PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM 2. Flex Model Flex Model จะใหน้ กั เรียนยา้ ยฐานการเรียนรู้โดยตารางท่ียืดหยนุ่ นกั เรียนสามารถทากิจกรรมการเรียนรู้ตาม ความตอ้ งการของตนเอง การเรียนรู้ Online เป็นแหล่งการเรียนรู้หลกั สาหรับนกั เรียน ครูจะช่วยสนบั สนุน ใหค้ าแนะนา ตามความเหมาะสมกบั ความตอ้ งการของแตล่ ะคนในขณะที่นกั เรียนเรียนรู้ตามหลกั สูตรและเน้ือหา 46
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM ตัวอย่างการใช้ Flex Model 3. A La Carte model ในโมเดลน้ี นกั เรียนจะเป็ นผูต้ ดั สินใจวา่ รายวิชา หรือหวั ขอ้ ไหนท่ีนกั เรียนตอ้ งการจะเรียนรู้ออนไลน์ และ รายวชิ าหรือหวั ขอ้ ไหนท่ีตอ้ งการจะเรียนรู้แบบปกติ แต่ไม่วา่ จะเป็ นแบบใด ครูก็มีหนา้ ท่ีท่ีจะตอ้ งคอยช่วยเหลือนกั เรียน เม่ือนกั เรียนตอ้ งการ 47
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM 4. Enriched Virtual Model Enriched Virtual Model เป็ นอีกทางเลือกหน่ึงของ Blended Learning ท่ีให้นกั เรียนเรียนเน้ือหาออนไลน์ แบบเตม็ เวลา ใหน้ กั เรียนทาหลกั สูตรส่วนใหญ่ทางออนไลน์ท่ีบา้ น นอกหอ้ ง หรือนอกโรงเรียน เพียงแต่นกั เรียนจะตอ้ ง ไดม้ าโรงเรียนในส่วนของการฝึกฝน หรือฝึกปฏิบตั ิจริงตามที่ครูกาหนด Enriched Virtual จะมีขอ้ แตกตา่ งกบั Flipped Classroom ตรงท่ีนกั เรียนไม่จาเป็ นตอ้ งมาโรงเรียนทุกวนั บาง ท่ีครูอาจจะนดั เจอนกั เรียนเพียงแค่ 2 คร้ังตอ่ สปั ดาห์ก็ได้ 48
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM ตัวอย่างการใช้ Enriched Virtual 49
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM Another Possible Model Offline Distance Learning สาหรับนกั เรียนท่ีไมส่ ามารถเรียนรู้แบบ Online ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถเรียนรู้แบบ Online ได้ ในกรณีน้ี ครูจะตอ้ งเตรียมในการสอนแบบปกติในโรงเรียนเพื่อแนะแนวทางให้นกั เรียนในการหาประสบการณ์ ความรู้และทกั ษะที่จาเป็นสาหรับนกั เรียนในการทางานท่ีบา้ น โดยไมต่ อ้ งมีครูคอยใหค้ าแนะนา Online 50
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM ตัวอย่างการใช้ Offline Distance Learning 51
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM CHAPTER 9 UNDERSTANDING BLENDED LEARNING FOR YOUR CLASSROOM: “knowledge without application is waste – an effort in futility.” (ความรู้ที่ไม่ใชก้ ็สูญเปล่า – ความพยายามในความไร้ประโยชน์) เช่นเดียวกนั มนั จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากวา่ ไดก้ ล่าวถึง Blended Learning แลว้ ไม่ไดเ้ ริ่มทา เพียงแค่เขา้ ใจ Blended Learning มนั ยงั ไม่เพียงพอ เราจะตอ้ งกา้ วไปอีกกา้ วเพื่อที่จะเรียนรู้ว่า เราจะ ดดั แปลงมนั ให้เขา้ กบั ห้องเรียนเราอย่างไร (ห้องเรียนที่วา่ น้ีก็คือห้องเรียนในรูปแบบ Blended Learning ซ่ึงจะมีท้งั Online และแบบปกติ) เราจะเร่ิมตน้ นา Blended Learning มาใชใ้ นหอ้ งเรียนอยา่ งไร ไมต่ อ้ งกงั วล เราจะพูดถึงเทคนิคการ ใช้ Blended Learning ทีหลงั ในตอนน้ีเราจะทาความเขา้ ใจก่อนว่า เราจะประยุกต์ใช้ Blended Learning ให้เขา้ กบั บรรยากาศของหอ้ งเรียนแตล่ ะหอ้ งอยา่ งไร Use Various Teaching Tools เพอื่ ใหค้ ุณยอมรับ The New Learning Normal และหลุดพน้ จากแนวทางการเรียนรู้ในห้องเรียนตามปกติ สิ่ง แรกที่คุณอาจตอ้ งการทากค็ ือการใชเ้ ทคโนโลยี Digital ในการนาเสนอเน้ือหาของคุณ ไม่มีใครบอกวา่ มนั จะตอ้ งเรียนใน หอ้ งเรียนเท่าน้นั คุณสามารถมอบหมายให้นกั เรียนดู Video หรือ Youtube ใหน้ กั เรียนของคุณเรียนได้ หลงั จากน้นั อาจ ให้กลบั มาที่ห้องเรียนโดยครูทาตวั ให้เป็ นเพียง Facilitator ในขณะท่ีคุณให้นกั เรียนแสดงความเขา้ ใจจากเน้ือหาทาง Digital ท่ีคุณให้กบั พวกเขาก่อนหนา้ น้ี ดว้ ยกระบวนการแบบน้ี คุณไดเ้ ร่ิมกระบวนการในการนา Blended Learning เขา้ มาสู่หอ้ งเรียนแลว้ อีก Idea หน่ึง คุณอาจจะใช้ “Cell Phone Method” โดยท่ีหลงั จากท่ีคุณสอนเสร็จ คุณให้นกั เรียนของคุณ Tweet ในส่ิงที่พวกเขาพ่ึงเรียนไป ไม่วา่ จากท่ีคุณสอน หรือทาง Digital พร้อมกบั hashtag ท่ีคุณใหพ้ วกเขา แค่น้ีคุณก็ได้ เริ่มกา้ วแรก กา้ วที่สาคญั ในการฝึกใช้ Blended Learning ที่มีประสิทธาพในหอ้ งเรียนแลว้ Ensure Continuous Learning อีกประการหน่ึงท่ีอยากใหจ้ าไวก้ ็คือ มนั มีความสาคญั มากที่การเรียนรู้จะตอ้ งเกิดต่อเน่ืองถึงแมว้ า่ จะอยูน่ อก หอ้ งเรียนกต็ าม จงมน่ั ใจวา่ นกั เรียนสามารถเขา้ ถึงเน้ือหาไดต้ ลอดเวลาแมจ้ ะออกนอกหอ้ งเรียนไปแลว้ และนี่คือเหตุผลท่ี แทจ้ ริงวา่ ทาไมการเพิม่ การเรียนรู้ Online เขา้ ไปในการเรียนรู้ของการเรียนปกติจึงมีความสาคญั มนั ช่วยใหน้ กั เรียนเขา้ ถึง 52
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM กิจกรรมการเรียนรู้ บทเรียน และเน้ือหาตามหลกั สูตร ที่ไหน และเวลาใดก็ไดท้ ่ีพวกเขาพร้อม เห็นหรือไม่วา่ ทุกคนคงจะ เห็นเช่นเดียวกนั วา่ แค่เรียนในหอ้ งเรียนอยา่ งเดียวไมส่ ามารถทาได้ ความสาเร็จทางวิชาการของนกั เรียนจะเพิ่มมากข้ึนเมื่อเทคโนโลยีการเรียนรู้ทาง Digital ถูกผสมผสานให้ เขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มในการเรียนรู้ของหอ้ งเรียนปกติ ตอนน้ี เช่ือไดว้ า่ คาถามตอ่ มาก็คือ “เราจะเริ่มผสานกระบวนการส่ง เน้ือหาทาง Digital น้ีเม่ือไหร่” คาตอบน้นั ง่ายมาก คุณสามารถมอบหมายงานให้นกั เรียนในขณะท่ีไปพกั ผ่อน หรือ วนั หยุด บน Online Platform ท่ีคุณเลือก เม่ือไหร่ ที่ไหนก็ได้ ดว้ ยวธิ ีน้ี คุณสามารถที่จะช่วยใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วม หรือ ติดตามความกา้ วหนา้ ของนกั เรียน รวมถึงช่วยใหก้ ารเรียนรู้เกิดข้ึนอยา่ งตอ่ เนื่อง Learning Personalization องคป์ ระกอบหลกั อีกอยา่ งหน่ึงของ Blended Learning ก็คือ “‘Personalized Learning” ในที่น้ีก็คือ Blended Leaning ยอมใหน้ กั เรียนทางานไดอ้ ยา่ งยดื หยนุ่ ในจงั หวะการเรียนรู้ของตนเอง ดงั น้นั ข้นั ถดั มาในการทาความเขา้ ใจกบั Blended Learning ในห้องเรียนของคุณก็คือ ปรับการเรียนรู้ของ นกั เรียนทุกคน มนั ไม่ใช่ความลบั อีกต่อไปท่ีวา่ นกั เรียนแตล่ ะคนมีความสามารถไม่เหมือนกนั บางคนมีความสามารถใน การเรียนรู้ดา้ นวชิ าการมากกวา่ คนอื่น วธิ ีการคือการมอบหมายงานให้กบั นกั เรียนเป็ นรายบุคคล โดยยึดฐานจากระดบั ความสามารถ ซ่ึงคุณสามารถทาไดโ้ ดยใชส้ ่ือ Digital เช่นกนั Choose Your Blended Learning Model ในชีวติ พวกเราส่วนใหญ่ไดร้ ับอิทธิพลและเริ่มทดลองสิ่งที่ไม่เขา้ กบั เรา พวกเร่าวนใหญ่อาจจะผิดพลาดใน เร่ืองเกี่ยวกบั Fashion บางคนอาจจะดูดีที่ไวผ้ มยาว แตบ่ างคนก็ไมใ่ ช่ และน่ีมนั ก็เป็นกฎแห่งความสมดุล เกี่ยวกบั Blended Learning การที่จะทาความเขา้ ใจ Blended Learning สาหรับหอ้ งเรียนของคุณอยา่ งถ่องแท้ คุณจะตอ้ งพยายามลองใช้ Model เหล่าน้นั ใหม้ ากท่ีสุด คุณจึงจะคน้ พบวา่ Model ไหนเหมาะสมกบั หอ้ งเรียนของคุณ 53
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM CHAPTER 10 DIFFERENTIATION IN YOUR BLENDED CLASSROOM: ตอนน้ีคิดวา่ ทุกคนมีรูปแบบหอ้ งเรียน Blended Learning แลว้ ต่อไปเป็ นเวลาที่จะเรียนรู้การจาแนกนกั เรียน อยา่ งมีประสิทธิภาพ เพ่อื ที่จะช่วยเหลือนกั เรียนแตล่ ะคนใหป้ ระสพความสาเร็จสูงสุด การจาแนกความแตกต่างของนักเรียนเป็ นสิ่งทจี่ าเป็ นนอกเสียจากว่าคณุ กาลังสอนหุ่นยนต์อยู่ เช่นเดียวกนั กบั ที่ทุกคนมีลกั ษณะที่แตกตา่ งกนั แมก้ ระทง่ั ลายนิ้วมือ นกั เรียนกเ็ ช่นเดียวกนั ที่มีความแตกต่าง ด้านความสามารถและประสิทธิภาพในการเข้าใจเน้ือหา นักเรียนบางคนสามารถเรียนรู้ได้ไว ในขณะท่ีอีกคนมี ความสามารถในการเรียนรู้ไดช้ า้ กวา่ บางคนฉลาดส่วนบางคนปัญญาทึบ จงั หวะและแนวทางในการเรียนรู้ก็แตกต่างกนั และน่ีคือปัญหาที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียนแบบปกติ ตอนน้ี ในฐานะครู คุณตอ้ งหาทางออกสาหรับปัญหาเหล่าน้ี นกั เรียนทุกคนมีสิทธิท่ีจะเรียนรู้และเขา้ ใจโดย ไม่คานึงถึงความสามารถท่ีจะเขา้ ใจไดอ้ ย่างรวดเร็วหรือไม่ ปัญหาตอนน้ีก็คือ คุณจะสามารถนานกั เรียนทุกคนไปถึง เป้าหมายไดอ้ ยา่ งไร Classroom Differentiated Instruction Defined Differentiated Instruction (วิธีการจดั การเรียนการสอนที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล) หมายความว่า “การดาเนินการในการคน้ หารูปแบบการเรียนรู้ และระดบั ความพร้อมของนกั เรียนแต่ละคนก่อนที่จะ ตดั สินใจออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้” กลยุทธ์การเรียนรู้น้ีเป็ นวิธีที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมาก ซ่ึงเป็ น ประโยชนต์ อ่ ท้งั นกั เรียนที่ฉลาดและนกั เรียนท่ีบกพร่องทางการเรียนรู้ มีสองวิธีหลกั ๆ ในการตอบสนองความแตกต่างของนกั เรียนใน Blended Learning Classroom อนั ดบั แรก คุณสามารถตดั สินใจสอนในเน้ือหาเดียวกนั แต่ใช้ Blended Learning Models ท่ีต่างกนั เพ่ือรองรับนกั เรียนทุกคนบน พ้ืนฐานของความสามารถในการเรียนรู้ของพวกเขา หรือคุณอาจจะให้เน้ือหาท่ีต่างกนั โดยดูท่ีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ของนกั เรียนแต่ละคน นนั่ หมายความวา่ คุณสอนนกั เรียนแต่ละคนจากรูปแบบการเรียนรู้และระดบั ของเน้ือหาที่เขาจะรับ ได้ 54
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM ในการเร่ิมตน้ การจดั การเรียนการสอนที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลใน Blended Learning Classroom น้ัน ให้คุณออกแบบบทเรียนโดยให้มองรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนเป็ นหลัก ใช้การประเมิน ความกา้ วหนา้ (Formative Assessment) ในการประเมินนกั เรียน ให้การประเมินอยา่ งต่อเน่ืองและยดื หยนุ่ ซ่ึงจะทาใหค้ ุณ สามารถปรับเปล่ียนมนั เม่ือไหร่ก็ไดท้ ี่คุณตอ้ งการ ให้สิ่งท่ีจาเป็ นต่อนกั เรียนแต่ละคร้ัง จดั ลุ่มนกั เรียนโดยเน้นที่ความ สนใจ รูปแบบการเรียนรู้ และหวั ขอ้ หรือความสามารถในการจดั การงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย จดั การหอ้ งเรียนของคุณให้ คงไวซ้ ่ึงความสัมพนั ธ์ท่ีดีระหวา่ งกนั The Four Classroom Differentiation Methodology ส่ีแนวทางที่จะช่วยคุณในการจาแนกความแตกต่างของนกั เรียนใน Blended Classroom ของคุณอย่างมี ประสิทธิภาพประกอบไปดว้ ย เน้ือหา (Content) กระบวนการ (Process) ผลผลิต (Product) และสภาพแวดลอ้ มในการ เรียนรู้ (Learning Environment) 1. Content: มันปฏิเสธไม่ได้ว่า เน้ือหาที่คุณนามาสอนนักเรียนน้ันเป็ นเน้ือหาท่ีถูกกาหนดโดย ผทู้ รงคุณวฒุ ิตา่ ง ๆ ในกระทรวงศึกษาธิการ และท่ีเก่ียวขอ้ ง สิ่งท่ีน่าเศร้าก็คือ เดก็ นกั เรียนในหอ้ งของคุณบางคนเจอกบั ความยงุ่ ยากในการทาความเขา้ ใจกบั เน้ือหา และ ไม่สามารถตอบสนองต่อส่ิงจาเป็ นที่กระทรวงไไดก้ าหนดไว้ นกั เรียนบางคนมีความเขา้ ใจปานกลาง ในขณะท่ีบางคน เกิดความเช่ียวชาญ ซ่ึงทาใหเ้ ราสามารถแบ่งกลุ่มนกั เรียนไดเ้ ป็นสามกลุ่มไดแ้ ก่ Category-One: กลุ่มของนกั เรียนท่ีไมค่ ุน้ เคยกบั บทเรียน Category-Two: กลุ่มของนกั เรียนานกลางท่ีมีความเช่ียวชาญในบทเรียนเลก็ นอ้ ย Category-Three: กลุ่มของนกั เรียนที่คุน้ เคยกบั บทเรียนเป็นอยา่ งดี ทางออกของการแก้ปัญหาง่ายๆ ก็คือ ให้คุณแบ่งนักเรียนในห้องออกเป็ น 6 กลุ่ม แยกเน้ือหาออกให้ เหมาะสมกบั พวกเขา กลุ่มท้งั หกใหอ้ ยูใ่ นรูปแบบของ Bloom Taxonomy (Remembering, Understanding, Applying, Analyzing, Evaluating, and Creating) โดยที่ 1) Remembering หมายถึงการสังเกต และการระลึกถึงขอ้ มูล เช่น วนั ท่ี เหตุการณ์ สถานที่ 2) Understanding หมายถึงการเขา้ ใจในขอ้ มูล เช่น ความหมาย การคาดการณ์ถึงผลลพั ธ์ การจดั อนั ดบั การจดั กลุ่ม 3) Applying หมายถึง การนาขอ้ มูลไปใช้ เช่น การแกป้ ัญหาโดยใชท้ กั ษะ หรือความรู้ที่จาเป็ น 4) Analyzing หมายถึง การมองเห็นรูปแบบ และการจดั ระเบียบ เช่น การวิเคราะห์ขอ้ มูล 5) Evaluating หมายถึง การใชแ้ นวคิดเก่ามา สร้างเป็ นแนวคิดใหม่ เช่นการนาเอาความรู้จากหลาย ๆ แห่งมาเช่ือมโยงกนั สร้างเป็ นความรู้ใหม่ และ 6) Creating หมายถึงการประเมินคา่ ของแนวคิด เช่น การตดั สินใจเลือกจากเหตุผลที่สนบั สนุนโดยท่ีนกั เรียนท่ีสามารถเรียนรู้ถึงข้นั ท่ี สูงกวา่ หมายความวา่ ไดเ้ รียนรู้ในข้นั ที่ต่ากวา่ ท้งั สิ้น (Bloom, Engelhart, Furst, Hill, and Krathwohl, 1956; Dalton, 1986; Argiro, Forehand, Osteen& Taylor, 2005; Forhand, 2010; Munzenmaier& Rubin, 2013) 55
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM ถึงตอนน้ีคุณสามารถท่ีจะจดั กลุ่มของนกั เรียนตามความสามารถไดแ้ ลว้ ตวั อย่าง หากวา่ คุณนาเน้ือหา งาน หรือภาระงานให้กบั นักเรียน คุณอาจจะให้นักเรียน Category-One จดั การกบั งานท่ีเกี่ยวกบั Remembering และ Understanding นกั เรียนที่อยใู่ น Category-Two ใหง้ านในระดบั Applying และ Evaluating ในขณะที่ Category-Three ให้ ทาในส่วน Evaluating และ Creating ทีน้ีหวงั วา่ คุณคงพอที่จะเขา้ ใจแลว้ ซินะ ดว้ ยกลยทุ ธ์น้ี อนั ดบั แรก คุณประสพความสาเร็จแลว้ ในการนานกั เรียนสู่การเดินทางแห่งการเรียนรู้ อนั ดบั สอง คุณสามารถมนั่ ใจไดว้ า่ นกั เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในจงั หวะและแนวทางตามความสามารถของสมองที่มี ไม่มีอะไรที่ จะดีไปกวา่ น้ีแลว้ 2. Process: รูปแบบการเรียนรู้พ้ืนฐานสาหรับนกั เรียนจะรวมไปถึง ภาพ การเคลื่อนไหว และคา การที่คุณ จะบรรลุเป้าหมายในการจาแนกความแตกต่างของนกั เรียนไดน้ ้นั คุณตอ้ งยอมรับความจริงก่อนว่า นกั เรียนแต่ละคนมี รูปแบบการเรียนรู้ที่ตนเองชอบ จากน้นั ใหค้ ุณเรียนรู้ท่ีจะจดั การกบั พวกเขาดว้ ยความเคารพในรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ ละคน นอกจากน้ี การช่วยเหลือนกั เรียนแต่ละคนก็จะตอ้ งไม่เหมือนกนั นกั เรียนบางคนชอบท่ีจะทางานเป็ นกลุ่ม เป็ นคู่ หรือชอบทาดว้ ยตวั คนเดียว สาหรับนกั เรียนท่ีชอบทาคนเดียวน้นั เนื่องจากเขาไม่อยากใหใ้ ครมาวนุ่ วายกบั เขานกั แมก้ ระทง่ั ครู ส่วนที่ทางานเป็นกลุ่มพวกเขาตอ้ งการความช่วยเหลือเพยี งเลก็ นอ้ ยหรือแทบจะไม่เลย ดงั น้นั คุณควรเอาใจ ใส่กบั นกั เรียนท่ีเหลือใหม้ ากข้ึน และน่ีคือเหตุผลท่ีวา่ ทาไมครูจะตอ้ งพร้อมในการเผชิญกบั ทุกบทบาท และไม่เขา้ ถึงทุกคนโดยใชม้ าตรฐาน เดียวกนั ดงั น้นั ในการท่ีจะช่วยเหลือนกั เรียนใหเ้ กิดการพฒั นาและบรรลุวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ ครูจะตอ้ งเรียนรู้ที่ จะเขา้ หาทุกคนในจุดที่เขาตอ้ งการเท่าน้นั 3. Product: ในตอนทา้ ยของบทเรียนแต่ละบท ครูส่วนใหญ่อยากให้นกั เรียนแสดงถึงความรู้ที่พวกเขา ไดร้ ับจากวธิ ีการสอนของคุณ และน่ีก็คือตอนท่ีหลกั เกณฑข์ อง Product (ผลผลิต) ในการจาแนกความแตกตา่ งเขา้ มา ผลผลิต ในบริบทน้ีก็คือผลลพั ธ์ท่ีเป็ นรูปธรรมที่นกั เรียนสร้างข้ึนจากบทเรียนท่ีพวกเขาได้เรียนรู้ ไม่วา่ มนั จะเป็ นอะไร พวกเขาจะสร้างข้ึนเพ่ือที่จะเป็ นการแสดงให้เห็นถึงความเช่ียวชาญของพวกเขาในส่ิงท่ีพวกเขาไดร้ ับการ สอน นกั เรียนบางคนอาจเลือกที่จะแสดงความเช่ียวชาญในเน้ือหาจากรายงาน โครงงาน หรือแบบทดสอบ ไลไ อย่างไรก็ตาม ไม่วา่ คุณจะออกแบบกิจกรรมแบบใดก็จะตอ้ งเอานกั เรียนเป็ นศูนยก์ ลาง หมายความว่า คุณ จะตอ้ งให้นกั เรียนแสดงความเช่ียวชาญในวิธีท่ีพวกเขารู้สึกวา่ พวกเขาสบายใจ และแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการเรียนรู้ ของพวกเขา 4. Learning Environment: ดงั ที่ไดก้ ล่าวมาแลว้ วา่ นกั เรียนแต่ละคนมีรูปแบบการเรียนรู้ท่ีตนเองชอบ บางคนชอบทางานเป็ นกลุ่ม บางคนชอบทางานเป็ นคู่ แต่บางคนก็ชอบทางานคนเดียว ดงั น้นั สิ่งที่ครูควรทาก็คือการจดั 56
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM สภาพแวดลอ้ มให้เหมาะสมกบั นกั เรียนแต่ละคน หากเป็ นในห้องเรียนก็ควรจะมีพ้ืนท่ีให้กบั นักเรียนตามรูปแบบการ เรียนรู้ของนกั เรียน Practical Strategies for Applying Differentiation in Your Blended Learning Classroom ส่วนใหญ่แลว้ กลยุทธ์ต่าง ๆ ที่สามารถประยุกตใ์ ชก้ บั Blended Learning Classroom ก็มกั จะเป็ นลกั ษณะ เดียวกนั กบั กลยทุ ธ์ท่ีใชใ้ น Active Learning เพียงแต่วา่ ยา้ ยจากการทากิจกรรมในห้องเรียนท่ีโรงเรียนเพียงอยา่ งเดียวไป เป็น Blended Learning เทา่ น้นั เอง ตัวอย่าง Learning Stations: กลยุทธ์น้ีสามารถใชใ้ นการแกป้ ัญหาของการท่ีคุณมีรูปแบบการเรียนรู้ของนกั เรียน อย่างหลากหลายในห้องเรียน เช่น นกั เรียนในห้องอาจจะมีรูปแบบการเรียนรู้ที่เป็ นภาพ และก็มีท่ีเป็ นเสียง ไลไ ครู อาจจะทาหอ้ งเรียนให้เป็ นฐานการเรียนรู้ (Learning Station) แบบภาพ และแบบเสียงตามความชอบของนกั เรียน และ อาจจะใหม้ ีการเปลี่ยนฐานไดห้ ากพวกเขาตอ้ งการ Student Interview: มนั เป็ นไปไม่ไดท้ ่ีจะจาแนกความแตกต่างของนกั เรียนโดนที่ไม่มีการพูดคุย จึงเป็ น หนา้ ที่ของครูที่จาเป็ นตอ้ งพูดคุย สัมภาษณ์นกั เรียนเป็ นรายบุคคลเพ่ือท่ีจะคน้ หารูปแบบการเรียนรู้ ความคิด คาแนะนา และความรู้สึกของพวกเขา หรือแมก้ ระทงั่ พวกเขาชอบทาอะไรในเวลาวา่ ง คุณจะตอ้ งคน้ หาให้ไดว้ า่ นกั เรียนแต่ละคน น้นั มีความถนดั ในการเรียนรู้ผา่ นเสียง ภาพ การเคล่ือนไหว หรือผา่ นการเขียนและการอ่าน หากเป็ นไปไดค้ วรคน้ หาวา่ เขาชอบบนั ทึกโดยใช้ Mind Maps การทารายการ Flash Cards หรืออยา่ งอื่น Parent Interview: ไม่ใช่แค่เพยี งคุณสัมภาษณ์นกั เรียน ข้นั ตอนต่อมาคุณยงั คงตอ้ งมีการพดู คุยกบั ผปู้ กครอง ของพวกเขาดว้ ย เน่ืองจากนกั เรียนบางคนอาจจะยงั ไม่สามารถตอบคาถามไดต้ ามท่ีเราตอ้ งการ การพูดคุยกบั ผูป้ กครอง จะเป็นการเติมเตม็ การคน้ หารูปแบบของนกั เรียนใหส้ มบูรณ์ยง่ิ ข้ึน Exploring the Five Senses: นกั เรียนบางคนเกิดมาพร้อมกบั พรสวรรคท์ ี่เป็ นธรรมชาติอยา่ งเห็นไดช้ ดั ซ่ึง สามารถช่วยคุณนาทางพวกเขาไปสู่เส้นทางที่ถูกตอ้ งไดท้ นั ที ในทางกลบั กนั นกั เรียนบางคนไม่ไดเ้ กิดมาอยา่ งน้นั ดงั น้นั คุณสามารถคน้ หาวา่ พวกเขาจะเรียนรู้ไดด้ ีข้ึนอยา่ งไรโดยการสารวจประสาทสัมผสั ท้งั ห้าตามธรรมชาติของพวกเขา คุณ สามารถเริ่มตน้ ดว้ ยการแนะนานกั เรียนของคุณให้รู้จกั กบั รูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายดว้ ยกิจกรรม Multi-Sensory (กิจกรรมท่ีประกอบไปดว้ ยประสาทสัมผสั อยา่ งนอ้ ยสองอยา่ งข้ึนไป) Task Cards: จากพ้ืนฐานความสามารถในการเรียนรู้ของนกั เรียนแต่ละคน คุณสามารถออกแบบ Task Cards (บตั รงานหรือใบงาน) ใหพ้ วกเขา อยา่ งที่คุณพอจะนึกไดว้ า่ นกั เรียนประเภทหนอนหนงั สือน้นั ควรจะไดร้ ับ Task Cards มากกวา่ นกั เรียนที่หวั ค่อนขา้ งชา้ 57
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM จาไวว้ า่ กุญแจสาคญั สาหรับการใช้ Blended Learning ก็ยงั คงเป็ น “ความยืดหยุน่ ” ไม่ว่าคุณจะจาแนก นกั เรียนอยา่ งไร การดาเนินการก็จะข้ึนกบั ความยดื หยนุ่ ครูตอ้ งเรียนรู้ท่ีจะจาแนกความแตกต่างของนกั เรียนใหช้ ดั เจน 58
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM CHAPTER 11 IMPLEMENTIG PERSONALIZED LEARNING IN YOUR CLASSROOM: คำวำ่ Personalized (ลกั ษณะส่วนบุคคล) เป็ นส่ิงที่ตรงกนั ขำ้ มกบั คำว่ำ One-Size-Fit-All โดยสิ้นเชิง ดงั น้นั Personalized Learning ก็เป็ นดง่ั ช่ือของมนั กล่ำวคือ หมำยถึงกำรพูดถึงเป้ำหมำยกำรเรียนรู้ของแต่ละคน หรือกล่ำวอีก อยำ่ งไดว้ ำ่ ครูไม่ไดช้ ่วยเหลือในกำรเรียนรู้ของตอ้ ม ติ๊ก และตู่ แบบเดียวกนั แต่แนะนำพวกเขำในขณะท่ีพวกเขำคน้ พบ และปรับใหเ้ ขำ้ กบั แนวทำงและจงั หวะในกำรเรียนรู้ของพวกเขำ ใน Personalized Learning ครูจะตอ้ งเรียนรู้ในกำรตอบคำถำมของคำวำ่ “What, How, Where และ When” (อะไร อยำ่ งไร ที่ไหน และเม่ือไหร่) เพื่อตอบสนองต่อควำมตอ้ งกำร กำลงั ควำมสนใจ และทกั ษะของนกั เรียน พวกเขำ เป็นเจำ้ ของในกำรเรียนรู้ ประสบกำรณ์ของตนเอง ทำงำนกบั ครูในกำรต้งั เป้ำหมำยของพวกเขำเอง เพื่อใหเ้ กิดผลลพั ธ์ท้งั ในระยะส้ันและระยะยำว ดงั น้นั เมื่อเรำพูดถึง Personalized Learning เรำหมำยถึงรูปแบบกำรสอนที่ครูรังสรรคห์ ้องเรียนสำหรับ นกั เรียนทุกคนท่ีมีควำมสำมำรถ จงั หวะ และแนวทำงในกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย ในขณะที่พวกเขำรับผิดชอบในกำร เรียนรู้ของตนเอง ครูจะแสดงบทบำทเป็ นผูป้ กครองหรือผคู้ อยดูแลเพื่อที่จะทำให้มนั่ ใจไดว้ ่ำทุกวตั ถุประสงคข์ องกำร เรียนรู้ตอบมำตรฐำนกำรเรียนรู้ของหลกั สูตร เพื่อช่วยให้ครูไดด้ ำเนินกำรไดอ้ ยำ่ งมีทิศทำง เรำจะพูดถึง Personalized Learning Model ที่ถูกนำมำช่วยใน กำรปรับใชก้ นั ทวั่ ไปสี่รูปแบบ ไดแ้ ก่ 1. Learner Profile: น่ีเป็ น Personalized Learning Model ท่ีให้ครูเก็บรำยละเอียดที่ถูกตอ้ งหรือบนั ทึกที่ เป็ นปัจจุบนั ซ่ึงอธิบำยควำมสำมำรถ แรงจูงใจ จุดแข็งและควำมตอ้ งกำร เป้ำหมำย และแมก้ ระทงั่ ควำมก้ำวหน้ำของ นกั เรียน Learner Profile น้ีเป็ นส่ิงที่จะทำใหค้ รูทรำบถึงวิธีในกำรออกแบบเน้ือหำและสร้ำงกระบวนกำร เพ่ือช่วยให้ นกั เรียนเกิดกำรพฒั นำอยำ่ งสูงสุด นอกเหนือจำกครูแลว้ นกั เรียนยงั สำมำรถตรวจสอบควำมกำ้ วหนำ้ ของตนเองไดจ้ ำก Profile น้ีดว้ ย 2. Personalized Learning Paths: โมเดลน้ีจะถูกจดั ทำเพ่ือดูวำ่ นกั เรียนคน้ พบและปรับให้สอดคลอ้ งกบั เส้นทำงกำรเรียนรู้พิเศษสำหรับตนเองหรือไม่ โดยพิจำรณำจำกควำมกำ้ วหน้ำ เป้ำหมำย และแรงจูงใจของนกั เรียน อยำ่ งไรกต็ ำม ครูควรจะวเิ ครำะห์เส้นทำงและแนวทำงกำรเรียนรู้ของนกั เรียนรำยบุคคลเพื่อท่ีจะช่วยใหน้ กั เรียนเดินตำม เส้นทำงของตนเองดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ ง 59
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM 3. Competency-Based Progression: นกั เรียนมกั ไดร้ ับกำรประเมินเพื่อติดตำมควำมคืบหนำ้ และระบุจุดท่ี พวกเขำอำจตอ้ งใชค้ วำมพยำยำมมำกข้ึน Model น้ีจะตรวจสอบควำมเช่ียวชำญของนกั เรียนในสิ่งท่ีเขำได้ แลว้ ช้ีให้เขำ เห็นวำ่ ควำมเช่ียวชำญของเขำจะเพ่ิมมำกข้ึนไดจ้ ำกจุดใด เขำอำจจะเลือกในกำรพฒั นำทกั ษะน้นั ทีละทกั ษะ ในกำรใช้ Model น้ี ครูไม่ควรท่ีจะใส่ในในคะแนน แต่ควรจะเนน้ ไปที่พฒั นำกำรของนกั เรียน 4. Flexible Learning Environment: บนพ้ืนฐำนในกำรช่วยเหลือใหน้ กั เรียนเรียนรู้ให้ดีที่สุดไดอ้ ยำ่ งไร ครูควรจะออกแบบสภำพแวดลอ้ มเพ่ือที่จะช่วยให้นกั เรียนเกิดกำรเรียนรู้ใหส้ ูงท่ีสุด ให้สภำพแวดลอ้ มท่ีจดั มีควำมเป็ น มิตร รองรับกำรจดั กำรเรียนรู้ไม่วำ่ จะเป็ นกลุ่ม เป็นคู่ หรือเด่ียว How do I implement personalized learning in my blended classroom? เรำจะนำ Personalized Learning ไปใชใ้ น Blended Classroom ไดอ้ ยำ่ งไร 1. ต้งั เป้ำหมำยกำรเรียนรู้: ทำงำนร่วมกบั นกั เรียนของคุณเพ่ือพฒั นำแผนกำรเรียนรู้ เป้ำหมำย และ เป้ำหมำยท่ีพวกเขำตอ้ งกำรบรรลุ 2. กำรพฒั นำทกั ษะทำงปัญญำและอภิปัญญำ (กำรรู้คิด): กำรพฒั นำทกั ษะน้ีจะช่วยให้นกั เรียนมีพ้ืนที่ เพียงพอในกำรประเมินตนเอง เมื่อนักเรียนได้รับโอกำสประเมินควำมก้ำวหน้ำในกำรเรียนรู้ผ่ำนกลไกในกำร ประนีประนอม ผลที่ไดค้ ือกำรพฒั นำทกั ษะเหล่ำน้นั อยำ่ งค่อยเป็ นค่อยไป ซ่ึงท้งั หมดจะกระตุน้ ใหเ้ กิดควำมกำ้ วหนำ้ ใน กำรเรียนรู้ส่วนบุคคล 3. จดั กำรประเมินระหว่ำงทำงบ่อยๆ: กำรดำเนินกำรประเมินรำยทำงเป็ นประจำให้กบั นกั เรียนจะดำเนิน ไปพร้อมกบั กำรเรียนรู้ส่วนบุคคลสำหรับพวกเขำ 4. ใช้ Project-Based Learning ใหเ้ ป็นประโยชน์: นกั เรียนแต่ละคนมีควำมชอบและควำมสนใจต่ำงกนั ใน ฐำนะครู คุณควรเรียนรู้ในกำรใหอ้ ิสระกบั กำรตดั สินใจของพวกเขำ ปล่อยใหน้ กั เรียนทำตำมควำมปรำรถนำของพวกเขำ 5. ให้นกั เรียนพูดออกมำจำกใจ: อย่ำเป็ นครูคนหน่ึงท่ีปิ ดปำกนกั เรียนจำกกำรมีส่วนร่วมในกำรตดั สินใจ เกี่ยวกบั สื่อกำรสอน 6. ส่งเสริมเส้นทำงกำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำย: นกั เรียนควรไดร้ ับอนุญำตใหม้ ีที่วำ่ งในกำรสำรวจเส้นทำงกำร เรียนรู้ที่หลำกหลำยจนกวำ่ จะเชี่ยวชำญ 7. ใชก้ ำรให้คะแนนและกำรรำยงำนตำมมำตรฐำน: คุณตอ้ งจำไวว้ ำ่ นกั เรียนเป็ นผูก้ ำหนดวำ่ กำรเรียนรู้จะ ดำเนินอย่ำงไรสำหรับพวกเขำ ดงั น้นั ในกำรประเมินนักเรียนให้อยู่บนพ้ืนฐำนของควำมเช่ียวชำญ บนเป้ำหมำยกำร เรียนรู้ท่ีพวกเขำต้งั ไวส้ ำหรับตนเอง 8. ใชป้ ระโยชน์จำกเคร่ืองมือทำง Digital: จำไวว้ ำ่ กำรเรียนรู้ในรูปแบบ Blended Learning เป็ นกำร ผสมผสำนกำรเรียนรู้แบบปกติกบั กำรเรียนรู้ Online ดงั น้นั กำรฝึ กใช้ Personalized Learning คุณตอ้ งแน่ใจว่ำได้ใช้ เคร่ืองมือ Digital บำงอยำ่ งดว้ ย 60
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM 9. ใหค้ วำมรู้แก่นกั เรียนของคุณให้เป็ นนกั Digital ดว้ ย: เรำอยูใ่ นศตวรรษท่ี 21 ยคุ Digital ดงั น้นั มนั จึง สมเหตุสมผลที่คุณจะสอนนกั เรียนให้มีควำมรู้ดำ้ น Digital เพื่อที่พวกเขำจะไดร้ ู้วิธีเช่ือมต่อและใช้งำน Onlineไดอ้ ยำ่ ง ถูกตอ้ ง 10. ยอมรับวิธีที่แตกต่ำง: ถำ้ คุณตอ้ งใช้ Personalized Learning ในห้องเรียนของคุณ แสดงวำ่ คุณจะตอ้ ง ฝึ กฝนในกำรสอนที่แตกต่ำง 61
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM CONCLUSION ไม่มีหนทางใดที่ดีไปกว่าการจบการเดินทางโดยการไปถึง ณ จุดหมายท่ีเราสามารถพูดไดว้ ่า “Blended Learning ได้กลายเป็ น The New Learning Normal ไปแล้ว” ถึงตรงน้ี เขา้ ใจวา่ ทุกคนคงจะเขา้ ใจแนวคิดของ Blended Learning ไม่มากก็นอ้ ย คุณจะรวมการจดั การ เรียนรู้ในหอ้ งเรียนแบบปกติใหเ้ ขา้ กบั การเรียนรู้ Online เพ่ือส่งมอบการศึกษาที่มีคุณภาพให้นกั เรียนอยา่ งไร ประโยชน์ ของการเรียนรู้แบบ Blended Learning บนโลกแห่งการศึกษามีมากมายมหาศาล มนั ไม่ไดเ้ พียงแค่เปลี่ยนภาคการศึกษา เทา่ น้นั มนั ยงั ไดป้ รับเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ของนกั เรียนซ่ึงส่งผลต่อชีวติ ของพวกเขาไปตลอดชีวติ การปฏิวตั ิของวิธีการแกป้ ัญหาโดยการเรียนรู้แบบ Blended Learning ไดเ้ ปล่ียนมุมมองของการศึกษาอยา่ ง แทจ้ ริง มนั ไมใ่ ช่การเรียนรู้ที่เนน้ ครูเป็นศูนยก์ ลาง แตเ่ ป็นการเรียนรู้ท่ีนกั เรียนเป็ นศูนยก์ ลางต่างหากที่จะช่วยใหน้ กั เรียน ประสพความสาเร็จในการเรียนรู้ การเรียนรู้แบบ Blended Learning ไดท้ างานอยา่ งยอดเย่ยี มในการเปล่ียนวธิ ีการ เปลี่ยน การเรียนการสอนท่ีลา้ สมยั ใหเ้ ป็นการแกป้ ัญหาการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพมากข้ึน 62
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM REFERENCES Argiro, M., Forehand, M., Osteen, J., & Taylor, W. (2005). Bloom’s bakery: An Illustration of Bloom’s Taxonomy. Retrieve March 25th, 2013. http://www.coe.uga.edu/epltt/images/bloom.swf. Barber, M., Donnelly, K., & Rizvi, S. (2012). Oceans of innovation: The Atlantic, The Pacific, global leadership and the future of education. Institute for Public Policy Research. Baldwin-Evans, K. (2006). Key steps to implementing a successful blended learning strategy. Industrial and Commercial Training, 38(3), 156–163. Basilaia, G., Dgebuadze, M., Kantaria, M., & Chokhonelidze, G. (2020). Replacing the classic learning form at universities as an immediate response to the COVID-19 virus infection in Georgia. International Journal for Research in Applied Science & Engineering Technology, 8(III). Bates, A. W. (2015). Teaching in a digital age: Guidelines for designing teaching and learning. Tony Bates Associates Ltd. Retrieved from https://opentextbc.ca/teachinginadigitalage/. Beams, T. (2017, July 12). How to build a successful blended learning model. The Journal. Retrieved from https://thejournal.com/articles/2017/07/12/how-to-build-a-successful-blended-learning-model.aspx. Berrett, D. (2012). Harvard conference seeks to jolt university teaching. The Chronicle of Higher Education. Retrieved from www.linkedin.com/news?actionBar=&articleID=5571. Bloom, B. S., Engelhart, M. D., Furst, E. J. Hill, W. H., and Krathwohl, D. R. (1956). Taxonomy of Educational Objectives: The Classification of Educational Goals. HandBook 1: Cognitive Domain. New York: David McKary. Calaprice, A. Eds. (2010). The Ultimate Quotable Einstein. Princeton University Press, Princeton, New Jersey. Cleveland-Innes, M. (November 2017). Facilitation and teaching presence: Using the community of inquiry in blended and online learning environments. Invited presentation. KTH Royal Institute of Technology, Faculty Development Course, Stockholm, Sweden Cojocariu, V.-M., Lazar, I., Nedeff, V., & Lazar, G. (2014). SWOT analysis of e-learning educational services from the perspective of their beneficiaries. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 116, 1999–2003. 63
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM Dalton, J. (1986). Applying Bloom’s Taxonomy. Retrieved March 4th, 2014. http://criticalliteracythroughmarktwain.wikispaces.com/file/view/Blooms.pdf. DeLorenzo, R. A., Battino, W., Schreiber, R., & Carrio, B. (2009). Delivering on the promise. Bloomingham, IN: Solution Tree Press. Forehand, M. (2010). Bloom’s Taxonomy. Retrieved January 24th, 2014. http://epltt.coe.uga.edu/index.php?title=Bloom%27s_Taxonomy. Garrison, D. R., & Vaughan, N. D. (2008). Blended Learning in Higher Education: Framework, Principles, and Guidelines. San Francisco, CA: Jossey-Bass. Hrastinski, S. (2008). Asynchronous and synchronous e-learning. EDUCAUSE Quarterly, 31(4), 51–55. Retrieved from https://er.educause.edu/~/media/files/article-downloads/eqm0848.pdf. Jerald, C. (2009). Defining a 21st century education. The Center for Public Education. Retrieved from http://www.centerforpubliceducation.org/Learn-About/21st-Century/Defining-a-21st-Century-Education- Full-Report-PDF. Krueger, A. B., Hanushek, E. A., & Rice, J. K. (2002). The class size debate. Washington D.C.: Economic Policy Institute. Levin, H. M. (2012). Prospects: The Quarterly Review of Comparative Education. More than just test scores. 42(3), 269–284. Liguori, E. W., & Winkler, C. (2020). From offline to online: Challenges and opportunities for entrepreneurship education following the COVID-19 pandemic. Entrepreneurship Education and Pedagogy. https://doi.org/10.1177/2515127420916738. McGee, P., & Reis, A. (2012). Blended course design: A synthesis of best practices. Journal of Asynchronous Learning Networks, 16(4), 7–22. Munzenmaier, C. & Rubin, N. (2013). Perspective Bloom’s Taxonomy: What’s Old is New Again. The eLearning Guild. O’Connell, A. (2016). Seven blended learning models used today in higher ed. Retrieved from http://acrobatiq.com/seven-blended-learning-models-used-today-in-higher-ed/. Tomlinson, C. A. (2014). Differentiated classroom: Responding to the needs of all learners. Alexandria, VA: ASCD. 64
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM Trilling, B., & Fadel, C. (2009). 21st century skills: Learning for life in our times. San Francisco, CA: John Wiley & Sons. Varde, N., & Fogler, H. S. (n.d.). Asynchronous learning of chemical reaction engineering. Retrieved from http://umich.edu/~elements/asyLearn/study.htm Wagner, T. (2008). The global achievement gap: Why even our best schools don’t teach the new survival skills our children need—and what we can do about it. New York: Basic Books. Zhao, Y. (2012). World class learners: Educating creative and entrepreneurial students. Thousand Oaks, CA: Corwin. Zhao, Y. (2018b). What works may hurt: Side effects in education. New York: Teachers College Press. 65
PATTANAVITSUKSA COVID-19 CURRICULUM
Search
