Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tourist attraction

tourist attraction

Published by vililtip12369, 2017-07-18 05:20:03

Description: tourist attraction

Search

Read the Text Version

อนสุ าวรยี ท์ า้ วสรุ นารีอำเภอเมอื ง จ.นครรำชสมี ำ อนุสาวรียท์ า้ วสุรนารี เป็นอนุสรณ์แด่วรี กรรมอนั กลา้ หาญของวรี สตรีไทย หรือยา่ โม ซ่ึงเป็นช่ือท่ีเรียกกนั ติดปากโดยทว่ั ไป สร้างข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2476 ต้งั อยกู่ ลางเมือง ชาวตา่ งถิ่นท่ีแวะมาเยอื นและชาวเมืองโคราช นิยมมาสกั การะและขอพรจากยา่ โมอยเู่ สมอ อนุสาวรียห์ ลอ่ ดว้ ยทองแดงรมดา สูง 1.85 เมตร หนกั 325 กิโลกรัม แตง่ กายดว้ ยเครื่องยศพระราชทาน ในท่ายนื มือขวากมุ ดาบ ปลายดาบจรดพ้ืน มือซา้ ยทา้ วสะเอว หนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ตกซ่ึงเป็ นที่ต้งัของกรุงเทพฯ ต้งั อยบู่ นฐานไพทีส่ีเหลี่ยมยอ่ มุมไมส้ ิบสอง ซ่ึงบรรจุอฐั ิของท่านทา้ วสุรนารีมีนามเดิมวา่ คุณหญิงโม เป็ นภรรยาปลดั เมืองนครราชสีมา เม่ือปี พ.ศ. 2369 เจา้ อนุวงศแ์ ห่งเวยี งจนั ทน์ไดย้ กทพั เขา้ ยดึ เมืองโคราช คุณหญิงโมไดร้ วบรวมชาวบา้ นเขา้ สูร้ บ และตอ่ ตา้ นกองทพั ของเจา้ อนุวงศแ์ ห่งเวยี งจนั ทน์ ไมใ่ หย้ กมาตีกรุงเทพฯไดเ้ ป็ นผลสาเร็จ พระบาทสมเด็จพระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ สถาปนาคุณหญงิ โมเป็ นทา้ วสุรนารี ประชาชนพร้อมใจกนั จดั งานเฉลิมฉลองวนั แห่งชยั ชนะ ของทา้ วสุรนารีข้ึนระหวา่ งวนั ท่ี 23 มีนาคม ถึงวนั ท่ี 3 เมษายน เป็ นประจาทุกปี เพื่อเป็ นการระลึกถึงคุณความดีของท่าน ปรางคก์ ู่อำเภอบวั ใหญ่ จ.นครรำชสมี ำ ปรางคก์ ู่ ต้งั อยใู่ นโรงเรียนวดั บา้ นกู่ ตาบลดอนตะหนิน จากตวั เมืองใชท้ างหลวง หมายเลข 2 (นครราชสีมา-ขอนแก่น) ไปประมาณ 74 กิโลเมตร เล้ียวซา้ ยตรงตยู้ ามตารวจทางหลวงบา้ นโนนตาเถรไปอีก ประมาณ 6 กิโลเมตร แลว้ เล้ียวขวาเขา้ ไปทางโรงเรียนวดั บา้ นกู่ ลกั ษณะเป็ นปรางคส์ มยั ขอมขนาดเลก็ ฐานสี่เหลี่ยม ก่อดว้ ยศิลาแลงวางซอ้ นกนั จากฐานถึงยอด แตป่ ัจจบุ นั สภาพปรักหกั พงั ไปแลว้ หลงเหลือเพยี งซากฐานไม่สูงนกั ภายในองคป์ รางคม์ ีพระพทุ ธรูปดินเผาซ่ึงยงั หลงเหลือใหเ้ ห็นอยู่ 4-5 องค์

ปราสาทพนมวนัอำเภอเมอื ง จ.นครรำชสมี ำ ปราสาทพนมวนั ต้งั อยทู่ ี่บา้ นมะค่า ตาบลโพธ์ิ จากตวั เมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-ขอนแก่น) ประมาณ 15 กิโลเมตร จะมีป้ ายบอกทางดา้ นขวามือ แยกเขา้ ไปอีกประมาณ 5กิโลเมตร เป็นปราสาทขอมที่น่าชมอีกแห่งหน่ึง สนั นิษฐานวา่ เดิมก่อสร้างดว้ ยอิฐในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 15 ต่อมาในราวพทุ ธศตวรรษที่ 18–19 จึงไดส้ ร้างอาคารหินซอ้ นทบั ลงไป จากจารึกที่คน้ พบ เรียกปราสาทแห่งน้ีวา่ “เทวาศรม” เป็ นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ตอ่ มาจึงไดเ้ ปล่ียนแปลงใหเ้ ป็ นพทุ ธสถาน ปัจจุบนั แมจ้ ะหกั พงั ไปมาก แต่ยงั คงเห็นซากโบราณสถานหลงเหลือ เป็นเคา้ โครงค่อนขา้ งชดั เจนเช่น ปรางคจ์ ตรุ มขุ องคป์ ระธานหลกั ซ่ึงหนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ออกโดยมีมณฑปอยู่เบ้ืองหนา้ และมีฉนวน (ทางเดิน) เชื่อมต่อระหวา่ งอาคารท้งั สองทางดา้ นทิศตะวนั ตกเฉียงใตข้ องปรางคม์ ีอาคารก่อดว้ ยหินทรายสีแดงเรียกวา่ “ปรางคน์ อ้ ย” ภายในประดิษฐานพระพทุ ธรูปหินขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบปราสาทมีระเบียงคต สร้างดว้ ยหินทรายและศิลาแลงลอ้ มเป็ นกาแพงอยู่ มีโคปุระ (ประตทู างเขา้เทวสถาน) ก่อสร้างเป็ นรูปหอสูงท้งั สี่ทิศ บริเวณรอบนอกปราสาททางดา้ นทิศตะวนั ออก ห่างจากโบราณสถานเกือบ 300เมตร มีร่องรอยของคนู ้าและเนินดินเรียกวา่ “เนินอรพิม” นอกจากน้ียงั พบศิลาแลงจดั เรียงเป็ นแนว คลา้ ยซากฐานอาคารบนเนินแห่งน้ีดว้ ย ปราสาทพะโคอำเภอโชคชยั จ.นครรำชสมี ำ ปราสาทพะโค ต้งั อยทู่ ่ีตาบลกระโทก จากตวั เมืองใชท้ างหลวงหมายเลข 224(นครราชสีมา-โชคชยั ) ระยะทาง 29 กิโลเมตร ตอ่ ดว้ ยทางหลวงหมายเลข 2071 อีกประมาณ 3 กิโลเมตร อยรู่ ิมถนนทางดา้ นขวามือ เป็ นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ก่อสร้างดว้ ยหินทรายสีขาว ประกอบดว้ ยกลุม่ โบราณสถาน 3 หลงั แตป่ ัจจุบนัเหลือใหเ้ ห็นเพยี ง 2 หลงั มีคูน้าลอ้ มรอบเป็นรูปเกือกมา้ ทางเขา้ อยทู่ างดา้ นทิศตะวนั ออก ไดพ้ บชิ้นส่วนหนา้ บนั ที่แสดงถึงอิทธิพลวฒั นธรรมเขมรแบบบาปวน ในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 16 ปัจจบุ นั เกบ็ รักษาไวท้ ่ีพิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ พมิ าย

โบราณสถานเมอื งเสมาอำเภอสงู เนนิ จ.นครรำชสมี ำ โบราณสถานเมืองเสมา ต้งั อยทู่ ่ีตาบลเสมา ห่างจากนครราชสีมาประมาณ 37กิโลเมตร จากตลาดอาเภอสูงเนิน เดินทางขา้ มลาตะคอง และผา่ นบา้ นหินต้งั ไปจนถึงเมืองเสมาเป็นระยะทางประมาณ 4กิโลเมตร แผนผงั เมืองเสมาเป็ นรูปไข่กวา้ ง 3 กิโลเมตร ยาว 4 กิโลเมตร ปัจจุบนั ยงั เห็นร่องรอยคูเมือง และกาแพงดินลอ้ มรอบเป็นบางส่วน เมืองน้ีเป็นเมืองโบราณสมยั ทวารวดี ต้งั ข้ึนในราวพทุ ธศตวรรษที่ 12 และมีพฒั นาการสืบเน่ืองมาถึงพทุ ธศตวรรษท่ี 16-17 ภายใตอ้ ิทธิพลของวฒั นธรรมขอมโบราณ บริเวณเมืองเสมามีซากโบราณสถาน ก่อดว้ ยศิลาแลงและหินทรายหลงเหลืออยู่ มีการขดุ คน้ พบโบราณวตั ถุตา่ งๆ เป็ นจานวนมาก ท่ีไดร้ ับความสนใจมากที่สุดคือ พระนอนหินทรายและธรรมจกั รเก่าแก่ ซ่ึงปัจจบุ นั อยใู่ นบริเวณวดั ธรรมจกั รเสมาราม พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ มหาวรี วงศ์อำเภอเมอื ง จ.นครรำชสมี ำ พพิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาติ มหาวรี วงศ์ ต้งั อยใู่ นบริเวณวดั สุทธจินดา ตรงขา้ มศาลากลางจงั หวดัจดั แสดงศิลปวตั ถุท้งั ที่สมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์ อดีตเจา้ อาวาสวดั สุทธจินดารวบรวมไว้ โบราณวตั ถุที่กรมศิลปากรไดส้ ารวจขดุพบในเขตจงั หวดั นครราชสีมา ตลอดจนจงั หวดั ใกลเ้ คียงและที่มผี บู้ ริจาค ส่วนใหญ่เป็ นพระพทุ ธรูป มีท้งั พระศิลาสมยั ขอมพระพทุ ธรูปสมยั อยธุ ยา พระพทุ ธรูปสมั ฤทธ์ิ เคร่ืองเคลือบดินเผา เคร่ืองใชส้ มยั โบราณ ภาพไมแ้ กะสลกั เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมระหวา่ งเวลา 09.00-16.00 น. ในวนั พธุ ถึงวนั อาทิตย์ ปิ ดวนั จนั ทร์ วนั องั คารและวนั หยดุ นกั ขตั ฤกษ์ อตั ราคา่ เขา้ ชม ชาวไทย 5บาท ชาวต่างประเทศ 10 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเตมิ โทร.0 4424 2958 หรือwww.thailandmuseum.com

ประตชู ุมพลอำเภอเมอื ง จ.นครรำชสมี ำ ประตชู ุมพล ต้งั อยดู่ า้ นหลงั อนุสาวรียท์ า้ วสุรนารี สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ ร้างเมืองนครราชสีมาเป็ นเมืองหนา้ ด่านเม่ือ พ.ศ. 2199 อนั เป็ นปี ที่พระองคเ์ สดจ็ ข้ึนครองกรุงศรีอยธุ ยาและสร้างกาแพงประตูเมืองอยา่ งแขง็ แรง โดยมีช่างชาวฝร่ังเศส ซ่ึงเป็ นมิตรประเทศกบั กรุงศรีอยธุ ยาในขณะน้นั เป็นผอู้ อกแบบผงั เมือง เมืองนครราชสีมาในขณะน้นั มีลกั ษณะเป็ นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ขนาด 1,000 x 1,700 เมตร เดิมมีประตเู มืองท้งั หมด 4 ประตู ไดแ้ ก่ ประตพู ลแสนดา้ นทิศเหนือ ประตูพลลา้ นดา้ นทิศตะวนั ออก ประตไู ชยณรงคด์ า้ นทิศใต้ และประตูชุมพลดา้ นทิศตะวนั ตก ปัจจุบนั เหลอื เพียงประตูชุมพลเท่าน้นั ท่ีเป็ นประตูเมืองเก่า ส่วนอีกสามประตไู ดส้ ร้างข้ึนใหม่ ลกั ษณะประตูชุมพลเป็นประตูเชิงเทิน ก่อดว้ ยหินกอ้ นใหญ่และอิฐ ฉาบดว้ ยปูน ส่วนบนเป็ นหอรบสร้างดว้ ยไมแ้ ก่นหลงั คามงุกระเบ้ือง ประดบั ดว้ ยช่อฟ้ า กระจงั และนาคสะดุง้ กาแพงต่อจากประตทู ้งั สองขา้ งก่อดว้ ยอิฐ ส่วนบนสุดทาเป็ นรูปใบเสมา อนสุ รณ์สถานนางสาวบญุ เหลอือำเภอเมอื ง จ.นครรำชสมี ำ อนุสรณ์สถานนางสาวบุญเหลือ ต้งั อยใู่ นบริเวณโรงเรียนบุญเหลือวทิ ยานุสรณ์ตาบลโคกสูง อาเภอเมือง ห่างจากตวั เมืองประมาณ 12.5 กิโลเมตร อยทู่ างดา้ นซา้ ยมือตามเสน้ ทางสายนครราชสีมา-ชยั ภูมิทาพิธีเปิ ดเมื่อวนั ท่ี 6 กรกฎาคม 2529 อนุสาวรียห์ ล่อดว้ ยทองสมั ฤทธ์ิสูง 175 เซนติเมตร สร้างข้ึนเพ่ือราลึกถึงวรี กรรมของนางสาวบุญเหลือ และเหล่าบรรพบุรุษของชาวนครราชสีมาที่ไดพ้ ลีชีพเพื่อปกป้ องชาติ เมื่อคร้ังสงครามเจา้ อนุวงศ์ ปี พ.ศ.2369 ที่ทุ่งสมั ฤทธ์ิ ดว้ ยการใชด้ ุน้ ฟื นติดไฟโยนเขา้ ใส่กองเกวยี นดินดาของกองทพั ลาว จนระเบิดเสียหายหมดสิ้นและตวันางไดส้ ิ้นชีวติ ในการสูร้ บในคร้ังน้นั

ปราสาทนางราอำเภอประทำย จ.นครรำชสมี ำ ปราสาทนางรา ต้งั อยทู่ ี่บา้ นนางรา ตาบลนางรา ไปตามทางหลวงหมายเลข 2(นครราชสีมา-ขอนแก่น) ประมาณ 62 กิโลเมตร จนถงึ แยกบา้ นวดั เล้ียวขวาเขา้ ทางหลวงหมายเลข 207 ไปประมาณ 22กิโลเมตรถึงบา้ นหญา้ คา (หรือก่อนถึงตวั อาเภอประทาย 11 กิโลเมตร) จากน้นั เล้ียวซา้ ยทางเขา้ วดั ปราสาทนางราอีก 4กิโลเมตร ชื่อ ปราสาทนางรา มาจากวา่ เดิมเคยมีรูปนางรา เป็ นหินสีเขียวทาแบบเทวรูป อยทู่ างทิศตะวนั ตกของวหิ ารห่างไป1.5 กิโลเมตร ปัจจบุ นั เหลือแตร่ ่องรอยของเทวสถานและแท่นหิน ปราสาทนางราเป็ นโบราณสถานสมยั ขอมท่ีเรียกวา่ เป็นอโรคยาศาล (โรงพยาบาล) สร้างข้ึนในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 18 ในสมยั พระเจา้ ชยั วรมนั ที่ 7 ประกอบดว้ ยกลุ่มโบราณสถาน2 กลมุ่ ต้งั อยใู่ กลเ้ คียงกนั กลมุ่ ปรางคท์ ่ีสมบูรณ์กวา่ หลงั อื่น ประกอบดว้ ยปรางคอ์ งคก์ ลาง มีมขุ ยน่ื ออกไปขา้ งหนา้ หนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ออก ส่วนทางดา้ นทิศตะวนั ตกเฉียงใตข้ องปราสาท มีวหิ ารก่อดว้ ยศิลาแลงหนั หนา้ ไปทางทิศตะวนั ตก มีกาแพงศิลาแลงลอ้ มรอบ ส่วนซุม้ โคปุระหรือประตทู างเขา้ อยทู่ างดา้ นทิศตะวนั ออก มีแผนผงั เป็ นรูปกากบาท นอกกาแพงดา้ นทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ มีสระน้าขนาดเลก็ ก่อดว้ ยศิลาแลง ถดั จากปราสาทนางราไปทางทิศใต้ มีปราสาทอีก 3 หลงั เรียงกนั ในแนวเหนือ-ใต้ ซ่ึงเหลือเพยี งฐานและมีกรอบประตแู ละทบั หลงั หินทราย ต้งั แสดงอยู่ มีกาแพงศิลาแลงและคูน้ารูปเกือกมา้ลอ้ มรอบ พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ พมิ ายอำเภอพมิ ำย จ.นครรำชสมี ำ พิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติ พมิ าย ต้งั อยใู่ นตวั อาเภอพมิ าย บริเวณเชิงสะพานท่าสงกรานต์ ก่อนถึงปราสาทหินพมิ ายเลก็ นอ้ ย จากตวั เมืองนครราชสีมาเดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-ขอนแก่น) ระยะทาง 50 กิโลเมตรถึงทางแยกตลาดแคเล้ียวขวาไปตามทางหลวง 206 อีก 10 กิโลเมตร หากใชบ้ ริการรถโดยสารสามารถข้ึนรถไดท้ ี่สถานีขนส่งแห่งท่ี 2 ในตวั เมืองนครราชสีมาพพิ ิธภณั ฑแ์ ห่งน้ีเป็ นสถานที่รวบรวมหลกั ฐานทางโบราณคดี และจดั แสดงเรื่องราวเก่ียวกบั ความเจริญรุ่งเรือง ของวฒั นธรรม

อีสานในอดีต โดยเฉพาะโบราณวตั ถศุ ิลปวตั ถุท่ีคน้ พบในเขตอีสานตอนล่าง แบ่งการจดั แสดงออกเป็ น 3ส่วนส่วนที่ 1 อาคารจดั แสดงช้นั บน จดั แสดงเรื่องพฒั นาการของสงั คมในดินแดนอีสานตอนล่าง แสดงถึงรากฐานการกาเนิด อารยธรรมซ่ึงมีมาจากความเช่ือต่าง ๆ ตลอดจนอิทธิพลวฒั นธรรมภายนอก ที่เขา้ มามีบทบาทต้งั แต่สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์จนถึงปัจจุบนัส่วนที่ 2 อาคารช้นั ลา่ ง จดั แสดงโบราณวตั ถุศิลปะเขมรในอีสานตอนล่างส่วนที่ 3 อาคารโถง จดั แสดงโบราณวตั ถุซ่ึงเป็ นส่วนประกอบสถาปัตยกรรมหินทราย เช่น ทบั หลงั เสาประดบั กรอบประตูกลีบขนุน บวั ยอดปราสาท และปราสาทจาลอง นอกจากน้ีบริเวณรอบอาคารพิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติพิมาย ยงั ไดจ้ ดั แสดงใบเสมาและทบั หลงั ท่ีสวยงามอีกดว้ ยพิพธิ ภณั ฑแ์ ห่งน้ีเปิ ดใหเ้ ขา้ ชมทุกวนั ต้งั แต่เวลา 09.00-16.00 น. คา่ เขา้ ชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดไดท้ ่ี โทร. 0 4447 1167 แหลง่ โบราณคดบี า้ นปราสาทอำเภอโนนสงู จ.นครรำชสมี ำ แหล่งโบราณคดีบา้ นปราสาท ต้งั อยหู่ มู่ที่ 7 บา้ นปราสาทใต้ ตาบลธารปราสาทจากตวั เมืองใชท้ างหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-ขอนแก่น ถึงกิโลเมตรที่ 44 มีทางแยกซา้ ยเขา้ ไปอีก 1 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถประจาทางจากกรุงเทพฯหรือนครราชสีมา ใหน้ งั่ รถสายท่ีจะไป ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย หรือ กาฬสินธุ์ ลงรถที่กม.44 แลว้ ต่อรถจกั รยานยนตร์ ับจา้ งจากปากทางเขา้ หมู่บา้ นบา้ นปราสาทนบั เป็ นแหลง่ โบราณคดีแห่งที่สอง ต่อจากบา้ นเชียง ท่ีไดจ้ ดั ทาในลกั ษณะพพิ ธิ ภณั ฑก์ ลางแจง้ จากหลกั ฐานที่คน้ พบสนั นิษฐานวา่ มีชุมชนอาศยั อยใู่ นบริเวณน้ีมาต้งั แต่สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ จนถึงสมยั ประวตั ิศาสตร์ มีหลกั ฐานของกลมุ่ วฒั นธรรมแบบทวารวดีและแบบเขมรโบราณ ช่วงระหวา่ ง 1,500-3,000 ปี มาแลว้ หลุมขดุ คน้ ท่ีตกแต่งและเปิ ดให้ชม มีท้งั หมด 3 แห่ง คือหลุมขดุ คน้ ที่ 1 มีโครงกระดูกฝังอยใู่ นช้นั ดินแตล่ ะสมยั แต่ละยคุ มีลกั ษณะการฝังที่ต่างกนั ไป ยคุ 3,000 ปี อยใู่ นช้นั ดินระดบั ลา่ งสุดลึก 5.5 เมตร โครงกระดูกจะหนั หวั ไปทางทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ ยคุ 2,500 ปี หนั หวั ไปทางทิศตะวนั ออกยคุ 2,000 ปี หนั หวั ไปทางทิศใต้ แตค่ ติในการฝังจะคลา้ ยกนั คือจะนาเคร่ืองประดบั เช่น กาไลเปลือกหอย ลกู ปัด แหวนสาริดกาไลสาริด เครื่องประดบั ศีรษะทาดว้ ยสาริดและภาชนะของผตู้ ายฝังร่วมไปดว้ ยกบั ผตู้ าย ในช่วงสามระยะแรกน้ีเป็ นภาชนะดินเผาเคลือบน้าดินสีแดง แบบลายเชือกทาบ ลกั ษณะหลกั ของภาชนะเป็ นแบบคอแคบปากบาน แต่บางใบมีทรงสูงเหมือนคนโทบางชิ้นมีลกั ษณะเป็ นทรงกลมส้นั ต่อมาในยคุ 1,500ปี น้นั ลกั ษณะภาชนะจะเปลี่ยนเป็ นแบบพมิ ายดา คือ มีสีดา ผวิ ขดั มนัเน้ือหยาบบางหลมุ ขดุ คน้ ที่ 2 ในดินช้นั บนพบร่องรอยของศาสนสถานในพทุ ธศตวรรษที่ 13-16 เรียกกนั วา่ “ก่ธู ารปราสาท” และพบเศียรพระพทุ ธรูปในสมยั เดียวกนั ศิลปะทวารวดีแบบทอ้ งถิ่น นอกจากน้ียงั พบรูปป้ันดินเผาผหู้ ญงิ คร่ึงตวั เอามือกมุ ทอ้ งลกั ษณะคลา้ ยต้งั ครรภ์ และชิ้นส่วนลายปูนป้ันประดบั ปราสาทหลุมขดุ คน้ ท่ี 3 พบโครงกระดูกในช้นั ดินที่ 5.5 เมตร เป็นผหู้ ญิงท้งั หมด เป็ นท่ีน่าสงั เกตวา่ กระดูกทุกโครงในหลมุ น้ีไมม่ ีศีรษะ และภาชนะน้นั ถกู ทุบใหแ้ ตกก่อนที่จะนาลงไปฝังดว้ ยกนั นกั โบราณคดีสนั นิษฐานวา่ เป็นโครงกระดูกของผหู้ ญิง ท่ีถูก

ประหารชีวติ และนาศีรษะไปแห่ประจาน และไดพ้ บส่วนกะโหลกอยรู่ วมกนั ในอีกท่ีหน่ึง ซ่ึงห่างจากจุดเดิมเพียง 500 เมตรชาวบา้ นปราสาทจะร่วมกนั ทาบญุ อุทิศส่วนกศุ ลในวนั ที่ 21 เมษายน ของทุกปี อทุ ยานประวตั ศิ าสตรพ์ มิ ายอำเภอพมิ ำย จ.นครรำชสมี ำ อุทยานประวตั ิศาสตร์พมิ าย ต้งั อยใู่ นตวั อาเภอพมิ าย ประกอบดว้ ยโบราณสถานสมยั ขอม ที่ใหญ่โตและงดงามอลงั การนนั่ คือ “ปราสาทหินพมิ าย” แหลง่ โบราณคดีที่ทรงคุณค่าทางประวตั ิศาสตร์ บนพ้ืนท่ี115 ไร่ วางแผนผงั เป็ นรูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ กวา้ ง 565 เมตร ยาว 1,030 เมตรช่ือ “พมิ าย” น่าจะมาจากคาวา่ “วมิ าย”หรือ “วมิ ายปุระ” ท่ีปรากฏในจารึกภาษาเขมร บนแผน่ หินตรงกรอบประตรู ะเบียงคดดา้ นหนา้ ของปราสาทหินพิมาย และยงัปรากฏช่ือในจารึกอื่นอีกหลายแห่ง อาจจะเป็ นคาท่ีใชเ้ รียกรูปเคารพหรือศาสนาสถานส่ิงท่ีเป็นลกั ษณะพเิ ศษของปราสาทหินพมิ าย คือ ปราสาทหินแห่งน้ีสร้างหนั หนา้ ไปทางทิศใต้ ตา่ งจากปราสาทหินอน่ื ท่ีมกั หนัหนา้ ไปทางทิศตะวนั ออก สนั นิษฐานวา่ เพอื่ ใหห้ นั รับกบั เสน้ ทาง ท่ีตดั มาจากเมืองยโศธรปุระเมืองหลวงของอาณาจกั รเขมรซ่ึงเขา้ สู่เมืองพิมายทางดา้ นทิศใต้จากหลกั ฐานศิลาจารึกและศิลปะการก่อสร้าง บ่งบอกวา่ ปราสาทหินพิมาย คงจะเร่ิมสร้างข้ึนในราวปลายพทุ ธศตวรรษที่ 16ในสมยั พระเจา้ สุริยวรมนั ที่ 1 รูปแบบทางศิลปกรรมของตวั ปราสาทเป็ นแบบปาปวน ซ่ึงเป็ นศิลปะท่ีรุ่งเรืองในสมยั น้นั โดยมีลกั ษณะของศิลปะแบบนครวดั ซ่ึงเป็ นที่นิยมในสมยั ต่อมาปนอยบู่ า้ ง และมาต่อเติมอีกคร้ังในราวตน้ พทุ ธศตวรรษที่ 18 สมยัพระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 7 ซ่ึงคร้ังน้นั เมืองพิมายเป็ นเมืองซ่ึงมีความสมั พนั ธใ์ กลช้ ิดกบั อาณาจกั รเขมร ปราสาทหินแห่งน้ีสร้างเป็นศาสนสถานในพทุ ธศาสนา ลทั ธิมหายานมาโดยตลอด เน่ืองจากพระเจา้ สุริยวรมนั ท่ี 1 และพระเจา้ ชยั วรมนั ที่ 7 ทรงนบั ถือพทุ ธศาสนาลทั ธิมหายานปราสาทหินพิมายมีสิ่งก่อสร้างท่ีน่าสนใจดงั น้ีสะพานนาคราช เม่ือเขา้ ไปเยยี่ มชมปราสาทหินพิมายจะผา่ นส่วนน้ีเป็นส่วนแรก จะเห็นสะพานนาคราชและประติมากรรมรูปสิงห์ ต้งั อยดู่ า้ นหนา้ ของซุม้ ประตูดา้ นทิศใตข้ องปรางคป์ ระธาน ซ่ึงเป็ นส่วนหนา้ ของปราสาท ท้งั น้ีอาจมีจุดมงุ่ หมายในการสร้างใหเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์แสดงถึงการเชื่อมตอ่ ระหวา่ งโลกมนุษยก์ บั โลกสวรรค์ ตามคติความเช่ือในเรื่องจกั รวาลท้งั ในศาสนาฮินดูและศาสนาพทุ ธ มีลกั ษณะเป็ นรูปกากบาท ยกพ้ืนข้ึนสูงจากพ้ืนดินประมาณ 2.50 เมตร ราวสะพานโดยรอบทาเป็ นลาตวั พญานาค ชูคอแผพ่ งั พานเป็นนาคเจ็ดเศียร มีลาตวั ติดกนั เป็นแผน่ หนั หนา้ ออกไปยงั เชิงบนั ไดท้งั สี่ทิศซุ้มประตแู ละกาแพงช้ันนอกของปราสาท ถดั จากสะพานนาคราชเขา้ มาเป็ นซุม้ ประตหู รือที่เรียกวา่ โคปุระ ของกาแพงปราสาท

ดา้ นทิศใต้ ก่อดว้ ยหินทราย มีผงั เป็ นรูปกากบาทและมีซุม้ ประตูลกั ษณะเดียวกนั น้ีอีก 3 ทิศ คือ ทิศเหนือ ทิศตะวนั ออก และทิศตะวนั ตก โดยมีแนวกาแพงสร้างเช่ือมตอ่ ระหวา่ งกนั เป็ นผงั รูปสี่เหลี่ยมผนื ผา้ ยาวจากเหนือถึงใต้ 277.50 เมตร และกวา้ งจากตะวนั ออกไปตะวนั ตก 220 เมตร ซุม้ ประตดู า้ นทิศตะวนั ตกมีทบั หลงั ชิ้นหน่ึงสลกั เป็นรูปขบวนแห่พระพทุ ธรูปนาคปรกที่ประดิษฐานอยเู่ หนือคานหามซุ้มประตูและกาแพงช้ันใน (ระเบียงคด) เมื่อผา่ นจากซุม้ ประตูและกาแพงช้นั นอกไปแลว้ กจ็ ะถึงซุม้ ประตูและกาแพงช้นั ในซ่ึงลอ้ มรอบปรางคป์ ระธาน กาแพงช้นั ในของปราสาทแตกตา่ งจากกาแพงช้นั นอก คือ ก่อเป็ นหอ้ งยาวตอ่ เน่ืองกนั คลา้ ยเป็ นทางเดิน มีหลงั คาคลมุ อนั เป็ นลกั ษณะที่เรียกวา่ ระเบียงคด มีผงั เป็นรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ความยาวจากเหนือถึงใต้ 80 เมตร และความกวา้ งจากตะวนั ออกถึงตะวนั ตก 72 เมตร มีทางเดินกวา้ ง 2.35 เมตร เดินทะลุกนั ไดต้ ลอดท้งั ส่ีดา้ น หลงั คามุงดว้ ยแผน่ หิน การบูรณะระเบียงคดเมื่อปี พ.ศ 2532 ไดพ้ บแผน่ ทองดุนลายรูปดอกบวั 8 กลีบ บรรจุไวใ้ นช่องบนพ้ืนหินของซุม้ประตูระเบียงคดเกือบจะทุกดา้ น แผน่ ทองเหล่าน้ีคงไวเ้ พอ่ื ความเป็นสิริมงคล เหมอื นท่ีพบในปราสาทอ่ืนอีกหลายแห่งปรางค์ประธาน ต้งั อยกู่ ลางลานภายในระเบียงคด เป็ นศูนยก์ ลางของศาสนสถานแห่งน้ี ปรางคป์ ระธานสร้างดว้ ยหินทรายสีขาวท้งั องค์ ตา่ งจากซุม้ ประตู(โคปุระ)และกาแพงช้นั ในและช้นั นอกท่ีสร้างดว้ ยหินทรายสีแดงเป็ นหลกัมีหินทรายสีขาวเป็ นส่วนประกอบบางส่วน เนื่องจากหินทรายสีขาวมีคุณสมบตั ิคงทนดีกวา่ หินทรายสีแดง องคป์ รางคส์ ูง 28เมตร ฐานส่ีเหล่ียมจตั ุรัสยอ่ มุมไมส้ ิบสองยาวดา้ นละ 22 เมตร ดา้ นหนา้ มีมณฑปเชื่อมต่อกบั องคป์ รางคโ์ ดยมีฉนวนก้นั องค์ปรางคแ์ ละมณฑปต้งั อยบู่ นฐานเดียวกนั ส่วนดา้ นอ่ืน ๆ อีกสามดา้ นมีมขุ ยน่ื ออกไปมบี นั ไดและประตขู ้ึนลงสู่องคป์ รางคท์ ้งั ส่ีดา้ นปรางค์พรหมทตั ต้งั อยดู่ า้ นหนา้ ปรางคป์ ระธานเย้อื งไปทางซา้ ยสร้างดว้ ยศิลาแลง มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมยอ่ มมุ กวา้ ง 14.50สูงประมาณ 15 เมตร สร้างในสมยั พระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 7 ภายในปรางคพ์ บประติมากรรมหินทรายจาหลกั เป็นรูปประติมากรรมฉลององคข์ องพระเจา้ ชยั วรมนั ที่7 (จาลอง) ที่เรียกวา่ ปรางคพ์ รหมทตั กเ็ พ่ือใหเ้ ขา้ กบั ตานานพ้นื เมืองเร่ืองทา้ วพรหมทตั พระเจา้ แผน่ ดิน ปัจจบุ นั กรมศิลปากรไดเ้ กบ็ รักษาองคจ์ ริง ไวท้ ี่พพิ ธิ ภณั ฑสถานแห่งชาติพิมายปรางค์หินแดง ต้งั อยทู่ างดา้ นขวา สร้างดว้ ยหินทรายสีแดง กวา้ ง 11.40 เมตร สูง 15 เมตร มีมุขยนื่ ออกไปเป็ นทางเขา้ ท้งั4 ทิศ เหนือกรอบประตทู างเขา้ ดา้ นทิศเหนือมีทบั หลงั สลกั เป็ นภาพเล่าเร่ืองในมหากาพยภ์ ารตะตอนกรรณะลา่ หมูป่ า ออกจากระเบียงคด (กาแพงช้นั ใน) มาบริเวณลานช้นั นอกทางดา้ นทิศตะวนั ตก ลอ้ มรอบดว้ ยกาแพงช้นั นอกอีกช้นั หน่ึง ประกอบดว้ ยอาคารที่เรียกวา่ บรรณาลยั มีสองหลงั ต้งั อยคู่ ู่กนั และมีสระน้าอยทู่ ้งั สี่มมุอุทยานประวตั ศิ าสตร์พิมาย เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมทุกวนั เวลา 07.30-18.00 น. คา่ เขา้ ชม ชาวไทยคนละ 10 บาท ชาวตา่ งประเทศคนละ 40 บาท มีบริการยวุ มคั คุเทศกซ์ ่ึงเป็ นนกั เรียนจากโรงเรียนพมิ ายวทิ ยานาชมสถานที่ฟรี สอบถามรายละเอียดเพ่มิ เติมไดท้ ่ีโทร. 0 4447 1568โบราณสถานนอกกาแพงปราสาทหินพมิ าย มีสิ่งท่ีน่าสนใจดงั น้ีประตูเมอื งและกาแพงเมอื งพมิ าย สร้างในสมยั พระเจา้ ชยั วรมนั ท่ี 7 บรรดาประตเู มืองท้งั 4 ทิศ ประตูชยั ดา้ นทิศใตน้ บั เป็ นประตเู มืองที่สาคญั ท่ีสุด เพราะรับกบั ถนนโบราณที่ตดั ผา่ นมาจากเมืองพระนครเขา้ สู่ตวั ปราสาทพิมาย หากหยดุ ยนื ท่ีช่องประตูเมืองดา้ นทิศใต้ จะมองเห็นปราสาทหินพิมาย ผา่ นช่องประตูเมอื งพอดี ลกั ษณะประตเู มืองมีแผนผงั เป็ นรูปส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ มีทางผา่ นตลอดกลางประตู ส่วนของหลงั คาไดห้ กั พงั ไปหมดแลว้เมรุพรหมทตั อยนู่ อกกาแพงปราสาทดา้ นทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ เป็นซากโบราณสถานก่อดว้ ยอิฐ ปัจจบุ นั เป็ นมลู ดินทบั ถมจนเป็ นรูปกลมสูงประมาณ 30 เมตร เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางประมาณ 59 เมตร ที่เรียกวา่ เมรุพรหมทตั เพราะเชื่อวา่ เป็นท่ีถวายเพลิงพระศพทา้ วพรหมทตั ตามตานานนนั่ เอง แตจ่ ากลกั ษณะการก่อสร้างเขา้ ใจวา่ สร้างข้ึนในสมยั อยธุ ยาตอนปลาย นอกจากน้ียงั มีโบราณสถานทางดา้ นทิศใตไ้ ดแ้ ก่ ท่านางสระผม กฏุ ิฤาษี และอโรคยาศาล องค์ การบริหารส่ วนตาบลไพล อาเภอลาทะเมนชัย จังหวดั นครราชสีมา