Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปทานุกรมความตาย

ปทานุกรมความตาย

Published by ir.uk.bee, 2015-08-19 03:25:36

Description: ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่น้อยคนที่สนใจใฝ่รู้เรื่องความตายเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อวันนั้นมาถึง สาเหตุสำคัญเป็นเพราะคนส่วนใหญ่คิดว่าความตายเป็นเรื่องไกลตัว หรือไม่ก็แสร้งทำราวกับว่าตนเองจะไม่มีวันตาย จึงมีชีวิตเหมือนคนลืมตาย ครั้นความตายมาประชิดตัว จึงมีความทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนเลย..
หนังสือเล่มนี้นำประเด็นสำคัญ ๆ เกี่ยวกับความตายและการตายดี มาเสนอในรูปปทานุกรม เพื่อง่ายต่อการศึกษาและปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้นสนใจ รายละเอียดเพิ่มเติมนอกจากนี้สามารถศึกษาได้จากหนังสือเล่มอื่น ๆ ของเครือข่ายพุทธิกาและผู้รู้ท่านอื่น ๆ ดังระบุไว้ท้ายเล่ม

คำนำโดย พระไพศาล วิสาโล

Search

Read the Text Version

โพวา 99 ตามแนวทางความเชอื่ ดง้ั เดมิ ของพทุ ธศาสนาสายวชั รยาน โพวาคอื การเคล่ือนย้ายจิตของผู้ใกล้ตายไปสู่สภาวะจิตเดิมแท้ เป็นการปฏิบัติโยคะและสมาธิภาวนาท่ีใช้ในการช่วยเหลือผู้ใกล้ตายและเพ่ือเตรียมตัวตาย แต่เรายังสามารถประยุกตโ์ พวามาใช้ในการเยียวยา และส่งเสริมพลงั ฝา่ ยบวกในใจแก่ผู้ป่วยท่ัวไปหรอื ตวั ผู้ปฏิบตั ิเองไดอ้ ีกดว้ ย วิธีการทำ�โพวา เร่ิมจากการทำ�ตัวให้สบาย นั่งในท่าที่รู้สึกสบาย หรือนอนก็ได้ จากน้ัน ให้สำ�รวจจิต ปล่อยวาง ผ่อนคลาย น้อมใจนึก อัญเชิญพระพุทธองค์หรือส่ิงศักด์ิสิทธิท่ีเคารพสักการะผูกพันแนบแน่น มาปรากฏอยู่เหนือศีรษะของผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ตาย จินตนาการว่าพระองค์ทรงแย้มยิ้มด้วยความกรณุ า และแผอ่ อกมาเปน็ ล�ำ แสงไปยงั ผใู้ กลต้ าย เพอ่ื ช�ำ ระลา้ งกายใจและจิตวิญญาณ จนกระทงั่ ผใู้ กลต้ ายสลายกลายเป็นแสง ลอยสู่ทอ้ งฟ้า และรวมกับพระพทุ ธองค์หรือสงิ่ ศักด์ิสทิ ธิทีอ่ ัญเชญิ มา98

ทองเลน จินตนาการถึงคนท่ีเรารู้สึกใกล้ชิดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนท่ีก�ำ ลังมี ความทุกขแ์ ละเจ็บปวด ขณะทีห่ ายใจเขา้ ใหจ้ นิ ตนาการวา่ เรารับเอาความ ค�ำ ภาษาธิเบต หมายถงึ “การใหแ้ ละการรบั ” พทุ ธศาสนาสายวชั รยาน ทกุ ขค์ วามเจบ็ ปวดทงั้ หมดของเขาทเ่ี ปน็ กลมุ่ ควนั สดี �ำ เขา้ มาในตวั เราดว้ ยจติ มีความเชื่อว่า ทองเลนจะช่วยเผยให้เห็นสัจธรรมแห่งความทุกข์และจิตใจท่ีถูก กรุณา จนิ ตนาการว่า กลุ่มควันดำ�แผ่มาปกคลุมและห่อหมุ้ ตวั เรา ในขณะท่ี ปดิ กน้ั ของผอู้ น่ื และเขา้ ไปท�ำ ลายพลงั ทปี่ ดิ กน้ั จติ ใจนนั้ รากฐานของทองเลนคอื เราพร้อมรับความทุกข์ความเจ็บปวดของเขาอย่างเต็มที่ นั่งเจริญเมตตา ความกรุณา กรณุ าจนกลมุ่ ควนั ด�ำ เรมิ่ กลายเปน็ ล�ำ แสงบรสิ ทุ ธ์ิ แลว้ เปดิ ใจของเราสง่ ผา่ น ความสุข ความกรุณา และความปีติกลับไปเป็นรัศมีเหลืองทองแผ่ชโลม เราสามารถประยุกต์แนวทางการทำ�ทองเลนมาใช้ในการเยียวยา ด้วย ตวั เขา จนิ ตนาการวา่ เขารสู้ กึ ดขี น้ึ อกศุ ลกรรมและความทกุ ข์ ความเจบ็ ปวด การทำ�สมาธิภาวนาเพ่ือแผ่ความกรุณาไปยังผู้ที่กำ�ลังเป็นทุกข์ ใช้จินตนาการ ตา่ งๆ หายไป กลายเปน็ ความสุขสงบ วาดภาพว่า ผู้ปฏิบัตริ บั เอาความทุกข์และความเจบ็ ปวดของผอู้ ่ืนมาไวท้ ี่ตัวเอง และมอบความสขุ ความดี ความกรณุ ากลับไป การทำ�ทองเลนไม่ใช่เพื่อให้ผู้ปฏิบัติมีความทุกข์ หรือเจ็บปวดตาม ผู้อ่ืน แต่เป็นการชำ�ระล้างความยึดติดในตัวตน ละวางความกลัวว่าตนจะ วิธีการทำ�ทองเลน เร่ิมจากการนั่งสำ�รวมจิต ตามลมหายใจอย่างสงบ เป็นทุกข์ และฝึกความกรุณา หากไม่ถนัดในการสร้างจินตนาการ ขอให้ แลว้ จนิ ตนาการอญั เชญิ พระพทุ ธเจา้ หรอื พระโพธสิ ตั วท์ เี่ คารพนบั ถอื มาปรากฏ ใช้ความรู้สึกในการรับรู้ความทุกข์ท่ีเข้ามา และส่งความรู้สึกแห่งกรุณา ตรงหน้า ท�ำ ใจให้ผ่องแผว้ ปตี ิ จนนง่ิ สงบ ออกไปแทน100 101

ส่วนที่ 6 วฒั นธรรม กับการตาย การร้จู ักความตายในแง่มุมทางวฒั นธรรมซึ่งหมายถงึ ชุดความเชื่อ ความหมาย ตลอดจนแบบแผนประเพณี จะช่วยให้เราเกย่ี วข้องสัมพนั ธ์กบั ความตายไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ตลอดจนแสดงความเคารพผตู้ ายและญาตมิ ติ ร ได้อยา่ งเหมาะสม102

ความเช่ือเร่อื งเวลาตาย ตายฉบั พลนั (ตายโหง) ชาวจีนมีความเช่ือที่สัมพันธ์กับโหราศาสตร์ การตายด้วยอุบัติเหตุร้ายแรงหรือถูกทำ�ร้ายอย่างรุนแรง จนร่างกาย ตลอดเวลา ท้ังเร่ืองฤกษ์ยาม เรือ่ งฮวงจุ้ย ความเชอ่ื บาดเจ็บสาหัส ความเจ็บปวดจากบาดแผลมักส่งผลให้ผู้บาดเจ็บหวาดกลัว เรอื่ งเวลาตายจงึ ส�ำ คญั ชาวจนี บางกลมุ่ มคี วามเชอ่ื วา่ ทกุ ขท์ รมาน ทรุ นทรุ าย ส่งผลให้จิตสุดท้ายไม่สงบ ตายแล้วไปสู่ทุคตภิ มู ิ ถา้ ผู้ตายเสียชีวติ ในช่วงเช้าถึงเทยี่ ง ผู้ตายจะเอาบุญกศุ ลไป 1 ม้อื เหลอื ไวใ้ ห้ กบั ลูกหลาน 2 มอื้ ถา้ เสยี ชวี ิตในช่วงบา่ ย ผู้ตายจะเอาไป 2 ม้ือ เหลือไวใ้ ห้ การตายฉับพลนั ยงั รวมถงึ เหตไุ มค่ าดฝันตา่ งๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจวาย ลกู หลาน 1 มือ้ หากเสียชีวิตระหวา่ ง 6 โมงเยน็ ถึงเที่ยงคืน ถือว่าผู้ตายเอา ตาย เสลดตดิ คอ นอนหลบั ไมต่ น่ื หรือโดนฟา้ ผ่า เปน็ ตน้ ติดตัวไปท้ัง 3 ม้ือ ไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลานเลย ส่วนคนที่ตายก่อนเช้า วันใหม่ ยังไม่ได้ทานอะไรสักม้ือ ถือว่าไม่ได้เอาบุญกุศลไปด้วย ทิ้งไว้ให้ การตายในลกั ษณะดงั กลา่ วมกั ถกู นยิ ามวา่ เปน็ การตายไมด่ ี แตห่ ากใน ลกู หลานทง้ั หมด ชว่ งขณะสุดทา้ ย ผู้ใกลต้ ายสามารถรวบรวมสติ ระลกึ ถึงส่ิงดีงาม ปล่อยวาง ความคิดอกุศล และน้อมนำ�จิตใจไปสู่สุคติภูมิได้ ย่อมนับเป็นการตายที่ดี ชาวจีนถือว่า การตายท่ีดีท่ีสุดคือการตายให้เหลือ “ม้ือ” (หมายถึง เช่นกนั บุญกศุ ล) ไวใ้ ห้ลกู หลานมากที่สุด เพราะจะท�ำ ให้ลูกหลานเจรญิ รงุ่ เรือง 105 การเข้าใจความเช่ือดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการทำ�งานของทีมดูแล ในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ใกล้ตายให้ตรงตามความต้องการของผู้ป่วย และญาติ หรือช่วยให้ญาติสามารถตัดสินใจงดใช้เคร่ืองช่วยชีวิตต่อผู้ป่วยได้ ในเวลาทเ่ี หมาะสม104

ตายตาหลบั คำ�เทยี บเคียงต่อความตาย การตายตาหลบั มคี วามหมายสองประการ คอื 1) สภาพทผ่ี ตู้ าย ตายโดยท่ี ความตายเป็นปรากฏการณ์สำ�คัญของทุกสังคมเปลือกตาปิดสนทิ และ 2) การตายอยา่ งหมดหว่ งกงั วล ตายอยา่ งวางใจ จงึ มคี �ำ อปุ มาอปุ มยั เกยี่ วกบั ความตายมากมาย สะทอ้ น ความเชื่อและทัศนคติที่มีแต่ละสังคมมีต่อความตาย ภาพของผู้ตายท่ีเสียชีวิตในสภาพหลับตา เป็นภาพท่ีทำ�ให้ผู้พบเห็น รวมทั้งทำ�ให้เกิดการทบทวนหรือฉุกคิดต่อความตายในเกิดความสบายใจ เพราะการหลับตาถูกเชื่อมโยงเข้ากับการนอนหลับพักผ่อน มุมมองใหมไ่ ด้ดว้ ยการปล่อยวาง ความหมดห่วงกังวล ในขณะที่การลืมตาค้างเป็นเวลานานถกู เชอ่ื มโยงกบั ความตนื่ ตระหนก ความคา้ งคาใจ ผดิ ธรรมชาตขิ องมนษุ ยซ์ ง่ึ ตอ้ ง 107กระพริบตาบอ่ ยๆ ดงั นนั้ เม่ือผตู้ ายเสียชีวิตในสภาพท่ีหลับตา ผใู้ กลช้ ดิ มกั รสู้ ึกอนุ่ ใจวา่ ผตู้ ายได้จากไปอยา่ งสงบ หากผู้ตายมีตาที่เปิดค้าง อาจเกิดจากสาเหตุทางกาย หรือทางจิตใจผใู้ กลช้ ดิ อาจกระซบิ น�ำ ทางใหผ้ ใู้ กลต้ ายปลอ่ ยวางความหว่ งกงั วล เดนิ ทางไปสสู่ คุ ติแลว้ จงึ ปดิ เปลอื กตาลงเบาๆ เมอ่ื ผตู้ ายเพง่ิ เสยี ชวี ติ ไมน่ าน เพราะหากทอดเวลานานออกไปจะปดิ เปลือกตาได้ยากข้ึน เนือ่ งจากร่างกายเกดิ การแข็งตัว106

การเดนิ ทาง เปลีย่ นบา้ นใหม่ การเดนิ ทางเปน็ คาำ อปุ มาเกย่ี วกบั ความตายทใี่ ชก้ นั อยา่ งกวา้ งขวาง คำาอุปมาของความตาย ว่าร่างกายเหมือนบ้าน ในหลายวฒั นธรรม เปน็ การสะทอ้ นถงึ ความเชอ่ื ทว่ี า่ ชวี ติ มไิ ดส้ น้ิ สดุ ลงเมอื่ อนั เปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของจติ หรอื วญิ ญาณ วนั หนง่ึ เมอื่ บา้ น ร่างกายตายไปแลว้ เสอ่ื มโทรมจนกระทงั่ ผพุ งั ไปตามกาลเวลา ไมส่ ามารถใช้ เปน็ ทอี่ าศยั ของจติ หรอื วญิ ญาณไดอ้ กี ตอ่ ไป จงึ ตอ้ งออก ในทางศาสนา เม่ือชีวติ ยุติลง คอื การตายทางรา่ งกาย แตจ่ ติ หรือ ไปอยู่ในบ้านใหมท่ ่ีดีกวา่ บ้านหลงั เดมิ ท่ีผุพังไปแล้ว วญิ ญาณ จะยังคงอยู่และเดินทางไปสูส่ ภาวะใหมๆ่ เช่น ไปเกิดใหม่ หรือ เดินทางไปพบพระเจา้ ความเชอ่ื ดงั กลา่ วปรากฏอยใู่ นสงั คมทเ่ี ชอ่ื ในเรอ่ื ง การเวยี นวา่ ยตายเกดิ จนกวา่ จะบรรลโุ มกษะ (ในศาสนา ในทางพุทธศาสนามองว่า ความตายเป็นโอกาสท่ีจะได้เรียนรู้ พราหมณ-์ ฮนิ ด)ู หรอื บรรลนุ พิ พาน (ในศาสนาพทุ ธ) และ ประสบการณ์ สง่ั สมความดี และพฒั นาสตปิ ญั ญาจนสามารถเขา้ ถงึ สจั ธรรม เป็นปัจจัยหน่ึงที่เอ้ือให้ผู้ใกล้ตายจากไปอย่างสงบได้ บรรลนุ ิพพาน ไม่ต้องกลบั มาเกิดอกี ต่อไป เพราะช่วยลดความกลัวตาย หรือกลัวตัวตนจะดับสูญ หลังจากตายไปแลว้ ลงได้ ความเชื่อดังกล่าว จะช่วยลดความกลัวตาย โดยเฉพาะความกลัว ตัวตนจะดับสูญหลงั จากตายไปแล้วลงได้ 109108

เปลี่ยนภพภมู ิ 111 ตามความเช่ือในพทุ ธศาสนา ชวี ติ มิได้สิน้ สุดทีค่ วามตาย หลงั จาก ตายแลว้ ชวี ติ ยงั คงด�ำ เนนิ อยา่ งสบื เนอื่ งตอ่ ไปในรปู แบบตา่ งๆ ตามภพภมู ิ หรอื สภาพแวดลอ้ มท่ีแตกตา่ งกัน เชน่ นรก โลกมนุษย์ สวรรค์ ฯลฯ ชีวิตจะไปเกิดในภพภูมิใด เป็นผลจากการทำ�ความดีหรือความช่ัว ในอดีต หากทำ�ความดี เม่ือตายย่อมมีโอกาสไปเกิดในภพภูมิที่ดี เช่น เกดิ ในสวรรค์ หรอื มโี อกาสพฒั นาจิตใจใหด้ ยี ิง่ ขึน้ หากทำ�ช่ัวจะเกดิ ผลใน ทางตรงข้าม ความเชอื่ เรอ่ื งภพภมู ิ จะชว่ ยใหผ้ คู้ นมกี �ำ ลงั ใจในการท�ำ ดี ภาคภมู ใิ จ ในความดขี องตน ไมเ่ สยี ดายชวี ติ ในยามใกลต้ าย วางใจและไมก่ ลวั โลกหนา้ ซงึ่ เปน็ ปัจจยั ท่เี กือ้ หนนุ ตอ่ ตายอย่างสงบ สำ�หรับผู้เห็นว่า การเปลี่ยนภพภูมิยังอยู่ในห้วงการเวียนว่ายตาย เกดิ ไมส่ นิ้ สดุ ยอ่ มสามารถบ�ำ เพญ็ เพยี ร อบรมพฒั นาจติ และปญั ญาตอ่ ไป จนหลุดพ้นจากวัฏสงสารโดยสิน้ เชิงได้110

สว่ นท่ี 7 113 การตายและ การเตรยี มตัว ตาย หากความตายคือการเดินทาง ประเด็นต่างๆ ดังตอ่ ไปนี้ คอื การฝึกฝน เตรยี มเสบียง และอุปกรณท์ ่จี ำ�เป็น สำ�หรบั การเดินทาง สู่สภาวะใหมอ่ ยา่ งราบรืน่ และปลอดภยั112

มรณานุสติ การเจริญมรณานสุ ติ การระลึกถงึ ความตายสามารถฝกึ ได้หลายทาง เช่น 1. ซ้อมตายก่อนนอน ทุกวันก่อนนอน พิจารณาว่า คืนน้ีอาจเป็นคืน การเจรญิ มรณานสุ ติ หรอื มรณานสุ ติ คือการ สดุ ทา้ ยของเรา รา่ งกายทเ่ี คยเคลอ่ื นไหวจะแนน่ ง่ิ เยน็ ชดื ขณะทก่ี �ำ ลงั จะหมดลม ระลกึ ถงึ ความตายอยเู่ สมอ เปน็ สมั มาสตปิ ระเภทหนงึ่ ใหร้ ะลกึ ถึงคนรัก การงาน เมื่อเราตาย เราตอ้ งละไว้เบือ้ งหลงั ไม่สามารถนำ�ไป ทท่ี กุ คนควรปฏบิ ตั ิ มเี ปา้ หมายคอื การกลบั มาทบทวน ดว้ ยได้ เราพรอ้ มจะปลอ่ ยวางได้แค่ไหน เรายังห่วงส่งิ ใด และดำ�เนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท เร่งทำ�ความดี 2. ซ้อมตายขณะเดินทาง จินตนาการว่า เป็นการเดินทางคร้ังสุดท้าย สรา้ งความคนุ้ เคยตอ่ ความพลดั พรากสญู เสยี หากท�ำ หากเกิดอุบัตเิ หตถุ งึ ตายในระหวา่ งการเดินทาง เราจะวางใจอย่างไร เราพรอ้ ม แลว้ จติ ใจเศรา้ หมอง หดหู่ เกดิ อาการซมึ เศรา้ แสดงวา่ จะตายหรอื ไม่ มีสิ่งใดทีค่ ั่งคา้ งอยู่ เราจะปล่อยวางได้หรือไม่หากต้องตาย ทำ�ไมถ่ ูกวิธี ควรตอ้ งปรกึ ษาผู้มีความรูใ้ นดา้ นน้ี 3. เงนิ หาย สูญเสียทรพั ย์ ระลึกวา่ หากเราตายไป ทรพั ยส์ มบตั ิต่างๆ ทเี่ คยแสวงหาสะสมมาได้ ตอ้ งสญู เสยี ไปทงั้ หมด หากยงั ท�ำ ใจไมไ่ ดก้ ารตายอยา่ ง มรณานุสติมี 2 ส่วนคือ 1) การระลึกถึงความจริงว่า เราจะต้องตาย สงบคงจะเกิดได้ยาก อย่างแน่นอน และตายได้ทุกเม่อื ไม่วา่ พรงุ่ น้ี วนั นี้ ชัว่ โมงนี้ นาทนี ้ี 2) การถาม 4. การนกึ ถงึ งานศพของตนเอง เมอ่ื เราตาย เราอยากใหค้ นทม่ี างานศพ ตัวเองว่า เราพรอ้ มตายหรอื ยัง หากยังไมพ่ รอ้ ม เพราะเหตใุ ดจึงไมพ่ ร้อม พดู ถงึ เราแบบไหน เราไดท้ �ำ ความดตี อ่ บคุ คลตา่ งๆ มากพอแลว้ หรอื ยงั หากวา่ ยงั คงยากที่ใครจะพูดถงึ เราในทางท่ดี ี จงึ ควรเรง่ ขวนขวายทำ�ความดี การเจรญิ มรณานสุ ตทิ ั้ง 2 ส่วนจะเชือ่ มโยงมาสกู่ ารปฏบิ ัติ ช่วยกระตุน้ 5. การพจิ ารณาถงึ ความเนา่ เปอ่ื ยของรา่ งกาย เมอ่ื เราตายไป รา่ งกาย ใหข้ วนขวายท�ำ ความดี ไมผ่ ดั ผอ่ นในการท�ำ หนา้ ทที่ สี่ �ำ คญั ตอ่ ตนเอง ครอบครวั ทเ่ี รารกั เราหว่ ง ทเ่ี คยยดื หยนุ่ ไดก้ ลบั เรมิ่ แขง็ ทเ่ี คยอนุ่ กลบั เยน็ ชดื ทเ่ี คยปรงุ แตง่ ญาตมิ ติ ร หรอื สว่ นรวม หลกี หนจี ากความชวั่ ฝกึ ฝนจติ ใจใหเ้ รยี นรกู้ ารปลอ่ ยวาง ใหส้ วยงามเร่ิมสกปรก สง่ กลน่ิ เหม็น นำ�้ เหลอื งไหลออกจากรา่ ง ไมม่ ใี ครอยาก จากความยดึ ติดถือม่ันในสงิ่ ตา่ งๆ และเหน็ คุณค่าของสิ่งทีม่ ีอย่ใู นปัจจุบนั อยใู่ กลช้ ดิ ขอ้ พจิ ารณาเหลา่ นเ้ี ปน็ ไปเพอ่ื คลายความยดึ ตดิ ในรา่ งกายและรปู ลกั ษณ์ ทสี่ วยงาม114 115

อภัย-อโหสิกรรม นำ�ทาง บอกทาง อภัย คือ ไม่มีภัยต่อผู้อื่น ไม่เป็นศัตรู ไม่เป็น กระบวนการชว่ ยเหลือผู้ปว่ ยให้จากไปอยา่ งสงบในชว่ งสุดท้ายของชีวติอันตรายตอ่ ผู้อ่นื หากใครท�ำ ใหเ้ ราโกรธ เรายกโทษให้ ในศาสนาพทุ ธ นยิ มใหพ้ ระสงฆม์ าสวดใหพ้ ร น�ำ ภาวนา หรอื พดู นอ้ มน�ำหรือไม่มีโทสะตอบ น่ันคือการท�ำ อภยั ทาน จิตให้เปน็ ไปในทางกุศล ในศาสนาอสิ ลาม นิยมมาสวดพระคมั ภรี ์อลั กรุ อา่ น ใน ศาสนาคริสตบ์ างนิกาย จะเชญิ บาทหลวงมาท�ำ พิธีเจมิ ศีลทาสดุ ท้าย อโหสกิ รรม คอื กรรมทไี่ มส่ ง่ ผลแกผ่ กู้ ระท�ำ กรรม ในทางพุทธศาสนา นอกจากการนิมนต์พระสงฆ์มาช่วยบอกทางแล้วอกี ต่อไป วิธอี โหสกิ รรมวิธีหน่ึงคือ การยกโทษให้ เชน่ ครอบครวั ญาตผิ ู้ใหญ่หรือคนใกล้ชิดท่ผี ู้ป่วยนับถอื กส็ ามารถเปน็ ผชู้ ่วยนำ�ทางเม่ือเราประพฤติล่วงเกินผู้อ่ืนด้วยกาย วาจา หรือใจ ไดเ้ ชน่ กนั เชน่ การชว่ ยปลดเปลอ้ื งความกงั วล บอกให้ผปู้ ่วยจากไปโดยไมต่ ้องแลว้ ไปขอใหผ้ ทู้ เี่ ราประพฤตลิ ว่ งเกนิ ยกโทษให้ เมอื่ เขายกโทษใหแ้ ลว้ ถอื วา่ กรรม เปน็ หว่ งคนขา้ งหลงั การบอกเลา่ ถงึ คณุ ความดที ผี่ า่ นมาของผปู้ ว่ ย การประกอบนน้ั เปน็ อโหสิกรรม ไมใ่ หผ้ ลอีกต่อไปทง้ั ในชาตินี้และชาติหน้า อโหสิกรรมจึงมี พิธีกรรมน้อมนำ�ให้ผู้ใกล้ตายเกาะเกี่ยวในส่ิงดีงาม เช่น การสวดมนต์ การขอความหมายวา่ การเลกิ แล้วต่อกัน การไมเ่ อาโทษกนั การเลิกจองเวรกนั อโหสกิ รรม เปน็ ตน้ การใหอ้ ภยั การอโหสกิ รรม จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความรกั ใคร่ อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสงบ 117สามารถกำ�จัดความโกรธ ความแค้น ความพยาบาทให้หลุดพ้นไปได้ เป็นการชนะใจตวั เอง ทำ�ให้จิตใจเบาสบายและแจ่มใส การเปดิ โอกาสใหผ้ ใู้ กลต้ ายไดส้ ะสางความรสู้ กึ ขนุ่ แคน้ เคอื งใจ ขออโหสกิ รรมตอ่ ผทู้ ต่ี นไดเ้ คยลว่ งเกนิ ไว้ และใหอ้ ภยั แกผ่ ทู้ เ่ี คยท�ำ ความเจบ็ แคน้ ขนุ่ เคอื งกบั ตนจะช่วยให้ผู้ใกล้ตายได้ปลดเปล้ืองความรู้สึกผิด เกิดความสบายใจ และจากไปด้วยความสงบได้116

สติ สถานท่ีตาย ความรทู้ ว่ั ตัวพรอ้ มในปจั จบุ ันขณะ การรู้สิ่งทเี่ กิดขึน้ ในกายและใจ คนสว่ นใหญท่ รี่ ตู้ วั วา่ กาำ ลงั จะเสยี ชวี ติ มกั อยากกลบั ไปอยทู่ บี่ า้ นของ ของตน ตนเอง เพราะเป็นสถานที่ท่ีคุ้นเคย แวดล้อมไปด้วยลูกหลานญาติมิตร ทาำ ใหร้ สู้ กึ อบอนุ่ และสบายใจ จดั สภาพแวดลอ้ มทเี่ ออ้ื ตอ่ การความสขุ สบาย ในทางพุทธศาสนา การตายที่ดี คือ ตายอย่างมีสติ เพราะจิตท่ี ไดง้ า่ ย และทำาพธิ ีกรรมเพอื่ ชว่ ยเหลอื ทางจิตวิญญาณไดส้ ะดวก ประกอบด้วยสติ เปน็ จติ ทีเ่ ป็นกศุ ล จึงชว่ ยปิดกน้ั อบาย แต่การกลับไปตายท่ีบ้านในสังคมปัจจุบันทำาได้ยาก เพราะสภาพ สติเป็นเครื่องช่วยให้ใช้ปัญญาพิจารณา ความเป็นอยู่ที่ลูกหลานต้องด้ินรนทำามาหากิน จึงมีเวลาน้อย หรือขาด ความจริงขณะตาย เห็นความจริงว่าร่างกาย ความร้ใู นการดแู ลผูป้ ่วย ในกรณที ่ผี ปู้ ว่ ยระยะสดุ ท้ายจำาเป็นตอ้ งรกั ษาตัว เป็นทุกข์ ไม่เท่ียง ไม่ใช่ตัวตน จนจิตใจ อยูท่ ่ีโรงพยาบาล ควรจัดสภาพบรรยากาศในห้องผ้ปู ่วยใหผ้ ่อนคลายท่สี ุด ปล่อยวางความยึดติดถือมั่นในส่ิงต่างๆ เทา่ ทจ่ี ะเปน็ ไป เพอื่ ใหผ้ ปู้ ว่ ยและครอบครวั ใชช้ วี ติ ชว่ งสดุ ทา้ ยดว้ ยกนั อยา่ ง และตายอยา่ งสงบได้ มคี ณุ ภาพและจากไปอย่างสงบ การเจริญสตหิ รอื การพฒั นาใหจ้ ิตมี 119 ความฉับไวรู้เท่าทันสภาวะอารมณ์ที่เกิดข้ึน ทำาได้หลากหลายวิธี เช่น การภาวนาตามลมหายใจ การรกู้ ายทเ่ี คลือ่ นไหว รูใ้ จที่คิดนึก เป็นต้น118

บริจาครา่ งกาย บรจิ าคอวยั วะ การอทุ ศิ รา่ งกายเพอื่ การศกึ ษา วจิ ยั หรอื การรกั ษาทางการแพทย์ การบริจาคอวัยวะตา่ งจากการบริจาคร่างกาย คอื ม่งุ เนน้ การบรจิ าค ในกรณ้ีน้ีร่างกายของผู้ตายจะกลายเป็น “อาจารย์ใหญ่” ให้สถาบัน ช้ินส่วนอวัยวะเพ่ือการรักษาทางการแพทย์ ซ่ึงสามารถบริจาคตามช้ินส่วน ทางการศึกษาได้ใชใ้ นการเรยี นการสอน ค้นคว้าวิจัย ต่อยอดองคค์ วาม ท่ีประสงค์จะบริจาค เช่น ดวงตา หัวใจ ตับ ปอด ไต หรืออวัยวะทุกส่วน รู้ในการรักษาเยียวยาผู้ป่วย ผู้บริจาคได้สละร่างกายด้วยท่าท่ีถูกต้อง ที่สามารถบรจิ าคได้ กลา่ วคอื บริจาคด้วยจติ คดิ เกือ้ กลู ประโยชน์ต่อผอู้ น่ื ด้วยใจรู้เทา่ ทันวา่ รา่ งกายไมใ่ ชข่ องเรา กจ็ ะชว่ ยปลอ่ ยวางความยดึ ตดิ ในรา่ งกาย หากระลกึ การบริจาคอวัยวะแตกต่างจากการบริจาคร่างกาย คือ แม้แพทย์จะ ถงึ คณุ ความดอี นั เกดิ จากการบรจิ าคทานครงั้ นกี้ อ่ นตาย บญุ กศุ ลทไ่ี ดท้ �ำ ท�ำ การผา่ ตัดอวยั วะไปใชแ้ ล้ว ร่างกายของผูต้ ายยงั จะสามารถนำ�ไปประกอบ ย่อมกลายเป็นปจั จยั ชว่ ยใหจ้ ากไปอยา่ งสงบ พิธีทางศาสนาได้ต่อไป ในขณะที่การบริจาคร่างกายนั้น ญาติจะไม่ได้รับศพ กลบั มาทำ�พธิ ีทางศาสนา120 ท้ังน้ีแม้ผู้บริจาคร่างกายหรืออวัยวะจะแสดงความจำ�นงการบริจาค ไว้แล้ว แต่แพทย์ก็อาจวินิจฉัยไม่นำ�ร่างกายไปใช้ในการศึกษาค้นคว้า หรือ ไม่ผ่าชิ้นส่วนอวัยวะไปใช้งานก็ได้ เพราะไม่ผ่านเกณฑ์ตามเงื่อนไขท่ีทาง สถานพยาบาล หรือสถานการศกึ ษาทไ่ี ดก้ ำ�หนดไว้ หากผตู้ ายเคยแสดงความจ�ำ นงบรจิ าคอวยั วะไว้ ญาตคิ วรตดิ ตอ่ ศนู ยร์ บั อวัยวะ โทรศัพท์หมายเลข 1666 ไดต้ ลอด 24 ชว่ั โมง หากเปน็ ความจำ�นง บรจิ าคดวงตาไว้ ควรตดิ ต่อภายใน 6 ชัว่ โมงหลังการตาย 121

ความปรารถนากอ่ นตาย การปลอ่ ยวาง กอ่ นเสยี ชวี ติ ผปู้ ว่ ยอาจมคี วามปรารถนาทตี่ อ้ งท�ำ ใหบ้ รรลกุ อ่ นตาย อปุ สรรคของการตายดี คอื การยดึ ตดิ ถอื มนั่ ในสง่ิ ตา่ งๆ ปฏเิ สธขดั ขนื เช่น ได้พบคนท่ีไม่ได้พบกันมานาน ได้กินอาหารท่ีไม่ได้กินเพราะความ ความพลดั พราก ไม่ว่าจะเป็นการพรากจากทรัพย์สมบัติ เกยี รตยิ ศชอื่ เสียง เจบ็ ปว่ ย ได้ถ่ายภาพกับลูกหลานท่ีก�ำ ลังจะรบั ปริญญา ส�ำ หรับเดก็ เลก็ ๆ ที่ การงาน คนทรี่ ัก ความสุข รา่ งกาย ตวั ตน จึงท�ำ ใหค้ วามตายเป็นความทุกข์ ปว่ ยหนักบางคนอาจจะอยากไดข้ องเล่น หรือไปเทย่ี วสวนสนุก เปน็ ตน้ ความอยากได้ อยากมี อยากเปน็ ในสง่ิ ต่างๆ แมแ้ ตค่ วามอยากไป การช่วยให้ผู้ใกล้ตายได้ทำ�ในส่ิงที่ใฝ่ฝันในวาระสุดท้ายของชีวิต ภพภูมทิ ดี่ ี เช่น ไปเกิดในสวรรค์ ไม่อยากตกนรก ลว้ นเปน็ อปุ สรรคต่อการ เปน็ การสรา้ งความแช่มชื่นใหแ้ ก่จิตใจ สรา้ งกำ�ลังใจ เตมิ เตม็ ชวี ิตใหส้ มบรู ณ์ ตายดี การปลอ่ ยวางจากสงิ่ ตา่ งๆ จะชว่ ยใหเ้ กดิ ความโปรง่ เบา พรอ้ มตอ้ นรบั เปน็ ปัจจัยหนง่ึ ทจ่ี ะช่วยใหผ้ ้ใู กลต้ ายจากไปอยา่ งสงบได้ ความตาย จงึ ควรฝกึ ฝนดว้ ยการเจริญมรณานุสติ (ดคู ำ�ว่า “มรณานสุ ตฯิ ”)122 ในกรณีที่ผู้ป่วยระยะสุดท้ายยังไม่สามารถปล่อยวางได้ด้วยตัวเอง ผู้ใกล้ชิดอาจช่วยเหลือด้วยการนำ�ทางหรือบอกทางแก่ผู้ป่วยได้ (ดูคำ�ว่า “นำ�ทาง บอกทาง”) 123

กลา่ วอ�ำ ลา การเปิดเผยความในใจให้ผู้ใกล้ตายรับรู้ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ในขณะท่ีสญั ญาณชพี อ่อนลงเป็นลำ�ดับ เป็นขน้ั ตอนส�ำ คญั เพอ่ื ให้ลกู หลาน ญาตมิ ติ รกลา่ วค�ำ อ�ำ ลาเป็นคร้ังสุดท้าย โดยการพดู ถึงความรสู้ กึ ดๆี ทีม่ ตี อ่ ผใู้ กลต้ าย ชน่ื ชม และขอบคณุ ในความดขี องผใู้ กลต้ ายทไี่ ดก้ ระท�ำ มา ขอขมา ในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน ก่อนจะน้อมนำ�ให้ผู้ใกล้ตายปล่อยวางส่ิงต่างๆ ไม่ต้อง กงั วลใดๆ หรอื ระลกึ ถงึ พระรัตนตรัยหรอื ส่ิงศกั ดิ์สทิ ธทิ ี่นบั ถอื แมว้ า่ บางคนจะเคยกลา่ วค�ำ อ�ำ ลาผปู้ ว่ ยไปแลว้ แตก่ ารกลา่ วค�ำ อ�ำ ลา ก่อนสิ้นลมก็เป็นส่ิงที่มีประโยชน์ ญาติมิตรควรรักษาบรรยากาศให้สงบ ละเว้นการแทรกแซงร่างกายหรือยอื้ ชวี ติ ผ้ปู ่วย124

บทสง่ ทา้ ย หนังสือ “ปทานุกรมความตาย” น้ี เดิมทีทีมงานโครงการเผชิญความตายอยา่ งสงบ เพยี งตอ้ งการรวบรวมค�ำ ศพั ท์ พรอ้ มทง้ั บนั ทกึ หมายเหตขุ อ้ คดิ ทเี่ กย่ี วกบัการใช้ชีวิตที่ดี และเผชิญความตายอย่างสงบ แต่เม่ือได้ลงมือเรียบเรียงกลุ่มคำ�กลบั พบวา่ ประเดน็ ตา่ งๆ ทห่ี นงั สอื อา้ งถงึ ตา่ งกม็ คี วามลกึ ซง้ึ ละเอยี ดออ่ น ตอ้ งก�ำ กบัความถูกตอ้ งดว้ ยความรทู้ างวิชาการ การท�ำ หนงั สอื เลม่ นจ้ี งึ ยากกวา่ ทค่ี าดหมาย อาจมขี อ้ ความในหนงั สอื บางจดุทผ่ี ดิ พลาดหรอื ไมค่ รบถว้ นสมบรู ณ์ ทมี งานนอ้ มรบั ค�ำ ตเิ ตยี น และขอขอ้ แนะน�ำ จากท่านทั้งหลาย ส�ำ หรบั การพฒั นาองคค์ วามรูแ้ ละปรับแกใ้ นการพิมพ์ครงั้ ตอ่ ไป ทีมงานขอขอบพระคุณพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ทก่ี รณุ าเขียนคำ�น�ำ และให้คำ�แนะนำ� ขอบพระคุณพระวิชิต ธัมมชิโต และนายแพทย์เต็มศักด์ิ พ่ึงรัศมีทช่ี ว่ ยตรวจทานและปรบั แกเ้ นอ้ื หาใหถ้ กู ตอ้ ง ขอขอบพระคณุ ผเู้ ขยี นหลกั คณุ พรทวียอดมงคล ในความพยายามและตง้ั ใจคน้ ควา้ ความรตู้ า่ งๆ ทอ่ี ยใู่ นเลม่ อยา่ งถงึ ทส่ี ดุ กศุ ลใดๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการจดั พมิ พเ์ ผยแพร่ “ปทานกุ รมความตายฯ” ทมี งานขออุทิศแด่ผู้วายชนม์และครูบาอาจารย์ ท่านเหล่าน้ันคือท่ีมาของความรู้ท้ังมวลในหนงั สอื เลม่ น้ี126


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook