Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนสื่อสร้างสรรค์ปวสทธ

แผนการสอนสื่อสร้างสรรค์ปวสทธ

Published by udomluk, 2022-06-08 03:21:36

Description: แผนการสอนสื่อสร้างสรรค์ปวสทธ

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่........5...... หลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี ช้นั สูง (ปวส.) พทุ ธศักราช 2557 สอนคร้งั ท.่ี ....5..... รหัสวชิ า....30204-2102....ช่ือวิชาสอื่ สรา้ งสรรค์ธุรกิจดจิ ิทลั (Media Business Digital) ท-ป-น...2-2-3.... ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้...การผลติ ส่ือสร้างสรรคท์ างธรุ กิจโดยใช้เคร่ืองมอื ดจิ ทิ ัล ทฤษฏ.ี .....8....ชม. ปฏิบตั ิ....14......ชม. สาระสาคัญ ในปัจจบุ ันงานวดิ ีโอได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขนึ้ ด้วยความสามารถของงานทางด้านมลั ตมิ เี ดีย ทที่ าให้ การนาเสนองานของเรานา่ สนใจแลว้ ราคากลอ้ งวิดีโอกร็ าคาถกู ลงมามากและหาซื้อได้ไมย่ าก พร้อมกบั โปรแกรมทใี่ ชใ้ นการตัด ตอ่ วิดโี อกม็ ใี ห้เลือกใช้มากมายและกไ็ มย่ ากจนเกินไปทจ่ี ะเรยี นรู้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป เพ่ือใหร้ แู้ ละเข้าใจการใชโ้ ปรแกรมสาหรบั สรา้ งวีดโิ อสาหรบั งานสอ่ื สรา้ งสรรค์ 1.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม พุทธิพสิ ยั 1. บอกความรู้พืน้ ฐานของการตดั ต่อวิดีโอได้ 2. บอกประโยชน์ของงานตัดต่อวิดีโอได้ ทักษะพิสัย 1. ตดั ต่อวิดีโอได้ จติ พสิ ัย 1. ผเู้ รียนมีความสามารถในการปฏบิ ตั งิ าน 2. สมรรถนะ 1. พัฒนางานสื่อประสมตามขอ้ กาหนด

ใบความรู้ท่ี ......5......... หน่วยที่.......5....... หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสงู (ปวส.) พุทธศกั ราช 2557 สอนครัง้ ท่ี.....5..... รหสั วชิ า....30204-2102....ชอื่ วชิ าส่อื สร้างสรรคธ์ รุ กิจดิจิทัล เวลา.........22.........ชม. (Media Business Digital) ท-ป-น...2-2-3.... ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู.้ ..การผลิตส่ือสร้างสรรค์ทางธุรกจิ โดยใชเ้ คร่อื งมือดจิ ทิ ลั ทฤษฏี......8....ชม. ปฏบิ ัติ....14......ชม. 3. เนือ้ หาสาระ ความรู้พ้นื ฐานการตัดตอ่ วดิ โี อ ในปจั จุบนั งานวดิ โี อได้เขา้ มามบี ทบาทในชีวติ ของเรามากข้ึน ด้วยความสามารถของงานทางด้าน มัลติมเี ดยี ทท่ี าใหก้ ารนาเสนองานของเรานา่ สนใจแลว้ ราคากลอ้ งวิดีโอกร็ าคาถกู ลงมามากและหาซอ้ื ไดไ้ ม่ยาก พร้อมกบั โปรแกรมทีใ่ ช้ในการตัดตอ่ วิดโี อกม็ ใี หเ้ ลอื กใชม้ ากมายและก็ไม่ยากจนเกินไปท่ีจะเรียนรู้ สาหรบั สื่อนจ้ี ะ ขอนาเสนอการตดั ต่อด้วยโปรแกรม Ulead Video Studio 8 เพ่อื เปน็ พน้ี ฐานในการตัดต่อ เพื่อนาไปใชป้ ระโยชน์ ดังนี้ ประโยชนข์ องงานวิดีโอ 1. แนะนาองค์กรและหนว่ ยงาน การสรา้ งงานวดิ ีโอเพื่อแนะนาสถานทต่ี ่างๆ หรือในการนาเสนอขอ้ มลู ภายใน หน่วยงาน และองคก์ ร เพอื่ สร้างความนา่ สนใจให้กบั ผู้ชมผู้ฟังและยงั กอ่ ใหเ้ กิดความเข้าใจในตัวงานไดง้ า่ ยขึ้น 2. บนั ทึกภาพความทรงจา และเหตุการณส์ าคญั ต่างๆ เชน่ การเดนิ ทางไปทอ่ งเที่ยวในทฃสถานทต่ี า่ งๆ งานวนั เกดิ งานแตง่ งาน งานรบั ปริญญางานเลยี้ งของหน่วยงานหรือองคก์ ร ซึง่ เดิมเราจะเก็บไวใ้ นรูปแบบภาพนงิ่ 3. การทาสอื่ การเรียนการสอน คณุ ครูสามารถสรา้ งส่อื การสอนในรูปแบบวิดีโอไว้นาเสนอไดห้ ลายรปู แบบ เชน่ เปน็ วิดีโอ โดยตรง เปน็ ภาพวิดโี อประกอบในโปรแกรม POWER POINT เปน็ ภาพวดิ ีโอประกอบใน Homepage และอ่ืนๆ 4. การนาเสนอรายงาน วิทยานพิ นธ์ และงานวิจัยตา่ งๆ ซง่ึ ปรับเปลย่ี นการนาเสนองานจากรปู แบบเดมิ ท่ีเป็น เอกสารภาพ ประกอบ แผน่ ชาร์จแผน่ ใส ใหท้ ันสมยั เหมาะสมกบั สถานการณ์ปัจจบุ นั 5. วิดีโอสาหรับบคุ คลพิเศษ บุคคลสาคญั ในโอกาสพิเศษ อาจหมายถงึ วทิ ยากรที่เชิญมาบรรยาย ผ้จู ะเกษยี ณอายุ จากการ ทางาน เจา้ ของวนั เกดิ คบู่ า่ วสาว โอกาสของบุคคลทไี่ ดร้ ับรางวัลตา่ งๆ

ท่กี ล่าวมานคี้ ือส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เรามองเห็นความสาคญั ของงานวดิ ีโอมากขึ้น และได้รู้ว่าการทาวิดโี อไมไ่ ด้ ลงทนุ มากและยุง่ ยากอย่างทค่ี ิดจากประสบการณ์ในการทางานวดิ โี อ สรุปได้วา่ วิดโี อท่ีดี ไม่ได้ขึน้ อยู่กบั จานวนเงนิ ลงทนุ ท่ีใช้ แตข่ น้ึ อยู่กบั ความประณีต และความคดิ สรา้ งสรรค์ แนวคิดในการสร้างวิดโี อ ก่อนที่ลงมือสรา้ งผลงานวดิ โี อสักเรื่อง จะต้องผ่านกระบวนการคิด วางแผนมาอยา่ งรอบครอบ ไมใ่ ชไ่ ปถา่ ยวิดีโอ แล้วกน็ ามาตัดต่อเลย โดยไมม่ ีการคิดใหด้ ีกอ่ นที่จะถ่ายทา เพราะปญั หาทีม่ ักเกดิ ขน้ึ เสมอก็คือการท่ีไม่ได้ภาพ ตามทตี่ อ้ งการ เนอ้ื หาที่ถ่ายมาไมส่ อดคล้องกับสิ่งที่ต้องการนาเสนอ ในท่นี ้ขี อแนะนาแนวคดิ ในการทางานวดิ ีโอ อย่างมีประสิทธภิ าพ ตรงตามความต้องการ จะไม่ตอ้ งมาเสยี เวลาแกไ้ ข้ภายหลัง 6.1 โปรแกรมสาหรบั งานตัดตอ่ VDO 1. Windows Movie Maker Windows Movie Maker เปน็ โปรแกรมที่มาพรอ้ มกับ Windows ME และ Windows XP ดังน้นั ถา้ ใช้ Windows ใด Windows หนึ่งทีก่ ลา่ วไว้ จะสามารถเรียกใชง้ าน Windows Movie Maker ได้ โดยWindows Movie Maker เป็นโปรแกรมสร้างหนังอยา่ งงา่ ย การนาเสนอภาพน่ิง พร้อมทงั้ ชอ่ื เรือ่ ง ช่วงการเปลีย่ นภาพ ลกั ษณะพิเศษ ดนตรี และการสร้างคาบรรยายภาพแบบมืออาชีพ 2. Adobe Premiere Pro Adobe Premiere Pro เปน็ โปรแกรมตดั ตอ่ วดี ีโอและมีการพฒั นาความสามารถในการทาเอฟเฟค็ และเทคนิค พิเศษตา่ งๆ เพือ่ ช่วยใหง้ านมคี วามนา่ สนใจมากขน้ึ รปู แบบการทางานถกู ออกแบบมาให้ทางานไมซ่ บั ซ้อนเกินไป และสามารถเรียนร้ไู ด้งา่ ย มกี ารจดั หนา้ ตา่ งการทางานอย่างเปน็ ระบบ โดยสามารถตัดต่อไฟลว์ ีดโี อ ซึง่ จะ ผสมผสานไฟลว์ ดี โี อหลายๆไฟลใ์ ห้เรียงต่อกันแลว้ นามาผา่ นกระบวนการตัดต่อ ใส่ เอฟ็ เฟ็กต์ ปรบั เสียง สรา้ งชื่อ เร่ืองและขอ้ ความ และสามารถแปลงไฟลใ์ นรปู แบบตา่ งๆ ได้อยา่ งมืออาชพี 6.2 โปรแกรมสาหรับผลิตสือ่ การสอน 1. Macromedia Captivate Macromedia Captivate เปน็ โปรแกรมผลติ ส่ือการสอนและการนาเสนอแบบมัลตมิ ีเดยี ที่สามารถโต้ตอบกับ ผู้ใช้งานได้อยา่ งดีเย่ยี ม และสามารถบันทึกการทางานหน้าจอคอมพวิ เตอร์ ซ่งึ ใช้สาหรับแสดงหรือสาธิตการใช้งาน โปรแกรมตา่ งๆในแบบทต่ี อบสนองได้ นอกจากน้ียงั สามารถสร้าง และจัดการแบบทดสอบแบบตา่ งๆ ทัง้ แบบเติม คา (Fill in the blank) แบบจับคู่ (Matching) และแบบเลอื กตอบ (Multiple Choice) เปน็ ตน้ รวมถงึ การให้ คะแนนและประเมนิ ผลไดใ้ นตัว ทาใหก้ ารสร้างบทเรียนทาไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์สามารถทางานรว่ มกบั แอปพลเิ คชนั

ต่างๆที่เปน็ LMS (e-Learning Management Sysytemได้เป็นอย่างดแี ละรองรบั ตามมาตรฐาน SCORM 1.2 และ 2004 Certified and AICC Compliant 2. Adobe Connect Presenter Adobe Connect Presenter เปน็ โปรแกรมใชง้ านสาหรับผสู้ อน ผ้เู รียน สนับสนนุ มาตรฐานการสร้างงาน e- Learning รองรบั สอ่ื หลากหลายรูปแบบ สามารถใช้ สไลด์ powerpoint วดี โี อแบบถ่ายทอดสดและ ภาพเคลอ่ื นไหว โดยมกี ารแบง่ ใช้หนา้ จอและมแี อพพลิเคชนั่ แบบเรียลไทม์ เสยี ง และการสนทนาดว้ ยข้อความแบบ สองทาง และสามารถเพิม่ เตมิ แบบทดสอบและแบบสอบถาม สามารถนาเสนอทั้งรปู แบบการเรียนรดู้ ้วยตนเอง (self-paced) และหอ้ งเรียนเสมือนจรงิ (virtual classes) ได้ โดยรองรบั การจดั การของผู้ใช้ การตรวจสอบ ตดิ ตาม การรายงาน และการจัดการเนื้อหา สามารถทางานร่วมกบั แอปพลเิ คชันต่างๆ ท่ีเป็น LMS (e-Learning Management System) ได้และรองรบั ตามมาตรฐาน SCORM 1.2 และ 2004 3. Camtasia Studio โปรแกรมเหมาะสาหรับผูท้ ีต่ ้องการสร้างส่ือการเรียนการสอน และการนาเสนอในรปู แบบ ของวีดีโอภาพเคลอื่ นไหว แบบมัลติมเี ดีย โดยได้รวมเอาคาส่งั ตา่ งๆ ทีใ่ ช้จดั ทาสื่อประเภทนไ้ี วอ้ ย่างครบถว้ น ตั้งแต่ การจับภาพวดี ีโอ ตดั ตอ่ รวบรวมวีดโี อแทรกเสยี งบรรยาย เสยี งเพลงประกอบ และปรับแตง่ เสยี ง การซมู ย่อ-ขยาย วดี ีโอในจดุ ที่ต้องการเนน้ แทรกคาอธบิ ายลงในวีดโี อ สร้างแบบทดสอบแบบFlash รวมถงึ วิธีการสรา้ งสื่อท่จี ะนาไปเสนอด้วยโปรแกรมยอ่ ยอืน่ ๆ ซึ่งประกอบด้วยการสร้างซีดีดว้ ยเมนดู ้วย Camtasia MenuMaker สร้างเวบ็ เมนูด้วย Camtasia Theater อัดและปรบั แตง่ เสยี งดว้ ย Camtasia Audio Editor นอกจากน้คี ุณยงั สามารถ Porduce ผลงานออกไปใชไ้ ดห้ ลากหลายรูปแบบ ทั้งไฟลว์ ีดโี อ มูฟว่ี Quick Time, ReakMedia, Windows Media Video และภาพเคลอ่ื นไหวแบบ GIF ทาให้สามารถสร้างสื่อทจ่ี ะนาเสนอ ไดท้ ุกรปู แบบ 4. Macromedia Authorware Macromedia Authorware เปน็ โปรแกรมสาหรับการสร้างบทเรยี น เพ่อื ช่วยในการเรียนการสอน การ ฝกึ อบรมและการนาเสนอข้อมลู การทางานของโปรแกรมจะมีลักษณะการทางานแบบแผนผงั โดยผู้สรา้ งจะ กาหนดข้ันตอนการทางานของโปรแกรม ดว้ ยการลากไอคอนมาวางและกาหนดคา่ ใหท้ างานตามตอ้ งการ ไม่ จาเปน็ ตอ้ งเขียนโปรแกรม ไม่ตอ้ งมพี น้ื ฐานดา้ นคอมพวิ เตอร์มากมายนัก กส็ ามารถสร้างโปรแกรมได้

6.3 การตัดตอ่ วิดีโอด้วยโปรแกรม Adobe Premiere Pro Adobe Premiere Pro เป็ นซอฟแวร์โปรแกรมตดั ตอ่ วดิ ีโอและบนั ทึกตดั ต่อเสียงที่แพร่หลาย ทส่ี ุด สามารถผลติ ผลงานไดใ้ นระดบั มืออาชีพ จนถึงการนาไปออกอากาศทางสถานีโทรทศั น์ (Broadcasting System) มีการทางานท่ีไมย่ งุ่ ยากซบั ซอ้ นมากนกั สามารถจบั ภาพและเสียงมาวาง (Drag & Drop) ลงบน ไทม์ ไลน์ (Time line) เคลอ่ื นยา้ ยไดอ้ สิ ระโดยไม่จากดั จานวนคร้ัง และไมม่ กี ารสูญเสียของสญั ญาณภาพและเสียง เพยี งผผู้ ลติ รายการ ตอ้ งมีทกั ษะท่ดี ใี นการใชโ้ ปรแกรมกบั ความคิดสร้าง Adobe Premiere เป็ นโปรแกรม ทใ่ี ชต้ ดั ตอ่ ภาพ ท้งั ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ซ่งึ เป็ น ภาพมาจากวดิ โี อ หรือ ซดี ี แมก้ ระทง่ั การทางาน เกี่ยวกบั เสียง หรือหากมขี อ้ มูลรูปภาพจากกลอ้ ง ดิจิตอลอยแู่ ลว้ ก็สามารถนาภาพท่ไี ด้ ถ่ายไวม้ าตดั ตอ่ เพอ่ื สร้างเป็ นภาพยนตร์สาหรับส่วนตวั ได้ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนา ( 30 นาที ) 8. ครถู ามผ้เู รียนเก่ยี วกบั การใช้งานโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ในการตดั ต่อวิดโี อ 9. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ประจาหนว่ ย 10. ผเู้ รียนแสดงความเห็นเก่ียวกับวิดโี อที่ผู้เรยี นเคยรบั ชมมา 11. ผู้เรียนเสนอแนะขอ้ คิดเห็นของวดิ โี อ ขัน้ กิจกรรม ( 600 นาที ) 8. มอบใบความรู้ เร่อื งการสรา้ งวีดิโอสาหรบั งานสื่อประสม 9. ผเู้ รียนสบื ค้นตามหัวเร่ืองของใบความรู้เพ่ิมเติมจากอินเทอรเ์ นต็ 10. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิการตัดตอ่ วิดีโอ ขน้ั วิเคราะห์/อภปิ ราย ( 150 นาที ) 3. ผู้เรยี นสรปุ ความรจู้ ากการตดั ตอ่ วิดีโอ ปัญหาและอปุ สรรค ขนั้ สรุปแนะนาไปใช้ ( 120 นาที ) 5. ประเมินใบงานการตัดต่อวิดีโอ

6. ผูเ้ รยี นแสดงผลงานการตัดต่อวิดโี อ 5. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. Google Classroom ของนางสาวอุดมลักษณ์ สุวรรณัง 2. เครอื่ งไมโครคอมพวิ เตอร์ 3. เครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ต 6. หลักฐาน 6.1 หลักฐานความรู้ ใบความรเู้ รอื่ งการตัดต่อวิดีโอ 6.2 หลกั ฐานการปฏิบัติงาน ใบงานการตัดตอ่ วิดโี อ ไมเ่ กิน 3 นาที 7. วัดและประเมนิ ผล 7.1 เครื่องมอื ประเมนิ แบบทดสอบ 7.2 เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินภาคความรู้ ต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่ารอ้ ยละ 50 8. กิจกรรมเสนอแนะ ศึกษาตัวอย่างโปรแกรมตดั ตอ่ วดิ ีโอ จากอนิ เทอรเ์ นต็ 9. บนั ทกึ หลงั การสอน 9.1 การประเมินผลหลงั การสอน ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 9.2 ปญั หาทพี่ บ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 9.3 แนวทางทแี่ กป้ ญั หา ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................

กรอบการจัดการเรียนรแู้ บบบูรณาการเปน็ เรอ่ื ง/ช้นิ งาน/โครงการ และบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ความพอประมาณ เพอื่ ใหร้ ูแ้ ละเข้าใจการใช้ โปรแกรมสาหรบั สรา้ งวดี ิโอ สาหรบั งานส่อื ประสม ความมีเหตุผล การจัดการ การมีภูมิค้มุ กัน บอกโปรแกรมสาหรับการ นาเสนอผลงาน เผยแพรผ่ ลงานสือ่ ประสมได้ สง่ ออกเพ่ือเผยแพรง่ านส่อื สอื่ สร้างสรรค์ ประสมได้ เงอ่ื นไขด้านคุณธรรม ทางธรุ กิจ จริยธรรม ค่านยิ ม เง่ือนไขด้านความร้แู ละทักษะ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 1. บอกข้ันตอนการจดั ผเู้ รียนมีความสามารถในการ เตรียมการนาเสนอและเผยแพร่ ปฏบิ ัตงิ าน ผลงานสอ่ื ประสมได้ 2. บอกโปรแกรมสาหรบั การ ส่งออกเพือ่ เผยแพร่งานสอื่ ประสมได้ ผลกระทบเพอื่ ความสมดุล พรอ้ มรับการเปลยี่ นแปลง ด้านสงั คม ด้านเศรษฐกจิ ด้านวัฒนธรรม ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม - งานสอ่ื ประสมเสรมิ แง่ - การพัฒนางานส่ือ - นาเสนองานส่ือประสม - งานส่ือประสมรณรงค์ ทีส่ ง่ เสรมิ วัฒนธรรม รักษาส่งิ แวดล้อม คิดใหส้ ังคม นวัตกรรม

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่........6...... หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สงู (ปวส.) พุทธศักราช 2557 สอนครั้งที่.....6..... รหัสวชิ า....30204-2102....ชือ่ วิชาสอ่ื สรา้ งสรรค์ธุรกิจดิจิทัล (Media Business Digital) ท-ป-น...2-2-3.... ชอ่ื หนว่ ยการเรียนร้.ู ..การจัดการนาเสนอผลงานสอ่ื สรา้ งสรรคท์ างธุรกิจ ทฤษฏ.ี .....4....ชม. ปฏิบตั ิ....8......ชม. 1. สาระสาคญั เมอื่ ผพู้ ัฒนางานทางดา้ นส่อื ประสมจดั ทาผลงานเสร็จเรียบร้อยแล้วนัน้ ขัน้ ตอนสดุ ทา้ ยควรนาผลงานสอื่ สรา้ งสรรค์ที่จัดทาขึ้นเผยแพร่ใหก้ บั ผรู้ ับชมสอ่ื สรา้ งสรรค์นน้ั ไดร้ บั ชม 1. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป เพอ่ื ใหร้ แู้ ละเข้าใจการใช้โปรแกรมสาหรบั สร้างวีดิโอสาหรับงานสอ่ื สรา้ งสรรค์ 1.2 จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม พทุ ธิพสิ ัย 1. บอกขั้นตอนการจัดเตรียมการนาเสนอและเผยแพร่ผลงานส่ือสรา้ งสรรค์ได้ 2. บอกโปรแกรมสาหรบั การส่งออกเพ่อื เผยแพร่งานส่ือสร้างสรรค์ได้ ทักษะพิสัย 1. เผยแพรผ่ ลงานสอ่ื สรา้ งสรรค์ได้ จติ พสิ ยั 1. ผเู้ รยี นมคี วามสามารถในการปฏิบัตงิ าน 2. สมรรถนะ ผลิตสื่อสร้างสรรค์ทางธรุ กิจ

ใบความรู้ท่ี .....6......... หน่วยท่ี.......7....... สอนคร้งั ท.่ี ....7..... หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพชน้ั สงู (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 2557 รหสั วชิ า....3204-2103.. ชอื่ วชิ า...การประยุกตใ์ ช้โปรแกรมส่ือ เวลา.........12.........ชม. ประสม. ชอ่ื เร่อื ง...การนาเสนอและเผยแพร่ผลงานสอ่ื สรา้ งสรรค์ 3. เนื้อหาสาระ การนาเสนอและเผยแพรผ่ ลงานสอื่ สร้างสรรค์ การนาเสนอและเผยแพร่งานสอ่ื สรา้ งสรรค์ สามารถนาเสนอออกมาในรูปแบบสอื่ สังคมออนไลน์ตา่ ง ๆ ใน อนิ เทอร์เน็ต ที่เปน็ ท่นี ิยมในปจั จุบนั ในรปู แบบต่าง ๆ เช่น YouTube, google drive, google site, Facebook, TikTok ฯลฯ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นา ( 30 นาที ) 1. ครูถามผเู้ รยี นเก่ียวกบั การเผยแพรผ่ ลงานทผ่ี ู้เรียนสรา้ งขนึ้ 2. ผ้เู รยี นแสดงความเห็นเกีย่ วกับการนาเสนอและเผยแพรผ่ ลงานสื่อสรา้ งสรรค์ ขน้ั กิจกรรม ( 180 นาที ) 1. ผเู้ รียนนาเสนอความรทู้ ีต่ อ้ งการเผยแพร่ผลงาน 2. มอบใบความรู้ เร่อื งการเขยี นแผ่นซดี สี าหรับงานสอ่ื สรา้ งสรรค์ 3. ผูเ้ รียนสืบค้นตามหวั เร่อื งของใบความรเู้ พมิ่ เติมจากอินเทอร์เนต็ 4. ผู้เรยี นเขยี นแผ่นซีดีรอมผลงานสือ่ สรา้ งสรรค์ทสี่ รา้ งขึ้น ขนั้ วิเคราะห/์ อภิปราย ( 60 นาที ) 1. ผู้เรียนนาเสนอผลงานสอื่ สรา้ งสรรค์ในรูปแบบตา่ งๆ ข้นั สรุปแนะนาไปใช้ ( 60 นาที ) 1. ประเมินใบงานการบนั ทึกงานสอ่ื สรา้ งสรรค์ลงแผน่ ซีดรี อม 2. ผเู้ รียนนาเสนอผลงานส่ือสร้างสรรค์ 5. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. สื่อการสอนจากอนิ เทอร์เนต็ 2. เคร่ืองไมโครคอมพวิ เตอร์ 3. เครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต็

6. หลักฐาน 6.1 หลักฐานความรู้ ใบความร้เู รื่องการบันทึกซดี แี ละการเผยแพร่ผลงานส่อื สรา้ งสรรค์ 6.2 หลักฐานการปฏิบัติงาน ชิ้นงานทีเ่ ผยแพร่ออฟไลน/์ ออนไลน์ 7. วัดและประเมินผล 7.1 เคร่ืองมือประเมิน แบบทดสอบ 7.2 เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินภาคความรู้ ต้องได้คะแนนไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 50 8. กิจกรรมเสนอแนะ ศึกษาโปรแกรมสาหรบั การเผยแพร่ จากอนิ เทอร์เน็ต 9. บนั ทึกหลังการสอน 9.1 การประเมินผลหลังการสอน ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 9.2 ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ 9.3 แนวทางทแี่ กป้ ญั หา ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook