Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 12 การปฐมพยาบาล

บทที่ 12 การปฐมพยาบาล

Published by ทัดดาว ชื่นด้วง, 2022-01-21 07:46:16

Description: บทที่ 12 การปฐมพยาบาล

Search

Read the Text Version

การปฐมพยาบาล หมายถึง การใหก้ ารชว่ ยเหลือผบู้ าดเจ็บจากอบุ ตั ิเหตตุ า่ ง ๆ หรอื เจ็บป่วย กระทนั หนั ณ สถานทีเ่ กิดเหตใุ หพ้ น้ อนั ตราย การพดู คุยกับผู้บาดเจบ็ เพอื่ ให้กาลังใจ

12.2.1 สิ่งทเ่ี กี่ยวขอ้ งสำคัญ โดยท่ัวไปมักมีส่ิงทเ่ี กี่ยวข้องสาคัญของการปฐมพยาบาลอยู่ 3 ประการ ได้แก่ ผู้ท่ีให้ การช่วยเหลอื ผู้ทไ่ี ด้รับบาดเจบ็ (ผู้ป่ วย) และส่ิงแวดล้อม ซง่ึ แยกลาดับความสาคัญ ดังนี้ 1) ผู้ให้การช่วยเหลอื ต้องตัง้ สตใิ ห้ดี 2) ส่ิงแวดล้อม โดยอย่าให้คนมุงดู 3) ผู้ทไ่ี ด้รับบาดเจบ็ (ผู้ป่ วย) การประเมินสภาพผู้บาดเจ็บ โดยพิจารณาปั จจัย 3 ประการ คือ 3.1) ลักษณะของสถานการณ์ 3.2) การตรวจร่างกาย 3.3) ส่ิงแสดงชีพ (Vital Sign)

12.2.2 วธิ ีปฏบิ ตั ิเม่ือแรกพบผู้บำดเจบ็ 1) อย่าเคลื่อนยา้ ยผู้บาดเจ็บจากตาแหน่งเดิมท่ีพบ ใหท้ าการปฐมพยาบาลตรงท่ีเกิดเหตุ ยกเวน้ ในกรณีทอี่ าจมอี นั ตรายทงั้ ผบู้ าดเจ็บและผปู้ ฐมพยาบาล 2) ตรวจดกู ารหายใจ การทางานของหวั ใจพรอ้ มทงั้ ใหก้ ารชว่ ยเหลือ 3) ปอ้ งกนั อนั ตรายที่อาจเกิดขนึ้ กบั ผบู้ าดเจ็บในขนั้ ตอ่ ไป 4) หม่ ผา้ ใหผ้ ปู้ ่วยเพ่ือปอ้ งกนั การช็อก 5) ขยายเขม็ ขดั และเสือ้ ผา้ ใหห้ ลวม 6) ถา้ มแี ผลควรพนั ผา้ ใหแ้ ละถา้ กระดกู หกั ตอ้ งเขา้ เฝือกช่วั คราวให้ 7) ชวนผบู้ าดเจ็บคยุ เพ่ือใหเ้ กิดความสบายใจ 8) อยกู่ บั ผบู้ าดเจ็บจนกระท่งั สง่ ผบู้ าดเจ็บใหแ้ ก่ตารวจ หนว่ ยกภู้ ยั หรอื ญาติ 9) ใหส้ งั เกตท่ีขอ้ มือและทค่ี อว่ามีเหรยี ญบ่งบอกวา่ ผบู้ าดเจ็บมีโรคประจาตวั หรอื ไม่ 10) พงึ ระลกึ ถงึ ขอบเขตและความสามารถของตนเองในการใหก้ ารปฐมพยาบาล

12.2.3 กำรเคลอ่ื นยำ้ ยผู้ป่ วย การเคลื่อนย้ายผู้ป่ วย มีความสาคัญมาก ถ้าสามารถนาผู้ป่ วยไปยังโรงพยาบาลหรือ สถานทที่ จี่ ะให้ความช่วยเหลอื ได้ถกู ต้องได้เร็วขึน้ เท่าไร ชีวิตผู้ป่ วยจะปลอดภัยได้เร็วขึน้ เท่านั้น การเคลอ่ื นย้ายผู้ป่ วยโดยใช้มือเปล่า การเคล่ือนย้ายผู้ป่ วยโดยใช้เปลหาม

การใช้ผ้าห่มมาดัดแปลงทาเปลหามผู้ป่ วย การใช้เสือ้ มาดัดแปลงทาเปลหามผู้ป่ วย

12.3.1 กำรปฐมพยำบำลผู้ทม่ี ีบำดแผล บาดแผล แบ่งออกเป็ นชนิดต่าง ๆ ดังนี้ แผลฟกชำ้ เกิดจากการกระแทกจากของไมม่ คี ม ทาใหม้ ีการฉีกขาดของเนือ้ เยื่อและเลือดออก ใตผ้ ิวหนงั มีอาการเจ็บปวด บวม และผิวหนงั มสี ีแดง กำรปฐมพยำบำล 1) ยกและประคองสว่ นที่บาดเจ็บใหอ้ ยใู่ นทา่ ทสี่ บาย 2) ใชผ้ า้ ชุบนา้ เย็นหรอื นา้ แข็งประคบเบา ๆ บริเวณแผลชา้ นานประมาณ 30 นาที แลว้ ใชผ้ า้ ยดื พนั ไวใ้ หแ้ นน่ พอสมควร การนาผ้าเย็นหรือน้าแข็งประคบ

บำดแผลถูกของมีคม เกิดจากของมีคมประเภทใบมีด กรรไกร เศษแกว้ หรือกระจก ความ ลกึ ของบาดแผลสามารถทาอนั ตรายตอ่ เซลลผ์ ิวหนงั กำรปฐมพยำบำล ตอ้ งหา้ มเลือดก่อน เมื่อเลือดหยุดแลว้ ทาความสะอาดบาดแผลดว้ ยนา้ สะอาด นา้ ตม้ สุก นา้ เกลอื หรอื นา้ ผสมดา่ งทบั ทมิ หลกั กำรหำ้ มเลอื ดทมี่ ีกำรเสยี เลอื ดภำยนอกจำนวนมำก 1) การกดบนบาดแผลโดยตรง เป็นการใช้ผ้าสะอาดพับวางบนบาดแผลแล้วใช้นิว้ มือ กดลงโดยตรงอยา่ งนอ้ ย 10 นาที 2) ยกส่วนท่ีมีบาดแผลให้สูงกว่าระดับหัวใจ (กรณีมีบาดแผลบริเวณแขน ขา ) ถา้ มกี ระดกู หกั หา้ มยก 3) ปิดทบั ผา้ สะอาดนน้ั อกี ชนั้ ใหแ้ นน่ ดว้ ยผา้ พนั แผล หากเลือดยงั ไมห่ ยดุ ใหใ้ ชผ้ า้ พนั แผล พนั ทบั ลงไปใหแ้ นน่ อีกผืนหนงึ่ 4) กดบนหลอดเลือดแดงใหญ่ โดยการใช้นิว้ กดลงบนหลอดเลือดแดงเหนือบาดแผล ตรงจดุ ทีจ่ บั ชีพจรได้ จะทาใหเ้ ลือดไหลออกจากแผลนอ้ ยลง

บำดแผลฉีกขำด กำรปฐมพยำบำล 1)ปิดแผลทนั ทีดว้ ยผา้ ท่ีสะอาด กดไวเ้ บา ๆ หรือใชผ้ า้ พันแผลกดแผลไวน้ ่ิง ๆ เพ่ือเป็นการ หา้ มเลือด 2)ลา้ งทาความสะอาดแผลดว้ ยนา้ สะอาดและใชแ้ อลกอฮอลเ์ ช็ดรอบ ๆ แผล 3)รีบนาส่งแพทย์เพ่ือตกแต่งบาดแผลและเย็บแผล ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และอาจตอ้ งรบั ประทานยาแกอ้ กั เสบ ถา้ แผลสกปรกมาก แผลถูกแทง กำรปฐมพยำบำล ถา้ ผปู้ ่วยมีอาการเป็นลม หนา้ ซีด แสดงวา่ มเี ลือดตกใน อยา่ ตกใจใหผ้ ปู้ ่ วยนอนราบ ศีรษะต่า ไมค่ วรใหก้ ินอะไรทงั้ สนิ้ รบี นาสง่ โรงพยาบาลใหแ้ พทยต์ รวจบาดแผลที่ถกู แทงว่าถกู อวยั วะสาคญั หรอื ไม่ และหากพบสงิ่ หนง่ึ สิง่ ใดหกั คาอยบู่ นปากแผล อยา่ พยายามดงึ ออก

การปฐมพยาบาลแผลถูกแทง

แผลถกู ตำ กำรปฐมพยำบำล ใหด้ งึ ของแหลมทท่ี ิ่มตาผิวหนงั นนั้ ออก เช็ดดว้ ยแอลกอฮอล์ ปิดแผลดว้ ยผา้ ที่สะอาด แลว้ รบี นาสง่ พบแพทยท์ นั ที บำดแผลถูกสัตวก์ ัด บำดแผลตนื้ 1) ลา้ งบาดแผลใหท้ ่วั ดว้ ยนา้ สะอาดอยา่ งนอ้ ย 5 นาทีหรอื ดว้ ยสบ่แู ละนา้ อ่นุ 2) ซบั บาดแผลใหแ้ หง้ แลว้ ปิดดว้ ยปลาสเตอรห์ รอื ผา้ ทาแผลเลก็ ๆ 3) แนะนาใหผ้ ทู้ ี่ถกู กดั ไปพบแพทย์ บำดแผลฉีกขำดหรือลึกมำก 1) หา้ มเลอื ดตามหลกั การหา้ มเลือด 2) กดบาดแผลดว้ ยผา้ พนั แผลทป่ี ลอดเชือ้ หรอื ผา้ สะอาดพนั ใหอ้ ยกู่ บั ท่ี 3) นาผทู้ ่ถี กู กดั ไปสง่ โรงพยาบาล

12.3.2 กำรปฐมพยำบำลผู้ทมี่ ีขอ้ เคล็ด ข้อเคล็ด หมายถึง การที่ขอ้ ต่าง ๆ ไดม้ ีการเคล่ือนไหวมากเกินไป ทาใหเ้ นือ้ เยื่อหมุ้ ขอ้ หรือ เอ็นรอบ ๆ ขอ้ รวมทงั้ กลา้ มเนอื้ บรเิ วณขอ้ มกี ารฉีกขาดหรอื ชา้ กำรปฐมพยำบำล ประคบด้วยนา้ เย็นหรือนา้ แข็งทันที และประคบหลาย ๆ คร้ังติดต่อกัน แต่ละคร้ังนาน 5 – 10 นาที และพกั 2 – 3 นาที เพื่อลดอาการปวด บวม การปฐมพยาบาลข้อเคล็ด

12.3.3 กำรปฐมพยำบำลผู้ทมี่ ีกระดูกหกั หกั ออกจากกนั เป็น 2 สว่ น อาจหกั ธรรมดาไมม่ บี าดแผลหรอื หกั มบี าดแผล กระดกู แตกละเอียด กระดูกหกั ไม่ขาดออกจากกัน มีลกั ษณะกระดูกรา้ ว กระดูกเดาะ หรือกระดูกบุบ ลกั ษณะ อาการจะแตกตา่ งกนั ไปตามตาแหนง่ ทีก่ ระดกู หกั อาการท่วั ๆ ไป อาจมอี าการช็อก การปฐมพยาบาลกระดกู หัก

กำรปฐมพยำบำล 1)ใหผ้ ูบ้ าดเจ็บอย่นู ิ่ง ๆ ประคองและจับส่วนที่บาดเจ็บอย่างม่นั คง อย่าพยายามเคล่ือนยา้ ย ผบู้ าดเจ็บโดยไมจ่ าเป็น หรอื จนกว่าสว่ นของกระดกู ท่หี กั จะไดร้ บั การเขา้ เฝือกแลว้ 2)ใส่เฝือกช่ัวคราว โดยใช้วัสดุที่หาง่าย เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ กระดาษแข็ง ไม้ไผ่ เป็นตน้ (ถา้ เป็นกระดกู ชิน้ ใหญ่ เช่น กระดกู โคนขา อาจใชข้ าขา้ งดีเป็นตวั ยดึ ก็ได)้ และก่อนเขา้ เฝือก ควร ใชผ้ า้ สะอาดพนั สว่ นท่ีหกั ใหห้ นาพอสมควร หรอื ทาการหา้ มเลอื ดก่อน ถา้ มีเลอื ดออกมาก 3)พันผ้ายืดไม่ใหเ้ คล่ือนไหว ระวังอย่าพันใหแ้ น่นจนเกินควร เพราะจะทาใหเ้ ลือ ดไปเลีย้ ง อวยั วะสว่ นปลายไมไ่ ด้ ซง่ึ เป็นอนั ตรายมาก ถา้ เป็นปลายแขนหรอื มอื ใชผ้ า้ คลอ้ งคอ 4)ถา้ กระดกู หกั โผล่ออกมานอกเนือ้ อย่าดนั กลบั เขา้ ที่เดิมเด็ดขาด เพราะจะทาใหเ้ ชือ้ โรคและ สิ่งสกปรกจากภายนอกเขา้ ไปในแผลสว่ นลกึ ได้ ใหห้ าผา้ สะอาดคลมุ หรอื ปิดบาดแผลไว้ 5)ให้ยาแก้ปวดหากปวดแผลมาก เช่น พาราเซตา มอล และห่มผ้าให้ความอบอุ่น แกร่ า่ งกาย 6)รีบนาผูป้ ่ วยส่งโรงพยาบาล ซึ่งการเคล่ือนยา้ ยผู้ที่บาดเจ็บตอ้ งทาอย่างระมัดระวัง โดย ใหส้ ว่ นทหี่ กั เคลอื่ นไหวนอ้ ยที่สดุ

12.3.4 กำรปฐมพยำบำลผู้ทม่ี ีอำกำรชัก การชัก เป็นการกระตกุ ของกลา้ มเนือ้ ในรา่ งกายหลายมดั ทนั ทีโดยไมไ่ ดต้ ง้ั ใจ เกิดจากสมอง ที่ทางานผิดปกติ มกั เกิดรว่ มกบั การไมร่ ูส้ กึ ตวั สาเหตุ เกิดไดห้ ลายอย่าง รวมทง้ั การบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคบางอย่างที่ทาลายสมอง สมอง ขาดออกซเิ จนและไดร้ บั สารพิษบางอยา่ ง ในเดก็ อาจชกั ไดเ้ นอื่ งจากไขส้ งู และการชกั เป็นลักษณะอยา่ ง หนง่ึ ของโรคลมชกั การช่วยเหลือเบือ้ งตน้ แต่ละครงั้ ตอ้ งจดั ใหผ้ ูท้ ชี่ กั นอนตะแคง ระวงั สาลกั ถา้ มีส่ิงของในปาก เชน่ เศษอาหาร ฟันปลอมใหล้ ว้ งออก และใชด้ า้ มชอ้ น ไม้ หรือดา้ มดินสอสอดเขา้ ไปในปากระหว่างฟัน กราม เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หผ้ ทู้ ชี่ กั กดั ลิน้ และตอ้ งปอ้ งกนั การบาดเจ็บทศี่ รี ษะจากการลม้ ลง 1) โรคลมชักรุนแรง พยายามช่วยประคอง ถา้ ผูท้ ่ีชกั จะลม้ และขอใหผ้ ูม้ ุงดถู อยห่างออกไป คลายเสอื้ ผา้ ออกโดยเฉพาะรอบคอและประคองศีรษะไวด้ ว้ ย 2) เมอื่ หยดุ ชกั แลว้ จดั ใหอ้ ยใู่ นทา่ พกั ฟื้นและอยกู่ บั ผทู้ ชี่ กั จนกระท่งั รูส้ กึ ตวั ดี 3) รบี นาสง่ โรงพยาบาล ถา้ เป็นการชกั ครงั้ แรกและชกั ซา้ ๆ กนั หรอื ไมร่ ูส้ กึ ตวั นานเกิน 10 นาที

การปฐมพยาบาลผู้ป่ วยลมชัก

12.3.5 กำรช่วยเหลือผู้ประสบอันตรำยจำกไฟฟ้ำและกำรปฐมพยำบำล ผู้ทจี่ ะช่วยเหลือผู้ทป่ี ระสบอันตรายจากไฟฟ้าต้องรู้จักวิธีทถ่ี ูกต้องในการช่วยเหลอื ดังนี้ 1) อยา่ ใชม้ ือเปล่าแตะตอ้ งตวั ผทู้ ี่ติดอยกู่ บั กระแสไฟฟ้าหรือตวั นาที่เป็ นตน้ เหตใุ หเ้ กิดอนั ตราย เป็นอนั ขาด เพื่อปอ้ งกนั มิใหถ้ กู กระแสไฟฟา้ จนไดร้ บั อนั ตรายไปดว้ ยอีกผู้หนงึ่ 2) รบี หาทางตดั กระแสไฟฟา้ โดยฉบั ไวจะดว้ ยการถอดปล๊กั หรอื อา้ สวิตชอ์ อกก็ได้ 3) ใช้วัตถุท่ีไม่เป็นส่ือไฟฟ้า เช่น ผ้า ไมแ้ หง้ เชือกท่ีแหง้ สายยาง หรือพลาสติกท่ีแห้งสนิท ถงุ มอื ยาง หรอื ผา้ แหง้ มาพนั มือใหห้ นา แลว้ ถึงผลกั หรอื ฉดุ ผทู้ ี่ประสบอนั ตรายใหห้ ลดุ ออกมาโดยเร็วเขี่ย สายไฟใหห้ ลดุ จากผปู้ ระสบอนั ตราย 4) หากเป็นสายไฟฟ้าแรงสงู ใหพ้ ยายามหลกี เลี่ยงแลว้ รบี แจง้ การไฟฟ้านครหลวงใหเ้ รว็ ทสี่ ดุ 5) อยา่ ลงไปในนา้ กรณีทมี่ กี ระแสไฟฟา้ อยใู่ นบรเิ วณที่มีนา้ ขงั

กำรปฐมพยำบำล โดยวิธีการผายปอดดว้ ยการใหล้ มทางปากหรอื เรยี กวา่ “เป่าปาก” รว่ มกบั การนวดหวั ใจกอ่ น นาผปู้ ่วยสง่ แพทย์ กรณีผู้ไดร้ ับอุบตั เิ หตุไม่หำยใจ ใหท้ าการผายปอดดงั นี้ การปฐมพยาบาลกรณีผู้ป่ วยไม่หายใจ

1) หงายศีรษะไปข้างหลังเพ่ือเปิ ดทางอากาศ โดยมือซ้ายดันท่ีหน้าผาก ส่วนมือขวา สอดใต้คอ 2) ถ่างขากรรไกร โดยใช้นิ้วหัวแม่มือสอดเข้าไปในปาก จบั ขากรรไกรล่างยกขนึ้ จน ปากอ้า 3) ล้วงส่ิงของทค่ี ้างในปากออก เช่น ฟันปลอม หมากฝร่ัง หรืออาหาร เป็ นต้น 4) เป่ าอากาศเข้าปอดผู้บาดเจ็บ โดยบีบจมูกผู้ป่ วยแล้วผู้ช่วยเหลือสดู ลมหายใจ เข้าลึก ๆ แล้วทาบปากเข้ากับผู้ป่ วย เป่ าอากาศเข้าไปประมาณ 12 – 15 ครั้ง/นาที สังเกต หน้าอกผู้ป่ วยต้องขยายหรือขยับขนึ้ 5) กรณีไม่สามารถอ้าปากผู้บาดเจ็บได้ให้เป่ าลมเข้าทางจมูกแทน แต่ต้องปิ ดปาก ผู้บาดเจบ็ ด้วย

กรณีผู้ไดร้ ับอุบตั เิ หตุหวั ใจหยุดเต้น ใหน้ วดหวั ใจดังนี้ 1) พาผูไ้ ดร้ บั อบุ ตั เิ หตเุ ขา้ ทรี่ ่ม วางหงายหนา้ บนพนื้ ทรี่ าบและแข็ง 2) หงายศรี ษะไปขา้ งหลงั และถา่ งขากรรไกร 3) ลว้ งส่งิ ของทคี่ า้ งในปากออก 4) กดมือเขา้ บริเวณหวั ใจ ใชม้ อื ขวาวางไวบ้ ริเวณหวั ใจแลว้ มือซา้ ยวางซอ้ นอกี ชนั้ แลว้ กดลง 5) นวดหวั ใจเป็นจงั หวะซ้า ๆ ครงั้ ละ 1 วินาที จนหัวใจเต้น สาหรับผู้ช่วย 2 คน คนหน่ึง กดหนา้ อก 5 ครงั้ สลบั กบั คนทเี่ ป่ าปาก 1 ครงั้ (อตั ราประมาณ 60 ครงั้ ใน 1 นาท)ี การนวดหัวใจ

12.3.6 กำรปฐมพยำบำลผู้ทม่ี ีเลอื ดกำเดำออก เลือดกำเดำออก คือ การมีเลือดไหลออกจากจมูก ซ่ึงอาจเกิดจากการกระแทกที่บริเวณ จมกู หรือการแคะจมกู จากการติดเชือ้ ระบบทางเดินหายใจ หรือมีเนือ้ งอก หรอื เป็นโรคเลือดบางชนิด พบในเดก็ มากกวา่ ผใู้ หญ่ 2 เทา่ การปฐมพยาบาลผู้ป่ วยเลอื ดกาเดาออก

กำรปฐมพยำบำล 1) ให้ผู้ทมี่ ีเลอื ดกาเดาออกน่ังโน้มตัวหรือก้มหน้าเล็กน้อย และให้หายใจทางปาก 2) บอกไม่ให้ส่ังน้ามูก กลืน ไอ ถ่มน้าลาย หรือสูดจมูก เพราะอาจทาให้เลือดกาเดา ไหลออกมาอีก 3) ใช้มือบบี จมูกให้แน่น 10 นาที แล้วคลายนิ้วออก จะทาให้เลือดแข็งตวั และหยุด ไหลถ้าเลอื ดยังไหลไม่หยุดให้บบี ซา้ อกี 10 นาที หรืออาจ ใช้กระเป๋ าน้าแขง็ วางทบ่ี ริเวณดัง้ จมูก และหน้าผาก2 – 3 นาที เลือดกาเดาจะหยุดไหลเอง

12.3.7 กำรปฐมพยำบำลผู้ทมี่ ีอำกำรช็อก ช็อก มอี าการเรม่ิ แรกเหมือนกบั เป็นลม คือ มีอาการหนา้ มืด มอื เทา้ ออ่ นแรง อยากลม้ ตวั นอน หายใจไม่อ่ิม ใจหวิว มืออาจส่นั และตาลาย ถา้ ตรวจร่างกายขณะมีอาการช็อก จะพบว่า มีตัวเย็นชืด หนา้ ซดี หรอื เขียว กำรปฐมพยำบำล ช็อก ไมว่ ่าจะเกิดจากสาเหตใุ ด ๆ ก็ตาม การช่วยเหลือเร่มิ แรกเหมือนกันหมด คือ พยายาม ใหม้ ีการไหลเวียนของเลือดใหด้ ีขึน้ อวยั วะท่ีทนต่อหวั ใจขาดเลือดท่ีนอ้ ยท่ีสุด คือ สมอง หวั ใจ และไต ดงั นน้ั ควรช่วยเหลือผทู้ ่ีมีอาการช็อก โดยใหน้ อนราบ เลือดจะไดไ้ ปเลีย้ งสมองพอเพียง พรอ้ มกบั ทาให้ หวั ใจทางานนอ้ ยลง โดยใหน้ อนยกเทา้ ใหส้ ูง ถา้ มีเลือดออกจากภายนอกตอ้ งหา้ มเลือดตามวิธีการท่ี เหมาะสม ถา้ มีกระดกู หกั ตอ้ งใสเ่ ฝือกช่วั คราว ป้องกนั ไม่ใหเ้ สียเลือดมากและทาใหไ้ ม่เจ็บป่ วยเพิ่มขึน้ ถา้ อากาศเยน็ หรอื หนาว ควรหม่ ดว้ ยผา้ หม่ ใหร้ า่ งกายมีความอบอ่นุ การใหย้ าระงบั ปวด เช่น พาราเซตา มอล ใหใ้ ชเ้ ฉพาะผทู้ ีม่ ีความเจ็บปวดมากเทา่ นน้ั ทีด่ ีทส่ี ดุ คือ รบี นาสง่ โรงพยาบาล

การปฐมพยาบาลผู้ป่ วยทม่ี ีอาการชอ็ ก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook