ทำเนยี บภมู ิปัญญำทอ้ งถิน่ ตำบลหนองกบ อำเภอบำ้ นโป่ง จังหวัดรำชบุรี ประจำเดือน มกรำคม 2563 กศน.ตำบลหนองกบ ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั อำเภอบำ้ นโปง่ สำนักงำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั จังหวดั รำชบุรี สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย สำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธกิ ำร กระทรวงศกึ ษำธิกำร
คำนำ ดว้ ย กศน.ตำบลหนองกบ ไดด้ ำเนินกำรจัดทำภูมิปัญญำในท้องถิ่น ให้กบั ประชำชนในพ้ืนท่ี ตำบลหนองกบ เพื่อเพิ่มพูนควำมรู้และทักษะในกำรดำเนินชีวิตแบบพอเพียง สำมำรถเรียนรู้และฝึกฝน ได้ท้ัง จำกกำรศกึ ษำด้วยตนเอง และได้รับกำรถ่ำยทอดจำกผู้อื่น กำรนำภูมิปัญญำมำเผยแพร่เพ่ือให้ประชำชนในพ้ืนท่ี ได้นำไปใช้และเรียนรู้เพื่อเพิ่มอำชีพ และประสบกำรณ์ให้กับตนเองและครอบครัว ให้มีกำรเจริญเติบโตอย่ำง ต่อเนื่องและเกื้อกูลในกำรผลิตซ่ึงกันและกัน โดยกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์และไม่มีสำรพิษ เช่น ดิน น้ำ แสงแดดอย่ำงเหมำะสม เกิดประโยชน์สงู สุด มีควำมสมดลุ ของสภำพแวดล้อมอยำ่ งต่อเน่ือง และเกิดผล ในกำรเพิ่มพูนควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติด้วย กศน.ตำบลหนองกบ หวังว่ำเอกสำรเล่มน้ีคงมี ประโยชนต์ อ่ ผอู้ ่ำนและผปู้ ฏบิ ัติงำนตอ่ ไป กศน.ตำบลหนองกบ มกรำคม 2563
สำรบญั หนำ้ คำนำ 1 สำรบญั 10 กศน.ตำบลหนองกบ 19 - ภมู ิปญั ญำ กำรปลกู ขำ้ วอินทรีย์ : คณุ เอือ้ สวสั ดิ์จุ้น - ภมู ิปัญญำ กำรปลูกขำ้ วอนิ ทรีย์และเลี้ยงวัว : คณุ พล ทองออ่ น - ภูมิปัญญำ กำรปลกู ขำ้ วอินทรยี ์ : คณุ อรรถพร แพรกเซน็ คณะผู้จดั ทำ
แบบบนั ทึกชดุ ขอ้ มลู คลงั ปัญญำ-ภมู ปิ ญั ญำท้องถนิ่ ตำบล หนองกบ อำเภอ บำ้ นโปง่ จงั หวดั รำชบุรี ช่ือภูมิปัญญำ กำรปลูกข้ำวอินทรีย์ ข้อมูลพื้นฐำน รำยบคุ คล เจ้ำของภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ /บุคคลคลังปญั ญำ ชื่อ นำยเอ้ือ นำมสกลุ สวสั ด์จิ ุ้น วนั เดอื นปเี กดิ 2 พฤษภำคม 2497 ท่อี ยู่ปัจจุบัน (ทสี่ ำมำรถติดต่อได้) บ้ำนเลขที่ 12/5 หมทู่ ี่ 8 ตำบล/แขวง หนองกบ อำเภอ/เขต บำ้ นโปง่ จงั หวัด รำชบรุ ี รหสั ไปรณีย์ 70110 โทรศัพท์ 064-9859389 โทรสำร - Line ID - Facebook เอ้อื สวัสด์ิจนุ้ พกิ ัดทำงภมู ิศำสตร์ ค่ำ X: 13.500647 คำ่ Y: 99.552364 ควำมเป็นมำของภมู ิปญั ญำ กำรผลิตขำ้ วอินทรีย์ เปน็ ระบบกำรผลติ ข้ำวทีไ่ ม่ใชส้ ำรเคมีทำงกำรเกษตรทุกชนิดเป็นต้นว่ำ ปยุ๋ เคมี สำร ควบคุมกำรเจริญเติบโต สำรควบคุมและกำจัดวัชพืช สำรป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว ตลอดจน สำรเคมีที่ใช้รมเพื่อป้องกันกำจดั แมลงศัตรูข้ำวในโรงเกบ็ กำรผลิตข้ำวอนิ ทรียน์ อกจำกจะทำให้ได้ผลผลิตข้ำวท่ีมี คุณภำพสูงและปลอดภัยจำกสำรพิษแล้ว ยังเป็นกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและเป็นกำรพัฒนำกำรเกษตร แบบย่ังยืนอีกด้วยกำรผลิตข้ำวอินทรีย์เป็นระบบกำรผลิตทำงกำรเกษตรที่เน้นเร่ืองของธรรมชำติเป็นสำคัญ ได้แก่ กำรอนุรักษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติ กำรฟ้ืนฟูควำมอุดมสมบูรณ์ของธรรมชำติ กำรรักษำสมดุลธรรมชำติและ กำรใชป้ ระโยชน์จำกธรรมชำติ เพื่อกำรผลิตอย่ำงยั่งยืน เช่น ปรบั ปรุงควำมอุดมสมบูรณ์ของดินโดยกำรปลูกพืช หมุนเวียน กำรใช้ปุ๋ยอินทรยี ์ในไร่นำหรือจำกแหล่งอ่ืน ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวโดยวิธีผสมผสำนที่ไม่ ใช้สำรเคมี กำรเลือกใช้พันธ์ุข้ำวท่ีเหมำะสมมีควำมต้ำนทำนโดยธรรมชำติ รักษำสมดุลของศัตรูธรรมชำติ กำร จัดกำรพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมำะสมกับควำมต้องกำรของต้นข้ำว เพ่ือทำให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตได้ดี มี ควำมสมบูรณ์แข็งแรงตำมธรรมชำติ กำรจัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมต่อกำรระบำดของโรค แมลงและ สตั ว์ศตั รขู ำ้ ว เป็นตน้ กำรปฏบิ ตั ิเชน่ นีก้ ็สำมำรถทำให้ต้นข้ำวทป่ี ลกู ให้ผลผลติ สูงในระดบั ท่ีนำ่ พอใจ กำรผลิตขำ้ วอนิ ทรียม์ ีขัน้ ตอนกำรปฏิบตั เิ ช่นเดยี วกับกำรผลิตขำ้ วโดยท่วั ไปจะแตกต่ำงกันท่ีต้อง หลีกเล่ยี งกำรใช้สำรเคมีสงั เครำะห์ในทุกข้ันตอนกำรผลติ จึงมขี ้อควรปฏบิ ตั ดิ ังนี้ 1. กำรเลือกพืน้ ทป่ี ลูก 2. กำรเลือกใช้พันธขุ์ ำ้ ว 3. กำรเตรียมเมล็ดพันธ์ขุ ้ำว 4. กำรเตรยี มดนิ
2 5. วิธีปลูก 6. กำรจัดกำรควำมอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ 7. ระบบกำรปลกู พชื 8. กำรควบคุมวัชพชื 9. กำรป้องกันกำจดั โรค แมลง และสตั ว์ศัตรพู ชื 10. กำรจดั กำรนำ้ 11. กำรเกบ็ เกีย่ ว กำรนวดและกำรลดควำมช้ืน 12. กำรเก็บรกั ษำขำ้ วเปลือก 13. กำรสี 14. กำรบรรจุหีบห่อเพ่ือกำรค้ำ ขนั้ ตอนกำรผลิตขำ้ วอนิ ทรยี ์ 1. กำรเลือกพื้นท่ีปลูก เลือกพื้นท่ีท่มี ีขนำดใหญ่ติดต่อกนั และมีควำมอดุ มสมบูรณ์ของดินโดยธรรมชำตคิ ่อนขำ้ งสงู ประกอบด้วย ธำตอุ ำหำรท่ีจำเป็นตอ่ กำรเจริญเติบโตของขำ้ วอย่ำงเพียงพอ มแี หล่งน้ำสำหรบั กำรเพำะปลูก ไม่ควรเป็นพ้ืนที่ที่ มีกำรใช้สำรเคมีในปริมำณมำกติดต่อกันเป็นเวลำนำน หรือมีกำรปนเป้ือนของสำรเคมีสูง และห่ำงจำกพ้ืนที่ท่ีมี กำรใช้สำรเคมีกำรเกษตรสำหรับเกษตรกรรำยย่อยท่ีมีพื้นที่ถือครองไม่มำกและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันควร รวมกลุ่มกนั เพือ่ ผลิตข้ำวอนิ ทรยี ์ 2. กำรเลอื กใช้พนั ธ์ุขำ้ ว พันธ์ุข้ำวที่ใช้ปลูกควรมีคุณสมบัติด้ำนกำรเจริญเติบโตเหมำะสมกับสภำพแวดล้อมในพ้ืนท่ีปลูก และให้ผล ผลิตได้ดีแม้ในสภำพดินที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ต้ำนทำนโรคและแมลงศัตรูข้ำว และมีคุณภำพเมล็ด ตรงกับควำมต้องกำรของผู้บริโภคข้ำวอินทรีย์ กำรผลติ ข้ำวอินทรียใ์ นปจั จุบันส่วนใหญ่ใช้พันธ์ุขำวดอกมะลิ 105 และ กข15 ซงึ่ ทง้ั สองพันธุเ์ ปน็ ขำ้ วทีม่ ีคณุ ภำพเมล็ดดีเปน็ พเิ ศษ 3. กำรเตรียมเมล็ดพันธ์ุข้ำว เลือกใช้เมล็ดพันธ์ุข้ำวที่ได้มำตรฐำนผลิตจำกแปลงผลิตเมล็ดพันธข์ุ ้ำวแบบเกษตรอนิ ทรยี ์ที่ได้รับกำรดูแล อย่ำงดี มีควำมงอกดี ผ่ำนกำรเก็บรักษำโดยไม่ใช้สำรเคมีสังเครำะห์ ปรำศจำกโรค แมลงและเมล็ดวัชพืช หำก จำเป็นต้องป้องกันโรคท่ีติดมำกับเมล็ดพันธุ์อนุโลมให้นำมำแช่ในสำรละลำยจุนสี (จุนสี 1 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร) เป็นเวลำนำน 20 ชว่ั โมง แล้วล้ำงด้วยนำ้ กอ่ นนำไปปลูก
3 4. กำรเตรยี มดิน วัตถุประสงค์หลักของกำรเตรียมดินคือสร้ำงสภำพท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกและกำรเจริญเติบโตของข้ำว ช่วยควบคุมวัชพืช โรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวบำงชนิด กำรเตรียมดินมำกหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติดิน สภำพแวดล้อมในแปลงนำกอ่ นปลูกและวิธกี ำรปลูก โดยไถดะ ไถแปร ครำด และทำเทือก 5. วธิ ีปลูก กำรปลูกข้ำวแบบปักดำจะเหมำะสมท่ีสุดกับกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ เพรำะกำรเตรียมดิน ทำเทือก กำร ควบคุมระดับน้ำในนำจะช่วยลดปริมำณวัชพืชได้และกำรปลูกกล้ำข้ำวลงดินจะช่วยให้ข้ำวสำมำรถแข่งขันกับ วัชพืชได้ ต้นกล้ำที่ใช้ปักดำควรมีอำยุประมำณ 30 วัน เลือกต้นกล้ำท่ีเจริญเติบโตแข็งแรงดี ปรำศจำกโรคและ แมลงทำลำย เน่ืองจำกในกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ต้องหลีกเลี่ยงกำรใช้สำรสังเครำะห์ทุกชนิดโดยเฉพำะปุ๋ยเคมี จึงแนะนำให้ใช้ ระยะปลกู ถี่กวำ่ ระยะปลูกที่แนะนำสำหรับปลกู ขำ้ วโดยท่วั ไปเล็กนอ้ ยคอื ระยะระหวำ่ งต้นและแถว ประมำณ 20 เซนติเมตร จำนวนต้นกล้ำ 3-5 ต้นต่อกอ และใช้ระยะปลูกแคบกว่ำนี้หำกดินนำมีควำมอุดมสมบูรณ์คอ่ นข้ำงต่ำ ในกรณีที่ต้องปลูกล่ำหรือปลูกหลังจำกช่วงเวลำปลูกที่เหมำะสมของข้ำวแต่ละพันธ์ุ และมีปัญหำเร่ืองกำรขำด แคลนแรงงำน แนะนำใหเ้ ปลี่ยนไปปลูกวิธีอนื่ ทีเ่ หมำะสม เชน่ หว่ำนข้ำวแหง้ หรอื หวำ่ นนำ้ ตม 6. กำรจัดกำรควำมอุดมสมบรู ณ์ของดนิ เน่อื งจำกกำรปลูกข้ำวอินทรียต์ ้องหลีกเลี่ยงกำรใชป้ ๋ยุ เคมี กำรเลือกพ้ืนท่ีปลกู ท่ีดินมคี วำมอุดมสมบรู ณส์ ูง ตำมธรรมชำติ จึงเป็นกำรเริ่มต้นที่ได้เปรียบ เพื่อที่จะรักษำระดับผลผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ท่ีน่ำพอใจ นอกจำกนี้ เกษตรกรยังต้องรู้จักกำรจัดกำรดินท่ีถูกต้อง และพยำยำมรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมำะสมกับกำร ปลูกข้ำวอินทรีย์ให้ได้ผลดีและยั่งยืนมำกที่สุด คำแนะนำเก่ียวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินสำหรับ กำรผลติ ขำ้ วอนิ ทรียส์ ำมำรถแบง่ ออกได้ ดงั นี้ 1) กำรจดั กำรดนิ มขี ้อแนะนำเกยี่ วกับกำรจัดกำรเพือ่ รักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดนิ ใหเ้ หมำะสมกับกำรใช้ปลูกขำ้ วอินทรียด์ งั นี้ -ไม่เผำตอซัง ฟำงข้ำว และเศษวัสดุอินทรีย์ในแปลงนำ เพรำะเป็นกำรทำลำยอินทรียวัตถุและ จุลินทรีย์ดินท่ีมี ประโยชน์ -ไม่นำช้ินส่วนของพืชท่ีไม่ใช้ประโยชน์โดยตรงออกจำกแปลงนำ แต่ควรนำวัสดุอินทรีย์จำกแหล่งใกล้เคียงใส่ แปลงนำใหส้ มำ่ เสมอทีละเล็กละนอ้ ย -เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินโดยกำรปลูกพืชโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัวในที่ว่ำงในบริเวณพ้ืนท่ีนำตำมควำมเหมำะสม แลว้ ใชอ้ ินทรียวัตถุที่เกิดขึ้นในระบบไรน่ ำให้เกดิ ประโยชน์ต่อกำรปลูกข้ำว-ไมค่ วรปล่อยที่ดินให้ว่ำงเปลำ่ ก่อนกำร ปลูกข้ำวและหลังจำกกำรเก็บเก่ียวข้ำว แต่ควรปลูกพืชบำรุงดินโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัว เช่น ถั่วเขียว ถั่วพร้ำ โสน เปน็ ตน้
4 - ควรวเิ ครำะห์ดนิ นำทกุ ปี แล้วแก้ไขภำวะควำมเป็นกรดเป็นด่ำงของดนิ ให้เหมำะสมกบั กำรเจริญเตบิ โตของตน้ ข้ำว (ประมำณ 5.5 – 6.5) ถ้ำพบว่ำดินมีควำมเป็นกรดสูงแนะนำให้ใช้ปูนมำร์ล ปูนขำว หรือขี้เถ้ำไม้ปรับปรุง สภำพดนิ 2) กำรใช้ปุ๋ยอนิ ทรยี ์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำติอย่ำงสม่ำเสมอ แต่เนื่องจำกปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชำติแทบทุกชนิดมีควำมเข้มข้น ของธำตุอำหำรค่อนข้ำงตำ่ จึงตอ้ งใช้ในปริมำณท่ีสูงมำก และอำจมไี มพ่ อเพยี งสำหรบั กำรปลูกข้ำวอนิ ทรีย์และถ้ำ หำกมกี ำรจัดกำรท่ีไม่เหมำะสมก็จะเป็นกำรเพิ่มต้นทุนกำรผลิต จึงแนะนำให้ใช้หลักกำรธรรมชำตทิ ี่ว่ำ “สร้ำงให้ เกิดขนึ้ ในพ้ืนที่ ใสท่ ีละเล็กทลี ะน้อยสม่ำเสมอเป็นประจำ” ปยุ๋ อินทรยี จ์ ำกธรรมชำตทิ ค่ี วรใช้ ไดแ้ ก่ -ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ได้แก่มูลสัตว์ต่ำง ๆ ซึ่งอำจนำมำจำกภำยนอก หรือจัดกำรผลิตขึ้นในบริเวณไร่นำ นอกจำกน้ีท้องนำในชนบทหลังจำกเก็บเกี่ยวข้ำวแล้วมักจะปล่อยให้เป็นท่ีเลี้ยงสัตว์โดยให้แทะเล็มตอซังและ หญำ้ ต่ำง ๆ มูลสตั วท์ ่ีถ่ำยออกมำปะปนกบั เศษซำกพชื ก็จะเปน็ กำรเพ่มิ อินทรยี วตั ถใุ นนำอกี ทำงหนึง่ -ปุ๋ยหมัก ควรจัดทำในพ้ืนท่ีนำหรือบริเวณที่อยู่ไม่ห่ำงจำกแปลงนำมำกนักเพื่อควำมสะดวกในกำรใช้ ควรใช้ เช้ือจุลินทรีย์ในกำรทำปุ๋ยหมักเพ่ือช่วยกำรย่อยสลำยได้เร็วข้ึน และเก็บรักษำให้ถูกต้องเพื่อลดกำรสูญเสียธำตุ อำหำร -ปุ๋ยพืชสด ควรเลือกชนิดที่เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมควรปลูกก่อนกำรปักดำข้ำวในระยะเวลำพอสมควร เพอื่ ให้ต้นปุ๋ยพืชสดมชี ่วงกำรเจริญเติบโตเพียงพอท่ีจะผลติ มวลพชื สดไดม้ ำก มีควำมเขม้ ข้นของธำตุไนโตรเจนสูง และไถกลบต้นปุ๋ยพืชสดก่อนกำรปลูกข้ำวตำมกำหนดเวลำ เช่น โสนอฟั ริกัน (Sesbania rostrata) ควรปลกู กอ่ น ปักดำประมำณ 70 วัน โดยใช้อัตรำเมล็ดพันธุ์ประมำณ 7 กโิ ลกรมั ต่อไร่ หำกจำเป็นต้องใช้ปยุ๋ ฟอสฟอรัสช่วยเร่ง กำรเจริญเติบโต แนะนำให้ใช้หินฟอสเฟตบดละเอียดใส่ตอนเตรียมดินปลูก แล้วไถกลบต้นโสนขณะมีอำยุ ประมำณ 50-55 วัน หรือกอ่ นกำรปักดำขำ้ วประมำณ 15 วนั -น้ำหมกั ชีวภำพ หรือน้ำสกัดชีวภำพ (Bio Extract) ควรให้ทำใช้เองจำกวัสดุเหลือใช้ในไร่นำ ในครัวเรือน นำมำหมักร่วมกับ กำกนำ้ ตำล(Mollass) หรือนำ้ ตำลทรำยแดงละลำยนำ้ แบ่งได้ 3 ประเภท ตำมวสั ดทุ ่ีนำใช้ ได้แก่ นำ้ สกัดจำกพืช ได้แกผ่ ักตำ่ งๆ ใบสะเดำ ตะไครห้ อม พืชสมนุ ไพรต่ำงๆ นำ้ สกดั จำกผลไม้ เศษผลไม้จำกครัวเรือน มะมว่ ง สับปะรด กล้วย มะละกอ ฟักทอง วธิ ที ำปยุ๋ น้ำหมกั น้ำหมักจำกสตั ว์ เกบ็ หอยเชอร่ี หรอื ปูนำ นำมำล้ำงนำ้ ให้สะอำด ไมม่ ีขี้โคลนติด ใส่ถงุ ปุย๋ ประมำณครึ่งถุง ใช้ไมต้ ี หรอื ทุบให้ เปลือกแตก อำจใช้ครกไม้หรือครกหินขนำดใหญ่ตำก็ได้ เพ่ือเวลำหมักกำกน้ำตำลจะได้สัมผัสกับเนื้อหอย หรือ เน้ือปูโดยตรง ช่ังน้ำหนักวัสดุที่ใช้เทใส่ภำชนะหรือถังหมัก ชั่งกำกน้ำตำล(Mollas)หนักเท่ำกับวัสดุที่ใช้ หรือ
5 อัตรำส่วนระหว่ำง หอยเชอร่หี รอื ปนู ำ:กำกนำ้ ตำล=1:1 โดยน้ำหนัก คนใหเ้ ข้ำกันดี ปิดฝำไมต่ อ้ งแนน่ เพือ่ ใหแ้ ก๊ซ ทเี่ กิดระหว่ำงกำรหมกั มีโอกำสถ่ำยเทได้สะดวก หมกั ไว้ 1 เดือน เตมิ น้ำสะอำดอีก 1 เท่ำ หรือใหท้ ่วมวัสดุ คนให้ เขำ้ กันดี หมักต่ออกี 1 เดอื น จงึ นำนำ้ หมักมำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรอื มุ้งลวด นำของเหลวที่ได้จำกกำรกรองมำ ใชป้ ระโยชน์ นำ้ หมักจำกพชื หรอื เศษวัสดุจำกพชื นำเศษวัสดุจำกพืช เช่น พืช ผัก วัชพืช(หญ้ำ) สับหยำบ ๆ ช่ังน้ำหนักแล้วเทใส่ภำชนะ หรือถังหมัก ชั่ง กำกน้ำตำล 1 ใน 3 ของน้ำหนักวัสดุ หรืออัตรำส่วนระหว่ำง ผัก:กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก เทลงผสมกัน ใช้ ไม้คนให้เข้ำกัน ปิดฝำไม่ต้องแน่น เพื่อให้แก๊สที่เกิดระหว่ำงกำรหมักถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำ สะอำดให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของน้ำในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักที่ได้มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวท่ีได้จำกกำรกรองมำใช้ประโยชน์ น้ำหมักผลไม้ (เช่น เปลือกสับปะรด มะละกอสุก กลว้ ยสุก มะมว่ งสุก ฟกั ทอง) มีวิธีทำเช่นเดียวกับ น้ำสกัดจำกพืช เศษผลไม้ ต้องไม่บูดเน่ำ เสียหำย หรือสกปรก อัตรำส่วนของ วัสดุ: กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก คนให้เข้ำกันดี ปิดฝำ หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของ ของเหลวในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักมำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวท่ีกรองได้มำ ใช้ประโยชน์ วิธีใช้น้ำหมักในนำขำ้ ว ครั้งท่ี 1 หลังทำเทือก ป้ันคันนำย่อยอุดรอยร่ัว หรือรอยแตกระแหง ป้องกันกำรรั่วซึมของน้ำหมัก แล้วนำน้ำ หมัก(แนะนำใหใ้ ช้น้ำหมักพืช)ท่ที ำขน้ึ อตั รำ 5 ลิตรตอ่ ไร่ ผสมน้ำเปลำ่ 10 เทำ่ รำดใหท้ ัว่ จงึ ปักดำข้ำว ครัง้ ที่ 2 ระยะข้ำวแตกกอหรอื หลังจำกปกั ดำข้ำวไปแล้ว 30 วัน ใช้น้ำหมัก(แนะนำให้ใช้น้ำหมักจำกเนอ้ื )อัตรำ 5 ลิตรต่อไร่ผสมนำ้ เปลำ่ เท่ำกันกบั คร้ังท่ี 1 รำดใหท้ ่วั ครัง้ ท่ี 3 ระยะข้ำวเรมิ่ ตงั้ ท้อง(แนะนำให้ใชน้ ำ้ หมักผลไม)้ อัตรำ 250 ซีซตี อ่ ไร่ ผสมนำ้ เปล่ำ 50 เท่ำพน่ ทวั่ แปลง คร้งั ท่ี 4 และ 5 ฉีดพ่นด้วยนำ้ หมักจำกผลไม้ หลงั จำกครัง้ ที่ 3 เป็นเวลำ 15 และ 30 วัน หมำยเหตุ แนะนำให้ใช้ร่วมกบั กำรไถกลบปยุ๋ พชื สด หรอื ใส่ปุ๋ยคอก 3) กำรใชอ้ ินทรียวตั ถบุ ำงอย่ำงทดแทนปยุ๋ เคมี หำกปฏิบัติตำมคำแนะนำเก่ียวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินข้ำงต้นแล้ว ยังพบว่ำดินมีควำม อุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอหรือขำดธำตุอำหำรที่สำคัญบำงชนิดไปสำมำรถนำอินทรียวัตถุจำกธรรมชำติต่อไปน้ี ทดแทนปยุ๋ เคมีบำงชนดิ ได้คอื -แหลง่ ธำตุไนโตรเจน เช่น แหนแดง สำหร่ำยสนี ้ำเงินแกมเขยี ว กำกเมลด็ สะเดำ และเลือดสัตวแ์ ห้ง เป็นตน้
6 -แหล่งธำตุฟอสฟอรัส เช่นหินฟอสเฟต กระดูกป่น มูลไก่ มูลค้ำงคำว กำกเมล็ดพืชขี้เถ้ำไม้ และสำหร่ำยทะเล เป็นตน้ -แหลง่ ธำตุโพแทสเซยี ม เช่น ขีเ้ ถ้ำ และหินปูนบำงชนิด -แหลง่ ธำตุแคลเซียม เช่น ปนู ขำว โดโลไมท์ เปลือกหอยป่น และกระดูกป่น เปน็ ตน้ 7. ระบบกำรปลูกพชื ปลกู ข้ำวอินทรียเ์ พยี งปีละคร้ัง โดยเลอื กชว่ งเวลำปลกู ท่ีเหมำะสมกบั ข้ำวแต่ละพันธุแ์ ละปลกู พชื หมนุ เวยี น โดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัวก่อนและหลังกำรปลูกข้ำว อำจปลูกข้ำวอินทรีย์ร่วมกับพืชตระกูลถ่ัวก็ได้ถ้ำ สภำพแวดลอ้ มเหมำะสม 8. กำรควบคุมวัชพืช แนะนำให้ควบคุมวัชพืชโดยวิธีกล เช่น กำรเตรียมดินท่ีเหมำะสม วิธีกำรทำนำที่ลดปัญหำวัชพืช กำรใช้ ระดับน้ำควบคุมวัชพืช กำรใช้วสั ดุคลุมดิน กำรถอนด้วยมือ วิธีเขตกรรมต่ำง ๆ กำรใช้เคร่ืองมือ รวมท้ังกำรปลูก พืชหมนุ เวยี น เป็นตน้ 9. กำรปอ้ งกนั กำจดั โรค แมลง และสตั ว์ศัตรพู ืช หลกั กำรสำคัญของกำรป้องกนั กำจดั โรค แมลงและสตั ว์ศัตรขู ้ำวในกำรผลิตข้ำวอนิ ทรยี ์มีดังน้ี 1) ใช้ขำ้ วพันธต์ุ ำ้ นทำน 2) กำรปฏิบัติดำ้ นเขตกรรม เชน่ กำรเตรยี มแปลง กำหนดช่วงเวลำปลกู ท่ีเหมำะสม ใช้อตั รำเมลด็ และระยะปลูกทเี่ หมำะสม กำรปลกู พชื หมนุ เวยี นเพ่ือตดั วงจรกำร ระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว กำรรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินและสมดุลของธำตุอำหำรพืช กำร จัดกำรน้ำ เพ่ือให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตดี สมบูรณ์และแข็งแรง สำมำรถลดกำรทำลำยของโรค แมลงและสัตว์ศัตรู ขำ้ วได้ส่วนหนึ่ง 3)จัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมกบั กำรระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว เช่น กำรกำจัดวชั พืช กำร กำจดั เศษซำกพชื ทเ่ี ปน็ โรคโดยใชป้ ูนขำว หรอื กำมะถนั ผงท่ีไมผ่ ำ่ นกระบวนกำรทำงเคมี 4) รักษำสมดุลทำงธรรมชำติ โดยส่งเสริมกำรแพร่ขยำยปรมิ ำณของแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ตวั ห้ำ ตัวเบียน และ ศัตรธู รรมชำตเิ พอ่ื ช่วยควบคมุ แมลงและสตั วศ์ ัตรขู ำ้ ว 5) ปลกู พืชขบั ไลแ่ มลงบนคนั นำ เช่น ตะไคร้หอม 6) หำกมคี วำมจำเปน็ อนุญำตใหใ้ ชส้ ำรสกดั จำกพืช เช่น สะเดำ ข่ำ ตะไครห้ อม และใบแคฝรัง่ เปน็ ตน้ 7) ใชว้ ธิ กี ล เชน่ ใช้แสงไฟล่อ ใชก้ บั ดกั และใชก้ ำวเหนยี ว 8) ในกรณีที่ใช้สำรเคมีกำจัดควรกระทำโดยทำงอ้อม เช่น นำไปผสมกับเหย่ือล่อในกับดักแมลงหรือใช้สำรพิษ กำจัดสัตว์ศัตรูข้ำว ซ่ึงจะต้องใช้อย่ำงระมัดระวัง และต้องกำจัดสำรเคมีที่เหลือรวมทั้งศัตรูข้ำวท่ีถูกทำลำยโดย เหย่อื พิษอย่ำงถกู วิธี หลังจำกปฏิบตั เิ สรจ็ แล้ว
7 10. กำรจดั กำรน้ำ ระดับน้ำมีควำมสัมพันธ์กับกำรเจริญเติบโตทำงลำต้นและกำรให้ผลผลิตของข้ำวโดยตรง ในระยะปักดำ จนถึงแตกกอถ้ำระดับน้ำสูงมำกจะทำให้ต้นข้ำวสูงเพ่ือหนีน้ำทำให้ต้นอ่อนแอและล้มง่ำย ในระยะน้ีควรรักษำ ระดับน้ำให้อยู่ที่ประมำณ 5 เซนติเมตร แต่ถ้ำต้นข้ำวขำดน้ำจะทำให้วัชพืชเติบโตแข่งขันกับต้นข้ำวได้ ดังนั้น ระดับน้ำท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกข้ำวอินทรีย์ ตลอดฤดูปลูกควรเก็บรักษำไว้ที่ปริมำณ 5-15 เซนติเมตร จนถึง ระยะก่อนเก็บเกี่ยวประมำณ 7-10 วัน จึงระบำยน้ำออกเพ่ือให้ข้ำวสุกแก่พร้อมกัน และพื้นท่ีนำแห้งพอเหมำะ ต่อกำรเกบ็ เกี่ยว 11. กำรเกบ็ เกย่ี ว กำรนวดและกำรลดควำมชนื้ เก็บเกี่ยวข้ำวหลังจำกออกดอก ประมำณ 28-30 วัน สังเกตจำกเมล็ดในรวงข้ำวสุกแก่เมล็ดเปลี่ยนเป็นสี ฟำง เรียกว่ำ ระยะพลับพลงึ 1).กำรเกี่ยวโดยใชเ้ คยี ว ตอ้ งตำกฟอ่ นขำ้ วในนำประมำณ 2-3 แดด แลว้ จึงรวมกอง ทำกำรนวดตอ่ ไป 2).กำรเก่ียวข้ำวโดยใช้รถเกี่ยวนวด เมล็ดข้ำวยังมีควำมช้ืนสูง ต้องตำกบนลำน ในสภำพที่แดดจัดเป็นเวลำ 1-2 วนั พลิกกลับเมลด็ ข้ำววนั ละ 3-4 ครั้ง ให้ควำมชื้นเหลือ 14 เปอรเ์ ซ็นต์ หรือต่ำกว่ำ เพื่อให้เหมำะสมต่อกำรเก็บ รักษำ และทำใหม้ คี ณุ ภำพกำรสีดี 12. กำรเกบ็ รักษำขำ้ วเปลือก เม่ือลดควำมชื้นใหต้ ่ำกว่ำ 14 เปอร์เซน็ ต์ แลว้ จึงนำเมล็ดข้ำวไปเก็บรักษำในยุ้งฉำงหรือใสใ่ นภำชนะที่แยก ต่ำงหำกจำกข้ำวทผี่ ลติ โดยวิธอี นื่ 13. กำรสี ต้องแยกสตี ่ำงหำกจำกข้ำวทัว่ ไป โดยทำกำรใช้ขำ้ วเปลือกอนิ ทรีย์สลี ำ้ งเครอ่ื ง 14. กำรบรรจุหีบหอ่ เพือ่ กำรค้ำ ควรบรรจุข้ำวกล้องหรือข้ำวสำรในถุงขนำดเล็กต้ังแต่ 1 กิโลกรัม ถึง 5 กิโลกรัม โดยบรรจุในสภำพ สญุ ญำกำศ จดุ เด่นของภมู ิปญั ญำ สำมำรถทำปุ๋ยน้ำชีวภำพและปุ๋ยหมักชีวภำพใช้เองได้โดยไม่ต้องพ่ึงสำรเคมีหรือยำปรำบศัตรูพืชส่ิงท่ี สำคัญที่สุดคอื ยดึ ม่นั ในกำรปลกู ข้ำวอินทรยี ป์ ลอดสำรและนอ้ มนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ในกำร ดำเนินชีวิตประจำวัน -เป็นวิทยำกรถ่ำยทอดควำมรู้
8 วัตถุดิบทใ่ี ช้ประโยชนใ์ นผลิตภัณฑท์ ี่เกิดจำกภูมิปัญญำ ซง่ึ พน้ื ท่ีอ่ืนไม่มี - หอยเชอร่ี หรือปนู ำ - เศษวัสดจุ ำกพชื เช่น พชื ผกั วชั พชื (หญำ้ ) รำยละเอยี ดของภูมิปญั ญำท้องถิ่น - รปู แบบในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ ด้ำนกำรศึกษำดูงำน ด้ำนกำรอบรมให้ควำมรู้ ฝึกปฏิบัติ ในพ้ืนท่ีจริง ประโยชนท์ ไี่ ดจ้ ำกภูมปิ ัญญำคือสำมำรถนำไปปฏบิ ัติจริงได้ รูปแบบและลักษณะกำรถำ่ ยทอด กำรประชำสัมพันธ์ เผยแพร่ภมู ปิ ัญญำท้องถน่ิ ยงั ไมเ่ คยมีกำรเผยแพร่/ใช้เฉพำะบุคคล √ เคยเผยแพร่เฉพำะในชมุ ชน มกี ำรเผยแพร่ผ่ำนสอ่ื มวลชนและสอ่ื อ่นื อยำ่ งแพรห่ ลำย มกี ำรดงู ำนจำกบคุ คลภำยนอก จำนวน .......ครงั้ จำนวน............คน มกี ำรนำไปใช้ อนื่ ๆ (ระบุ) ลักษณะของภูมิปัญญำทอ้ งถิน่ กำรพัฒนำต่อยอดภมู ปิ ญั ญำให้เป็นนวัตกรรม คณุ คำ่ (มลู ค่ำ) และควำมภำคภมู ใิ จ ภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ /นวตั กรรมท่คี ิดคน้ ขึน้ มำใหม่ ภมู ปิ ัญญำท้องถ่นิ ดง้ั เดิมไดร้ บั กำรถ่ำยทอดมำจำก √ ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่นิ ทไ่ี ดพ้ ัฒนำและต่อยอด กำรพัฒนำต่อยอดคือ มีกำรไปศกึ ษำดงู ำนตำมสถำนท่ีที่มกี ำรพัฒนำเทคโนโลยีหรือหลักสูตรใหม่ท่ี แตกต่ำงจำกเดิมและทันต่อยุคสมัยเข้ำรับกำรอบรมตำมหน่วยงำนต่ำงๆ เพ่ือนำมำปรับปรุงแก้ไข้และพัฒนำ ตนเองอย่ำงสมำ่ เสมอ
9 ภำพถ่ำยบุคคล และอปุ กรณ/์ เคร่อื งมอื /ส่ิงทป่ี ระดษิ ฐ์ (ช้ินงำนหรอื ผลงำน) รปู ภำพภูมปิ ัญญำ นำยสวสั ด์ิ เอือ้ จนุ้ เป็นวิทยำกรในกำรฝึกอบรม ผลิตภัณฑข์ ้ำวหอมมะลิ ศจช.ตำบลหนองกบ ใบรับรองผลิตภณั ฑ์
10 แบบบันทกึ ชดุ ขอ้ มูลคลังปัญญำ-ภูมิปญั ญำท้องถน่ิ ตำบล หนองกบ อำเภอ บ้ำนโป่ง จังหวัด รำชบุรี ชอ่ื ภูมิปัญญำ กำรปลกู ข้ำวอินทรยี ์กำรเลี้ยงวัว ขอ้ มูลพ้ืนฐำน รำยบคุ คล เจ้ำของภมู ิปัญญำทอ้ งถนิ่ /บุคคลคลงั ปญั ญำ ชือ่ นำยพล นำมสกลุ ทองอ่อน วนั เดือนปีเกดิ 2498 ที่อยู่ปัจจุบนั (ทสี่ ำมำรถตดิ ต่อได้) บ้ำนเลขท่ี 70 หม่ทู ่ี 8 ตำบล/แขวง หนองกบ อำเภอ/เขต บ้ำนโป่ง จงั หวดั รำชบุรี รหัสไปรณยี ์ 70110 โทรศัพท์ 089-9133408 พิกดั ทำงภูมศิ ำสตร์ ค่ำ X: 13.500785 ค่ำY: 99.551475 ควำมเป็นมำของภมู ิปัญญำ กำรผลิตขำ้ วอินทรีย์ เปน็ ระบบกำรผลติ ข้ำวที่ไมใ่ ชส้ ำรเคมีทำงกำรเกษตรทกุ ชนิดเป็นต้นว่ำ ปุ๋ยเคมี สำร ควบคุมกำรเจริญเติบโต สำรควบคุมและกำจัดวัชพืช สำรป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว ตลอดจน สำรเคมีที่ใช้รมเพ่ือป้องกนั กำจัดแมลงศตั รขู ้ำวในโรงเกบ็ กำรผลิตข้ำวอินทรียน์ อกจำกจะทำให้ได้ผลผลิตข้ำวท่ีมี คุณภำพสูงและปลอดภัยจำกสำรพิษแล้ว ยังเป็นกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและเป็นกำรพัฒนำกำรเกษตร แบบยั่งยืนอีกด้วยกำรผลิตข้ำวอินทรีย์เป็นระบบกำรผลิตทำงกำรเกษตรท่ีเน้นเร่ืองของธรรมชำติเป็นสำคัญ ได้แก่ กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ กำรฟ้ืนฟูควำมอุดมสมบูรณ์ของธรรมชำติ กำรรักษำสมดุลธรรมชำติและ กำรใช้ประโยชน์จำกธรรมชำติ เพ่ือกำรผลิตอย่ำงยง่ั ยืน เช่น ปรบั ปรุงควำมอุดมสมบูรณ์ของดินโดยกำรปลูกพืช หมุนเวียน กำรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นำหรอื จำกแหล่งอ่ืน ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวโดยวิธีผสมผสำนท่ีไม่ ใช้สำรเคมี กำรเลือกใช้พันธุ์ข้ำวท่ีเหมำะสมมีควำมต้ำนทำนโดยธรรมชำติ รักษำสมดุลของศัตรูธรรมชำติ กำร จัดกำรพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมำะสมกับควำมต้องกำรของต้นข้ำว เพื่อทำให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตได้ดี มี ควำมสมบูรณ์แข็งแรงตำมธรรมชำติ กำรจัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมต่อกำรระบำดของโรค แมลงและ สตั ว์ศัตรขู ้ำว เป็นตน้ กำรปฏิบัตเิ ช่นนี้ก็สำมำรถทำให้ต้นขำ้ วทป่ี ลูกให้ผลผลิตสงู ในระดบั ที่น่ำพอใจ กำรผลติ ขำ้ วอินทรยี ม์ ีขั้นตอนกำรปฏบิ ัติเช่นเดียวกับกำรผลติ ขำ้ วโดยทว่ั ไปจะแตกตำ่ งกันทีต่ ้อง หลกี เลย่ี งกำรใช้สำรเคมสี ังเครำะห์ในทุกขนั้ ตอนกำรผลติ จึงมขี ้อควรปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. กำรเลอื กพ้ืนทีป่ ลูก 2. กำรเลอื กใช้พนั ธ์ขุ ำ้ ว 3. กำรเตรยี มเมล็ดพันธขุ์ ้ำว
11 4. กำรเตรียมดิน 5. วธิ ปี ลกู 6. กำรจัดกำรควำมอดุ มสมบูรณข์ องดิน 7. ระบบกำรปลูกพชื 8. กำรควบคุมวัชพชื 9. กำรป้องกันกำจดั โรค แมลง และสตั ว์ศตั รพู ืช 10. กำรจัดกำรนำ้ 11. กำรเก็บเกยี่ ว กำรนวดและกำรลดควำมช้ืน 12. กำรเก็บรักษำขำ้ วเปลือก 13. กำรสี 14. กำรบรรจหุ ีบห่อเพ่ือกำรค้ำ ขนั้ ตอนกำรผลิตข้ำวอินทรยี ์ 1. กำรเลือกพน้ื ท่ีปลกู เลือกพ้ืนที่ทีม่ ีขนำดใหญ่ตดิ ตอ่ กัน และมีควำมอดุ มสมบูรณ์ของดินโดยธรรมชำติค่อนขำ้ งสูง ประกอบด้วย ธำตุอำหำรท่ีจำเป็นตอ่ กำรเจริญเติบโตของข้ำวอย่ำงเพยี งพอ มีแหล่งน้ำสำหรบั กำรเพำะปลูก ไม่ควรเปน็ พ้ืนท่ีที่ มีกำรใช้สำรเคมีในปริมำณมำกติดต่อกันเป็นเวลำนำน หรือมีกำรปนเปื้อนของสำรเคมีสูง และห่ำงจำกพ้ืนที่ที่มี กำรใช้สำรเคมีกำรเกษตรสำหรับเกษตรกรรำยย่อยท่ีมีพื้นที่ถือครองไม่มำกและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันควร รวมกล่มุ กนั เพอ่ื ผลิตข้ำวอนิ ทรยี ์ 2. กำรเลือกใช้พนั ธ์ุข้ำว พันธุ์ข้ำวที่ใช้ปลูกควรมีคุณสมบัติด้ำนกำรเจริญเติบโตเหมำะสมกับสภำพแวดล้อมในพ้ืนท่ีปลูก และให้ผล ผลิตได้ดีแม้ในสภำพดินท่ีมีควำมอุดมสมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ต้ำนทำนโรคและแมลงศัตรูข้ำว และมีคุณภำพเมล็ด ตรงกับควำมต้องกำรของผู้บรโิ ภคข้ำวอินทรีย์ กำรผลิตข้ำวอินทรียใ์ นปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้พันธ์ุขำวดอกมะลิ 105 และ กข15 ซ่งึ ท้ังสองพันธุเ์ ปน็ ข้ำวท่มี คี ุณภำพเมล็ดดเี ปน็ พเิ ศษ 3. กำรเตรียมเมลด็ พันธข์ุ ้ำว เลือกใชเ้ มล็ดพันธุ์ข้ำวที่ได้มำตรฐำนผลิตจำกแปลงผลิตเมล็ดพันธ์ุข้ำวแบบเกษตรอินทรยี ์ที่ได้รับกำรดูแล อย่ำงดี มีควำมงอกดี ผ่ำนกำรเก็บรักษำโดยไม่ใช้สำรเคมีสังเครำะห์ ปรำศจำกโรค แมลงและเมล็ดวัชพืช หำก จำเป็นต้องป้องกันโรคท่ีติดมำกับเมล็ดพันธ์ุอนุโลมให้นำมำแช่ในสำรละลำยจุนสี (จุนสี 1 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร) เปน็ เวลำนำน 20 ช่ัวโมง แลว้ ล้ำงด้วยน้ำก่อนนำไปปลกู
12 4. กำรเตรยี มดิน วัตถุประสงค์หลักของกำรเตรียมดินคือสร้ำงสภำพท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกและกำรเจริญเติบโตของข้ำว ช่วยควบคุมวัชพืช โรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวบำงชนิด กำรเตรียมดินมำกหรือน้อยข้ึนอยู่กับคุณสมบัติดิน สภำพแวดลอ้ มในแปลงนำกอ่ นปลูกและวิธกี ำรปลูก โดยไถดะ ไถแปร ครำด และทำเทอื ก 5. วิธีปลกู กำรปลูกข้ำวแบบปักดำจะเหมำะสมท่ีสุดกับกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ เพรำะกำรเตรียมดิน ทำเทือก กำร ควบคุมระดับน้ำในนำจะช่วยลดปริมำณวัชพืชได้และกำรปลูกกล้ำข้ำวลงดินจะช่วยให้ข้ำวสำมำรถแข่งขันกับ วัชพืชได้ ต้นกล้ำท่ีใช้ปักดำควรมีอำยุประมำณ 30 วัน เลือกต้นกล้ำท่ีเจริญเติบโตแข็งแรงดี ปรำศจำกโรคและ แมลงทำลำย เนื่องจำกในกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ต้องหลีกเลี่ยงกำรใช้สำรสังเครำะห์ทุกชนิดโดยเฉพำะปุ๋ยเคมี จึงแนะนำให้ใช้ ระยะปลูกถ่ีกว่ำระยะปลูกทแี่ นะนำสำหรับปลูกข้ำวโดยทว่ั ไปเลก็ น้อยคอื ระยะระหวำ่ งตน้ และแถว ประมำณ 20 เซนติเมตร จำนวนต้นกล้ำ 3-5 ต้นต่อกอ และใช้ระยะปลูกแคบกว่ำน้ีหำกดินนำมีควำมอุดมสมบูรณ์คอ่ นข้ำงต่ำ ในกรณีที่ต้องปลูกล่ำหรือปลูกหลังจำกช่วงเวลำปลูกท่ีเหมำะสมของข้ำวแต่ละพันธุ์ และมีปัญหำเร่ืองกำรขำด แคลนแรงงำน แนะนำให้เปลีย่ นไปปลกู วธิ ีอนื่ ที่เหมำะสม เชน่ หว่ำนข้ำวแห้ง หรอื หว่ำนนำ้ ตม 6. กำรจัดกำรควำมอดุ มสมบรู ณ์ของดิน เนื่องจำกกำรปลูกข้ำวอนิ ทรีย์ต้องหลีกเล่ียงกำรใชป้ ุย๋ เคมี กำรเลือกพื้นที่ปลูกทด่ี ินมคี วำมอุดมสมบรู ณ์สูง ตำมธรรมชำติ จึงเป็นกำรเริ่มต้นที่ได้เปรียบ เพ่ือที่จะรักษำระดับผลผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่ำพอใจ นอกจำกน้ี เกษตรกรยังต้องรู้จักกำรจัดกำรดินที่ถูกต้อง และพยำยำมรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมำะสมกับกำร ปลูกข้ำวอินทรีย์ให้ได้ผลดีและยั่งยืนมำกท่ีสุด คำแนะนำเกี่ยวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินสำหรับ กำรผลติ ขำ้ วอนิ ทรียส์ ำมำรถแบ่งออกได้ ดังนี้ 1) กำรจดั กำรดิน มีข้อแนะนำเก่ียวกบั กำรจดั กำรเพ่ือรักษำควำมอุดมสมบรู ณ์ของดินให้เหมำะสมกับกำรใชป้ ลกู ข้ำวอินทรยี ์ดงั นี้ -ไม่เผำตอซัง ฟำงข้ำว และเศษวัสดุอินทรีย์ในแปลงนำ เพรำะเป็นกำรทำลำยอินทรียวัตถุและ จุลินทรีย์ดินที่มี ประโยชน์ -ไม่นำชิ้นส่วนของพืชท่ีไม่ใช้ประโยชน์โดยตรงออกจำกแปลงนำ แต่ควรนำวัสดุอินทรีย์จำกแหล่งใกล้เคียงใส่ แปลงนำใหส้ ม่ำเสมอทลี ะเล็กละน้อย -เพ่ิมอินทรียวัตถุให้กบั ดินโดยกำรปลูกพืชโดยเฉพำะพืชตระกูลถั่วในท่ีว่ำงในบริเวณพื้นที่นำตำมควำมเหมำะสม แลว้ ใชอ้ ินทรียวัตถุท่เี กิดข้ึนในระบบไรน่ ำให้เกดิ ประโยชน์ต่อกำรปลกู ข้ำว-ไมค่ วรปลอ่ ยทด่ี ินให้ว่ำงเปลำ่ ก่อนกำร
13 ปลูกข้ำวและหลังจำกกำรเก็บเกี่ยวข้ำว แต่ควรปลูกพืชบำรุงดินโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัว เช่น ถ่ัวเขียว ถ่ัวพร้ำ โสน เป็นตน้ - ควรวเิ ครำะหด์ ินนำทุกปี แลว้ แก้ไขภำวะควำมเป็นกรดเป็นด่ำงของดนิ ให้เหมำะสมกบั กำรเจรญิ เติบโตของต้น ข้ำว (ประมำณ 5.5 – 6.5) ถ้ำพบว่ำดินมีควำมเป็นกรดสูงแนะนำให้ใช้ปูนมำร์ล ปูนขำว หรือข้ีเถ้ำไม้ปรับปรุง สภำพดนิ 2) กำรใช้ปยุ๋ อินทรีย์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำติอย่ำงสม่ำเสมอ แต่เน่ืองจำกปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชำติแทบทุกชนิดมีควำมเข้มข้น ของธำตุอำหำรค่อนข้ำงต่ำ จึงตอ้ งใชใ้ นปริมำณที่สูงมำก และอำจมีไม่พอเพยี งสำหรับกำรปลูกข้ำวอนิ ทรยี ์และถ้ำ หำกมีกำรจัดกำรที่ไม่เหมำะสมกจ็ ะเป็นกำรเพิ่มต้นทุนกำรผลิต จงึ แนะนำให้ใช้หลักกำรธรรมชำตทิ ่ีว่ำ “สร้ำงให้ เกดิ ขน้ึ ในพนื้ ท่ี ใสท่ ลี ะเลก็ ทีละนอ้ ยสมำ่ เสมอเปน็ ประจำ” ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำตทิ ค่ี วรใช้ ไดแ้ ก่ -ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ได้แก่มูลสัตว์ต่ำง ๆ ซ่ึงอำจนำมำจำกภำยนอก หรือจัดกำรผลิตข้ึนในบริเวณไร่นำ นอกจำกนี้ท้องนำในชนบทหลังจำกเก็บเก่ียวข้ำวแล้วมักจะปล่อยให้เป็นที่เล้ียงสัตว์โดยให้แทะเล็มตอซังและ หญ้ำต่ำง ๆ มลู สตั วท์ ถี่ ำ่ ยออกมำปะปนกบั เศษซำกพืช ก็จะเปน็ กำรเพ่ิมอินทรียวตั ถุในนำอกี ทำงหนึ่ง -ปุ๋ยหมัก ควรจัดทำในพ้ืนท่ีนำหรือบริเวณท่ีอยู่ไม่ห่ำงจำกแปลงนำมำกนักเพ่ือควำมสะดวกในกำรใช้ ควรใช้ เชื้อจุลินทรีย์ในกำรทำปุ๋ยหมักเพ่ือช่วยกำรย่อยสลำยได้เร็วข้ึน และเก็บรักษำให้ถูกต้องเพื่อลดกำรสูญ เสียธำตุ อำหำร -ปุ๋ยพืชสด ควรเลือกชนิดท่ีเหมำะสมกับสภำพแวดล้อมควรปลูกก่อนกำรปักดำข้ำวในระยะเวลำพอสมควร เพื่อให้ต้นปุ๋ยพืชสดมีช่วงกำรเจรญิ เตบิ โตเพียงพอท่ีจะผลิตมวลพืชสดไดม้ ำก มคี วำมเข้มข้นของธำตไุ นโตรเจนสูง และไถกลบต้นป๋ยุ พืชสดก่อนกำรปลกู ข้ำวตำมกำหนดเวลำ เช่น โสนอฟั รกิ ัน (Sesbania rostrata) ควรปลูกก่อน ปกั ดำประมำณ 70 วัน โดยใช้อัตรำเมล็ดพันธปุ์ ระมำณ 7 กิโลกรมั ต่อไร่ หำกจำเป็นต้องใช้ปยุ๋ ฟอสฟอรัสช่วยเร่ง กำรเจริญเติบโต แนะนำให้ใช้หินฟอสเฟตบดละเอียดใส่ตอนเตรียมดินปลูก แล้วไถกลบต้นโสนขณะมีอำยุ ประมำณ 50-55 วนั หรือก่อนกำรปกั ดำข้ำวประมำณ 15 วัน -นำ้ หมกั ชีวภำพ หรือน้ำสกัดชีวภำพ (Bio Extract) ควรให้ทำใช้เองจำกวัสดุเหลือใช้ในไร่นำ ในครัวเรือน นำมำหมักร่วมกับ กำกนำ้ ตำล(Mollass) หรือน้ำตำลทรำยแดงละลำยนำ้ แบ่งได้ 3 ประเภท ตำมวัสดุทน่ี ำใช้ ไดแ้ ก่ นำ้ สกดั จำกพืช ไดแ้ ก่ผกั ต่ำงๆ ใบสะเดำ ตะไคร้หอม พืชสมุนไพรตำ่ งๆ น้ำสกดั จำกผลไม้ เศษผลไมจ้ ำกครวั เรือน มะมว่ ง สับปะรด กลว้ ย มะละกอ ฟกั ทอง
14 วิธที ำป๋ยุ น้ำหมกั น้ำหมกั จำกสัตว์ เกบ็ หอยเชอรี่ หรือปูนำ นำมำล้ำงน้ำให้สะอำด ไม่มขี ี้โคลนติด ใสถ่ งุ ปุ๋ยประมำณคร่ึงถุง ใชไ้ ม้ตี หรือทบุ ให้ เปลือกแตก อำจใช้ครกไม้หรือครกหินขนำดใหญ่ตำก็ได้ เพ่ือเวลำหมักกำกน้ำตำลจะได้สัมผัสกับเน้ือหอย หรือ เนื้อปูโดยตรง ชั่งน้ำหนักวัสดุท่ีใช้เทใส่ภำชนะหรือถังหมัก ชั่งกำกน้ำตำล(Mollas)หนักเท่ำกับวัสดุท่ีใช้ หรือ อัตรำสว่ นระหวำ่ ง หอยเชอร่ีหรอื ปนู ำ:กำกนำ้ ตำล=1:1 โดยน้ำหนกั คนใหเ้ ข้ำกนั ดี ปิดฝำไมต่ ้องแน่น เพือ่ ให้แก๊ซ ท่ีเกิดระหว่ำงกำรหมกั มโี อกำสถ่ำยเทได้สะดวก หมกั ไว้ 1 เดือน เตมิ นำ้ สะอำดอีก 1 เท่ำ หรือให้ท่วมวัสดุ คนให้ เข้ำกนั ดี หมักต่ออกี 1 เดอื น จึงนำน้ำหมักมำกรองโดยตำขำ่ ยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวทไี่ ด้จำกกำรกรองมำ ใชป้ ระโยชน์ นำ้ หมกั จำกพชื หรือเศษวัสดุจำกพืช นำเศษวัสดุจำกพืช เช่น พืช ผัก วัชพืช(หญ้ำ) สับหยำบ ๆ ชั่งน้ำหนักแล้วเทใส่ภำชนะ หรือถังหมัก ชั่ง กำกน้ำตำล 1 ใน 3 ของน้ำหนักวัสดุ หรืออัตรำส่วนระหว่ำง ผัก:กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก เทลงผสมกัน ใช้ ไม้คนให้เข้ำกัน ปิดฝำไม่ต้องแน่น เพ่ือให้แก๊สที่เกิดระหว่ำงกำรหมักถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำ สะอำดให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของน้ำในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักที่ได้มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวที่ได้จำกกำรกรองมำใช้ประโยชน์ น้ำหมักผลไม้ (เช่น เปลือกสับปะรด มะละกอสุก กล้วยสุก มะม่วงสุก ฟักทอง) มีวิธีทำเช่นเดียวกับ น้ำสกัดจำกพืช เศษผลไม้ ต้องไม่บูดเน่ำ เสียหำย หรือสกปรก อัตรำส่วนของวัสดุ: กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก คนให้เข้ำกันดี ปิดฝำ หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของ ของเหลวในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักมำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวที่กรองได้มำ ใชป้ ระโยชน์ วธิ ใี ชน้ ำ้ หมักในนำข้ำว คร้ังที่ 1 หลังทำเทือก ป้ันคันนำย่อยอุดรอยรั่ว หรือรอยแตกระแหง ป้องกันกำรรั่วซึมของน้ำหมัก แล้วนำน้ำ หมัก(แนะนำใหใ้ ชน้ ้ำหมักพชื )ที่ทำขึ้น อตั รำ 5 ลติ รตอ่ ไร่ ผสมน้ำเปล่ำ 10 เทำ่ รำดให้ทว่ั จึงปกั ดำข้ำว ครง้ั ท่ี 2 ระยะขำ้ วแตกกอหรอื หลังจำกปักดำขำ้ วไปแล้ว 30 วัน ใช้น้ำหมัก(แนะนำให้ใชน้ ้ำหมักจำกเนอ้ื )อตั รำ 5 ลิตรตอ่ ไรผ่ สมนำ้ เปลำ่ เท่ำกันกบั ครง้ั ท่ี 1 รำดให้ทัว่ คร้งั ท่ี 3 ระยะขำ้ วเร่มิ ตัง้ ท้อง(แนะนำให้ใชน้ ำ้ หมักผลไม้)อตั รำ 250 ซีซีตอ่ ไร่ ผสมน้ำเปล่ำ 50 เท่ำพ่นทัว่ แปลง คร้งั ท่ี 4 และ 5 ฉีดพ่นดว้ ยน้ำหมักจำกผลไม้ หลงั จำกครงั้ ท่ี 3 เป็นเวลำ 15 และ 30 วนั หมำยเหตุ แนะนำใหใ้ ชร้ ว่ มกบั กำรไถกลบป๋ยุ พชื สด หรือใสป่ ุ๋ยคอก 3) กำรใชอ้ นิ ทรียวตั ถุบำงอยำ่ งทดแทนป๋ยุ เคมี
15 หำกปฏิบัติตำมคำแนะนำเกี่ยวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินข้ำงต้นแล้ว ยังพบว่ำดินมีควำม อุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอหรือขำดธำตุอำหำรที่สำคัญบำงชนิดไปสำมำรถนำอินทรียวัตถุจำกธรรมชำติต่อไปนี้ ทดแทนปุ๋ยเคมบี ำงชนดิ ไดค้ อื -แหลง่ ธำตไุ นโตรเจน เช่น แหนแดง สำหร่ำยสนี ้ำเงินแกมเขียว กำกเมลด็ สะเดำ และเลอื ดสัตวแ์ ห้ง เป็นตน้ -แหล่งธำตุฟอสฟอรัส เช่นหินฟอสเฟต กระดูกป่น มูลไก่ มูลค้ำงคำว กำกเมล็ดพืชขี้เถ้ำไม้ และสำหร่ำยทะเล เปน็ ต้น -แหล่งธำตโุ พแทสเซยี ม เชน่ ข้เี ถ้ำ และหนิ ปูนบำงชนดิ -แหล่งธำตแุ คลเซยี ม เชน่ ปนู ขำว โดโลไมท์ เปลอื กหอยป่น และกระดูกป่น เป็นตน้ 7. ระบบกำรปลูกพืช ปลกู ข้ำวอินทรีย์เพยี งปลี ะครัง้ โดยเลอื กชว่ งเวลำปลกู ที่เหมำะสมกับข้ำวแต่ละพันธุ์และปลูกพืชหมนุ เวยี น โดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัวก่อนและหลังกำรปลูกข้ำว อำจปลูกข้ำวอินทรีย์ร่วมกับพืชตระกูลถั่วก็ได้ถ้ำ สภำพแวดลอ้ มเหมำะสม 8. กำรควบคมุ วัชพชื แนะนำให้ควบคุมวัชพืชโดยวิธีกล เช่น กำรเตรียมดินที่เหมำะสม วิธีกำรทำนำท่ีลดปัญหำวัชพืช กำรใช้ ระดบั น้ำควบคุมวัชพชื กำรใช้วสั ดุคลุมดิน กำรถอนด้วยมือ วิธีเขตกรรมต่ำง ๆ กำรใช้เครื่องมือ รวมทั้งกำรปลูก พชื หมนุ เวยี น เปน็ ตน้ 9. กำรปอ้ งกันกำจัดโรค แมลง และสัตว์ศัตรูพชื หลักกำรสำคัญของกำรป้องกันกำจัดโรค แมลงและสตั วศ์ ัตรูข้ำวในกำรผลติ ข้ำวอนิ ทรียม์ ีดังน้ี 1) ใช้ขำ้ วพนั ธตุ์ ำ้ นทำน 2) กำรปฏิบัติดำ้ นเขตกรรม เช่น กำรเตรยี มแปลง กำหนดช่วงเวลำปลกู ที่เหมำะสม ใชอ้ ตั รำเมล็ดและระยะปลูกท่ีเหมำะสม กำรปลกู พืชหมนุ เวยี นเพื่อตดั วงจรกำร ระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว กำรรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินและสมดุลของธำตุอำหำรพืช กำร จัดกำรน้ำ เพ่ือให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตดี สมบูรณ์และแข็งแรง สำมำรถลดกำรทำลำยของโรค แมลงและสัตว์ศัตรู ขำ้ วไดส้ ว่ นหนึ่ง 3)จัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมกับกำรระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรขู ้ำว เช่น กำรกำจัดวชั พืช กำร กำจดั เศษซำกพืชทเี่ ปน็ โรคโดยใชป้ นู ขำว หรือกำมะถันผงทไี่ ม่ผำ่ นกระบวนกำรทำงเคมี 4) รักษำสมดุลทำงธรรมชำติ โดยส่งเสริมกำรแพร่ขยำยปริมำณของแมลงท่ีมปี ระโยชน์ เชน่ ตวั ห้ำ ตัวเบยี น และ ศัตรธู รรมชำตเิ พอ่ื ช่วยควบคุมแมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว 5) ปลูกพชื ขับไล่แมลงบนคนั นำ เช่น ตะไคร้หอม 6) หำกมคี วำมจำเป็นอนุญำตใหใ้ ชส้ ำรสกดั จำกพชื เช่น สะเดำ ขำ่ ตะไครห้ อม และใบแคฝรง่ั เป็นตน้
16 7) ใช้วิธกี ล เชน่ ใช้แสงไฟล่อ ใช้กับดกั และใช้กำวเหนยี ว 8) ในกรณีท่ีใช้สำรเคมีกำจัดควรกระทำโดยทำงอ้อม เช่น นำไปผสมกับเหยื่อล่อในกับดักแมลงหรือใช้สำรพิษ กำจัดสัตว์ศัตรูข้ำว ซึ่งจะต้องใช้อย่ำงระมัดระวัง และต้องกำจัดสำรเคมีที่เหลือรวมทั้งศัตรูข้ำวท่ีถูกทำลำยโดย เหยอื่ พิษอยำ่ งถกู วธิ ี หลงั จำกปฏบิ ตั ิเสร็จแล้ว 10. กำรจัดกำรนำ้ ระดับน้ำมีควำมสัมพันธ์กับกำรเจริญเติบโตทำงลำต้นและกำรให้ผลผลิตของข้ำวโดยตรง ในระยะปักดำ จนถึงแตกกอถ้ำระดับน้ำสูงมำกจะทำให้ต้นข้ำวสูงเพื่อหนีน้ำทำให้ต้นอ่อนแอและล้มง่ำย ในระยะนี้ควรรักษำ ระดับน้ำให้อยู่ท่ีประมำณ 5 เซนติเมตร แต่ถ้ำต้นข้ำวขำดน้ำจะทำให้วัชพืชเติบโตแข่งขันกับต้นข้ำวได้ ดังน้ัน ระดับน้ำที่เหมำะสมต่อกำรปลูกข้ำวอินทรีย์ ตลอดฤดูปลูกควรเก็บรักษำไว้ท่ีปริมำณ 5-15 เซนติเมตร จนถึง ระยะก่อนเก็บเก่ียวประมำณ 7-10 วัน จึงระบำยน้ำออกเพื่อให้ข้ำวสุกแก่พร้อมกัน และพ้ืนที่นำแห้งพอเหมำะ ตอ่ กำรเก็บเกีย่ ว 11. กำรเก็บเกี่ยว กำรนวดและกำรลดควำมชืน้ เก็บเกี่ยวข้ำวหลังจำกออกดอก ประมำณ 28-30 วัน สังเกตจำกเมล็ดในรวงข้ำวสุกแก่เมล็ดเปลี่ยนเป็นสี ฟำง เรยี กวำ่ ระยะพลับพลงึ 1).กำรเกี่ยวโดยใช้เคยี ว ต้องตำกฟ่อนข้ำวในนำประมำณ 2-3 แดด แลว้ จึงรวมกอง ทำกำรนวดต่อไป 2).กำรเกี่ยวข้ำวโดยใช้รถเกี่ยวนวด เมล็ดข้ำวยังมีควำมชื้นสูง ต้องตำกบนลำน ในสภำพที่แดดจัดเป็นเวลำ 1-2 วัน พลิกกลับเมล็ดข้ำววนั ละ 3-4 ครั้ง ให้ควำมช้ืนเหลือ 14 เปอรเ์ ซ็นต์ หรือต่ำกว่ำ เพ่ือให้เหมำะสมต่อกำรเก็บ รักษำ และทำให้มคี ุณภำพกำรสีดี 12. กำรเกบ็ รกั ษำข้ำวเปลือก เมอ่ื ลดควำมชื้นใหต้ ่ำกว่ำ 14 เปอรเ์ ซ็นต์ แล้วจึงนำเมล็ดข้ำวไปเก็บรักษำในย้งุ ฉำงหรือใส่ในภำชนะท่ีแยก ตำ่ งหำกจำกขำ้ วที่ผลิตโดยวิธีอืน่ 13. กำรสี ตอ้ งแยกสตี ่ำงหำกจำกขำ้ วทว่ั ไป โดยทำกำรใช้ขำ้ วเปลือกอินทรยี ์สีล้ำงเครื่อง 14. กำรบรรจหุ ีบห่อเพือ่ กำรคำ้ ควรบรรจุข้ำวกล้องหรือข้ำวสำรในถุงขนำดเล็กตั้งแต่ 1 กิโลกรัม ถึง 5 กิโลกรัม โดยบรรจุในสภำพ สุญญำกำศ จุดเด่นของภูมิปัญญำ สำมำรถทำปุ๋ยน้ำชีวภำพและปุ๋ยหมักชีวภำพใช้เองได้โดยไม่ต้องพ่ึงสำรเคมีหรือยำปรำบศัตรูพืชส่ิงท่ี สำคัญที่สดุ คอื ยดึ มน่ั ในกำรปลกู ขำ้ วอินทรีย์ปลอดสำรและนอ้ มนำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ในกำร ดำเนินชวี ติ ประจำวนั และเป็นวทิ ยำกรถ่ำยทอดควำมรู้
17 วัตถุดบิ ท่ีใช้ประโยชน์ในผลติ ภณั ฑท์ เี่ กิดจำกภมู ิปัญญำ ซงึ่ พื้นทอี่ น่ื ไมม่ ี - หอยเชอรี่ หรือปูนำ - เศษวัสดจุ ำกพืช เชน่ พชื ผกั วัชพชื (หญำ้ ) รำยละเอยี ดของภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน - รูปแบบในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ ด้ำนกำรศึกษำดูงำน ในพื้นท่ีจริงประโยชน์ที่ได้จำกภูมิปัญญำคือ สำมำรถนำไปปฏบิ ัติจรงิ ได้ รูปแบบและลักษณะกำรถำ่ ยทอด กำรประชำสัมพนั ธ์ เผยแพร่ภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ ยังไม่เคยมกี ำรเผยแพร่/ใช้เฉพำะบุคคล √ เคยเผยแพรเ่ ฉพำะในชมุ ชน มีกำรเผยแพร่ผ่ำนสอื่ มวลชนและสอ่ื อน่ื อย่ำงแพร่หลำย มีกำรดูงำนจำกบุคคลภำยนอก จำนวน .......ครง้ั จำนวน............คน มกี ำรนำไปใช้ อืน่ ๆ (ระบ)ุ ลกั ษณะของภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ กำรพัฒนำตอ่ ยอดภูมปิ ญั ญำให้เป็นนวตั กรรม คุณค่ำ (มูลค่ำ) และ ควำมภำคภมู ใิ จ ภูมิปัญญำทอ้ งถ่นิ /นวัตกรรมที่คดิ ค้นขึ้นมำใหม่ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถนิ่ ดงั้ เดมิ ไดร้ ับกำรถ่ำยทอดมำ √ ภมู ิปัญญำท้องถนิ่ ทีไ่ ด้พัฒนำและต่อยอด กำรพัฒนำต่อยอดคือ มีกำรไปศึกษำดูงำนตำมสถำนที่ท่ีมกี ำรพัฒนำเทคโนโลยีหรือหลักสูตรใหม่ท่ีแตกต่ำง จำกเดิมและทันต่อยุคสมัยเข้ำรับกำรอบรมตำมหน่วยงำนต่ำงๆ เพ่ือนำมำปรบั ปรุงแก้ไข้และพัฒนำตนเองอย่ำง สมำ่ เสมอ
18 ภำพถำ่ ยบุคคล และอปุ กรณ/์ เคร่ืองมือ/ส่ิงท่ปี ระดษิ ฐ์ (ช้ินงำนหรอื ผลงำน) รปู ภำพภูมิปัญญำ ขำ้ วไรซเ์ บอร่ี กลุ่มศจช.ตำบลหนองกบ เป็นวิทยำกรอบรมกลมุ่ เกษตรกร
19 แบบบันทกึ ชดุ ข้อมลู คลงั ปัญญำ-ภูมปิ ัญญำท้องถ่ิน ตำบล บ้ำนโป่ง อำเภอ บ้ำนโปง่ จังหวดั รำชบุรี ช่ือภูมิปัญญำ กำรปลกู ข้ำวอินทรียแ์ ละกำรทำปุ๋ยนำ้ ชีวภำพปุย๋ หมักชีวภำพ ข้อมูลพ้ืนฐำน รำยบคุ คล เจ้ำของภูมิปัญญำท้องถนิ่ /บุคคลคลงั ปัญญำ ชื่อ นำยอรรถพร นำมสกุล แพรกเซน็ วันเดอื นปีเกิด 15 มกรำคม 2523 ทอ่ี ยู่ปัจจบุ นั (ทส่ี ำมำรถตดิ ต่อได้) บำ้ นเลขท่ี 12/2 หมู่ท่ี 8 ตำบล/แขวง หนองกบ อำเภอ/เขต บำ้ นโปง่ จังหวดั รำชบุรี รหัสไปรณีย์ 70110 โทรศพั ท์ 089-9424261 พิกดั ทำงภูมศิ ำสตร์ ค่ำ X: 13.500777 คำ่ Y: 99.551603 ควำมเป็นมำของภูมปิ ัญญำ กำรผลติ ขำ้ วอินทรีย์ เปน็ ระบบกำรผลิตขำ้ วท่ีไมใ่ ชส้ ำรเคมที ำงกำรเกษตรทุกชนดิ เป็นตน้ ว่ำ ปยุ๋ เคมี สำร ควบคุมกำรเจริญเติบโต สำรควบคุมและกำจัดวัชพืช สำรป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว ตลอดจน สำรเคมีท่ีใช้รมเพ่ือป้องกนั กำจดั แมลงศตั รขู ้ำวในโรงเกบ็ กำรผลิตข้ำวอนิ ทรียน์ อกจำกจะทำให้ได้ผลผลิตขำ้ วท่ีมี คุณภำพสูงและปลอดภัยจำกสำรพิษแล้ว ยังเป็นกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและเป็นกำรพัฒนำกำรเกษตร แบบย่ังยืนอีกด้วยกำรผลิตข้ำวอินทรีย์เป็นระบบกำรผลิตทำงกำรเกษตรท่ีเน้นเรื่องของธรรมชำติเป็นสำคัญ ได้แก่ กำรอนุรักษ์ทรพั ยำกรธรรมชำติ กำรฟ้ืนฟูควำมอุดมสมบูรณ์ของธรรมชำติ กำรรักษำสมดุลธรรมชำติและ กำรใช้ประโยชน์จำกธรรมชำติ เพื่อกำรผลิตอย่ำงยั่งยืน เช่น ปรับปรุงควำมอุดมสมบูรณ์ของดินโดยกำรปลูกพืช หมุนเวียน กำรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นำหรือจำกแหล่งอ่ืน ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวโดยวิธีผสมผสำนที่ไม่ ใช้สำรเคมี กำรเลือกใช้พันธ์ุข้ำวท่ีเหมำะสมมีควำมต้ำนทำนโดยธรรมชำติ รักษำสมดุลของศัตรูธรรมชำติ กำร จัดกำรพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมำะสมกับควำมต้องกำรของต้นข้ำว เพื่อทำให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตได้ดี มี ควำมสมบูรณ์แข็งแรงตำมธรรมชำติ กำรจัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมต่อกำรระบำดของโรค แมลงและ สตั วศ์ ัตรูข้ำว เป็นต้น กำรปฏิบัตเิ ช่นนี้ก็สำมำรถทำใหต้ น้ ข้ำวทป่ี ลูกใหผ้ ลผลติ สูงในระดบั ทีน่ ำ่ พอใจ กำรผลิตข้ำวอินทรีย์มีขัน้ ตอนกำรปฏิบัตเิ ชน่ เดยี วกับกำรผลิตข้ำวโดยทว่ั ไปจะแตกตำ่ งกันท่ตี ้อง หลีกเล่ยี งกำรใชส้ ำรเคมีสังเครำะหใ์ นทุกขัน้ ตอนกำรผลติ จึงมขี ้อควรปฏิบตั ดิ ังน้ี 1. กำรเลือกพ้ืนท่ีปลูก 2. กำรเลอื กใช้พันธุ์ข้ำว 3. กำรเตรยี มเมล็ดพนั ธุ์ข้ำว 4. กำรเตรียมดนิ
20 5. วธิ ปี ลกู 6. กำรจดั กำรควำมอดุ มสมบูรณ์ของดิน 7. ระบบกำรปลกู พชื 8. กำรควบคุมวัชพืช 9. กำรป้องกนั กำจดั โรค แมลง และสตั วศ์ ตั รพู ืช 10. กำรจดั กำรน้ำ 11. กำรเก็บเกี่ยว กำรนวดและกำรลดควำมช้ืน 12. กำรเกบ็ รักษำข้ำวเปลือก 13. กำรสี 14. กำรบรรจุหบี ห่อเพ่ือกำรค้ำ ขน้ั ตอนกำรผลิตขำ้ วอินทรยี ์ 1. กำรเลอื กพน้ื ท่ีปลูก เลอื กพ้ืนที่ท่มี ีขนำดใหญ่ติดต่อกนั และมีควำมอดุ มสมบูรณ์ของดินโดยธรรมชำติค่อนขำ้ งสูง ประกอบด้วย ธำตอุ ำหำรท่ีจำเป็นต่อกำรเจริญเติบโตของขำ้ วอย่ำงเพยี งพอ มีแหล่งน้ำสำหรบั กำรเพำะปลูก ไม่ควรเปน็ พ้ืนท่ีที่ มีกำรใช้สำรเคมีในปริมำณมำกติดต่อกันเป็นเวลำนำน หรือมีกำรปนเปื้อนของสำรเคมีสูง และห่ำงจำกพ้ืนที่ที่มี กำรใช้สำรเคมีกำรเกษตรสำหรับเกษตรกรรำยย่อยท่ีมีพื้นที่ถือครองไม่มำกและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันควร รวมกลมุ่ กันเพื่อผลิตข้ำวอนิ ทรยี ์ 2. กำรเลอื กใช้พันธ์ุขำ้ ว พันธ์ุขำ้ วท่ีใช้ปลูกควรมีคุณสมบัติด้ำนกำรเจริญเติบโตเหมำะสมกับสภำพแวดล้อมในพ้ืนท่ีปลูก และให้ผล ผลิตได้ดีแม้ในสภำพดินที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ต้ำนทำนโรคและแมลงศัตรูข้ำว และมีคุณภำพเมล็ด ตรงกับควำมต้องกำรของผู้บรโิ ภคข้ำวอินทรีย์ กำรผลิตข้ำวอินทรียใ์ นปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้พันธ์ุขำวดอกมะลิ 105 และ กข15 ซึง่ ท้ังสองพันธุ์เปน็ ขำ้ วท่มี ีคณุ ภำพเมล็ดดเี ปน็ พเิ ศษ 3. กำรเตรียมเมล็ดพันธ์ขุ ำ้ ว เลือกใชเ้ มล็ดพันธ์ุข้ำวท่ีได้มำตรฐำนผลิตจำกแปลงผลิตเมล็ดพันธ์ุข้ำวแบบเกษตรอินทรยี ์ที่ได้รับกำรดูแล อย่ำงดี มีควำมงอกดี ผ่ำนกำรเก็บรักษำโดยไม่ใช้สำรเคมีสังเครำะห์ ปรำศจำกโรค แมลงและเมล็ดวัชพืช หำก จำเป็นต้องป้องกันโรคที่ติดมำกับเมล็ดพันธ์ุอนุโลมให้นำมำแช่ในสำรละลำยจุนสี (จุนสี 1 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร) เป็นเวลำนำน 20 ช่วั โมง แล้วล้ำงดว้ ยนำ้ กอ่ นนำไปปลกู
21 4. กำรเตรยี มดนิ วัตถุประสงค์หลักของกำรเตรียมดินคือสร้ำงสภำพท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกและกำรเจริญเติบโตของข้ำว ช่วยควบคุมวัชพืช โรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวบำงชนิด กำรเตรียมดินมำกหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติดิน สภำพแวดล้อมในแปลงนำกอ่ นปลูกและวิธกี ำรปลกู โดยไถดะ ไถแปร ครำด และทำเทอื ก 5. วธิ ปี ลูก กำรปลูกข้ำวแบบปักดำจะเหมำะสมที่สุดกับกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ เพรำะกำรเตรียมดิน ทำเทือก กำร ควบคุมระดับน้ำในนำจะช่วยลดปริมำณวัชพืชได้และกำรปลูกกล้ำข้ำวลงดินจะช่วยให้ข้ำวสำมำรถแข่งขันกับ วัชพืชได้ ต้นกล้ำท่ีใช้ปักดำควรมีอำยุประมำณ 30 วัน เลือกต้นกล้ำที่เจริญเติบโตแข็งแรงดี ปรำศจำกโรคและ แมลงทำลำย เน่ืองจำกในกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ต้องหลีกเล่ียงกำรใช้สำรสังเครำะห์ทุกชนิดโดยเฉพำะปุ๋ยเคมี จึงแนะนำให้ใช้ ระยะปลกู ถ่ีกว่ำระยะปลูกท่แี นะนำสำหรับปลูกข้ำวโดยทั่วไปเล็กนอ้ ยคือ ระยะระหวำ่ งต้นและแถว ประมำณ 20 เซนติเมตร จำนวนต้นกล้ำ 3-5 ต้นต่อกอ และใช้ระยะปลูกแคบกว่ำนี้หำกดินนำมีควำมอุดมสมบูรณ์คอ่ นข้ำงต่ำ ในกรณีที่ต้องปลูกล่ำหรือปลูกหลังจำกช่วงเวลำปลูกท่ีเหมำะสมของข้ำวแต่ละพันธ์ุ และมีปัญหำเรื่องกำรขำด แคลนแรงงำน แนะนำให้เปล่ียนไปปลกู วธิ ีอื่นที่เหมำะสม เช่น หวำ่ นขำ้ วแหง้ หรอื หว่ำนนำ้ ตม 6. กำรจดั กำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดิน เนื่องจำกกำรปลูกขำ้ วอนิ ทรียต์ ้องหลีกเลี่ยงกำรใช้ปุ๋ยเคมี กำรเลือกพ้ืนท่ีปลูกทด่ี ินมคี วำมอดุ มสมบรู ณส์ ูง ตำมธรรมชำติ จึงเป็นกำรเร่ิมต้นที่ได้เปรียบ เพื่อที่จะรักษำระดับผลผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่ำพอใจ นอกจำกนี้ เกษตรกรยังต้องรู้จักกำรจัดกำรดินที่ถูกต้อง และพยำยำมรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมำะสมกับกำร ปลูกข้ำวอินทรีย์ให้ได้ผลดีและยั่งยืนมำกท่ีสุด คำแนะนำเก่ียวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินสำหรับ กำรผลิตขำ้ วอินทรีย์สำมำรถแบง่ ออกได้ ดงั นี้ 1) กำรจัดกำรดนิ มขี อ้ แนะนำเกยี่ วกับกำรจัดกำรเพอ่ื รักษำควำมอุดมสมบรู ณ์ของดนิ ให้เหมำะสมกับกำรใช้ปลกู ขำ้ วอินทรยี ด์ ังน้ี -ไม่เผำตอซัง ฟำงข้ำว และเศษวัสดุอินทรีย์ในแปลงนำ เพรำะเป็นกำรทำลำยอินทรียวัตถุและ จุลินทรีย์ดินท่ีมี ประโยชน์ -ไม่นำช้ินส่วนของพืชที่ไม่ใช้ประโยชน์โดยตรงออกจำกแปลงนำ แต่ควรนำวัสดุอินทรีย์จำกแหล่งใกล้เคียงใส่ แปลงนำให้สม่ำเสมอทีละเล็กละน้อย -เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินโดยกำรปลูกพืชโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัวในท่ีว่ำงในบริเวณพ้ืนที่นำตำมควำมเหมำะสม แลว้ ใช้อินทรียวัตถุทเ่ี กิดข้ึนในระบบไร่นำใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อกำรปลกู ข้ำว-ไม่ควรปลอ่ ยท่ดี ินใหว้ ่ำงเปล่ำก่อนกำร ปลูกข้ำวและหลังจำกกำรเก็บเก่ียวข้ำว แต่ควรปลูกพืชบำรุงดินโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัว เช่น ถั่วเขียว ถ่ัวพร้ำ โสน เปน็ ตน้
22 - ควรวเิ ครำะหด์ นิ นำทกุ ปี แลว้ แก้ไขภำวะควำมเปน็ กรดเปน็ ดำ่ งของดนิ ให้เหมำะสมกบั กำรเจรญิ เติบโตของต้น ข้ำว (ประมำณ 5.5 – 6.5) ถ้ำพบว่ำดินมีควำมเป็นกรดสูงแนะนำให้ใช้ปูนมำร์ล ปูนขำว หรือขี้เถ้ำไม้ปรับปรุง สภำพดนิ 2) กำรใชป้ ุย๋ อินทรีย์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำติอย่ำงสม่ำเสมอ แต่เนื่องจำกปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชำติแทบทุกชนิดมีควำมเข้มข้น ของธำตุอำหำรคอ่ นข้ำงต่ำ จึงตอ้ งใช้ในปริมำณท่ีสงู มำก และอำจมไี มพ่ อเพยี งสำหรบั กำรปลูกข้ำวอินทรีย์และถ้ำ หำกมีกำรจัดกำรที่ไม่เหมำะสมกจ็ ะเป็นกำรเพิ่มต้นทุนกำรผลิต จงึ แนะนำให้ใช้หลักกำรธรรมชำตทิ ่ีว่ำ “สร้ำงให้ เกิดข้นึ ในพนื้ ท่ี ใสท่ ลี ะเล็กทลี ะนอ้ ยสม่ำเสมอเป็นประจำ” ปุ๋ยอนิ ทรยี จ์ ำกธรรมชำตทิ คี่ วรใช้ ได้แก่ -ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ได้แก่มูลสัตว์ต่ำง ๆ ซึ่งอำจนำมำจำกภำยนอก หรือจัดกำรผลิตขึ้นในบริเวณไร่นำ นอกจำกน้ีท้องนำในชนบทหลังจำกเก็บเกี่ยวข้ำวแล้วมักจะปล่อยให้เป็นที่เลี้ยงสัตว์โดยให้แทะเล็มตอซังและ หญำ้ ต่ำง ๆ มูลสัตวท์ ่ีถำ่ ยออกมำปะปนกับเศษซำกพชื กจ็ ะเป็นกำรเพม่ิ อนิ ทรยี วัตถใุ นนำอีกทำงหนึง่ -ปุ๋ยหมัก ควรจัดทำในพ้ืนท่ีนำหรือบริเวณท่ีอยู่ไม่ห่ำงจำกแปลงนำมำกนักเพ่ือควำมสะดวกในกำรใช้ ควรใช้ เชื้อจุลินทรีย์ในกำรทำปุ๋ยหมักเพ่ือช่วยกำรย่อยสลำยได้เร็วขึ้น และเก็บรักษำให้ถูกต้องเพื่อลดกำรสูญเสียธำตุ อำหำร -ปุ๋ยพืชสด ควรเลือกชนิดที่เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมควรปลูกก่อนกำรปักดำข้ำวในระยะเวลำพอสมควร เพ่อื ให้ต้นปุ๋ยพืชสดมชี ว่ งกำรเจรญิ เติบโตเพียงพอท่ีจะผลิตมวลพืชสดไดม้ ำก มคี วำมเขม้ ข้นของธำตไุ นโตรเจนสูง และไถกลบต้นป๋ยุ พืชสดกอ่ นกำรปลกู ข้ำวตำมกำหนดเวลำ เชน่ โสนอฟั รกิ ัน (Sesbania rostrata) ควรปลูกกอ่ น ปกั ดำประมำณ 70 วัน โดยใช้อตั รำเมล็ดพันธป์ุ ระมำณ 7 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ หำกจำเป็นต้องใช้ปุย๋ ฟอสฟอรัสช่วยเร่ง กำรเจริญเติบโต แนะนำให้ใช้หินฟอสเฟตบดละเอียดใส่ตอนเตรียมดินปลูก แล้วไถกลบต้นโสนขณะมีอำยุ ประมำณ 50-55 วัน หรือก่อนกำรปกั ดำข้ำวประมำณ 15 วัน -น้ำหมักชวี ภำพ หรือน้ำสกัดชีวภำพ (Bio Extract) ควรให้ทำใช้เองจำกวัสดุเหลือใช้ในไร่นำ ในครัวเรือน นำมำหมักร่วมกับ กำกน้ำตำล(Mollass) หรอื นำ้ ตำลทรำยแดงละลำยนำ้ แบ่งได้ 3 ประเภท ตำมวัสดทุ ีน่ ำใช้ ไดแ้ ก่ นำ้ สกดั จำกพืช ไดแ้ กผ่ กั ตำ่ งๆ ใบสะเดำ ตะไครห้ อม พืชสมุนไพรต่ำงๆ น้ำสกดั จำกผลไม้ เศษผลไม้จำกครัวเรอื น มะมว่ ง สับปะรด กลว้ ย มะละกอ ฟักทอง วธิ ที ำปุย๋ น้ำหมกั น้ำหมักจำกสัตว์ เกบ็ หอยเชอร่ี หรือปนู ำ นำมำล้ำงน้ำใหส้ ะอำด ไม่มขี ี้โคลนตดิ ใส่ถุงป๋ยุ ประมำณครึ่งถุง ใช้ไมต้ ี หรือทุบให้ เปลือกแตก อำจใช้ครกไม้หรือครกหินขนำดใหญ่ตำก็ได้ เพ่ือเวลำหมักกำกน้ำตำลจะได้สัมผัสกับเน้ือหอย หรือ เนื้อปูโดยตรง ชั่งน้ำหนักวัสดุที่ใช้เทใส่ภำชนะหรือถังหมัก ช่ังกำกน้ำตำล(Mollas)หนักเท่ำกับวัสดุที่ใช้ หรือ
23 อัตรำส่วนระหวำ่ ง หอยเชอรีห่ รือปนู ำ:กำกนำ้ ตำล=1:1 โดยน้ำหนัก คนใหเ้ ข้ำกันดี ปดิ ฝำไม่ต้องแน่น เพือ่ ให้แก๊ซ ทเ่ี กิดระหว่ำงกำรหมักมโี อกำสถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำสะอำดอีก 1 เท่ำ หรือให้ท่วมวัสดุ คนให้ เข้ำกันดี หมักตอ่ อกี 1 เดือน จงึ นำน้ำหมักมำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวท่ไี ด้จำกกำรกรองมำ ใช้ประโยชน์ นำ้ หมกั จำกพชื หรือเศษวสั ดจุ ำกพชื นำเศษวัสดุจำกพืช เช่น พืช ผัก วัชพืช(หญ้ำ) สับหยำบ ๆ ช่ังน้ำหนักแล้วเทใส่ภำชนะ หรือถังหมัก ชั่ง กำกน้ำตำล 1 ใน 3 ของน้ำหนักวัสดุ หรืออัตรำส่วนระหว่ำง ผัก:กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก เทลงผสมกัน ใช้ ไม้คนให้เข้ำกัน ปิดฝำไม่ต้องแน่น เพื่อให้แก๊สที่เกิดระหว่ำงกำรหมักถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำ สะอำดให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของน้ำในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักท่ีได้มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวท่ีได้จำกกำรกรองมำใช้ประโยชน์ น้ำหมักผลไม้ (เช่น เปลือกสับปะรด มะละกอ สุก กลว้ ยสุก มะม่วงสุก ฟักทอง) มีวิธีทำเช่นเดียวกับ น้ำสกัดจำกพืช เศษผลไม้ ต้องไม่บูดเน่ำ เสียหำย หรือสกปรก อัตรำส่วนของวัสดุ: กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก คนให้เข้ำกันดี ปิดฝำ หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของ ของเหลวในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักมำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวที่กรองได้มำ ใช้ประโยชน์ วิธใี ช้น้ำหมกั ในนำขำ้ ว คร้ังท่ี 1 หลังทำเทือก ป้ันคันนำย่อยอุดรอยร่ัว หรือรอยแตกระแหง ป้องกันกำรร่ัวซึมของน้ำหมัก แล้วนำน้ำ หมัก(แนะนำให้ใช้นำ้ หมักพืช)ทท่ี ำขึ้น อัตรำ 5 ลติ รตอ่ ไร่ ผสมนำ้ เปล่ำ 10 เท่ำ รำดให้ทั่ว จงึ ปกั ดำขำ้ ว คร้งั ที่ 2 ระยะข้ำวแตกกอหรือหลังจำกปักดำข้ำวไปแล้ว 30 วัน ใชน้ ้ำหมัก(แนะนำให้ใช้น้ำหมักจำกเน้อื )อตั รำ 5 ลติ รต่อไร่ผสมนำ้ เปลำ่ เท่ำกนั กบั คร้งั ที่ 1 รำดให้ทั่ว ครั้งที่ 3 ระยะขำ้ วเริ่มตั้งท้อง(แนะนำให้ใช้นำ้ หมักผลไม้)อตั รำ 250 ซีซตี อ่ ไร่ ผสมนำ้ เปล่ำ 50 เทำ่ พน่ ท่วั แปลง คร้งั ท่ี 4 และ 5 ฉีดพน่ ด้วยน้ำหมักจำกผลไม้ หลงั จำกครั้งท่ี 3 เป็นเวลำ 15 และ 30 วัน หมำยเหตุ แนะนำใหใ้ ชร้ ่วมกบั กำรไถกลบปุ๋ยพืชสด หรอื ใสป่ ๋ยุ คอก 3) กำรใช้อินทรียวัตถุบำงอย่ำงทดแทนปยุ๋ เคมี หำกปฏิบัติตำมคำแนะนำเกี่ยวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินข้ำงต้นแล้ว ยังพบว่ำดินมีควำม อุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอหรือขำดธำตุอำหำรที่สำคัญบำงชนิดไปสำมำรถนำอินทรียวัตถุจำกธรรมชำติต่อไปนี้ ทดแทนปยุ๋ เคมีบำงชนิดไดค้ อื -แหลง่ ธำตไุ นโตรเจน เช่น แหนแดง สำหร่ำยสีน้ำเงินแกมเขยี ว กำกเมลด็ สะเดำ และเลือดสัตวแ์ หง้ เป็นต้น
24 -แหล่งธำตุฟอสฟอรัส เช่นหินฟอสเฟต กระดูกป่น มูลไก่ มูลค้ำงคำว กำกเมล็ดพืชข้ีเถ้ำไม้ และสำหร่ำยทะเล เป็นตน้ -แหลง่ ธำตุโพแทสเซียม เชน่ ขเี้ ถ้ำ และหนิ ปนู บำงชนดิ -แหลง่ ธำตแุ คลเซยี ม เชน่ ปนู ขำว โดโลไมท์ เปลือกหอยป่น และกระดูกปน่ เปน็ ตน้ 7. ระบบกำรปลูกพชื ปลกู ข้ำวอินทรีย์เพียงปีละครง้ั โดยเลือกช่วงเวลำปลกู ที่เหมำะสมกบั ข้ำวแต่ละพันธ์แุ ละปลกู พืชหมนุ เวยี น โดยเฉพำะพืชตระกูลถั่วก่อนและหลังกำรปลูกข้ำว อำจปลูกข้ำวอินทรีย์ร่วมกับพืชตระกูลถั่วก็ได้ถ้ำ สภำพแวดล้อมเหมำะสม 8. กำรควบคุมวชั พชื แนะนำให้ควบคุมวัชพืชโดยวิธีกล เช่น กำรเตรียมดินท่ีเหมำะสม วิธีกำรทำนำที่ลดปัญหำวัชพืช กำรใช้ ระดับน้ำควบคุมวัชพชื กำรใช้วสั ดุคลุมดิน กำรถอนด้วยมือ วธิ ีเขตกรรมต่ำง ๆ กำรใช้เคร่ืองมือ รวมท้ังกำรปลูก พืชหมุนเวียน เป็นตน้ 9. กำรปอ้ งกนั กำจัดโรค แมลง และสตั ว์ศตั รพู ชื หลกั กำรสำคัญของกำรป้องกันกำจัดโรค แมลงและสตั ว์ศัตรขู ำ้ วในกำรผลติ ข้ำวอนิ ทรยี ม์ ีดังน้ี 1) ใชข้ ้ำวพันธ์ุต้ำนทำน 2) กำรปฏิบัตดิ ำ้ นเขตกรรม เช่น กำรเตรยี มแปลง กำหนดช่วงเวลำปลูกที่เหมำะสม ใชอ้ ตั รำเมล็ดและระยะปลูกท่เี หมำะสม กำรปลูกพชื หมุนเวียนเพ่ือตดั วงจรกำร ระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว กำรรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินและสมดุลของธำตุอำหำรพืช กำร จัดกำรน้ำ เพื่อให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตดี สมบูรณ์และแข็งแรง สำมำรถลดกำรทำลำยของโรค แมลงและสัตว์ศัตรู ขำ้ วได้สว่ นหน่งึ 3)จดั กำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมกับกำรระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรขู ้ำว เช่น กำรกำจัดวชั พืช กำร กำจัดเศษซำกพชื ท่เี ปน็ โรคโดยใช้ปนู ขำว หรอื กำมะถันผงที่ไมผ่ ่ำนกระบวนกำรทำงเคมี 4) รักษำสมดุลทำงธรรมชำติ โดยส่งเสริมกำรแพร่ขยำยปรมิ ำณของแมลงท่ีมปี ระโยชน์ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน และ ศัตรูธรรมชำติเพอื่ ชว่ ยควบคุมแมลงและสัตว์ศตั รขู ำ้ ว 5) ปลูกพชื ขับไลแ่ มลงบนคนั นำ เชน่ ตะไคร้หอม 6) หำกมีควำมจำเป็นอนุญำตใหใ้ ชส้ ำรสกดั จำกพืช เช่น สะเดำ ขำ่ ตะไคร้หอม และใบแคฝรั่ง เปน็ ต้น 7) ใชว้ ิธีกล เชน่ ใชแ้ สงไฟลอ่ ใช้กบั ดัก และใช้กำวเหนยี ว 8) ในกรณีที่ใช้สำรเคมีกำจัดควรกระทำโดยทำงอ้อม เช่น นำไปผสมกับเหยื่อล่อในกับดักแมลงหรือใช้สำรพิษ กำจัดสัตว์ศัตรูข้ำว ซ่ึงจะต้องใช้อย่ำงระมัดระวัง และต้องกำจัดสำรเคมีที่เหลือรวมทั้งศัตรูข้ำวท่ีถูกทำลำยโดย เหยอ่ื พิษอย่ำงถกู วธิ ี หลงั จำกปฏิบตั เิ สรจ็ แลว้
25 10. กำรจัดกำรน้ำ ระดับน้ำมีควำมสัมพันธ์กับกำรเจริญเติบโตทำงลำต้นและกำรให้ผลผลิตของข้ำวโดยตรง ในระยะปักดำ จนถึงแตกกอถ้ำระดับน้ำสูงมำกจะทำให้ต้นข้ำวสูงเพ่ือหนีน้ำทำให้ต้นอ่อนแอและล้มง่ำย ในระยะนี้ควรรักษำ ระดับน้ำให้อยู่ที่ประมำณ 5 เซนติเมตร แต่ถ้ำต้นข้ำวขำดน้ำจะทำให้วัชพืชเติบโตแข่งขันกับต้นข้ำวได้ ดังนั้น ระดับน้ำท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกข้ำวอินทรีย์ ตลอดฤดูปลูกควรเก็บรักษำไว้ที่ปริมำณ 5-15 เซนติเมตร จนถึง ระยะก่อนเก็บเกี่ยวประมำณ 7-10 วัน จึงระบำยน้ำออกเพ่ือให้ข้ำวสุกแก่พร้อมกัน และพื้นท่ีนำแห้งพอเหมำะ ตอ่ กำรเก็บเกีย่ ว 11. กำรเก็บเก่ยี ว กำรนวดและกำรลดควำมช้ืน เก็บเก่ียวข้ำวหลังจำกออกดอก ประมำณ 28-30 วัน สังเกตจำกเมล็ดในรวงข้ำวสุกแก่เมล็ดเปลี่ยนเป็นสี ฟำง เรยี กวำ่ ระยะพลับพลึง 1).กำรเกย่ี วโดยใชเ้ คยี ว ต้องตำกฟอ่ นขำ้ วในนำประมำณ 2-3 แดด แล้วจงึ รวมกอง ทำกำรนวดตอ่ ไป 2).กำรเก่ียวข้ำวโดยใช้รถเก่ียวนวด เมล็ดข้ำวยังมีควำมช้ืนสูง ต้องตำกบนลำน ในสภำพท่ีแดดจัดเป็นเวลำ 1-2 วนั พลิกกลับเมล็ดข้ำววนั ละ 3-4 คร้ัง ให้ควำมชื้นเหลือ 14 เปอร์เซน็ ต์ หรือต่ำกว่ำ เพ่ือให้เหมำะสมต่อกำรเก็บ รกั ษำ และทำให้มีคุณภำพกำรสีดี 12. กำรเกบ็ รักษำข้ำวเปลอื ก เมอื่ ลดควำมช้ืนใหต้ ่ำกว่ำ 14 เปอรเ์ ซ็นต์ แลว้ จึงนำเมล็ดข้ำวไปเก็บรักษำในยุง้ ฉำงหรือใสใ่ นภำชนะที่แยก ต่ำงหำกจำกขำ้ วที่ผลติ โดยวิธอี ่นื 13. กำรสี ตอ้ งแยกสีต่ำงหำกจำกขำ้ วทวั่ ไป โดยทำกำรใชข้ ำ้ วเปลอื กอินทรยี ส์ ีลำ้ งเคร่ือง 14. กำรบรรจุหีบห่อเพ่อื กำรค้ำ ควรบรรจุข้ำวกล้องหรือข้ำวสำรในถุงขนำดเล็กตั้งแต่ 1 กิโลกรัม ถึง 5 กิโลกรัม โดยบรรจุในสภำพ สุญญำกำศ จดุ เด่นของภมู ิปญั ญำ สำมำรถทำปุ๋ยน้ำชีวภำพและปุ๋ยหมักชีวภำพใช้เองได้โดยไม่ต้องพ่ึงสำรเคมีหรือยำปรำบศัตรูพืชสิ่งท่ี สำคัญที่สุดคือยดึ ม่ันในกำรปลูกขำ้ วอินทรยี ์ปลอดสำรและนอ้ มนำหลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงมำใช้ในกำร ดำเนินชวี ติ ประจำวัน -เป็นวิทยำกรถ่ำยทอดควำมรู้
26 วัตถุดบิ ท่ีใช้ประโยชน์ในผลติ ภณั ฑท์ เี่ กิดจำกภมู ิปญั ญำ ซึ่งพ้นื ท่ีอื่นไมม่ ี - หอยเชอรี่ หรือปูนำ - เศษวัสดจุ ำกพืช เชน่ พชื ผกั วัชพชื (หญำ้ ) รำยละเอยี ดของภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน - รูปแบบในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ ด้ำนกำรศึกษำดูงำน ในพื้นท่ีจริงประโยชน์ที่ได้จำกภูมิปัญญำคื อ สำมำรถนำไปปฏบิ ัติจรงิ ได้ รูปแบบและลักษณะกำรถำ่ ยทอด กำรประชำสัมพันธ์ เผยแพร่ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่ิน ยังไม่เคยมกี ำรเผยแพร่/ใช้เฉพำะบุคคล √ เคยเผยแพร่เฉพำะในชมุ ชน มีกำรเผยแพร่ผ่ำนสอื่ มวลชนและสอ่ื อื่นอย่ำงแพร่หลำย มีกำรดูงำนจำกบุคคลภำยนอก จำนวน .......คร้งั จำนวน............คน มกี ำรนำไปใช้ อืน่ ๆ (ระบ)ุ ลกั ษณะของภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ กำรพัฒนำตอ่ ยอดภูมปิ ญั ญำให้เปน็ นวัตกรรม คุณค่ำ (มูลคำ่ ) และ ควำมภำคภมู ใิ จ ภูมิปัญญำทอ้ งถ่นิ /นวัตกรรมที่คดิ ค้นข้นึ มำใหม่ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถนิ่ ดงั้ เดมิ ไดร้ ับกำรถ่ำยทอดมำ √ ภมู ิปัญญำท้องถนิ่ ทีไ่ ด้พัฒนำและต่อยอด กำรพัฒนำต่อยอดคือ มีกำรไปศึกษำดูงำนตำมสถำนท่ีท่ีมีกำรพัฒนำเทคโนโลยีหรือหลักสูตรใหม่ท่ีแตกต่ำง จำกเดิมและทันต่อยุคสมัยเข้ำรับกำรอบรมตำมหน่วยงำนต่ำงๆ เพ่ือนำมำปรบั ปรุงแก้ไข้และพัฒนำตนเองอย่ำง สมำ่ เสมอ
27 ภำพถ่ำยบคุ คล และอปุ กรณ์/เครือ่ งมอื /สิ่งท่ปี ระดิษฐ์ (ช้ินงำนหรอื ผลงำน) รปู ภำพภมู ิปัญญำ นำยอรรถพร แพรกเซ็น เปน็ วทิ ยำกรอบรม ผลิตภณั ฑท์ ี่ไดจ้ ำกกลมุ่
28 คณะผจู้ ัดทำ ครชู ำนำญกำรพเิ ศษ ที่ปรึกษำ ครู กศน.ตำบลหนองกบ นำยไพโรจน์ ขุนทอง ร่ำง/เรยี บเรยี งและจดั พิมพ์ นำงสำวอจั ฉรำภรณ์ เจรญิ วิโรจน์
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: