บทความวชิ าการ การบริหารจดั การศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตาบลตาจัน่ อาเภอคง จังหวัดนครราชสีมา THE ADMINISTRATION OF EDUCATION MANAGEMENT OF TA CHAN SUB-DISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION KONG DISTRICT, NAKHON RATCHASIMA PROVINCE. พระครูปลดั อาหยวน วสิ ุทฺธิญาณเมธี (มุ่งฝอยกลาง)
๑ คำนำ บทความวิชาการ เรอื่ งการบริหารจดั การศึกษาขอ องค์การบริหารสว่ นตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จงั หวัด นครราชสีมา THE ADMINISTRATION OF EDUCATION MANAGEMENT OF TA CHAN SUB-DISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION KONGDISTRICT, NAKHON RATCHASIMA PROVINCE. ของพระครูปลัด อาหยวน วสิ ทุ ธฺ ญิ าณเมธี (ม่งุ ฝอยกลาง) ได้ทำการวจิ ยั ตาม วตั ถปุ ระสงค์ท่ีกำหนดไว้เสร็จเรยี บรอ้ ย จึงจัดทำบทความ วิชาการดงั ต่อไปนี้
สารบัญ ๒ บทคัดย่อ ผลการศึกษาวจิ ัย 3 Abstract 5 บทนำ 7 วตั ถุประสงค์ของการวิจัย 12 ขอบเขตการวจิ ัย 16 กรอบแนวคิดในการวิจยั 16 รูปแบบการวจิ ยั 18 เครอื่ งมือท่ีใช้ในการวิจัย 21 การวิเคราะห์ขอ้ มูล 21 ผลการวจิ ยั 22 บรรณานุกรม 23 45
๓ การบริหารจดั การศกึ ษาของ องค์การบรหิ ารส่วนตำบลตาจัน่ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา THE ADMINISTRATION OF EDUCATION MANAGEMENT OF TA CHAN SUB-DISTRICT ADMINISTRATIVE ORGANIZATION KONG DISTRICT, NAKHON RATCHASIMA PROVINCE. พระครปู ลดั อาหยวน วิสุทธฺ ญิ าณเมธี (มงุ่ ฝอยกลาง)* บทคดั ยอ่ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อ ศึกษานโยบายด้านการจัดการศึกษาขององค์การบริหาร ส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ๒) เพื่อ ศึกษาการบริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วน ตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา และ ๓) เพื่อ *นิสิตปริญญาโท หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์) ภาควิชารั ฐศาสตร์ คณ ะ สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั
๔ ศึกษาปัญหา อปุ สรรค ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไขการ บริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา การวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการ ตามระเบียบวิธีวิจัยเป็นแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ซึ่ ง เป็ น ก า ร วิ จั ย เชิ ง ส ำ ร ว จ ( Survey Research) โดยกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัย คือประชาชน อายุ ๒๐ ปีขึ้นไปเป็นประชากรในการศึกษา โดยเลือก ประชาชนที่อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จงั หวัดนครราชสีมา ซึ่งใชว้ ิธีการสุ่มตัวอย่างโดย การใช้วิธีการเปิดตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างของ ทาโร่ ยา มาเน่ (Taro Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๗๘ คน วิ เค ร า ะ ห์ ข้ อ มู ล โ ด ย ( frequency) ค่ า ร้ อ ย ล ะ (percentage) หาค่าเฉล่ีย (mean) และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน standard deviation) การทดสอบค่าที (t- test) การวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Analysis of Variance) และจากแบบสอบถามปลายเปิด (Open-ended Questionnaire) เก่ียวกับความคิดเห็น ของประชากรต่อการบริหารจัดการศึกษา ขององค์การ
๕ บริหารตาจ่ัน อำเภอคง จงั หวัดนครราชสีมา ใช้เทคนิคการ วิเคราะห์เน้ือหาประกอบบริบท (Content Analysis Techniques) และการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลด้วย การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth-Interview) กับผู้ให้ข้อมูล สำคัญ (Key Informants) จำนวน ๗ ทา่ น วิเคราะห์ขอ้ มูล ด้ ว ย วิ ธี ก า ร วิ เค ร า ะ ห์ เน้ื อ ห า (content analysis technique) ผลการศึกษาวิจยั พบว่า ๑) นโยบายด้านการจัดการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัด นครราชสีมา.คือ.(๑).ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา (๒).สนบั สนนุ ให้ มีการจัดต้ังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพิ่ม (๓) ส่งเสรมิ สนับสนุน การศึกษา โดยประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา (๔) สนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้กับเด็กนักเรียนอย่าง ท่ัวถึง ซ่ึงเป็นไปตามแผนพัฒนาการศึกษาสามปี (พ.ศ.. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘) ๒) ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหาร จัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอ
๖ คง จังหวัดนครราชสีมา โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ( = ๓.๕๗, S.D. = ๐.๘๗๙) เมื่อจำแนกเป็นรายด้านสามารถ เรียงลำดับความคิดเห็นได้ดังน้ี ด้านการสนับสนุนอาหาร กลางวันและนมให้กับนักเรียนอย่างทั่วถึง มีระดับสูงสุด ( = ๓.๗๘, S.D. = ๐.๘๔๖) รองลงมา คือ ด้านการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการพัฒนาการจัด การศึกษา ( = ๓.๕๕, S.D. = ๐.๘๙๑) และท่ีอยู่ใน ระดับสุดท้าย คือ ด้านการสนับสนุนการศึกษาโดย ประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา ( = ๓.๔๖, S.D. = ๐.๙๑๒) ซึง่ อยู่ในระดบั ปานกลาง ๓) ปัญหา และข้อเสนอแนะในการบริหาร จัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอ คง จังหวดั นครราชสีมา ได้แก่ (๑) ครู-อาจารย์สอนไมค่ รบ ตามเน้ือหาของหลักสูตรเนื่องจากมีเนื้อหามาก และเด็ก นักเรียนยังไม่ค่อยเข้าใจในการเรียนหนังสือ (๒) ศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของแต่ละ หมู่บ้าน และมีงบประมาณสนับสนุนไม่เพียงพอ (๓) ครูมี จำนวนน้อย และ โครงการท่ีดำเนินงานร่วมกับสถานศกึ ษา บางคร้ังขาดการต่อเนื่อง (๔) งบประมาณเพื่อจัดอาหาร
๗ กลางวันตลอดปีการศึกษามีไม่เพียงพอและวัตถุดิบในการ ประกอบอาหารมีราคาแพงในบางฤดูกาล ข้อเสนอแนะ (๑) อบต. ควรเข้ามาสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อจะได้ เพ่ิมเวลาเรียนนอกราชการได้ ควรส่งเสริมให้ครู-อาจารย์ ได้ศึกษาเพิ่มพูนเกี่ยวกับทักษะการสอนให้มากข้ึน (๒) อบต. ควรเพิ่มการส่งเสริมการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กให้เพียงพอกับทุกหมู่บ้านและควรสนับสนุน งบประมาณให้มากขึ้น (๓) อบต. ควรสนับสนุนจัดหาครู อาสาเข้าไปช่วยเหลือ และควรมีการกระจายอำนาจในการ บริหารงาน ไม่ควรรวมศูนยอ์ ำนาจอยู่เพียงคนเดยี ว ๔).อบ ต..ควรจัดหาทุนอาหารกลางวันเพ่ิมเติมจากงบประมาณท่ี มีอย่โู ดยการรับบริจาค หรือจัดโครงการเพ่ือหารายได้ เป็น ตน้ และควรจัดทำโครงการเกษตรกรรมเพ่ืออาหารกลางวัน เพ่ือลดต้นทุนวตั ถดุ ิบในฤดกู ารท่วี ตั ถุดบิ มีราคาแพง คำสำคัญ : การบริหารจัดการ, การศึกษา, องค์การ บริหารสว่ นตำบล Abstract The objectives of this research were; 1) To study educational policy of Ta Jan Sub-
๘ District local administrative Organization, Kong District , Nakon Ratchasima Province. 2) To study the administration of Ta Jan Sub-District local administrative Organization, Kong District, Nakon Ratchasima Province and 3) To study problems , obstacles , recommendations and solutions for education administration of Ta Jan Sub-District Administrative Organization, Kong District, Nakon Ratchasima Province. The mixed research method between qualitative and quantitative research. Quantitative research was the survey method. Population used in this research were people whose ages were more than 20 years, within local administrative organization of Tar Jan Sub-District, Kong District, Nakhon Ratchasima Province. 378 samples were purposefully selected using Taro Yamane’s sample size table. Statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test,
๙ One Way Analysis of Variance. and using Open- ended Questionnaire for surveying people’s opinion toward education management of local administrative organization of Tar Jan Sub- District, Kong District, Nakhon Ratchasima Province. As for the qualitative research, data were collected by In-Depth Interview with Key Informants 7 samples and data were analyzed by Content Analysis Techniques Findings were as follows: 1) Educational management policy of local administrative organization of Tar Jan Sub- District, Kong District, Nakhon Ratchasima Province were that (1).Encouraging people’s participation in developing educational management. (2).Support for establishing child development center. (3) Encouraging and support education by cooperation with academic institutes. (4) Supporting lunch and milk for
๑๐ students equally broadly which followed the 3- years educational developing plan (2013-2015). 2) The people’s opinion toward education administration of Ta Jan Sub-District local administrative organization, Kong District, Nakon Ratchasima Province , overall were at high level ( = 3.57, S.D. = 0,879). The result can be classified as follows: supporting for lunch and milk to students was at the highest level ( = 3.78, S.D. = 0.846). The next was encouraging people’s participation in developing education administration ( = 3.55, S.D. = 0.891). The last one was education supporting by coordination with academic institutes ( = 3.46, S.D. = 0.912) which was the moderate level. 3) Problems and recommendations for educational administration of Ta Jan Sub- District administrative organization, Kong District, Nakon Ratchasima Province were that; (1)
๑๑ Teachers-lecturers do not teach the whole subject-content because the whole course has too much contents and students can not understand the content in the lesson. (2) There are not enough children developing centers in each village and the fund was also not enough. (3) teachers were very few and the some projects that were cooperative with academic institutes became discontinuous. (4).There is not enough fund for lunch in each academic year and food raw material become too expensive in some seasons. Recommendations : (1) Local sub- district administrative organizations should have fund support in order to add more time for over time learning. There should be supporting teachers to continue their education so that they can develop their teaching techniques and skill. (2) Local Sub-District Administration should encourage more establishment of children
๑๒ developing centers in each village and allocate more budget For the schools. (3) Local Sub- District administrative organization should encourage more voluntary teachers and also should be more empowerment for more administrative authorities. . (4) Local Sub-District administrative organization should support funding for lunches in addition to the charity, or activity for fund raising. There should be agricultural activities for lunch to reduce the cost in time of food stuff were more expensive Keywords : Administration, Education Management, Sub-District Administrative Organization บทนำ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินนับเป็นองค์กรที่ มบี ทบาทสำคัญในการจัดการศึกษามาต้งั แตใ่ นอดีตและย่ิง มีบทบาทมากยิ่งข้ึนปัจจุบันและอนาคต อันเน่ืองมาจาก น โ ย บ า ย ก ร ะ จ า ย อ ำ น า จ ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า สู่ อ ง ค์ ก า ร
๑๓ ปกครองส่วนท้องถิ่นซ่ึงได้กำหนดไว้ในกฎหมายสำคัญ ห ล าย ฉ บั บ โด ย เฉ พ าะ อ ย่ างย่ิ งรัฐ ธรรม นู ญ แ ห่ ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๘๐ (๔) บัญญัติให้ส่งเสริมสนับสนุนการกระจายอำนาจเพ่ือให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดและมีส่วนร่วมในการจัด มาตรา ๒๘๙ บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิ ที่จะจัดการศึกษาอบรมและฝึกอาชีพตามความเหมาะสม และความต้องการภายในท้องถ่ินน้ัน และเข้าไปมีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษาอบรมของรัฐ๑ ปัจจุบันมีองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน (อปท.) เป็นจำนวน ๗,๘๕๓ แห่ง ประกอบดว้ ย อบจ. ๗๕ แห่ง อบต. ๖,๑๕๗ แหง่ เทศบาล ๑,๖๑๙ กรุงเทพมหานคร ๑ แห่ง และเมืองพัทยา ๑ แห่ง โดยมีองค์กรป กครองส่วน ท้อ งถ่ินท่ี จัดการศึกษ า ๑สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. วารสาร การศกึ ษาไทย, [ออนไลน์]. ๒ ยอ่ หน้า ๕(๕๐): ๒ ยอ่ หนา้ , แหล่งท่มี า: http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID =7360&Key= news_research [ประจำเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑].
๑๔ ระดับอุดมศกึ ษามีเพยี ง ๖.๓ ของนักเรียนทั้งประเทศ ส่วน อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น ที่ จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ระดับอุดมศึกษามีเพียง ๒ แห่งเท่าน้ัน สำหรับด้าน คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น จากผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) รอบแรก (พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๔๘) พบว่า สถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีคุณภาพระดับดีสูงกว่า ในภาพรวมท้ังประเทศและสูงกว่าสถานศึกษาในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานในเกือบทุก มาตรฐานถงึ รอ้ ยละ ๙๖.๓ ท่ียงั ไม่ได้จัดการศึกษาในระบบ น้ัน ได้มีการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศัย เช่น จัดศูนย์พฒั นาเดก็ เล็ก และมีบทบาทในกรณี มสี ่วนร่วมส่งเสรมิ สนับสนุนการจัดการศึกษาของรัฐในดา้ น ต่าง ๆ โดยแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๒ ฝ่าย๒ คือ ฝ่าย ส่งเสริมกิจการโรงเรียน มีหน้าท่ีความรับผิดชอบ ได้แก่ ๒วลิ าวลั ย์ ขำนอก, การศกึ ษาและแผนพฒั นา การศึกษาขององค์การบรหิ ารสว่ นตำบลตาจั่น, เอกสาร ประกอบการประชุม ฉบับพมิ พโ์ รเนียว, ๒๕๕๖. (อัดสำเนา).
๑๕ งานข้อมูล งานประสานกิจกรรม งานส่งเสริมการศึกษา และฝ่ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีหน้าที่ความรับผิดชอบ ได้แก่ งานข้อมูลพัฒนาการเด็ก งานวิชาการและส่งเสริม พัฒนาการเด็ก กิจกรรมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และงาน ตดิ ตามและประเมนิ ผล จากการศึกษาวิจัยท่ีผ่านมาพบว่า มีองค์การ ปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นจำนวนไม่น้อยที่สามารถจัด การศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น จนเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและชุมชน อย่างไรก็ตามก็ ยังพบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนหน่ึงยังมีปัญหา การบริหารจดั การศึกษา เชน่ ผู้บริหารองคก์ รปกครองสว่ น ท้องถิ่นขาดความรู้ความเข้าใจด้านการศึกษา และการ บริหารจัดการศึกษาในด้านต่างๆ นอกจากน้ียังมีปัญหาใน การถ่ายโอนสถานศกึ ษา ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้เล็งเห็นว่าการบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ท่ีมีการกำหนดการศึกษาครอบคลุม ทั้ง ๑๘ หมู่บ้าน จะมีส่วนช่วยในการทราบถึงผลของการ บริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน
๑๖ ตลอดถึงปัญหา ข้อเสนอแนะ ทางออกของปัญหาท่ีดีเพื่อ นำผลที่ไดจ้ ากการศกึ ษาวิจยั ไปบรู ณาการกับองค์กรต่อไป วัตถุประสงค์ของการวจิ ยั ๑. เพ่ือศึกษานโยบายด้านการจัดการศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัด นครราชสมี า ๒. เพื่อศึกษาการบริหารจัดการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวั ด นครราชสมี า ๓. เพ่ือศึกษาปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไขการบริหารจัดการศึกษาขององค์การ บรหิ ารส่วนตำบลตาจัน่ อำเภอคง จงั หวดั นครราชสีมา ขอบเขตการวิจัย ๑. ขอบเขตด้านเนอื้ หา ผู้วิจัยกำหนดขอบเขตด้านเน้ือหาโดยมุ่ง ศึกษาประเมินผลการบริหารจัดการศึกษาขององค์การ บริหารสว่ นตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ใน ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ประชาชน ในการพัฒ นาการจัดการศึกษา ด้านการ
๑๗ สนับสนุนให้มีการจัดต้ังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพิ่ม ด้านการ สนับสนุนการศึกษา โดยประสานความร่วมมือกับ สถานศึกษา และด้านการสนับสนุนอาหารกลางวันและนม ใหก้ ับเดก็ นกั เรียนอย่างท่วั ถึง ๒. ขอบเขตดา้ นตวั แปร ตัวแปรต้น คือ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบ แบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ตวั แปรตาม คือ ความคิดเห็นของประชาชน ที่มีต่อการบริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วน ตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยจะนำ ตัวช้ีวัดมาใช้เป็นเกณฑ์ในการศึกษาวิจัยท้ัง ๔ ด้าน ได้แก่ ๑) ด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการ พัฒนาการจัดการศึกษา ๒) ด้านการสนับสนุนให้มีการ จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพิ่ม ๓) ด้านการสนับสนุน การศึกษา โดยประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา และ ๔) ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้กับเด็ก นักเรียนอย่างทัว่ ถงึ
๑๘ ๓.ขอบเขตด้านประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนใน ตำบลตาจ่ันท้ัง ๑๘ หมู่บ้าน จำนวนท้ังหมด ๖,๘๕๔ คน๓ โดยจำแนกเป็น ชาย จำนวน ๓,๒๐๖ คน, หญิง จำนวน ๓,๖๔๘ คน และอยูใ่ นช่วงอายุตั้งแต่ ๒๐ – ๓๐ ปี จำนวน ๑,๑๓๙ คน, ช่วงอายุต้ังแต่ ๓๑ – ๕๙ ปี จำนวน ๔,๕๔๙ คน และอายุตงั้ แต่ ๖๐ ปีขึน้ ไป จำนวน ๑,๑๖๖ คน ๔. ขอบเขตด้านพ้นื ท่ี การวิจัยครั้งน้ีจะทำการเก็บข้อมูลท่ีองค์การ บริหารสว่ นตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสมี า ๕. ขอบเขตดา้ นระยะเวลา ในการวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยจะทำการศึกษาวิจัย ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ ถึงเดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ระยะเวลารวม ๑๒ เดอื น กรอบแนวคิดในการวิจัย งานวิจัยเรื่อง “การบริหารการจัดการศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัด ๓สำนักบรหิ ารการทะเบยี นอำเภอคง. มกราคม ๒๕๕๖.
๑๙ นครราชสีมา” ผู้วิจยั ได้ศึกษาแนวคดิ ทฤษฎแี ละงานวจิ ัยที่ เก่ียวข้องโดยนำมากำหนดเป็นกรอบแนวคิดการวิจัย (Conceptual Framework) ประกอบด้วยตัวแปรต้น ( Independent Variables) แ ล ะ ตั ว แ ป ร ต า ม (Dependent Variables) ดงั นี้ ตัวแปรต้น คือ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบ แบบสอบถามได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ตัวแปรตาม คือ การบริหารจัดการศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัด นครราชสีมา คือจะนำตัวช้ีวัดมาใช้เป็นเกณฑ์ในการ ศึกษาวิจัย ท้งั ๔ ด้าน ไดแ้ ก่ ๑) ด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ประชาชนในการพฒั นาการจัดการศึกษา ๒) ด้านการสนับสนุนให้มีการจัดต้ังศูนย์ พัฒนาเดก็ เลก็ เพิม่ ๓) ด้านการสนับสนุนการศึกษา โดย ประสานความร่วมมือกบั สถานศึกษา ๔) ดา้ นการสนับสนนุ อาหารกลางวันและ
๒๐ นม ให้กับเดก็ นกั เรยี นอย่างทวั่ ถงึ ตวั แปรตาม (Dependent ตวั แปรตน้ Variables) (Independent Variables) ข้อมูลทวั่ ไปของผตู้ อบ ก า รบ ริห า ร จั ด แบบสอบถาม ก า รศึ ก ษ า ข อ ง อ ง ค์ ก า ร บริหารส่วนตำบลส่วนตำบล - เพศ ตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัด - อายุ นครราช สีม า ใน ๔ ด้าน - สถานภาพ ดังตอ่ ไปน้ี - ระดับการศึกษา - อาชพี ๑. ด้านการส่งเสริม - รายได้ การมีส่วนร่วมของประชาชน ใ น ก า ร พั ฒ น า ก า ร จั ด - สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ๗ ท่าน การศึกษา เกี่ยวกับการบริหารจัดการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบลส่วนตำบล ๒. ด้านการสนับสนุน ตาจัน่ อำเภอคง จงั หวดั นครราชสีมา ให้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็ก เลก็ เพิม่ ๓. ด้านการสนับสนุน การศึกษา โดยประสานความ ร่วมมือกบั สถานศึกษา ๔. ด้านการสนับสนุน อาหารกลางวันและนม ให้กับ เดก็ นักเรียนอย่างทว่ั ถึง
๒๑ รปู แบบการวิจยั งานวิจัยเร่ือง “การบริหารจัดการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัด นครราชสีมา” ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) โด ย เป็ น ก าร วิ จั ย เชิ งป ริ ม า ณ (Quantitative Research) ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) แ ล ะ ก า ร วิ จั ย เ ชิ ง คุ ณ ภ า พ (Quanlitative Research) ใช้ ก า รสั ม ภ าษ ณ์ แ บ บ มี โครงสร้าง (Structure Interview) โดยมีโครงสร้างการสำ ภาษณ์ในส่วนท่ีเก่ียวกับการปฏิบัติหน้าท่ีกับผู้ให้ข้อมูล สำคญั (Key Informants) จำนวน ๗ ท่าน เครื่องมือทใี่ ช้ในการวจิ ยั เค ร่ื อ ง มื อ ท่ี ใ ช้ ใ น ก า ร วิ จั ย ไ ด้ แ ก่ แบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์ท่ี ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากแนวคิดทฤษฎีท่ีเก่ียวข้องกับการบริหาร จัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอ คง จังหวัดนครราชสีมา และแบบสัมภาษณ์เพื่อใช้เก็บ ข้ อ มู ล โด ย เป็ น แ บ บ สั ม ภ า ษ ณ์ เชิ งลึ ก (In-depth Interview)
๒๒ การวเิ คราะหข์ ้อมลู ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามโดย ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพ่ือการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ ใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดงั นี้ ๑ ) การวิเคราะห์ ข้อมูลแบ บสอบ ถาม หลังจากที่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม เรียบร้อยแล้ว นำข้อมูลที่ได้แล้วไปวิเคราะห์ข้อมูลด้วย เคร่ืองคอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อ การวจิ ัยทางสังคมศาสตร์ ดงั นี้ ส ถิ ติ พ รรณ น า (Descriptive Statistics) สำหรับอธิบายลักษณะท่ัวไป ของกลุ่มตัวอย่าง เพื่อ พรรณนาความคิดเห็นในแนวทางและนโยบายการบริหาร จัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอ คง จังหวัดนครราชสีมา โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และสถิติที่ใช้ คือ ค่าความถ่ี (Frequency), ค่าร้อยละ (Percentage), ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงมาตรฐาน (Standard Deviation) ๒) การวิเคราะห์ข้อมูลแบบสัมภาษณ์ (In- depth Interview) และจากแบบสอบถามปลายเปิด
๒๓ (Open-ended Questionnaire) เกี่ยวกับความคิดเห็น ของประชากรต่อการบริหารจัดการศึกษา ขององค์การ บริหารตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา วิเคราะหโ์ ดย ใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท (Content Analysis Techniques) ผลการวิจัย ข้อมูลเก่ียวกับสถานภาพส่วนบุคคลของ ผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็น หญิง จำนวน ๒๔๒ คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๐๒ และเป็นชาย จำนวน ๑๓๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๕.๙๘ มีอายุอยู่ ระหว่าง ๔๐-๕๙ ปี มีจำนวน ๑๔๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๐๔ มีสถานภาพสมรส มีจำนวน ๒๔๐ คน คิดเปน็ ร้อย ละ ๖๓.๔๙ มีระดับการศึกษาต่ำกว่า ม.๖ จำนวน ๒๒๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๐.๒๕ มีอาชีพเกษตรกร จำนวน ๑๖๕ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๔๓.๖๕ มีรายได้ ต่ำกว่า ๕,๐๐๐ บาท/เดอื น จำนวน ๑๒๕ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๓๓.๐๗
๒๔ ๑) สรุปนโยบายด้านการจัดการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัด นครราชสีมา นโยบายดา้ นการศึกษา - ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ใน การพฒั นาการจัดการศกึ ษา - สนับสนุนใหม้ ีการจดั ตง้ั ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเล็ก เพิ่ม - ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา โดยประสาน ความรว่ มมอื กบั สถานศกึ ษา - สนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้กับ เดก็ นักเรยี นอย่างทัว่ ถึง แผนพฒั นาการศึกษา ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘) องค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน ได้จัดทำข้ึนโดยได้กำหนดนโยบายให้มีความ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๔) และรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ รวมท้ังให้สอดคล้องกับ กรอบยุทธศาสตร์ระดับจังหวัด และสอดคล้องกับแผน
๒๕ ยุทธศาสตร์ และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน จัดให้มีการศึกษาเพื่อ พัฒนาการทางด้านสติปัญญา อารมณ์ สังคมท่ีดีและ เหมาะสม การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน การส่งเสริม การเรียนรู้ การส่งเสริมกีฬา นันทนาการและกิจกรรมเด็ก เยาวชน ด้านคุณธรรม จริยธรรม และการส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม จารีตประเพณี และภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาสามปี (พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘) ฉบับนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่นได้กำหนด แผนงาน/โครงการด้านการศึกษา และส่วนหนึ่งได้รวมรวม ข้ อ มู ล ม า จ า ก แ ผ น พั ฒ น า ท้ อ งถิ่ น ที่ เป็ น ป ร ะ โย ช น์ ต่ อ ส่วนรวมและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนใน เขตพื้นที่บริการ โดยจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพและ ศักยภาพคนในท้องถ่ินให้มีคุณลักษณะที่สามารถบูรณา การวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของ สงั คมและประเทศชาติ
๒๖ ๒) การบริหารจัดการศึกษาขององค์การ บริหารสว่ นตำบลตาจนั่ อำเภอคง จังหวัดนครราชสมี า ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ท่ี มี ต่ อ ก า ร บริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยรวมอยู่ในระดับมาก มี คา่ เฉล่ยี ๓.๕๗ เมื่อพจิ ารณาเป็นรายดา้ นสรปุ ได้ ดังน้ี ๑) ด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา ประชาชนมี ความคิดต่อการบริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหาร ส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยรวม อย่ใู นระดับมาก มคี า่ เฉล่ยี ๓.๕๕ ๒) ด้านการสนับสนุนให้มีการจัดต้ังศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กเพ่ิม ประชาชนมีความคิดต่อการบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ๓.๕๐ ๓) ด้านการสนับสนุนการศึกษาโดยประสาน ความร่วมมือกับสถานศึกษา ประชาชนมีความคิดต่อการ บริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น
๒๗ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยรวมอยู่ในระดับปาน กลาง มีคา่ เฉล่ีย ๓.๔๖ ๔) ดา้ นการสนับสนุนอาหารกลางวนั และนม ให้กับนักเรียนอย่างท่ัวถึง ประชาชนมีความคิดต่อการ บริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา โดยรวมอยู่ในระดับมาก มี คา่ เฉลีย่ ๓.๗๘ ๓) สรุปปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไขการบริหารจัดการศึกษาขององค์การ บรหิ ารสว่ นตำบลตาจัน่ อำเภอคง จงั หวดั นครราชสีมา จากการศึกษาวิจัยเรื่อง “การบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา” คร้ังน้ีทำให้ทราบถึงปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ซึง่ จำแนกเปน็ รายด้านได้ดังน้ี ด้ าน ก ารส่ งเส ริม ก ารมี ส่ ว น ร่ว ม ข อ ง ประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา พบว่า ครู- อาจารย์สอนไม่ครบตามเน้ือหาของหลักสูตรเนื่องจากมี เนื้อหามาก เด็กนักเรียนยังไม่ค่อยเข้าใจในการเรียน หนังสือ ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นส่วนน้อย อบต. ไม่
๒๘ ค่อยได้เปิดโอกาสให้ประชาชนหรือชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ในการพัฒนาการจัดการศึกษา ส่งเสริมและพัฒนา การศึกษา สอนให้มีคุณภาพตามศักยภาพ ส่งเสริมการจัด การศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ ส่งเสริมการจัดการศึกษานอก ระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย และมีการตรวจสอบ การจัดการเรียนการสอนของครโู ดยประชาชน อบต. ควร เขา้ มาสนับสนนุ ด้านงบประมาณมากขนึ้ กวา่ เดิม ด้านการสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนา เด็กเล็กเพ่ิม พบว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กยังมีไม่เพียงพอต่อ ความต้องการของแต่ละหมู่บ้าน ขาดสถานที่ในการจัดต้ัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ผู้ปกครองเด็กเล็กไม่ม่ันใจในการให้ ความรู้เบ้ืองต้นของครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และมี งบประมาณสนับสนนุ ไม่เพียงพอ ต้องมีการจัดให้มีการส่ง ผู้ดูแลเด็กเข้าอบรมเก่ียวกับการเล้ียงดูเด็กครบทุกคน พัฒนาศักยภาพของผู้ดูแลเด็กเป็นประจำทุกปี รวมถึงจัด ให้มผี ลการตรวจสุขภาพประจำปีตามเกณฑ์มาตรฐานศนู ย์ เด็กเล็ก มีการดำเนินงานจัดทำอาคารท่ีได้มาตรฐานถูก สุขลักษณะจัดทำร้ัวรอบศูนย์เด็ก จัดทำแผนรองรับกรณี
๒๙ เกดิ เหตุฉุกเฉิน เชน่ อัคคีภัย สาธารณภัยต่าง ๆ และจดั ทำ แผนพัฒนาศูนย์เด็กเลก็ โดยชมุ ชนมสี ่วนรว่ ม ด้านการสนับสนุนการศึกษาโดยประสาน ความร่วมมือกับสถานศึกษา พบว่า ปัญหาครูมีน้อย ทุนการศึกษามีน้อยเกินไป โครงการที่ดำเนินงานร่วมกับ สถานศึกษา บางคร้ังขาดการต่อเนื่องอบต. มีการบริหาร การศกึ ษายงั ไม่ทว่ั ถงึ และการทำงานของบุคลากรใน อบต. ยังขาดความทุ่มเท และเสียสละ ต้องมีการส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากร ทางการศึกษา โดยการเพิ่มพูนทักษะ ความสามารถในการ สอน เน้นวิชาการ เน้นการเรียนการสอน สร้างทักษะ และอำนวยการให้เด็กคิดได้อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ จดั กิจกรรมส่งเสริมการป้องกันโรคติดต่อสอดแทรกในการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมเสริมต่าง ๆ และ สง่ เสริม สนบั สนุนและช่วยเหลือครดู ว้ ยวิธีการต่าง ๆ ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้กับนักเรียนอย่างทั่วถึง พบว่า งบประมาณเพ่ือจัด อาหารกลางวนั ตลอดปีการศึกษามีไม่เพยี งพอ เดก็ นักเรียน ไม่ค่อยรับประทานอาหารกลางวัน และอาหารมักจะ
๓๐ เหลืออยเู่ ป็นประจำ ปัญหาเกี่ยวกับภาชนะและอุปกรณ์ใน การประกอบอาหารมีจำนวนไม่เพียงพอและคุณภาพไม่ได้ มาตรฐาน ปญั หาวัตถดุ ิบในการประกอบอาหารมีราคาแพง ในบางฤดูกาล และเด็กนักเรียนไม่ชอบดื่มนมถุง ต้องมี การสนับสนนุ ทุนอาหารกลางวัน และนมสำหรับเดก็ จัดหา ผู้ทำหน้าท่ีประกอบอาหารประจำโดยเฉพาะ มีการอบรม ด้านสุขาภิบาลอาหารของผู้ทำหน้าที่ประกอบอาหารทุกปี จัดเตรียมและปรุงอาหารเองท้ังหมด และจัดให้มีห้อง รับประทานอาหารโดยเฉพาะแยกจากห้องกิจกรรมอื่น ๆ จัดภาชนะใสอ่ าหาร นม และนำ้ ด่มื ที่ทำจากสแตนเลส สรุปองค์ความรทู้ ี่ไดร้ ับจากการวิจัย จากการศึกษาวิจัยเรื่อง การบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ผู้วิจัยได้รับองค์ความรู้ท่ีได้จากการ วิจัยครัง้ นี้ คอื ทำใหท้ ราบถงึ ระดับการบรหิ ารจัดการศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัด นครราชสีมา ตลอดถึงข้อเสนอแนะ ซึ่งนำไปสู่แนวทางใน การศึกษาให้มีประสิทธิภาพย่ิงข้ึน เพ่ือ การพัฒ นา
๓๑ การศึกษาในคร้ังต่อไป ผู้วิจัยสามารถสรุปเป็นแผนภาพ องค์ความร้ไู ด้ ดังน้ี ด้านการส่งเสรมิ การมสี ่วนรว่ มของ ด้านการสนบั สนนุ ให้มีการจัดต้งั ประชาชนในการพฒั นาการจัดการศกึ ษา ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ เพม่ิ - ปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนเห็น ความสำคัญของการศึกษาเพ่ือพัฒนาให้มี - จัดให้ผู้ดูแลเด็กเข้าอบรมเกี่ยวกับการ คุณภาพตามศักยภาพ เล้ยี งดเู ด็ก และตรวจสุขภาพประจำปี - จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษ การศึกษา - จัดทำอาคารท่ีได้มาตรฐาน จัดทำร้ัว นอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั รอบศูนย์เด็ก จัดทำแผนรองรับเหตุ - มีการตรวจสอบการจัดการเรียนการสอน ฉุกเฉนิ ของครโู ดยประชาชน - มีนโยบายในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็ก เล็กเพ่ือการขยายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ มีคณุ ภาพสงู สดุ การบริหารจัดการศึกษาของ องค์การบริหารสว่ นตำบลตาจน่ั อำเภอคง จงั หวดั นครราชสมี า ดา้ นการสนบั สนนุ การศกึ ษาโดยประสาน ด้านการสนบั สนนุ อาหารกลางวนั และ ความร่วมมอื กับสถานศกึ ษา นม - ประสานความร่วมมือกับสถานศึกษาเพื่อ ใหก้ ับเดก็ นักเรยี นอยา่ งท่ัวถึง พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากร - สนับสนุนทุนอาหารกลางวัน และนม ทางการศกึ ษา สำหรบั เด็ก - มีนโยบายจัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษา - จัดหาผู้ทำหน้าที่ประกอบอาหาร ใหก้ บั สถานศกึ ษาในพ้ืนที่ ประจำโดยเฉพาะ มีการอบรมด้าน - ส่งเสริมครูให้มีทักษะด้านการสำรวจ สขุ าภิบาล ตรวจสอบการจดั การเรียนการสอน - จั ด ให้ มี ห้ อ งรับ ป ระ ท าน อ าห าร โดยเฉพาะ และใช้ภาชนะใส่อาหาร/นม/ ภาชนะท่ีทำจากสแตนเลส
๓๒ อภปิ รายผลการวิจัย ผลการศึกษาค้นคว้าข้อมูล การวิจัยเร่ือง “การบริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตา จั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา” มีประเด็นการอภิ ปลายผล ดงั น้ี ๑) จากผลการวิจัย พบว่า การบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบล ตาจ่ัน อำเภอคง จงั หวดั นครราชสีมา โดยรวมอยใู่ นระดับมาก เม่ือพิจารณา เป็นรายด้านสรุปได้ ดังนี้ คือ ด้านการส่งเสริมการมีส่วน ร่วมของประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา ด้าน การสนับสนุนให้มีการจัดต้ังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพ่ิม และ ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้กับนักเรียน อย่างทั่วถึง ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบล ตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสมี า โดยรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการ ส นั บ ส นุ น ก า ร ศึ ก ษ า โ ด ย ป ร ะ ส า น ค ว า ม ร่ ว ม มื อ กั บ สถานศึกษา อยู่ในระดับปานกลาง ซ่ึงไม่สอดคล้องกับ งานวิจัยของ พระจริญ จิรสุโภ (เมืองประทับ) ท่ีได้ ศกึ ษาวิจัยเร่ือง “การบริหารงานตามหลกั ธรรมาภบิ าลของ
๓๓ เทศบาลเมอื งบางกรวย จังหวดั นนทบุรี” ผลการวจิ ยั พบว่า การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลเมืองบาง กรวย จังหวัดนนทบุรีทั้ง ๖ ด้าน คือ หลักนิติธรรม หลัก คุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลัก รับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า พบว่า บุคลากรมีความ คิดเห็นว่า เทศบาลเมืองบางกรวย มีการบริหารงานตาม หลักธรรมภิบาล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เม่ื อ พิจารณารายละเอียดแต่ละด้านพบว่า มีการบริหารงาน ตามหลักธรรมาภบิ าลอยู่ในระดบั มากทุกด้าน๔ เม่ือพิ จารณ าผลการวิจัยเป็นรายด้าน สามารถนำมาอภิปรายผลการวจิ ยั ไดด้ งั นี้ (๑) ด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา พบว่า ความ คิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อการบริหารจัดการศึกษาของ ๔พ ระ จ ริญ จิ รสุ โภ (เมื อ งป ระ ทั บ ) , “ก าร บริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลเมือง บางกรวย จงั หวัดนนทบรุ ี”, พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, (รัฐประศาสนศาสตร์), (บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๒).
๓๔ องค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัด นครราชสมี า ด้านการส่งเสรมิ การมีสว่ นร่วมของประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก แสดงให้เห็นว่า องค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา มีการบริหารจัดการพัฒนาการจัด การศึกษาที่มีการพัฒนาที่ดีและมีความเหมาะสมดีอยู่แล้ว ในการปฏิบัติหน้าท่ี แต่ก็อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้างจึงทำ ให้ไม่อาจท่ีจะบริหารจัดการศึกษา ในระดับมากท่ีสุด แต่ก็ ถือว่าที่ปฏิบัติอยู่น้ันดีแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ประเสริฐ ลาวัลย์วิสุทธิ ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การจัดการ ศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามความคิดเห็นของ สมาชกิ อบต. ผลการวิจัยพบว่า ความต้องการเกีย่ วกับการ จัดการศึกษาของสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามความคิดเห็น ของสมาชิก อบต. ในด้านงานวิชาการ ต้องการให้ สถานศึกษาปรับหลักสูตร พัฒนากระบวนการเรียนการ สอน ให้ น ำส่ือ น วัต กรรม และเท คโน โลยีม า ด้ าน งบประมาณให้ทำตามระเบียบของราชการและ ด้านการ บริหารงานบุคคล ใหส้ ถานศึกษาจดั ทำแผนการรับนักเรยี น เพ่ือกำหนดอัตราครู การสรรหาและบรรจุแต่งต้ังให้มี
๓๕ คณะกรรมการ ให้ครูยึดจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นแนว ปฏิบัติตน ด้านงานบริหารท่ัวไป ให้นำเทคโนโลยีมาใช้ใน การจัดทำขอ้ มลู พื้นฐานของโรงเรียน ด้านงานวิชาการควร จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโดยจัดประชุมสัมมนาเชิง ปฏิบัติการ พัฒนาครูและจัดหาเอกสารให้ครูได้ศึกษาดัวย ตนเองใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชน ด้านงบประมาณให้ยึด ระเบียบของราชการโดยการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ด้านการบริหารงานบุคคล การสรรหาและบรรจุแต่งตั้งครู ให้สถานศึกษามีสว่ นร่วม๕ (๒) ด้านการสนับสนุนให้มีการจัดต้ังศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กเพ่ิม พบว่า ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมี ต่อค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับความคิดเห็น เก่ียวกับการบริหารจัดการศึกษาขององค์การบริหารส่วน ตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ด้านการ สนับสนุนให้มีการจดั ต้งั ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพิ่ม โดยรวมอยู่ ๕ประเสริฐ ลาวัณย์วิสุทธิ์, “การจัดการศึกษาของ สถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐานตามความคิดเปน็ ของสมาชิกองค์การบรหิ าร ส่วนตำบล”, การค้นหว้าอิสระ, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (บัณฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, ๒๕๕๐).
๓๖ ในระดบั มาก แสดงให้เหน็ ว่ามีความเหมาะสมทด่ี อี ยแู่ ล้วใน การปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็อาจมีองค์ประกอบบางอย่างที่ทำให้ การบริหารไม่ประสบความสำเร็จในระดับมากที่สุด แต่ก็ ถือว่าท่ีปฏิบัติอยู่น้ันดีแล้ว ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ พ ระวีระ สุนฺท โร (โสธร) ผลการวิจัยพ บ ว่า การ บริหารงานด้านการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน อาชีวะศึกษาเอกชน สงั กัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการศึกษาเอกชนนนทบุรี เขต ๑ ในคร้ังนี้ ผล การศกึ ษาการบรหิ ารงานด้านการจัดการเรยี นการสอนของ โรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนตามความคิดเห็นของครูผู้สอน และนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ท้ังน้ีอาจเป็น เพราะว่าในปัจจุบนั น้ี การจดั การเรียนการสอนโรงเรียนทุก สถาบันมีการพัฒนาปรับปรุงในด้านต่างๆ ท้ังน้ีในการ บริหารจัดการเรียนการสอนท้ัง ๖ ด้านดังกล่าว จาก การศึกษาตามความเห็นของครูผู้สอน และนักเรียน โดยเฉพาะดา้ นวิธกี ารสอน มีค่าอยใู่ นระดับมาก๖ ๖พระวีระ สุนฺทโร (โสธร), “การบริหารงานด้าน การจัดการเรียนการสอนโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนสังกัดสำนัก บริหารงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นนทบุรี
๓๗ (๓ ) ด้าน การสนั บ สนุ น การศึกษ าโดย ประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา พบว่า ประชาชนมี ค ว า ม คิ ด เห็ น ว่ า ก า ร บ ริ ห า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า ข อ ง อ ง ค์ ก า ร บริหารส่วนตำบลตาจั่น อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ด้านการสนับสนุนการศึกษาโดยประสานความร่วมมือกับ สถานศึกษา โดยรวม อยู่ในระดับมาก ซ่ึงสอดคล้องกับ งานวิจัยของ ประสิทธิ์ บัวแย้ม ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง “การ จัดการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ของครูมัธยมศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ” ผลการวิจัยพบว่า การจัดการเรียนการสอนเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายของ หลักสูตรของครูมัธยมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ โดยรวมอยู่ ในระดับมาก๗ เขต ๑”, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๕๒). ๗ประสิทธิ์ บัวแยม้ “เร่ืองการจดั การเรียนการสอน เพื่อให้บรรลุจุดหมายของหลักสูตรมัธยมศึกษาในจังหวัดศรีสะ เกษ” คณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, (พัฒนาสังคม,๒๕๔๐).
๓๘ (๔) ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวันและ นม ให้กับนักเรียนอย่างทั่วถึง พบว่า พบว่า ประชาชนมี ความคิดเห็นว่าการบริหารจัดการศึกษาขององค์การ บริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้กับนักเรียน อย่างท่ัวถึง โดยรวม อยู่ในระดับมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับ งานวิจัยของ ณทพงษ์ วิยะรันดร์ ศึกษาเรื่อง “ความ คิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานขององค์การ บริหารส่วนตำบล ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี” พบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองข้าง คอก อำเภอเมอื ง จงั หวัดชลบุรี อยู่ในระดับปานกลาง และ ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานของ องค์การบริหารส่วนตำบล หนองข้างคอก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ระหว่างเพศชายกับเพศหญิง ไม่แตกต่างกัน ในทุกดา้ น๘ ๘ณทพงษ์ วยิ ะรันดร์, “ความคิดเห็นของประชาชน ท่ีมีต่อการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบล ตำบลหนอง ข้างค อก อ ำเภ อเมื อง จั งห วัด ชล บุ รี”, วิท ยานิ พ น ธ์รัฐ
๓๙ ข้อเสนอแนะ ๑. ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย จากการศึกษาวิจัยเร่ือง “การบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา” ผู้วิจัยขอเสนอประเด็นที่ควรกำหนด เปน็ นโยบายเพอ่ื ให้ผ้ทู ่เี กยี่ วขอ้ งได้นำไปใช้ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ประชาชน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา องค์การบริหาร ส่วนตำบลควรเสนอแนะกรอบแนวคิด แผนงานและ มาตรการเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนใน กลุ่มเปา้ หมายหลัก ส่งเสรมิ การรวมตัวเปน็ กล่มุ องค์กรหรือ เครือข่าย รวมทั้งให้การสนับสนุนทางเทคนิควิชาการ สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการฟ้ืนฟูคุณภาพ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุล เพื่อการพัฒ นาอย่างยั่งยืน ให้คำปรึกษาเสนอแนะ ม า ต ร ก า ร ท า ง วิ ช า ก า ร แ ล ะ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใช้ เท ค โ น โ ล ยี ที่ เห ม า ะ ส ม เพ่ื อ ส่ ง เส ริ ม ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑติ วทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยศรี ปทมุ วิทยาเขตชลบรุ ี, ๒๕๔๘).
๔๐ ป ฏิ บั ติ ง า น ร่ ว ม กั น ห รื อ ส นั บ ส นุ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ข อ ง หนว่ ยงานอน่ื ที่เก่ยี วขอ้ งหรือที่ไดร้ บั มอบหมาย (๒) ด้านการสนับสนุนใหม้ ีการจัดตั้งศนู ย์ พัฒนาเด็กเล็กเพ่ิม องค์การบริหารส่วนตำบลควรจัดเวที ประชาคม เพ่ือสำรวจความต้องการของชุมชน ให้ คณะกรรมการบริหารศูนยพ์ ัฒนาเด็กเลก็ เป็นสถานศึกษาท่ี ให้การอบรมเล้ียงดูจัดประสบการณแ์ ละสง่ เสริมพฒั นาการ เรียนรู้ให้เด็กเล็กได้รับการพัฒนา ท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาท่ีเหมาะสมตามวัยตาม ศกั ยภาพของเดก็ แตล่ ะคน (๓) ด้านการสนับสนุนการศึกษาโดย ประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา องค์การบริหารส่วน ตำบลควรประสานความร่วมมือ ช่วยเหลือในการพัฒนา วิชาการกับสถานศึกษาของรฐั เอกชน และองคก์ รปกครอง ส่ วน ท้ อ งถ่ิ น ท้ั งท่ี จั ด ก ารศึ ก ษ าข้ั น พ้ื น ฐ าน แ ล ะ ระดับอุดมศึกษาท้ัง บริเวณใกล้เคียง ภายในเขตพื้นท่ี การศึกษา ต่างเขตพ้ืนที่การศึกษา ตลอดจนสร้างเครื่อง ข่ายความรว่ มมือในการพัฒนาวชิ าการกับองค์กรต่าง ๆ
๔๑ (๔) ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวัน และนมให้กับนักเรียนอย่างท่ัวถึง องค์การบริหารส่วน ตำบลควรจัดทำนโยบายสนับสนุนอาหารกลางวันและนม ให้ภาวะโภชนาการของนักเรียนพร้อมสำหรับการเรียนรู้ รวมทั้งนโยบายดังกล่าวยังช่วยลดภาระให้กับผู้ปกครอง ของเด็กดว้ ย ๒) ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏบิ ัติ (๑) คณะบุคลากรขององค์การบริหาร ส่ วน ต ำบ ล ควร มีคว ามรู้ค วาม เข้าใจเกี่ย ว กับ ก ารพั ฒ น า การศึกษา เพื่อที่จะนำเอาองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ในการ บริหารงานขององค์การบริหารส่วนตำบลได้ รวมถึง สามารถปฏิบตั ิใหเ้ ป็นแบบอยา่ งแกป่ ระชาชนในพื้นที่ได้ (๒) ด้านการสนับสนุนให้มีการจัดต้ังศนู ย์ พัฒนาเด็กเล็กเพิ่ม องค์การบริหารส่วนตำบลควรจัดให้มี การปฐมนิเทศหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้ดูแลเด็ก และผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก และส่งเสริมสนับสนุนการให้ ทุนการศึกษาแก่หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้ดูแลเด็ก ผู้ช่วยครูผ้ดู ูแลเด็ก และพนักงานจ้างในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตามสมควร
๔๒ (๓) ด้านการสนับสนุนการศึกษาโดย ประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา องค์การบริหารส่วน ตำบลควรสำรวจแหล่งการเรียนรู้ที่เก่ียวข้องกับการพัฒนา คณุ ภาพการศึกษาท้ังในสถานศึกษา ชุมชน ทอ้ งถ่ิน ในเขต พื้นท่ีการศึกษา และเขตพ้ืนที่การศึกษาใกล้เคียง เพื่อ พัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่ทำให้เกิดองค์ความรู้ และประสาน ความร่วมมือสถานศึกษาอื่นเพื่อพัฒนาแหล่งเรียนรู้ท่ีใช้ รว่ มกัน (๔) ด้านการสนับสนุนอาหารกลางวัน และนม ให้กับนักเรียนอย่างทั่วถึง องค์การบริหารส่วน ตำบลควรจัดสรรงบประมาณ งบเงินอุดหนุน ค่าอาหาร กลางวัน ค่าอาหารเสริม (นม) และค่าสนับสนุนกิจกรรม ศูนย์เด็กเล็ก รวมท้ังเจ้าหน้าท่ี อบต. ควรลงพื้นที่เพื่อเข้า ร่วมกิจกรรมกับศูนย์เด็กเลก็ ใหม้ ากข้ึน ๓. ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การวจิ ยั ครั้งตอ่ ไป จากการศึกษาวิจัยเรื่อง “การบริหารจัด การศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจ่ัน อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา” ผู้วิจัยขอเสนอให้ผู้ท่ีสนใจ ได้นำไป ศึกษาวิจยั คร้งั ต่อไปในประเดน็ ดังต่อไปนี้
๔๓ (๑) ควรทำการศึกษาวิจัยการมีส่วนร่วม ของประชาชนในการแก้ไขการบริหารจัดการศึกษาของ องค์การบริหารส่วนตำบล (๒) ควรทำการศึกษาวิจัยปัจจัยท่ีมีผลต่อ ความสำเร็จของโครงการแก้ไขการบรหิ ารจดั การศึกษาของ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล (๓) ควรทำการศึกษาวิจัยศักยภาพของ องค์การบริหารส่วนตำบลในการพัฒนาท้องถิ่นแบบบูรณา การเพอื่ แก้ไขปญั หาการบรหิ ารจดั การศึกษา (๔) ควรทำการศึกษาวิจัยการแก้ไข ปัญหาการบริหารจัดการศึกษาอย่างยั่งยืนตามหลักธรรม ทางพระพุทธศาสนา
๔๔ บรรณานุกรม ๑. ภาษาไทย (๑) วิทยานิพนธ์ สำนักบรหิ ารการทะเบียนอำเภอคง. มกราคม ๒๕๕๖. พระจริญ จิรสุโภ (เมืองประทับ). “การบริหารงานตาม หลักธรรมาภิบาลของเทศบาลเมืองบาง กรวย จังหวัดนนทบุรี”. พุ ท ธศาสตร มหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), บัณฑิต วิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลยั , ๒๕๕๒. ป ระเสริฐ ลาวัณ ย์วิสุท ธ์ิ . “การจัดการศึกษ าของ สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานตามความคิดเป็นของ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล”. การค้น หว้าอิสระ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๐. พระวีระ สุนฺทโร (โสธร). “การบริหารงานด้านการจัดการ เรียนการสอนโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชน สังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการการ
๔๕ ส่งเสริมการศึกษาเอกชน นนทบุรี เขต ๑”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณ ฑิต . บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๒. ประสิทธ์ิ บัวแย้ม “การจัดการเรียนการสอนเพ่ือให้บรรลุ จุดหมายของหลักสูตรมัธยมศึกษาในจังหวัด ศ รีส ะเก ษ ” วิ ท ย านิ พ น ธ์ ศิ ป ศ าส ต ร มหาบัณฑิต คณะพัฒนาสังคม. สถาบัน บณั ฑิต พัฒนบรหิ ารศาสตร์, ๒๕๔๐. ณทพงษ์ วิยะรันดร์. “ความคิดเห็นของประชาชนท่ีมีต่อ การบริหารงานขององค์การบริหารส่วน ตำบล ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมือง จั ง ห วั ด ช ล บุ รี ”. วิ ท ย า นิ พ น ธ์ รั ฐ ประศาสนศาสตรมหาบัณ ฑิต. บัณฑิต วิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขต ชลบุรี, ๒๕๔๘.
๔๖ ๒. เอกสารที่ไม่ได้พมิ พ์เผยแพร่ : วิลาวัลย์ ขำนอก. การศึกษาและแผนพัฒนาการศึกษา ขององค์การบริหารส่วนตำบลตาจั่น . เอกสารประกอบการประชุมฉบับพิมพ์โร เนยี ว, ๒๕๕๖. สำนกั บริหารการทะเบียนอำเภอคง, มกราคม ๒๕๕๖. ๓. เวปไซต์ สำนกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา. วารสารการศึกษาไทย , [ออนไลน์]. ๒ ย่อหน้า ๕ (๕๐) : ๒ ย่อ ห น้ า , แ ห ล่ ง ท่ี ม า : http://www.moe.go.th/moe/th/news/ detail.php?NewsID= 7 3 6 0 &Key= news_research [ประจำเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑].
๔๗
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: