หน่วยลอยกระทง

แผนการจัดประสบการณ์ ช้ันอนบุ าล 3 หน่วย ลอยกระทง นางสาวอาภาพร ลอื ทองจนั ทร์

การวิเคราะหโครงสรางหนว ยการจัดประสบการณ ตามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ หนวยที่ ๒๐ ลอยกระทง ชนั้ อนบุ าลปท ี่ ๑ - ๓ ภาคเรียนที่ ๒ รายการ อนุบาลปีท่ี 1 อนุบาลปที ี่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3 สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. ความเปน็ มาและความสาคญั ของ 1. ความเป็นมาและความสาคัญของวนั ลอย 1. ความเป็นมาและความสาคญั ของประเพณี มาตรฐาน ประเพณลี อยกระทง กระทง ลอยกระทง ตัวบ่งชี้ 2. การดูแลรักษาสิง่ แวดล้อมในแมน่ า 2. กจิ กรรมในวนั ลอยกระทง 2. กลีบและฐานกระทง สภาพท่พี ึงประสงค์ 3. วตั ถุบางชนิดลอยนาไดแ้ ละบางชนดิ 3. การดแู ลรกั ษาส่งิ แวดลอ้ มในแม่นา 3. การจม - ลอยโดยการทดลองหาจานวนกลีบ จมนา 4. สว่ นประกอบของกระทง กระทงท่มี ากทส่ี ุดท่ีกระทงไม่จม 4. วัสดุทีใ่ ชท้ าฐานกระทงให้ลอยนาได้ 5. ลกั ษณะรูปร่างฐานกระทง 4. การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มใน 6. รูปร่าง ขนาด พนื ที่ของฐานกระทงท่ีมผี ลต่อ แมน่ า การจมการลอย มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.1) (2.1.2) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.1) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.1) (2.1.2) มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 6 ตบช. ๖.2 (6.2.1) มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 7 ตบช. 7.1 (๗.๗.1) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ 6 ตบช. ๖.2 (6.2.1) มฐ 6 ตบช. ๖.2 (6.2.1) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.๑) (10.1.2) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) (10.1.3) มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.๑) (10.1.2) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.๑) (10.1.2) (10.1.3) (10.1.3) มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1) มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1)

รายการ อนบุ าลปที ี่ 1 อนุบาลปที ี่ 2 อนุบาลปที ่ี 3 ประสบการณส์ าคญั รา่ งกาย 1.1.1 การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่ รา่ งกาย ร่างกาย (1) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ 1.1.1 การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ (2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี (1) การเคล่ือนไหวอยู่กับท่ี (1) การเคลื่อนไหวอยู่กบั ที่ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ (2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ี (5) การเลน่ เคร่ืองเล่นสนามอย่างอิสระ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ 1.1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เลก็ (5) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอย่างอิสระ (5) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ (2) การเขียนภาพ 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนือ้ เลก็ 1.1.2 การใช้กลา้ มเนอื้ เล็ก (3) การป้ัน (2) การเขยี นภาพ (2) การเขยี นภาพ (4) การประดิษฐ์สง่ิ ตา่ งๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ (3) การป้ัน (3) การป้ัน (5) การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การตัด (5) การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การฉีก การตดั อารมณ์ จิตใจ การปะ และการร้อยวสั ดุ การปะ และการร้อยวัสดุ ๑.๒.๒ การเล่น อารมณ์ จิตใจ อารมณ์ จติ ใจ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์ ๑.๒.๒ การเล่น ๑.๒.๒ การเล่น ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๓) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์ (๔) การรอ้ งเพลง ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (5) การทางานศิลปะ (๔) การร้องเพลง (๔) การรอ้ งเพลง สงั คม (5) การทางานศิลปะ (5) การทางานศิลปะ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินัย มีส่วน สังคม สังคม รว่ มและบทบาทสมาชิกของสังคม 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ มีวินัย มีส่วนร่วม 1.3.2 การดูแลรักษาธรรมชาติและ (4) การดแู ลห้องเรยี นรว่ มกัน และบทบาทสมาชิกของสังคม ส่ิงแวดล้อม (4) การดูแลห้องเรียนรว่ มกัน (6) การสนทนาข่าวและเหตุการณท์ ี่เกีย่ วขอ้ ง กบั ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมในชวี ติ ประจาวัน 1.3.3 การปฏิบัติตามวฒั นธรรมท้องถิ่นและ

รายการ อนบุ าลปีที่ 1 อนบุ าลปีที่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3 สติปัญญา สตปิ ัญญา ความเป็นไทย (2) การเลน่ บทบาทสมมติการปฏิบตั ิตนใน 1.4.1 การใช้ภาษา 1.4.1 การใชภ้ าษา ความเป็นคนไทย 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ มีวินัย มีส่วนรว่ ม (6) การพดู อธบิ ายเกยี่ วกับส่ิงของ (6) การพูดอธบิ ายเก่ียวกับส่ิงของเหตกุ ารณ์ และบทบาทสมาชิกของสงั คม (4) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกัน เหตุการณแ์ ละความสมั พันธ์ของส่ิงต่างๆ และความสัมพนั ธข์ องสิ่งต่างๆ สตปิ ัญญา 1.4.1 การใชภ้ าษา 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล (6) การพูดอธิบายเก่ียวกับสิ่งของเหตุการณ์ และความสัมพันธข์ องสง่ิ ต่างๆ เหตผุ ลการตดั สินใจและแก้ปัญหา การตดั สินใจและแก้ปัญหา 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจและแก้ปญั หา (1) การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ (1) การสังเกตลักษณะสว่ นประกอบ (1) การสงั เกตลักษณะส่วนประกอบ การเปล่ียนแปลงและความสัมพนั ธข์ องส่งิ ต่างๆ การเปล่ียนแปลงและความสัมพันธ์ของสง่ิ การเปลี่ยนแปลงและความสมั พันธ์ของสิ่งตา่ งๆ โดยใช้ประสาทสัมพนั ธ์อยา่ งเหมาะสม (5) การคดั แยก การจดั กลมุ่ และการจาแนกส่งิ ต่างๆโดยใช้ประสาทสัมพนั ธอ์ ยา่ ง โดยใช้ประสาทสัมพนั ธ์อยา่ งเหมาะสม ต่างๆตามลักษณะและรูปร่าง รูปทรง (6) การต่อของชนิ เลก็ ในชินใหญใ่ หส้ มบรู ณ์ เหมาะสม (5) การคัดแยก การจดั กลมุ่ และการจาแนกส่ิง และการแยกชิน (8) การนับและแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ (5) การคัดแยก การจัดกลมุ่ และ การ ต่างๆตามลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง ในชวี ติ ประจาวัน (13) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ และ จาแนกสิ่งต่างๆ ตามลกั ษณะและรูปรา่ ง (6) การตอ่ ของชินเลก็ ในชนิ ใหญใ่ ห้สมบูรณ์ การเรยี งลาดบั สิ่งตา่ งๆตามลักษณะความยาว/ รูปทรง และการแยกชิน (6) การต่อของชินเลก็ ในชินใหญ่ให้ (8) การนับและแสดงจานวนของสิ่งตา่ งๆ สมบูรณแ์ ละการแยกชนิ ในชวี ติ ประจาวัน (8) การนบั และแสดงจานวนของสิง่ ตา่ งๆ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทียบ และ ในชวี ติ ประจาวนั การเรียงลาดบั สิ่งต่างๆตามลักษณะความยาว/

รายการ อนุบาลปีท่ี 1 อนบุ าลปที ี่ 2 อนุบาลปีท่ี 3 คณติ ศาสตร์ (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบ และ ความสูง นาหนกั ปรมิ าตร ความสงู นาหนัก ปรมิ าตร การเรยี งลาดับสิ่งตา่ งๆตามลักษณะ (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสิ่งท่ีอาจจะ (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิง่ ที่ ความยาว/ความสงู นาหนกั ปรมิ าตร เกดิ ขึนอยา่ งมเี หตุผล อาจจะเกิดขึนอยา่ งมเี หตผุ ล (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ที่ 1.4.4 เจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรียนรู้และการ 1.4.4 เจตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้และการ อาจจะเกิดขึนอยา่ งมเี หตผุ ล แสวงหาความรู้ แสวงหาความรู้ 1.4.4 เจตคติท่ดี ตี อ่ การเรยี นรู้และการ (2) การตงั คาถามในเร่อื งทีส่ นใจ (2) การตังคาถามในเรอ่ื งท่สี นใจ แสวงหาความรู้ (3) การสบื เสาะหาความรเู้ พื่อค้นหาคาตอบ (3) การสืบเสาะหาความรเู้ พ่ือค้นหาคาตอบ (2) การตังคาถามในเรื่องท่ีสนใจ ของข้อสงสัยต่างๆ ของขอ้ สงสยั ต่างๆ (3) การสืบเสาะหาความรเู้ พื่อคน้ หา (4) การมสี ว่ นรว่ มในการรวบรวมขอ้ มูลและ (4) การมสี ว่ นร่วมในการรวบรวมขอ้ มูลและ คาตอบของข้อสงสัยตา่ งๆ นาเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหาความรใู้ น นาเสนอข้อมูลจากการสบื เสาะหาความรู้ใน (4) การมสี ่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูล รูปแบบตา่ งๆและแผนภูมิอย่างง่าย รปู แบบต่างๆ และแผนภมู ิอย่างง่าย และนาเสนอขอ้ มลู จากการสืบเสาะหา ความรใู้ นรูปแบบตา่ งๆและแผนภมู ิ อยา่ งง่าย  นบั ปากเปลา่ 1 – 5  นับปากเปล่า 1 – 10  นบั ปากเปลา่ 1 – 20  นับและแสดงจานวน 1 – 4  นับและแสดงจานวน 6  บอกและแสดงจานวน 1 – 10  อ่านตวั เลขอนิ ดอู ารบิก 1 – 4  อา่ นตวั เลขฮนิ ดูอารบิก 1 – 6  อา่ นและเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ 1 – 10  เปรยี บเทยี บจานวนของสง่ิ ต่างๆ สอง  เปรยี บเทยี บจานวนของสิ่งตา่ งๆ สองกลุม่  เปรียบเทียบจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ สองกลมุ่ กลมุ่ แตล่ ะกลุ่มมจี านวนไมเ่ กิน 3 แตล่ ะกลุม่ มจี านวนไม่เกนิ 6 แตล่ ะกลุม่ มีจานวนไม่เกนิ 10  บอกไดว้ ่าเมื่อนาสงิ่ ตา่ งๆ สองกลุม่ มา  บอกจานวนทังหมดที่เกิดจากการรวมสิ่ง  บอกอันดบั ที่ของส่ิงต่างๆ ไม่เกนิ 5 รวมกนั จะมจี านวนของสิง่ ต่างๆ มากขนึ ตา่ งๆ สองกลุม่ ทม่ี ีผลรวมไม่เกนิ 5  บอกจานวนทังหมดที่เกิดจากการรวมส่ิง  เปรียบเทยี บนาหนักของสง่ิ ต่างๆ โดยใช้  เรียงลาดับนาหนักของสงิ่ ต่างๆ ไม่เกิน 3 สงิ่ ตา่ งๆ สองกลุ่มทม่ี ีผลรวมไมเ่ กนิ 10 คาหนักกว่า เบากว่า หนกั เทา่ กนั

รายการ อนุบาลปที ี่ 1 อนุบาลปีที่ 2 อนุบาลปีที่ 3  ตวงทรายหรือนา โดยใชภ้ าชนะต่างๆ  ชั่งนาหนักสง่ิ ตา่ งๆ เช่น ผลไม้ ขนม โดยใช้  ชั่งและบอกนาหนักของสงิ่ ตา่ งๆ ทกี่ าหนดให้ เช่น ชอ้ น แกว้ ขวด และบอกจานวนที่ ตาช่งั สองแขนอยา่ งงา่ ย และบอกไดว้ า่ ส่ิงใด โดยใช้เครอ่ื งมือและหน่วยทไ่ี มใ่ ช่หนว่ ย ตวง หนักกว่า เบากวา่ หรอื หนักเทา่ กนั มาตรฐาน วิทยาศาสตร์ - ทักษะการสังเกต - ทักษะการสังเกต - ทกั ษะการสังเกต - ทักษะการจาแนก - ทักษะการจาแนก - ทักษะการจาแนก - ทักษะการจัดทาและส่อื ความหมาย - ทกั ษะการลงความเห็น - ทกั ษะการจดั การทาและส่ือความหมาย - ทักษะการจดั การทาและส่ือความหมาย - ทกั ษะการลงความเหน็ - ทกั ษะการลงความเหน็ พัฒนาการทางภาษา 1. ฟงั ผู้อืน่ พูดและพดู โต้ตอบเกย่ี วกบั เร่ือง 1. ฟังผู้อืน่ พดู จนจบและพูดโตต้ อบเกยี่ วกบั เร่ือง 1. ฟงั ผู้อ่นื พดู จนจบและสนทนาโต้ตอบอย่าง และการรูห้ นังสือ ทฟี่ ังได้ ทฟ่ี งั ต่อเนื่องเชอื่ มโยงกบั เร่ืองท่ีฟัง 2. เลา่ ประสบการณ์ 2. เลา่ เรอ่ื งเป็นประโยคอย่างตอ่ เนอื่ ง 2. การพูดอธิบายเกยี่ วกบั สง่ิ ของ เหตุการณ์ และความสัมพันธ์ของส่ิงตา่ งๆ

แนวคิด หนวยการจัดประสบการณท่ี ๒๐ ลอยกระทง ชัน้ อนุบาลปท ี่ ๓ วนั ลอยกระทง เป็นวนั สาคัญของคนไทยที่ยึดถือปฏิบตั ิกันมานานตงั แตส่ มยั กรุงสโุ ขทยั ตรงกับวันเพ็ญพระจันทรเ์ ตม็ ดวง เดอื นพฤศจิกายน ผคู้ นจะทากระทง ใส่ดอกไม้ ธูปเทียน ไปลอยที่แม่นาเพื่อขอขมาพระแม่คงคา ทที่ งิ สงิ่ สกปรกลงไปทาใหแ้ ม่นาเนา่ เสยี มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 1 1.3 รักษาความ 1.3.1 เล่น 1. เลน่ ทากจิ กรรมและปฏบิ ตั ิต่อผู้อืน่ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ 1. ความเป็นมาและ ร่างกายเจริญเติบโต ปลอดภัยของตนเอง ทากจิ กรรม และ อยา่ งปลอดภยั (1) การเล่นเครื่องเล่นสนาม ความสาคัญของประเพณี ตามวัยและมีสุขนิสัยที่ และผอู้ นื่ ปฏิบัตติ ่อผูอ้ ่นื อย่าง อย่างอิสระ ลอยกระทง ดี ปลอดภัย 1.1.4 การรกั ษาความ 2. กลีบและฐานกระทง ปลอดภัย 3.การจม-ลอยโดยการ (3) การเลน่ เคร่ืองเล่นอย่าง ทดลองหาจานวนกลีบ ปลอดภัย กระทงทีม่ ากทส่ี ดุ ที่กระทง 1.2.2 การเล่น ไม่จม (1) การเลน่ อิสระ 4. การดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 1.1.1 การใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่ และส่ิงแวดล้อมในแมน่ า (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ บั ท่ี 5. การนบั ปากเปล่า มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคลอื่ นไหว ๒.๑.2 กระโดดขา 2. กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าได้อย่าง (2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี 1 - 20 กลา้ มเนอื ใหญแ่ ละ ร่างกายอย่าง เดยี วไปข้างหน้าได้ ต่อเนือ่ งโดยไม่เสียการทรงตวั กลา้ มเนือเล็กแข็งแรง คลอ่ งแคล่วประสาน อย่างต่อเนอื่ งโดยไม่ (3) การเคล่ือนไหวพร้อมวสั ดุ 6. การนับจานวนกลบี ใช้ได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว สัมพันธ์และทรงตวั เสียการทรงตัว และ ประสานสมั พันธ์ ได้ อุปกรณ์ กระทง กนั 7. การชั่ง

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี ๔ ๔.๑ สนใจ มี 4.1.1 สนใจมี 3. สนใจมคี วามสุขและแสดงออกผา่ น 1.1.2 การใช้กลา้ มเนอ้ื เล็ก ชื่นชมและแสดงออก ความสขุ และ ความสขุ และ งานศิลปะได้ (2) การเขียนภาพและการเล่นกบั ทางศิลปะ ดนตรี และ แสดงออกผ่านงาน แสดงออกผา่ นงาน สี การเคลือ่ นไหว ศิลปะ ดนตรี และ ศลิ ปะ (3) การปน้ั การเคลอ่ื นไหว (4) การประดษิ ฐส์ ่งิ ตา่ งๆ ดว้ ย เศษวัสดุ 1.2.4 การแสดงออกทาง อารมณ์ (4) การรอ้ งเพลง (5) การทางานศิลปะ 4.1.3 สนใจ มี 4. สนใจ มคี วามสขุ และแสดงท่าทาง / 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี ความสุขและแสดง เคลือ่ นไหวประกอบเพลง จงั หวะ และ ท่าทาง/เคล่อื นไหว ดนตรีได้ (3) การเคลื่อนไหวตาม ประกอบเพลง จงั หวะและดนตรี เสยี งเพลง/ดนตรี 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมอปุ กรณ์ 1.1.5 การตระหนักรเู้ กยี่ วกับ ร่างกายตนเอง (1) การเคล่ือนไหวโดยควบคุม ตนเองไปในทิศทาง ระดับและ พืนที่

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ 5. เก็บของเล่นเข้าท่ีอยา่ งเรยี บรอ้ ยดว้ ย ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ ตนเองได้ มาตรฐานท่ี ๖ 6.2 มวี ินยั ในตนเอง 6.2.1 เก็บของเลน่ ๑.๒.๒ การเล่น มที กั ษะชวี ิต และงาน ของใชเ้ ข้าที่อยา่ ง (๓) การเล่นตามมุม ตามหลักปรชั ญาของ เรยี บร้อยดว้ ยตนเอง ประสบการณ์ เศรษฐกิจพอเพียง 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ มีวินัย มสี ่วนร่วมและบทบาทสมาชิก ของสังคม (4) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกัน มาตรฐานที่ 7 7.1 ดูแลรกั ษา 7.1.1 ดูแลรกั ษา 6. บอกวธิ ีการดแู ลรักษาธรรมชาติและ 1.3.2 การดูแลรกั ษา ธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อมในแม่นาด้วยตนเอง ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม รกั ธรรมชาติ ธรรมชาตแิ ละ สิง่ แวดลอ้ มด้วย (6) การสนทนาขา่ วและ ตนเอง เหตกุ ารณ์ทเี่ กี่ยวข้องกับ ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม สิ่งแวดลอ้ ม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมใน ชวี ิตประจาวัน และความเป็นไทย 1.3.3 การปฏบิ ัตติ าม วฒั นธรรมท้องถ่นิ และความ เป็นไทย (2) การเลน่ บทบาทสมมติการ ปฏบิ ตั ิตนในความเปน็ คนไทย

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ 7. ฟังผ้อู ่นื พูดจนจบและสนทนาโตต้ อบ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ อย่างต่อเนือ่ งเช่อื มโยงกบั เรอื่ งท่ีฟังได้ มาตรฐานที่ ๙ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบ ๙.1.1 ฟงั ผูอ้ ืน่ พูด 1.4.1 การใช้ภาษา ใช้ภาษาสื่อสารได้ และเล่าเรอื่ งให้ผูอ้ ่ืน จนจบและสนทนา เหมาะสมกับวยั เขา้ ใจ โตต้ อบอย่างตอ่ เน่ือง (6) การพูดอธบิ ายเกย่ี วกับ เชื่อมโยงกบั เร่ืองที่ ส่งิ ของเหตุการณ์และ ฟัง ความสมั พันธข์ องส่ิงต่างๆ มาตรฐานที่ ๑๐ ๑๐.1 10.1.1 บอก 8. บอกลกั ษณะส่วนประกอบ 1.4.2 การคิดรวบยอด มีความสามารถในการ มคี วามสามารถใน การคิดเชงิ เหตผุ ล คดิ ทเ่ี ปน็ พืนฐานใน การคดิ รวบยอด ลกั ษณะ การเปลีย่ นแปลงหรือความสัมพันธข์ อง การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา การเรียนรู้ (1) การสงั เกตลักษณะ ส่วนประกอบ การ สิ่งตา่ งๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาท ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลง และความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ งๆ เปล่ียนแปลงหรือ สมั ผัสได้ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่าง เหมาะสม ความสมั พนั ธข์ องสิ่ง (6) การต่อของชินเลก็ เติมในชนิ ใหญ่ใหส้ มบูรณแ์ ละการแยกชิน ตา่ งๆจากการสังเกต โดยใช้ประสาทสัมผัส

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี ๑๐ ๑๐.1 มี 10.1.2 จับคแู่ ละ 9. จบั คู่และเปรียบเทยี บความแตกต่าง (5) การคัดแยก การจัดกลุ่มและ มคี วามสามารถใน ความสามารถ เปรยี บเทียบความ และความเหมอื นของสง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้ จาแนกส่ิงต่างๆตามลักษณะและ การคิดทีเ่ ปน็ พนื ฐาน ในการคิดรวบยอด แตกต่างและความ ลักษณะทส่ี งั เกตพบ 2 ลกั ษณะได้ รปู รา่ ง รปู ทรง ในการเรียนรู้ เหมือนของสิ่งต่างๆ (9) การเปรียบเทียบและเรยี งลาดบั โดยใช้ลกั ษณะ จานวนสิง่ ตา่ งๆ ทีส่ งั เกตพบ 2 (13) การจับคู่ การเปรียบเทียบ ลกั ษณะ และการเรยี งลาดบั ส่ิงตา่ งๆ 10.1.3 จาแนกและ 10. จาแนกและจดั กลุ่มสิ่งต่างๆ โดยใช้ ตามลกั ษณะ ความยาว/ความสงู จัดกลมุ่ ส่งิ ต่างๆ ตงั แต่สองลักษณะขึนไปเป็นเกณฑ์ได้ นาหนัก ปรมิ าตร โดยใช้ตังแต่สอง ลักษณะขึนไปเปน็ เกณฑ์ 10.1.4 เรียงลาดับ 11. เรยี งลาดบั สง่ิ ของอย่างน้อย 5 ส่ิงของและเหตุการณ์ ลาดบั ได้ อยา่ งน้อย 5 ลาดบั

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ 12. คน้ หาคาตอบของขอ้ สงสัย ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ตา่ งๆ โดยใชว้ ธิ ีการทีห่ ลากหลาย มาตรฐานท่ี ๑๒ 12.2 มี ๑๒.๒.1 คน้ หาคาตอบ ด้วยตนเองได้ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ มีเจตคติทด่ี ี ความสามารถใน ของข้อสงสัยตา่ งๆ เหตุผล การตัดสินและแก้ปัญหา ต่อการเรยี นรู้ การแสวงหาความรู้ โดยใชว้ ิธกี ารที่ (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเน และมีความสามารถใน หลากหลายด้วยตนเอง ส่งิ ทีอ่ าจจะเกดิ ขึนอย่างมเี หตุผล การแสวงหาความรู้ได้ 1.4.4 เจตคติทดี่ ีต่อการเรยี นรู้และ เหมาะสมกับวยั การแสวงหาความรู้ (2) การตังคาถามในเรื่องทสี่ นใจ (3) การสบื เสาะหาความรู้เพื่อค้นหา คาตอบของข้อสงสยั ต่างๆ (4) การมีส่วนรว่ มในการรวบรวม ขอ้ มลู และนาเสนอข้อมูลจากการสบื เสาะหาความรใู้ นรูปแบบตา่ งๆและ แผนภูมอิ ยา่ งงา่ ย

ผงั ความคิดแผนการจัดประสบการณ์หนว่ ยลอยกระทง ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3 ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ 1. ตดั ภาพกระทงติดลงบนกระดาษ 1. การเคลื่อนไหวประกอบเพลง 1. ความเป็นมาและความสาคญั ของประเพณลี อยกระทง และตอ่ เตมิ ภาพตามจินตนาการ 2. การปฏิบัตติ นเปน็ ผู้นาผตู้ าม 2. กลีบและฐานกระทง – การช่งั นาหนัก 2. วาดภาพกระทงประกอบด้วยฐานกระทงและจานวน 3. การเคลอ่ื นไหวตามคาส่งั 3. การจม – ลอยโดยการทดลองหาจานวนกลีบกระทง กลีบกระทงตามทีค่ าดคะเน 4. การเคลอื่ นไหวตามคาบรรยาย ทม่ี ากท่สี ดุ ท่กี ระทงไม่จม 3. พบั กลบี กระทง ตามแบบ 5. การเคล่ือนไหวสร้างสรรค์ประกอบกระทง 4. การบนั ทึกและนาเสนอผลการทดลอง 4. ประดิษฐ์กระทง 5. การดูแลรกั ษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในแมน่ า 5. วาดภาพวนั ลอยกระทง ๔. กิจกรรมเลน่ ตามมุม - การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ หนว่ ย ๖. กจิ กรรมเกมการศกึ ษา ลอยกระทง ช้นั อนบุ าลปที ี่ 3 1. เกมภาพตัดต่อวนั ลอยกระทง 2. เกมจับคภู่ าพกระทงท่ีเหมือนกนั และมีจานวนเท่ากัน ๕. กจิ กรรมกลางแจง้ 3. เกมจับคภู่ าพกระทงกับจานวนตัวเลขอารบิก ๑ - ๑๐ 4. เกมเรียงลาดบั จานวนภาพกระทง 1 - 10 ๑. การเล่นเคร่อื งเล่นสนาม 5. เกมจัดหมวดหมู่ภาพกระทงตามวัสดทุ ่ใี ช้ ๒. การเล่นนา – เล่นทราย ๓. การกระโดดขาเดียวไปขา้ งหนา้ ๔. วิ่งซกิ แซก็ ส่งไมผ้ ลดั 5. เล่นเกมเก้าอีดนตรี ๕.

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ ชน้ั อนบุ าลปีที่ 3 หน่วยลอยกระทง วันท่ี เคล่อื นไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรม เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา เล่นเคร่อื งเล่น เกมภาพตัดต่อวนั ลอย 1 - การเคลื่อนไหว ความเป็นมาและความสาคญั ของประเพณีลอย ศิลปะสรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมมุ สนาม กระทง ประสบการณ์ พืนฐาน กระทง ตดั แปะภาพกระทงต่อ เล่นนาเลน่ ทราย เกมจับคู่ภาพกระทงที่ เตมิ ภาพตาม เหมือนกนั และมจี านวน - เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย - การตังคาถามที่อยากรู้ จินตนาการ เท่ากัน ประกอบเพลง - สังเกตกระทงที่มีกลีบไม่เท่ากนั 2 - การเคลอ่ื นไหว กลีบและฐานกระทง วาดภาพกระทง เล่นตามมุม พืนฐาน - ช่งั นาหนักกลีบกระทงและลวดเสียบ ประกอบดว้ ยฐาน ประสบการณ์ - ปฏบิ ัติตนเป็นผู้นาผู้ - ทานายจานวนกลีบกระทงที่ใสบ่ นฐานกระทงได้ กระทงและจานวนกลีบ ตาม มากทส่ี ดุ กระทงตามที่คาดคะเน 3 - การเคล่อื นไหว การจม - ลอยโดยการทดลองหาจานวนกลบี พบั กลบี กระทงตาม เล่นตามมุม กระโดดขาเดยี วไป เกมจับคภู่ าพกระทงกบั พืนฐาน กระทงที่มากทส่ี ุดท่ีกระทงไม่จม แบบ ประสบการณ์ ข้างหน้า จานวนตวั เลขอารบิก - เคล่ือนไหวร่างกาย - ทดสอบการลอยนาของกระทง ๑-๑๐ ตามคาสง่ั - สงั เกตและบรรยาย 4 เคล่อื นไหวตามคา การจม – ลอยโดยการทดลองหาจานวน ประดษิ ฐ์กระทง เล่นตามมุม วิ่งซกิ แซก็ ส่งไมผ้ ลดั เกมเรยี งลาดับจานวน บรรยาย กลีบกระทงที่มากที่สุดที่กระทงไม่จม ประสบการณ์ ภาพกระทง 1 - 10 - บนั ทึกผลและนาเสนอผลการทดลอง สรปุ และอภิปรายผลการทดลอง - ใส่กลบี ได้มากทสี่ ุดก่ีกลีบ - ปจั จยั ท่ีเกย่ี วข้องมีอะไรบ้าง 5 เคล่อื นไหวสรา้ งสรรค์ การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มในแม่นา วาดภาพวันลอยกระทง เล่นตามมมุ เกมเก้าอดี นตรี เกมจัดหมวดหมู่ ประกอบกระทง ประสบการณ์ กระทงตามวสั ดุที่ใช้ ทากระทง



แผนการจดั ประสบการณช้นั อนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๐ ลอยกระทง สปั ดาหท่ี ๒๐ คร้งั ที่ ๑ วันท.่ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ประสบการณ์สาคัญ สาระการเรยี นรู้ พัฒนาการ กิจกรรมเคลือ่ นไหวและ จังหวะ (3) การเคลื่อนไหวตาม 1. กิจกรรมพนื ฐานให้เด็กเคลื่อนไหว เพลงวนั เพ็ญ สงั เกต สนใจ มคี วามสุขและแสดง เสยี งเพลงและดนตรี ร่างกายไปทัว่ บริเวณอย่างอิสระตามจังหวะ เดอื นสิบสอง ความสนใจ มคี วามสขุ ท่าทาง / เคล่ือนไหว เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยุด ให้หยดุ เคล่อื นไหว และแสดงท่าทาง / ประกอบเพลง จังหวะ คา้ งไว้ในท่านนั ทนั ที เคล่ือนไหวประกอบ และดนตรีได้ 2. เด็กทาท่าประกอบเพลงวันเพญ็ เดือน เพลง จังหวะ และ สบิ สองตามจนิ ตนาการของตนเองเปน็ ดนตรี รายบุคคล จับคู่ เปน็ กลมุ่ 3 คน และ 4 คน 3. ผอ่ นคลายกลา้ มเนือโดยน่ัง หายใจเข้า - ออก ชา้ ๆ กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ (2) การตงั คาถามใน 1. ความเปน็ มาและ 1. ครแู ละเด็กร้องเพลงลอยกระทง 1. เพลงลอย สังเกต ความสาคัญของประเพณี 2. ครูและเด็กร่วมสนทนาเกยี่ วกับวนั ลอย กระทง การฟงั ผู้อืน่ พดู จนจบ ฟังผู้อื่นพดู จนจบและ เร่ืองท่สี นใจ ลอยกระทง กระทง ดงั นี 2. กระทงทม่ี ฐี าน และสนทนาโต้ตอบ 2. การนบั จานวนกลีบ - ความเป็นมาและความสาคัญของวนั ลอย และจานวนกลบี อยา่ งต่อเนือ่ ง เชอื่ มโยง สนทนาโตต้ อบอย่าง (8) การนบั และแสดง กระทง กระทง กระทงต่างกัน กบั เรอื่ งทีฟ่ ัง - วัสดทุ น่ี ามาทากระทง ต่อเน่อื ง เช่ือมโยงกบั เรอ่ื งที่ จานวนของสงิ่ ต่างๆใน - สว่ นประกอบของกระทง ฟงั ได้ ชีวิตประจาวัน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน ประสบการณ์สาคญั สาระการเรยี นรู้ พฒั นาการ - เดก็ ๆ สนใจอยากรเู้ ร่ืองอะไรเก่ยี วกับ กระทงบ้าง 3. ครนู ากระทงทมี่ ีฐานและจานวนกลบี กระทงตา่ งกันมาให้เด็กสังเกตและนับ จานวนแตล่ ะกระทงวา่ มีเท่าไร 4. ครใู ช้คาถามกระตนุ้ “เด็กๆคิดว่าฐาน กระทงทค่ี รูเตรยี มมาใส่จานวนกลีบใบตองได้ มากที่สดุ เทา่ ใด” กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ (2) การเขยี นภาพและ 1. ครเู ตรียมอุปกรณก์ จิ กรรมตัดแปะภาพ 1. รูปภาพกระทง สังเกต สนใจมีความสขุ และ การเลน่ กับสี แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะได้ (5) การหยบิ จับ การใช้ กระทงต่อเติมภาพตามจินตนาการ 2. กาว ความสนใจมีความสุข กรรไกร การฉีก การตัด การปะ และการร้อย 2. ครูแนะนากจิ กรรมตัดแปะภาพกระทงให้ 3. กระดาษขาว และแสดงออกผ่าน วัสดุ (5) การทางานศิลปะ ตัดภาพกระทงตดิ ลงบนกระดาษ และต่อเตมิ 4. กรรไกร งานศิลปะ ภาพตามจินตนาการ 5. สีเทียน 3. เดก็ ร่วมกันเก็บอุปกรณ์ และนาเสนอ ผลงาน

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ พัฒนาการ กจิ กรรมเล่นตามมุม 1. ครแู นะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ สงั เกต เกบ็ ของเล่นเขา้ ท่ีอย่าง (3) การเล่นตามมมุ การเก็บของเลน่ เขา้ ที่ เรยี บรอ้ ยด้วยตนเองได้ ประสบการณ์ 2. เด็กเลอื กกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ ในหอ้ งเรียน อยา่ งเรียบร้อยดว้ ย (4) การดูแลห้องเรยี น ตนเอง ร่วมกนั ตามความสนใจซึ่งควรจดั ไว้ อยา่ งนอ้ ย ๔ สงั เกต มุม เชน่ การเลน่ ทากิจกรรม และปฏบิ ตั ติ อ่ ผู้อื่น - มมุ หนงั สือ - มุมบลอ็ ก อยา่ งปลอดภยั - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเล่นสมั ผสั - มมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา 3. เมือ่ หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าท่ใี ห้ เรียบร้อย กิจกรรมกลางแจง้ (5) การเล่นเครื่องเล่น 1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเลน่ เครือ่ งเล่น เครอ่ื งเล่นสนาม เลน่ ทากจิ กรรมและปฏบิ ตั ิ สนามอย่างอสิ ระ (3) การเล่นเครื่องเล่น สนามแต่ละชนดิ พรอ้ มทงั แนะนาวิธกี ารเล่น ตอ่ ผูอ้ น่ื อย่างปลอดภยั ได้ อย่างปลอดภยั อยา่ งปลอดภัย 2. เด็กเล่นเครื่องเล่นสนามโดยมีครูดแู ล อย่างใกล้ชิด 3. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เข้าแถวทาความ สะอาดรา่ งกายกอ่ นเขา้ ชันเรียน

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ กิจกรรมเกมการศกึ ษา ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรรู้ 1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พรอ้ มทังสาธิตวธิ กี าร บอกลกั ษณะสว่ นประกอบ เลน่ เกมภาพตดั ตอ่ กระทง การเปล่ยี นแปลงหรือ (6) การต่อของชินเลก็ การสังเกตสง่ิ ทีเ่ หมือนกัน 2. แบง่ เดก็ เปน็ 5 กลุม่ ให้เด็ก 1 กลมุ่ 1. เกมภาพตัดต่อ สงั เกต ความสมั พันธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ รับเกมทแ่ี นะนาใหมไ่ ปเล่น กล่มุ อืน่ ๆ จากการสังเกตโดยใช้ เตมิ ในชนิ ใหญใ่ ห้ หรือตา่ งกนั เกี่ยวกบั สี เล่นเกมการศึกษาชุดเดมิ กระทง การบอกลักษณะ ประสาทสัมผัสได้ 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมนุ เวยี นสลับเปลยี่ น สมบรู ณ์และการแยก รปู รา่ ง ฯลฯ กันในแต่ละกลุ่มโดยทุกกลุ่มต้องได้เล่นเกม 2. เกมการศึกษา การเปลี่ยนแปลงหรอื ภาพตดั ต่อกระทง ชินสว่ น 4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าทห่ี ลังเลกิ เลน่ ชุดอนื่ ๆ ทเ่ี คยเล่น ความสมั พันธ์ แล้ว มาแล้ว สว่ นประกอบของ สงิ่ ตา่ งๆ จากการสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส

แผนการจดั ประสบการณช้นั อนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๐ ลอยกระทง สปั ดาหท ่ี ๒๐ ครง้ั ที่ ๒ วนั ท.่ี ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรรู้ สงั เกต ความสนใจ มีความสุข กจิ กรรมเคล่ือนไหวและ (3) การเคลื่อนไหวตาม 1. กจิ กรรมพนื ฐานให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกาย 1. เคร่อื งเคาะ และแสดงท่าทาง / จงั หวะ เสียงเพลง/ดนตรี เคลอ่ื นไหวประกอบ สนใจ มีความสุขและแสดง ไปท่วั บรเิ วณอย่างอิสระตามจังหวะ ชา้ เรว็ จงั หวะ เพลง จังหวะ ท่าทาง / เคลื่อนไหว และดนตรี ประกอบเพลง จังหวะ เมอ่ื ไดย้ ินสัญญาณหยุด ให้หยุดทันที 2. เพลงลอย และดนตรไี ด้ สังเกต 2. เด็กแบ่งกลุ่มแถวตอนลึกให้เดก็ ที่อยหู่ วั กระทง การคน้ หาคาตอบของ ข้อสงสัยตา่ งๆ โดยใช้ แถวของแตล่ ะกลุ่มออกมาทาท่าประกอบ วธิ ีการทหี่ ลากหลาย ด้วยตนเอง เพลงลอยกระทงให้เพ่อื นๆทาตามเม่ือเพลง หยุดใหไ้ ปต่อท้ายแถวแล้วใหค้ นถัดไปออกมา เปน็ ผนู้ าตอ่ ไปจนไดเ้ ปน็ ผ้นู าครบทุกคน 3. หลงั ปฏิบตั ิกจิ กรรมเสร็จแลว้ เดก็ พกั ผ่อน อิรยิ าบถ 2 – 3 นาที เพ่ือเตรียมปฏบิ ตั ิ กิจกรรมต่อไป กิจกรรมเสริมประสบการณ์ (17) การคาดเดาหรือ 1. การนบั ปากเปลา่ 1. เด็กนบั ตวั เลข 1 - 20 พรอ้ มปรบมือให้ 1. ตาช่งั สองแขน 1 - 20 ค้นหาคาตอบของข้อสงสยั การคาดคะเนสง่ิ ที่ 2. การชั่ง จงั หวะ 2. กลีบกระทง 3. กลบี และฐานกระทง ต่างๆโดยใชว้ ิธีการที่ อาจจะเกดิ ขึนอยา่ งมี 2. ครูนาตาชงั่ สองแขน กลีบกระทง ฐาน ใบตอง หลากหลายดว้ ยตนเองได้ เหตุผล กระทงมาให้เด็กดู สนทนาเก่ียวกับวิธกี ารช่ัง 3. ลวดเสียบ และฝกึ ใหเ้ ด็กใช้ตาชงั่ สองแขน ชัง่ กลีบ กระทงวา่ หนกั เทา่ ใด ชัง่ ลวดทใี่ ช้เสยี บกระทง 3. เดก็ แตล่ ะกลุ่มทานายจานวนกลบี กระทงท่ี ใสใ่ นกระทงไดม้ ากทส่ี ดุ และกระทงไมจ่ ม โดยนับและหยิบกลบี กระทงมากองไวใ้ นกลุ่ม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรรู้ สนใจมีความสุขและ สงั เกต แสดงออกผ่านงานศิลปะได้ (2) การเขยี นภาพและ 1. ครเู ตรยี มอุปกรณ์กิจกรรมวาดภาพกระทง 1. กระดาษขาว ความสนใจมีความสุข 2. ครแู นะนากจิ กรรมโดยให้เด็กวาดภาพ 2. สีเทียน และแสดงออกผ่านงาน การเลน่ กบั สี กระทงประกอบดว้ ยฐานกระทงและจานวน ศลิ ปะ กลบี กระทงตามทคี่ าดคะเนและตอ่ เติมตาม (5) การทางานศิลปะ จินตนาการ 2. รว่ มกนั เกบ็ อปุ กรณ์เขา้ ทเ่ี ดมิ ใหเ้ รียบร้อย และนาเสนอผลงาน กิจกรรมเลน่ ตามมุม (3) การเล่นตามมมุ 1. ครูแนะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ สงั เกต เก็บของเลน่ เข้าทอ่ี ย่าง ประสบการณ์ ในห้องเรยี น การเก็บของเลน่ เขา้ ที่ (4) การดูแลห้องเรยี น 2. เด็กเลอื กกจิ กรรมเล่นตามมมุ อยา่ งเรยี บร้อยดว้ ย เรียบรอ้ ยดว้ ยตนเองได้ ร่วมกนั ตนเอง ประสบการณ์ตามความสนใจซ่งึ ควรจดั ไว้ อยา่ งน้อย ๔ มมุ เช่น - มุมหนังสอื - มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเล่นสัมผัส - มมุ ธรรมชาติศึกษา 3. เมอื่ หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าที่ให้ เรียบร้อย

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรรู้ พัฒนาการ กจิ กรรมกลางแจง้ 1. ครแู นะนาข้อตกลงและอปุ กรณใ์ นการเลน่ นา อุปกรณ์เลน่ นา เลน่ ทากิจกรรม และปฏบิ ัติ (1) การเลน่ อิสระ เลน่ ทรายแต่ละชนิด เช่น เครื่องมือตวงชนดิ ตา่ งๆ เล่นทราย สงั เกต ตอ่ ผูอ้ ื่นอย่างปลอดภัยได้ กรวย พลั่วหรืออุปกรณ์อ่ืนๆ พร้อมทังแนะนา การเล่น ทากิจกรรม วธิ ีการเล่นอย่างปลอดภยั และปฏิบัติตอ่ ผู้อ่ืน 2. เดก็ เล่นนาเล่นทรายโดยมคี รดู แู ลอย่างใกลช้ ิด อยา่ งปลอดภัย 3. ครใู หส้ ัญญาณหมดเวลาเด็กเก็บอุปกรณ์ ทาความสะอาดอุปกรณ์ เข้าแถวทาความสะอาด รา่ งกาย กิจกรรมเกมการศกึ ษา (8) การนับและแสดง การจับคูจ่ านวนภาพ 1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พร้อมทังสาธติ วิธกี ารเลน่ 1. เกมจบั คู่ สงั เกต จบั คู่และเปรียบเทียบความ จานวนของสิ่งตา่ งๆใน กับตัวเลข 1 - 6 เกมจบั คภู่ าพเหมือนกระทงและจานวนที่เท่ากนั ภาพเหมอื น การจบั คูแ่ ละ แตกต่างและความเหมือน ชวี ิตประจาวนั กระทงและ เปรียบเทียบความ ของสงิ่ ตา่ งๆโดยใช้ลกั ษณะ 2. แบ่งเดก็ เปน็ 5 กลมุ่ ให้เด็ก 1 กล่มุ รบั เกมที่ จานวนที่เทา่ กนั แตกตา่ งและความ ท่ีสังเกตพบ 2 ลักษณะได้ (13) การจบั คู่ ตาม แนะนาใหม่ไปเลน่ กลุม่ อ่นื ๆ เล่นเกมการศึกษา 2. เกมการศึกษา เหมอื นของสิง่ ต่างๆ ลักษณะ รปู ร่าง และ ชดุ เดิม ชดุ อน่ื ๆ ที่เคยเล่น โดยใชล้ กั ษณะทส่ี ังเกต จานวน 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมนุ เวียนสลบั เปลย่ี นกนั ใน มาแลว้ พบ 2 ลกั ษณะ แต่ละกลุ่มโดยทุกกลุ่มต้องไดเ้ ลน่ เกมจบั คู่ ภาพเหมือนกระทงและจานวนทเี่ ท่ากนั 4. เด็กเกบ็ เกมการศึกษาเขา้ ที่หลงั เลกิ เล่นแลว้

แผนการจัดประสบการณชนั้ อนบุ าล ๓ หนว ยที่ ๒๐ ลอยกระทง สปั ดาหท่ี ๒๐ ครง้ั ที่ ๓ วันท.ี่ ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรรู้ สังเกต ความสนใจ มีความสุข กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและ (1) การเคลื่อนไหว 1. กจิ กรรมพืนฐานให้เด็กเคล่ือนไหว 1. เครื่องเคาะ และแสดงท่าทาง / จงั หวะ เคลอื่ นที่ ร่างกายไปท่วั บริเวณอยา่ งอสิ ระตามจงั หวะ จงั หวะ เคลอ่ื นไหวประกอบ เพลง จงั หวะ และ สนใจ มีความสขุ และแสดง ช้า เร็ว หยดุ 2. เพลงบรรเลง ดนตรี ท่าทาง / เคลื่อนไหว ประกอบเพลง จังหวะ และ 2. เด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายตามจงั หวะอสิ ระ 3. รูปภาพ สังเกต การคน้ หาคาตอบของ ประกอบเพลงบรรเลงเมือ่ เพลงหยดุ แต่ละ - ซกั ผ้า ข้อสงสยั ต่างๆ โดยใช้ วิธกี ารทหี่ ลากหลาย ดนตรไี ด้ ครังเด็กทาทา่ ทางตามภาพที่ครชู ขู นึ ดังนี - อาบนา ด้วยตนเอง - ภาพซักผา้ - แปรงฟนั - ภาพอาบนา - รดนาผัก - ภาพแปรงฟัน - ภาพรดนาผกั 3. ให้ปฏิบัตติ ามข้อ 2 ซาอกี 2 - 3 ครัง กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ (3) การสืบเสาะหา 1. การจม – ลอยโดย 1. ครสู นทนากับเดก็ เพื่อทบทวนเกี่ยวกับสง่ิ 1. อา่ งใส่นา ค้นหาคาตอบของข้อสงสัย ความรเู้ พ่ือค้นหา การทดลองหาจานวนกลบี ที่เดก็ คาดคะเนจานวนกลีบมากทีส่ ุดทใ่ี ส่ใน 2. กระทง ตา่ งๆโดยใชว้ ธิ กี ารท่ี คาตอบของข้อสงสัย กระทงท่ีมากที่สดุ ที่ กระทงไดโ้ ดยไมจ่ มต่อจากวันที่ 2 3. กลบี กระทง กระทงไมจ่ ม 2. เด็กชว่ ยกันเสนอวิธกี ารหาคาตอบ (ใบตอง) หลากหลายด้วยตนเองได้ ตา่ งๆ 2. การนับจานวนกลบี 3. ครแู ละเด็กสรุปขนั ตอนการหาคาตอบ 4. ไมก้ ลดั กระทง เชน่ ใสก่ ลบี ลงบนฐานกระทง และทดสอบ การลอยนา จนกวา่ จะได้จานวนมากที่สดุ ท่ี กระทงไม่จมนา

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั พฒั นาการ 4. เดก็ แต่ละกลุม่ ลงมอื ดาเนินการทาการ ทดสอบตามขันตอนท่ชี ่วยกันสรปุ ไว้ สังเกต 5. เดก็ แต่ละกลุ่มสังเกต เลา่ บรรยายสง่ิ ท่ี ความสนใจมีความสุข เกิดขนึ ขณะใสก่ ลีบ เสยี บง่ายหรอื ยาก ทา และแสดงออกผ่านงาน อย่างไรเสยี บได้งา่ ย ศลิ ปะ 6. ครถู ามเดก็ วา่ จานวนกลบี ตา่ งกนั มผี ล ต่อการจมลอยของกระทงอยา่ งไร กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ (4) การประดิษฐส์ ิง่ ตา่ ง ๆ 1. ครูเตรยี มอุปกรณ์การพับกลีบกระทง กระดาษพับ สนใจมีความสขุ และ ดว้ ยเศษวัสดุ ตามแบบ กระทง แสดงออกผ่านงานศลิ ปะได้ (5) การทางานศิลปะ 2. ครูแนะนาและสาธิตการพับกลบี กระทงโดยแจกกระดาษพบั กลบี กระทงให้ เด็กๆจากนันใหแ้ ต่ละคนพับกลบี กระทง ตามแบบ 3. เดก็ รว่ มกันเกบ็ อุปกรณ์และนาเสนอ ผลงาน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ พัฒนาการ กิจกรรมเล่นตามมุม เก็บของเลน่ เขา้ ทอ่ี ยา่ ง (3) การเลน่ ตามมุม 1. ครแู นะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ สังเกต เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเองได้ ประสบการณ์ (4) การดแู ลห้องเรียน 2. เดก็ เลอื กกจิ กรรมเล่นตามมมุ ประสบการณ์ ประสบการณ์ใน การเก็บของเล่นเข้า ร่วมกนั ตามความสนใจซ่ึงควรจัดไว้ อย่างนอ้ ย ๔ มมุ เชน่ ห้องเรยี น ท่ีอยา่ งเรยี บร้อย - มมุ หนงั สอื - มุมบล็อก ดว้ ยตนเอง - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มุมเคร่อื งเลน่ สัมผสั - มุมธรรมชาตศิ ึกษา 3. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทใี่ หเ้ รียบร้อย กจิ กรรมกลางแจ้ง (1) การเคลื่อนไหว 1. เด็กเตรียมพร้อมร่างกายโดยเดินเป็นวงกลมไป สงั เกต กระโดดขาเดียวไปขา้ งหน้า เคลือ่ นท่ี รอบๆ สนาม 2 รอบ การกระโดดขา ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เสยี (1) การเลน่ อสิ ระ 2. เดก็ เข้าแถวเรียงหนา้ กระดานใหก้ ระโดดขาเดยี ว เดยี วไปขา้ งหนา้ ได้ การทรงตัวได้ ไปข้างหนา้ 10 ครงั แล้วกระโดดกลบั มาที่เดิม อย่างต่อเนือ่ งโดย 3. เดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามข้อ 2 ซา 2 - 3 รอบ ไมเ่ สียการทรงตัว จากนนั ให้เด็กเล่นอิสระ 4. เมือ่ หมดเวลาเดก็ ทาความสะอาดรา่ งกายก่อนเข้า หอ้ งเรยี น

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ พฒั นาการ กจิ กรรมเกมการศึกษา (8) การนบั และแสดง การจับคู่จานวนภาพกบั 1. ครูแนะนาอุปกรณ์พร้อมทังสาธติ วิธกี าร 1. เกมจบั คู่ภาพ สังเกต การจับคแู่ ละ จบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บความ จานวนของสงิ่ ตา่ งๆใน ตัวเลข 1 - 10 เล่นเกมจบั คภู่ าพกระทง กบั จานวนตัวเลข โทรศพั ท์กับ เปรยี บเทยี บความ แตกต่างและความ แตกตา่ งและความเหมือน ชีวติ ประจาวนั อารบิก 1 - 10 จานวนตวั เลข เหมือนของส่ิงต่างๆ โดยใช้ลกั ษณะทสี่ ังเกต ของสิง่ ต่างๆ โดยใชล้ ักษณะ (13) การจบั คู่ ตาม 2. แบ่งเดก็ เปน็ 5 กลุ่ม ให้เด็ก 1 กลมุ่ รับ 1 - 8 พบสองลักษณะ ที่สังเกตพบสองลักษณะได้ ลกั ษณะ รปู รา่ ง และ เกมการศึกษาจับคู่ภาพกระทงกับจานวน 2. เกมการศึกษา จานวน ตัวเลขอารบกิ 1 - 10ทีแ่ นะนาใหมไ่ ปเลน่ ชุดอนื่ ๆทีเ่ คยเลน่ กลุม่ อ่ืนๆ เล่นเกมการศึกษาชุดเดมิ มาแล้ว 3. เด็กเล่นเกมการศกึ ษาโดยหมุนเวยี นสลบั เปลย่ี นกันในแตล่ ะกลุม่ โดยทุกกลุ่มต้องได้ เล่นเกมจบั คู่ภาพเหมือนกระทงและจานวน ท่เี ทา่ กัน 4. เด็กเกบ็ เกมการศึกษาเขา้ ท่หี ลงั เลกิ เล่น แล้ว

แผนการจัดประสบการณช น้ั อนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๐ ลอยกระทง สัปดาหท ่ี ๒๐ ครง้ั ท่ี ๔ วันที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน พัฒนาการ กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรรู้ จงั หวะ สังเกต สนใจ มคี วามสขุ และแสดง (2) การแสดงความคิด 1. กจิ กรรมพืนฐานให้เด็กเคล่ือนไหว 1. เคร่ืองเคาะ ความสนใจ มีความสขุ ทา่ ทาง / เคลื่อนไหว สร้างสรรคผ์ า่ นภาษา ร่างกายไปทั่วบริเวณอย่างอิสระตามจังหวะ จงั หวะ และแสดงท่าทาง / ประกอบเพลง จังหวะ ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว เพลงบรรเลงเมื่อได้ยนิ สัญญาณหยดุ ใหห้ ยดุ 2. เพลงบรรเลง เคล่ือนไหวประกอบ และดนตรีได้ และศิลปะ ในทา่ นนั ทันที เพลง จงั หวะ และ 2. ให้เด็กทาทา่ ตามจินตนาการจากเรอ่ื งที่ ดนตรี ฟังคาบรรยายของครูเรื่อง ลอยกระทง ดงั นี “เดก็ ๆสมมตุ ติ นเองเป็นกระทงลอยไปตาม กระแสนาไหลไปเรื่อยๆ ตามสัญญาณเคาะ ชา้ เร็ว กระทงไหลไปจับกลมุ่ 2 คน 3 คน 4 คน 5 คน 6 คน 7 คนตามลาดับจากนนั กระแสนาพัดกระทงไหลมารวมกันวนไปมา นาเรม่ิ เขา้ มาในกระทงๆค่อยๆจมลงไปใน แม่นา” 3. ใหป้ ฏิบตั ติ ามขอ้ 2 ซาอีกครัง 4. เด็กผอ่ นคลายนอนหลับตาน่งิ นบั ปาก เปลา่ เบาๆ 1 - 30

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรรู้ 1. อา่ งใส่นา 2. กลีบกระทง สงั เกต กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ (4) การมีสว่ นรว่ มใน การจม - ลอยโดยการ 1. ครูและเด็กทบทวนกิจกรรมการทดลองของ ใบตอง การคน้ หาคาตอบของ 3. ฐานกระทง ขอ้ สงสยั ต่างๆ โดยใช้ ค้นหาคาตอบของข้อสงสยั การรวบรวมขอ้ มูลและ ทดลองหาจานวนกลีบ วนั ที่ 3 (ตน้ กล้วย) วธิ ีการทหี่ ลากหลาย 4. ไมก้ ลัด ด้วยตนเอง ต่างๆ โดยใชว้ ธิ กี ารท่ี นาเสนอข้อมูลจากการ กร ะ ท งที่ ม า กท่ี สุ ด ที่ 2. ครูอธบิ ายการบันทึกผลการทดลอง โดยการ 5. แบบบันทึก ผลการทดลอง หลากหลายด้วยตนเองได้ สบื เสาะหาความรใู้ น กระทงไม่จม เขยี นตัวเลขจานวนกลีบลงในช่องซา้ ยมือ และ รปู แบบต่างๆและ ขดี เคร่ืองหมายถกู ลงในช่องจม ลอย ขวามอื แผนภมู ิอยา่ งง่าย และให้แต่ละกลุ่มบนั ทกึ ผลการทดลอง แบบบันทกึ ผลการทดลอง จานวนกลบี จม ลอย กระทง (กลบี ) 2. เด็กแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอบนั ทกึ ผลการทดลอง (จานวนกลีบกระทงที่ใช้) 3. เดก็ ชว่ ยกนั สรุปว่าฐานกระทงที่ครเู ตรียมไว้ สามารถใส่จานวนกลีบกระทงได้มากทสี่ ดุ ก่ีกลีบ เด็กหาคาตอบอยา่ งไร คาตอบทไ่ี ดเ้ หมือนหรอื ต่างจากที่คาดคะเนไว้อย่างไร 4. เด็กคดิ ว่าอะไรมีผลต่อจานวนกลีบของ กระทง เชน่ ขึนอยู่กับความกว้างของฐาน กระทง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรรู้ 1. ครเู ตรียมอุปกรณก์ ารประดษิ ฐก์ ระทง 1. กลบี กระทงที่ สนใจมีความสขุ และ ได้แก่ กลีบกระทงท่ีทาไว้ในวันท่ี 3 ฐาน ทาไว้ สังเกต แสดงออกผ่านงานศลิ ปะได้ (4) การประดษิ ฐ์ส่งิ กระทง 2. ฐานกระทง ความสนใจมคี วามสุข ตา่ งๆ ดว้ ยเศษวัสดุ 2. ครแู นะนาและสาธิตการทากระทงโดย (ต้นกลว้ ย,โฟม) และแสดงออกผ่านงาน นากลีบกระทงที่ทาไวม้ าติดลงบนฐาน 3. ไมก้ ลัด ศลิ ปะ (5) การทางานศลิ ปะ กระทงที่ออกแบบตามจนิ ตนาการของ ตนเอง 3. เด็กชว่ ยกนั เก็บอปุ กรณแ์ ละนาเสนอ ผลงาน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรรู้ มุมประสบการณ์ พฒั นาการ กิจกรรมเลน่ ตามมุม 1. ครแู นะนากจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ ในหอ้ งเรยี น สังเกต เก็บของเลน่ เขา้ ท่อี ย่าง (3) การเล่นตามมมุ การเก็บของเล่นเข้าท่ี เรียบรอ้ ยดว้ ยตนเองได้ ประสบการณ์ 2. เดก็ เลอื กกิจกรรมเล่นตามมมุ ประสบการณ์ 1. กรวยจราจร อย่างเรยี บร้อยดว้ ย (4) การดูแลห้องเรียน 2. นกหวดี ตนเอง ร่วมกัน ตามความสนใจซ่ึงควรจัดไว้ อย่างนอ้ ย ๔ มมุ 3. กระทง สงั เกต เช่น การเลน่ ทากิจกรรม และปฏิบตั ิต่อผู้อืน่ - มมุ หนงั สอื - มุมบล็อก อย่างปลอดภัย - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเล่นสมั ผัส - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา 3. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทใ่ี หเ้ รียบร้อย กิจกรรมกลางแจง้ (1) เคลอ่ื นไหวเคลื่อนที่ 1. เดก็ ลงสนามโดยจดั แถวตอนเรยี งสองจบั มือ กนั เป็นคๆู่ เดินลงสนาม เม่ือถึงสนามแล้ววิง่ เล่น ทากิจกรรมและปฏบิ ัติ (3) การเคลื่อนไหว เหยาะๆ 2 - 3 นาที เพ่อื เตรียมความพร้อม รา่ งกาย ต่อผอู้ ื่นอย่างปลอดภัยได้ พร้อมวสั ดุ อุปกรณ์ 2. ครูแนะนาการวิง่ ซิกแซ็กกระทงดังนี - วางกรวยจราจรเป็นแถวจานวน 5 อนั แตล่ ะ อันระยะห่างกนั 2 เมตร จานวน 2 แถว - เด็กแบ่งกลุ่มชายหญงิ แต่ละกลุ่มเข้าแถวตอนลึก - เดก็ คนแรกของแต่ละแถวยืนทกี่ รวยจดุ เริม่ ตน้ มอื ถือกระทงเมอ่ื ได้ยินสญั ญาณนกหวดี ให้เด็ก

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ พฒั นาการ คนแรกวง่ิ ซิกแซ็กไปตามกรวยที่วางไว้จนถึง กรวยสุดท้ายให้ว่ิงซิกแซกกลับมาท่ี จุดเร่มิ ต้นแลว้ สง่ กระทงให้เด็กคนที่ 2 ปฏบิ ัตเิ ชน่ นีจนครบทุกคน 3. เดก็ เล่นอิสระครูคอยดูแลอย่างใกลช้ ิด 4. เม่อื หมดเวลาเด็กทาความสะอาด รา่ งกายก่อนกลบั ห้องเรียน กิจกรรมเกมการศึกษา (9) การเปรียบเทียบ การเรยี งลาดับจานวน 1. ครูแนะนาอุปกรณ์พรอ้ มทังสาธติ วธิ ีการ 1. เกมเรียงลาดับ สงั เกต เลน่ เกมเรยี งลาดบั จานวนภาพกระทงจาก จานวนภาพ การเรยี งลาดับสิ่งของ เรยี งลาดับส่งิ ของอยา่ งนอ้ ย และเรียงลาดบั จานวน ภาพจากน้อยไปมาก น้อยไปมาก กระทงจากน้อย อยา่ งน้อย 5 ลาดบั 2. แบ่งเด็กเปน็ 5 กล่มุ ให้เด็ก 1 กลุ่มรับ ไปมาก 5 ลาดบั ได้ สง่ิ ต่างๆ เกมทีแ่ นะนาใหมไ่ ปเลน่ กลุ่มอ่ืนๆ เลน่ เกม 2. เกมการศึกษา การศึกษาชดุ เดมิ ชุดอ่ืนๆที่เคยเล่น 3. เดก็ เล่นเกมโดยหมุนเวยี นสลบั เปลย่ี น มาแลว้ กันในแต่ละกลมุ่ โดยทุกกลมุ่ ต้องได้เลน่ เกม เรียงลาดบั จานวนภาพจากน้อยไปมาก 4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าท่หี ลงั เลิกเลน่ แลว้

แผนการจัดประสบการณชน้ั อนบุ าล ๓ หนว ยที่ ๒๐ ลอยกระทง สปั ดาหท ่ี ๒๐ ครั้งที่ ๕ วนั ท่ี................เดอื น..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมิน พฒั นาการ กจิ กรรมเคล่อื นไหวและ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรรู้ จงั หวะ สังเกต สนใจ มีความสขุ และแสดง (1) การเคลื่อนไหวโดย 1. กิจกรรมพืนฐานให้เด็กเคลื่อนไหว 1. เคร่อื งเคาะ ความสนใจ มีความสขุ ท่าทาง / เคล่ือนไหว ควบคมุ ตนเองไปใน และแสดงท่าทาง / ประกอบเพลง จังหวะ และ ทิศทาง ระดบั และพนื ที่ รา่ งกายไปท่ัวบรเิ วณอยา่ งอิสระตามจงั หวะ จังหวะ เคลื่อนไหวประกอบ ดนตรีได้ (3) การเคลื่อนไหวตาม เพลง จงั หวะ และ เสียงเพลงและดนตรี ชา้ เร็ว หยุด 2. เพลงบรรเลง ดนตรี 2. เขา้ แถวรบั กระทงคนละ 1 อนั โดย 3. กระทง เรียงลาดบั ก่อน - หลงั 3. เด็กหาพนื ทโี่ ดยยืนท่ัวบรเิ วณหอ้ งเรยี น ใหม้ ีระยะหา่ งพอดี จากนนั ครูเปิดเพลง บรรเลง ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกาย สร้างสรรคต์ ามจนิ ตนาการพร้อมกบั กระทง ครกู ระตนุ้ ใหเ้ คลื่อนไหวอยา่ งมพี นื ที่ ทศิ ทาง จงั หวะ ระดับ และท่าทาง ทแ่ี ปลก ไมซ่ าเพ่อื นเมอ่ื ได้ยินสัญญาณเพลงหยดุ ให้ หยุดในท่านันทันที 3. ให้เด็กจัดแถวตอนลึกแถวละ 5 คนแต่ ละแถวเคล่ือนไหวร่างกายสร้างสรรค์ตาม จินตนาการ เม่ือได้ยินสัญญาณเพลงหยุดให้ หยุดในทา่ นันทันที 4. เด็กนงั่ ลงแลว้ ผอ่ นคลายกล้ามเนือ โดยหายใจเขา้ - ออกช้าๆ

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรรู้ กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ (2) การเลน่ บทบาท การดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 1. เด็กๆ ร้องเพลงวนั เพ็ญเดือนสบิ สองและ 1. เพลงวันเพญ็ สังเกต บอกวธิ ีการดแู ลรักษา สมมติการปฏบิ ตั ิตนใน และสง่ิ แวดลอ้ มในแม่นา ทาทา่ ประกอบตามจินตนาการ เดือนสิบสอง การบอกวธิ กี ารดแู ล ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มใน ความเปน็ คนไทย 2. ครูทบทวนความสาคัญของประเพณลี อย 2. กระทง รกั ษาธรรมชาตแิ ละ แมน่ าดว้ ยตนเองได้ (6) การสนทนาข่าวและ กระทงและสนทนาเก่ยี วกับการดแู ลรกั ษา 3. สถานทใ่ี หเ้ ดก็ สงิ่ แวดล้อมในแม่นา เหตุการณ์ท่ีเกย่ี วข้องกบั ธรรมชาตใิ นแม่นา ไปลอยกระทง ดว้ ยตนเอง ธรรมชาตแิ ละ 3. เด็กแสดงบทบาทสมมตุ วิ ่าไดไ้ ปลอย 4. ภาพเหตุการณ์ ส่ิงแวดลอ้ มใน กระทงและกล่าวคาบูชาพระแม่คงคาตาม ขา่ วทีเ่ กย่ี วข้องกับ ชวี ติ ประจาวัน ครเู สมอื นวา่ ไดไ้ ปลอยกระทงจรงิ ธรรมชาตแิ ละ 4. ครใู ห้เดก็ ดูภาพเหตุการณ์ข่าวทเ่ี กี่ยวข้อง ส่ิงแวดล้อมใน กับธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมในแม่นา แมน่ า รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ผลกระทบท่ี เกดิ ขึน 5. ครพู าเด็กๆไปลอยกระทงในบริเวณ โรงเรยี น 6. เดก็ ๆสรปุ วธิ ีดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ ส่งิ แวดล้อมในแมน่ าด้วยตนเอง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรรู้ 1. ครเู ตรยี มอุปกรณก์ จิ กรรมวาดภาพ 1. กระดาษขาว สนใจมีความสขุ และ 2. ครูแนะนากจิ กรรมโดยใหเ้ ด็กวาดภาพ 2. สีเทียน สงั เกต แสดงออกผ่านงานศลิ ปะได้ (2) การเขียนภาพและ เก่ยี วกบั ประเพณวี นั ลอยกระทงทีเ่ คยมี ความสนใจมีความสุข ประสบการณ์หรือส่ิงทีช่ อบในวนั ลอยกระทง และแสดงออกผ่านงาน การเลน่ กับสี 3. เด็กชว่ ยกันกนั เกบ็ อุปกรณ์และนาเสนอ ศลิ ปะ ผลงาน กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (3) การเล่นตามมุม 1. ครูแนะนากจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ มุมประสบการณ์ สงั เกต เก็บของเลน่ เข้าทีอ่ ย่าง ประสบการณ์ ในหอ้ งเรยี น การเกบ็ ของเลน่ เข้าท่ี (4) การดูแลห้องเรยี น 2. เด็กเลอื กกิจกรรมเล่นตามมุม เรยี บร้อยด้วยตนเองได้ ร่วมกนั อยา่ งเรียบร้อยดว้ ย ประสบการณ์ตามความสนใจซ่งึ ควรจดั ไว้ ตนเอง อยา่ งน้อย ๔ มุม เช่น - มมุ หนังสอื - มมุ บลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มุมเคร่ืองเล่นสมั ผสั - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา 3. เม่อื หมดเวลาเด็กเก็บของเข้าทใ่ี ห้ เรียบร้อย

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรรู้ พฒั นาการ กจิ กรรมกลางแจง้ 1. เดก็ ลงสนาม โดยจดั แถวตอนเรยี งสองจบั มือกนั 1. เพลง เลน่ ทากิจกรรมและปฏบิ ตั ิ (1) การเคล่ือนไหว เปน็ ค่ๆู เดินลงสนาม เมื่อถึงสนามแลว้ วิง่ เหยาะๆ 2. เกา้ อี สังเกต ต่อผู้อื่นอย่างปลอดภยั ได้ เคลื่อนที่ 2 - 3 นาที การเล่น ทากิจกรรม 2. ครูแนะนาการเล่นเกมเก้าอดี นตรดี งั นี และปฏบิ ตั ิต่อผู้อืน่ - เรียงเก้าอเี ป็นวงกลม โดยใหจ้ านวนของเก้าอีน้อย อย่างปลอดภยั กว่าผู้เล่น 1 ตวั - ผูเ้ ลน่ ยนื ล้อมเกา้ อีไวเ้ ปน็ วงกลม เม่อื เสียงเพลงดัง ขนึ ผู้เล่นทุกคนจะต้องเดนิ วน ไปรอบๆ วงกลม พรอ้ มกบั ราหรือเต้นไปตามจงั หวะของเพลง - เมอื่ เพลงหยุดลง ผ้เู ล่นต้องรบี นงั่ ลงบนเก้าอตี ัวท่ี ใกล้ทส่ี ุด หากใครไมม่ ที ีน่ ั่งหรอื น่ังลงช้ากวา่ คนอื่น จะต้องออกจากการแขง่ ขนั และเรม่ิ เล่นใหม่พร้อมกบั เอาเก้าอีออก 1 ตวั - เรมิ่ เลน่ ตอ่ ไปเร่ือยๆ จนเหลือผเู้ ล่น 2 คน เกา้ อี 1 ตัว เม่ือเพลงหยดุ ใครน่ังลงบนเกา้ อีกอ่ นคนนัน เป็นผู้ ชนะ 3. เด็กเล่นเกมเกา้ อดี นตรีจากนันมเี วลาเหลอื ใหเ้ ด็ก เลน่ อิสระครูคอยดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ 4. เด็กทาความสะอาดร่างกายก่อนกลบั หอ้ งเรยี น

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรรู้ 1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พรอ้ มทังสาธิตวธิ กี าร เล่นเกมจัดหมวดหมู่ภาพกระทงตามวสั ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา (5) การคัดแยก การจดั การจดั กลุ่มลกั ษณะของ ท่ใี ช้ 1. เกมจดั สงั เกต 2. แบ่งเดก็ เป็น 5 กลุ่ม ให้เด็ก 1 กลมุ่ รบั จาแนกและจัดกลมุ่ สิง่ ต่างๆ กลมุ่ และการจาแนกสง่ิ วสั ดุทใี่ ช้ทากระทง เกมที่แนะนาใหมไ่ ปเล่น กลุ่มอืน่ ๆ เลน่ เกม หมวดหมู่ภาพ การจาแนกและจดั กลมุ่ การศกึ ษาชุดเดิม โดยใช้ตังแตส่ องลักษณะขนึ ต่างๆตามลักษณะและ 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมุนเวยี นสลบั เปลยี่ น กระทงตามวัสดุที่ สิ่งตา่ งๆ โดยใช้ตงั แต่ กันในแต่ละกลุ่มโดยทุกกลุม่ ต้องได้เล่นเกม ไปเปน็ เกณฑ์ได้ รปู ร่าง รูปทรง จัดหมวดหมู่ภาพกระทงตามวัสดุท่ใี ช้ ใช้ สองลกั ษณะขนึ ไปเปน็ 4. เดก็ เกบ็ เกมการศึกษาเขา้ ที่หลังเลิกเลน่ แล้ว 2. เกมการศึกษา เกณฑ์ ชุดอื่นๆ ท่ีเคยเล่น มาแลว้

๑. เลขที่ ชอื่ -สกลุ ๒. ๓. ๔. ๕. 6. 7. 8. 9. 10. ๑. การเล่น ทากิจกรรมและปฏบิ ตั ิตอ่ ดา้ นร่างกาย ผูอ้ น่ื อย่างปลอดภยั ดา้ นอารมณแ์ ละ แผนการจัดประสบการณช ั้นอนุบาล ๓ หนว ยท่ี ๒๐ ลอยกระทง ๒. การกระโดดขาเดียวไปข้างหน้าได้ จติ ใจ อย่างตอ่ เน่อื งโดยไมเ่ สียการทรงตวั ดา้ นสงั คม แบบสังเกตพฤติกรรมเดก็ 3. ความสนใจมีความสขุ และ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ประเมินพฒั นาการ 4. ความสนใจมีความสุขและแสดง ท่าทาง/เคล่ือนไหวประกอบเพลง ดา้ นสติปญั ญา จงั หวะ และดนตรี 5. การเกบ็ ของเลน่ เขา้ ทีอ่ ย่าง เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง 6. การบอกวธิ ีการดูแลรกั ษา ธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมในแมน่ า ด้วยตนเอง 7. การฟงั ผู้อื่นพูดจนจบ และสนทนา โต้ตอบ อย่างต่อเนอื่ งเชื่อมโยงกับ เร่อื งที่ฟัง 8. การบอกลกั ษณะส่วนประกอบ การเปลย่ี นแปลงหรอื ความสมั พนั ธ์ ของส่งิ ตา่ งๆ จากการสังเกตโดย ใชป้ ระสาทสมั ผสั 9. การจบั ค่แู ละเปรียบเทียบความ แตกตา่ ง และความเหมอื นของส่ิง ตา่ งๆ โดยใช้ลักษณะทสี่ งั เกตพบ 2 ลกั ษณะ 10. การจาแนก และจัดกลมุ่ สิ่งตา่ งๆ โดยใช้ตังแต่ 2 ลกั ษณะขึนไปเปน็ เกณฑ์ 11. การเรยี งลาดับส่ิงของอย่างนอ้ ย 5 ลาดบั 12. การค้นหาคาตอบของข้อสงสยั ต่างๆ โดยใช้วิธกี ารที่หลากหลายดว้ ย ตนเอง หมาย เหตุ

คาอธบิ าย ครูสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ รายบคุ คล จดบนั ทกึ สรุปเปน็ รายสปั ดาหร์ ะบุระดับคณุ ภาพเปน็ ๓ ระดบั คือ 1๑. เลขท่ี ชอ่ื -สกุล 1๒. 1๓. 1๔. 1๕. 16. 17. 18. 19. 20. ระดบั ๓ ดี ๑. การเลน่ ทากจิ กรรมและปฏิบตั ติ อ่ ดา้ นรา่ งกาย ผูอ้ ่ืนอย่างปลอดภยั ระดับ ๒ ปานกลาง ด้านอารมณแ์ ละ ๒. การกระโดดขาเดียวไปขา้ งหน้าได้ จิตใจ อย่างตอ่ เนือ่ งโดยไมเ่ สียการทรงตวั ระดบั ๑ ต้องส่งเสรมิ 3. ความสนใจมคี วามสุข และ ด้านสงั คม แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ ประเมินพฒั นาการ 4. ความสนใจมคี วามสุขและแสดง ท่าทาง/เคล่ือนไหวประกอบเพลง ด้านสตปิ ัญญา จังหวะ และดนตรี 5. การเก็บของเลน่ เขา้ ที่อย่าง เรียบร้อยดว้ ยตนเอง 6. การบอกวธิ กี ารดแู ลรักษา ธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มในแมน่ า ดว้ ยตนเอง 7. การฟังผอู้ นื่ พูดจนจบ และสนทนา โต้ตอบ อยา่ งต่อเน่อื งเช่ือมโยงกบั เรอื่ งทฟี่ งั 8. การบอกลักษณะสว่ นประกอบ การเปลย่ี นแปลงหรอื ความสัมพนั ธ์ ของส่ิงต่างๆ จากการสังเกตโดย ใชป้ ระสาทสมั ผสั 9. การจับคู่และเปรยี บเทยี บความ แตกตา่ ง และความเหมอื นของสิ่ง ต่างๆ โดยใชล้ ักษณะทส่ี งั เกตพบ 2 ลักษณะ 10. การจาแนก และจดั กลุ่มสิง่ ตา่ งๆ โดยใชต้ ังแต่ 2 ลักษณะขึนไปเป็น เกณฑ์ 11. การเรยี งลาดบั ส่ิงของอยา่ งน้อย 5 ลาดบั 12. การคน้ หาคาตอบของข้อสงสยั ต่างๆ โดยใชว้ ธิ ีการท่ีหลากหลายดว้ ย ตนเอง หมาย เหตุ