Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Khao Phansa day

Khao Phansa day

Published by jaja.jeerapa.2929, 2017-07-18 05:30:16

Description: Khao Phansa day

Search

Read the Text Version

2017วนั เข้าพรรษา MasterSert MasterCom [วนั ท่]ี

วนั เขา้ พรรษาความหมายตกั บาตรดอกไม้ วนั เขา้ พรรษาจ.สระบุรีภาพ : อนุสาร อ.ส.ท. วนั เขา้ พรรษา กาหนดเป็ น 2 ระยะ คือ ปุริมพรรษา และปัจฉิมพรรษา 1. ปุริมพรรษา คือ วนั เขา้ พรรษาตน้ ตรงกบั วนั แรม 1 ค่า เดือน 8 ของทุกปีหรือราวเดือนกรกฎาคม และออกพรรษาในวนั ข้ึน 15 ค่า เดือน 11 ราวเดือนตุลาคม 2. ปัจฉิมพรรษา คือ วนั เขา้ พรรษาหลงั สาหรับปี อธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหนตรงกบั วนั แรม 1 ค่า เดือน 8 หลงั หรือราวเดือนกรกฎาคม และจะออกพรรษาในวนั ข้นึ 15 ค่าเดือน 11 ราวเดือนตุลาคม ความหมายของวนั เขา้ พรรษา คือ เป็นวนั ที่พระภิกษสุ งฆอ์ ธิษฐานวา่ จะพกั ประจาอยู่ณ ท่ีแห่งใดแห่งหน่ึง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนมีกาหนด 3 เดือนตามพระวนิ ยั บญั ญตั ิโดยไม่ไปคา้ งแรมในที่อ่ืน เรียกกนั โดยทวั่ ไปวา่ \"จาพรรษา\"ประวตั ิความเป็ นมาเทียนจานาพรรษาภาพ : อนุสาร อ.ส.ท. แตเ่ ดิมในสมยั พทุ ธกาล พระพทุ ธเจา้ ไมไ่ ดท้ รงบญั ญตั ิพระวนิ ยั ใหพ้ ระสงฆส์ าวก อยปู่ ระจาพรรษา เหล่าภิกษุสงฆจ์ ึงต่างพากนั ออกเดินทาง เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในสถานท่ีตา่ งๆ โดยไม่ยอ่ ทอ้ ท้งั ในฤดหู นาว ฤดูร้อนและฤดูฝน ต่อมาชาวบา้ นไดพ้ ากนั ติเตียนวา่ พวกสมณะศากยบุตรไม่ยอมหยดุ สญั จรแมใ้ นฤดูฝน ในขณะที่พวกพอ่ คา้ และนกั บวชในศาสนาอ่ืนๆ ตา่ งพากนั หยดุ สญั จรในช่วงฤดูฝนน้ี การที่พระภิกษสุ งฆจ์ าริกไปในท่ีต่างๆแมใ้ นฤดูฝน อาจเหยยี บย่าขา้ วกลา้ ชาวบา้ น ไดร้ ับความเสียหาย หรืออาจไปเหยยี บย่าโดนสตั วเ์ ลก็ สตั วน์ อ้ ยที่ออกหากินจนถึงแก่ความตาย

เม่ือพระพทุ ธองคท์ รงทราบเร่ืองจึงไดว้ างระเบียบใหพ้ ระภิกษสุ งฆเ์ ขา้ อยปู่ ระจาที่ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนแห่งฤดูฝน ภิกษุสงฆท์ ี่อธิษฐานเขา้ พรรษาแลว้ จะไปคา้ งแรมท่ีอื่นนอกเหนือจากอาวาส หรือที่อยขู่ องตนไม่ได้แมแ้ ตค่ ืนเดียว หากไปแลว้ ไม่สามารถกลบั มาในเวลาที่กาหนด คือก่อนรุ่งสวา่ ง ถือวา่ พระภิกษุรูปน้นั ขาดพรรษา แตห่ ากมีกรณีจาเป็ น 4 ประการตอ่ ไปน้ี ภิกษุผอู้ ยพู่ รรษาสามารถกระทา สตั ตาหกรณียะ คือ ไปคา้ งท่ีอืน่ ได้โดยไมถ่ ือวา่ เป็ นการขาดพรรษา แต่ตอ้ งกลบั มาภายในระยะเวลา 7 วนั คือ 1. ไปรักษาพยาบาลพระภิกษุ หรือ บิดามารดาที่เจบ็ ป่ วย 2. ไประงบั ไม่ใหพ้ ระภิกษสุ ึก 3. ไปเพือ่ กิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น ไปหาอปุ กรณ์มาซ่อมแซมวดั ซ่ึงชารุดในพรรษาน้นั 4. ทายกนิมนตไ์ ปฉลองศรัทธาในการบาเพญ็ กศุ ลของเขา ในการอธิษฐานเขา้ พรรษา ณ วดั หรือท่ีใดที่หน่ึง หากมีเหตุจาเป็ น 5 ประการต่อไปน้ี ภิกษุไมต่ อ้ งอาบตั ิ แม้จะไปอยทู่ ่ีอื่น ไดแ้ ก่ 1. ถกู สตั วร์ ้ายรบกวน ถูกโจรปลน้ วหิ ารถกู ไฟไหม้ หรือถูกน้าท่วม 2. ชาวบา้ นถกู โจรปลน้ อพยพหนีไป อนุญาตใหไ้ ปกบั เขาได้ หรือชาวบา้ นแตกเป็ น 2 ฝ่ าย ใหไ้ ปกบั ฝ่ ายท่ีมีศรัทธาเล่ือมใส 3. ขาดแคลนอาหาร หรือยารักษาโรค 4. มีผเู้ อาทรัพยม์ าลอ่ พระพทุ ธองคท์ รงอนุญาตใหห้ นีไปเสียใหพ้ น้ ได้ 5. ภิกษุสงฆแ์ ตกกนั หรือมีผพู้ ยายามทาใหภ้ ิกษสุ งฆใ์ นวดั แตกกนั ใหไ้ ปเพื่อหาทางระงบั ได้ประโยชนใ์ นการเขา้ พรรษาของพระภิกษุ 1. เป็ นช่วงท่ีชาวบา้ นประกอบอาชีพทาไร่นา หากภิกษุสงฆเ์ ดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ อาจไปเหยยี บตน้ กลา้ หรือสตั วเ์ ลก็ สตั วน์ อ้ ยใหไ้ ดร้ ับความเสียหายลม้ ตาย 2. หลงั จากเดินทางจาริกไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนามาเป็ นเวลา 8 - 9 เดือน พระภิกษุสงฆจ์ ะไดห้ ยดุ พกั ผอ่ น 3. เป็ นเวลาที่พระภิกษสุ งฆจ์ ะไดป้ ระพฤติปฏิบตั ิธรรมสาหรบั ตนเอง และศึกษาเลา่ เรียนพระธรรมวนิ ยัตลอดจนเตรียมการสงั่ สอนประชาชนเม่ือถึงวนั ออกพรรษา 4. เพ่อื จะไดม้ ีโอกาสอบรมสง่ั สอนและบวชใหก้ บั กลุ บุตรผมู้ ีอายคุ รบบวช อนั เป็ นกาลงั สาคญั ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาต่อไป 5. เพ่อื ใหพ้ ทุ ธศาสนิกชน ไดม้ ีโอกาสบาเพญ็ กศุ ลเป็นการพิเศษ เช่น การทาบญุ ตกั บาตรหลอ่ เทียนเขา้ พรรษา ถวายผา้ อาบน้าฝน รักษาศีล เจริญภาวนา ถวายจตุปัจจยั ไทยธรรม งดเวน้ อบายมขุ และมีโอกาสไดฟ้ ังพระธรรมเทศนาตลอดเวลาเขา้ พรรษาประเพณีตกั บาตรดอกไม้ จ.สระบุรีภาพ : อนุสาร อ.ส.ท.

นิราศเดือน ถึงเดือนแปดแดดอบั พยบั ฝนจวนจะบวชเป็ นพระสละนาง ประดบั พมุ่ บุปผาพฤกษากระถางตกุ๊ ตาเจา้ พราหมณ์งามละมนุ ตน้ ไมท้ องเสาธงหงส์ข้ีผ้งึอณุ รุทยดุ กินนรชะออ้ นพริ้งฤดูดลพระวษาเขา้ มาขวางอยเู่ หินห่างเห็นกนั เม่ือวนั บุญรูปแรดชา้ งโคควายขายกนั วนุ่ตน้ พกิ ลุ ลิ้นจ่ีดูดีจริงคูล่ ะสลึงเขาขายพวกชายหญิงมีทุกสิ่งซ้ือมาบูชาพระอา้ งอิงประเพณี พธิ ีมงคล และวนั สาคญั ของไทย. กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก, 2539.รวบรวมขอ้ มลู โดย : งานพฒั นาและจดั การสารสนเทศ ฝ่ ายเทคโนโลยสี ารสนเทศหอ้ งสมดุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook