65ข้อสอบวิชาภาษาบาลี มปลาย

ขอ สอบ วิชา ภาษาบาลี (ม.ปลาย) โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรมเกยี รติแกววิทยา วัดเกียรติแกวสามัคคี ตำบลศรแี กว อำเภอศรรี ัตนะ จงั หวัดศรีสะเกษ ----------------------- 1. คาํ วา่ “ อายตนิบาต ” หมายถึง อะไร ? ก. คาํ เช่ือมคาํ ตอ่ นามกบั กริยาใหเ้ น่ืองกนั ข. คาํ บอกใหร้ ูจ้ าํ นวนนามนาม ค. คาํ แสดงลกั ษณะของนามนาม ง. คาํ ที่ใชแ้ ทนนามนามเพอื่ มิใหเ้ ป็นการซ้าํ ซาก 2. อายตนิบาต แบ่งออกเป็นก่ีหมวด ? ก. 2 หมวด ข. 5 หมวด ค. 6 หมวด ง. 7 หมวด 3. ปัจจยั นามกิตก์ ตัวใด ไมเ่ ป็นรูปและสาธนะอะไรเลย ? ก. ข ณฺย ข. อ อิ ค. เตว ตุ◌ํ ง. ติ ยุ 4. อายตนิบาต แบง่ ออกเป็นกี่ฝ่าย ? ก. 1 ฝ่าย ข. 2 ฝ่าย ค. 7 ฝ่าย ง. 8 ฝ่าย 5. สระที่สุดแห่งศพั ท์ เรียกวา่ อะไร ? ก. อายตนิบาต ข. วิภตั ติ ค. การันต์ ง. วจนะ 6. ปัจจยั ในกิตกิจจปัจจยั เป็นรูปและสาธนะใดไม่ได้ ? ก. กตั ตรูป กตั ตสุ าธนะ ข. กตั ตรุ ูป กมั มสาธนะ ค. กมั มรูป กรณสาธนะ ง. กมั มรูป ภาวสาธนะ 7. การันตโ์ ดยพิสดารมีเทา่ ไร ? ก. 3 ข. 6 ค. 13 ง. 15 8. ขอ้ ใดต่อไปน้ี ไม่ใช่ ประโยชน์ของการันต์ ? ก. ใชน้ าํ นามศพั ทท์ ้งั 3 ไปแจก ข. ทาํ ใหล้ ิงคเ์ ป็นหม่เู ดียวกนั ค. กาํ หนดรู้วภิ ตั ติและลิงคไ์ ดง้ า่ ย ง. ขอ้ ก และ ขอ้ ข 9. ศพั ท์ สงั ขยา จาํ นวนใดตอ่ ไปน้ี ท่ีเป็นอิตถีลิงคอ์ ยา่ งเดียว ? ก. เอก-อฏฺฅารส ข. เอกกนู วีส ค. เอกูนสตํ ง. ทฺวิ-อฏฺฅาราส 10. วิภตั ติใดต่อไปน้ีใน อ การนั ต์ ปุงลิงค์ ท่ีลงแลว้ คงวิภตั ติไวต้ ามเดิมไมเ่ ปลี่ยนแปลง ? ก. สิ, อํ ข. โย, หิ ค. น,ํ สุ ง. นา, ส 11. ปุริสา มีสาํ เนียงอายตนิบาตวา่ อะไร ? ก. อ.บรุ ุษ ข. ซ่ึงบรุ ุษ ท. ค. ดูก่อนบรุ ุษ ง. แตบ่ ุรุษ 12. ศพั ทใ์ ดตอ่ ไปน้ี แจกตามแบบ อิ การันต์ ใน ปุงลิงค์ ? ก. อคฺคิ ข. รตฺติ ค. อจฺจิ ง. ภมู ิ

13. ศพั ทใ์ ดต่อไปน้ี แจกตามแบบ อี การันต์ ใน ปงุ ลิงค์ ? ง. ธานี ก. นารี ข. ปฅวี ค. ตปสี 14. ศพั ทใ์ ดต่อไปน้ี แจกตามแบบ อุ การนั ต์ ใน ปงุ ลิงค์ ? ก. อรุ ุ ข. ยาคุ ค. วตฺถุ ง. ภิกฺขุ 15. ศพั ทใ์ ดตอ่ ไปน้ี แจกตามแบบ อู การนั ต์ ใน ปงุ ลิงค์ ? ก. ชมฺพู ข. สรพู ค. ปารคู ง. วธู 16. นามศพั ทแ์ บ่งออกเป็น 3 ประเภท คืออะไรบา้ ง ? ก. ปกตินาม วเิ สสนาม อติวิเสสนาม ข. นิยมนาม อสาธารณนาม นิยมานิยมนาม ค. สาธารณนาม อสาธารณนาม สาธารณาสาธารณนาม ง. นามนาม คุณนาม สัพพนาม 17. คาํ วา่ “ อติปาโป – เป็ นบาปยิ่ง ” เป็นคุณนามช้นั ใด ? ก. ปกติ ข. วเิ สส ค. อติวิเสส ง. อภิวเิ สส 18. คาํ วา่ “ นคร-เมือง ” เป็นนามนามประเภทใด ? ก. สาธารณนาม ข. อสาธารณนาม ค. นิยมนาม ง. วเิ สสนาม 19. คาํ วา่ “ ท่าน ” เป็นสพั นามประเภทใด ? ก. อติวเิ สสสัพพนาม ข. วเิ สสนสพั พนาม ค. สาธารณสัพพนาม ง. ปุริสสัพพนาม 20. นามที่สาํ หรับใชแ้ ทนนามนาม เรียกวา่ อะไร ? ก. คุณนาม ข. ปกตินาม ค. อสาธารณนาม ง. สัพพนาม 21. นามท่ีแสดงลกั ษณะของนามนาม คืออะไร ? ก. สพั พนาม ข. นามนาม ค. คุณนาม ง. อนิยมนาม 22. ขอ้ ใด ไม่ใช่ นามนาม ? ก. คน ข. สัตว์ ค. พระสงฆ์ ง. ขา้ พเจา้ 23. สาธารณนาม คืออะไร ? ก. ช่ือที่ทวั่ ไป ข. นามที่แสดงลกั ษณะของนามนามไดด้ ีทีส่ ุด ค. นามท่ีใชแ้ ทนนามนามโดยตรง ง. นามท่ีเจาะจง 24. ณฺวุ ปัจจยั เมื่อนาํ มาประกอบกบั ธาตุแลว้ มีอาํ นาจหลายประการยกเวน้ ขอ้ ใด ? ก. แปลงเป็น อก ข. ตน้ ธาตเุ ป็นรัสสะใหพ้ ฤทธ์ิ ค. ธาตมุ ี อา เป็นที่สุด แปลง อา เป็น อาย ง. ธาตุ 2 ตวั ใหล้ บที่สุดธาตุ 25. ลิงคใ์ นภาษาบาลีจดั เป็นก่ีประเภท ? ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท

26. ลิงคใ์ นภาษาบาลีแบ่งออกเป็นกี่อยา่ ง ? ก. 2 อยา่ ง ข. 3 อยา่ ง ค. 4 อยา่ ง ง. 5 อยา่ ง 27. คาํ วา่ “ ลงิ ค์ ” หมายถึงอะไร ? ก. ลกั ษณะอาการของนามศพั ท์ ข. คาํ บอกจาํ นวนของนามศพั ท์ ค. คาํ ใชแ้ ทนนามศพั ท์ ง. เพศของนามศพั ท์ 28. คาํ วา่ “ ทิวส - วัน ” เป็นไดก้ ี่ลิงค์ ? ก. 1 ลิงค์ ข. 2 ลิงค์ ค. 3 ลิงค์ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 29. คาํ วา่ “ วิ + ฃา + ณฺย ” สาํ เร็จรูปเป็นอะไร ? ก. วิฃฺฃยฺยํ ข. วิฃฺฃาณยํ ค. วิ�ฺเฃยฺยํ ง. วิ�ฺฃาณํ 30. วจนะ หมายถึง อะไร ? ก. ส่วนแห่งคาํ พูด ข. คาํ กล่าวถึงลกั ษณะของนาม ค. คาํ สาํ หรับบอกใหร้ ู้จาํ นวนของนาม ง. คาํ ที่เป็นประธานในประโยค 31. ปัจจยั นามกิตกใ์ นกิตปัจจยั นิยมต้งั วิเคราะหเ์ ป็นรูปและสาธนะอะไร ? ก. กตั ฺตรุ ูป กตั ตสุ าธนะ ข. กมั มรูป กมั มสาธนะ ง. กตั ตรุ ูป กรณสาธนะ ค. ภาวรูป ภาวสาธนะ 32. เคร่ืองปรุงอาขยาตที่จะขาดไม่ไดเ้ ลยคือ อะไรบา้ ง ? ก. วภิ ตั ติ วาจก ปัจจยั ข. กาล ธาตุ ปัจจยั ค. บท วจนะ บุรุษ ง. วิภตั ติ ธาตุ ปัจจยั 33. สฺสํ กาลาติปัตติวภิ ตั ติ เป็นบุรุษ และวจนะอะไร ? ก. ประถมบุรุษ เอกวจนะ ข. มธั ยมบรุ ุษ เอกวจนะ ค. มธั ยมบรุ ุษ พหุวจนะ ง. อุตตมบรุ ุษ เอกวจนะ 34. “ วกฺขามิ ” สาํ เร็จรูปมาจาก... ? ก. วจ + อ + มิ วตั ตมานา ข. วจ + อ + มิ ปัญจมี ค. วจ + อ + สฺสามิ ภวสิ ฺสนฺติ ง. วกฺข + อ + มิ วตั ตมานา 35. กิริยาศพั ทใ์ ดต่อไปน้ี คือธาตทุ ่ีเรียกหากรรม ? ก. ขียติ ข. มรติ ค. ม�ุ ฺจติ ง. ภิชฺชติ 36. กิริยาศพั ทใ์ ดต่อไปน้ีจดั อยใู่ นหมวด กี ธาตุ ? ก. สยติ ข. ภ�ุ ฺชติ ค. สุณาติ ง. จินาติ 37. “ สฺสติ ” ในหมวดภวิสสนั ติ เมื่อลบ สฺส ทิ้งแลว้ หุ ธาตุมีรูปเป็นอะไร ? ก. โห ข. หุห ค. โหห ง. หุหุ 38. กิริยาศพั ทใ์ ดต่อไปน้ีใชศ้ พั ทพ์ เิ ศษสาํ หรับนาํ หนา้ กิริยา ?

ก. อุปสงฺกมติ ข. มนสิกโรติ ค. นิกฺขมติ ง. อปุ จฺจคา 39. อกมั มธาตุ ไมน่ ิยมใชใ้ นวาจกใด ? ก. กตั ตวุ าจก. ข. กมั มวาจก ค. ภาววาจก ง. เหตกุ ตั ตุวาจก 40. ศพั ทใ์ ดต่อไปน้ีเป็นเอกวจนะอยา่ งเดียว ? ก. ภควนฺตา ข. อรหา ค. ปรุ ิสา ง. อตฺตา 41. ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี ไม่ใช่ ประโยชน์ของวจนะ ? ก. เป็นเครื่องบอกใหร้ ู้จาํ นวนมากนอ้ ย ข. ใชแ้ สดงความเคารพ ค. เป็นเครื่องหมายใหร้ ู้วิภตั ติ ง. เป็นเครื่องหมายใหร้ ู้ลิงค์ 42. วจนะอะไรที่บอกถึงจาํ นวนของนามวา่ มี 2 เทา่ น้นั ? ก. เอกวจนะ ข. พหุวจนะ ค. ทฺววิ จนะ ง. เทววจนะ 43. คาํ วา่ “ วิภัตติ ” หมายถึงอะไร ? ก. การแบง่ จาํ นวนของนามศพั ท์ ข. การแบง่ เพศของนามศพั ท์ ค. การแบง่ ลิงคข์ องนามศพั ท์ 44. วภิ ตั ตินามท้งั หมดมีก่ีตวั ? ง. การแจกหรือจาํ แนกนามศพั ท์ ก. 7 ตวั ข. 14 ตวั ค. 16 ตวั ง. 28 ตวั 45. ปัจจยั ในหมวด “ กี ” ธาตุ มีรูปไดห้ ลายอยา่ ง ยกเว้น ขอ้ ใด ? ก. แปลงเป็น ณา เช่น กีณาติ ข. แปลงเป็น ย เช่น นายเร ค. แปลงเป็น �ฺ เช่น ช�ฺฃา ง. คงรูปเป็น นา เชน่ ชินาติ 46. ส วภิ ตั ติ ใน อิ อี อุ อู การันต์ ปงุ ลิงค์ นอกจากแปลงเป็น สฺส แลว้ ยงั แปลงเป็นอะไรไดอ้ ีก ? ก. ยา ข. โน ค. มฺหิ ง. มฺหา 47. โย ป., ทุ. พหุ. ใน อิ การนั ต์ ปุงลิงค์ ถา้ จะคงไวต้ อ้ งทาํ อยา่ งไร ? ก. ทีฆะ อิ เป็น อี ข. ลบ อิ ทิ้งเสีย ค. คง อิ ไว้ ง. เอา อิ เป็น อ 48. อุ การนั ต์ ในปุงลิงค์ ใน ป. พหุ. สาํ เร็จรูปเป็นอะไร ? ก. ครุโน ข. ครโว ค. ครุโย ง. ครเว 49. วภิ ตั ติตวั ไหน ลงแลว้ ทีฆะ อิ เป็น อี และ อุ เป็น อู ในลิงคท์ ้งั ปวง ? ก. หิ ข. โย ค. ส ง. นา 50. อิ อี อุ อู การันต์ ในปุงลิงคต์ อ่ ไปน้ี ขอ้ ใดทาํ ตวั ผดิ จากแมแ่ บบ ? ก. มนุ โย ข. ครโว ค. เสฏฅินํ ง. วิ�ฺ�ุสสฺส