ณ บา้ นหลงั หน่ึงท่ดี ูเหมอื นจะสงบสุข หวั หน้าของพวกหนู ไดล้ นั่ ระฆงั เรยี กพวกพอ้ งมาประชุมหารอื เก่ยี วกบั การป้องกนั ตวั จาก เจ้าแมวตัวแสบท่ีเจ้าของบ้านเล้ียงไว้ ซ่ึงถือเป็นศัตรูตวั ร้ายท่ีชอบ ระรานไมม่ ที ที า่ วา่ จะเลกิ ลา “วนั นี้เราจะมาหารือกนั เรื่องวิธีรบั มือกบั เจ้าแมวตวั แสบท่ีคอยกลนั่ แกล้งพวกเรา กนั ” หวั หน้าของพวกหนูกลา่ ว “ข้าว่าเราจะต้องมีมาตรการป้ องกนั ที่เดด็ ขาดกนั แล้วล่ะท่าน ไม่อยา่ งนัน้ พวก ลกู ๆ ของข้าจะต้องอย่อู ยา่ งหวาดกลวั แบบนี้ไปตลอดแน่ ๆ” พอ่ หนูตวั หน่ึงกลา่ ว
“พวกเราประชมุ กนั มาคร่ึงวนั แล้ว แต่กย็ งั ไม่ได้ข้อสรปุ ที่ชดั เจน ข้าจึงอยากถามความคิดเหน็ ของสมาชิกคนอื่น ๆ ว่าพวกเราควรจะจดั การกบั เจ้าแมวตวั นี้อยา่ งไรดี หากใครมีความคิดดี ๆ กส็ ามารถเสนอมาได้เลย” หวั หน้าของพวกหนูกลา่ ว เม่อื ไดย้ นิ ดงั นนั้ บรรดาสมาชกิ หนูทกุ ตวั กช็ ว่ ยกนั ออกความคดิ เหน็ อยา่ งเตม็ ท่ี แต่กย็ งั ไมไ่ ดข้ อ้ สรปุ เสยี ที ทนั ใดนนั้ เองกม็ เี จา้ หนูตวั หน่ึงลกุ ขน้ึ และพดู วา่ “ข้าคิดว่าที่พวกเราโดนกลนั ่ แกลง้ แบบนี้เป็ นเพราะว่าเราเป็ นแค่หนูตวั เลก็ ๆ ส่วน เจ้าแมวตวั ใหญ่กช็ อบหลบอยตู่ ามมมุ ต่าง ๆ เพ่ือเฝ้ ารอพวกเราเดินออกมาหาอาหารแล้ว จากนัน้ กว็ ิ่งไล่เหมือนพวกเราเป็นของเล่นโดยไม่มีสญั ญาณเตือน” เจา้ หนูตวั นนั้ กลา่ ว
“กจ็ ริงอย่างท่ีเจ้าพดู แล้วแบบนี้เราควรจะมีวิธีป้ องกนั เจ้าแมวตวั นี้อยา่ งไรล่ะ ?” หวั หน้า ของพวกหนูกลา่ วถาม “ข้ามีความคิ ดว่าเราต้ องมีเครื่องส่ ง สญั ญาณเพ่ือที่จะได้รู้ว่าเจ้าแมวตวั นัน้ อยู่ ตรงบริเวณไหนของบ้าน โดยนาริบบิ้น คล้องกระดิ่งไปผกู ไว้ที่คอของเจ้าแมวตวั แสบ” เจา้ หนูกลา่ ว เหลา่ สมาชกิ หนูทุกตวั ทอ่ี ยใู่ นทป่ี ระชุม ต่างลุกข้นึ ปรบมือ และเห็นต้วยกบั ความคิด ของเจา้ หนูตวั นัน้ แต่ทุกอย่างกลบั เงยี บลงอกี ครงั้ เม่อื ไดย้ นิ เสยี งของหนูชราตวั หน่ึง
“ความคิดของเจา้ นัน้ เฉียบแหลม แต่ทว่าใครจะเป็นคนเอากระดิ่งไปผกู คอเจา้ แมวตวั นัน้ กนั ล่ะ ?” หนูชรากลา่ วถาม เมอ่ื หนูชราพดู จบ บรรดาหนูทกุ ตวั ต่างเงยี บและมองหน้ากนั เน่อื งจาก ไมม่ ใี คร กลา้ ทจ่ี ะเอากระดงิ่ ไปผกู คอแมวตวั นนั้ รวมถงึ เจา้ หนูทอ่ี อกความคดิ เหน็ ดว้ ย การประชมุ จงึ จบลงโดยไมไ่ ดข้ อ้ สรปุ และไมไ่ ดว้ ธิ รี บั มอื กบั เจา้ แมวตวั แสบ พวกหนูจงึ ตอ้ งใชช้ วี ติ ดว้ ยความหวาดระแวงเหมอื นเชน่ เคยตอ่ ไป
นิทานเร่อื งนี้สอนให้รวู้ ่า : การทเ่ี จา้ หนูตวั หน่งึ ออกความคดิ ใหน้ ากระดงิ่ ไปผกู ไวท้ ค่ี อของแมว แต่กลบั ไม่ มใี ครกลา้ ทจ่ี ะนากระดง่ิ ไปผกู รวมถงึ เจา้ หนูทอ่ี อกความคดิ เหน็ นัน้ ดว้ ย เรยี กว่า ดแี ต่ พูด แต่ทาไม่ได้ ซง่ึ ตรงกบั สุภาษติ ทว่ี ่า “ละเลงขนมเบ้อื งดว้ ยปาก” หมายถงึ คนทม่ี กั พดู จาเหมอื นกบั วา่ อะไรต่าง ๆ สามารถทาไดง้ า่ ย หรอื ดงู า่ ยไปเสยี หมด แต่ในความจรงิ แลว้ เป็นสง่ิ ทท่ี าไดย้ าก แถมตวั เองกท็ าไมไ่ ดอ้ กี ดว้ ย ดงั นนั้ เรอ่ื งใด ๆ กต็ าม หากคดิ ว่า ตวั เองก็ยงั ทาไม่ได้ ไม่ควรพูดจะดกี ว่า เพราะผู้อ่ืนจะมองว่าเราเป็นคนชอบโอ้อวด นนั่ เอง ขอบคณุ ขอ้ มลู จาก : read.gov
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: