Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรมPRIDAE Rearning

นวัตกรรมPRIDAE Rearning

Published by อริสรา ฆารฤทธิ์, 2021-08-13 10:49:11

Description: นวัตกรรมPRIDAE Rearning

Search

Read the Text Version

นวตั กรรม PRIDAE LEARNING นางสาวอรสิ รา ฆารฤทธิ์ ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย โรงเรยี นบรษิ ทั ไทยกสิกรสงเคราะห์ สพป.ชบ 3

คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทาขึ้นเพ่ือ เผยแพร่นวัตกรรมแนวทางการจัดการศึกษาใน รูปแบบ PRIDAE LEARNING รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนผู้เรียนเป็นสาคัญ ตอบสนองการจักการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21โดยเน้นการจัดการเรียนรู้แบบActive Learning ให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทา เป็นผู้สืบเสาะหาความรู้ และบรูณาการความรู้จาก หลายศาสตร์วิชาเข้ารวมกัน ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ กลุ่ม ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนในการแสวงหาความรู้ ในการดาเนินงานเพ่ือ แก้ปญั หาหรอื สรา้ งชิ้นงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั หวังว่ารายงานฉบับน้ีจะให้ความรู้ เป็นแนวทางในการจัดการศึกษา และ เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทาขอรับไว้ด้วย ความขอบพระคณุ ยงิ่ อรสิ รา ฆารฤทธ์ิ ผจู้ ดั ทา

PRIDAE LEARNING P Problem Identification = การระบุปัญหา สรา้ งสถานะการณข์ องปญั หา R Related information Search = การรวบรวมข้อมูล I Integrated Knowledge and Develop = การบรูณาการความรู้และแก้ไขปญั หา D Discussion = การอภปิ ราย A Appy in life = การนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจริง E Evaluation = การประเมนิ ผล

๑. ขน้ั การระบปุ ัญหา สร้างสถานะการณข์ องปัญหา (Problem Identification) การระบุปัญหา สร้างสถานะการณ์ของปัญหาหรือยกตัวอย่าง สถานการณ์ และตั้งคาถาม ต้ังข้อสงสัยข้อสงสัย และทาความเข้าใจ สถานการณ์ของปัญหาหรือความต้องการนั้นๆ อย่างละเอียดโดย วิเคราะห์เง่ือนไขหรือข้อจากัดของสถานการณ์ เพื่อัต้ดสินใจเลือกปัญหา หรอื ความตอ้ งการท่จี ะดาเนนิ การแกไ้ ข แล้วกาหนดขอบเขตของปัญหาท่ี มีอยู่ให้ชัดเจน ซ่ึงจะนาไปสู่การหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป การ ระบุปัญหาและกาหนดขอบเขตของปัญหาให้มีความชัดเจนเราสามารถ นาเทคนิคหรือวธิ กี ารต่างๆมาช่วยในการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ทราบถึง องค์ประกอบและสาเหตุของปญั หา

๒. ขัน้ ตอนกำรรวบรวมข้อมูล (Related information Search) กระบวนการการสืบเสาะหาความรู้ที่นักเรียนต้องกาหนดแนวทางในการ เก็บรวบรวมข้อมูล เป็นข้ันทผี่ ู้เรียนจะไดฝ้ กึ ทักษะการสืบเสาะ ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ และทักษะกระบวนการกลุ่ม ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน วางแผนในการแสวงหาความรู้ เมอ่ื กลมุ่ มคี วามคิดเห็นแตกตา่ งกนั แล้ว สมาชกิ แต่ ละกลุ่มช่วยกันวางแผนว่า จะแสวงหาข้อมูลอะไร กลุ่มจะพิสูจน์อะไร จะ ตงั้ สมมติฐานอะไร กลุ่มจาเปน็ ตอ้ งมขี อ้ มลู อะไร และจะไปแสวงหาท่ีไหน หรือจะ ได้ข้อมูลน้ันมาได้อย่างไร จะต้องใช้เคร่ืองมืออะไรบ้าง เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว จะ วิเคราะห์อย่างไร และจะสรุปผลอย่างไร ขั้นน้ีเป็นผู้สอนทาหน้าที่อานวยความ สะดวกในการทางานให้แก่ผูเ้ รียน รวมทงั้ ให้คาแนะนาเกีย่ วกบั การวางแผน แหล่ง ความรู้ และการทางานร่วมกนั

๓. ขั้นตอนกำรบรูณำกำรควำมรู้และแกไ้ ขปัญหำ (Integrated Knowledge and Develop) การนาความรู้ในศาสตร์วิชาต่างๆท่ีค้นคว้า รวบรวมข้อมูลที่ได้ นามาประยุกต์วางแผนนามาใช้ในการแก้ปัญหา หาทางออกของปัญหา หรือสร้างส่ิงประดิษฐ์ และลงมือปฏิบัติตามแผนที่กาหนดไว้ สมาชิกกลุ่ม ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ถึงความสาคัญและความจาเป็นในแผนน้ันๆ ความสาเร็จของการนาแผนมาปฏิบัติต้องอาศัยการทางานด้วยความ ร่วมมือเป็นอย่างดี จากสมาชิก ตลอดจนการจัดการทรัพยากรท่ี จาเป็นต้องใช้ในการปฏิบัติงานตามแผนน้ันๆ ในข้ันตอนน้ี ขณะท่ีลงมือ ปฏิบัติจะมกี ารตรวจสอบไปด้วย หากไม่เปน็ ไปตามแผนอาจจะต้องมีการ ปรับแผนใหม่และเมื่อแผนน้ันใช้งานได้ก็นาไปใช้เป็นแผนและถือปฏิบัติ ตอ่ ไป

๔. ขัน้ ตอนกำรอภปิ รำย (Discussion) เปน็ การนาเสนอชิน้ งาน/การแกป้ ญั หา แนวคิดและขั้นตอนการแก้ปญั หา ของการสรา้ งช้ินงานหรือการพัฒนาวิธีการ ให้ผู้อื่นเข้าใจและได้ข้อเสนอแนะเพื่อ การพัฒนาต่อไป ครูควรเสนอแนะให้นักเรียนนาเสนอ อย่างเป็นขั้นตอน ต้ังแต่ สถานการณ์ปัญหา การระบุปัญหา การรวบรวมข้อมูล การออกแบบ การ วางแผน การปฏบิ ตั ิงานเพ่อื แกป้ ญั หา การทดสอบ ผลการประเมิน การปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างย่ิงขั้นตอนของการทาความเข้าใจปัญหาว่าอะไรคือเป้าหมาย อะไรคือความต้องการ อะไรเป็นข้อจากัดของการสร้างงาน การรวบรวมข้อมูล ทาให้เรียนรู้อะไร การออกแบบอยู่บนพ้ืนฐานของการใช้วิทยาศาสตร์และ คณติ ศาสตร์อยา่ งไร มีเทคโนโลยีอะไรท่ีใช้ประโยชน์ในการสร้างงานนี้ เกิดปัญหา อปุ สรรคระหว่างสร้างงานอยา่ งไร ปรบั แก้อย่างไร และผลลัพธ์สุดท้ายเป็นไปตาม เป้าหมายและความตอ้ งการหรือไม่

๕. กำรนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง (Appy in life) การนาความรู้ท่ีสร้างข้ึนไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือแนวคิดที่ได้ ค้นคว้าเพ่ิมเติม หรือนาแบบจาลองหรือข้อสรุปที่ได้ไปใช้อธิบายสถานการณ์หรือ เหตกุ ารณอ์ ืน่ ๆ หรือนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ ๖. กำรประเมนิ ผล(Evaluation)) กระบวนการสังเกต บันทึกและการรวบรวมข้อมูลจากผลงาน วิธีการ หรือส่ิงที่ผู้เรียนปฏิบัติ เพื่อเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจต่อตัวผู้เรียน การ ประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ จะไม่เนน้ การประเมินเฉพาะทักษะพื้นฐาน แต่จะเน้น ประเมนิ ทักษะการคิดทีซ่ ับซอ้ นในการทางาน ความสามารถในการแก้ปัญหาและ การแสดงออกท่เี กิดจาการปฏิบัติในสภาพจริง ในการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียน เปน็ สาคัญด้วย

นวตั กรรม PRIDAE LEARNING ผจู้ ดั ทาขอบพระคณุ ย่ิง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook