นวตั กรรมวงล้อสระหดั อา่ นเขยี น แก้ไขปัญหาอา่ นไมอ่ อกเขียนไมไ่ ด้ ๔ จ ส ท โรงเรียนบ้านนาววั โพนงาม สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาเลย เขต ๒ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน กรวงศกึ ษาธกิ าร นางสาวอจั ฉราภรณ์ โกสูงเนนิ ตาแหน่ง ครพู ่เี ลยี้ งเดก็ พกิ าร
วัตถุประสงค์ 1 เพอ่ื แก้ไขปัญหานกั เรียนใหอ้ า่ นออกเขยี นได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคลอ่ ง ตามนโยบายของ กระทรวงศกึ ษาธิการและสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาเลย เขต ๒ 2 เพ่ือปลูกฝังใหน้ ักเรียนมีนสิ ยั รกั การอ่านอยา่ งยั่งยืน 3 เพอื่ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ – ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓
ขัน้ ตอนการพฒั นา นวตั กรรมวงลอ้ สระหัดอ่านเขียน แกไ้ ขปัญหาอ่านไมอ่ อกเขยี นไม่ได้ ๔ จ ส ท
๔ จ รแู้ จ้งการอ่านการเขียน เปน็ การพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ตามจุดเน้น ของชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ให้นกั เรยี นอ่านออกเขยี นได้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ สามารถรแู้ ละเขา้ ใจการ อ่านอยา่ งตอ่ เน่อื งและมีความรู้สกึ นกึ คิดตามจินตนาการเกยี่ วกับการเขยี น โดย ใชว้ ธิ ดี งั ตอ่ ไปน้ี
จ แจ้งพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ โดยการสอนใหน้ กั เรยี นรจู้ กั พยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ โดยการทอ่ ง พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ก่อนเริ่มเรยี นวิชาภาษาไทย
จ แจกลกู สะกดและผนั เสียง โดยการฝึกใหน้ ักเรียนอ่านสะกดคาและผนั เสยี ง โดยส่อื การเรยี นรทู้ นี่ า่ ใจ เช่น ส่อื คอมพวิ เตอร์ ส่ือทามอื ๑๐ นาที
จ. จาอ่าน จาเขยี น โดยการให้นักเรียนฝึกอ่านคาพน้ื ฐานและเขียนตามคา บอกลงในสมุดวนั ละ ๑๐ คาทกุ วันกอ่ นเรยี นวชิ าภาษาไทย หากนกั เรียนอ่านผิดหรือเขยี นผดิ ต้องแก้คาผิดใหถ้ ูกตอ้ ง โดยการคัดลายมอื และสอนซอ่ มเสรมิ การอ่านการเขยี น
จ จดเขยี นเรียนประโยค โดยการนานักเรียนอา่ นออกเสยี งคาประโยคและ เรื่องในบทเรียนหรอื นอกบทเรยี น นกั เรยี นฝกึ แต่ง ประโยคจากคาในเรื่องที่อา่ น
๔ ส. เสรมิ สรา้ งทกั ษะอ่านเขียน เป็นการพฒั นากระบวนการเรียนรตู้ ามจุดเนน้ ของ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖ ให้นักเรียนสามารถอา่ นและ เขยี นหนังสอื ไดค้ ล่อง โดยใชว้ ธิ ีดงั ต่อไปน้ี
ส สะกดคาแม่นยา โดยการให้นกั เรียนฝึกอ่านออกเสียงสะกดคาและ เขียนลงในสมุด กอ่ นเร่มิ เรยี นวิชาภาษาไทยทกุ วนั
ส สลบั อา่ นสลบั เขยี น โดยการให้นักเรียนไดฝ้ กึ อา่ นคา ประโยค ข่าว เพลง บทรอ้ ยกรอง บทความหรือเรื่องราวตา่ งๆจากส่ือทงั้ ในบทเรยี นและนอกบทเรียน แล้วฝึกเขยี นคาศพั ทจ์ ากเรือ่ งทอ่ี า่ น ฝึกแตง่ ประโยคฝกึ แตง่ นิทานและ คัดลายมือ เป็นตน้
ส สนใจใฝ่เรยี นรู้ โดยการให้นักเรียนทาบันทกึ รกั การอ่านสปั ดาหล์ ะ ๒ เรือ่ ง บนั ทกึ การอา่ นนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ เร่อื ง และบนั ทกึ การอา่ นตามความ สนใจของนักเรยี นแล้วสง่ ใหค้ รปู ระจาวิชาภาษาไทยตรวจสอบ
ส สอนเรมิ อ่านเขยี น โดยการคัดกรองนักเรยี นท่ียงั ขาดทกั ษะการอา่ นการ เขยี นมาสอนซ่อมเสรมิ ในช่วงเวลาว่าง พักกลางวนั และ หลงั เลิกเรยี น
๔ ท. ทนทานเก่งอ่าน เก่งเขยี น เป็นการสง่ เสริมให้นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑-๓ โดยทบทวนการ อ่านและการเขยี นดว้ ยตนเองอย่อู ยา่ งสมา่ เสมอ เพื่อเสรมิ สร้างความ มีวินัยในการอา่ นและการเขียนท่ียั่งยืน โดยใช้วิธดี งั ต่อไปน้ี
ท ทดสอบการอ่านเขยี นคาพ้นื ฐาน โดยใหน้ กั เรยี นระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑-๓ ทดสอบ การอ่านและการเขยี นคาพน้ื ฐานกอ่ นเรยี นวชิ าภาษาไทย ทกุ ชัว่ โมง
ท ทอ่ งบทอาขยาน-ทานองเสนาะ โดยให้นักเรียนระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑-๓ ทอ่ งบทอาขยาน ทานองเสนาะกอ่ นเรียนวชิ าภาษาไทยทกุ ชั่วโมงและช่วงเวลา พกั กลางวนั ก่อนขึ้นช้นั เรียน
ท ทาบันทึกส่งเสริมนสิ ยั รักการอา่ น โดยให้นกั เรยี นบนั ทึกรกั การอา่ นสปั ดาหล์ ะ ๒ เรือ่ ง บนั ทกึ การอา่ นนอกเวลาสปั ดาหล์ ะ ๓ เร่อื ง และบันทึกการ อา่ นตามความสนใจของนักเรียนแล้วส่งให้ครูประจาวิชา ภาษาไทยตรวจ
ท ทบทวนการอ่านการเขยี น โดยให้นักเรียนทบทวนเรอ่ื งการอา่ นการเขยี นจากบทเรยี นแลว้ ฝกึ ทักษะการอา่ นการเขียน โดยการทาแบบฝกึ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการ คิดแหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ สกู่ ารประเมนิ ยกผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา (O-Net) และแบบฝกึ พฒั นาคณุ ภาพ การอา่ นรูเ้ รอื่ งและสอ่ื สารได้ตามแนวทางการประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ ทางการศกึ ษา (O-Net)
ผลการดาเนนิ การ เลข ชอื่ – สกุล คะแนนครั้งที่ คะแนนครั้งท่ี 2 หมายเหตุ -นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-๓ สามารถอ่านออกเขยี นไดเ้ รือ่ ง ท่ี 1 -นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔-๖ สามารถอ่านคลอ่ งเขียนคล่อง 20 คำ ผำ่ นรอ้ ยละ 80 -นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๑-๓ มวี นิ ยั ในการอา่ นและการเขียนที่ยัง่ ยนื 1 เดก็ ชำยจตภุ ทั ร กำ้ นพลู 20 คำ ผำ่ นรอ้ ยละ 80 -นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ มีผลสัมฤทธท์ิ าง 2 เดก็ ชำยธนั วำ บรู ณะ 16 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 การเรยี นวชิ าภาษาไทยสูงขน้ึ 3 เดก็ ชำยวรวฒั น์ กริชี 5 16 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 4 เดก็ ชำยวรวฒั น์ ชยั ชะนะ 4 17 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 5 เดก็ ชำยณฐั ตภมู ิ เกษทองมำ 6 16 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 6 เดก็ หญิงอไุ รวรรณ แซงรำชำ 6 16 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 7 เดก็ ชำยณชั นน วริ ยิ ำ 3 17 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 8 เดก็ ชำยภทั รพล วงั หิน 6 16 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 9 เดก็ ชำยสรุ เชษฐ์ ทองพดุ 7 16 ผำ่ นรอ้ ยละ 80 10 เดก็ ชำยทศำนนท์ ทองชำติ 6 16 3 16 5
ประโยชน์ทไ่ี ด้รบั -นักเรยี นมคี วามสนใจในการเรียนการสอนวชิ าภาษาไทยมากยิง่ ขน้ึ -นกั เรียนใหค้ วามร่วมมือในการเรยี นมากขน้ึ -นกั เรยี นกลา้ แสดงออก กลา้ แสดงความคดิ เหน็ มากขน้ึ -นักเรียนมีผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นวิชาภาษาไทยมากขน้ึ -คณุ ครผู สู้ อนสามารถนาคลปิ วดี ีโอไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพฒั นาการ สอนใหด้ ยี ่ิงขน้ึ
จบการนาเสนอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: