Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ก.พ.63 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

ก.พ.63 ภูมิปัญญาท้องถิ่น ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

Published by kl_1270050000, 2020-11-05 02:43:21

Description: แบบฟอร์มคลังปัญญา กุมภาพันธ์

Search

Read the Text Version

ทำเนียบภูมปิ ญั ญำท้องถน่ิ ตำบลหนองกบ อำเภอบ้ำนโป่ง จังหวัดรำชบรุ ี ประจำเดือน กุมภำพันธ์ 2563 กศน.ตำบลหนองกบ ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอบำ้ นโปง่ สำนักงำนสง่ เสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยจังหวดั รำชบรุ ี สำนักงำนส่งเสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย สำนักงำนปลดั กระทรวงศึกษำธกิ ำร กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร

คำนำ ด้วย กศน.ตำบลหนองกบ ไดด้ ำเนินกำรจัดทำภูมิปัญญำในท้องถนิ่ ให้กบั ประชำชนในพ้ืนที่ ตำบลหนองกบ เพ่ือเพิ่มพูนควำมรู้และทักษะในกำรดำเนินชีวิตแบบพอเพียง สำมำรถเรียนรู้และฝึกฝน ได้ทั้ง จำกกำรศึกษำด้วยตนเอง และไดร้ ับกำรถำ่ ยทอดจำกผูอ้ ่ืน กำรนำภมู ิปัญญำมำเผยแพร่เพอื่ ใหป้ ระชำชนในพนื้ ที่ ได้นำไปใช้และเรียนรู้เพ่ือเพิ่มอำชีพ และประสบกำรณ์ให้กับตนเองและครอบครัว ให้มีกำรเจริญเติบโตอย่ำง ต่อเน่ืองและเกื้อกูลในกำรผลิตซึ่งกันและกัน โดยกำรใช้ทรัพยำกรท่ีมีอยู่ให้เกิดประโยชน์และไม่มีสำรพิษ เช่น ดิน น้ำ แสงแดดอยำ่ งเหมำะสม เกดิ ประโยชนส์ งู สุด มีควำมสมดุล ของสภำพแวดลอ้ มอย่ำงต่อเนือ่ ง และเกิดผล ในกำรเพ่ิมพูนควำมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยำกรธรรมชำติด้วย กศน.ตำบลหนองกบ หวังว่ำเอกสำรเล่มนี้คงมี ประโยชนต์ อ่ ผู้อ่ำนและผู้ปฏบิ ตั งิ ำนตอ่ ไป กศน.ตำบลหนองกบ กุมภำพันธ์ 2563

สำรบัญ หนำ้ คำนำ 1 สำรบญั 5 กศน.ตำบลหนองกบ 14 - ภมู ปิ ัญญำ กำรทำไก่ย่ำงบำงตำล : คณุ สชุ ำติ มีบำรงุ - ภูมิปัญญำ กำรปลกู ขำ้ วอนิ ทรีย์ : คณุ วนิ ยั ม่ันคง - ภมู ปิ ัญญำ กำรปลูกข้ำวอนิ ทรีย์และเลีย้ งววั : คณุ ปรชี ำ คลอ่ งแคล่ว คณะผจู้ ดั ทำ

1 แบบบันทึกชดุ ข้อมูลคลังปญั ญำ-ภมู ิปญั ญำท้องถ่ิน ตำบล หนองกบ อำเภอ บำ้ นโป่ง จงั หวัด รำชบุรี ช่ือภูมปิ ญั ญำ กำรทำไก่ย่ำงบำงตำล ขอ้ มูลพ้นื ฐำน รำยบุคคล เจำ้ ของภมู ิปญั ญำท้องถน่ิ /บุคคลคลังปญั ญำ ช่อื นำยสุชำติ นำมสกลุ มีบำรุง วนั เดอื นปเี กิด 11 เมษำยน 2523 ท่ีอยู่ปจั จุบัน (ทส่ี ำมำรถติดตอ่ ได)้ บ้ำนเลขที่ 46 หมูท่ ี่ 1 ตำบล/แขวง หนองกบ อำเภอ/เขต บำ้ นโปง่ จังหวดั รำชบรุ ี รหัสไปรณยี ์ 70110 โทรศัพท์ 090 – 8167871 Line ID 0908167871 พิกัดทำงภูมศิ ำสตร์ คำ่ X: 13.491091 ค่ำY: 99.573395 ควำมเปน็ มำของภมู ิปัญญำ ตน้ ตำรับ ไกย่ ่ำงรถไฟอันเรื่องชือ่ จำกบำ้ นบำงตำล รำชบุรี เอกลักษณ์ไม้ 3 ง่ำมท่ีใช้ขน้ึ ไก่ยงั คงเสน่ห์อัน น่ำหลงใหล กล่ินหอมๆเวลำย่ำงก็มีควำมเป็นเอกลักษณ์ของไก่บำงตำล จะนำไก่ย่ำงบำงตำลแท้ๆ ฝีมือระดับ OTOP 5 ดำว 2 ปีซ้อน ในบรรดำอำหำรที่ถูกเลือกให้เป็นเมนูด่วนชนิดหำทำนง่ำย สะดวกต่อกำรรับประทำน และมีควำมรวดเร็วท้ังประหยัดเวลำแล้วเห็นจะต้องยกให้ “ไก่ย่ำง”เป็นหนึ่งในน้ัน ด้วยกรรมวิธีทำท่ีไม่ยุ่งยำก ซับซ้อน วตั ถุดิบที่หำไดง้ ่ำย รวมถึงไม่จำเป็นต้องใช้พน้ื ท่ีมำก จึงทำใหก้ ำรย่ำงไกข่ ำยเป็นอำชพี เกิดขึ้นท่ัวทุกแห่ง ดังน้ันไม่ว่ำจะเดินไปตรอกซอกซอยไหนในทุกจังหวัดของประเทศ จะแลเห็นพ่อค้ำ-แม่ค้ำย่ำงไก่ขำยกันเป็น จำนวนมำก ถึงแม้จะมองไก่ย่ำงเป็นอำหำรธรรมดำ แต่ยังมีบำงพื้นท่ียกย่องให้ไก่ย่ำงที่มีถ่ินกำเนิดในชุมชน ท้องถิ่นของตนเป็นอำหำรท่ีมีคุณค่ำทำงภูมิปัญญำ เพรำะทำกันมำตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษตกทอดจนปัจจุบัน “ไก่ บำงตำล” เป็นไกย่ ่ำงที่ถอื กำเนิดมำจำกหมู่บำ้ นบำงตำล อำเภอบ้ำนโป่ง จังหวัดรำชบุรี ท่ีแห่งน้ีมีประวัตกิ ำรปิ้ง ไกก่ ันมำยำวนำน โดยเฉพำะกำรนำไปขำยยังสถำนีรถไฟคลองบำงตำล ช่ือไกย่ ำ่ งบำงตำลอำจไม่คุ้นและรจู้ ักดนี ัก แตถ่ ้ำบอกวำ่ ‘ไก่เหลือง’แล้ว แน่นอนว่ำมีหลำยคนตอ้ งได้ล้ิมลองกันมำแล้ว และรู้ดวี ำ่ มีรสชำติท่เี ข้มข้นเผ็ดร้อน จำกกำรหมักด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรหลำยชนิด ฉะน้ันกำรบริโภคไก่บำงตำลไม่เพียงแค่ควำมอร่อยเท่ำนั้น แต่รำ่ งกำยของคุณยงั ได้รบั ประโยชนจ์ ำกสมุนไพรเหล่ำนั้นด้วย คุณสชุ ำติ มีบำรุง เผยว่ำไก่ที่ใช้ย่ำงสมัยแรกเป็นไก่พ้ืนบ้ำนที่ชำวบ้ำนเลี้ยงไว้ตำมบ้ำน เป็นไก่ดำ จึงต้อง ไปหำซ้ือกันมำและได้จำนวนไม่มำกนัก ต่อมำไก่ดำหำยำก ชำวบ้ำนจึงหันมำเล้ียงไก่เป็นฟำร์มกัน เป็นไก่ขำว กระทั่งในภำยหลังมีนำยทุนได้เข้ำมำจัดตั้งโรงเลี้ยงไก่ในแบบธุรกิจ แล้วจะไปรับซื้อไก่เป็นจำกโรงเลี้ยงเพื่อมำ เชือดเอง ไก่ย่ำงไก่ต้องมีอำยุไม่ต่ำกว่ำ 45 วัน และต้องมีขนำดน้ำหนักตัวประมำณ 1.7-2 กิโลกรัม เน่ืองจำก

2 เวลำขำยจะต้องมำผ่ำแบ่งเป็นส่วนจำนวน 6 ส่วน ไม่ได้ขำยทง้ั ตัว แล้วยังบอกต่ออีกวำ่ สมยั แรกท่ีเริ่มขำย ใช้ไก่ วันละประมำณ 20 ตวั ตอ่ คร้งั แต่ปจั จบุ นั ใช้ไก่เพ่มิ ขน้ึ วนั ละ 50 ตัวตอ่ คร้ัง คุณสุชำติ มีบำรุง บอกว่ำปัจจุบันไก่ย่ำงบำงตำลได้รับควำมนิยมเพ่ิมมำกขึ้นอย่ำงรวดเร็ว จึงทำให้ ขณะนี้ไม่ใชม่ ีคนขำยไก่แท้ทีเ่ ดินทำงมำจำกหมู่บ้ำนบำงตำลเท่ำน้ัน ยงั มีคนขำยไก่เทียมท่ีชอบแอบอ้ำงว่ำเป็นไก่ ย่ำงบำงตำลเกิดขน้ึ ซึ่งในกรุงเทพฯเทำ่ ทท่ี รำบไม่พบ แตไ่ ปพบตำมจังหวดั ต่ำงๆ “ดงั นนั้ เพ่ือสรำ้ งควำมเช่ือมนั่ ให้ ลกู ค้ำจึงได้กำหนดแบรนด์และสญั ลักษณ์ของร้ำนไก่ตัวเองขนึ้ มำเป็นรูปรถจักรไอน้ำซึ่งเป็นจุดเร่มิ ต้นของไกบ่ ำง ตำล แล้วได้นำไปจดทะเบียนกำรค้ำเพื่อป้องกันกำรลอกเลียนแบบ พร้อมกับต้ังชื่อร้ำนวำ่ “ไก่ย่ำงบุญหลงบำง ตำล” อีกท้ังยงั เป็นสินคำ้ บริโภคท่ไี ด้รบั เคร่ืองหมำย OTOP แลว้ ดว้ ย” เตำย่ำงนับเป็นอปุ กรณ์สำคัญท่ีเป็นหัวใจ ของกำรปิ้งยำ่ งไก่ เจำ้ ของรำ้ นไกบ่ อกว่ำในสมัยแรกใชว้ ธิ ีพบั สังกะสีปี๊บเพ่ือดดั แปลงเปน็ เตำปง้ิ ยำ่ ง แต่ไมท่ นทำน และผุพังง่ำย ต่อมำจึงเปลี่ยนมำใช้เป็นเตำย่ำงแบบตะแกรงท่ีมีจำนวน 2 อัน ขนำดเล็ก/ใหญ่ โดยใช้ถ่ำนปิ้งย่ำง ครั้งละ 14 ถุงๆละ 3 กิโลกรัม ไม้เสียบไก่ถือเปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพำะของไก่ย่ำงและเป็นสิ่งที่คุณบุญหลงกังวลมำก เพรำะนับวันจะหำยำกและมีรำคำสูง เขำช้ีวำ่ สมยั กอ่ นใช้ไผ่สีสุก แต่ปัจจุบันเป็นไผ่ป่ำ เพรำะต้นไผ่ในพน้ื ทจ่ี ะหำ ยำกขึ้น ซ่ึงไม้เสยี บไก่จะมีชำวบ้ำนทำส่งขำยอันละ 1 บำท ซ่ึงไก่ 1 ตัวใช้ไม้ 6 ช้ิน ถ้ำไก่จำนวน 50 ตัวจะใช้ไม้ เสยี บไกถ่ งึ 300 อนั เปน็ เงนิ 300 บำท จดุ เด่นของภูมปิ ญั ญำ จุดเด่นของไก่ย่ำงบำงตำลอยู่ตรงควำมเข้มข้นของเครื่องเทศที่ใช้หมักท่ีมีกระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตำลทรำย ผงกระหรี่ ฯลฯเป็นต้น แล้วจะเน้นหนักทุกอย่ำงให้ครบ แบบจัดหนัก อย่ำงเคร่ืองเทศท่ีใช้ถ้ำไก่ 10 ตัว ใช้เครื่องเทศประมำณ 1 กิโลกรมั และที่ไก่มีสีเหลืองเพรำะมำจำกผงกระหร่ีท่ีใช้หมัก “ส่วนควำมอร่อย อยตู่ รงเนอื้ ไก่นุ่ม แห้งพอเหมำะไมแ่ ขง็ กระดำ้ ง เนื้อสกุ เข้ำไปถึงกระดูก ไม่แฉะเละ ทั้งนี้จะเตรียมไก่สดท่ีเสยี บไม้ ไว้แล้ว พร้อมกับเครอ่ื งหมัก ลงมือหมักแล้วป้ิงย่ำงทันทีโดยไม่ใช้เวลำหมักนำน ไก่ยำ่ งบำงตำลไม่ได้ขำยไก่ย่ำง ทั้งตัว แต่จะเสียบไม้ขำยเป็นช้ิน ซึ่งไก่ 1 ตัว แยกออกเป็นชิ้นจำนวน 6 ส่วนได้แก่ อก 2 ส่วน,ปีก 2 ส่วน และ น่อง 2 ส่วน พร้อมกับแยกขำยเครื่องใน คอ และขำ ต่ำงหำก พร้อมระบุรำคำขำย ดังนี้ ถ้ำเป็นเนื้ออกไม้ละ 40 บำท,ปีกไมล้ ะ 40 บำท,น่อง-สะโพกไม้ละ 50 บำท ถ้ำเป็นครึง่ ตัวรำคำชิ้นละ 90 บำท(จะแบ่งกลำง แต่ไม่มี เนอื้ อก) และเคร่ืองในไม้ละ 20 บำท ทง้ั นสี้ ่วนที่เปน็ น่อง-สะโพกขำยดีท่ีสุด เพรำะมีเนอื้ แน่น และมรี สอรอ่ ยกว่ำ สว่ นอ่นื วัตถุดิบท่ใี ชป้ ระโยชน์ในผลิตภัณฑ์ทเ่ี กดิ จำกภูมปิ ัญญำ ซงึ่ พน้ื ท่ีอืน่ ไม่มี - เคร่อื งสมุนไพรหมักไก่ - ไม้สำมงำ่ ม

3 รำยละเอยี ดของภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ - รูปแบบในกำรถำ่ ยทอดควำมรู้ ด้ำนกำรศึกษำดงู ำน ด้ำนกำรอบรมให้ควำมรู้ ฝึกปฏิบัติ ในพ้ืนที่จริง ประโยชนท์ ี่ไดจ้ ำกภมู ปิ ญั ญำคอื สำมำรถนำไปปฏิบตั ิจริงได้ รปู แบบและลกั ษณะกำรถ่ำยทอด กำรประชำสมั พนั ธ์ เผยแพร่ภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ ยังไม่เคยมกี ำรเผยแพร/่ ใชเ้ ฉพำะบคุ คล เคยเผยแพร่เฉพำะในชมุ ชน √ มีกำรเผยแพรผ่ ำ่ นส่อื มวลชนและสอ่ื อ่นื อยำ่ งแพรห่ ลำย มีกำรดูงำนจำกบุคคลภำยนอก จำนวน .......ครงั้ จำนวน............คน มกี ำรนำไปใช้ อ่ืนๆ (ระบุ) ลกั ษณะของภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถนิ่ กำรพฒั นำตอ่ ยอดภมู ิปัญญำให้เปน็ นวัตกรรม คณุ คำ่ (มลู ค่ำ) และควำมภำคภมู ิใจ ภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ /นวตั กรรมที่คิดคน้ ขน้ึ มำใหม่ √ ภมู ิปัญญำทอ้ งถนิ่ ด้งั เดิมได้รับกำรถำ่ ยทอดมำ ภมู ปิ ัญญำท้องถิน่ ที่ได้พัฒนำและตอ่ ยอด กำรพัฒนำตอ่ ยอดคือ ไกย่ ่ำงบำงตำลมรี สอร่อยไม่เหมอื นท่ีอนื่ เพรำะมีกำรหมักไว้นำน แตค่ วำมจรงิ ไมไ่ ดเ้ ป็นเช่นนัน้ แต่ทำงร้ำนจะหมัก เพยี งครู่เดียว แล้วนำไปย่ำงทันที แลว้ ใหเ้ หตุผลวำ่ กำรหมกั ไก่ไวเ้ ป็นเวลำนำนคงไม่อร่อยเทำ่ กับกำรใช้เวลำหมัก สั้นๆ กำรนำเครื่องเทศต่ำงๆ ที่ใช้หมักไก่มำผสมกันที่ลงตัวมีควำมกลมกล่อม และไม้เสียบไก่ที่เป็นสำมง่ำมไม่ เหมือนที่อ่ืน มีกำรใช้ช่องทำงออนไลน์ในกำรขำยรวมถึงกำรประชำสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข้ำวสำรและออกงำน สนิ คำ้ OTOP ตำ่ งๆ

4 รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำ นำยสชุ ำติ มบี ำรุง กำรยำ่ งไก่บำงตำล รำ้ นไก่ย่ำงบุญเลศิ บำงตำล

5 แบบบันทึกชดุ ขอ้ มูลคลงั ปญั ญำ-ภมู ปิ ัญญำท้องถิน่ ตำบล หนองกบ อำเภอ บ้ำนโปง่ จงั หวัด รำชบรุ ี ชอ่ื ภูมปิ ัญญำ กำรปลกู ข้ำวอินทรยี ์ ข้อมูลพื้นฐำน รำยบุคคล เจำ้ ของภมู ปิ ญั ญำท้องถนิ่ /บคุ คลคลังปญั ญำ ชอื่ นำยวนิ ัย นำมสกุล มน่ั คง วนั เดือนปีเกิด 18 มกรำคม 2506 ท่อี ยปู่ จั จุบนั (ที่สำมำรถติดต่อได้) บ้ำนเลขท่ี 53/2 หมู่ที่ 8 ตำบล/แขวง หนองกบ อำเภอ/เขต บำ้ นโป่ง จงั หวดั รำชบุรี รหัสไปรณีย์ 70110 โทรศพั ท์ 096-8031051 พิกดั ทำงภูมิศำสตร์ ค่ำ X: 13. ค่ำY: 99.92069869 ควำมเปน็ มำของภมู ิปญั ญำ กำรผลติ ขำ้ วอินทรีย์ เป็นระบบกำรผลิตข้ำวทีไ่ ม่ใช้สำรเคมที ำงกำรเกษตรทกุ ชนดิ เป็นต้นว่ำ ปยุ๋ เคมี สำร ควบคุมกำรเจริญเติบโต สำรควบคุมและกำจัดวัชพืช สำรป้องกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว ตลอดจน สำรเคมที ่ีใชร้ มเพ่อื ปอ้ งกนั กำจดั แมลงศตั รูข้ำวในโรงเก็บ กำรผลติ ขำ้ วอินทรยี ์นอกจำกจะทำใหไ้ ด้ผลผลิตข้ำวที่มี คุณภำพสูงและปลอดภัยจำกสำรพิษแล้ว ยังเปน็ กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและเป็นกำรพัฒนำกำรเกษตร แบบยั่งยืนอีกด้วยกำรผลิตข้ำวอินทรีย์เป็นระบบกำรผลิตทำงกำรเกษตรท่ีเน้นเร่ืองของธรรมชำติเป็นสำคัญ ได้แก่ กำรอนุรกั ษ์ทรัพยำกรธรรมชำติ กำรฟืน้ ฟคู วำมอุดมสมบูรณ์ของธรรมชำติ กำรรักษำสมดุลธรรมชำติและ กำรใช้ประโยชน์จำกธรรมชำติ เพื่อกำรผลิตอย่ำงย่ังยืน เช่น ปรับปรงุ ควำมอุดมสมบูรณ์ของดินโดยกำรปลูกพืช หมุนเวียน กำรใช้ป๋ยุ อินทรียใ์ นไรน่ ำหรือจำกแหล่งอ่ืน ควบคมุ โรค แมลงและสัตว์ศัตรูขำ้ วโดยวิธีผสมผสำนท่ีไม่ ใช้สำรเคมี กำรเลือกใช้พันธุ์ข้ำวที่เหมำะสมมีควำมต้ำนทำนโดยธรรมชำติ รักษำสมดุลของศัตรูธรรมชำติ กำรจดั กำรพืช ดิน และนำ้ ใหถ้ ูกต้องเหมำะสมกบั ควำมต้องกำรของต้นข้ำว เพื่อทำให้ต้นขำ้ วเจรญิ เติบโตได้ดี มี ควำมสมบูรณ์แข็งแรงตำมธรรมชำติ กำรจัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมต่อกำรระบำดของโรค แมลงและ สตั วศ์ ัตรขู ำ้ ว เป็นตน้ กำรปฏิบตั เิ ช่นนี้ก็สำมำรถทำใหต้ ้นขำ้ วทปี่ ลูกให้ผลผลติ สูงในระดบั ทนี่ ำ่ พอใจ กำรผลติ ข้ำวอินทรียม์ ีขั้นตอนกำรปฏบิ ัตเิ ช่นเดยี วกับกำรผลิตข้ำวโดยท่ัวไปจะแตกตำ่ งกนั ทีต่ อ้ ง หลีกเล่ยี งกำรใช้สำรเคมีสงั เครำะห์ในทกุ ขัน้ ตอนกำรผลิต จึงมขี อ้ ควรปฏบิ ตั ิดังนี้ 1. กำรเลือกพนื้ ทป่ี ลกู 2. กำรเลือกใชพ้ นั ธขุ์ ำ้ ว 3. กำรเตรียมเมลด็ พันธุ์ข้ำว 4. กำรเตรยี มดนิ

6 5. วธิ ีปลูก 6. กำรจัดกำรควำมอุดมสมบรู ณ์ของดิน 7. ระบบกำรปลกู พชื 8. กำรควบคมุ วชั พชื 9. กำรป้องกนั กำจดั โรค แมลง และสตั ว์ศตั รูพชื 10. กำรจัดกำรน้ำ 11. กำรเก็บเก่ยี ว กำรนวดและกำรลดควำมชื้น 12. กำรเก็บรกั ษำข้ำวเปลอื ก 13. กำรสี 14. กำรบรรจหุ ีบหอ่ เพ่ือกำรค้ำ ขั้นตอนกำรผลิตขำ้ วอนิ ทรยี ์ 1. กำรเลือกพนื้ ทีป่ ลกู เลือกพ้ืนทที่ ่ีมีขนำดใหญ่ตดิ ต่อกัน และมีควำมอุดมสมบูรณข์ องดนิ โดยธรรมชำติคอ่ นขำ้ งสงู ประกอบด้วย ธำตุอำหำรที่จำเปน็ ต่อกำรเจริญเติบโตของข้ำวอยำ่ งเพยี งพอ มีแหล่งน้ำสำหรบั กำรเพำะปลูก ไม่ควรเป็นพ้ืนที่ท่ี มีกำรใช้สำรเคมีในปริมำณมำกติดต่อกนั เป็นเวลำนำน หรือมีกำรปนเปื้อนของสำรเคมีสูง และห่ำงจำกพ้ืนที่ที่มี กำรใช้สำรเคมีกำรเกษตรสำหรับเกษตรกรรำยย่อยที่มีพ้ืนที่ถือครองไม่มำกและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันควร รวมกล่มุ กันเพ่ือผลิตขำ้ วอินทรยี ์ 2. กำรเลือกใชพ้ ันธุ์ข้ำว พันธ์ขุ ้ำวท่ีใช้ปลูกควรมีคุณสมบัติด้ำนกำรเจริญเตบิ โตเหมำะสมกบั สภำพแวดล้อมในพนื้ ทป่ี ลูก และให้ผลผลติ ได้ ดีแม้ในสภำพดินที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ต้ำนทำนโรคและแมลงศัตรูข้ำว และมีคุณภำพเมล็ดตรงกับ ควำมต้องกำรของผู้บริโภคข้ำวอินทรีย์ กำรผลิตข้ำวอินทรีย์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ขำวดอกมะลิ 105 และ กข15 ซงึ่ ท้ังสองพันธเ์ุ ป็นขำ้ วทีม่ ีคณุ ภำพเมล็ดดเี ป็นพิเศษ 3. กำรเตรียมเมล็ดพนั ธขุ์ ้ำว เลือกใช้เมล็ดพันธ์ุขำ้ วท่ีไดม้ ำตรฐำนผลิตจำกแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ขำ้ วแบบเกษตรอนิ ทรยี ์ท่ีได้รับกำรดูแล อย่ำงดี มีควำมงอกดี ผ่ำนกำรเก็บรกั ษำโดยไม่ใช้สำรเคมีสังเครำะห์ ปรำศจำกโรค แมลงและเมล็ดวัชพืช หำก จำเป็นต้องป้องกันโรคที่ติดมำกับเมล็ดพันธ์ุอนุโลมให้นำมำแช่ในสำรละลำยจุนสี (จุนสี 1 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร) เป็นเวลำนำน 20 ช่วั โมง แลว้ ลำ้ งดว้ ยน้ำกอ่ นนำไปปลกู

7 4. กำรเตรยี มดนิ วัตถุประสงค์หลักของกำรเตรียมดินคือสร้ำงสภำพท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกและกำรเจริญเติบโตของข้ำว ช่วยควบคุมวัชพืช โรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวบำงชนิด กำรเตรียมดินมำกหรือน้อยข้ึนอยู่กับคุณสมบัติดิน สภำพแวดลอ้ มในแปลงนำก่อนปลูกและวิธกี ำรปลกู โดยไถดะ ไถแปร ครำด และทำเทอื ก 5. วิธปี ลูก กำรปลูกข้ำวแบบปักดำจะเหมำะสมที่สุดกับกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ เพรำะกำรเตรียมดิน ทำเทือก กำร ควบคุมระดับน้ำในนำจะช่วยลดปริมำณวัชพืชได้และกำรปลูกกล้ำข้ำวลงดินจะช่วยให้ข้ำวสำมำรถแข่งขันกับ วัชพืชได้ ต้นกล้ำท่ีใช้ปักดำควรมีอำยุประมำณ 30 วัน เลือกต้นกล้ำท่ีเจริญเติบโตแข็งแรงดี ปรำศจำกโรคและ แมลงทำลำยเนื่องจำกในกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ต้องหลีกเลี่ยงกำรใช้สำรสังเครำะห์ทุกชนิดโดยเฉพำะปุ๋ยเคมี จึง แนะนำให้ใชร้ ะยะปลูกถี่กวำ่ ระยะปลูกทแี่ นะนำสำหรับปลูกข้ำวโดยทั่วไปเล็กนอ้ ยคือ ระยะระหว่ำงต้นและแถว ประมำณ 20 เซนติเมตร จำนวนต้นกล้ำ 3-5 ต้นต่อกอ และใช้ระยะปลูกแคบกว่ำน้ีหำกดินนำมีควำมอุดม สมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ในกรณีท่ีต้องปลูกล่ำหรือปลูกหลังจำกช่วงเวลำปลูกที่เหมำะสมของข้ำวแต่ละพันธ์ุ และมี ปัญหำเรอ่ื งกำรขำดแคลนแรงงำน แนะนำให้เปลี่ยนไปปลูกวธิ ีอ่ืนที่เหมำะสม เช่น หว่ำนข้ำวแห้ง หรือหวำ่ นน้ำ ตม 6. กำรจัดกำรควำมอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ เนอ่ื งจำกกำรปลกู ขำ้ วอินทรีย์ต้องหลกี เล่ียงกำรใช้ปุ๋ยเคมี กำรเลือกพ้ืนท่ปี ลูกทด่ี นิ มีควำมอดุ มสมบูรณ์สูง ตำมธรรมชำติ จึงเป็นกำรเริ่มต้นท่ีได้เปรียบ เพื่อท่ีจะรักษำระดับผลผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่ำพอใจ นอกจำกนี้ เกษตรกรยังต้องรู้จักกำรจัดกำรดินท่ีถูกต้อง และพยำยำมรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมำะสมกับกำร ปลูกข้ำวอินทรีย์ให้ได้ผลดีและย่ังยืนมำกที่สุด คำแนะนำเกี่ยวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินสำหรับ กำรผลิตขำ้ วอินทรยี ์สำมำรถแบง่ ออกได้ ดงั น้ี 1) กำรจดั กำรดิน มขี ้อแนะนำเกย่ี วกับกำรจัดกำรเพื่อรกั ษำควำมอุดมสมบรู ณ์ของดินให้เหมำะสมกบั กำรใชป้ ลกู ข้ำวอินทรยี ด์ ังน้ี -ไม่เผำตอซัง ฟำงข้ำว และเศษวัสดุอินทรยี ์ในแปลงนำ เพรำะเป็นกำรทำลำยอินทรียวัตถุและ จุลินทรีย์ดินที่มี ประโยชน์ -ไม่นำช้ินส่วนของพืชที่ไม่ใช้ประโยชน์โดยตรงออกจำกแปลงนำ แต่ควรนำวัสดุอินทรีย์จำกแหล่งใกล้เคียงใส่ แปลงนำใหส้ ม่ำเสมอทีละเลก็ ละน้อย -เพม่ิ อินทรียวตั ถุใหก้ ับดินโดยกำรปลกู พืชโดยเฉพำะพืชตระกูลถั่วในท่ีว่ำงในบรเิ วณพน้ื ท่นี ำตำมควำมเหมำะสม แลว้ ใชอ้ ินทรียวัตถทุ ีเ่ กดิ ข้ึนในระบบไร่นำให้เกิดประโยชน์ตอ่ กำรปลูกข้ำว-ไม่ควรปล่อยทด่ี นิ ให้ว่ำงเปลำ่ ก่อนกำร ปลูกข้ำวและหลังจำกกำรเก็บเกี่ยวข้ำว แต่ควรปลูกพืชบำรุงดินโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัว เช่น ถ่ัวเขียว ถั่วพร้ำ โสน เป็นตน้

8 -ควรวิเครำะห์ดินนำทุกปี แล้วแก้ไขภำวะควำมเป็นกรดเป็นด่ำงของดินให้เหมำะสมกบั กำรเจริญเติบโตของต้น ข้ำว (ประมำณ 5.5 – 6.5) ถ้ำพบว่ำดินมีควำมเป็นกรดสูงแนะนำให้ใช้ปูนมำร์ล ปูนขำว หรือข้ีเถ้ำไม้ปรับปรุง สภำพดนิ 2) กำรใชป้ ุ๋ยอินทรยี ์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำติอย่ำงสม่ำเสมอ แต่เน่ืองจำกปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชำติแทบทุกชนิดมีควำมเข้มข้น ของธำตอุ ำหำรค่อนข้ำงต่ำ จึงตอ้ งใชใ้ นปรมิ ำณทส่ี ูงมำก และอำจมีไม่พอเพียงสำหรับกำรปลกู ข้ำวอินทรียแ์ ละถ้ำ หำกมกี ำรจัดกำรท่ีไม่เหมำะสมก็จะเป็นกำรเพ่ิมต้นทนุ กำรผลิต จึงแนะนำให้ใช้หลักกำรธรรมชำติท่วี ่ำ “สร้ำงให้ เกดิ ขน้ึ ในพื้นที่ ใสท่ ลี ะเลก็ ทลี ะนอ้ ยสมำ่ เสมอเปน็ ประจำ” ป๋ยุ อินทรยี จ์ ำกธรรมชำตทิ ่คี วรใช้ ไดแ้ ก่ -ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ได้แก่มูลสัตว์ต่ำง ๆ ซึ่งอำจนำมำจำกภำยนอก หรือจัดกำรผลิตข้ึนในบริเวณไร่นำ นอกจำกนี้ท้องนำในชนบทหลังจำกเก็บเก่ียวข้ำวแล้วมักจะปล่อยให้เป็นที่เลี้ยงสัตว์โดยให้แทะเล็มตอซังและ หญำ้ ตำ่ ง ๆ มลู สตั วท์ ถ่ี ำ่ ยออกมำปะปนกับเศษซำกพืช กจ็ ะเปน็ กำรเพิ่มอินทรยี วัตถใุ นนำอกี ทำงหน่ึง -ปุ๋ยหมัก ควรจัดทำในพื้นท่ีนำหรือบริเวณที่อยู่ไม่ห่ำงจำกแปลงนำมำกนักเพ่ือควำมสะดวกในกำรใช้ ควรใช้ เชื้อจุลินทรีย์ในกำรทำปุ๋ยหมักเพื่อช่วยกำรย่อยสลำยได้เร็วขึ้น และเก็บรักษำให้ถูกต้องเพ่ือลดกำรสูญเสียธำตุ อำหำร -ปุ๋ยพืชสด ควรเลือกชนิดที่เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมควรปลูกก่อนกำรปักดำข้ำวในระยะเวลำพอสมควร เพือ่ ให้ต้นปุย๋ พืชสดมีชว่ งกำรเจริญเติบโตเพียงพอท่ีจะผลิตมวลพชื สดได้มำก มีควำมเขม้ ขน้ ของธำตไุ นโตรเจนสูง และไถกลบต้นปุ๋ยพชื สดก่อนกำรปลกู ข้ำวตำมกำหนดเวลำ เช่น โสนอัฟรกิ นั (Sesbania rostrata) ควรปลกู ก่อน ปักดำประมำณ 70 วนั โดยใช้อตั รำเมล็ดพันธ์ปุ ระมำณ 7 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่ หำกจำเปน็ ต้องใชป้ ุ๋ยฟอสฟอรสั ช่วยเร่ง กำรเจริญเติบโต แนะนำให้ใช้หินฟอสเฟตบดละเอียดใส่ตอนเตรียมดินปลูก แล้วไถกลบต้นโสนขณะมีอำยุ ประมำณ 50-55 วัน หรือกอ่ นกำรปกั ดำขำ้ วประมำณ 15 วนั -นำ้ หมักชีวภำพ หรือนำ้ สกดั ชีวภำพ (Bio Extract) ควรใหท้ ำใช้เองจำกวสั ดุเหลือใช้ในไรน่ ำ ในครวั เรือน นำมำหมกั ร่วมกับ กำกนำ้ ตำล(Mollass) หรือนำ้ ตำลทรำยแดงละลำยนำ้ แบง่ ได้ 3 ประเภท ตำมวัสดุท่ีนำใช้ ไดแ้ ก่ น้ำสกดั จำกพชื ไดแ้ กผ่ กั ต่ำงๆ ใบสะเดำ ตะไครห้ อม พชื สมุนไพรตำ่ งๆ นำ้ สกัดจำกผลไม้ เศษผลไม้จำกครวั เรอื น มะม่วง สับปะรด กล้วย มะละกอ ฟักทอง

9 วธิ ีทำป๋ ยุ นำ้ หมัก นำ้ หมักจำกสัตว์ เก็บหอยเชอรี่ หรือปูนำ นำมำลำ้ งนำ้ ให้สะอำด ไม่มีขี้โคลนตดิ ใส่ถุงปยุ๋ ประมำณครึง่ ถุง ใช้ไม้ตี หรือทุบให้ เปลือกแตก อำจใช้ครกไม้หรอื ครกหินขนำดใหญ่ตำก็ได้ เพ่ือเวลำหมักกำกน้ำตำลจะได้สัมผัสกับเน้ือหอย หรือ เน้ือปูโดยตรง ชั่งน้ำหนักวัสดุท่ีใช้เทใส่ภำชนะหรือถังหมัก ชั่งกำกน้ำตำล(Mollas)หนักเท่ำกับวัสดุที่ใช้ หรือ อัตรำสว่ นระหวำ่ ง หอยเชอร่ีหรอื ปนู ำ:กำกน้ำตำล=1:1 โดยนำ้ หนัก คนให้เข้ำกนั ดี ปิดฝำไม่ตอ้ งแน่น เพื่อให้แก๊ซ ทเ่ี กดิ ระหว่ำงกำรหมักมีโอกำสถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดอื น เติมนำ้ สะอำดอีก 1 เท่ำ หรือให้ท่วมวัสดุ คนให้ เขำ้ กันดี หมกั ตอ่ อีก 1 เดอื น จงึ นำน้ำหมกั มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรอื มงุ้ ลวด นำของเหลวทีไ่ ดจ้ ำกกำรกรองมำ ใชป้ ระโยชน์ น้ำหมกั จำกพืชหรอื เศษวสั ดจุ ำกพชื นำเศษวัสดุจำกพืช เช่น พืช ผัก วัชพืช(หญ้ำ) สับหยำบ ๆ ช่ังน้ำหนักแลว้ เทใส่ภำชนะ หรือถังหมัก ชั่ง กำกนำ้ ตำล 1 ใน 3 ของน้ำหนักวสั ดุ หรืออัตรำส่วนระหวำ่ ง ผัก:กำกนำ้ ตำล=3:1 โดยน้ำหนัก เทลงผสมกัน ใช้ ไม้คนให้เข้ำกัน ปิดฝำไม่ต้องแน่น เพ่ือให้แก๊สที่เกิดระหว่ำงกำรหมักถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำ สะอำดให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของน้ำในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักท่ีได้มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวท่ีได้จำกกำรกรองมำใช้ประโยชน์ น้ำหมักผลไม้ (เช่น เปลือกสับปะรด มะละกอสุก กล้วยสกุ มะมว่ งสุก ฟกั ทอง) มวี ิธที ำเชน่ เดียวกับ น้ำสกัดจำกพืช เศษผลไม้ ต้องไม่บูดเน่ำ เสยี หำย หรือสกปรก อตั รำสว่ นของวัสดุ:กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก คนให้เขำ้ กันดี ปิดฝำ หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของของเหลวในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมกั มำกรองโดยตำข่ำยสฟี ้ำ หรือม้งุ ลวด นำของเหลว ที่กรองได้มำใช้ประโยชน์ วิธใี ชน้ ้ำหมกั ในนำขำ้ ว ครั้งท่ี 1 หลังทำเทือก ป้ันคันนำย่อยอุดรอยร่ัว หรือรอยแตกระแหง ป้องกันกำรร่ัวซึมของน้ำหมัก แล้วนำน้ำ หมกั (แนะนำใหใ้ ชน้ ำ้ หมักพชื )ทท่ี ำข้ึน อตั รำ 5 ลิตรต่อไร่ ผสมน้ำเปล่ำ 10 เทำ่ รำดให้ทวั่ จงึ ปักดำข้ำว ครงั้ ที่ 2 ระยะข้ำวแตกกอหรอื หลังจำกปักดำข้ำวไปแล้ว 30 วนั ใช้น้ำหมัก(แนะนำให้ใช้น้ำหมกั จำกเนอ้ื )อัตรำ 5 ลิตรตอ่ ไร่ผสมนำ้ เปลำ่ เท่ำกันกบั คร้ังที่ 1 รำดให้ท่ัว ครั้งที่ 3 ระยะข้ำวเรม่ิ ตง้ั ท้อง(แนะนำให้ใช้นำ้ หมกั ผลไม)้ อตั รำ 250 ซซี ตี อ่ ไร่ ผสมนำ้ เปล่ำ 50 เทำ่ พ่นทว่ั แปลง คร้งั ที่ 4 และ 5 ฉีดพน่ ด้วยน้ำหมักจำกผลไม้ หลังจำกคร้งั ท่ี 3 เปน็ เวลำ 15 และ 30 วัน หมำยเหตุ แนะนำใหใ้ ช้รว่ มกบั กำรไถกลบปุย๋ พชื สด หรอื ใส่ปุย๋ คอก

10 3) กำรใช้อนิ ทรียวัตถบุ ำงอยำ่ งทดแทนปุ๋ยเคมี หำกปฏิบัติตำมคำแนะนำเก่ียวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินข้ำงต้นแล้ว ยังพบว่ำดินมีควำม อุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอหรือขำดธำตุอำหำรท่ีสำคัญบำงชนิดไปสำมำรถนำอินทรียวัตถุจำกธรรมชำติต่อไปน้ี ทดแทนป๋ยุ เคมีบำงชนิดได้คอื -แหล่งธำตไุ นโตรเจน เช่น แหนแดง สำหรำ่ ยสีนำ้ เงินแกมเขยี ว กำกเมลด็ สะเดำ และเลือดสัตว์แห้ง เปน็ ตน้ -แหล่งธำตุฟอสฟอรัส เช่นหินฟอสเฟต กระดูกป่น มูลไก่ มูลค้ำงคำว กำกเมล็ดพืชขี้เถ้ำไม้ และสำหร่ำยทะเล เป็นต้น -แหลง่ ธำตุโพแทสเซยี ม เชน่ ข้ีเถำ้ และหินปนู บำงชนดิ -แหลง่ ธำตุแคลเซยี ม เชน่ ปนู ขำว โดโลไมท์ เปลือกหอยปน่ และกระดูกปน่ เป็นต้น 7. ระบบกำรปลูกพชื ปลูกขำ้ วอินทรียเ์ พียงปลี ะคร้ัง โดยเลอื กช่วงเวลำปลกู ทเ่ี หมำะสมกับข้ำวแตล่ ะพันธุ์และปลูกพชื หมุนเวียน โดยเฉพำะพืชตระกูลถั่วก่อนและหลังกำรปลูกข้ำว อำจปลูกข้ำวอินทรีย์ร่วมกับพืชตระกูลถั่วก็ได้ถ้ำสภำพ แวดลอ้ มเหมำะสม 8. กำรควบคมุ วัชพชื แนะนำใหค้ วบคุมวัชพชื โดยวธิ กี ล เช่น กำรเตรียมดินทีเ่ หมำะสม วิธกี ำรทำนำที่ลดปญั หำวชั พืช กำรใช้ ระดบั นำ้ ควบคุมวัชพชื กำรใช้วสั ดุคลุมดนิ กำรถอนด้วยมือ วธิ เี ขตกรรมตำ่ ง ๆ กำรใช้เครอ่ื งมือ รวมท้งั กำรปลกู พชื หมุนเวียน เป็นตน้ 9. กำรปอ้ งกันกำจัดโรค แมลง และสัตว์ศัตรพู ชื หลักกำรสำคัญของกำรปอ้ งกนั กำจดั โรค แมลงและสตั วศ์ ัตรขู ้ำวในกำรผลิตขำ้ วอินทรยี ม์ ีดงั น้ี 1) ใชข้ ้ำวพันธ์ตุ ้ำนทำน 2) กำรปฏิบตั ิด้ำนเขตกรรม เช่น กำรเตรยี มแปลง กำหนดช่วงเวลำปลกู ทเี่ หมำะสม ใช้อตั รำเมลด็ และระยะปลูกท่ีเหมำะสม กำรปลูกพืชหมนุ เวยี นเพื่อตัดวงจรกำร ระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว กำรรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินและสมดุลของธำตุอำหำรพืช กำร จัดกำรน้ำ เพ่ือให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตดี สมบูรณ์และแข็งแรง สำมำรถลดกำรทำลำยของโรค แมลงและสัตว์ศัตรู ขำ้ วได้สว่ นหนึง่ 3)จัดกำรสภำพแวดลอ้ มไม่ให้เหมำะสมกับกำรระบำดของโรค แมลงและสตั ว์ศัตรูขำ้ ว เช่น กำรกำจัดวชั พืช กำร กำจัดเศษซำกพชื ท่เี ป็นโรคโดยใช้ปูนขำว หรือกำมะถนั ผงทไี่ ม่ผำ่ นกระบวนกำรทำงเคมี 4) รักษำสมดลุ ทำงธรรมชำติ โดยส่งเสริมกำรแพร่ขยำยปรมิ ำณของแมลงที่มปี ระโยชน์ เช่น ตัวห้ำ ตัวเบียน และ ศตั รูธรรมชำตเิ พ่ือชว่ ยควบคมุ แมลงและสัตวศ์ ตั รูข้ำว 5) ปลกู พืชขบั ไลแ่ มลงบนคันนำ เชน่ ตะไครห้ อม

11 6) หำกมีควำมจำเป็นอนญุ ำตใหใ้ ช้สำรสกดั จำกพืช เชน่ สะเดำ ขำ่ ตะไคร้หอม และใบแคฝรัง่ เป็นตน้ 7) ใชว้ ิธกี ล เช่น ใชแ้ สงไฟล่อ ใช้กับดกั และใช้กำวเหนียว 8) ในกรณีที่ใช้สำรเคมีกำจัดควรกระทำโดยทำงอ้อม เช่น นำไปผสมกับเหย่ือล่อในกับดักแมลงหรือใช้สำรพิษ กำจัดสัตว์ศัตรูข้ำว ซึ่งจะต้องใช้อย่ำงระมัดระวัง และต้องกำจัดสำรเคมีที่เหลือรวมท้ังศัตรขู ้ำวท่ีถูกทำลำยโดย เหย่อื พิษอย่ำงถกู วธิ ี หลงั จำกปฏบิ ัติเสรจ็ แลว้ 10. กำรจดั กำรน้ำ ระดับน้ำมีควำมสัมพันธ์กับกำรเจริญเติบโตทำงลำต้นและกำรให้ผลผลิตของข้ำวโดยตรง ในระยะปักดำ จนถึงแตกกอถ้ำระดับน้ำสูงมำกจะทำให้ต้นข้ำวสูงเพ่ือหนีน้ำทำให้ต้นอ่อนแอและล้มง่ำย ในระยะนี้ควรรักษำ ระดับน้ำให้อยู่ที่ประมำณ 5 เซนติเมตร แต่ถ้ำต้นข้ำวขำดน้ำจะทำให้วัชพืชเติบโตแข่งขันกับต้นข้ำวได้ ดังน้ัน ระดับน้ำที่เหมำะสมต่อกำรปลูกข้ำวอินทรีย์ ตลอดฤดูปลูกควรเก็บรักษำไว้ที่ปริมำณ 5-15 เซนติเมตร จนถึง ระยะกอ่ นเกบ็ เกีย่ วประมำณ 7-10 วัน จึงระบำยน้ำออกเพ่ือให้ข้ำวสุกแก่พร้อมกัน และพ้ืนท่ีนำแห้งพอเหมำะ ต่อกำรเกบ็ เกีย่ ว 11. กำรเก็บเก่ยี ว กำรนวดและกำรลดควำมชื้น เก็บเกีย่ วข้ำวหลังจำกออกดอก ประมำณ 28-30 วัน สังเกตจำกเมล็ดในรวงขำ้ วสุกแก่เมล็ดเปล่ียนเป็นสี ฟำง เรียกว่ำ ระยะพลบั พลึง 1).กำรเก่ียวโดยใช้เคียว ต้องตำกฟ่อนขำ้ วในนำประมำณ 2-3 แดด แลว้ จงึ รวมกอง ทำกำรนวดต่อไป 2).กำรเกย่ี วขำ้ วโดยใช้รถเกยี่ วนวด เมล็ดข้ำวยังมคี วำมชื้นสูง ต้องตำกบนลำน ในสภำพที่แดดจัดเป็นเวลำ 1-2 วัน พลกิ กลับเมล็ดข้ำววนั ละ 3-4 คร้ัง ให้ควำมช้นื เหลอื 14 เปอรเ์ ซน็ ต์ หรือต่ำกวำ่ เพ่อื ใหเ้ หมำะสมตอ่ กำรเก็บ รักษำ และทำใหม้ ีคุณภำพกำรสดี ี 12. กำรเก็บรกั ษำขำ้ วเปลือก เมอื่ ลดควำมชื้นใหต้ ่ำกว่ำ 14 เปอร์เซ็นต์ แล้วจงึ นำเมล็ดข้ำวไปเก็บรกั ษำในยุ้งฉำงหรือใส่ในภำชนะที่แยก ตำ่ งหำกจำกขำ้ วทผ่ี ลิตโดยวิธีอื่น 13. กำรสี ตอ้ งแยกสีตำ่ งหำกจำกขำ้ วทวั่ ไป โดยทำกำรใช้ขำ้ วเปลอื กอินทรยี ส์ ลี ้ำงเครื่อง 14. กำรบรรจหุ บี ห่อเพ่ือกำรคำ้ ควรบรรจุข้ำวกล้องหรือข้ำวสำรในถุงขนำดเล็กตั้งแต่ 1 กิโลกรัม ถึง 5 กิโลกรัม โดยบรรจุในสภำพ สุญญำกำศ

12 จุดเดน่ ของภูมิปญั ญำ สำมำรถทำปุ๋ยน้ำชีวภำพและปุ๋ยหมักชีวภำพใช้เองได้โดยไม่ต้องพึ่งสำรเคมีหรือยำปรำบศัตรูพืชสิ่งท่ี สำคญั ทสี่ ดุ คือยดึ ม่ันในกำรปลกู ข้ำวอินทรีย์ปลอดสำรและนอ้ มนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งมำใช้ในกำร ดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั และเปน็ วิทยำกรถ่ำยทอดควำมรู้ วตั ถดุ บิ ที่ใชป้ ระโยชนใ์ นผลิตภัณฑท์ เ่ี กดิ จำกภูมิปัญญำ ซึง่ พ้ืนทอี่ ่นื ไมม่ ี - หอยเชอรี่ หรอื ปนู ำ - เศษวสั ดจุ ำกพืช เชน่ พืช ผัก วัชพืช(หญ้ำ) รำยละเอยี ดของภูมปิ ัญญำทอ้ งถิน่ - รปู แบบในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ ด้ำนกำรศกึ ษำดงู ำน ในพืน้ ท่จี รงิ ประโยชน์ทไี่ ด้จำกภูมิปัญญำคือสำมำรถ นำไปปฏบิ ตั จิ รงิ ได้ รปู แบบและลักษณะกำรถำ่ ยทอด กำรประชำสมั พันธ์ เผยแพรภ่ ูมปิ ญั ญำทอ้ งถนิ่ ยงั ไม่เคยมกี ำรเผยแพร่/ใช้เฉพำะบคุ คล √ เคยเผยแพรเ่ ฉพำะในชุมชน มีกำรเผยแพรผ่ ่ำนสอื่ มวลชนและสื่ออื่นอย่ำงแพรห่ ลำย มกี ำรดงู ำนจำกบุคคลภำยนอก จำนวน .......ครง้ั จำนวน............คน มีกำรนำไปใช้ อืน่ ๆ (ระบุ) ลักษณะของภมู ิปญั ญำท้องถ่ิน กำรพฒั นำตอ่ ยอดภมู ิปญั ญำให้เปน็ นวัตกรรม คณุ ค่ำ (มูลค่ำ) และ ควำมภำคภูมิใจ ภมู ปิ ัญญำท้องถ่นิ /นวัตกรรมทีค่ ิดคน้ ขึ้นมำใหม่ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถิ่นด้ังเดมิ ไดร้ ับกำรถ่ำยทอดมำ √ ภูมปิ ัญญำท้องถน่ิ ทไ่ี ดพ้ ฒั นำและต่อยอด

13 รูปภำพภมู ปิ ัญญำ นำยวินยั มนั่ คง ผลติ ภัณฑ์ขำ้ วหอมมะลิ ศจช.ตำบลหนองกบ แปลงขำ้ วตำบลหนองกบ แปลงขำ้ วตำบลหนองกบ

14 แบบบนั ทกึ ชุดขอ้ มูลคลงั ปญั ญำ-ภมู ิปญั ญำท้องถน่ิ ตำบล หนองกบ อำเภอ บำ้ นโปง่ จังหวดั รำชบรุ ี ชื่อภูมิปญั ญำ กำรปลกู ข้ำวอินทรีย์กำรเลี้ยงววั ข้อมลู พ้นื ฐำน รำยบคุ คล เจ้ำของภมู ปิ ญั ญำท้องถน่ิ /บุคคลคลงั ปญั ญำ ช่อื นำยปรีชำ นำมสกุล คลอ่ งแคล่ว วนั เดอื นปเี กิด 8 สิงหำคม 2515 ทอ่ี ยู่ปจั จุบัน (ที่สำมำรถติดตอ่ ได)้ บ้ำนเลขที่ 73 หมทู่ ี่ 7 ตำบล/แขวง หนองกบ อำเภอ/เขต บำ้ นโป่ง จังหวัด รำชบรุ ี รหัสไปรษณีย์ 70110 โทรศพั ท์ 087-1574303 พกิ ัดทำงภมู ศิ ำสตร์ ค่ำ X: 13.502631 คำ่ Y: 99.560193 ควำมเป็นมำของภมู ปิ ญั ญำ กำรผลิตข้ำวอินทรยี ์ เป็นระบบกำรผลิตข้ำวที่ไม่ใช้สำรเคมีทำงกำรเกษตรทุกชนดิ เป็นต้นว่ำ ปุ๋ยเคมี สำรควบคุม กำรเจรญิ เติบโต สำรควบคุมและกำจัดวัชพืช สำรปอ้ งกันกำจัดโรค แมลงและสัตว์ศตั รูข้ำว ตลอดจนสำรเคมที ีใ่ ช้ รมเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูข้ำวในโรงเก็บ กำรผลิตข้ำวอนิ ทรีย์นอกจำกจะทำให้ได้ผลผลิตข้ำวท่ีมีคุณภำพสูง และปลอดภัยจำกสำรพษิ แลว้ ยังเป็นกำรอนุรกั ษท์ รัพยำกรธรรมชำติและเปน็ กำรพฒั นำกำรเกษตรแบบยั่งยนื อีก ด้วยกำรผลติ ข้ำวอินทรยี ์เป็นระบบกำรผลิตทำงกำรเกษตรทเ่ี น้นเรอ่ื งของธรรมชำติเป็นสำคัญ ไดแ้ ก่ กำรอนรุ ักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติ กำรฟ้ืนฟูควำมอุดมสมบูรณ์ของธรรมชำติ กำรรักษำสมดุลธรรมชำติและกำรใช้ประโยชน์ จำกธรรมชำติ เพ่ือกำรผลิตอย่ำงย่งั ยืน เชน่ ปรบั ปรงุ ควำมอุดมสมบูรณ์ของดินโดยกำรปลกู พืชหมุนเวยี น กำรใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นำหรือจำกแหล่งอ่ืน ควบคุมโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวโดยวิธีผสมผสำนที่ไม่ใช้สำรเคมี กำร เลือกใช้พันธุ์ข้ำวที่เหมำะสมมีควำมต้ำนทำนโดยธรรมชำติ รักษำสมดุลของศัตรูธรรมชำติ กำรจัดกำรพืช ดิน และน้ำ ให้ถูกต้องเหมำะสมกับควำมต้องกำรของต้นข้ำว เพื่อทำให้ต้นข้ำวเจริญเติบโตได้ดี มีควำมสมบูรณ์ แข็งแรงตำมธรรมชำติ กำรจัดกำรสภำพแวดล้อมไม่ให้เหมำะสมต่อกำรระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว เป็นต้น กำรปฏบิ ัติเชน่ นกี้ ส็ ำมำรถทำใหต้ น้ ข้ำวที่ปลกู ใหผ้ ลผลิตสงู ในระดับที่นำ่ พอใจ กำรผลิตข้ำวอนิ ทรียม์ ขี ้นั ตอนกำรปฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกบั กำรผลิตขำ้ วโดยทว่ั ไปจะแตกต่ำงกันทีต่ ้อง หลีกเลี่ยงกำรใช้สำรเคมสี งั เครำะหใ์ นทกุ ขัน้ ตอนกำรผลติ จึงมขี อ้ ควรปฏิบตั ิดงั นี้ 1. กำรเลอื กพืน้ ท่ปี ลกู 2. กำรเลอื กใชพ้ นั ธุ์ข้ำว 3. กำรเตรียมเมล็ดพันธขุ์ ้ำว 4. กำรเตรียมดิน 5. วิธีปลกู

15 6. กำรจดั กำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดิน 7. ระบบกำรปลูกพืช 8. กำรควบคมุ วัชพชื 9. กำรปอ้ งกนั กำจัดโรค แมลง และสัตวศ์ ตั รพู ืช 10. กำรจัดกำรน้ำ 11. กำรเกบ็ เก่ียว กำรนวดและกำรลดควำมชนื้ 12. กำรเกบ็ รักษำขำ้ วเปลือก 13. กำรสี 14. กำรบรรจุหบี หอ่ เพือ่ กำรคำ้ ขน้ั ตอนกำรผลติ ขำ้ วอนิ ทรยี ์ 1. กำรเลือกพ้นื ทป่ี ลกู เลอื กพื้นที่ท่ีมีขนำดใหญต่ ิดต่อกัน และมคี วำมอดุ มสมบูรณข์ องดนิ โดยธรรมชำติค่อนข้ำงสูง ประกอบด้วย ธำตุอำหำรท่ีจำเป็นต่อกำรเจริญเติบโตของข้ำวอย่ำงเพยี งพอ มีแหล่งน้ำสำหรับกำรเพำะปลูก ไม่ควรเป็นพื้นท่ีท่ี มีกำรใช้สำรเคมีในปริมำณมำกติดต่อกนั เป็นเวลำนำน หรือมีกำรปนเป้ือนของสำรเคมีสูง และห่ำงจำกพื้นที่ท่ีมี กำรใช้สำรเคมีกำรเกษตรสำหรับเกษตรกรรำยย่อยท่ีมีพ้ืนท่ีถือครองไม่มำกและอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันควร รวมกล่มุ กันเพื่อผลติ ข้ำวอนิ ทรีย์ 2. กำรเลอื กใช้พันธุข์ ้ำว พนั ธุข์ ้ำวที่ใชป้ ลกู ควรมคี ุณสมบตั ดิ ้ำนกำรเจรญิ เติบโตเหมำะสมกับสภำพแวดลอ้ มในพนื้ ทป่ี ลูก และให้ผลผลิตได้ ดีแม้ในสภำพดินที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ต้ำนทำนโรคและแมลงศัตรูข้ำว และมีคุณภำพเมล็ดตรงกับ ควำมต้องกำรของผู้บริโภคข้ำวอินทรีย์ กำรผลิตข้ำวอินทรีย์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้พันธ์ุขำวดอกมะลิ 105 และ กข15 ซึ่งท้ังสองพนั ธุ์เป็นข้ำวที่มคี ณุ ภำพเมล็ดดีเป็นพิเศษ 3. กำรเตรียมเมลด็ พันธขุ์ ้ำว เลือกใช้เมล็ดพันธุ์ข้ำวที่ไดม้ ำตรฐำนผลิตจำกแปลงผลติ เมล็ดพันธุ์ข้ำวแบบเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับกำรดูแล อย่ำงดี มีควำมงอกดี ผ่ำนกำรเก็บรักษำโดยไม่ใช้สำรเคมีสังเครำะห์ ปรำศจำกโรค แมลงและเมล็ดวัชพืช หำก จำเป็นต้องป้องกันโรคที่ติดมำกับเมล็ดพันธุ์อนุโลมให้นำมำแช่ในสำรละลำยจุนสี (จุนสี 1 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร) เปน็ เวลำนำน 20 ชวั่ โมง แลว้ ล้ำงด้วยน้ำกอ่ นนำไปปลกู

16 4. กำรเตรียมดิน วัตถุประสงค์หลักของกำรเตรียมดินคือสร้ำงสภำพท่ีเหมำะสมต่อกำรปลูกและกำรเจริญเติบโตของข้ำว ช่วยควบคุมวัชพืช โรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำวบำงชนิด กำรเตรียมดินมำกหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณสมบัติดิน สภำพแวดล้อมในแปลงนำกอ่ นปลกู และวธิ ีกำรปลกู โดยไถดะ ไถแปร ครำด และทำเทอื ก 5. วธิ ีปลกู กำรปลูกข้ำวแบบปักดำจะเหมำะสมที่สุดกับกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ เพรำะกำรเตรียมดิน ทำเทือก กำร ควบคุมระดับน้ำในนำจะช่วยลดปริมำณวัชพืชได้และกำรปลูกกล้ำข้ำวลงดินจะช่วยให้ข้ำวสำมำรถแข่งขันกับ วัชพืชได้ ต้นกล้ำท่ีใช้ปักดำควรมีอำยุประมำณ 30 วัน เลือกต้นกล้ำที่เจริญเติบโตแข็งแรงดี ปรำศจำกโรคและ แมลงทำลำยเนื่องจำกในกำรผลิตข้ำวอินทรีย์ต้องหลีกเล่ียงกำรใช้สำรสังเครำะห์ทุกชนิดโดยเฉพำะปุ๋ยเคมี จึง แนะนำให้ใช้ระยะปลูกถี่กวำ่ ระยะปลกู ทีแ่ นะนำสำหรบั ปลกู ขำ้ วโดยท่ัวไปเล็กน้อยคือ ระยะระหว่ำงต้นและแถว ประมำณ 20 เซนติเมตร จำนวนต้นกล้ำ 3-5 ต้นต่อกอ และใช้ระยะปลูกแคบกว่ำนี้หำกดินนำมีควำมอุดม สมบูรณ์ค่อนข้ำงต่ำ ในกรณีท่ีต้องปลูกล่ำหรือปลูกหลังจำกช่วงเวลำปลูกที่เหมำะสมของข้ำวแต่ละพันธุ์ และมี ปญั หำเรอ่ื งกำรขำดแคลนแรงงำน แนะนำให้เปล่ียนไปปลูกวธิ ีอื่นท่ีเหมำะสม เช่น หวำ่ นข้ำวแห้ง หรอื หว่ำนน้ำ ตม 6. กำรจดั กำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดิน เนอื่ งจำกกำรปลกู ขำ้ วอินทรยี ์ตอ้ งหลีกเล่ียงกำรใช้ปุ๋ยเคมี กำรเลือกพ้ืนท่ปี ลูกทด่ี นิ มีควำมอุดมสมบูรณ์สูง ตำมธรรมชำติ จึงเป็นกำรเริ่มต้นท่ีได้เปรียบ เพื่อท่ีจะรักษำระดับผลผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่น่ำพอใจ นอกจำกน้ี เกษตรกรยังต้องรู้จักกำรจัดกำรดินท่ีถูกต้อง และพยำยำมรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมำะสมกับกำร ปลูกข้ำวอินทรีย์ให้ได้ผลดีและย่ังยืนมำกท่ีสุด คำแนะนำเกี่ยวกับกำรจัดกำรควำมอุดมสมบูรณ์ของดินสำหรับ กำรผลติ ข้ำวอนิ ทรียส์ ำมำรถแบง่ ออกได้ ดงั นี้ 1) กำรจดั กำรดนิ มขี อ้ แนะนำเก่ยี วกบั กำรจัดกำรเพื่อรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดนิ ใหเ้ หมำะสมกบั กำรใช้ปลกู ข้ำวอินทรียด์ ังน้ี -ไม่เผำตอซัง ฟำงข้ำว และเศษวัสดุอินทรีย์ในแปลงนำ เพรำะเป็นกำรทำลำยอินทรียวัตถุและ จุลินทรีย์ดินที่มี ประโยชน์ -ไม่นำช้ินส่วนของพืชท่ีไม่ใช้ประโยชน์โดยตรงออกจำกแปลงนำ แต่ควรนำวัสดุอินทรีย์จำกแหล่งใกล้เคี ยงใส่ แปลงนำให้สม่ำเสมอทลี ะเลก็ ละน้อย -เพมิ่ อินทรียวตั ถใุ ห้กับดินโดยกำรปลกู พืชโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัวในท่วี ่ำงในบริเวณพื้นที่นำตำมควำมเหมำะสม แลว้ ใช้อินทรียวตั ถุที่เกดิ ข้ึนในระบบไร่นำให้เกดิ ประโยชน์ต่อกำรปลกู ขำ้ ว-ไม่ควรปล่อยท่ีดนิ ให้ว่ำงเปลำ่ ก่อนกำร

17 ปลูกข้ำวและหลังจำกกำรเก็บเกี่ยวข้ำว แต่ควรปลูกพืชบำรุงดินโดยเฉพำะพืชตระกูลถ่ัว เช่น ถ่ัวเขียว ถั่วพร้ำ โสน เป็นต้น -ควรวิเครำะห์ดินนำทุกปี แล้วแก้ไขภำวะควำมเป็นกรดเป็นด่ำงของดินให้เหมำะสมกับกำรเจริญเติบโตของต้น ข้ำว (ประมำณ 5.5 – 6.5) ถ้ำพบว่ำดินมีควำมเป็นกรดสูงแนะนำให้ใช้ปูนมำร์ล ปูนขำว หรือขี้เถ้ำไม้ปรับปรุง สภำพดนิ 2) กำรใช้ปยุ๋ อนิ ทรีย์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำติอย่ำงสม่ำเสมอ แต่เน่ืองจำกปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชำติแทบทุกชนิดมีควำมเข้มข้น ของธำตอุ ำหำรคอ่ นขำ้ งต่ำ จึงต้องใชใ้ นปรมิ ำณที่สูงมำก และอำจมีไม่พอเพียงสำหรับกำรปลูกข้ำวอินทรยี ์และถ้ำ หำกมกี ำรจัดกำรที่ไม่เหมำะสมก็จะเปน็ กำรเพิ่มตน้ ทุนกำรผลิต จึงแนะนำใหใ้ ช้หลักกำรธรรมชำติท่ีว่ำ “สร้ำงให้ เกดิ ขน้ึ ในพืน้ ที่ ใสท่ ลี ะเล็กทีละนอ้ ยสมำ่ เสมอเป็นประจำ” ปุ๋ยอินทรีย์จำกธรรมชำติท่คี วรใช้ ไดแ้ ก่ -ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ ได้แก่มูลสัตว์ต่ำง ๆ ซึ่งอำจนำมำจำกภำยนอก หรือจัดกำรผลิตข้ึนในบริเวณไร่นำ นอกจำกน้ีท้องนำในชนบทหลังจำกเก็บเก่ียวข้ำวแล้วมักจะปล่อยให้เป็นที่เลี้ยงสัต ว์โดยให้แทะเล็มตอซังและ หญำ้ ต่ำง ๆ มลู สัตว์ท่ถี ่ำยออกมำปะปนกับเศษซำกพืช กจ็ ะเป็นกำรเพ่ิมอินทรียวัตถใุ นนำอกี ทำงหน่ึง -ปุ๋ยหมัก ควรจัดทำในพื้นท่ีนำหรือบริเวณที่อยู่ไม่ห่ำงจำกแปลงนำมำกนักเพื่อควำมสะดวกในกำรใช้ ควรใช้ เชื้อจุลินทรีย์ในกำรทำปุ๋ยหมักเพ่ือช่วยกำรย่อยสลำยได้เร็วข้ึน และเก็บรักษำให้ถูกต้องเพ่ือลดกำรสูญเสียธำตุ อำหำร -ปุ๋ยพืชสด ควรเลือกชนิดที่เหมำะสมกับสภำพแวดล้อมควรปลูกก่อนกำรปักดำข้ำวในระยะเวลำพอสมควร เพ่ือให้ต้นปุ๋ยพืชสดมีชว่ งกำรเจรญิ เติบโตเพยี งพอทจ่ี ะผลิตมวลพชื สดไดม้ ำก มคี วำมเข้มข้นของธำตุไนโตรเจนสูง และไถกลบต้นปยุ๋ พืชสดกอ่ นกำรปลกู ข้ำวตำมกำหนดเวลำ เช่น โสนอัฟรกิ ัน (Sesbania rostrata) ควรปลูกกอ่ น ปักดำประมำณ 70 วนั โดยใช้อตั รำเมล็ดพนั ธป์ุ ระมำณ 7 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ หำกจำเปน็ ตอ้ งใชป้ ุ๋ยฟอสฟอรสั ช่วยเร่ง กำรเจริญเติบโต แนะนำให้ใช้หินฟอสเฟตบดละเอียดใส่ตอนเตรียมดินปลูก แล้วไถกลบต้นโสนขณะมีอำยุ ประมำณ 50-55 วนั หรอื ก่อนกำรปักดำขำ้ วประมำณ 15 วัน -น้ำหมกั ชีวภำพ หรือน้ำสกัดชวี ภำพ (Bio Extract) ควรใหท้ ำใช้เองจำกวัสดุเหลือใช้ในไรน่ ำ ในครัวเรือน นำมำหมักร่วมกับ กำกน้ำตำล(Mollass) หรือน้ำตำลทรำยแดงละลำยนำ้ แบง่ ได้ 3 ประเภท ตำมวัสดทุ ี่นำใช้ ได้แก่ น้ำสกัดจำกพชื ไดแ้ ก่ผกั ต่ำงๆ ใบสะเดำ ตะไครห้ อม พชื สมนุ ไพรตำ่ งๆ น้ำสกัดจำกผลไม้ เศษผลไมจ้ ำกครวั เรอื น มะม่วง สับปะรด กล้วย มะละกอ ฟักทอง

18 วธิ ีทำป๋ ยุ นำ้ หมัก นำ้ หมักจำกสตั ว์ เกบ็ หอยเชอรี่ หรือปูนำ นำมำล้ำงน้ำให้สะอำด ไม่มีข้ีโคลนตดิ ใส่ถงุ ปยุ๋ ประมำณครึ่งถุง ใชไ้ มต้ ี หรือทบุ ให้ เปลือกแตก อำจใช้ครกไม้หรอื ครกหินขนำดใหญ่ตำก็ได้ เพื่อเวลำหมักกำกน้ำตำลจะได้สัมผัสกับเน้ือหอย หรือ เนื้อปูโดยตรง ชั่งน้ำหนักวัสดุที่ใช้เทใส่ภำชนะหรือถังหมัก ช่ังกำกน้ำตำล(Mollas)หนักเท่ำกับวัสดุท่ีใช้ หรือ อตั รำส่วนระหว่ำง หอยเชอร่หี รอื ปนู ำ:กำกน้ำตำล=1:1 โดยนำ้ หนัก คนให้เข้ำกนั ดี ปิดฝำไมต่ ้องแนน่ เพื่อใหแ้ ก๊ซ ที่เกดิ ระหว่ำงกำรหมกั มีโอกำสถำ่ ยเทได้สะดวก หมกั ไว้ 1 เดอื น เติมน้ำสะอำดอกี 1 เท่ำ หรือให้ทว่ มวัสดุ คนให้ เขำ้ กนั ดี หมักตอ่ อีก 1 เดือน จึงนำนำ้ หมักมำกรองโดยตำข่ำยสีฟำ้ หรือม้งุ ลวด นำของเหลวทไ่ี ด้จำกกำรกรองมำ ใชป้ ระโยชน์ น้ำหมกั จำกพืชหรอื เศษวสั ดุจำกพชื นำเศษวัสดุจำกพืช เช่น พืช ผัก วัชพืช(หญ้ำ) สับหยำบ ๆ ช่ังน้ำหนักแลว้ เทใส่ภำชนะ หรือถังหมัก ช่ัง กำกน้ำตำล 1 ใน 3 ของน้ำหนักวสั ดุ หรืออัตรำส่วนระหว่ำง ผัก:กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก เทลงผสมกัน ใช้ ไม้คนให้เข้ำกัน ปิดฝำไม่ต้องแน่น เพื่อให้แก๊สที่เกิดระหว่ำงกำรหมักถ่ำยเทได้สะดวก หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำ สะอำดให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตัวของน้ำในถัง หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมักท่ีได้มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรือมุ้งลวด นำของเหลวที่ได้จำกกำรกรองมำใช้ประโยชน์ น้ำหมักผลไม้ (เช่น เปลือกสับปะรด มะละกอสุก กล้วยสกุ มะม่วงสุก ฟักทอง) มีวิธที ำเช่นเดียวกับ น้ำสกัดจำกพืช เศษผลไม้ ตอ้ งไม่บดู เน่ำ เสียหำย หรือสกปรก อัตรำส่วนของวัสดุ:กำกน้ำตำล=3:1 โดยน้ำหนัก คนให้เข้ำกันดี ปดิ ฝำ หมักไว้ 1 เดือน เติมน้ำให้ท่วมวัสดุ หรือ 1 เท่ำตวั ของของเหลวในถงั หมักต่ออีก 1 เดือน จึงนำน้ำหมกั มำกรองโดยตำข่ำยสีฟ้ำ หรอื มงุ้ ลวด นำของเหลว ทกี่ รองไดม้ ำใช้ประโยชน์ วธิ ีใชน้ ำ้ หมกั ในนำข้ำว ครั้งท่ี 1 หลังทำเทือก ป้ันคันนำย่อยอุดรอยรั่ว หรือรอยแตกระแหง ป้องกันกำรร่ัวซึมของน้ำหมัก แล้วนำน้ำ หมกั (แนะนำให้ใช้น้ำหมักพชื )ที่ทำขึ้น อตั รำ 5 ลิตรต่อไร่ ผสมน้ำเปล่ำ 10 เท่ำ รำดใหท้ ัว่ จงึ ปักดำขำ้ ว ครัง้ ท่ี 2 ระยะขำ้ วแตกกอหรอื หลงั จำกปักดำข้ำวไปแลว้ 30 วัน ใช้นำ้ หมัก(แนะนำให้ใชน้ ้ำหมกั จำกเน้อื )อัตรำ 5 ลติ รต่อไรผ่ สมนำ้ เปลำ่ เท่ำกนั กบั คร้ังที่ 1 รำดให้ทว่ั คร้ังท่ี 3 ระยะข้ำวเริม่ ตง้ั ท้อง(แนะนำให้ใชน้ ้ำหมกั ผลไม)้ อตั รำ 250 ซีซตี ่อไร่ ผสมนำ้ เปลำ่ 50 เทำ่ พน่ ท่วั แปลง ครัง้ ที่ 4 และ 5 ฉดี พน่ ดว้ ยนำ้ หมักจำกผลไม้ หลงั จำกครัง้ ที่ 3 เปน็ เวลำ 15 และ 30 วนั หมำยเหตุ แนะนำใหใ้ ช้ร่วมกบั กำรไถกลบปุ๋ยพืชสด หรอื ใสป่ ยุ๋ คอก

19 3) กำรใช้อนิ ทรียวตั ถบุ ำงอยำ่ งทดแทนป๋ยุ เคมี หำกปฏิบตั ติ ำมคำแนะนำเกี่ยวกับกำรจัดกำรควำมอดุ มสมบรู ณ์ของดนิ ข้ำงต้นแล้ว ยงั พบวำ่ ดินมีควำม อุดมสมบูรณ์ไม่เพียงพอหรือขำดธำตุอำหำรที่สำคัญบำงชนิดไปสำมำรถนำอินทรียวัตถุจำกธรรมชำติต่อไปน้ี ทดแทนปยุ๋ เคมบี ำงชนิดได้คอื -แหล่งธำตไุ นโตรเจน เชน่ แหนแดง สำหรำ่ ยสีนำ้ เงนิ แกมเขียว กำกเมล็ดสะเดำ และเลอื ดสัตว์แหง้ เปน็ ต้น -แหลง่ ธำตฟุ อสฟอรัส เชน่ หินฟอสเฟต กระดูกป่น มูลไก่ มลู ค้ำงคำว กำกเมล็ดพืชข้ีเถำ้ ไม้ และสำหรำ่ ยทะเล เปน็ ต้น -แหลง่ ธำตโุ พแทสเซียม เช่น ขี้เถำ้ และหินปนู บำงชนดิ -แหล่งธำตแุ คลเซยี ม เชน่ ปูนขำว โดโลไมท์ เปลือกหอยป่น และกระดูกป่น เปน็ ต้น 7. ระบบกำรปลูกพืช ปลูกขำ้ วอินทรียเ์ พยี งปีละคร้งั โดยเลือกช่วงเวลำปลูกท่ีเหมำะสมกับข้ำวแต่ละพันธ์ุและปลูกพืชหมุนเวยี น โดยเฉพำะพชื ตระกูลถวั่ กอ่ นและหลังกำรปลูกขำ้ ว อำจปลกู ขำ้ วอนิ ทรีย์รว่ มกบั พืชตระกูลถ่ัวก็ไดถ้ ำ้ สภำพแวดล้อมเหมำะสม 8. กำรควบคุมวชั พชื แนะนำให้ควบคมุ วชั พืชโดยวิธกี ล เชน่ กำรเตรียมดินทเี่ หมำะสม วธิ ีกำรทำนำที่ลดปัญหำวชั พืช กำรใช้ ระดับน้ำควบคมุ วชั พืช กำรใช้วสั ดคุ ลุมดนิ กำรถอนด้วยมอื วธิ ีเขตกรรมต่ำง ๆ กำรใชเ้ คร่ืองมือ รวมทง้ั กำรปลกู พชื หมุนเวียน เปน็ ตน้ 9. กำรปอ้ งกันกำจดั โรค แมลง และสตั ว์ศัตรูพชื หลักกำรสำคญั ของกำรป้องกนั กำจัดโรค แมลงและสตั วศ์ ตั รูข้ำวในกำรผลิตขำ้ วอินทรยี ม์ ีดังนี้ 1) ใช้ข้ำวพันธตุ์ ้ำนทำน 2) กำรปฏบิ ตั ดิ ้ำนเขตกรรม เชน่ กำรเตรียมแปลง กำหนดชว่ งเวลำปลกู ทีเ่ หมำะสม ใช้อตั รำเมลด็ และระยะปลูกท่ีเหมำะสม กำรปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อตัดวงจรกำร ระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว กำรรักษำควำมอุดมสมบูรณ์ของดินและสมดุลของธำตุอำหำรพืช กำร จัดกำรน้ำ เพื่อให้ต้นขำ้ วเจรญิ เตบิ โตดี สมบูรณ์และแข็งแรง สำมำรถลดกำรทำลำยของโรค แมลงและสัตว์ศัตรู ขำ้ วได้สว่ นหนงึ่ 3)จัดกำรสภำพแวดลอ้ มไม่ให้เหมำะสมกับกำรระบำดของโรค แมลงและสัตว์ศัตรูข้ำว เช่น กำรกำจดั วชั พืช กำร กำจดั เศษซำกพชื ท่เี ปน็ โรคโดยใชป้ นู ขำว หรอื กำมะถันผงท่ไี ม่ผ่ำนกระบวนกำรทำงเคมี 4) รักษำสมดลุ ทำงธรรมชำติ โดยสง่ เสริมกำรแพรข่ ยำยปริมำณของแมลงที่มปี ระโยชน์ เช่น ตัวห้ำ ตวั เบียน และ ศัตรูธรรมชำตเิ พอ่ื ช่วยควบคุมแมลงและสตั วศ์ ตั รขู ำ้ ว 5) ปลูกพืชขับไล่แมลงบนคันนำ เชน่ ตะไครห้ อม

20 6) หำกมีควำมจำเปน็ อนุญำตใหใ้ ช้สำรสกัดจำกพืช เชน่ สะเดำ ขำ่ ตะไครห้ อม และใบแคฝร่ัง เป็นต้น 7) ใชว้ ิธกี ล เช่น ใชแ้ สงไฟล่อ ใช้กับดกั และใช้กำวเหนียว 8) ในกรณีท่ีใช้สำรเคมีกำจัดควรกระทำโดยทำงอ้อม เช่น นำไปผสมกับเหย่ือล่อในกับดักแมลงหรือใช้สำรพิษ กำจัดสัตว์ศัตรูข้ำว ซึ่งจะต้องใช้อย่ำงระมัดระวัง และต้องกำจัดสำรเคมีที่เหลือรวมท้ังศัตรขู ้ำวที่ถูกทำลำยโดย เหย่อื พิษอย่ำงถูกวธิ ี หลังจำกปฏบิ ัติเสรจ็ แลว้ 10. กำรจัดกำรนำ้ ระดับน้ำมีควำมสัมพันธ์กับกำรเจริญเติบโตทำงลำต้นและกำรให้ผลผลิตของข้ำวโดยตรง ในระยะปักดำ จนถึงแตกกอถ้ำระดับน้ำสูงมำกจะทำให้ต้นข้ำวสูงเพ่ือหนีน้ำทำให้ต้นอ่อนแอและล้มง่ำย ในระยะน้ีควรรักษำ ระดับน้ำให้อยู่ที่ประมำณ 5 เซนติเมตร แต่ถ้ำต้นข้ำวขำดน้ำจะทำให้วัชพืชเติบโตแข่งขันกับต้นข้ำวได้ ดังนั้น ระดับน้ำที่เหมำะสมต่อกำรปลูกข้ำวอินทรีย์ ตลอดฤดูปลูกควรเก็บรักษำไว้ที่ปริมำณ 5-15 เซนติเมตร จนถึง ระยะกอ่ นเก็บเก่ียวประมำณ 7-10 วัน จึงระบำยน้ำออกเพ่ือให้ข้ำวสุกแก่พร้อมกนั และพื้นท่ีนำแห้งพอเหมำะ ต่อกำรเกบ็ เก่ียว 11. กำรเกบ็ เกยี่ ว กำรนวดและกำรลดควำมชื้น เก็บเกยี่ วข้ำวหลังจำกออกดอก ประมำณ 28-30 วนั สังเกตจำกเมล็ดในรวงขำ้ วสุกแกเ่ มล็ดเปลยี่ นเป็นสี ฟำง เรียกวำ่ ระยะพลบั พลึง 1).กำรเก่ียวโดยใช้เคียว ตอ้ งตำกฟ่อนขำ้ วในนำประมำณ 2-3 แดด แลว้ จึงรวมกอง ทำกำรนวดตอ่ ไป 2).กำรเกย่ี วขำ้ วโดยใช้รถเกยี่ วนวด เมล็ดข้ำวยังมีควำมชื้นสูง ต้องตำกบนลำน ในสภำพท่ีแดดจัดเป็นเวลำ 1-2 วัน พลกิ กลับเมลด็ ขำ้ ววันละ 3-4 คร้ัง ใหค้ วำมชื้นเหลอื 14 เปอรเ์ ซน็ ต์ หรอื ต่ำกวำ่ เพ่อื ใหเ้ หมำะสมตอ่ กำรเก็บ รักษำ และทำใหม้ ีคุณภำพกำรสดี ี 12. กำรเกบ็ รักษำข้ำวเปลอื ก เมอื่ ลดควำมช้ืนให้ต่ำกว่ำ 14 เปอร์เซ็นต์ แล้วจงึ นำเมล็ดข้ำวไปเกบ็ รักษำในยุ้งฉำงหรอื ใสใ่ นภำชนะที่แยก ตำ่ งหำกจำกขำ้ วท่ีผลิตโดยวิธีอื่น 13. กำรสี ตอ้ งแยกสีตำ่ งหำกจำกขำ้ วท่ัวไป โดยทำกำรใช้ขำ้ วเปลอื กอินทรยี ์สลี ้ำงเครื่อง 14. กำรบรรจหุ ีบห่อเพือ่ กำรคำ้ ควรบรรจุข้ำวกล้องหรือข้ำวสำรในถุงขนำดเล็กตั้งแต่ 1 กิโลกรัม ถึง 5 กิโลกรัม โดยบรรจุในสภำพ สุญญำกำศ

21 จุดเดน่ ของภมู ปิ ญั ญำ สำมำรถทำปุ๋ยนำ้ ชีวภำพและปุย๋ หมักชวี ภำพใชเ้ องไดโ้ ดยไมต่ ้องพงึ่ สำรเคมหี รอื ยำปรำบศัตรูพชื สิ่งที่ สำคัญท่ีสดุ คือยึดม่ันในกำรปลกู ขำ้ วอินทรยี ป์ ลอดสำรและนอ้ มนำหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งมำใช้ในกำร ดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั -เป็นวิทยำกรถำ่ ยทอดควำมรู้ วตั ถดุ บิ ทใี่ ชป้ ระโยชนใ์ นผลิตภัณฑ์ทีเ่ กดิ จำกภมู ิปัญญำ ซ่ึงพ้ืนทอ่ี ่นื ไม่มี - หอยเชอร่ี หรือปนู ำ - เศษวัสดจุ ำกพืช เชน่ พชื ผกั วัชพืช(หญ้ำ) รำยละเอยี ดของภมู ิปญั ญำท้องถิน่ - รูปแบบในกำรถำ่ ยทอดควำมรู้ ด้ำนกำรศกึ ษำดงู ำน ในพื้นทจ่ี ริงประโยชน์ท่ีได้จำกภูมิปัญญำคือสำมำรถ นำไปปฏบิ ัติจรงิ ได้ รูปแบบและลักษณะกำรถ่ำยทอด กำรประชำสัมพันธ์ เผยแพร่ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ ยังไม่เคยมกี ำรเผยแพร/่ ใช้เฉพำะบุคคล เคยเผยแพร่เฉพำะในชุมชน √ มกี ำรเผยแพร่ผำ่ นสือ่ มวลชนและสอื่ อืน่ อย่ำงแพร่หลำย มีกำรดูงำนจำกบคุ คลภำยนอก จำนวน .......ครั้ง จำนวน............คน มกี ำรนำไปใช้ อื่นๆ (ระบ)ุ ลกั ษณะของภูมปิ ญั ญำท้องถิ่น กำรพัฒนำตอ่ ยอดภูมปิ ัญญำใหเ้ ป็นนวตั กรรม คณุ คำ่ (มลู ค่ำ) และ ควำมภำคภมู ใิ จ ภูมปิ ัญญำท้องถ่ิน/นวัตกรรมท่คี ิดค้นขนึ้ มำใหม่ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถนิ่ ดง้ั เดมิ ไดร้ ับกำรถ่ำยทอดมำจำก √ ภูมปิ ญั ญำท้องถ่ินทไี่ ด้พฒั นำและต่อยอด

22 รปู ภำพภมู ปิ ญั ญำ นำยปรชี ำ คลอ่ งแคล่ว สมำชิกกลมุ่ ศูนยเ์ รียนรูก้ ำรเพม่ิ ประสิทธภิ ำพสนิ ค้ำเกษตร สินคำ้ เกษตรขำ้ ว

23 คณะผ้จู ดั ทำ ที่ปรกึ ษำ นำยไพโรจน์ ขนุ ทอง ครูชำนำญกำรพิเศษ ร่ำง/เรยี บเรียงและจดั พมิ พ์ นำงสำวอัจฉรำภรณ์ เจริญวิโรจน์ ครู กศน.ตำบลหนองกบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook