การเพาะเลียงเนอื เยอื จดั ทาํ โดย นางสาว ปณุ ณภิ า ฉางขา้ วคาํ ชันมัธยมศึกษาปที 6/6 เลขที24 เสนอ ครู กายทพิ ย์ แจ่มจันทร์ โรงเรยนส่วนบุญโญปถมั ภ์ ลาํ พูน ภาคเรยนที 1 ปการศกึ ษา 2564
Abouกtา!รเพาะเลยี้ ง เน้อื เยอื่ การเพาะเล้ยี งเนือ้ เยื่อ เปนความเจรญิ กา วหนา ในดา นการเกษตรเก่ยี วกับพชื ทมี่ กี ารพฒั นาเทคนิคในการขยายพันธแุ บบใหม ที่ทําให ไดพชื ตนใหม จาํ นวนมาก อยางรวดเร็วในเวลาอนั จํากดั โดยมีคุณภาพดเี หมือนเดมิ ความหมายของการเพาะเลีย้ งเน้ือเยอ่ื การเพาะเล้ียงเน้ือเยอื่ หมายถงึ การนําเอาสวนใด สว นหนง่ึ ของพืช ไมวาจะเปน อวยั วะเน้ือเยอ่ื เซลล หรือ เซลลไ มมผี นัง มาเล้ยี งในอาหารเล้ียงในสภาพปลอดเชอ้ื จลุ ทิ รยี และอยใู นสภาพควบคุมอุณหภมู ิ แสงและ ความชืน้ เพอ่ื ใหเ ซลลพชื ที่นาํ มาเพาะเล้ยี งน้นั ปราศจาก เช้ือท่มี ารบกวนและทําลายการเจรญิ เติบโตของพชื
พชื ทนี ิยมนํามาเพาะเลียงเนอื เยอื นิยมใชก บั พชื ทม่ี ปี ญหาใน ตวั อย่าง เรอื่ งของการขยายพนั ธุ เชน่ หรอื พชื ที่มีปญ หาเรื่องโรค และพชื เศรษฐกจิ ขงิ ดาวเรือง กลวยไม
ขนั ตอน กกาารรเเพพาาะะเเลลยี งเนือเยอื 1 การเตรียมอาหาร การเตรยมอาหาร คอื การนาํ ธาตอุ าหาร หลกั ทีพชื ต้องการในการเจรญเตบิ โต และ ธาตุอาหารรองมาผสมกบั วนุ้ ฮอร์โมนพืช วตามินและนาํ ตาล ในอัตราส่วนทีเหมาะ สม แลว้ นาํ ไปฆ่าเชอื ใส่ลงในขวดอาหาร เลยี ง บางครังอาจหยดสีลงไป เพอื ให้ สวยงามและสังเกตได้ชดั เจน ธาตุอาหารที่พืชตองการ • ธาตุอาหารหลกั ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปรตสั เซยี ม แคลเซยี ม แมกนี เซยี มและกํามะถนั • ธาตุอาหารรอง ไดแ้ ก่ ธาตุอาหารที จําเปนนอ้ ย เช่น เหลก็ แมงกานสี สงั กะสี ทองแดง
การฟอกฆา เช้อื สว นเนื้อเย่อื 2 เปน วิธีการใชสารเคมีหรอื วธิ ีการ ตา ง ๆ ท่ที ําใหชิ้นสวนของพืชที่นาํ มาเลยี้ งในอาหารเลี้ยง ปราศจาก เชือ้ จลุ นิ ทรยี ต า ง ๆ 3 การนาํ เนือ้ เยื่อลงขวดเลยี้ ง เปนการนําเอาชินสว่ นของพชื ที ฟอกฆ่าเชอื แลว้ วางลงบน อาหารเลียงทปี ลอดเชือ โดยใช้ เครองมอื และปฏบิ ตั ิการในห้อง หรอตยู้ ้ายเนอื เยอื โดยเฉพาะ
การนาํ ขวดเลีย้ งเนอื้ เยอ่ื ไปเล้ยี ง 4 เปนการนําเอาขวดอาหารเลยี งทีมชี ินสว่ น ของเนือเยอื ไปเลียงไวบ้ นเครองเขย่า เพอื ให้อากาศได้คลุกเคลา้ ลงไปในอาหาร ทาํ ใหแ้ ร่ธาต,ุ ฮอร์โมนและสารอาหารต่าง ๆ ช่วยกระตนุ้ ให้เนอื เยอื ทนี าํ มาเลียงบนอาหาร นัน เกดิ ตน้ อ่อนของพชื จํานวนมาก 5 การยา ยเน้ือเย่อื ออกจากขวด เม่อื กลมุ ของตนออ นเกดิ ขน้ึ ใหแ ยก ตน ออนออกจากกัน เพ่ือนาํ ไปเลยี้ ง บนอาหารเล้ียงใหม จนตนออ นแขง็ แรงดแี ลว จึงนําตน ออ นที่สมบูรณ ออกจากขวด ปลกู ในแปลงเลย้ี งตอไป
ประโยชน ของการ เพาะเล้ียง เนอื้ เยือ่ 1. เพ่ือการผลิตตน พนั ธุพืช ปริมาณมากในเวลาอันรวดเรว็ 2. เพือ่ การผลิตพืชทปี่ ราศจากโรค 3. เพ่อื การปรับปรงุ พนั ธุพืช 4. เพ่อื การผลติ พืชพนั ธุต านทาน 5. เพื่อการผลติ พชื พันธุทนทาน 6. เพือ่ การผลติ ยาหรอื สารเคมีจากพืช 7. เพอ่ื การเกบ็ รกั ษาพนั ธพุ ืช ไมใ หสญู พันธุ
เทคนคิ สาหรับการทาํ อาหาร เพาะเลยี้ งเนอ้ื เยอ่ื 1. การช่งั สารเคมี เคร่ืองชัง่ สาหรับช่ังสารเคมีควรมีอยา งนอย 3 ประเภท เพ่ือชงั่ สารเคมีใหเ หมาะสมกับเคร่อื งชัง่ ท่มี ีอยู เพอ่ื ความแมนยาของสารเคมที ใี่ ช อีกท้ัง ยังเปนการถนอมเคร่ืองชั่งอีกทางหน่ึงดว ย - เคร่อื งชั่งทส่ี ามารถชง่ั สารเคมี1g–1,000g - เคร่ืองชั่งทส่ี ามารถชัง่ สารเคมี (สองตาแหนง) 0.01 g – 500 g - เคร่ืองช่ังที่สามารถช่ังสารเคมี (ส่ีตาแหนง) 0.0001 g- 0.1 g 2. เคร่ืองวัดคา ความเปน กรด-ดา ง 2.1 ควรทาการ calibrate ใหเ รียบรอ ยกอ นใชซ งึ กอ น และหลังการใชท กุ ครง้ั ตองทาความสะอาด ดว ยนากลั่นให เรียบรอย เชด็ ใหแ หง ทกุ ครง้ั 2.2 ควรวัดคาความเปน กรด-ดา ง หลงั จากปรบั ปรมิ าณให ไดตามจานวนทีต่ องการ กอ นการใสวุน และผงถาน
3. สารละลายเขมขน 3.1 ควรตวงสารละลายเขม ขน ในกระบอกตวง ทเ่ี หมาะสมกับปริมาณทีต่ อ งการเทานัน้ 3.2 ระหวางการตวงสารละลายเขมขน จากขวด Stock เพ่ือทาอา หารเพาะเลยี งเน้ือเย่อื สูตรตา งๆ 3.3 สารละลายเขมขน ควรใชขวดสีชา และเก็บไวใ นตูเ ย็น เทาน้นั 3.4 ควรมีตูเ ย็นเพอื่ แชส ารเคมโี ดยเฉพาะเพอ่ื ปองกันการปนเปอ น ของสารละลาย โดยไมควรแชอาหารรว มกบั สารเคมี 4. การเทอาหารเพาะเลยี้ งเนอ้ื เยอ่ื ลงขวด ตอ งใชบ ีกเกอรทม่ี ีขอบปากปองกันการหกของสารละละลาย และระหวา งการเทอาหาร เพาะเลย้ี งเนอ้ื เยอ่ื ลงขวด ส่ิงทสี่ าคัญ สาหรบั ขนั้ ตอนนคี้ อื หา มใหอาหารเพาะเลีย้ งเน้อื เยอ่ื เลอะปาก ขวดเด็ดขาด เพ่อื ปอ งกันการตดิ เช้อื
ขอ ดี ของการเพาะเลย้ี งเน้อื เยือ่ ๑. ทําไดงา ยและไดปรมิ าณมาก เพราะสะดวกในการปฏิบตั ิ ๒. เสียคาใชจ ายนอย เพราะไมตอ งใชเ ครอ่ื งมอื หรอื อปุ กรณ ๓. สะดวกในการขนสงระยะทางไกลๆ ๔. เก็บรกั ษาไดน าน ๕. ไดตน พชื ทม่ี รี ะบบรากดี ๖. ตน พืชท่ไี ดไมต ิดโรคไวรสั จากตน แม
ขอ เสีย ของการเพาะเลย้ี งเนือ้ เยอื่ ๑. กลายพนั ธุไดงาย เพราะตน ทีไ่ ดเ กดิ จากการผสมพนั ธุ เวนแตเมล็ดพืชบาง ชนดิ ท่ีงอกไดห ลายตน ใน ๑ เมลด็ ซึง่ อาจ จะมีตน ทไี่ มกลายพนั ธไุ ด ๒. ลาํ ตนสูงใหญ ไมสะดวกในการเกบ็ เก่ียวและดูแลรกั ษา ๓. ตน มโี อกาสรับแรงปะทะลมไดม าก ทําใหด อกและผลรว งหลนเสียหายมาก ๔. มักใหผลชา ตอ งใชเวลาในการเล้ยี งดู นาน กวาจะใหผลตอบแทน ๕. ปลกู ไดนอยตนในเนื้อท่เี ทากัน ฉะนั้น จงึ อาจใหผ ลนอ ยกวาการขยายพนั ธุโ ดย วิธอี น่ื ทใี่ หตนพชื พุมเลก็ กวา
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: