชมรม ระบบภาคีเครือข่าย และ ในฐานะของผู้ใช้รถใช้ถนน และผู้ร่วมป้องกันอุบัติเหตุ ความช่วยเหลือกันในหลายรูปแบบเป็นส่ิงท่ีต้องสร้าง ทางถนนในชมุ ชน เพอื่ ใหก้ ารดำ� เนนิ การสามารถขบั เคลอื่ น ให้เกิดขึ้นในชุมชน การด�ำเนินการอย่างมีส่วนร่วมของ งานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนได้ ชุมชนเพื่อความปลอดภัยทางถนนได้กล่าวถึงสิ่งท่ี ผู้วิจัยปฏิบัติหน้าท่ีด้านการบังคับใช้กฎหมาย น�ำไปสู่ความส�ำเร็จน้ันมีองค์ประกอบหลายอย่างเช่น ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ยุทธศาสตร์การป้องกันอุบัติเหตุทางถนน บทบาทของผู้ประสานงานต้องชัดเจนมีความเข้าใจและ มีหน้าท่ี ดูแล ควบคุมการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และ ตั้งใจท่ีจะสร้างความร่วมมือของชุมชนโดยมีกิจกรรม รักษาความปลอดภัยในร่างกายชีวิตและทรัพย์สินของ เป็นตัวน�ำเพื่อสร้างโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วม ประชาชนในจังหวัดยโสธร จึงมีความสนใจที่จะศึกษา การสนับสนุนการเสริมอ�ำนาจให้ชุมชนสามารถเข้าไป สถานการณ์การใช้ยุทธศาสตร์การป้องกันอุบัติเหตุ มีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน และ ทางถนน 5E และแผนปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั และลดอบุ ตั เิ หตุ เสนอใหบ้ รู ณาการความรว่ มมอื กบั ภาคตี า่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ทางถนนที่ใช้อยู่ และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการ จะท�ำให้เกิดผลสัมฤทธ์ิ การสนับสนุนการเช้ือเชิญผู้น�ำ ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตทุ างถนนนน้ั มปี จั จยั และเงอ่ื นไขของการ ชุมชน เข้ามาด�ำเนินกิจกรรมร่วมกับภาครัฐในลักษณะ ด�ำเนินการอย่างไร เพ่ือน�ำเสนอเป็นแนวทางการป้องกัน ต่างๆ จะเป็นการสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา อุบัติเหตุทางถนนได้ ว่าส่ิงท่ีควรตระหนัก คือ นโยบายต่าง ๆ ควรได้รับการ ยอมรับจากคนในชุมชน และน�ำไปปรับแต่งให้สอดรับ วัตถุประสงค์ของการวิจัย กับความต้องการชุมชนด้วย บทบาทของชุมชนในการเข้ามามีส่วนร่วมใน 1. เพื่อศึกษาสภาพการใช้ยุทธศาสตร์ความ การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจะต้องเกิดจากการด�ำเนิน ปลอดภยั ทางถนน 5E และการนำ� แผนปฏบิ ตั กิ ารปอ้ งกนั งานของชุมชนและท้องถิ่น เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้น และลดอุบัติเหตุทางถนนไปใช้ในชุมชนของจังหวัด ในชุมชน โดยคนในชุมชนรับรู้ปัญหาท่ีเกิดข้ึน การมี ยโสธร ส่วนร่วมของประชาชนคือการที่ประชาชนได้มีโอกาส 2. เพอ่ื ศกึ ษาปจั จยั เงอื่ นไขและการมสี ว่ นรว่ ม ของชุมชนในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน

วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร 178 3. เพ่ือสร้างและน�ำเสนอแนวทางการป้องกัน ยุทธศาสตร์ 5E และแผนปฏิบัติการในพื้นท่ีวิจัย และ อุบัติเหตุทางถนนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน สมั ภาษณเ์ จา้ หนา้ ทใี่ นพน้ื ทขี่ ณะปฏบิ ตั งิ านจรงิ เจา้ หนา้ ท่ี ผู้ปฏิบัติงานในชุดประจ�ำต้ังจุด ตรวจจุดสกัด ในช่วง วิธีด�ำเนินการวิจัย เทศกาลวันปีใหม่ พ.ศ.2556 โดยการเลือกแบบเจาะจง ในจุดตรวจที่เป็นเส้นทางหลัก ประกอบด้วย ต�ำรวจ 1. แบบของการวิจัยเป็นแบบวิจัยและพัฒนา หน่วยกู้ชีพกู้ภัย พยาบาล และหน่วยภาคีอ่ืนท่ีเข้ามา ใชร้ ะเบยี บวธิ วี จิ ยั เชงิ คณุ ภาพ ผสมกบั วธิ วี จิ ยั เชงิ ปรมิ าณ รว่ มกจิ กรรมและผใู้ ชร้ ถใชถ้ นนโดยมขี น้ั ตอนดำ� เนนิ การ 2. ประชากร ท่ีใช้วิจัยเชิงคุณภาพได้แก่ ดงั น้ี 1) แนะน�ำตวั เพอ่ื ขอสัมภาษณแ์ ละเกบ็ ขอ้ มลู ในการ ประชาชนผมู้ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา วิจัย 2) ชี้แจงให้ผู้รับการสัมภาษณ์ทราบวัตถุประสงค์ อุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดยโสธร จ�ำนวน 71 คน 3) ด�ำเนินการสัมภาษณ์ 4) น�ำแบบสัมภาษณ์ที่ได้มา ผู้ให้ข้อมูลส�ำคัญ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มได้แก่ 1) กลุ่ม ท้ังหมดมาตรวจสอบความสมบูรณ์แล้วรวบรวม ผเู้ ขา้ รว่ มการสนทนากลมุ่ เปน็ ตวั แทนของคณะกรรมการ แบบสัมภาษณ์ทั้งหมดไปวิเคราะห์โดยมีขั้นตอนดังน้ี ชมุ ชนทมี่ สี ถติ กิ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตสุ งู ทสี่ ดุ คอื เทศบาลเมอื ง (1) ตรวจสอบความสมบูรณ์ของการตอบแบบสัมภาษณ์ ยโสธร ซ่ึงมีชุมชนในเขตเทศบาลจ�ำนวน 23 ชุมชน เพ่ือให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ถูกต้องตามที่ก�ำหนด (2) แยก โดยคดั เลอื กตวั แทนมาชมุ ชนละ2คนรวมจำ� นวน46คน ค�ำตอบแบบสัมภาษณ์เพ่ือรวบรวมแสดงความถ่ีของ 2) กลุ่มผู้ให้การสัมภาษณ์ระดับลึก จ�ำนวน 25 คน ข้อความท่ีแสดงความคิดเห็นที่ซ�้ำหรือเป็นประเด็น สำ� หรบั ประชากรทใ่ี ช้ วจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ ไดแ้ กป่ ระชาชนผมู้ ี เดียวกันไว้เป็นชุดเดียวกัน ส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางถนนท่ีเป็นคณะกรรมการ 4.1.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลแบบ ชุมชนท่ีได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการชุมชนใน สังเกต ผู้วิจัยได้เก็บรวมรวมข้อมูลโดยการเก็บรวบรวม ระหว่างปี พ.ศ. 2555–2556 ท่ีอาศัยอยู่บริเวณท่ีเป็น ข้อมูลพฤติกรรมของคน และส่ิงแวดล้อมท่ีเป็น ทต่ี ง้ั ของสำ� นกั งานเทศบาลจำ� นวน 738 คน กลมุ่ ตวั อยา่ ง องค์ประกอบของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และ จ�ำนวน 259 คนใช้ วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง กิจกรรมในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน 3. เคร่ืองมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรมข้อมูลใน ในเร่ืองป้องกันอุบัติเหตุโดยมีประเด็นการสังเกต 4 ครั้งน้ี จ�ำแนกตามระเบียบวิธีวิจัยดังน้ี เครื่องมือ ประเด็น ได้แก่ 1) อุบัติเหตุทางถนนมีสาเหตุมาจาก เชิงคุณภาพ ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก 2) แบบ คนท�ำให้เกิดขึ้นเป็นอย่างไร 2) อุบัติเหตุทางถนนที่ สังเกต 3) ประเด็นการสนทนากลุ่ม 4) ประเด็นการ เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างไร 3) มีการ ระดมสมอง เครื่องมือเชิงปริมาณ คือ ใช้แบบสอบถาม จัดกิจกรรมของชุมชนในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุ 4. การเก็บรวบรวมข้อมูลในคร้ังนี้ผู้วิจัยได้ อย่างไร 4) มีการเสริมสร้างให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการ จ�ำแนกตามระเบียบวิจัยตามข้ันตอน ดังน้ี ป้องกันอุบัติเหตุมากขึ้นได้อย่างไร 4.1 เชิงคุณภาพ 4.1.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากแบบ 4.1.1 การเก็บรวบรวมข้อมูล แบบ สนทนากลุ่ม และแบบระดมสมอง ผู้วิจัยได้จัดประชุม สัมภาษณ์เชิงลึก ผู้วิจัยได้เก็บรวมรวมข้อมูลจาก ผู้มี สนทนากลุ่ม ครั้งที่ 1 ผู้สนทนากลุ่ม เป็นกลุ่มตัวอย่าง ส่วนเกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ท้ังใน ของคณะกรรมการชุมชนในเขตเทศบาลเมืองยโสธร ระดับเป็นผู้ก�ำหนดนโยบาย ระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ จ�ำนวน 46 คน โดยท�ำหนังสือเชิญระบุตัวบุคคลและ การ นักวชิ าการ ผู้ไดร้ ับผลกระทบจากอุบัตเิ หตุทางถนน ไปเชิญด้วยตนเอง โดยมีวิธีการรวบรวมข้อมูล ดังน้ี และมุมมองจากบุคคลภายนอกท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องการใช้

วารสารวิชาการ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร 179 4.1.3.1 น�ำเสนอผลการศึกษา ราชภฏั อบุ ลราชธานีถงึ สำ� นกั งานเทศบาลทงั้ 9อำ� เภอเพอ่ื การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากขั้นตอนท่ี 1 เป็นผล ขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 2) ผู้วิจัย การศึกษาสภาพการใช้ยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทาง ชแ้ี จงใหผ้ ชู้ ว่ ยผวู้ จิ ยั ทงั้ 9 อำ� เภอ โดยการขอความรว่ มมอื ถนนและแผนปฏิบัติการป้องกันอุบัติเหตุ จากเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจที่ปฏิบัติงานด้านต�ำรวจชุมชน 4.1.3.2 สนทนากลุ่มโดยแบ่ง สัมพันธ์ อ�ำเภอละ 2 คน เพ่ือให้ทราบความต้องการ ผู้เข้าร่วมสนทนา ออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่ม ขนั้ ตอนและวธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู และการตอบแบบสอบถาม ด้านการบังคับใช้กฎหมาย 2) กลุ่มด้านวิศวกรรม เพ่ือให้ผู้ตอบแบบสอบถามเข้าใจและให้รายละเอียด ทางถนน 3) กลุ่มด้านระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 4) กลุ่ม สูงสุดจากการตอบแบบสอบถาม โดยใช้วิธีการเก็บ ด้านการศึกษาและประชาสัมพันธ์ 5) กลุ่มด้านการ รวบรวมแบบสอบถามท่ีได้กลับคืนมาด้วยตนเอง ติดตามประเมินผล ผลจากการสนทนากลุ่มน�ำเป็น 3) ด�ำเนินการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างในพื้นที่ ข้อมูลของความคิดเห็นโดยรวบรวมข้อมูลเป็นความถ่ี วิจัยและขอรับคืนทันที 4) น�ำแบบสอบถามที่ได้มา เพอื่ นำ� ไปสู่ การกำ� หนดความตอ้ งการของชมุ ชนเรอื่ งการ ทั้งหมดมาตรวจสอบความสมบูรณ์แล้วรวบรวม ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน แบบสอบถามท้ังหมดไปวิเคราะห์และประมวลผลด้วย 4.1.3.3 จดั ประชมุ กลมุ่ ตวั อยา่ ง เคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยตรวจสอบความสมบูรณ์ของ ครั้งที่ 2 โดยระบุกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ได้รับผลกระทบ การตอบแบบสอบถาม เพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ครบถว้ น ถกู ตอ้ ง จากการใชร้ ถใชถ้ นน ผทู้ มี่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ งตามยทุ ธศาสตร์ ตามท่ีก�ำหนด แล้วบันทึกลงในโปรแกรมการค�ำนวณ ความปลอดภัยทางถนน ประกอบด้วยต�ำรวจท่ีปฏิบัติ และแยกค�ำตอบแบบสอบถามปลายเปิดไว้ต่างหาก หน้าที่ในชุมชน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ เพื่อรวบรวมแสดงความถ่ีของข้อความที่แสดงความ เจ้าหน้าท่ีสถานีวิทยุชุมชน เจ้าหน้าท่ีจากส�ำนักงาน คิดเห็นท่ีซ้�ำหรือเป็นประเด็นเดียวกัน แล้วบันทึกข้อมูล เทศบาล และอาจารย์ในสถานศึกษาท่ีตั้งอยู่ในเขต ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ ชมุ ชน เปน็ การระดมสมอง เพอื่ ใหไ้ ดแ้ นวทางการปอ้ งกนั 5. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในครง้ั นผ้ี วู้ จิ ยั ไดจ้ �ำแนก อุบัติเหตุทางถนนโดยด�ำเนินการ ดังนี้ (1) น�ำเสนอ ตามระเบียบวิธีวิจัยตามข้ันตอนดังต่อไปนี้ ผลการศึกษาสภาพการใช้ยุทธศาสตร์ความปลอดภัย 5.1 ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพผวู้ จิ ยั ใชว้ ธิ วี เิ คราะห์ ทางถนน ปัจจัย เง่ือนไข และการมีส่วนร่วมของชุมชน เน้ือหาโดยการรวบรวมจากเอกสารงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง ให้ท่ีประชุมรับทราบ (2) น�ำเสนอผลความต้องการของ การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม โดยน�ำเสนอ ชุมชน จากผลการสนทนากลุ่ม คร้ังที่ 1 น�ำเสนอให้ แบบพรรณนาวิเคราะห์ ดังนี้ ท่ีประชุมทราบ (3) ยกร่างแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ 5.1.1 การวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จาก ทางถนนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน การสัมภาษณ์ ผู้วิจัยด�ำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลควบคู่ 4.2 เชิงปริมาณ ไปกับการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากแบบสอบถาม รายบุคคล และหลังจากการเก็บรวบรวมข้อมูลได้ โดยผู้วิจัยได้ด�ำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง ครบถ้วนแล้ว ผู้วิจัยได้วิเคราะห์โดยเลือกใช้วิธี และมีขา้ ราชการต�ำรวจทีป่ ฏบิ ตั ิหน้าท่ีประจำ� อยูใ่ นแต่ละ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเน้ือหา (Content Analysis) สถานีต�ำรวจภูธรอ�ำเภอ ในเขตของแต่ละอ�ำเภอ เป็น ซึ่งเป็นการตีความสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย บรรยาย ผู้ช่วยผู้วิจัยโดยมีขั้นตอนด�ำเนินการดังน้ี 1) น�ำหนังสือ เป็นเน้ือหาตามท่ีปรากฏในข้อความและการพิจารณา แนะน�ำตัวผู้วิจัยจากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย เนอ้ื หาของขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั โดยมขี น้ั ตอนการวเิ คราะหด์ งั น้ี

วารสารวิชาการ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 180 1) รวบรวมผลข้อมูลที่ได้จาก เชิงเน้ือหา (content Analysis) เป็นการตีความสร้าง การสัมภาษณ์โดยแยกข้อมูลออกเป็น 2 กลุ่ม ตามกลุ่ม ข้อสรุปแบบอุปนัย บรรยายเป็นเนื้อหาตามที่ปรากฏ ตัวอย่างท่ีก�ำหนดไว้ โดยมีประเด็นการสัมภาษณ์ คือ ในข้อความจากการสนทนา และการแสดงความคิดเห็น (1) อุบัติเหตุทางถนนท่ีเกิดขึ้นมีผลกระทบกับใครและ พิจารณาจากเน้ือหาของข้อมูลท่ีได้รับ ผลเป็นอย่างไร (2) แนวทางในการแก้ไขปัญหาการเกิด 5.1.3 ส่วนข้อมูลที่ได้จากการตอบ อุบัติเหตุทางถนนเป็นอย่างไร 3) การมีส่วนร่วมของ ค�ำถามปลายเปิด และจากแบบสังเกตผู้วิจัยได้น�ำมา ชุมชนในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนมีหรือไม่ ถ้ามี วิเคราะห์เน้ือหาสรุปน�ำเสนอเป็นความถี่เพ่ือสนับสนุน ส่วนร่วมน้อย ชุมชนมีการเสริมสร้างการมีส่วนร่วม ข้อมูลการสัมภาษณ์เชิงลึก ให้มากขึ้นอย่างไร 5.2 ข้อมูลเชิงปริมาณ มีข้ันตอนการ 2) นำ� ขอ้ มลู ทไี่ ดม้ าจดั หมวดหมู่ วิเคราะห์ดังนี้ ในลักษณะเชิงบรรยายและท�ำความเข้าใจตามเนื้อหา ข้อมูลท่ีได้จากแบบสอบถามเป็นการ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องตามขอบเขตที่ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยผู้วิจัยได้ตรวจสอบ 3) คัดเลือกค�ำ ประโยค หรือ ความถูกต้องของการตอบแบบสอบถาม ความสมบูรณ์ เน้ือหาท่ีเกี่ยวข้องกับประเด็นในการศึกษาในแต่ละด้าน และชัดเจน หลังจากนั้นก็ด�ำเนินการบันทึกข้อมูล ออกมาให้ได้มากท่ีสุด ลงไฟล์ข้อมูล เพ่ือเตรียมส�ำหรับวิเคราะห์และประมวล 4) ผู้วิจัยด�ำเนินการซ้�ำตาม ผลด้วยคอมพิวเตอร์ส�ำเร็จรูป ส�ำหรับแบบสอบถาม ขอ้ 2-3สำ� หรบั ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ นครบตามจำ� นวนทส่ี มั ภาษณ์ ที่เป็นข้อแสดงความคิดเห็นตามเทคนิค ลิเคิร์ตสเกล แล้วน�ำมาจัดกลุ่มประเด็นต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับ จะให้คะแนนเรียงล�ำดับ และให้ถือว่าคะแนนเป็น วัตถุประสงค์ท่ีต้องการศึกษา และเมื่อไม่มีประเด็นใหม่ มาตรวัดระดับช่วง (Interval Level) เพื่อให้สามารถ เกิดข้ึนผู้วิจัยจึงหยุดสัมภาษณ์ แล้วน�ำข้อมูลจากการ น�ำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูงได้ สัมภาษณ์ทุกรายมาวิเคราะห์รวมกัน 6. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้วิจัยใช้ 5) ผวู้ จิ ยั ลดทอนขอ้ มลู โดยการ การหาค่าสถิติพ้ืนฐาน ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน พิจารณาจัดหมวดหมู่ให้ตรงกับประเด็นเหล่านั้นว่า มาตรฐาน เพ่ือน�ำไปแปลผล ข้อความใดควรเป็นประเด็นหลัก เพื่อหาข้อสรุปตาม ความเป็นจริงที่ปรากฏและครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ สรุปผลการวิจัย การวิจัย 5.1.2 การวิเคราะห์การสนทนากลุ่ม 1. ผลการศึกษาสภาพการใช้ยุทธศาสตร์ และการระดมสมอง ขอ้ มูลทเ่ี ก็บรวบรวม ผู้วจิ ยั ได้นำ� มา ความปลอดภัยทางถนน 5E และการน�ำแผนปฏิบัติการ วิเคราะห์ในกรอบหลัก 2 ข้อคือ 1) ความถูกต้อง และ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พบว่า จังหวัดยโสธร เท่ียงตรงของรายงานผลการศึกษาในระยะที่ 1 เกี่ยวกับ มี 9 อ�ำเภอ มีชุมชนที่เป็นท่ีตั้งของส�ำนักงานเทศบาล สภาพการใช้ยุทธศาสตร์การป้องกันอุบัติเหตุทางถนน จ�ำนวน 82 ชุมชน มีแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ และแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ทางถนนโดยมีการใช้ยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทาง 2) ความต้องการของชุมชนและผู้เก่ียวข้องในการหา ถนนครบทุกด้าน ผ่านหน่วยงานรับผิดชอบที่เก่ียวข้อง แนวทางป้องกันอุบัติเหตุทางถนนโดยการมีส่วนร่วม โดยเน้นนโยบายเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นหลัก ของชุมชน ในระยะที่ 2 ส�ำหรับเทคนิควิธีการวิเคราะห์ ปรากฏจากสถติ กิ ารกระทำ� ความผดิ ตามกฎหมายจราจร จากสถิติมากไปน้อยคือ ข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่มี

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 181 ใบอนุญาตขับข่ี เมาสุราแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่า เลือกปฏิบัติ มีค่าเฉลี่ยสูงท่ีสุด ค่าเฉล่ียที่ 4.25 แปลผล กฎหมายก�ำหนด พบว่าการเสียชีวิตลดลงในแต่ละปี อยู่ในระดับมากท่ีสุด การช่วยเหลือของระบบการแพทย์ ซ่ึงเป็นผลจากการปฏิบัติหน้าท่ีของหน่วยงานภาครัฐ ฉุกเฉิน โดยในชุมชนมีหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในชุมชนของ ท่ีด�ำเนินการตามยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน ตัวเอง สูงที่สุด ร้อยละ 66.40 ความต้องการของชุมชน ร่วมกัน มีการจัดต้ังศูนย์ควบคุมสั่งการเชื่อมโยง ในเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนเพ่ือเสนอให้ เครือข่ายและบูรณาการข้อมูล เป็นจุดบริการ และจุด เทศบาลก�ำหนดเป็นเทศบัญญัติคือ เร่ืองแสงสว่าง ตรวจจุดสกัดในบริเวณที่มีความเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิด บนถนนในชุมชนสูงท่ีสุด ร้อยละ 67.70 การสื่อสาร อบุ ตั เิ หตุ แตค่ วามรว่ มมอื ของประชาชนมนี อ้ ย ไมป่ ฏบิ ตั ิ และประชาสมั พนั ธข์ องชมุ ชนตอ้ งการมสี ถานวี ทิ ยชุ มุ ชน ไปตามคำ� แนะนำ� ของเจา้ หนา้ ที่ ไมใ่ หค้ วามรว่ มมอื ในการ หรือหอกระจายข่าวในชุมชน สูงท่ีสุด มีค่าเฉล่ียท่ี 3.88 ป้องกันอุบัติเหตุ เช่นสวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัด แปลผล ในระดับมาก นิรภัย บทบาทของชุมชนยังขาดผู้ประสานงานท่ีมี 2. ผลการศึกษาปัจจัย เงื่อนไข และการมี ความเข้าใจและยังไม่มีกิจกรรมเพ่ือสร้างให้คนเข้ามา ส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน มีส่วนร่วม ยังขาดผู้น�ำชุมชน ที่จะเข้ามาร่วมมือใน พบว่า 1) ปัจจัยการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนเกิดจาก การแก้ไขปัญหา และนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐ หลายปัจจัยเป็นองค์ประกอบแต่ความต้องการให้ชุมชน ยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน โดยชุมชน ของตนเองเกิดความปลอดภัย มีค่าสูงที่สุด ค่าเฉล่ีย มีโครงสร้างพื้นฐาน ดังนี้ มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ท่ี 4.07 แปลผลอยใู่ นระดบั มาก 2) เงอ่ื นไขของการเขา้ มา สงู ทสี่ ดุ มอี าชคี า้ ขายสงู ทส่ี ดุ มคี วามคดิ เหน็ ตอ่ สถานการณ์ มสี ว่ นของชมุ ชน โดยชมุ ชนเหน็ ความสำ� คญั เรอ่ื งปอ้ งกนั เกิดอุบัติเหตุทางถนน พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามและ อุบัติเหตุและเป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนของตน คนในครอบครวั ไมเ่ คยประสบอบุ ตั เิ หตสุ งู กวา่ ยานพาหนะ มีค่าสูงท่ีสุด ค่าเฉล่ียท่ี 4.12 แปลผลอยู่ในระดับมาก ท่ีพบในการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดคือ รถจักรยานยนต์ 3) การมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันอุบัติเหตุ ร้อยละ 84.90 มีใบอนุญาตขับขี่จักรยานยนต์สูงท่ีสุด ทางถนน ผลการศึกษาการมีส่วนร่วมแบ่งออกเป็น ร้อยละ 71.00 เคยถูกเรียกตรวจยานพาหนะจากการ 4 ประเด็น ได้แก่ (1) การมีส่วนร่วมในเร่ืองการศึกษา ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีสูงกว่าไม่เคยถูกเรียกตรวจ ปัญหาและสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าชุมชนต้อง ร้อยละ 67.20 แหล่งข้อมูลข่าวสารในเร่ืองอุบัติเหตุ ร่วมกันแสวงหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุ มีค่าสูงท่ีสุด ทางถนนได้รับจากโทรทัศน์สูงท่ีสุด ค่าเฉลี่ยที่ 4.45 ร้อยละ 57.10 ( 2) การมีส่วนร่วมในการวางแผน แปลผลอยใู่ นระดบั มากทสี่ ดุ การฝกึ อบรมจากหนว่ ยงาน ด�ำเนินการ พบว่าการน�ำแผนงานการป้องกันอุบัติเหตุ ภาครัฐในเร่ืองการสร้างวินัยและปลูกจิตส�ำนึกการ เข้าไปด�ำเนินการในงานปกติของชุมชนมีค่าสูงที่สุด ป้องกันอุบัติเหตุสูงที่สุด ร้อยละ 78.40 ผ่านการศึกษา ร้อยละ 57.10 (3) การมีส่วนร่วมลงมือปฏิบัติ พบว่า ดูงานด้านการป้องกันอุบัติเหตุในเร่ืองผลการเกิด ชุมชนจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด อุบัติเหตสุ งู ทส่ี ดุ ร้อยละ 88.00 จดุ เสี่ยงหรือจุดอันตราย มีค่าสูงที่สุด ร้อยละ 79.90 (4) การมีส่วนร่วมในเรื่อง ท่ีพบเห็นควรแก้ไขคือบริเวณทางร่วม ทางแยก สูงที่สุด ของการติดตามประเมินผล พบว่าการตักเตือนให้ค�ำ รอ้ ยละ78.80วธิ กี ารใหช้ มุ ชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม แนะน�ำของคนในครอบครัวมีค่าสูงที่สุด ร้อยละ 64.90 คือการท�ำหนังสือแจ้งให้รับรู้ สูงท่ีสุด มีค่าเฉล่ียท่ี 3.88 3. ผลการศกึ ษาการสรา้ งและนำ� เสนอแนวทาง แปลผล อยใู่ นระดับมาก ความคิดเหน็ ในเรื่องการบงั คับ การป้องกนั อุบัตเิ หตุโดยการมสี ่วนร่วมของชุมชน พบวา่ ใชก้ ฎหมาย ใหเ้ จา้ หนา้ ทใ่ี ชก้ ฎหมายอยา่ งเขม้ งวดไมค่ วร 1) การสร้างแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน

วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร 182 โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเริ่มจากการศึกษา การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนไปใช้ในชุมชนของจังหวัด แนวคิดและทฤษฎีการเกิดอุบัติเหตุและการป้องกัน ยโสธร พบว่า 1) การใช้ การบังคับใช้กฎหมาย E1 อุบัติเหตุทางถนน การศึกษาสภาพการใช้ยุทธศาสตร์ (Law Enforcement) เป็นเร่ืองที่ส�ำคัญและจ�ำเป็น ความปลอดภัยทางถนน 5E และการน�ำแผนปฏิบัติการ ท่ีชุมชนจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่เลือกปฏิบัติ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนไปใช้ ปัจจัย เง่ือนไข เพ่ือความปลอดภัยทางถนน 2) การใช้วิศวกรรม และการมีส่วนร่วมของชุมชน และความต้องการของ ทางถนน E2 (Engineering) เป็นเรื่องท่ีชุมชน ชุมชนในเรื่องป้องกันอุบัติเหตุ มาก�ำหนดเป็นแนวทาง เข้าไม่ถึงแต่สามารถร้องเรียนหรือแจ้งต�ำแหน่งหรือ เพื่อหาความหมายและขอบเขตที่สอดคล้อง กับบริบท จุดที่เป็นอันตราย แต่เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ ของพื้นท่ีวิจัย แล้วพัฒนาแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ ภาครัฐจัดให้ชุมชนเพียงเป็นผู้รับผลและปฏิบัติตาม จากสภาพการณ์ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นที่วิจัย 3) การให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ E3 (Education การแก้ไขปัญหา และความต้องการของชุมชนน�ำมาสู่ and Public Relation) เปน็ เรอื่ งทส่ี ำ� คญั ทช่ี มุ ชนตอ้ งการ ข้ันสรุป สุดท้ายได้ร่างแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ เพื่อสร้างฐานความรู้ เกิดความคิด และสามารถจะ ทางถนน ประกอบด้วย 5 แนวทาง ได้แก่ 1) แนวทาง พฒั นาในสว่ นอนื่ ในเรอื่ งความปลอดภยั ทางถนน 4) การ การใหก้ ารศกึ ษา 2) แนวทางการประชาสัมพนั ธใ์ นเชิงรกุ บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน E4 (EMS : Emergency 3) แนวทางการสร้างความตระหนักรู้ 4) แนวทางการ Medical Services) เปน็ กลไกลของระบบการชว่ ยเหลอื สร้างภาคีเครือข่าย 5) แนวทางการบังคับใช้กฎหมาย ของผู้ท่ีได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในด้านสาธารณสุขของชุมชน 6) ผู้เช่ียวชาญประเมินและตรวจสอบ ความเหมาะสม ของพ้ืนท่ีวิจัยมีองค์ประกอบที่ครบสามารถเข้าถึงได้ ความเป็นไปได้ และประโยชน์ที่จะเกิดกับชุมชน เพ่ือ อย่างรวดเร็ว 5)การประเมินผลและระบบสารสนเทศ ก�ำหนดเปน็ แนวทางการป้องกนั อบุ ตั ิเหตทุ างถนน พบว่า E5 (Evaluation and Information) เปน็ ระบบทส่ี ามารถ ความเหมาะสมของแนวทางมี ค่าสูงท่ีสุดคือแนวทาง เข้าถึงโดยผ่านการท�ำงานของภาครัฐอยู่แล้วชุมชน การบังคับใช้กฎหมาย มีค่าเฉลี่ยที่ 4.73 แปลผล สามารถเข้าถึงได้อย่างท่ัวถึง สอดคล้องกับมหาวิทยาลัย ในระดับมากท่ีสุด ความเป็นไปได้ ของแนวทางมีค่า เทคโนโลยีสุรนารี (2549) โครงการศึกษาและวิจัย สูงที่สุด คือการให้การศึกษา มีค่าเฉล่ียที่ 4.45 แปลผล การลดอุบัติเหตุจราจรทางบกด้วยระบบงานวิศวกรรม ในระดบั มาก ประโยชนท์ จี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั ชมุ ชนของแนวทาง โดยยุทธศาสตร์ท่ี 1 การบังคับใช้กฎหมาย ต้องปรับปรุง มีค่าสูงท่ีสุดคือการให้การศึกษา มีค่าเฉลี่ยที่ 4.69 กฎหมายทุกฉบับที่เก่ียวข้องกับการจราจรให้ได้ แปลผลในระดับ มากท่ีสุด แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ มาตรฐาน และทันสมัยเพิ่มบทลงโทษในคดีจราจร ทางถนนโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนรวมทงั้ 5 แนวทาง บางประเภทยทุ ธศาสตรท์ ี่2งานดา้ นวศิ วกรรมควรจดั ตง้ั มีความเหมาะสม ค่าเฉล่ียที่ 4.66 แปลผล ในระดับ ศูนย์ร้องเรียนต�ำแหน่งอันตรายหรือจุดเสี่ยงที่มีปัญหา มากท่ีสุด มีความเป็นไปได้ ค่าเฉลี่ยท่ี 4.39 แปลผล เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ยุทธศาสตร์ที่ 3 การให้ความรู้ ในระดับมาก ประโยชน์ท่ีจะเกิดขึ้นกับชุมชน ค่าเฉลี่ย การประชาสัมพันธ์ ควรมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ ท่ี 4.66 แปลผล ในระดับมากท่ีสุด เพ่ือพัฒนาแผน ก�ำกับดูแลติดตามการด�ำเนินงาน ยุทธศาสตร์ท่ี 4 การบริการทางการแพทย์ ควรจัดหา อภิปรายผลการวิจัย เคร่ืองมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการปฐมพยาบาลไว้ในศูนย์ ช่วยเหลือ และยุทธศาสตร์ท่ี 5 การประเมินผลและ 1. ผลการศึกษาสภาพการใช้ยุทธศาสตร์ สารสนเทศ ควรส่งเสริมการปฏิบัติงาน ของ ศปถ. ให้มี ความปลอดภัยทางถนน 5E และการน�ำแผนปฏิบัติ

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพระนคร 183 บทบาทในการประสานงาน ผลการด�ำเนินการตามแผน มีความเป็นอยู่ในรูปแบบของความเป็นเมืองก่ึงชนบท ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติทางถนนท่ีมีการด�ำเนิน ท�ำให้ มีความสัมพันธ์ในระบบเครือญาติ เชื่อฟังผู้น�ำ การในพ้ืนที่เป็นปกติโดยมีหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องใน และเคร่งครัดในเรื่องศาสนาวิถีชุมชน ประเพณีและ ร่วมกันรับผิดชอบและด�ำเนินการ แต่ในช่วงเทศกาล วัฒนธรรม ท�ำให้เกิดการมีส่วนร่วมของชุมชนได้ง่าย สงกรานต์ เทศกาลปีใหม่ จะมีการระดมก�ำลังร่วมกัน สอดคล้องกับ นเรศ คงโต และคณะ (2549) ท่ีศึกษา เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนโดยมีการต้ังจุดตรวจ รูปแบบการด�ำเนินงานอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน จุดสกัด ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างภาคีเครือข่าย การมี เพ่ือความปลอดภัยทางถนน ผลการศึกษาพบว่า ส่วนร่วมในการด�ำเนินการเพื่อให้ครบองค์ประกอบ องค์ประกอบการด�ำเนินงาน ท่ีน�ำไปสู่ความส�ำเร็จได้แก่ ตามยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน 5E แต่การ บทบาทของผู้ประสานงานต้องชัดเจน มีความเข้าใจ เข้ามามีส่วนร่วมกันของคนในชุมชนยังไม่พบเห็นได้ และตั้งใจที่จะสร้างความร่วมมือโดยอาศัยทักษะการ อย่างเป็นรูปธรรม การร่วมกันท�ำงานของหน่วยงาน สื่อสาร การเช่ือมความสัมพันธ์ การเป็นนักจัดการ เป็นไปตามกรอบหน้าท่ีของตนเองท่ีปฏิบัติ เมื่อเสร็จส้ิน ท่ีดี มีกิจกรรมส�ำคัญเสริม มีการจัดประชาคมหรือ ภารกิจก็จบ มีระบบการสั่งการตรวจสอบและติดตาม เวทีสาธารณะเป็นการสร้างโอกาสให้ทุกภาคส่วนมี ในแต่ละยุทธศาสตร์ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของ ส่วนร่วม ภาครัฐและของทางราชการเท่าน้ัน แต่ในสถานการณ์ 3. ผลการศกึ ษาการสรา้ งและนำ� เสนอแนวทาง ที่เกิดขึ้นกับชุมชนนั้นจะต้องมีองค์ประกอบท่ีซับซ้อน การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนโดยการมีส่วนร่วมของ และมากกว่า ซึ่งทั้งในชุมชนมีอยู่แล้ว และท่ีสิ่งชุมชน ชุมชน ที่พึงประสงค์ส�ำหรับประชาชนจังหวัดยโสธร จะต้องสร้างขึ้นใหม่หรือปรับปรุงสิ่งท่ีมี เพ่ือจะได้ปฏิบัติ พบว่ามี 5 แนวทางดังน้ี 1) Education ด้านการให้ ตามข้อก�ำหนด กฎหมายที่มีอยู่ ดังน้ันแนวทางการ การศึกษา ประชาชนจะต้องให้ความส�ำคัญในเรื่องการ ป้องกันอุบัติเหตุทางถนนท่ีพบน้ีจึงสามารถปรับใช้ รับรู้และเข้าใจเรื่องความปลอดภัยทางถนนโดยผ่าน ให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ ได้ จึงเป็นเรื่องส�ำคัญและจ�ำเป็น การให้ความรู้ การอบรม จะท�ำให้ประชาชนมีข้อมูล ทช่ี มุ ชนจะตอ้ งมสี ว่ นรว่ มในการด�ำเนนิ การ ผลการศกึ ษา และพร้อมรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดข้ึนได้ สามารถ ในพืน้ ท่ีวิจัยเปน็ ความต้องการของชมุ ชนสามารถด�ำเนนิ ให้ความรู้ได้ทั้งในระบบผ่านระบบการศึกษาในสถาบัน การไดโ้ ดยใช้ 2E คอื (Education, Law Enforcement ) การศึกษาต่าง ๆ การถ่ายทอดความรู้ผ่านวิถีชุมชน และเพ่ิมในส่วนอื่นเข้ามา เป็น การประชาสัมพันธ์ สอดคล้องกับ บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ (2550) ศึกษา เชิงรุก (Promoting) การสร้างความสัมพันธ์ของ โครงการพัฒนาระบบข้อมูลอุบัติเหตุจราจรเพื่อป้องกัน ชุมชน (Connection) และการสร้างความตระหนักรู้ และแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดภูเก็ต (Awareness) เพ่ือให้เหมาะสมกับบริบทพ้ืนท่ีและ พบว่า การศึกษาวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุโดยใช้ สามารถป้องกันอุบัติเหตุทางถนนได้ ยุทธศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง 2. ผลการศึกษาปัจจัย เง่ือนไข และการมี ”เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา„ และแนวคิด ”6 ช„ คือ (ชวน ส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนของชุมชน เชื่อม ชง ชม ช้อน และ เช็ค ) มาด�ำเนินการ จากผลการ พบว่าปัจจัยและเงื่อนไขของชุมชนท่ีเข้ามามีส่วนร่วม ศึกษาแนวทางดังกล่าวท�ำให้มีแนวทางด�ำเนินการ ในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนเกิดจากความต้องการ ในพื้นที่ได้ 3 แนวทางได้แก่ น�ำความรู้เข้าไปใช้ใน ให้ชุมชนของตนเองมีความปลอดภัย และมองเห็น หลกั สตู รการเรยี นการสอนของโรงเรยี น และสถานศกึ ษา ประโยชน์ที่เกิดข้ึนทั้งต่อตัวเอง ชุมชนและสังคม น�ำความรู้เร่ืองอุบัติเหตุทางถนนเข้าไปในชุมชนอย่าง

วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร 184 ท่ัวถึง น�ำความรู้เข้าไปในหน่วยงานราชการกรณีมีการ จากความเสี่ยงของวัยรุ่นในชุมชน ของคณะกรรมการ ประชุมประจ�ำเดือนของหัวหน้าหน่วยส่วนราชการ สขุ ภาพและศนู ยว์ จิ ยั ในมหาวทิ ยาลยั โอคแลนด์ ประเทศ ประชมุ ประจำ� เดอื นของกำ� นนั ผใู้ หญบ่ า้ น 2) Promoting นิวซีแลนด์ พบว่า ในโรงเรียนมีวิชาที่สอนเกี่ยวกับเรื่อง ด้านการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยการสร้างสังคม หรือ นโยบายความปลอดภัยแต่มีการกระท�ำความผิดของ ชุมชนท่ีอยู่ให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และรับรู้ข้อมูล นักเรียนในเร่ืองการใช้สารเสพติด และได้รับบาดเจ็บ ข่าวสารที่เป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการป้องกัน จากอุบัติเหตุยังมีอยู่ จากการศึกษาดังกล่าวท�ำให้เกิด หรือสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดข้ึนกับสังคม หรือชุมชน การเปล่ียนแปลงกฎระเบียบ และส่ิงแวดล้อมท่ีมีความ การสร้างนวัตกรรมให้เกิดข้ึน จนสามารถเปล่ียนแปลง เหมาะสม มีบทเรียนเพื่อสนับสนุนท้องถ่ินเก่ียวกับการ ความไมป่ ลอดภยั ทางถนนสอดคลอ้ งกบั ณรงค์ ขำ� วจิ ติ ร์ ปอ้ งกนั ตวั เองทำ� ใหว้ ยั รนุ่ ไมเ่ สยี่ งและลดพฤตกิ รรมเสย่ี ง (2551) ศึกษาการวางแผนการจัดการส่ือสารเพื่อลด จากผลการศกึ ษาดงั กลา่ วทำ� ใหม้ แี นวทางการดำ� เนนิ การ ความเสี่ยงจากอุบัติภัยในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพ้ืนที่ได้ 5 แนวทางได้แก่ การดึงเอาวัฒนธรรม วิถี พบว่ากลุ่มอาจารย์ บุคลากร และนิสิตนักศึกษา ของชมุ ชนเขา้ มารว่ ม เชน่ เรอื่ งดอนปตู่ า คนทเี่ ดนิ ทางผา่ น มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ ไปมาจะเกดิ ความรสู้ ึกเกรงกลวั การผูกผ้าแดงบนต้นไม้ การส่ือสารที่เหมาะสมคือการให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ ในบริเวณทางโค้ง ท�ำให้คนเกิดความระมัดระวังเพ่ิมขึ้น อันตรายของอุบัติภัย โดยเน้นความเส่ียงท่ีจะเกิดข้ึน การปรับพฤติกรรมของคนในชุมชน ผ่านการรณรงค์ กับตัวเขาอย่างไร มีช่องทางการให้ความรู้ผ่านสื่อ เช่นเร่ืองหมวกนิรภัย รับแจกหมวกฟรีจากหน่วยงาน อินเตอร์เน็ตและส่งเสริมการใช้โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ ภาครฐั การสรา้ งความตระหนกั รใู้ นโรงเรยี นถา้ ไมส่ วมหมวก จากผลการศึกษาการจัดการสื่อดังกล่าวท�ำให้มีแนวทาง ไมใ่ หเ้ ขา้ โรงเรยี น การจดั ตงั้ ยวุ ชนอาสาจราจรในโรงเรยี น การด�ำเนินการในพ้ืนท่ีได้ 4 แนวทางได้แก่ การน�ำเสนอ อาสาจราจรในชุมชนเพ่ือป้องกันอุบัติเหตุ การส่ือสาร การป้องกันอุบัติเหตุผ่านกิจกรรมของชุมชนที่มีอยู่ ที่บ่อยคร้ังและท�ำอย่างต่อเน่ือง โดยน�ำประเด็นที่สนใจ การน�ำเสนอผ่านสื่อกลางเช่น ส่ือวิทยุ โทรทัศน์ CCTV ของชุมชนไปพูดคุยในเวทีต่าง ๆ ยกเร่ืองท่ีเกิดในชุมชน อนิ เตอรเ์ นต็ หอกระจายขา่ วของชมุ ชน เสนอผา่ นแกนนำ� ใกลต้ วั ใหม้ องเหน็ ภาพ เพอ่ื กระตนุ้ ใหร้ บั รู้การสรา้ งความ ของชุมชนท่ีมีความต้ังใจ ให้ความส�ำคัญกับงาน เห็น- ตระหนักรู้ผ่านเวทีชาวบ้าน การบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง ประโยชน์ท่ีจะเกิดขึ้นมากกว่าเรื่องงบประมาณท่ีได้รับ อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการเรอื่ งอบุ ตั เิ หตเุ ปน็ เรอ่ื งของภยั ใกลต้ วั การสนับสนุนให้เกิดบุคคลต้นแบบ ท�ำเป็นตัวอย่างท่ีดี และเกิดข้ึนได้กับทุกคนและทุกเวลา 4) Connection เชน่ กลมุ่ แกนนำ� ผใู้ หญท่ ำ� ใหเ้ ดก็ เหน็ เปน็ ตวั อยา่ ง พอ่ แม่ ด้านการสร้างภาคีเครือข่าย เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ใส่หมวกนิรภัยให้ลูกดู 3) Awareness ด้านการสร้าง ให้เกิดขึ้นระหว่างตัวบุคคลกับตัวบุคคลหรือกับ ความตระหนักรู้ จะต้องสร้างให้เกิดข้ึนกับตัวบุคลหรือ หน่วยงานอื่นให้เข้ามาร่วมในกิจกรรมใดๆ เพื่อให้เกิด กับชุมชน ในเรื่องขององค์ประกอบการเกิดอุบัติเหตุ ความร่วมมือและประสานการปฏิบัติ มีการจัดการด้าน วา่ ทกุ คนเปน็ สว่ นหนงึ่ ของอบุ ตั เิ หตไุ ดแ้ ตส่ ามารถควบคมุ ข้อมูลข่าวสารร่วมกัน มีวัตถุประสงค์และแนวทางใด ๆ ตัวเองให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ หรือเลือกท่ีจะเป็น รว่ มกนั จนสามารถทจี่ ะชว่ ยเหลอื แกไ้ ขปญั หารว่ มกนั ได้ ส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ และในกรณีท่ีถ้าไม่ ซึ่งการสรา้ งความสมั พนั ธ์นนั้ มอี งค์ประกอบและเง่อื นไข สามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ จะท�ำอย่างไรให้มีผล หลายอย่าง แต่เป้าหมายในเร่ืองการป้องกันอุบัติเหตุ กระทบกับตัวเองหรือชุมชนน้อยท่ีสุด สอดคล้องกับ เปน็ จดุ รว่ มทแี่ ตล่ ะสว่ นสามารถเขา้ มารว่ มกนั ได้สอดคลอ้ ง Carolyn Coggon (1998: 58 – 61) วิจัยผลกระทบ กับ วณัฐ อรรถกวิน (2552: 17- 20) ศึกษาการสนับสนุน

วารสารวิชาการ มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร 185 การเสริมอ�ำนาจให้ชุมชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับ มากที่สุด เพราะเป็นตัวก�ำหนดการกระท�ำของผู้ใช้รถ การแกไ้ ขปญั หาอบุ ตั เิ หตทุ างถนนและเสนอใหบ้ รู ณาการ ใช้ถนนให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย หรือควบคุม ความร่วมมือกับภาคีต่างๆ เข้าด้วยกันจะท�ำให้เกิดผล พฤติกรรมต่าง ๆ ของคนให้ปฏิบัติตาม ถ้ามีการละเมิด สมั ฤทธสิ์ งู สดุ และปนดั ดา ชำ� นาญสขุ (2551: 1) กลา่ วถงึ หรือไม่ปฏิบัติตามถือเป็นความผิด ซ่ึงเป็นหลักการ การสนบั สนนุ การเชอื้ เชญิ ผนู้ ำ� ชมุ ชน เขา้ มาดำ� เนนิ กจิ กรรม ในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนทั้งในประเทศไทยและ ร่วมกับภาครัฐในลักษณะต่าง ๆ จะเป็นการสร้างความ ของสากล สอดคล้องกับ เพลินพิศ พงศ์ปริญญากุล ร่วมมือในการแก้ไขปัญหา จากผลการศึกษาการสร้าง (2550) ศึกษาผลการบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้ขับข่ีที่มี ภาคีเครือข่ายดังกล่าวท�ำให้มีแนวทางการด�ำเนินการ พฤตกิ รรมเสยี่ งในเขเทศบาลนครยะลา พบวา่ มผี กู้ ระท�ำ ในพื้นท่ีได้ 3 แนวทาง ได้แก่ การส่งเสริมเครือข่าย ความผิดตามมาตรการ 3ม.2ข,1ร ในพ้ืนท่ีเทศบาลนคร ท่ีเข้มแข็งในชุมชนเช่น ผู้น�ำชุมชน นายก อบต. ให้เข้าไป ยะลามากท่ีสุด และมีพฤติกรรมเสี่ยงสูงที่สุด โดยการ เรียนรู้วิธีการด�ำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุทางถนน ด�ำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจ และการรับรู้ผ่านสื่อ ร่วมกัน การให้ความส�ำคัญกับทีม สหวิชาชีพเพ่ือให้เกิด จากการศกึ ษาแนวทางดงั กลา่ วทำ� ใหม้ แี นวทาง การแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันในเรื่องอุบัติเหตุทางถนน การดำ� เนนิ การในพนื้ ทไี่ ด้ 3 แนวทางไดแ้ ก่ การเสรมิ สรา้ ง เช่ือมคนกับงานและงบประมาณ เข้าด้วยกัน โดยการ วินัยจราจรโดยต�ำรวจให้กับเด็กนักเรียนและเยาวชน ผนวกให้เข้ากับงานประจ�ำท่ีชุมชนท�ำอยู่ การเสริมสร้าง ผ่านการให้ความรู้ท้ังในระบบและนอกระบบโรงเรียน บทบาทของทีมกู้ชีพกู้ภัยจากช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มี ให้รู้ถึงเทคนิคการขับข่ีที่ถูกต้อง การคาดการณ์การเกิด บทบาทป้องกันภัยไม่ให้เกิดขึ้น โดยการสนับสนุน อุบัติเหตุ มารยาทในการใช้รถใช้ถนน ทั้งภาคทฤษฎี เครอื่ งมอื งบประมาณ และความรู้เนอื่ งจากกลมุ่ นจ้ี ะเปน็ และภาคปฏิบัติ การบังคับใช้กฎหมายผ่านส�ำนักงาน คนที่มีจิตสาธารณะและเป็นคนในพื้นที่รู้และเห็นสภาพ ขนส่งจังหวัดในเรื่องการบรรทุกที่เกินอัตราของรถ ปัญหา สถานการณ์อุบัติเหตุในพ้ืนที่ รับรู้ข้อมูลจุดเส่ียง รับส่งนักเรียน การดัดแปลงสภาพรถท่ีท�ำให้เกิดความ ต่าง ๆ ในชุมชนและใกล้ชิดข้อมูลมากที่สุด สามารถ ไม่ปลอดภัย และเกิดอันตรายกับผู้โดยสาร การบังคับ ออกแบบการแก้ไขปัญหาได้อย่างสอดคล้องกับ ใช้กฎหมายด้านการคุ้มครองสิทธิตาม พระราชบัญญัติ สภาพการณ์มากที่สุด 5) Law Enforcement ด้านการ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ การเข้าถึงสิทธ์ิประโยชน์ บังคับใช้กฎหมาย เป็นแนวทางการป้องกันอุบัติเหตุ ต่าง ๆ ท่ีตนเองจะได้รับ ทางถนนที่จะสามารถเข้าถึงประชาชนหรือชุมชนได้

วารสารวชิ าการ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร 186 บรรณานุกรม กรมการขนสง่ ทางบก กระทรวงคมนาคม. (2552). กองทนุ เพอื่ ความปลอดภยั ในการใชร้ ถใชถ้ นนประจำ� ป.ี กรงุ เทพฯ: กรมการขนส่งทางบก. ดุษฎี อายุวัฒน์ และคณะ . (2549). การมีส่วนร่วมของชาวบ้านในงานวรศาสตร์ชุมชน : กรณีชุมชนบ้านห้วยม่วง. โครงการวิจัยวนศาสตร์ชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. พลังเครือข่ายเพื่อถนนปลอดภัย. (2552). การบังคับใช้กฎหมาย. เอกสารประกอบการสัมมนาท่ีศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค กรุงเทพมหานคร 20-21 สิงหาคม 2552. ปนัดดา ช�ำนาญสุข. (2552). เร่งรัก รุนแรง : โลกชายขอบของนักบิด. กรุงเทพฯ: ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ. รายงานฉบับสมบรู ณ์การสมั มนาวชิ าการภาคเหนือ. (2553). อบุ ตั เิ หตจุ ราจร พลงั เครอื ขา่ ยสทู่ ศวรรษความปลอดภยั ทางถนน. จังหวัดเชียงใหม่ 9 -10 สิงหาคม 2553. ศูนย์วิจัยและพัฒนาโครงสร้างมูลฐานอย่างยั่งยืน, มหาวิทยาลัยขอนแก่น. (2552). โครงการศึกษาส�ำรวจข้อมูล ด้านการขนส่งและจราจรเพื่อจัดท�ำแผนแม่บทในเมืองภูมิภาค: จังหวัดยโสธร. รายงานฉบับสมบูรณ์ ส�ำนักงานงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร.