Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขั้นตอนของวงจรการพัฒนาโปรแกรม

ขั้นตอนของวงจรการพัฒนาโปรแกรม

Published by nuy14360, 2020-12-09 02:53:45

Description: ขั้นตอนของวงจรการพัฒนาโปรแกรม

Search

Read the Text Version

วงจรการพฒั นาโปรแกรม จัดทำโดย นำงสำวฟำรีดะห์ ยำมำลำ๊ ะ ชน้ั ปวส 2/1 แผนกวชิ ำ คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ

6 ข้นั ตอนของวงจรการพฒั นาโปรแกรม 1. ข้นั วเิ คราะห์ความต้องการ (Requirement Analysis and Feasibility Study) 2. ข้นั วางแผนแก้ไขปัญหา (Algorithm Design) 3. ข้นั ดาเนินการเขยี นโปรแกรม (Program Coding) 4. ข้นั ทดสอบและแก้ไขโปรแกรม (Program Testing and Debugging) 5. ข้นั การเขยี นเอกสารประกอบ (Documentation) 6. ข้นั บารุงรักษาโปรแกรม (Program maintenance)

1. ข้ันวเิ คราะห์ความต้องการ (Requirement Analysis and Feasibility Study) ข้นั ตอนน้ีเป็นข้นั ตอนแรกสุดท่ีนกั เขียนโปรแกรม จะตอ้ งทาก่อน ลงมือเขียนโปรแกรม เพ่อื ทา ความเขา้ ใจกบั ปัญหาท่ีเกิดข้ึน และคน้ หา จุดมุ่งหมาย หรือส่ิงที่ตอ้ งการ ข้นั ตอนน้ีถือวา่ เป็นข้นั ตอนท่ี สาคญั ที่สุด ก่อนถึงข้นั ตอนการวางแผนแกไ้ ขปัญหา และดาเนินการเขียนโปรแกรม โดยในข้นั วเิ คราะหค์ วามตอ้ งการจะใชเ้ ทคนิค \"การวเิ คราะหง์ าน\" มาตรวจสอบและวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการ ดงั น้ี

2. ข้ันวางแผนแก้ไขปัญหา หรือการออกแบบโปรแกรม (Algorithm Design) ข้นั ตอนการวางแผนแกไ้ ขปัญหา เป็นข้นั ท่ีมีการใชเ้ ครื่องมือมา ช่วยในการแกไ้ ขปัญหา จะทาใหข้ ้นั ตอนการเขียนโปรแกรมมีความผดิ พลาด นอ้ ยลง ซ่ึงเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการตรวจสอบ การทางานของโปรแกรม น้นั จะ ทาให้ ทราบข้นั ตอน การทางานของโปรแกรมไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ถา้ เราจะเปรียบเทียบการเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างบา้ นแลว้ ข้นั ตอนการวางแผนแกไ้ ข ปัญหาน้ี เป็นเหมือนการออกแบบแปลนบา้ น ลงใน กระดาษ เพอื่ จะไดน้ าไปสร้างบา้ น ในลาดบั ไป ซ่ึงข้นั ตอนการวางแผนแกไ้ ขปัญหาน้ี ผอู้ อกแบบการแกไ้ ขปัญหา สามารถนาเคร่ืองมือมา ช่วยในการแกไ้ ขปัญหาได้ โดยมีอยหู่ ลายตวั ตามความถนดั หรือความชอบ ซ่ึงเครื่องมือเหล่าน้ี ไดแ้ ก่ 2.1 อลั กอริทมึ (Algorithm) คือรูปแบบของการกาหนดการทางานอยา่ งเป็นข้นั ตอน ซ่ึงผา่ นการวเิ คราะหแ์ ละแยกแยะ เพ่อื การแกป้ ัญหาต่าง ๆ ตามลาดบั ข้นั อาจเลือกใชภ้ าษาไทยหรือภาษาองั กฤษตามความถนดั เพอ่ื นาเสนอข้นั ตอนของกิจกรรมกไ็ ด้ 2.2 ผงั งาน (Flowchart) คือแผนภาพท่ีใชแ้ สดงลาดบั ข้นั ตอนการทางานของโปรแกรม ซ่ึงจะใชภ้ าพสัญลกั ษณ์ส่ือ ความหมาย แต่ละข้นั ตอนของการทางาน และจะใชล้ กู ศรส่ือถึงทิศทางการเดินทางของลาดบั การทางาน ซ่ึงจะทาใหท้ ราบข้นั ตอนและลาดบั การทางานของโปรแกรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2.3 รหสั จาลอง หรือรหัสเทยี ม (Pseudo-code) คือ การเขียนโปรแกรมในรูปแบบภาษาองั กฤษท่ีมีข้นั ตอนและรูปแบบแน่นอนกะทดั รัด และมองดูคลา้ ยภาษาระดบั สูงที่ใชก้ บั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ซ่ึงรหสั เทียมน้นั จะไม่เจาะจงสาหรับ ภาษาใดภาษาหน่ึงโครงสร้างของรหสั เทียม จึงมีส่วนท่ีคลา้ ยคลึงกนั กบั การเขียนโปรแกรมมาก

3. ข้ันดาเนินการเขียนโปรแกรม (Program Coding) ข้นั ตอนน้ีเป็นการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ ภาษาใดภาษาหน่ึงข้ึนมา โดย เลือกใชภ้ าษาท่ีเหมาะสมกบั ลกั ษณะ ประเภทของงาน และความถนดั ของผเู้ ขียน เช่นถา้ เป็นงาน ทางดา้ น ธุรกิจ กเ็ ลือกภาษาโคบอล ถา้ เป็นการพิมพร์ ายงาน กเ็ ลือกภาษา อาร์พีจี หรือถา้ จะเขียน โปรแกรมบนเวบ็ กจ็ ะใชภ้ าษา ASP , PHP เป็นตน้

4. ข้ันทดสอบและแก้ไขโปรแกรม (Program Testing and Debugging) ข้นั ตอนน้ีเป็นการตรวจสอบจุดผดิ พลาดของโปรแกรม (Bugs) ท่ีเขียนข้ึน และดาเนินการ แกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดน้นั เรียกกระบวนการน้ีการ Debugs โปรแกรมที่ทางานไม่ไดต้ ามวตั ถุประสงค์ เรียกวา่ โปรแกรมมี Error เกิดข้ึน Error ของโปรแกรมมกั มีมาจาก 3 สาเหตุใหญ่ ๆ คือ 4.1 ขอ้ ผดิ พลาดทางไวยากรณ์ของภาษา (Syntax Error) 4.2 ขอ้ ผดิ พลาดท่ีเกิดจากตรรกะโปรแกรมผดิ (Logical Error) 4.3 ขอ้ ผดิ พลาดในระหวา่ งการรันโปรแกรม (Run-time Error)

5. ข้ันการเขยี นเอกสารประกอบ (Documentation) การทาเอกสารประกอบโปรแกรม คือ การอธิบายรายละเอียดของโปรแกรมวา่ จุดประสงคข์ อง โปรแกรมคืออะไร สามารถทางานอะไรไดบ้ า้ ง และมีข้นั ตอนการทางานของโปรแกรมเป็นอยา่ งไร ฯลฯ เครื่องมือท่ีช่วยในการออกแบบโปรแกรมเช่น ผงั งาน หรือ รหสั จาลอง กส็ ามารถนามาประกอบกนั เป็น เอกสารประกอบโปรแกรมได้ ซ่ึงเอกสารประกอบโปรแกรมโดยทวั่ ไปจะมีอยู่ ดว้ ยกนั 2 แบบคือ 5.1 เอกสารประกอบโปรแกรมสาหรับผู้ใช้ (User Documentation) จะเหมาะสาหรับผใู้ ชท้ ่ีไม่ ตอ้ งเก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นาโปรแกรม แต่เป็นผทู้ ่ีใชง้ านโปรแกรมอยา่ งเดียว จะเนน้ การอธิบายเก่ียวกบั การ ใชง้ านโปรแกรม เป็นหลกั ตวั อยา่ งเช่น 1. โปรแกรมน้ีทาอะไร ใชง้ านในดา้ นไหน 2. ขอ้ มลู เขา้ มีลกั ษณะอยา่ งไร 3. ขอ้ มลู ออกหรือผลลพั ธ์มีลกั ษณะอยา่ งไร 4. การเรียกใชโ้ ปรแกรมทาอยา่ งไร 5. คาสั่ง หรือขอ้ มลู ท่ีจาเป็นใหโ้ ปรแกรมเร่ิมทางาน มีอะไรบา้ ง 6. อธิบายเก่ียวกบั ประสิทธิภาพ และความสามารถของโปรแกรม 5.2 เอกสารประกอบโปรแกรมสาหรับผู้เขยี นโปรแกรม (Technical Documentation) จะเหมาะ สาหรับผใู้ ชท้ ี่ไม่ตอ้ งเกี่ยวขอ้ งกบั การพฒั นาโปรแกรม แต่เป็นผทู้ ่ีใชง้ านโปรแกรมอยา่ งเดียว จะเนน้ การ อธิบายเก่ียวกบั การใชง้ านโปรแกรมเป็นหลกั ตวั อยา่ งเช่น 1. ส่วนท่ีเป็นคาอธิบายหรือหมายเหตุในโปรแกรมหรือเรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ คอมเมนท์ (Comment) ซ่ึงส่วนใหญ่มกั จะเขียนแทรกอยใู่ นโปรแกรม อธิบายการทางานของโปรแกรมเป็นส่วน ๆ 2. ส่วนอธิบายดา้ นเทคนิค ซ่ึงส่วนน้ีมกั จะทาเป็นเอกสารแยกต่างหากจาก โปรแกรม จะอธิบาย ในรายละเอียดท่ีมากข้ึน เช่น ชื่อโปรแกรมยอ่ ยต่าง ๆ อะไรบา้ ง แต่ละโปรแกรมยอ่ ยทาหนา้ ท่ีอะไร และ คาอธิบายยอ่ ๆ เกี่ยวกบั วตั ถุประสงคข์ องโปรแกรม เป็นตน้

6. ข้ันบารุงรักษาโปรแกรม (Program Maintenance) ข้นั ตอนน้ีคือข้นั ตอนสุดทา้ ยเม่ือโปรแกรมผา่ นการตรวจสอบตามข้นั ตอนเรียบร้อยแลว้ และถูกนามาใหผ้ ใู้ ชไ้ ดใ้ ชง้ าน ในช่วงแรกผใู้ ชอ้ าจจะยงั ไม่คุน้ เคยกอ็ าจทาใหเ้ กิดปัญหาข้ึนมา บา้ ง ดงั น้นั จึงตอ้ งมีผคู้ อยควบคุมดูแลและคอยตรวจสอบการทางาน การบารุงรักษาโปรแกรมจึง เป็นข้นั ตอนที่ผเู้ ขียนโปรแกรม ตอ้ งคอยเฝ้ าดู และหาขอ้ ผดิ พลาด ของโปรแกรมในระหวา่ งท่ี ผใู้ ชใ้ ชง้ านโปรแกรมและปรับปรุงแกไ้ ขโปรแกรมเม่ือเกิดขอ้ ผดิ พลาดข้ึน หรือในการใชง้ านโปรแกรมไปนาน ๆ ผใู้ ชอ้ าจตอ้ งการ เปล่ียนแปลงการทางานของ ระบบเดิมเพือ่ ใหเ้ หมาะสมกบั เหตุการณ์ เช่น ตอ้ งการเปล่ียนแปลงหนา้ ตาของรายงาน มีการ เพ่มิ เติมขอ้ มูล หรือลบขอ้ มลู เดิมนกั เขียนโปรแกรมกจ็ ะตอ้ งคอยปรับปรุงแกไ้ ขโปรแกรมตาม ความตอ้ งการของผใู้ ชท้ ่ีเปลี่ยนแปลงไปน้นั

อ้างองิ https://www.rw.ac.th/jetavat/?web=les01.3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook