วิจัยไทยป.2ปี61

วิจยั ในชนั้ เรียน เรื่อง การพฒั นาทักษะในด้านการอา่ นระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 ผู้วิจยั นางสมพร อิน่ ใจ ตาแหน่งพนกั งานราชการ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ปกี ารศึกษา 2561

ช่ือเรื่อง การพฒั นานาทักษะในด้านการอา่ น ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 ชอื่ ผ้วู ิจยั นาสมพร อน่ิ ใจ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย บทคัดยอ่ ในการวิจัยคร้ังนี้ มีจดุ มุง่ หมายเพือ่ การพัฒนาทักษะในดา้ นการอ่านระดบั ชั้นประถมศึกษาปี ท่ี 2 ในปีการศึกษา 2561 จากจานวนนกั เรียนท้งั หมด 10 คน ดว้ ยวิธีการประเมินทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจยั ทัง้ ส้นิ โดยเรม่ิ ทาการวิจยั ตั้งแตเ่ ดอื น พฤศจกิ ายน – กมุ ภาพันธ์ ผลการวิจัย พบว่านักเรียนจานวนหนึ่งมกี ารพฒั นาทักษะในดา้ นการอา่ นดขี ้นึ กว่าเดิม ด้วย วิธีการให้แรงเสรมิ โดยการชมเชยและใหร้ ะยะเวลาในการฝกึ ทักษะการอ่านมากพอสมควร ดังน้ัน นกั เรยี นจึงเกดิ ทกั ษะในด้านการอา่ นโดยฝกึ ทกั ษะการประสมคา พยัญชนะ สระ ตวั สะกด และรูป วรรณยุกต์ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง โดยนามาซ่งึ การพฒั นาทักษะในด้านการอ่านไดอ้ ย่างคล่องแคล่วและ ถูกตอ้ งเข้าใจมากยิง่ ขนึ้

คานา งานวจิ ัยเร่อื งการพฒั นาทกั ษะในด้านการอ่าน ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 ในรายวิชา ภาษาไทย ได้จัดทาขน้ึ เพื่อประเมินการพฒั นาทกั ษะในดา้ นการอ่านใหก้ ับนกั เรียน ผวู้ ิจยั หวงั เปน็ อย่างยิ่งวา่ การวจิ ยั เร่ืองนี้ จะเป็นประโยชนต์ ่อผทู้ ่ศี กึ ษา เพื่อเป็นแนวทางในการพฒั นาทางด้าน การเรียน การสอนใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพมากย่งิ ขน้ึ ผ้วู จิ ัย นางสมพร อ่ินใจ

สารบัญ หนา้ 1 เร่ือง 1 ความสาคัญและท่มี า จดุ มุง่ หมาย 1 ตวั แปรท่ศี ึกษา 2 กรอบแนวคิดในการวิจยั ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รบั 2 ขอบเขตของการวิจยั 2 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ัย 2 เครอื่ งมือทใี่ ช้ในการวิจัย ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล 3-14 สรปุ ผล 15 ข้อคิดทไ่ี ดจ้ ากการวิจยั 15 16

วิจยั ในช้ันเรียน เรื่อง การพัฒนาทกั ษะในด้านการอ่าน ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ความสาคญั และทมี่ า ในการพัฒนาวิชาภาษาไทย เป็นการพฒั นาท่ีเน้นการสอนเพ่อื พัฒนาในด้านทักษะ และการ ฝกึ ประสมคาอา่ น สะกดคาเปน็ พ้ืนฐานในการศกึ ษาหาความรูเ้ พอ่ื พฒั นาในดา้ นทักษะและการฝกึ ประสมคาอ่านสะกดคาเป็นพ้นื ฐานในการศึกษาหาความรู้ ในการสอนที่ผ่านมาพบว่า นกั เรยี นใน บางสว่ น ยงั ขาดทกั ษะในดา้ นการอ่าน จึงสง่ ผลมาให้ต้องมีการปรับปรงุ แก้ไข และตอ้ งมกี าร พัฒนาในทักษะน้ีอยา่ งต่อเนอ่ื ง และจากการเรียนการสอนของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2จาก จานวน 10 มนี ักเรียนทมี่ ปี ัญหาในทักษะดา้ นการอา่ นอยู่ 2 คน ดังนั้น ผู้ทที่ าการวิจยั จึงหาวิธกี าร ทจี่ ะดาเนนิ การเพ่ือท่ีจะแก้ปญั หา และพฒั นาให้นกั เรียนได้เกดิ ทักษะในด้านการอา่ นให้เขา้ ใจมาก ยิง่ ขึ้น ดังน้ันในการพฒั นาในครั้งนี้ จะใชว้ ิธีการประเมนิ นักเรยี นควบคไู่ ปกบั กิจกรรมการเรยี นการ สอน จุดมงุ่ หมาย เพือ่ เปน็ การพฒั นาทกั ษะในดา้ นการอา่ น ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ดว้ ยวธิ ีการประเมนิ ท่เี น้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ตวั แปรทศ่ี ึกษา 1. วธิ สี อนตามปกติ ตวั แปรตน้ 2. วิธกี ารประเมินทเ่ี นน้ นกั เรยี นเปน็ สาคญั ตัวแปรตาม 2.1 การทดสอบทกั ษะในด้านการอา่ นและขอ้ เสนอแนะ 1. พฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น 2. ทกั ษะในด้านการอ่าน

กรอบแนวคดิ ในการวิจัย วิธีการสอนตามปกติและวิธีการ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรยี น ประเมินทเี่ นน้ นักเรยี นเปน็ สาคญั ทกั ษะในด้านการอ่าน ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ ผลการวจิ ยั น้ี จะเปน็ ขอ้ มลู อย่างหนง่ึ ที่จะช่วยใหก้ ารพัฒนาทักษะในด้านการอ่าน ดว้ ย วิธีการประเมินท่ีเน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ มีการฝึกทักษะการสะกดคา การประสมคา ทม่ี พี ยัญชนะ สระ ตัวสะกดและวรรณยกุ ต์ และให้เกิดทศั นคตทิ ดี่ ีตอ่ วชิ าภาษาไทย เพอ่ื ที่จะใหก้ ารเรยี นการสอน วิชาภาษาไทยสมั ฤทธ์ิผลย่ิงขึน้ ขอบเขตของการวิจยั 1. กลุม่ ทีศ่ กึ ษานกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 จานวนนักเรยี นที่ศกึ ษา 2 คน ของโรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 31 ใน ปกี ารศึกษา 2561 ในการทาวจิ ยั ครั้งนี้ เลือกนักเรียนทศี่ ึกษาในช้นั เรียน 2 คน ไดเ้ ลือกนักเรยี นกลมุ่ นเ้ี น่อื งจากนกั เรียนมที กั ษะพ้ืนฐานในด้านการสะกดคา อา่ นคา ไม่ได้ และอ่านไมค่ ล่องแคลว่ จึงเป็นปญั หาในด้านการเรียนในวชิ าอน่ื ๆ โดยครปู ระจาชัน้ ได้ตดิ ตาม พฤติกรรมในดา้ นการเรียนของนักเรยี นกลมุ่ นไ้ี ด้อย่างต่อเน่ือง 2. การสอนวชิ าภาษาไทย หมายถงึ วิธีสอนที่ผู้วิจยั ได้สอนตามปกติ โดยมีเทคนิคการสอน แบบใหมๆ่ โดยการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ 3. วิธกี ารประเมนิ ทเี่ นน้ ผู้เรียน เป็นสาคญั ท่ผี ูว้ ิจัยได้ใชค้ วบคกู่ ับการเรยี นการสอน เพอ่ื จะ ได้ข้อมูลจากตวั นักเรียนและนาขอ้ มลู เหล่านน้ั มาปรบั ปรุงการสอนเพ่ือให้นกั เรียนเกิดการเรียนรู้อยา่ ง สูงสุด โดยมวี ิธกี ารทใ่ี ช้ดงั ต่อไปนี้ คือ โดยการสงั เกตการสอนของครู สนทนา ซกั ถามนักเรียน การ จดบันทกึ ประจาคาบของนกั เรียน การตรวจการบ้าน การฝึกอ่านสะกดในใบหนังสอื แบบเรยี น ภาษาไทย และหนังสือเสรมิ ทกั ษะการอ่าน 4. พฤติกรรมการเรียนร้ขู องนักเรียน หมายถึง พฤติกรรมทนี่ กั เรียนแสดงออก ในการ เรยี นรใู้ นวิชาภาษาไทย ดา้ นการอ่านสะกดคา การเขยี นคาตามคาบอกของครู และการทา แบบฝกึ หัดอ่านสะกดคา 5. ทกั ษะการเรียนในวชิ าภาษาไทย หมายถงึ ความสามารถของนกั เรยี นในการเรยี นวชิ า ภาษาไทย เกีย่ วกบั การอา่ นสะกดคา สามารถบอกถึงพยญั ชนะ ต้น สระ ตวั สะกด และรูป วรรณยุกต์ได้ โดยมเี กณฑ์ผ่านร้อยละ 80 ขึ้นไป โดยการทดสอบเกบ็ คะแนน วิธีดาเนินการวิจยั 1. การกาหนดระยองเวลาทาการวจิ ัย ระยะเวลาที่ทาการวจิ ยั ทงั้ หมด 12 สปั ดาห์ สัปดาห์ละ 2 ครัง้ รวมทั้งหมด 24 ครงั้ โดยผ้วู จิ ัยกาหนดใหน้ กั เรียนอา่ นสะกดคาในหนังสอื แบบเรยี นภาษาไทย ในแต่ละคร้ัง ครกู จ็ ะบันทึกหลงั การอา่ นสะกดคา อา่ นเน้ือเร่ืองในหนังสอื แบบเรยี นภาษาไทย ลงในตารางบันทึกเพื่อความกา้ วหน้าของตัวนักเรียน

กาหนดตารางทาการวจิ ัย ในการวจิ ัยคร้ังนี้ ผวู้ ิจยั ได้ดาเนินการวิจยั ตามแผนการสอนตามปกติ โดยครอบคลมุ เน้ือหา ในการอา่ นสะกดคา อ่านเนื้อเร่ืองจากหนังสอื แบบเรยี นภาษาไทย รวมถึงฝกึ เขียนสะกดคาทุกวันใน ตอนเช้ากอ่ นมีการเรียนการสอนในภาคเรียนที่ 2 โดยดาเนนิ การสอนในตาราง ดงั นี้ สัปดาห์ท่ี เน้อื หา กจิ กรรม เคร่ืองมอื สปั ดาห์ท่ี 1 ครั้งท่ี 1 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน - -คาที่ประสมสระ -ะ -อธบิ ายวธิ กี ารอ่าน ประสมคา - แบบทดสอบ และสระ -า - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น -อธิบายวิธีการอา่ น - แบบทดสอบ ครง้ั ท่ี 2 ประสมคา -คาทป่ี ระสมสระ -ะ - แบบฝึกอ่าน - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ และสระ -า -อธบิ ายวิธีการอา่ นประสมคา - แบบฝึกอา่ น สัปดาห์ท่ี 2 ครง้ั ท่ี 1 - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ - - คาทปี่ ระสมสระ -อธิบายวิธีการอ่านประสมคา - แบบฝกึ อ่าน สัปดาห์ที่ 3 และสระ - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ - -อธิบายวิธีการอ่านประสมคา ครั้งที่ 2 - แบบฝึกอ่าน สัปดาห์ที่ 4 -คาทป่ี ระสมสระ - - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ - -อธิบายวธิ ีการอา่ นประสมคา และสระ - - แบบฝึกอา่ น สปั ดาห์ท่ี 5 - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ คร้งั ที่ 1 -อธิบายวิธกี ารอา่ นประสมคา -คาทป่ี ระสมสระ - - แบบฝกึ อา่ น - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ และสระ - -อธิบายวิธีการอ่านประสมคา - แบบฝึกอ่าน - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ ครั้งที่ 2 -อธบิ ายวิธีการอา่ นประสมคา - คาที่ประสมสระ - - แบบฝกึ อ่าน - สอนตามปกติ - แบบทดสอบ และสระ - -อธบิ ายวิธีการอา่ นประสมคา ครง้ั ท่ี 1 -คาที่ประสมสระ - และสระ - ครงั้ ท่ี 2 คาท่ีประสมสระ - และสระ - ครั้งท่ี 1 -คาที่ประสมสระ - และสระ - ครั้งท่ี 2 - คาทป่ี ระสมสระ และสระ -

สปั ดาห์ท่ี 6 คร้ังท่ี 1 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น - คาที่ประสมสระ โ- -อธิบายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ สระ ไ- , ใ- สปั ดาห์ท่ี 7 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น - ครั้งที่ 2 -อธิบายวิธกี ารอ่านประสมคา - แบบทดสอบ คาที่ประสมสระ โ- สปั ดาห์ที่ 8 สระ ไ- , ใ- - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน - -อธิบายวิธีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ ครงั้ ที่ 1 สัปดาห์ท่ี 9 คาทป่ี ระสมสระ- - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน - และสระ เ - -อธิบายวธิ ีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ สัปดาห์ที่ 10 คร้ังท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน - คาทป่ี ระสมสระ - -อธิบายวิธกี ารอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ และสระ เ - - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น ครง้ั ที่ 1 -อธิบายวิธกี ารอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ คาที่ประสมสระ เ - และสระ - อ - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน -อธิบายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ ครั้งที่ 2 คาทป่ี ระสมสระ เ - - สอนตามปกติ - แบบฝึกอา่ น และสระ - อ -อธิบายวธิ ีการอ่านประสมคา - แบบทดสอบ คร้ังท่ี 1 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น คาที่ประสมสระ เ- อ -อธิบายวิธีการอา่ นประสมคา - แบบทดสอบ และสระ เ - ย - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน ครั้งท่ี 2 -อธิบายวธิ กี ารอ่านประสมคา - แบบทดสอบ คาทป่ี ระสมสระ เ- อ และสระ เ - ย ครง้ั ท่ี 1 คาทป่ี ระสมสระ - ว และสระ เ - ,สระ แ - ครง้ั ที่ 2 คาที่ประสมสระ - ว และสระ เ - ,สระ แ -

สปั ดาหท์ ี่ เนอื้ หา กจิ กรรม เครื่องมอื สัปดาห์ที่ 11 ครั้งท่ี 1 คาทีป่ ระสมสระโ - - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน และสระ เ - อะ -อธิบายวธิ ีการอ่านประสม - แบบทดสอบ คา คร้ังท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อ่าน คาที่ประสมสระโ- และสระ เ - อะ -อธิบายวธิ ีการอา่ นประสม - แบบทดสอบ คา สปั ดาห์ที่ 12 คร้ังที่ 1 - สอนตามปกติ - แบบฝกึ อา่ น คาทป่ี ระสมสระ เ – ยะ -อธิบายวิธีการอา่ น - แบบทดสอบ และสระ - วะ , เ – อ ประสมคา - ครง้ั ท่ี 2 - สอนตามปกติ - แบบฝึกอ่าน คาท่ปี ระสมสระ เ – ยะ -อธบิ ายวิธกี ารอ่าน - แบบทดสอบ ประสมคา และสระ - วะ , เ – อ 2. ในการสอนทกุ สัปดาห์ ผู้วิจัยได้ดาเนนิ การใช้วธิ กี ารประเมนิ ท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั ดงั น้ี การสงั เกตการสอนของครู การสนทนาพดู คุยกบั นกั เรียน การอ่านสะกดของนักเรียนการตรวจ แบบฝึกหัด แบบมขี ้อมขี ้อเสนอแนะ และข้อคิดเหน็ 3. วธิ กี ารสอนทัง้ ใน 12 สปั ดาห์ ผู้วิจัยได้ดาเนินการสอนดังต่อไปน้ี ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน ครูทบทวนการประสมคา ทม่ี ีพยัญชนะตน้ สระ ตวั สะกดและรปู วรรณยุกต์ โดยครเู ขียน คา และให้นักเรียนออกไปเขียนแสดงการกระจายคาต่อไปน้ี คา พยญั ชนะต้น สระ ตัวสะกด รปู วรรณยกุ ต์ ขยะ ขย - - - ว่าว ว - ว - ตลาด ตล - ด - ปัน้ ป - น - หลบั หล - บ -

ขน้ั สอน 1. ครูอภปิ รายเกี่ยวกับหลักในการประสมคา ด้วยสระต่างๆวา่ ประสมสระใดบา้ ง ที่มีต่อ สะกดแลว้ รูปสระจะเปลย่ี นรูปหรอื เรยี กว่าสระลดรปู 2. ครูยกตวั อยา่ งคาทีป่ ระสมดว้ ยสระ - เช่นคาว่า กะ ก + = กะ ครูอธบิ ายถึงคา ทีป่ ระสม สระ - ทไ่ี ม่มตี วั สะกด จะยงั คงรูปสระ - ไวด้ ังเดมิ และถา้ ประสมสระ - และมี ตัวสะกด จะเปล่ียนรูปจากสระ - เป็นไม้หนั อากาศ เชน่ ก + + บ = กบั 3. ครูอภปิ รายเกีย่ วกบั การประสมคาด้วยสระตา่ งๆ ตามตารางการสอนทไี่ ดก้ าหนดไว้ทั้ง 12 สปั ดาห์ 4. ใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั และอา่ นสะกดคา ขั้นสรปุ 1. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันอภิปรายสรปุ เกยี่ วกบั การประสมคาท่มี ีสระตา่ งๆ ทงั้ ทาทีม่ ี ตัวสะกดและไมม่ ีตวั สะกด 2. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัดโดยการอ่านสะกดคา 3. ตรวจแบบทดสอบโดยการเขยี นขอ้ เสนอแนะและขอ้ คิดเหน็ บนั ทึกสัปดาห์ที่ บันทกึ พฤตกิ รรมการสอนของครูและการเรยี นของนกั เรยี น 1 2 ก่อนเรยี น หลังเรยี น 3 4 ครใู หน้ กั เรียนอ่านคา ตามแบบฝกึ ครใู ห้นกั เรยี นอ่านซา้ คาเดิมหลงั จากการ 5 อ่าน เปน็ คาทปี่ ระสมด้วยสระ - , อธิบายเก่ยี วกับเนื้อหาท่ีเรยี น นกั เรยี น -มีตัวสะกดและไมม่ ตี วั สะกด สามารถอ่านออกไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ นกั เรยี นอา่ นได้แต่ไมค่ ล่องแคลว่ ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นคา ตามแบบฝกึ ครูใหน้ กั เรียนอา่ นซา้ คาเดมิ หลังจาก อ่าน เป็นคาทปี่ ระสมดว้ ย สระ - , การอธิบายเกี่ยวกับเนอ้ื หาทเ่ี รียน - นกั เรียนอา่ นได้ นกั เรยี นสามารถอา่ นออกไดอ้ ย่าง คลอ่ งแคลว่ ครใู หน้ กั เรียนอ่านคาถาม แบบฝึก ครใู ห้นกั เรียนอา่ นซ้าคาที่ประสมดว้ ยสระ อ่านเป็นคาที่ประสมด้วยสระ - , - -,-หลังจากที่ครูได้สอนนักเรียนส่วนใหญ่ นกั เรยี นอา่ นแต่ไม่คล่อง สามารถอ่านได้ดี ครูให้นักเรยี นอ่านแบบฝึกท่ปี ระสม ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นแบบฝึกอา่ นที่ประสม ด้วยสระ - , - นักเรียน 3 คนอ่าน ด้วยสระ - , - หลังจากครูอธบิ ายการอ่าน ได้ แต่นักเรียนอีกคนยงั อา่ นไมค่ ลอ่ ง ออกเรยี งของการประสมกับสระ - ,- นักเรยี นทั้ง 4 คน สามารถอ่านไดอ้ ยา่ ง คล่องแคล่ว ครูให้นกั เรียนอา่ นแบบฝกึ ที่ประสม ครใู ห้นกั เรยี นอ่านแบบฝกึ อ่านทีป่ ระสม ดว้ ยสระ เ - , แ - นกั เรียนยงั อ่าน ด้วยสระ เ - , แ - หลังจากครูอธิบาย ไดไ้ ม่คล่องแคล่ว การอ่านออกเสียงของการประสมดว้ ย

สระเ - , แ - นักเรียนสามารถอ่านออก เสยี งไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 6 ครูใหน้ ักเรียนอ่านออกแบบฝึกท่ี ครูให้นกั เรยี นอา่ นแบบฝึกอ่านทปี่ ระสม ประสมดว้ ยสระ โ- , ไ- , ใ- ด้วยสระ โ- , ไ- , ใ- หลงั จากครไู ด้ นกั เรยี นทง้ั หมดอา่ นออกเสยี งได้ อธิบายถงึ หลกั วธิ ีในการอ่าน นักเรยี นทุก ชัดเจน , ถกู ต้อง คนอา่ นได้ถูกต้อง 7 ครใู หน้ ักเรียนอา่ นแบบฝึกที่ประสม ครูใหน้ กั เรียนอ่านแบบฝึกอ่านทีป่ ระสม ดว้ ยสระ - , เ - ดว้ ยสระ , เ - นักเรยี นอ่านไดแ้ ต่ยงั ไม่ดีเท่าทค่ี วร หลังจากท่ีครูได้อธบิ าย ถงึ หลกั ในการ อา่ นทีป่ ระสมด้วยสระ - , เ - นกั เรยี นทกุ คนอ่านได้ถูกต้องทกุ คน 8 ครใู หน้ กั เรยี นอ่านแบบฝกึ อา่ นที่ ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นแบบฝกึ อ่านที่ประสม ประสมดว้ ยสระ เ - , - อ ด้วยสระ เ - , - อ หลังจากทีค่ รสู อน นกั เรยี นท้ังหมดอ่านได้แต่ยงั ต้อง และอธบิ ายหลกั ในการอา่ นออกเสียง สะกดคา อ่านยงั ไมค่ ลอ่ งเทา่ ที่ควร นกั เรยี นทุกคนอา่ นได้ดีมาก บันทึกสปั ดาห์ที่ บนั ทึกพฤติกรรมการสอนของครแู ละการเรียนของนักเรยี น 9 กอ่ นเรยี น หลงั เรียน 10 ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นแบบฝึกอา่ นที่ ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นแบบฝึกอ่านท่ี 11 ประสมด้วยสระ เ - อ , เ - ย ประสมดว้ ยสระ เ - อ , เ - ย นักเรียนบางคนยงั ตอ้ งสะกดคาทีละ หลังจากที่ครไู ด้สอนและ คาอา่ นยังไม่คลอ่ งเท่าท่ีควร อธบิ ายหลกั ในการอา่ นคาที่ประสม กับสระ เ - อ , เ - ย นกั เรียน ทุกคนอา่ นได้ คลอ่ ง แคล่วดมี าก ครใู ห้นกั เรียนอา่ นแบบฝึกอ่านท่ี ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นแบบฝกึ อา่ นที่ ประสมดว้ ย - ว , เ - , แ - ประสมด้วยสระ - ว , เ - , แ - นกั เรยี นบางคนยังอา่ นได้ อกี ครัง้ หลังจากท่ีครูอธิบายการ ไมค่ ล่อง อา่ นสะกดคาทีป่ ระสมด้วยสระ - ว , เ - , แ - นักเรียนทุกคนอา่ นได้ คลอ่ ง แคล่วดมี าก ครูให้นกั เรยี นอา่ นแบบฝกึ อ่านที่ ครูให้นกั เรยี นอา่ นแบบฝึกอ่านท่ี ประสมสระ โ - และสระ ประสมดว้ ยสระ โ - และสระ เ – เ – อ นกั เรียนบางคนยงั อ่านไม่ อ หลังจากทค่ี รูอธบิ ายหลักการ ถกู ต้อง อ่านคาท่ปี ระสมดว้ ยสระโ - และ สระ เ – อ นักเรยี นทกุ คนอ่าน ออกเสียงได้อย่างถกู ต้องชัดเจนมาก

ขน้ึ 12 ครใู ห้นักเรยี นอ่านแบบฝกึ อา่ นท่ี ครูให้นกั เรียนอา่ นแบบฝกึ อา่ นอีก ประสมดว้ ยสระ โ - และสระ เ – ครัง้ หลังจากทีค่ รูอธิบายถึงหลักใน อ นักเรยี นสว่ นใหญ่ยงั อา่ นออก การอา่ นคาท่ีประสมดว้ ยสระ เ - เสียงไมถ่ กู ตอ้ ง ยะ , - วะ , เ – อ นกั เรยี นทกุ คน อา่ นได้ถกู ตอ้ งชดั เจน ผลการเรยี น การวเิ คราะหต์ อนน้ี ผู้วจิ ยั ไดน้ าคะแนนในการอา่ นสะกดคาที่ประสมด้วยสระต่างๆ คะแนน จากแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน มีดงั นี้ แบบตารางบันทึกการใหค้ ะแนนในการอา่ นสะกดคาของเด็กชายเอกรนิ ทะรยิ ะ แบบบนั ทึกการอา่ นประสมสระ คะแนน ( 10 ) 1. คาทป่ี ระสมสระ - , - กอ่ นเรียน หลงั เรยี น 2. คาที่ประสมสระ - , - 3. คาที่ประสมสระ - , - 68 4. คาที่ประสมสระ - , - 5. คาที่ประสมสระ เ - , แ - 68 6. คาทีป่ ระสมสระ โ- , ไ- , ใ- 7. คาทีป่ ระสมสระ - , เ - 68 8. คาทป่ี ระสมสระ เ - , - อ 9. คาทปี่ ระสมสระ เ - อ , เ - ย 68 10. คาท่ีประสมสระ - ว , เ - , แ - 11. คาท่ีประสมสระ โ - , เ – อ 57 12. คาท่ีประสมสระ - , - 56 รวมคา่ เฉล่ีย 68 68 57 46 58 48 53.33 75.00

แบบตารางบนั ทกึ การใหค้ ะแนนในการอ่านสะกดคาของเด็กหญิงทิพวรรณ แสงวังทอง แบบบนั ทกึ การอา่ นประสมสระ คะแนน ( 10 ) 1. คาที่ประสมสระ - , - ก่อนเรยี น หลังเรียน 2. คาที่ประสมสระ - , - 3. คาทป่ี ระสมสระ - , - 58 4. คาทป่ี ระสมสระ - , - 5. คาท่ีประสมสระ เ - , แ - 58 6. คาที่ประสมสระ โ- , ไ- , ใ- 7. คาที่ประสมสระ - , เ - 58 8. คาท่ีประสมสระ เ - , - อ 9. คาทป่ี ระสมสระ เ - อ , เ - ย 68 10. คาที่ประสมสระ - ว , เ - , แ - 11. คาท่ีประสมสระ โ - , เ – อ 67 12. คาที่ประสมสระ โ - และสระ เ – อ 76 รวมคา่ เฉลีย่ 78 78 57 46 48 58 55.00 75.00

คะแนน เกณฑ์ * เกณฑค์ ะแนนหลงั เรียน 80 - 100 ดีมาก * เกณฑ์คะแนนกอ่ นเรียน 70 - 79 ดี 60 - 69 พอใช้ 50 - 59 แกไ้ ข 40 - 49 ปรบั ปรุง ผลการวเิ คราะหค์ ะแนนจากตารางปรากฎวา่ ก่อนเรยี น นกั เรยี นสามารถอา่ นสะกดคาอยูใ่ นเกณฑ์ 53.33 , 55.00 คอื ตอ้ งมีการแก้ไขและคะแนนหลงั เรียน นกั เรยี นสามารถอา่ นสะกดคาอยูใ่ นเกณฑ์ 75.00 คือดี 11. สรุปผลการวิจัย จากผลในการวจิ ยั ในเรอื่ งการพฒั นาทกั ษะในด้านการอ่านของนักเรยี น ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งมจี านวนนักเรียน 2 คน คอื เดก็ ชายเอกริน ทะริยะ เดก็ หญิงทพิ วรรณ แสงวังทอง พบวา่ มี ปัญหาในดา้ นทักษะการอา่ นสะกดคา ผวู้ ิจัยจงึ ได้ทดสอบโดยใช้แบบทดสอบการอ่านสะกดคาที่ ประสมสระตา่ งๆ ให้นกั เรยี นไดฝ้ ึกอา่ น ในขัน้ แรกคือก่อนเรยี น นกั เรียนสามารถอา่ นคาท่ีกาหนดให้ ไดอ้ ยใู่ นเกณฑ์ 53.33 , 55.00 จากเกณฑ์ รอ้ ยละ 80 ผลคือยังต้องมกี ารแก้ไข ดังนัน้ ครูจงึ ใช้ แนวการสอนและเทคนิคต่างๆ ในการที่จะให้นกั เรยี นมีความเขา้ ใจในทกั ษะในดา้ นการอา่ นสะกดคา และไดใ้ หเ้ พื่อนๆ ในหอ้ งได้มีส่วนร่วมในการแนะนาหลักและวิธใี นการอ่านสะกดคา หลังจากน้ันครู ไดใ้ ชช้ ดุ แบบทดสอบชดุ เดมิ ให้นักเรียนไดฝ้ ึกทดลองอา่ นสะกดคาอกี ครง้ั หนง่ึ ผลปรากฎว่านกั เรยี นมี ผลสัมฤทธิใ์ นดา้ นการอ่านสะกดคาโดยคิดเป็นรอ้ ยละ 75.00 แสดงว่านกั เรียนมีการพฒั นาทกั ษะใน ดา้ นการอา่ นทด่ี ีขนึ้

12. ขอ้ คิดที่ได้จากการวิจยั 1. ทาช่วยให้ผู้วิจยั ทราบว่าในการทาวจิ ัยเรือ่ งการพัฒนาทักษะในดา้ นการอา่ น ด้วยวิธกี าร ประเมนิ ทเี่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญว่ามปี ญั หาในการวิจยั ว่าเปน็ อย่างไรบ้าง 2. เม่ือสรปุ ผลการประเมินแลว้ ได้รู้วา่ จะมีการพฒั นาให้ตรงกับการพัฒนาทักษะการอา่ นได้ อยา่ งรวดเร็ว

ภาคผนวก