น้ำ เพื่อนๆ คดิ ว่านา้ คืออะไร?
นา้ คือสารประกอบอยา่ งหน่ึง ซ่ึงมีองคป์ ระกอบเป็นธาตุ ไฮโดรเจนและออกซิเจน เม่ือบริสุทธ์ิมีลกั ษณะเป็นของเหลว ใส ไม่มีสี กล่ิน รส
น้า เป็ นทรัพยากรรมชาติที่จาเป็ นต่อการดารงชีวิตของ ส่ิงมีชีวติ เช่น มนุษยส์ ตั วแ์ ละพชื ต่าง ๆโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ มนุษยซ์ ่ึงมีการใชน้ ้าเป็นปัจจยั หลกั ในกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจาวนั เช่น การอุปโภค การบริโภค การเกษตร กรรม การอตุ สาหกรรม การชลประทาน การคมนาคม ขนส่ง
เพ่ือนๆคดิ ว่าน้าจาเป็ นต่อการดารงชีวติ อย่างไรบ้าง?
ประเภทของนา้ 1.แหล่งนา้ ในบรรยากาศ (Atmospheric Water) ไดแ้ ก่ สถานะไอน้า เช่น เมฆ หมอก สถานะของเหลว ไดแ้ ก่ ฝน และ น้าคา้ ง และสถานะของแขง็ ไดแ้ ก่ หิมะ และลูกเห็บ เป็นตน้
ประเภทของนา้ 2. แหล่งนา้ ผวิ ดนิ (Surface Water) ไดแ้ ก่ น้าในบรรยากาศท่ีกลน่ั ตวั เป็น หยดน้าและตกลงสู่ผวิ โลก ไหลลงมาขงั ตามแอ่งท่ีต่า เช่น หนอง บึง แม่น้า ทะเล ทะเลสาบ เป็นตน้
ประเภทของนา้ 3.แหล่งนา้ ใต้ดนิ (Ground Water) เป็นน้าท่ีไหลซึมผา่ นช้นั ดิน และหิน ลงไป สะสมตวั อยตู่ ามช่องวา่ งระหวา่ งอนุภาคดินและหิน น้าชนิดน้ีมีประโยชน์มาก และเป็นตวั การสาคญั ในการควบคุมการแพร่กระจายพรรณพืช ตลอดจนเป็น ตวั ทาละลาย และตกตะกอนเป็นสารประกอบหลายอยา่ งใตพ้ ้ืนดิน
ประเภทของนา้ 4.นา้ ท่เี ป็ นส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Water) ไดแ้ ก่ น้าที่เป็น องคป์ ระกอบทางเคมี หรือเป็นองคป์ ระกอบในแร่ หิน และดิน และแหล่งน้า ในบรรยากาศ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของน้าท่ีเป็นส่วนประกอบทางเคมี เช่น การเยน็ ตวั ลงของหินอคั นี การผพุ งั ของแร่ การเปลี่ยนแปลงจนมีปริมาณน้า มากบนผวิ โลก และใชร้ ะยะเวลายาวนานมาก
เพ่ือนๆคดิ ว่ามลพษิ ทางน้าเกดิ จากสาเหตุ อะไร?
มลพษิ ทางนา้ (Water pollution) เป็น ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มสาคญั ที่สุดปัญหาหน่ึงของประเทศเม่ือ เปรียบเทียบกบั ปัญหามลพษิ อ่ืน ๆ ปัญหามลพิษทางน้ามกั เกิดกบั เมืองใหญ่ ๆ แหล่งน้าท่ีสาคญั ของ ประเทศถูกปนเป้ื อนดว้ ยสิ่งสกปรกและสารมลพษิ ตา่ ง ๆ ทาใหไ้ ม่สามารถใชป้ ระโยชน์ จากแหล่งน้าไดเ้ ตม็ ท่ีซ่ึงส่งผลกระทบ ต่อคุณภาพชีวติ และการพฒั นาทางเศรษฐกิจและสังคม
สาเหตุของมลพษิ ทางนา้ แบ่งออกเป็ น2 สาเหตุ 1.เกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ 2.เกดิ จากฝี มือมนุษย์
สำเหตุของมลพิษทำงน้ำ เกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ 1.ธรรมชาตแิ หล่งนา้ ต่าง ๆ อาจเกิดจากการเน่าเสียไดเ้ องเม่ืออยใู่ นภาวะท่ีขาดออกซิเจนเจน ส่วนใหญ่มี สาเหตุเกิดจากการเพิ่มจานวนอยา่ งรวดเร็วของแพลงตอนแลว้ ตายลงพร้อม ๆ กนั เม่ือจุลินทรียท์ าการยอ่ ยสลายซากแพลงตอนทาใหอ้ อกซิเจนในน้าถูก นาไปใชม้ าก จนเกิดการขาดูแคลนได้ นอกจากน้ีการเน่าเสียอาจเกิดไดอ้ ีก ประการหน่ึงคือเมื่อน้าอยใู่ นสภาพนิ่งไม่มีการหมุนเวยี นถ่ายเท
สำเหตุของมลพิษทำงน้ำ เกดิ จากฝี มือมนุษย์ 1.นา้ ทงิ้ และส่ิงปฏิกลู จากแหล่งชุมชน ไดแ้ ก่อาคาร บา้ นเรือน สานกั งาน อาคารพาณิชย์ โรงแรม เป็นตน้ สิ่งปะปนมากบั น้าทิ้งประกอบดว้ ยสารอินทรียซ์ ่ึงจะถูกยอ่ ยสลายโดยผยู้ อ่ ยสลายสาร อินทรียท์ ่ี สาคญั คือแบคทีเรีย
สำเหตุของมลพิษทำงน้ำ เกดิ จากฝี มือมนุษย์ 2.การเกษตร เป็นสาเหตุหน่ึงที่ทาใหน้ ้าเสีย เช่น การเล้ียงสตั ว์ เศษอาหาร และน้าทิ้งจากการทิ้งคอกสตั วล์ งสู่แม่น้าลาคลอง ซ่ึงกอ่ ใหเ้ กิดโรคระบาด การใชป้ ุยไนเตรตของเกษตรกร เมื่อปุยลงสู่แหล่งน้าจะทาใหน้ ้ามีปริมาณ เกลือไนเตรตสูงถา้ ด่ืมเขา้ ไปจะทาใหเ้ ป็นโรคพิษไนเตรต ไนเตรตจะ เปล่ียนเป็นไนไตร์ตแลว้ รวมตวั กบั ฮีโมโกลบินอาจทาใหเ้ กิดอนั ตรายถึงแก่ ชีวติ ได้ นอกจากน้ีเกษตรกรนิยมใชส้ ารกาจดั ศตั รูพชื มากข้ึน สารท่ีตกคา้ ง ตามตน้ พชื และตามผวิ ดิน จะถูกชะลา้ งไปกบั น้าฝนและไหลลงสู่แหล่งน้า สารที่สลายตวั ชา้ จะสะสมในแหล่งน้า น้นั มากข้ึนจนเป็นอนั ตรายได้
สำเหตขุ องมลพิษทำงน้ำ เกดิ จากฝี มือมนุษย์ 3.โรงงานอุตสาหกรรม ของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โรงงานปลาป่ น โรงงาน ผลิตภณั ฑน์ ม โรงโม่แป้ง โรงงานอาหารกระป๋ อง ส่วนใหญ่มีสารอนิ ทรีย์ พวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรตปนอยมู่ ากสารอินทรียท์ ี่ถูกปลอ่ ยออกมากบั น้าทิ้งน้ีก็ จะถูกยอ่ ยสลายทาใหเ้ กิดผล เช่นเดียวกบั น้าทิ้งท่ีถูกปล่อยจากชมุ ชน นอกจากน้ี อาจมีสารพษิ ชนิดอ่ืนปะปนอยดู่ ว้ ยข้ึนอยกู่ บั ประเภทของโรงงาน เชน่ ปรอทจาก โรงงานผลิตโซเดียมไฮดรอกไซดซ์ ่ึงเป็นสารพิษตอ่ สัตวน์ ้า และผนู้ าสัตวน์ ้าไป บริโภคนอกจากน้ีน้าทิ้งจากโรงงานบางประเภท ทาใหส้ ภาพกรดเบสของแหล่ง น้าน้นั เปล่ียนไป เช่นน้าทิ้งจากโรงงานกระดาษมีคา่ PH สูงมาก น้าทิ้งจากโรงงาน บางประเภท เช่นจากโรงไฟฟ้าอาจทาใหอ้ ุณหภูมิของน้าเปล่ียนแปลงไป สภาพ เช่นน้ีไม่ เหมาะกบั การดารงชีพของส่ิงมีชีวิตในน้า
สำเหตขุ องมลพิษทำงน้ำ 4. การคมนาคมทางนา้ ในการเดินเรือตามแหล่งน้าลาคลอง ทะเล มหาสมุทร มีการทิ้งของ เสียท่ี ประกอบดว้ ยสารอินทรียแ์ ละน้ามนั เช้ือเพลิงถา้ มีโอกาสรั่วไหลลงน้าไดแ้ ละมีจานวนมาก กจ็ ะทาใหส้ ตั วน์ า้ํ ขาดออกซิเจน และเป็นผลเสียต่อระบบนิเวศ
ผลกระทบของมลพษิ ทางนา้ 1.การประมง นา้ํ เสียทาใหส้ ตั วน์ า้ํ ลดปริมาณลง นา้ํ เสียที่เกิดจากสารพษิ อาจ ทาใหป้ ลาตายทนั ที ส่วนนา้ํ เสียที่เกิดจากการลดต่าของออกซิเจนละลายในนา้ํ ถึงแมจ้ ะไม่ทาใหป้ ลาตายทนั ที แต่อาจทาลายพืชและ สตั วนา้ํ เลก็ ๆ ท่ีเป็น อาหารของปลาและตวั อ่อน ทาใหป้ ลาขาดอาหาร ก่อใหเ้ กิดผลเสียหายต่อการ ประมงและ เศรษฐกิจ ปริมาณออกซิเจนละลายในนา้ํ ถา้ หารลดจานวนลงมาก ๆ ในทนั ทีกอ็ าจทาใหป้ ลาตายไดน้ อกจากน้ี นา้ํ เสียยงั ทาลายแหล่งเพาะวางไข่ ของปลาเนื่องจากการตกตะกอนของสารแขวนลอยในนา้ํ เสียปกคลุมพ้นื ท่ี วางไขข่ องปลา ซ่ึงเป็นการหยดุ ย้งั การแพร่พนั ธุท์ าใหป้ ลาสูญพนั ธุ์ได้
ผลกระทบของมลพษิ ทางนา้ 2.การสาธารณสุข นา้ํ เสียเป็นแหล่งแพร่เช้ือโรคทาใหเ้ กิดโรคระบาด เช่น โรคอหิวาตกโรค ไทฟอยดบ์ ิด เป็นแหล่งเพาะเช้ือยงุ ซ่ึงเป็นพาหะ ของโรคบางชนิด เช่น มาเลเรีย ไขเ้ ลือดออก และสารมลพษิ ที่ปะปนใน แหล่งนา้ํ ถา้ เราบริโภคเขา้ ไปจะทาใหเ้ กิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคมินามาตะ เกิดจากการรับประทานปลาที่มีสาร ปรอทสูง
ผลกระทบของมลพษิ ทางนา้ 3.การผลติ นํ้าเพื่อบริโภคและอุปโภค นา้ํ เสียกระทบกระเทือนต่อการผลิตนา้ํ ด่ืม นา้ํ ใชอ้ ยา่ งยงิ่ แหลง่ นา้ํ สาหรับผลิตนา้ํ ประปาได้ จากแม่นา้ํ ลาคลอง เม่ือแหลง่ นา้ํ เน่าเสียเป็นผลให้ คุณภาพนา้ํ ลดลง คา่ ใชจ้ ่ายใน กระบวนการผลิตเพ่อื ให้ นา้ํ มีคุณภาพเขา้ เกณฑม์ าตรฐานนา้ํ ด่ืมจะเพมิ่ ข้ึน
ผลกระทบของมลพษิ ทางนา้ 4.การเกษตร นา้ํ เสียมีผลกระทบตอ่ การเพาะปลูกและสัตวน์ า้ํ นา้ํ เสียที่ก่อใหเ้ กิดความ เสียหายต่อ การเกษตร ส่วนใหญ่เป็นนา้ํ เสียที่มีความเป็นกรดเป็นด่างสูง นา้ํ ที่มีปริมาณ เกลืออินนทรีย์ หรือ สารพษิ สูง ฯลฯ ซ่ึงเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยนา้ํ เสียและ เกิดจากผลของการทาเกษตรกรรมนนั่ เอง เช่น การชลประทาน สร้างเขื่อนกกั เกบ็ นา้ํ ไว้ ใชเ้ พื่อการเกษตร ท้งั น้ีเน่ืองจากคุณสมบตั ินา้ํ ในธรรมชาติประกอบดว้ ย เกลืออนินทรีย์ เจือปนอยโู่ ดยเฉพาะเกลือคลอไรด์ ขณะท่ีใชน้ า้ํ เพ่อื การเกษตรนา้ํ จะระเหยเป็นไอโดย ธรรมชาติ ปริมาณเกลืออนินทรียจ์ ะระเหยจะตกคา้ งในดินเม่ือมีการสะสมมากเขา้ ปริมาณเกลือในดินสูงข้ึน ทาใหด้ ินเคม็ ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก ปริมาณเกลืออนินทรีย์ ที่ตกคา้ งอาจถูกชะลา้ งภายหลงั ฝนตก หรือโดยระบายนา้ํ จาก การชลประทาน เกลืออนิ นทรียจ์ ะถูกถ่ายทอดลงสู่แม่นา้ํ ในที่สุด
ผลกระทบของมลพษิ ทางนา้ 5.ความสวยงามและการพกั ผ่อนหย่อนใจ แม่น้าลาธาร แหล่งน้าอ่ืน ๆ ที่ สะอาดความสวยงามตามธรรมชาติใชเ้ ป็นที่พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ เช่น ใชเ้ ล่นเรือ ตกปลา วา่ ยน้า เป็นตน้
ถ้าหากน้าในแก้วเป็ นแม่นา้ ในลาคลองจะ ส่ งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร?
แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปัญหามลพษิ ทางนา้ 1). กาหนดค่ามาตรฐานคุณภาพของน้า เพื่อการควบคุมและอนุรักษค์ ุณภาพน้าให้ อยใู่ นมาตรฐานที่ไม่เป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพ 2). ควบคุมการกาจดั น้าเสียจากแหลง่ กาเนิดน้าเสียตา่ งๆ เช่น บา้ นพกั อาศยั โรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการ ใหม้ ีการบาบดั ดว้ ยวธิ ีท่ีไดม้ าตรฐาน ก่อนปลอ่ ยสู่แหลง่ น้าตามธรรมชาติ 3). ประชาชนควรใหค้ วามร่วมมือในการอนุรักษแ์ หล่งน้า โดยไม่ทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกลู หรือสารเคมีลงแหลง่ น้ารวมท้งั ใชน้ ้าอยา่ งประหยดั และมีประสิทธิภาพ มากที่สุด
แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปัญหามลพษิ ทางนา้ 4). ไม่ตดั ไมท้ าลายป่ าอนั เป็นแหล่งตน้ น้าลาธาร เพราะเมื่อป่ าไมถ้ ูกทาลายจะทาให้ พ้ืนดินพงั ทลายไดง้ ่าย เม่ือฝนตกลงมาน้าฝนกจ็ ะกดั เซาะ พดั พาอินทรียวตั ถุท่ีปก คลุมผวิ ดิน ตะกอนดินและส่ิงต่างๆลงสู่แหล่งน้า ทาใหน้ ้าสกปรก ต้ืนข้ึน 5). ลดการใชส้ ารเคมีต่างๆใหน้ อ้ ยที่สุด เพราะสารเคมีที่ใชน้ ้นั เม่ือถูกน้าฝนชะลา้ ง ลงสู่แหล่งน้าจะกลายเป็นปัญหามลพิษทางน้าตอ่ ไป 6). ประชาชนควรใหค้ วามร่วมมือกบั ทางราชการหรือหน่วยงานอ่ืนๆ ในการพฒั นา แหลง่ น้าหรือกาจดั น้าเสีย
แนวทำงลดมลภำวะทำงน้ำดว้ ยตวั เรำ 1.ใชว้ ธิ ีธรรมชาติบาบดั โดยการปลูกพชื น้าเพื่อช่วยลดการเน่าเสียของน้า 2.ไม่ทิ้งขยะมูลฝอย น้าเสีย หรือของเสียลงสู่แหล่งน้าและทางระบายน้าสาธารณะ 3.ลดปริมาณการใชน้ ้าในชีวติ ประจาวนั ลง หรือนาน้าใชแ้ ลว้ ไปใชป้ ระโยชนด์ า้ นอื่นๆ เช่น นาน้าท่ีใชซ้ กั ผา้ หรือน้าที่ใชล้ า้ งจานไปรดตน้ ไม้ 4.ไม่ปล่อยน้าเสียที่เกิดจากการซกั ลา้ งลงสู่แหล่งน้าสาธารณะ 5.ช่วยกนั รณรงคใ์ หใ้ หอ้ งคก์ รต่างๆ เช่นโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล และองคก์ ร อ่ืนๆ มีระบบบาบดั น้าเสีย มีบ่อดกั กรองไขมนั เพ่อื นาไขมนั ไปจดั การใหถ้ กู วธิ ี 6.ช่วยกนั เฝ้าระวงั สอดส่องดูแลร่วมกบั ภาครัฐไม่ใหม้ ีการระบายน้าเน่าเสียลงในบริเวณ พ้ืนท่ีใกลเ้ คียง
แนวทำงลดมลภำวะทำงน้ำดว้ ยตวั เรำ 7.ลดการใชส้ ารเคมีในพ้ืนท่ีทาการเกษตร เพื่อป้องกนั สารพษิ ตกคา้ งใน พ้ืนดิน เมื่อฝนอาจพดั พาเอาสารพษิ ที่ตกคา้ งลงสู่แม่น้าลาคลอง ซ่ึงเป็นปัญหา ทาใหเ้ กิดมลพิษทางน้าข้ึนได้ 8.ใชอ้ ีเอม็ บอล หรือจุลินทรียก์ อ้ น ใส่ลงในแหลง่ น้าเพื่อช่วยบาบดั น้าเสีย ดบั กลิ่นเหมน็ และเพ่อื สลายไขมนั ที่ปนเป้ื อนอยใู่ นน้า 9.เปลี่ยนสูตรผงซกั ฟอกใหเ้ ป็นชนิดท่ีไร้สารประกอบจากฟอสเฟต เพอ่ื ลด สารประกอบฟอสฟอรัสในน้าเสีย
แนวทางลดมลภาวะทางนา้ ด้วยตวั เรา
เพ่ือนๆมแี นวทางในการลดมลพษิ ทางน้า อย่างไร?
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: