Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา

Description: วันเข้าพรรษา

Search

Read the Text Version

เรยี บเรยี งข้อมลู โดยหอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอทับปดุ

ประวตั ิวนั เข้าพรรษา ในเร่ืองความเป็นมาของวันเข้าพรรษา ถ้าว่ากันตามประวัติย่อๆ คือ ในยุคต้นพุทธกาล ก็ยังไม่มีการเข้าพรรษา เพราะฉะนั้นตลอดท้ังปี เมื่อพระภกิ ษุมีความเห็นว่าท่านควรจะไปเทศน์ ไปสอนญาติโยมที่ไหนได้ ท่าน พอมีเวลา ท่านก็จะไป หรือไม่ได้ไปเทศน์ไปสอนใคร ถ้าเห็นว่าที่ไหนมันเงียบ มนั สงัดดี เหมาะในการทีจ่ ะไปบาเพ็ญภาวนา ทาสมาธิ (Meditation) ของท่าน ท่านก็จะไป ซ่ึงแน่นอน ส่วนมากก็จะอยู่ในเขตท่ีเป็นป่าเป็นเขา ไกลๆออกไป จากตัวเมอื ง หรอื วา่ ต้องผา่ นไปในชนบทนัน่ เอง จากการท่ีท่านต้องไปอย่างน้ี เน่ืองจากในฤดูฝนท่ีเขาทาไร่ทานา กันอยู่นั้น บางครั้ง ข้าวกล้าของเขาก็เพิ่งหว่านลงไปในนา มันเพิ่งงอกออกมา ใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุก็เดินผ่านไป นึกว่ามันเป็นดงหญ้า ก็เลยย่าข้าวกล้าของเขาไป ซึ่งก็ทาให้ชาวบ้านเดือดร้อน เขาก็มา ฟ้อง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระไปย่าข้าวของเขาท่ีปลูกเอาไว้ หว่านเอาไว้ นกกา ฤดฝู นมันยังอยกู่ บั รังของมนั พระทาไมไมร่ จู้ กั พักบ้าง เพ่ือตัดปัญหานี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เลยทรงกาหนดให้ พระภิกษุ เม่ือเข้าพรรษา หรือเมื่อเข้าฤดูฝน ให้พระอยู่กับท่ี คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่าเดือน 8 จนกระทั่งข้ึน 15 ค่าเดือน 11 ให้อยู่เป็นท่ีเป็นทาง ไม่ไปทา ภาวนา ที่ไหน ไม่ไปเทศนโ์ ปรดใคร ถ้าใครตอ้ งการให้โปรด ก็มาที่วัดก็แล้วกัน มาหาทา่ น ไมใ่ ช่ทา่ นไปหาเขา กาหนดเปน็ อย่างน้ีไป เพื่อตัดปัญหาไม่ให้ใครมา บ่นลกู ของพระองค์ได้

แต่อีกมุมมองหน่ึง พระองค์ทรงถือโอกาสท่ีเกิดเป็นปัญหานี้ ได้ทรงเปลี่ยนคาครหาให้กลายเป็นโอกาสดีของพระภิกษุว่า ถ้าอย่างนั้น พระภิกษุอยู่เป็นท่ีในวัดวาอาราม เพ่ือท่ีจะให้พระใหม่ได้รับการอบรมจาก พระเก่าได้เต็มที่ เพราะว่าจริงๆ แล้ว ในการอบรมถ่ายทอดศีลธรรม ถ่ายทอดธรรมวินัยให้แก่กันและกันน้ัน ถ้าทาอย่างต่อเนื่อง ทาเป็นที่เป็น ทางต่อเนื่องกันทุกวันทุกวัน อย่างนี้จะเป็นการดี การศึกษาธรรมะอย่าง ตอ่ เน่ืองมีผลดี เพราะฉะน้ัน พระองค์ก็เลยทรงกาหนดขึ้นมาว่า ให้พระภิกษุ อยกู่ ับทใ่ี นชว่ งเขา้ พรรษาอยู่ในวัด แล้วพระใหม่ก็ศึกษาหรือรับการถ่ายทอด ธรรมะจากพระเก่า ส่วนพระเก่าก็ทาหน้าท่ีเป็นครูบาอาจารย์ด้วย คือ สอนพระใหม่ เท่านั้นยังไม่พอ พระเก่าก็วางแผน กาหนดแผนการเลยว่าเม่ือ ออกพรรษาแล้ว ควรจะเดินทางไปโปรดท่ีไหน น่ันก็อย่างหนึ่ง อีกทั้ง ปรับปรุงหลักสูตรวิธีการเทศน์การสอน การอบรมให้เหมาะกับท้องถ่ิน ให้ เหมาะกับสภาพสงั คมทเี่ ปลีย่ นไป เปน็ ตน้ วันเขา้ พรรษาคือตง้ั แตแ่ รม 1 ค่าเดอื น 8 จนถึงขึ้น 15 ค่าเดือน 11

สาหรับ วันเข้าพรรษา เป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐาน วา่ จะพักประจาอยู่ ณ ท่ีใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนท่ีมีกาหนดเป็น ระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรม ที่อ่ืน หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า \"จาพรรษา\" น่ันเอง โดย วันเข้าพรรษา 2563 ตรงกับวันจันทร์ท่ี 6 กรกฎาคม ซึ่งประวัติวัน เข้าพรรษา ความสาคญั กิจกรรม มดี งั น้ี ประวัตวิ นั เข้าพรรษา \"เข้าพรรษา\" แปลว่า \"พักฝน\" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้อง อยู่ประจา ณ วัดใดวัดหน่ึงระหว่างฤดูฝน โดยเหตุท่ีพระภิกษุในสมัย พทุ ธกาล มีหนา้ ทจี่ ะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคาสั่งสอน แก่ประชาชนไปในท่ีต่าง ๆ ไม่จาเป็นต้องมีท่ีอยู่ประจา แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตาหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจาพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจาที่ ตลอด 3 เดอื น ในฤดูฝน โดยแบ่งเปน็ -ปรุ มิ พรรษา หรือ วันเขา้ พรรษาแรก เริ่มต้ังแต่วันแรม 1 ค่า เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 คา่ เดอื น 8 หลงั และออกพรรษาในวนั ข้นึ 15 คา่ เดอื น 11 - ปัจฉิมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาหลัง เร่ิมตั้งแต่วันแรม 1 คา่ เดอื น 9 จนถึงวันข้ึน 15 คา่ เดือน 12

การปฏบิ ัตติ ัวของชาวพทุ ธในช่วงเข้าพรรษา ในช่วงเข้าพรรษา พระเก่าพระใหม่ ท่านอยู่กันพร้อมหน้า เมื่ออยู่พร้อมหน้ากันอย่างน้ี ก็เป็นโชคดีของญาติโยม โชคดีอย่างไร โชคดีที่เนื้อนาบุญอยู่กันพร้อมหน้า ญาติโยมตั้งแต่คร้ังปู่ย่าตาทวด ท่านไม่ปล่อยให้พระเข้าพรรษาเพียงลาพัง ญาติโยมก็พลอยเข้าพรรษา ไปด้วยเหมือนกัน แต่ว่าเข้าพรรษาของญาติโยมนั้น เข้าพรรษาด้วยการ อธษิ ฐานจติ หลกั ธรรมในพระพทุ ธศาสนา มีแม่บทไวช้ ัดอยู่ 3 ข้อ คอื 1.ละ ชว่ั 2.ทาดี 3.กล่ันใจใหใ้ ส

ความสาคญั และประโยชนข์ องการเข้าพรรษา 1. ช่วงเข้าพรรษานั้นเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทาไร่ นา ดังน้ันการกาหนดให้ภิกษุสงฆ์หยุดการเดินทางจาริกไป ในสถานท่ี ต่างๆ ก็จะช่วยให้พันธ์ุพืชของต้นกล้า หรือสัตว์เล็กสัตว์น้อย ไม่ได้รับ ความเสยี หายจากการเดินธุดงค์ 2. หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนามาเป็นเวลา 8 - 9 เดือน ช่วงเขา้ พรรษาเปน็ ชว่ งที่ใหพ้ ระภกิ ษุสงฆ์ไดห้ ยุดพกั ผ่อน 3. เป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมสาหรับ ตนเอง และศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตลอดจนเตรียมการสั่งสอน ให้กับประชาชนเม่ือถงึ วันออกพรรษา 4. เพ่ือจะได้มีโอกาสอบรมส่ังสอนและบวชให้กับกุลบุตรผู้มีอายุ ครบบวช อันเปน็ กาลงั สาคญั ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาตอ่ ไป 5. เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสบาเพ็ญกุศลเป็นการพิเศษ เชน่ การทาบุญตักบาตร หลอ่ เทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้าฝน รักษาศีล เจริญภาวนา ถวายจตปุ จั จยั ไทยธรรม งดเวน้ อบายมุข และมโี อกาสได้ฟัง พระธรรมเทศนาตลอดเวลาเข้าพรรษา

กจิ กรรมท่นี ยิ มทาในวันเข้าพรรษา ในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอดท้ัง 3 เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทย ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบาเพ็ญกุศล ดว้ ยการทากจิ กรรมต่าง ๆ ซึ่งสว่ นใหญจ่ ะเป็นกิจกรรมเก่ียวกับทาง พระพุทธศาสนา ซ่ึงการที่ชาวไทยได้มีโอกาสทาบุญในวันสาคญั ทาง ศาสนาน้ี ถือว่าเป็นส่ิงท่ีดีต่อตัวเอง ซ่ึงอาจได้ทาบุญกันแบบพร้อม หนา้ ครอบครวั ดว้ ยเพราะเป็นวนั หยดุ ตอ่ เนอ่ื งจากวนั อาสาฬหบูชา เข้าวัดทาบญุ เป็นอีกหนึ่งวันที่พุทธศาสนิกชนชาวไทย จะได้เข้าวัดทาบุญ ใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา หลงั จากวนั อาสาฬหบชู า เรียกว่า ได้ มีโอกาสทาบญุ ตดิ กนั ถึงสองวนั เลยทีเดียว นอกจากการทาบญุ แล้ว ยังมีการถวายหลอดไฟ , เทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้าฝน แก่ พระสงฆ์ด้วย เพื่อสาหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้สาหรับการอยู่จาพรรษา มีชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนหลลายคน ที่ นิยมถือบรรพชา อุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพ่ืออยู่จาพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดอื น หรือท่ชี าวบา้ นเรยี กกันวา่ \"บวชเอาพรรษา\"

หล่อเทียนพรรษา ก่อนวันเข้าพรรษา ที่มักจะเห็นกันบ่อยๆ ก็คือพิธีหล่อ เทียนจานาพรรษา ซ่ึงตามสถานศึกษา นักเรียนก็จะ ได้ ทากิจกรรมนี้ในโรงเรียน หรือตามวัด สถานที่ราชการ และตาม ห้างสรรพสินค้า ที่จะจัดให้มีการหล่อเทียน แม้ว่า เทียน อาจไม่ได้มีความจาเป็นที่ต้องใช้สักเท่าไหร่แล้ว แต่ก็เป็นกิจกรรม ส่งเสริมและถือว่าให้ความสาคัญกับ ประเพณีท่ีเก่ียวข้อง กบั พระพุทธศาสนาทสี่ ืบตอ่ กนั มานั่นเอง ถวายเทียนพรรษา เม่ือทาการหล่อเทียนพรรษาเสร็จแล้ว ก็ต้องมีพิธีถวาย เทียนพรรษา แล้วก็มีประเพณี พิธีแห่เทียนจานาพรรษาท่ีชาว พุ ท ธ นิ ย ม ท า กั น ซึ่ ง จ ะ มี ข บ ว น ส า ธุ ช น ด อ ก ไ ม้ อาจมีการเวียนรอบพระอุโบสถก่อน แล้วจึงนาไปถวายแด่คณะ สงฆ์วัดนั้น ๆ สมัยน้ีนอกจากเทียนแล้ว การถวายหลอดไฟ และ อุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งก็เป็นการถวายแสงสว่างให้กับพระภิกษุสงฆ์ เหมือนกับเราได้ถวายเทียนพรรษานั่นเอง ซึ่งถือเป็นอีกกิจกรรม หน่งึ

กจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ีควรปฏบิ ัติในวันเขา้ พรรษา - รว่ มกจิ กรรมทาเทยี นจานาพรรษา - รว่ มกิจกรรมถวายผา้ อาบน้าฝน และจตุปจั จัย แก่ พระภิกษสุ ามเณร - รว่ มทาบุญ ตกั บาตร ฟงั ธรรมเทศนา รักษาอุโบสถศีล - อธษิ ฐานงดเว้นอบายมขุ ตา่ ง ๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook