Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม

ขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม

Published by nuy14360, 2020-12-04 05:01:00

Description: ขั้นตอนการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม

Search

Read the Text Version

นาย นศั รุลลอฮ สามะ ปวส. 2/1 คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ เลขที่ 7

ข้นั ตอนการออกแบบและ พฒั นาโปรแกรม

ข้นั ตอนการพฒั นาโปรแกรม ในการเขียนโปรแกรมเพื่อแกป้ ัญหาต่างๆจาเป็นตอ้ งมีการวางแผน และ ออกแบบโปรแกรมไวล้ ่วงหนา้ โดยกาหนดข้นั ตอนวธิ ีการทางานให้ ชดั เจน ซ่ึงกระบวนการวเิ คราะห์ และออกแบบโปรแกรมเรียกวา่ วฏั จกั ร การพฒั นาระบบงาน System Development Lift Cycle ( SDLC) ซ่ึงมีกระบวนการทางานเร่ิมตน้ จากการวเิ คราะห์ปัญหาไป จนถึงการนาโปรแกรมไปใชง้ าน และปรับปรุงพฒั นาระบบใหด้ ีข้ึน มี ข้นั ตอนของ วฏั จกั รการพฒั นาระบบงาน ดงั ต่อไปน้ี ข้นั ตอนท่ี 1 การวเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis) ข้นั ตอนที่ 2 การออกแบบโปรแกรม (Program Design) ข้นั ตอนที่ 3 การเขียนโปรแกรม (Program Coding) ข้นั ตอนที่ 4 การทดสอบและแกไ้ ขโปรแกรม ( Program Testing & Verification) ข้นั ตอนท่ี 5 การจดั ทาเอกสารและคูม่ ือการใชง้ าน (Program Documentation) ข้นั ตอนที่ 6 การใชง้ านจริง (Program Implement) ข้นั ตอนที่ 7 การปรับปรุงและพฒั นาโปรแกรม (Program Maintenance)

การวเิ คราะห์ปัญหา (Problem Analysis) ข้นั ตอนการวเิ คราะห์ปัญหา สามารถจาแนกไดด้ งั น้ี 1. กาหนดขอบเขตของปัญหา เพอื่ ให้ทราบข้นั ตอนการทางานต่างๆ ดงั นี้ • กาหนดจุดประสงคก์ ารทางาน เพื่อใหท้ ราบวา่ เขียนโปรแกรมเพ่ือ ตอ้ งการแกป้ ัญหาอะไร เช่น ปัญหาเก่ียวกบั การคานวณพ้ืนทขี่ อง สามเหล่ียม เป็นตน้ • กาหนดเป้ าหมายใหช้ ดั เจน เพื่อใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการ เช่น โปรแกรม คานวณพ้ืนท่ีของสามเหลี่ยม ตอ้ งการคานวณพ้ืนท่ีรูปสามเหลี่ยมไดห้ ลาย ขนาดและแสดงผลเป็นตวั เลข • ศึกษาวิธีการแกป้ ัญหา เพ่ือออกแบบข้นั ตอนการทางานไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม เช่น การใชส้ ูตรคานวณทางคณิตศาสตร์ต่างๆ • กาหนดขอ้ จากดั และศึกษาความเป็นไปไดเ้ พื่อใชใ้ นการแกป้ ัญหาตาม วตั ถุประสงค์ เช่น โปรแกรมคานวณพ้ืนท่ีของสามเหล่ียม ตอ้ งการคานวณ พ้ืนที่ไดเ้ ฉพาะรูปสามเหลี่ยม

2. กาหนดข้อมูลนาเข้า • กาหนดลกั ษณะการรับขอ้ มลู เช่น รับขอ้ มลู จากแป้ นพมิ พ์ หรือ อ่านขอ้ มลู จากไฟล์ • รูปแบบขอ้ มูลที่รับเขา้ มาเป็นอยา่ งไร เช่น ขอ้ มูลชื่อนิสิต เกบ็ เป็นตวั อกั ษรหรือสตริง ขอ้ มลู เงินเดือนพนกั งานเกบ็ เป็น จานวนทศนิยม เป็นตน้ • ขอบเขตของขอ้ มลู มีช่วงค่าของขอ้ มลู ไดเ้ ทา่ ไหร่ เช่น รับ ขอ้ มูลเงินเดือนมีค่าอยรู่ ะหวา่ ง 0.00 ถึง 100,000.00 บาท เกบ็ ขอ้ มูลเป็นจานวนทศนิยม เป็นตน้ • ขอ้ จากดั ในการรับขอ้ มลู อยา่ งไรบา้ ง เช่น รับขอ้ มลู ได้ เฉพาะค่าตวั เลขที่มากกวา่ 0 เป็นตน้

3. วธิ ีการประมวลผล • กาหนดวธิ ีการ หรือเทคนิคท่ีใชแ้ กป้ ัญหา ปัญหาต่างๆ จะมี วธิ ีการปัญหาแตกต่างกนั ไปข้ึนอยกู่ บั สภาพของปัญหา และผู้ แกป้ ัญหา และปัญหาหน่ึงๆสามารถแกป้ ัญหาไดด้ ว้ ยหลายๆ วธิ ีการ ดงั น้นั ใหเ้ ลือกวธิ ีการแกป้ ัญหาท่ีเหมาะสมกบั ปัญหา น้นั ๆ • กาหนดข้นั ตอนทางานใหช้ ดั เจน เพื่อแกป้ ัญหาตามลาดบั การทางานของวธิ ีการที่ไดเ้ ลือกใช้ และประมวลผลให้ไดผ้ ล ลพั ธ์ที่ตอ้ งการ

4. กาหนดผลลพั ธ์ • กาหนดรูปแบบการแสดงผล เช่น แสดงผลลพั ธ์เป็นภาพ กราฟฟิ กส์ทางจอภาพ หรือพิมพข์ อ้ มูลออกทางเคร่ืองพิมพ์ เป็ นตน้ • ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดและความถกู ตอ้ งของผลลพั ธ์ เช่น ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดจากการคานวณ ตรวจสอบผลลพั ธว์ า่ ถูกตอ้ งตรงตามที่ตอ้ งการหรือไม่

5. กาหนดโครงสร้างข้อมูลทใี่ ช้ • ภาษาที่ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม ซ่ึงข้ึนอยกู่ บั ความถนดั ประเภทของงานและคุณสมบตั ิเฉพาะของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ • วธิ ีการเกบ็ ขอ้ มูลและเรียกใชต้ วั แปร เช่นการประกาศตวั แปรอาเรยใ์ หส้ ามารถเกบ็ ขอ้ มูลไดห้ ลายตวั หรือเกบ็ ขอ้ มูล เป็นคลาส หรือตามโครงสร้างขอ้ มลู แบบต่างๆ เป็นตน้

การออกแบบโปรแกรม (Program Design) ประกอบดว้ ยวิธีการดงั น้ี คือ 1. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ อลั กอริธึม (Algorithm) เป็นการอธิบายถึงลาดบั ข้นั ตอนการ ทางานของการแกป้ ัญหาโดยใชป้ ระโยคขอ้ ความที่ชดั เจนไม่ คลุมเครือ สามารถบอกลาดบั การทางานได้ ซ่ึงมีประโยชน์ ดงั น้ี • ทาใหเ้ ห็นลาดบั ของการทางานและวธิ ีการทางานแต่ละ ข้นั ตอนไดอ้ ยา่ งละเอียด • ทาใหเ้ ห็นภาพรวมของการทางานของข้นั ตอนท้งั หมด • เป็นการวางแผนการทางานไวล้ ่วงหนา้ ทาใหส้ ามารถ นาไปเขียนเป็นโปรแกรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและรวดเร็ว

2. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ รหสั จาลอง เป็นการออกแบบข้นั ตอนการทางานของโปรแกรมโดยการใช้ ขอ้ ความภาษาองั กฤษท่ีใกลเ้ คียงกบั ภาษาคอมพิวเตอร์ ซ่ึงมี หลกั การทางานและประโยชน์เหมือนกบั การใชอ้ ลั กอริธ่ึม แต่ มีขอ้ ดี ดงั น้ีคือ • สามารถนารหสั จาลองไปใชเ้ ขียนโปรแกรมไดง้ ่ายกวา่ การ ใชอ้ ลั กอริธ่ึม เพราะมีความใกลเ้ คียงกบั คาสง่ั คอมพิวเตอร์ • ผอู้ อกแบบโปรแกรมตอ้ งมีความรู้ทางดา้ น ภาษาคอมพิวเตอร์บา้ ง เพือ่ ใหส้ ามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชแ้ ละ เขียนโปรแกรมเป็นภาษาอื่นๆไดห้ ลายภาษา

3. การออกแบบโปรแกรมโดยใช้ ผงั งาน คือ การใชส้ ญั ลกั ษณ์รูปภาพ หรือกล่องขอ้ ความบรรยาย รายละเอียดการทางาน และใชล้ กู ศรบอกทิศทางลาดบั ของ การทางาน ซ่ึงมีขอ้ ดีดงั น้ี คือ • สามารถอ่านและเขา้ ใจการทางานไดง้ ่าย เพราะมองเห็น ภาพรวมข้นั ตอนการทางานท้งั หมดไดช้ ดั เจน • สามารถออกแบบโครงสร้างการทางานไดห้ ลากหลายโดย ใชล้ ูกศรแสดงทิศทางการทางาน ทาใหแ้ กป้ ัญหาที่มหี ลาย เลือกและซบั ซอ้ นได้ • คาสงั่ หรือคาบรรยายรายละเอียดในกล่องขอ้ ความสามารถ นาไปเขียนเป็นคาสง่ั ของโปรแกรมได้

ภาษาคอมพวิ เตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็ น 5 ยุค คอื 1. ภาษาเครื่อง (Machine language) 2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly language) 3. ภาษาช้นั สูง (High-level language)หรือ ภาษารุ่น ท่ี 3 (3GL:Third Generation Language) 4. ภาษาช้นั สูงมาก (Very high-level language) หรือภาษารุ่นท่ี 4 (4GL) 5. ภาษาธรรมชาติ (Natural language) หรือภาษารุ่น ท่ี 5 (5GL)

ภาษาคอมพวิ เตอร์ 1. ภาษาเครื่อง (Machine language) เป็นภาษาพ้ืนฐานท่ีคอมพวิ เตอร์สามารถเขา้ ใจได้ แตล่ ะคาสงั่ ประกอบข้ึนจากกลุ่มตวั เลข 0 และ 1 ซ่ึงเป็นเลขฐานสอง 2. ภาษาแอสเซมบลี (Assembly language) เป็นภาษาที่ใชส้ ญั ลกั ษณ์ขอ้ ความ แทนกลุ่มของตวั เลขฐานสอง เพอื่ ใหง้ ่ายต่อการเขียนและการจดจามากข้นึ การ ทางานของโปรแกรมจะตอ้ งทาการแปลภาษาแอสเซมบลีให้ เป็นภาษาเคร่ือง โดยใชต้ วั แปลท่ีเรียกวา่ แอสเซมเบลอร์ (Assembler)

ภาษาคอมพวิ เตอร์ 3. ภาษาช้นั สูง (High-level language)หรือ ภาษารุ่นท่ี 3 (3GL:Third Generation Language)ถกู สร้างข้ึนมาเพ่อื ให้ เขียนโปรแกรมไดง้ ่ายข้ึน โดยมีลกั ษณะเหมือนกบั ภาษาองั กฤษทวั่ ไป ผเู้ ขียนไม่จาเป็นตอ้ งมีความรู้เกี่ยวกบั ฮาร์แวร์แต่อยา่ งใด ภาษาน้ี จาเป็นตอ้ งมีตวั แปลภาษาเครื่องเช่นกนั เรียกตวั แปลน้ีวา่ คอมไพเลอร์ (compiler) หรือ อินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) อยา่ งใดอยา่ ง หน่ึง ตวั อยา่ งของภาษาช้นั สูง เช่น ภาษาปาสคาล ภาษาซี ภาษโคบอล ภาษ เบสิก ภาษาฟอร์แทรน 4. ภาษาช้นั สูงมาก (Very high-level language) หรือภาษารุ่นท่ี 4 (4GL) เป็นภาษาที่มีลกั ษณะคลา้ ยภาษาพดู ตามปกติของมนุษย์ ภาษาน้จี ะช่วยให้ การเขียนโปรแกรมเร็วมากข้ึนกวา่ ภาษาในรุ่นที่ 3 เน่ืองจากมีเครื่องมือที่ ช่วยในการสร้างแบบฟอร์มหนา้ จอ เพื่อจดั การกบั ขอ้ มลู รวมไปถงึ การ ออกรายงาน เมนูต่าง ๆ ตวั อยา่ งของภาษาช้นั สูงมากไดแ้ ก่ informix-4GL, MAGIC , Delphi , Power Builder ฯลฯ

ภาษาคอมพวิ เตอร์ 5. ภาษาธรรมชาติ (Natural language) หรือภาษา รุ่นที่ 5 (5GL) เป็นภาษาท่ีสามารถสง่ั งานคอมพวิ เตอร์โดยใชร้ ูปแบบของ ภาษามนุษยไ์ ดเ้ ลย คาสง่ั อยใู่ นรูปแบบที่ไม่แนน่ อนตายตวั แต่ คอมพิวเตอร์จะทาการแปลใหอ้ อกมาในรูปที่คอมพวิ เตอร์ เขา้ ใจได้ ภาษาน้ีถกู สร้างข้ึนมาจากเทคโนโลยที างดา้ นระบบ ผเู้ ชียวชาญ (Expert system) ตวั อยา่ งภาษาในรุ่นท่ี 5 ไดแ้ ก่ ภาษา PROLOG เป็นตน้

อ้างองิ http://pranpreeya42.blogspot.com/2013 /06/blog-post.html


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook